Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2-สื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล-4atc2021

2-สื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล-4atc2021

Published by 2 เทพฤทธิ์ 1/4, 2021-11-28 12:58:13

Description: จุดประสงค์รายวิชา
1. เข้าใจหลักการ กระบวนการคิดสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ
2. สามารถผลิตสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ
3. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ละเอียดรอบคอบ

Search

Read the Text Version

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับธุรกิจดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐาน สื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจดิจิทัล นวัตกรมสำหรับ ธุรกิจดิจิทัล ระบบการทำ ธุรกรรมในธุรกิจดิจิทัล สื่อสังคมออนไลน์กับธุรกิจดิจิทัล รหัสวิชา 30204-2102 ธุรกิจดิจิทัลโมบาย ความมั่นคงปลอดภัยในการทาธุรกรรม สื่อที่มีการนำเอาข้อความ กราฟิ ก ภาพเคลื่อนไหว เสียง มาจัดรูปแบบ โดยอาศัยเทคโนโลยี ดิจิทัล กฎหมายและจริยธรรมและการทำธุรกรมดิจิทัล กรณี ความเจริญก้าวหน้าทางด้านคอมพิวเตอร์ สื่อสารทางออนไลน์ ศึกษาธุรกิจดิจิทัล สื่อผสม หมายถึง สื่อมัลติมีเดีย ที่ต้องอาศัยการใช้คอมพิวเตอร์แสดงผล เป็ นลักษณะการ ผสมสื่อหลายชนิดเข้าด้วยกัน โดยเน้นที่การ เปิ ดโอกาสให้ผู้ใช้ได้เห็น ได้เลือกก่อนนำมาใช้ กรอบการจัดการเรียนรู้ วิวัฒนาการ การพัฒนาการเขียนในยุคต่างๆ - ครูผู้สอนพูดคุยเรื่องปัญหายาเสพติดและอบายมุข ที่เป็น เทพฤทธิ์ ยังเต็ม เรื่องเหตุการณ์ปัจจุบัน ก่อนเข้าบทเรียน - ครูผู้สอนสอดแทรกหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้สอดคล้องกับ บทเรียนในรายวิชาที่สอน - ครูผู้สอนสอดแทรกสาระเนื้อหาการตระหนักในปัญหาการ ทุจริต มีค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต และดำรงฐานะ ด้วยความสุจริตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 165 บาท.

คำอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การออกแบบชิ้นงานนำเสนอด้วยสี่อดิจิทัล ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ จุดประสงค์รายวิชา หลักการและกระบวนการคิด หลักการออกแบบการนำเ สนอด้วยส่อธุรกิจดิจิทัล สื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ องค์ประกอบ และรูปแบบ หลักการออกแบบการนำเสนอข้อมูลข้อมูลโดยทั่วไปจะมีหลักการคล้ายๆ กัน ของสื่อดิจิทัล เทคนิค 1. เข้าใจหลักการ กระบวนการคิดสื่อ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ เช่น สไลด์ เว็บเพจ สื่อการสอน สร้างสรรค์ทางธุรกิจ วึ่งส่วนใหญ่จะมีวิธีการดังนี้ สมรรถน ะรายวิชา 2. สามารถผลิตสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ 3. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการปฏิบัติ 1.) ความเรียบง่าย : จัดทำสไลด์ให้ดูเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ใช้สี 1. แสดงความรู้ หลักการ กระบวนการ อ่อนเป็นพื้นหลังเพื่อไม่รบกวนสายตาในการอ่าน และสามารถเห็นเนื้อหาได้ คิดสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ งานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ อย่างชัดเจน หรือใช้พื้นหลังตามลักษณะเนื้อหา 2. ออกแบบสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ ละเอียดรอบคอบ 2.) มีความคงตัว : เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการนำเสนอสไลด์ซึ่งเป็นเนื้อหา 3. ผลิตสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ คำ เนื้อหาในเรื่องเดียวกัน คือ ต้องมีความคงตัวในการออกแบบสไลด์ซึ่งหมาย อธิบายรายวิชา ถึงต้องใช้รูปแบบสไลด์เดียวกันทุกแผ่นที่เกี่ยวกับเนื้อหานั้น โดยไม่จำเป็น ต้องเปลี่ยนสี พื้นหลัง หรือขนาดและแบบอักษร แต่หากต้องการเน้ นจุดสำคัญ หรือเป็นเนื้อหาย่อยออกไปจะสามารถเปลี่ยนบางสิ่ง เช่น สีตัวอักษรในสไลด์ ให้ดูแตกต่างไปได้บ้างหรืออาจมีการเปลี่ยนสีพื้ นหลังให้แตกต่างจากเนื้ อหา เล็กน้ อย 3.) ใช้ความสมดุล : การออกแบบส่วนประกอบของสไลด์ให้ มีลักษณะสมดุล มีแบบแผน หรือ สมดุลไม่มีแบบแผนก็ได้แต่ต้องระวังสไลด์ทุกแผ่นให้มี ลักษณะของความสมดุลที่เลือกใช้ให้เหมือนกันเพื่อความคงตัว 4.) มีแนวคิดเดียวในสไลด์แต่ละแผ่น : ข้อความและภาพที่บรรจุในสไลด์ แผ่นหนึ่งๆ ต้องเป็นเนื้อหาของแต่ละแนวคิดเท่านั้น หากเนื้อหานั้นมีหลาย แนวคิด หรือเนื้อหาย่อยต้องใช้สไลด์แผ่นใหม่

รูปออกแบบชิ้นงานนำเสนอด้วยสี่อดิจิทัล 5.) สร้างความกลมกลืน : ใช้แบอักษรและภาพกราฟิกให้เหมาะสมกับ รูปสี่อดิจิทัล ลักษณะของเนื้อหาใช้แบบอักษรที่อ่านง่าย และใช่สีที่ดูแล้วสบายตา เลือก กราฟิกที่ไม่ซับซ้อน และให้ถูกต้องตรงตามเนื้อหารวมถึงให้เหมาะสมกับ เนื้อหาที่เป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการด้วย 6.) แบบอักษร : ไม่ใช่อักษรมากกว่า 2 แบบ ในสไลด์เรื่องหนึ่ง โดยใช้ แบบหนึ่งเป็นหัวข้อ และอีกแบบหนึ่งเป็นเนื้อหา หากต้องการเน้ น ข้อความตอนใดให้ใช้ตัวหนา หรือตัวเอน แทนเพื่อการแบ่งแยกให้เป็น ความแตกต่าง 7.) เนื้อหา และจุดนำข้อความ : ข้อความในสไลด์ควรเป็นเฉพาะหัวข้อ หรือเนื้อหาสำคัญเท่านั้นโดยไม่มีรายละเอียดของเนื้อหา และควรนำเสนอ เป็นแต่ละย่อหน้ า โดยอาจมีจุดนำข้อความอยุ่ข้างหน้ าเพื่อแสดงให้ทราบ ถึงเนื้อหาแต่ละประเด็น และไม่ควรมีจุดนำข้อความมากว่า 4 จุดในสไลด์ หนึ่ งแผ่น 8.) เลือกใช้กราฟิกอย่างระมัดระวัง : การใช้กราฟิกที่เหมาะสมจะสามรถ เพิ่มการเรียนรุ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากใช้กราฟิกที่ไม่เหมาะสมกับ เนื้อหาจะทำให้การเรียนรู้นั้นลดลง และอาจทำให้สื่อความหมายผดไปได้ 9.) ความคมชัดของภาพ : เนื่องจากความคมชัดของจอมอนิเตอร์มี เพียง 72-96 DPI เท่านั้น ภาพกราฟิกที่นำเสนอประกอบในเนื้อหาจึง ไม่จำเป็นต้องใช้ภาพที่มีความชัดสูงมาก ควรใช้ภาพในรุปแบบ JPEG ที่มีความคมชัดปานกลาง และขนาดใหญ่มากนัก ประมาณ 20-50 KB จึงควรทำการบีบอัด หรือ compress และลดขนาดก่อนเพื่อไม่ให้เปลือง เนื้ อที่ในการเก็บบันทึก 10.) เลือกต้นแบบสไลด์ และแบบอักษรที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ร่เนื่องจาก การนำเสนอต้องมมีการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับอุปกรณ์ร่วม

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 หลักการพื้นฐานของการนำเสนอผลงาน มีจุดเน้นสำคัญดังนี้ 1) การดึงดูดความสนใจ การใช้งานโปรแกรมนำเสนอด้วยสื่อดิจิทัล โดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมอง และมี ความสบายตาสบายใจขึ้น เมื่อชมการนำเสนอ ดังนั้นการ หลักการนำเสนอข้อมูล และสร้างสื่อนำเสนอ เลือกองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีพื้น แบบ สี และขนาดของ ตัวอักษร รูปประกอบ ต้องเหมาะสม สวยงาม การนำเสนองานหรือผลงานนั้นสื่อนำเสนอเปรียบเสมือนสะพานเชื่อม 2) ความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา เนื้อหา ของผู้บรรยายไปยังผู้ฟังและผู้ชม ดังนั้นสื่อจึงมีบทบาท ส่วนที่เป็นข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความชัดเจน ส่วนที่เป็น สำคัญอย่างมาก สื่อที่ดี จะช่วยให้การถ่ายทอดเนื้อหาสาระทำได้ อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ฟังและผู้ชมจะสามารถ จดจำเนื้อหาสาระได้ ภาพประกอบต้องมีส่วนสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับข้อความ ที่ต้องการสื่อความหมาย การใช้ภาพประกอบ มีประโยชน์ นานและเข้าใจในเนื้อหาได้ดีมากขึ้น ความหมายการนำเสนอ การนำ เสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิด มาก ดังคำพังเพยภาษาอังกฤษที่ว่า \"A picture is เห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้ชม ผู้ฟังโดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ worth a thousand words\" หรือ \"ภาพภาพหนึ่งนั้นมีค่า อันจะทำให้บรรลุ ผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนำเสนอ เทียบเท่ากับคำพูดหนึ่งพันคำ\" แต่ประโยคนี้คงไม่เป็นจริง หากภาพนั้นไม่มีความสัมพันธ์ อย่างสร้างสรรค์กับความ หมายที่ต้องการสื่อ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจใช้ภาพใด จุดมุ่งหมายในการนำเสนอ ประกอบ จึงควรตอบคำถาม ให้ได้เสียก่อนว่าต้องการใช้ภาพ 1. เพื่อให้ผู้ชม ผู้ฟังรับเข้าใจสาระสำคัญของการนำเสนอข้อมูล 2. ให้ผู้ชม ผู้ฟังเกิดความประทับใจและนำไปสู่ความเชื่อถือใน เพื่อสื่อความหมายอะไรและภาพที่เลือกมานั้นสามารถทำ หน้าที่สื่อความหมายเช่นนั้นจริงหรือไม่ ข้อมูลที่นำเสนอ การนำเสนอผลงานโดยใช้สื่อโสตทัศนูปกรณ์ มีผลในทาง จิตวิทยาการเรียนรู้ ซึ่งได้มีการ ค้นพบจากการวิจัยว่าการรับรู้ ข้อมูลโดยผ่านทางประสาทสัมผัสสองอย่าง คือ ตา และหู พร้อมกันนั้น ทำให้เกิดการรับรู้ที่ดีกว่าส่งผลในด้านความ สามารถในการจดจำได้มากกว่าการรับรู้โดยผ่านตา หรือ หู อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว จึงได้มีการพัฒนาสื่อโสต ทัศนูปกรณ์รูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งาน โดยเฉพาะสื่อประสม

หลักการนำเสนอข้อมูลและสร้างสื่อนำเสนอ หลักการพื้นฐานของการนำเสนอผลงาน มีจุดเน้นสำคัญดังนี้ การนำเสนองานหรือผลงานนั้นสื่อนำเสนอเปรียบเสมือนสะพานเชื่อม 1) การดึงดูดความสนใจ เนื้อหา ของผู้บรรยายไปยังผู้ฟังและผู้ชม ดังนั้นสื่อจึงมีบทบาท โดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมอง และมี สำคัญอย่างมาก สื่อที่ดี จะช่วยให้การถ่ายทอดเนื้อหาสาระทำได้ ความสบายตาสบายใจขึ้น เมื่อชมการนำเสนอ ดังนั้นการ อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ฟังและผู้ชมจะสามารถ จดจำเนื้อหาสาระได้ เลือกองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สีพื้น แบบ สี และขนาดของ นานและเข้าใจในเนื้อหาได้ดีมากขึ้น ความหมายการนำเสนอ การนำ ตัวอักษร รูปประกอบ ต้องเหมาะสม สวยงาม เสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิด 2) ความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหา เห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้ชม ผู้ฟังโดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ ส่วนที่เป็นข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความชัดเจน ส่วนที่เป็น อันจะทำให้บรรลุ ผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนำเสนอ ภาพประกอบต้องมีส่วนสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับข้อความ ที่ต้องการสื่อความหมาย การใช้ภาพประกอบ มีประโยชน์ มาก ดังคำพังเพยภาษาอังกฤษที่ว่า \"A picture is จุดมุ่งหมายในการนำเสนอ worth a thousand words\" หรือ \"ภาพภาพหนึ่งนั้นมีค่า 1. เพื่อให้ผู้ชม ผู้ฟังรับเข้าใจสาระสำคัญของการนำเสนอข้อมูล 2. ให้ผู้ชม ผู้ฟังเกิดความประทับใจและนำไปสู่ความเชื่อถือใน เทียบเท่ากับคำพูดหนึ่งพันคำ\" แต่ประโยคนี้คงไม่เป็นจริง หากภาพนั้นไม่มีความสัมพันธ์ อย่างสร้างสรรค์กับความ ข้อมูลที่นำเสนอ การนำเสนอผลงานโดยใช้สื่อโสตทัศนูปกรณ์ มีผลในทาง หมายที่ต้องการสื่อ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจใช้ภาพใด จิตวิทยาการเรียนรู้ ซึ่งได้มีการ ค้นพบจากการวิจัยว่าการรับรู้ ประกอบ จึงควรตอบคำถาม ให้ได้เสียก่อนว่าต้องการใช้ภาพ ข้อมูลโดยผ่านทางประสาทสัมผัสสองอย่าง คือ ตา และหู พร้อมกันนั้น ทำให้เกิดการรับรู้ที่ดีกว่าส่งผลในด้านความ เพื่อสื่อความหมายอะไรและภาพที่เลือกมานั้นสามารถทำ สามารถในการจดจำได้มากกว่าการรับรู้โดยผ่านตา หรือ หู หน้าที่สื่อความหมายเช่นนั้นจริงหรือไม่ อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว จึงได้มีการพัฒนาสื่อโสต ทัศนูปกรณ์รูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งาน โดยเฉพาะสื่อประสม

3) ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 3) จัดหาเครื่องมือตามความต้องการของซอฟต์แวร์ การสร้างจุดเน้นตามข้อ 1 และ 2 ข้างต้นต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมแต่ละโปรแกรมมีความสามารถไม่เหมือนกัน เช่น กลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก การใช้สีสด ๆ และภาพการ์ตูนมีความเหมาะสม ขนาดของโปรแกรมก็ไม่เท่ากัน ทำให้ความต้องการของฮาร์ดแวร์ในการ แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่และเนื้อหาที่นำเสนอเป็นเรื่องวิชาการหรือ ทำงานตามโปรแกรมนั้นแตกต่างกัน ในคู่มือการใช้งานโปรแกรมหรือ ธุรกิจ การใช้สีสันมากเกินไปและการใช้รูปการ์ตูนอาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ ซอฟต์แวร์นั้นจะบอกข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์ที่ต้องการสำหรับการใช้งาน ไว้ว่าจะต้องมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เราจะต้องจัดหาฮาร์ดแวร์ให้ได้ตาม เพราะขาดภาพลักษณ์ของการเอาจริงเอาจังไป ข้อกำหนดนั้นเพื่อให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลักการเลือกใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปเพื่อการนำเสนองาน สำหรับระบบโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์นั้น ส่วนใหญ่ พรพิมล อรัญเวศ ได้เสนอหลักการเลือกซอฟต์แวร์ และหลักการนำเสนอ สามารถนำมาใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์มาตรฐานที่มีขายทั่วไปได้เลย ยกเว้นอุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์ที่อาจเลือกได้ตามความต้องการว่าเป็น ผลงานโดยใช้ซอฟต์แวร์ไว้ ดังนี้ เครื่องพิมพ์สีขาว/ดำ หรือหลายสี จอภาพจะใช้ขนาดใหญ่กี่นิ้ว หรือ 1) ทำความเข้าใจกับงานที่เราต้องการนำเสนอ ฮาร์ดดิสก์ที่อาจต้องดูขนาดความต้องการว่าซอฟต์แวร์มีขนาดเท่าใด ก่อนการเลือกระบบสารสนเทศมาใช้ในการนำเสนองานนั้น เราต้องเข้าใจ และฮาร์ดดิสก์จะพอใช้หรือไม่ เพราะในไมโครคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องนั้น ถึงลักษณะงานที่เราต้องการนำเสนอก่อนว่า เป็นงานในลักษณะใด เช่น เรามักจะบรรจุโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ไว้หลายชนิด และปริมาณแฟ้ม เป็นข้อความ หรือมีการคำนวณหรือเป็นงานที่เกี่ยวกับการค้น การเก็บ ข้อมูลที่มีอยู่เดิมอาจมากจนกระทั่งพื้นที่ที่เหลือไม่เพียงพอต่อการใช้งาน รักษาข้อมูล เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกระบบสารสนเทศที่เหมาะสมกับ โปรแกรมสำเร็จรูปใหม่นั้น งานนั้น ๆ 4 ) การใช้งานโปรแกรม 2) เลือกโปรแกรมสำเร็จรูปมาใช้ ในการใช้งานนั้น นอกาจากผู้ใช้จะต้องทำความเข้าใจการทำงานของ เมื่อทราบลักษณะของงานที่ต้องการนำเสนอแล้ว เราจะเลือกระบบ ฮาร์ดแวร์ว่าใช้งานอย่างไรแล้ว รายละเอียดการใช้งานซอฟต์แวร์ ก็เป็น สารสนเทศที่เหมาะสมกับการนำเสนองานนั้น งานบางอย่างเราอาจใช้ สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้จะต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนการใช้งาน ส่วนใหญ่ ระบบสารสนเทศในการนำเสนอได้หลายอย่าง เราอาจต้องเลือกว่าจะใช้ จะศึกษาจากคู่มือของโปรแกรมสำเร็จรูปนั้นเพื่อความเข้าใจในความ ระบบใด ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจในความสามารถของระบบนั้น โดยเฉพาะใน สามารถก่อน ปกติแล้วคู่มือการใช้งานมาจากเจ้าของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ส่วนของซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมว่าแต่ละโปรแกรมมีความสามารถใดบ้าง ซึ่งมักจะอธิบายถึงความสามารถตามฟังก์ชั่นที่มีอยู่ แต่มักจะไม่ค่อยมี เราอาจจะต้องทำการประเมินว่าโปรแกรมใดมีความเหมาะสมเพียงใด แล้ว ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ ผู้ใช้ต้องทดลองเอง จึงได้มีผู้ที่มีความรู้ความ จึงเลือกโปรแกรมที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุด สามารถในโปรแกรมนั้น ๆ ทำคู่มือการใช้งานในลักษณะการประยุกต์ มี ตัวอย่างของงานแสดงให้เห็น ทำให้สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วขึ้นและใน ปัจจุบันนี้มีการทำคู่มือการใช้งานในรูปของสื่อคอมพิวเตอร์ที่เข้าใจได้ง่าย ยิ่งขึ้น เช่น ทำเป็นซีดีการใช้งาน เป็นต้น ฉะนั้นผู้ใช้งานที่ยังไม่มี ประสบการณ์จึงควรเรียนรู้จากคู่มือการใช้งาน ทำความเข้าใจให้ชัดเจน ก่อน แล้วจึงลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

รูปแบบการนำเสนอข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันที่นิยม 1) สื่อความหมายได้รวดเร็ว สื่อนำเสนอที่ดีต้องสามารถสื่อ ใช้กันมี 2 รูปแบบ คือ ความหมายให้ผู้ฟัง ผู้ชมได้อย่างรวดเร็ว การออกแบบ สื่อนำ 1. การนำเสนอแบบ Web page เสนอในประเด็นนี้ผู้ออกแบบจะต้องทราบกลุ่มเป้าหมาย เป็นรูปแบบการนำเสนอที่ใช้บนอินเทอร์เน็ต การนำเสนอแบบ เนื้อหาสาระที่ต้องการนำเสนอ สถานที่ และเวลาที่ต้องการนำ นี้สามารถสร้างการเชื่อมโยงที่สลับซับซ้อนระหว่างส่วนต่าง ๆ เสนอเพื่อประกอบการออกแบบสื่อ เช่น กลุ่มเป้าหมายขนาด ตลอดจน สามารถสร้างการเชื่อมโยงเอกสารที่ต่างรูปแบบกัน เล็ก สื่อควรมีให้ความสำคัญกับผู้ฟังมากกว่าเนื้อหา สามารถ ได้แต่ต้องใช้เวลาในการจัดทำมากกว่า รูปแบบอื่นและผู้จัดทำ นำเทคนิค หรือ Effect ต่าง ๆ ของโปรแกรมสร้างสื่อมา ต้องมีความรู้ความชำนาญในโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บเพจ ใช้ได้อย่างเต็มที่ กลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะโต้ตอบ เช่นการนำ 2. การนำเสนอแบบ Slide Presentation เสนอทางวิชาการ การบรรยาย หรือฝึกอบรม สื่อนำเสนอ เป็นการนำเสนอโดยใช้โปรแกรมนำเสนอ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ ควรให้ ความสำคัญกับเนื้อหารวมทั้งยังสามารถนำเทคนิค ใช้ง่ายมากมีรูปแบบการนำเสนอให้เลือกใช้หลายแบบ หรือ Effect ต่าง ๆ ของโปรแกรมสร้างสื่อ มาใช้ได้อย่าง สามารถเรียกใช้ตาราง แผนภูมิ หรือรูปภาพประกอบ และ เต็มที่เช่นกัน กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกิจ เช่นผู้บริหาร นัก ตกแต่งด้วยสีสัน ทั้งสีพื้น สีของตัวอักษร รูปแบบฟอนต์ ของ วิชาการ สื่อนำเสนอจะต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหาและตัว ผู้นำเสนอเป็นสำคัญเนื้อหาควรมุ่งเฉพาะเป้าหมายของการนำ ตัวอักษรได้ง่ายและสะดวก ในปัจจุบันสื่อนำเสนอรูปแบบ Slide Presentationหรือ สไลด์ดิจิทัล มักจะสร้างด้วย เสนอ ไม่เน้น Effect มากนัก กลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ การนำเสนอมักใช้ความสำคัญกับผู้บรรยายมากกว่าเนื้อหาที่ โปรแกรมในกลุ่ม Presentation เช่น Microsoft นำเสนอ ดังนั้น สื่อนำเสนอไม่ควรเน้นที่ Effect แต่ควรให้ PowerPoint, OfficeTLE Impress เทคนิคการออกแบบ ความสำคัญกับขนาดตัวอักษร สีตัวอักษร และลักษณะของสี สื่อนำเสนอ สื่อนำเสนอที่ดี ความมีความโดดเด่น น่าสนใจ จะ พื้นสไลด์ เน้นความคิด “ หนึ่งสไลด์ต่อ หนึ่งความคิด ” มีการสรุป ประเด็น หรือสาระสำคัญโดยมีแนวทาง 3 ประการในการ 2) เนื้อหาเป็นลำดับ สื่อนำเสนอที่ดีควรมีการจัดลำดับเนื้อหาเป็น ลำดับ มีระเบียบ ดูง่าย ไม่สับสนสิ่งที่ จะช่วยให้การออกแบบสื่อนำ ออกแบบ ได้แก่ เสนอที่ต้องการจัดลำดับเนื้อหาให้เป็นระเบียบ และดูง่าย คือ

2.1) รูปแบบเนื้อหา สื่อนำเสนอแต่ละสไลด์ ควรหลีกเลี่ยง 3) สื่อนำเสนอต้องสะดุดตาและน่าสนใจ สื่อนำเสนอที่ดีนั้นจะ การนำเสนอแบบย่อหน้า หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรใช้ ต้องมีจุดเด่นน่าสนใจ สามารถดึงดูดสายตาของผู้ดู ผู้ฟังได้ ซึ่ง เทคนิคการเน้นแนวคิดหลัก( Main Idea)ในแต่ละย่อหน้าด้วย จุดเด่นนี้ได้มาจากขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่ หรือจากการใช้สีที่ สีที่โดดเด่น เช่น พื้นหลังสีขาวตัวอักษรสีดำควรเน้นแนวคิด แตกต่างออกไป รวมถึง การเลือกใช้ภาพ การใช้สี และการใช้ หลัก ( Main Idea)ด้วยสีแดงเป็นต้น แต่ละสไลด์เนื้อหาไม่ Effect ควบคุมการนำเสนอ ที่เหมาะสมประกอบ การนำเสนอ ควรเกิน 6 – 8 บรรทัด ควรสรุปเนื้อหาให้เป็นหัวเรื่อง 3.1) การใช้ภาพ เนื่องจากภาพจะช่วยให้ผู้ชม ผู้ฟัง สามารถ (Title) และหัวข้อ(Topic)หรือแนวคิดหลั (Main Idea) จดจำได้นานกว่าตัวอักษร ดังนั้น การแปลงเนื้อหาให้เป็น 2.2) แบบอักษร การควบคุมการแสดงข้อความในแต่ละสไลด์ รูปภาพหรือผังภาพก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่สามารถสร้างความน่า ควรให้ความสำคัญ กับขนาดตัวอักษร ดังนี้ สนใจ ให้กับสื่อที่นำเสนอการเลือกใช้ภาพก็ควรเลือกใช้ภาพที่มี - หัวข้อใหญ่กำหนดขนาดตัวอักษรใหญ่กว่าหัวข้อย่อย - เลือกใช้แบบอักษรที่เหมาะสม ลักษณะที่เหมาะสมกันและกัน คือถ้าในสไลด์นั้นเลือกใช้ - เปลี่ยนลักษณะของตัวอักษรนั้น ใช้ตัวหนาในข้อความที่ ภาพถ่ายก็ควรใช้ภาพถ่ายกับภาพทุกภาพในสไลด์ แต่ถ้าเลือก ต้องการเน้น ใช้ภาพวาด ก็ควรเลือก ภาพวาดทั้งสไลด์เช่นกันดังนั้นจึงไม่ - ใช้ช่องว่างในการจัดกลุ่มของเนื้อหา ควรใช้ภาพวาดผสมกับภาพถ่าย ใส่เทคนิคที่น่าสนใจให้กับภาพ - ข้อความที่ต้องการให้อ่านก่อน ควรจัดไว้ที่ตำแหน่งมุมซ้าย บนของหน้า เพื่อสร้างจุดเด่น การเอียงภาพ การเว้นช่องว่างรอบภาพ - พิมพ์ตัวอักษรลงกรอบที่วางแบบไว้แล้ว การเปลี่ยนสีภาพให้แตกต่างจากปกติ ควรระวังการเลือกใช้ - ขึ้นหัวข้อก่อนแล้วจึงอธิบายอย่างละเอียด ภาพเป็นพื้นหลังสไลด์ เพราะอาจจะทำให้ผู้ชมสนใจ พื้นสไลด์ - ใช้สีที่แตกต่างกัน หรือตัวอักษรสีสลับกัน มากกว่าเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ หรืออาจทำให้ผู้ชมไม่สนใจ มองสไลด์เลยก็ได้ เนื่องจากภาพทำให้ตัวอักษรไม่โดดเด่น ไม่ น่ามอง หรืออ่านยาก

3.2) การใช้สี การเลือกใช้สี ควรเลือกใช้สีที่ตัดกันระหว่างสี อุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนำเสนอผลงาน ตัวอักษร สีวัตถุ และสีพื้น เช่น เลือกใช้พื้นสไลด์เป็นสีขาว อุปกรณ์ดิจิทัลที่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงในงานนำเสนอ หรือสีอ่อน ๆ สีตัวอักษรก็ควรจะเป็นสีดำ สีน้ำเงินเข็มหรือ สีแดงเลือดหมู กรณีเลือกใช้พื้นสไลด์เป็นสีเข็ม ควรเลือกใช้ เพื่อให้งานนำเสนอมีคุณภาพ เข้าถึงผู้ชมและผู้ฟังได้อย่างมี สีตัวอักษรที่มองเห็นได้ชัด ในระยะไกลเช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน ประสิทธิภาพ มีดังนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สีในโทนร้อน เช่น สีแดงสด สีเหลือก สด สีเขียวสด สีวัตถุ สีแท่งกราฟหรือสีของตาราง ก็ควร 1. โพรเจกเตอร์ (Projector) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ใน เลือกให้เหมาะสมกับสีตัวอักษร และสีพื้นด้วย การเลือกใช้สี การนำเสนอ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจาก ใด ๆ ก็ควรเป็นสีในชุดเดียวกันสำหรับสไลด์ทั้งหมด ไม่ควร ใช้หนึ่งสี หนึ่งไลด์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องกำเนิด 3.3) การใช้ Effect ควบคุมการนำเสนอ ไม่ควรใส่ ภาพอื่น ๆ แล้วแสดงผล ขยายขนาดบนจอรับภาพช่วยให้มอง Effect มากเกินไป เพราะจะส่งผลให้ผู้ชม ผู้ฟัง สนใจ เห็นได้ไกลขึ้น เหมาะสำหรับการนำเสนอข้อมูลในห้องประชุม Effect มากกว่าเนื้อหาที่นำเสนอ หรืออาจไม่สนใจการนำ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถมองเห็นภาพหรือข้อความได้ เสนอเลยก็ได้ และ Effect ที่มากนี้จะเป็น การรบกวนการ จดจำ การอ่าน หรือการชมอย่างรุนแรง เลือกใช้ Effect อย่างชัดเจน ไม่ควรเกิน 3 แบบ ในแต่ละสไลด์ควรเลือกใช้ 2. วิชวลไลเซอร์ (Visualizer) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพระบบ Effectแสดงข้อความที่เลื่อนจากขอบ ซ้ายมาขอบขวา ดิจิทัลประเภทหนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากโอเวอร์เฮดหรือเครื่อง ของจอ เนื่องจากธรรมชาติการอ่านของคนไทยจะอ่าน ฉายข้ามศีรษะ ใช้แสดงภาพวัตถุและเอกสารสู่จอรับภาพที่มี ข้อความจากกรอบบนลงมา และอ่านจากด้านซ้ายไปด้าน อยู่จริงได้เลย โดยไม่ต้องดัดแปลง อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับใช้ ขวา ในการนำเสนองานต่าง ๆ โดยเฉพาะครู-อาจารย์ที่สอน หนังสือ และใช้ได้ดีในการนำเสนอภาพนิ่งมากกว่าภาพ เคลื่อนไหว แต่ภาพที่แสดงออกมานั้นก็ให้ความคมชัด มีสี สดใส และมีโหมดของการแสดงภาพให้ปรับการทำงานด้วย การควบคุมการทำงานสามารถทำได้โดยใช้รีโมต

3. กล้องถ่ายรูปดิจิทัล (Digital Camera) เป็น 6. เครื่องเล่นเสียง หรือเครื่องเล่นเอ็มพีสาม (MP3) เป็น อุปกรณ์รับภาพที่เปลี่ยนจากฟิล์มมาเป็นอุปกรณ์ อุปกรณ์ซึ่งบรรจุข้อมูลเสียงที่ใช้เล่นในคอมพิวเตอร์และ อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อถ่ายรูปที่ต้องการแล้ว รูปจะถูก สามารถถ่ายโอนข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้ โดยข้อมูล เก็บลงในหน่วยความจำ (memory) ที่อยู่ในกล้อง เมื่อ เสียงนั้นใช้เทคโนโลยีบีบอัดให้มีขนาดเล็กลงมากกว่าข้อมูล ต้องการดูรูปทำได้โดยการถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจำ เสียงปกติถึง 12 เท่า แม้ขนาดข้อมูลจะเล็กลง แต่คุณภาพ ลงบนเครื่องพิมพ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาพที่ได้จะมี เสียงไม่ได้เสียไป อย่างไรก็ตาม หากเรานำข้อมูลเสียงจาก ขนาดตามที่ต้องการ สามารถย่อหรือขยาย ปรับแสง เครื่องเล่น MP3 ไปเล่นในเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า จะได้ หรือเงาแล้วแต่ความพอใจหรือจะเพิ่มรูปแบบก็สามารถ ทำได้ และเมื่อจะถ่ายใหม่ ก็สามารถใช้หน่วยความ เสียงในลักษณะกระตุกหรือใช้การไม่ได้เลย จำเดิมได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อฟิล์ม4. กล้องถ่ายวีดิ 7. โทรศัพท์เคลื่อนที่บางรุ่น เป็นอุปกรณ์ตัวกลางที่ผู้ใช้ ทัศน์ดิจิทัล เป็นอุปกรณ์รับภาพที่บันทึกข้อมูล ภาพนิ่ง สามารถนำเสนองานที่สร้างด้วยซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เพา ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เก็บไว้ในหน่วยความจำแบบ เวอร์พอยต์ผ่านเครื่องโพรเจกเตอร์ได้สะดวก ง่ายต่อการ แฟลชภายในกล้อง สามารถย่อหรือขยาย ปรับแสงเงา ติดตั้ง เพียงเชื่อมต่อโพรเจกเตอร์เข้ากับโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของภาพได้ และในปัจจุบันสามารถคัดลอกข้อมูลลงใน ผ่านสายเคเบิล แล้วเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยบลูทูธ แผ่นดีวีดีได้เลย โดยไม่ต้องโอนลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากอุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนำเสนอผลงานแล้ว 5. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและคอมพิวเตอร์ขนาดสมุด บันทึกหรือโน้ตบุ๊ก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้างงานนำเสนอ ยังมีส่วนประกอบที่สำคัญในการนำเสนองานคือ คำ เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โพรเจก บรรยาย หรือบทพากย์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบด้านโสตหรือ เตอร์ เพื่อนำเสนองาน และใช้นำเสนองานผ่านจอภาพ เสียงนั่นเอง โดยมีวิธีการและหลักในการพิจารณาดังนี้ ของเครื่องคอมพิวเตอร์

1. การบรรยายสด เหมาะสำหรับการประชุมหรือสัมมนาที่ หน่วยการเรียนรู้ ที่ 3 ต้องการให้ผู้ชมมีส่วนร่วม เพราะผู้บรรยายในกรณีนี้เป็นผู้ การใส่เทคนิคให้กับภาพด้วยสี่อดิจิทัล ที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเนื้อหาเป็นอย่างดีรู้ว่าควรจะเน้นตรง จุดใดและปฏิกิริยาจากผู้ชมทำให้ผู้บรรยายรู้ว่าผู้ชม สามารถติดตามทำความเข้าใจได้เพียงพอหรือไม่รู้ว่าส่วน เมื่อคุณต้องนำเสนองานที่สำคัญ PowerPoint เป็นหนึ่งใน เพื่อนที่คู่ใจกับหลายๆคนมากที่สุดในการแสดงออก สามารถ ไหนจะต้องอธิบายขยายความมากน้อยเพียงใด 2. การพากย์ เหมาะสำหรับเนื้อหาที่สามารถถ่ายทอดได้ ดึงดูดและเรียกความสนใจต่อสายตาของผู้ฟังเป็นอย่างดี โดยไม่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของผู้ชม ข้อดีคือสามารถ ในการใส่การเคลื่อนไหว (Animations) ในสไลด์เป็นเพียงวิธี เลือกใช้เสียงพากย์ที่มีความไพเราะน่าฟัง สามารถเลือกใช้ การง่ายๆ ซึ่งในการบทเรียนนี้คุณจะได้เรียนการใส่ลูกเล่นการ ดนตรี หรือเสียงประกอบ (Sound effect) เพื่อสร้าง บรรยากาศ แต่ข้อเสียคือไม่มีความยืดหยุ่น ไม่สามารถปรับ เคลื่อนไหวลงใน Microsoft PowerPoint ให้เหมาะสมกับความรู้สึกของผู้ชมในขณะนั้น รูปนำเสนอด้วยสื่อดิจิทัล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook