Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือฐานการเรียนรู้ห้องสมุด

คู่มือฐานการเรียนรู้ห้องสมุด

Published by ปวีณา เกิดธรรม, 2022-07-27 07:46:28

Description: คู่มือฐานการเรียนรู้ห้องสมุด ห้องสมุดประชาชนอำเภอเสิงสางจังหวัดนครราชสีมา

Search

Read the Text Version

คมู่ อื ประจำฐำน กำรเรยี นรหู้ ้องสมุด ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอเสงิ สำง สำนกั งำนสง่ เสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั จงั หวัดนครรำชสีมำ สำนักงำนสง่ เสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั สำนกั งำนปลัดกระทรวงศกึ ษำธิกำร

คำนำ คู่มือประจำฐำน/กิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียง ด้ำนกำรศึกษำ ฐำนกำรเรียนรู้ศูนย์กำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำ ของเศรษฐกิจพอเพียง คู่มือฐำนกำรเรียนรู้ห้องสมุด น้ีจัดทำข้ึนเพ่ือใช้ ประกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ของศูนย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอ เสิงสำง เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทำงในกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ และเป็นคู่มือให้ นักศกึ ษำได้ใชป้ ระกอบกิจกรรมกำรเรยี นรูใ้ นฐำนกำรเรียนรู้หอ้ งสมุด ผู้จัดทำหวังเป็นอยำ่ งย่งิ วำ่ คมู่ ือฐำนกำรเรยี นรหู้ อ้ งสมุด เล่มนี้จะเป็น ประโยชน์ตอ่ นักศกึ ษำ ประชำชนและผูท้ สี่ นใจตอ่ ไป คณะผู้จดั ทำ หนำ้ ก

สำรบญั รูปแบบการขับเคลอื่ นปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่ฐานการเรยี นรู้ 1 หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2 แผนภมู กิ ารขบั เคล่อื นหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4 ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั ห้องสมดุ 5 ความหมายของห้องสมดุ 5 ความสาคญั ของห้องสมดุ 6 ประเภทของห้องสมดุ 7 ลกั ษณะของห้องสมดุ ทด่ี ี 8 ห้องสมดุ ของเรา 9 9 ข้อปฏิบตั ิในการใช้ห้องสมดุ 10 การนาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ต์ใช้ หนำ้ ข

สำรบญั 14 15 แผนผงั ทีต่ งั้ ฐานการเรียนรู้ ถอดองค์ความรู้ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภาคผนวก หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่มาและความสาคญั ใบความรู้ห้องสมดุ แบบสรุปความรู้ แบบประเมินการปฏิบตั ิงานกลมุ่ คณะกรรมการจดั ทาฐานการเรียนรู้ หน้ำ ค

รูปแบบกำรขับเคล่ือน หลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง สู่ฐำนกำรเรยี นรู้ รูปแบบกำรขับเคลื่อนหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง สู่ฐำนกำรเรียนรู้ศูนย์ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั อำเภอเสงิ สำง จังหวดั นครรำชสมี ำ เริ่มจำก กองอำนวยกำรรักษำควำมม่ันคงภำยในรำชอำณำจักร (กอ.รมน.) และสำนักงำนส่งเสริม กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั (สำนกั งำน กศน.) ไดล้ งนำมบนั ทกึ ข้อตกลง ควำมร่วมมือโดยมีวัตถุประสงค์ด้ำนกำรรักษำ ควำมมั่นคงสถำบันหลักของชำติ โดยให้ บุคลำกรในสังกัดสำนักงำน กศน. ทุกระดับ และประชำชนได้ตระหนักรู้และเกิดควำม ภำคภูมิใจในกำรขยำยผลโครงกำรอันเน่ืองมำจำกพระรำชดำริ ตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่สปู่ ระชำชนอย่ำงแพร่หลำย และเกิดควำมซำบซึ้งใน สถำบันพระมหำกษัตริย์ของประเทศไทย และให้ควำมร่วมมือในกำรส่งเสริมหมู่บ้ำนเรียนรู้ ตำมรอยพระยุคลบำท และไดก้ ำหนดใหจ้ ัดต้ังศนู ย์เรียนรู้ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและ เกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลใน กศน.ตำบลทุกแห่งทั่วประเทศ รวม 7,424 แห่ง เพ่ือเป็น ศูนย์เรยี นรู้และประสำนกำรทำงำนในกำรขับเคล่ือนกำรเรียนรตู้ ำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ร่วมกับภำคส่วนต่ำงๆในรูปแบบประชำรัฐ สถำนศึกษำและ ประชำชนให้เป็นรูปธรรมเพ่ือเทิดพระเกียรติพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหำรำชในโอกำสมหำมงคลทรงครองสิริรำชสมบตั คิ รบ 70 ปี ในปีพุทธศกั รำช 2559 สำนักงำน กศน.จังหวัดนครรำชสีมำร่วมกับกองอำนวยกำรรักษำควำมมั่นคงภำยใน จังหวัดนครรำชสีมำและภำคีเครือข่ำยจึงร่วมกันจัดต้ังศูนย์เรียนรู้ปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพยี ง และเกษตรทฤษฎีใหมป่ ระจำตำบลขน้ึ ใน กศน.ตำบลทกุ แหง่ เพ่ือให้กำรดำเนนิ งำน สนับสนุนแนวทำงในกำรเผยแพร่องค์ควำมรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและ เกษตรทฤษฎีใหม่รวมท้งั หลักกำรทรงงำน เพื่อสร้ำงจิตสำนึกควำมหวงแหนสถำบันหลักของ ชำติผ่ำนกลไกทำงกำรศกึ ษำของ กศน. และภำคีเครือข่ำยไปสูน่ กั ศกึ ษำ กศน. และประชำชน หน้ำ 1

หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง คือ พระรำชปรัชญำซ่ึงพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว ทรง พระกรุณำพระรำชทำนแก่พสกนิกรชำวไทย เพ่ือให้สังคมไทยมีชีวิตดำรงอยู่ได้ อย่ำงม่ันคง และยั่งยืน ไมว่ ่ำเม่อื ตอ้ งเผชิญกบั วิกฤตกำรณ์ หรือกำรเปลี่ยนแปลงใดๆ บนพื้นฐำนวิถีชีวิต ดง้ั เดิมของสงั คมไทยนำมำประยุกต์ใช้ เมื่อมีกำรกล่ำวถึงเศรษฐกิจพอเพียง ในฐำนะแนวควำมคิดหรือปรัชญำ ในกำร ดำรงชีวิต\"ทฤษฎีใหม่\" ก็มักจะได้รับกำรกล่ำวอ้ำงถึงควบคู่กันเสมอในฐำนะตัวอย่ำงหรือ แนวทำงในกำรนำ หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งมำปฏิบัตเิ พรำะทฤษฎใี หม่ คือกำรเลี้ยงตัวเองได้ใน ระดบั ชีวิตท่ีประหยดั ไมว่ ่ำจะเปน็ ในเร่ืองของกำรปลกู พืช เล้ียงสตั ว์ ในกำรพงึ่ พำตนเอง และ กำรแบ่งปัน ตลอดจนกำรดำเนินชีวิตตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นกำร เทดิ พระเกียรตพิ ระบำทสมเด็จพระเจำ้ อยูห่ วั และน้อมนำหลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่สู่กำรดำรงชีวิต และเกิดควำมซำบซึ้งในสถำบันพระมหำกษัตริย์ของ ประเทศไทย อีกท้ังยังเป็นกำรสร้ำงควำมเข้ำใจในกำรดำเนินงำนกำรขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้ ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ สำมำรถใช้วิธีกำรและแนวทำงกำร จดั กำรเรียนกำรสอนตำมหลกั กำรทรงงำนและแนวพระรำชดำรนิ ำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจ พอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่ ไปใช้ในวิถีชวี ิตและขบั เคล่ือนศูนย์เรียนรู้ปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียง และเกษตรทฤษฎใี หมป่ ระจำตำบลต่อไป หนำ้ 2

ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง หน้ำ 3

แผนภมู กิ ำรขบั เคลอ่ื น หลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง หนำ้ 4

ควำมรูท้ ่ัวไปเก่ียวกบั ห้องสมุด ควำมรู้ท่วั ไปเกีย่ วกบั ห้องสมดุ ห้องสมดุ นับเปน็ สถำบนั หนึ่งของสังคมทำหน้ำท่ีเก็บรวบรวมสำรสนเทศ (Information) ที่บันทึกไว้ในส่ือประเภทต่ำง ๆ คือ หนังสือ วำรสำร หนังส่ือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ประเภทอ่ืน ๆ และโสตทัศนวัสดุ เช่น สไลด์ ไมโครฟิล์ม ไมโครฟิช เป็นต้น ผู้ที่มีหน้ำท่ีในกำรจัดเก็บและ ดำเนินงำน ห้อ งสมุด ได้แก่ บร ร ณำรั กษ์ ซึ่งผ่ำนก ำร ศึก ษำและ ฝึก อ บร มวิ ชำ บรรณำรักษศำสตร์มำแล้ว จึงสำมำรถจัดและดำเนินงำนห้องสมุดได้อย่ำงถูกหลักและ สำมำรถบรกิ ำรหอ้ งสมุดไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ ควำมหมำยของหอ้ งสมดุ คำว่ำ “ห้องสมุด” มีคำใช้อยู่หลำยคำ ในประเทศไทยสมัยก่อนเรียกว่ำ “หอหนังสือ” หอ้ งสมดุ ตรงกับภำษำอังกฤษว่ำ Library มำจำกศัพทภ์ ำษำละตนิ วำ่ LIbraria ห้องสมุด คือ สถำนท่ีรวบรวมสรรพวิทยำกำรต่ำง ๆ ท่ีใช้เพ่ือกำรศึกษำค้นคว้ำทุกประเภท ทั้งวัสดปุ ระเภทสิ่งตพี มิ พ์ และวสั ดุทไี่ มต่ ีพมิ พ์ ได้แก่ หนังสือ วำรสำร หนังสือพิมพ์ เอกสำร อื่น ๆ ต้นฉบับตัวเขียน โสตทัศนวัสดุต่ำง ๆ เช่น แผนท่ี รูปภำพ ลูกโลก แผ่นเสียง ภำพน่ิง ภำพยนตร์ เป็นต้น โดยมีกำรจัดระบบอย่ำงมีระเบียบเพื่อบริกำรแก่ผู้ใช้ในอันที่จะส่งเสริม กำรเรียนรู้และควำมจรรโลงใจตำมควำมสนใจและควำมต้องกำรของแต่ละบุคคล โดยมี เจ้ำหน้ำท่ีซ่ึงมีควำมรู้ทำงบรรณำรักษศำสตร์เป็นผู้ดำเนินกำรบริหำรงำน และจัดเตรียม ให้บรกิ ำรแก่ผู้ใชห้ อ้ งสมุด เพือ่ ให้ผู้ใชไ้ ดร้ ับควำมสะดวก และเกดิ ประโยชนส์ ูงสุด หน้ำ 5

ควำมรู้ท่ัวไปเกีย่ วกบั ห้องสมดุ ควำมสำคัญของห้องสมุด ห้องสมุดเป็นแหล่งรวบรวมสรรพวิทยำต่ำง ๆ หลำยสำขำ ซ่ึงผู้ท่ี ตอ้ งกำรศกึ ษำหำควำมรูห้ รือคน้ คว้ำข้อมลู ต่ำง ๆ จะเขำ้ มำใช้บรกิ ำรหอ้ งสมุด ท้ังส้ิน ดังน้ันควำมสำคัญของห้องสมุดจึงมีมำกมำย อำจสรุปได้เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้ 1. ห้องสมุดเป็นท่ีรวมวิทยำกำรต่ำง ๆ ท่ีอำจำรย์ นิสิต นักศึกษำ และ นักเรยี นเขำ้ มำค้นคว้ำหำควำมร้ใู นแขนงวิชำทมี่ กี ำรเรียนกำรสอน 2. หอ้ งสมุดเป็นท่ีท่ีทุกคนจะเลือกมำอ่ำนหนังสือ และค้นคว้ำหำข้อมูลต่ำง ๆ ได้โดยอิสระ ตำมควำมสนใจของแต่ละบุคคล ไมม่ ใี ครบังคบั 3. ห้องสมดุ ช่วยให้ผใู้ ชห้ อ้ งสมุดพอใจที่จะอ่ำนหนังสือ และสิ่งพิมพ์ต่ำง ๆ ได้ ตำมควำมพอใจ 4. หอ้ งสมุดชว่ ยใหผ้ ูใ้ ช้หอ้ งสมดุ มีควำมรทู้ นั สมยั ทันเหตกุ ำรณ์อยู่เสมอ 5. ห้องสมุดช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดมีนิสัยรักกำรอ่ำน กำรค้นคว้ำและหำควำมรู้ ได้โดยตนเอง 6. ห้องสมุดชว่ ยให้ผูใ้ ชห้ อ้ งสมุดร้จู กั ใช้เวลำให้เปน็ ประโยชน์ 7. ห้องสมุดช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดมีควำมเพลิดเพลิน ซึ่งนับว่ำเป็นกำรพักผ่อน ทำงอำรมณข์ องผใู้ ชห้ ้องสมุดวธิ หี นงึ่ ด้วย หน้ำ 6

ควำมรู้ทั่วไปเกย่ี วกบั หอ้ งสมุด ประเภทของห้องสมุด ตำมหลักสำกลแบง่ ห้องสมุดออกได้ดังน้ี 1. ห้องสมุดโรงเรียน (School Library) โรงเรียนแต่ละแห่งจัดให้มีห้องสมุดเพื่อให้บริกำรแก่นักเรียน ครู อำจำรย์ และผู้บริหำรโรงเรียนและได้รับเงินงบประมำณจำกโรงเรียนเป็นประจำ ในสหรัฐอเมริกำได้จักให้ใช้ โสตทัศนูปกรณ์ในห้องสมุดโรงเรียนอย่ำงกว้ำงขวำง และเรียกห้องสมุดโรงเรียนว่ำ ศูนย์โสตทัศนูปกรณ์โรงเรียน วัตถุประสงค์ท่สี ำคัญในกำรจัดตง้ั ก็เพ่ือส่งเสริมกำรเรียนกำรสอนตำมหลักสูตรให้มีประสิทธิภำพ นอกจำกนี้ยังช่วย เสริมสรำ้ งนิสยั รักกำรอ่ำนและศกึ ษำคน้ คว้ำตนเองใหแ้ กน่ ักเรยี น 2. หอ้ งสมดุ วทิ ยำลยั และมหำวทิ ยำลัย หรอื หอ้ งสมุดสถำบันอุดมศึกษำ (Collageand University Library) คือหอ้ งสมดุ ทอ่ี ยู่ตำมสถำบนั อดุ มศึกษำต่ำง ๆ ปัจจบุ ันส่วนมำกใช้คำว่ำ “สถำบันวิทยบริกำร” หรือ “สำนักหอสมุด” แทนคำว่ำ “ห้องสมุด” จัดให้บริกำรแก่ นิสิต นักศึกษำ อำจำรย์ และนักวิจัย มีวัสดุกำรอ่ำนทุกประเภทเกี่ยวกับ สำขำวิชำชพี ต่ำง ๆ 3. ห้องสมุดประชำชน (Public Library) รัฐบำลนำเงินภำษีของประชำชนมำจัดบริกำรห้องสมุดประชำชน ซ่ึงมีหนังสือและวัสดุกำรอ่ำนทุกประเภท เปิดให้ประชำชนเข้ำใช้และขอยืมหนังสือได้โดยไม่เสียค่ำบริกำร โดย ให้บริกำรในดำ้ นสงิ่ พิมพแ์ ละโสตทัศนวัสดุแก่ประชำชนโดยไม่จำกัดเพศ วัย ระดับคำมรู้ เช้ือชำติ และศำสนำ เพื่อ ช่วยยกระดับชีวิต สตปิ ญั ญำ และควำมรับผดิ ชอบ ห้องสมดุ ประชำชนจะต้งั ตำมจงั หวัดและอำเภอ ปจั จุบนั นยี้ งั มีตงั้ ตำมหมู่บำ้ นท่ีเจรญิ แลว้ ตำมชนบท แต่เป็นหอ้ งสมดุ ขนำดเลก็ 4. ห้องสมุดเฉพำะ (Special Library) โดยมำเป็นห้องสมุดของหน่วยรำชกำร บริษัท ห้ำงร้ำน ธนำคำร เปน็ ต้น เพื่อใหบ้ รกิ ำรเฉพำะผู้ท่ีทำงำนในหนว่ ยงำนนน้ั ๆ มีทง้ั ส่ิงพิมพแ์ ละโสตทัศนวัสดุต่ำง ๆ ส่วนใหญ่ในห้องสมุด เฉเพำะจำกัดสำขำวิชำเฉพำะลงไป สำหรับผู้ใช้ของหน่วยงำนที่ห้องสมุดนั้น ๆ ตั้งอยู่ หรืออำจจะมีสำขำวิชำอ่ืน ๆ เกี่ยวข้องบำ้ ง เช่น ห้องสมดุ กรมวิชำกำร กระทรวงศึกษำธิกำร หอ้ งสมดุ ธนำคำรกรุงเทพ จำกัด ห้องสมุดกรมกำร แพทยท์ หำรบก เปน็ ตน้ 5. หอสมดุ แหง่ ชำติ (National Library) ไดแ้ ก่ หอ้ งสมุดทจ่ี ดั ต้งั ขึน้ เพ่ือเก็บรวบรวมส่งิ พมิ พแ์ ละ โสตทศั นวัสดุทุกชนิดและทุกชอ่ื ทผี่ ลติ ข้ึนในประเทศหรือผลิตในประเทศอื่นแต่มเี นื้อหำเกี่ยวกับประเทศนนั้ ๆ สำหรบั ใช้ประโยชนใ์ นกำรค้นควำ้ วิจยั และถือเสมอื นว่ำส่ือเหลำ่ นน้ั เป็นสมบัตทิ ำงวฒั นธรรมอยำ่ งหนึ่งของชำติ หอสมุด แหง่ ชำติของไทยนอกจำกกรุงเทพมหำนครแลว้ ยงั มีสำขำในจังหวัดนครศรธี รรมรำช สงขลำ เชียงใหม่ สำพูน สิงหบ์ รุ ี ขอนแก่นและบุรีรัมย์ อีกดว้ ย หมำยเหตุ หนังสอื บำงเล่มจะแบ่งหอ้ งสมุดออกเปน็ 4 ประเภท โดยถอื ว่ำหอสมดุ แหง่ ชำตกิ จ็ ัดอยู่ในหอ้ งสมุด ประชำชน หนำ้ 7

ควำมรทู้ ั่วไปเกยี่ วกบั หอ้ งสมุด ลักษณะของห้องสมุดที่ดี ห้องสมุดที่ดีควรมีกำรจัดบริกำรที่สนองควำมต้องกำรของผู้ใช้อย่ำงกว้ำงขวำงผู้ใช้ได้รับควำม สะดวกรวดเรว็ และสำมำรถใช้ห้องสมุดในกำรเพ่ิมพูนควำมรู้ และตลอดจนนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ให้ เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่ำงดี ดังน้ันห้องสมุดที่ดีควรจัดหำ จัดระเบียบ และจัดบริกำร ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. มหี นังสือ วสั ดสุ ง่ิ พิมพแ์ ละโสตทัศนวัสดุ สำหรบั ใหบ้ รกิ ำรแก่ผ้ใู ชอ้ ยำ่ งกว้ำงขวำงทกุ ประเภท 2. มบี รกิ ำรให้ยืมหนงั สือ วสั ดุส่ิงพมิ พ์ หรอื เอกสำร แก่ผูใ้ ช้หอ้ งสมดุ เพือ่ เปดิ โอกำสให้ผใู้ ชห้ ้องสมุดได้ใช้ อยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ 3. จัดบริกำรและแนะนำกำรอ่ำน บริกำรตอบคำถำม บริกำรช่วยกำรค้นคว้ำเพ่ือเปิดโอกำสให้ผู้ใช้ หอ้ งสมดุ ไดใ้ ชอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ 4. มีหนงั สืออำ้ งอิงซ่งึ สงวนไวใ้ ชเ้ ฉพำะในหอ้ งสมุดหรอื ใหข้ อยมื ไดใ้ นเวลำจำกัดเพอื่ เปิดโอกำสใหผ้ ใู้ ชไ้ ดใ้ ช้ หนงั สืออ้ำงองิ ท่วั ถึงกนั และควรจดั บรกิ ำรหนงั สือจองดว้ ย 5. มีกำรจัดหนังสือเป็นหมวดหมู่ตำมระบบสำกลไว้ในช้ันเปิด เพ่ือให้ผู้ใช้สำมำรถหยิบได้ด้วยตนเอง โดยสะดวก 6. จัดทำคู่มือหรือเคร่ืองมือท่ีช่วยอำนวยควำมสะดวกในกำรใช้วัสดุอุปกรณ์ของห้องสมุด เช่น บตั รรำยกำร รำยช่ือหนังสอื คมู่ อื หนังสอื ทีน่ ำ่ สนใจ เปน็ ตน้ 7. จัดบริกำรแนะนำหนังสือดี หรือหนังสือที่น่ำสนใจ หนังสือที่จัดหำเข้ำห้องสมุดใหม่ ๆ เพ่ือให้ ผ้ใู ช้บรกิ ำรไดท้ รำบ 8. จัดสถำนท่สี ะอำดเรียบรอ้ ย เหมำะสมเป็นห้องสมุด เพ่ือให้ผู้ใช้บริกำรได้รับควำมสะดวกสบำยตำม สมควร เช่น มีแสงสว่ำงเพียงพอ มีโต๊ะ เก้ำอ้ีน่ังสบำย ปรำศจำกเสียงรบกวนทำลำยสมำธิ มีอำกำศ ถ่ำยเท หรอื มพี ดั ลมระบำยอำกำศ เปน็ ต้น 9. มีงบประมำณสำหรบั กำรดำเนินงำนและกำรจดั บรกิ ำรเป็นประจำและเพยี งพอ หนำ้ 8

ห้องสมุดของเรำ ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ นกำรใช้ห้องสมุด 1. ลงช่ือเขำ้ ใช้บริกำรและกิจกรรมท่ีทำทกุ ครงั้ ทีเ่ ขำ้ ใชห้ อ้ งสมดุ 2. ไมน่ ำอำหำรและเครื่องดื่มหรอื ของคบเคีย้ วเขำ้ หอ้ งสมุด 3. ไม่เล่น พูดคุย หยอกลอ้ สง่ เสียงรบกวนสมำธิผอู้ ่นื 4. ไมท่ ำกิจกรรมอ่นื ใดนอกจำกอ่ำนหรอื ศกึ ษำค้นควำ้ ในห้องสมดุ 5. อำ่ นหนงั สอื พิมพ์และวำรสำรในพนื้ ทที่ ี่จดั ไวใ้ ห้บรกิ ำรเทำ่ นั้นและนำเก็บเขำ้ ทเี่ ดิมทกุ ครง้ั 6. ไม่นำหนังสอื ท่ีไมไ่ ดย้ ืมจำกเจ้ำหนำ้ ท่ีไปอำ่ นนอกหอ้ งสมุด 7. ติดต่อยืม–คืน หนังสือเพ่ือถ่ำยเอกสำรและนำกลับบ้ำนจำกเจ้ำหน้ำท่ี หอ้ งสมุดทีเ่ คำน์เตอรบ์ ริกำรทุกครั้ง 8. เกบ็ เก้ำอ้ใี หเ้ รียบร้อยกอ่ นออกจำกห้องสมดุ 9. ผ้ทู ขี่ โมย ตดั หรือฉกี หนงั สอื จะถกู ปรับ 10 เท่ำ ของรำคำหนงั สือ หน้ำ 9

กำรนำเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยกุ ต์ใช้ กำรนำเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกต์ใช้ ต้องคำนึงถงึ 4 มติ ิ ดังน้ี 1.ดำ้ นวตั ถุ หมำยถึง กำรลดรำยจ่ำย / เพิ่มรำยได้ / ใช้ชีวิตอย่ำงพอควร / คิดและ วำงแผนอยำ่ งรอบคอบ / มีภมู คิ ุ้มกนั / ไมเ่ สย่ี งเกนิ ไป / กำรเผอื่ ทำงเลอื กสำรอง 2.ด้ำนสงั คม หมำยถงึ กำรช่วยเหลอื เกือ้ กูล / รู้รกั สำมคั คี / สรำ้ งควำมเขม้ แขง็ ใหค้ รอบครัว และชมุ ชน 3.ด้ำนส่ิงแวดล้อม หมำยถึง กำรร้จู กั ใชแ้ ละจดั กำรอยำ่ งฉลำดและรอบคอบ / เลือกใช้ทรัพยำกรที่ มอี ย่อู ย่ำงรคู้ ่ำและเกิดประโยชนส์ ูงสุด / ฟืน้ ฟูทรพั ยำกรเพ่ือใหเ้ กดิ ควำมยัง่ ยนื สงู สดุ 4.ดำ้ นวฒั นธรรม หมำยถึง กำรเอือ้ เฟ้ือ แบ่งปนั / เห็นประโยชนแ์ ละคมุ้ คำ่ ของภูมิปัญญำไทย ภูมิ ปญั ญำทอ้ งถ่นิ / รูจ้ ักแยกแยะและเลอื กรบั วฒั นธรรมอ่นื ๆ หนำ้ 10

ขน้ั ตอนกำรศึกษำฐำนกำรเรยี นรู้ ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ขนั้ ตอนกำรศกึ ษำฐำนกำรเรยี นรตู้ ำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ฐำนกิจกรรมกำรเรียนรู้หอ้ งสมดุ 1. นักศึกษำ/ประชำชนลงช่ือเข้ำร่วมกจิ กรรมประจำฐำน 2. นักศึกษำ/ประชำชนศึกษำเอกสำรตำรำรูปภำพและป้ำยนิเทศเกี่ยวกับฐำนกำร เรยี นรโู้ ดยกำรสงั เกตสอบถำมและเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง 3. นกั ศึกษำ/ประชำชนรับแบบบันทกึ กำรเรยี นร้ปู ระจำฐำนกำรเรียนรแู้ ละแบบทดสอบ กอ่ นเรยี น 4. ครู/วทิ ยำกรประจำฐำนจัดกระบวนกำรเรยี นเรยี นรูต้ ำมแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 5. นักศึกษำ/ประชำชนซักถำมปัญหำวิพำกษ์และสรุปร่วมกันกับนักศึกษำประจำฐำน กำรเรียนรแู้ ละครูประจำฐำนกำรเรียนรู้ 6. นักศกึ ษำ/ประชำชนประเมินผลกำรศึกษำฐำนกำรเรยี นรู้ 7. สน้ิ สดุ กระบวนกำรเรยี นรู้ หน้ำ 11

ขัน้ ตอนกำรศึกษำฐำนกำรเรียนรู้ ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. วัตถปุ ระสงคข์ องฐำนเรียนรู้ 1. บอกควำมหมำยของหอ้ งสมุดได้ 2. อธิบำยควำมสำคัญของหอ้ งสมุดได้ 3. บอกประเภทของหอ้ งสมุดได้ 4. บอกลกั ษณะทีด่ ีของหอ้ งสมุดได้ 3. ข้อมูลควำมรู้ 1. รู้ควำมหมำยของห้องสมุด 2. รคู้ วำมสำคัญของห้องสมุด 3. รู้ประเภทของหอ้ งสมุด 4. รูล้ กั ษณะทด่ี ขี องหอ้ งสมุด 4. วธิ กี ำรใช้ฐำน เพอ่ื ใช้เป็นส่อื ประกอบกำรจดั กำรเรยี นรู้ 5. ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั นกั ศกึ ษำไดล้ งมอื ปฏบิ ัติ ฝกึ คิดอย่ำงมีเหตุผล รู้จักกำรสังเกต กล้ำแสดงออก มีคุณธรรม สำมำรถทำงำนรว่ มกบั ผู้อื่นได้ รจู้ กั ใช้เวลำวำ่ งให้เกิดประโยชน์ หนำ้ 12

ขัน้ ตอนกำรศกึ ษำฐำนกำรเรยี นรู้ ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 6. ตำรำงกำรปฏิบัตแิ ละเวลำท่ีใช้ ลำดบั กำรปฏิบัติ เวลำที่ใช้ 1 ชี้แจงวัตถปุ ระสงค์และวิธกี ำรใชฐ้ ำนกำรเรียนรู้ 15 นำที 2 ใบควำมรทู้ ่ัวไปเกยี่ วกบั หอ้ งสมุด 45 นำที ใบควำมรหู้ อ้ งสมดุ ของเรำ 30 นำที 3 ทำใบงำน 10 นำที 4 ถอดบทเรียน 20 นำที 5 นำเสนอผลกำรเรียนรู้และสรุปผลกำรเรียน 7. สื่อกำรเรยี นกำรสอน 1. ใบควำมรู้ 2. ใบงำน 3. QR Code วิดีทัศน์ฐำนกำรเรยี นรู้ 8. กำรวัดผลประเมนิ ผล - แบบประเมินควำมรู้จำกใบงำน - ประเมินควำมรจู้ ำกใบ งำนถอดองคค์ วำมรู้ - แบบประเมินควำมพงึ พอใจประจำฐำนกำรเรยี นรู้ หน้ำ 13

แผนผังที่ต้งั ฐำนกำรเรียนรู้ แผนผงั ทต่ี ง้ั ฐำนกำรเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง ฐำนกำรเรียนรู้ หอ้ งสมดุ หนำ้ 14

ถอดองค์ควำมรู้ ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เงื่อนไขคุณภำพ ควำมรู้ คณุ ธรรม 1. มคี วำมรเู้ ร่อื งประเภทของหอ้ งสมดุ 1. มีวนิ ัย 2. รู้ระเบยี บกำรใช้ห้องสมดุ 2. ควำมอดทน 3. มีควำมรเู้ ร่อื งองค์ประกอบของห้องสมุด 3. ควำมขยันหมนั่ เพยี ร 4. รู้จกั ควำมสำคัญของหอ้ งสมุด 4. ควำมรับผดิ ชอบ 3 หลกั กำรพอเพยี ง พอประมำณ มีเหตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี 1 .รู้จกั แบง่ เวลำใหเ้ หมำะสม 1.เพ่ือใชเ้ ป็นแหลง่ เรียนรู้ให้กบั 1. มกี ำรวำงแผน กำหนดเวลำในกำร 2. เลอื กหนังสอื ท่ตี รงกบั ควำมตอ้ งกำร ชมุ ชนุ อ่ำนใหเ้ หมำะสม 2. มีกำรเตรยี มควำม 3. สถำนที่เหมำะสมกับกจิ กรรม 2. เพ่ือพัฒนำตนเองฝกึ พร้อมในกำรแสวงหำ ควำมรู้ ระเบียบวินยั 3.เพ่ือให้เกิดนสิ ยั รกั กำรอ่ำน สมดลุ ม่ันคง ใน 4 มิติ = ย่งั ยืน วัตถุ สงั คม 1. ไดห้ นงั สอื ตรงกบั ควำมต้องกำร 1. เกิดควำมรักควำมสำมัคคี 2. ได้อ่ำนหนังสอื 2. เกดิ สังคมรักกำรอ่ำน 3. ไดเ้ ข้ำร่วมกจิ กรรมหอ้ งสมุด 3. เกดิ ควำมเหลอื เกอื้ กลู กำรแบง่ ปนั 4. ไดค้ น้ ควำ้ หำควำมรูเ้ พอื่ เป็นทำงเลือกใน กำรศกึ ษำตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม 1. กำรรักษำควำมสะอำดภำยในห้องสมดุ 1. เกิดวัฒนธรรมกำรอำ่ นหนงั สือ 2. กำรจดั เกบ็ หนังสอื ใหเ้ ปน็ ระเบียบ 2. เกดิ วฒั นธรรมกำรใชห้ อ้ งสมดุ อยำ่ งถูกวธิ ี 3. เห็นคุณค่ำของภูมปิ ัญญำและกำรอนรุ กั ษ์วฒั นธรรม หน้ำ 15

ภำคผนวก

ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื ง ความรู้ท่วั ไปเก่ยี วกบั หอ้ งสมดุ ความร้ทู ั่วไปเกี่ยวกบั ห้องสมดุ หอ้ งสมดุ นบั เปน็ สถาบนั หนึ่งของสังคมทาหนา้ ทเี่ ก็บรวบรวมสารสนเทศ (Information) ท่ีบันทึกไว้ในสื่อประเภทต่าง ๆ คือ หนังสือ วารสาร หนังส่ือพิมพ์ ส่ิงพิมพ์ประเภทอื่น ๆ และโสตทศั นวสั ดุ เช่น สไลด์ ไมโครฟิล์ม ไมโครฟิช เป็นต้น ผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดเก็บและ ดาเนินงานห้องสมุด ได้แก่ บรรณารักษ์ ซ่ึงผ่านการศึกษาและฝึกอบรมวิชา บรรณารกั ษศาสตร์มาแล้ว จึงสามารถจัดและดาเนินงานห้องสมุดได้อย่างถูกหลักและสามารถ บรกิ ารหอ้ งสมดุ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ความหมายของห้องสมดุ คาว่า “ห้องสมุด” มีคาใช้อยู่หลายคา ในประเทศไทยสมัยก่อนเรียกว่า “หอหนังสือ” หอ้ งสมุดตรงกบั ภาษาองั กฤษวา่ Library มาจากศัพท์ภาษาละตนิ วา่ LIbraria ห้องสมุด คือ สถานที่รวบรวมสรรพวทิ ยาการต่าง ๆ ที่ใช้เพ่ือการศึกษาค้นคว้าทุกประเภทท้ัง วัสดปุ ระเภทสง่ิ ตพี มิ พ์ และวัสดุท่ีไมต่ ีพิมพ์ ได้แก่ หนงั สอื วารสาร หนงั สือพมิ พ์ เอกสารอ่ืน ๆ ต้นฉบับตัวเขียน โสตทัศนวัสดุต่าง ๆ เช่น แผนท่ี รูปภาพ ลูกโลก แผ่นเสียง ภาพนิ่ง ภาพยนตร์ เปน็ ต้น โดยมกี ารจัดระบบอย่างมีระเบียบเพื่อบริการแก่ผู้ใช้ในอันท่ีจะส่งเสริมการ เรยี นรแู้ ละความจรรโลงใจตามความสนใจและความตอ้ งการของแตล่ ะบุคคล โดยมเี จ้าหน้าที่ซ่ึงมี ความรู้ทางบรรณารักษศาสตร์เป็นผู้ดาเนินการบริหารงาน และจัดเตรียมให้บริการแก่ผู้ใช้ หอ้ งสมุด เพอื่ ให้ผใู้ ชไ้ ด้รับความสะดวก และเกดิ ประโยชนส์ งู สดุ

ใบความรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง ความรทู้ ่วั ไปเกีย่ วกบั ห้องสมุด ความสาคญั ของห้องสมดุ ห้องสมุดเป็นแหล่งรวบรวมสรรพวิทยาต่าง ๆ หลายสาขา ซ่ึงผู้ท่ีต้องการ ศึกษาหาความรู้หรือค้นคว้าข้อมูลต่าง ๆ จะเข้ามาใช้บริการห้องสมุดท้ังสิ้น ดังนั้น ความสาคัญของห้องสมดุ จงึ มีมากมาย อาจสรุปไดเ้ ป็นข้อ ๆ ดังตอ่ ไปน้ี 1. ห้องสมุดเป็นท่ีรวมวิทยาการต่าง ๆ ท่ีอาจารย์ นิสิต นักศึกษา และนักเรียน เขา้ มาค้นคว้าหาความรู้ในแขนงวิชาทมี่ กี ารเรยี นการสอน 2. ห้องสมุดเป็นที่ที่ทุกคนจะเลือกมาอ่านหนังสือ และค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ โดยอิสระ ตามความสนใจของแต่ละบคุ คล ไมม่ ใี ครบังคับ 3. ห้องสมุดช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดพอใจท่ีจะอ่านหนังสือ และสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ได้ตาม ความพอใจ 4. หอ้ งสมดุ ช่วยใหผ้ ูใ้ ช้หอ้ งสมดุ มคี วามรทู้ ันสมยั ทันเหตุการณ์อยเู่ สมอ 5. หอ้ งสมุดช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดมีนิสัยรักการอ่าน การค้นคว้าและหาความรู้ได้โดย ตนเอง 6. ห้องสมดุ ช่วยให้ผใู้ ชห้ ้องสมดุ รู้จักใชเ้ วลาใหเ้ ป็นประโยชน์ 7. ห้องสมุดช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดมีความเพลิดเพลิน ซ่ึงนับว่าเป็นการพักผ่อนทาง อารมณ์ของผู้ใชห้ ้องสมุดวิธีหน่ึงด้วย

ใบความรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั ห้องสมุด ประเภทของห้องสมดุ ตามหลกั สากลแบ่งหอ้ งสมดุ ออกได้ดงั น้ี 1. ห้องสมุดโรงเรียน (School Library) โรงเรยี นแต่ละแห่งจัดให้มีห้องสมุดเพื่อให้บริการแก่ นักเรียน ครู อาจารย์ และผู้บริหารโรงเรียนและได้รับเงินงบประมาณจากโรงเรียนเป็นประจา ในสหรัฐอเมริกาได้จักให้ใช้โสตทัศนูปกรณ์ในห้องสมุดโรงเรียนอย่างกว้างขวาง และเรียกห้องสมุด โรงเรยี นวา่ ศูนยโ์ สตทศั นูปกรณ์โรงเรียน วัตถปุ ระสงค์ท่สี าคัญในการจัดตง้ั กเ็ พื่อสง่ เสรมิ การเรียน การสอนตามหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพ นอกจากน้ียังช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการอ่านและศึกษา ค้นควา้ ตนเองให้แก่นกั เรยี น 2. ห้องสมุดวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย หรือห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา (Collageand University Library) คือห้องสมุดท่ีอยู่ตามสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ปัจจุบันส่วนมากใช้คาว่า “สถาบันวิทยบริการ” หรือ “สานักหอสมุด” แทนคาว่า “ห้องสมุด” จัดให้บริการแก่ นิสิต นักศึกษา อาจารย์ และนักวจิ ัย มีวสั ดกุ ารอ่านทกุ ประเภทเกยี่ วกับสาขาวิชาชีพต่าง ๆ 3. ห้องสมุดประชาชน (Public Library) รัฐบาลนาเงินภาษีของประชาชนมาจัดบริการ หอ้ งสมุดประชาชน ซึง่ มหี นังสอื และวัสดุการอ่านทุกประเภท เปิดให้ประชาชนเข้าใช้และขอยืมหนังสือ ไดโ้ ดยไมเ่ สียค่าบริการ โดยให้บริการในด้านสิ่งพิมพ์และโสตทัศนวัสดุแก่ประชาชนโดยไม่จากัดเพศ วัย ระดับคามรู้ เชื้อชาติ และศาสนา เพื่อช่วยยกระดับชีวิต สติปัญญา และความรับผิดชอบ ห้องสมุดประชาชนจะต้ังตามจังหวัดและอาเภอ ปัจจุบันน้ียังมีต้ังตามหมู่บ้านท่ีเจริญแล้วตามชนบท แตเ่ ป็นห้องสมุดขนาดเลก็

ใบความรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง ความรู้ท่ัวไปเก่ยี วกับห้องสมดุ 4. ห้องสมดุ เฉพาะ (Special Library) โดยมาเป็นห้องสมุดของหนว่ ยราชการ บริษัท ห้าง ร้าน ธนาคาร เป็นตน้ เพอ่ื ให้บริการเฉพาะผู้ท่ีทางานในหนว่ ยงานนน้ั ๆ มีทั้งสิ่งพิมพ์และโสตทัศนวัสดุ ตา่ ง ๆ สว่ นใหญ่ในห้องสมุดเฉเพาะจากัดสาขาวชิ าเฉพาะลงไป สาหรับผู้ใชข้ องหน่วยงานที่ห้องสมุดน้ัน ๆ ตั้งอยู่ หรืออาจจะมีสาขาสิชาอื่น ๆ เกี่ยวข้องบ้าง เช่น ห้องสมุดกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ห้องสมุดธนาคารกรงุ เทพ จากดั ห้องสมุดกรมการแพทย์ทหารบก เปน็ ตน้ 5. หอสมุดแหง่ ชาติ (National Library ) ได้แก่ หอ้ งสมดุ ทีจ่ ัดต้ังขึ้นเพ่ือเก็บรวบรวมสิ่งพิมพ์และ โสตทัศนวสั ดุทกุ ชนิดและทุกช่ือท่ีผลิตขึ้นในประเทศหรือผลิตในประเทศอ่ืนแต่มีเนื้อหาเก่ียวกับประเทศนั้น ๆ สาหรับใช้ประโยชน์ในการค้นคว้าวิจัยและถือเสมือนว่าส่ือเหล่าน้ันเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอย่างหน่ึง ของชาติ หอสมุดแห่งชาติของไทยนอกจากกรุงเทพมหานครแล้วยังมีสาขาในจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา เชียงใหม่ สาพูน สงิ หบ์ ุรี ขอนแก่นและบรุ รี ัมย์ อีกด้วย หมายเหตุ หนังสือบางเล่มจะแบ่งห้องสมุดออกเป็น 4 ประเภท โดยถือว่าหอสมุดแห่งชาติก็จัดอยู่ใน หอ้ งสมดุ ประชาชน

ใบความร้ทู ่ี 1 เรอื่ ง ความรทู้ ั่วไปเกี่ยวกับห้องสมดุ ลกั ษณะของหอ้ งสมุดทีด่ ี หอ้ งสมุดที่ดคี วรมกี ารจดั บริการที่สนองความต้องการของผใู้ ช้อยา่ งกวา้ งขวางผู้ใช้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และสามารถใช้ห้องสมุดในการเพิ่มพูนความรู้ และตลอดจนนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์ในชีวิตประจาวันได้เป็นอย่างดี ดังน้ันห้องสมุดที่ดีควรจัดหา จัดระเบียบ และจัดบริการ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. มีหนงั สอื วสั ดุส่งิ พมิ พ์และโสตทศั นวัสดุ สาหรับใหบ้ ริการแก่ผู้ใชอ้ ย่างกวา้ งขวางทกุ ประเภท 2. มีบริการให้ยืมหนังสือ วัสดุส่ิงพิมพ์ หรือเอกสาร แก่ผู้ใช้ห้องสมุดเพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ หอ้ งสมดุ ได้ใช้อย่างมีประสิทธภิ าพ 3. จดั บรกิ ารและแนะนาการอ่าน บริการตอบคาถาม บริการช่วยการค้นคว้าเพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ ห้องสมดุ ได้ใช้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 4. มหี นงั สืออา้ งอิงซ่งึ สงวนไว้ใชเ้ ฉพาะในหอ้ งสมดุ หรือให้ขอยืมได้ในเวลาจากัดเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ ไดใ้ ชห้ นงั สอื อา้ งอิงท่วั ถงึ กนั และควรจดั บรกิ ารหนงั สอื จองดว้ ย 5. มกี ารจัดหนังสอื เป็นหมวดหมตู่ ามระบบสากลไว้ในช้ันเปิด เพ่ือให้ผู้ใช้สามารถหยิบได้ด้วยตนเอง โดยสะดวก 6. จัดทาคู่มือหรือเครื่องมือท่ีช่วยอานวยความสะดวกในการใช้วัสดุอุปกรณ์ของห้องสมุด เช่น บตั รรายการ รายช่ือหนงั สอื ค่มู ือหนงั สือที่นา่ สนใจ เป็นต้น 7. จัดบริการแนะนาหนงั สือดี หรือหนังสือที่น่าสนใจ หนังสือท่ีจัดหาเข้าห้องสมุดใหม่ ๆ เพ่ือให้ ผู้ใชบ้ รกิ ารได้ทราบ 8. จัดสถานท่ีสะอาดเรียบร้อย เหมาะสมเป็นห้องสมุด เพ่ือให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย ตามสมควร เช่น มีแสงสว่างเพียงพอ มีโต๊ะ เก้าอ้ีน่ังสบาย ปราศจากเสียงรบกวนทาลายสมาธิ มีอากาศถ่ายเท หรือมพี ดั ลมระบายอากาศ เป็นต้น 9. มีงบประมาณสาหรับการดาเนนิ งานและการจัดบริการเป็นประจาและเพยี งพอ

ใบงานที่ 1 เรื่อง ความรทู้ ่ัวไปเกี่ยวกับห้องสมุด คาชแี้ จง ใหส้ มาชิกในกลุ่มชว่ ยกันตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. ห้องสมดุ มคี วามหมายว่าอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2. หอ้ งสมดุ มคี วามสาคญั กับนกั เรียนอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 3. หอ้ งสมุดมกี ่ีประเภท อะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………........………………… 4. ลกั ษณะของหอ้ งสมดุ ทดี่ ใี นความคิดของนักเรียนควรจะเปน็ อยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ชื่อ- สกุล................……………………………………………………………………………ระดับ………………………................ กศน.ตำบล ................................................................

ใบความรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง ห้องสมุดของเรา ข้อปฏบิ ัติในการใชห้ อ้ งสมดุ 1. ลงช่ือเขา้ ใชบ้ ริการและกิจกรรมทที่ าทกุ ครั้งทเ่ี ข้าใชห้ อ้ งสมุด 2. ไม่นาอาหารและเครือ่ งดืม่ หรอื ของคบเค้ยี วเขา้ หอ้ งสมุด 3. ไมเ่ ล่น พดู คุย หยอกลอ้ สง่ เสียงรบกวนสมาธผิ อู้ ่นื 4. ไม่ทากจิ กรรมอน่ื ใดนอกจากอา่ นหรือศกึ ษาค้นควา้ ในหอ้ งสมดุ 5. อา่ นหนงั สอื พมิ พแ์ ละวารสารในพื้นทท่ี ีจ่ ัดไวใ้ หบ้ ริการเทา่ นน้ั และนาเกบ็ เขา้ ทเ่ี ดมิ ทกุ คร้งั 6. ไมน่ าหนงั สือทไ่ี มไ่ ด้ยมื จากเจา้ หน้าทไ่ี ปอ่านนอกห้องสมุด 7. ติดตอ่ ยืม–คืน หนงั สือเพ่ือถ่ายเอกสารและนากลบั บา้ นจากเจ้าหนา้ ที่ห้องสมุดที่ เคานเ์ ตอร์บริการทกุ คร้งั 8. เก็บเกา้ อใี้ ห้เรยี บรอ้ ยกอ่ นออกจากหอ้ งสมุด 9. ผทู้ ี่ขโมย ตัด หรอื ฉกี หนังสอื จะถกู ปรับ 10 เท่า ของราคาหนังสือ

ใบงานที่ 2 เรื่อง หอ้ งสมุดของเรา คำชี้แจง ให้นักศึกษำสรุปองคค์ วำมรจู้ ำกส่ิงทไ่ี ดศ้ กึ ษำในรปู แบบ mind map ในหวั ขอ้ เรื่อง หอ้ งสมดุ ของเรำ ช่อื - สกลุ ......................……………………………..…………………………………………ระดบั ………………………................ กศน.ตำบล..................................................

ถอดองคค์ วำมรู้ ฐำนกำรเรยี นรหู้ อ้ งสมดุ ควำมรู้ 2 เง่อื นไขคุณภำพ คณุ ธรรม พอประมำณ 3 หลกั กำรพอเพียง มีภูมิคุ้มกันในตวั ท่ดี ี มีเหตุผล สมดลุ ม่นั คง ใน 4 มติ ิ = ยัง่ ยนื วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม ชือ่ - สกุล................………………………………………………..…………………….…ระดบั ………………..……………................ กศน.ตำบล .......................................................

แบบประเมินควำมพ่งึ พอใจกำรเข้ำศกึ ษำเรียนรู้ ศนู ยก์ ำรเรียนเรยี นรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งดำ้ นกำรศกึ ษำ กศน.อำเภอเสิงสำง QR CODE แบบประเมนิ ควำมพึง่ พอใจ กำรเข้ำศึกษำเรียนรู้

คณะกรรมกำรจัดทำฐำนกำรเรยี นรู้ ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งด้ำนกำรศกึ ษำ กศน.อำเภอเสงิ สำงจงั หวัดนครรำชสมี ำ 1. คณะกรรมกำรท่ีปรึกษำ 1.1 นำงสำวปนัดดำ แอบเกษม ผู้อำนวยกำร ประธำนที่ปรกึ ษำ 1.2 นำงสำวกลั ยำณี เมอื งโคตร ครู คศ.1 ท่ีปรกึ ษำ 1.3 นำงสำยรุง้ สร้ำงนอก ครูผ้ชู ่วย ท่ีปรึกษำ 1.4 นำงศรวี รรณ มีพรหมดี ครูอำสำสมคั ร กศน. ท่ีปรกึ ษำ 1.5 นำงศริ ิพนั ธ์ุ ศิรไิ พบลู ย์ ครอู ำสำสมคั ร กศน. ที่ปรกึ ษำ 2. คณะกรรมกำรดำเนนิ งำนฐำนกิจกรรมกำรเรียนรู้หอ้ งสมดุ นำงสำวปวีณำ เกดิ ธรรม บรรณำรักษ์

ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอเสิงสำง สำนักงำนส่งเสริมกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัยจงั หวดั นครรำชสมี ำ สำนักงำนส่งเสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั สำนักงำนปลดั กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook