Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Hokkaido&Tokyo Japan

Hokkaido&Tokyo Japan

Published by roongroj.uta, 2020-05-15 22:25:36

Description: Hokkaido&Tokyo Japan

Search

Read the Text Version

รายงานการศกึ ษาดงู านต่างประเทศดว้ ยทนุ สว่ นตัว PDCA ณ เมืองซับโปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญีป่ นุ่ 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 วา่ ทีร่ อ้ ยเอกรุ่งโรจน์ อุตมาตร ครูชานาญการ แผนกวชิ าช่างอิเลก็ ทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคมนี บุรี สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ



สารบัญ หนา้ เรือ่ ง 1 2 บทที่ 1 ทีม่ าและความสาคัญ 3 ทม่ี าและความสาคัญ 3 หลักการและเหตผุ ล 3 วตั ถุประสงค์ 3 เป้าหมาย ระยะเวลาในการดาเนินงาน 4 ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับ 7 บทท่ี 2 ทฤษฎีทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 14 ภารกิจและนโยบายสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 14 ประเทศญปี่ นุ่ 16 17 บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนนิ การ ขน้ั ตอนการวางแผน (Plan) 19 ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ (Do) ข้นั ตอนการตรวจสอบ (Check) 20 ขั้นตอนการดาเนินงานใหเ้ หมาะสม (Action) 22 บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ การศกึ ษาดูงาน ผลการดาเนินการโครงการศึกษาดงู าน บทที่ 5 สรปุ ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ภาคผนวก - ประมวลภาพกจิ กรรม - บันทึกขอ้ ความ

คานา การเรียนการสอนในปัจจุบันต้องเน้นให้นักเรียนนักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้โดยบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง ตามนโยบายของสานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา และยังเน้นให้นักเรียนนักศึกษาค้นคว้าตาราเรียน สื่อ และหาความรู้จาก ภายนอก เพ่ือนามาผสมผสานให้เกิดความรู้ใหม่ และนาความรู้ท่ีได้มาประยุกต์ใช้เพ่ือนาไปประกอบอาชีพได้ ในอนาคต การท่ีจะพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนนักศึกษาก่อนคือการพัฒนาครูให้มีความรู้ ความสามารถ กา้ วทนั ต่อเทคโนโลยี จึงจะทาให้สามารถแข่งขันกบั ตา่ งประเทศได้ วทิ ยาลยั เทคนิคมนี บุรี จึงได้จดั ทาโครงการเปิดโลกทัศน์พฒั นาการจัดการเรียนรู้สู่อาเซยี น ให้ครูได้ไป ทศั นศึกษายงั ต่างประเทศ เพื่อจะได้นาความรู้เทคโนโลยีสมันใหม่ และประสบการณ์ที่ได้มาพัฒนาการจัดการ เรียนรู้ การสอนของครูให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อนักเรียนนักศึกษาให้ได้มากที่สุด อันเป็นการ พัฒนากาลงั คนของชาตใิ ห้มคี วามรู้ ความสามารถ ต่อไป วา่ ทรี่ ้อยเอกรงุ่ โรจน์ อตุ มาตร

บทท่ี 1 ที่มาและความสาคัญ วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา วิสัยทัศน์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ เป็นองค์กรผลิตและพัฒนำกำลังคนท่ีมีคุณภำพ และได้มำตรฐำนสำกล ด้วยเทคโนโลยีท่ีทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อควำมต้องกำรของประเทศตำมเป้ำหมำย ยทุ ธศำสตร์ชำติ พันธกิจ 1. จัดและสง่ เสริมและพัฒนำกำรอำชวี ศึกษำ และกำรอบรมวิชำชพี ใหม้ ีคณุ ภำพและได้มำตรฐำน มงุ่ ตอบสนองต่อควำมต้องกำรของประเทศ 2. ยกระดับคุณภำพและมำตรฐำนกำลงั คนสำยอำชีพสสู่ ำกล 3. ขยำยโอกำสทำงกำรศึกษำสำยอำชีพให้ท่ัวถงึ ตอ่ เนื่อง เสมอภำค และเปน็ ธรรม 4. เปน็ แกนกลำงในกำรจดั อำชวี ศกึ ษำและอบรมวิชำชพี ระดับฝมี ือ เทคนิค และเทคโนโลยขี องประเทศ 5. สรำ้ งเครือข่ำยควำมรว่ มมือให้ทกุ ภำคสว่ นมีสว่ นร่วมในกำรพัฒนำกำรจัดกำรอำชีวศกึ ษำ และกำร ฝกึ อบรมวชิ ำชีพ 6. วจิ ยั สร้ำงนวัตกรรม จดั กำรองค์ควำมรู้เพอ่ื กำรพฒั นำอำชีพ และคุณภำพชวี ติ ของประชำชน 7. ส่งเสริมและพฒั นำครูและบุคลำกรอำชีวศกึ ษำใหม้ ีศกั ยภำพสงู ข้นึ และมีควำมกำ้ วหน้ำในวชิ ำชพี ยุทธศาสตร์ ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 1. ยทุ ธศำสตร์ด้ำนควำมมั่นคง 2. ยทุ ธศำสตร์ดำ้ นกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน 3. ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรพฒั นำและเสริมสร้ำงศักยภำพทรัพยำกรมนุษย์ 4. ยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรสรำ้ งโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสังคม 5. ยุทธศำสตร์ดำ้ นกำรสรำ้ งกำรเตบิ โตบนคุณภำพชีวิตทเี่ ป็นมิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม 6. ยุทธศำสตรด์ ้ำนกำรปรับสมดุลและพฒั นำระบบกำรบริหำรจัดกำรภำครฐั นโยบายจดุ เนน้ และทิศทางการขับเคลอื่ นการจัดอาชวี ศึกษา ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กำรศึกษำสร้ำงคน อำชวี ะสร้ำงชำติ “เตรียมคนไทยส่ศู ตวรรษท่ี 21” 1. เพิ่มผเู้ รียนสำยอำชีพ (สำยอำชีวะ 50 : 50 สำยสำมัญ) เปิดสำขำใหม/่ สำขำขำดแคลน เพ่ิมห้องเรียน (วท./วอศ.) ปรับหลกั สตู รใหย้ ืดหยนุ่ ดงึ ผเู้ รียนกลบั เข้ำส่รู ะบบ แนะแนวสอื่ สำรทุกกลุ่มเป้ำหมำยทกุ พื้นที่ สร้ำงภำพลักษณ์ (Re-Branding) จัดสวัสดิกำรตำมบริบท (หอพัก/รถรับ-ส่ง)

2 2. ศูนยค์ วำมเปน็ เลศิ ทำงกำรอำชีวศึกษำ (Excellent Center) พฒั นำกำลงั คนรองรับอตุ สำหกรรมเปำ้ หมำย (10+2+1) (10 + 2 อตุ สำหกรรมเป้ำหมำย + 1 โครงสร้ำงพน้ื ฐำนของประเทศ) จัดกำรศึกษำรองรบั กำรพัฒนำกำลังคนในเขตพัฒนำพเิ ศษ (EEC/SEC/SEZ) พัฒนำควำมร่วมมอื กบั ภำครัฐและเอกชน พัฒนำทกั ษะทำงวิชำชพี และภำษำ (องั กฤษ จนี และภำษำในอำเซียน) อำชีวะฐำนวิทย์ฯ/มำตรฐำน KOSEN 3. Re-Skills ,Up-Skills ,New-Skills ยกระดับศกั ยภำพและพฒั นำทกั ษะกำลังคน (โดยวิทยำลัยสำรพัดช่ำงและวิทยำลัยกำร อำชพี ทั่วประเทศ) เตรยี มควำมพร้อมกำลังคนเพ่ือรองรบั สงั คมผูส้ งู อำยุ หลักสตู รฝกึ อบรมระยะสน้ั (Short Course Training) หลักสูตรฝกึ อำชพี ฐำนสมรรถนะ (Education To Employment) Startup/Business online 4. ปฏิรปู ระบบบรหิ ำรและงำนบคุ คล ปฏริ ปู ประสทิ ธิภำพกำรบริหำรงำน พฒั นำสมรรถนะทำงวชิ ำชพี ดิจทิ ลั และภำษำองั กฤษ แกไ้ ขปญั หำกำรบริหำรงำนบุคคลทุกมติ ิ สร้ำงระบบแรงจูงใจ เพม่ิ ค่ำตอบแทน และสง่ เสริมระบบสวัสดิกำร/สวสั ดภิ ำพ 5. ขบั เคลือ่ นอำชีวศึกษำ เพ่ือเตรยี มคนไทยสศู่ ตวรรษท่ี 21 อำชวี ศกึ ษำทวภิ ำคี 3 รูปแบบ บรู ณำกำรกำรพัฒนำทักษะด้ำนเทคโนโลยี ดิจทิ ัล และภำษำอังกฤษกับกำรจดั กำรเรยี นกำร สอน Fix it Center/จติ อำสำอำชีวะ สรำ้ งค่ำนิยม “กำรศึกษำสรำ้ งคน อำชวี ะสรำ้ งชำติ” 1.1 หลกั การและเหตุผล กำรเรียนกำรสอนในปัจจุบันต้องเน้นให้นักเรียนนักศึกษำได้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้โดยบูรณำกำร คณุ ธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และบูรณำกำรเศรษฐกิจพอเพียง ตำมนโยบำยของสำนักงำน คณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ และยังเน้นให้นักเรียนนักศึกษำค้นคว้ำตำรำเรียน สื่อ และหำควำมรู้จำก ภำยนอก เพื่อนำมำผสมผสำนให้เกิดควำมรู้ใหม่ และนำควำมรู้ที่ได้มำประยุกต์ใช้เพ่ือนำไปประกอบอำชีพได้ ในอนำคต กำรท่ีจะพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ให้นักเรียนนักศึกษำก่อนคือกำรพัฒนำครูให้มีควำมรู้ ควำมสำมำรถ กำ้ วทนั ต่อเทคโนโลยี จึงจะทำใหส้ ำมำรถแขง่ ขนั กับตำ่ งประเทศได้ งำนสื่อกำรเรียนกำรสอน วิทยำลัยเทคนิคมีนบุรี จึงได้ขอไปศึกษำดงู ำนด้วยทุนส่วนตัว เปิดโลกทัศน์ พัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้สู่อำเซียน ให้ครูได้ไปทัศนศึกษำยังต่ำงประเทศ เพื่อจะได้นำควำมรู้เทคโนโลยีสมัน ใหม่ และประสบกำรณ์ที่ได้มำพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ กำรสอนของครูให้มีประสิทธิภำพ และเกิดประโยชน์ ต่อนกั เรยี นนกั ศึกษำให้ได้มำกที่สดุ อันเป็นกำรพัฒนำกำลังคนของชำตใิ ห้มคี วำมรู้ ควำมสำมำรถ ตอ่ ไป

3 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพอ่ื พฒั นำครูใหม้ ีวิสัยทัศนก์ ้ำวทนั เทคโนโลยใี หมๆ่ 1.2.2 เพอ่ื ให้ครไู ด้ เรียนรู้ ประสบกำรณ์ ภำษำและวัฒนธรรม 1.2.3 เพ่ือสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือทำงด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอำชีวศึกษำกับประเทศกลุ่ม อำเซียน 1.3 เป้าหมาย เชงิ ปรมิ ำณ ครู งำนสอื่ กำรเรยี นกำรสอน จำนวน 2 คน เชิงคณุ ภำพ พัฒนำครใู ห้มีวสิ ยั ทศั น์ก้ำวทันเทคโนโลยใี หมๆ่ 1.4 ระยะเวลาการดาเนนิ งาน ระหวำ่ งวันท่ี 24 – 29 กุมภำพนั ธ์ 2563 ณ เมืองซับโบโร ฮอกไกโด และโตเกยี ว ประเทศญีป่ นุ่ 1.5 ขนั้ ตอนการดาเนินงาน 1..5.1 วำงแผนกำรเดนิ ทำง ดูงำน 1.5.2 งำนส่อื กำรเรียนกำรสอน บนั ทกึ ไปศกึ ษำดูงำนดว้ ยทุนสว่ นตัว 1.5.3 เสนอเพ่อื ขออนมุ ัติ 1.5.4 ดำเนินกำรตำมแผน 1.5.5 สรุป ประเมนิ ผลกำรศกึ ษำดูงำนดว้ ยทุนสว่ นตวั 1.6 ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ 1.6.1 มีวสิ ยั ทศั นแ์ ละก้ำวทันเทคโนโลยีใหมๆ่ 1.6.2 ได้ เรยี นรู้ ประสบกำรณ์ ดำ้ นภำษำและวัฒนธรรม 1.6.3 ได้แนวทำงกำรสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือทำงด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอำชีวศึกษำกับ ประเทศกลมุ่ อำเซียน

บทท่ี 2 ทฤษฎที ี่เก่ยี วขอ้ ง 2.1 ภารกิจและนโยบายสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ และนโยบาย เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ การผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาสู่สากล พ.ศ. 2555-2569 คณะกรรมการการ อาชวี ศกึ ษา ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ดงั น้ี 1) ดา้ นการเพิ่มปริมาณผ้เู รียนสายอาชพี กาหนดเป้าหมายของการดาเนินงานโดย 1.1) รกั ษาเปา้ หมายผเู้ รียนในระดับ ปวช. การเพม่ิ ปรมิ าณผูเ้ รยี นในระดบั ปวส. 1.2) ลดปัญหาการออกกลางคัน โดยวางเป้าหมายให้ลดลงร้อยละ 5 ด้วยการป้องกัน/ดูแล รายบุคคล การวิจัยพัฒนา แก้ปัญหารายวิทยาลัย/รายสาขาวิชา การวิเคราะห์แก้ปัญหาเชิงระบบ กลุ่มเปา้ หมายใน 50 วทิ ยาลัยทม่ี ปี ัญหาการออกกลางคนั สูง 1.3) จัดการเรียนการสอนในระดับพ้นื ทีแ่ ละภาพรวมตามความตอ้ งการในแตล่ ะสาขา 1.4) เปดิ โอกาสให้นักเรยี นเข้าเรียนสายอาชีพดว้ ยระบบโควตา 1.5) เข้าถึงกล่มุ เปา้ หมายผ้มู สี ่วนสาคัญตอ่ การเลือกเรยี นอาชวี ศกึ ษาในเชงิ รุก ซึ่งได้แก่ นักเรยี น และผปู้ กครอง 2) ดา้ นการขยายโอกาสในการเรียนอาชีวศกึ ษาและการฝึกอบรมวชิ าชพี 2.1) จดั อาชวี ศกึ ษาครอบคลุมทุกพน้ื ที่ สาขาอาชีพ การขยายกลุ่มเป้าหมาย 2.2) จัดต้ังสถาบันการอาชีวศึกษาในรูปแบบกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รวม 19 สถาบนั และสถาบันการอาชีวศกึ ษาเกษตร ภาคละ 1 แห่ง จานวน 4 แหง่ 2.3) จดั ต้งั สถานศึกษาอาชวี ะอาเภอในกลมุ่ อาเภอชนั้ หนง่ึ 2.4) ส่งเสรมิ การจดั อาชีวะชายแดนใต้สู่สันตสิ ุข ศูนย์ฝกึ อบรมอาชีวะ อาชีวะสองระบบ และการ จดั หลกั สตู รอาชวี ะท้องถ่นิ และสนับสนุนทนุ การศกึ ษาแก่ผดู้ อ้ ยโอกาส 2.5) มุ่งผลิตและพัฒนากาลังคนในสาขาที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน สาขาที่เป็น นโยบายรัฐบาล และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยการจัดอาชีวศึกษา เฉพาะทาง อาทิ ปิโตรเคมี การสร้างเกษตรรุ่นใหม่ ครัวไทยสู่ครัวโลก พลังงานทดแทน โลจิสติกส์/ รถไฟความเรว็ สงู อญั มณี ยานยนต์ ไฟฟ้า อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทอ่ งเท่ียว/โรงแรม ฯลฯ 2.6) ขยายกลุ่มเป้าหมายอาชีวะในโรงเรียนการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน และอาชวี ะเพอื่ คนพกิ ารอาชีวะ วัยแรงงาน อาชีวะสูงวัย อาชีวะเพื่อสตรี อบรมระยะส้ัน/ตลาดนัดอาชีพ ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อ ชุมชน เทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เพื่อต่อยอดและพัฒนาทักษะท้ัง Upgrade Skills และ Re Skills รว่ มจัดอาชวี ศกึ ษาในสถานพินจิ เรอื นจา ค่ายทหาร และ อปท. ฯลฯ 2.7) สนับสนุนให้หน่วยงาน/องค์กร ร่วมจัดอาชีวศึกษาซึ่งได้แก่สถานประกอบการ อปท. และ ภาคเอกชนจากสาขาอาชีพต่างๆ ฯลฯ 2.8) จัดอาชีวะทางเลือก อาชีวะทายาท วิทยาลัยอาชีวศึกษาฐานวิทยาศาสตร์ อาชีวะอินเตอร์ และอาชวี ะเทยี บโอนประสบการณ์ 2.9) เพิ่มช่องทางการเรียนอาชีวศึกษาด้วย อาชีวะทางไกล และเครือขา่ ยวิทยเุ พ่ือการศึกษาและ พัฒนาอาชพี (R-radio network)

5 3) ยกระดับคณุ ภาพการจดั อาชวี ศกึ ษา 3.1) ระดับสถานศึกษา และระดับห้องเรียน ส่งเสริมคุณภาพและสร้างความเข้มแข็งในการ พฒั นาและยกระดับคณุ ภาพการจดั อาชีวศกึ ษาโดย - พัฒนาการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง Constructionism, Project Based Learning Authentic Assessment, การเพ่ิมพูนทักษะประสบการณ์จากการเรียนในสถานที่จริง/สถานการณ์ จริง อาทิ Fix It Center และกรณีภยั พบิ ตั ิ - พฒั นาระบบนิเทศ การจดั การความรู้และถ่ายทอดประสบการณจ์ ากครูรุ่นพ่ีสู่ครู รนุ่ ใหม่ (นเิ ทศภายใน) และการนเิ ทศทางไกล - สร้างความเข้มแข็งการประกันคุณภาพภายใน สนับสนุนให้ทุกวิทยาลัย ผ่านการประเมิน คุณภาพภายนอกระดับดีมาก และเตรียมพร้อมรบั การประเมินระดบั สากล - ยกระดับคุณภาพสถานศึกษาขนาดเล็ก ให้เป็นตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง ตามความ ต้องการของพ้นื ท่ี และการใหบ้ ริการกล่มุ เปา้ หมายพเิ ศษอาทิ คนพิการ, วยั ทางาน, สงู วัย, สตรี ฯลฯ - ใช้ ICT เพ่ือการเรียนการสอน สนับสนุนความพร้อมในด้าน Hardware ส่ือการเรียนการ สอน ส่งเสริมการประกวดส่ือ/สื่อออนไลน์ และจัดต้ังวิทยาลัยต้นแบบการใช้ ICT เพ่ือการเรียนการ สอน - พัฒนาครู สร้างเครือข่ายครู Social Media และ Network สนับสนุนให้ครูทาวิจัยเพื่อ พัฒนาคุณภาพ - จดั หาสือ่ /หนงั สอื วสั ดฝุ ึก อุปกรณก์ ารเรียนการสอน ที่ทนั สมัยและเพียงพอ 3.2) ระดับผู้เรียน ยกระดับความสามารถของผู้เรียนเพื่อให้ผู้สาเร็จอาชีวศึกษา มีขีด ความสามารถในการแข่งขันทั้งสมรรถนะหลัก (Core Competency) และสมรรถนะการทางานตาม ตาแหน่งหน้าที่ (Function Competency) โดยใช้ V-NET การประเมินด้านมาตรฐานวิชาชีพ และ การประเมินระดับห้องเรียน สร้างเสริมทักษะอาชีพในอนาคตด้วยกิจกรรมองค์การวิชาชีพ ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม วิถีประชาธิปไตย ความมีวินัย เสริมสร้างทักษะชีวิต ความสามารถด้าน นวัตกรรม/สิ่งประดิษฐ์ การเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาทักษะการคิดบนพื้นฐาน Competency Based Technology Based Green Technology และCreative economy รวมทัง้ การแก้ปญั หา ด้านพฤติกรรมและการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ อาทิ สุภาพบุรุษอาชีวะ ลูกเสือ กีฬา และการ ป้องกนั /แก้ไขการทะเลาะววิ าท 3.3) เตรียมผู้เรียนสู่การเป็นประชาคม ASEAN โดยการเพ่ิมจานวนสถานศึกษา English Program (EP) Mini English Program (MEP) ทุกจังหวัด ใช้หลักสูตร/สื่อต่างประเทศ สนับสนุน การฝึกงานต่างประเทศ/บริษัทต่างประเทศและในประเทศ ยกระดับทักษะด้านภาษาอังกฤษในงาน อาชพี สง่ เสรมิ การเรียนรู้ภาษาประเทศคูค่ า้ จัดระบบ Sister School ทุกประเทศใน ASEAN 4) ดา้ นการเพ่ิมประสทิ ธิภาพการบริหารจัดการ 4.1) ด้านบริหารทั่วไป ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการ ไดแ้ ก่ Web Portal, E-office และ Data based รวมท้งั การปรับภาพลกั ษณเ์ ชงิ บวก 4.2) ด้านงบประมาณ ใช้แนวทาง Strategic Performance, Based Budgeting: SPBB และ Formula Funding โดยการจัดงบประมาณตามความจาเป็นพ้ืนฐาน ความเสมอภาค และตาม นโยบาย, การกระจายอานาจจัดซ้ือจัดจ้าง, จัดหางบประมาณค่าสาธารณูปโภคและค่าจ้างครูให้ เพยี งพอ

6 4.3) ด้านบรหิ ารงานบุคคล สร้างเครือข่ายคร/ู สมาคมวิชาชีพ จดั หาลกู จ้าง พนักงานราชการ ให้เพยี งพอ รวมทง้ั การพฒั นาระบบบรหิ ารงานบุคคลของสถาบนั การอาชวี ศึกษา 4.4) ดา้ นการสร้างความรว่ มมือทุกภาคสว่ นท้ังในประเทศและต่างประเทศเพ่ือพฒั นา การจัด อาชีวศกึ ษา ดังนี้ - องค์การ/สมาคมวิชาชีพ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า กระทรวงแรงงาน กระทรวง อุตสาหกรรม สถานประกอบการ ในการจัดอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี การฝึกงาน ฯลฯ - ประเทศเพ่ือนบา้ น ประเทศในกลุม่ อาเซยี น - องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ VOCTECH, CPSC /APACC, SEARCA และ UNIVOC ฯลฯ - ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคของโลก ได้แก่ สาธารณ รั ฐประชาชนจีน อิสลาเอล ญี่ปนุ่ เดนมาร์ก เยอรมัน ฯลฯ อุดมการณ์ที่สาคัญในการจัดการอาชีวศึกษา และการฝึกอบรมวิชาชีพ คือ การพัฒนา กาลังคนระดับกึ่งฝีมือ ระดับฝีมือ ระดับเทคนิค และระดับเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดคุณภาพตาม สมรรถนะอาชีพท่ีกาหนดไว้โดยจัดในสถานศึกษาของรัฐ สถานศึกษาเอกชน สถานประกอบการหรือ โดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการอย่างต่อเน่ืองและมีประสิทธิภาพตาม มาตรฐานสากล ทั้งน้ีจะตอ้ งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ แผนการศึกษาชาติ ปรัชญาการอาชีวศึกษาภายใต้การสนับสนุนทรัพยากรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อผลิตกาลังคนท่ี มีคณุ ภาพ ใหม้ ศี ักยภาพในการพฒั นาประเทศ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และนโยบายด้านการศึกษาของรัฐบาลให้ยึด หลักการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้คนไทยทั้งปวงได้รับ โอกาสเท่าเทียมกันทางการศึกษา พัฒนาได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต อันเป็นเง่ือนไขสู่ระบบเศรษฐกิจ ฐานความรู้ สามารถพงึ่ ตนเองได้ และสามารถแขง่ ขันไดใ้ นระดับนานาชาติ

7 2.2 ประเทศญี่ป่นุ ในภาษาญ่ีปุ่น ช่ือประเทศญี่ปุ่นเรยี กว่า นิปปง (にっぽん) หรือ นิฮง (にほん) ซึ่งใช้คันจิ ตัวเดียวกันคือ 日本 คาว่านิปปง มักใช้ในกรณีท่ีเป็นทางการ ส่วนคาว่า นิฮง จะเป็นศัพท์ท่ีใช้ โดยทั่วไป สันนิษฐานว่าประเทศญ่ีปุ่นเร่ิมต้นใช้ชื่อประเทศว่า \"นิฮง/นิปปง (日本)\" ตั้งแต่ช่วงปลาย พทุ ธศตวรรษที่ 12 จนถึงกลางพทุ ธศตวรรษท่ี 13 ตวั อักษรคันจิของช่ือญป่ี ุ่นแปลว่าถิ่นกาเนดิ ของดวง อาทิตย์ และทาให้ญ่ีปุ่นมักถูกเรียกว่าดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย ช่ือนี้เกิดข้ึนในช่วงที่มีการติดต่อกับ ราชวงศ์สุยของจีนและหมายถึงการท่ีญ่ีปุ่นอยู่ในทิศตะวันออกของจีน ก่อนท่ีญี่ปุ่นจะมีความสัมพันธ์ กับจีน ญ่ีปุ่นเป็นท่ีรู้จักในชื่อยะมะโตะ ชื่อเรียกประเทศญ่ีปุ่นในภาษาอ่ืน ๆ เช่น เจแปน (อังกฤษ: Japan) ยาพัน (เยอรมัน: Japan) ชาปง (ฝร่ังเศส: Japon) ฮาปอง (สเปน: Japón รวมถึงคาว่าญี่ปุ่น ในภาษาไทย ล้วนแต่เป็นคาท่ีถอดเสียงมาจากคาอ่านตัวอักษรจีน 日本国 ซึ่งอ่านว่าจีปังกู แต่ใน สาเนียงแมนดารินอ่านว่า ร่ืเป่ินกั๋ว (จีน: rì bĕn guó; 日本国) หรือย่อ ๆ ว่า รื่เปิ่น (rì bĕn; 日本) ส่วนในภาษาที่ใช้ตัวอักษรจีนอ่ืน ๆ เช่นภาษาเกาหลี (เกาหลี: 일본;日本) และภาษาเวียดนาม (เวยี ดนาม: Nhật Bản;日本) จะเรียกประเทศญปี่ ุ่นโดยออกเสยี งคาว่า 日本 ดว้ ยภาษาของตนเอง ภูมิศาสตร์ เป็นประเทศหมู่เกาะ ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยประมาณ 3,900 เกาะ โดยมี เกาะใหญ่ท่สี าคัญ 4 เกาะ คือ 1) ฮอกไกโด (83,517 ตารางกม.) 2) ฮอนชู (231,012 ตารางกม.) 3) ชิ โกกุ (18,800 ตารางกม.) 4) กิวชู (44,379 ตารางกม.) หมู่เกาะญ่ีปุ่นทอดตัวเป็นรูปโค้งเหมือน พระจันทร์เส้ียว จากทางตอนเหนือท่ีละติจูด 45 องศา 33 ลิปดาเหนือ มาทางใต้ ท่ีละติจดู 20 องศา 25 ลิปดาเหนือ โดยมีความยาวทั้งสิ้น 3,800 กม.ญี่ปุ่นถูกล้อมรอบด้วยทะเลทุกด้าน ได้แก่ ทะเล โอค็อตสก์ทางเหนือ ทะเลญี่ปุ่นทางตะวันตก ทะเลจีนตะวันออกทางตะวันตกเฉยี งใต้ ทะเลฟิลิปปินส์ ทางใต้ และมหาสมุทรแปซฟิ ิกทางตะวันออก ญี่ปุ่นมพี น้ื ทร่ี าบเพยี งร้อยละ 25 สว่ นพนื้ ท่ีประมาณรอ้ ย ละ 71 เป็นภูเขา ซึ่งไม่สามารถใช้เป็นท่ีอย่อู าศัยหรือทาการเพาะปลูกได้ เพราะมีลักษณะสูงชนั และมี โอกาสที่จะเกิดดินถล่มจากแผ่นดินไหวหรือฝนท่ีตกหนัก ประชากรญ่ีปุ่นส่วนใหญ่จึงต้องอาศัยอยู่ บริเวณชายฝ่ังอย่างหนาแน่น และทาให้เมืองสาคัญในญ่ีปุ่นมีประชากรหนาแน่นมาก ใน พ.ศ. 2548 ญี่ปุ่นมีป่าไม้ร้อยละ 66.4 พ้ืนท่ีทางการเกษตรร้อยละ 12.6 อาคารร้อยละ 4.9 พ้ืนน้าร้อยละ 3.5 ถนนร้อยละ 3.5 และอื่น ๆ ร้อยละ 9 ประเทศญ่ีปุ่นต้ังอยู่ในวงแหวนแห่งไฟ บริเวณรอยต่อระหว่าง แผน่ เปลือกโลก 3 แผ่น ทาใหเ้ กิดแผ่นดินไหวความรนุ แรงต่าบ่อย ๆ และยังมีแผ่นดนิ ไหวความรุนแรง สูงท่ีทาให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหลายคร้ังในศตวรรษท่ีผ่านมา เช่นเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ฮัน ชิน-อะวะจิ ใน พ.ศ. 2537 และแผ่นดินไหวชูเอะสึจังหวัดนีงาตะ ใน พ.ศ. 2547 เป็นต้น นอกจากน้ี การที่ญ่ีปุ่นตั้งอยูใ่ นบริเวณวงแหวนแห่งไฟ ยังทาใหญ้ ่ีปุ่นมบี ่อน้าพุร้อนจานวนมากท่วั ประเทศ ซึ่งสว่ น ใหญ่ถกู พฒั นาใหก้ ลายเป็นสถานทท่ี อ่ งเทยี่ ว ภเู ขาฟจู ซิ ึ่งเป็นยอดเขาทสี่ งู ทสี่ ุดในญี่ปุ่นกเ็ ปน็ ภูเขาไฟ ญป่ี ุน่ มีภเู ขาไฟมากติดอนั ดบั 1 ใน 10 ของโลก โดยมภี ูเขาไฟฟจู ิเป็นภูเขาที่สูงท่ีสุดในประเทศ (3,776 เมตร) ญ่ีปุ่นมีพื้นท่ีประมาณ 372,000 ตารางกิโลเมตร มีความยาวจากเหนือจรดใต้ 2,500 กิโลเมตร โดยมีหมู่เกาะหลัก 4 เกาะ ได้แก่ ฮอกไกโด, ฮอนชู, ชิโกกุ และคิวชู นอกจากนี้ยังมีเกาะขนาดเล็กอีก มากมาย มีพ้ืนที่ 3 ใน 4 เป็นภูเขาและเนินเขา มีจังหวัดรวมท้ังสิ้น 47 จังหวัด แบ่งออกเป็นเมือง ทั้งสนิ้ 650 เมอื ง เมอื งหลวงปจั จุบนั ไดแ้ ก่ \"กรงุ โตเกียว\" ซง่ึ ตง้ั อยทู่ างภาคตะวนั ออกของญป่ี ุน่ ภูมิอากาศ หมู่เกาะญี่ปุ่นวางตัวยาวในแนวเหนือใต้ จึงทาให้มีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกันมาก ประเทศญปี่ นุ่ สามารถแบง่ เขตภมู ิอากาศออกเปน็ 6 เขต คอื

8 ฮอกไกโด: พ้ืนที่ตอนเหนือสุดของประเทศมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดท้ังปี แม้จะมีหยาดน้าฟ้าไม่ มาก แต่ในฤดูหนาวกม็ ีหิมะปกคลมุ ทวั่ ท้ังเกาะ ทะเลญี่ปุ่น: ต้ังอยู่ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของเกาะฮนชู ลมตะวันตกเฉียงเหนือที่พัดผ่านในช่วงฤดู หนาวทาให้มีหิมะตกมาก ในช่วงฤดูร้อนอากาศมักจะเย็นกว่าฝ่ังมหาสมุทรแปซิฟิก แม้ว่าบางครั้งจะ เกิดปรากฏการณเ์ ฟหน์ ที่ทาใหอ้ ากาศร้อนมากผิดปกติ ที่สูงตอนกลาง: อุณหภูมิระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาวและระหว่างกลางวันและกลางคืนมีความ แตกตา่ งมาก ทะเลเซะโตะ: ภูเขาบริเวณจูโงะกุและชิโกะกุช่วยป้องกันบริเวณทะเลเซะโตะจากลมฤดูต่าง ๆ ทาให้ บริเวณนมี้ ีอากาศอบอุน่ และมีฝนตกน้อยตลอดทั้งปี ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก: ตั้งอยู่ชายฝ่ังมหาสมุทรทางตะวนั ออกของประเทศ ในฤดูหนาวมอี ากาศท่ี หนาวเยน็ แตไ่ มค่ ่อยมีหมิ ะตก ในฤดูรอ้ นมอี ากาศร้อนและช้นื เพราะลมตะวนั ออกเฉียงใต้ หมเู่ กาะตะวันตกเฉยี งใต้: หม่เู กาะริวกิวมอี ุณหภูมกิ ึง่ เขตร้อน คืออากาศอุ่นในฤดูหนาวและร้อนในฤดู รอ้ น มฝี นตกมากและมีไตฝ้ นุ่ ผา่ นมาในช่วงเปล่ยี นฤดู ฤดูฝนหลักเริ่มต้นข้ึนในต้นเดือนพฤษภาคมที่โอะกินะวะ และจึงค่อยๆไต่ข้ึนไปจนถึงฮกไกโดในปลาย เดือนกรกฎาคม บนเกาะฮนชูฤดูฝนจะเริ่มในกลางเดือนของเดือนมิถุนายน มีระยะเวลาประมาณ เดือนครึ่ง และในช่วงปลายฤดูร้อนจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงมักมีไต้ฝุ่นพัดผ่าน โดยเฉล่ียจะมีไต้ฝุ่นพัดเข้า ใกล้ญี่ปุน่ ปีละ 11 ลูก ฤดูของญี่ปนุ่ มี 4 ฤดูหลกั ทม่ี คี วามแตกต่างกันอยา่ งชดั เจน คือ ฤดูใบไม้ผลิ (Haru) เดือน มีนาคม – พฤษภาคม เทศกาลสาคัญในฤดูนี้ได้แก่ \"เทศกาลชม ดอกไม้\" (Ohanami) เป็นช่วงดอกซากุระบานสะพร่ัง ผู้คนสนุกสนานกับการดื่มสังสรรค์ใต้ต้นซากุระ แม้ชีวิตของชาวญ่ีปุ่นในยุคปัจจุบันจะเต็มไปด้วยความเร่งรีบ แต่ชาวญี่ปุ่นยังคงให้ความสาคัญในการ ชมดอกซากุระ ซ่ึงดอกซากุระมักถูกใช้แสดงจติ ใจของชาวญี่ปุ่น ทาให้ปจั จุบนั ดอกซากุระถกู เลือกเป็น ดอกไม้ประจาชาติของชาวญ่ปี ุ่น ฤดูหนาว (Fuyu) เดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ ทางตอนเหนือมีอากาศหนาวและหิมะตก กว่าภาคอื่นๆ เป็นฤดูเทศกาลแห่งความสุข ท่ัวญี่ปุ่นจะมีการจัดเทศกาลต่างๆต่อเน่ืองกับเทศกาลปี ใหม่ นับว่าเป็นช่วงเวลาท่ีสาคัญที่สุดสาหรับชาวญี่ปุ่น ครอบครัวต่างๆจะแลองด้วยอาหารมื้อพิเศษ, สวมใสช่ ุดกิโมโน และเยอนวัดหรือศาลเจ้าเพ่ือเป็นศิริมงคล เท่ยี งคืนของวันที่ 31 ธนั วาคม วดั ทุกแห่ง ในญ่ีป่นุ จะตรี ะฆัง 108 ครงั้ ตามประเพณีท่ีเรียกว่า \"โจยะโนะคาเนะ\" (Jyoya no kane) ฤดูร้อน (Natsu) เดือน มิถุนายน – สิงหาคม เดือนมิถุนายนเป็นเดือนท่ีมีฝนตกเกือบตลอด ท้ังเดือน และอากาศเริ่มร้อนอบอ้าว เกษตรกรจะดานา ปลูกข้าวในฤดูนี้ ในหนึ่งปีจะมีวันที่กลางวัน ยาวที่สุดเรียกว่า \"เกะชิ\" (Geshi) ซึ่งมักจะตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน ของทุกปี ในบริษัทองค์กรต่างๆ รวมไปถึงราชการจะจ่ายโบนัสในเดือนน้ี (ครั้งที่ 2 เดือน ธันวาคม) ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลแห่งดอกไม้ไฟ ในชุมชนต่างๆจะมีการจุดดอกไม้ไฟอย่างมีสีสัน และเล่นระบาพื้นเมือง Bon Odori ซ่ึงเป็นความ สนุกสนานแบบพื้นบ้าน ฤดูใบไมร้ ่วง (Aki) เดอื น กันยายน – พฤษจิกายน เป็นช่วงของการแข่งขนั กีฬาตามโรงเรยี น ต่างๆ ในช่วงน้ีมสี ัปดาห์ที่กลางวันและกลางคนื ยาวเทา่ กัน เปน็ ท่ีรจู้ กั กนั ตามประเพณวี ่าเป็นสัปดาห์\"ฮิ กัน\" (Higan) ถือกันว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อนและฤดูหนาว ทางเหนือของญ่ีปุ่นใบไม้เริ่มเปล่ียนสี เป็นแดง และสีเหลือง เริ่มจากเหนือลงไปทางใต้ เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่นิยมจัดงานมากท่ีสุด เดอื นหนึ่ง

9 เงินตรา ประเทศญี่ปุ่นใช้สกุลเงิน \"เยน\" เงินเหรียญท่ีใช้กันในญ่ีปุ่นมีราคา 1,5,10,50,100 และ 500 เยน สว่ นธนบัตรมีราคา 1,000 2,000 5,000 และ 10,000 เยน อัตราแลกเปล่ียนอยู่ที่ 36- 38 บาท/ 100 เยน (ญ่ีปุ่น: 円, สัญลักษณ์ ¥, รหัส ISO 4217 JPY) เป็นสกุลเงินของประเทศญ่ีปุ่น โดยมีการใช้กนั อย่างกว้างขวางท่ัวโลก โดยนิยมเก็บเป็นเงินสารอง รองลงมาจาก ดอลลาร์สหรัฐ และ เงินยูโร คาว่าเยน ภาษาญ่ีปนุ่ จะอ่านออกเสียงวา่ เอน อย่างไรก็ตามการอ่านออกเสียง เยน ถือเป็นชื่อ มาตรฐานใช้กนั ทั่วโลก สัญลักษณ์ลาตนิ คือ ¥ ในขณะท่ีคนญ่ีปุ่นจะนิยมเขยี นเป็นตัวอักษรคันจิว่า 円 กฎหมายของญี่ปุ่นระบุว่า ไม่ให้ร้านค้า ภัตตาคาร พาหนะขนส่งมวลชนสาธารณะ ธุรกิจบริการและ พ่อค้า รับเงินสกุลต่างประเทศ แต่ชาวต่างชาติสามารถแลกเงินเยน ได้ที่ธนาคาร และสถานท่ีรับ แลกเปล่ียนเงินตรา รวมทั้งผู้รับแลกเปล่ียนซ่ึงได้รับอนุญาตจากทางการ โดยต้องนาพาสปอร์ตไป แสดงในการแลกเงินด้วย ใน เมืองใหญ่ ๆ เช่นโตเกียว โอซาก้า เกียวโต จะรบั บัตรเครดิตของสถาบัน การเงินช้ันนา เช่น อเมริกันเอ็กซ์เพรส ไดเนอร์สคลับ มาสเตอร์การ์ด และวีซ่า โดยไม่คิดค่าบริการ เพ่ิมสาหรับการใช้บัตร โดยร้านค้าและภัตตาคารท่ียอมรับบัตรเครดิต จะติดสติ๊กเกอร์บัตรเครดิตท่ี ยอมรบั ไวห้ น้าร้าน ศาสนา ศาสนาหลักได้แก่ศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ ในปัจจุบันชาวญ่ีปุ่นไม่นิยมนับถือ ศาสนาใดเป็นหลกั แตน่ ิยมปฏบิ ัตติ ามประเพณี และพิธกี รรมเปน็ ส่วนใหญ่ การเดนิ ทางในญ่ีป่นุ รถบสั ทางไกล : ดาเนนิ การโดย JR วิ่งระหว่างโตเกยี วและหวั เมืองใหญ่ โดยทว่ั ไปแล้วราคาถกู กว่ารถไฟ รถบัสวิ่งบริการภายในเมือง : มีท้ังในเมืองใหญ่และเมืองเล็ก ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง ต้ังแต่ 100-200 เยน ราคา จะแสดงให้เห็นเป็นตารางตามระยะทางท่ีบอร์ดหน้ารถข้างคนขับ เม่ือขึ้น รถจะมีเครอื่ งแจกตั๋วอัตโนมตั ิท่ีประตูทางขึ้น และมีเสียงประกาศป้ายถัดไปท่ีจะจอดเหมือนรถไฟ เม่ือ ต้องการลงจากรถก็ให้กดกร่ิง แล้วเดินไปประตูทางออก ซ่ึงอยู่ด้านหน้าคนขับแล้วหยอดเหรียญชาระ เงนิ ลงใน กลอ่ งข้างคนขับ หากไมม่ เี หรียญก็สามารถแลกเหรียญไดท้ ่ีกลอ่ งนเี้ ช่นกนั รถไฟ : JR(Japan Railway) เป็นบริษัทที่ให้บริการทางด้านรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น เช่น ชิน คันเซ็น ที่เป็นที่รู้จักกันดีในเร่ืองความเร็วสูงถึง 170 ไมล์/ชั่วโมง สามารถสอบถามข้อมูลที่ JR Train Information ได้ ใน เวล า 10.00-18.00 น .ที่ เบ อ ร์ (03) 3423-0111 ให้ บ ริก ารข้ อมู ล เฉ พ าะ ภาษาอังกฤษเท่าน้ัน และไม่รับจองต๋ัวในวันธรรมดา นอกจากน้ียังมีบริการรถไฟของบริษัทเอกชน อนื่ ๆในภูมิภาคต่างๆใหเ้ ลือกอีกด้วย ราคา ค่าโดยสารขึ้นอยกู่ ับระยะทางและประเภทของรถไฟซึ่งจะ มีบอกท่ีตู้ขายตั๋ว อัตโนมตั ิ สาหรับต๋วั วันหรือตวั๋ ระยะสน้ั สามารถซอ้ื ได้เลยท่ีเครอื่ งขายตั๋วอตั โนมัติ แต่ ถ้าเป็นต๋ัวระยะไกลมักต้องจองล่วงหน้า โดยซ้ือได้ที่ช่องขายตั๋วสีเขียว (Midori-no-madoguchi) ภายในสถานีหลัก การใช้ต๋ัววิธีการก็จะเหมือนรถไฟฟ้าในบ้านเรา การคิดราคาก็จะคิดจากต้นทางไป ยังปลายทาง กรณีที่ซื้อต๋ัวผิดราคาสามารถปรับได้ที่สถานีปลายทางท่ีตู้ปรับราคาตั๋ว อัตโนมัติ หรือท่ี ชอ่ งประตูออกก็ได แท๊กซี่ : สะดวกที่สุด แต่มีราคาแพงมาก ในโตเกียวราคาแท๊กซ่ีจะเริ่มต้ังแต่ 650 เยน และ เพยี งเส้นทางส้ันๆราคาก็พงุ่ เป็นหลกั พันเยนเมื่อชาระเงินไม่ต้องจ่ายค่าทิปอกี แท๊กซมี่ ีอยู่ทว่ั ไปบนทอ้ ง ถนน หรอื ตามสถานรี ถไฟใหญ่ๆ ก็จะมาจอดรอบรกิ ารกันเลยสังเกตดถู ้ามีไฟแดงด้านหน้า แสดงว่าไม่ มีผู้โดยสาร สภาพรถแท๊กซี่ที่ญ่ีปุ่นค่อนข้างจะหรูหรา คนขับทั้งหญิงและชายจะสวมสูทและใส่ถุงมือ ในรถแท๊กซ่ีทุกคันจะมีระบบนาทาง (Navigator) เพ่ือใช้ในการตรวจสอบเส้นทาง เพียงบอกจุดหมาย ปลายทางเครอ่ื งจะคน้ หาใหอ้ ยา่ งอตั โนมตั ิ

10 ข้อที่ควร รู้อีกอย่างหนึ่งคือ อย่าเปิดหรือปิดประตูรถด้วยตนเอง เพราะคนขับจะเป็นผู้เปิดและปิด ประตดู ้วยคันบังคับขา้ งหนา้ หากเราพยายามจะเปดิ หรอื ปิดประตูด้วยตนเอง คนขบั อาจไมพ่ อใจ รถจักรยาน : เป็นยานพาหนะและการเดินทางท่ียอดฮิตสาหรับการเดินทางระยะใกล้ๆ ที่ ญ่ปี ุ่นจะมีช่องทางสาหรับจกั รยานโดยเฉพาะทาให้ขับขด่ี ้วยความปลอดภัย ไม่มีปัญหาเร่ืองรถติดแถม ประหยัดสตางค์ในกระเป๋าไม่ต้องเติมน้ามันอีกด้วย ราคาจักรยานท่ีน่ีก็ไม่แพงนัก คันหนึ่งก็ประมาณ 10,000-15,000 เยน บนถนนหนทางที่นี่จึงไม่ค่อยมีมลพิษนักเพราะคนส่วนใหญ่นิยมปั่นจักรยานไป เรยี นหรือไปทางานกนั ดอกไม้ประจาชาติ ในประเทศญี่ปุ่นไม่ได้มีการกาหนดว่าดอกไม้อะไรเป็นดอกไม้ประจาชาติ อย่างเป็นทางการ เพียงแต่เป็นที่ทราบกันโดยท่ัวกันว่าดอกไม้ประจาชาติญ่ีปุ่นคือดอกซากุระ ชื่อ ซากุระ ในภาษาญ่ีปุ่นนั้น เชื่อกันวา่ กร่อนมาจากคาวา่ ซะกุยะ (หมายถึง ผลิบาน) อันเป็นช่ือเจ้าหญิง โคโนฮะนะซะคุยาฮิเมะ มีศาลบูชาของพระองค์อยู่บนยอดเขาฟูจิด้วย สาหรับพระนามของเจ้าหญิง องค์ดังกล่าวนั้น มีความหมายว่าเจ้าหญิงดอกไม้บาน และเน่ืองจากซากรุ ะเป็นดอกไม้ที่นิยมกันมากใน ญี่ปุ่นสมัยน้ัน คาว่าดอกไม้ดังกล่าวจึงหมายถึงดอกซากุระนั่นเอง เจ้าหญิงองค์ดังกล่าวได้รับพระนาม เช่นนั้น ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาว่าทรงพลัดตกจากสวรรค์ลงมาที่บนต้นซากุระ ดังน้ัน จึงถือกันว่าดอก ซากุระเป็นดอกไม้ประจาชาติของญี่ปุ่น ดอกซากุระ มีลักษณะเด่นคือ “บานอย่างรวดเร็วและร่วง อยา่ งรวดเร็ว” เม่ือรว่ งจะรว่ งพรอ้ มกันหมดทั้งต้น แสดงใหเ้ ห็นถึงความไม่จีรังยงั่ ยืน นอกจากน้ีซากรุ ะ ยังเป็นสัญลักษณ์ของเลือดทหารหรือจิตวิญญาณซามูไรของญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่าการตายในสนามรบ เป็นความสวยงาม เชน่ เดียวกับการร่วงอย่างสวยงามของดอกซากุระ ดอกซากุระจะบานปีละหน่ึงคร้ัง และจะบานให้เห็นอยู่ประมาณ ๑-๒ สัปดาห์เท่าน้ัน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิประมาณปลายเดือนมีนาคม หรือต้นเดือนเมษายน ดอกซากุระสามารถนามาทาขนมญ่ีปุ่น น้าชาดอกซากุระ เปลือกไม้ให้สีน้าตาล ปนชมพูนามาทาเป็นสีย้อมผ้าฝ้าย นอกจากน้ี ชาวญ่ีปุ่นยังถือเอาช่วงที่ดอกซากุระเร่ิมบานเป็นช่วง แห่งการเริ่มต้นส่ิง ใหม่ๆ เช่น ปีงบประมาณและการเริ่มต้นชีวิตการทางานหลังจากสาเร็จการศึกษา จะเริ่มในเดอื น เมษายน เปน็ ตน้ ส่วนดอกเบญจมาศ เปน็ สญั ลกั ษณป์ ระจาราชวงศญ์ ีป่ นุ่ ภาษาญ่ีปุ่น (日本語, นิฮงโงะ (ข้อมูล) เป็นภาษาราชการ ของประเทศญ่ีปุ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ ทั่วโลกราว 130 ล้านคน นอกเหนือจากประเทศญป่ี ุ่นแลว้ รฐั อังกาอูร์ สาธารณรัฐปาเลา ได้กาหนดให้ ภาษาญี่ปุ่นเปน็ ภาษาราชการภาษาหน่ึง นอกจากนี้ภาษาญ่ีปุ่นยังถูกใช้ในหมู่ชาวญีป่ ุ่นที่ยา้ ยไปอย่นู อก ประเทศ นักวิจัยญ่ีปุ่น และนักธุรกิจต่าง ๆ คาภาษาญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลมาจากภาษาต่างประเทศเป็น อย่างมาก โดยเฉพาะภาษาจีน ที่ได้นามาเผยแพร่มาในประเทศญ่ีปุ่นเมื่อกว่า 1,500 ปีที่แล้ว และ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ก็ได้มีการยืมคาจากภาษาต่างประเทศท่ีไม่ใช่ภาษาจีนมาใช้อีก เป็นจานวนมาก โดยเฉพาะภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียน เช่นคาที่มาจากภาษาดัตช์ ビール (bier แปลว่า เบียร์) และ コーヒー (koffie แปลว่า กาแฟ) ปัจจุบันภายในประเทศนอกจากจะมีการพูด ภาษาญี่ปุ่นกันเป็นหลักอยู่แล้ว ก็ยังมีปรากฏอยู่บ้างภายนอกประเทศ อาทิเช่นจีนแผ่นดินใหญ่ คาบสมุทรเกาหลี และหมู่เกาะในมหาสมทุ รแปซฟิ ิกก็มีการใช้ภาษาญ่ีป่นุ ด้วย อันเป็นผลมาจากการท่ี ทางรัฐบาลญี่ปุ่น บังคับสอนภาษาญี่ปุ่นให้แก่พวกเขาในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกคร้ังท่ี 2 นอกจากน้ีแล้ว ยังมีผู้อพยพและลูกหลานของชาวญี่ปุ่น ซึ่งได้อพยพไปสู่ทวีปอเมริกา เช่นประเทศ สหรัฐอเมริกา ฮาวาย เปรู อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี หลังสงครามอีกจานวนหน่ึงท่ียังคงสามารถพูด ภาษาญ่ีปุ่นได้อยู่ ถึงแม้ว่าลูกหลานของพวกเขาจะไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ก็ตาม ภาษาญ่ีปุ่นเป็น ภาษาราชการของประเทศด้วยความนิยม ซงึ่ เป็นประเทศเดียวในโลกท่ีมภี าษาญี่ป่นุ เปน็ ภาษาราชการ เต็มตัว (ไม่มีการใช้ภาษาต่างประเทศในวงราชการ) ภาษาญ่ีปุ่นมีแบบภาษาที่เรียกกันว่ามาตรฐาน 2

11 แบบ คือ เฮียวจุงโงะ (標準語, hyōjungo?, ภาษามาตรฐาน) ซ่ึงเป็นภาษาท่ีใช้กันโทรทัศน์ และ เคียวซอื โงะ (共通語, kyōtsūgo? ภาษาร่วม) ซึง่ เป็นภาษาท่ใี ช้กนั อยา่ งไม่เป็นทางการ สาเนยี งท้องถ่นิ ภาษาญี่ปุน่ มีสาเนียงท้องถิ่นมากมายด่ังเชน่ ประเทศอ่นื ๆในโลก โดยสามารถ แบ่งออกเป็นใหญๆ่ ได้ 3 ประเภท คือ แบบโตเกียว หรอื โตเกียวชิกิ (東京式) สาเนียงทางการ ซ่ึงพูดกันในฝ่ังตะวันออก หรือ ฮงิ าชินิฮ่ง ( 東日本ของญปี่ ุ่น แบบเคฮงั หรอื เคฮงั ชิกิ (京阪式) ซ่งึ พูดกนั ในฝ่งั ตะวันตก หรือ นิชินฮิ ง่ (西日本) และ แบบควิ ชู ซ่ึงบางครงั้ จะยบุ รวมกับแบบเคฮัง เนือ่ งจากเปน็ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของนิชินิฮง่ ในปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นไม่จัดว่าสาเนียงแบบโตเกียวเป็นสาเนียงกลางอย่าง เป็นทางการ และยังมีการผสมผสานสาเนียงภาษาของแต่ละท้องถ่ินเข้าไปในส่ือและรายการโทรทัศน์ของ ญ่ีปุ่น ดังน้ี จึงทาให้คนญ่ีปุ่น เม่ือเดินทางไปยังถิ่นภูมิภาคอ่ืน ก็ยังคงพูดภาษาของถ่ินตนเองดังเดิม โดยไม่ จาเป็นต้องเปลี่ยนเป็นพูดภาษากลาง เหล่าน้ีสามารถเห็นได้ชัดในนักแสดงชาวภูมิภาคคันไซญ่ีปุ่น ซึ่ง ส่วนมากเป็นนักแสดงตลก เมื่อเดินทางไปทางานที่โตเกียว พวกเขาก็ยังคงพูดภาษาถ่ินคันไซของพวก เขาอยู่ด่ังเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงให้เกิดรสนิยมที่ว่าดาราตลกญี่ปุ่นต้องพูดภาษาคันไซ สาเหตุที่ทาให้เกิดสิ่งเช่นน้ีก็น่าจะมาจากการออกเสียงของสาเนียงคันไซ ซ่ึงฟังดูไม่ล่ืนไม่ไพเราะ เหมือนถ่ินอื่น กลับกันถ้า นักแสดงละคร หรือดารานักร้อง พวกเขาจะไม่นิยมคนที่พูดสาเนียงคันไซ เลย ตัวอักษร เราจาแนกตัวอักษรญ่ีปุ่นออกเป็นสองจาพวก คือ กลุ่มตัวอักษรท่ีใช้แทนเสียง ซี่ง ได้แก่ ฮิระงะนะ และ คะตะคะนะกับ กลมุ่ ตัวอักษรท่ีแสดงความหมาย ท่ีเรียกว่า คันจิ โดยใชร้ ่วมกับ ตัวเลขอารบิก และตัวอักษรโรมนั ซง่ึ จะมีความหลากหลายมากกวา่ ภาษาทใี่ ช้ในประเทศใกล้เคยี ง เช่น ภาษาจีนซ่ึงใช้ตัวอักษรจีน เป็นหลัก ส่วนภาษาเกาหลีกจ็ ะใช้อักษรฮันกึลเป็นหลักเน่ืองจากตัวคันจิซ่ึง ญ่ีปุ่นรับมาจากภาษาจีนมีจานวนมาก บางคร้ังมีการใช้ตัวอักษรที่คนส่วนใหญ่ ไม่ทราบ กระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลจึงได้กาหนดมาตรฐานของตัวคันจิ ซ่ึงเรียกว่า โจโยคันจิ ประกอบด้วยตัวอักษร 1,945 ตัว เป็นตัวคันจิที่คนญี่ปุ่นทั่วไปทราบกันดี โดยไม่จาเป็นต้องเขียนคา อ่านกากับ ภาษาไทย คาอ่าน คาอ่าน (ไทย) สวัสดตี อนเชา้ Ohayou gozaimasu โอะฮาโย โกไซอิมัส สวัสดีตอนบ่าย Konnichiwa คอนนจิ วิ ะ สวัสดตี อนกลางคนื Konbanwa คอนบังวะ ราตรีสวสั ด์ิ Oyasuminasai โอะยะซมุ นิ ะไซ ขอบคุณ Arigatou gozaimasu อะริกะโตะ โกะไซอิมัส ไมเ่ ปน็ ไร Douitashimashite โดอติ ะชมิ ะชเิ ตะ ขอโทษ (รบกวน) Sumimasen/suimasen ซมุ มิ ะเซง/ซยุ มะเซง ขอโทษ Gomennasai โกเมงนาไซ ใช่ Hai ไฮ ไมใ่ ช่ Iie อเี อะ แล้วพบกันใหม่ Mata iemasho มาตะ ไออมิ าโช เชญิ Dozo โด โสะ

12 ยินดีทไ่ี ด้รู้จัก Hajimemashite ฮะจเิ มะมาชิเตะ เชญิ Dozo โด โสะ ลาก่อน Sayonara ซาโยนาระ ฉนั / ผม Watashi วะตะชื คุณ Anata อะนะตะ ค่ะ / ครบั Desu เดสึ หอ้ งน้า Otearai โอเตไร กนิ Taberu ทาเบรุ น้าแขง็ Kori โคริ ขา้ ว Gohan โกะฮนั อาหารกลางวัน Hirugohan ฮริ โุ กะฮัน อาหารเย็น Bangohan บนั โกะฮัน น้า Misu มสิ ชาฝร่งั Kocha โคชะ นม Gyunyu กวี นีว เน้อื ไก่ Toriniku โทะรินิกุ เน้ือ Niku นิกุ ปลา Sakana ซะกะนะ ผกั Yasai ยะซะอิ ผลไม้ Kudamono คุดะโมะโนะ อร่อย Oishii โออชิ ิ โรงแรม Hoteru โฮเทรุ รถแทก็ ซ่ี Takushi ทาคชุ ี โทรศัพท์ Denwa เดง็ วา ราคาเทา่ ไร Ikura อิครุ ะ (เดสกา) เงนิ ทอน Osueri โอสุริ เงนิ สด Okane โอกาเนะ กระเป๋าเดินทาง Nimothu นิมอทสุ ต๋ัวเครอ่ื งบิน Hikoki No Kippu ฮิโคคิ โนะ คปิ ปุ หนึ่ง Ichi อิชิ สอง Ni นิ สาม San ซนั สี่ Shi ฌิ หา้ Go โงะ หก Roku โระกุ เจ็ด Shichi ฌิชิ

13 แปด Hachi ฮาชิ เกา้ Kyu คีว สบิ Ju จู ฉนั เปน็ คนไทย Taijin desu ไทจินเดส นา่ รัก Kawaiiii คาวาอิ สวย Kirei คเิ ร

บทท่ี 3 วธิ ีดำเนนิ กำร วิธดี ำเนนิ กำร ดำเนินโครงกำรโดยใช้หลกั กำรของวงจรกำรบรหิ ำรงำนคณุ ภำพ (PDCA) 3.1 ขั้นตอนกำรวำงแผน (Plan) ศึกษำข้อมลู สถำนที่ดงู ำน กระบวนกำรและวิธกี ำรเดินทำง - ประชุมปรึกษำหำรือ หำสถำนที่เพื่อไปทัศนศึกษำดูงำน กำหนดประเทศ วันเวลำ และสถำนที่ในกำร ทัศนศึกษำดงู ำน - ติดต่อท่ีพัก บัตรโดยสำรระหว่ำงประเทศ เพ่ือกำหนดวันและเวลำ และเสนอค่ำใช้จ่ำยในกำรศึกษำดู งำนตอ่ คน - ประชุมปรึกษำหำรือ คณะเดินทำงเพ่ือเลือกสถำนท่ีดูงำนในประเทศญี่ปุ่นโดยใช้ทุนส่วนตัวและ คำ่ ใช้จ่ำย กำรเตรียมตวั ในกำรเดนิ ทำง 3.2 ขน้ั ตอนกำรปฏิบตั ิ (Do) ก่อนวันเดินทำง แลกเงินสำหรับค่ำใช้จ่ำยในกำรเดินทำง เอกสำรกำรเดินทำง และที่สำคัญอุปกรณ์กำร ป้องกันโรคโควิด -19 (COVID-19) จำกเช้ือไวรัสโคโรน่ำ 2019 เช่น หน้ำกำกอนำมัย เจลแอลกอฮอล์ล้ำงมือ ยำปอ้ งกันโรคไข้หวดั ตำ่ ง ๆ วนั เดนิ ทำง ก่อนออกจำกบำ้ น กระเป๋ำ1ใบ ตรวจดูควำมเรียบร้อยและใสก่ ุญแจล็อค ส่วนกระเป๋ำสตำงค์ / เครื่องคอมพิวเตอร์ / เคร่ืองประดับ / หนังสือเดินทำง / บัตรเครดิต / เอกสำรสำคัญ / กล้องถ่ำยรูป และ กล้องวีดีโอ / ยำประจำตัว ติดตัวเสมอ ของเหลวนำข้ึนเคร่ืองทุกประเทศ ด้ำนคณะกรรมกำรกำรบินพลเรือน (ซีเอเอซี) เพื่อให้สอดคล้องกับมำตรกำรกำรรักษำควำมปลอดภัยสำกล ได้ออกกฎใหม่สำหรับผู้โดยสำร เท่ียวบินระหว่ำงประเทศ ระบุของเหลวท้ังหมดท่ีนำใส่กระเป๋ำถือติดตัวข้ึนเคร่ืองจะต้องบรรจุในบรรจุภัณฑ์ และมีปริมำณไม่เกิน 100 มิลลิลิตร บรรจุภัณฑ์ดังกล่ำวควรใส่ในถุงท่ีโปร่งใสและสำมำรถเปิด-ปิดได้ ด้วย สำมำรถบรรจุได้มำกสุด 1 ลิตร โดยผู้โดยสำรแต่ละคนจะได้รับอนุญำตให้นำถุงข้ึนไปเพียงใบเดียวเท่ำน้ัน สำหรับผู้โดยสำรผู้หญิง ครีมล้ำงหน้ำ ลิปกลอสอย่ำงเหลว น้ำหอม และมำสคำร่ำ ล้วนจัดเป็นของเหลวด้วย อย่ำงไรก็ตำม ของเหลวประเภทนมและอำหำรของทำรก (ในกรณีท่ีมีทำรกอยู่ด้วย) และยำตำมใบส่ังแพทย์ จะได้รับกำรยกเวน้ ให้นำขึ้นเคร่ืองได้ อยำ่ งไรก็ตำม กฎระเบียบจำกัดของเหลวนำข้ึนเคร่ืองน้ี จะไม่กระทบต่อ กำรชอปป้ิงซื้อสินค้ำปลอดภำษีของลูกค้ำ แต่ผู้ซ้ือจะต้องเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐำนและ ไม่ควรเปิดแพคเกจ ออก สนำมบนิ ดอนเมือง เช็คอินกับทำงเจ้ำหน้ำที่สำยกำรบนิ ด้วยตัวเองตำมนโยบำยรกั ษำควำมปลอดภัยของ สำยกำรบิน ของมคี มและวตั ถุระเบดิ ทุกชนดิ เชน่ มดี กรรไกร ถ่ำน ไฟเชค็ เจล จะต้องฝำกกับกระเปำ๋ ใหญไ่ ป กบั ใต้ท้องเคร่ืองบิน เพ่ิมเตมิ โรงแรมทว่ั ไปของญี่ปุ่นระดับเฟสิ คลำสถึงเดอร์ลักซค์ ลำส จะไม่มีพนกั งำนกระเป๋ำ คอยบรกิ ำร ศุลกำกร กำรนำเข้ำส่ิงของโดยปลอดภำษี ทำงด่ำนศุลกำกรอนุญำตให้นำเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอร์ 1 ลิตร, บุหร่ี 1 ห่อ หรือ 200 มวน ของกำนัลตลอดจนของท่ีระลึก มูลค่ำไม่เกิน 2 แสนเยน มิฉะนั้น ต้องเสียภำษี (สำหรับบคุ คลทอ่ี ำยยุ งั ไม่ถึง 19 ปี และอำยุเพียง 19 ปี ไมอ่ นุญำตให้นำเข้ำบหุ รีห่ รือเครื่องดมื่ มีแอลกอฮอล์) สว่ นระเบยี บเกย่ี วกับอนำมัยพชื ผลไม้ อำหำรต่ำงๆ ห้ำมนำเข้ำท้งั ส้นิ !!!

15 เม่ือถึงสนำมบินดอนเมือง ติดตอ่ รับ Pocket Wi-fiท่จี องไว้ และเตรียมควำมพร้อมในกำรเขยี นใบผ่ำน ตม.ญ่ีปุ่น พร้อมเซ็นต์ชื่อ ตรง เครื่องหมำย X (ลำยเซ็นต์จะต้องเหมือนกับหนังสือเดินทำง) ภำยในซอง ประกอบไปด้วย Thai Immigration Bureau เอกสำรตรวจคนเข้ำเมืองของประเทศไทย บัตรขำเข้ำ/บัตรขำ ออก Japan Immigration Service เอกสำรตรวจคนเข้ำเมอื งของประเทศญ่ีปุ่น บตั รขำเข้ำ รับต๋ัวเคร่ืองบิน รำยละเอียดของตั๋วเครื่องบินจะแสดง ช่ือ, นำมสกุล, Flight Details, ประตูขึ้น เคร่ือง, เวลำท่ีท่ำนจะต้อง มำที่ประตูขึ้นเคร่ือง หมำยเหตุ: เพื่อควำมถูกต้องควรตรวจสอบและเช็ค รำยละเอียด Flight Details จำกจอของสนำมบิน จำกนั้นนำกระเป๋ำเดินทำงของท่ำน พร้อมหนังสือเดินทำง และตั๋วเครื่องบิน ไปที่เคำเตอร์ของสำยกำรบิน (โดยสำรกำรบินกำหนดให้เจ้ำของกระเป๋ำยื่น และแสดงควำม เป็นเจ้ำของดว้ ยตัวเองเท่ำน้ัน) เพื่อทำกำร เชค็ อิน และโหลดกระเป๋ำ โดยต้องรอรบั ต๋ัวเครื่องบิน และหนังสือ เดินทำงจำกเจ้ำหน้ำท่ีของสำยกำรบินคืน น้ำหนกั กระเปำ๋ เดินทำง 1 ใบ ไมเ่ กิน 20 กิโลกรมั ตอ่ ท่ำน (หำกน้ำ หนักเกิน ทำงสำยกำรบินอำจจะเรียกเก็บค่ำระวำงเพ่ิมได้) ควรใส่กุญแจอย่ำงหนำแน่น อำจจะมีกำรตรวจ ค่อนข้ำงละเอียด ส่ิงท่ีห้ำมนำขึ้นเคร่ืองมีดังนี้ อำวุธต่ำงๆ ,มีดปอกผลไม้, ไฟแช็ค,หรือสิ่งผิดกฎหมำยต่ำงๆ ควรใสไ่ ว้ในกระเป๋ำใหญ่ฝำกไว้ใต้เครอื่ งอย่ำใส่กระเป๋ำเล็กถือขึ้นเครื่องอยำ่ งเด็ดขำดเพรำะอำจจะโดนยดึ และ อำจไม่ไดข้ องคืน กระเป๋ำแฮนด์แบ็ค (Hand carry) อนุญำตให้นำกระเป๋ำถือข้ึนเครื่องเฉพำะขนำดเล็ก และมีน้ำหนัก ไม่เกิน 7 ก.ก. และมีควำมกว้ำง×ยำว×สูง ขนำดไม่เกิน 45x56x25 ซ.ม.และอนุญำตให้มีสัมภำระติดตัวขึ้น เครอื่ งบนิ ได้ ทำ่ นละ 1 ช้ินเท่ำนั้น และควรดูแลเองตลอดกำรเดนิ ทำง ขั้นตอนกำรผ่ำนด่ำนตรวจคนเข้ำเมืองขำออกไปยังต่ำงประเทศ เข้ำแถวช่องหนังสือเดินทำงไทย • แสดงหนังสือเดินทำง พร้อม Thai Immigration Bureau (เอกสำรตรวจคนเข้ำเมอื งของประเทศไทย บัตรขำ เข้ำ/บตั รขำออก) ให้เจ้ำหน้ำท่ผี ่ำนเครอื่ งเอ็กซเรย์ ข้ันตอนสุดท้ำยก่อนถึงประตู (Gate) เมือ่ ผ่ำนด่ำนตรวจคน เข้ำเมืองขำออกเรียบร้อย ท่ำนสำมำรถเดินเลือกซื้อสินค้ำปลอดภำษีได้ตำมอัธยำศัย โดยต้องตรวจสอบเวลำ จำกตว๋ั เครอ่ื งบนิ หรือจำกจอของสนำมบินเพ่ือให้ทันขน้ึ เคร่ือง อณุ หภูมิ ประมำณ (-6) – 1 C° อำกำศหนำว เครื่องแต่งกำย ควรเตรียมให้พร้อมก่อนกำรเดนิ ทำงไป เป็นสิ่งท่ีสำคัญ เพรำะถ้ำหำกคุณประมำท เตรียมตัวไปไม่ดี อำจจะทำให้ทริปนั้นหมดสนุกไปได้เลย เดินทำง มำเที่ยวท้ังทีแต่ต้องหนำวส่ันตลอดทริป หรือต้องไปเสียเงินซื้อเสื้อเพิ่ม เคร่ืองแต่งกำยที่ควรเตรียมมีดังนี้ ชุด ลองจอห์น สำหรับใส่ชั้นในสุด เนื่องจำกเน้ือผ้ำสำมำรถเก็บควำมอบอุ่นได้เป็นอย่ำงดี สำมำรถหำซ้ือได้ตำม ประตูน้ำและตลำดทั่วไป เส้ือกันหนำว เส้อื คลุม สำหรับสวมชน้ั นอกสุด ควรเลอื กท่ีด้ำนในเป็นขนเพรำะว่ำจะ เก็บควำมอบอุ่นได้ดี เส้ือมีควำมหนำ ป้องกนั ลมและควำมเย็นที่จะถ่ำยเทจำกอำกำศภำยนอกเขำ้ ไปในเน้ือผ้ำ ได้ ถุงมือ ถุงเท้ำ ผ้ำพันคอ รองเท้ำ และ Accessories ต่ำงๆ ที่สำมำรถช่วยป้องกันควำมหนำวได้ ท่ำนไม่ สำมำรถเลือก Accessories ประเภทแฟชั่นเพื่อควำมสวยงำมเพียงอย่ำงเดียวได้ ที่สำคัญต้องเน้นป้องกัน ควำมหนำวเยน็ เปน็ อันดับแรก โลชั่น ครมี ทำผิว ลิปสตกิ ภำษำ ประชำกรของประเทศญป่ี ุ่นจะใชภ้ ำษำญ่ีปนุ่ เป็นภำษำรำชกำร และภำษำอังกฤษสำมำรถใช้ได้ ในย่ำนธรุ กจิ เวลำ เร็วกว่ำประเทศไทย 2 ชม. กรณุ ำปรับเวลำให้เร็วขึ้นอีก 2 ช่ัวโมง ระหว่ำงท่องเท่ียว เรำจะนัด หมำยทุกทำ่ นเป็นเวลำทอ้ งถนิ่ เท่ำนน้ั สกุลเงิน ขนำดของธนบัตรมใี บละ 1,000 / 2,000 / 5,000 / 10,000 เยน และขนำดของเหรยี ญมี 1 / 5 / 10 / 50 / 100 เยน (ณ ปัจจุบัน 100 เยน เท่ำกับ ประมำณ 28 บำท)

16 บตั รเครดิต ใชไ้ ด้ตำมโรงแรม ห้องอำหำรและห้ำงสรรพสินค้ำใหญๆ่ โดยมำกจะเป็นบตั รวซี ่ำและบัตร อเมริกันเอ๊กซ์เพรส ญ่ีปุ่นใช้กระแสไฟฟ้ำ 110 โวลท์ อย่ำงไรก็ตำม ควรเตรียมปล๊ักแปลงไฟไปด้วย และปล๊ัก ตัวเมยี ของญป่ี ุ่นเปน็ 2 รู แบน ควรนำหวั เปลีย่ นไปด้วย ถำ้ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟำ้ ของท่ำนเป็นปลั๊กตวั ผูห้ ัวกลม นำ้ ประปำ เมอื งตำ่ งๆ ในญี่ปนุ่ มบี ริกำรน้ำประปำไว้ให้และน้ำประปำทกุ แห่งปลอดภยั สำมำรถด่ืมได้ โทรศัพท์ บรกิ ำรด้ำนโทรศัพท์ บัตรโทรศัพทม์ ีขำยทัว่ ไปตำมเคำนเ์ ตอร์โรงแรม, ซุปเปอรม์ ำร์เกต็ และ สถำนท่ีท่องเที่ยว รำคำเริ่ม 1,000 เยน โทรกลับประเทศไทย กรุงเทพฯ : 001-010-662-หมำยเลขโทรศัพท์ เจ็ดหลัก ต่ำงจังหวัด : 001-010-66 ตำมด้วยรหัสเมืองโดยตัดศูนย์ออก-หมำยเลขโทรศัพท์หกหลัก โทร ภำยในญป่ี นุ่ : รหัสเมอื ง / มือถอื – หมำยเลขโทรศัพท์ กำรให้ทิป กำรให้ทิปตำมธรรมเนียมสำกล กำรเข้ำพักในโรงแรมทุกแห่ง พนักงำนยกกระเป๋ำ คำดหวังวำ่ จะไดร้ ับทปิ เมื่อใหก้ ำรบริกำร 3.3 ขน้ั ตอนกำรตรวจสอบ (Check) กระเปำ๋ เป้เดนิ ทำง(Carry on) ไม่ควรนำใบใหญม่ ำก และน้ำหนกั ไม่เกิน 7 กก. ควรเตรยี มของใช้สว่ นตวั เช่น ยำสำหรบั ท่ำนทีม่ ีโรคประจำตวั , แว่นกนั แดด, หมวก, เสอ้ื กันหนำว ท่ำนสำมำรถนำเงนิ ไทยติดตวั ได้ไม่เกิน 50,000.-บำทเทำ่ นั้น สนิ คำ้ เครอื่ งใชส้ ว่ นตัวที่ซ้อื นำเขำ้ มำภำยในประเทศได้ไมเ่ กนิ 10,000 บำท กระเป๋ำทใ่ี สข่ องใชจ้ ำเปน็ / ชองมีค่ำควรถือติดตัวตลอดเวลำ และหนังสือเดนิ ทำงควรระมัดระวังเป็น อย่ำงยงิ่ หำกทำ่ นมีปัญหำเรอื่ งอำหำร กรณุ ำแจง้ ให้หัวหน้ำทวั ร์ทรำบแตเ่ นนิ่ สินคำ้ เครอ่ื งใชส้ ว่ นตัวทซ่ี ือ้ นำเข้ำมำภำยในประเทศได้ไมเ่ กิน 10,000 บำท อำหำรและเคร่ืองดื่มท่ีทำ่ นสัง่ พเิ ศษระหว่ำงอำหำร กรุณำชำระเองเมื่อท่ำนส่งั ทำ่ นท่ีไม่ได้ใชบ้ รกิ ำรตำมรำยกำรระบุไว้ เชน่ คำ่ อำหำร, ค่ำเขำ้ ชมสถำนที่ หรือโรงแรมจะขอหกั คำ่ บริกำรคืนไม่ได้ กำรใหท้ ปิ ตำมธรรมเนยี มสำกลโรงแรมกำรเขำ้ พกั ในโรงแรมทกุ แห่ง พนกั งำนยกกระเป๋ำคำดหวังวำ่ จะ ไดร้ ับทิปเม่ือให้บริกำร ควรให้ทปิ เพื่อเปน็ กำลงั ใจ เม่อื เช็คเอำทจ์ ำกโรงแรมหำกมีรำยกำรที่ต้องชำระ เช่น คำ่ โทรศพั ท์ ค่ำซักรดี คำ่ เคร่ืองด่ืมในตู้เยน็ ภำยใน หอ้ งพักกรุณำชำระใหเ้ สร็จเรียบรอ้ ยก่อนกำรเดินทำงต่อ สนำมบินประเทศญ่ีปุ่นสำคัญมำกโปรดอ่ำนสำหรับท่ำนที่ยังไม่เคยเดินทำงไปต่ำงประเทศ ข้ันตอนกำร เข้ำประเทศญ่ีปนุ่ เมื่อเดนิ ทำงถึงสนำมบินประเทศญี่ปุ่น เตรียมหนังสอื เดินทำง และเอกสำรที่ทำงบริษัทฯ จัด ไว้ให้ โดยผำ่ นขนั้ ตอนดังต่อไปนี้ ด่ำนตรวจคนเข้ำเมือง เข้ำแถวช่อง Foreigner (สำหรบั ชำวต่ำงประเทศ) พร้อมยื่นหนังสือเดินทำง และ เอกสำรตรวจคนเข้ำเมืองของประเทศญ่ีปุ่น, สแกนนิ้วชี้ทั้งสองขำ้ งลงบนคอมพิวเตอร์ จำกน้ันถ่ำยรูปเพ่ือเป็น หลักฐำนในกำรเขำ้ ประเทศ (Japan Immigration Service) รบั หนงั สือเดินทำงจำกเจ้ำหน้ำทีก่ ลับมำ ด่ำนศุลกำกร ก่อนที่จะนำกระเป๋ำออกจำกสนำมบินเพื่อเข้ำประเทศญ่ีปุ่นนั้น จะต้องผ่ำนด่ำนศุลกำกร ซ่ึงจะแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนสีแดงสำหรับผู้ท่ีมีส่ิงของต้องสำแดง กับส่วนสีเขียวสำหรับผู้ท่ีไม่มีส่ิงของต้อง สำแดง เจ้ำหน้ำท่ีจะตรวจเช็คสิ่งของที่นำเข้ำประเทศว่ำเป็นส่ิงของต้องห้ำมหรือไม่ รวมถึงจำนวนส่ิงของที่ นำเข้ำบำงอยำ่ งทม่ี ี

17 กำรจำกัดปริมำณกำรนำเขำ้ เช่น เหลำ้ บุหรี่ นำ้ หอม ของที่ระลกึ หำกตรี ำคำรวมกนั แลว้ เกินกำหนดก็ จะต้องเสยี ภำษี เม่อื ออกจำกด่ำนศุลกำกรแลว้ ก็เปน็ อนั เสรจ็ พธิ กี ำรเข้ำเมือง 3.4 ขั้นตอนกำรดำเนนิ งำนใหเ้ หมำะสม (Action) 24 กุมภำพนั ธ์ 63 เดินทำงจำกสนำมบนิ ดอนเมือง ถึง สนำมบินนำริตะ กรุงโตเกียว ประเทศญ่ปี ่นุ เปลี่ยนเครอ่ื งบิน จำก TERMINAL 2 ไป TERMINAL 3 เดินทำงจำกสนำมบนิ นำริตะ กรุงโตเกียว ถงึ สนำมบิน นิว ชโิ ตเซะ เมืองซับโปโร เดินทำงดว้ ยรถไฟฟ้ำ จำกสนำมบนิ นิว ชโิ ตเซะ เมืองซับโปโร สถำน.ี ...CHITOSE.......ถงึ สถำนี...JR..SAPPORO..STATION................................ พกั ท่ีโรงแรม QUINTESSA เมืองซบั โปโร 25 กุมภำพันธ์ 63 เดนิ ทำงด้วยเท้ำ จำก โรงแรม QUINTESSA เมอื งซบั โปโร ถงึ สถำนีรถไฟฟ้ำ..NAKAJIMA.. KOEN..... เดินทำงด้วยรถไฟฟำ้ สถำน.ี ....NAKAJIMA KOEN.......ถึง สถำนี....SUSUKINO................................... เดินทำงดว้ ยรถบสั รีสอร์ท จำกป้ำยจอดรถที่ 6 ถึง คิโรโระ สกรี สี อร์ท ดูงำนทคี่ ิโรโระ สกีรสี อร์ท เดนิ ทำงด้วยรถบัสรสี อร์ท จำก คิโรโระ สกรี สี อรท์ ถึง...OTARU EKIMAEDORI BUS STOP..... ดูงำน คลองโอตำรุ (เวลำกลำงคนื ) พกั ท่ีโรงแรม GARDEN HOUSE 26 กุมภำพันธ์ 63 เดนิ ทำงดว้ ยเทำ้ จำก โรงแรม GARDEN HOUSE ดงู ำน คลองโอตำรุ (เวลำกลำงวัน) เดนิ ทำงด้วยเทำ้ จำก คลองโอตำรุ ถึง สถำนีรถไฟฟ้ำ..OTARU........ เดินทำงดว้ ยรถไฟฟ้ำ JR สถำนี..OTARU........ถึง สถำน.ี ...HAKODATE................................... ดงู ำนสวนสำธำรณะ ฮำโกดำเตะ ดูงำนท่ำเรือ ฮำโกดำเตะ พกั ทโี่ รงแรม……SUN…CITY………………………………….. 27 กุมภำพันธ์ 63 เดินทำงด้วยเท้ำ จำก โรงแรม…… SUN…CITY ………..ถึง สถำนี....HAKODATE............................. เดนิ ทำงดว้ ยรถไฟฟ้ำ JR สถำน.ี ..SAPPORO.......ถึง สถำนี....MARUSOMAKOMANAITEN........ ฝำกกระเป๋ำที่ LOCKER เดินทำงดว้ ยรถเมล์ จำก..MARUSOMAKOMANAITEN...ถงึ ..MAKOMANAI TAKINO..CEMETERY... ดูงำนสุสำนทำคิโนะ เดนิ ทำงด้วยรถเมล์ จำก..MAKOMANAI TAKINO CEMETERY.ถงึ ....MARUSOMAKOMANAITEN.... ดงู ำนศำลำว่ำกำรหลังเกำ่ HOKKAIDO พกั ที่โรงแรม……TMARK…CITY………….. ดงู ำน……SHOPPING…ODORI…STREET………………………

18 28 กุมภำพนั ธ์ 63 เดินทำงดว้ ยเทำ้ จำก โรงแรม…… TMARK…CITY……..ถึง หำ้ งสรรพสนิ คำ้ PARCO (ซ้ือของท่ีระลกึ ) เดนิ ทำงด้วยเทำ้ จำกหำ้ งสรรพสินค้ำ PARCO ถงึ สวนสำธำรณะ TV TOWER เดนิ ทำงดว้ ยเท้ำ จำกสวนสำธำรณะ TV TOWER สถำนี...JR..SAPPORO..STATION.......................... เดนิ ทำงด้วยรถไฟฟ้ำ JR สถำน.ี ..JR..SAPPORO..STATION......ถงึ สถำน.ี ...MANAMI - CHITOSE..... ฝำกกระเปำ๋ ที่ LOCKER ดงู ำน RERA CHITOSE OUTLET MALL เดนิ ทำงด้วยรถเมล์ จำก.... MANAMI - CHITOSE......ถึง สนำมบิน นิว ชิโตเซะ เมืองซบั โปโร เดนิ ทำงจำกสนำมบิน นิว ชโิ ตเซะ เมืองซับโปโร ถึง สนำมบินนำรติ ะ กรุงโตเกยี ว เดินทำงดว้ ยรถบสั จำก....NARITA AIRPORT….. ถึงสถำน.ี ..JR..TOKYO STATION........ เดินทำงดว้ ยรถไฟฟำ้ JR สถำนี...JR TOKYO STATION......ถงึ สถำนี...UGUISUDANAI STATION.... พักทีโ่ รงแรม…LE TOUR HOTEL………….. 29 กุมภำพนั ธ์ 63 เดนิ ทำงดว้ ยเทำ้ จำก โรงแรม… LE TOUR HOTEL …..ถึง สถำนี...UGUISUDANAI STATION......... เดินทำงด้วยรถไฟฟ้ำ จำก สถำนี... UGUISUDANAI STATION.....ถึง สถำนี.......UENO..................... ดูงำนสวนสำธำรณะ UENO ดงู ำน AMEYOKO MARKET เดนิ ทำงด้วยรถไฟฟำ้ จำก สถำนี........UENO............ถึง TERMINAL 2 สนำมบินนำรติ ะ กรงุ โตเกียว เดนิ ทำงจำกสนำมบนิ นำรติ ะ กรุงโตเกยี ว ประเทศญปี่ ่นุ ถงึ สนำมบินดอนเมือง

บทท่ี 4 ผลการดาเนินการศึกษาดงู าน จากการไปพัฒนาครูให้มีวิสัยทัศน์ เรียนรู้วัฒนธรรม ก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นการสร้างเสริม ประสบการณ์ ได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางด้านการจัดการเรียนการสอน อาชีวศึกษากับกลุ่มประเทศอาเซียน งานส่ือการเรียนการสอนได้ไปศึกษาดูงานตา่ งประเทศดว้ ยเงนิ ทุนสว่ นตัว ในช่วงปิดภาคเรียน ณ ประเทศญ่ีปุ่น ระหว่างวันท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 ทาให้ได้เรียนรู้เทคโนโลยี ใหม่ๆ และได้เรียนรคู้ วามมีวินัยของชาวญี่ปุ่น ได้คะแนน 4.9 ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ได้คะแนน 4.8 ได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของญี่ปุ่น ได้คะแนน 4.7 และได้เรียนรู้ภาษาญ่ีปุ่นเบ้ืองต้น ได้คะแนน 4.1 จากการให้คะแนนรายบุคคลของข้าพเจ้าเอง(ว่าที่ร้อยเอกรุ่งโรจน์ อตุ มาตร) ซึ่งในแต่ละข้อคะแนนเต็ม 5 คะแนน รายละเอยี ดดงั แผนภูมิท่ี 4.1 5 4.8 4.6 4.4 4.2 4 3.8 3.6 แผนภมู ิท่ี 4.1 ความรูท้ ไี่ ดร้ บั และความพึงพอใจตอ่ การศึกษาดงู าน จากการศึกษาดูงานโครงการเปิดโลกทัศน์พัฒนาการจัดการเรียนรู้สู่อาเซียน พบว่าได้รับความรู้และ เทคโนโลยีใหม่ๆจากการดูงานคร้ังนี้ ความพึงพอใจต่อการศึกษาดูงานของตัวข้าพเจ้าเองในครั้งนี้ค่าเฉล่ียอยู่ ท4่ี .68 ซึง่ อยรู่ ะดับดมี าก **เกณฑก์ ารประเมิน ค่าเฉลยี่ ตง้ั แต่ 4.50 – 5.00 หมายถึง ดีมาก คา่ เฉลย่ี ต้งั แต่ 3.50 – 4.49 หมายถงึ ดี คา่ เฉลี่ยต้ังแต่ 2.50 – 3.49 หมายถึง พอใช้ / ปานกลาง ค่าเฉลย่ี ตั้งแต่ 1.50 – 2.49 หมายถึง น้อย ค่าเฉล่ียต่ากว่า 1.50 ลงมา หมายถงึ ปรบั ปรุง

บทที่ 5 สรปุ ผล ขอ้ เสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรค 5.1 สรุปผลการดาเนินการ จากการไปพัฒนาครูให้มีวิสัยทัศน์ เรียนรู้วัฒนธรรม ก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นการสร้างเสริม ประสบการณ์ ได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางด้านการจัดการเรียนการสอน อาชีวศึกษากับกลุ่มประเทศอาเซียน งานส่ือการเรียนการสอนได้ไปศึกษาดูงานต่างประเทศด้วยเงินทุนส่วนตัว ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ ประเทศญ่ปี นุ่ ระหวา่ งวันที่ 24 – 29 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 สามารถสรุปผลได้ดังตอ่ ไปนี้ ทาให้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และได้เรียนรู้ความมีวินัยของชาวญ่ีปุ่น ได้คะแนน 4.9 ได้เรียนรู้การใช้ ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ได้คะแนน 4.8 ได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของญ่ีปุ่น ได้คะแนน 4.7 และได้เรียนรู้ ภาษาญ่ีปุ่นเบอื้ งตน้ ไดค้ ะแนน 4.1 จากคะแนนเต็ม 5 คะแนนในแต่ละขอ้ สรุปคา่ ใช้จา่ ยการเดินทางไปต่างประเทศดว้ ยเงินทนุ สว่ นตวั ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพนั ธ์ 2563 - ค่าใชจ้ า่ ยโดยประมาณ จานวน 30,000 บาท 5.2 ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีประโยชน์อย่างมาก ได้รับความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เปิดโลกทัศน์ เรยี นรู้ ภาษาและวฒั นธรรม 5.3 ปญั หาและอปุ สรรค เน่ืองจากเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ในช่วงท่ีโรคโควิด -19 (COVID-19) จากเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 กาลังระบาด และรัฐบาลไทยภายหลังได้ประกาศให้ผู้ท่ีเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศกลุ่มเส่ียง ดังน้ันใน วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองจึงต้องผ่านด่านการคัดกรองเบื้องต้น โดยเดินผ่าน เคร่ืองเทอร์โม สแกน ซ่ึงอุณภูมิไม่เกินทุกคนในทีมท่ีไปศึกษาดูงานก็ผ่านได้หมด และเก็บตัว 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-14 มนี าคม 2563 เพอื่ เฝา้ ดูอาการและรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ซ่ึงเมื่อครบ 14 วนั แลว้ ทกุ คนก็ยังปกติดี

ภาคผนวก - ภาพกจิ กรรม - บนั ทกึ ข้อความ





ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563

ประมวลภาพ ศกึ ษาดูงานตา่ งประเทศด้วยเงินทนุ ส่วนตวั ในชว่ งปดิ ภาคเรียน ณ เมอื งซบั โปโร ฮอกไกโด และโตเกียว ประเทศญปี่ นุ่ ของวา่ ท่ีร้อยเอกร่งุ โรจน์ อตุ มาตร ระหว่างวนั ท่ี 24 – 29 กุมภาพันธ์ 2563


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook