1. การเจ็บป่วยฉกุ เฉนิ หมายถึง ก. การได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการเจ็บป่วยกระทันหัน ข. การเจ็บปว่ ยทีต่ ้องเขา้ รกั ษาตัวที่ห้องฉกุ เฉนิ ค. การได้รบั บาดเจ็บหรือมีอาการเจ็บปว่ ยทม่ี ีผลต่อการดำรงชีวิตหรือการทำงานของ อวัยวะสำคญั ง. ขอ้ ข ผิด 2. เมื่อพบผเู้ จบ็ ป่วยฉกุ เฉนิ อันดับแรกควรทำอย่างไร ก. รีบพาไปสง่ โรงพยาบาล ข. ประเมินสถานการณ์ ค. นงั่ สมาธิเพอ่ื ตงั้ สตกิ อ่ น ง. ถูกทั้ง ข และ ค 3. การชว่ ยชีวติ ขั้นพื้นฐาน (CPR) เปน็ การช่วยเหลอื ผบู้ าดเจ็บหรือผูป้ ว่ ยเมื่อเกิด ภาวะใด ก. หวั ใจหยดุ เต้น หายใจเฮอื กหรือหยุดหายใจกระทันหัน ข. หมดสติหายใจอยู่ ค. จมนำ้ ง. ขอ้ ก และ ค 4. การชว่ ยชีวิตขน้ั พืน้ ฐาน (CPR) จะต้องกดหน้าอก ดว้ ยอัตราความเร็วเท่าใด และ เปา่ ปากกีค่ รงั้ ก. กดท่ี 30 ครงั้ ด้วยอตั ราความเร็ว 90 - 120 คร้ัง/นาที และเป่าปาก 2 ครง้ั ข. กดท่ี 35 ครงั้ ด้วยอัตราความเรว็ 100 - 120 ครงั้ /นาที และเปาปาก 2 ครงั้ ค. กดท่ี 30 ครงั้ ด้วยอตั ราความเรว็ 100 - 120 ครงั้ /นาที และเป่าปาก 2 ครงั้ ง. กดท่ี 35 ครงั้ ด้วยอัตราความเรว็ 90 - 120 คร้ัง/นาที และเปา่ ปาก 2 ครง้ั
5. ในการใช้เครือ่ ง AED รปู ใด คือการติดแผน่ นำไฟฟ้าท่ถี ูกตอ้ ง ก. ข. ค. ง. 6. ภาวะหมดสติ จากรปู ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะการช่วยเหลอื กรณีผู้หมดสติและยงั หายใจ ก. ข. ค. ง. 7. จากรปู ภาพใดเป็นการปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นในผทู้ ีเ่ ปน็ ลมสาเหตุจากเลือดไป เลี้ยงสมองไม่เพียงพอชวั่ คราว ก. ข. ค. ง.
8. ข้อใดเป็นอาการของผเู้ ป็นลม สาเหตจุ ากความรอ้ น ก. เวยี นศรีษะ หนา้ มืด ใจสัน่ หน้าซีด มือเยน็ เหงือ่ ออก ชีพจรเบาเรว็ ข. มีเหงื่ออกมากออ่ นเพลยี ปวดศรีษะ ตัวร้อนเล็กนอ้ ย อาจเปน็ ตะคริว ค. ตวั ร้อนจัด อณุ หภูมริ ่างกายสูงกวา่ 40 องศาเซลเซียส หน้าแดง ตวั แดง ไมม่ ีเหงือ่ ปวดศรีษะ คลน่ื ไส้ อาเจียน อาจมีสับสน ชัก หมดสติ ง. ไม่มีขอ้ ถกู 9. ขอ้ ใดเปน็ อาการของผู้เปน็ ลม สาเหตจุ ากเลือดไปเลีย้ งสมองไม่เพียงพอช่วั คราว ก. เวยี นศรีษะ หน้ามดื ใจสนั่ หนา้ ซดี มือเยน็ เหงื่อออก ชีพจรเบาเร็ว ข. มีเหงื่ออกมากออ่ นเพลยี ปวดศรีษะ ตัวร้อนเล็กนอ้ ย อาจเป็นตะคริว ค. ตัวร้อนจัด อุณหภมู ิรา่ งกายสูงกวา่ 40 องศาเซลเซียส หน้าแดง ตัวแดง ไม่มีเหงือ่ ปวดศรีษะ คลืน่ ไส้ อาเจยี น อาจมีสบั สน ชกั หมดสติ ง. ถกู ทุกขอ้ 10. ขอ้ ใดเปน็ อาการของผู้เป็นลม สาหตจุ ากการเสยี นำ้ และเกลอื แรอ่ อกจาก รา่ งกายมาก ก. เวยี นศรีษะ หนา้ มืด ใจสน่ั หน้าซีด มือเยน็ เหงือ่ ออก ชีพจรเบาเร็ว ข. มีเหงือ่ อกมากออ่ นเพลยี ปวดศรีษะ ตวั รอ้ นเล็กน้อย อาจเปน็ ตะคริว ค. ตัวร้อนจัด อุณหภมู ิรา่ งกายสงู กว่า 40 องศาเซลเซียส หน้าแดง ตัวแดง ไม่มีเหงื่อ ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจยี น อาจมีสบั สน ชัก หมดสติ ง. ถูกท้ัง ข และ ค 11. ขอ้ ใดเปน็ การชว่ ยเหลือเบื้องต้นในผู้มีอาการชกั ก. จดั ให้นอนราบกับพ้ืน หาผ้านมุ่ รองศรีษะ ข. ตะแคงหนา้ ดูแลไม่ให้มีน้ำมกู นำ้ ลาย สิ่งแปลกปลอม เศษอาหารไปอุดก้ัน ทางเดนิ หายใจ ค. หลงั จากหยุดชกั แล้ว จัดให้นอนทา่ ตะแคงกึง่ คว่ำ หากชกั เกิน 5 นาทีควรรบี นำสง่ โรงพยาบาล ง. ถูกทุกขอ้
12. ขอ้ ใดไม่ใชล่ กั ษณะของบาดแผลปดิ ก. แผลฟกช้ำ ห้อเลอื ด ข. แผลถลอก ค. อวยั วะภายในได้รับบาดเจบ็ ง. บาดแผลไม่ฉีกขาด แตเ่ น้ือเยือ่ ใตผ้ ิวหนังถูกทำลาย 13. ใหเ้ รียงลำดบั วิธีการทำความสะอาดบาดแผลเปิดมีดบาดเลือดออกเล็กนอ้ ย (1) ใสย่ าสำหรบั แผลสดหรือไม่ใสก่ ไ็ ด้ แลว้ แต่สภาพบาดแผล (2) ถ้าเลือดซึมใหใ้ ชผ้ า้ สะอาดกดแผล เพื่อหา้ มเลือดประมาณ 2-3 นาที (3) ลา้ งแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ จนหมดส่งิ สกปรก (4) กรณีแผลถกู แทงที่ไมม่ ีวัตถุปักคา เมื่อดแู ลเบื้องตน้ แล้ว ใหน้ ำส่งโรงพยาบาล (5) ปดิ แผลหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความลึกของแผลและโอกาสสมั ผัสกับฝุ่นละออง ก. 3-1-2-5-4 ข. 3-2-1-4-5 ค. 3-2-1-5-4 ง. 3-1-2-5-4 14. ใหเ้ รียงลำดับวิธีการทำความสะอาดและห้ามเลอื ดบาดแผลเปิดเลอื ดออกมาก (1) ไม่ต้องล้างแผล (2) สงั เกตภาวะชอ็ ก เชน่ หน้ามดื เวยี นศรีษะ หน้าซีด ตัวเย็น เหงือ่ ออก ชีพจรเบา เร็ว หรือคลำไมไ่ ด้ กระสับกระส่าย (3) รีบนำส่งโรงพยาบาล (4) หา้ มเลอื ดโดยใช้ผา้ ขยมุ้ กด ใช้ผ้าหรือผ้ายืดพนั ทับ ยกบริเวณที่มบี าดแผลใหส้ ูง กวา่ หัวใจ (5) นอนราบให้ความอบอุน่ ก. 2-1-4-5-3 ข. 1-4-2-5-3 ค. 4-5-2-5-3 ง. 5-4-2-1-3
15. ข้อใดไม่ใชว่ ธิ ีการปฐมพยาบาล เลือดกำเดาไหล ก. นง่ั ก้มหน้าหรือนอนให้ศรีษะสูง ป้องกันการสำลักเลือด ข. ใช้นวิ้ หวั แม่มือและนิว้ ชี้บบี จมูก ประมาณ 5-10 นาที หายใจทางปาก ค. ห้ามเลอื ดโดยประคบดว้ ยผ้าเย็นหรอื น้ำแข็งบริเวณหนา้ ผากและสันจมูก ง. แหงนหนา้ เอาทิชชยู ดั จมกู 16. ในการปฐมพยาบาลบาดแผลถกู ไมท่ ม่ิ ถูกแทงทีม่ ีวัตถปุ ักคา ควรทำเชน่ ไร ก. ห้ามดึงวัตถอุ อกเพราะจะทำใหเ้ ลอื ดออกมากขนึ้ และใช้ผา้ สะอาดวางรอบ วตั ถุ พันยดึ ผ้า ที่วางรอบวัตถุไวเ้ พ่อื ให้วัตถนุ ้ันอยนู่ ิ่ง ระวังอยา่ ให้วตั ถนุ นั้ ถูก กดลกึ ลงไป ข. ดงึ วตั ถุนนั้ ออกแลว้ ทำการห้ามเลอื ด ค. รีบนำส่งโรงพยาบาล ง. ขอ้ ข และ ขอ้ ค ถูก 17. เมื่อพบผ้บู าดเจ็บอาการใดจึงบอกได้ว่ากระดูกหักต้องเขา้ เฝือก ก. เมือ่ ผู้ปว่ ยมีสตแิ ละบอก ข. เมื่อพบวา่ มีอาการผิดรูป สน้ั ยาวไม่เท่ากัน ปวดมากและมีเสยี งกรอกแกรก ค. เมื่อพบวา่ มีการเขยี วช้ำ ห้อเลอื ด ง. เมื่อพบวา่ มีเลอื ดออกมากบริเวณบาดแผล 18. การเข้าเฝือกเพื่อวตั ถปุ ระสงคใ์ ด ก. เพ่อื การเคลื่อนย้ายสะดวก ข. เพือ่ ลดการบาดเจบ็ เพิม่ ขึ้น ขณะเคลอ่ื นย้าย ค. เพื่อให้ผู้ป่วยนอนนง่ิ ขณะเคล่อื นย้าย ง. เพอ่ื ให้เลอื ดไมไ่ หลออกมากขณะเคล่อื นย้าย 19. รปู ใดเปน็ การเข้าเฝือกชั่วคราว กรณขี ้อศอกหัก ก. ข. ค. ง.
20. รูปใดเปน็ การเขา้ เฝือก กรณขี ้อมือหกั ง. ก. ข. ค. 21. การชว่ ยเหลือผ้สู ำลกั ยังไม่หมดสติ การหาตำแหนง่ การวางกำปนั้ ควรอยู่ ตำแหน่งใด ก. ตำแหน่งล้นิ ป่ี ข. ตำแหนง่ กึง่ กลางระหว่างลิน้ ปีก่ ับสะดือ ค. ตำแหนง่ สะดือ ง. ตำแหนง่ ใดก็ไดบ้ รเิ วณท้อง 22. แผลไหม้ แบง่ ตามความลึกของแผลไหม้เปน็ กี่ระดับ ก. 1 ระดบั ข. 2 ระดบั ค. 3 ระดบั ง. 4 ระดบั 23. จากขั้นตอน การปฐมพยาบาลแผลไหม้-น้ำร้อนลวกดังต่อไปนี้ เป็นการปฐม พยาบาลแผลไหมร้ ะดับใด • ระบายความร้อนออกจากแผล โดยใช้ผ้าชุบน้ำประคบบริเวณบาดแผล แช่ลงในน้ำเพื่อเปิดใหน้ ำ้ ไหลผ่าน • เมือ่ ทำความสะอาดแลว้ ใหป้ ดิ ดว้ ยผา้ สะอาดเพือ่ ป้องกนั การติดเชือ้ • หากบาดแผลมขี นาดใหญ่มาก ควรให้ความอบอนุ่ แกผ่ บู้ าดเจบ็ โดยให้ผา้ ห่มคลุม ทบั อกี ช้ัน • ถ้าแผลมีความกว้างมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ หรือบาดเจ็บอวัยวะสำคัญ เชน่ ใบหนา้ ลำคอ ให้ตรวจสญั ญาณชีพ • โทรแจ้ง 1669 เพื่อนำส่งโรงพยาบาล ก. เปน็ การปฐมพยาบาลแผลไหม้ระดับ 1 ข. เปน็ การปฐมพยาบาลแผลไหม้ระดบั 2 ค. เปน็ การปฐมพยาบาลแผลไหมร้ ะดับ 1 - 2 ง. เป็นการปฐมพยาบาลแผลไหม้ระดับ 3 - 4
จากหลักการปฐมพยาบาลอาการขอ้ เท้าเคลด็ ดว้ ยหลกั การ \"4 ย\" (ใช้ตอบคำถามขอ้ 24 และ 25) 1. หยุด คอื หยดุ การเคล่ือนไหวข้อท่บี าดเจบ็ 2. เย็น คอื การประคบด้วยความเย็น 3. ยึด คอื การพนั ข้อท่บี าดเจ็บด้วยผ้าม้วนยืด 4. ยก คอื การยกสว่ นท่บี าดเจบ็ ให้สูง 24. การประคบดว้ ยความเย็น จะต้องประคบภายในกชี่ ว่ั โมงหลงั จากการบาดเจบ็ ก. ภายใน 1 ช่ัวโมง ข. ภายใน 12 ชวั่ โมง ค. ภายใน 24 ช่ัวโมง ง. ภายใน 48 ชว่ั โมง 25. การประคบด้วยความเย็น จะตอ้ งประคบระยะเวลาเท่าไร ก. ประมาณ 5 - 10 นาที ทุกครึ่งช่ัวโมง ข. ประมาณ 5 - 10 นาที ทุก 1 - 2 ชว่ั โมง ค. ประมาณ 15 - 20 นาที ทุกครึง่ ชว่ั โมง ง. ประมาณ 15 - 20 นาที ทกุ 1 - 2 ชั่วโมง 26. จากข้อความ ข้อใดผดิ ก. งูทม่ี ีพษิ ตอ่ ระบบหายใจ ข. งูที่มีพิษตอ่ ระบบประสาท ค. งทู ม่ี ีพิษต่อระบบเลอื ด ง. งูที่มีพิษทำลายกลา้ มเน้ือ 27. งเู ห่า งจู งอาง งูสามเหลย่ี ม งทู ับสมิงคลา เปน็ งทู ม่ี ีพษิ ตอ่ ระบบใด ก. งูที่มีพิษตอ่ ระบบหายใจ ข. งูที่มีพิษต่อระบบประสาท ค. งทู ่มี ีพิษต่อระบบเลอื ด ง. งูที่มีพิษทำลายกลา้ มเน้ือ
28. งแู มวเซา งูกะปะ งูเขียวหางไหม้ เปน็ งูทีพ่ ษิ ต่อระบบใด ก. งูที่มีพิษตอ่ ระบบหายใจ ข. งทู ม่ี ีพษิ ตอ่ ระบบเลอื ด ค. งูท่มี ีพิษตอ่ ระบบประสาท ง. งทู ี่มีพิษทำลายกลา้ มเน้อื 29. เมือ่ พบผู้ป่วยโดนงูกดั การปฐมพยาบาลเบื้องต้นอยา่ งไร ก. รีบหาเชือกหรือยางมารดั เหนอื บาดแผล ข. รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลโดยประคอง อุ้ม หรือนอนเปล ค. ทำการดดู เลอื ดท่บี าดแผล หรอื ใช้มีกรีดเลือดให้ออก แล้วรบี นำส่งโรงพยาบาล ง. ให้ผปู้ ่วยเคลื่อนไหวน้อยที่สุด โดยเฉพาะบริเวณทีถ่ ูกกดั โดยการเข้าเผือก ชวั่ คราว แล้วนำส่งโรงพยาบาล 30. จากข้อ 29 ข้อใดเปน็ ขอ้ ห้ามการปฐมพยาบาลเมือ่ งูกัด ก. ข้อ ก และ ข ข. ขอ้ ก และ ง ค. ข้อ ก ข และ ค ง. ขอ้ ก ข และ ง
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: