Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สายพันธุ์แมว

สายพันธุ์แมว

Published by golffetv, 2022-09-18 13:03:54

Description: สายพันธุ์แมว
จัดทำโดย นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37

Search

Read the Text Version

สายพันธุ์แมว

แมวสายพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ ถ้าคุณเป็ นแฟนตัวยงของการ์ตูนสุดคลาสสิกอย่าง “ทอมแอนด์เจอร์รี่” คุณจะเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้า เหมียวทอมเป็ นตัวแทนของแมวอเมริกันช๊อตแฮร์ที่ มีคาแรกเตอร์แสนโดดเด่น มีความมั่นใจ และเต็ม เปี่ ยมไปด้วยความน่ารัก เจ้าก้อนขนสายพันธุ์นี้ชอบ เล่นซน ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี รวมถึงมีสัญชาตญาณความเป็ นนักล่าสูง! เรามา ทำความรู้จักกับลักษณะอเมริกันช็อตแฮร์ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์อะบิสซิเนี ยน น้องเหมียวรูปร่างเงางามสายพันธุ์นี้อาจดูเหมือนเสือภูเขาขนาดย่อมๆในเวอร์ชั่นที่มีขนสีน้ำตาลแดงแวววาว ซึ่งหาก คุณกำลังมองหาสัตว์เลี้ยงที่ดูสง่าผ่าเผยแล้วล่ะก็ คุณน่าจะสนใจเจ้าเหมียวอะบิสซิเนียนซึ่งว่ากันว่ามีศักดิ์เป็ นถึง ขุนนางชั้นสูงเชียวล่ะ นอกจากมันจะเป็ นแมวเลี้ยงสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดสายพันธุ์หนึ่งแล้ว ยังเชื่อกันว่าอะบิสซิ เนียนนั้นเป็ นแมวที่สืบสายพันธุ์มาจากแมวศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์ ซึ่งมีจารึกตามภาพวาดและรูปปั้ นประติมากรรมต่างๆ ของชาวอียิปต์ แมวอะบิสซิเนียนในปั จจุบันนั้นได้รับการผสมพันธุ์อย่างระมัดระวังเพื่อให้ ได้สี ลวดลาย และประเภท ตามที่ต้องการ พวกมันมีลำตัวที่เรียวยาว ดูเหมาะสมกับดวงตาขนาดใหญ่และขนปกคลุมร่างกายที่ดูแข็งแรง ลักษณะ ที่โดดเด่นที่สุดลักษณะหนึ่งของแมวสายพันธุ์นี้คือ ดวงตาของมันที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกับเมล็ดอัลมอนด์ที่พร้อมจะ สะกดทุกสายตาที่จ้องมองมัน ยังไม่เพียงเท่านั้น น้องเหมียวอะบิสซิเนียนยังมีนิสัยคล้ายคลึงกับเสือดำเวลาเล่นหรือ ทำกิจกรรมร่วมกับคนอีกด้วย นอกจากนี้แมวอะบิสซิเนียนยังมีท่าทางที่สง่างามเหมือนกับนักเต้นรำ และยังเป็ นแมว ที่รักเจ้าของและมีนิสัยอ่อนโยนอีกด้วย ตราบใดที่มันได้รับการดูแลเป็ นอย่างดีแล้วล่ะก็ แมวสายพันธุ์นี้ก็จะเป็ นสัตว์ เลี้ยงที่สุดวิเศษ โดยปกติแล้วแมวสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยชอบส่งเสียงนัก แต่จะชอบปี นป่ ายมากกว่า ดังนั้นคุณต้องคำนึง ถึงเรื่องนี้เวลาเลี้ยงด้วย และที่ควรระวังคือ น้องเหมียวสายพันธุ์นี้ไม่ชอบถูกจับใส่กรง ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการจับมันใส่ กรงเลยล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์บาหลี แมวบาหลีเป็ นแมวที่กระตือรือร้นและ “ช่างพูดช่างคุย” เป็ นอย่างยิ่ง และยังชอบเดิน ตามเจ้าของพร้อมคอยแจกความรักให้ กับคนที่พบเจอเวลามันเดินไปไหนต่อไหนอีก ด้วย! น้องเหมียวขนยาวพันธุ์นี้เป็ นส่วนหนึ่งของตระกูลแมวที่มาจากประเทศทางฝั่ ง ตะวันออก และได้รับการพัฒนามาจากลูกแมวพันธุ์ขนยาวที่พบตามครอกลูกแมวสยาม ในสหรัฐอเมริกา รูปร่างและการเคลื่อนไหวที่สง่างามของน้องเหมียวสายพันธุ์นี้เป็ นตัว จุดประกายที่มาของชื่อสายพันธุ์พวกมัน นั่นก็เพราะว่ามันทำให้ ผู้ที่เพาะเลี้ยงมันนั้น นึกถึงนักเต้นรำท้องถิ่นที่อยู่บนเกาะบาหลีนั่นเอง แมวบาหลีนั้นเป็ นแมวขนาดกลางที่มี รูปร่างยาวเรียวเหมือนกับแมวสยาม แต่ร่างผอมยาวของมันนั้นถูกปกคลุมไปด้วยขน ยาวนุ่มที่ถึงแม้ว่าตัวมันจะยาว แต่ก็ไม่จำเป็ นต้องตัดแต่งขนอะไรมากเหมือนกับแมว สายพันธุ์ที่มีขนยาว นอกจากนี้ ที่จริงแล้ว ขนที่สวยงามและหางที่ยาวปุกปุยของมัน แทบจะเป็ นเพียงแค่สิ่งเดียวที่ทำให้ มันแตกต่างไปจากแมวสยาม สำหรับตาของมันนั้น มีรูปร่างคล้ายเมล็ดอัลมอนด์สีฟ้ า ส่วนลำตัวของมันอาจจะมีลวดลายสีต่างๆ ไม่ว่าจะ เป็ น สีฟ้ า ม่วงแดง และช็อกโกแลต สำหรับคนที่อยากจะเลี้ยงแมวที่กระตือรือร้นตลอด เวลานั้น แมวบาหลีเป็ นทางเลือกที่ใช่เลยสำหรับคุณ เพราะเป็ นแมวที่มีชีวิตชีวา ขี้เล่น สวยงามและเป็ นเพื่อนเล่นที่ชื่นชอบการอ้อนหรือนั่งอยู่บนตักของเจ้าของอย่างที่สุด นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เบงกอล สายพันธุ์แมวเบงกอลมาพร้อมความสวยสะดุดตา พวกเค้ามีลายจุดรายล้อมรอบตัวและยังมีร่างกายที่กำยำ เหมือนเสือดาวตัวน้อย ๆ ซึ่งเป็ นที่มาของชื่อสายพันธุ์เริ่มแรกอย่าง “Leopardette จุดเริ่มต้นของแมวเบงกอลเป็ นผลมาจากการทดลองที่ล้มเหลว ในปี 1970 นักวิทยาศาสตร์พยายามผสมพันธุ์ แมวบ้านขนสั้นและแมวเสือดาวขนาดเล็กที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การผสมพันธุ์ครั้งนี้มีจุด ประสงค์เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานต่อโรคลิวคีเมียให้ กับแมวบ้าน แม้จะน่าเสียดายที่มันไม่ประสบความสำเร็จ แต่ผล ที่ได้จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็ นอียิปต์เชียนมัวร์ บอมเบย์ อะบิสซิเนียน และ บริติชช็อตแฮร์ ก็คือสายพันธุ์แมวแสนสวยอย่างเบงกอล ด้วยรูปลักษณ์ ที่คล้ายเสือขนาดเล็ก การมีเจ้าเหมียวเบงกอลอยู่ในบ้านอาจทำให้ คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในป่ า แต่ วางใจได้เลยว่าเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ไม่ได้น่ากลัวเหมือนหน้าตา พวกเค้าทั้งน่ารักอ่อนโยน เป็ นมิตร เต็มเปี่ ยมไป ด้วยพลัง บวกกับเป็ นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เฉลียวฉลาดที่สุด แมวเบงกอลจึงฝึ กง่ายและเลี้ยงสนุก สำหรับมือใหม่หั ดเลี้ยงมีเรื่องที่ต้องระวังกันเล็กน้อย แมวเบงกอลอาจมีนิสัยหวงอาณาเขต หากมีสัตว์เลี้ยงหรือ เด็กในบ้าน แนะนำให้ รับเลี้ยง ตั้งแต่ยังเป็ นลูกแมวตัวน้อย แต่ก็ต้องทำใจว่าลูกแมวเบงกอลมีพลังงานสูง จำเป็ นต้องเล่นหรือทำกิจกรรมมาก เพื่อให้ สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรง นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เบอร์แมน ด้วยความที่เป็ นแมวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ใครๆก็ต่างตกหลุมรักแมวเบอร์แมนหรือ “แมว ศักดิ์สิทธิ์แห่ งพม่า” ตามที่เป็ นที่รู้จักกันในประเทศถิ่นกำเนิดของมัน เจ้าแมวสายพันธุ์นี้มีท่าทางที่ สง่างามและ “ปกคลุม” ด้วยขนสีจาง มีใบหน้า หู หางและขาสีเข้ม และ “อุ้ง” สีขาวที่เท้าของมัน น้องเหมียวเบอร์แมนมีดวงตาสีน้ำเงินไพลินเข้ม อันที่จริงแล้วแมวสายพันธุ์นี้ถือกำเนิดมาจาก ตำนานเรื่องดังที่บรรยายอธิบายเกี่ยวกับสีที่เป็ นเอกลักษณ์ ของพวกมัน โดยเรื่องมีอยู่ว่า ในอดีตมี แมวสีขาวบริสุทธิ์อาศัยอยู่ที่วัดเหล่าซุนในพม่า แต่มีอยู่คืนหนึ่ง มีคนบุกรุกเข้ามาในวัดและสังหาร พระที่อาวุโสที่สุดในวัดไป เจ้าแมวสีขาวบริสุทธิ์ของเขาที่ชื่อว่า สิงห์ กระโดดขึ้นไปบนตัวของเจ้า นายมัน และวิญญาณของพระรูปนั้นก็เข้าไปอยู่ในตัวแมว ทันใดนั้นเองขนสีขาวของมันก็กลายเป็ น สีทอง (คล้ายกับเทพีของวัด) ส่วนขา หน้า หู และหางนั้นก็กลายมาเป็ นสีดิน แต่อุ้งเท้ายังคงสีขาว ไว้ซึ่งเป็ นสัญลักษณ์ แห่ งความบริสุทธิ์ แหม มีที่มาที่ไปที่แสนจะโรแมนติกอย่างนี้ ใครบ้างล่ะที่จะ ไม่อยากเลี้ยวน้องเหมียวพันธุ์นี้! ถึงแม้ว่าการดูแลตัดแต่งขนอยู่เป็ นประจำจะเป็ นเรื่องที่สำคัญ แต่ โดยปกติแล้ว ขนของแมวพันธุ์นี้ จะมีลักษณะเหมือนใยไหมมากกว่าปุยๆ และไม่ค่อยพันกัน ยุ่งเหยิง จึงทำให้ ง่ายต่อการดูแล แมวสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยเสียงดังนักและกระตือรือร้นกว่าแมว เปอร์เซียมาก แต่ก็ยังน้อยกว่าแมวสยาม โดยรวมน้องเหมียวเบอร์แมนนั้นเป็ นทางเลือกที่ดีมาก สำหรับเด็กๆหรือใครก็ตามที่อยากเลี้ยงสัตว์แปลกใหม่ไว้ในบ้าน นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ ความเป็ นมาของบริติชช็อตแฮร์: รู้หรือไม่? แมวบริติชชอร์ตแฮร์เป็ นหนึ่งในสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยในช่วงศตวรรษที่หนึ่งก่อน คริสต์ศักราช ชาวโรมันใช้แมวพันธุ์นี้กำจัดหนูและงูบริเวณค่ายพัก เวลาต่อมาเจ้าเหมียวบริติชชอร์ต แฮร์ก็มีพัฒนาการด้านร่างกายเปลี่ยนแปลงไป พวกเค้ามีรูปร่างใหญ่ บึกบึนแข็งแรง และมีขนหนาทน ต่อสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดี ในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้มีการผสมแบบคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อพัฒนาลักษณะเฉพาะของบริติชช็อตแฮร์ โดยมีความเชื่อแตกออกเป็ น 2 แนวคิด ด้านหนึ่งเชื่อว่า “แฮร์ริสัน เวียร์” (Harrison Weir) เป็ นผู้ริเริ่ม ความคิดในการสร้างมาตรฐานของแมวสายพันธุ์นี้ ส่วนอีกด้านเชื่อว่ากลุ่มคนเพาะพันธุ์ก็มีส่วนร่วมใน กระบวนการด้วยเช่นกัน ทั้งนี้แมวพันธุ์บริติชช็อตแฮร์ได้รับการแสดงตัวครั้งแรกในปี 1871 อย่างไรก็ตาม ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแมวพันธุ์เปอร์เซียและสายพันธุ์ขนยาวอื่น ๆ ทำให้ แมว บริติชชอร์ตแฮร์สูญเสียความนิยมลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งสิ่งนี้นำไปสู่การผสมพันธุ์แมว เปอร์เซียและบริติชช็อตแฮร์เข้าด้วยกัน จนเกิดเป็ นบริติช ลองแฮร์ (British Longhair) ต่อมาในช่วง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการพยายามรักษาสายพันธุ์บริติชช็อตแฮร์เอาไว้ และราว ๆ ปี 1970 บริติชช อร์ตแฮร์ก็ได้การยอมรับจากองค์กรพัฒนาพันธุ์แมว ACFA (American Cat Fanciers Association) หลังจากนั้นเจ้าแมวบริติชชอร์ตแฮร์แสนน่ารักก็กลับมาเป็ นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลกอีกครั้ง นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เบอร์มีส แมวเบอร์มีสนั้นมีรูปร่างที่ไม่เหมือนใครและมีนิสัยท่าทางน่ารักเป็ นที่สุด! แมวพันธุ์นี้เป็ นแมว อารมณ์ ดี รักเจ้าของ ขี้เล่นและชอบอยากรู้อยากเห็ นไปตลอดช่วงชีวิตของมัน ซึ่งทำให้ เป็ นเป็ น สายพันธุ์ที่เหมาะมากสำหรับเลี้ยงไว้เป็ นเพื่อนเล่นให้ กับเด็กๆ ต้นตระกูลของแมวพันธุ์นี้มี ประวัติยาวนานถึง 400 ปี แต่แมวเบอร์มีสที่พวกเราคุ้นเคยกันนั้นมีจุดเริ่มต้นจาก สหรัฐอเมริกา ซึ่งในปี 1920 นั้นได้มีการผสมพันธุ์กันระหว่างแมวสยามและแมวจากพม่า แมว สายพันธุ์นี้เป็ นเพียงสายพันธุ์เดียวที่มีสีน้ำตาลตามธรรมชาติ มีขนสั้นเงางาม และมีลักษณะ ขนแบบผ้าซาตินสีน้ำตาลเข้มและดวงตาสีทอง น้องเหมียวสายพันธุ์นี้มีสีอื่นๆเช่นกันตั้งแต่สี แดงและสีครีมไปจนถึงสีม่วงแดงและสีกระดองเต่า ยิ่งไปกว่านั้น น้องเหมียวเบอร์มีสยังมีรูป ร่างสง่างามและไม่เหมือนใคร และมีร่างกายพร้อมกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ซึ่งทำให้ แมวเบอร์มีสนั้ นมีน้ำหนักสูงถ้าเทียบกับขนาดของมันอย่างน่าตกใจ พวกมันมีร่างกายยาว บริเวณอกและใบหู เป็ นทรงกลม และมีเท้าขนาดเล็ก บ่อยครั้งที่เจ้าเหมียวพันธุ์นี้จะถูกเรียกว่าเป็ น “แมวสุนัข (dogcat)” เพราะว่าพวกมันชอบเล่นเกมส์ต่างๆและยังฝึ กให้ ไปคาบของกลับมาได้ง่ายเหมือน กับสุนัขอีกด้วย นอกจากนี้ แมวสายพันธุ์นี้ยังเฉลียวฉลาด น่ารัก ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมาก และ ยังชอบส่งเสียงอีกด้วย แต่โดยรวมแล้วก็ยังส่งเสียงน้อยกว่าแมวสยาม เหมียวเบอร์มีสชอบอยู่ ร่วมกับแมวตัวอื่นๆหรือแม้กระทั่งสุนัข และชื่นชอบการอยู่ร่วมกับผู้คนและการได้เป็ นจุดสนใจ อีกด้วย นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เบอร์มิลลา แมวเบอร์มิลลาแสนสวยนี้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศอังกฤษในปี 1981 ซึ่งเกิดขึ้นจากการผสม พันธุ์กันโดยบังเอิญระหว่างแมวชินชิลลาเปอร์เซียตัวผู้และแมวเบอร์มีสสีไลลักตัวเมีย ลูกที่ ออกมานั้นเป็ นที่ชื่นชอบและได้ผลที่น่าประทับใจมากมากจนบรรดานักผสมพันธุ์ตัดสินใจว่า ให้ ดำเนินการผสมพันธุ์สายพันธุ์นี้ต่อไป แมวเบอร์มิลลานั้นเป็ นแมวที่มีลักษณะและรูป แบบนิ สัยแบบแมวเบอร์มีสแต่มีลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของมันก็คือขนที่เงางามแวววาว หรือเป็ นลวดลายงดงาม สีพื้นของตัวมันเป็ นสีขาวเงินล้วน ในขณะที่รอบดวงตามของมันมี สีเข้ม ซึ่งตัดกับสีขนอย่างชัดเจนและทำให้ ดูคล้ายกับว่ามันใช้มัสคาร่า น้องเหมียวเบอร์มิล ลารูปร่างสง่างาม ขนาดกลาง มีร่างกายที่กำยำ ขายาวแข็งแรง และหางยาวหนาพอสมควร หั วเป็ นทรงรูปลิ่มขนาดกลางพร้อมด้วยใบหู ขนาดใหญ่ พวกมันมีจมูกสั้นและดวงตาขนาด ใหญ่ที่แสดงออกถึงอารมณ์ อย่างชัดเจน เนื่องจากแมวสายพันธุ์เบอร์มิลลานั้นเป็ นพาหะ ของยีนขนยาวที่มาจากแมวชินชินลา ลูกแมวที่ออกมาจึงอาจมีขนยาวเกิดขึ้นเป็ นบางครั้ง แต่ขนยาวเหล่านั้นนั้นจะไม่ค่อยพันกันยุ่งเหยิงและแทบจะไม่ต้องตัดแต่งอะไรเลย แมว เบอร์มิลลาเป็ นแมวที่มีนิสัยสบายๆ และเหมาะแก่การเป็ นสัตว์เลี้ยงน่ารักในครอบครัว พวก มันมีนิสัยกระตือรือร้นและรักเจ้าของ ทำให้ มันเป็ นสัตว์เลี้ยงคู่ยากที่ดีทีเดียว นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์ชิลชิล่า น้องเหมียวเปอร์เซียแสนหรูนั้นปกติจะเป็ นที่นิยมและเป็ นที่ต้องการของบรรดาผู้รักแมวมากมาย แต่แมวชินชิลล่านั้นเป็ นแมวที่สวยงามโดดเด่นจากขนสีเงินเงางาม ซึ่งทำให้ มันแตกต่างจาก แมวเปอร์เซียทั่วไปที่ดั้งเดิมแล้วมาจากประเทศตุรกีและมักมีขนหนาสีขาว น้องเหมียวชินชิลล่า นั้นเป็ นแมวขนาดใหญ่ที่อบอุ่น เป็ นมิตรกับมนุษย์ มีรูปร่างเป็ นทรงคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อม ใบหน้าแบนทรงกลม และใบหู ขนาดเล็ก พวกมันมีดวงตาสีเขียวสะท้อนแสงคล้ายกับลวดลาย บนตัวมัน นอกจากนี้ ขนของมันยังมีความงดงามคล้ายใยไหม และยังมีหางเป็ นพู่ๆที่โดดเด่นอีก ด้วย โดยภาพรวมแล้ว แมวสายพันธุ์นี้มีสีขาวพร้อมลายสีดำที่ทำให้ ตัวมันดูเป็ นประกาย หนึ่ง ในน้องเหมียวชินชิลล่าที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นเป็ นที่รู้จักกันว่า Silver Lambkin และยังเชื่อกันว่า แมวตัวดังกล่าวนี้เป็ นต้นกำเนิดของโทนสีที่สวยงามโดดเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ ตัวมันเองนั้น ได้รับรางวัลใหญ่ๆมากมายในงานแสดงที่ Crystal Palace ในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1888 เจ้า เหมียวแสนสวยตัวนี้มาจากสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ พวกมันมีนิสัยชอบเข้าหาคนอื่น มากกว่าแมวเปอร์เซียพันธุ์อื่นๆ และพวกมันยังมีเสียงที่ไพเราะอีกด้วย โดยปกติแล้วน้องเหมียว ชินชิลล่าสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆที่พวกมันไปอยู่ได้อย่างรวดเร็วอีก และมี นิสัยแบบชิลๆ สบายๆ ดังนั้นแมวพันธุ์นี้จึงเหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีเวลาแปรงหรือหวีขน ให้ มันเป็ นประจำทุกวันเลยล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์คอนิ ชเร็กซ์ แมวคอร์นิชเรกซ์ นั้นเกิดขึ้นในช่วงยุคปี 50 ในเมืองคอร์นวอล ประเทศอังกฤษ หลังจากที่ชาวนาในเมืองนั้นพบว่า แมวของเขานั้นออกลูกแมวที่มีขนม้วน เขานำเจ้าลูกแมวตัวนั้นไปให้ สัตว์แพทย์ดู ซึ่งก็ได้แนะนำให้ เขานำแมว ตัวนั้นไปผสมพันธุ์กับแม่ของมันอีกรอบ ผลลัพธ์ที่ออกมาสร้างความประหลาดใจให้ กับชาวนาคนนั้นเป็ นอย่างมาก เพราะลูกแมวครอกใหม่ที่ออกมาล้วนแต่มีขนม้วนๆกันหมดเลย น้องเหมียวคอร์นิชเร็กซ์นี้นอกจากจะดูเก๋ไก๋แล้วยัง มีร่างกายที่ผอมเพรียวและมีมัดกล้าม นอกจากนี้น้องเหมียวสายพันธุ์นี้ยังมีจมูกสไตล์โรมันและเส้นขนที่ขดเป็ น ลอนซึ่งดูโดดเด่นและให้ ความรู้สึกเหมือนกับขนกำมะหยี่ ยิ่งไปกว่านั้น ขนแบบเจ้าเหมียวพันธุ์ยังมีลักษณะคล้าย กับขนของ “สุนัขพุดเดิ้ล” ซึ่งไม่ค่อยมีสารที่ก่อให้ เกิดโรคภูมิแพ้และไม่ต้องได้รับการดูแลอะไรมาก น้องเหมียวพันธุ์ จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่เป็ นโรคภูมิแพ้ที่อยากเลี้ยงน้องเหมียวไว้เป็ นเพื่อนแก้เหงา เพราะไม่อย่างนั้น คนที่เป็ น โรคภูมิแพ้ก็อาจจะไม่ได้มีโอกาสเลี้ยงแมวหรือได้ลิ้มรสความสุขและความอบอุ่นที่เหล่าน้องเหมียวนำมาให้ กับ เจ้าของของมัน นอกจากนี้ บรรดาเหมียวๆคอร์นิชเร็กซ์ยังน่ารัก เฉลียวฉลาด กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา แถมยังขี้ เล่นอีกด้วย พวกมันชอบอยู่กับผู้คนและชอบเป็ นจุดสนใจของคนอื่น และพวกมันยังรักเจ้าของ เต็มเปี่ ยมไปด้วย พลัง และเป็ นสัตว์เลี้ยงที่มีเสน่ห์ สำหรับเด็กๆและผู้สูงอายุอีกด้วย ทว่าพวกมันเป็ นสัตว์ขี้เบื่อนะ ดังนั้นคุณต้อง หมั่นหาของเล่นให้ มันเล่นเยอะๆ ถ้าหากว่าคุณจะไม่อยู่บ้านเป็ นระยะเวลานานๆ เช่นต้องไปทำงาน แต่โดยปกติ แล้วแมวสายพันธุ์นี้จะเข้ากับแมวตัวอื่นหรือสุนัขต่างๆซึ่งอยู่ร่วมบ้านเดียวกันได้ดี คนส่วนใหญ่เห็ นตรงกันว่า พอได้เลี้ยงแมวคอร์นิชเรกซ์แล้ว ก็ไม่อยากกลับไปเลี้ยงพันธุ์อื่นอีกเลย นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เดวอนเร็กซ์ เจ้าเหมียวเดวอนเรกซ์นั้นแตกต่างสุดขั้วกับสายพันธุ์อื่นๆ และเป็ นเหมือนกับ “เอเลียน” ในโลกแมวเหมียว ด้วยความที่พวกมันมีขนสั้นและใบหน้าที่มีแก้มใหญ่ ในขณะที่ใบหู ของพวกมันอยู่ในระดับต่ำเหมือนกับค้างคาวพร้อมด้วยรูปร่างที่ดูสมส่วนกำลังพอดี แต่ก็ อย่าได้คิดเชียวล่ะว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้ แมวสายพันธุ์นี้ไม่มีเสน่ห์ เพราะพวกมันนั้นมีนิสัย ซุกซน ขี้แกล้ง ราวกับเป็ นภูตพิกซี่แปลงตัวมาเลยล่ะ! แมวสายพันธุ์นี้ถูกค้นพบเป็ นครั้ง แรกในเมืองเดวอน ประเทศอังกฤษในปี 1960 ใกล้กับเขตคอร์นวอลซึ่งเป็ นที่ที่ลูกแมว คอร์นิชเรกซ์ตัวแรกได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1950 แมวสายพันธุ์เดวอนเรกซ์นั้นเป็ นแมวที่ เฉลียวฉลาดและชอบเข้าสังคม ซึ่งทำให้ มันน่ารักและเหมาะจะเป็ นสัตว์เลี้ยงคู่ใจของคุณ ถ้าได้เลี้ยงแมวเดวอนเรกซ์ คุณก็เหมือนกับได้เพื่อนไปตลอดชีวิตคุณเลยนั่นแหล่ะ! พวก มันจะสั่นหางเวลาดีใจ ซึ่งก็บ่อยอยู่แล้ว และพวกมันยังกระตือรือร้น ว่องไว และอยากรู้ อยากเห็ นไปเสียทุกเรื่อง สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ นิสัยของมันเหมือนกับบรรดาภูติพิกซี่ไปกัน ใหญ่ นอกจากนี้พวกมันยังเหมาะกับการเป็ นสัตว์เลี้ยงสำหรับผู้ที่แพ้ขนสัตว์หรือเป็ น ภูมิแพ้อีกด้วยเพราะขนของมันมีลักษณะคล้ายขนของสุนั ขพุดเดิ้ลซึ่งไม่ค่อยมีสารที่ก่อให้ เกิดภูมิแพ้เสียเท่าไหร่ และยังไม่ต้องดูแลอะไรมากอีกด้วย เพราะขนพวกมันก็ไม่ค่อยร่วง นัก สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ พวกมันเหมาะแก่การเป็ นสัตว์เลี้ยงสำหรับผู้ที่เป็ นภูมิแพ้เป็ นอย่าง มาก และด้วยความที่ขนของมันไม่ต้องดูแลมาก คนเลี้ยงจึงไม่จำเป็ นต้องหามาตรการ ป้ องกันหรือดูแลขนเหมือนกับขนแมวโดยทั่วไป นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์ม็อกกี้ แมวเลี้ยงที่เป็ นรู้จักกันทั่วไปว่าแมว “ม็อกกี้” นั้นเป็ นแมวที่พบได้มากที่สุดตาม บ้านเรือนทั่วประเทศอังกฤษ แมวม็อกกี้ไม่ได้เป็ นแมวสายพันธุ์พิเศษแต่อย่าง ใด แต่สืบสายพันธุ์มาจากแมวป่ าแอฟริกันที่มีมาตั้งแต่ราว 8,000 ปี ก่อน คริสตกาล และพบได้ในเกือบทุกที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ ปกติแล้วแมวแต่ละสาย พันธุ์จะมีลักษณะนิสัยบางอย่างเฉพาะตัว แต่แมวม็อกซี่นั้นจะไม่มีนิสัยเฉพาะ ตัวเช่นนั้น และด้วยการที่พวกมันเกิดจากการผสมพันธุ์แบบตามมีตามเกิด พวก มันจึงไม่มีรูปร่างหน้าตาหรืออุปนิสัยที่ชัดเจน พวกมันมีนิสัยรักอิสระและมีรูป แบบขนและสีที่หลากหลาย ปกติแล้วแมวทุกตัวต้องได้รับการตัดแต่งขน แต่ เพราะว่าแมวม็อกกี้มียีนขนสั้น จึงไม่จำเป็ นต้องตัดแต่งขนมันเท่าไหร่นัก เว้น แต่จะแปรงขนเพื่อป้ องกันการเกิดก้อนขนต่างๆ จากที่บรรยายมานั้น ไม่ต้อง สงสัยเลยว่า น้องเหมียวม็อกกี้นั้นเป็ นแมวประเภทที่ไม่ต้องดูแลอะไรมาก ชอบ อยู่ร่วมกับผู้คน และยังชอบติดตามตามเจ้าของไปรอบๆบ้านอีกด้วย พวกมันจึง เหมาะแก่การเป็ นสัตว์เลี้ยงสำหรับทั้งคนที่อยู่กันเป็ นครอบครัวและคนที่อยู่คน เดียว ... รวมๆแล้ว พวกมันเป็ นน้องเหมียวที่มีเอกลักษณ์ อย่างแท้จริง นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เอ็กโซติกขนสั้น ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากจะเลี้ยงและใช้ชีวิตร่วมกับแมวที่มีหน้าตาเหมือนกับ “นัก แสดงหนัง” แล้วล่ะก็ น้องเหมียวเอ็กโซติกขนสั้นจะตอบโจทย์คุณแน่นอน! ในมุมมองของผู้ ที่ชื่นชมแมว เอ็กโซติกขนสั้นนั้น พวกมันเป็ นที่รู้จักกันในฐานะ “แมวเปอร์เซียสะดวก เลี้ยง” ด้วยความที่พวกมันมีขนคล้ายกำมะหยี่ที่ไม่ต้องดูแลอะไรมากนักและยังมีหลาก หลายสีที่สวยงามอีกด้วย นอกจากนี้พวกมันยังมีลักษณะรูปร่างน่ารักเหมือนกับลูกแมว ซึ่ง ถือได้ว่าเป็ นคุณสมบัติที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้พวกมันยัง ดวงตากลมโต ใบหู ขนาดเล็ก ใบหน้าเรียบแบน และจมูกรั้นขนาดเล็กซึ่งทำให้ หน้าของ พวกมันดูอ่อนหวานแสนจะเย้ายวนใจเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่พวกมันมีเป็ น สัตว์ขี้เล่น ชอบอยากรู้อยากเห็ น และมีนิสัยแบบสบายๆ น้องเหมียวเอ็กโซติกขนสั้นจึง เหมาะเป็ นอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงเอาไว้ในบ้าน แต่ แม้ว่าพวกมันจะชอบอยู่ร่วมกับผู้คน แต่บาง ครั้งก็ชอบอยู่ตัวคนเดียวเหมือนกัน ซึ่งถือเป็ นเรื่องที่ดีเลยสำหรับคนชอบเลี้ยงสัตว์ที่ไม่ค่อย มีเวลาว่างเท่าไหร่ ดังนั้นแมวสายพันธุ์เอ็กโซติกขนสั้นจึงเป็ นแมวที่สามารถปรับตัวได้ ดีแล้วพร้อมที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมใดๆก็ได้ โดยเฉพาะถ้ามันได้อยู่ในบ้านอย่างสุขสบาย อยู่แล้ว นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์หางกุดญี่ปุ่ น ตามบันทึกในช่วงยุคแรกเริ่มนั้น ประเทศญี่ปุ่ นเริ่มมีแมวเลี้ยงซึ่งได้รับจากประเทศจีนหรือเกาหลีมาอย่างน้อยเมื่อ 1,000 ปี ที่แล้ว แมวหางกุดญี่ปุ่ นนั้นมีปรากฏในประเทศญี่ปุ่ นมาแล้วหลายศตวรรษ และพวกมันไปปรากฏตัวตามภาพ วาดหรือลายพิมพ์ต่างๆมากมาย แมวหางกุดญี่ปุ่ นขนยาวนั้นสามารถพบได้ในประเทศแถบตะวันออกมาแล้วหลาย ศตวรรษเช่นเดียวกับแมวหางกุดญี่ปุ่ นขนสั้น แมวสายพันธุ์นี้เป็ นแมวที่แข็งแรง สุขภาพดี และมักจะมีลูกครอกละ 3-4 ตัว โดยที่ลูกๆของพวกมันที่มักจะมีขนาดตัวใหญ่หากเทียบแมวเกิดใหม่สายพันธุ์อื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับแมวสาย พันธุ์อื่นๆแล้ว เจ้าเหมียวหางกุดญี่ปุ่ นในช่วงแรกๆ จะกระตือรือร้น ชอบเดินไปเดินมา หรือแม้แต่ทำให้ เจ้าของปวดหั ว ไปตามๆกัน ลูกแมวที่เกิดมานั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่มีหางนะ แต่ก็ไม่ถึงกับมีหางซะทีเดียว โดยปกติแล้ว เจ้าลูกแมวเหล่านี้ จะคล่องแคล่ว เฉลียวฉลาด และก็ช่างส่งเสียง ซึ่งพวกมันมีเสียงที่แสนจะอ่อนนุ่มและยังมีหลายโทนอีก ว่ากันว่ามี เจ้าของบางคนสาบานเลยว่า เจ้าลูกเหมียวเหล่านั้นน่ะ ร้องเพลงได้ นอกจากนี้ แมวสายพันธุ์นี้ยังเหมือนกับ ”สุนัข” ในบางเรื่องอีกด้วย อย่างเช่น ชอบใช้ปากคาบสิ่งของ เล่นเกมส์ไล่จับกับเจ้าของ แล้วยังชอบโผเข้าหาทุกอย่างที่ขวาง หน้า ซึ่งก็น่าตื่นเต้นเวลาเห็ นเจ้าเหมียวเหล่านี้จริงๆ แมวสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยตกใจง่ายๆ และยังปรับตัวเข้าหาสุนัข และสัตว์อื่นๆ และยังเข้ากับเด็กๆได้ดีเป็ นพิเศษอีกด้วย ปกติแล้วนักผสมพันธุ์แมวจะเริ่มขายลูกแมวสายพันธุ์นี้ตอนที่ พวกมันมีอายุระหว่าง 12-16 สัปดาห์ หลังจากพ้น 12 สัปดาห์ ไปแล้ว ลูกแมวควรได้รับการฉีดยาขั้นพื้นฐานให้ เรียบร้อย และควรได้รับการพัฒนาด้านร่างกายและทักษะการเข้าสังคมสำหรับการย้ายไปอยู่บ้านใหม่อย่างสม่ำเสมอ สำหรับการทำให้ น้องเหมียวสายพันธุ์นี้มีชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพดี และมีความสุขนั้น ก็หมั่นให้ มันเล่นของเล่นต่างๆ มี ที่ลับเล็บให้ มันใช้ และก็มี “ตัวคุณ” ไว้ให้ มันอ้อนนั่นแหล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์โคราช แมวโคราชนั้นถือเป็ นแมวที่เก่าแก่ที่สุดในโลกสายพันธุ์หนึ่ง และเป็ นที่รู้จักกันในประเทศไทยว่า “แมวสีสวาด” (แมวศักดิ์สิทธ์ที่นำมาซึ่งโชคลาภ) ขนที่มีลวดลายสีเงินของแมวโคราชนั้นเป็ นที่เลื่อง ลือในตำนานมากเพราะเชื่อกันว่ามันสื่อถึงความมั่งคั่งสำหรับบรรดาพ่อค้า เมฆฝนสำหรับบรรดาชาวไร่ ชาวนา และชีวิตสมรสที่มีความสุขสำหรับบรรดาเจ้าสาว ในประเทศไทยนั้น มีธรรมเนียมการมอบ แมวโคราชสองตัวให้ กับเจ้าสาวในวันแต่งงานด้วย นอกจากทวีปเอเชียแล้ว แมวสายพันธุ์นี้ได้รับ ความนิยมในสหรัฐอเมริกาเป็ นครั้งแรกในช่วงต้นยุค 50 ก่อนที่จะเดินทางไปถึงประเทศอังกฤษใน ช่วงยุค 70 แม้แต่ทุกๆวันนี้ น้องเหมียวสีสวาดก็ยังได้เป็ นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดในนานาประเทศของทั้ง สองฝั่ งมหาสมุทรแอตแลนติกเลยทีเดียว แมวโคราชนั้นมีขนสีฟ้ าสวยงาม ดวงตาของพวกมันมีขนาด ใหญ่ โดดเด่น มีสีเขียวเรืองแสง หรือสีเขียวอมทอง ที่ลุกวาวและสื่ออารมณ์ ชัดเจน น้องเหมียวสี สวาดยังเป็ นสัตว์ที่เฉลียวฉลาด และฝึ กให้ ไปเอาของเล่น หรือแม้แต่เดินโดยมีเชือกจูงได้ง่ายอีกด้วย แต่แมวสายพันธุ์นี้ก็จะแสดงให้ คุณรับรู้ชัดเจนนะว่า มันชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง โดยเฉพาะเวลาที่ คุณรับรู้ความต้องการของมันช้า แมวโคราชนั้นเป็ นแมวที่สวยงาม และมีนิสัยอ่อนโยนและเฉลียว ฉลาดโดยธรรมชาติ ซึ่งทำให้ มันสามารถสร้างความผูกพันกับเจ้าของได้อย่างใกล้ชิดเลยล่ะ ถึงแม้ว่า แมวสายพันธุ์นี้จะเหมาะกับแทบทุกบ้าน แต่เจ้าของก็ควรตระหนักว่าน้องเหมียวสายพันธุ์นี้ก็ต้องการ พื้นที่ส่วนตัว บ้างเป็ นบางเวลา ดังนั้นก็ควรมีที่เงียบๆให้ มันได้ “หลีกหนีจากความวุ่นวายต่างๆ” บ้าง นะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เมนคูน หากคุณเป็ นคอหนังหรือเป็ นแฟนตัวยงของแฮร์รี่ พอตเตอร์ คุณคงคุ้นเคย กับแมวพันธุ์เมนคูนอยู่บ้างว่าพวกเค้ามีลักษณะหน้าตาเป็ นอย่างไร เพราะคุณนายนอริสตัวละครจากภาพยนตร์ที่โด่งดังเรื่องนี้ คือแมวพันธุ์ เมนคูนนั่ นเอง จุดสังเกตของเมนคูนคือขนยาวปุกปุยและขนาดตัวใหญ่บิ๊กเบิ้ม โดยเชื่อ กันว่าเหมียวพันธุ์เมนคูนมีต้นกำเนิดจากรัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะเป็ นแมวที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุด แต่นิสัยแมวเมนคูนกลับ สงบเสงี่ยม เรียบร้อย และอ่อนหวาน พวกเค้าชอบอยู่กับคนในครอบครัว เป็ นเพื่อนที่ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่นในบ้าน รวมถึงเป็ นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมใน ครอบครัวที่มีเด็กอีกด้วย ขนยาวหนาของเหมียวพันธุ์เมนคูนมีหน้าที่สร้างความอบอุ่นให้ กับ ร่างกาย พวกเค้าจึงสามารถทนต่อสภาพอากาศที่หนาวจัด ฝนตก และ หิ มะตกได้ดี นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์แมงซ์ แมวแมงซ์เป็ นแมวที่ไม่มีหางและแตกต่างจากแมวเกือบทุกชนิดตรงที่มันไม่มีหางและรูปร่างโดยรวมของมันก็ ค่อนข้างแตกต่างออกไปเพราะพวกมันมีขาหลังยาวกว่าแมวปกติ แมวสายพันธุ์นี้วิ่งเหมือนกับกระต่าย ซึ่งดูๆแล้ว ก็น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว เหตุผลที่แมวสายพันธุ์นี้ไม่มีหางนั้นก็เนื่องมาจากยีนเด่นที่เกิดการกลายพันธุ์เมื่อนานมา แล้วซึ่งเป็ นผลมาจากการที่พวกมันอาศัยอยู่แค่บนเกาะไอล์ออฟแมน (Isle of Man) ซึ่งทำให้ มันเกิดการผสม พันธ์ในสายพันธุ์เดียวกันอย่างต่อเนื่อง ยีนที่เกิดการกลายพันธุ์นั้นส่งผลให้ เกิดกระดูกสันหลังที่ผิดรูปผิดร่าง ซึ่ง ส่งผลไปถึงแมวรุ่นอื่นๆด้วย ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ แมวเหล่านั้นก็เลยสูญเสียหางไป แต่ที่เกาะไอล์ออฟแมนนั้น ผู้คนต่างมองว่าพวกมันเป็ นแมวที่แสนวิเศษ แต่ก็มีความอยากรู้อยากเห็ นระดับทีมชาติเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นคน ที่อาศัยอยู่บนเกาะนั้นก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะพวกมันก็เป็ นแมวพิเศษที่มีความเป็ นเอกลักษณ์ จริงๆ เจ้าแมว อารมณ์ ดีเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็ น 4 กลุ่มย่อย ตาม “ปริมาณหาง” ที่มันมี ได้แก่ “รัมปี้ (Rumpy)” “รัมปี้ ไรเซอร์ (Rumpy-riser)” “สตัมปี้ (Stumpies)” และ “ลองจี้ (Longy)” เจ้ารัมปี้ นั้น ก็คือแมวแมงซ์ที่ไม่มีหางเลย ในขณะ ที่เจ้ารัมปี้ ไรเซอร์นั้นมีหางกระจุกเหมือนลูกบิดประตู เจ้าสตัมปี้ มีหางเหมือนตอไม้ ส่วนเจ้าลองจี้นั้นมีหางที่ดู คล้ายกับแมวปกติทั่วไป แมวสายพันธุ์นี้มีร่างกายกำยำ แข็งแกร่ง มีขนสองชั้นหลายสีที่เงางาม และยังมีขนนุ่ม ซ้อนอยู่ข้างใต้อีกชั้นหนึ่ง แมวแมงซ์นั้นเป็ นแมวที่เป็ นมิตรและกระตือรือร้น เหมาะแก่การเลี้ยงไว้เป็ นส่วนหนึ่ง ของครอบครัวเป็ นอย่างยิ่ง หากดูแลพวกมันได้อย่างถูกต้องแล้วล่ะก็ เหมียวแมงซ์ก็พร้อมจะมอบความรักกลับ คืนให้ เจ้าของของพวกมันหลายเท่าเลยทีเดียว ถ้าคุณกำลังมองหาแมวอยู่ แล้วเผลอมองข้ามสายพันธุ์นี้ไปล่ะก็ บอกได้เลยว่าคุณพลาดครั้งใหญ่แล้วล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์นอร์วีเจียน ฟอเรสต์ แมวนอร์วีเจียน ฟอเรสต์นั้นเป็ นแมวสายพันธุ์โบราณที่มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศนอร์เวย์เมื่อกว่า 500 ที่แล้ว บางคนยังเชื่อกันว่า แมวสายพันธุ์นี้น่าจะมีมายิ่งกว่า 2000 ปี เสียอีก เจ้าแมวแสนสวยพันธุ์นี้ยังเป็ นที่รู้จักกันในนาม เวจีย์ (Wegie) นอร์สคอร์ กกัต (Norskogkatt) สก็อกกัต (Skogkatt) หรือ นอร์สโกกัต (Norskskaukatt) ซึ่งว่ากันว่า ตามตำนานของชาวนอร์สนั้น แมวสายพันธุ์นี้เป็ นผู้สืบเชื้อสายของเหล่าบรรดาแมวเทพ และก็ยังเป็ นไปได้ว่า บรรพบุรุษของแมวสก็อกกัต (Skogkatt) นั้น ก็คือแมวสายพันธุ์ตุรกีขนยาว (Turkish longhairs) เนื่องจากจักรพรรดิแห่ งไบเซ็นไทน์หลายพระองค์จะมีผู้คุ้มกันที่มาจาก สแกนดิเนเวียนั่นเอง นับแต่นั้นเป็ นต้นมาแมวเหล่านี้ก็ถูกเลี้ยงตามทุ่งนาอยู่กลางแจ้งและคอยหาที่หลบฝนตามที่มันจะหา ได้ จึงเป็ นไปได้ว่าแมวสก็อกกัตนั้นได้วิวัฒนาการตัวเองขึ้นมาเพราะมันได้ปรับตัวเข้ากับชีวิตที่โลดโผนแบบนี้เป็ นอย่างดี สมาคมผู้ชื่นชอบแมวแห่ งประเทศนอร์เวย์ ( The Cat Fancy Association of Norway) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 1934 นั้น ได้ พิจารณาให้ แมวสก็อกกัตเป็ นแมวสายพันธ์พิเศษในปี 1938 จากนั้น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พวกกิจกรรมโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจำแนกสายพันธุ์แมวนั้นได้ถูกหยุดไป ซึ่งก็ทำให้ เจ้าแมวสก็อกกัตนี้เกือบจะถูกลืมไปเสียแล้ว แต่แล้วในช่วงต้น ยุคปี 70 กลุ่มผู้ชื่นชอบแมวก็ได้ริเริ่มโครงการเพาะพันธุ์แมวอย่างจริงจัง ในเดือนธันวาคม ปี 1975 เหล่านักผสมพันธุ์แมวชาว นอร์เวย์ ก็ได้จัดตั้ง ชมรมแมวนอร์วีเจียนฟอเรสต์ขึ้น (Norsk Skogkattring) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาแมวสายพันธุ์นี้เอา ไว้ และความพยายามของพวกเขาก็เป็ นผลสำเร็จเพราะในปี 1976 แมวสายพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็ นทางการ รูปแบบ โดยทั่วไปของแมวสก็อกกัตนั้นเป็ นแมวที่มีลายสีน้ำตาลหรือสีเทา ถึงแม้ว่าขนที่มีลักษณะกึ่งยาวกึ่งสั้นของมันจะต้องได้รับการ แปรงบ้างเป็ นบางครั้ง แต่โดยส่วนใหญ่ขนของมันก็ไม่ค่อยต้องดูแลอะไรมากนัก แต่ก็ต้องคอยหมั่นเอาพวกกิ่งไม้หรืออะไรที่ ติดตามขนของมันออกอยู่เรื่อยๆ และแม้ว่าแมวตัวนี้จะถูกมองว่ามันเป็ นแมวที่ “ถึก” แต่พวกมันก็มีด้านที่อ่อนโยนและยังขี้เล่น มีชีวิตชีวาและน่ารักอีกด้วย นอกจากนี้พวกมันยังมีนิสัยอ่อนโยนและรักเจ้าของโดยธรรมชาติอยู่แล้ว จึงอาศัยในบ้านร่วมกับ ผู้คนได้ไม่มีปั ญหา ตราบใดที่พวกมันมีของเล่น สถานที่ให้ มันปี นเล่น และที่ลับเล็บให้ พวกมัน แมวนอร์วีเจียนฟอเรสต์เข้ากับ แมวสายพันธุ์อื่นๆ และสุนัขได้ดี และยังชื่นชอบเด็กๆเป็ นพิเศษอีกด้วย แมวที่แสนฉลาด กระตือรือร้น และมีชีวิตชีวาสายพันธุ์ นี้จึงเป็ นแมวที่สวยงามและน่าสนใจสำหรับหลายๆคน นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์อ็อกซิแคต แมวสายพันธุ์อเมริกันขนสั้นนั้นเป็ นเพียงแมวเลี้ยงลายจุดสายพันธุ์เดียวที่ถูกเลือกสำหรับเพราะพันธุ์เพื่อ “เลียน แบบ” แมวป่ า แมวอ็อกซิแคตนั้นเป็ นแมวขนาดใหญ่ที่กระตือรือร้น และมีร่างกายที่แข็งแรง กำยำ มีขนแน่นสั้น เงางามแบบผ้าซาตินที่เผยให้ เห็ นลายจุดของมันอย่างชัดเจน ในปี 1964 นั้น ได้เกิดแมวอ็อกซิแคตในยุคแรกขึ้น ซึ่งเป็ นผลผลิตที่ไม่คาดคิดจากการทดลองผสมพันธุ์เพื่อผลิตแมวสยามที่มีลักษณะแบบ Aby-point แต่เจ้าลูก แมวสีงาช้างลายจุดสีทองที่ได้ออกมาแทนนั้นก็สร้างความประหลาดใจเป็ นอย่างยิ่ง และพวกมันก็ได้ชื่อนี้มา เพราะมีรูปร่างคล้ายกับเสือดาวพันธุ์หนึ่ง แมวพันธุ์นี้กลายมาเป็ นที่รักใคร่ของผู้พบเห็ นในทันที และก็มีการผสม พันธุ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ ได้แมวสายพันธุ์นี้มา เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการผสมพันธุ์แมวเลี้ยงแล้วได้เป็ นแมวที่ มีลายจุดสวยงามแบบแมวป่ าในขณะที่ยังมีนิสัยน่ารัก อ่อนโยนแบบแมวเลี้ยงมาก่อน แม้ว่าแมวอ็อกซิแคตจะดู ดุเหมือนแมวป่ า แต่ที่จริงมันมีนิสัยที่ไม่ดุร้ายเลยและยังชื่นชอบผู้คนมากอีกด้วย พวกมันค่อนข้างฉลาดและฝึ ก ง่าย แมวอ็อกซิแคตหลายตัวสามารถฝึ กให้ ไปคาบของมา หรือเดินโดยมีสายคล้อง หรือตอบสนองต่อคำสั่ง และ ปรับตัวเข้ากับกฏระเบียบในบ้านได้เป็ นอย่างดี แต่ทว่าด้วยความที่พวกมันเป็ นสัตว์ที่โดยธรรมชาติชอบเข้าสังคม แมวพันธุ์นี้จึงไม่เหมาะที่จะปล่อยให้ อยู่ตัวเดียวเป็ นระยะเวลานาน แต่เหมาะที่จะเลี้ยงไว้ในบ้านที่มีแมวหรือ สุนัขตัวอื่นไว้อยู่แล้ว แม้ว่าแมวอ็อกซิแคตจะเป็ นแมวที่ดูแปลกใหม่ แต่มันก็เลี้ยงง่าย และไม่ต้องดูแลอะไรเป็ น พิเศษ สำหรับอาหารการกินนั้นก็เหมือนกับแมวสายพันธุ์อื่นๆ และก็ไม่ต้องทำอะไรกับขนสั้นของมันมาก นอกจาก อาบน้ำและตัดแต่งขนเป็ นครั้งเป็ นคราว พวกมันไม่ค่อยมีปั ญหาเรื่องสุขภาพเท่าไหร่ และพื้นเพทางพันธุกรรมของ มันก็ทำให้ มันเป็ นสัตว์ที่มีพลังและชีวิตชีวาเป็ นธรรมชาติอยู่แล้ว นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์โอเรียนทัลขนสั้น แมวโอเรียนทัลขนสั้นนั้นเป็ นแมวที่ทั้งอยากรู้อยากเห็ นและมั่นอกมั่นใจในตัวเองเป็ น อย่างยิ่ง พวกมันเป็ นเหมือนกับ “เครื่องมอบความสุข” และของขวัญชิ้นพิเศษที่มีอยู่ใน บ้าน แมวสายพันธุ์นี้เต็มเปี่ ยมไปด้วยเสน่ห์ และความเฉลียวฉลาด และยังว่องไวแต่ก็ ไม่ลืมที่จะทำให้ ทุกๆคนที่ได้พบเจอหลงรัก! นอกจากจะเป็ นแมวที่แสนจะมั่นใจในตัว เองแล้ว แมวโอเร็นทัลขนสั้นยังชอบอยู่ร่วมกับผู้คนในครอบครัวและชอบร่วมกิจกรรม ประจำวันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ น การเล่นในสวนหรือนั่งดูโทรทัศน์รายการโปรดบนตักคุณ แมวสายพันธุ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1960 จากการผสมพันธุ์กันระหว่างแมวสยามและแมว บริติช ยูโรเปี ยน และอเมริกันขนสั้น ดังนั้นแมวสายพันธุ์นี้จึงมีลักษณะต่างๆของแมว สยาม บุคลิกนิสัยของพวกนั้นก็คล้ายกับแมวสยาม ดังนั้นพวกมันจึงมีนิสัยชอบเป็ นจุด สนใจ เป็ นมิตร และก็ชอบเอาใจใส่ต่อสิ่งต่างๆเป็ นอย่างมาก น้องเหมียวพวกนี้ยังช่าง “พูด” อีกด้วยแต่พวกมันจะไม่ค่อยเสียงดังเหมือนกับเหล่าญาติๆแมวสยามของพวกมัน น้องเหมียวเหล่านี้ยังชอบอยู่ร่วมกับผู้คน และไม่ชอบถูกปล่อยให้ อยู่ลำพังอีกด้วย พวก มันจะชอบวิ่งเข้าไปทักทายเจ้าของของพวกมันพอกลับมาถึงบ้าน ดังนั้นแล้ว อย่าลืม สนใจมันบ้างก่อนที่คุณจะไปทำอย่างอื่นล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์เปอร์เซีย หากคุณเป็ นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่อง \"สจ๊วต ลิตเติ้ล (Stuart Little)\" คุณต้องรู้จัก \"เจ้าเหมียวส โนว์เบล (Snowbell)\" หรือก็คือแมวเปอร์เซียสีขาวที่ครอบครัวลิตเติ้ลเลี้ยงไว้นั่นเอง แม้ว่าสโนว์เบลล์ จะปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะจอมขัดขวาง แต่สุดท้ายเค้าก็กลายเป็ นตัวละครที่ร่าเริงและสร้างความ อบอุ่นหั วใจให้ กับผู้ชม เช่นเดียวกับตัวละครสโนว์เบล สายพันธุ์แมวเปอร์เซียมีนิสัยอ่อนโยน เรียบร้อย และซื่อสัตย์กับ เจ้าของมาก พวกเค้าไม่ใช่แค่น่ารักอ่อนหวานเท่านั้น แต่ยังชอบอ้อนขอกอดจนทำให้ ทาสแมวต่างก็ หลงรักหั วปั กหั วปำ แม้ว่าเปอร์เซียจะต้องการความสนใจและการดูแลค่อนข้างมาก แต่โดยรวมพวก เค้าก็เป็ นสัตว์เลี้ยงที่ดีเลยหล่ะ เชื่อกันว่าเหมียวพันธุ์เปอร์เซียมีบรรพบุรุษเป็ นแมวทะเลทราย จึงมีขนหนาสองชั้นเพื่อป้ องกันตัวเอง จากสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย ซึ่งรวมถึงสภาพอากาศที่หนาวจัดด้วย แม้ว่าแมวทะเลทรายจะสามารถ ทนต่ออากาศร้อน ได้ดี แต่แมวเปอร์เซียกลับมีอุณหภูมิร่างกายสูง อากาศร้อนชื้นอาจส่งผลให้ พวกเค้า เป็ นฮีทสโตรกได้ง่าย รู้หรือไม่? แมวเปอร์เซียเป็ นหนึ่งในสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลก พวกเค้าจัดอยู่ในวงศ์ฟี ลิดีเหมือนกับ แมวบ้านและแมวป่ าพันธุ์อื่น ๆ โดยย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 17 ในประเทศอิตาลี แมวพันธุ์เปอร์เซีย ได้ถือกำเนิดขึ้นและถูกนำตัวมาจากแถบเปอร์เซียโดยปี เอโตร เดลลา วาลเล นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์แร็กดอลล์ ชื่อสายพันธุ์บ่งบอกถึงตัวตนของพวกเค้าได้เป็ นอย่างดีเลย สำหรับ “แร็กดอลล์” แมว เหมียวที่นั่งตักคุณได้นานตลอดทั้งวัน แร็กดอลล์ไม่เพียงแต่เป็ นมิตรมากเท่านั้น พวก เค้ายังน่ารักอ่อนโยนมากอีกด้วย ซึ่งทำให้ พวกเค้ากลายเป็ นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของ ครอบครัวที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงชนิ ดอื่นในบ้าน แร็กดอลล์จัดเป็ นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักตัวมาก แต่ดูแลและรับมือ ได้ไม่ยากเลย เพียงแปรงขนสัปดาห์ ละ 2 – 3 ครั้ง ก็จะทำให้ ขนเงางามเปล่งประกาย และมีสุขภาพดีได้แล้ว แมวแร็กดอลล์นิสัยรักสงบ เจ้าเหมียวแสนน่ารักเหล่านี้ไม่ได้มีร่างกายแข็งแรงปราด เปรียว จึงชอบทำกิจกรรมที่ไม่โลดโผน และชื่นชอบการซุกตัวบนตักเป็ นที่สุด เรียกว่า เป็ นเหมียวติดเจ้าของเลย! อยากรู้กันไหมว่าเจ้าเหมียวพันธุ์นี้ทำให้ คนหลงรักหั วปั กหั วปำได้อย่างไร? นอกจาก นิสัยชอบกอดชอบคลอเคลียหรือความน่ารักน่าเอ็นดูแล้ว พวกเค้ายังรักเจ้าของมาก ๆ แมวแร็กดอลล์จะคอยอยู่เคียงข้างเจ้าของเสมอ แต่จะไม่รบกวนหรือวอแวจนเกินไป ทำให้ พวกเค้าเป็ นหนึ่งในเพื่อนขนฟูที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีตารางชีวิตที่วุ่นวาย นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์รัซเซียนบลู นักผสมพันธุ์แมวหลายคนเชื่อว่าแมวรัสเซียนบลูนั้นมีถิ่นกำเนิดมาจากท่าเรือบอลติกที่อยู่บริเวณอาร์คแองเจิล ใกล้กับเส้น อาร์กติก เซอร์เคิล และถูกพามาที่ประเทศอังกฤษผ่านเรือสินค้าต่างๆ แมวสายพันธุ์นี้ถูกนำมาแสดงอย่างกว้างขวางใน ประเทศอังกฤษในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 แต่ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็ นสายพันธุ์ที่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่น พวกมันก็ มักจะถูกนำมาแสดงร่วมกับแมวขนสั้นสีฟ้ าตัวอื่นๆ ที่มีชื่อที่แตกต่างกันไป เช่น ฟอเรนบลู หรือ อาร์คแองเจิล เมื่อบรรดา แมวถูกนำมาแสดงเป็ นครั้งแรกนั้น แหล่าแมวขนสั้นสีฟ้ าต่างๆนั้นถูกจัดให้ แข่งขันกันอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็ นชนิด ไหนก็ตาม ในปี 1912 แมวรัสเชียนบลูนั้นถูกจัดให้ แข่งขันในกลุ่มแยกออกมาอีกหนึ่งกลุ่มเลย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นั้นแมวสายพันธุ์นี้เกือบจะสูญพันธุ์ไป แต่ก็ได้รับการช่วยรักษาปริมาณของมันเอาไว้ด้วยการนำไปผสมพันธุ์กับแมวสยาม แต่สุดท้ายบรรดานักผสมพันธุ์ก็ได้ร่วมมือกันที่จะทำให้ แมวรัสเซียนบลูนั้นกลับมามีลักษณะดั้งเดิมแบบช่วงก่อนสงคราม และในปี 1965 นั้น มาตรฐานในการแสดงแมวก็ได้กำหนดไว้ว่าแมวรัสเซียนบลูที่มีลักษณะของแมวสยามนั้นถือว่าเป็ น แมวที่มีลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ ทุกๆวันนี้ แมวรัสเซียนบลูที่มีขนที่งดงาม ดวงตาสีเขียวเป็ นประกายและท่วงท่าที่สง่างาม นั้นถูกนำไปเชือมโยงกับสัญลักษณ์ ของความเป็ นเชื้อพระวงศ์ ซึ่งที่น่าสนใจคือ ในอดีตพวกมันต่างก็เป็ นที่ปรารถนาของ เหล่าบรรดาซาร์ (Tsars) และขุนนางอีกด้วย บรรดาแมวรัสเซียนบลูที่สวยงามนั้นมักจะมีท่วงท่าที่ดูหยิ่งผยองแต่ก็แฝงไว้ ซึ่งจิตใจที่อ่อนโยน แมวรัสเซียนบลูของออสเตรเลียนั้นถูกนำมาผสมพันธุ์ให้ มีลักษณะมาตรฐานที่เหมือนกับแมวรัสเซียน บลูในประเทศอังกฤษแต่จะแตกต่างอย่างมากกับแมวรัสเซียนบลูในสหรัฐอเมริกา แมวรัสเซียนบลูนั้นมีขนสองชั้น ซึ่งแตก ต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นๆ ตรงที่ขนที่สั้น หนา สวยงามของมันนั้นทำให้ เห็ นขนสองขั้นของมันได้อย่างเด่นชัด และลำตัวที่ มีสีฟ้ าใสก็ทำให้ ตัวมันนั้นมีสีเงินเงาแวววาวซึ่งยิ่งทำให้ มันดูสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก เหล่าแมวรัสเซียนบลูที่ดูสง่างามและ ทรงพลังนี้ไม่ใช่แมวที่ดุดันแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ พวกมันเหมาะที่จะเป็ นสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านเป็ นอย่างยิ่ง พวกมันเข้ากับคน อื่นในบ้านได้ดี ไม่ว่าจะเป็ นผู้คนหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ หากพวกมันได้รับการดูแลและการเคารพเป็ นอย่างดี นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ แมวสก็อตติชโฟลด์นั้นเป็ นแมวที่มีรูปร่างหน้าตาในแบบฉบับของตัวเองอย่างแท้จริง จริงๆ แล้วเนี่ย ใบหู ที่แนบชิดกับหั วกลมแบนของมันทำให้ น้องเหมียวที่ดูอ่อนหวานดูราวกับว่ามัน “กำลังใส่” หมวกกันน็อคอยู่เลย แมวสก็อตติชโฟลด์ตัวแรกนั้นเกิดขึ้นในฟาร์มที่สก็อตแลนด์ ในปี 1961 แต่หลังจากนั้นมันก็ถูกนำไปผสมพันธุ์กับแมวบริติชขนสั้นเพื่อพัฒนาให้ เกิดเป็ น แมวขนาดกลางที่มีดวงตากลมโตและใบหู ที่แนบชิด น้องเหมียวสายพันธุ์นี้ยังมีหนวดที่โดด เด่นที่ทำให้ มันดูเหมือนว่ากำลัง “ยิ้ม” อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็เป็ นอะไรที่เจ้าเหมียวที่แสนจะเป็ น มิตรนี้คงทำอยู่แล้วถ้ามันทำได้ นอกจากนี้ แมวสายพันธุ์นี้ยังชอบนอนหงายหลังซึ่งต่างจาก แมวพันธุ์อื่นๆอีกด้วย โดยปกติแล้วน้องเหมียวสก็อตติชโฟลด์เป็ นสัตว์ที่อ่อนโยนและชอบอยู่ ร่วมกับผู้คนและยังชอบเป็ นคนกำกับกิจกรรมต่างๆในบ้านอีกด้วย ทว่า เจ้าเหมียวที่แสนจะ น่ารักสายพันธุ์นี้ไม่ชอบอยู่ตัวคนเดียวเสียเท่าไหร่ จึงไม่ควรปล่อยมันไว้ลำพังนานนัก หาก ใครจะเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้แต่จะไม่ได้อยู่บ้านบ่อยๆ ก็ควรเลี้ยงแมวสก็อตติชโฟลด์ไว้สองตัว ให้ มันได้อยู่เป็ นเพื่อนกัน ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย การมีแมวสายพันธุ์นี้สองตัวก็หมายความว่าคุณจะ ได้ความรักจากพวกมันเพิ่มเป็ นสองเท่ายังไงล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์สยาม ยังจำตัวละครแมวเหมียวซีและแอม (Si & Am) จากเรื่องทรามวัยกับไอ้ตูบ (Lady and the Tramp) กันได้ไหมเอ่ย? แม้จะเป็ นตัวละครที่ชอบหลอกล่อ คนอื่น แต่มิตรภาพและความเป็ นคู่หู ที่เข้าขากันของทั้งคู่ก็เป็ นเรื่องที่ยากจะ ลืมเลือน เช่นเดียวกับตัวละครฝาแฝดทั้งสองของดิสนีย์ แมวสยามได้รับ ความนิยมมากเพราะนิสัยที่เป็ นมิตรและชอบเล่นสนุก เนื่องจากมีขนสั้น แมวสยามจึงทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นและอากาศร้อน จัดได้ไม่ค่อยดี พวกเค้าอยู่ในสภาพอากาศที่ค่อนข้างอุ่นได้ดีกว่า แมวสยามได้รับการบักทึกไว้ว่าเป็ นหนึ่งในสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่ง สืบเชื้อสายมาจากวงศ์ฟี ลิดี นอกจากนี้แมวหลายสายพันธุ์ก็สืบเชื้อสายมา จากแมวสยาม อย่างน้องแมวพันธุ์บาลินีส จาวานีส และเบงกอล นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์ไซบีเรีย นฟอเรสต์ น้องเหมียวไซบีเรียนที่แสนจะโดดเด่นนี้เป็ นที่รักใคร่ของผู้คนทั่วโลกและถูกจัดให้ เป็ นแมวประจำ ชาติของประเทศรัสเซีย ถึงแม้ว่าประวัติความเป็ นมาของมันจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่ก็เป็ นที่ รู้กันว่าพวกมันเป็ นที่รักใคร่ของบรรดาผู้ชื่นชอบแมวมาเกือบ 1,000 ปี แล้ว พวกมันไปเยือนประเทศ ออสเตรเลียเป็ นครั้งแรกในปี 2003 แมวไซบีเรียนนั้นเป็ นแมวที่แข็งแรง ขนาดใหญ่และอาจใช้ เวลาถึง 5 ปี ในการโตเต็มวัย แมวสายพันธุ์นี้มีจุดเด่นในเรื่องของความคล่องแคล่ว ว่องไว และ กล้ามเนื้อทรงพลังที่ทำให้ มันสามารถกระโดดได้ไกล ขนยาวของมันนั้นนับได้ว่าเป็ นคุณสมบัติที่ ยอดเยี่ยมที่สุดของมันเลยล่ะ ซึ่งก็จะมีหลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็ น สีลายน้ำตาลเทา สีเดียวล้วน หรือสีกระดองเต่า แมวไซบีเรียนนี้เป็ นสัตว์ที่ฉลาดและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมาก พวกมันมักจะชอบมา ทักทายเจ้าของที่หน้าประตูบ้านเวลาที่กลับมาบ้าน พวกมันมีเสียงร้องที่เป็ นเอกลักษณ์ ซึ่งยิ่งทำให้ พวกมันมีคุณสมบัติที่น่ารักยิ่งเข้าไปใหญ่ แต่คุณก็ควรนึกถึงเรื่องที่ไม่คาดคิดไว้ได้เลยเวลาอยู่ร่วม บ้านกับเจ้าแมวไซบีเรียนนี้ พวกมันชอบเล่นน้ำ และเป็ นที่รู้กันว่าพวกมันชอบโยนของเล่นต่างๆลง ไปในอ่างล้างหน้าเปล่าๆ หรือลงไปในน้ำ แมวสายพันธุ์นี้ยังไม่เป็ นสายพันธุ์ที่พบได้ปกติทั่วไปนัก ในประเทศออสเตรเลีย แต่คุณก็สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับน้องเหมียวแสนสวยสายพันธุ์นี้เพิ่มเติม ได้ในข้อมูลสำหรับนั กผสมพันธุ์แมวที่ลิสต์ไว้ข้างล่างนี้ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์สิงหปุระ ตามท้องถนนในประเทศสิงคโปร์นั้น ถือได้ว่าเป็ นถิ่นกำเนิดของแมวสายพันธุ์ที่แสน วิเศษสายพันธุ์นี้ ชื่อของมัน สิงหปุระ นั้นเป็ นคำที่คนมาเลเซียใช้เรียกประเทศ สิงคโปร์ แมวสิงหปุระนั้นมีลวดลายที่ผสมผสานกันระหว่างลายเส้น (ticked-coat) และสีน้ำตาลเข้มของสายพันธุ์แมวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปั จจุบันนี้ การ พัฒนาแมวสายพันธุ์นี้อย่างระมัดระวังได้ทำให้ เกิดความหลากหลายของแมวตระกูลนี้ เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังคงเป็ นสายพันธุ์ที่เป็ นที่ต้องการอยู่ น้องเหมียวสายพันธุ์นี้สามารถพบ ได้ในเกือบทุกประเทศในโลก บางครั้งเจ้าของของมันก็ชอบมองว่ามันเป็ น “เจ้า เหมียวชอบวางอำนาจ” พวกมันชอบอยู่ร่วมกับคนอื่น ช่างอยากรู้อยากเห็ น และยังขี้ เล่นมาก แต่ไม่ต้องห่ วงนะ เพราะพวกมันไม่ทำลายข้าวของ อย่างน้อยก็ไม่ได้ตั้งใจ ทำลายข้าวของ พวกมันเป็ นแมวที่ฉลาดและชอบเล่นกับผู้คนและเป็ นเพื่อน “ร่วม ทุกข์ร่วมสุข” ได้อย่างดีเยี่ยม แมวสิงหปุระนั้นมีขนาดเล็ก ขนสั้น และดวงตาสีน้ำตาล ทอง สีเขียว หรือสีเหลืองขนาดใหญ่ สีขนของมันนั้นค่อนข้างเป็ นเอกลักษณ์ และดู เหมือนเสือภูเขา หางของมันมีความยาวปกติ และค่อนข้างแข็งแรงเลยทีเดียว ถ้าคุณ กำลังมองหาน้องเหมียวที่ไว้ใจได้ล่ะก็ แมวสิงหปุระที่งดงาม ขี้เล่น เฉลียวฉลาด และเป็ นเอกลักษณ์ นี้จะทำให้ คุณหลงใหลตั้งแต่วินาทีแรกเลยล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์สโนว์ชู แมวสายพันธุ์สโนว์ชูนั้นค่อนข้างจะเป็ นน้องใหม่ในครอบครัวแมวเหมียว ซึ่งถูกพบเจอในครอกลูกแมวสยามพันธุ์แท้ ซึ่งนับเป็ น จุดเริ่มต้นของแมวสโนว์ชูที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ นักผสมพันธุ์แมวหลายคนเห็ นตรงกันว่าแมวสโนว์ชูนี้มีอดีตร่วมกันกับแมวสยาม และแมวเบอร์แมน แต่ทุกวันนี้แมวสโนว์ชูนั้นนับว่าเป็ นอีกสายพันธุ์หนึ่งอย่างสิ้นเชิง ในตอนแรกได้มีการพยายามในการสร้าง แมวสายพันธุ์สยามที่มีอุ้งเท้าสีขาวในช่วงปี ยุค 50 โดยใข้ชื่อว่าแมวซิลเวอร์เลซ (Silver Laces) แต่ก็ล้มเลิกไปในเวลาไม่นาน นักและไม่ได้มีการสานต่อจนกระทั่งในช่วงปี ยุค 60 ซึ่งเป็ นช่วงที่ โดโรธี ฮินดส์ ดอร์เฮอร์ธี (Dorothy Hinds-Daugherty) นัก ผสมพันธุ์แมวสยามชาวฟิ ลาเดลเฟี ยได้ตัดสินใจพัฒนาสายพันธุ์แมวสยามให้ เป็ นแมวสโนว์ชูที่มีอุ้งเท้าสีขาวในแบบทุกวันนี้ ซึ่ง จากการที่มีนักผสมพันธุ์แมวให้ ความสนใจมากขึ้นและได้มีการพัฒนามาตรฐานในการผสมพันธุ์แมวให้ ดีขึ้นนั้น ได้ทำให้ แมวส โนว์ชูนั้นกลายเป็ นสายพันธุ์แมวที่ได้รับการยอมรับอย่างถาวรในปี 1982 ทุกๆวันนี้ แมวสโนว์ชูเป็ นแมวที่มีคุณลักษณะแบบก ลางๆในทุกๆเรื่อง ยกเว้นลายของมัน ลวดลายของมันได้รับผลกระทบจากการถดถอยทางพันธุกรรม จึงต้องมีมาตราการต่างๆที่เข้ม งวดเพื่อจะคงไว้ซึ่งลวดลายของมันเอาไว้ให้ เห็ นเด่นชัด แมวสโนว์ชูไม่ได้เป็ นแค่แมวสยามที่มีสีขาวเท่านั้น รูปร่างของมันนั้น เหมือนกับรูปร่างของแมวในฝั่ งตะวันออกหรือแมวต่างชาติทั่วไป และมีต้นแบบมาจากแมวสยามในยุคก่อนหน้า ดวงตาของมันนั้น เป็ นส่วนที่โดดเด่น มีลักษณะคล้ายถั่ววอลนัท (ดวงตามีขนาดกลมโตกว่าของแมวสยาม แต่ไม่กลมเท่ากับแมวเปอร์เซีย) และมีสี ฟ้ าเป็ นประกาย เจ้าเหมียวสุดพิเศษนี้เรียกได้ว่าเป็ นสัตว์เลี้ยงที่เป็ นแชมเปี้ ยนเลยล่ะ พวกมันกระตือรือร้นและมีชีวิตชีวาและจะ อยากอยู่กับคุณตลอดเวลา ดังนั้นพวกมันจึงชอบขดตัวอยู่บนตักของคุณมากกว่าไปนอนบนเตียงแมวที่ดีที่สุดเสียอีก แต่บางครั้ง พวกมันก็อาจจะเขินอายกับคนแปลกหน้าเสียหน่อยและไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ถึงกระนั้น พวกมันก็เป็ นแมวที่ ใส่ใจกับทุกๆสมาชิกในครอบครัวเลยล่ะ รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆในบ้านด้วย พวกมันยังเฉลียวฉลาดมาก และสอนพวกเกมส์ หรือฝึ กทักษะพื้นฐานต่างๆได้ง่าย ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาแมวเหมียวที่ชอบเล่นสนุกมากๆล่ะก็ แมวสโนว์ชูน่าจะเหมาะกับคุณ ที่สุดแล้วล่ะ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา

แมวสายพันธุ์โซมาลี แมวโซมาลีนั้นเป็ นแมวขนาดกลางที่สง่างาม กระฉับกระเฉง และมีร่างกายกำยำ เพียบพร้อมด้วยขนที่สวยงามและหางฟูๆเหมือนกับหางสุนัขจิ้งจอก ปกติแล้ว แมวโซมาลีจะต้องได้รับการตกแต่งขนอยู่เป็ นประจำเพื่อให้ อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แต่ลักษณะขนที่คล้ายกับใยไหมของมันนั้ นจะไม่ค่อยพันกันยุ่งเหมือนกับขนของ แมวเปอร์เซีย แมวโซมาลีเป็ นแมวที่มีขนแบบกึ่งสั้นกึ่งยาวและมีสี่สีพื้นฐาน ได้แก่ สีน้ำตาลแดงอ่อนซินนามอน สีน้ำตาลปนเหลือง สีฟ้ า และสีน้ำตาลอ่อน และมีแนวยาวเป็ นสีเงิน ในขนแต่ละเส้นของมันนั้นก็จะมีลวดลายสีดำหรือ น้ำตาลช็อคโกแลตซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะพัฒนาขึ้นมาเต็มที่ ลูกแมวโซ มาลีนั้นจะมีขนสีเข้มตอนเกิดมาและจะมีลวดลายครบถ้วนสมบูรณ์ ก็ตอนที่พวก มันมีอายุ 18 เดือน น้องเหมียวโซมาลีเป็ นแมวที่น่าหลงใหลและรักสนุก มีดวงตา รูปทรงถั่วอัลมอนด์ที่แสดงอารมณ์ อย่างชัดเจน นอกจากพวกมันจะเป็ นเพื่อนเล่น ที่ดีให้ กับเด็กๆแล้ว พวกมันยังขี้เล่นกระฉับกระเฉง อยากรู้อยากเห็ นและชอบอยู่ ร่วมกับผู้คนอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว พวกมันมีเสียงนุ่มเบาและไม่ค่อยได้ส่งเสียง เสียเท่าไหร่ นางสาวพิมรดา ศรีสารากร เลขที่37 โรงเรียนสอยดาววิทยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook