ข บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการ โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม อาเภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่ ที่ พเิ ศษ/2563 วนั ที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เรอื่ ง รายงานการวิเคราะหผ์ ู้เรียนรายบุคคล รายวชิ าภาษาจนี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 256๓ เรียน ผู้อานวยการโรงเรียนภเู วยี งวิทยาคม ด้วยข้าพเจ้า นางสาวศิริวิมล หล้าป้อม ตาแหน่ง ครู ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีการสอน ในรายวิชาภาษาจีน และเป็นครูที่ปรึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๘ ประจาปีการศึกษา 256๓ มีนักเรียนจานวนทัง้ สนิ้ ๓๑ คน ในการวางแผนจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนท่ีมีคุณภาพและช่วยเหลือผู้เรียนนั้น ครูผู้สอนจึงได้ดาเนิน การจัดทาการวิเคราะห์ผู้เรียนเพื่อให้ทราบสภาพปัจจุบัน ปัญหาอุปสรรคและความสามารถของผู้เรียน ดังนนั้ ข้าพเจ้าจงึ รายงานผลการวิเคราะหผ์ ูเ้ รียนรายบุคล ดงั เอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบ จงึ เรียนมาเพือ่ โปรดทราบและพิจารณา ลงชือ่ ............................................... ผูร้ ายงาน (นางสาวศิริวิมล หล้าป้อม) ตาแหน่ง ครู ความเหน็ ผอู้ านวยการโรงเรยี น ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายคมสันต์ ชุมอภยั ) ผอู้ านวยการโรงเรียนภูเวยี งวิทยาคม ………../…………………./………….….
ก คานา การวิเคราะห์ผู้เรียน เพ่ือศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล มีความสาคัญและจาเป็น จะช่วยให้ครูผู้สอ น ได้รู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม โดยการกาหนดความต้องการที่จะใช้ข้อมูลเก่ียวกับตัวผู้เรียน เป็นข้อมูลสารสนเทศพื้นฐานนาไปสู่การวางแผนการเรียนรู้ หรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีมีจุดมุ่งหมาย เฉพาะในเรื่องความสามารถ ทกั ษะและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยใชว้ ธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมูลหลากหลาย เพ่ือให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน เช่น การสอบถาม การให้ทาแบบทดสอบ การรวบรวมข้อมูลพ้ืนฐาน การเรียนรู้ แล้วนามาวิเคราะห์เป็นรายบุคคล โดยจาแนกให้เห็นองค์รวมของผู้เรียนในแต่ละด้าน กาหนด เกณฑ์การจาแนกคุณภาพผเู้ รยี น และสรุปจัดกลุ่มผเู้ รียน ซง่ึ ข้อมลู ดังกล่าวสามารถนาไปใช้ประโยชน์เพื่อนาไป ชว่ ยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนบั สนุนใหผ้ ู้เรียนมกี ารพัฒนาได้อย่างเหมาะสม เต็มศักยภาพของแต่ละบุคคล และมีความสุข พัฒนาผู้เรียนให้ผู้เรียนบรรลุตามจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามกรอบการปฏิรูป การศกึ ษาในทศวรรษทีส่ อง เริม่ ตน้ คน้ วิเคราะห์ ที่ครแู ละผูเ้ กี่ยวข้องสามารถนาไปวางแผนในการพัฒนาผู้เรียน ดา้ นต่าง ๆ ได้ต่อไป และช่วยให้ครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ พัฒนาตนเอง คิด เอง ปฏบิ ตั เิ อง เพ่ือนาไปสูก่ ารสรา้ งองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ลงช่ือ (นางสาวศิรวิ มิ ล หลา้ ป้อม) ตาแหนง่ ครู
สารบญั ข ท่ี เรอ่ื ง หนา้ บนั ทกึ ข้อความ ก คานา ข สารบญั 1 3 - บทนา ๖ - แนวคิด หลักการ ๘ - วิธีดาเนนิ การ 14 - ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล - สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ
1 บทท่ี 1 บทนา 1. ความเปน็ มา การวิเคราะห์ คือความสามารถในการแยกส่ิงสาเร็จรูปออกเป็นส่วนย่อย ๆ ตามหลักการและ กฎเกณฑ์ท่ีกาหนดให้ เพือ่ คน้ หาความจรงิ ต่าง ๆ ท่ซี ่อนอยูภ่ ายในเรื่องราวน้นั ๆ การวิเคราะห์ผู้เรียน เพื่อศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคล จึงมีความสาคัญและจาเป็นมาก ประโยชน์ ของการวิเคราะห์ผู้เรียน คือ การนาข้อมูลไปช่วยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้เรียน มกี ารพัฒนาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เตม็ ศักยภาพของแตล่ ะบคุ คลและมีความสุข ครูผู้สอนจึงเป็นผู้มีบทบาทสาคัญเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ พฒั นาตนเอง คิดเอง ปฏบิ ัติเอง เพือ่ นาไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ผู้สอนได้รับมอบหมายให้สอน รายวิชาภาษาจีน รหัสวิชา จ๓๓๒๐๗ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/8 จานวน 31 คน ผ้สู อนจึงได้ ดาเนินการการวเิ คราะห์ผเู้ รียนท่ีรับผดิ ชอบเพื่อให้ทราบข้อมลู พืน้ ฐานของผู้เรียน เพื่อนาไปวางแผนในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและจัดกระบวนการเรยี นรไู้ ด้อย่างมีประสิทธิภาพ สมศ. ไดก้ าหนดมาตรฐานคุณภาพครูในด้านการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญอย่างมี ประสทิ ธภิ าพไว้วา่ ครูจะตอ้ งทากจิ กรรม 7 กจิ กรรม คือ 1. การวิเคราะหห์ ลักสตู ร 2. การวิเคราะห์ผู้เรียนเปน็ รายบุคคล 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่หลากหลาย 4. การใช้เทคโนโลยีเปน็ แหลง่ และสอื่ การเรียนรขู้ องตนเองและนกั เรียน 5. การวดั ผลและประเมินผลตามสภาพจรงิ อยา่ งรอบด้านเนน้ องค์รวมและเน้นพัฒนาการ 6. การใช้ผลการประเมินเพอ่ื แก้ไข ปรบั ปรุงและพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ เตม็ ศักยภาพ 7. การใชก้ ารวจิ ัยปฏบิ ัตกิ ารในการพฒั นานวัตกรรมเพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ของนักเรยี นและ การสอนของตนเอง จากมาตรฐานดังกล่าว ครูจึงต้องวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพ่ือท่ีจะวางแผนการ จดั การเรยี นการสอนให้เหมาะสมกบั ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มอย่างมปี ระสิทธิภาพ 2. คาถามวิจยั 1. นกั เรยี นแตล่ ะคนมีลักษณะสาคัญอย่างไร 2. นกั เรียนแตล่ ะคนมจี ุดเดน่ จดุ ดอ้ ยทค่ี วรไดร้ ับการพฒั นาและปรบั ปรงุ ในเร่อื งอะไรบา้ ง 3. ครูควรออกแบบจดั การเรยี นร้อู ยา่ งไรใหส้ ามารถพัฒนาคุณภาพของแต่ละคนและทุกคนในภาคเรียนนี้ 3. วตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั 1. เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐานด้าน ต่างๆ ของนักเรียนท่ีเรียนในรายวิชารายวิชาภาษาจีน รหัสวชิ าจ๓๓๒๐๗ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/8 โรงเรยี นภเู วียงวทิ ยาคม อาเภอภูเวียง จงั หวดั ขอนแก่น 2. เพอ่ื ศึกษาจุดเด่น และจดุ ด้อย ท่ีควรไดร้ ับการพฒั นาและปรบั ปรงุ นกั เรียนแตล่ ะคน ในระดับ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖/๘ โรงเรยี นภูเวียงวทิ ยาคม อาเภอภเู วยี ง จังหวดั ขอนแกน่ ปีการศกึ ษา 256๓
2 3. เพ่ือหาแนวทางการออกแบบการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนใหส้ อดคล้องกับความสามารถของ ผูเ้ รยี นรายบคุ คลให้สามารถพัฒนาตามธรรมชาติของแต่ละบคุ คลเต็มตามศกั ยภาพ และหาทาง ชว่ ยเหลอื ผูเ้ รียนทม่ี ีขอ้ บกพรอ่ งให้มีความพรอ้ มที่ดีขนึ้ 4. ขอบเขตของการวิจยั กลุ่มตัวอยา่ ง ได้แก่ นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖/๘ โรงเรียนภเู วียงวิทยาคม อาเภอภูเวียง จังหวัด ขอนแกน่ ปกี ารศึกษา 256๓ จานวน ๓๑ คน 5. ประโยชนข์ องการวจิ ยั 1. ครรู จู้ กั ผเู้ รียนเป็นรายบุคคล และจดั ทาขอ้ มูลสารสนเทศของนักเรียนอยา่ งเปน็ ระบบ 2. ครนู าผลท่ไี ด้จากการวเิ คราะหว์ ิจยั นี้ไปวางแผนการจดั การเรยี นรูเ้ พอ่ื พฒั นาผู้เรียนต่อไป 3. ครแู ละผ้เู กี่ยวขอ้ งมแี นวทางในการพัฒนาผ้เู รยี นตามจุดเนน้ คุณภาพผเู้ รยี น
3 บทท่ี 2 แนวคดิ หลกั การ รายงานผลการวเิ คราะห์ผ้เู รยี น รายวิชาภาษาจีน รหสั วชิ า จ๓๓๒๐๗ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/8 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 โรงเรยี นภูเวียงวิทยาคม อาเภอภูเวยี ง จงั หวัดขอนแก่น ไดท้ าการศึกษา แนวคิดทฤษฎเี อกสารและงานวิจัยทีเ่ ก่ยี วข้องเม่ือใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการดาเนินงาน การศึกษาและรายงาน ผลการดาเนนิ งาน ดังน้ี 1. แนวคดิ ในการวเิ คราะหผ์ ู้เรียน 2. วัตถุประสงคข์ องการวิเคราะหผ์ ้เู รียน 3. ขอบเขตของการวเิ คราะห์ผู้เรยี น 4. การวเิ คราะห์ผ้เู รยี นเปน็ รายบุคคล 5. ดา้ นของข้อมลู ที่จัดเกบ็ 6. วิธกี ารจัดเก็บขอ้ มูล 1. แนวคดิ ในการวเิ คราะหผ์ ้เู รยี น 1) การจดั การเรยี นรูใ้ หป้ ระสบความสาเร็จมีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนรสู้ งู ผ้เู รียนควรมคี วาม พรอ้ มทด่ี ใี นทุกๆ ด้าน ดังนั้นกอ่ นจะเร่ิมดาเนินการสอนวชิ าใดๆ ควรมีการศึกษาวิเคราะห์ ผู้เรียนเปน็ รายบคุ คลท่เี กี่ยวกบั - ความพรอ้ มดา้ นความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ - ความพรอ้ มด้านสติปัญญา - ความพรอ้ มดา้ นพฤตกิ รรม - ความพร้อมด้านร่างกาย - ความพร้อมดา้ นสงั คม 2) ก่อนจะเริม่ ดาเนนิ การจดั การเรยี นรู้วิชาใดๆ ผู้สอนควรศกึ ษาวิเคราะห์ผู้เรยี นใหร้ ถู้ ึงความ แตกต่างระหวา่ งบคุ คลในแต่ละดา้ น หากพบผู้เรียนคนใดมีข้อบกพร่องดา้ นใดควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข ใหม้ คี วามพรอ้ มที่ดีกอ่ น 3) การเตรียมความพร้อมหรอื การแก้ไขข้อบกพร่อง สาหรับนักเรยี นทีย่ งั ขาดความพร้อมในด้าน ใดๆ ควรใช้กิจกรรมหลายๆ แบบ หรอื ใช้เทคนิควธิ ีการทเี่ หมาะสมจนผเู้ รยี นมีความพรอ้ ม 2. วตั ถปุ ระสงคก์ ารวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น 1) เพื่อศกึ ษาวิเคราะห์แยกแยะเกยี่ วกบั ความพร้อมของผเู้ รียนในแตล่ ะด้านเป็นรายบุคคล 2) เพื่อให้ครูผู้สอนได้ร้จู กั ผเู้ รียนเป็นรายบุคคล สาหรับส่งเสริมให้สามารถพฒั นาตามธรรมชาติของ แตล่ ะบุคคลเตม็ ตามศักยภาพ และหาทางชว่ ยเหลือผเู้ รยี นทม่ี ขี อ้ บกพรอ่ ง ใหม้ ีความพร้อมทีด่ ีขึน้ 3) เพื่อใหผ้ ู้สอนได้จัดเตรยี มการสอน ส่อื หรือนวัตกรรมสาหรบั ดาเนินการจัดการเรยี นรแู้ กผ่ เู้ รยี น ได้สอดคลอ้ งเหมาะและตรงตามความตอ้ งการของผเู้ รยี นมากยิง่ ข้นึ
4 3. ขอบเขตของการวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น การวิเคราะหผ์ ้เู รียนเพ่ือแยกแยะหาความแตกต่างระหวา่ งบุคคลในเร่อื งตา่ งๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ (1) ความรูพ้ นื้ ฐานของวิชาท่ีจะทาการเรียนรู้ในระดบั ชั้นน้นั ๆ (2) ความสามารถในการแกป้ ญั หา (3) ความสนใจและสมาธิในการเรียนรู้ 2) ความพร้อมดา้ นสตปิ ญั ญา (1) การคิดริเรม่ิ สร้างสรรค์ (2) ความมีเหตุผล (3) ความสามารถในการเรียนร/ู้ การลาดบั ความ 3) ความพร้อมดา้ นพฤตกิ รรม (1) การแสดงออก (2) การควบคมุ อารมณ์ (3) ความมุ่งม่นั อดทน ขยนั หมัน่ เพยี ร 4) ความพร้อมด้านรา่ งกายและจติ ใจ (1) ด้านสุขภาพรา่ งกายสมบรู ณ์ (2) การเจรญิ เตบิ โตสมวัย (3) ความสมบรู ณ์ดา้ นสขุ ภาพจิต 5) ความพร้อมดา้ นสงั คม (1) การปรบั ตัวเข้ากับคนอืน่ (2) การชว่ ยเหลือ เสยี สละแบง่ ปัน (3) การเคารพ ครู กติกา และมรี ะเบยี บวนิ ัย
5 4. การวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเปน็ รายบคุ คล เม่อื เปิดภาคเรียนแตล่ ะภาคเรียน โรงเรยี นได้รับมอบหมายความรับผดิ ชอบให้ครูจดั การเรียนรู้ อย่างมีคณุ ภาพให้กับนกั เรยี นกลุ่มใหม่ ดังนัน้ ครูแตล่ ะคนจึงตอ้ งเรียนรู้ วิเคราะห์ เพอ่ื รูจ้ ักนกั เรยี นเปน็ รายบุคคลให้เพยี งพอทีจ่ ะสามารถวางแผนจดั การเรียนรู้ท่ีเน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั 5. ดา้ นของขอ้ มลู ทจ่ี ดั เกบ็ ประกอบดว้ ย ด้าน ภูมิหลงั ทางครอบครัว, ผลการเรียนรูต้ ามหลักสูตร,พัฒนาการด้านรา่ งกาย, อารมณ์, สงั คม, จติ ใจ, สติปญั ญา, ค่านิยม, ความถนัด,ความสนใจ, ศักยภาพ ขอ้ จากัดสภาพปัญหา และ ความตอ้ งการจาเปน็ 6. วธิ กี ารจดั เกบ็ ขอ้ มลู เคร่ืองมอื ท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ประกอบด้วย แบบกรอกขอ้ มูลรายบคุ คล การสังเกตนกั เรยี น แบบประเมนิ ดา้ นต่าง การสมั ภาษณ์นกั เรยี น แบบสารวจ แบบบนั ทึกตา่ งๆ
6 บทท่ี 3 วธิ ดี าเนนิ การวจิ ยั การวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐานด้านต่าง ๆ ของนักเรียนท่ีเรียนในรายวิชาภาษาจีน รหัสวิชา จ๓๓๒๐๗ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/8 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม อาเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ปีการศึกษา 256๓ เ พื่ อ ศึ ก ษ า จุ ด เ ด่ น แ ล ะ จุ ด ด้ อ ย ท่ี ค ว ร ไ ด้ รั บ ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง นั ก เ รี ย น แ ต่ ล ะ ค น ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/8 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม อาเภอภเู วยี ง จงั หวดั ขอนแกน่ ปกี ารศกึ ษา 256๓ และ 1. เพ่ือหาแนวทางการออกแบบการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความสามารถของผู้เรียนรายบุคคลให้สามารถพัฒนาตามธรรมชาติ ของแต่ละบุคคลเต็มตามศักยภาพ และหาทางช่วยเหลือผู้เรียนที่มีข้อบกพร่องให้มีความพร้อมที่ดีข้ึน มวี ธิ กี ารดาเนินงานตามลาดับดังนี้ 1. กลมุ่ เป้าหมาย 2. สารสนเทศและข้อมลู ท่ีเก็บรวบรวม 3. แหลง่ ข้อมูล 4. เคร่ืองมือทีใ่ ช้ในการเกบ็ ข้อมูล 5. วธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มูล 6. การวิเคราะหข์ ้อมลู 1. กลมุ่ เป้าหมาย ทที่ าการวิจยั ในครงั้ น้ี คือ นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖/๘ ทเ่ี รียนวชิ า ภาษาจีน รหัสวิชา จ๓๓๒๐๗ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม อาเภอภเู วียง จงั หวดั ขอนแกน่ ปกี ารศกึ ษา 256๓ จานวน 1 ห้อง นกั เรยี นท้งั หมด จานวน 31 คน 2. สารสนเทศและขอ้ มูลท่เี กบ็ รวบรวม ประกอบดว้ ย 2.1 ภูมหิ ลงั ทางครอบครัว 2.2 ผลการเรียนรตู้ ามหลกั สูตร 2.3 พฒั นาการดา้ นร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ สตปิ ัญญา คา่ นิยม 2.4 ความสนใจ ความถนดั ศักยภาพ และความตอ้ งการจาเป็น 2.5 ปัญหา/ขอ้ จากดั 3. แหลง่ ขอ้ มลู 3.1 แหล่งข้อมูลเอกสาร เช่น ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๘ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 แบบสารวจ แบบบันทกึ 3.2 แหล่งขอ้ มลู บุคคล เช่น ครทู ป่ี รกึ ษา ผู้ปกครอง เพอื่ นนักเรียน ตวั นักเรียน ฯ 3.3 แหลง่ ข้อมูลเหตุการณ์ เชน่ พฤตกิ รรมการเข้าแถว พฤตกิ รรมในหอ้ งเรยี น พฤตกิ รรมนอก หอ้ งเรยี น ฯลฯ 4. เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มลู 4.1 แบบวเิ คราะห์ผเู้ รยี นรายบคุ คล 4.2 แบบสงั เกต 4.3 แบบสัมภาษณ์ 4.4 แบบบนั ทึก
7 5. วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 5.1 ศกึ ษาเอกสารจาก ผลการเรียนปีการศึกษา 2563 ภาคเรยี นท่ี ๑ 5.2 สารวจข้อมูลรายบุคคล 5.3 สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน 6. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู - SWOT analysis - คา่ รอ้ ยละ
8 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวเิ คราะห์ผเู้ รียนรายบคุ คลในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 256๓ ไดว้ ิเคราะห์ข้อมูลจากนกั เรยี น ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๖/๘ จานวน 31 คน โดยวิเคราะหต์ ามประเดน็ การวิเคราะหผ์ ู้เรียนรายบคุ คล 4 ด้าน คือ 1. ดา้ นขอ้ มูลภมู หิ ลงั ครอบครัว ๒. ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ๓. พัฒนาการดา้ นต่าง ๆ 4. ความสามารถ ไดแ้ บง่ การนาเสนอดังนี้ 4.1 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดา้ นภมู หิ ลงั ครอบครวั ดงั แสดงในตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 แสดงผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดา้ นภมู หิ ลงั ครอบครวั ขอ้ มลู รายการ จานวนนกั เรยี น คน รอ้ ยละ 1.สถานภาพบดิ า-มารดา 1.1 อยรู่ ว่ มกนั 25 80.64 1.2 หย่าร้าง 4 12.90 1.3 แยกกนั อยู่ 1 3.22 1.4 บิดา/มารดาถึงแก่กรรม 1 3.22 2. ฐานะครอบครวั 2.1 ยากจน 00 2.2 ปานกลาง 28 90.32 2.3 มีอนั จะกิน 3 9.67 3. อาชพี ผปู้ กครอง 3.1 เกษตรกรรม 7 22.58 3.2 รบั ราชการ 00 3.3 ค้าขาย 3 9.67 3.4 ขายลอตเตอรร์ ี่ 00 3.5 รับจา้ งท่ัวไป 18 58.06 3.6 ธรุ กิจส่วนตัว ๑ 3.22 3.6 อน่ื ๆ 2 6.45 จากตารางที่ 1 พบว่า สถานภาพบิดา-มารดา อันดับที่ 1 อยู่ร่วมกัน คิดเป็นร้อยละ 80.64 อันดับท่ี 2 อย่าร้าง คิดเป็นร้อยละ 12.90 อันดับท่ี 3 แยกกันอยู่ คิดเป็นร้อยละ ๓.๒๒ อันดับที่ 4 บิดา/ มารดาถึงแกก่ รรม คิดเป็นรอ้ ยละ ๓.๒๒ ฐานะครอบครวั อันดับที่ 1 ปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 90.32 อันดับ ท่ี 2 มีอันจะกินร้อยละ 9.67 อาชีพผู้ปกครอง อันดับท่ี 1 รับจ้างท่ัวไป คิดเป็นร้อยละ 58.06 อันดับที่ 2 เกษตรกรรม คิดเปน็ รอ้ ยละ 22.58 อนั ดับท่ี 3 คา้ ขาย คดิ เป็นร้อยละ 9.67 อนั ดบั ที่ 4 อื่น ๆ คดิ เป็นร้อยละ ๖.๔๕ อนั ดบั ที่ ๕ ธุรกจิ ส่วนตวั คิดเปน็ รอ้ ยละ ๓.๒๒
9 4.2 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดา้ นผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ดงั ตารางท่ี 2 ตารางท่ี 2 แสดงผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดา้ นผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/8 ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา 2563 ที่ ชอ่ื วชิ า/รหสั ระดบั ผลการเรียน/คดิ เปน็ รอ้ ยละ (n = 188) 4 % 3.5 % 3 % 2.5 % 2 % 1.5 % 1 % 0 % 1 วชิ าภาษาจีน 15 48.38 5 16.12 1 3.22 1 3.22 4 12.90 1 3.22 3 9.67 1 3.22 รหสั 33207 (n = 31) ผลการเรยี นระดบั 3 67.74 - - - - - ----- ขนึ้ ไป จากตารางที่ 2 พบว่า ผลการเรียนเฉล่ีย ในรายวิชาภาษาจีนของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖/๘ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 25๖๓ มผี ลการเรียนระดับ ๓ ขึน้ ไปจานวน ๒๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๖.๗๔ ผลการเรียนระดับ ๒ ขน้ึ ไปจานวน ๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๖.๑๒ ผลการเรียนระดับ ๑ ข้นึ ไปจานวน ๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๒.๙๐ และมนี กั เรยี นตดิ ๐ จานวน ๑ คน คดิ เป็นร้อยละ ๓.๒๒ ตาราง ๓ แสดงจานวนและรอ้ ยละนกั เรยี นตามการจาแนกผเู้ รยี นตามกลมุ่ ความสามารถ ชนั้ จานวน กลมุ่ เกง่ กลมุ่ ปานกลาง กลมุ่ ออ่ น กลมุ่ พเิ ศษ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ 00 6/8 31 ๑๔ ๔๕.๑๖ 13 41.93 4 12.90 00 รวม 31 ๑๔ ๔๕.๑๖ 13 41.93 4 12.90 จากตาราง พบวา่ ผลนักเรยี นตามการจาแนกผ้เู รยี นตามกลุ่มความสามารถ กล่มุ เก่ง มีจานวน ๑๔ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๔๕.๑๖ กลุ่มปานกลาง มจี านวน ๑๓ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๔๑.๙๓ กลมุ่ ออ่ น มีจานวน ๔ คน คิด เปน็ ร้อยละ ๑๒.๙๐
10 การจาแนกผูเ้ รยี นตามกลมุ่ 1. กล่มุ เกง่ หมายถึง นกั เรียนที่มีผลการเรยี น ในระดับ มากกว่า ๓.๐๐ ขนึ้ ไป เปน็ ผู้ที่มรี ่างกาย และ จติ ใจทีส่ มบูรณ์ ตามเกณฑ์ทกี่ าหนด มีสภาพครอบครัวทีส่ นบั สนนุ ในการเรยี น มีความรพู้ ื้นฐานพร้อมในการ พัฒนาในการเรียนรายวชิ าน้ี อย่างเต็มความสามารถ มีจานวนมีจานวน 14 คนร้อยละ ๔๕.๑๖ ตาราง ๔ การจาแนกผเู้ รยี นตามกลมุ่ เก่ง ลาดบั ชอื่ - สกลุ ผลการเรียนเฉล่ยี ๕ ภาคเรียน 1 นายอภิชาติ บุตรศรี 3.57 2 นายอรรถพร สุวรรณพล 3.00 3 นางสาวจิราพร คาเรอื งศรี 3.23 4 นางสาวจฑุ ารัตน์ สวสั ดศิ์ รี 3.39 5 นางสาวณรญั ญา สงคราม 3.64 6 นางสาวนรศิ รา อู่สุวรรณ 3.59 7 นางสาวปทั มา แก้วกุดฉิม 3.42 8 นางสาวรสสุคนธ์ นาสาแดง 3.14 9 นางสาวพจมาน ชาลีเขยี ว 3.34 10 นางสาวศรัญญา สมภาร 3.28 11 นางสาวศริ ิญากร ลากลุ 3.31 12 นางสาวอนิ ทริ า กณั หาพิมพ์ 3.51 13 นางสาวสริ ยิ ากร แสนสี 3.03 14 นางสาวสุจิตตรา คุณนอ้ ย 3.10 แนวทางการจดั กิจกรรมเรยี นเรยี นการสอน สาหรบั นกั เรยี นกลมุ่ เกง่ ดาเนินการโดย สอนตามกิจกรรมการเรียนรูท้ ี่ได้กาหนดไวใ้ นแผนการสอน สง่ เสริมการคน้ ควา้ จาก แหล่งการเรียนรู้อนื่ เพ่มิ เติม เช่น ใหแ้ บบฝึกหัดการเขยี นอักษรจนี แนะนาการสืบคน้ ความรู้เพ่มิ เติมจาก Internet ศกึ ษาจากสื่อ ICT ส่งเสริมใหเ้ ด็กทางานกล่มุ เปน็ ต้น และให้เดก็ ทกุ คนทากจิ กรรมร่วมกันใน ห้อง โดยจัดให้เด็กเก่งและเดก็ กลางอยู่ในกลุม่ เดียวกนั นอกจากนี้ครยู ังมกี ารเตรยี มกิจกรรมเพมิ่ เตมิ สาหรับ เดก็ เก่ง กิจกรรมเสริมสาหรบั เด็กเก่ง อาจจะเปน็ เกมส์ หรือกจิ กรรมอื่นๆ ท่ีเด็กสนใจ
11 2. กลุม่ ปานกลาง หมายถงึ นักเรียนทีม่ ีผลการเรียน ในระดับ ๒.๐๐ ข้นึ ไป เปน็ ผ้ทู ี่มีรา่ งกาย และ จติ ใจท่สี มบรู ณ์ ตามเกณฑ์ท่กี าหนด มีสภาพครอบครวั ท่สี นับสนุนในการเรยี น มีความรพู้ ื้นฐานในระดบั หน่งึ พร้อมในการพฒั นาในการเรยี นรายวิชาน้ี มจี านวน 13 คน ร้อยละ ๔๑.๙๓ ตาราง ๕ การจาแนกผเู้ รยี นตามกลมุ่ ปานกลาง ลาดับ ชอ่ื - สกลุ ผลการเรยี นเฉลยี่ ๕ ภาคเรียน 1 นายณัฏฐ์ ก้องฝัน่ 2.04 2 นายธนาธปิ ฤทธิอ์ ่องรัก 2.07 3 นายนรากร สิงหจ์ ันทรล์ า 2.21 4 นายปรมินทร์ เถ่ือนแอ้น 2.37 5 นายวัฒนชัย เขียวประดษิ ฐ์ 2.21 6 นายวาคมิ ทองเขยี ว 2.15 7 นางสาวชลธิชา สรอ้ ยสะวะ 2.98 8 นางสาวฤดีรตั น์ ณ นคร 2.92 9 นางสาววธิดา พงษาศิรพิ นั ธ์ 2.51 10 นางสาวศริ พิ ร ก่าโพธ์ิ ๒.๙๐ 11 นางสาวเนตรชนก หงษ์เวยี งจันทร์ 2.56 12 นางสาวสดุ ารตั น์ ธงอาษา ๒.๑๘ 13 นางสาวป่นิ ผกา ดอนมัน่ ๒.๐๖ แนวทางการจดั กิจกรรมเรยี นเรยี นการสอน สาหรบั นกั เรยี นพอใช้ ดาเนนิ การโดย ส่งเสรมิ การคน้ คว้า จากแหล่งการเรียนร้อู นื่ เพิ่มเตมิ เน้นการสบื ค้นขอ้ มูล การวเิ คราะห์ การอภปิ ราย การศกึ ษาจากของจริง เช่น หนงั สอื คู่มือ วดี ทิ ัศน์ จะทาใหน้ ักเรียนมีความเขา้ ใจที่ลึกซง้ึ ได้ดี ให้ทาแบบฝึก ปฏบิ ตั ทิ ยี่ ากกวา่ ในเอกสารประกอบการเรียนการสอนให้ครบทกุ รายการ ศกึ ษาเทคนคิ เพิ่มเติมจากนกั เรยี นกลมุ่ เก่ง ๓. กลุม่ กลุ่มอ่อน หมายถึง นักเรยี นทม่ี ผี ลการเรยี น ในระดบั ต่ากวา่ ๒.๐๐ ลงไป เป็นผทู้ ีม่ รี า่ งกาย และจิตใจไมส่ มบรู ณ์ตามเกณฑ์ท่ีกาหนด มีสภาพครอบครวั ท่ีไมเ่ อ้ืออานวยในการเรียน มคี วามรู้ พน้ื ฐานไม่ถงึ เกณฑท์ ก่ี าหนด พรอ้ มในการพฒั นาในการเรียนรายวชิ าน้ี มจี านวน ๔ คนร้อยละ 12.90 ตาราง ๖ การจาแนกผเู้ รยี นตามกลมุ่ ออ่ น ลาดบั ช่ือ- สกลุ ผลการเรยี นเฉล่ีย ๕ ภาคเรียน 1 นายนพรตั น์ สุกรรณ์ 1.18 2 นางสาวพัชราภรณ์ ใจชว่ ง ๑.๗๑ 3 นางสาวศวุ ณีย์ ทองงาม ๑.๘๘ 4 นางสาวสาธิตา คงมงิ่ ๑.๗๘ แนวทางการจดั กจิ กรรมเรยี นเรยี นการสอน สาหรบั นกั เรยี นกลมุ่ ออ่ น ดาเนนิ การโดย - ให้เวลาในการฝกึ ปฏิบตั ิในเอกสารประกอบการเรียนการสอนมากขึน้ - จบั คูโ่ ดยใหเ้ พือ่ นชว่ ยเพอ่ื น ให้นักเรียนในกล่มุ เก่งชว่ ยสอนเพิม่ - ศกึ ษาจากสอ่ื อ่ืนๆ เชน่ หนังสือคมู่ อื วิดีทศั น์ - ครูสอนซ่อมเสรมิ เป็นรายบุคคล (ในกรณที ี่วิธกี ารอนื่ ๆ ไมไ่ ด้ผล) ๔. กล่มุ พเิ ศษ หมายถงึ นกั เรยี นท่ีมีปัญหาพกพร่องทางด้านรา่ งกาย หรอื บกพร่องดา้ นการเรียนรู้ เปน็ เด็ก พิเศษ เดก็ เรียนร่วม มจี านวน ๐ คนร้อยละ ๐
12 ผลการวเิ คราะห์ผเู้ รยี น รายวชิ าภาษาจนี รหัสวชิ า จ33207 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖/๘ 1. สรปุ ผลการวิเคราะหผ์ เู้ รยี น รายวิชาภาษาจนี ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๖/๘ จานวน 31 คน ตาราง ๗ ตารางแสดงผลการวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น ด้าน รายการวเิ คราะหผ์ เู้ รยี น ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ ท่ี จานวน/ ร้อยละ จานวน/ รอ้ ยละ จานวน/ ร้อยละ คน คน คน 1 ดา้ นความรคู้ วามสามารถและประสบการณ์ 1) ความรู้พ้นื ฐาน 15 48.38 15 48.38 1 3.22 2) ความสามารถในการแกป้ ญั หา 14 45.16 16 51.61 1 3.22 3) ความสนใจ/สมาธิการเรียนรู้ 6 19.35 23 74.19 2 6.45 สรปุ ดา้ นความรคู้ วามสามารถและประสบการณ์ 35 37.63 54 58.06 4 4.30 23 74.19 6 19.35 2 6.45 2 ความพรอ้ มดา้ นสตปิ ญั ญา 1) ความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ 2) ความมีเหตผุ ล 25 80.65 5 16.13 1 3.22 3) ความสามารถในการเรยี นรู้ 14 45.16 13 41.94 4 8.59 สรปุ ความพรอ้ มดา้ นสตปิ ญั ญา 61 66.66 24 25.80 7 7.52 27 87.10 3 9.68 1 3.22 3 ความพรอ้ มดา้ นพฤตกิ รรม 1) การแสดงออก 2) การควบคมุ อารมณ์ 26 83.87 5 16.13 0 0.00 15 48.39 12 38.71 4 8.59 3) ความม่งุ ม่ันขยันหม่นั เพียร 68 73.11 20 21.50 5 5.37 สรปุ ความพรอ้ มดา้ นพฤติกรรม 30 96.77 1 3.23 0 0.00 4 ความพรอ้ มดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ 1) สุขภาพร่างกายสมบรู ณ์ 2) การเจรญิ เติบโตสมวยั 30 96.77 1 3.23 0 0.00 3) ด้านสุขภาพจิต 29 93.55 2 6.45 0 0.00 89 95.69 4 4.30 สรปุ ความพรอ้ มดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ 29 93.55 2 6.45 0 0.00 5 ความพรอ้ มดา้ นสงั คม 29 93.55 2 6.45 0 0.00 1) การปรบั ตวั เขา้ กับผอู้ ่ืน 2) การเสยี สละไม่เหน็ แกต่ วั 3) มีระเบยี บวนิ ัยเคารพกฎกตกิ า 1 3.23 29 93.55 1 3.22 สรปุ ความพรอ้ มดา้ นสงั คม 59 63.44 33 35.48 1 1.07 จากตารางพบว่า นกั เรียนมีความร้คู วามสามารถและประสบการณ์ อยใู่ นระดบั ดี จานวน ๓๕ คน คิด เป็นรอ้ ยละ ๓๗.๖๓ ความพร้อมด้านสติปัญญา อยใู่ นระดบั ดี จานวน ๖๑ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๖๖.๖๖ ความพรอ้ มด้านพฤติกรรม อยู่ในระดบั ดี จานวน ๖๘ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๗๓.๑๑ ความพรอ้ มด้านรา่ งกายและ จติ ใจ จานวน ๘๙ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๙๕.๖๙ ความพร้อมดา้ นสงั คม จานวน ๕๙ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๖๓.๔๔
13 2. ขอ้ มลู เกย่ี วกับผเู้ รยี นแตล่ ะคน ท่ีครเู กบ็ เพอื่ วเิ คราะหน์ กั เรยี นเปน็ รายบคุ คล ตาราง ๘ ตารางแสดงผล ขอ้ มูลเกย่ี วกับผเู้ รยี นแตล่ ะคนทเ่ี กบ็ เพอื่ วเิ คราะหน์ กั เรยี นเปน็ รายบคุ คล เลขที่ ชอ่ื -สกลุ ดา้ นความรู้ ความพรอ้ มดา้ น ความพรอ้ มดา้ น ความพรอ้ มดา้ น ความพรอ้ มดา้ น สงั คม ความสามารถและ สตปิ ญั ญา พฤตกิ รรม รา่ งกายและจติ ใจ ประสบการณ์ ความรู้ ื้พนฐาน ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา ความสนใจ/สมาธิการเรียนรู้ ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ความ ีมเหตุผล ความสามารถในการเรียนรู้ การแสดงออก การควบคุมอารม ์ณ ความ ุ่มง ่ัมนขยันห ่มันเ ีพยร ุสขภาพร่างกายสม ูบร ์ณ การเจริญเติบโตสมวัย ด้าน ุสขภาพ ิจต การปรับตัวเ ้ขา ักบ ู้ผ ่ือน การเ ีสยสละไม่เ ็หนแ ่กตัว ีมระเ ีบยบวินับเคารพกฎกติกา 1 นายณฏั ฐ์ ก้องฝนั่ ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน 2 นายธนาธิป ฤทธ์ิอ่องรกั 3 นายนพรตั น์ สกุ รรณ์ กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง 4 นายนรากร สงิ หจ์ นั ทรล์ า 5 นายปรมินทร์ เถอื่ นแอน้ ดี ปาน ปรบั ดี ปาน ดี ปรับ ปรับ ปานกลาง ปาน ปาน ปรับ ปาน ปาน ปาน 6 นายวัฒนชัย เขียวประดิษฐ์ 7 นายวาคิม ทองเขยี ว กลาง ปรงุ กลาง ปรุง ปรุง กลาง กลาง ปรุง กลาง กลาง กลาง 8 นายอภิชาติ บตุ รศรี 9 นายอรรถพร สุวรรณพล ปรับ ปรับ ปรับ ปรับ ปรับ ปรับ ปาน ปานกลาง ปรับ ดี ดี ปาน ปาน ปาน ปรบั 10 นางสาวจริ าพร คาเรืองศรี 11 นางสาวจฑุ ารตั น์ สวสั ดศิ์ รี ปรุง ปรุง ปรงุ ปรุง ปรงุ ปรุง กลาง ปรงุ กลาง กลาง กลาง ปรุง 12 นางสาวชลธชิ า สร้อยสะวะ 13 นางสาวณรญั ญา สงคราม ปาน ปาน ปาน ปาน ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน 14 นางสาวนริศรา อสู่ ุวรรณ 15 นางสาวเนตรชนก หงษ์เวยี งจันทร์ กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง 16 นางสาวปทั มา แกว้ กดุ ฉิม 17 นางสาวปิน่ ผกา ดอนมั่น ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน 18 นางสาวพจมาน ชาลีเขยี ว 19 นางสาวพชั ราภรณ์ ใจช่วง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง 20 นางสาวรสสคุ นธ์ นาสาแดง 21 นางสาวฤดีรัตน์ ณ นคร ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน 22 นางสาววธดิ า พงษาศริ พิ นั ธ์ 23 นางสาวศรัญญา สมภาร กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง 24 นางสาวศิรญิ ากร ลากุล 25 นางสาวศิริพร ก่าโพธ์ิ ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน 26 นางสาวศวุ ณีย์ ทองงาม 27 นางสาวสาธิตา คงมิ่ง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง 28 นางสาวสริ ิยากร แสนสี 29 นางสาวสุจติ ตรา คุณนอ้ ย ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน 30 นางสาวสดุ ารตั น์ ธงอาษา 31 นางสาวอินทิรา กัณหาพิมพ์ กลาง ดี ดี ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง ดี ปาน ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปาน ปรับปรุง ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง ปาน ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปานกลาง ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ปาน ปาน ปาน ปาน ดี ปรับ ดี ดี ปรับปรุง ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง ปรงุ กลาง ปาน ปาน ปาน ปาน ดี ปรบั ดี ดี ปรับปรุง ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง ปรงุ กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปานกลาง ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปานกลาง ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง ปาน ปาน ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง ดี ดี ปาน ดี ดี ปาน ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ดี ปาน กลาง กลาง กลาง
14 บทที่ 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ วตั ถปุ ระสงค์ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานด้านต่างๆ ของนักเรียนที่เรียนในรายวิชารายวิชาภาษาจีน รหัสวิชา จ๓๓๒๐๗ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/8 โรงเรียนภูเวียงวิทยาคม อาเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น 2. เพื่อศึกษาจดุ เดน่ และจุดด้อย ท่ีควรได้รับการพัฒนาและปรับปรงุ นกั เรียนแตล่ ะคน ในระดับ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖/๘ โรงเรยี นภเู วยี งวทิ ยาคม อาเภอภเู วียง จงั หวัดขอนแก่น ปีการศึกษา 256๓ 3. เพื่อหาแนวทางการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนใหส้ อดคล้องกับความสามารถของ ผู้เรียนรายบุคคลให้สามารถพฒั นาตามธรรมชาติของแตล่ ะบคุ คลเตม็ ตามศักยภาพ และ หาทางชว่ ยเหลือผเู้ รยี นทมี่ ีขอ้ บกพร่องใหม้ ีความพรอ้ มทด่ี ขี ึ้น สรุปผล ๑. สถานภาพของครอบครวั นกั เรยี นนกั เรยี นสว่ นใหญ่ อยรู่ ว่ มกนั ๒. ฐานะของครอบครัวของนักเรยี นสว่ นใหญ่ ปานกลาง ๓. อาชีพผู้ปกครอง รับจ้างทว่ั ไป ๔. วชิ าที่ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน (GPA) เฉลีย่ ระหวา่ ง 3.00-4.00 จานวน ๑๔ คน เฉลยี่ ระหวา่ ง 2.00-2.99 จานวน ๑๓ คน ๕. นกั เรยี นส่วนใหญต่ อ้ งการใหค้ รจู ดั การเรียนรู้แบบ อภิปราย อภปิ รายผล จากผลการเกบ็ รวบรวมข้อมลู และวิเคราะหข์ อ้ มูลในทุกดา้ นของนักเรียน พบว่า นักเรยี นแตล่ ะคนมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นทแ่ี ตกตา่ งกัน ซง่ึ เกิดจากระดับของความสามารถ ในการเรียนรู้ทแี่ ตกตา่ งกนั ดังน้ี นักเรียนในกลุ่มเก่ง ร้อยละ ๔๕.๑๖ เป็นนักเรียนที่มีทักษะความสามารถในเรียน รดู้ า้ นความจา ความเข้าใจ การคิดวิเคราะห์ คานวณ และการประยุกต์งาน ได้เร็วกว่ากลุ่มอ่ืน ๆ ซ่ึงท่ีมีความ พร้อมในการจัดกิจกรร มการเรียน การสอนเป็นแกนตัวอย่ างที่คอยช่ ว ยเสริมเพื่อ น ในการทาการทดลอง การทาใบงาน / ชิ้นงาน / ผลงาน สามารถแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นได้ และสามารถแนะนาหรืออธิบายเพื่อน ๆ ได้ นกั เรียนในกล่มุ ปานกลาง รอ้ ยละ 41.93 เป็นนักเรียนท่ีมีทักษะความสามารถในเรียนรู้ ด้านความจา ความเข้าใจ การคิดวิเคราะห์ คานวณ ในระดับปานกลาง มีความพร้อมในการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนเป็นบางเรื่องในการทาการทดลองการทาใบงาน / ช้ินงาน / ผลงาน ซึ่งต้องอาศัยคาอธบิ ายแนะนาเพม่ิ เตมิ จากครูเปน็ บางคร้งั
๑๕ นักเรียนกลมุ่ ออ่ น ร้อยละ 12.90 เป็นนักเรยี นทม่ี คี วามพรอ้ มในการเรยี นการสอนค่อนข้าง น้อย เนื่องจากมีระดับความสามารถทักษะในการทาความเข้าใจในเน้ือหา การคิดวิเคราะห์ การคานวณ ได้ช้ามาก ส่งผลให้การทดลองทาใบงาน / ชิ้นงาน / ผลงานต้องอาศัยคาอธิบาย เพม่ิ เติม โดยเฉพาะกระบวนการทีต่ ้องมกี ารแก้โจทยป์ ัญหาต่าง ๆ จะมจี ดุ บกพร่องมาก นักเรียนในกลุ่มทั้ง 3 กลุ่มน้ีควรได้รับการศึกษารายกรณี เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหา ทางการด้านการเรียน หรือแก้ไขด้านพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ หรือการจัดการเรียนรู้ รายบุคคลใหเ้ หมาะสม เพอ่ื ใหบ้ รรลจุ ุดหมายในหลักสตู ร ขอ้ เสนอแนะ 1. ครูควรมกี ารวางแผนในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลกอ่ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรใู้ หไ้ ดข้ ้อมูล สาคญั ในการวางแผน ควรหาโอกาสไดพ้ บปะ พูดคยุ กบั นกั เรียน จะได้ขอ้ มูลทม่ี รี ายละเอยี ด รายบุคคลมากข้ึน ๒. จดั ทา เครอ่ื งมือเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ไวก้ อ่ นลว่ งหนา้ และเกบ็ รวบรวมข้อมูลในสัปดาหแ์ รก ช่วั โมงแรก กอ่ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้ครบทุกคน เพือ่ การจดั กลุ่มได้ครบถ้วนตามหลักการ วเิ คราะห์ผเู้ รียน 3. ครูควรสอบถามวิธีการเรยี นรทู้ นี่ กั เรยี นต้องการเรยี นเพื่อใชใ้ นการออกแบบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ให้ตามความต้องการของนักเรยี น
ภาคผนวก
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: