Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ

โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ

Published by Napatsavan Chulaka, 2021-03-16 03:42:28

Description: โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ

Keywords: โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ

Search

Read the Text Version

โปรแกรมสำเร็จรูปทำงสถิติ รหสั วิชำ2204-21019 นำงสำว กณั ฐมณี ภูผำ เลขที่ 13 ช3/3

บทท่ี1 ควำมรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั สถิติ บทนำ สถิติเป็นเคร่ืองมือสำคญั สำหรับกำรวจิ ยั กำรที่จะทำวจิ ยั ไดผ้ ลที่ดีน้นั นกั วจิ ยั ควรมีควำมรู้ทำงศำสตร์ของงำนวจิ ยั น้นั ๆควบคู่ไปกบั ควำมรู้ทำงสถิติ เพรำะสถิติจะเขำ้ ไป เก่ียวขอ้ งกบั กำรทำวจิ ยั หลำยๆข้นั ตอนเร่ิมต้งั แต่กำรวำงแผนกำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลกำรคำนวนขนำดหรือตวั อยำ่ งท่ีจะใช้ 1.1ควำมหมำยของสถิติ สถิติมีควำมหมำยใน2ลกั ษณะ ดงั น้ี • สถิติ หมำยถึงขอ้ สรุปของขอ้ มูลซ่ึงอำจจะเป็นตวั เลขหรือไม่กไ็ ด้ ท่ีแสดงขอ้ เทจ็ จริงของสิ่งใดหรือเหตุกำรณ์ใดๆ • สถิติ หมำยถึงศำสตร์ที่เกี่ยวขอ้ งกบั กำรศึกษำขอ้ มลู เพือ่ นำผลจำกกำรศึกษำมำช่วยในกำรอธิบำยและตอบปัญหำท่ีสนใจ

1.2 ควำมหมำยของขอ้ มูล • ข้อมูล(Data) หมำยถึงขอ้ เทจ็ จริงที่สำมำรถแสดงอยใู่ นรูปแบบของตวั เลขหรือขอ้ ควำม • ประเภทของข้อมูลโดยจำแนกตำมลกั ษณะของข้อมูล แบ่งไดด้ งั น้ี • 1.ขอ้ มูลเชิงปริมำณ 2.ขอ้ มูลเชิงคุณภำพ • ประเภทของข้อมูลโดยจำแนกตำมแหล่งข้อมูล แบ่งไดด้ งั น้ี • 1.ขอ้ มูลปฐมภูมิ 2.ขอ้ มูลทตุ ิยภูมิ

1.3 ระดบั กำรวดั ของขอ้ มูล • กำรวดั เป็นกำรกำหนดตวั เลขหรือสญั ลกั ษณ์ใหก้ บั ขอ้ มูล เรำสำมำรถแบ่งระดบั ของกำรวดั เป็น 4. ระดบั ดงั น้ี • 1.มำตรำนำมบญั ญตั ิ • 2.มำตรำอนั ดบั • 3.มำตรำอนั ตรภำค • 4.มำตรำอตั รำส่วน

1.4 ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง • ประชำกร(population)หมำยถึงขอบเขตของขอ้ มูลท้งั หมดที่เรำกำลงั ศึกษำ • พำรำมิเตอร์(parameter)หมำยถึงคำ่ ที่ประมวลผลไดจ้ ำกขอ้ มูลท้งั หมดของประชำกร 1.5ตวั แปร ตวั แปรสำมำรถแบ่งออกเป็นประเภทต่ำงๆและเรียกชื่อไดห้ ลำยอยำ่ งที่พบและมีกำรใชบ้ ่อย มีดงั น้ี 1.ตวั แปรอิสละ 2.ตวั แปรตำม 3.ตวั แปรควบคุม

1.7.กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล • กำรนำขอ้ มูลมำเพ่อื ทำกำรวเิ ครำะห์น้นั ขอ้ มูลอำจเป็นไดท้ ้งั ขอ้ มูลปฐมภูมิขอ้ มูลทุติยภูมิขอ้ มูลเชิงคุณภำพ หรือขอ้ มูลเชิงปริมำณ • 1.กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจำกงำนทะเบียนหรือกำรบนั ทึก • 2.กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยกำรสำรวจ • 3.กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจำกกำรทดลอง กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลจำกงำนทะเบยี นหรือกำรบันทกึ เหตุกำรณ์ที่เกิดข้ึน เช่นโรงพยำบำลจะมีกำรจดบนั ทึกขอ้ มูลผปู้ ่ วยที่เขำ้ มำรับกำรรักษำโดยระบุเพศ ชนิดของโรค กลุ่มเลือด เป็ นตน้ กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยกำรสำรวจ เป็นกำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลหน่วยท่ีสนใจโดยตรง เช่น สนใจควำมคิดเห็นประชำชนท่ีมีต่อหน่วยงำนรัฐ

1.8วธิ ีกำรเลือกตวั อยำ่ ง • 1.กำรเลือกตวั อยำ่ งตำมควำมน่ำจะเป็น • 2.กำรเลือกตวั อยำ่ งท่ีไม่ทรำบควำมน่ำจะเป็น

แบบทดสอบหลงั เรียน • 1.ข้อมูลในข้อใดจัดเป็ นข้อมูลสถติ ิ ก.ประมำณน้ำฝนวดั ที่อำเภอทองผำภูมิวนั น้ี110.มิลิลิตร ข.ในวนั ท่ี11มิถุนำยน2549จำหน่ำยสินคำ้ ได1้ 8,500บำท ค.นกั ท่องเที่ยวท่ีมำใชใ้ ชบ้ ริกำรของบริษทั สดใสทวั ร์มีอำยเุ ฉล่ีย27ปี ง.ปี 2549มีจำนวนนกั ท่องเที่ยวชำวไทยประมำร185,000คนที่ท่องเท่ียวภำคเหนือ • 2.กำรจำ้ นกนักศึกษำโดยแบ่งตำมข้อมูลอำยุ20-25ปี 25-29ปี 30-35ปี และ36-39ปี เป็ นกำรแบ่งตำมมำตรำวดั ระดบั สูงสุดมำตรวดั ใด ก.นำมบญั ญตั ิ ข.เรียงลำดบั ค.อนั ตรภำค ง.อตั รำส่วน • 3.ข้อใดไม่ใช่ระดบั กำรวดั ของข้อมูล ก.Nominal scle ข.Ordinal scale ค.Statistic scale ง.Interval scale • 4.ขอ้ ใดเป็นขอ้ ดีของกำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยกำรสำมะโน ก.ใชเ้ วลำนอ้ ย ข.ไดผ้ ลลพั ธ์รวดเร็ว ค.สะดวกในกำรทำงำน ง.ไดข้ อ้ มูลครบถว้ น • 5.กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยกำรสำมะโนนิยมใชใ้ นกรณีใด ก.ประชำกรมีขนำดเลก็ ข.ประชำกรที่มีขนำดไหญ่ ค.ประชำกรอยใู่ นที่เดียวกนั ง.ถูกทุกขอ้

• 6.ข้อใด ไม่ใช่ ข้อดขี องการรวบรวมข้อมูลโดยการสารวจด้วยตวั อย่าง ก. ความคลาดเคลื่อนในการสุ่มตวั อย่างมนี ้อย ข. ประหยดั เวลาและค่าใช้จ่าย ค. ได้ผลการสารวจรวดเร็ว ง. ข้อมูลทไี่ ด้มคี ุณภาพไม่ดี • 7.ข้อ ใด ไม่ใช่ ข้อดขี องการเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยว๊ะการส่งไปรษณยี ์ ก.ค่าใช้จ่ายน้อย ข.ผู้ตอบมีเวลาคดิ ทจี่ ะตอบคาถาม ค.ได้รับคาตอบครบถ้วน ง.ไม่มคี วามเอนเอยี งของผู้สอบถาม • 8.ข้อจากดั ของการเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยวธิ ีการโทรศัพท์ คือข้อใด ก.ได้คาตอบช้า ข.คาถามต้องเป็ นคาถามส้ันๆ ค.ค่าใช้จ่ายมาก ง.ไม่มคี าตอบทถี่ ูกต้อง ง.ถูกทุกข้อ • 9.ข้อใดคือวตั ถุประสงค์หลกั ในการจดั เตรียมข้อมูลให้หมวดหมู่ ก.สะดวกในการจดั เกบ็ ข.สะดวกในการตรวจสอบ ค.สะดวกในการวเิ คราะห์ • 10.ข้อใดเป็ นวืธีการจดั เตรียมข้อมูลให้ป็ นหมวดหมู่ ก.การแจกแจงความถี่ ข.การวดั แนวโน้มสู่ส่วนกลาง ค.การจดั การกระจายของข้อมูล ง.การวดั ความสัมพนั ธ์ของข้อมูล

บทท่ี2 การแจกแจงความถี่ • บทนำ กำรแจกแจงควำมถ่ีเป็นวิธีกำรจดั เตรยี มขอ้ มลู ดิบใหเ้ ป็นหมวดหมเู่ พ่ือควำมสะดวกในกำรนำไปวิเครำะห์ ซง่ึ สิ่งท่ีควรคำนงึ ถงึ ในกำรแจกแจงควำมถ่ี คอื 1ถำ้ ขอ้ มลู ดิบมจี ำนวนท่ีนอ้ ย ไหเ้ รยี งจำกมำกไปนอ้ ย 2.ถำ้ ขอ้ มลู ดิบมีจำนวนมำก (ใหน้ บั ตงั้ แต3่ 0ขนึ้ ไป)ใหแ้ จกแจงควำมถ่ีโดยใชต้ ำรำง 2.1กำรสรำ้ งตำรำงแจกแจงควำมถ่ี กำรแจกแจงควำมถ่ีทำได้ 2 แบบดงั นี้ 1.กำรแจกแจงควำมถ่ีของลกั ษณะท่ีสนใจท่ีเป็นไปไดท้ งั้ หมด 2.กำรแจกแจงควำมถ่ีสำหรบั คำ่ ในช่วงของลกั ษณะท่ีสนใจ

2.2ข้นั ตอนการสร้างตารางแจกแจงความถ่ี • 1.หำคำ่ พิสยั ของขอ้ มลู • โดยท่ีคำ่ พิสยั Range คอื ผลตำ่ งระหวำ่ งขอ้ มลู ท่ีมีคำ่ มำกท่ีสดุ กบั ขอ้ มลู ท่ีมีคำ่ นอ้ ยท่ีสดุ • 2.กำหนดจำนวลชนั้ • โดยท่วั ไปจะกำหนดชนั้ เป็น 5-20 ชนั้ ถำ้ ขอ้ มลู มีกำรกระจำยมำกและมีจำนวนขอ้ มลู ไมม่ ำกพอควรไหม้ ีจำนวนชนั้ นอ้ ยๆ • 3.คำนวณหำควำมกวำ้ งของชนั้ หรอื อนั ตรภำค • ถำ้ คำ่ I เป็นตวั เลขไมล่ งตวั จะปัดเป็นจำนวนเตม็ ( ไม่วำ่ เศษจะมคี ำ่ ต่ำกวำ่ หรอื มำกกวำ่ 0.5 )โดยท่วั ไปมกั กำหนดใหค้ วำมกวำ้ งของแตล่ ะชนั้ เทำ่ กนั หมด • 4.คำนวณหำขดี จำกดั ชนั้ • โดยจะกำหนดไหข้ ดี ไหข้ ีดจำกดั ลำ่ งของชนั้ แรกครอบคลมุ ขอ้ มลู ท่ีมีคำ่ ต่ำสดุ และขดี จำกดั บนของชนั้ สดุ ทำ้ ย • 5.คำนวณหำขอบเขตจำกดั ชนั้ • กำรหำรขอบขตจำกดั ชนั้ ไหม้ ีจำนวนหลกั หลงั จดุ ทศนิยมมำกกวำ่ ของขอ้ มลู จรงิ อยู่ 1 หลกั เสมอ • 6.นบั จำนวนคำ่ ของขอ้ มลู ในแตล่ ะชนั้ • หลงั จำกสรำ้ งขอบเขตจำกดั ชนั้ แลว้ จงึ ตรวจสอบวำ่ ขอมลู คำ่ ใดอยใู่ นชนั้ ใดบำ้ ง

2.3ฮีสโตแกรม • ฮีสโตแกรมหรอื ควำมถ่ีฮีสโตแกรม เป็นกำรนำขอ้ มลู ท่ีไดแ้ จกแจงควำมถ่ีในตำรำงแจกแจงควำมถ่ีมำแสดงเป็ฯภำพซง่ึ ประกอบกอบดว้ ยแทง่ สี่เหล่ยี มผืนผำ้ • 2.4โพลิกอน • โพลิกอนหรอื ควำมถ่ีโพลิกอน เป็นกำรนำเสนอขอ้ มลู ใหเ้ ห็นหรอื เดน่ ชดั มำกย่ิงขนึ้ ซง่ึ แสดงผลโดยลำกเสน้ ตรงเช่ือมตอ่ ระหวำ่ งคำ่ ก่ึงกลำงชนั้ ของฮีสโตแกรม • 2.5 กำรแจกแจงควำมถ่ีสมั พนั ธ์ • จำกตำรำงแจกแจงควำมถ่ี จะไดค้ วำมถ่ีสมั พนั ธข์ องชนั้ ใดชนั้ หน่งึ หมำยถงึ ควำมถ่ีของชนั้ น่นั หำรดว้ ยควำมถ่ีทงั้ หมด • 2.6 กำรแจกแจงควำมถ่ีสะสม • เป็นกำรนำเสนอขอ้ มลู อกี แบบหน่งึ ซง่ึ แวดงใหท้ รำบถงึ ควำมถ่ีท่ีเกิดขนึ้ เม่ือคำ่ ของขอ้ มลู นอ้ ยกวำ่ ขอบเขตจำกดั บนของแตล่ ะชัน้

แบบทดสอบ บทท่ี2 • 1.ในตารางแจกแจงความถ่ี ช่วงกวา้ งของแต่ละช้นั เรียกวา่ อะไร ก. ขีดจากดั ช้นั ข. ขีดจากดั ล่าง ค. ขีดจากดั บน ง.ไม่มีคาตอบท่ีถูกตอ้ ง • 2.ในตารางแจกแจงความถ่ี ค่าสูงสุดของแต่ละช้นั เรียกวา่ อะไร ก. ขดั จากดั ช้นั ข. ขดั จากกั ล่าง ค. ขีดจากดั บน ง.ไม่มีคาตอบที่ถูกตอ้ ง • 3ในตารางแจกแจงความถ่ี ค่าต่าสุดของแต่ละช้นั เรียกวา่ อะไร ก. ขีดจากดั ช้นั ข. ขีดจากดั ล่าง ค. ขีดจากดั บน ง. ไม่มีคาตอบท่ีถูกตอ้ ง • 4.จากขอ้ มูลท่ีกาหนดให5้ 0 46 30 17 45 จงหาวา่ ค่าพสิ ยั ของขอ้ มูลเท่ากบั ขอ้ ใด ก. 17 ข. 50 ค. 38 ง. 33 • 5.ขอ้ มูลชุดน้ีมี 20 จานวนดนั น้ี50 46 30 15 45 29 20 19 18 40 49 48 47 31 33 35 37 24 22 25 ถา้ ตอ้ งการสร้างตารางแจกแจงความถี่ขนาด5ช้นั แลว้ ความกวา้ งของช้นั หรือ อนั ตราภาคช้นั เท่ากบั เท่าไหร่ ก. 5 ข. 8 ค. 10 ง. 12

• 6.จากโจทยข์ อ้ 5 ช่วงของช้นั ที่1 คืออะไร ก. 15-22 ข. 15-20 ค. 15-24 ง. 15-26 • 7.จากโจทยข์ อ้ 5 ความถ่ีของขอ้ มูลในช้นั ท่ี1คืออะไร ก. 2 ข. 5 ค. 4 ง. 5 • 8.ในฮสั โตแกรมท่ีมีความกวา้ งของแต่ละช้นั เท่ากนั ความสูบของแท่งส่ีเหล่ียมหมายถึงอะไร ก .ความถี่ของแต่ละช้นั ข. ความถ่ีสะสม ค. ความถี่สมั พทั ์ ง. ถูกทุกขอ้ • 9.ในตะรางแจกแจงความถี่ ผลรวมของความถี่สมั พทั ท์ ้งั หมดมีคา่ เท่าไหร่ ก. 100 ข. 10 ค. 1 ง. 0 • 10จากตารางแจกแจงความถี่ท่ีกาหนดใหค้ วามถ่ีสะสมในช้นั ท่ี3 มีค่าเท่าไหร่ ก. 25 ข. 6 ค. 11 ง. 16

บที่3 การวดั แนวโนม้ เขา้ สู่ส่วนกลาง • บทนำ • ขอ้ มลู ท่ีทำกำรเก็บรวบรวมโดยวธิ ีใดวิธีหนง่ึ เป็นขอ้ มลู ท่ียงั ไมม่ ีกำรนำเสนอมำจดั เป็นหมวดหมหุ่ รอื ทำกำรวเิ ครำะห์ เรยี กวำ่ ขอ้ มลุ ดบิ หรอื คะแนนดิบ • 3.1 กำรวดั แนวโนม้ เขำ้ สสู่ ว่ นกลำง • กำรวดั แนวโนม้ เขำ้ สสู่ ว่ นกลำงเป็นกำรคำนวลหำคำ่ เฉลยี่ หรอื คำ่ กลำงของขอ้ มลู โดยปกตจิ ะใชม้ ชั ฌมิ เลขคณิต มธั ยฐำน และฐำนนิยม • 3.2มชั ฌมิ เลขคณิต • มชั ฌิมเลขคณิตหรอื บำงครงั้ เรยี กวำ่ คำ่ เฉล่ยี หรอื ตวั กลำง หรอื สว่ นเฉลี่ยเลขเลขำคณิต เป็นกำรจดั แนวโนม้ เขำ้ สสู่ ว่ นกลำงท่ีใชก้ ันมำกท่ีสดุ • 3.3 มธั ยฐำน • มธั ยฐำน หมำยถงึ คำ่ ท่อี ยใู่ นต่ำแหน่งก่งึ กลำงของขอ้ มลู ชดุ นนั้ เม่อื ไดจ้ ดั เรยี งคำ่ ของขอ้ มลู จำกนอ้ ยท่ีสดุ ไปมำกท่ีสดุ • 3.4 ฐำนนิยม • ฐำนนิยม หมำยถงึ คำ่ ของคะแนนท่ซี ำ้ กนั มำกท่ีสดุ หรอื คำ่ คะแนนท่มี ีควำมถ่ีสงู สดุ ในขอ้ มลู ชดุ นนั้

แบบทดสอบ บทที่3 • 1.ขอ้ ใด ไม่ใช่ วธิ ีการวดั แนวโนม้ เขา้ สู่ส่วนกลาง ก. ตารางแจกแจงความถี่ ข. มชั ฌิมเลขคณิต ค. มธั ยฐาน ง. ฐานนิยม • 2.คะแนนสอบของนกั ศึกษาคนหน่ีง จานวน6คร้ัง 84 91 72 68 87 และ78 จงหาวา่ คา่ มชั ฌิมเลขคณิตของขอ้ มูลชุดน้ี คือขอ้ ใด ก. 68 ข. 80 ค. 81 ง. 91 • 3.คะแนนสอบนกั ศึกษาคนหน่ึงจานวน 6 คร้ัง คือ 84 91 72 68 87 และ78 จงหาวา่ คา่ มธั ยฐานของขอ้ มูลชุดน้ีคือขอ้ ใด ก. 68 ข. 80 ค. 91 ง. 81 • 4.ขอ้ มูลชุดหน่ึงประกอบดว้ ย 10 11 9 7 10 15 9 4 7 10 9 6 และ5 จงหาวา่ ค่ามชั ฌิมเลขคณิตของขอ้ มูลชุดน้ีคือขอ้ ใด ก. 10.2 ข. 8.6 ค. 8.4 ง. 7.7 • 5.ขอ้ มูลชุดหน่ึงประกอบดว้ ย 10 11 9 7 10 15 9 4 7 10 9 6 และ5 จงหาวา่ ค่าฐานนิยมของขอ้ มูลชุดน้ี คือ ขอ้ ก. 9 ข. 10 ค. 7 ค. 9-10

• 6.ขอ้ มูลชุดหน่ึงมี 100 จานวน มีคา่ เป็น 4 อยู่ 20 จานวนมีค่าเป็น5อย4ู่ 0จานวน มีคา่ เป็น6 อย3ู่ 0 จานวน และมีคา่ เป็น7อยู่ 10จานวน จงหาวา่ ค่ามชั ฌิมเลขคณิตของ ขอ้ มูลชุดน้ี คือ ขอ้ ใด ก. 5.0 ข. 5.3 ค. 6.0 ง. 6.3 • 7.นกั ศึกษา 4 กลุ่ม ประกอบดว้ ยคนจานวน 15 20 10 และ 18 คน คิดคา่ น้าหนกั เฉลี่ยของแต่ละกลุ่มเป็น 74 67 76 และ63 กก. ตามลาดบั จงหาวา่ น้าหนกั เฉลี่ยของ นกั ศึกษาท้งั หมดคือขอ้ ใด ก. 76 ข. 70 ค. 68 ง. 65 • 8.ขอ้ มูลชุดน้ีหน่ึงประกอบดว้ ย 86 89 92 83 84 81 87 82 86 จงหาค่ามชั ฌิมเลขคณิตของขอ้ มูลชุดน้ีคือขอ้ ใด ก. 85.56 ข. 85.89 ค. 58.56 ง. 85.89 • 9.ขอ้ มูลชุดหน่ึงประกอบด้วั ย 86 89 92 83 84 81 87 82 86 จงหาวา่ ต่ามธั ยฐานของขอ้ มูลชุดน้ี คือขอ้ ใด ก. 68 ข. 86 ค. 58 ง. 85 • 10.ขอ้ มูลชุดหน่ึงประกอบดว้ ย 85 89 92 83 84 81 87 82 86 จงหาวา่ ค่าฐานนิยมของขอ้ มูลชุดน้ี คือ ขอ้ ใด ก. 68 ข.86 ค. 58 ง.85

บท่ี4 เปอร์เซ็นไทล์ เดไซลค์ วอร์ไทล์ • บทนำ • เปอรเ์ ซน็ ไทล์ เดไซลค์ วอรไ์ ทล์ เป็นกำรวดั ตำแหน่งของขอ้ มลู ชดุ ๆหน่งึ เม่อื แบง่ คะแนนหรอื ขอ้ มลู คะแนนหรอื ขอ้ มลู ทงั้ หมดออกเป็น 100 สว่ น 10 สว่ นและ 4 สว่ น ตำมลำดบั เพอ่ ใชใ้ นกำรเปรยี บเทียบขอ้ มลู • 4.1 เปอรเ์ ซ็ฯตไ์ ทล์ • เปอรเ์ ซน็ ตไ์ ทล์ หมำยถงึ ตำแหน่งท่ีแสดงใหท้ รำบวำ่ มีจำนวนรอ้ ยละเทำ่ ไรของจำนวนต่ำแหนง่ นนั้ • 4.2 เดไซล์ • เดไซล์ หมำยถงึ ตำแหน่งท่ีแสดงใหท้ รำบวำ่ มีจำนวนขอ้ มลู เทำ่ ไรใน 10 สว่ นของจำนวนขอ้ มลู ทงั้ หมด • 4.3 ควอรไ์ ทล์ • ควอรไ์ ทล์ หมำยถงึ ตำแหนง่ ที่แสดงใหท้ รำบวำ่ มีจำนวนขอ้ มลู เทำ่ ไรใน 4 สว่ นของจำนวนชอ้ มลู ทงั้ หมดท่ีมีคำ่ ต่ำกวำ่ ขอ้ มลู ท่ีต่ำแหน่งนนั้

แบบทดสอบ บทท่ี4 • 1.การวดั ตาแหน่งของขอ้ มูลชุดหน่ึงๆ เม่ือแบ่งคะแนนหรือขอ้ มูลท้งั หมดออกเป็น 100ส่วน เรียกวา่ อะไร ก. เปอร์เซ็นตไ์ ทล์ ข. ควอร์ไทล์ ค. เตไซล์ ง. ไม่มีคาตอบที่ถูกตอ้ ง • 2.การวดั ตาแหน่งของขอ้ มูลชุดหน่ึงๆ มื่อแบ่ฃคะแนนหรือขอ้ มูลท้งั หมดออกเป็น10ส่วน เรียกวา่ อะไร ก. เปอร์เซ็นต์ ข. ควอร์ไทล์ ค. เตไซล์ ง.ไม่มีคาตอบที่ถูกตอ้ ง • 3.การวดั ตาแหน่งของขอ้ มูลชุดหน่ึงๆ เมื่อแบ่งคะแนนหรือขอ้ มูลท้งั หมดออกเป็น4ส่วน เรียกวา่ อะไร ก. เปอร์เซน้ ตไ์ ทล์ ข. ควอร์ไทล์ ค.เตไซล์ ง. ไม่มีคาตอบที่ถูกตอ้ ง • 4.จากขอ้ มูลต่อไปน้ี 86 89 92 83 84 81 87 82 86 จงหาค่าเปอร์เซ็นตไ์ ทลท์ ่ี90 ก. 86 ข. 87 ค. 89 ง. 92 • 5.จากขอ้ มูลต่อไปน้ี 86 89 92 83 84 81 87 82 86 จงหาคา่ ไตไทลท์ ่ี7 ก. 86 ข. 87 ค. 89 ง. 92

• 6.จำกขอ้ มลู ตอ่ ไปนี้ 86 89 92 83 84 81 87 82 86 จงหำคำ่ ควอรไ์ ทล์ ท่ี3 ก. 86 ข. 87 ค. 89 ง. 92 • 7.ขอ้ มลู ชดุ หน่งึ มี 20 จำนวน ถำ้ ขอ้ มลู ท่ีอยู่ ในตำแหนง่ เปอรเ์ ซน็ ตไ์ ทลท์ ่ี80 มีคำ่ เทำ่ กบั 45 ดงั นนั้ ขอ้ มลู ท่ีมีคำ่ นอ้ ยกวำ่ 45 มีก่ีจำนวน ก. 20 ข. 16 ค. 4 ง.2 • 8.ขอ้ มลู ชดุ หน่งึ มี 20 จำนวน ถำ้ ขอ้ มลู ท่ีอยใู่ นตำแหน่ง เปอรเ์ ซน็ ตไ์ ทลท์ ่ี 80 มีคำ่ เทำ่ กบั 45 ดงั นนั้ ขอ้ มลู ท่ีมีคำ่ มำกกวำ่ หรอื เทำ่ กบั 45 ม่ีก่ีจำนวน ก. 20 ข.16 ค. 4 ง.2 • 9.ขอ้ มลู ชดุ หนง่ึ มี 20 จำนวน ถำ้ ขอ้ มลู ท่ี อยตู่ ำแหนง่ เจไทลท์ ่ี 6 มีคำ่ เทำ่ กบั 45 ดงั นนั้ ขอ้ มลู ท่ีมีคำ่ นอ้ ยกวำ่ 45 มีก่ีจำนวน ก. 16 ข. 14 ค.12 ง. 10 • 10.ขอ้ มลู ชดุ หนง่ึ มี 20 จำนวน ถำ้ ขอ้ มลู ท่ีอยู่ ในตำแหน่งควอรไ์ ทลท์ ่ี 2 มีคำ่ เทำ่ กบั 45 ดงั ยนนั้ ขอ้ มลู ท่ีมีคำ่ นอ้ ยกวำ่ 45 มีก่ีจำนวน ก. 16 ข. 14 ค. 1 ง. 10

บทท่ี 5 การวดั การกระจายของขอ้ มูล • 5.1 การวดั การกระจายของขอ้ มูล การวดั การกระจายของขอ้ มูล หมายถึงการคานวณวา่ ขอ้ มูลชุดใดชุดหน่ึงกระจายออกจากกนั หรืออยหู่ ่างกนั มากนอ้ ยเพยี งใด ถา้ คะแนนของขอ้ มูลในชุดใดอยู่ ห่างกนั นอ้ ยหรือมีขาดใกลเ้ คียงกนั การวดั การกระจายของขอ้ มูล สามารถทาไดด้ งั น้ี 1. พสิ ัย 2.ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ 3.ส่วนเบ่ียงเบนเฉล่ีย 4.ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน • 5.2 พิสยั (Range) พิสยั หมายถึงความแตกต่างระหวา่ งคะแนนสูงสุดกบั คะแนนต่าสุดในขอ้ มูลชุดหน่ึง พิสยั ใช้ ในการวดั การกระจายของขอ้ มูลไดไ้ ม่ละเอียดนกั

• 5.3 สว่ นเบบี่ งเบนควอรไ์ ทล์ (Quartile Deviation) สว่ นเบ่ียงเบนควอรไ์ ทล์ หมำยถงึ ครง่ึ หนง่ึ ของระยะจำกควอรไ์ ทลท์ ่ี 3 ถงึ ควอรไ์ ทลท์ ่ี1 • 5.4 สว่ นเบีย่ งเบนเฉลย่ี (Mean Deviation) สว่ นเบีย่ งเฉลย่ี หมำยถงึ ผลเฉลี่ยของสว่ นเบียงเบนของคะแนนในขอ้ มลู ชดุ หนง่ึ จำกมซั ฌมิ เลขคณิตของขอ้ มลู ชดุ นนั้ ซง่ึ ไดจ้ ำกกำรรวมผลตำ่ งระหวำ่ ง คะแนนแตล่ ะคะแนนกบั ตำ่ งกบั คำ่ มซั ฌิมเลขคณิตของขอ้ มลู ชดุ นนั้ • 5.5 สว่ นเบยี งเบนมำตฐำน (Standard Deviation) ในกำรวดั กำรกำระจำยโดยใชส้ ว่ นเบีย้ งเบนเฉล่ยี นนั้ มปี ัญหำในเรอ่ื งกำรใชเ้ ครอ่ื งหมำยสมั บรู ณ์ ซง่ึ ทำทำใหค้ ำ่ ท่วี ดั ลดควำมเช่ือถือไป จงึ มีกำรคิดวิธีวดั กำร กระจำยโดยยกกำลงั สองของผลตำ่ งระหวำ่ งคะแนนกบั มชั ฌมิ เลขคณิตของขอ้ มลู ชดุ นนั้

บทสรุป • การวดั การกระจายของขอ้ มูล การวดั การกระจายของขอ้ มูล หมายถึงการคานวณวา่ ขอ้ มูลชุดใดชุดหน่ึงกระจายออกจากกนั หรือ อยหู่ ่างกนั มากนอ้ ยเพยี งใด ถา้ คะแนนของขอ้ มูลในชุดใดอยู่ ห่างกนั นอ้ ยหรือมีขนาดใกลเ้ คียงกนั การวดั การกระจายของขอ้ มูล สามารถทาไดด้ งั น้ี 1. พสิ ยั 2. ส่วนเบ่ียงเบนควอร์ไทล์ 3. ส่วนเบ่ียงเบนเฉลี่ย 4. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐสน

แบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 5 • 1. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ กำรวีดกำรกระจำยของขอ้ มลู ก. พิสยั ข. มธั ยฐำน ค.สว่ นเบ่ยี งเบนเฉล่ยี ง. สว่ นเบี่บยงเบนมำตรฐำน • 2. จงหำวำ่ คำ่ พิสยั ของเลขจำนวนตป่ ไปนี้ 5 8 3 13 2 10 5 คอื ขอ้ ใด ก. 11 ข.13 ค. 5 ง. 10 • 3. จงหำวำ่ คำ่ สว่ นเบย่ี งเบนมำตรฐำนของเลขจำนวนตอ่ ไปนี้ 5 8 13 2 10 5 ตรงกบั ขอ้ ใด ก. 6.5 ข. 5.6 ค. 3.7 ง. 7.3 • 4. จงหำวำ่ คำ่ สว่ นเบย่ี งเบนมำตรฐสนของเลขจำนวนตอ่ ไปนี้ 5 8 3 13 2 10 5 เทำ่ กบั ขอ้ ใด ก. 6.5 ข. 5.6 ค. 3.7 ง. 7.3

บทที่ 6 การนาเสนอขอ้ มูล • 6.1 การนาเสนอขอ้ มูลโดยบทความ การนาเสนอขอ้ มูลโดยบทความ มีรูปแบบการนาเสนอเป็นบทความส้นั ๆ และมีขอ้ มูลตวั เลขอยดู่ ว้ ย หรือแสดงใหผ้ อู้ ่ีนมราบและเขา้ ใจ • 6.2 การนาเสนอโดยบทความก่ึงตาราง เป็นการนาเสนอขอ้ มูลโดยแยกตวั เลขออกจากขอ้ ความ หรือการนาเสนอบทความแต่ความแต่มีการคต้งั แนวตวั เลขข้ึนในบทความ เพ่อื ใหเ้ หน้ ตวั เลขชดั เจน และ การเปรียบเทียบเพือ่ ควาสะดวกในการเขา้ ใจ • 6.3 การนาเสนอโดยตาราง เป็นการนาเสนอขอ้ มูลโดยใชต้ าราง กรอกขอ้ มูลท่ีเป็นตวั เลขโดยแบ่งเป็นแถวต้งั แถวนอน เพอื่ จดั ขอ้ มูลใหเ้ ป็นระเบียบ

• 6.4 กำรนำเสนอโดยกรำฟหรอื แผนภมู ิ เม่อื ไดจ้ ดั ขอ้ มลู ท่ีจะนำเสนอแลว้ เรำอำจจะพิจำรณำในกำรนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยกรำฟหรอื แผนภมู ิซง่ึ เป็นวธี ีใชไ้ ดด้ ี • 6.5 กำรเสนอโดนแผนท่สี ถิติ เป็นแผนท่ีนำเสนอขอ้ มลู โดยอำศยั หลกั กำรทำงภมู ิศำสตร์ เพ่ือทำกำรเปรยี บเทียบขอ้ มลู ท่ีอยใู่ น พ่ืนท่ีทำงภมู ิศำสตรเ์ ป็นไปไดด้ ดยงำ่ ย

แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 6 • 1. ขอ้ ใด ไม่ใช่ การนาเสนอขอ้ มูลโยกราฟ หรือ แผนภูมิ ก. การนาเสนอขอ้ มูลโยกราฟเสน้ ข. การนาเสนอขอ้ มูลโดยแผนที่สถิติ ค. การนาเสนอขอ้ มูลโดยแผนภูมิวงกลม ง. การนาเสนอขอ้ มูลโดยแผนภูมิแท่ง • 2. ในการนาเสนอขอ้ มูลโยตาราง ส่วนที่ใช้ อธิบายตวั เลขในแนวนอน คือส่วนใด ก. หวั เร่ือง ข. ตน้ ขว่ั ค. หมายเหตุ ง. ตวั เรื่อง • 3. ในการนาเสนอขอ้ มูลโดยแผนภูมิวงกลม พ้นื ท้งั กลมท้งั หมดมีค่าเป็นกี่องศา ก. 90 ข. 100 ค. 180 ง. 360 • 4.ในการนาเสนอขอ้ มูลโดยตาราง ส่วนขอ้ มูลที่เป็นตวั เลข คือส่วนใด ก. หวั เร่ือง ข. ตน้ ขว่ั ค. หมายเหตุ ง. ตวั เริอง

บทที่ 7 การจดั เตรียมขอ้ มูลสาหรับการวเิ คราะห์ดว้ ยคอมพิวเตอร์ • 7.1 กำรเตรยี มเครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นกำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู ในกำรเก็บรวบรวมขอ้ มลู นนั้ อำจใชเ้ ครอ่ื งมือตำ่ งๆ กนั เช่น แบบทดสอบ แบบสอบถำม แบบสมั ภำษร์ หรอื แบบสงั เกต ซง่ึ กำรเตรยี มเครอ่ื งมือเพ่อื ใชใ้ นกำร เกบ้ รวบรวมขอ้ มูล มีชนั้ ตอนดงี นี้ 1. กำรสรำ้ งรหสั และกำรกำหนดช่ือตวั แปร 2.กำรจดั ทำคมู่ ือลวงรหสั 3.กำรเปลย่ี นรูปขอ้ มลู • 7.2 กำรสรำ้ งรหสั และกำรกำหนดช่ือตวั แปร ในขอ้ 1 ใชต้ วั แปรช่ือ SEX มี1 ช่อง เพรำะใชเ้ พียงเลข 1 แทนเพศชำย และเลข 2 แทนเพศหญิงเทำ่ นนั้ ในขอ้ 2 ใชต้ วั แปรช่ือAGE มี 2 ช่อง เพรำะอำยขุ องกลมุ่ ตวั อย่ำงใชเ้ พยี ง 2 หลกั เทำ่ นนั้

• 7.3 การจดั ทาคูม่ ือลงรหสั จานวนหลกั เป็นการกาหนดความกวา้ งของแปร กรณีท่ีเป็นตวั แปรเชิงปริมาณ เช่น ตน้ ทุน ตวั แปรมี จุดทศนิยม ดงั น้นั จึงตอ้ งกาหนดหลกั หลงั ทศนิยมดว้ ย ค่าท่ีเป็นไปได้ หมายถึงส่วนท่ีระบุค่าที่เป็นไปไดข้ องตวั แปร เช่น ตวั แปร SEX มีคา่ 1 หมายถึงเพศชายและค่า 2 หมายถึงเพศหญิง • 7.4 การตรวจสอบความถูกตอ้ งขิงขอ้ มูล หลงั จากการรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ปญฐมภูมิแลว้ ข้นั ตอนต่อไปน้ีคือ การตรวจสอบขอ้ มูลเพือ่ หาความผดิ ปกติของขอ้ มูลบางตวั ก่อนทาการวเิ คาระห์ขอ้ มูล กระบวนการน้ีอาจตอ้ งอาศยั บุคคลและ เคร่ืองมืออิเลก็ นิกส์เขา้ ดว้ ยกนั เพอื่ ลดความผดิ พลาด

แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 7 1. การจดั ทาคู่มือลงรหสั ส่วนของรายการ หมายถึง_______________________________________________________________ 2. การจดั ทาคูม่ ือลงรหสั ค่าท่ีเป็นไปได้ หมายถึง________________________________________________________________ 3. Field edit หมายถึง_____________________________________________________________________________________ 4. Gentral office edit หมายถึง______________________________________________________________________________ 5. ส่ิงท่ีตอ้ งคานึงถึงในการบนั ทึกขอ้ มูลหรือการสร้างไฟลข์ อ้ มูล คือ_________________________________________________ 6. ไฟลข์ อ้ มูลแบบเทก็ ซ์ หมายถึง____________________________________________________________________________ 7. ไฟลข์ อ้ มูลเฉพาะโปรแกรม หมายถึง_______________________________________________________________________ 8. ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีใชใ้ นการสร้างไฟลข์ อ้ มูลเฉพาะโปรแกรม ไดแ้ ก่______________________________________________ 9. ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีใชใ้ นการสร้างไฟลข์ อ้ มูลประเภทโปรแกรมสาหรับจดั การฐานขอ้ มูล (Data-base Management) ไดแ้ ก่_________________________________________________________________________________________________ 10. สิ่งท่ีตอ้ งคานึงถึงในการเลือกใชโ้ ปรแกรมสร้างไฟลข์ อ้ มูล คือ__________________________________________________

1. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ข้นั ตอนการจดั เตรียมเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ก. การสร้างรหสั ข. การสร้างไฟลข์ อ้ มูล ค. การกาหนดชื่อตวั แปร ง. การจดั ทาคู่มือลงรหสั 2. การตรวจสอบในขณะเวลาเดียวกนั กบั การดาเนินการสอบถามกลุ่มตวั อยา่ งเรียกวา่ อะไร ก. Field edit ข. Data edit ค. Central office edit ง. File edit 3. ขอ้ ใด ไม่ใช่ วตั ถุประสงคข์ องการตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มูล ก. ความถูกตอ้ ง ข. ความสมบูรณ์ ค.ความสอดคลอ้ งกนั ง.ความสวยงาม 4.ขอ้ ใดไม่ใช่โปรแกรมสาเร็จรูปท่ีใชส้ ร้างไฟลข์ อ้ มูล ก.โปรแกรมสาเร็จรูป ข.โปรแกรมสาเร็จรูปหรือการคานวณ ค.โปรแกรมที่เขียนข้ึนเอง ง.โปรแกรมสาหรับงานพิมพ์ 5.ขอ้ ใดเป็นโปรแกรมสาเร็จรูปที่ใชส้ ร้างไฟลข์ อ้ มูลที่ผใู้ ชต้ อ้ งมีความรู้ทางคอมพวิ เตอร์ ก.โปรแกรมสาหรับงานพมิ พ์ ข.โปรแกรมสาหรับคานวณ ค.โปรแกรมท่ีเขียนข้ึนเอง ง.โปรแกรมสาหรับงานพมิ พ์ 6.ขอ้ ใดไม่ใช่ส่ิงที่ตอ้ งคานึงถึงในการบนั ทึกขอ้ มูล ก.ประเภทของไฟล์ ข.ประเภทของโปรแกรมที่ใชส้ ร้าง ค.การเลือกใชโ้ ปรแกรมสร้างไฟลข์ อ้ มูล ง.วธิ ีการวเิ คราะห์ 7.การกาหนดความกวา้ งของตวั แปร กรณีท่ีเป็นจานวนเตม็ ก.8 ข.7 ค.3 ง.2 8.การกาหนดความกวา้ งของตวั แปร กรณีท่ีเป็นตวั แป็นเชิงปริมาณ เช่น 10.2 หมายถึงขอ้ มูลหนา้ จุดทศนิยม ก.8 ข.7 ค.3 ง.2

บทที่ 8 โปรแกรมสาเร็จรูปที่ใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล • 8.1 กำรเลอื กโปรแกรมสำเรจ็ รูปท่ีใชใ้ นกำรวิเครำะหข์ อ้ มลู กำรเลอื กโปรแกรมสำเรจ็ รูปท่ีใชใ้ นกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ท่ีเหมำะสมเป็นสิ่งจำเป็นและสำคญั ทงั้ นีเ้ น่ืองจำกโปรแกรมแตล่ ะประเภทก็มีควำมเหมำะสมกบั งำนท่ี แตกตำ่ งกนั มคี วำมยำกงำ่ ยในกำรใชโ้ ปรแกรมตำ่ งกนั • 8.2 ชนั้ ตอนกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ทำงสถิตดิ ว้ ยโปรแกรมสำเรจ็ รูป กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ทำงสถิติดว้ ยโปรแกรมสำเรจ็ รูป มี 4 ชนั้ ตอน 1. เลือกแฟม้ ขอ้ มลู กรณียงั ไมม่ ีแฟม้ ขอ้ มลู จะตอ้ งสรำ้ งแฟม้ ขอ้ มลู 2.เลือกวธิ ีกำรเครำะหข์ อ้ มลู 3.เลือกตวั แปรท่ีจะใชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ 4. ตรวจสอบผลลพั ธท์ ่ไี ดจ้ ำกกำรวเิ ครำะห์

• 8.3 ควำมสำมำรถของโปรแกรมสำเรจ็ ทำงสถิติท่วั ๆไป โปรแกรมสำเรจ็ รูปทำงสถิติท่วั ๆไปท่ีมีใชง้ ำนในปัจจบุ นั มีควำมสำมำรถดงั นี้ 1. กำรจดั กำรกบั ขอ้ มลู และไฟลข์ อ้ มลู 2. กำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวิธีกำรทำงสถิติ • 8.4 โปรแกรมกระดำษทำกำร โปรแกรมกระดำษทำกำร เป็นโปรแกรมท่ใี ชส้ ำหรบั งำนคำนวณท่ีมีกำรเช่ือมโยงขอ้ มลู กนั โดนเฉพำะ และบำงบรษิ ัทผสู้ รำ้ งโปรแกรมไดเ้ พ่ิมควำมสำมำรถใน กำรวิเครำะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวธิ ีกำรทำงสถิติ ทำใหส้ ำมำรถนำมำช่วยวิเครำะหข์ อ้ มลู เพ่ือทำงำนวิจยั ได้

แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี8 • 1.ขอ้ ใดเป็นขอ้ ดีของการวิเคาะห์ขอ้ มูลทางดา้ นสถิติดว้ ยคอมพิวเตอร์ ก.ความเร็ว ข.ความถูกตอ้ งสูงสุด ค.สามารถแกไ้ ขขอ้ มูลไดง้ ่าย ง.ถกู ทุกขอ้ • 2.ขอ้ ใด ไม่ใช่ โปรแกรมสาเร็จรูปท่ีใชใ้ นการวเิ คาะร์ขอ้ มูล ก.โปรแกรมSpss ข.โปรแกรมAccess ค.โปรแกรม stata quest ง.โปรแกรม Sas • 3.ขอ้ ใดไม่ใช่ขอ้ ดีของการโปรแกรมสาเร็จรูปท่ีใชใ้ นการวเิ คาะร์ ก.โปรแกรมท่ีใชก้ บั เคร่ืองคอม ข.ใชไ้ ดก้ บั คอมพวิ เตอร์ ค.ใชไ้ ดก้ บั งานระบบปฎิบตั ิการ ง.ใชง้ านง่าย • 4.ขอ้ ใดไม่ใช่ข้นั ตอนในการวเิ คราะห์ขอ้ มูลทางสถิติดว้ ยโปรแกรมสาเร็จรูป ก.เลือกแฟ้มขอ้ มูล ข.เลือกวธิ ีการวเิ คาระห์ขอ้ มูล ค.สร้างแบบสอบถาม ง.เลือกตวั แปรท่ีจะใชว้ เิ คาระห์ขอ้ มูล • 5.ขอ้ ใดไม่ใช่ความสามารถในโปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติในดา้ นการจดั การเกบ็ ขอ้ มูลและใฟลข์ อ้ มูล ก.รับขอ้ มูลไปทาการวิเคาระห์ไดโ้ ดยตรง ข.การทดสอบสมมุติฐาน ค.รับขอ้ มูลท่ีสร้างขึนมาจากโปรแกรมอื่นๆ ง.การคดั เลือกขอ้ มูล

• 6.ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ วำมสำมำรถของโปรแกรมสำเรจ็ รูปทำงสถิติในดำ้ นกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวิธีทำงสถิติ ก.กำรแจกแจงทำงสถิติ ข.กำรคำนวณคำ่ สถิตเิ บือ้ งตน้ ค.กำรประมำณคำ่ เฉล่ยี รอ้ ยละ ง.กำรเปลย่ี นรูปขอ้ มลู ง.กำรหำควำมสมั พนั ของขอ้ มลู • 7.ขอ้ ใดไม่ใช่ควำมสำมำรถในกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวิธีกำรทำงสถิตโิ ปรแกรม ง.ไมม่ ีคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง ง.ไม่มีคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง ก.กำรแจกแจงทำงสถิติ ข.กำรคำนวณคำ่ สถิติเบือ้ งตน้ ค.กำรประมำณคำ่ เฉล่ยี รอ้ ยละ ง.ไม่มีคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง • 8.กำรตดิ ตงั้ ชดุ คำส่งั สำหรบั กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู สถิตโิ ปรแกรม ก.เมณเู ครอ่ื งมือ ข.เมณรู ูปแบบ ค.เมณมู มุ มอง • 9.กำรวเิ ครำหข์ อ้ มลู ทำงสถิติดว้ ยโปรแกรม ไมโคซอฟเอก็ เซลลใ์ ชค้ ำส่งั ใด ก.เมณเู ครอ่ื งมือ ข.เมณรู ูปแบบ ค.เมณมู มุ มอง • 10.หนำ้ ท่ีหลกั ของโปรแกรมกระดำษคืออะไร ก.วเิ ครำะหข์ อ้ มลู ทำงดำ้ นสถิติ ข.นำเสนอในรูปแบบตำ่ งๆ ค.งำนคำนวณท่ีมีกำรเช่ือมโยงขอ้ มลู

บทที่ 9 โปรแกรม SPSS FOR WINDOWS กำรใชโ้ ปรแกรม SPSS เบือ้ งตน้ คลกิ เมำสท์ ่ีป่มุ StartProgramSPSS for Windows SPSS 12.0 For Windows ประเภทของ Windows—ของโปรแกรม SPSS - SPSS data editor - SPSS data view - Output- SPSS viewer - Draft Menus Windows -chart editor

เมนขู องโปรแกรม SPSS กำรทำงำนของโปรแกรม SPSS เรม่ิ ตน้ ดว้ ยกำรเลอื กโดยแตล่ ะหนำ้ จอมี Menu Bar ซง่ึ ประกอบดว้ ยคำส่งั ใหเ้ ลอื กใชง้ ำน แตล่ ะคำส่งั คอื Aanlyst และ Graphsท่ีอยใู นทกุ ๆหนำ้ จอเพ่อื ควำมสะดวกในกำรวิเคำระหข์ อ้ มลู สำหรบั เมนคู ำส่งั ในแตล่ ะหนำ้ จอ ชนิดของทำงเลอื กตำ่ งๆ ของคำส่งั ใน SPSS 1 ประเภทท่ีผใู้ ชจ้ ำเป็นตอ้ งเลือก ซง่ึ จะเลอื กไดเ้ พียงทำงเลอื กเดยี วจำกหลำยๆ ทำงเลือกโดยมโี ปรแกรม SPSS จะใชเ้ ครอ่ื งหมำยวงกลม ท่ีหนำ้ เลือก 2 ประเภทท่ีผใู้ ชไ้ มจ่ ำเป็นตอ้ งเลอื ก หมำยถึงจะเลอื กหรอื ไมเ่ ลอื กก็ได้ ถำ้ เลอื กจะเลือกก่ีทำงเลอื กก็ได้ จะใชเ้ ครอ่ื งหมำยวงกลม

แบบทดสอบ บทท่ี9 • 1เม่ือเปิดโปรแกรม spss คร่งั แรก แลเ้ ป็นกำรสรำ้ งไฟลข์ อ้ มลู ไหม่ spss มีช่ือวำ่ อะไร ก.untitled spss data editot ข.file name spss data ค.default spss data ง.name1 spss data • 2.ส่งั data ในหนำ้ จอ data Editor Menu ทำหนำ้ ท่อี ะไร ก สรำ้ งไฟลข์ อ้ มลู ข.เปล่ยี นแปลงไฟลข์ อ้ มลู ค.ปอ้ นขอ้ มลู ใหมล่ งในไฟลข์ อ้ มลู ง.แกใ้ ขขอ้ มลู ในไฟลข์ อ้ มลู • 3.คำส่งั ฟรอรเ์ ม็ท ในหนำ้ จอ output spss viewer ทำหนำ้ ท่ีอะไร ก.เพ่ิมเทเบลิ้ ข.เปลย่ี นแปลง Chart ค.เปล่ยี นแปลง graph ง.เปล่ยี นแปลง alignment • 4 คำส่งั pivot ในหนำ้ จอ pivot ทำหนำ้ ท่ีอะไร ก แสดงผลลพั ธ์ Row ใดRow หนง่ึ ข.แสดงผลลพั columm หน่งึ ค.สลบั ท่ีผลลพั ระหวำ่ ง row และ column ง.ถกู ทกุ ขอ้ • 5.คำส่งั script หนำ้ จอ script ข.สรำ้ งfunction ค.เปล่ยี น ฟอนร์ ของ สลีปป่ิน ง.ถกู ทกุ ขอ้

6.ขอ้ ใดเป็น วนิ โดว ของโปรแกรม spss ก.spss data Edaitor ข.Output ค.Chart ง.ถูกทุกชอ้ 7.คาสงั่ format ในหนา้ จอ chart editor ทาหนา้ ท่ีอะไร ก..ใชเ้ ลือกสี แบบของตวั อกั ษร ข.เปลี่ยนชนิด chart ค.เลือก data series และ categories เพื่อนามาแสดง ง.ถูกทุขอ้ 8.คาสงั่ โปรแกรม spss ทาหนา้ ท่ีอะไร ก.ช่วยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถใจถึงการใช้ข.อธิบายเทคนิคทางสถิติตามผใู้ ช้ ค.ถูกท้งั ขอ้ มูล ก.และขอ้ ข. ง.ไม่มีคาตอบท่ีถูกตอ้ งการ 9.หนา้ จอของโปรแกรม spss ที่ใชใ้ นการ สร้างตวั แปร ก.spss ข.data ค.output spss ง.draft viewer window 10.หนา้ จอของโปรแกรม spss ท่ีใชใ้ นการป้อนขอ้ มูล คืออะไร ก spss data editor data view ข.spss data editor variable view ค.output spss viewer ง.draft viewer window

10 การสร้างไฟลข์ อ้ มูลจากแบบสอบถาม • ไฟลข์ อ้ มูลท่ีใชใ้ นโปรแกรม SPSS สามารถสร้างไดห้ ลายรูปแบบ โดยอาจสร้างไฟลข์ อ้ มูลดว้ ยโปรแกรม SPSS ได้ ซ่ึง โปรแกรม SPSS สามารถอ่านไฟลข์ อ้ มูลที่สร้างดว้ ยโปรแกรมอ่ืนๆ ไดโ้ ดยใชค้ าสงั่ FileOpen Datadase New Query

• ขนั้ ตอนกำรสรำ้ งไฟลข์ อ้ มลู กำรสรำ้ งไฟลข์ อ้ มลู ดว้ ยโปรแกรม SPSS แบง่ ออกเป็น 2 ขนั้ ตอน ดงั นนั้ 1 กำรสรำ้ งไฟลข์ อ้ มลู ผใู้ ชต้ อ้ งแปลงคำตอบจำกแบบสอบถำมเป็นตวั แปร โดยคั้ ำถำม 1 คำถำมในแบบสอบถำมสรำ้ งเป็นตวั แปรไดอ้ ยำ่ ง 1 ตวั แปร โดยใชห้ นำ้ จอ Data Editor แลว้ คลกิ เลือก Variadle View Tob 2 กำรปอ้ นขอ้ มลู เม่ือสรำ้ งตวั แปรทกุ ตวั ใน Variadle View แลว้ ทำกำรปอ้ นขอ้ มลู จำกตวั แปรแบบสอบถำมไดโ้ ดยกำรคลิก Variadle View Tob จะพบวำ่ ช่ือตวั แปรจะอยใู่ น แตล่ ะ Golumn

แบบฝึกหดั ทา้ ยบทท่ี 10 • 1.ขอ้ ใดไม่ใช่ การกาหนดลกั ษณะตวั แปรแกรมspss ก.name ข.label ค.format ง.missing • 2.ขอ้ ใดเป็นช่ือของตวั แปรที่ถูกตอ้ งในโปรแกรม spss ก.lexpense ข.lncome ค.code ง.lncomepermonth • 3.ขอ้ ใดเป็นชื่อของตวั แปรที่ ไม่ถูกตอ้ งในโปรแกรม ก.abc ข.and ค.a123 ง.a@salary • 4.ขอ้ ใด ไม่ใช่ ทางเลือกในการกาหนดตาแหน่งของขอ้ มูล ก.general ข.left ค.ceter ง.right • 5.ขอ้ ใด ไม่ใช่ ทางเลือกในการกาหนดสเกลของขอ้ มูล ก.scaie ข.numeric ค.orcdinai ง.nominal

• 6.ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกตอ้ ง เก่ียวกบั การป้อนขอ้ มูล ก.1บรรทดั หมายถึงแบบสอบถามหน่ึงชุด ข.1คอลมั น์ หมายถึงหน่ึงตวั แปร ค.ไฟลข์ อ้ มูล หมายถึงหน่ึงบรรทดั ง.แต่ละจะมีค่า ของตวั แปรเพียงค่า • 7.การกาหนดค่าสูญหายโดยเลือกกรณีท่ีไม่มีการพมิ ขอ้ มุล โปรแกรมจะเป็นค่าเป็นอะไร ก.จุด ข.เลข0 ค.ค่าวา่ ง ง.ไม่มีคาตอบที่ถูกตอ้ ง • 8.การป้อนขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรม ส่วนท่ีตดั กนั ของเรียกวา่ อะไร ก.file ข.cell ค.segment ง.ไม่มีคาตอบท่ีถูกตอ้ ง • 9.ขอ้ ใดกล่าว ไม่ถูกตอ้ ง เก่ียวกบั การด้งั ซื่อตวั แปร ก.ชื่อตวั แปรไม่เกิน64ตวั ข.ช่ือตวั แปรตอ้ งเริ่มตน้ ดว้ ยตวั อกั ษรเท่าน้นั ค.ช่ือตวั แปรไฟลเ์ ดียวกนั ตอ้ งไม่ซ้ากนั ง.ตวั อษั รใหญ่ หรือเลก็ • 10.ขอ้ ใด ไม่ใช่ รูปแบบของตวั แปปชนิด • ก.caa ข.ccb ค.ccd ง.cce


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook