ข้อมูลทั่วไป จังหวัดตรัง ตรังเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ฝั่ งทะเลตะวันตกของ ประเทศไทย ตั้ง อยู่ภาคใต้ฝั่ งตะวันตกติดกับทะเลอันดามันแห่งมหาสมุทรอินเดีย มีเนื้อที่ทั้ง สิ้น 4,917.519 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,088,399.375 ไร่ มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นลาดับ ที่ 4 ของภาคใต้ และลาดับที่ 33 ของประเทศ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ตามเส้นทางสายเพชรเกษม 828 กิโลเมตร มี พื้นที่ฝั่ งทะเลตลอดแนวเขตจังหวัดยาว 119 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยเกาะ น้อยใหญ่จ านวน 46 เกาะ โดยมีเกาะที่ส าคัญ เช่น เกาะลิบง ซึ่งเป็นเกาะที่มี ขนาดใหญ่ที่สุด เกาะมุก เกาะกระดาน เป็นต้น โดยมีอาณาเขตติดต่อจังหวัด ต่างๆ ดังนี้ ทิศเหนือ ติดกับ อำเภอทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราชและอำเภอ คลองท่อมจังหวัดกระบี่ ทิศใต้ ติดกับ อำเภอทุ่งหว้าจังหวัดสตูลและทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ทิศตะวันออก ติดกับ อำเภอควนขนุนอำเภอกงหราอำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง (มีเทือกเขาบรรทัดกั้นอาณาเขต) ทิศตะวันตก ติดกับ อำเภอคลองท่อมเกาะลันตาจังหวัดกระบี่และ ทะเลอันดามันมหาสมุทรอินเดีย
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 5 เเห่ง สวนพฤษศาสตร์ทุ่งค่าย สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้(ทุ่งค่าย) เป็นสถานที่อนุรักษ์พันธุ์ไม้ สัตว์ป่า และ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวตรัง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนตั้งอยู่ในเขตป่า ทุ่งค่าย ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาวขาว เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น. ด้วยสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นป่าดิบชื้น ป่าพรุ และเนินเขาเตี้ยๆ ครอบคลุมถึง 2,600 ไร่ สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) จึงเหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจใน เรื่องของระบบนิเวศวิทยา ธรรมชาติและพืชพันธุ์ไม้ต่างๆ มีการแบ่งเป็นส่วนพื้นที่ของ กลุ่มพันธุ์พืช เช่น สวนเฟิร์น พืชกินแมลง พืชวงศ์ปาล์ม พืชวงศ์ยาง และยังเป็นแหล่ง รวบรวมพันธุ์พืชทางภาคใต้อีกหลายชนิด สวนพฤกษศาสตร์ฯ มีสะพานเรือนยอดไม้ที่เป็นไฮไลท์ของการเดินชมธรรมชาติ อย่างใกล้ชิด มีความยาว 175 เมตร และสูงถึง 18 เมตร ตั้งเหนือขึ้นไปบนผืนป่าอยู่ ระดับแนวเดียวกับยอดไม้ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นพันธุ์ไม้ต่างๆ ในสวน พฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) ที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงสัตว์ ต่างๆ ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ อย่าเช่น นก กระรอก ลิง ค่าง เป็นต้น รวมทั้งมีทางเดิน ศึกษาธรรมชาติป่าพรุระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าเที่ยวชม ประมาณ 30-45 นาที สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้(ทุ่งค่าย) คือ แหล่งความรู้ทางธรรมชาติที่น่าค้นหา จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย เสน่ห์ที่น่ารักอีกอย่างหนึ่งก็คือ จะมี มัคคุเทศก์น้อย ซึ่งเป็นเยาวชนจากโรงเรียนในชุมชนพื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยเป็นไกด์ให้ ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้ต่างๆ ด้วย การเดินทาง : อยู่บน ถ.ตรัง-ปะเหลียน ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว ห่างจากตัวจังหวัด ตรังประมาณ 13 กิโลเมตร
หาดหัวหิน ตรัง ชายหาด หาดหัวหิน อ.สิเกา จ.ตรัง เป็นชื่อของชายหาดทรายปนหินขนาดเล็ก เป็นชายหาด เงียบๆมักพบเห็นเฉพาะชาวบ้านท้องถิ่นเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจและหาปูปลาตามซอก หลืบของหิน ทิวทัศน์ที่มองจากหาดหัวหินนั้นสวยงามแปลกตาไปด้วยภูเขาหินปูนและ เทือกเขาที่วางตัวในตำแหน่งที่เหมาะเจาะและขับให้ทัศนียภาพแถบนี้สวยงามน่าประทับ ใจเป็นอย่างยิ่ง ครั้งเมื่อมองเข้ามาที่ชายหาด พบความระเกะระกะของเศษซากของลาน ปูนที่อยู่ประชิดหาด คาดเดาได้ว่าคงพังทลายจากคลื่นกัดเซาะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นเมื่อ ใด คาดเดาจากสภาพที่เห็นเชิงประจักษ์เมื่อ 5 ปีก่อน ร่วมกับปัจจุบันพบว่า ลานปูนนี้ สร้างขึ้นมาใหม่โดยล้ำลงไปในทะเลค่อนข้างมาก จนเมื่อยามมรสุมระดับน้ำทะเลและ คลื่นยกตัวสูงกว่าปกติเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายในที่สุด เราควรตั้งคำถามกับสิ่ง ปลูกสร้างประชิดชายหาดเช่นนี้ ว่ายังควรถูกอนุญาตให้สร้างต่อไปอีกหรือไม่ ในหลาย พื้นที่ได้พิสูจน์แล้วว่า แม้โครงสร้างจะสร้างในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง แต่รุกล้ำลง ไปในทะเลค่อนข้างมาก ในช่วงปลอดมรสุมอาจไม่เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ยาม มรสุมเราคาดเดาธรรมชาติได้ยากว่าจะรุนแรงมากน้อยขนาดไหนในแต่ละปี ทางที่ดีคือ ใช้หลักพึงระวังไว้ก่อน กล่าวคือไม่ควรอนุญาตให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างแบบถาวรล้ำ ลงไปในเขตอิทธิพลของคลื่ นลม
ถ้ำเขาสามบาตร คูหาและถ้ำ ภายในถ้ำค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัย ประวัติศาสตร์หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ค้นพบได้แก่ เศษชิ้นส่วนภาชนะดินเผา เนื้อดินค่อนข้างหยาบแบบหม้อสามขา ชามภาชนะปากผาย เครื่องมือสะเก็ดหิน ค้อน หิน เปลือกหอยแครงเจาะรู กระดองเต่า หอยน้ำจืดรวมทั้งรูปภูเขาสามลูกบนผนังถ้ำ ส่วนหลักฐานสมัยประวัติศาสตร์ประกอบด้วย โบราณวัตถุสมัยอยุธยา ได้แก่ชิ้นส่วน ภาชนะเนื้อดินขาวเหนียวแบบชามมีเชิง คนโฑและพวยกา และที่สำคัญคือตัวอักษรที่ จารึกบนผนังถ้ำที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ได้เคย ทรงวินิจฉัยว่า เป็นลักษณะเดียวกับตัวอักษรที่วัดป่าโมก (อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง) ในรัช สมัยพระเจ้าท้ายสระ พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 31 แห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2252- 2275) แห่งพุทธศักราชที่ปรากฎในข้อความจารึก (พ.ศ.2157) แสดงว่าตรงกับรัช สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 20 แห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2148-2163) เนื้อหาของข้อความจารึกดังกล่าวทำให้เชื่อได้ว่าภายใน ถ้ำแห่งนี้เคยเป็น ศาสนสถาน นอกจากนี้แล้วบริเวณรอบๆ เขาสามบาตรนักวิชาการบางท่านได้ สันนิษฐานว่าน่าจะเคยเป็นที่ตั้งของตัวเมืองตรังอีกแห่งหนึ่งในอดีตเพราะค้นพบร่อง รอยคูเมืองอันเป็นหลักฐานยืนยันที่สำคัญ
สระกะพังสุรินทร์ สวนสาธารณะ ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินทางมาเยือนจังหวัดตรัง ต่างอดไม่ ได้ที่จะต้องแวะมาเยือน “สระกะพังสุรินทร์” สวนสาธารณะแห่งแรกที่มีความเก่าแก่ที่สุด ซึ่งตั้ง อยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง และห่างจากศาลากลางจังหวัด ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีลักษณะ เป็นหนองน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 74 ไร่ แยกออกเป็นพื้นน้ำ 52 ไร่ พื้นดิน 22 ไร่ และได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2508 สระน้ำแห่งนี้มีลักษณะเป็นโพรงหินปูนด้านล่าง ภายในจะมีน้ำขังอยู่ตลอดปีแม้ยามหน้าแล้ง จึงสามารถบ่งบอกถึงปริมาณน้ำภายในเขตเทศบาลนครตรังได้ว่า ปีนั้นๆ น้ำจะมากหรือน้อย ซึ่งนอกจากจะใช้หล่อเลี้ยงต้นไม้ใหญ่น้อยรอบๆ สวนสาธารณะแล้ว ยังถือว่าเป็นแหล่งน้ำอัน สำคัญของชาวกะพังสุรินทร์ และชุมชนใกล้เคียง เพราะช่วยให้บ่อน้ำตื้นมีปริมาณให้ได้กินได้ใช้ ตลอดทั้งปี รวมทั้งยังสามารถนำน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่อื่นๆ ในหน้าแล้งได้อีกด้วย ทั้งนี้ จากข้อมูลในจดหมายเหตุรายวันของ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระ ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๗ บันทึกว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2471 พระองค์ได้ทรงรถยนต์พระที่นั่งจากตำหนักผ่อนกาย เสด็จตำบลสระพัง เป็นที่คล้ายกับวนะ มี สระใหญ่อยู่กลาง เสวยเครื่องว่าง ณ พลับพลาซึ่งปลูกในสระนั้น เสร็จแล้วเสด็จทอดพระเนตร รอบบริเวณ เวลา 17.15 น. เสด็จกลับสู่พระตำหนักผ่อนกายที่ประทับแรม ภายใน “สระกะพังสุรินทร์” จะมีศาลาตั้งอยู่กลางน้ำอยู่ด้วยกัน 3 หลัง และจะมีสะพานเชื่อมโยง ติดต่อกัน อันเป็นเอกลักษณ์เด่นที่สุด โดยในช่วงแรกจะมีการสร้างแค่เพียงหลังเดียว แล้วต่อ มาก็มีการสร้างเพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนทางทิศเหนือของสระน้ำก็ยังมี การก่อสร้างศาลาขึ้น เมื่อปี 2520 ที่มีความสวยงามมาก ซึ่งได้จำลองรูปแบบมาคล้ายๆ กับ พลับพลาที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับเสด็จรัชกาลที่ ๗ และภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธสิ หิงค์ตรัง” องค์จำลอง
อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอกันตังและอำเภอสิเกา ครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอกันตังและอำเภอสิเกา ประกอบด้วยป่าหินปูนในบริเวณ เกาะมุก เกาะเชือก เกาะแหวน ป่าชายเลนตลอดแนวจากหาดปากเมงถึงหาดเจ้าไหม หญ้าทะเล เกาะต่าง ๆ มีอาณาเขตชายฝั่ งทะเลยาวประมาณ 20 กิโลเมตร ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ที่หาด ฉางหลาง ตำบลไม้ฝาด ชายหาดกว้างและร่มรื่น ทางด้านใต้ของหาดเป็นที่ตั้งของเขาแบนะ ซึ่ง มีร่องรอยภาพเขียนสีแดงก่อนยุคประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งหญ้าทะเลของพะยูน บนเขาแบ นะเป็นจุดที่สามารถรอชมพะยูนได้ อุทยานฯ จะปิดการท่องเที่ยวบริเวณถ้ำมรกต เกาะมุก เกาะ เชือก เกาะแหวน และเกาะกระดาน เพื่อฟื้ นฟูธรรมชาติตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 กันยายนของทุกปี การอัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40บาท เด็ก 20 บาท ชาว ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท อุทยานฯ มีบ้านพักรวมถึงจุดกางเต็นท์บริการนัก ท่องเที่ยว
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: