Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาผู้นำ

วิชาผู้นำ

Published by Guset User, 2021-09-29 08:48:53

Description: วิชาผู้นำ

Search

Read the Text Version

สือ่ การเรียนการสอนวิชาผนู ำ จัดทำโดย นางสาว น้ำผ้ึง วรกจิ พาณชิ ย นางสาว พณิ ไปรยา มโี พธ์ิ นางสาว ชลธชิ า สมเพชร นางสาว รัตนธิดา ศรพี รม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 4 เสนอ คุณครู กรรณิการ ปฐ วี การศกึ ษาฉบบั นีเ้ ปนสวนหนึ่งของวิชาผนู ำ ภาคเรยี นท่ี 2 ปการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นนขุนควรวทิ ยาคม

ก คำนำ เนื่องปจจุบันผูนำเปนปจจัยสำคัญตอความสำเร็จของงานและองคการ บุคคลหน่ึงใชอิทธิพลตอผูอ่ืน เพอื่ ใหปฏิบตั กิ ิจกรรมตางๆ ตามทก่ี ำหนดภาวะผูนำจึงเปนปจจัยสำคัญตอความสำเรจ็ ผจู ัดทำหวังเปนอยางยิ่งวาผูที่ไดเขามาอานจะสามารถเขาใจ ไดมากหรือนอยนั้น อยูที่การเขา ใจของแตละ คน หากเกิดขอผิดพลาดประการใดกข็ ออภยั มา ณ ท่นี ้ีดว ย

สารบัญ ข เนอ้ื หา หนา คำนำ ก สารบัญ ข แบบทดสอบกอนเรียน ค ผูนำ ง คณุ ลักษณะการเปนผนู ำ 14 ประการ 1 ลกั ษณะทา ทาง หรือการวางตัวลกั ษณะทา ทาง 1 ความกลา หาญ (ทั้งทางกายภาพและทางศีลธรรม) 2 ความเด็ดขาด 3 ความไวเ นือ้ เชือ่ ใจ 4 ความอดทน 5 ความกระตือรือรน 6 ความรเิ รม่ิ 7 ความซ่ือสัตยสจุ รติ 8 ความพินจิ พิเคราะห 9 ความยตุ ิธรรม 10 ความรอบรู 11 ความจงรกั ภักดี 12 ความรจู กั กาลเทศะ 13 ความไมเ ห็นแกต วั 14 ส่ือการสอน 15 แบบทดสอบหลงั เรียน 16 บรรณานกุ รม 17

ค แบบทดสอบกอนเรียน

ง ผนู ํา (Leader) โดยทั่วไป หมายถึง บุคคลใดบุคคลหน่ึงที่สามารถโนมนาวและจูงใจใหผูอื่นปฏิบัติตาม เพ่ือนําไปสูการ บรรลุเปาหมายที่ตองการขององคกรหรือกลุมได หรือในอีกมุมหนึ่ง ผูนําเปนผูท่ีมีอิทธิพลสูงสุดในกลุม ท่ี สามารถส่ังและกาหนดหลักในการปฏบิ ัติใหสมาชิกทุกคนในกลมุ ปฏิบตั ิตาม คุณลักษณะของการเปน ผนู ํา คือ คุณสมบัติเกี่ยวกับบุคลิกลักษณะ ซ่ึงมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวซ่งึ ถานา มาใชในชีวิตประจําวันจะชวยใหผูท่ีเปนผูบังคับบัญชาไดรับความนับถือ มีความม่ันใจ ไดรับการเชื่อฟงอยาง เต็มอกเต็มใจ และไดรับความรวมมืออยางจงรักภัคดีจากผูใตบังคบั บัญชา ผูนําแตละคนจะมีคุณลักษณะซึ่ง ประกอบเปนบุคลกิ ลักษณะประจําตัว และแสดงออกในระดบั ตาง ๆ กัน คณุ ลักษณะที่ผูบังคบั บัญชาแสดงออก จะมผี ลตอพฤติกรรมของผใู ตบังคบั บัญชาโดยตรง และความเต็มใจทจ่ี ะปฏบิ ัติภารกิจใหส าเรจ็

1 คณุ ลักษณะของการเปนผูนาํ 14 ประการ 1).ลักษณะทาทาง หรือการวางตัวลักษณะทาทาง คือ การกอใหเกิดความฝงใจที่นานิยมในการวางตัว อากัปกิรยิ าและการปฏิบัตติ นตลอดเวลา เปนคณุ สมบตั ิประจาตวั ที่ผูนําจะตองมี ลักษณะทา ทางของผูนําไมวา จะดีหรือเลว มักจะสรางแบบอยางใหผูใตบังคับบัญชาปฏิบัติตาม การวางตัวของทานควรจะมี ลักษณะ เท่ียงตรง อากัปกิริยาทา ทีท่ัว ๆ ไปตลอดจนเครื่องแตง กาย และเคร่ืองประกอบตาง ๆ ควรจะเปนแบบอยา งที่ ดีแกบุคคลภายในหนวยทานแสดงความตื่นตัวตลอดจนการปฏิบัติและความเคล่ือนไหวตาง ๆ ดวยความ เขมแข็งใหปรากฏแกผอู นื่ การเสรมิ สรา งลักษณะทา ทางใหเ กดิ ข้ึนในตวั ผนู าํ ตองปฏบิ ัติดังน้ี 1 . ฝก ตนเองใหม อี ากัปกิรยิ าและทว งทาทม่ี ีมาตรฐานสูง 2 . หลกี เลี่ยงจากความประพฤติหยาบคายและการใชวาจาทีไ่ มเหมาะสม 3 . ถา ชอบดมื่ ของมึนเมา กจ็ งดม่ื แตพอประมาณ 4 . ใชหลักเดนิ สายกลาง (มชั ฌิมาปฏิปทา) ในการปฏิบัตติ นทุกอยา ง 5 . รกั ษาทา ทางใหม คี วามสงา ผา เผยและภูมฐิ านจนเปนนิสยั

2 2) ความกลาหาญ (ท้ังทางกายภาพและทางศีลธรรม) คือ สภาวะทางใจอยางหน่งึ ซ่ึงรจู ักกลัวอันตรายหรือ รับรูคาวิจารณ ตางๆ แตทําใหบุคคลนั้นยังคงเผชญิ หนา กับสิ่งเหลาน้ันอยางไมส ะทกสะทานหรือออนไหว พูด งาย ๆ ความกลาหาญ ก็คือการควบคุมตนเองไมใหเกิดความกลัวเปนคุณสมบัติของจิตใจ ซ่ึงทาใหบุคคล สามารถควบคมุ ตนเองได ทาํ ใหเกดิ ความรสู กึ รับผดิ ชอบ และสามารถปฏิบัติตนตอสถานการณทม่ี าคุกคามไดอยางถกู ตอง ความกลาหาญจงึ เปนสงิ่ จาเปนย่ิง สาหรับการเปนผนู ํา การเสริมสรางตนเองเกดิ ความกลาหาญ จะตองปฏิบตั ดิ ังนี้ 1. ศกึ ษาและทําความเขาใจกับปฏิกิริยาของทา นท่ีมตี อความรูส ึกในทางหวาดกลัว 2. ควบคมุ ความกลวั ดว ยการทําจิตใจใหส งบ 3. จดั ลาํ ดับความนกึ คิดของทานใหมรี ะเบยี บแบบแผน อยาทาํ ใจใหตืน่ กลัวอนั ตรายจนเกินไป 4. ถาทานเกิดความประหมาทที่จะทําอยางใดอยางหน่ึงที่ทานตองการในชีวิตประจําวัน ก็จงบังคับตนเองให กระทําในสงิ่ เหลา นัน้ ใหได จนกวา จะเห็นวาทานสามารถควบคมุ 5. จงยืนหยดั ในสิ่งทเ่ี ห็นวาถูกตอ ง แมในทัศนะของคนท่วั ไปจะเห็นวาใชไ มได 6. ยอมรบั คําตาํ หนิ เม่ือทานเปนฝายผิด

3 3) ความเด็ดขาด คอื ความสามารถในการตกลงใจโดยฉับพลนั และประกาศขอ ตกลงใจนั้นดว ยทาทางเอาจรงิ และชัดแจง สถานการณตา ง ๆ มกั มีวธิ ีแกไขมากกวา 1 วธิ ี ผนู าทีฉ่ ลาดตองรวบรวมมูลความจริงท้งั หลายไวให หมด แลวนํามาเปรยี บเทยี บกันดูวา ความจริงขอไหนจะมนี ้ำหนักมากกวากัน เพือ่ ใหไ ดข อตกลงใจท่ีถูกตอ ง และรวดเร็ว ความเด็ดขาดสวนใหญเ ปนเร่อื งของการปฏิบัติและประสบการณ เพอ่ื เสรมิ สรา งใหเกิดความเด็ดขาดจะตองปฏบิ ตั ิดังน้ี 1. ฝก ใหต นเองเกดิ ความแนใ จในการปฏิบตั อิ ยางหนวงเหน่ียว หรอื พดู ออ มคอม 2. เสาะหาความจริง ตง้ั อกตั้งใจใหดแี ลวจึงคอ ยออกคําสัง่ ดว ยความมัน่ ใจ 3. ตรวจสอบดูการตกลงใจท่ีทําไปแลว ซา้ํ อีกครงั้ หน่ึงวาถูกตอง และทันเวลาหรอื ไม 4. วิเคราะหการตกลงใจของผูอ่ืน ถาตนเองไมเห็นดวยใหพิจารณาตอไปวา เหตุผลท่ีตนไมเห็นดวยนั้นใชได หรือไม เพราะอะไร 5. ขยายทัศนะของตนเองใหกวางขวาง ดวยการศึกษาวิธีปฏิบัติของผูอ่ืน แลวนาผลสำเร็จหรือขอผดิ พลาด เหลาน้นั มาใชใ หเกิดประโยชนกบั ตนเอง

4 4) ความไวเน้ือเช่ือใจ คือ การปฏิบัติหนาท่ีบางอยางไดโดยถูกตองไมผิดพลาด เปนคุณสมบัติอันหนึ่งซ่ึงผูนํา ควรจะเสรมิ สรา งใหมีข้ึนในตัวเองผนู ําที่ไววางใจได คือ ผทู ่ีทํางานไดวองไว, มีปฏภิ าณดี, มีความต้งั ใจจรงิ ที่จะ ทํางานเพื่อผูบังคับบัญชาของตน มีความจริงใจ และมีความสมัครใจท่ีจะปฏิบัติตามแผน และความต้ังใจของ ผูบังคับบัญชา มิไดหมายถึงวาเชื่ออยางงมงาย ผูบังคับบัญชาสวนมากมักจะรับฟงความ คิดเห็นของ ผูใ ตบ ังคับบัญชา แตเ ม่อื ใดที่ผูบังคบั บัญชาใหขอตกลงใจขัน้ สุดทา ยแลว ผูใตบังคับบญั ชา ตองใหก ารสนบั สนุน อยางแข็งขนั เพอื่ เสริมสรา งใหตนเองเกิดความไวเ นื้อเช่อื ใจ ตองปฏิบัติดังนี้ 1. อยา หาขอแกต วั หรอื คาํ ขอโทษ 2. ทํางานทุกชนดิ ทีไ่ ดรับมอบหมายจนสุดความสามารถ โดยไมค าํ นงึ ถึงความเชอ่ื ถือสวนตัว 3. มีความแนวแนในรายละเอยี ดตา ง ๆ 4. ฝก นสิ ัยใหเ ปนคนตรงตอ เวลา 5. ปฏิบัติการใหเปนไปตามคาสั่งทุกกระเบียดน้ิว เมื่อเห็นวาจะเกิดการขัดแยงกันขึ้นระหวางบุคคล 2 ฝาย ให เรยี กเจา หนาที่ ๆ เก่ียวของมาทําความเขาใจกนั ทันที

5 5) ความอดทน คอื พลังทางรา งกายและจิตใจ ซ่ึงวัดไดจ ากความสามารถทจี่ ะยนื ยัน ตอความเจ็บปวด, ความ เมื่อยลา , ความเครงเครยี ด และความยากลาํ บากตาง ๆ มีลักษณะคลายคลึงกบั ความกลา หาญความอดทนเปน คณุ สมบัตอิ นั สาคัญอยางหนึ่งซึ่งผนู าทกุ คนจะตองมี ทง้ั นเี้ พือ่ ใหเกิดความเลอ่ื มใสศรทั ธาจากผู ใตบังคบั บัญชา การขาดความอดทนอาจเกยี่ วพันไปถงึ การทําใหข าดความกลาหาญไปดวย ทาใหผนู ํากลายเปน คนขี้ขลาดเพราะสภาวะทางกายภาพไมเ ขมแข็งความอดทน หมายความรวมถึงความสามารถเมอื่ รับงานมาทํา แลวสามารถดาํ เนินไปไดโ ดยตลอด เพื่อเสรมิ สรางใหเ กิดความอดทน จะตองปฏิบัติดงั นี้ 1. หลีกเลีย่ งการปฏิบัตทิ ่ีไมจ ําเปนอนั เปนเคร่ืองบั่นทอนพลังกายและใจ 2. ปลูกฝงนิสัยในการชอบออกกําลังกาย เพ่ือชวยใหรางกายมีความแข็งแกรงข้ึน เพิ่มความอดทนใหแก รา งกายดวยการทํางานท่ียากลําบาก 3. ทดสอบความอดทนของตนเองบอ ย ๆ ดวยการบังคบั ตัวเองใหออกกาํ ลงั ให หนัก และฝกจิตใหก ลา แขง็ 4. บงั คับตนเองใหฝ  นทนทาํ งานตอ ไปเม่ือรูสึกเหนด็ เหนอ่ื ย หรอื ฝ นใจทาํ เม่อื จิตใจเริ่มยอ ทอ 5. ทาํ งานทกุ ชนดิ ใหใ หเสรจ็ เรยี บรอย และดที ่สี ดุ เทา ท่ตี นมคี วามสามารถจะทําได

6 6) ความกระตอื รอื รน คอื การแสดงออกซ่งึ ความสนใจอยางจริงใจ และมจี ิตใจจดจอ อยกู ับ การปฏิบัติหนาที่ หมายความรวมถงึ การทํางานดว ยความรา เริงเบิกบาน มีความหวงั ดี พิจารณาใหเกดิ ผลดีตอ งาน ทาทีการปฏิบัตขิ องทานจะเป นการสรางตัวอยางใหผูใตบังคับบัญชาปฏิบัติตามความกระตือรือรน มี ความสําคัญโดยตรงตอการฝกสอนในการแสดงตัวอยาง ประกอบการสอน การปฏิบัติของทานจะไดรับความ สนใจ หรอื เกดิ ความกระตือรอื รน หรือไม ดไู ดจ ากการแสดงออกของผใู ตบ งั คบั บญั ชาของทาน เพือ่ เสริมสรา งใหเ กิดความกระตือรือรน จะตองปฏิบัตดิ ังน้ี 1. ทําความเขาใจและเช่อื มั่นในภารกจิ ของทานที่ตองปฏิบตั ิ 2. จงเปนคนราเรงิ และเลง็ ผลเลิศ 3. อธิบายใหผ ใู ตบ ังคบั บัญชาทราบวา“ทาไม” งานบางอยางจงึ ไมน า สนใจและไมน า ทําแตก็ตองทา 4. ประกาศยกยองชมเชยเมื่อทํางานไดสําเร็จ ความกระตือรือรนยอมแพรถึงกันไดอ ยางรวดเร็ว ไมม ีอะไรจะ เสรมิ สรา งความกระตือรอื รน ไดรวดเร็วยิง่ กวา ความสาเรจ็ ของหนว ย หรอื บุคคลภายในหนวย 5. อยาทําใหตนเองเกิดความเบ่ือหนายตองาน จัดใหมเี วลาวางไวชวงหน่ึงทุกวัน เพ่ือใหจิตใจคลายกังวลตอ งานในหนาท่แี ละมีเวลาพกั ผอน

7 7) ความริเริ่ม คือ การเสาะแสวงหางานมาทํา และเรมิ่ หาหนทางปฏิบัติถึงแมจะไมม ีคําส่ังใหปฏิบัติ เหลาน้ี เปนสิ่งจาเปนทที่ หารทุกชั้นยศจะตองมี เมื่อผูบ ังคับบัญชาตองเผชิญกับสถานการณใ หม ๆ หรือสถานการณท่ี ไมค าดคิดมากอน ทหารจะรวมพลังกันอยางรวดเร็ว และปฏิบตั ติ อสถานการณน้นั ๆ อยางฉับพลันทันที ก็ถือ เปน ความริเรม่ิ อยางหน่ึงควรหาทางกระตนุ ใหผใู ตบังคบั บัญชาเกิดความคดิ ริเรมิ่ ดวยการมอบหมายงานใหทํา โดยเลือกใหเหมาะกับตําแหนง และชั้นยศของแตละคน ปลอยใหเขาหารายละเอียดและหนทางปฏิบัติเอาเอง จนกระทั่งทางานใหสาเร็จ แตไมไดหมายความวาผูบังคับบัญชาไดแตมอบงานใหโดย ตนเองทําอะไรไมเปน เลย ผบู งั คบั บญั ชาจะตองรูจกั งานนั้น ๆ เปนอยา งดี เพื่อจะไดก ากบั ดูแล อยางถกู ตอง เพอ่ื เปนการเสริมสรางใหเกดิ ความรเิ ร่ิม จะตองปฏิบัติดงั น้ี 1. ตอ งมีความตืน่ ตัวตลอดเวลาทัง้ กายและใจ 2. ฝก ตนเองใหเกดิ ความสานกึ ในงานที่จะตอ งทาํ และทําโดยไมตอ งสง่ั และ ปราศจากความลงั เลใจ 3. ฝก ใหเ กิดความหวัง โดยการคดิ วางแผนไวล ว งหนา 4. แสวงหาความรับผิดชอบ และยอมรบั ผดิ หรือชอบโดยทนั ที 5. ใชหนทางปฏบิ ัติทีม่ อี ยูในทางที่เกิดผลดที ีส่ ุด และมีประสิทธภิ าพมากท่สี ดุ

8 8) ความซื่อสตั ยส จุ ริต คือ ความเที่ยงตรงแหงอุปนิสัย และความยึดมน่ั อยูใ นหลัก แหง ศีลธรรมอันดงี าม เปน คุณสมบัติของการรักความจริง และความซื่อสัตยอยางแทจริงอันเปนคุณลักษณะซึ่งผูนาแตละคนซึ่งจะขาด เสียไมได ในการปฏิบัติการเปนชุดแบบทหาร เปนการเสี่ยงอยางยิ่งที่จะฝากชวี ิตทหารเปน จํานวนมากไวใน บังคับบัญชาของบุคคลตาง ๆ ซ่ึงยังไมแนใจวาเขาจะมีความซื่อสัตยสุจริตดีหรือไม ยกตัวอยางเชนขาวสาร เกี่ยวกับการรบมีความสําคญั ย่ิงตอผูมีหนาที่รับผิดชอบในการตัดสนิ ใจแกปญหาการรบ รายงานตาง ๆ ที่สง จากหนวยรองข้ึนมายังหนวยเหนอื หากมีผูที่ไมมคี วามซ่ือสัตยสุจริตดวยการละเมิดตอมาตรการในการรกั ษา ความลับเพียงคนเดียว อาจทําใหผลการปฏิบัติของสวนรวมตอ งพังพินาศโดยสิ้นเชิง ถึงแมบุคคลใดจะมีแต ความซื่อสัตยเพียงอยางเดียว หาก ไมมีความสุจริตแลว ก็ไมอาจใหความเชือ่ ถอื ไดเ ลย อาชพี ทหารจะไมยอมให มบี คุ คลซ่ึงบกพรอ ง ในเรือ่ งความซื่อสัตยส จุ ริตแมแ ตน อยใหรว มอยูในวงการดวยเลย เพอ่ื เสรมิ สรางใหเกดิ ความซื่อสัตยสุจริต จะตองปฏิบัติดงั น้ี 1. ฝก ใหเ ปนผูม ีความซอ่ื สัตยและรกั ษาวาจาสตั ยต ลอดเวลา 2. คาํ พดู ทุกคําจะตอ งถกู ตอ งแนนอน และเปนความจริง ท้งั ในเรอ่ื งราชการและเร่อื งสวนตัว 3. จงยืนหยดั ในเรือ่ งทท่ี านเช่ือวา ถูกตอง 4. จงยึดถือเอาความซื่อสัตย, ความสานึกในหนาท่ีการงาน และหลกั ของศีลธรรมอันดีงามใหอยูเหนือสิ่งอ่ืน ใดทั้งหมด

9 9.ความพินิจพิเคราะห คือ คณุ สมบัติในการใครครวญโดยใชเหตุผลตามหลักตรรกวิทยา เพ่ือใหไดมูลความ จริง และหนทางแกไขที่นาจะเปนไปได เพ่ือนํามาใชในการตกลงใจไดถูกตอง เพ่ือเพ่ิมพนู ความพินจิ พิเคราะห ของตนเองใหสูงขนึ้ จะตองเปนผูเพยี บพรอ มดว ยวิชาทางเทคนคิ ใหม ากท่สี ุดเทา ที่จะทําได เพื่อเสริมสรางใหเ กดิ ความพนิ ิจพเิ คราะห จะตองปฏบิ ัติดังน้ี 1. ฝก การประมาณสถานการณอ ยเู สมอ 2. คาดหมายเหตุการณตาง ๆ ไวลวงหนาวาจะตองตกลงใจอยางไรเม่ือถึงเวลาจะตองใชจะไดเตรียมการได อยางถกู ตอง 3. หลกี เลย่ี งอยาใหมีการตกลงใจชนดิ หนุ หนั พลันแลน 4. ตปี ญหาใหแตกโดยใชสามญั สํานึก

10 10) ความยุตธิ รรม คือ คุณสมบัตขิ องการเปนผูไมลาเอียงเขาขางใคร และมีความเสมอตนเสมอปลายในการ ใชอํานาจบังคับบัญชา ความยุตธิ รรมหมายความรวมถึงการใหรางวัล ตลอดจนการลงโทษทัณฑแกผทู ่ีกระทาํ ความผิดในลักษณะตาง ๆ ตามควรแกกรณีความโกรธและอารมณอ่ืน ๆ ตองไมเขามาพัวพนั กับเหตุการณใน ขณะน้ัน ตองหลีกเลี่ยงอยาใหมีอคติใด ๆ ตอเชอ้ื ชาตหิ รือศาสนา ส่ิงท่ีจะทําลายขวัญของทหารภายในหนวย น้นั ๆ ก็คือความไมยุติธรรมของผูบังคับบัญชา และการเลือกที่รักมกั ที่ชังของผูนาํ ทีม่ ีตอบุคคลบางคน หรือบาง พวกในการใหความยุติธรรม ทานจะตองมีความเขาใจในพฤติกรรมของมนุษย จะตองศกึ ษาการเรียนรูบุคคล ตาง ๆ วาทาํ ไมบุคคลจาพวกหนง่ึ จึงตองประพฤตปิ ฏิบัตอิ ยางน้ี ในสภาวการณอยางนี้ ในขณะท่บี ุคคลอีกพวก หน่ึงตองประพฤตปิ ฏิบัตใิ นทางที่แตกตางกนั ออกไป ในสภาวะอยางเดยี วกันตองทําการวเิ คราะหก รณีท่ีเคยตก ลงใจไปแลว และพิจารณาวาทานจะ ตองทาอะไรตอไป ทานจะตองเป นผูตัดสินหรือไม น่ีคือกรรมวิธีทางใจ สวนบคุ คล ซึ่งไมค วรนําไปใชในการวจิ ารณก ารตกลงใจของผูน าํ คนอืน่ เพ่อื เสรมิ สรางใหเกดิ ความยุติธรรม จะตอ งปฏบิ ัติดังนี้ (1) เม่อื ใชอ ํานาจลงทณั ฑตองมคี วามเท่ยี งธรรม, คงเสน คงวา, ปฏิบตั ิโดยทนั ที และไม เหน็ แกห นา บุคคลใด (2) พิจารณาโทษตามโทษานโุ ทษของแตล ะคน (3) ลงทณั ฑเ ปนรายบุคคล, ใหส มเกียรติ และดวยความเขา ใจอนั ดี (4) สํารวจทาทีทางใจของทา นเอง เพ่อื ดวู าจะยงั มอี คติใด ๆ แอบแฝงอยหู รือไม ถา มีจงใช ความอุตสาหะขจดั อคติใหห มดไป (5) วิเคราะหรายท่ีถกู ตัดสนิ ไปแลว โดยอาศัยผนู าที่มชี อื่ เสียงเปนผตู ัดสนิ (6) อยาลงโทษบุคคลทัง้ คณะเพราะความผิดของบุคคลเพยี งคนเดยี ว (7) ตองซอื้ ตรงตอตนเอง (8) ตองรจู กั คุณคาของผนู อยดวยการชมเชย หรือใหรางวลั อยารูแตเพยี งวาเพ่ือจะลงทัณฑ อยางเดียว 9) พยายามใหแตละคนเกิดความรสู กึ วา การลงทัณฑเปนเพียงโทษช่วั คราวเทา นัน้ แตการ ปรบั ปรุงตัวใหดขี น้ึ เปนสิง่ พงึ ประสงคอ นั ยาวนาน (10) ไมเ ลอื กทีร่ กั มกั ที่ชัง

11 11) ความรอบรู คือ ขาวสารท่ีบุคคลหามาได รวมทั้งความรูในวิชาชีพของตน ตลอดจนความเขาอกเขาใจใน ตัวผูใตบังคับบัญชา ไมมีอะไรที่จะดึงดูดความเชื่อมั่น และความเชอื่ ถือในตัวผบู ังคบั บัญชาไดเร็วเทา กับความ รอบรูท่ีผูบังคับบัญชาแสดงออกมา ผูที่รูงานของตนยอมสรางความเช่ือมั่นใหกับตนเองไดด ีเทากับท่ีคนอ่ืน เช่ือมั่นตน การขาดความรูนน้ั เปนส่ิงซอนเรนไมมิด ทานจะตบตาผูใตบังคบั บญั ชาของทานไมได คาํ ถามตางๆ ท่ีทานไมสามารถตอบได ก็จงยอมรับอยางหนาชื่นวาไมทราบ แลวรับเอาคําถามน้ันไปถามผูท่ีทราบ หรือ ผเู กี่ยวของโดยตรง แลว มาตอบใหไดความรอบรขู องทานไมควรจากัดอยูเพียงวิชาทหารเทาน้ัน ขาวสารทว่ั ไป ที่ควรทราบโดยเฉพาะอยางย่ิงเหตุการณภายในประเทศ และตา งประเทศจะชวยใหทานมีความรูรอบตัวมาก ยิง่ ข้ึน เพ่อื เสริมสรางใหเกดิ ความรอบรู จะตองปฏิบัติดังน้ี 1. จดั ใหมหี อ งสมดุ สวนตัว และจัดเร่อื งทีเ่ กีย่ วของทางทหารไวเ ปนสว นหนงึ่ ตางหากโดยเฉพาะ 2. ศกึ ษาหาความรูจากคูมอื ราชการสนามและขอเขยี น หรือบทความท่ีเก่ยี วของทางทหารอนื่ ๆ เชน ระเบียบ ขอบังคับ คาํ แนะนําการฝก และการสงครามทางทหารในอดตี 3. อา นนติ ยสารของเหลา หรอื หนังสอื อื่น ๆ ท่ีออกในนามของกองทพั บก 4. อานหนังสือพิมพรายวันและนิตยสารรายสัปดาห แลวพยายามเลอื กเฟนเอาเฉพาะสวนท่ีเสนอขาวอยาง ถูกตอ ง 5. ฝก นสิ ัยใหชอบสนทนาในเรอื่ งเปนงานเปนการท่มี ีสาระ 6. ประเมินคาประสบการณข องตนเอง โดยเปรียบเทยี บกบั ประสบการณข องผูอ่ืน 7. จงเปนคนตนื่ ตัว, รจู กั ฟง, รูจักสงั เกต และทําการคน ควาในเร่ืองทีต่ นยังไมเขาใจใหเขา ใจ

12 12) ความจงรักภักดี คือ คุณสมบัติของบุคคลมีจิตใจเช่ือถือ และยึดมั่นตอประเทศชาติ, ตอกองทัพ, ตอ หนว ย, ตอผบู ังคับบญั ชา, ตอ ผูใ ตบังคับบัญชา และผูเก่ียวขอ งอืน่ ๆ ถามีคณุ สมบัตดิ งั กลา วนเ้ี พยี งอยางเดยี ว สามารถทําใหผูบังคับบัญ ชาเกิดความมั่นใจในตัวทาน และไดรับความนับถือจากทาน ตลอดจน ผูใตบังคับบัญชาและผูมีสวนเก่ียวของดวย การปฏิบัติทุกอยางของทานจะเปนผลสะทอนใหเห็นความ จงรกั ภักดีของทานท่มี ตี อผบู งั คับบญั ชาชัน้ เหนอื เพอื่ เสริมสรา งใหเ กดิ ความจงรักภกั ดี จะตองปฏิบัติดังนี้ 1. เม่ือผูใตบ งั คบั บัญชากระทาความผิดตองรีบหาทางปองกันโดยรวดเร็ว 2. เมื่อทําการอบรมผูใตบังคับบัญชา อยานําเอาขอบกพรองเล็กๆนอยๆอันเปนการตําหนิผูบังคับบัญชาช้ัน เหนือมาพดู ใหฟ ง 3. ฝก ทํางานใหไ ดทกุ อยา งจนสุดความสามารถ และสนับสนุนขอตกลงใจของผูบงั คับบญั ชาดวยความเตม็ ใจ 4. อยา นําเรื่องสวนตัวของผใู ตบ ังคับบญั ชาไปเลา ใหค นอนื่ ฟง 5. จงยืนหยัดตอสเู พื่อประเทศชาต,ิ เพื่อกองทัพ, เพื่อหนวย, เพ่อื ผูบังคับ บัญชา, เพื่อผใู ตบังคับบัญชา และผู มีสวนรวมอ่นื ๆ เม่อื เหน็ วา ถูกกลา วหาอยางไมเ ปนธรรม 6. อยาวิพากษว ิจารณผูบ ังคับบัญชาชน้ั เหนือตอ หนา ผูใตบังคบั บัญชา 7. การถกแถลงปญ หาเกี่ยวกับการบังคับบญั ชานอกหนวยของตนตองพจิ ารณาไตรต รอง ใหร อบคอบเสียกอ น

13 13) ความรูจักกาลเทศะ คือ ความสามารถท่จี ะเขากบั บคุ คลอ่ืนได โดยไมก อใหเกดิ ศัตรู หรอื เปนปฏิปก ษต อ กัน ในทางมนษุ ยส ัมพันธ กาลเทศะ คือ ความสามารถที่จะพูด หรือทําในส่ิงหนึ่งส่ิงใดไดถูกตองตามเวลาอัน ควร กาลเทศะ หมายความรวมถึง การทําความเขาใจใน ธรรมชาติของมนุษย และการพิจารณาถึงความรูสึก นกึ คดิ ของผูอื่นกาลเทศะ มีความสาํ คัญตอความสัมพันธระหวางบุคคลท้ังมวล การวิพากษว ิจารณจ ะตองแจม แจงไมม ีเคลือบแคลงและตองเปนไปในทางสรางสรรค จะตอ งไมเปน การบ่ันทอนกําลังใจ หรือบีบบังคับให ผูใตบังคับบัญชามีจิตใจหันเหออกนอกลูนอกทาง ผูบังคับบัญชาทุกคนตอ งการผูรูจักกาลเทศะ เมื่อตองใหคา แนะนาแกผมู าหาดวยเร่อื งเดอื ดรอนสวนตวั จงอยาบอกปดที่จะไมแ กปญหาให เพราะบทบาทของทา นตอนน้ี เทากบั เปนทป่ี รกึ ษาคนหนึ่งของเขา บางครั้งการรูจักกาลเทศะเปนอยางดจี ะทาใหงา ยตอการรบั ฟง และสนใจ ทจี่ ะทาความเขาใจตอปญหา ทาใหท หารรูจ ักวธิ ีแกปญหาดวยตนเอง ทานอาจเห็นดว ยกับวธิ ีแกปญ หาของเขา หรอื แนะนาหนทางปฏิบตั เิ ปนอยางอื่นในทางท่ีควร เพ่อื เสริมสรา งใหเ กดิ ความรูจักกาลเทศะ จะตอ งปฏิบตั ิดังนี้ (1) จงเปน ผูม ีมารยาทและมจี ติ ใจราเริงเบกิ บาน (2) จงใสใจพิจารณาในตวั บคุ คลอ่ืน (3) ศกึ ษาแนวทางปฏิบัติของนายทหารทป่ี ระสบผลสําเรจ็ และมีชอื่ เสยี งในทางมนษุ ยสมั พนั ธ (4) ศึกษาบุคลิกภาพของคนแตละประเภทท่ีแตกตางกัน เพื่อใหไดมาซ่ึงความรูเกี่ยวกับธรรมชาติ และ พฤตกิ รรมของมนุษย (5) เสริมสรา งนิสยั ในการใหค วามรว มมือใหม ีอยูในจิตใจเทา ๆ กบั ลงมือปฏิบัตจิ ริง (6) มีจิตใจเขม แขง็ ทรหดอดทน (7) ปฏบิ ัติตอ ผูอ น่ื เชนเดียวกับท่ีตนตอ งการใหผอู นื่ ปฏบิ ัติตอตน (8) ตองรูวาเมอ่ื ใดควรจะปรากฏตัว ทั้งเปนทางการและไมเ ปนทางการ ตองคาดคดิ วาการ ปรากฏตวั หรอื ไมป รากฏตวั จะทาใหตนเองและผอู น่ื เดอื ดรอนหรือไม

14 14) ความไมเห็นแกตัว คือ การที่ไมฉวยโอกาสตักตวงความสุข หรือความกาวหนาใหกับตนเอง โดยทําให ผอู ่ืนเดอื ดรอน หรือเสยี ประโยชน แตก ลบั เปนฝายหาความสะดวกสบายความพอใจ และความบนั เทิงเริงรมย ตาง ๆ ใหแกผูใตบังคับบัญชาเปนผูไดรับกอนตนถาหนวยของตนไดรับการยกยองวาทํางานดีเดน ก็นามา สรรเสริญกับผูใตบังคับบัญชาอีกทอดหนึ่งวาเปนผูมีสวนชวยทําใหส่ิงตาง ๆ เปนผลสําเร็จข้ึนมา ไมมี ผูใตบงั คับบัญชาคนใดจะรกั นับถือผูบ ังคับบัญชา ที่ชอบฉกฉวยประโยชนเปนของตนเพียงคนเดียว เมือ่ หนวย มคี วามดคี วามชอบ แตพอมีขอ บกพรองกป็ ดมาใหเปนความผิดของผูใต บังคับบญั ชา โดยตนเองไมยอมรบั ผดิ รว มดว ย เพอ่ื เสริมสรา งใหเกิดความไมเห็นแกต ัว จะตองปฏิบัตดิ ังนี้ 1. หลีกเลี่ยงการใชตําแหนงหนาที่ หรือชั้นยศ เพ่ือเอาเปรียบผูใตบังคับบัญชาในเรื่องความปลอดภัย และ ความสุขสบายตา ง ๆ 2. รับพิจารณาขอเดือดรอน หรือปญหาตาง ๆ ท่ีเกิดข้ึนกับผูใตบังคับบัญชา และชวยขจัดปญหาตาง ๆ เหลา นน้ั เทา ทจ่ี ะทําได 3. ใหร างวัล หรอื คาชมเชยแกผูใ ตบ ังคบั บัญชาที่ปฏิบัติงานดีเดนอยางสม่ำเสมอ

15 ส่ือการสอน

16 แบบทดสอบหลังเรยี น

17 บรรณานกุ รม วชิ าผนู ำ//(2563).//วิชาผนู ำ.//สืบคน เมื่อ 28/9/64 จาก file:///C:/Users/ADMIN/Downloads/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0% B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3%20%E0%B8%9B%E0%B8%B51. วชิ าผนู ำ//(2563).//วชิ าผนู ำ.//สืบคนเมื่อ 28/9/64 จาก https://www.youtube.com/watch?v=wh72hQ2DZes วชิ าผนู ำ//(2563).//วชิ าผูน ำ.//สบื คน เม่ือ 28/9/64 จาก https://www.youtube.com/watch?v=Z1ouxD35MRw

18


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook