109 การติดตา (Budding) การตดิ ตา 1 เปนวธิ ีการขยายพันธุพืชทีน่ าํ เอาสวนตาของพืชตนหนงึ่ ไปตดิ กับพืชอีกตนหนึง่ เพอ่ื ใหต าของพชื เจริญเติบโตเปน พชื ตน ใหม สวนตน ตอน้ันเปนตน พชื ท่ีแข็งแรง หาอาหารเกง เจรญิ เตบิ โตเรว็ ทนตอสภาพแวดลอมทไี่ มเหมาะสมไดด ี พืชทนี่ ยิ มขยายพนั ธุด ว ยการติดตาไดแ ก ไมด อก ไมป ระดบั และไมผล รปู ภาพการการตดิ ตากหุ ลาบ 2 การติดตาแบง ออกเปน 5 วธิ ี 3 คอื 1. การตดิ ตาแบบตวั ที ( T-budding ) นิยมทาํ กบั พืชที่ลอกเปลือกงาย และเปลือกลอ น เชน สม พลับ ทอ ฯลฯ 2. การตดิ ตาแบบเพลท ( Plate budding ) นยิ มทาํ กับพชื ท่ีลอกเปลอื กงาย เชน ขนนุ เงาะ มะขาม มะมว ง ฯลฯ 3. การติดตาแบบแพทช ( Patch budding ) นิยมทาํ กับพืชท่ีลอกเปลอื กงาย เชน สม นอ ยหนา ยางพารา อาโวคาโด ฯลฯ 4. การติดตาแบบชิพ ( Chip budding ) นิยมทํากับพชื ทลี่ อกเปลอื กยาก เชน องนุ ฯลฯ 1 วลั ลภ พรหมทอง. เคล็ดลับการขยายพนั ธพุ ชื เปน อาชีพ. หนา 50 2 ภาควิชาพชื สวน คณะเกษตรศาสตร มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม. การตดิ ตา.(homepage) (1 เมษายน 2548). Available from : URL:http://web.agri.cmu.ac.th/hort/course/359301/pprop/8.budding/Budding .html 3 สมชาย สุคนธสิงห. เกษตรยคุ ใหม. หนา 18-19
110 5. การติดตาแบบซอน ( Double working by budding ) นยิ มทํากบัพชื ทก่ี ่ิงพันธแุ ละตน ตอไมสามารถประสานกนั ได เชน สาลี่ และพืชเมอื งหนาวอน่ื ๆ การตดิ ตาแบบตัวที ( T-budding ) เปน วิธีทด่ี ไี ดรบั ความนยิ มในการติดตามากท่สี ดุ สามารถทาํ ไดง า ยและรวดเร็ว นยิ มขยายพนั ธพุ ืชท่ลี อกเปลือกงาย เปลอื กไมบ าง หรือหนาเกินไป เชน สม กหุ ลาบ พุทรา มีขนั้ ตอนดงั น้ี 1. กรดี ตนตอใหลกึ ถงึ เนอ้ื ไม ยาวประมาณ 2 น้วิ 2. กรดี ขวางใหเ ปน รูปตวั ที่ (T)
1113. เผยอเปลอื ก4. เฉอื นแผนตาของก่งิ พันธดุ ี ใหต ดิ เน้อื ไม เลก็ นอ ยเปน รปู โล5. ลอกเนอ้ื ไม
112 6. สอดแผนตาลงในแผลทเี่ ตรยี มไว และ ตดั สว นทีเ่ กนิ ทง้ิ ไป 7. พนั ผาพลาสตกิ ใหแ นน ตาก่ิงพนั ธุดีตน ตอ วธิ กี ารตดิ ตาแบบตวั ที
113 การตดิ ตาแบบเพลท ( Plate budding ) เปนการขยายพันธุพ ืชวิธหี นงึ่ ท่ีนยิ มทาํ กบั ตนตอทม่ี ีเปลือกหนากวา แผน ตา และสามารถลอกเปลอื กได ขนาดของตน ตอควรมเี สน ผาศูนยกลางมากกวา 0.5 นวิ้ ใชไ ดดกี ับพืชท่ตี ดิ ตาไดย าก และมยี างเชน ยางพารา มะมวง เงาะ อาโวคาโด 1. กรดี ตน ตอใหล ึกถงึ เนอ้ื ไมยาวประมาณ 2 นว้ิ 2 รอย 2. กรดี ขวางระหวางรอยท้ังสอง 3. เปดเปลอื กตนตอ
114 4. เฉือนแผนตาของก่งิ พนั ธดุ ี เปนรูปโล 5. ลอกเนื้อไม. 6. สอดแผน ตาลงในแผลทเี่ ตรยี มไว5.
115 7. พนั ผาพลาสติกใหแ นน ตากิ่งพนั ธดุ ี ตนตอ วิธีการตดิ ตาแบบเพลท การติดตาแบบแพทช ( Patch budding ) เปน วธิ ีทน่ี ยิ มใชก บั พืชท่ตี ิดงา ยมีเปลอื กหนา และสามารถลอกเปลือกได เชน วอลนทัอาโวคาโด ขนาดของตนตอและก่ิงพนั ธุดีใกลเคยี งกนั มีขน้ั ตอน ดงั นี้
1161. กรดี เปลอื กของตน ตอถงึ เน้อื ไม 2 รอยยาวประมาณ 2 นิว้2. กดี ขวางทัง้ บนและลา ง3. ลักษณะของแผลทเี่ ตรยี มเสร็จแลว
1174. เฉอื นแผน ตาของกงิ่ พันธดุ เี ปนรปู โล5. ลอกเนือ้ ไม6. ประกบแผน ตาลงในแผลทีเ่ ตรยี มไว
118 7. พันผา พลาสตกิ ใหแ นน ตาก่ิงพันธดุ ี ตน ตอ วธิ ีการติดตาแบบแพทช การตดิ ตาแบบชิพ ( Chip budding ) เปน วธิ ตี ดิ ตาทใี่ ชก ับพืชทลี่ อกเปลอื กไมไ ด มีเปลือกบาง หรอื ตน ทอ่ี ยใู นระยะพกั ตวัมกั ใชก บั พืชทไ่ี มม ียาง มีขนาดเสน ผาศนู ยก ลางประมาณ 0.5-1.0 น้ิว เชน องุน มีข้นั ตอนดงั นี้
1191. เฉอื นตนตอใหลกึ เขาเนื้อไมย าวประมาณ 1 นว้ิ2. เฉือนโคนแผลใหเหลอื เปน ล้ินไว3. ทป่ี ลายแผลดา นบนเฉอื นเฉยี งลง
1204. เฉอื นใหจ รดรอยทท่ี าํ ไว5. ลกั ษณะของแผลที่เตรียมเรยี บรอยแลว6. เฉอื นปลายแผน ตาเฉียงลง
1217. เฉือนปลายอีกดานหนงึ่ เชน เดยี วกนั8. สอดแผนตาลงแผลของตนตอ9. พันผาพลาสตกิ ใหแ นน
122 ตากิ่งพันธุด ี ตน ตอ วธิ ีการติดตาแบบชิพ การติดตาซอน (Double working by budding ) เปนวิธีการตดิ ตาท่ีใช ตนตอกลาง เปนชิน้ สว นชว ยใหเ กดิ รอยประสาน ท้งั กับตนตอและกิ่งพนั ธดุ ี เพ่ือหลกี เลี่ยงปญหาการเขากนั ไมได ของตนตอกบั ก่งิ พนั ธุดี มีข้ันตอนดังน้ี 1. กรดี เปลอื กตน ตอถึงเนือ้ ไม ยาวประมาณ 1 นวิ้ 2
1232. กรีดตามขวางเพือ่ ทําเปน รปู ตัวที3. เผยอเปลอื ก4. เฉือนตน ตอกลางเปนรปู โลทิง้ ไป
1245. แลว เฉอื นอกี ครั้งหน่ึง6. เฉอื นแผนตาตน ตอพันธดุ เี ปน รปู โล7. เ7อ.าแกผลนางตาซอนบนแผน ตน ตอ
1258. สอดแผนตาลงไปในรอยแผลของตน ตอที่เตรียมไว9. ใชมดี ตัดสว นเกนิ ออก10. พนั ผาพลาสตกิ ใหแ นน
126ตนตอ ตาก่ิงพนั ธดุ ี วางตาซอ นกัน ตน ตอกลาง วิธกี ารติดตาแบบซอน
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: