บทนำ การศึกษาชุมชน เกียรติศักดิ์ แซ่อิว, Ph.D, วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก [email protected]
การศึกษาชุมชน มีความสำคัญสำหรับนักวิชาการ นักบริหารงาน พัฒนาทางด้านสาธารณสุข ซึ่งการศึกษาจะมุ่งเน้นไปศึกษาเพื่อเข้าใจ ถึง สภาพต่าง ๆ ของชุมชน ด้านกายภาพ สังคม ประเพณี เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ชุมชนมีความสำคัญกับการศึกษาด้าน สาธารณสุข ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ซึ่งหมายถึงการที่จะไปดำเนินการส่งเสริม ป้องกัน และสถานที่ที่ที่จะทำการลงนวัตกรรม หรือที่เรียกว่า INTERVENTION บริบทของ ชุมชนจึงต้องถูกศึกษาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ ต้องการ การศึกษาชุมชนต้องทราบว่า ชุมชนคืออะไร มีองค์ประกอบและโครงสร้าง อย่างไร มีภารกิจ หน้าที่ของชุมชนอะไร และมีความแตกต่างกันระหว่างชุมชน เมืองและชนบท
ความหมายของ COMMUNITY ชุมชน the people living in one particular area or ตามดิคชันนารีของ Cambridge people who are considered as a unit because of https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/co their common interests, social group, or mmunity nationality กลุ่มคนที่อาศัยในบริเวณหรือท้องที่เดียวกัน มี ความสนใจในเรื่องต่าง ๆ เหมือน ๆ กัน อาจ หมายถึงกลุ่มทางสังคม หรือ สัญชาติเดียวกัน
ความหมายของ COMMUNITY ชุมชน ชุมชน หมายถึง การที่คนจำนวนหนึ่ง มี ประเวศ วะสี (2541: 13) วัตถุประสงค์ร่วมกัน มีความเอื้ออาทรต่อกัน มี ความพยายายามทำอะไรร่วมกัน มีการเรียนรู้ ร่วมกันในการกระทำ รวมถึงการติดต่อสื่อสาร กัน ชุมชน จึงมีทั้งที่เป็นกลุ่มคนขนาดเล็กไม่ กี่คน ไปจนถึงกลุ่มคนขนาดใหญ่ หรือทั้ง โลก และอาจเกิดขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ใน ครอบครัว ในที่ทำงาน ในแวดวงวิชาการ ใน หมู่สงฆ์ ชุมชนทางอากาศเพราะใช้วิทยุ ติดต่อสื่อสารกัน ชุมชนทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ชุมชนจึงอาจหมายถึง กลุ่มทางสังคมที่มีความ พื้นที่หรือบริเวณ องค์กรทางสังคม ที่มี สัมพันธ์กันตามบรรทัดฐาน ทางภูมิศาสตร์ ซึ่ง วัตถุประสงค์แน่ชัด และ ทางสังคม มีความผูกพันกัน เป็นที่อยู่อาศัยของ กลุ่มคน เช่น ละแวก รวมกันในระยะเวลาที่ และมีความเป็นปึกแผ่น บ้าน หมู่บ้าน ตำบล นานพอสมควร จนเกิด มั่นคง ซึ่งมีความหมายเช่น ระบบความสัมพันธ์และ เดียวกับความหมายโดยรูป อำเภอ จังหวัด ศัพท์ และอาจหมายถึง กลุ่ม เป็นต้น ความผูกพันขึ้น เช่น องค์การบริหารส่วนท้อง บุคคลที่มีสายสัมพันธ์ ถิ่น พรรคการเมือง กลุ่ม เดียวกัน เช่น ครอบครัว ชน อาชีพต่าง ๆ เผ่าต่าง ๆ
ลักษณะของชุมชน 01 เป็นการร่วมกันของกลุ่มคนใน 05 มีลักษณะเป็นการจัดระเบียบทาง รูปสังคม (สมาชิกมีการคบค้า สังคม เพื่อควบคุมความสัมพันธ์ สมาคมกัน เอื้ออาทรต่อกัน ของสมาชิก เช่น บรรทัดฐานทาง พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน) สังคม สถาบันหรือองค์การทาง สังคม เป็นต้น 02 เป็นอาณาบริเวณ (คือ เป็นที่ 06 สมาชิกมีกิจกรรมร่วมกัน เพื่อ อยู่อาศัย หรือประกอบ สร้างความสนิทสนมและนำไปสู่ กิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่ม การใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ ร่วม สังคม กัน 03 มีลักษณะทางประชากรศาสตร์ เช่น 07 สมาชิกมีวัตถุประสงค์ และ โครงสร้างประชากร ประกอบด้วย เป้าหมายในการดำเนินชีวิต เพศ อายุ อัตราการเกิด อัตราการ ร่วมกัน ตาย การอพยพย้ายถิ่น เป็นต้น 04 ขนาดของชุมชน มีทั้งขนาดเล็ก 08 สมาชิกได้รับผลกระทบ และ ขนาดใหญ่ โดยขึ้นอยู่กับ จากสิ่งที่เกิดขึ้นในชุมชน จำนวนของสมาชิกในกลุ่มสังคม ร่วมกัน และขนาดของพื้นที่ที่ใช้อยู่อาศัย หรือดำเนินกิจกรรมเป็นสำคัญ เช่น ครอบครัว ละแวกบ้าน หมู่บ้าน ชน เผ่า ตำบล ไปจนถึงประเทศและโลก
GEOGRAPHY องค์ประกอบของ ชุมชน ภูมิศาสตร์ หมายถึงสภาพแวดล้อม ทรัพยากร อาณาบริเวณ SOCIAL PSYCHOLOGY จิตวิทยา หมายถึง สังคม หมายถึง คน ความเป็นพวกพ้อง (people) เป็นองค์ ความเอื้ ออาทรกัน ประกอบสำคัญของ ชุมชน มีความสนใจ ความสัมพันธ์ ร่วมกัน ติดต่อสื่อสาร ระหว่างคนในชุมชน วัฒนธรรม ที่ทำให้เกิดความ ขนบธรรมเนียม ผูกพันในการอยู่ ประเพณี ที่มีลักษณะ ร่วมกัน คล้ายกัน
โครงสร้างชุมชน 04 ประกอบด้วย ระบบสังคม เป็นเครื่องมือที่ใช้กำหนด แนวทางในการปฏิบัติเพื่อความเป็นระเบียบ 01 เรียบร้อยและความสงบสุขของสังคม คนหรือบุคคล ที่มีความแตกต่างกัน 05 02 สถาบันทางสังคม ได้แก่ สถาบัน ครอบครัว สถาบันศาสนา สถาบัน กลุ่มคน คนตั้งแต่ 2 คน มีความสัมพันธ์ เศรษฐกิจ สถาบันการเมืองการ ทางสังคม โต้ตอบกัน ปกครอง 03 06 สถานภาพและบทบาท แล้วแต่ การแบ่งชนชั้นทางสังคม ชุมชนเมือง เช่น ตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ในแต่ละกลุ่ม ตระกูล ตำแหน่งราชการ ชนิดของอาชีพ ชุมชนชนบท เช่น ผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้าน
ประเภทของชุมชน ตามลักษณะการปกครอง ความสัมพันธ์ของคนในชุม แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ชุมชนชนบท ชุมชนเมือง ชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท (Urban (Semi-Urban, Semi- (Rural Community) Community) Rural Community)
01 ชุมชน เป็นชุมชนที่มีความหนาแน่นของ ชนบท ประชากรน้อย เป็นบริเวณที่ผู้คน อาศัยกันตามภูมิประเทศ บ้านเรือน กระจัดกระจายทั่วไปไม่หนาแน่น อยู่ รวมกันเป็นหมู่ มีศูนย์กลางในการ ทำกิจกรรมร่วมกัน ผู้อยู่อาศัยมี ความสัมพันธ์อันดีต่อกัน มีชีวิต ความเป็นอยู่คล้ายคลึงกัน ยึดมั่น ในขนบธรรมเนียมประเพณี มีอาชีพ เกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวของ กับเกษตรกรรม เป็นชุมชนบริเวณ ของตำบลและหมู่บ้าน
01 ชุมชน ลักษณะ ชนบท - อยู่อย่างใกล้ชิด primary group - ติดต่อเพื่อนบ้านใกล้เคียง - ความสัมพันธ์ใกล้ชิดยาวนาน - ลักษณะคล้ายคลึงกัน - การอพยพย้ายถิ่นน้อย - อัตราการเกิดสูงกว่าเมือง - การศึกษาและอาชีพน้อยกว่า - ความเชื่อโบราณมาก - การแพทย์เข้าถึงน้อยกว่า - ชีวิตดำเนินไปวัน ๆ - ให้ความสำคัญกับงานของคนในชุมชน - สิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่า - ทำงานตามฤดูกาล - ช่วยเหลือกันไม่คิดมูลค่า - กลุ่มควบคุมทางสังคมเดิม
02 ชุมชนเมือง เป็นชุมชนที่มีอาณาบริเวณที่มี การรวมกันของประชากรที่มี ความหนาแน่นพอสมควร มี อาคารบ้านเรือนหนาแน่น อยู่ติด ๆ กัน ประชาชนส่วนใหญ่ มีการประกอบอาชีพที่แตกต่าง กันออกไป มีการปกครองแบบ ใดแบบหนึ่ง มีความเจริญเป็น ศูนย์กลางต่าง ๆ และรวมถึง ความเสื่อมโทรมต่าง ๆ ด้วย เช่น สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
02 ชุมชนเมือง ลักษณะ - อยู่อย่างแออัด - ตัวใครตัวมัน - เน้นวัตถุนิยมมากกว่าทางจิตใจ - รับอิทธิพลต่างประเทศง่ายกว่า - การควบคุมเป็นทางการ เช่น เจ้าหน้าที่ - การตั้งบ้านเรือนหลายชั้น พื้นที่น้อย - ช่องว่างระหว่างประชากรมาก - การเลื่อนฐานะทางสังคมสูง เปลี่ยนอาชีพบ่อย - ทำงานแยกกันทำ เช่น หมอ ทหาร ครู ทนาย - สินค้า สิ่งอำนวยความสะดวกสูง - ขาดธรรมชาติที่พักผ่อน - ครอบครัวเล็ก อัตราการเกิดต่ำ - มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมตลอดเวลา - การศึกษา อาชีพสูง - คิดก้าวหน้า ไม่มีความเชื่อโบราณ - การช่วยเหลือกันมีน้อย - พื้นที่จำกัด แออัด เช่าบ้าน ไม่มีบ้านของตนเอง - ความแตกต่างระหว่างคนรวยคนจน
03 ชุมชนกึ่งเมือง เป็นลักษณะพื้นที่มักเป็นชุมชนแบบที่ กึ่งชนบท มีชนบทผสมกับหมู่บ้านหรือเมืองเล็ก มักเป็นสภาพที่พบในชุมชนชนบทที่อยู่ ติดกับเมืองเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะ - ชุมชนมี 2 ส่วน ชุมชนใหม่ที่เป็นเมืองมารุกล้ำ ชนบท ลักษณะผสม - ต่างคนต่างอยู่เว้นกลุ่มดั้งเดิม - ชุมชนใหม่รายได้ดีกว่ากลุ่มดั้งเดิม - คนชนบททิ้งบ้านเข้าสู่เมืองใหญ่ - ทิ้งการเกษตรไปทำโรงงาน ค้าขาย รับจ้าง - คนฝั่ งชนบท ไปเป็นพ่อค้า ช่างก่อสร้างใน เมือง - ฤดูทำนากลับมาทำ ว่างเข้าเมืองไปรับจ้าง
ปัญหาที่พบ - โครงสร้างพื้นฐาน ออกแบบไม่ดี - ปัญหาเศรษฐกิจ ต่างคนต่างอยู่ - สุขอนามัยไม่ดี ไม่มีการจัดการ - คุณภาพชีวิต เช่นการศึกษา - ขยะ ใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง - การคมนาคม ถนนจำกัด 03 ชุมชนกึ่งเมือง อุบัติเหตุ กึ่งชนบท
A ความจำเป็นของชุมชน กับงานสาธารณสุข บทบาทของงานสาธารณสุข เน้นเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ ตามกฎบัตรออตตาวา (OTTAWA CHARTER) และการป้องกันโรค ซึ่งตามพรบ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน ได้มีการขยายความว่าการ กระทำการสาธารณสุขต่อบุคคล ครอบครัว ชุมชนและอนามัยสิ่งแวดล้อมดังต่อไปนี้ (1) การส่งเสริมการเรียนรู้การแนะนำและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การ ควบคุมโรค การบำบัดโรคเบื้องต้น และการฟื้ นฟูสภาพต่อบุคคลครอบครัวและชุมชน โดยการผสม ผสานต่อเนื่องและเชื่อมโยงเป็นองค์รวม (2) การประยุกต์หลักวิทยาศาสตร์โดยการกระทำด้านการอาชีวอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อการ ควบคุมป้องกันปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคและลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน (3) การตรวจประเมินและการบำบัดโรคเบื้องต้นการดูแล ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย การสร้างเสริม ภูมิคุ้มกันโรคและการวางแผนครอบครัวตามหลักเกณฑ์และเงื่ อนไขที่คณะกรรมการกำหนด (4) การตรวจประเมินอาการเจ็บป่วยและการช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อการส่งต่อตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ที่คณะกรรมการกำหนด
B จะสังเกตว่า การทำงานของวิชาชีพการสาธารณสุขรวมถึง วิชาชีพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล หรือวิชาชีพทางด้านสุขภาพอื่น ๆ ก็เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับบุคคลถึงชุมชน โดยเฉพาะ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ต้องอาศัยการ เข้าชุมชนเป็นหลัก เพื่อใช้ในการวางแผนการดูแล สุขภาพ การป้องกันและเฝ้าระวัง การดำเนินการนี้ ควรมีจัดการที่ถูกต้อง ตามคำรวม ๆ ที่เรียกว่า Public health หรือ community health
เครื่องมือ 7 ชิ้น นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ 01 แผนที่เดินดิน 04 ระบบสุขภาพชุมชน 02 ผังเครือญาติ 05 ปฏิทินชุมชน 03 โครงสร้างองค์กร 0ุ6 ประวัติศาสตร์ ชุมชน ชุมชน 07 ประวัติชีวิตของบุคคลที่น่าสนใจ
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: