เร่ืองท่ี 2 Past Simple Tense Past Simple Tense คอื ประโยคทแี่ สดงเหตุการณ์ทเี่ กดิ ขนึ้ และสิ้นสุดแล้วในอดีต โครงสร้าง ของประโยค Past simple Tense Subject + V2 + Object + (adv. Of place) + (adv. Of time) ประธาน + กริยาช่องที่ 2 + กรรม + (วเิ ศษณ์บอกสถานท)ี่ + (วเิ ศษณ์บอกเวลา) ยกตวั อย่างเช่น โครงสร้าง 1 S + V + Adv. Of place + Adv. Of time Suda left England yesterday โครงสร้าง 2 S + V2 (V.infinitive with to) + O Malee wanted to help her family (ตวั อย่าง) โครงสร้าง 2 ในประโยคน้ีเป็นกริยาซอ้ นกริยาหรือคากริยาสองตวั อยตู่ ิดกนั คือ กริยาหลกั กบั กริยารอง want เป็นกริยาหลกั help เป็นกริยารองอยใู่ นรูป infinitive with to เมื่อเป็นประโยค Past Simple Tense เป็นคากริยาหลกั จะเปล่ียนเป็นคากริยาช่องที่ 2 คือ wanted
รูปกริยาทใี่ ช้ในประโยค Past Simple Tense ประโยค Past Simple Tense ใชก้ บั กริยาช่องท่ี 2 เสมอ ซ่ึงรูปกริยาช่องที่ 2 แบ่งเป็น 3 ประเภท ดงั น้ี 1. กริยาช่องที่ 1 เมอื่ เปลยี่ นเป็ นช่องที่ 2 ให้เตมิ d หรือ ed ยกตัวอย่าง เช่น กริยาช่องท่ี 1 กริยาช่องที่ 2 work worked wait waited arrive arrived open opened return returned like liked stop stopped กฎการเตมิ ed ทท่ี ้ายกริยาช่องท่ี 1 การเติม ed ท้ายคากริยาในช่องที่ 1 ให้เป็ นกริยาในช่องที่ 2 หรือรูปอดีต มกี ฎดังนี้ 1.1 กริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย e อยแู่ ลว้ ใหเ้ ติม d ไดเ้ ลย เช่น agree agreed use used bake baked joke joked define defined
1.2 กริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย y ใหเ้ ปล่ียน y เป็น i แลว้ จึงเติม ed เช่น carry carried study studied marry married fry fried identify identified ยกเว้นในกรณที ห่ี น้า y เป็ นสระ (a, e, I, o, u) ให้เตมิ ed ได้โดยไม่ต้องเปลย่ี นแปลง เช่น stay stayed obey obeyed delay delayed enjoy enjoyed play played 1.3 กริยามีพยางคเ์ ดียว มีสระตวั เดียว ตวั สะกดตวั เดียว ตอ้ งเพม่ิ สะกดอีกหน่ึงตวั แลว้ จึงเติม ed stop stopped knit knitted plan planned hop hopped whip whipped 1.4 เติม ed ไดเ้ ลยสาหรับกริยาอ่ืน ๆ ที่ไม่อยใู่ นขอ้ กาหนดตามกฎ ขอ้ 1, 2 และ 3 และไม่เป็นกริยาในกลุ่มอปกติ (Irregular verbs) เช่น search searched import imported
repair repaired fix fixed check checked 2. รูปกริยาช่องท่ี 2 และช่องท3่ี ทเี่ ปลย่ี นรูปจากกริยาช่องท่ี 1 สาหรับ กริยาทไี่ ม่ปกติ (Irrgular past form of verbs) กล่มุ กริยาทเ่ี ปลยี่ นรูป เมอ่ื เป็ นกริยาช่องที่ 2 และกริยาที่ 3 Present Tense Past Tense Past Participle (กริ ิยาช่องท่ี 1) (กริ ิยาช่องท่ี 2) (กริ ิยาช่องท่ี 3) be was/were been begin began begun bite bit bitten become became become blow blew blown break broke broken catch caught caught come came come choose chose chosen creep crept crept do did done drink drank drunk draw drew drawn drive drove driven eat ate eaten fall feel fallen feel felt felt
Present Tense Past Tense Past Participle (กริ ิยาช่องท่ี 1) (กริ ิยาช่องท่ี 2) (กริ ิยาช่องที่ 3) forget forgot forgotten go went gone grow grew grown hide hid hidden know knew known write wrote written ring rang rang 3. รูปกริยาช่องท่ี 2 และช่องท่ี 3 ทไ่ี ม่เปลยี่ นรูปสังเกตได้จากคากริยาทเี ป็ นคาพยางค์ เดียว และส้ัน กล่มุ กริยาทเ่ี ปลย่ี นรูปเมอ่ื เป็ นกริยาช่องท่ี 2 และ ช่องที่ 3 Present Tense Past Tense Past Participle (กริ ิยาช่องท่ี 1) (กริ ิยาช่องที่ 2) (กริ ิยาช่องท่ี 3) burst burst burst cost cost cost cut cut cut hit hit hit hurt hurt hurt let let let put put put read read read set set set
Present Tense Past Tense Past Participle (กริ ิยาช่องที่ 1) (กริ ิยาช่องท่ี 2) (กริ ิยาช่องที่ 3) shut shut shut split split split spread spread spread วธิ ใี ช้ Past Simple Tense มดี ังนี้ (1) เพ่อื แสดงถึงการกระทาอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดท่ีไดท้ าเสร็จสิ้นสมบรู ณ์ไปแลว้ ในอดีต ปกติมกั จะมีคาท่ีแสดงเวลาในอดีตบ่งช้ีอยู่ เช่น ago, last week (month, year), yesterday เป็นตน้ (ตัวอย่าง) Two weeks ago, Kate had an accident. สองสปั ดาหท์ ี่ผา่ นมา เคทไดป้ ระสบอุบตั ิเหตุ The train reached the station at two yesterday. รถไฟไดม้ าถึงสถานีตอนบ่าย 2 โมงเมื่อวานน้ี He came to look for you half an hour ago. เขาไดม้ ารอพบคุณเมื่อคร่ึงชวั่ โมงที่แลว้
Did you receive a letter from her last week? คุณไดร้ ับจดหมายจากเธอหรือเปล่าเมื่อสัปดาห์ท่ีแลว้ His mother died when he was twelve years old. คุณแม่ของเขาตายเม่ือเขาอายไุ ด้ 12 ปี (3) ใชก้ บั เหตุการณ์ที่ดาเนินอยใู่ นช่วงเวลาหน่ึง ๆ ในอดีต อาจจะมีคาวเิ ศษณ์ปรากฏ อยดู่ ว้ ย เช่น always, never, frequently, usually เป็นตน้ ขณะพดู อดีต อนาคต เร่ิม จบ (ตวั อย่าง) Jim always kept light on in the hall. จิมมกั จะเปิ ดไฟในหอ้ งโถงทิง้ ไวเ้ สมอ (นิสยั ในอดีต) He always finished his work when he was here. เขามกั จะทางานของเขาเสร็จเสมอเม่ือเขาอยทู่ ี่นี่ (นิสัยในอดีต) He never sucked his thumb, unlike many children. เขาไม่เคยดูดนิ้วมือเลย ไม่เหมือนกบั เด็กหลาย ๆ คน (นิสยั ขอ้ เทจ็ จริงในอดีต)
(3) ใช้บอกถึงเงื่อนไขทเ่ี ป็ นไปไม่ได้ใน If-clause (Unlikely type) (ตัวอย่าง) lf I saw him, I would tell him the news. ถา้ หากผมพบเขา ผมคงเล่าข่าวน้ีใหเ้ ขาฟัง You would pass if you worked hard enough. คงสอบผา่ นแลว้ ถา้ หากคุณต้งั ใจเล่าเรียนใหม้ ากพอ If I had money, I would make a long journey around the world. ถา้ หากผมมีเงิน ผมคงจะเดินทางไปรอบโลก (4) ใช้ใน Past Simple Tense แทนที่ Present Simple Tense เมื่อเปลี่ยนประโยคจาก Direct Speech มาเป็ น Indirect Speech (ตวั อย่าง) Direct Speech : She said, “I understand what he means.” Indirect Speech : เธอพดู วา่ “ฉนั เขา้ ใจวา่ เขาหมายความวา่ อยา่ งไร” Direct Speech : She said that she understood what he meant. เธอพดู วา่ เธอเขา้ ใจวา่ เขาหมายความวา่ อยา่ งไร Indirect Speech : I asked him, “Is it cleaned by service center” ฉนั ถามเขาวา่ “มนั ถกู ทาความสะอาดที่ศนู ยบ์ ริการ ใช่หรือไม่” I asked him whether it was cleaned by service center. ฉนั ถามเขาวา่ มนั ทางานดว้ ยไฟฟ้ าใช่หรือไม่
กจิ กรรม ใหผ้ เู้ รียนทบทวนความรู้ในบทน้ี แลว้ ทาแบบฝึ กหดั ต่อไปน้ี Exercise 1 Change verbs in blankets into Past Simple Tense. 1. The play (begin) ______________ at 7 p.m. 2. Malee (visit) ______________ Suda at home yesterday. 3. Suda (write) ________________ a letter to her mother. 4. Somebody (ring) _______________ the bell just a moment. 5. A robber (break) _______________ into her house last night. 6. She (come) _______________ here yesterday. 7. They (forget) _______________ to bring us a book. 8. We (cut) _______________ meat with knife. 9. May (go) _______________ there five years ago. 10. The wind (blow) ______________ strongly last night. Exercise 2 Change these sentences into Past Simple Tense. 1. She rides her bicycle to school. _______________________________________________ 2. They stand under the tree. _______________________________________________ 3. The door bell rings loudly. _______________________________________________
4. They are very happy. _______________________________________________ 5. I break the glass. _______________________________________________ 6. We enjoy walking in the park. _______________________________________________ 7. Mana writes a letter to Suda. _______________________________________________ 8. Malee and Wichai buy a house. _______________________________________________ 9. You send me those pictures. _______________________________________________ 10. She loves classical music. _______________________________________________
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: