โลกทัศนะสถานการณโ์ ลกมนษุ ย์ “จากวงจรชีวิตหนสู ู่โควิด 19” (Rat Life Cycle – COVID 19) สุวิญ รกั สตั ย์ สบื เนือ่ งจากสถานการณ์ไวรัสบุกโลกปัจจุบนั ทำใหน้ ึกยอ้ นถึงเหตุการณ์ใสห่ น้ากากเขา้ หากันเม่ือไวรัส ซารส์ (SARS-CoV) ระบาดในปี พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๖ ทำให้มผี ู้เสียชวี ติ ท่วั โลกกว่า ๖๐๐ คน ต่อมาไวรัสเมอร์ส (MERS-CoV) ระบาดในปี พ.ศ.๒๕๕๕ และ ปี พ.ศ.๒๕๕๘ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเกือบ ๙๐๐ คน บัดน้ีโคโรน่า ไวรัส หรือ coronavirus (CoV) หรือ COVID 19 ที่กำลังระบาดอยู่ในช่วงนี้ นับเป็นไวรัสสายพันธุใ์ หม่ ซึ่งคาด กันว่าแมจ้ ะมคี วามรนุ แรงไมเ่ ทา่ สายพันธ์ุก่อนๆ และเช้อื ไวรสั สามารถพัฒนาตวั เองจนมีความรนุ แรงเพ่ิมข้นึ ยัง ไม่สามารถระบุว่าจะมีการเสียชีวิตไปอีกเท่าไร ขณะที่เขียนนี้เป็นวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๓ มีสถิติพุ่งข้ึน จำนวนมากและทวีคูณในบางประเทศ นำมาแสดงเฉพาะ ๕ ประเทศทม่ี ีผ้ตู ิดเช้ือมากและ ๔ ประเทศสุดท้ายที่ มีผู้ติดเช้อื นอ้ ย ดงั น้ี ขอ้ มูล ณ วันที่ ๑๙ มนี าคม พ.ศ.๒๕๖๓ จากการสังเกตวงจรไวรัสทีผ่ ่านมา พบว่า เกิดห่างกันเฉลี่ยเพยี ง ๘-๑๐ ปี เท่านั้น แสดงถึงการเกดิ ขึน้ ถ่ีมาก การเกิดขึ้นแต่ละครั้งที่ผ่านมาได้คร่าชีวิตคนไปหลักร้อยถึงหลักพันคน และยังไม่รวมถึงผลกระทบเชิง เศรษฐกิจท่ีคนล้มละลาย ฆ่าตวั ตาย เป็นโรคเครียด โรคซึมเศรา้ อันเน่ืองมาจากไวรัสก็คงน่าจะคร่าชีวิตถึงหลัก หมนื่ คน สำหรับในครั้งนี้ดูจากสภาพสถานการณ์แลว้ นบั วา่ หนักหนาสาหัสมากเท่าทเ่ี คยได้พบมา ผลจากการ
ระบาดของเชื้อไวรัสกระทบเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้สนามบินสุวรรณภูมิแทบจะล้าง นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผ้อู ำนวยการใหญ่ บรษิ ทั ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าววา่ “ไม่เคยนึกว่าจะเห็นภาพแบบ น้ีครบั ” ภาพประกอบ : Thai PBS ขา่ วไทยพีบีเอส วันจนั ทรท์ ่ี ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เมอื่ ภาพแหง่ การใสห่ น้ากากเขา้ หากันปรากฏอีกคร้ัง ภาพแห่งการประกาศปิดสถานประกอบการและ สถานที่ทำงานในประเทศได้เกิดขึ้น จนไปถึงการปิดประเทศ ทำให้ความคิด ๓ เรื่อง กลับมากระตุ้นเตือน ชดั เจนขึ้นอกี รอบ ๑. วงจรชวี ิตหนูนา่ จะเป็นจรงิ ๒. การดำเนนิ ชวี ิตของผู้คนจะต้องเปลย่ี นไป ๓. ต้องใชห้ ุ่นทำงานแทน วงจรชวี ติ หนู (Rat Life Cycle) ครงั้ หน่ึงได้ดสู ารคดี “วงจรชีวติ หนู” เกิดเหตุการณต์ า่ ง ๆ ข้ึนกับชีวิตหนู ดงั น้ี ระยะที่ ๑ เมอ่ื นำหนไู ปอย่ใู นอาณาจักรที่มีระบบนิเวศท่ีเหมาะสมกับจำนวนหนู พวกหนูจะอยู่กันด้วย ความสงบสขุ ระยะท่ี ๒ เมื่อหนแู พร่พันธุม์ ากขน้ึ พวกหนจู ะกดั กันเองจนตายประปราย ระยะที่ ๓ เม่ือประชากรหนูมีมากขน้ึ อกี พวกหนูจะยกพวกกดั กันบาดเจ็บล้มตายเปน็ จำนวนมากขน้ึ ระยะท่ี ๔ เมอื่ ประชากรหนูยงั ไมล่ ดลง ระบบนิเวศหนเู สยี หาย หว่ งโซช่ ีวติ ขาดสมดุล กเ็ กดิ โรคระบาด ข้ึน พวกหนบู าดเจบ็ ล้มตายเปน็ จำนวนมาก ระยะท่ี ๕ เมื่อประชากรหนูยังไม่ลด พวกหนตู า่ งพากันไปกระโดดหน้าผาตาย ประชากรหนูลดลงเป็น จำนวนมากอีกครั้ง และพวกหนูกอ็ ยกู่ นั อย่างสงบสุขอกี ครา เมื่อได้ดูสารคดีนั้น ก็นึกถึงวงจรชีวิตมนุษย์บนโลก มนุษย์มักอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขเมื่อมีประชากร เหมาะสมกบั ระบบนิเวศ มนษุ ยเ์ รมิ่ ทำร้ายและทำลายกันมากขน้ึ เมื่อมีประชากรเพ่ิมข้ึน นบั แตป่ ระวัติศาสตร์ที่ เคยมมี นุษยม์ า สังคมมนษุ ย์ก็ไมเ่ คยหมดการทำร้ายและทำลายกัน ทร่ี ุนแรงมากขึน้ กค็ อื มนษุ ย์ยกกลมุ่ ฆ่ากันท่ี เรียกว่า “สงคราม” นับตั้งแต่สงครามกรุงลงกา พระรามกับทศกัณฐ์ สงครามทุ่งกุรุเกษตร ตระกูลเการพและ ปาณฑพ สงครามเมืองทรอยระหว่างชาวอะคีอันส์ (ชาวกรีก) กับชาวกรุงทรอย มาจนถึงสงครามศาสนา สงครามชาวมองโกล สงครามไทย-พม่า สงครามฯ อ่ืน ๆ เปน็ ต้น ทรี่ ุนแรงมากก็เรยี กว่า “สงครามโลก” ท่ีผ่าน มา มีสงครามโลกแล้ว ๒ ครั้ง สงครามโลกครั้งที่ ๑ (World War 1) เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๗-๒๔๖๑ (ค.ศ.๑๙๑๔-
๑๙๑๘) ตอ่ มาผ่านไปเพยี ง ๒๑ ปี สงครามโลกคร้งั ท่ี ๒ (world War 2) ก็เกดิ ขึน้ อีก เม่ือปี พ.ศ.๒๔๘๒-๒๔๘๙ (ค.ศ.๑๙๓๙-๑๙๔๕) บดั นีห้ ่างจากสงครามคร้งั ท่ี ๒ มาแลว้ ๗๔ ปี ดเู หมือนมสี งครามยอ่ ย ๆ ก็มมี ากพอสมควร ในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็สื่อให้เห็นวงจรชีวิตมนุษย์ไม่ต่างอะไรจากวงจรชีวิตหนู หลายคนก็เกรงว่า สงครามโลก คร้ังที่ ๓ จะเกดิ ขึ้น เม่ือพิจารณาสาเหตุโดยรวมของสงครามทัง้ หลายก็พบวา่ เกดิ จาก “แยง่ อาหารกันกัน แย่ง ถนิ่ กันอยู่ แยง่ คู่กนั พิสวาส แยง่ อำนาจกันครอง” ภาพสงครามโลกครง้ั ที่ ๑ และคร้งั ท่ี ๒ บัดนี้เข้าสู่ระยะโรคระบาด โรคระบาดแต่ละครงั้ ได้คร่าชวี ติ ของมนุษยไ์ ปเป็นจำนวนมากนับกาลเวลาท่ี ผ่านมา ตั้งแต่ยุคที่การผลิตวัคซีนรักษายังไมท่ ันสมัย จนกระทั่งมาถึงโลกยุคปัจจุบันที่วงการแพทย์ก้าวหน้าไป มาก แตก่ ารผลิตวัคซีนก็ยังไมส่ ามารถทำได้ทันกับการระบาดของโรค มีการเกบ็ สถติ ิไวว้ า่ ทกุ ๑๐๐ ปี จะมีการ ระบาดใหญ่ ๑ ครัง้ พ.ศ.๒๒๖๓ กาฬโรค คนตายทวั่ โลกประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน พ.ศ.๒๓๖๓ อหวิ าตกโรค มี คนเสียชีวิตประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน พ.ศ.๒๔๖๓ ไข้หวัดใหญ่ มีคนเสียชีวิตประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน และ ๒๕๖๓ โคโรน่า (COVID 19) ข้อมูล ณ วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๓ จำนวนสถิติผู้ป่วยโควิด-19 สะสมทั่วโลก ๒๗๘,๕๕๗ คน สถติ ผิ ูเ้ สยี ชีวิตไปแลว้ ๑๑,๕๕๔ ราย (สถิติกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข) ภาพประกอบ : กาฬโรคและอหวิ าตกโรค
เม่อื ดจู ากวงจรชีวิตหนู ก็เหลือแต่การฆ่าตวั ตายหมู่ท่ยี ังไม่เกิดขนึ้ แม้ว่าจะมกี ารชวนกันฆ่าตัวตายของ ลัทธิบางลัทธิอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่มีมาก จะมีก็แต่การฆ่าตัวตายเดี่ยวที่เริ่มมีสถิติมากขึ้นทั่วโลก จาก รายงานการจดั อันดับประเทศท่ีมีอัตราการฆา่ ตวั ตายสูงท่สี ุดในโลกประจำปี พ.ศ.๒๕๖๒ (๒๐๑๙) โดย World Population Review ที่สำรวจและพิจารณาข้อมูลการฆ่าตัวตายขององค์การอนามัยโลกในปีที่ผ่านมา พบว่า ลิทัวเนียเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ ๓๑.๙ คนต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน จาก ๑๘๓ ประเทศทั่วโลก ญ่ีปนุ่ อยอู่ ันดับที่ ๑๔ คอื ๑๘.๕ สำหรบั ไทยอยู่อันดับท่ี ๓๒ คือ ๑๔.๔ (ข้อมูลจาก The Standard Stand up for the people) การที่จะเข้าสู่ยุคแห่งการตัดสินใจตายหมู่หรือไม่นั้น ไม่อาจบอกได้ แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาของวงจรชีวิตหนูบอกไว้ก็มีความเป็นจริงอยู่มาก มนุษย์จะต่างไปจากหนูหรือ เปลา่ กอ็ ยู่ทสี่ ติปญั ญาหรือจะปล่อยให้ยีนกระตนุ้ เตือนใหก้ ระทำ ภาพประกอบ : สถติ กิ ารฆ่าตวั ตาย (google.co.th/search?q=สถติ ิการฆา่ ตัวตาย) การดำเนินชีวิตจะต้องเปลีย่ นไป ในครั้งน้ันเมื่อเหตุการณ์โรคซาร์สเกิดข้ึน ทุกคนสวมใส่หน้ากากกนั แต่ก็ไม่ถึงกับหน้ากากอนามัยขาด แคลน ไมถ่ ึงกบั กกั ตุนและหารายไดจ้ ากหน้ากาก ภาพทที่ ุกคนใสห่ นา้ กากเป็นเหมือนมนุษย์ต่างดาว เหมือนกับ คนท่ีต้องเผชิญอยู่กับความไม่ปลอดภัยอันเกิดจากเชื้อโรคท่ีสามารถติดตอ่ กันทางอากาศ คนและสัตว์ สุดท้าย ภาพนั้นก็เลอื นหายไปภายในระยะเวลาประมาณ ๖ เดือน จากเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๖ - เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ บทเรียนครั้งนั้นไม่มีอะไรมาก เพียงแต่รู้สึกตื่นกลัวกันบ้างเท่านั้น แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรน่า (COVID 19) ในครั้งนี้กระทบไปทั่วโลก ภาพการปิดเมือง ปิดประเทศ ปิดสถานบันเทิง สถาบนั การศกึ ษา และสถานทีท่ ่คี ดิ ว่าเช้อื ไวรัสจะแพรไ่ ปได้ ก็เกดิ ข้ึนจรงิ บทเรียนจากการรับมือเชื้อไวรัสเช่นนี้จะต้องเกิดขึ้น เพราะจากสถิติคือ มีไวรัสเกิดขึ้นทุก ๑๐ ปี ในช่วง ๓๐ ปมี าน้ี ผลกระทบต่อเศรษฐกิจคร้ังน้ีมีมหาศาลจริง ๆ ตวั อย่างได้ถูกถ่ายทอดเปน็ ภาพยนตร์มาแล้ว หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีการสร้างเขตกักกันไวรัส บัดนี้มีขึ้นจริงๆ แต่เป็นการกักกนั ตนเองไม่ให้เคลื่อนที่ ไปไหน ภาพของการปิดเมือง หรือสถานที่ต่าง ๆ เพ่ือจัดการกับการแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัสเปน็ วิธีจัดการกับ ไวรัสที่ดีที่สุด จีนสั่งปิดเมืองอู๋หัน่ มาเลเซียปิดประเทศในแถบภูมิภาคนี้เป็นประเทศแรก ไต้หวันก็ปิดประเทศ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็สั่งปิดประเทศ นี่คือบทเรียนที่ต้องศึกษาเรียนรู้กันอย่างจริงจัง การดำเนินชีวิต หลังจากสถานการณก์ ลับมาเป็นปกตคิ งต้องมีการคิดทบทวนกนั ใหม่ ท้งั ระบบ
ภาพเมอื งอฮู๋ ัน่ และมาเลเซยี หลงั จากถูกปิด ต้องใช้หนุ่ ทำงานแทน ภาพของโลก ท่ีทุกคนจะอยู่กันแต่ในบ้าน ส่วนนอกบ้านนั้นให้หุ่นทำแทนใกล้ความเป็นจริงแล้ว ภาพยนตร์ชุด Surrogate คือ หุ่นตัวแทนร่างจริงกำลังเกิดขึ้นจริง สาเหตุเพราะฝุ่นละอองพิษ อากาศเป็นพิษ ไวรัสร้าย กำลังคุกคามชีวิตมนุษย์มากขึ้น ขณะน้ีวันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๓ กรมควบคุมมลพิษประกาศวา่ คุณภาพอากาศบริเวณ ๕ อำเภอในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่อำเภอเมือง อำเภอแม่สาย พบปริมาณฝุ่น ละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM2.5) มีค่า ๒๐๓ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มี ผลกระทบตอ่ สุขภาพ ปรมิ าณฝนุ่ ละอองขนาดไม่เกนิ ๑๐ ไมครอน (PM10) มคี า่ ๒๔๒ ไมโครกรมั ต่อลูกบาศก์ เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ แสดงให้เห็นว่า ไม่เพียงแต่ภัยอันตรายจากไวรัสเท่านั้น สภาพอากาศกม็ คี วามผนั แปรเลวร้ายมากข้นึ ผลกระทบอนั เกดิ จากไวรสั และสภาพอากาศอันเป็นพิษทำใหเ้ กิดอนั ตรายต่อชวี ติ เป็นอย่างยิ่ง ปจั จุบัน ต้องใช้งบประมาณไปกับการดูแลรักษาสุขภาพของคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพที่เป็นพิษนี้มากยิ่งข้ึน จำเป็นต้องหาวธิ ีแกไ้ ข หนึ่งในวิธีกค็ ือ กแ็ ตใ่ นบ้าน นอกบ้านให้ห่นุ ยนต์ทำงาน ภาพประกอบ : หุน่ ยนตท์ ำงานร่วมกับคน และ การให้หุน่ ทำงานนอกบา้ น โลกยคุ 5G จะชว่ ยให้การจดั การกับการดำรงชวี ติ ของมนุษย์มีลกั ษณะเปลย่ี นไป พฤติกรรมมนุษย์ก็จะ เปลี่ยนไป เพราะไม่ว่าการประชุม การส่งข้อมูล การศึกษาเล่าเรียน ระบบการขนส่ง และอีกจำนวนมาก เทคโนโลยี AI และ VR จะเข้ามามีบทบาทแทนบทบาทท่ีมนุษย์เคยทำอยู่มากยง่ิ ขน้ึ มนษุ ย์ก็จะทำงานในบ้านที่ ปลอดภัย งานต่าง ๆ จะส่งผ่านเครื่องมือทางเทคโนโลยีแทน หลายมหาวิทยาลัยกำลังฝึกให้บุคลากรทางการ ศึกษาใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีมาเพื่อการศึกษาอย่างจริงจัง ต่อไปการศึกษาก็จะไม่ต้องใช้พื้นที่นับเป็นร้อย
เป็นพันไร่ ในการสร้างอาคารสถานที่ แต่จะสร้างอาคารสำหรับเป็นศูนย์เทคโนโลยีเชือ่ มผ่านเครื่องมือสื่อสาร แทน ไม่ว่าจะเป็น Hologram, VR – AI - AR จะได้รับการนำมาเป็นเครื่องมือการศึกษาสำหรับโลกอนาคต ชวี ิตแบบ 5 – 6 G กำลังเขา้ มาปรับพฤติกรรมของทกุ คน ภาพประกอบ : การ Debate ผ่าน Hologram Technology intelligence.businesseventsthailand.com/en/blog/future-meeting-in- thailand ความคิด ๓ เรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน กลับเข้ามาอีกครั้ง และภาพแห่งความ เป็นจริงของโลกยุคเปลี่ยนแปลงฉับพลัน (Disruptive Age) เกิดขึ้นในขณะนี้ นี่คือจุดเปลี่ยน (Turning Point) ของโลกยุคใหม่อย่างแท้จริง ความตายกับโรคภัยของมนุษย์ สถานการณภ์ ยั ธรรมชาติพิบตั ิก็ดี โรคระบาดก็ดี สถานการณ์โรคภูมคิ ุ้มกันบกพร่องก็ดี โรคร้ายประจำ โลก เชน่ มะเร็ง หวั ใจ ความดัน เบาหวาน วณั โรค ปอด ไต เปน็ ตน้ กด็ ี อุบัติเหตปุ ระจำฤดกู าลก็ดี ยังไมต่ อ้ งพูด ถึงการทำร้าย ทำลายให้บาดเจ็บล้มตายด้วยวิธีการต่าง ๆ ของมนุษย์ด้วยกันเอง ล้วนแล้วแต่คร่าชีวิตของ มนุษยไ์ ปจำนวนมากในแต่ละปี แตม่ นุษย์ไม่เคยให้ความสนใจกับการบาดเจ็บล้มตายกับเหตุการณ์การเสียชีวิต ทผี่ า่ นมา เหมือนกับวา่ เปน็ เรื่องรบั ได้ ปกติธรรมดา ทัง้ ทีเ่ ม่อื นบั ชวี ิตท่ตี ้องเสียชีวติ ไปกับโรคภัยดังกล่าวจำนวน มากกวา่ ไวรสั ที่กำลังเกิดข้ึนด้วยซ้ำ ภาพประกอบ : สถติ คิ นตายด้วยโรคมะเรง็ เฉพาะในประเทศไทย
ยกตัวอย่าง เฉพาะสองโรคสำคญั คือ โรคมะเรง็ และโรคหวั ใจ จากรายงานขององคก์ รระหว่างประเทศ เพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง หรือ IARC ขององค์การอนามัยโลก พบว่า สถานการณ์มะเร็งทั่วโลกในปี พ.ศ.๒๕๖๓ คาดวา่ มจี ำนวนผู้ปว่ ยโรคมะเร็งมากกวา่ ๑๘ ลา้ นคน และมีผ้ปู ่วยใหม่ประมาณ ๙ ล้านคนในทุกๆ ปีและจะมี คนตายดว้ ยโรคมะเรง็ มากกว่า ๑๑ ล้านคน และจะเกิดขน้ึ ในประเทศที่กำลังพฒั นามากกว่า ๗ ล้านคน สำหรับ ประเทศไทยพบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่วันละ ๓๓๖ คน หรือ ๑๒๒,๗๕๗ คนต่อปี เสียชีวิตวันละ ๒๑๕ คน หรือ ๗๘,๕๔๐ คนต่อปี เฉลี่ยชั่วโมงละ ๘ ราย (ที่มา : ฝ่ายแผนงานและสถิติ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute) ส่วนโรคหัวใจจากรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี ๒๕๕๙ พบทั่วโลกมี ผู้เสียชวี ิตด้วยโรคหวั ใจปลี ะประมาณ ๕๗ ลา้ นคน สำหรับประเทศไทยในปี ๒๕๖๐ พบวา่ คนไทยเสียชีวิตจาก โรคหัวใจขาดเลือดถงึ ๒๐,๗๔๖ คน เฉล่ียเสยี ชวี ิตวนั ละ ๕๗ คน เมื่อพิจารณาจากสถิติดงั กลา่ ว เพียงแค่ ๒ โรคสำคญั กท็ ำให้คนเสยี ชวี ิตไปทวั่ โลกเกือบรอ้ ยล้านคนต่อ ปี แต่ทำไมคนจึงไม่ไดต้ ่ืนกลัว อาจเป็นเพราะโรคมะเรง็ และโรคหัวใจไมใ่ ช่โรคระบาดจึงทำให้มนุษย์ไม่กลัว แต่ หากมองในแง่เป็นสาเหตุทำให้คนตายมากจัดเปน็ โรคระบาดในอีกความหมายหน่ึงได้เช่นกัน ตัวเลขดังกล่าวไม่ น่าจะธรรมดา เหตุใดมนุษย์ไม่พยายามหาวิธีรักษา หรืออาจเป็นเพราะว่า นี่คือมหันตภัยเงียบที่ทำให้มนุษย์ ตายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น โลกจึงไม่ให้ความสนใจ ไม่พยายามร่วมกันระดมสรรพกำลังในการหาวิธีการรับมือกับ โรคร้ายเช่นนี้ เป็นเรื่องน่าคิดเหมือนกันว่า เพราะเหตุใด สันนิษฐานได้ประการหนึ่งก็คือ มนุษย์ได้สูญเสีย ความรู้สึกท่ีมตี ่อความตายของมนุษยด์ ้วยกันไปแล้ว คงมีแต่ภยั อันเกดิ จากไวรัสนี่แหละท่ีทำให้มนุษย์วิตกกังวล ร่วมกันไดถ้ งึ ขน้ั นี้บ้าง สาเหตุ? ฝากไวใ้ หค้ ดิ หายนะหลายครั้งต่อหลายคร้งั ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ไมว่ า่ จะเปน็ ธรรมชาตภิ ัย โรคภัย หรือ มนุษยภัย ล้วนมีที่มาทั้งสิ้น ไม่มีคำว่า บังเอิญ สาเหตุหลายอย่างเกินที่สายตามนุษย์จะสามารถเห็นได้ แต่ สายตาของเหล่าเทพเทวาทั้งหลายท่านเห็น เทพเหล่านั้นต่างหวังว่ามนุษย์จะคิดได้ และได้คิด ขอประมวล สาเหตขุ องหายนภัยมาฝากไว้ใหค้ ิด ๑. เกิดจากความไม่สมดุลของดินฟ้าอากาศ ระบบนิเวศวิทยา สาเหตุนี้มาจากความเปลี่ยนแปลงของ สภาพนิเวศวิทยาโลก ที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เลวร้ายรุนแรงและรวดเร็ว ทั้งที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง ของธรรมชาติโลกเอง ไม่วา่ จะเป็นไฟป่า ภูเขาไฟระเบดิ น้ำท่วม เป็นตน้ และเกดิ จากการเสรมิ แรงเปล่ยี นแปลง ของมนุษย์ คอื โรงงานอุตสาหกรรมท้งั หลาย การทดลองระเบดิ นเิ คลยี รท่ีผา่ นมา เป็นต้น ๒. เกิดจากความไม่สมดุลของระบบห่วงโซ่อาหาร ธรรมชาติของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งแอบอิงอาศยั ซงึ่ กนั และกันอย่างเป็นระบบสัมพันธ์ หากมีการทำลายหว่ งโซ่อาหารของบางส่ิง กอ็ าจกระทบไปสู่การดำรงอยู่ ของระบบอื่น ๆ ด้วย ๓. เกิดจากการกลืนกินไม่เลือก มนุษย์เริ่มกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ขาดสติปัญญาไตร่ตรองว่า สิ่งใด ควรกิน ไม่ควรกิน และชอบทานแปลก ๆ ดิบ ๆ ด้วยทัศนคติผิด ๆ ว่าเป็นยาบำรุงโน่น นี่ นั่น สัตว์บางตัวมี ลักษณะเปน็ ทีเ่ พาะพันธุ์ไวรสั มานานนบั ปี พอมีการกนิ เข้าไปกท็ ำให้ไวรัสแพรส่ ายพนั ธท์ุ นั ที ๔. เกดิ จากแรงกรรมของสตั ว์ท่ีตายคราวละมากๆ ปจั จุบันมีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุสัตว์คราวละมากๆ ไม่ วา่ จะเปน็ การฆ่าเพราะเหตผุ ลทางธุรกิจ ฆา่ เพราะเทศกาล ฆา่ เพราะบูชายญั คราวหนึ่งมขี ่าวการฆ่าบูชายัญโค กระบือนับร้อย นับพันตัว สุดท้ายก็เกิดแผ่นดินไหว คร่าชีวิตคนไปพอสมควร ประเทศไทยฆ่าไก่ทั่วประเทศปี นั้น พลันก็เกิดอุทกภัยได้รับทุกข์ร้อนกันถ้วนหน้า สึนามิญี่ปุ่นครัง้ ใหญป่ ี ๒๕๕๔ มีผู้เสียชีวิตสองหมื่นกว่าราย แรงพยาบาทของสัตว์มีมากกบ็ นั ดาลธรรมชาติเอาคืน
๕. บ้านเมือง โลกขัดแย้ง ห้ำหั่นกันมาก จะเกิดภัยพิบัติกำจัดมนุษย์ ในอดีตกาลถ้าหากเกิดข้าวยาก หมากแพง โรคร้ายเกิดกะทันหัน สันนิษฐานไว้ประการหนึ่งว่า ผู้นำไม่ตั้งอยูใ่ นศลี ธรรม กลั่นแกล้ง ใช้นโยบาย ทำรา้ ยผู้คน ๖. เกิดจากแรงกรรมชั่วของชาวโลก จะเห็นได้ว่า เกิดโรคร้ายคร่าชีวิตมนุษย์จำนวนมาก เกิดมาจาก ความเปน็ พิษของดนิ นำ้ อากาศ พชื พนั ธ์ุ สตั ว์ อาหาร ท่สี ่ังสมมาตัง้ แต่ยุคสมัยทดลองอาวธุ นิวเคลยี รในอากาศ บนดิน ใตด้ ิน กมั มันตภาพรงั สียงั คงสะสมอยใู่ นธรรมชาติ ทำให้เกิดความผิดปกติทางรา่ งกาย สรุปเป็นภาพวงจรสาเหตทุ ่ีเหน็ ไดแ้ ละไม่อาจเหน็ ได้ เชอ่ื มโยงเชิงสมั พทั ธ์และสมั พันธ์ ตามแผนภาพน้ี Ecosystem Gaia Poison Food Chian Non-Equillibrate Fierce/selfish Eat unearthly Leader Animal Sacrifice คำวา่ “กรรมยตุ ธิ รรมเสมอ” เปน็ คำทมี่ นุษยต์ ้องเรยี นรู้ใหม้ าก กรรมมหี ลายระดับท้ังระดับส่วนบุคคล ครอบครัว สังคม ประเทศและโลก เมื่อคนระดับโลกทำก็ย่อมกระทบไปทั่วโลกเช่นกัน สาเหตุเหล่านี้เป็นผล กรรมที่มนุษยท์ ำขนึ้ การจะแก้กรรมได้กต็ ้องแก้ท่ีพฤติกรรม เมอื่ พฤติกรรมเปลีย่ น โลกกเ็ ปล่ียน ขอยกสุภาษิต จีนบทหนึง่ ทีเ่ ข้าได้กบั ประเดน็ น้ีว่า “เมื่อฟ้าลงทัณฑ์ ไหนเลยฎีกาได”้ ทางเลอื ก ทางรอด ปรากฏการณ์ COVID 19 นั้นมาแรงอันเนื่องจากการสื่อสารที่รวดเร็วทั้งในประเทศและต่างประเทศ จุดดีของการข่าวทร่ี วดเร็วกท็ ำให้มีการป้องกนั กนั อยา่ งได้ทนั ทว่ งที แต่กเ็ กดิ ภาวะผลกระทบตามมาด้วย ได้แก่ ความวิตกกังวล ระบบเศรษฐกิจชะงักงัน เกดิ การกักตนุ อาหาร เกดิ ภาวะเครียด เกิดภาวะหวาดระแวงกันและ กนั เกดิ การปรับตวั ในภาวะวิกฤติ เกดิ ภาวะก่นดา่ กนั และกัน เป็นตน้ ประเทศไทยปัจจบุ นั เปรียบเหมือนถูกพิษ ทำให้อวัยวะประเทศไม่สามารถทำงานได้บางสว่ น ถ้าปลอ่ ยไว้นานก็จะทำให้เป็นภาวะอัมพาตได้ ผลท่ีเกิดจาก อัมพาตนั้นจะมีผลข้างเคียงอีกหลายประการตามมา มวลความเครียดของประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น (GDT- Gross Domestic Tension Increasing) ขอเสนอทางเลือกเพื่อให้รอดในภาวะอย่างนี้ ถอดบทเรยี นจากประเทศท่มี ีการบรหิ ารจดั การทด่ี ี รกั ษา ชีวิตของประชาชนในประเทศไวใ้ หม้ ีผลกระทบน้อยท่ีสดุ ดังมแี นวทางตอ่ ไปน้ี ๑. อนมุ ตั งิ บประมาณมาเพ่ือการชว่ ยเหลือและป้องกันโรคระบาดทันที งบประมาณเพ่ือดูแลชวี ติ คนใน ประเทศไม่ต้องกลัวเสียเปลา่ ทำอย่างอื่น เสียอย่างอื่นยังเสียได้ แต่การใช้งบประมาณมาเพื่อแก้ไขชีวิตในยาม วิกฤติเป็นเรือ่ งทจ่ี ำเปน็ ต้องทำอย่างยิ่ง ไดบ้ ญุ มหาศาล ได้ใจประชาชน
๒. ให้ความสะดวกแก่หน่วยปฏิบตั ิการช่วยเหลือ คอื แพทย์ พยาบาล อาสาสมคั รทางการแพทย์ การ ปฏิบัติการของแพทย์และพยาบาลในช่วงนี้นั้นเป็นเรื่องที่เส่ียงต่อการติดเชือ้ บุคลากรทางการแพทย์นั้นสั่งสม ภูมิความรู้ไว้มาก จำเป็นต้องได้รับการดูแล ให้อุปกรณ์ที่เพียงพอ ให้ความเอาใจใส่ที่เพียงพอ บัดนี้ต้องเห็น ความสำคัญ ส่งเสรมิ และสนบั สนุนให้บคุ คลเขา้ มาสนใจเข้ามาสู่วถิ บี ำเพญ็ ตนช่วยเหลือชีวิตคนอย่างแท้จริง นบั แต่โบราณกาลมา แพทย์ พยาบาลเปรียบเหมือนผู้ให้ชีวิต พึงรักษาความรู้สึกนี้ไว้ อย่าให้กลายพันธุ์ ได้เห็น ตัวอย่างบุคลากรทางการแพทย์ของจีนทั้งในและต่างประเทศอุทิศตนแล้ว เชื่อว่า “ได้ใจกรรมการ” ต้อง ยอมรับว่า ปัจจุบันบุคคลที่สนใจจะเข้ามาเป็นแพทย์ พยาบาลนั้นน้อยลง โดยเฉพาะแพทย์และพยาบาลแบบ จิตวิญญาณ ไม่สอดคล้องกับคนไทยที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บจำนวนมากในแต่ละปี ใครอยากรู้เข้ าไปดูใน โรงพยาบาล ๓. พยงุ เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมากและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความเคล่ือนไหวในระดับรากหญ้า ขึ้นไป ถึงเวลาที่จะต้องฝึกให้คนไทยได้รับรู้ว่า ประเทศนี้มีของดี ให้ซื้อ ให้ใช้ และให้สนับสนุนของ ภายในประเทศ โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตรและศิลปหัตถกรรม สนับสนุนให้คนไทยทำงานที่ตนรัก ส่งเสริมการลงทุนต้ังแต่ระดับย่อย ถึงระดับใหญ่ พัฒนาแหล่งการท่องเท่ียวเชิงภูมิปัญญา อย่าส่งเสริมคนไทย เสยี นสิ ยั ได้เงนิ โดยงา่ ยดาย การจะชว่ ยใคร อะไร ให้ชว่ ยแบบมอี ุบายวธิ ี ใหค้ ิดอบุ ายวธิ ีทีเ่ หมาะสมดว้ ย ๔. ให้บทบาทแก่ปัญญาชนทางการศึกษาเข้ามาช่วยเหลือประเทศอย่างเป็นอัศจรรย์ นักศึกษาใน มหาวิทยาลัยนับเปน็ ปัญญาชน จากสถิติของศูนย์ข้อมูลวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สำนักงานสภา นโยบายการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรมแหง่ ชาติ สำรวจเม่อื ปี พ.ศ.๒๕๖๑ มีนกั ศกึ ษา จำนวน ๔๐๔,๕๘๑ คน พลังบุคลากรที่สำคัญของประเทศมีมากถึงเพียงนี้ ควรใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อให้ทุกคนทำ หน้าที่ในการรณรงค์คนละไม้ คนละมือ สื่อสัญญาณทั้งแบบจิตอาสาและแบบเฝ้าระวัง แบ่งสรรปันส่วน ภาระหน้าท่ีให้ลงตัว ถือเป็นโอกาสอันดีให้ปัญญาชนได้แสดงฝีมือออกมาบ้าง ในยามที่ประเทศชาติต้องการ อย่าปล่อยให้คนมีความรนู้ ัง่ มองคนอ่นื ทำงาน ๕. ให้ศาสนาเข้ามามีบทบาทรกั ษาภาวะเครียดของศาสนิก อีกองค์กรหนึ่งที่สำคัญมากในฐานะเปน็ ที่ พึ่งทางใจ คือ ศาสนา ในสถานการณ์เช่นน้ีศาสนาต้องเข้ามามีส่วนช่วยอย่างเต็มกำลัง เพราะไม่เพียงเกี่ยวกับ การเจ็บป่วยจากการติดเชื้อเท่านั้น ยังเกี่ยวกับภาวะทางจิตใจที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์ไวรัส COVID 19 ในหลายมติ อิ กี ด้วย แนวทางทีศ่ าสนาสมควรแสดงบทบาท โดยเฉพาะพระพุทธศาสนา คือ ๑) ให้ปัญญา ใช้หลักอริยสัจ ๔ มาเป็นกรอบ คือ เข้าใจสถานการณ์ล่าสุด รู้สาเหตุของไวรัส โคโรนา่ และสามารถตดิ ต่อจากคนสู่คนได้ โรคนี้สามารถป้องกนั ได้ แก้ไขได้ โดยวิธกี ารไม่อยู่ใกลผ้ ู้ติดเชื้อ และ ไม่ให้ผู้ติดเชื้อเคลื่อนที่ รู้จักเฝ้าระวังตนเองและผู้อื่นไม่ให้เข้าไปในสถานที่ชุมชนจำนวนมาก ทำให้ครบทั้ง ๓ ระบบ สัจญาณ คือ รู้สถานการณ์ กิจญาณ คือรู้ภาระหน้าที่ที่ต้องกระทำ และกตญาณ คือได้กระทำตาม คำแนะนำทถี่ ูกต้องแล้ว ๒) ให้ความเข้าใจ การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง เนื่อง เพราะชีวิตนี้เกิดมาแล้วก็ต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บเป็นธรรมดา ไม่วันนี้ก็วันหน้า ไม่ต้องวิตกกังวลมาก ให้ ระลกึ ถงึ อภณิ หปจั จเวกขณะเสมอ คือ “เรามีความเจบ็ ไข้เปน็ ธรรมดา จะลว่ งพน้ ความเจ็บไข้ไปไม่ได้” แต่ไม่ได้ หมายถึง ปล่อยตัวให้เป็นไปตามเรื่องตามราว ให้ปฏิบัติตามข้อแรก เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤติตื่นตูม กลายเป็นโรค ซอ้ นโรค คือ โรคเครียดและโรคกังวล จนมผี ลต่อสุขภาพร่างกายและวถิ กี ารดำรงชีวิต ๓) ให้ความรู้ ภายใตส้ ถานการณอ์ ย่างนี้ ขอ้ มลู ข่าวสารท่ีเชื่อถอื ได้เปน็ เรื่องสำคัญ จำเป็นต้อง ให้ความรู้ในเร่ืองตอ่ ไปน้ี
(๑) ให้ความรู้เรื่อง “COVID 19” ติดตามจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น จากกรมความ คมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข หรือ WHO (World Health Organization) (๒) ให้ความรู้เรื่อง “เหตุปัจจัยสัมพันธ์” “เด็ดดอกไม้ กระเทือนดวงดาว” สถานการณ์ COVID 19 เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเกี่ยวกับเหตุปัจจัยสัมพันธ์ เหตุเกิดขึ้นที่อู๋หั่น ประเทศจีน กระเทอื นไปทว่ั โลกในเวลาต่อมาเพียงไม่นาน จะได้ไม่ประมาทว่า เปน็ เรอื่ งของเขา เราไม่เกี่ยว จะต้องช่วยกัน ดูแลรักษาโลก โดยเฉพาะธรรมชาติและพฤติกรรมมนุษย์ที่วิปริตผิดเพี้ยน รับประทานสัตว์ด้วยวธิ ีการแปลกๆ จนเปน็ พาหะขยายเชอ้ื ไวรสั ความสัมพนั ธ์กนั ของโลกนั้นเป็นเรอ่ื งที่ต้องให้ความสนใจอย่างมาก “โลกนบั วันจะ อยู่ยาก หากไม่ร่วมกันรักษาสมดุลใหม่ใน 5C Re-Equilibrate” คือ Capitalization-Crisis-Catastrophe- Crime-Covid 19 Pandemic เป็นเรื่องที่ต้องปรับสมดุลทั้งสิ้น ในประเด็นนี้ รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงศ์ ได้ให้ มมุ มองของการอยูบ่ นโลกท่ีต้องจัดสมดุลภายใต้แผนภาพน้ี (รายละเอยี ดตอ้ งสอบถามในโอกาสต่อไป) ท่มี า : รศ.ดร.สมเจตน์ ทณิ พงศ์ ๑๙ มนี าคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๗.๑๒ (๓) ให้ความรู้เรื่อง ครอบครัวโลก (Global Village) อย่าถือคติ เอาตัวรอด (คน เดียว) เป็นยอดดี ปัจจุบันนี้โลกกลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่เรียกว่า Global Village ทุกคนเป็นเหมือนญาติพ่ี น้องร่วมสุข ร่วมทุกข์ ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน สมควรช่วยเหลือแบ่งปันกัน ให้ใช้คติที่พระพุทธเจ้า ประกาศศาสนาว่า “จรถ ภิกขเว จาริกัง พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ โลกานุกัมปายะ อัตถายะ หิตายะ สุขา ยะ เทวามนุสสานัง” ภิกษุ (ผู้เห็นภัยในวัฏฏะ) ทั้งหลาย จงจาริกไป เพื่อประโยชน์และความสขุ แก่คนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ทั้งหลาย จะเห็นได้ว่า จากพุทธ พจน์นี้ พระองค์ขยายผลไปถึงเทวโลก ในฐานะผู้ยังเวียนว่ายตายเกดิ ทุกวันน้ีโลกใกลช้ ิดกันมากกวา่ เดิม เรื่อง ทัว่ ทุกมุมโลกร้ไู ด้ภายในอึดใจเดียว ๔) ให้ความรักและเมตตาช่วยเหลือกันและกัน ในสถานการณ์อย่างนี้ เปรียบเหมือน สถานการณ์นกที่อยู่ในตาข่ายดักจับ ถ้าหากต่างถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นหน้าที่ของคนนั้นคนนี้ ฉันไม่เกี่ยว มือไม่ พาย เอาเท้าราน้ำ ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด สุดท้ายก็ตายยกชุด ถอดประเทศออก ถอดโลโก้ ยี่ห้อ ผลกำไร ขาดทุน พรรค ขั้วอำนาจออก ความโง่ ฉลาดออก มองเหน็ ทุกคนเป็นคน (Human Being) มองด้วยสายตาแห่ง
พ่อแมท่ ่รี กั และเมตตาต่อลูก ๆ ทก่ี ำลังได้รับความทุกข์ร้อนจากโรคภัย ให้ความรกั ความเมตตาอาทร ชว่ ยเหลือ อยา่ งไม่มขี ้อแม้ ๕) ให้เกิดศรัทธา คือ ความเชื่อมั่น เป็นความเชื่อมั่นประกอบปัญญาว่า กายและใจสัมพันธ์ กัน ปัจจุบันหน่วยงานทางพระพุทธศาสนาได้ให้ชาวพุทธสวดมนต์ช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ป้องกันลูกศรดอกที่สอง” ในสัลลัตถสูตร สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค โดยความว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดง เปรียบเทียบบุคคล ๒ ประเภท คือ คนโง่กับคนฉลาด คนโง่พอได้รับความทุกข์ทางกาย เหมือนถูกลูกศรดอก แรกอยู่แล้ว กลับเดือดร้อนทางใจอีก เปรียบเหมือนถูกลูกศรดอกที่สองยิงซ้ำเข้าไปอีก ส่วนคนฉลาดนั้น เม่ือ ได้รับความทุกข์ทางกายย่อมไม่เดือดร้อนทางใจ คือไม่ถูกลูกศรดอกที่สองยิงซ้ำ การสวดมนต์เป็นการสร้าง ศรัทธาวา่ ตนจะไมถ่ ูกลูกศรยิงซ้ำ เจ็บเฉพาะทางกาย แตใ่ จไม่กระวนกระวาย รตนสตู ร เป็นพระสูตรท่ีเกี่ยวกับ ความศรัทธาในพระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และปฏิบัติตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา เม่ือ กล่าวทางวิทยาศาสตร์ การตั้งใจสวดมนต์ย่อมทำให้โมเลกุลน้ำในร่างกายเรียงตัวได้ดี นั่นส่งผลให้มีจิตใจสงบ เยือกเย็นข้นึ มีสติปัญญาขน้ึ ไมส่ ับสนวุ่นวาย วิตกกงั วล ๖. ไดโ้ อกาสอันดีทีจ่ ะ Detox ประเทศ เมอ่ื พจิ ารณาโดยละเอยี ดแลว้ ประเทศไทยน้นั มีพิษหลายอย่าง คงค้าง จะเห็นได้จากประเทศไทยในฐานะประเทศพระพุทธศาสนา แต่ภาพที่ปรากฏยังไม่สามารถสือ่ นัยว่าได้ ปฏิบัติตามหลักพระพุทธศาสนา ดังดัชน้ีเรื่องอาชญากรรม การละเมิดกฎเกณฑ์พื้นฐานของมนุษย์ด้วยกัน ได้แก่ ทำรา้ ย ข่นฆา่ คนและสตั ว์ แย่งชิงลักขโมยสิ่งของผู้อน่ื ทำลายสัมพันธภาพของครอบครัวตนเองและผู้อ่ืน บิดพลิ้วผิดสัญญาข้อตกลงที่ให้ไว้ และทำลายสุขภาพของตนเองด้วยยาเสพติด การไม่ทำหน้าที่ชาวพุทธให้ ถกู ตอ้ ง เป็นตน้ แสดงวา่ มสี ารพิษตกค้างในประเทศมาก บัดนไ้ี ดโ้ อกาสอันดีทจี่ ะ Detox ประเทศไทย COVID 19 เข้ามาท้าทายภูมิปัญญาของคนไทยแล้ว เพราะมนุษย์โดยมากมักจะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตได้ก็ต่อเมื่อมี เหตุการณ์หนกั ๆ เข้ามาในชวี ิต ต้องอาศยั สถานการณ์นี้ (๑) Detox ด้านคุณค่าแท้ คนไทยได้รับพิษการเสพคุณค่าเทียมสูง ต้องถอนพิษด้านนี้ให้ ออกไป และให้รู้คุณค่าแท้ของชีวิตตามปัจจัย ๔ คือ อาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการ สะอาด ปลอดภัย ทานในเวลาที่ควรทาน ทานเท่าที่ร่างกายต้องการเท่านั้น ไม่ทานสัตว์แปลกประหลาด ทานแบบพิสดาร เครื่องนงุ่ ห่ม เส้อื ผ้าอาภรณ์ใชป้ กปิดร่างกาย ป้องกันอนั ตรายจากดนิ ฟา้ อากาศ แมลง ส่งิ มีพิษท้ังหลาย นุ่งหุ่ มอย่างมีความเป็นเอกลักษณข์ องชาติ เหมาะสมกับภูมิประเทศ ที่อยู่อาศัย ให้ถูกสุขลักษณะ ใช้ประโยชน์เตม็ พื้นที่ บ้านคือสถานให้ความสุข สงบ พักผ่อน สบาย ไม่สร้างบ้านให้คนรับใช้อยู่และเอาไว้อวดฐานะ ยารักษา โรค รู้จักใช้ยาสามญั ประจำบ้าน สมุนไพรใกล้ตวั รู้จักปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นให้แกก่ ันและกนั และใส่ใจสุขภาพ ไมใ่ ช่ผลติ ยาเพือ่ ทำกำไร (๒) Detox ด้านการศึกษา ถือได้ว่า มีความเป็นพิษค่อนข้างสูง การศึกษาต้องพัฒนาอินทรีย์ คอื ตา หู จมกู ลิน้ กาย ใจ ให้มคี ณุ ภาพ ศกั ยภาพ สมรรถภาพ และประสทิ ธิภาพ ทกุ องคค์ วามรู้ ทุกหลักวิชา ต้องเปน็ ไปเพ่ือพัฒนาชีวิตใหส้ ูงขึ้น เจริญขน้ึ ขบั ไล่ความเห็นแก่ตวั ได้อย่างชะงัด ปลูกความเสียสละให้งอกงาม มีท้งั ความร้คู วบคคู่ ุณธรรม ไมใ่ ชก่ ารศกึ ษาหมาหางดว้ น การศกึ ษารบั ใช้โรงงาน (๓) Detox ด้านทัศนคติ ประเทศไทยมีความเป็นพิษทางทัศนคติสูง ให้ใช้หลักสามัคคีธรรม และอหายนธรรม ได้แก่ สาราณียธรรมและอปริหานิยธรรมมาเป็นตัว Detox โดยใช้ Goal Setting คือ ความ สงบสุขร่มเย็นเป็นสุขถ้วนหน้า เป็นเปา้ หมาย คนมีทรัพย์สมบตั ิมากอนุเคราะห์ สงเคราะห์คนมีน้อย ให้โอกาส คนมีปัญญาทำงาน ดึงคนมีความรู้เข้ามาพัฒนาประเทศ ดังที่สมเด็จพระปิยมหาราชได้ทรงทำไว้ พึ่งพาตนเอง ให้มาก ดังที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงทำไว้ Detox ขจัดพิษหมั่นไส้และความคิดลบ (Negative Thinking)
ออกไป พษิ ตกค้างน้ีกัดกร่อนชีวติ คนไทยมาหลายชว่ั อายุคน ทงั้ ท่ีแต่เดิม คนไทยไดร้ ับสมญานามว่า สยามเมือง ย้มิ (Land of Smile) หรือ แดนแหง่ พระพทุ ธศาสนา (Land of Yellow Robe) คอื ประเทศสงบรม่ เยน็ (๔) Detox ด้านรังสรรค์ขุมปัญญา ประเทศไทยมีพิษขุมปัญญาตีบตัน ไม่ว่าจะเป็นความ เจริญในด้านใดๆ ไทยต้องไปรับมาจากต่างประเทศ ทั้งที่ประเทศของเรานั้นมีขุมปัญญาอันยิ่งใหญ่ ได้แก่ พระไตรปฎิ ก ภมู ิปัญญาของโลกทม่ี ีอยู่กัปปน์ ้ีไม่มใี ครเกินพระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจา้ อีกแลว้ ไม่ว่าจะ เป็นมนุษย์ เทวดา มาร พรหม ใน ๓ โลก ปูพรมทำวิจัยแบบรังสรรค์นวัตกรรมออกมาใช้ในทุกมิติเพื่อพัฒนา ประเทศน้ี รังสรรค์ความเจริญบนตารางพ้ืนทปี่ ระเทศไทยอาศยั พระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้าในการส่งเสริม คุณภาพชวี ิต อย่าให้พระไตรปฎิ กเป็นเพยี งคัมภรี ศ์ ักดส์ิ ิทธ์ทิ างพระพุทธศาสนาใชส้ ำหรับกราบไหวบ้ ูชา คำสอน ของพระพทุ ธเจา้ จะมอี ภินิหาริยก์ ต็ ่อเมื่อนำมาปฏบิ ตั ิ ปรับใชไ้ ดก้ บั ชีวิตทุกมติ ิ ที่เรียกว่า “อนุสาสนปี าฏิหาริย์” (๕) Detox ด้านกล้าคิด กล้าทำ สารตกค้างพิษในประเทศไทย คือ การไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ กลวั ถกู ตำหนิ ถูกเอาโทษ ถูกกลัวว่า ลำ้ หน้า เป็นสารพิษ “กลัวมันเก่ง” ตกค้างมา เพราะถา้ เก่ง เกรงว่าคนไทย ไม่เชือ่ ฟงั ใครคิดจะทำอะไรด้วยตนเองไม่ได้ ต้องรายงานก่อน รออนุญาตก่อน รอผ้ใู หญ่กอ่ น รอเห็นชอบก่อน มุ่งแต่เอาผิด ไม่เอาถูก เขียนระเบียบบอนไซความสามารถคน พิษในตัวประเทศด้านนี้มีสูง ต้องได้รับการ Detox ให้เปน็ กลา้ คดิ กลา้ ทำ ใครทำได้ให้มารับเหรยี ญอัจฉริยะ ส่งเสริมใหพ้ ัฒนาความสามารถเพ่ือความเป็น เลิศ ทั้งสองด้านคือ ความรู้และความประพฤติ คนไทยมีเชื้อสายมาจากคนหลายเผ่าพันธุ์ แต่ละเผ่าพันธุ์จะมี ความโดดเด่นของตนเอง ส่งเสริมให้แต่ยีนของเผ่าพันธุ์นั้น ๆ แสดงศักยภาพของตนออกมาให้ได้ ภายใต้ หลักการท่วี า่ “ภมู ิปญั ญาไทย รับใชโ้ ลก” ทางเลือก และทางรอดที่แสดงมา เป็นไปทั้งระบบ เพียงแต่อาศัยจังหวะและโอกาสที่ประเทศได้รับ ผลกระทบจากสถานการณไ์ วรสั ระบาดครั้งนมี้ าสร้างทางรอดให้คนไทย ศึกษาไดจ้ ากแผนภมู ิตอ่ ไปนี้ ที่มา : สุวญิ รกั สัตย์ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๓ จากพฤติกรรมวงจรชีวิตหนูมาสู่การเรียนรู้ปรับตัวของมนุษย์ อาศัยสถานการณ์ COVID 19 ถึงเวลา Detox ประเทศ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรสั โคโรน่านา่ จะใหบ้ ทเรียนแก่มนุษย์ มนุษยต์ อ้ งหันกลับมา ทบทวนตนเองกันไดแ้ ล้ว มิฉะน้ัน ธรรมชาตกิ จ็ ะลงโทษ ธรรมชาตไิ ม่ใชส่ ่ิงท่ีต้องพชิ ิตเอาชนะ แต่ธรรมชาติเป็น สิ่งที่ต้องเรียนรูแ้ ละปรับสมดุล เหตุปัจจัยท่ีเรียกว่า ปัจจยการ ซึ่งเป็นรากฐานของธรรมชาติมคี วามจำเป็นต้อง ได้รับการเรียนรู้ให้ชัดแจ้ง ทฤษฎีห่วงโซ่อาหาร ทฤษฎีสัมพัทธภาพเชิงนิเวศ แนวคิดหมู่บ้านโลก (Global Village) หรือ บ้านของฉัน (My Gaia) เป็นเร่ืองที่มนุษย์ต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อการดำรงอยู่บน
โลกได้อย่างปลอดภัย โลกต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง รังสรรค์ให้โลกให้น่าอยู่มากกว่านี้ แม้ว่าโลกจะต้อง เสื่อมสลายไปตามกาล แตถ่ า้ มนษุ ย์รู้จกั เรยี นรู้โลกให้เข้าใจและรู้จักรักโลกดุจดังรักชวี ติ ของตนเองก็จะเป็นทาง รอดได้ บัดนี้ พึงใช้โอกาสการแพร่ระบาดของ COVID 19 มาสร้างความเข้าใจรากฐานของสาเหตุ และร่วมมือ กันรักษาโลกไว้ มาช่วยกันทำโลกน้ีให้เป็นมรดกอันมีค่าแก่ลูกหลานในอนาคตกาล ไม่ทิ้งโลกที่เป็นมรดกพิษไว้ ให้พวกเขา สำหรบั ประเทศไทย เรามพี ระพทุ ธศาสนาเป็นรากฐานของชีวติ ชาวพทุ ธตอ้ งร้จู ักนำหลกั พุทธธรรมใน พระไตรปิฎกมาใช้ในทุกมิติ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งชีวิต หลักคำสอนก็มีไว้สำหรับการดำรงชีวิตอย่าง แทจ้ รงิ มิใช่มีไวใ้ ห้เป็นพษิ ทางความรู้ หรอื มีไวเ้ ปน็ เพียงเคร่ืองประดบั หง้ิ บชู า หรือมีไว้เป็นเพียงฉลากยาสำหรับ อ่าน แตม่ ีไวส้ ำหรับใช้เปน็ สารต้ังต้น Detox ประเทศ มไี ว้เพอ่ื ใหร้ จู้ ักอยู่ร่วมกับธรรมชาติอยา่ งสมดุล มีไว้สร้าง ภูมิปัญญาป้องกันเชื้อไวรัสทั้งหลายในโลก ไวรัส COVID 19 เป็นเพียงแค่กรณีตัวอย่าง ยึดหลักอริยสัจ ๔ มา ปรับใช้ เสริมสรา้ งพลังใจใหม้ ศี รัทธาและปัญญา เมอื่ ถกู ลูกศรแรกยิงเข้าทางกาย ก็ตอ้ งไม่ให้ลูกศรดอกที่สองยิง ซำ้ เข้าไปทางใจ “ธัมโม กุโลกปตนา ตทธาริธารี” ธรรมย่อมรกั ษาผปู้ ฏิบตั ธิ รรมไม่ใหไ้ ด้รับความทกุ ข์ เดอื ดร้อน “ธัมโม หเว รักขติ ธัมมจาริง” ธรรมย่อมรักษาผู้ทำคุณความดี “ธัมโม สุจิณโณ สุขมวาหติ” คุณความดีที่ผู้ ประพฤตธิ รรมสมควรแกธ่ รรมแล้ว ย่อมนำมาซ่งึ ความสงบสุข
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: