2 I LIKE เทกลอ้ งคนิคการใช้กลอ้ งฟิลม์ ฟิ ลม์ กลอ้ งฟลิ ์มมหี ลากหลายประเภท ทง้ั แตกตา่ งกันที่ ขนาด วสั ดทุ ใ่ี ช้ ความสามารถในการพกพา กลอ้ ง ใหญม่ ยั้ หนกั มยั้ ต้องการความง่ายในการถา่ ยขนาดไหน มที ั้งแบบ ยกขน้ึ มาแลว้ กดถา่ ยไดเ้ ลย(เราเรยี กว่า Point&Shoot) ยนั ไปจนปรับโฟกสั เอง ปรบั ค่ารรู บั แสงเอง(f) ปรบั คา่ ความเร็วชตั เตอร์ (Shutter Speed) เอง เอางา่ ยๆคอื ปรับ ทุกอย่างเองมาแนวสายโหด โดยกล้องฟิล์มทจี่ ะพูดถึงในวันน้นี ้ันจะเป็นกล้องท่ใี ชฟ้ ลิ ์มขนาด Small Format ใช้ ฟิลม์ 35mm หรือทเี่ รียกว่า 135 เปน็ หลกั ตอ้ งร้วู ่าตนเองต้องการทีจ่ ะควบคุมกลอ้ งได้มากแคไ่ หน อยากถ่ายง่ายๆ ให้กล้อง จัดการใหท้ ้งั หมด หรอื วา่ อยากจัดการด้วยตนเอง ถ้าอยากตอ้ งการให้กลอ้ งจดั การ ใหท้ ง้ั หมด เรามหี น้าที่จดั องคป์ ระกอบภาพอยา่ งเดียว ก็แนะนำ� ไปเลน่ กลอ้ งทเ่ี ป็น ประเภท Compact เลยครบั หรอื ถา้ อยากควบคมุ เองบ้างหรอื ควบคุมเองทง้ั หมด ก็ ไปเล่นกลอ้ งที่สามารถปรับ ความไวชตั เตอร์ ช่องรบั แสง หรอื การปรบั ความชดั เองได้ )มที ั้งแบบควบคมุ เองทง้ั หมด หรอื ก่ึงอตั โนมัต(ิ กลอ้ งควบคมุ ใหบ้ างส่วน
I LIKE 3 รปู แบบการท�ำงานของกลอ้ งฟิล์ม มีอยู่ กล้องฟิลม์ Rangefinder แบบภาพซ้อน กล้องฟิล์มแบบ Manual ประมาณ 2 แบบ เปน็ กลอ้ งที่เหมาะส�ำหรับมือใหมท่ ีจ่ ะเรม่ิ เล่น คือกลอ้ งฟิล์มทีส่ ามารถปรบั การใช้งานได้ 1. กลอ้ งระบบกลไก (Mechanic) กล้องฟิล์มนะครับเนื่องดว้ ยตัวของกลอ้ งชนิด อย่าง Flexible หรอื เอางา่ ยๆ ปรับคา่ ตามท่ี คอื กลอ้ งฟลิ ม์ ประเภทน้ี เปน็ กล้องท่ีมีกลไก น้ีเป็นกล้องทไ่ี มใ่ หญ่มากนกั (สำ� หรับบางตวั ) เราต้องการน่นั แหละ ไมว่ ่าจะคา่ รูรับแสง(F) การท�ำงานผา่ นระบบฟนั เฟอื ง อาจจะมวี ัดแสง หรอื ไปจนถงึ เลก็ ๆเลยก็มี และด้วยระบบใน หรอื คา่ ความเร็วชัตเตอร์(Shutter Speed)เรา เสริมเข้ามาเป็นระบบไฟฟ้าในบางส่วน การโฟกัสของเจ้าตวั นนี้ ้นั เหมาะส�ำหรับมอื สามารถปรบั ได้อยา่ งอสิ ระ ซึง่ กล้องประเภทน้ี 2. กลอ้ งระบบไฟฟา้ (Electronic) ใหมม่ าก ซ่งึ โดยพ้ืนฐานจรงิ ๆแลว้ เจ้ากล้องตัว ราคาจะสงู กวา่ แบบอน่ื นดิ นงึ ครับ (บางตัวอาจ คือ กลอ้ งทม่ี ีกลไกการท�ำงานผ่านระบบไฟฟา้ น้ีน่ีรูปแบบการเลง็ ภาพจะคลา้ ยคลึงกบั เจ้าตวั จะแถมโหมดออโตม้ าใหใ้ นตวั ด้วย เรยี กได้ว่า โดยสว่ นใหญ่แลว้ ฟังคช์ น่ั การทำ� งานจะมีให้ กะระยะครับ ก็คอื กระจกมองภาพจะแยกกบั ใช้ได้ตงั้ แตม่ ือใหม่ยนั มอื โปรเลยทีเดียว) เลน่ มากกวา่ ตัวกลไก เช่น ระบบชดเชยแสง เลนสโ์ ดยสิ้นเชิง แตม่ ีการบอกจุดโฟกัสเขา้ มา กล้องฟลิ ์มแบบ Manual (EV), การต้ัง Timer ท่ีแม่นย�ำกว่า, ระบบ ให้ด้วยนั่นเอง ทำ� ให้การโฟกัสนั้นแม่นยำ� ย่ิงขน้ึ คอื กล้องฟลิ ์มทีส่ ามารถปรับการใช้งานได้ บันทกึ วนั ท่ีลงบนรูปภาพ, โหมดAuto โดยถ้าหากเรามองเขา้ ไปในช่องมองภาพ จะมี อยา่ ง Flexible หรือเอางา่ ยๆ ปรบั ค่าตามที่ กล้องฟลิ ์ม Rangefinder แบบกะระยะ จดุ โฟกัสสีเหลอื งตรงกลาง เราตอ้ งการนัน่ แหละ ไม่วา่ จะค่ารูรับแสง(F) Concept ของกลอ้ งประเภทน้ี จะเป็นแนว กล้องฟลิ ์ม Single-Lens Reflex(SLR) หรอื ค่าความเร็วชัตเตอร์(Shutter Speed)เรา Point&Shoot (ยกขึ้นมาถา่ ยแชะ ถ่ายแชะ) กลอ้ งชนดิ นีผ้ มคิดวา่ เพื่อนๆคงไดย้ นิ คำ� วา่ สามารถปรับไดอ้ ยา่ งอิสระ ซ่ึงกลอ้ งประเภทน้ี เนน้ วอ่ งไว เน้นพกพาสะดวก เพราะกลอ้ ง DSLR มาไม่มากก็นอ้ ยใชม่ ้ยั ครับ ซึ่งจรงิ ๆเจา้ ราคาจะสงู กว่าแบบอืน่ นดิ ประเภทน้สี ่วนใหญ่จะมนี ำ้� หนกั เบา โดยช่อง DSLR น่กี ย็ อ่ มาจาก Digital Single-Lens มองถา่ ยจะเปน็ เพยี งกระจกไว้มองภาพ การ Reflex น่นั แหละ เอางา่ ยๆคอื แคเ่ ตมิ Digital ทำ� งานนัน้ จะแยกกับตัวเลนสอ์ ยา่ งสิน้ เชิง กค็ อื ไปขา้ งหนา้ เท่าน้ันเอง ซง่ึ ข้อดขี องกล้องชนดิ มไี ว้เลง็ ภาพเฉยๆนนั่ แหละ สว่ นในการโฟกัส นี้คอื เราสามารถหาจุดโฟกสั ผา่ น Viewfinder ผู้ถา่ ยจะตอ้ งกะระยะโฟกสั ระหวา่ งวัตถุท่ี ได้เลยครบั ช่วงเวลาท่ีเราจดั วางองคป์ ระกอบ เราจะถ่าย กบั ระยะของตวั กลอ้ ง จะมีระยะ ของภาพ ภาพมองกบั ภาพทีถ่ ่ายออกมากจ็ ะเห โฟกัส 1เมตร, 1.5เมตร, 3 เมตร และไปจนถึง มือนกนั เป๊ะๆ infinity คอื ววิ ไกลๆชดั หมด ซง่ึ เวลากะโฟกัสนี่ หลักการท�ำงานของเจ้าตวั นคี้ ือ แหละ ท่ีเราจะตอ้ งคาดเดาวา่ โฟกสั เข้าแล้ ตัวภาพจะทอดแสงผา่ นเขา้ มาทางเลนส์กล้อง วหรือยงั กล้องประเภทน้ีสว่ นใหญ่มากับเลนส์ กระทบกับกระจกสะทอ้ นภาพ ผา่ นไปยงั ปรซิ ่มึ ทีโ่ คตรคมเพอ่ื ลดความผดิ พลาดในการโฟกสั และตัวปรซิ ม่ึ จะสะทอ้ นมาทางชอ่ งมองภาพ ท่ี โดยการบอกระยะหา่ งโฟกสั บางตัวจะบอก เรามองเหน็ ตอนเลง็ ถา่ ยรปู นน่ั เอง ระยะโฟกัสเป็นเลขระยะ หรือ บางตวั จะเป็น สญั ลักษณต์ ามระยะของกล้อง รูปคนครึ่งตัว = 1 เมตร รปู คนสองคน = 1.5 เมตร รปู คนสามคน = 3 เมตร ภเู ขา = infinity ซงึ่ กลอ้ งทโี่ ฟกสั แบบกะระยะน้ีดเู ผนิ ๆอาจใช้ ยาก แตห่ ากใชจ้ นช�ำนาญแลว้ ล่ะก็ เป็นตัวทมี่ ี ความรวดเรว็ ในการถา่ ยและใชง้ าน จะสังเกตเห็นว่า ชอ่ งมองภาพจะเป็นแค่ ช่อง กระจกธรรมดาๆ เทา่ นนั้
4 I LIKE
I LIKE 5 งานประเพณแี ห่เทียนพรรษา เปน็ งานประเพณที ร่ี วมความผูกพนั ของชุมชน ท้องถ่นิ โดยเริ่มตง้ั แตก่ ารทีช่ าวบา้ นรว่ มบริจาคเทียนเอามาหลอม หล่อเป็น เทียนเล่มใหญเ่ ลม่ เดียวกนั เปน็ การแสดงออกถึงความสามัคคีกลมเกลียวในหมู่ คณะไปในตวั การสรรหาภูมิปัญญาชาวบ้าน ทม่ี ฝี มี อื ทางช่าง มคี วามรู้ ความ ช�ำนาญในเรอ่ื ง การท�ำลวดลายไทย การแกะสลักลวดลายลงบน ตน้ เทียน การ ท�ำเทยี นใหเ้ ปน็ ลายไทย แล้วน�ำไปตดิ บนตน้ เทยี น การประดบั ดว้ ยผ้าฝา้ ย ผา้ ไหม ดอกไม้สด ล้วนแล้วแต่เป็นฝมี อื ของชา่ งในท้องถ่นิ สว่ นการจัดขวนแห่ก็ ลว้ นแต่ใช้ของพื้นเมอื ง เชน่ เครอื่ งแต่งกายขอขบวนฟอ้ น จะใชผ้ า้ พ้นื เมืองเป็น หลัก การฟอ้ นรำ� จะใชท้ ่าร�ำทีด่ ัดแปลงมาจาก วิถีชีวิต การท�ำมาหากินของชาว บา้ น เป็นทา่ ร�ำในรูปแบบของศลิ ปะท่ีงดงาม ดนตรปี ระกอบกเ็ ปน็ เครื่องดนตรี ประจำ� ถ่ิน ผสมเขา้ กับการขับร้องทสี่ นุกสนานเรา้ ใจ ทำ� ให้งานประเพณนี ้ีย่งิ ใหญ่ ประชาชนตา่ งเฝา้ รอคอย ศิลปะการฟอ้ นรำ� ทน่ี ิยมนำ� มาประกอบการแสดงในขบวนแห่ คือ การ รำ� เซ้ิงตา่ งๆ เช่น เซงิ้ กระลอ เซ้ิงกระติบ เซิง้ สวงิ เซิ้งแหย่ไขม่ ดแดง ซึ่งดดั แปลง มาจากการประกอบอาชีพในวิถชี วี ิต ประจำ� วันท้ังสน้ิ งานแห่เทียนพรรษา เปน็ งานทที่ �ำให้คนวยั รนุ่ หนุ่มสาว ไดม้ โี อกาสได้ ใกลช้ ิดและสัมผสั กบั ศิลปวฒั นธรรมอยา่ งใกลช้ ิด นบั ตั้งแตก่ ารเขา้ เป็นอาสา สมัครช่วยเหลอื เปน็ ลูกมอื ชา่ งของทางวดั ในการแกะสลกั ท�ำลวดลายต้นเทยี น ค้นคว้าหาวิธกี ารท�ำเพียรพรรษาใหว้ จิ ิตรพิศดาร งดงาม แต่ประหยัดการเข้า รว่ มในขบวนแห่จะเป็นการผสมผสานระหวา่ งคนร่นุ เกา่ กบั คนรุ่นใหม่ เช่น การ เลน่ ดนตรพี ืน้ บา้ น โปงลาง หรอื เป่าแคน จะมที งั้ ผสู้ ูงอายแุ ละคนหน่มุ สาว ส่วน ขบวนฟอ้ นร�ำ จะใชเ้ ดก็ ๆ ร่นุ เยาว์ ถึงวัยหนุ่มสาวมากกวา่ คนสงู วัย ซึ่งคาดหวัง ได้วา่ ประเพณีวฒั นธรรมท้องถ่ิน จะสืบทอดต่อไปอีกยาวไกล
6 I LIKE กล้องเเบบ SLR กล้องฟลิ ์ม SLR (Single Lens Reflex) : เปน็ กลอ้ งฟลิ ม์ ที่ กล้องเเบบRF จะมีลกั ษณะการโฟกสั ผา่ นเลนส์ กลา่ วคอื ในชอ่ งมองภาพ (View Finder) เราเหน็ ยงั งยั ภาพท่ีเราไดก้ ็จะเป็นอยา่ งนั้น กลอ้ งฟลิ ์ม SLR เป็นกลอ้ งทถ่ี กู พฒั นามาจาก กล้อง RF โดย การปรับปรุงจดุ ด้อยบางอย่างของกลอ้ งฟลิ ์ม RF กล้องฟิล์ม SLR คือกลอ้ งท่แี กไ้ ขจุดด้อยของกล้องฟิล์ม RF แทบทุกอย่าง กล่าวคอื เปลย่ี นเลนสไ์ ด้ โฟกสั งา่ ย การใช้งาน ยืดหยุ่น สรา้ งสรรค์งานได้หลากหลายกว่า แตแ่ น่นอน ก็ตอ้ ง แลกมากบั ขนาดท่ีใหญ่ขึน้ ซ่ึงจะพกพาลำ� บากกว่า *กลอ้ ง DSLR ในปัจจุบนั คือ กลอ้ ง SLR ทีเ่ ปน็ ดจิ ิตอล (DLSR = Digital Single Lens Reflex) กล้องฟลิ ม์ RF (Rang Finder) : เปน็ กลอ้ งฟิลม์ ที่มีลกั ษณะ การโฟกัส โดยมองผา่ นช่องมองภาพ ซง่ึ เป็นคนละช่องกับ เลนสร์ บั ภาพ การโฟกัส ทำ� ใดโ้ ดย ตัววัดระยะของกล้องควบคู่ กับการปรบั วงแหวนโฟกสั ของเลนส์ โดยการโฟกัสนั้นจะมี ลกั ษณะเฉพาะ ทีเ่ รียกว่า Parallax Focus (แบบภาพซ้อน) กล้องฟลิ ม์ RF ส่วนใหญจ่ ะมขี นาดที่เล็กจจงึ สะดวกในการพก พาไปไหนมาไหน และมีหน้าตาดเู ป็น กล้อง Vintage แทๆ้ ทำ� ใหด้ ูแลว้ น่าใช้ แค่หอ้ ยคอไว้กเ็ ทห์แล้ว แต่จดุ ด้อยของกลอ้ ง ฟลิ ์มประเภทนก้ี ็มไี มใ่ ชน่ ้อย อยา่ งเชน่ กล้องฟิลม์ RF ส่วนใหญ่ จะเปลีย่ นเลนสไ์ มไ่ ด้ ทำ� ใหค้ วามยืดหยุน่ ในการใช้งานนั้นนอ้ ย จดุ ด้อยต่อมาการโฟกสั ของกล้องฟลิ ม์ RF ไม่ได้มองผา่ นเลนส์ ทำ� ให้การถ่ายภาพตอ้ งอาศยั การกะระยะ จากเฟรมของช่อง มองภาพ ซ่ึงคอ่ นข้างต้องใช้ประสบการณอ์ ยบู่ ้า
I LIKE 7
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: