บทที่1 การทางานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณอ์ นิ พตุ เอาตพ์ ตุสาระสาคัญคอมพิวเตอรเ์ ปน็ อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ท่ที างานได้ตามโปรแกรมท่ีป้อนเข้าไป การทางานประกอบด้วย 3ขน้ั ตอนใหญ่ๆคือ การรับขอ้ มูล การประมวลผล และการแสดงผลลัพธท์ างเอาต์พุต โดยการทางานทง้ั หมดจะถกู ควบคุมดว้ ยโปรแกรมซึ่งเกิดจากการนาคาสง่ั มาตอ่ เรยี งกนั การทางานคาสั่งแต่ละคาสั่งจะใช้สัญญาณนาฬกิ าควบคมุ การทางานต่างๆ ที่เกดิ ข้ึนในหน่วยประมวลผลกลางวัตถปุ ระสงค์1.บอกความหมาย และสว่ นประกอบทส่ี าคัญของคอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คลได้2.อธบิ ายลักษณะของคอมพิวเตอรช์ นดิ ต่างๆได้3.เขา้ ใจข้นั ตอนการทางานของไมโครโปรเซสเซอร์4.ยกตัวอยา่ งและอธิบายลกั ษณะของอปุ กรณ์อินพตุ เอาต์พุต 1.1ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ (computer) เป็นอปุ กรณ์ไฟฟา้ ชนิดหนึง่ ท่สี ามารถจาข้อมลู ตา่ งๆ ได้ สามารถคิดคานวณตวั เลข สามารถตอบสนองต่อการกระทาของผู้ใชไ้ ด้ และมีความสามารถในการเช่ือมต่อกบั อุปกรณ์ไฟฟ้าบางชนิด เพอื่ สง่ั ให้อุปกรณ์เหล่าน้ันทางานตามคาส่ังได้ คอมพิวเตอร์ (ตามพจนานกุ รมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525) หมายถึงเครื่องอิเล็กทรอนิกสแ์ บบอัตโนมตั ิ ทาหนา้ ท่ีเหมือนสมองกล ใชส้ าหรบั แก้ปญั หาตา่ งๆ ทงั้ งา่ ยและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์ เครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ใ่ี ชใ้ นปจั จบุ ันประกอบดว้ ยวงจรไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ท่ีเรียกว่า ฮาร์ดแวร์(hardware) มีผลิตออกมาหลายรุ่น แต่ละร่นุ ความสามารถจะตา่ งกัน บางรนุ่ เหมาะสาหรับทางานในบ้าน บางร่นุ เหมาะใชง้ านทางกราฟิกระดับสงู แต่ถา้ หากมองสว่ นประกอบภายนอก จะประกอบด้วยองคป์ ระกอบหลัก5 ส่วน คอื หน่วยประมวลผลกลาง (central processing unit) หรอื ซพี ยี ู (CPU) หน่วยรับเข้า (input unit)หน่วยส่งออก (output unit) หนว่ ยความจาหลัก (main memory) และหน่วยความจาสารอง (secondarymemory)
หน่วยรับเข้า หน่วยรับเข้า หรืออินพุต จะมีอุปกรณ์ประกอบอยู่ เป็นส่วนที่ใช้รับข้อมูลและคาส่ังจากภายนอกเข้าสู่คอมพิวเตอร์เพื่อนาไปประมวลผล อุปกรณ์นี้ได้แก่ แป้นพิมพ์ (keyboard) เมาส์ (mouse) สแกนเนอร์(scanner) ไมโครโฟน (microphone) เครื่องสแกนลายนิ้วมือ (fingerprint) และกล้องดิจิตอล เป็นต้นอปุ กรณน์ ี้จะเปลย่ี นข้อมลู ที่มนษุ ยเ์ ขา้ ใจไปเปน็ รหสั ขอ้ มูลทค่ี อมพิวเตอรเ์ ข้าใจหน่วยส่งออก หน่วยส่งออก หรือเอาต์พุต จะมีอุปกรณ์ประกอบอยู่ เป็นส่วนท่ีใช้แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมาในรูปแบบต่างๆ ที่มนุษย์ต้องการ ตัวอย่างอุปกรณ์ได้แก่ จอภาพ (monitor) ลาโพง (speaker) และเคร่ืองพิมพ์ (printer) เป็นต้น อุปกรณ์จะทาหน้าที่เปลี่ยนรหัสข้อมูลท่ีคอมพิวเตอร์เข้าใจออกมาเป็นข้อมูลท่ีมนุษย์เข้าใจหน่วยประมวลผลกลาง เม่ือข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว หน่วยประมวลผลจะทาหน้าที่ตามคาสั่งหรือโปรแกรมทกี่ าหนดไว้ โดยโปรแกรมและข้อมลู ต่างๆ จะถกู เก็บไว้ในหน่วยความจา เม่ือประมวลผลเสร็จแล้วก็จะเกบ็ ขอ้ มูลลงหน่วยหน่วยเกบ็ ขอ้ มลู หรือส่งผลลัพธ์ออกทางเอาต์พุตต่อไปหน่วยความจา หน่วยความจาของคอมพิวเตอร์น้ัน ประกอบด้วยหน่วยความจาหลักและหน่วยความจารอง โดยหนว่ ยความจาหลักจะเปน็ ที่ใชเ้ กบ็ โปรแกรมและขอ้ มลู ท่ปี ระมวลผลอยู่ สว่ นหน่วยความจารองเปน็ อุปกรณ์เก็บข้อมูล (storage media) ใช้เก็บข้อมูลหรือคาสั่งต่างๆ ท่ีต้องใช้ในอนาคต ตัวอย่างได้แก่ การ์ดหน่วยความจา(memory card) แผ่นซีดี หรือดีวีดี (CD,DVD) หน่วยความจาแบบยูเอสบีแฟลชไดร์ฟ (USB Flash Drive)เป็นต้น
1.2 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 1.1ประเภทของคอมพิวเตอร์เครอื่ งคอมพิวเตอรส์ ามารถจาแนกไดห้ ลายประเภท ขึน้ กับขนาด ประสิทธิภาพ และลกั ษณะการใชง้ าน ท่ัวไปแลว้ สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้คอมพวิ เตอรส์ ว่ นบุคคล (Personal Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีใช้งานกันทั่วไป เป็นแบบตั้งโต๊ะเหมาะสาหรับใช้งานในบ้าน สานักงาน ราคาไม่แพง ท่ีนิยมใช้กันมีอยู่ 2 ตระกูลคือ PC-Compatible ที่มีต้นแบบเป็นคอมพิวเตอร์ของบริษัท IBM และคอมพิวเตอร์ตระกูล Apple คอมพิวเตอร์แบบ PC มีผลิตออกมาหลายรุ่นหลายแบบ ส่วนใหญ่จะใช้โปรแกรมระบบปฏิบัติการ Windows ส่วนคอมพิวเตอร์ Apple จะใช้ระบบปฏิบัติการของ Macintosh หรือที่เรียกว่าMac OS
คอมพิวเตอร์แบบโนต้ บุก๊ เป็นคอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคลขนาดเล็กมีน้าหนกั เบาสะดวกกับการเคลื่อนย้ายไปยังท่ีต่างๆ อาจเรียกได้ว่าเป็น mobile computer สามารถใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ท่วั ไปหรอื จากแบตเตอรไี่ ด้ ปจั จบุ นั คอมพิวเตอร์ประเภทน้ีจะมีประสิทธิภาพสูงไม่แพ้แบบต้ังโต๊ะ แต่หากเทียบเคร่ืองท่ีมีประสิทธิภาพเท่ากันแบบโน้ตบุ๊กจะมีราคาสูงกวา่
คอมพิวเตอร์มอื ถือ (Handheld Computer) เปน็ คอมพิวเตอรข์ นาดเลก็ เหมาะสาหรบั พกพาไปทีต่ ่างๆ เนื่องจากเครอื่ งมีขนาดเล็กจึงไม่เหมาะท่ีจะออกแบบคีย์บอร์ดไว้บนตัวเครื่อง คอมพิวเตอร์ประเภทน้ีสามารถใช้งานพ้ืนฐานทั่วไปได้ รับส่งเมล์และใช้ในการส่ือสารได้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ประเภทนี้จะรวมถึงแบบ PDA (Personal Digital Assistant) หรือ PocketPC ที่ใช้กันทัว่ ไปดว้ ย ปจั จบุ นั คอมพวิ เตอรป์ ระเภทนีย้ งั มีกล้องถ่ายภาพตดิ มาบนตัวเครื่องด้วย และสามารถใช้งานเปน็ โทรศพั ทเ์ คลอื่ นที่ได้ จงึ มกั เรยี กวา่ สมาร์ทโฟน(smart phone)เครื่องคอมพิวเตอร์เซริ ฟ์ เวอร์ เปน็ เครอ่ื งท่ีมีขนาดใกลเ้ คยี งกบั คอมพวิ เตอร์ทั่วไป แต่จะมีความสามารถสูงกวา่ คอมพิวเตอร์ประเภทนจ้ี ะใชเ้ ป็นเครอื่ งให้บรกิ ารกบั PC ตา่ งๆ ที่ต่ออยู่ในเครอื ข่าย และยังใชเ้ ป็นเครื่องใหบ้ รกิ ารบน
อนิ เตอร์เน็ตอีกดว้ ย ขนาดและประสทิ ธิภาพของคอมพิวเตอรเ์ ซริ ฟ์ เวอรม์ ีหลายร่นุ ขึ้นอยู่กบั การใชง้ านวา่ จะให้บรกิ ารกับเครือ่ งคอมพวิ เตอร์1.3 คอมพวิ เตอรย์ ุคใหม่คอมพวิ เตอรย์ ุคใหม่ คอมพวิ เตอร์ทพ่ี บเห็นทั่วๆ ไปบนโตะ๊ ทางานหรือคอมพิวเตอร์มือถือ สามารถแยกออกเปน็ รูปแบบตา่ งๆ ดังน้ีเดสก์ท็อป (Desktop) เป็นคอมพวิ เตอร์ทพ่ี บไดท้ ว่ั ไปตามบา้ นหรือสานกั งาน มีการแยกชิ้นส่วนประกอบเปน็ ซีพียูจอภาพ และแปน้ พิมพ์ เป็นต้น ปัจจบุ นั มกี ารผลิตท่เี น้นให้ความสวยงามนา่ ใชม้ ากยงิ่ ขน้ึ และไดร้ บั ความนยิ มในการใชง้ านมาก เน่ืองจากราคาไม่แพงเมื่อเทยี บกับแบบอ่ืนๆโน้ตบ๊กุ (Notebook) มีคุณสมบัติคล้ายกับเครื่อง PC ท่ีย่อส่วนลงมา มีขนาดเล็ก บางและเบา (ซึ่งส่งผลให้ราคาสูงขึ้นตามประสิทธภิ าพดว้ ย) โน้ตบกุ๊ ใชส้ าหรับงานนอกสถานทร่ี องรบั งานไดท้ กุ แบบทั้งกราฟิก เล่นเกม 3 มิติ ตัดต่อ
วีดีโอ และยังมีอุปกรณ์อานวยความสะดวกสาหรับการใช้งานและความบันเทิงครบ ใช้พลังงานจากแบตเตอร่ีซึ่งเทคโนโลยปี จั จบุ ันถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแตป่ ระหยัดไฟ บางรนุ่ ใชง้ านได้นาน 5-6 ชั่วโมงเน็ตบกุ๊ (Netbook) เป็นโนต้ บกุ๊ ขนาดเลก็ ลงไปอีก เน้นการใช้งานผ่านระบบเครือข่ายแบบไร้สาย ใช้ในงานการติดจ่อสือ่ สาร โดยเฉพาะงานด้านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก แต่ก็สามารถทางานพื้นฐานได้ เช่น พิมพ์เอกสาร เล่นเกมตัวเล็กๆ แต่ความเร็วอาจไม่มากนัก และยังถูกตัดอุปกรณ์บางส่วนออกไป เพื่อลดขนาดและน้าหนัก รวมถุงลดปรมิ าณการใช้พลังงาน เช่น ไมม่ ีไดรว์ดวี ีดี ความจขุ องฮาร์ดดิสก์น้อยแต่ราคาถูกกว่าโน้ตบุ๊กเทา่ ตวัเดสกโ์ น้ต (Desknote) มรี ูปรา่ งเหมือนเคร่อื งโนต้ บ๊กุ ทกุ ประการแต่มีสว่ นที่แตกต่างกนั คอื เดสก์โนต้ ไมม่ ีแบตเตอร่ีภายในตัวเครื่องจะใช้ไฟฟ้าแทน รวมถึงโครงสร้างภายในเครื่องเป็นชนิดเดียวกับเครื่อง PC ทาให้สามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ รวมกับเครื่อง PC ได้ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยความจา ซีพียู อุปกรณ์ประกอบอื่นๆ มีราคาถูกกว่าโน้ตบุ๊กเน่อื งจากคุณสมบัติทแี่ ตกต่างกนั
แทบ็ เล็ตพีซี (Tablet PC) หรือเรียกสั้นๆ ว่าแท็บเล็ต เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมีคุณสมบัติคล้ายโน้ตบุ๊ก แต่วิธีการใช้งานเป็นลักษณะของการขีดเขียนบนหน้าจอโดยตรง (touch screen) และปัจจุบันได้พัฒนาให้มีการใช้งานเหมือนโน้ตบุ๊ก จอภาพหมุนได้ 180 องศา พับปิดได้ ยกจอขึ้นได้ และป้อนข้อมูลได้ท้ังแบบแป้นพิมพ์ รวมถึงการใชป้ ากกา (stylus) ขนาดของแท็บเลต็ จะเลก็ กวา่ โนต้ บุ๊ก แต่ใหญ่กว่าสมารท์ โฟนสมาร์ทโฟน (Smart Phone) เปน็ โทรศัพท์ทม่ี ีระบบปฏบิ ัตกิ ารอย่ภู ายใน ทาใหส้ ามารถทางานได้มากกวา่ การโทรออกและรบั สาย เช่น กล้องถ่ายรูป การเชอื่ มตอ่ อนิ เทอร์เนต็ ที่อาจติดตัง้ มาพรอ้ มกับตัวเครื่อง นอกจากนจ้ี ะมโี ปรแกรมตา่ งๆ ทต่ี ิดต้งั มาพร้อมกบั เครื่อง (โปรแกรมเหล่านจ้ี ะถูกเรียกว่า “แอพ”) เช่น ปฏทิ นิ เคร่ืองคิดเลข สมดุบันทึก นาฬิกา เป็นต้น
1.4 ข้ันตอนการทางานของคอมพิวเตอร์ขัน้ ตอนการทางานของคอมพวิ เตอร์ ขน้ั ตอนการทางานของคอมพิวเตอรป์ ระกอบด้วย 3 ข้ันตอนใหญๆ่ คอื การรบั ข้อมูล (input data)การประมวลผล (data processing) และการแสดงผลลพั ธ์ออกทางเอาต์พุต (output result)การรับข้อมูลน้ันจะรับข้อมูลทางพอร์ตอินพุตท่ีมีอุปกรณ์อินพุตต่ออยู่ อย่างเช่น คีย์บอร์ด เมาส์ เป็นต้น ส่วนการแสดงผลลัพธ์จะแสดงออกทางจอภาพหรือเครื่องพิมพ์เป็นหลัก สาหรับวิธีการประมวลผลน้ันคอมพิวเตอร์จะอ่านโปรแกรมจากหนว่ ยความจาสารองข้ึนมาไวใ้ นหน่วยความจาหลัก (RAM) เพ่อื ประมวลผลตา่ งๆ ต่อไป1.5 ซีพียู (CPU) และการประมวลผลข้อมูล
ซีพยี ู (CPU) และการประมวลผลขอ้ มลูหากกล่าวถึงหน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์ หรือซีพียู (CPU ย่อมาจากคาว่า CentralProcessingUnit) บางคนเขา้ ใจผิดวา่ เปน็ ตัวเครอ่ื งหรอื เคส(case) ของคอมพวิ เตอร์ แต่ความแล้ว ซีพียูเป็นชิพ (chip) สารกึ่งตัวนาตัวหน่ึงที่เป็นหัวใจของคอมพิวเตอร์ ชิพตัวน้ีประกอบอยู่บนเมนบอร์ด บางครั้งเรียกว่า systemboardชิพ เป็นสารก่ึงตัวนาขนาดเล็ก ภายในบรรจุวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไว้มากมาย ประกอบด้วยทรานซิสเตอร์เป็นจานวนมาก จึงเรียกชิพต่างๆ ว่า ไอซี (IC) หมายถึงวงจรรวม (integrated circuit) ในอดีตหน่วยประมวลผลกลางนี้มีขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันเม่ือนาสารกึ่งตัวนามาใช้ก็ทาให้หน่วยประมวลผลกลางถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง โดยรวมวงจรต่างๆ ไว้ในชิพเดียว ชิพตัวนี้เรียกว่า ไมโครโปรเซสเซอร์(microprocessor) กล่าวได้ว่าคอมพวิ เตอร์ในปจั จุบันมไี มโครโปรเซสเซอร์เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ภายในประกอบด้วยส่วนประกอบสาคัญใหญ่ๆ 3 ส่วนคือ หน่วยควบคุม (control unit) หน่วยกระทาทางคณิตศาสตร์และลอจิก (arithmetic logic unit) หรือเรียกส้ันๆ ว่า ALU และหน่วยเก็บข้อมูลช่ัวคราวภายในซพี ียูท่มี ีช่ือวา่ รจี ีสเตอร์ (register)หนว่ ยควบคมุ (control unit) เป็นตัวควบคุมอุปกรณ์ท้ังหมดภายในคอมพิวเตอร์ ควบคุมทิศทางการรับส่งข้อมูลต่างๆ ให้ทางานได้ถูกต้อง ควบคุมขั้นตอนการทาคาสั่งของคอมพิวเตอร์ การประมวลผล และการใช้บัสต่างๆ ในการรับส่งข้อมูลหนว่ ยประมวลผลทางคณิตศาสตรแ์ ละลอจกิ (ALU) วงจรในส่วนนี้จะทาหน้าท่ีในการคานวณต่างๆ ทางคณิตศาสตร์และลอจิก กล่าวได้ว่าหากข้อมูลคอมพิวเตอร์มีการเปล่ียนแปลงจะต้องเกิดจากวงจรในส่วนน้ีท้ังสิ้น การประมวลผลทางคณิตศาสตร์ไดแ้ ก่ การบวก ลบ คูณ หาร รวมถึงการเปรยี บเทียบขอ้ มูลตา่ งๆ เป็นต้นไซเคิลคาสั่ง (Machine Cycle) จากทกี่ ลา่ วไว้แลว้ วา่ โปรแกรมเกิดจากการนาคาส่ังมาต่อเรียงกัน เมื่อคอมพิวเตอร์ทางาน หน่วยควบคุมจะทาการอา่ นคาส่ังตา่ งๆ เข้ามาประมวลผลในซพี ยี ู ข้ันตอนการทาคาสั่งของซีพียูประกอบด้วยขั้นตอนพืน้ ฐาน 4 ข้นั ตอน เรยี กวา่ ไซเคลิ คาสั่ง ประกอบด้วย 1. Fetching 2. decoding 3.executing 4. storing
ข้ันตอนท่ี 1 fetching เร่ิมแรกหน่วยควบคุมของซีพียูจะอ่านรหัสคาสั่งและข้อมูลท่ีจะประมวลผลจากหน่วยความจา RAM มาเกบ็ ที่ซีพยี ูข้ันตอนที่ 2 decoding เมื่อรหัสคาสั่งเข้ามาอยู่ในซีพียูแล้ว หน่วยควบคุมจะถอดรหัสคาสั่ง ว่ารหัสน้ีต้องการให้ซีพยี ูทาอะไร เพอื่ ใหซ้ ีพยี ปู ระมวลผลต่อไปขนั้ ตอนที่ 3 executing เมื่อถอดรหสั คาส่ังและทราบแลว้ วา่ ตอ้ งการทาอะไร ซพี ยี ูก็จะทาตามคาสั่งนน้ัข้ันตอนที่ 4 storing หลงั จากทาคาส่ังกจ็ ะเกบ็ ผลลพั ธ์ท่ไี ด้ไวใ้ นหนว่ ยความจาหลกั ของเครื่องคอมพวิ เตอร์ ซีพียูยุคเก่าการทาคาส่ังแต่ละคาส่ังจะต้องทาไซเคิลคาสั่งให้จบก่อนจากน้ันจึงทาคาสั่งต่อไปสาหรบั ในยคุ ปัจจุบันไดม้ กี ารพัฒนาให้ทางานได้เร็วขึ้น โดยมาการแบ่งไซเคิลคาสั่งนี้เป็นไซเคิลย่อยๆ อีกมีการนาเทคนิคไปปไ์ ลน(์ pipeline) มาใช้ โดยขณะทที่ าไซเคลิ คาสัง่ แรกอยู่ก็มีการอ่านรหสั คาสั่งถัดไปเข้ามาด้วย ทาใหก้ ารทางานโดยรวมเรว็ ขน้ึรจี สี เตอร์ (Register) หน่วยเก็บข้อมูลขนาดเลก็ ที่อยูภ่ ายในซีพยี ู มีความเรว็ ในการอ่านเขยี นข้อมูลสูงเรียกว่า รีจีสเตอร์จะใชใ้ นการเกบ็ ข้อมลู และคาส่งั ชั่วคราวเพื่อรอการประมวลผล ตัวอย่างเช่น หากต้องการให้ซีพียูบวกเลข เม่ือซพี ียูรับข้อมูลตัวเลขเข้ามา ก็จะไปเก็บในรีจีสเตอร์ก่อนจึงส่งให้ ALU บวกเลข และเม่ือบวกเลขเสร็จแล้วก็จะสง่ ผลลพั ธ์มาพกั ไว้ในรีจีสเตอร์ ก่อนท่ีจะส่งออกไปเก็บในหน่วยความจาหลักสัญญาณนาฬกิ าของระบบ (System Clock) ระบบคอมพิวเตอร์จะใชค้ ริสตัล (crystal) ขนาดเล็กเป็นตัวควบคุมสัญญาณนาฬิกาของระบบ โดยมีการออกแบบไว้ข้ันตอนการทางานหนึ่งๆ จะใช้สัญญาณนาฬิกากี่ลูก หากสัญญาณนาฬิกาที่ป้อนเข้ามามีความถีส่ งู จะทาให้การทางานนน้ั ๆ เร็วขนึ้ เนื่องจากค่าความถท่ี ี่สูงทาใหส้ ญั ญาณนาฬิกาหนึ่งลูกใช้เวลาน้อยลงปัจจุบันความถ่ีของสัญญาณใช้เป็นตัวบอกความเร็วของซีพียูได้ หน่วยวัดจะใช้หน่วย hertz ซ่ึง 1 hertzหมายถงึ สัญญาณนาฬิกา 1 ลูกต่อวินาที สาหรับหนึ่งกิกะเฮิร์ด(GHz) หมายถึงสัญญาณนาฬิกาหนึ่งพันล้านลูกตอ่ วินาที ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตซีพียูพัฒนาไปมาก มีออกมาหลายรุ่นหลายตระกูล แต่ละรุ่นมีความสามารถแตกต่างกัน เทคโนโลยีเหล่าน้ีเกิดจากการที่สามารถบรรจุทรานซีสเตอร์ลงในชิพซีพียูได้มากขึ้นเม่ือบรรจุได้มากก็สามารถวงจรที่ซับซ้อนได้มากข้ึน ซีพียูยุคแรกๆ ในปี 1970 มีทรานซีสเตอร์บรรจุอยู่ไม่ถึง
หน่ึงหม่ืนตัว เม่ือเทคโนโลยีการผลิตชิพพัฒนามากขึ้นทาให้บรรจุทรานซีสเตอร์ได้มากขึ้น จนในปัจจุบันมีการบรรจุอยู่หลายล้านตัว ทาใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพการทางานสูงขน้ึ มาก1.6 หน่วยความจาของคอมพิวเตอร์หนว่ ยความจาของคอมพวิ เตอร์ หน่วยความจา (memory) เป็นอุปกรณ์ที่สาคัญการทางานของระบบคอมพิวเตอร์ ทาหน้าที่เป็นตัวพักข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้ เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยประมวลผลกลางอีกทีหนึ่ง ในระบบคอมพิวเตอร์มีหน่วยความจาอยู่หลายส่วน หน่วยความจาที่มีอยู่ภายในตัวซีพียูก็คือรีจีสเตอร์ แต่เน่ืองจากในซีพียูมีจีสเตอร์อยู่จากัดจึงจาเป็นต้องต่อหน่วยความจาเพ่ิมภายนอก หากแบ่งรูปแบบของหน่วยความจาของระบบคอมพิวเตอร์จะแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ หน่วยความจาหลักและหน่วยความจาสารอง โดยหน่วยจาหลักเป็นหน่วยความจาท่ีคอมพิวเตอร์ใช้เก็บข้อมูลและคาส่ังที่ต้องการประมวลผลในงานน้ันๆ ส่วนหน่วยความจาสารองคอมพิวเตอร์จะเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่อาจใช้ในอนาคต หากคอมพิวเตอร์ต้องการทางานโปรแกรมใดๆ จะต้องนาโปรแกรมจากหน่วยความจาสารองข้ึนมาเก็บในหน่วยความจาหลักเสมออย่างเช่น ในฮาร์ดดิสก์ มีข้อมูลและโปรแกรมใดก็จะต้องนาโปรแกรมจากฮาร์ดดิสก์ขึ้นมาเก็บในแรม (RAM)ซ่ึงเป็นหนว่ ยความจาหลักนัน่ เองหนว่ ยความจาหลัก หน่วยความจาหลักเป็นหน่วยความจาที่ทางานใกล้ชิดกับซีพียูโดยตรง ทาหน้าท่ีเก็บข้อมูลและโปรแกรมท่ีซีพียูกาลังประมวลผลอยู่ในขณะนั้น ถ้าหากต้องการให้คอมพิวเตอร์ทาโปรแกรมใดจะต้องนาโปรแกรมมา เก็บไว้ในหน่วยความจาหลักนี้ หน่วยความจาหลักแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ รอม (ROM)และแรม (RAM)
หน่วยความจารอง หนว่ ยความจารองใช้สาหรับเก็บคาสั่งและข้อมูลท่ีคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช้ในทันทีทันใด แต่ต้องการใช้ในอนาคต หน่วยความจาสารองมีอยู่หลายชนิดขึ้นกับเทคโนโลยีท่ีใช้ในการบันทึกข้อมูล บางประเภทเก็บข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีแบบแม่เหล็ก บางประเภทเก็บข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีทางแสง ตัวอย่างของหนว่ ยความจารองเช่น ฮาร์ดดิสก์ (harddisk) แผ่นซีดี (CD) แผน่ ดีวดี ี (DVD) ,หน่วยความจาแบบยูเอสบีแฟลชเปน็ ต้น
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: