Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ครูภูมิปัญญาไทย1

ครูภูมิปัญญาไทย1

Published by supasitti1988, 2019-11-25 23:13:23

Description: ครูภูมิปัญญาไทย1

Search

Read the Text Version

ครภู มู ิปญั ญาไทย

สมาชกิ 1.นางสาว มกุ ครนิ ทร์ สงู ชยั ภมู ิ 623861421 2.นางสาว ยภุ าพร ลนุ เพ็ง 623861422 3.นางสาว วริศรา ธรรมลี 623861423 4.นาย วีรพล แกว้ ดอนดู่ 623861424 5.นาย วุฒิไกร อาจผกั ปงั 623861425 6.พระมหา ศภุ สทิ ธ์ิ หลกั เพชร 623861426 7.ว่าท่ี ร.ต. สมชาย คิดทา 623861427 8.นาย สาธติ สทิ ธวิ งศ์ 623861428 9.นางสาว อทิตยา อู่ชนะ 623861429 10.นาง อสิ รีย์ เพชรหมนื่ ไว 623861430 นกั ศึกษา ป.บัณฑิต สาขาวิชาชพี ครู ห้อง 5/4 กล่มุ ที่ 9

ครภู มู ปิ ัญญา ครูภูมปิ ญั ญา หมายถงึ บุคคลผู้ทรงภมู ปิ ญั ญาด้านหนงึ่ ดา้ นใด เป็นผูส้ รา้ งสรรค์และสืบสานภูมิปัญญา ดังกล่าวมาอย่างต่อเน่ือง จนเป็นที่ยอมรับของสังคมและชุมชน และได้รับการยกย่องให้เป็น “ครูภูมิปัญญา ไทย” เพ่ือทาหน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษา ท้ังการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ การศึกษาตามอัธยาศัย ตามนยั พระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พุทธศกั ราช 2542

ความหมายและขอบข่ายภูมปิ ัญญาไทย ภูมิปัญญาไทย หมายถึง องค์ความรู้ ความสามารถและทักษะของคนไทยอันเกิดจากการสั่งสม ประสบการณ์ที่ผานกระบวนการเรียนรู้ เลือกสรร ปรุงแต่ง พัฒนาและถ่ายทอด สืบต่อกันมาเพ่ือใช้แก้ปัญหา และพฒั นาชีวติ ของคนไทยใหส้ มดลุ กับสภาพแวดลอ้ มและเหมาะสมกบั ยุคสมัย ภูมิปัญญาไทย มีลักษณะเป็นองค์รวม และมีคุณค่าทางวัฒนธรรม เกิดข้ึนในวิถีชีวิตไทย ซ่ึงภูมิ ปญั ญาท้องถิ่นอาจเป็นท่ีมาขององคค์ วามรู้ท่ีงอกงามขึ้นใหม่ท่ีจะช่วยในการเรียนรู้ การแก้ปัญหา การจัดการและ การปรบั ตัวในการดาเนินวถิ ีชีวติ ของคนไทย ลกั ษณะองค์รวมของภมู ิปัญญามีความเดน่ ชดั ในหลายดา้ น

9. ดา้ นโภชนาการ 8. ด้าน 7. ด้านภาษาและ ปรัชญา ศาสนา และ วรรณกรรม 1. ด้าน เกษตรกรรม ประเพณี 6. ด้าน ศลิ ปกรรม 2. ดา้ น ภูมปิ ัญญาไทย อุตสาหกรรมและ 5. ด้านกองทุน 4. ด้านการจดั การ และธุรกจิ ชุมชน หัตถกรรม ทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม 3. ด้านการแพทย์ แผนไทย

ครภู มู ิปญั ญาไทย

1. ครูรุจาภา เนียนไธสง ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ผลงาน หม่อนไหมครบวงจร นางรุจาภา เนยี นไธสง ได้รับการปลูกฝังการปลูกหมอ่ นเล้ยี งไหมตง้ั แต่ยงั เลก็ เนื่องจาก ครอบครัวยึด เป็นอาชีพ และได้รับการถ่ายทอดวิธีการและเทคนิคต่างๆ มาจากบิดา มารดา การท่ีได้อยู่ใกล้ชิดกับการปลูกหม่อนเลี้ยง ไหม ทาให้ได้ซึมซับและหลงรักการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การสาวไหม การฟอกย้อมเส้นไหม การมัดหมี่ การทอผ้าไหม รวมถึงการตลาดและการจาหน่ายผ้าไหม ทาให้มีรายได้เพียงพอกับการเลี้ยงครอบครัว ได้เรียนรู้และค้นหาเทคนิคใหม่ๆ เพื่อเพ่ิมผลผลิตและหาช่องทางการจัดจาหน่ายใหม่ๆ อย่างต่อเน่ือง รวมทั้งเป็นแกนนาในการรวมกลุ่มเกษตรกร เพื่อ ถ่ายทอดความรู้และสร้างความเข้มแข็งในการผลิต แบ่งปัน ความรู้ให้กับชุมชน โรงเรียนท่ีอยู่ใกล้เคียง และหน่วยงาน ราชการอยา่ งตอ่ เนื่อง มีความเช่ียวชาญในการปลูกหม่อนเล้ียงไหม และทอผ้าไหม จนได้ใบรับรองผลิตภัณฑ์ผ้าไหมนกยูงตรา พระราชทาน

2. ครูทองสา เจรญิ ตา ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ผลงาน ก้อมยาโบราณ ครทู องสา มีความความสามารถในการรักษาด้วยสมุนไพรในกลุ่มอาการเก่ียวกับโรคเลือด โลหิตสตรี ไต รวมทั้ง โรคฉุกเฉิน เช่น ภูมิแพ้ อาหารเป็นพิษ สัตว์พิษกัด ผ่ืนแพ้ รวมทั้ง เรียบเรียงตารายาจากเอกสาร ใบลาน และความรู้จาก ประสบการณ์เพม่ิ เตมิ บนั ทึกเปน็ หนงั สอื เผยแพรเ่ ปน็ วทิ ยาทาน เพอื่ ถ่ายทอดตารายา ประสบการณก์ ารรกั ษา การเขา้ ปา่ ศึกษาสมุนไพร เครื่องยารักษาโรคจากธรรมชาติในป่าชุมชนใกล้เคียง ตารายาสมุนไพรบารุงร่างกาย และรักษาสุขภาพ มารดาหลังคลอด ตาราโรคหล่อย (อัมพฤกษ์-อัมพาต) โดยมีผลงานที่เป็นประโยชน์ “การดูแลสุขภาพด้วยยาสมุนไพร พ้นื บา้ น” จัดทาร่วมกบั องคก์ ารบริหารส่วนตาบลผานา้ ย้อย อาเภอหนองพอก จังหวดั รอ้ ยเอ็ด ศกึ ษาเรียนร้ดู ้วยตนเอง ตอ่ ยอดนวัตกรรมโดยการออกแบบและสรา้ งเครอ่ื งอบสมนุ ไพรเอง ท้งั เสยี สละอทุ ศิ พนื้ ที่ ในบา้ นตนเองเป็นแหล่งเรียนรสู้ มนุ ไพร

3. ครูเอียะ สายกระสนุ ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ผลงาน สมุนไพรถอนพิษ ครูเอียะ สายกระสุน เป็นผู้มีความรู้ความเช่ียวชาญด้านสมุนไพรถอนพิษจากสัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ ตะขาบ แมง ป่อง แมงมุม ต่อ แตน ปลาดุกปัก เป็นต้นมีความเช่ยี วชาญในการดูแผลงูกัดแล้วสามารถจาแนกอาการและบอกได้ว่าเป็น สัตว์ประเภทใด ใหก้ ารรกั ษาดว้ ยสมุนไพรหาไดท้ ัว่ เขาพนมดงรัก ชอื่ โลดทะนงแดง หรอื พระเจา้ ปลกู หลง เชี่ยวชาญการรักษาอาการป่วยจากสัตว์มีพิษ โดยเฉพาะงู ซึ่งได้ผลดีจนกระท่ังโรงพยาบาลกาบเชงิ ได้นาไปต่อ ยอดเปน็ ยาผงเพ่อื ผลักดนั เข้าสูบ่ ัญชยี าหลกั แห่งชาติ

4. ครูธนวัฒน์ ราชวงั ดา้ นศิลปกรรม ผลงาน ศลิ ปะการตกี ลองพนื้ เมืองล้านนา ครูธนวัฒน์ ผู้เชยี่ วชาญศิลปะการตีกลองพื้นเมืองล้านนา โดยเฉพาะกลองสะบัดชัย มีภูมิรู้ในกระบวนการสร้าง แนวคิดกระบวนการผลติ ผลงาน เปน็ ทป่ี ระจักษก์ บั แก่สายตาสาธารณชน เป็นผู้ปรับเปลี่ยนการตีกลองจากเดิมทม่ี ีแต่เพียง ความดดุ ันและหนักแนน่ ให้มเี สยี งลกึ เสียงทุ้มฟงั แล้วกงั วานมากข้ึน ซ่งึ องคค์ วามรู้เชน่ นี้ ผู้ตีกลองต้องมีความชานาญ และ ฟังเพลงกลองเข้าใจ จึงจะสามารถปฏิบัติได้อยา่ งแนบเนียน รวมทั้ง ได้เรียนรู้การตีกลองมองเซิง กลองบูชา กลองต้ิงโนง จากนายชาย ชัยชนะ ศลิ ปนิ เพชรราชภัฏนอกจากกลวิธีการตีกลองแล้ว ครูธนวัฒน์ ได้คิดวิธีการนาเสนอการแสดงรูปแบบ ใหม่ และถ่ายทอดให้ลูกศิษย์นาไปปรับใช้ตลอดเวลา โดยมิได้หวงความรู้ เช่น ลดขนาดฉาบจากเดิม ๑๐ นิ้ว เป็น ๘ น้ิว เพอ่ื เพม่ิ ความคลอ่ งตวั แล้วเปลย่ี นการเลน่ ฉาบลอ่ จากการตปี ระกอบจงั หวะ มาเปน็ การตเี พอ่ื เพม่ิ ความเรา้ ใจ โลดโผน และ สนุกสนาน โดยมีออกแบบลีลาให้มลี กั ษณะเหมือนการตอ่ สู้ระหว่างกนั โดยยังยดึ ถอื ขนบเดมิ เป็นรากฐานในการแสดง

5. ครูวิเชียร ผลเจริญ ดา้ นกองทุนและธรุ กจิ ชมุ ชน ผลงาน กลมุ่ ออมทรัพยเ์ พอ่ื การผลิต ครูวิเชียร ผลเจริญ มีความเชี่ยวชาญ ด้านกิจกรรมกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการ ผลิต เป็นแกนนารวมกลุ่มสมาชิก จัดตั้งกลุ่มออมทรัพยเ์ พื่อการผลิตบ้านสะโน หมู่ที่ ๕ ตาบลหนองบัว อาเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ จนได้รับการยกระดับ กลุ่ม ออมทรัพย์เพื่อการผลิตเป็นสถาบันการจัดการเงินทุนชุมชนบ้านสะโน ดาเนิน การฝาก-ถอนเงินทุกสัปดาห์ ๆ ละ ๑ วนั โดยดาเนินการอยา่ งต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน กิจกรรมการออมทรัพยเ์ พื่อการผลิตเป็นกิจกรรมการออม ท่ีสมาชกิ ทุกคน เป็นเจ้าของกิจการ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนซึ่งจะทาให้มีการพบปะกัน มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ มีการออมทรัพย์เพื่อนาเงินออมดังกล่าวไปช่วยเหลือสมาชิกที่มีความจาเป็นในการประกอบอาชีพ และนาเงิน ดังกลา่ วไปลงทนุ หรอื ทาธรุ กจิ รว่ มกนั ในนามกลุ่มออมทรพั ย์ เป็นผู้จัดต้ังกลุม่ ออมทรพั ย์เพอ่ื การผลิต ต.หนองบวั ซึ่งสมาชิกเป็นชาวบ้านมากถงึ 4,000 คน

6. ครูลาดวน สุวรรณภคู า ดา้ นศิลปกรรม ผลงาน คีตศิลป์-ขบั ซอ ครูลาดวน มอี งคค์ วามรูท้ ั้งด้านการขบั ซอลอ่ งน่าน-ฟอ้ นแงน้ การประพนั ธบ์ ทขบั ซอประเภทตา่ งๆ ไดอ้ ย่างไพเราะ มีอัตลักษณ์ชัดเจน การปลูกฝังถ่ายทอดภูมิปัญญาเป็นระบบอย่างต่อเน่ือง มีการขับเคล่ือนแนวคิดนาภาษาท้องถิ่นซึ่งกาลังสูญหาย กลบั มาสูเ่ ยาวชนด้วยการประพันธ์แทรกไว้ในบทประพันธ์คาซอท่ีแต่งใหม่ขึ้นด้วยตนเอง และเผยแพร่ศิลปะการขับซอในสื่อประเภท ต่างๆครูลาดวนเป็นบุคคลที่ทรงความรู้ในการใช้ถ้อยคา สานวน ภาษา ภาษาไทยถ่ินเหนือ ที่คมคาย ลึกซึ้ง ไพเราะน่าฟัง หนังสือ “กาซอสะล้อบนิ วรรณศลิ ป์แผน่ ดินล้านนา” รวมบทประพันธ์ขับซอล่องน่าน ๖ ประเภท : ซอพุทธประวัติและชาดก ซอตานานและ เล่าเร่ือง ซอประเพณีและวัฒนธรรม ซอศีลธรรมและจริยธรรม ซอวันสาคัญ และซอเบ็ดเตล็ด รวม ๗๗ เร่ือง ๒,๑๐๒ บท มีศิษย์ที่มี ความสามารถ นาความร้ทู ่ไี ดส้ ืบทอดไปเลย้ี งชพี จนมชี อ่ื เสยี งหลายคน ด้วยภาษาถนิ่ ท่ีคมคายลึกซึง้ มกี ารประพันธห์ นังสือ \"กาซอสะลอ้ บนิ วรรณศลิ ป์แผ่นดินล้านนา\" อนุรักษ์และสืบ สานการขับซอล่องน่าน

7. ครูธนพร อนิ ทรธ์ ิราช ด้านศลิ ปกรรม ผลงาน หมอลากลอน ครธู นพร อนิ ทรธ์ ิราช เปน็ ผ้มู คี วามรู้ความเชีย่ วชาญด้านการแสดงหมอลากลอน ซ่ึงเป็นการแสดงศิลปะพ้ืนบ้าน ของชาวอีสานอย่างลึกซึ้ง ทั้งการร้อง ลาด้วยน้าเสียงที่ไพเราะและท่วงท่าการร่ายราที่สวยงามอ่อนช้อย รวมทั้งการ ประพันธ์กลอนลาท่ีสามารถร้อยเรียงเป็นเรื่องราว ให้เข้ากับสถานการณ์ ตามยุคสมัยได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดวัฒนธรรม อีสาน ทั้งด้านวิถีชีวิต ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ตานาน นิทาน และวรรณกรรมท้องถ่ิน ที่สอดแทรก คุณธรรม จริยธรรม ใหเ้ ป็นแนวทางดาเนนิ ชวี ิตท่ีดี ครูธนพรเปน็ ผปู้ ระพนั ธก์ ลอนลาใหก้ ับหน่วยงานราชการเพื่อรว่ มรณรงค์ ในโอกาสต่างๆ และมีความสามารถในการถ่ายทอดวิชาการแสดงหมอลากลอน มีการจดบันทึกลากลอนการผลิตส่ือและ การใชส้ ่ือการสอนได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ประยุกต์กลอนลาและท่าราอยา่ งต่อเน่ือง ทันสมัย ผลงานเทปคลาสเซทชุด “ซิ่ งลกู เดียว”และ“ซิง่ อีหลี” รวมทงั้ วีซดี ี “ซิ่งสะท้านโลก” เปน็ ที่โดง่ ดังในฉายา “สายลมเยน็ ” เป็นหมอลากลอนที่นาความรู้วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น และอีสาน มาประพันธ์เป็นคากลอน โดย สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม ไวด้ ้วย

8. ครูมงคลชยั เสเล ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ผลงาน เครอ่ื งดงึ หลังแบบพกพา ครมู งคลชัย เสเล เป็นผูม้ พี รสวรรค์ดา้ นการนวดมาตัง้ แต่สมยั เดก็ สบื ทอดการนวดแบบโบราณท่ีมีผ้าขาวม้าเป็น เครือ่ งชว่ ยดึงหลังมาจากบรรพบรุ ษุ หม่นั ศกึ ษา ทดลองและพัฒนาเครื่องมอื ช่วยการนวดมาตามลาดบั ด้วยความขยัน หมน่ั เพียร มุ่งช่วยเหลือคนไข้ให้หายจากอาการปวดหลัง ปวดต้นคอและอาการอื่น ๆ ได้ปรับวิธีการใช้อุปกรณ์แบบชาวบ้านมา เป็นนวัตกรรมใหม่ ใช้วิธีการผสมผสานระหว่างศาสตร์แพทย์แผนไทยและแพทย์เฉพาะทาง โดยศึกษาสาเหตุและ ผลกระทบท่ีทาใหเ้ กดิ อาการปวดหลัง และหาวธิ ีการแก้ไขอาการทีเ่ กิดขน้ึ เปน็ ทย่ี อมรับของวงการแพทยแ์ ผนไทย มีความรู้ ความสามารถทั้งภาคทฤษฎีและ ปฏิบัติ สามารถอธิบาย วินิจฉัยสาเหตุของโรคและวิธีการรักษาได้ ผสมผสานวิธีการแบบ ภูมิปัญญาไทยและนวัตกรรมใหม่รักษาคนไข้ได้ผลจริง เป็นที่ประจักษ์ในเคร่ืองมือและองค์ความรู้ท่ีถ่ายทอดสู่สาธารณชน มคี วามเช่ียวชาญด้านการ นวดเพ่ือรกั ษา เช่น การบาบัดผู้ป่วยอาการปวดตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายและสามารถผลิต อปุ กรณเ์ พ่ือช่วยบาบัด เชน่ เครื่องดึงหลงั แบบพกพา อุปกรณ์ ดงึ คอแบบพกพา

9. ครูพิมพา มุ่งงาม ดา้ นเกษตรกรรม ผลงาน ข้าวหอมมะลิอนิ ทรยี ์ ครูพิมพาเป็นเกษตรกรต้นแบบ พัฒนาการทาเกษตรอินทรีย์มาเกือบ ๒๐ ปี ด้วยการน้อมนาหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักปฏิบัติ เริ่มจากทดลองเรียนรู้การ ทาเกษตรอินทรีย์บนท่ีดินของครอบครัว ศึกษาค้นคว้า แสวงหาความรู้ใหม่ๆ มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาการทาเกษตรอินทรีย์บนวิถีแบบพอเพียงมาอย่างต่อเน่ืองเผยแพร่ แบ่งปันองค์ ความรทู้ เ่ี กิดจากปฏิบตั แิ ละเรียนรู้ของตนสเู่ พ่ือนบ้านใน ชุมชน จากจุดเร่ิมต้นของคนเล็กๆ ท่ีจุดประกาย แบ่งปัน ส่งเสริม สนับสนุนให้บ้านเกิด เป็นหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ นาพาเด็ก เยาวชนและเพ่ือนเกษตรกร ดาเนินวิถีเกษตร อินทรีย์เพื่อความย่งั ยืนและสมดุล จนประสบผลสาเร็จ สามารถส่งข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ไปจาหน่ายในต่างประเทศ เป็นท่ี ยอมรบั ขององคก์ าร Fair Trade Original ประเทศเนเธอร์แลนด์ ความเช่ยี วชาญการทาเกษตรอนิ ทรยี ์ บุกเบิก และทดลองการทานาข้าว ปลูกผกั ปลอดสารพษิ จนไดส้ ดั ส่วนการ พัฒนาดินให้อุดมสมบูรณ์ เป็นทีย่ อมรับขององค์กร Fair Trade Original ให้เป็นผู้แทนการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรียข์ อง ไทยสปู่ ระเทศแถบยโุ รป

10. ครูสมสมัย เขาเหิน ดา้ นอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ผลงาน การทาทองสุโขทัย ครูสมสมัย ได้เร่มิ ทาทองท่ีมีรูปแบบเฉพาะตัวข้ึน เม่ือมีผู้นาเส้นถักลายโบราณท่ีลูกค้านามาให้ทาเลียนแบบ และได้ใช้พ้ืน ฐานความรเู้ รอ่ื งการทาทอง ทส่ี ืบทอดมาจากคณุ พ่อในการแกะลวดลายออกมาว่า สรอ้ ยเส้นน้ันเร่ิมต้นและส้ินสุดการถักอย่างไร ด้วย ความตงั้ ใจจรงิ กอปรกับความเพยี รพยายามคอ่ ยๆแกะลาย ทีละปลอ้ ง ทีละข้อ จนสามารถเรียนรู้ถึงข้ันตอนในการทาโดยเริ่มจากการ ขมวดเส้นทองน้ันข้ึนมา แล้วเร่ิมถักจนเป็นเส้นสร้อย ซ่ึงมีลายใกล้เคียงกับต้นแบบ และในเวลาต่อมาจึงค่อยๆ พัฒนารูปแบบ มีการ เดินลายฉลุ และลงยากลมุ่ ลกู ค้าทองสโุ ขทยั มกั จะเป็นผ้ทู สี่ นใจนยิ มสะสมของเก่าและช่ืนชอบในงานศิลปะ และเป็นกลุ่มคนท่ีมีรายได้ ค่อนข้างสงู เนอ่ื งจากราคาขายท่ีสูงกว่าราคาทองปกติ เหตุที่ราคาทองสุโขทัยมีราคาสูงกว่าทองธรรมดาท่ัวไปก็เพราะทองสุโขทัยเป็น งานหัตถกรรมทีใ่ ช้ฝมี อื ลว้ นๆ ต้องใชเ้ วลาในการผลติ นานและไดป้ ริมาณนอ้ ย นอกจากน้ี ยังใช้ทองเปอร์เซ็นต์สูงถึง ๙๙.๙๙% ท้ังน้ี ครูสมสมัยสังเกตเห็นว่างานทองโบราณสมัยเก่าแท้ๆ ท่ีชาวบ้านขุด คน้ พบแลว้ นามาให้ดูน้ัน ส่วนใหญจ่ ะเป็นทองเปอรเ์ ซ็นตส์ ูง สขี องทองจะเปน็ สีเหลืองดอกจาปาไม่ใช่เหลอื งสีดอกบวบเหมือนเช่นทอง ในปัจจุบนั ครสู มสมยั มแี นวคิดวา่ หากนาทองเปอรเ์ ซน็ ต์สูงมาใชใ้ นการผลิต จะทาให้งานทองมคี ณุ คา่ และสวยงามแปลกตา จึงเป็นผู้ ริเร่มิ นาทอง ๙๙.๙๙% มาผลติ ช้ินงานเพอ่ื ใหง้ านมีความสวยงามดงั เช่นทองในสมัยโบราณ ตั้งแต่น้นั มา

จบการนาเสนอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook