หน่วยที่ 7

เอกสารประกอบการเรียนการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ (3001-2001) ตรงตามหลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้ันสงู (ปวส.) พทุ ธศกั ราช 2557 ประเภทวชิ าบรหิ ารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี เรยี บเรยี งโดย พนิ รฎั สตี ลวรางค์ บธ.บ. การบัญชี บธ.บ. การจดั การท่วั ไป แผนกวิชาการบญั ชี วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาสุโขทัย สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

1 หนว่ ยที่ 7 การประยุกตใ์ ช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการนาเสนอและสื่อสารขอ้ มูลสารสนเทศ หัวข้อเรื่อง 1. การเปิดโปรแกรม Microsoft Excel 2007 2. ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม Microsoft Excel 2007 3. การใชค้ าส่ังต่างๆ ในโปรแกรม Microsoft Excel 2007 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. สามารถเปิดใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel 2007 ได้ 2. สามารถบอกสว่ นประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม Microsoft Excel 2007 3. สามารถประยุกตใ์ ช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการนาเสนอและสอื่ สารขอ้ มลู สารสนเทศได้  โปรแกรม Microsoft Excel โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมตารางทาการที่อยู่ในชุด Microsoft Office เช่นเดียวกับ โปรแกรม Microsoft Word ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันเป็น version 2007, 2010 และ 2013 เป็น โปรแกรมท่ีใช้งานในรูปแบบตารางคานวณ เหมาะกับงานการคานวณข้อมูลในตาราง ได้ผลลัพธ์ท่ีถูกต้อง รวดเรว็ สามารถเรยี งลาดบั ข้อมลู เพ่อื นามาวิเคราะห์ และสร้างกราฟแบบตา่ งๆ ได้  การเปดิ โปรแกรม Microsoft Excel 2007 1. ที่หน้าตา่ ง Windows คลกิ (click) ปมุ่ 2. เลือก > > (ภาพท่ี 7-1) ภาพที่ 7--1 การเปิดโปรแกรม Microsoft Excel 2007

2  ส่วนประกอบของหนา้ ตา่ งโปรแกรม Microsoft Excel 2007 หน้าต่างโปรแกรม Microsoft Excel 2007 ประกอบดว้ ยส่วนต่างๆ ดงั ภาพท่ี 7-2 2. Quick Access Toolbar 3. Title bar 4. Ribbon 1. ป่ ุม 5. Tabs Office 7. Name Box 6. Dialog box launcher 8. Formula Bar 9. Worksheet Area 10. Sheet Tab 11. Status bar 12. View 13. Zoom Level ภาพที่ 7-2 ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม Microsoft Excel 2007 รายละเอยี ดของสว่ นประกอบของหนา้ ต่างโปรแกรม Microsoft Excel 2007 มดี ังน้ี 1. ปมุ่ Office เปน็ ปุ่มคาสัง่ เกี่ยวกับการทางานของแฟม้ งาน เชน่ , , ,, , , ฯลฯ 2. Quick Access Toolbar เป็นแถบเคร่ืองมือของปุ่มคาส่ังทใ่ี ชบ้ อ่ ย ๆ ซึง่ สามารถเรยี กใชง้ านได้ อยา่ งรวดเร็ว เชน่ (บันทกึ ) , (เลิกทา) , (ทาอีกคร้ัง) 3. Title bar เป็นแถบแสดงชื่อแฟ้มสมุดงาน และโปรแกรมทเ่ี ปิดใช้งานอยู่ 4. Ribbon เปน็ แถบทร่ี วมแท็บคาส่ัง และเคร่ืองมอื ตา่ งๆ 5. Tabs เป็นที่เกบ็ ชุดคาสั่งไวเ้ ป็นกลุ่ม เพ่ือให้สามารถใช้งานไดง้ า่ ยข้นึ 6. Dialog box launcher เป็นตวั เปดิ ใชก้ ล่องโตต้ อบของแต่ละกล่มุ เครื่องมือ 7. Name Box เปน็ กล่องแสดงชื่อเซลล์ท่ที างานอยขู่ ณะนนั้ 8. Formula Bar เป็นแถบที่แสดงสูตรหรอื ข้อมูลของเซลล์ท่ีทางานอยู่ขณะนัน้ 9. Worksheet Area เปน็ พนื้ ที่สาหรบั วางองคป์ ระกอบตา่ งๆ เชน่ ขอ้ มลู ตัวเลข

3 10. Sheet Tab เปน็ แถบแสดงช่ือแผ่นงาน 11. Status bar เปน็ สว่ นทแ่ี สดงสถานการณ์ทางานขณะน้ัน 12. View แถบทีใ่ ช้เปล่ียนมุมมองการแสดงผล 13. Zoom Level เป็นเครือ่ งมือท่ใี ช้ยอ่ ขยายการแสดงผล  การใช้คาสงั่ ตา่ งๆ ในโปรแกรม Microsoft Excel 2007 การใช้คาสงั่ ต่างๆ ในโปรแกรม Microsoft Excel 2007 จะใช้ผ่านแท็บ (Tab) และรบิ บอน (Ribbon) แตล่ ะแทบ็ จะประกอบดว้ ยกลุ่มของรบิ บอนตามฟังกช์ ันและการทางานของโปรแกรม ดงั นี้ 1. คาสง่ั ในปุ่ม Office ปมุ่ Office ใชเ้ ปิดเมนกู ารใช้งานพ้ืนฐาน เชน่ คาสง่ั สรา้ ง เปิด บันทึก บันทึกเป็น พิมพ์ ปิด และอนื่ ๆ (ภาพที่ 7-3) เชน่ เดยี วกบั ในโปรแกรม Microsoft Word 2007 ภาพท่ี 7-3 คาส่งั ในปมุ่ Office ของโปรแกรม Microsoft Excel 2007 1.1. การสร้างแฟ้มสมุดงานเปลา่ - คลกิ ปมุ่ > >> 1.2. การเปิดแฟม้ สมุดงาน > คลกิ เลือกไดรฟ์ (drive) และ โฟลเดอร์(folder) > คลิก - คลิกปมุ่ > เลือกแฟ้ม > คลกิ ปมุ่

4 1.3. การบันทึกแฟ้มสมุดงาน - คลกิ ปมุ่ > > คลิกเลือกไดรฟ์ และโฟลเดอร์ > พิมพช์ ื่อแฟ้มในช่อง ช่อื แฟ้ม : > คลิกปุ่ม 1.4. การบนั ทึกแฟ้มสมุดงานเป็นชื่อใหม่ รูปแบบสมุดงานใหม่ หรือบันทกึ เกบ็ ในไดรฟ์ และ โฟลเดอรอ์ ่นื - คลกิ ปุ่ม > ใช้บันทกึ สมดุ งานทเี่ คยบันทกึ แลว้ เก็บไว้ในชื่อ ใหม่ หรอื รูปแบบสมุดงานใหม่ 1.5. การแสดงตวั อย่างก่อนพิมพ์ - คลิกปุม่ > > - ตรวจสอบลกั ษณะการวางหน้ากระดาษ ลักษณะขอ้ ความ และ ความถูกต้องของสมดุ งาน - คลกิ ป่มุ เพ่ือกลบั ไปหนา้ สมดุ งานปกติ 1.6. การพมิ พ์ - คลิกปุ่ม > จะปรากฏกล่องโต้ตอบ(dialog box) การพิมพ์ - คลกิ เลอื กเคร่ืองพิมพ์ (กรณีติดตง้ั เคร่อื งพิมพ์ไว้หลายเครอ่ื ง) ชว่ งระยะที่พิมพ์ สงิ่ ที่ พมิ พ์ และจานวนสาเนา แล้วคลิก (ภาพท่ี 7-4) ช่วงของหนา้ ภาพที่ 7-4 กล่องโต้ตอบ การพิมพ์ หมายถึง สั่งพิมพ์ทุกหน้าของสมุดงาน : หมายถงึ สงั่ พมิ พห์ น้าทร่ี ะบุ

5 1.7. การปดิ แฟ้มสมดุ งาน - คลิกปมุ่ > 1.8. การออกจากโปรแกรม - คลิกปมุ่ > 2. คาสง่ั ในแถบเครอื่ งมอื ด่วน ( Quick Access Toolbar ) มลี ักษณะการใชง้ านเหมอื นกบั แถบ เคร่อื งมือด่วนของโปรแกรม Microsoft Office Word 2007 แต่จะมรี ายการแถบเครื่องมือด่วนแตกต่างกันไป บา้ ง ตามลกั ษณะการใชง้ านของโปรแกรม (ภาพท่ี 7-5) ภาพที่ 7-5 แสดงแถบเคร่ืองมอื ด่วน และรายการแถบเคร่ืองมือ 3. คาสัง่ ในแท็บ หนา้ แรก ภาพท่ี 7-6 คาสง่ั ในแทบ็ หน้าแรก 3.1. ตดั และวาง เป็นคาสง่ั ที่ใช้ในการการยา้ ยเซลล์ - เลอื กเซลล์ทจ่ี ะตดั คลกิ แทบ็ หน้าแรก > - เลือกเซลล์ที่จะวาง คลกิ 3.2. คดั ลอกและวาง เป็นคาส่ังท่ใี ชใ้ นการการคัดลอกเซลล์ - เลอื กเซลล์ที่จะคดั ลอก คลิกแทบ็ หนา้ แรก > - เลือกเซลล์ทจ่ี ะวาง คลกิ

6 3.3. คัดวางรปู แบบ เป็นคาสง่ั ทีใ่ ช้ในการคัดลอกรูปแบบเซลล์ - เลือกเซลล์ท่ีจะคดั ลอกรปู แบบ > คลกิ - คลกิ เซลลท์ จ่ี ะวางรูปแบบ 3.4. การเปลี่ยนแบบอักษร - เลือกเซลล์ท่จี ะเปล่ยี นแบบอักษร > คลกิ แล้วเลอื กแบบอักษร 3.5. การเปลย่ี นขนาดอกั ษร - เลอื กเซลล์ทีจ่ ะเปล่ยี นขนาดอักษร > คลิก แล้วเลอื กขนาดอักษร 3.6. การเปลีย่ นลักษณะแบบอักษร - เลือกเซลลท์ ี่จะเปลย่ี นลกั ษณะแบบอักษร > คลิก กรณีทาอักษรตัวหนา คลกิ กรณีทาอักษรตวั เอียง คลิก กรณีทาอักษรตัวขีดเสน้ ใต้ 3.7. การใสเ่ สน้ ขอบเซลล์ - เลอื กเซลลท์ ีจ่ ะใสเ่ ส้นขอบ > คลกิ แลว้ เลือกรปู แบบ และลกั ษณะเสน้ ขอบ 3.8. การใส่สีพืน้ หลงั ของเซลล์ - เลือกเซลล์ทจ่ี ะใส่สพี ืน้ หลงั > คลิก แลว้ เลอื กสี 3.9. การเปลย่ี นสีอักษร - เลือกเซลล์ทจ่ี ะเปลย่ี นสอี ักษร > คลิก แล้วคลกิ เลือกสี 3.10.การจัดแบบอักษรโดยใช้กล่องโต้ตอบ แบบอักษร - คลกิ จะปรากฏกลอ่ งโต้ตอบ การจดั รูปแบบเซลล์ แทบ็ แบบ อกั ษร (ภาพท่ี 7-7) - เมอื่ ต้งั ค่าแบบอักษรเสร็จแลว้ > คลกิ ปมุ่ ภาพที่ 7-7 กล่องโตต้ อบ การจัดรปู แบบเซลลแ์ ท็บ แบบอักษร

7 ก่ึงกลาง 3.11.การจดั แนวข้อความในเซลล์ ใช้จดั ตาแหนง่ ข้อมลู ในเซลล์ คลกิ กรณจี ัด คลิก - เลือกเซลล์ท่ีจะจดั แนวข้อความ > คลิก กรณีจัดแนวชิดซ้าย กรณีจัดตรงกลาง คลิก กรณจี ัดแนวชิดขวา คลิก กรณจี ดั ชดิ ด้านบน คลกิ กรณจี ดั ชดิ ด้านล่าง 3.12.การจดั แนวโดยใชก้ ล่องโต้ตอบ การจดั แนว - คลกิ จะปรากฏกลอ่ งโต้ตอบ การจดั รปู แบบเซลล์ แท็บ การจัด แนว (ภาพท่ี 7-8) ภาพที่ 7-8 กลอ่ งโต้ตอบ การจดั รปู แบบเซลล์ แทบ็ การจัดแนว 3.13. การเตมิ สพี ้ืน หรือลักษณะลวดลายในเซลล์ หรือ จะ - คลิก หรอื ปรากฏกล่องโต้ตอบการจัดรูปแบบเซลล์ > คลิกแทบ็ การเตมิ (ภาพท่ี 7-9) ภาพท่ี 7-9 แท็บชีต การเตมิ ในกลอ่ งโตต้ อบการจัดรปู แบบเซลล์

8 3.14. การผสานซลล์ และจดั กง่ึ กลาง - เลอื กเซลล์ท่จี ะผสาน และจัดก่งึ กลาง > คลกิ 3.15. การจัดรูปแบบตัวเลข - เลอื กเซลลท์ จ่ี ะจดั รูปแบบ > คลกิ แล้วคลกิ เลือกรปู แบบตัวเลข 3.16. การใส่ลักษณะจุลภาคให้กับตวั เลข - เลือกเซลล์ทจ่ี ะจัดรูปแบบ > คลกิ ปุ่ม 3.17. การเพม่ิ จานวนทศนิยมให้กบั ตัวเลข - เลอื กเซลล์ที่จะจัดรปู แบบ > คลิกปมุ่ 3.18. การลดจานวนทศนิยมให้กบั ตัวเลข - เลอื กเซลลท์ จี่ ะจดั รปู แบบ > คลิกปุ่ม 3.19. การจัดรปู แบบตวั เลขโดยใช้กลอ่ งโตต้ อบการจัดรูปแบบเซลล์ - คลิกแทบ็ หนา้ แรก > > จะปรากฏกล่องโตต้ อบ การจดั รูปแบบเซลล์ ในแท็บชีต (tab sheet) ตัวเลข สามารถกาหนดประเภทตัวเลขได้ (ภาพท่ี 7-10) ภาพที่ 7-10 กล่องโตต้ อบ การจัดรูปแบบเซลล์ ในแท็บชีต ตัวเลข 3.20.การแทรกแถว - เลือกแถวท่ตี ้องการแทรก > คลกิ ของปุ่ม > 3.21.การแทรกคอลมั น์ - คลกิ คอลมั น์ทตี่ ้องการแทรก > คลกิ ของปุ่ม >

3.22. การแทรกแผ่นงาน 9 > - คลกิ ของปุ่ม 3.23. การลบแถว - เลอื กแถวท่ตี ้องการลบ > คลิก ของปมุ่ > 3.24. การลบคอลมั น์ - คลกิ คอลมั น์ทต่ี ้องการลบ > คลิก ของปุ่ม > 3.25. การลบแผน่ งาน - คลกิ ของปุ่ม > 3.26. การจดั ความสูงแถว - คลิกแถวทจี่ ะปรบั ความสงู > คลกิ > แลว้ พมิ พ์คา่ ความ สูงของแถว > คลกิ 3.27. การจดั ความกวา้ งคอลัมน์ - คลิกคอลัมน์ที่จะปรับความกวา้ ง > คลิก > แล้วพมิ พ์ คา่ ความกวา้ งของคอลัมน์ > คลิก 3.28. การเปลี่ยนชอื่ แผน่ งาน - คลิก > แล้วพมิ พ์ช่อื แผ่นงาน หรือ คลิกขวาทชี่ อ่ื แผน่ งาน > เปลีย่ นช่อื แลว้ พมิ พ์ชอื่ แผน่ งาน - คลิก > แล้วคลกิ เลอื กสี 3.29. การยา้ ยแผน่ งาน - คลกิ > (หรือ คลิกเมาส์ปมุ่ ขวาทีแ่ ทบ็ แผ่นงาน) > เลือก ไปทีส่ มุดงาน: และ ก่อนแผน่ งาน: >

10 3.30. การคดั ลอกแผน่ งาน - คลิก > (หรอื คลิกเมาสป์ ุ่มขวาท่ีแท็บแผน่ งาน) > เลือก ไปทีส่ มุดงาน: และ ก่อนแผ่นงาน: > > 3.31. การเปลย่ี นสแี ทบ็ - คลิก > แล้วคลิกเลือกสี 3.32. การปอ้ งกนั การแก้ไขแผ่นงาน - คลิก > > คลกิ เมื่อทาการป้องกนั แผน่ งาน จะไมส่ ามารถแก้ไขข้อมลู ในแผ่นงานนนั้ ได้ ยกเว้นเซลล์ที่ไม่ไดท้ าการลอ็ ก โดยการคลกิ เลือก > คลกิ เอา ออกจาก ก่อนที่จะทาการป้องกนั การแก้ไข แผน่ งาน 3.33. การหาผลรวมอัตโนมตั ิ - คลกิ เลอื กเซลลใ์ นคอลมั น์ หรือแถว ทีจ่ ะหาผลรวม > คลิก 3.34. การลา้ ง - คลกิ เลือกเซลล์ท่จี ะลา้ ง > คลกิ 3.35. การเรียงลาดบั - คลกิ เลือกช่วงเซลลใ์ นคอลัมน์ หรือแถว ทจ่ี ะเรียงลาดบั > คลิก > คลกิ เลือก หรือ หรอื กรณี จะปรากฎกล่องโตต้ อบ การเรยี งลาดับ (ภาพท่ี 7-11) ซง่ึ สามารถเพ่ิมระดับการเรยี งลาดับ และกาหนดใหเ้ รยี งลาดลั จากน้อยไปมาก หรอื มากไปน้อยได้ ภาพท่ี 7-11 กล่องโตต้ อบ การเรียงลาดบั ขอ้ มูล

3.36. การคน้ หา 11 > > พิมพ์ข้อความท่ีจะค้นหาใน > - คลกิ > คลกิ > พิมพ์ข้อความทจี่ ะค้นหาใน 3.37.การแทนที่ > คลิก > คลิก - คลิก > พมิ พ์ข้อความทจี่ ะแทนทีใ่ น 4. คาส่งั ในแท็บ แทรก ภาพท่ี 7-12 คาสง่ั ในแท็บ หนา้ แทรก 4.1. การแทรกรูปร่าง - คลิกแท็บ แทรก > > คลกิ เลอื กรูปแบบ ปกตแิ ลว้ การแทรกรูปรา่ งในโปรแกรม Microsoft Excel จะใช้น้อยกว่าใน Microsoft Word แต่ อาจจาเปน็ ต้องใชใ้ นบางกรณี เช่น การที่ทาเสน้ แบง่ ช่องคา่ เงนิ บาท และ สต. (ภาพที่ 7-13) แทรกเส้นแบ่ง ตาราง ภาพท่ี 7-13 แทรกเสน้ แบง่ ชอ่ งคา่ เงิน บาท และ สต. 4.2. การแทรกแผนภมู ิ - เลือกเซลล์ช่วงข้อมลู ทจ่ี ะใช้สรา้ งแผนภมู ิ - คลกิ แทบ็ แทรก > เลอื กชนิดแผนภูมิ เช่น

12 การจดั รูปแบบปา้ ยช่ือข้อมูลในแผนภมู ิ - เคา้ โครง > การเปล่ยี นแผนภมู ิ - คลิกทแี่ ผนภมู ิ > คลกิ แทบ็ ออกแบบ > 5. คาสั่งในแทบ็ เคา้ โครงหน้ากระดาษ ภาพที่ 7-14 คาส่งั ในแท็บ เค้าโครงหน้ากระดาษ 5.1. การตั้งระยะขอบกระดาษ - คลกิ ปุ่ม > คลิกเลอื กรปู แบบระยะขอบ หรอื คลิก เพื่อ ต้ังระยะขอบในกล่องโต้ตอบ ตง้ั ค่าหนา้ กระดาษ 5.2. การวางแนว - คลิกปุ่ม > คลกิ เลอื ก หรอื 5.3. การกาหนดขนาดกระดาษ - คลกิ ปุ่ม > คลิกเลือกรูปแบบขนาดกระดาษ หรือ คลิก เพื่อกาหนดขนาดกระดาษในกล่องโตต้ อบ ตั้งค่าหน้ากระดาษ 5.4. การตั้งคา่ หน้ากระดาษโดยใช้กล่องโต้ตอบตง้ั ค่าหนา้ กระดาษ - คลกิ แทบ็ เค้าโครงหน้ากระดาษ > > จะ ปรากฏกล่องโตต้ อบ ต้งั คา่ หน้ากระดาษ ในแท็บชีต (tab sheet) หน้า (ภาพท่ี 7-15) สามารถกาหนดค่า การวางแนว และขนาดกระดาษ

13 ภาพที่ 7-15 กลอ่ งโต้ตอบ ตัง้ ค่าหนา้ กระดาษ ในแทบ็ ชีต ระยะขอบ สามารถตั้งคา่ ระยะขอบ (บน, ล่าง, ซ้าย, ขวา, หัว-ทา้ ยกระดาษ) (ภาพท่ี 7-16) ภาพท่ี 7-16 กลอ่ งโตต้ อบ ตั้งค่าหนา้ กระดาษ - คลกิ ปมุ่ 5.5. การใส่หัวกระดาษและทา้ ยกระดาษ - คลิกปุม่ > แท็บชีต หัวกระดาษ/ทา้ ยกระดาษ

14 6. คาสงั่ ในแทบ็ สตู ร ภาพที่ 7-17 คาส่ังในแท็บ สูตร 6.1. การแทรกฟังก์ชนั - คลิกเซลลท์ ี่จะแทรกฟังกช์ นั ซ่งึ มกั จะเลอื กถัดจากกลุ่มเซลล์ขอ้ มลู ท่จี ะหาค่า > คลกิ ปุ่ม > คลกิ เลือกฟังกช์ ัน เช่น การแทรกฟังกช์ นั AVERAGE เพ่อื หาคา่ เฉลยี่ ของเซลล์ B2 ถงึ B6 และให้ ผลลัพธอ์ ย่ทู ีเ่ ซลล์ B8 มีข้ันตอนดงั นี้ 1) คลิกเลอื กเซลลท์ ่ีจะแทรกฟงั ก์ชนั (ภาพที่ 7-18) ภาพท่ี 7-18 การคลิกเซลล์ B8 เพื่อแทรกฟังก์ชนั 2) คลกิ ปุ่ม > คลกิ เลอื กฟังกช์ นั AVERAGE (ภาพท่ี 7-19) ภาพที่ 7-19 การคลกิ เลือกฟงั ก์ชัน AVERAGE

15 3) คลิกเลือกชว่ งเซลลข์ อ้ มูล (เซลล์ B2 ถึง B6) ท่ใี ชห้ าคา่ (ภาพท่ี 7-20) ภาพที่ 7-20 การเลอื กช่วงเซลล์ B2 ถึง B6 เพ่อื หาคา่ เฉลย่ี จะปรากฏกล่องโตต้ อบ อารก์ ิวเมนต์ของฟงั ก์ชัน ซึ่งแสดงช่วงเซลลข์ อ้ มูลที่เลือก (ภาพท่ี 7-21) ภาพท่ี 7-21 อาร์กวิ เมนต์ของฟังกช์ ัน ซง่ึ แสดงช่วงเซลลช์ ว่ งเซลล์ B2 ถึง B6 ที่เลือก เมอ่ื คลิกป่มุ กจ็ ะไดผ้ ลลพั ธ์ของฟังกช์ นั ซงึ่ จะแสดงสตู รไว้ในแถบสตู ร (ภาพท่ี 7-22) ภาพท่ี 7-22 ผลลพั ธข์ องฟงั ก์ชัน AVERAGE และสตู รในแถบสตู ร

16 การคานวณโดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2007 ใชเ้ คร่ืองหมายคลา้ ยกบั การคานวณทาง คณติ ศาสตร์ และมีลาดบั การคานวณ ดังนี้ ลาดับการคานวณ เครอื่ งหมาย ชือ่ 1  วงเลบ็ 2  เปอร์เซน็ ต์ 3  ยกกาลัง 4 คณู เละ หาร  และ  5  และ  บวก และ ลบ ตัวอย่างทีแ่ สดงถงึ ลาดับการคานวณ เช่น พิมพส์ ูตรเปน็ =6+4*(5-2)/2 จะไดค้ าตอบเป็น 12 เพราะจะคานวณในวงเลบ็ ก่อน ตามดว้ ยคณู และหาร แล้วบวกหลังสดุ การคานวณทางคณติ ศาสตร์สามารถใช้ กับข้อมูล หรือคา่ ของข้อมูลในเซลล์ เช่น ถ้าพมิ พ์เลข 1 2 และ3 ในเซลล์ A1 A2 และA3 ตามลาดับ การ หาผลรวมของเลข 1 2 และ3 ไปไวท้ ีเ่ ซลล์ใดๆ สามารถทาไดโ้ ดยพิมพ์สตู ร =1+2+3 หรือคานวณในลักษณะ อา้ งอิงเซลล์โดยพิมพ์ =A1+A2+A3 ซึ่งสูตรท่ีพมิ พ์จะไปปรากฏอย่ใู นแถบสตู ร การอ้างอิงเซลลย์ ังสามารถ อ้างองิ ระหว่างแผ่นงานได้ด้วย เชน่ ถา้ เซลล์ B2 Sheet2 พิมพส์ ตู รเป็น =Sheet1!B2 ก็จะเห็นข้อมลู ในเซลล์ B2 Sheet2 เหมือนกบั ในเซลล์ B2 Sheet1 การคานวณในลักษณะอ้างอิงเซลลส์ ามารถใช้เมาส์คลกิ ที่เซลล์ แทนการพมิ พช์ ือ่ เซลลไ์ ด้ เพ่ือความสะดวกรวดเร็วในการทางาน ฟังกช์ ันพ้นื ฐานท่คี วรรู้ ชื่อฟังก์ชนั ตัวอยา่ ง ความหมาย SUM =SUM(A1:A6) ผลรวมของค่าในเซลล์ A1 ถึง A6 =AVERAGE(A1:A6) คา่ เฉลยี่ ของค่าในเซลล์ A1 ถึง A6 AVERAGE =COUNT(A1:A6) ใช้นับเซลลท์ ี่มขี ้อมลู ในเซลล์ A1 ถึง A6 COUNT =ROUND(2.65,1) ปัดเศษทศนยิ มใหเ้ หลือ 1 ตาแหน่ง ROUND 7. คาสัง่ ในแทบ็ ขอ้ มูล ภาพที่ 7-23 คาส่งั ในแทบ็ ข้อมูล

17 7.1. การเรยี งลาดับข้อมูล - คลิกแท็บ ขอ้ มูล > 8. คาส่ังในแทบ็ มุมมอง ภาพที่ 7-24 คาสง่ั ในแท็บ มุมมอง 8.1. แสดงตวั อยา่ งตัวแบ่งหน้า ใช้ในกรณที ี่ต้องการทราบวา่ แผ่นงานมีการแบ่งหนา้ อย่างไร เมอื่ พิมพอ์ อกมา - คลิกแทบ็ มุมมอง > 8.2. ย่อ/ขยาย - คลกิ แทบ็ มุมมอง > แต่ สามารถใช้ Zoom level ไดเ้ ชน่ กัน 8.3. การตรึงแนว เปน็ การตรึงแถว หรอื คอลมั นใ์ ห้อยกู่ บั ท่ี เพ่ือสามารถเล่ือนดูแถวดา้ นล่าง หรอื คอลมั น์ทางขวา ส่วนทีอ่ ยเู่ กินจอภาพซึง่ มองไมเ่ หน็ มักใช้ในการตรงึ หัวตาราง - คลกิ เลือกหัวคอลัมน์ หรือหัวแถว หรอื เซลล์ ที่จะตรึงแนว - คลกิ แทบ็ มุมมอง > **************************

18 กิจกรรมหน่วยท่ี 7 ตอนที่ 1 จงตอบคาถาม ต่อไปนี้มาให้เข้าใจ 1. ถา้ ใชค้ าส่งั > > คลกิ เลือก > คลกิ ตกลง จะได้ผลการพมิ พ์อยา่ งไร 2. การคดั ลอกเซลล์ D2 ไปไว้ทเี่ ซลล์ D3 มีขั้นตอนอยา่ งไร 3. เม่อื เลอื กช่วงเซลล์ A1 – F14 แลว้ และต้องการทาเส้นตาราง ตอ้ งใช้คาส่งั อย่างไร 4. การจดั การในขอ้ ใดไมไ่ ด้ใชค้ าสงั่ ที่อยูใ่ นแท็บ > 5. การรวมเซลล์ A1 ถงึ A3 เปน็ เซลลเ์ ดยี ว ตอ้ งใชค้ าสั่งในข้อใด 6. การเปลยี่ นตวั เลข 2000 ในเซลล์ ให้เปน็ 2,000.0 ตอ้ งใช้แท็บ และคาสง่ั อยา่ งไร 7. การแทรกแถวระหวา่ งแถวที่ 5 และ 6 มขี น้ั ตอนอยา่ งไร 8. การแทรกแผ่นงานใหม่ใหอ้ ยู่ก่อนแผน่ งาน Sheet2 ต้องทาอย่างไร 9. การเอาคอลมั น์ D ออกจากแผ่นงาน ตอ้ งใช้แท็บ และปุม่ คาสง่ั ใด 10. การคลกิ ท่ีคอลัมน์ C เพื่อขยายกวา้ งคอลัมน์ C จาก 8.83 เป็น 20 มีขั้นตอนอย่างไร 11. การเปลี่ยนช่ือแผ่นงาน ต้องใชแ้ ทบ็ และปมุ่ คาสั่งใด 12. ถ้าพิมพ์ =6+3*(6-2)/2 ในเซลล์ B2 แล้ว ผลลัพธท์ ไี่ ดใ้ นเซลล์ B2 จะเป็นเลขอะไร 13. การหาผลรวมอตั โนมตั ขิ องเซลล์ E3 ถงึ E5 โดยให้ผลรวมอยู่ที่เซลล์ E6 ต้องทาอยา่ งไร 14. เซลล์ E6 เกิดจากการหาผลรวมอตั โนมัตขิ องเซลล์ E3 ถงึ E5 ควรมีสูตรอย่างไร 15. การสร้างกราฟวงกลม มีขั้นตอนอย่างไร 16. การเปลี่ยนแผนภูมจิ ากแบบเส้น ให้เป็นแบบวงกลม ตอ้ งใชค้ าส่ังอย่างไร 17. ถา้ ต้องการให้แผ่นงาน Sheet1 มีระยะขอบด้านบน : 2.5 ขอบดา้ นลา่ ง : 2 จะตอ้ งคลิกคาสั่ง อยา่ งไร ให้นกั ศกึ ษาพิจารณาภาพน้ี แล้วตอบคาถามขอ้ 18 – 20

19 18. ถา้ เซลล์ E3 ใชส้ ูตร =B3*D3 และเซลล์ E5 ใชค้ าส่ังคัดลอกมาจากเซลล์ E3 แลว้ ในแถบสูตร ของเซลล์ E5 จะเป็นอยา่ งไร 19. เซลล์ E7 เป็นภาษมี ูลคา่ เพม่ิ ของเซลล์ E6 ควรมีสูตรอยา่ งไร 20. เซลล์ E8 ควรมีสูตรอยา่ งไร  เกณฑ์การใหค้ ะแนน ตอนท่ี 1 1. ตอบคาถามได้ถกู ต้อง ครบถ้วน (ขอ้ ละ 1 คะแนน) 2. ผลงานสะอาดเรียบรอ้ ย (2 คะแนน) 3. ต้งั ใจทางานด้วยตนเอง (2 คะแนน) 4. ส่งงานตรงเวลา (2 คะแนน) ตอนที่ 2 ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม 4-5 คน (กลมุ่ เดียวกับการทากจิ กรรมหน่วยท่ี 6) คน้ คว้าขอ้ มลู ตวั เลข สถิติ เกี่ยวกบั อาชีพทางธุรกจิ ที่นักศกึ ษาสนใจ 1 อาชีพ (อาชพี เดียวกบั หนว่ ยที่ 6) แลว้ จดั ทาเอกสารใน รูปแบบไฟล์ EXCEL มเี นือ้ หาไมน่ ้อยกวา่ 5 หน้ากระดาษ A4 (30 คะแนน) ข้อกาหนดในการจดั ทาเอกสาร 1. ใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2. ใช้ตัวอักษร Angsana New หรือ TH Sarabun PSK ขนาด 16 pt. หัวข้อใชต้ ัวหนา 3. ขนาดกระดาษ A4 ระยะขอบ - กั้นหนา้ และก้นั หลัง 2 ซม. บน 2.5 ซม. ลา่ ง 2 ซม. เยบ็ กระดาษ 1 ซม. แนวต้งั 4. ในส่วนเนื้อหา ตอ้ งประกอบด้วย ขอ้ ความ สูตรหรอื ฟงั ก์ช่นั ในการคานวณ ตาราง รูปภาพ กราฟ หรือแผนภูมิ 5. มีแผ่นงาน (sheet) และตง้ั ช่อื แผ่นงานอยา่ งน้อย 2 แผ่นงาน และมีการเชือ่ มโยงระหวา่ งแผน่ งาน 6. บันทกึ เอกสารทงั้ หมดไวใ้ น google drive โฟลเดอรช์ ่ือนักศกึ ษา และ ช่ือไฟล์ EX7-ชือ่ นักศึกษา. xlsx 7. แชร์เอกสารทเี่ ป็นไฟล์ .xlsx ให้ครทู าง e-mail : [email protected] (เลือกแบบสว่ นตวั )  เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ตอนที่ 2 1. การใช้กระบวนการคดิ อย่างเป็นระบบ 4 ข้นั ตอน (3 = ดี 2= พอใช้ 1= ควรปรับปรงุ ) 1.1 การประเมินสถานการณ์ ( 3 คะแนน) 1.2 การวิเคราะห์การตดั สินใจ ( 3 คะแนน) 1.3 การวเิ คราะห์ปญั หาทอ่ี าจจะเกิดขนึ้ ( 3 คะแนน) 1.4 การวิเคราะหป์ ัญหา ( 3 คะแนน)

20 2. ผลงาน (2 = ทาถูกตอ้ ง 1= ทาไม่ถูกต้อง 0= ไมไ่ ดท้ า) 2.1 การใชต้ ัวอกั ษรถูกต้อง เหมาะสม (2 คะแนน) 2.2 การกาหนดขนาดกระดาษ ระยะขอบ ถูกต้อง (2 คะแนน) 2.3 เนือ้ หา : ขอ้ ความ สูตรหรือฟงั กช์ ั่นในการคานวณ ตาราง กราฟหรือแผนภูมิ (รายการละ 2 คะแนน) 2.4 จานวนและช่ือแผน่ งาน (2 คะแนน) และมกี ารเชือ่ มโยงระหวา่ งแผ่นงาน (2 คะแนน) 2.5 ปรากฏเอกสาร ชอ่ื ไฟล์ EX7-ช่ือนักศึกษา.xlsx อยใู่ น e-mail ของครู ในเวลาทกี่ าหนด (2 คะแนน)