History of European

History of European ประวตั ศิ าตร์ยโุ รป

สารบญั หน้า • ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าตร์ 3 • พฒั นาการทางด้านการเมืองการปกครอง 4 • พฒั นาการด้านเศรษฐกิจ 6 • พฒั นาด้านสงั คมและศลิ ปวฒั นธรรม 9 • การสร้างสรรค์ด้านศลิ ปวฒั นธรรม 10 • อิทธิพลของทวีปยโุ รปตอ่ สงั คมโลก 13

ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ • พฒั นาด้านการเมืองการปกครองของยโุ รป แบง่ ตามยคุ สมยั ประวตั ศิ าตร์เป็น ๔ สมยั ดงั นี J สมยั โบราณ สมยั กลาง สมยั ใหม่ สมยั ปัจจบุ นั

พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครอง • โดยทว&ั ไปกลา่ วได้วา่ ในอดีตดนิ แดนสว่ นใหญ่ของทวีปยโุ รปมีกษัตริย์เป็นประมขุ สงู สดุ แม้แตใ่ นสมยั กรีกเรืองอํานาจเมื&อกวา่ ๕๐๐ ปีก่อน พครริสะตป์ศระกั มราขุ ชสงูรสะดุบอเรบียกกาวรา่ ปซกีซคารรอ์หงรแือบจบกั กรษพัตรรรดิยิซ์กง&ึ็เปท็นรงทปี&ร้กูจคกั รกอนั งแอพารณ่หาลบารยิเแวลณ้วกใวน้าสงมขวยั าจงกั ครรวอรบรดคโิ ลรมุมพนั ืนZ(๒ท&ีใ๗นยปีโุกร่อปนแคลระิสบตา์ศงกัสรว่ านชข-อคง.ศเอ.๔เช๗ีย๖แล) ะ แอฟริกา • เม&ือจกั รวรรดโิ รมนั ลม่ สลายลงใน ค.ศ. ๔๗๖ ยโุ รปได้เข้าสสู่ มยั กลาง (ค.ศ. ๔๗๖-๑๔๙๒)ท&ีระยะแรกๆบ้านเมืองแตกแยกจากการเข้า สรุกลราายนตขวั อบงพ้านวกเมอือนงาไรรย้ขช&ือนแเปผา่ปกรอะมทวลหกรือฎชหนมเาผยา่ โเรยมอนัรมทน&ีใั ชท้บ&ีองั พคยบั พทลวั& งทมงัZ าจจกั ารกวตรรอดนถิ เหกู ลนะือทริงZะเบกิดอบเปก็นารระปบกอคบรกอางแรปบกบครวรอมงศแนู บยบ์อฟําิวนดาลัจขหอรงือโกรมาร ปแทกนคปรอรงะแมบวบลกกฎระหจมาายยอโํารนมานั จอกยาา่ รงปไรกกค็ดรีอกงษตัตกรอิยย์กใู่ ็ยนงัมคืองขไอดง้รขับนุ กนาารยงเกจย้าอ่ขงอวงา่ ทเ&ีดป็นินเแจล้าะขมองีกแาผรใน่ ชด้กนิ ฎแหลมะาไยด้จรับารกีตาปรยระกเยพอ่ ณงวี ขา่ อเปง็นพพวกระอปนราะรมยขชุ น(แต่ ๆไมเม่ข้ีอาเําปน็นาชจา)ตแเิตดใ่ ียนวปกลนั าไยดส้ ซมงึ& ยัพกรละารางกชอษําัตนริายจ์ตใา่ นงกสาารมปากรคถสรอถงาขปอนงากอษําัตนราิยจ์ใปนกดคนิ รแอดงนแตบา่บงรวๆมมศีพนู ฒั ย์อนําานกาาจรทแล&ีแะตสกรต้าา่ งงรกัฐนัชาติ ที&รวมดนิ แดนตา่ ง • หลงั สงครามโลกครังZ ท&ี ๒ ระบอบการปกครองของยโุ รปแยกออกเป็น ๒ ระบอบอยา่ งเดน่ ชดั ดงั นี Z ๑) ระบอบประชาธิปไตย ๒) ระบอบเผดจ็ การคอมมวิ นิสต์



พฒั นาการดา้ นเศรษฐกิจ • สมยั กลางตอนต้นชาวไร่ชาวนาสว่ นใหญ่ตา่ งสญู เสียอิสรภาพและกลายเป็นทาสตดิ ทีRดนิ ต้องอยใู่ นสงั กดั ของขนุ นางเจ้าของทีRดนิ และดํารงชีวิตอยใู่ นเขตแมเนอร์ ซงึR เป็นเขตทีRดนิ ในปกครองของขนุ นาง และเป็นทRี เพาะปลกู และอยอู่ าศยั โดยมีเขตทRีเป็นทีRตงัJ ปราสาทของขนุ นางเจ้าของทRีดนิ ทีRชาวไร่ชาวนาตา่ งประกอบ อาชีพพอกินพอใช้และผลติ สนิ ค้าเพRือใช้เองหรือแลกเปลยRี นกนั การค้าทRีเคยรุ่งเรืองในสมยั จกั รวรรดโิ รมนั ต้อง หยดุ ชะงกั เป็นเวลากวา่ ๕๐๐ ปี ก่อนทRียโุ รปจะฟื นJ ตวั จนสามารถสร้างความเป็นปึกแผน่ และปลอดภยั จาก การรุกรานของพวกอนารยชน จํานวนประชากรได้เพRิมมากขนึ J และสามารถผลติ สนิ ค้าเพืRอการค้าขายทงัJ ภายในประเทศและสง่ ออกได้

• การฟื นJ ตวั ของเศรษฐกิจและสงั คมของยโุ รป สว่ นหนงึR เป็นผลจากสงครามครูเสด ทRีชาวคริสต์รบกบั ชาว มสุ ลมิ ในดนิ แดนตะวนั ออกกลาง และมีโอกาสนําเอาความรู้ ความเจริญ และศลิ ปะวิทยาการของโลก ตะวนั ออกกลบั มาเผยแพร่ให้แก่โลกตะวนั ตกหลงั จากทีRความรู้ตา่ ง ๆ เหลา่ นีหJ ายไปในสมยั กลางตอนต้น สว่ นสนิ ค้าทีRโลกตะวนั ตกต้องการ ได้แก่ เครRืองเทศ นําJ ตาล ข้าว ส้ม มะนาว พริกไทย ผ้าไหม และพรม โดย มีพอ่ ค้าอิตาลเี ป็นคนกลางและให้อิตาลเี ป็นดนิ แดนทRีมงัR คงัR ทีRสดุ ในทวีปยโุ รป พอ่ ค้าอิตาลซี งึR เป็นทRีรู้จกั กนั ดี ได้แก่ มาร์โก โปโล ชาวเวนิส ได้เดนิ ทางไปค้าขายจนถงึ เมืองจีน และกลบั มาเลา่ เรRืองราวความเจริญรุ่งเรือง และวฒั นธรรมของโลกตะวนั ออกจนเป็นทRีรู้จกั แพร่หลาย

• ในปลายสมยั กลาง ชาวยโุ รปได้สร้างนวตั กรรมการคดิ ค้นสงิR ประดษิ ฐ์และเทคโนโลยีทีRสาํ คญั คือ การ ประดษิ ฐ์ปืนใหญ่ทีRเปลยRี นแปลงวิธีการรบ และเครRืองพิมพ์ทีRผลติ หนงั สอื ได้มากและมีราคาถกู ซงึR สามารถ กระจายความรู้ได้อยา่ งกว้างขวาง ทําให้ชาวยโุ รปหนั มาสนใจในเรRืองตา่ งๆ รวมทงัJ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ก่อให้เกิดสมยั แหง่ การค้นพบและการสาํ รวจโดยคริสโตเฟอร์ ค้นพบทวีอเมริกาใน ค.ศ. ๑๔๙๒ และ วาสโก ดา กามา แลน่ เรืออ้อมแหลมก๊ดู โฮป ในทวีปแอฟริกาสอู่ ินเดียใน ค.ศ. ๑๔๙๘ ซงRึ นบั วา่ ยโุ รปได้เข้าสู่ ประวตั ศิ าสตร์สมยั ใหม่ มีการเผยแพร่คริสต์ศาสนาทงัJ นิกายโรมนั คาทอลกิ และนิกายโปรเตสแตนต์อยา่ ง กว้างขวาง เมRือนานาประเทศในยโุ รปสามารถควบคมุ และยดึ คลองตลาดการค้าในดนิ แดนโพ้นทะเลใต้ ทํา ให้เกิดการปฏิวตั ทิ างการค้า ทRีพอ่ ค้าเร่งผลติ สนิ ค้าจํานวนมาก ก่อให้เกิดการพฒั นาในด้านเศรษฐกิจทีRมี รูปแบบตา่ งๆ มาจนถงึ ปัจจบุ นั

พฒั นาดา้ นสงั คมและศิลปะวฒั นธรรม • ในสมยั กลางตอนต้น สงั คมของตะวนั ตกประกอบด้วย ชนชนัJ ๓ ฐานนั ดร ได้แก่ กษัตริย์-ขนุ นาง นกั บวช และชาวไร่-ชาวนา (ทาสตดิ ทRีดนิ ) แตเ่ มRือมีการฟื นJ ตวั ของเศรษฐกิจและเมืองขนึ J ในคริสต์ศตวรรษทRี ๑๑ สงั คมยโุ รปก็เกิดชนชนัJ ใหม่ คือ ชนชนัJ กลางหรือชนชนัJ กระฎมุ พี ทRีประกอบอาชีพตา่ ง ๆ ถือวา่ เป็น ชนชนั$ ใหม่ ของสงั คมตะวนั ตก ชนชนัJ กลางเหลา่ นีไJ ด้ร่วมกนั วางรากฐานความเจริญให้แก่สงั คมยโุ รปและปลกู ฝัง อดุ มการณ์และวิธีการปฏิบตั ใิ นการอยรู่ ่วมกนั เชน่ สทิ ธิและหน้าทRีของชาวเมือง การจดั เก็บภาษีและคา่ ปรับ เป็นต้น เพRือนํารายได้มาบริหาร การทํานบุ ํารุงแลการปอ้ งกนั เมือง สง่ เสริมและขยายการศกึ ษาการจดั ตงัJ มหาวทิ ยาลยั และเกิดการฟื นJ ฟศู ลิ ปวิทยาการและความเจริญอRืนๆ ตลอดจนสง่ เสริมคณุ ธรรมและให้ ความสาํ คญั แก่สทิ ธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคปัจเจกบคุ คล ซงึR เป็นพืนJ ฐานสาํ คญั ทีRทําให้สงั คมยโุ รป สามารถพฒั นาระบอบการปกครองแบบระบอบประชาธิปไตย

การสร้างสรรคท์ างศิลปะวฒั นธรรม • แม้วา่ ศลิ ปวฒั นธรรมของกรีก-โรมนั คือ รากเหง้าของอารยธรรมตะวนั ตก แตค่ ริสต์ศาสนาซงึR เป็นทีRยอมรับ ในจกั รวรรดมิ นั ตงัJ แตต่ ้นคริสต์ศตวรรษทีR ๔ และมีอิทธิพลอยา่ งมากในโลกตะวนั ตกจนสมยั กลางได้ชRือ วา่ ยคุ แห่งศรทั ธา ก็คือ พลงั ทRีแตง่ เตมิ ให้ศลิ ปวฒั นธรรมของยโุ รปบรรลคุ วามงามและความสมบรู ณ์แบบ ทงัJ มีการสร้างมหาวิหาร ด้วยศลิ ปะแบบกอทิกไปทวัR ยโุ รปในระหวา่ ง ค.ศ. ๑๑๐๐-๑๓๐๐ มีจํานวนมากกวา่ ๕๐๐ แหง่ ตอ่ มาในยคุ ฟื นJ ฟศู ลิ ปะวิทยาการ ทีRเรRิมต้นในอิตาลใี นกลางคริสต์ศตวรรษทีR ๑๔ ยโุ รปสามารถ ฟื นJ ฟกู ารศกึ ษาและผลงานสร้างสรรค์ทางด้านวิจิตรศลิ ป์ ของกรีก-โรมนั ขนึ J มาใหม่ ศลิ ปินตา่ งหวนกลบั ไปสู่ โลกของธรรมชาติ จนเกิดเป็นรูปแบบของศลิ ปะซงึR เป็นความงามของธรรมชาตแิ ละการวิภาคของมนษุ ย์ทRีจดั วา่ เป็นผลงานอนั ยRิงใหญ่ของพระเป็นเจ้ามาซกั ซีโอ (ค.ศ. ๑๔๐๑-๑๔๒๘) เป็นจิตรกรอิตาลคี นแรกทีRนํา เทคนิคการวาดภาพ ๓ มิตมิ าใช้ จนเกิดเป็นแนวคดิ ใหมท่ Rีวา่ ลกั ษณะทRี สมจริง นนัJ เป็นอยา่ งไร

• คริสต์ศตวรรษทีR ๑๕-๑๖ ศลิ ปกรรมของอิตาลไี ด้พฒั นาถงึ ขีดสงู สดุ และเป็นแมแ่ บบให้แก่ศลิ ปินชาตอิ Rืนๆ ใน ยโุ รป ศลิ ปินทีRมีชRือเสยี งทRีสดุ ของยคุ ฟื นJ ฟศู ลิ ปะวิทยาการ คือ เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonado da Vinci, ค.ศ. ๑๔๕๒-๑๕๑๙ ) ซงึR ถือเป็น มหาศิลปิ นแห่งศิลปิ นทงั$ ปวง

• ในชว่ งหลงั สงครามโลกครังJ ทRี ๑ และสงครามโลกครังJ ทRี ๒ รูปแบบงานศลิ ปะพฒั นาก้าวหน้ามากขนึ J ในด้าน เทคนิคและการแสดงออกโดยศลิ ปินได้พยายามประยกุ ต์ใช้เทคนิคใหมๆ่ สร้างงานศลิ ปะทRีสอดคล้องกบั ความต้องการของสงั คมและยคุ สมยั มีการถ่ายทอดอารมณ์และความคดิ ทRีอิสระในรูปแบบตา่ ง ๆ ศลิ ปะแนว ใหม่ เชน่ ลทั ธิสาํ แดงพลงั อารมณ์แนวนามธรรม ศลิ ปะประชานิคม จลนศลิ ป์ เป็นต้น ทําให้การสร้างสรรค์ งานศลิ ปะก้าวหน้ามากขนึ J

อิทธิพลของทวปี ยโุ รปต่อสงั คมโลก • ในด้านการเมืองการปกครอง อดุ มการณ์ประชาธิปไตยซงRึ เรRิมจากสมยั กรีกทงัJ ยงั ก่อให้เกิดระบอบกษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนญู อีกด้วย ทีRยกยอ่ งกษัตริย์เป็นพระประมขุ ของประเทศแตใ่ ห้อํานาจการปกครองและ บริหารประเทศแก่ประชาชน สว่ นโรมนั ก็มีชRือเสยี งในเรืRองการรักสทิ ธิเสรีภาพสว่ นบคุ คล และการมีระเบียบ วินยั ของสงั คมกฎหมายสบิ สองโต๊ะของโรมนั ได้ให้ความยตุ ธิ รรมแก่พลเมืองทกุ ชนชนัJ อยา่ งทดั เทียมกนั และ เป็นแมแ่ บบของการออกประมวลกฎหมายในนานาประเทศทวRั โลก สว่ นงานศลิ ปะแขนงตา่ งๆของกรีกโรมนั ก็ถือเป็นต้นแบบในงานสร้างสรรค์ทวRั โลก รวมทงัJ อาคารสถานทRีคฤหาสน์ พระราชวงั โบสถ์วิหารทRีมีให้เหน็ กนั ทวัR ไปทีRยงั คงนิยมรูปแบบสถาปัตยกรรมกรีก-โรมนั อยจู่ นถงึ ปัจจบุ นั

• ในสมยั กลาง แม้วา่ ชว่ งเวลาระหวา่ งการลม่ สลายของจกั รวรรดิโรมนั แตเ่ มRือยโุ รปฟื นJ ตวั ขนึ J อีกครังJ การ สร้างสรรค์ความเจริญและอารยธรรมของยโุ รปก็รุดหน้าอยา่ งรวดเร็ว เมืองในสมยั กลางของยโุ รปได้ กลายเป็นแมแ่ บบของเมืองในปัจจบุ นั ทงัJ ได้รูปแบบและการจดั ระบบการปกครองแบบเทศาภิบาล มีการเก็บ ภาษีจากชาวเมือง การจดั การปอ้ งกนั ตนเอง มีการจดั ตงัJ ธนาคาร การจดั ตลาดนดั การกําหนดวนั ทRี ๑ มกราคม เป็นวนั ขนึ J ปีใหม่ และอRืน ๆ รวมทงัJ การเกิดชนชนัJ กลางและการสร้างคา่ นิยมของชนชนัJ กลางทRีเน้น บทบาทและหน้าทRีทRีมีตอ่ สงั คม เชน่ การเสยี ภาษีอากรเพRือนํารายได้ไปบริหารและปอ้ งกนั เมือง ตลอดจน การใฝ่การศกึ ษาจนก่อให้เกิดมหาวทิ ยาลยั ขนึ J อีกทงัJ ยงั มีการสร้างมหาวหิ ารกอทิกทีRมีลกั ษณะโดดเดน่ เฉพาะและพฒั นามาจากรูปแบบสถาปนาโรมนั และ ถ่ายทอดสนู่ านาประเทศทวัR โลกพร้อมกบั การเผยแผ่ คริสต์ศาสนาซงRึ เป็นทRียอมรับกนั ตงัJ แตต่ ้นคริสต์ศตวรรษทีR ๔ ในสมยั จกั รวรรดโิ รมนั

• ชว่ งหลงั สงครามโลกครังJ ทีR ๒ ยโุ รปต้องสญู เสยี สถานภาพการเป็นมหาอํานาจอนั ดบั หนงRึ ของโลก และถกู แบง่ แยกออกเป็นยโุ รปตะวนั ตกทีRมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และยโุ รปตะวนั ออกปกครองใน ระบอบคอมมิวนิสต์ อยา่ งไรก็ดี ประเทศยโุ รปตะวนั ตกได้วางแผนพฒั นาตวั เองไปสคู่ วามเป็นอนั หนงRึ อนั เดียวกนั เพืRอรักษาความเป็นประเทศผ้นู ําโลกไว้โดยจดั ตงัJ สหภาพยโุ รปหรืออียู ในปัจจบุ นั ก็เป็นแมแ่ บบให้แก่ สมาคมประชาชาตแิ หง่ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ในการรวมตวั เป็นอนั หนงRึ อนั เดียวกนั ด้วยการ สร้างความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจของภมู ิภาคของตนโดยมีการจดั ตงัJ เขตการค้าเสรีแหง่ อาเซียนหรืออาฟ ตา

บรรณานุกรม • https://sites.google.com/site/peerapat304/1 • https://sites.google.com/site/ppinkqx/phathnakar-khxng- phumiphakh-tang-khxng-lok/phathnakar-thang-thwip-yurop จดั ทําโดย ด.ช.พิศษิ ฐ์ ตรีวฒั นสวุ รรณ ชนัJ . ม. 3/2 เลขทีR 13