Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโขน

เล่ม 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโขน

Published by เกณิกา วงศ์นรินทร์, 2022-07-11 07:27:14

Description: เล่ม 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโขน

Search

Read the Text Version

ชดุ ฝึกทักษะการปฏบิ ัตทิ า่ ราเพลงช้า (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความรู้ทวั่ ไปเกีย่ วกบั โขน หนา้ ๓๘ ๓. การแตง่ กายยืนเคร่ือง การแตง่ กายยืนเคร่ืองแบง่ เปน็ ๔ ลักษณะ โดยมีองค์ประกอบการแตง่ กายที่เหมือนกัน และแตกต่างกันตามประเภทของตวั ละครในเรือ่ งรามเกยี รติ์ ดงั น้ี ๓.๑ การแตง่ กายยืนเคร่ืองพระ ประกอบดว้ ย ภาพที่ ๒๒ เครอ่ื งแตง่ กายและเครอ่ื งประดบั ตัวพระ (พระราม) ทีม่ า: โครงการชดุ หนงั สือมรดกไทย (๒๕๔๒) ๑. ชฎา ๒. อินทรธนู ๓.ปะวะหล่า ๔. กรองคอ/นวมคอ/กรองศอ ๕. ฉลององค์/เสอื้ ๖. ปน้ั เหน่ง/เข็มขัด ๗. รดั สะเอว/รัดองค/์ รดั พัสตร์ ๘. หอ้ ยข้าง/เจยี รบาด/ชายแครง ๙. ห้อยหนา้ /ชายไหว ๑๐. กาไลเทา้ ๑๑. สนับเพลา ๑๒. ตาบทศิ ๑๓. สังวาล ๑๔. ตาบหนา้ /ตาบทบั /ทบั ทรวง ๑๕. ทองกร/กาไลแผง ๑๖. แหวนรอบ ๑๗. อบุ ะ/พวงดอกไม้ ๑๘. ดอกไม้ทัด

ชดุ ฝึกทกั ษะการปฏิบัตทิ า่ ราเพลงช้า (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั โขน หนา้ ๓๙ ๓.๒ การแตง่ กายยนื เครือ่ งนาง ประกอบด้วย ภาพที่ ๒๓ เครือ่ งแตง่ กายและเครื่องประดบั ตัวนาง (นางสีดา) ทม่ี า: โครงการชุดหนงั สอื มรดกไทย (๒๕๔๒) ๑. มงกุฎ ๒. จอนห/ู กรรเจยี ก ๓. ดอกไมท้ ดั ๔. อบุ ะ/พวงดอกไม้ ๕. กรองคอ ๖. ผา้ ห่มนาง ๗. ปน้ั เหนง่ /เขม็ ขัด ๘. ผา้ นงุ่ ๙. กาไลเท้า ๑๐. สรอ้ ยตัว/สะองิ้ ๑๑. เสื้อในนาง ๑๒. แหวานตะแคง ๑๓. ปะวะหลา่ ๑๔. กาไลตะขาบ ๑๕. ทองกร/กาไลแผง ๑๖. จ้นี าง/ทับทรวง

ชดุ ฝกึ ทักษะการปฏิบตั ทิ ่าราเพลงชา้ (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความรู้ท่ัวไปเกีย่ วกบั โขน หนา้ ๔๐ ๓.๓ การแตง่ กายยนื เคร่อื งยกั ษ์ ประกอบดว้ ย ภาพที่ ๒๔ เครื่องแตง่ กายและเคร่ืองประดับตัวยกั ษ์ (ทศกณั ฐ์) ที่มา: โครงการชุดหนังสอื มรดกไทย (๒๕๔๒) ๑. แหวนตะแคง ๒. ปะวะหล่า ๓. ทองกร/กาไลแผง ๔. เสอ้ื ตัวใน ๗. รดั อก ๕. ทับทรวง ๖. เสื้อตัวนอก ๑๐. ปั้นเหน่ง/เขม็ ขดั ๑๓. กาไลข้อเท้า ๘. สงั วาล ๙. ตาบทศิ ๑๖. รดั สะเอว ๑๙. อินทรธนู ๑๑. ผา้ ยก/ผ้าน่งุ ๑๒. ห้อยหนา้ /ชายไหว ๒๒. คนั ศร ๑๔. หอ้ ยขา้ ง/เจยี รบาด/ชายแครง ๑๕. สนับเพลา ๑๗. ผ้าปดิ ก้น ๑๘. พวงประคาคอ ๒๐. กรองคอ ๒๑. ศรี ษะโขน

ชดุ ฝึกทักษะการปฏิบัติทา่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรู้ทั่วไปเกีย่ วกบั โขน หน้า ๔๑ ๓.๔ การแต่งกายยนื เคร่อื งลิง ประกอบดว้ ย ภาพท่ี ๒๕ เคร่ืองแตง่ กายและเคร่อื งประดบั ตวั ลิง (หนุมาน) ท่ีมา: โครงการชดุ หนงั สอื มรดกไทย (๒๕๔๒) ๑. ศรี ษะโขน ๒. กรองคอ ๓. ปั้นเหน่ง/เขม็ ขดั ๔. หางลิง ๕. ผา้ ปดิ กน้ /ห้อยกน้ ๖. ตาบทิศ ๗. หอ้ ยข้าง/เจียรบาด/ชายแครง ๘. หอ้ ยหน้า/ชายไหว ๙. กาไลข้อเทา้ ๑๐. สนบั เพลา ๑๑. ผ้านุ่ง/ผา้ ยก ๑๒. ทองกร/กาไลแผง ๑๓. รดั สะเอว ๑๔. พาหรุ ัด ๑๕. เสื้อ

ชุดฝึกทกั ษะการปฏบิ ตั ทิ า่ ราเพลงช้า (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั โขน หนา้ ๔๒ ๘. วงดนตรีที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดงโขน การแสดงมหรสพของไทยหลายๆ ประเภทที่มีมาแต่สมัยโบราณกาล นิยมใช้วงปี่พาทย์ บรรเลงประกอบการแสดง เดิมทีวงปพ่ี าทย์ใช้ชื่อว่า “พิณพาทย์” หมายถึง เคร่ืองประโคมอย่างหนัก ประกอบดว้ ยเครือ่ งตี คือ ฆอ้ งกับกลอง และเคร่ืองเปา่ คอื ป่ี เปน็ หลกั ในการบรรเลงดนตรี วง ปพ่ี าทย์แรกเริ่มใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้า ต่อมาได้พัฒนาให้เป็นวงป่ีพาทย์เครื่องคู่ และวงป่ีพาทย์เครื่อง ใหญ่ ซึ่งในการแสดงต่างๆ จะนาวงป่ีพาทย์ลักษณะใดไปบรรเลงทั้งน้ีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของ สถานท่ี งานและโอกาส วงปี่พาทย์นอกจากจะมีลักษณะของวงที่แตกต่างกัน ยังมีลักษณะของไม้ท่ีเรียกว่า ไม้แข็ง และไม้นวม ซ่ึงในการแสดงโขนนิยมใช้วงปี่พาทย์ไม้แข็งบรรเลง เน่ืองจากส่วนใหญ่การแสดงโขนจะ แสดงในสถานที่กว้างๆ เพลงต่างๆ ที่บรรเลงมีจังหวะกระชับ ดังน้ันการใชไ้ ม้แข็งบรรเลงประกอบการ แสดงทาให้เสียงของเพลงดังกังวาล และมที านองท่เี รา้ ใจกวา่ การใชไ้ ม้นวม เครื่องดนตรีในวงปี่พาทย์เคร่ืองห้า วงป่ีพาทย์เครื่องคู่ และวงป่ีพาทย์เครื่องใหญ่ ประกอบด้วย วงปพ่ี าทยเ์ ครอ่ื งหา้ วงปพี่ าทยเ์ ครอื่ งคู่ วงปพ่ี าทย์เคร่ืองใหญ่ ป่ีใน ป่ีใน ป่ีใน ปนี่ อก ป่ีนอก ระนาดเอก ฆอ้ งวงใหญ่ ระนาดเอก ระนาดเอก ระนาดทมุ้ ระนาดเอกเหล็ก ตะโพน ฆ้องวงใหญ่ กลองทดั ๑ คู่ ฆ้องวงเล็ก ระนาดทุม้ ตะโพน ระนาดทมุ้ เหลก็ ฉงิ่ กลองทัด ๑ คู่ ฆอ้ งวงใหญ่ ฉงิ่ ฆอ้ งวงเล็ก ฉาบเลก็ ตะโพน ฉาบใหญ่ กลองทัด ๑ คู่ กรบั ฉ่งิ ฉาบเลก็ ฉาบใหญ่ กรบั โหมง่ ตารางที่ ๑ เครื่องดนตรใี นวงปพ่ี าทย์ ทม่ี า: สุทธเิ ขต ขนุ เณร (๒๕๖๐) สรุปได้ว่า วงดนตรีที่นิยมใช้ประกอบการแสดงโขน ได้แก่ วงปี่พาทย์ไม้แข็ง ในลักษณะ เคร่ืองห้า เคร่ืองคู่ หรอื เครอ่ื งใหญ่ แล้วแตค่ วามเหมาะสมของสถานท่ี และโอกาสทีใ่ ช้แสดง

ชดุ ฝึกทกั ษะการปฏบิ ัติท่าราเพลงช้า (โขนพระ) เล่มที่ ๑ ความรู้ทั่วไปเก่ยี วกบั โขน หนา้ ๔๓ ๙. การพากย์ – เจรจา สืบเนื่องจากในสมัยโบราณผู้แสดงโขนทุกตัวละครทาให้ไม่สามารถท่ีจะพูดหรือร้องได้ ยกเว้นตวั ตลกท่ีจะสวมศีรษะแค่ครึ่งเดยี วเปิดหน้าไวเ้ พอ่ื ให้พดู แทรกในการแสดงได้ จากสาเหตนุ ้ีจงึ ทา ให้เกิดคนพากย์และเจรจาเพอื่ สือ่ สารใหก้ ับผชู้ มได้เขา้ ใจการดาเนนิ เร่ืองราวในแตล่ ะตอน โดยบทที่คน พากย์ใช้ในการพากย์และเจรจานั้น ส่วนใหญ่เป็นบทร้อยกรองประเภทกาพย์ ฉันท์ และร่าย ซึ่ง ผู้พากย์จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในบทท่ีใช้เล่นโขนเป็นอย่างดีเพอ่ื ให้สอดคล้องกับตัวละครทั้งเร่ือง บทบาทและอารมณ์ โดยการพากยแ์ ละการเจรจามีรายละเอยี ดทส่ี ามารถอธิบายได้ ดงั นี้ ๑. คาพากย์ แต่เดิมคาพากย์สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคาประพันธ์ประเภทฉันท์ ซึ่งสังเกตได้จาก เรื่องสมุทรโฆษคาฉันท์ และอนิรุทธ์คาฉัน ในสมัยอยุธยาท่ีมีการแต่งขึ้นเพื่อใช้เล่นหนังและโขน แต่ ปัจจุบันคาพากย์ของโขนนิยมแต่งเป็นกาพย์ ๒ ชนิด คือ กาพย์ฉบัง และกาพย์ยานี (วีระศิลป์ ช้าง ขนุน, ๒๕๕๖, น. ๕๖) และเม่ือพากย์จบบทหนึ่งตะโพนจะทาหน้าท่ีตีท้า และกลองทัดจะตีรับต่อจาก ตะโพน ๒ ที จากน้ันจะมกี ารรอ้ งรบั พร้อมๆ กันดว้ ยคาว่า “เพ้ย” โดยการพากย์ที่ใชใ้ นการแสดงโขน จาแนกออกเปน็ ๖ ประเภท ได้แก่ ๑) พากย์เมือง นยิ มใชก้ ับตัวละครเอกทปี่ ระทบั อยู่ในเมือง ๒) พากยร์ ถ ใช้ในเวลาท่ตี ัวละครที่อยู่บนราชรถ และใช้ในเวลาชมพาหนะ ชม ไพรพ่ ล ๓) พากย์โอ้ ใชก้ ับตวั ละครทแ่ี สดงอารมณ์เศร้าโศก เสยี ใจ ๔) พากยช์ มดง ใช้สาหรับการชมป่า หรือชมธรรมชาติ ๕) พากยบ์ รรยาย ใชใ้ นการบรรยายความเป็นมาของสิ่งใดๆ หรอื บางครง้ั ใชใ้ น การราพึงราพนั ๖) พากยเ์ บ็ดเตล็ด ใชส้ าหรับโอกาสท่วั ไปที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจง (ไพฑรู ย์ เข้มแขง็ , ๒๕๖๐) ๒. คาเจรจา คาเจรจา เป็นส่วนหน่ึงในการดาเนินเรื่องท่ีเป็นเครื่องวดั ความสามารถของผู้พากย์ เน่ืองจากคาเจรจาไม่ได้มีการแต่งบทไว้ถาวร ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยหรือตาม สถานการณ์ ดงั น้นั ผู้พากย์ต้องคิดคาเจรจาข้นึ มาใหมด่ ้วยถอ้ ยคาที่สละสลวย อกี ทัง้ ยังต้องใช้น้าเสียงท่ี บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกทีเ่ หมาะสมเพื่อให้ไดอ้ รรถรสและตรงตามบทบาทของตัวละคร ซงึ่ คาเจรจาที่ ใช้น้ันมี ๒ ลักษณะ ได้แก่ การเจรจาแบบทานอง และการเจรจาแบบคาพูด เน่ืองจากในการเจรจา ส่วนใหญ่เป็นการโต้ตอบกันของตัวละครต้ังแต่ ๒ ตัวข้ึนไป ดังนั้นผู้พากย์ – เจรจา จึงต้องมีประกอบ ในการแสดงไม่น้อยกว่า ๒ คน

ชดุ ฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ตั ทิ ่าราเพลงช้า (โขนพระ) เล่มที่ ๑ ความรู้ทั่วไปเก่ยี วกบั โขน หน้า ๔๔ ภาพที่ ๒๖ การพากย์ เจรจาในการแสดงโขน ที่มา: Facebook biggy sombuundee สรุปได้ว่า การพากย์เจรจา เป็นองค์ประกอบที่สาคัญของการแสดงโขน โดยจะต้องมี ผู้พากย์ – เจรจา ประกอบการแสดงอย่างน้อย ๒ คน เน่ืองจากต้องมีการโต้ตอบบทซึ่งกัน โดยการ พากย์สามารถแบ่งออกเป็น ๖ ประเภท ได้แก่ พากย์เมือง พากย์รถ พากย์โอ้ พากย์ชมดง พากย์ บรรยาย และพากย์เบ็ดเตล็ด ซ่ึงการใช้บทพากย์แต่ละประเภทข้ึนอยู่กับบทหรือสถานการณ์ในเวลา นั้น ส่วนการเจรจามี ๒ ลักษณะ คือ การเจรจาแบบทานอง และการเจรจาแบบคาพดู ซ่ึงการเจรจา ไม่มีบทที่กาหนดไวต้ ายตัว ดังน้ันผู้พากย์ – เจรจา จึงต้องมีปฏิภาณไหวพริบและมีความรู้ความเข้าใจ ในเร่ืองราวเป็นอยา่ งดีเพื่อจะได้ดาเนินเรอ่ื งราวไดอ้ ย่างถูกต้องและคลอ่ งแคล่ว

ชุดฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ัติทา่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกับโขน หนา้ ๔๕ เกรด็ ความรู้เพ่ิมเติม เรอื่ ง ศรี ษะโขน (โขนพระ) ศีรษะโขน หรือหัวโขน เป็นศิลปวัตถุด้านประติมากรรมท่ีถูกสร้างขึ้นจากภูมิปัญญาไทย อย่างวิจิตรประณีตด้วยกระบวนช่างแบบไทยหลายๆ แขนงอันส่งผลให้ศีรษะโขนเป็นเอกลักษณ์ที่ สาคัญสาหรับการแสดงโขนเรอ่ื ง รามเกยี รติ์ ศีรษะโขนเปน็ องค์ประกอบสว่ นหนงึ่ ของเคร่ืองแตง่ กายในส่วนของศริ าภรณ์ที่ใชใ้ นการสวม ใส่หรือปิดบังใบหน้า โดยศีรษะโขนเหล่าน้ีได้ถูกสร้างขึ้นตามตัวละครท่ีปรากฏอยู่ในเรื่องรามเกียรต์ิ ซ่ึงจะมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของสีและยอด ซ่ึงส่วนยอดน้ีเป็นสิ่งท่ีบ่งบอกฐานะของตัว ละครใหไ้ ดท้ ราบวา่ เป็นตัวละครใด หรืออยูใ่ นสถานภาพใด ดังท่ีได้กล่าวไว้ในหัวข้อเคร่ืองแต่งกายโขน ว่า มีการคิดประดษิ ฐ์เลียนแบบเครื่องต้นเคร่ือง ทรงของพระมหากษัตริย์ จึงทาให้ช่างท่ีคิดทาศีรษะโขนยึดแบบเครื่องศิราภรณ์ของพระมหากษัตริย์ มาเป็นหลักในการออกแบบ เช่น มงกุฎหรือชฎา ของตัวละครพระใหญ่พระน้อย หรือการแก้ไขยอด ไปในลักษณะตา่ งๆ เพอื่ ให้เหมาะสมกับตวั ละครตามฐานะน้อยใหญ่ในแต่ละฝา่ ย สาหรับตัวละครโขนพระ ไดถ้ ูกจาแนกศรี ษะโขนออกเป็น ๓ ชนิด ตามลักษณะประเภทของ ตัวละคร คือ ๑) ศีรษะโขนที่เป็นเทพ เทวดา ๒) ศีรษะโขนที่เป็นมนุษย์ และ ๓) ชฎา และมงกุฎ ซึ่งศีรษะท้ัง ๓ ชนิดที่กล่าวมานี้ ถูกจัดสร้างขึ้นอย่างหลากหลายตามสถานภาพของตัวละคร จงึ ยกตัวอยา่ งศรี ษะโขนท่ถี กู กลา่ วถึงบ่อยและเปน็ ท่ีรู้จกั กันโดยท่ัวไป ดังน้ี ๑. ศีรษะโขนทเ่ี ป็นเทพ เทวดา หน้าสีขาว ใชม้ งกุฎยอดน้าเตา้ (นา้ เต้ากาบ) นอกจากน้ียงั ทาเปน็ ยอดน้าเตา้ กาบทรงปลี ยอดน้าเต้ากาบทดั จนั ทร์ และยอดน้าเตา้ กาบ ปลายสะบัด เปน็ ต้น

ชุดฝกึ ทกั ษะการปฏิบตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรู้ท่วั ไปเกยี่ วกบั โขน หนา้ ๔๖ หนา้ สีดอกตะแบก ใชม้ งกุฎยอดเดินหน หรอื บางตาราเรียกว่า มงกฎุ ยอดชยั หน้าสีขาว มี ๔ หน้า มงกฎุ ชยั ศรี ษะโขนมี ๒ ลักษณะ คอื ๑) ทาเป็นหน้า ๒ ชนั้ ชัน้ แรกเป็นหนา้ ปกติ ๑ หนา้ ชัน้ ท่ี ๒ ทาเปน็ หนา้ เลก็ ๓ หนา้ สวมมงกุฎยอดชัย ๒) ทาเปน็ หนา้ ช้ันเดยี ว มหี น้าปกติ ๑ หนา้ ตรงท้ายทอยมหี นา้ เล็ก ๓ หน้า สวมมงกุฎน้าเต้า ๕ ยอด หน้าสเี ขยี ว มงกฎุ ยอดบัด บางตาราบอกวา่ เปน็ มงกุฎยอดเดนิ หน

ชดุ ฝึกทักษะการปฏบิ ตั ิทา่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ทว่ั ไปเก่ยี วกบั โขน หน้า ๔๗ หนา้ เปน็ ช้างสสี ัมฤทธิ์ หรอื สีแดง สวมเสรดิ ยอดน้าเต้า หรอื มงกุฎนา้ เตา้ เฟือง หนา้ สีเขียวหัวโลน้ (เวลาทางาน) สวมเทรดิ ยอดน้าเตา้ (เวลาปกต)ิ หน้าสีขาว สวมมงกุฎน้าเตา้ ห้ายอด สังเกตยอดมงกุฎนา้ เต้าเลก็ ๆ อยรู่ อบยอดใหญต่ รงกลาง หนา้ สีเขียวแก่ หรือสหี งเสน หรือสีเขยี วใบแค ศรี ษะบางหัวทาเป็นลายวงทักขณิ าวัฏท่บี ริเวณใบหนา้ มีลักษณะทาเป็นหน้าหนมุ่ และหนา้ แก่ สวมชฎายอดบวช หรือ ยอดฤาษี (ยอดดอกลาโพง) บางโอกาสสวมมงกุฎยอดน้าเต้า

ชดุ ฝกึ ทกั ษะการปฏิบตั ิท่าราเพลงชา้ (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความรู้ทัว่ ไปเกยี่ วกับโขน หน้า ๔๘ ๒. ศรี ษะโขนที่เปน็ มนษุ ย์ หน้าสีเขียวนวล สวมมงกฎุ ชัย หรือพระมหาพชิ ยั มงกุฎ ในตอนครองเมือง ส่วนในตอนเดินดง ใชม้ งกฎุ ยอดเดินหน หรือเรียกว่า ยอดปะตาปา และใช้ชฎายอดบวช หรือยอดฤาษี ในตอนทรงพรต หน้าสแี ดงชาด สวมมงกฎุ ยอดชัย หรือชฏามนษุ ย์ หรือ มงกฎุ ยอดเดนิ หน หน้าสีทอง สวมมงกุฎชัย หรอื พระมหาพิชัยมงกฎุ ตอนอยใู่ นเมือง สว่ นในตอนเดนิ ดงสวมมงกุฎยอดเดนิ หน หรือ ยอดปะตาปา และใช้ชฎายอดบวช หรือ ยอดฤาษี ในตอนทรงพรต หน้าสมี ่วง สวมชฏามนุษย์ หรอื มงกฎุ ยอดชยั หรือ มงกุฎยอดเดนิ หน

ชุดฝกึ ทักษะการปฏิบตั ทิ ่าราเพลงช้า (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับโขน หนา้ ๔๙ ๓. ชฎา และมงกุฎ เนื่องจากในชุดฝึกทักษะฯ ชุดนี้ เป็นการนาเสนอเนื้อหาท่ีเกี่ยวข้องกับตัวโขนพระ ซึ่งมงกุฎเป็นศิราภรณ์ที่นาไปใช้กับตัวละครที่เป็นตัวนาง ดังน้ันจึงขอกล่าวถึงชฎาอันเป็นศิราภรณ์ ประจาตวั ของตัวละครพระ ดังนี้ ชฎาที่ใช้ในการแสดงโขน นิยมใช้ชฏายอดแหลม ซึ่งบางครั้งพระอิศวรใช้ยอดน้าเต้า หรือพระอินทร์ใชย้ อดเดินหน ส่วนพระราม และพระลกั ษมณ์ ในเวลาเดนิ ป่าใช้ยอดปะตาประ หรอื ท่ี เรียกวา่ ยอดฤาษี หรือยอดบวช

ชุดฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ตั ิทา่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ทัว่ ไปเกี่ยวกบั โขน หนา้ ๕๐ ชุดฝึกทกั ษะการปฏิบตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรทู้ ่ัวไปเก่ยี วกับโขน ชดุ ท่ี ๑ ชอื่ สกลุ ช้ัน เลขที่ คาสัง่ ให้นกั เรยี นเติมคาลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. คาว่า “โขน” สันนิษฐานวา่ มาจากที่ใด ๒. โขนมีกาเนดิ มาจากการเลน่ ๓ ประเภท คือ หนงั ใหญ่ กระบีก่ ระบอก และ.............? ๓. การแสดงโขนไดร้ บั อทิ ธิพลการเตน้ มาจากการเลน่ ชนิดใด ๔. การแสดงโขนได้รบั อิทธพิ ลการตอ่ สู้ มาจากการเล่นชนิดใด ๕. การแสดงโขนได้รบั อิทธพิ ลใดมาจาก การเลน่ ชักนาคดกึ ดาบรรพ์ ๖. การแสดงโขนประเภทใดทมี่ ไี มก้ ระบอก วางตามความยาวของพ้ืนเวที ๗. โขนน่งั ราว หรือโขนโรงนอก มีช่ือเรียกอกี อย่าง ว่าอะไร

ชุดฝกึ ทักษะการปฏบิ ตั ิท่าราเพลงช้า (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความรู้ทัว่ ไปเกยี่ วกบั โขน หนา้ ๕๑ ๘. โขนประเภทใดทีน่ าวิธกี ารแสดง ของโขนกับละครในมาผสมกัน ๙. การแตง่ กายโขน – ละคร ท่เี ลยี นแบบ เครอื่ งต้นเครอ่ื งทรงของพระมหากษตั รยิ ์ เรยี กวา่ อะไร ๑๐. นอกจากเรื่องรามเกยี รติ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัวรัชกาลท่ี ๖ ทรงพระราชนพิ นธ์ บทโขนเร่อื งใด

ชดุ ฝกึ ทักษะการปฏบิ ตั ิทา่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกบั โขน หนา้ ๕๒ ชดุ ฝกึ ทกั ษะการปฏิบตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เล่มที่ ๑ ความรทู้ ่ัวไปเกย่ี วกบั โขน ชดุ ท่ี ๒ ชื่อ สกุล ชัน้ เลขท่ี คาสงั่ ใหน้ ักเรียนบอกชื่อเครอื่ งแต่งกายชุดยืนเครื่องตัวพระให้ถูกตอ้ งตามหมายเลขทก่ี ากบั ไวใ้ นรปู ภาพ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘.

ชดุ ฝกึ ทักษะการปฏบิ ตั ทิ ่าราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรู้ท่ัวไปเกยี่ วกบั โขน หนา้ ๕๓ แบบทดสอบหลงั เรียน ชุดฝึกทกั ษะการปฏิบตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรูท้ ่ัวไปเกยี่ วกบั โขน ช่อื สกลุ ชน้ั เลขท่ี คาช้ีแจง ๑. แบบทดสอบชดุ นีเ้ ปน็ แบบปรนยั ๔ ตัวเลือก จานวน ๑๐ ข้อ (ข้อละ ๑ คะแนน) ๒. จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องที่สดุ เพียงคาตอบเดยี วแล้ว X ลงในกระดาษคาตอบ ๑. ขอ้ ใดคอื ความหมายของ “โขน” ตามพจนานกุ รมราชบัณฑติ ยสถาน ก. ชอื่ เรือพระราชพิธี ข. ชอ่ื การละเล่นอย่างหนึง่ ค. การเรยี กรางระนาดและฆอ้ งวง ง. ไม้ท่ีต่อเสรมิ หวั เรือทา้ ยเรือใหง้ อนเชดิ ขน้ึ ไปเรยี กวา่ โขนเรือ ๒. ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ าเนดิ ของโขน ก. หนังใหญ่ ข. กลุ าตีไม้ ค. กระบ่ีกระบอง ง. ชักนาคดกึ ดาบรรพ์ ๓. อทิ ธิพลของหนงั ใหญท่ ่นี ามาใชใ้ นการแสดงโขนคอื ขอ้ ใด ก. การเตน้ และการตอ่ สู้ ข. การเต้น และการพากย์ เจรจา ค. การเตน้ การแตง่ กาย และการต่อสู้ ง. การเต้น การต่อสู้ การแตง่ กาย และการพากย์ เจรจา ๔. พัฒนาการของโขนมี ๕ ประเภทไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง ก. โขนกลางแปลง โขนนง่ั ราว โขนโรงใน โขนหนา้ จอ โขนฉาก ข. โขนกลางแปลง โขนนง่ั ราว โขนโรงนอก โขนหน้าจอ โขนฉาก ค. โขนกลางแปลง โขนนอนโรง โขนโรงนอก โขนหนา้ จอ โขนฉาก ง. โขนกลางแปลง โขนนงั่ ราว โขนนอนโรง โขนโรงใน โขนหนา้ จอ ๕. ในสมัยอยธุ ยาไดป้ รากฏคาว่า “โขน” อยใู่ นจดหมายเหตขุ องเดอลาลแู บร์ ราชทูตชาวฝรั่งเศส ตรง กับรชั สมัยของพระมหากษัตริยพ์ ระองค์ใด ก. สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ ข. สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช ค. สมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัวบรมโกศ ง. สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ ๑ (พระเจ้าอ่ทู อง)

ชุดฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ทว่ั ไปเกยี่ วกบั โขน หนา้ ๕๔ ๖. ในสมยั รชั กาลท่ี ๕ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั มวี ิวฒั นาการในเรื่องของฉาก ประกอบการแสดงโขนและบทร้องตามแบบอย่างละครประเภทใด ก. ละครใน ข. ละครนอก ค. ละครพันทาง ง. ละครดึกดาบรรพ์ ๗. รามเกยี รติ์ มีเค้าเรอ่ื งมาจากมหากาพย์เร่อื งใด ก. โอดสิ ซยี ์ ข. กลิ กาเมซ ค. รามายณะ ง. มหาภารตะ ๘. ฝ่ายพลับพลา เป็นคาท่ีใชเ้ รยี กฝา่ ยใด ก. ฝา่ ยธรรมะ ข. ฝ่ายอธรรม ค. ฝา่ ยทศกัณฐ์ ง. ฝ่ายพระราม ๙. การพากย์โขนแบง่ ออกเป็น ๖ ประเภท ได้แกอ่ ะไรบา้ ง ก. พากยเ์ มอื ง พากยร์ ถ พากย์โอ้ พากยช์ มดง พากย์บรรยาย และพากยท์ ั่วไป ข. พากยเ์ มอื ง พากยร์ ถ พากย์โอ้ พากย์ชมดง พากย์บรรยาย และพากย์เบ็ดเตล็ด ค. พากยเ์ มอื ง พากยร์ ถ พากย์ชมดง พากย์ชมเมือง พากย์บรรยาย และพากยท์ ว่ั ไป ง. พากย์เมือง พากย์รถ พากยช์ มดง พากย์ชมเมือง พากย์บรรยาย และพากย์เบ็ดเตล็ด ๑๐. ขอ้ ใดจัดเป็นเคร่ืองแตง่ กายในสว่ นพสั ตราภรณ์ในการแต่งกายยืนเครือ่ ง ก. สนับเพลา , ภษู า , สงั วาล , ทับทรวง , แหวนรอบ , ปะวะหล่า , กรองคอ ข. สนบั เพลา , ภษู า , ห้อยขา้ ง , ห้อยหน้า , ฉลององค์ , รดั สะเอว , กรองคอ ค. สนบั เพลา , ภษู า , ห้อยขา้ ง , หอ้ ยหนา้ , แหวนรอบ , ปะวะหล่า , กรองคอ ง. สนับเพลา , ภษู า , สงั วาล , ทบั ทรวง , แหวนรอบ, ฉลององค์ , รดั สะเอว , กรองคอ

ชดุ ฝกึ ทักษะการปฏิบัติท่าราเพลงช้า (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ทั่วไปเกยี่ วกับโขน หน้า ๕๕ กระดาษคาตอบ แบบทดสอบหลังเรยี น ๑๐ ชุดฝึกทกั ษะการปฏบิ ตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรทู้ ัว่ ไปเกีย่ วกบั โขน ชือ่ สกลุ ชน้ั เลขท่ี ข้อ ก ข ค ง ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐

ชดุ ฝึกทักษะการปฏิบตั ิท่าราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ท่วั ไปเกี่ยวกบั โขน หนา้ ๕๖ เฉลยชดุ ฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความร้ทู ่ัวไปเกีย่ วกบั โขน ชดุ ที่ ๑ ชอื่ สกุล ชน้ั เลขที่ คาสั่ง ให้นักเรยี นเตมิ คาลงในช่องวา่ งให้ถูกตอ้ ง ๑. คาว่า “โขน” สนั นิษฐานว่ามาจากทใ่ี ด อินเดยี ๒. โขนมีกาเนดิ มาจากการเลน่ ๓ ประเภท คือ ชกั นาคดกึ ดาบรรพ์ หนงั ใหญ่ กระบ่ีกระบอก และ.............? หนังใหญ่ ๓. การแสดงโขนไดร้ บั อิทธิพลการเต้น มาจากการเลน่ ชนดิ ใด ๔. การแสดงโขนได้รบั อิทธพิ ลการต่อสู้ กระบกี่ ระบอง มาจากการเลน่ ชนดิ ใด การแตง่ กาย ๕. การแสดงโขนไดร้ บั อิทธพิ ลใดมาจาก การเล่นชักนาคดกึ ดาบรรพ์ ๖. การแสดงโขนประเภทใดทีม่ ไี ม้กระบอก โขนนั่งราว วางตามความยาวของพน้ื เวที

ชุดฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ัติทา่ ราเพลงช้า (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความรู้ทว่ั ไปเกย่ี วกบั โขน หนา้ ๕๗ ๗. โขนนง่ั ราว หรอื โขนโรงนอก มชี อ่ื เรียกอกี อยา่ ง โขนนอนโรง วา่ อะไร ๘. โขนประเภทใดท่ีนาวิธีการแสดง โขนโรงใน ของโขนกบั ละครในมาผสมกัน ๙. การแตง่ กายโขน – ละคร ท่เี ลยี นแบบ ยืนเครื่อง เครอ่ื งตน้ เครื่องทรงของพระมหากษัตรยิ ์ เรียกวา่ อะไร ๑๐. นอกจากเรอ่ื งรามเกยี รติ์ พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อย่หู วั รัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชนพิ นธ์ บทโขนเร่อื งใด ธรรมาธรรมะสงคราม

ชุดฝึกทกั ษะการปฏบิ ัตทิ ่าราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ท่ัวไปเก่ยี วกบั โขน หนา้ ๕๘ เฉลยชดุ ฝึกทกั ษะการปฏิบตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เล่มที่ ๑ ความรทู้ ่ัวไปเก่ยี วกับโขน ชดุ ที่ ๒ ช่ือ สกุล ชั้น เลขที่ คาสง่ั ใหน้ ักเรยี นบอกชื่อเครอ่ื งแต่งกายชุดยนื เครือ่ งตวั พระใหถ้ กู ตอ้ งตามหมายเลขทก่ี ากับ ไวใ้ นรปู ภาพ ๑. ชฎา ๒. อินทรธนู ๓.ปะวะหล่า ๔. กรองคอ/นวมคอ/กรองศอ ๕. ฉลององค/์ เสื้อ ๖. ปนั้ เหน่ง/เขม็ ขดั ๗. รัดสะเอว/รดั องค์/รดั พัสตร์ ๘. ห้อยขา้ ง/เจียรบาด/ชายแครง ๙. หอ้ ยหน้า/ชายไหว ๑๐. กาไลเท้า ๑๑. สนับเพลา ๑๒. ตาบทศิ ๑๓. สังวาล ๑๔. ตาบหนา้ /ตาบทบั /ทับทรวง ๑๕. ทองกร/กาไลแผง ๑๖. แหวนรอบ ๑๗. อบุ ะ/พวงดอกไม้ ๑๘. ดอกไมท้ ดั

ชุดฝึกทกั ษะการปฏบิ ตั ทิ ่าราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ที่ ๑ ความรู้ทั่วไปเกยี่ วกบั โขน หนา้ ๕๙ เฉลยคาตอบ แบบทดสอบก่อน - หลงั เรียน ชุดฝกึ ทกั ษะการปฏิบตั ทิ า่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เล่มท่ี ๑ ความรทู้ ่ัวไปเกี่ยวกับโขน ชื่อ สกุล ชั้น เลขท่ี ข้อ คาตอบทีถ่ กู ตอ้ ง ๑ง ๒ข ๓ข ๔ก ๕ข ๖ง ๗ค ๘ง ๙ข ๑๐ ข

ชุดฝกึ ทักษะการปฏิบัติท่าราเพลงช้า (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั โขน หนา้ ๖๐ บรรณานกุ รม ฉวีวรรณ ชื่นสาราญ. (มปป.). การแตง่ กายยืนเครอ่ื งโขนของกรมศิลปากร. สบื ค้นจากhttps://www.finearts.go.th/ storage/contents/detail_file/n9G4aReHMCCSo8SjIMDE7ZBYbffeatOOIQnGnO9B.pdf. ฐาปนยี ์ สงั สทิ ธิวงศ์. (๒๕๕๖). โขน: ศลิ ปะประจาชาตไิ ทยและสอื่ วฒั นธรรมในบรบิ ทสงั คมรว่ มสมยั วารสารสถาบนั วัฒนธรรมและศลิ ป, ๑๔ (๒) สบื คน้ จาก http://ejournals.swu.ac.th/index.php/ jica/article/viewFile/3209/3438. ดารงราชานภุ าพ. สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา. (๒๕๐๗). ตานานละครอเิ หนา. พระนครศรีอยธุ ยา. คลงั วทิ ยา. ธนิต อยู่โพธิ.์ (๒๔๙๖). โขนภาคต้น วา่ ด้วยตานาน และทฤษฎี: กรมศลิ ปากร. ธนติ อยโู่ พธ.์ิ (๒๕๐๐). โขน. พิมพใ์ นงานพระราชทานเพลงิ พระศพ พระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้า เฉลมิ เขตรมงคล ณ เมรวุ ดั เทพศริ ินทราวาส วันที่ ๒๖ มิถนุ ายน ๒๕๐๐. ธนาคารกรุงเทพ. (๒๕๔๑). ลกั ษณะไทย ศิลปะการแสดง. กรุงเทพ. โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช. ธีรภัทร ทองน่ิม. (๒๕๕๕). โขน. กรุงเทพฯ: โอเดยี นสโตร.์ บริษทั อสมท. จากดั (มหาชน). (๒๕๖๑). โขนนาฏกรรมล้าค่าของไทย. สบื ค้นจาก https://youtu.be/fgsK_dqi8Hg. ประวิทย์ ฤทธิบลู ย.์ (๒๕๖๑). โขนวิทยา: ศาสตร์ ศิลป์ ถ่นิ สยาม. วารสารวชิ าการนวัตกรรมสื่อสาร สงั คม. ปีที่ ๖ ฉบบั ท่ี ๒ (๑๒), ๑๓๖ – ๑๓๗. ประเมษฐ์ บณุ ยะชัย. (๒๕๔๐). การราของผู้ประกอบพิธีในพิธีไหวค้ รูโขน – ละคร. ปริญญาศลิ ปศาสตร มหาบัณฑติ สาขาวชิ านาฏยศิลปไ์ ทย ภาควิชานาฏยศิลป์ บณั ฑติ วิทยาลยั จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ประเมษฐ์ บณุ ยะชัย. (๒๕๖๐). ประวตั ริ ามเกียรติ์. สบื คน้ จาก https://atiwid.wordpress.com/ 2013/07/08/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1% E0%B9%80%E0% B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0% B8%95%E0%B8%B4% E0%B9%8C/. พจนานกุ รมนกั เรียน ฉบบั ปรบั ปรุง. (๒๕๕๘). พมิ พค์ รั้งท่ี ๑๐. กรงุ เทพฯ: องค์การค้าของ สกสค.. ไพฑูรย์ เขม้ แขง็ . (๒๕๓๖). จารีตการฝึกหดั และการแสดงโขนของตวั พระราม. วทิ ยานิพนธ์ศลิ ปกรรมศาสตร มหาบัณฑิต จฬุ าลงการณ์มหาวิทยาลัย. อดั สาเนา. ไพฑรู ย์ เขม้ แขง็ . (๒๕๖๐). ผเู้ ชยี่ วชาญด้านนาฏศลิ ป์ไทย วทิ ยาลยั นาฏศลิ ป. สมั ภาษณ์ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐. พรรณเพชร เศรษฐกินนกุ ุล และ กรองทอง โตวรวิวฒั น.์ (๒๕๖๑). วรรณคดมี รดกของไทยในสมยั กรุงรตั นโกสนิ ทร.์ สืบคน้ จาก https://literaturethai.wordpress.com/2012/05/19/เร่ืองยอ่ รามเกยี รต.ิ์ มูลนธิ ศิ าลาเฉลมิ กรงุ . ๒๕๕๒. โขน ศาลาเฉลิมกรงุ . กรุงเทพฯ. บริษัท อมรนิ ทร์ บุ๊ค เซน็ เตอร์ จากดั . วชิรญาณ. (มปพ). บทละครเรอื่ งรามเกยี รติ์ สบื คน้ จาก https://vajirayana.org/บทละครเรือ่ งรามเกียรต/์ิ เนื้อเร่ืองย่อ/.

ชดุ ฝกึ ทักษะการปฏบิ ตั ิท่าราเพลงช้า (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรู้ทวั่ ไปเก่ยี วกบั โขน หนา้ ๖๑ บรรณานุกรม (ต่อ) วิมลศรี อปุ รมยั . (๒๕๕๕). นาฏกรรมและการละคร. พมิ พค์ ร้ังที่ ๒. กรุงเทพฯ: สานักพิมพแ์ หง่ จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั . วิทยาลัยนาฏศลิ ป. (มปพ). ประวตั ิวทิ ยาลัยนาฏศิลป. สบื ค้นจาก http://cda.bpi.ac.th/prawat.html วีระชัย มบี อ่ ทรัพย.์ (๒๕๖๐). ผเู้ ช่ียวชาญด้านนาฏศลิ ปไ์ ทยสถาบันบณั ฑตพฒั นศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม. สมั ภาษณ,์ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐. วรี ะศิลป์ ช้างขนนุ . (๒๕๕๖). พื้นฐานนาฏกรรมไทย. พมิ พ์ครั้งท่ี ๒. นครปฐม: เจรญิ รฐั การพมิ พ.์ ศิลปวัฒนธรรม. (๒๕๖๓) เจาะลึกโขนยุครัตนโกสินทร์ ผ่าห้วงปริศนาสู่กระแสมรดกวัฒนธรรมล้า คา่ เฟื่องฟูในสมัยใหม่ สืบค้นจาก http://today.line.me/th/v2/article/9WLJ7r. สรุ พล วริ ฬุ หรักษ์. (๒๕๔๗). ววิ ัฒนาการนาฏยศิลป์ไทยในกรงุ รตั นโกสินทร์ พมิ พค์ รงั้ ที่ ๒ สานักพิมพ์ แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั น. ๑๗ อา้ งถงึ ใน กรมศิลปากร, ศิลาจารกึ พ่อขนุ รามคาแหง, พระนคร ครุ ุสภา ๒๕๑๕ น. ๒๘). อมรา กลา่ เจริญ และคณะ (๒๕๖๑). โขน. สบื ค้นจาก https://seastudyinyourarea.blogspot. com/search?.

ชดุ ฝึกทกั ษะการปฏบิ ตั ิทา่ ราเพลงชา้ (โขนพระ) เลม่ ท่ี ๑ ความรู้ทั่วไปเกย่ี วกบั โขน หน้า ๖๒ ประวตั ผิ จู้ ดั ทา ช่ือ – สกุล นายสทุ ธเิ ขต ขนุ เณร อายุ ๔๖ ปี อายรุ าชการ ๒๒ ปี ภูมลิ าเนา บา้ นเลขท่ี ๒๓๒ หมู่ ๗ ตาบลดงลาน อาเภอเมือง จังหวดั รอ้ ยเอ็ด สถานทอี่ ยปู่ จั จบุ นั บา้ นเลขที่ ๒๓๒ หมู่ ๗ ตาบลดงลาน อาเภอเมือง จังหวดั รอ้ ยเอ็ด ตาแหน่งหนา้ ท่ีการงานปัจจบุ นั ดารงตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชานาญการ สถานทที่ างานปัจจบุ นั วิทยาลัยนาฏศลิ ปรอ้ ยเอด็ ตาบลในเมอื ง อาเภอเมือง จังหวดั รอ้ ยเอด็ ประวตั ิการศกึ ษา ประกาศนยี บัตรนาฏศลิ ปชั้นตน้ วิทยาลัยนาฏศลิ ป ประกาศนยี บตั รนาฏศิลปชัน้ กลาง วิทยาลยั นาฏศลิ ป ประกาศนียบัตรนาฏศลิ ปช้นั สูง วิทยาลยั นาฏศิลป ปรญิ ญาตรี ศกึ ษาศาสตรบณั ฑิต นาฏศลิ ป์ไทย สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล

ชดุ ฝึกทกั ษะการปฏบิ ัตทิ ่าราเพลงช้า (โขนพระ) เล่มที่ ๑ ความรู้ทั่วไปเก่ียวกับโขน หนา้ ๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook