Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e book จาริกเส้นทางบุญ.

e book จาริกเส้นทางบุญ.

Published by วรัญญา แสงแป้น, 2021-12-12 09:40:09

Description: e book จาริกเส้นทางบุญ.

Search

Read the Text Version

วัดสุวรรณคีรีวิหาร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดหน้าเมือง เดิมชื่อ วัดสุวรรณคีรีทาราม เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๘ ถนนชาติเฉลิม ตาบลเขานิเวศน์ อาเภอเมือง จังหวัดระนอง เป็นวัดแห่งแรกในจังหวัดระนอง เดิมวัดตั้งอยู่บริเวณ ริมคลองหาดส้มแป้นตาบลบางริ้นอาเภอเมืองระนอง แต่เนื่องจากเป็นที่ลุ่มต่าริมคลองในฤดูฝน จึงเกิดน้าท่วม ทาให้พระ-เณร ต้องย้ายวัดเมื่อน้าลดจึงกลับมาแต่ต้องเจอสภาพน้าขุ่นไม่สามารถใช้ได้ ด้วยมีการทาเหมืองแร่เหนือคลองทาให้วัดมีสภาพเหมือนวัดร้าง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสเมืองระนอง เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๓๓ ทรงทราบเหตุการณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยารัตนเศรษฐีหรือคอซิมก๊อง เจ้าเมืองระนอง ในสมัยนั้น ดาเนินการหาที่ดินสร้างวัดขึ้นใหม่ แทนวัดเก่าที่ชารุดทรุดโทรมแล้วพระราชทานที่เขตพระอุโบสถยาว ๑๔ วา ๒ ศอก กว้าง ๘ วา ๒ ศอก ให้เป็นที่วิสุงคามสีมา ยกเป็นแผนกหนึ่งต่างจากราชอาณาจักรเป็นที่วิเศษสาหรับพระสงฆ์ ได้อาศัยทาสังฆกรรมและโปรดเกล้าฯให้อาราธนาพระสงฆ์จากวัดสุวรรณคีรีทารามมาสวดถอนและ ผูกพัทธสีมาและพระราชทานนามว่า“วัดสุวรรณคีรีวิหาร”ปรากฏตามประกาศพระบรมราชโองการ ฉบับลงวันท่ี ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๓๗

“พระธรรมธาตุเจดีย์ศรีระนอง” เน่ืองด้วย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุ แก่วัฒนธรรมจังหวัด ทุกจังหวัด เม่ือวันท่ี ๕ มิถุนายน ๒๕๔๙ ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เน่ืองในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลท่ี ๙ ด้วยสานึกในพระมหากรุณาธิคุณในมหามงคลวโรกาสในคร้ังน้ัน พระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง พร้อมทั้งคณะกรรมการวัด อุบาสก อุบาสิกา จึงปรึกษาร่วมกัน แล้วมีความเห็นตรงกันว่า ควรสร้างอนุสรณ์ไว้เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ให้เป็นอนุสติแก่ชาวพุทธในกาล สบื ไป วดั สุวรรณคีรีวหิ าร พระอารามหลวง จงึ ไดด้ าเนินการได้จัดสร้างองค์พระเจดีย์ นามว่า “พระธรรมธาตุเจดยี ์ศรีระนอง” เป็นท่ีประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยมีการวางศิลาฤกษ์ เม่ือวันท่ี ๑๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เวลา ๑๑.๔๗ น. การ ก่อสร้างเจดีย์น้ันมีขนาดองค์เจดีย์ มีความสูง ๒๙ เมตร รอบองค์เจดีย์ มีขนาด ๙.๙๙ × ๙.๙๙ เมตร ส่วนรอบฐาน มขี นาด ๑๓.๐๕ × ๑๓.๐๕ เมตร ใชง้ บประมาณในการกอ่ สรา้ ง จนแล้วเสรจ็ เป็นจานวนเงิน ๑๕ ลา้ นบาท

พระธรรมธาตุเจดีย์ศรีระนอง เป็นเจดีย์ที่พุทธศาสนิกชนชาวระนองร่วมกันสร้างขึ้นเพ่ือไว้ประดิษฐานพระ บรมสารีรกิ ธาตุ ทีไ่ ดร้ ับประทานสมเด็จพระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก สมเดจ็ พระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอ ดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ในหลวงรชั กาลที่ ๙ และด้วยสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในมหามงคลวโรกาสในครั้งนั้น พระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง พร้อมทั้งคณะกรรมการวัด อุบาสก อุบาสิกา จึงปรึกษา ร่วมกัน แล้วมีความเห็นตรงกันว่า ควรสร้างอนุสรณ์ไว้เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็น แนวความคิดร่วมกันของพุทธศาสนิกชนชาวระนองที่จะให้มีการสร้างขึ้น เพื่อประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุและให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน สืบต่อไป

ประวัติพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๔๙ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดประชุมสัมมนาเชิงวิชาการ ส่งเสริมและสนับสนุนพระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี โดยนายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา และเจ้าหน้าท่ีสานักงานวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด เข้าร่วม การประชุมครง้ั นี้ ณ หอประชุมใหญ่พทุ ธมณฑล อาเภอพทุ ธมณฑล จงั หวัดนครปฐม ในการน้ี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เสด็จไปยัง หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล เมื่อเวลา ๑๖.๓๐ น. เพ่ือประทานพระบรมสารีริกธาตุ แก่วัฒนธรรมจังหวัด ทกุ จงั หวัด เพ่อื เป็นสริ มิ งคลและเป็นมง่ิ ขวญั ของจังหวัด จากนัน้ ได้เสดจ็ ไปสักการะองค์พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์และได้ทรงเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตภาวนาร่วมกับคณะสงฆ์ภาค ๑๔ จากจังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และสมุทรสาคร จานวนกว่า ๒,๐๐๐ รูป ที่มาพร้อมกัน ณ รอบ บริเวณลานองค์พระประธาน พุทธมณฑลเพื่อถวายเป็น พระราชกุศลและถวายพระพรชัยแด่พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี พระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง พร้อมทั้ง คณะกรรมการวัด อุบาสก อุบาสิกา จึงปรึกษาร่วมกัน แล้วมีความเห็นตรงกันว่าควรสร้างท่ีประดิษฐานอนุสรณ์ไว้เพ่ือประดิษฐานพระบรม สารรี ิกธาตุ และพุทธศาสนกิ ชนชาวระนอง มคี วามเหน็ ร่วมกนั ให้สร้างทป่ี ระดษิ ฐานพระบรมสารีรกิ ธาตุขึน้ ให้เป็น ศูนยร์ วมจิตใจของพทุ ธศาสนิกชนสืบต่อไปโดยจะนาไปประดษิ ฐานไวภ้ ายในองค์ \"พระธรรมธาตเุ จดีย์ศรรี ะนอง”

พระเจดีย์ดาธุ เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบพม่ารูปทรงกลมยกฐานสูงจากพื้น ป ร ะ ม า ณ ๘ ๐ เ ซ น ติเ ม ต ร ตั้ง อ ยู่บ น ฐ า น แ ป ด เ ห ลี่ย ม จ า ก ฐ า น ถึง ย อ ด ฉัต ร สูง ป ร ะ ม า ณ ๑๓ เมตร มีกาแพงโดยรอบทั้งสี่ด้านสูงประมาณ ๑ เมตร แต่ละด้านของกาแพงมีประตูทางเข้า กว้างประมาณ ๒ เมตร ตัวเจดีย์และกาแพงฉาบด้วยปูนทาสีขาว ส่วนยอดฉัตรของเจดีย์ทาด้วย ทองเหลืองและประดับเพชรท่ีฉัตรเป็นสถาปัตยกรรมแบบพม่า เจ ดีย์นี้มีอายุป ระม าณ ๑๐๐ ปีเศ ษ ผู้ส ร้าง คือ นาง พั่ว ไ ซ่ข่าย มีส ามี ชื่ออูอาวเม ซึ่งเป็นโหรในราชสานักพม่า ต่อมาได้อพยพมาอยู่ในจังหวัดระนอง และด้วยเป็นผู้ที่มีฐานะดีมี ค ว า ม ศ รัท ธ า ใ น พ ร ะ พุท ธ ศ า ส น า จึง ไ ด้ส ร้า ง เ จ ดีย์นี้ ถ ว า ย โ ด ย ใ ช้ทุน ท รัพ ย์ส่ว น ตัว เ พ ร า ะ มีค ว า ม เ ชื่อ ว่า ห า ก ผู้ใ ด ไ ด้ส ร้า ง เ จ ดีย์ถ ว า ย ใ น พ ร ะ พุท ธ ศ า ส น า แ ล้ว จ ะ เ ป็น การสร้างบุญบารมีให้กับผู้สร้างในทุกภพทุกชาติ ปัจจุบันทายาทของท่าน รวมทั้งพุทธศาสนิกชน ชาวพม่าที่ได้อพยพจากพม่ามาอยู่ที่จังหวัดระนองรวมถึงชาวพม่าได้มาทางานในจังหวัดระนอง จะช่วยกันทาความสะอาดและบูรณะองค์พระเจดีย์โดยตลอด ทาให้พระเจดีย์มีความสวยงาม เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวระน องและนับเป็นโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง โดยปัจจุบันกรมศิลปากรได้ข้ึนทะเบียนไว้แล้ว

จวนเจ้าเมืองระนอง เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งท่ีน่าสนใจสาหรับผู้ที่ต้องการทราบ เรื่องราวของเมืองระนองและตระกูล ณ ระนอง จวนเจ้าเมืองแห่งนี้สร้างข้ึนเม่ือปี ๒๔๒๐ ในสมัย พระยาดารงสุจริตมหิศรภักดี (คอชู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรกและเป็นต้นตระกูล ณ ระนอง ผู้สร้างคือ ลูกชายของท่านมีราชทินนาม เหมือนท่าน คือ พระยาดารงสุจริตมหิศรภักดี (คอซิมก๊อง) เป็นบุตรคนท่ี ๒ ของท่านเจ้าเมือง มีเน้ือท่ีประมาณ ๓๓ ไร่เศษ ต้ังอยู่ในเขตเทศบาลเมืองระนอง เดิมชาวระนองรู้จกั ในชื่อ“บา้ นค่ายเจา้ เมืองระนอง” จวนเจ้าเมอื งระนองกรมศิลปากร ไดป้ ระกาศขนึ้ ทะเบียนเป็นโบราณสถานเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ภายในบ้าน มีกาแพงก่อด้วยอิฐ ถือปูนล้อมรอบ ทั้ง ๔ ด้าน มีป้อมเชิงเทิน มีบ้านขนาดใหญ่ ๓ หลัง ติดกันทาเป็นเรือนรับรองสาหรับเจ้าเมืองระนอง มีโรงเก็บสินค้า โรงช้าง โรงมา้ โรงต้มกลั่นสุรา โรงต้มฝิน่ และฉางขา้ ว

วัดวารีบรรพต (Wat Wareebanphot) หรือ วัดบางนอน (Wat Bang Non) เป็นวัด ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง ต้ังอยู่บนเนินเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขา วัดแห่งนี้สร้างโดย หลวงพ่อด่วน ถามวโร ท่านเป็นพระธุดงค์ท่ีมาจากจังหวัดสงขลา ชาวบ้านเล่ือมใสและศรัทธาในตัว ทา่ นจึงได้พากันนิมนตท์ ่านให้จาพรรษา ณ ทีแ่ หง่ น้ี หลวงพ่อด่วน ถามวโร อดตี เจ้าอาวาสวดั วารบี รรพต พระสงฆ์ผสู้ ร้างปาฏหิ าริย์ ท่ีเผาสังขารไม่ไหมใ้ นวันพระราชทานเพลิงศพ จนเปน็ ขา่ วดังไปทัว่ ประเทศ

“หลวงพ่อด่วน” ถามวโร หรือพระครูประภัสรวิริยคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดวารีบรรพต (วัดบางนอน) ตาบลบางนอน อาเภอเมือง จังหวดั ระนอง พระเกจิที่วดั บางนอน และสร้างพระพุทธ ไสยาสน์ใหญ่สุดในภาคใต้ วัตถุมงคล ที่มีชื่อเสียง คือ เหรียญหลวงพ่อด่วน รุ่นแรกปี พ.ศ.๒๕๐๖ ลักษณะเหรียญรูปไข่ หูเช่ือมพร้อมห่วง ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนเขียนข้อความว่า “หลวงพ่อด่วน ถามวโร วัดวารีบรรพต” ด้านหลังเหรียญเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เขยี นขอ้ ความว่า “(บางนอน) จงั หวดั ระนอง” เหรียญรนุ่ น้หี ายากและราคาขน้ึ สงู อย่างรวดเร็ว

พระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญท่ ี่สุดในภาคใต้ ยาว ๒๒ เมตร สร้างขึ้นเม่ือ ๒๕๐๗ สร้างข้ึนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของบ้านบางนอน ประดิษฐานอยู่ในวิหาร พระพุทธไสยาสน์ บนเนินเขาบางนอน โดยมีนายช่างจากกรมศิลปากรเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง เมื่อการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ กรมศิลปากร แนะนาให้พระครูประภัสรวิริยะคุณทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานดวงพระเนตรพระพุทธรูป ปางไสยาสน์ผ่านทางสานักพระราชวัง เม่ือทางสานัก พระราชวังนาความกราบทูลพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไดพ้ ระราชทานดวงพระเนตรพระพุทธไสยาสน์ทงั้ สองดวง

บ้านเทียนสือ หรือบ้านร้อยปีเทียนสือ ต้ังอยู่บนถนนดับคดี ตรงข้ามศาลจังหวัด ใกล้ ชุมชนตลาดใหม่ อาเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง บ้านหลังดังกล่าวสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลท่ี ๕ มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าหน่ึงร้อยปีนับถึงปัจจุบัน แต่เดิมเรื่องราวต่าง ๆ เป็นท่ีรับรู้และภูมิใจ เพียงในครอบครัว หากแต่ปัจจบุ ันเรื่องราวต่าง ๆ พร้อมท่ีจะเผยแพร่สู่ผู้มาเย่ยี มเยือน ทุกท่านได้ร่วมนึก ถึงภาพความหลังและหวังเพียงเพื่อเป็นจุดเร่ิมต้นของแรงบันดาลใจให้ผู้มาเยี่ยมเยือนทุกท่านได้กลับไป รว่ มคน้ หาและบันทึกเรอ่ื งราว ความเปน็ มาของบรรพบุรุษของตนเอง “เทียนสือ” เป็นชายชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เกิดในยุคปลายราชวงศ์ ชิง (หรือ ราชวงศ์ แมนจู ปกครองประเทศจีนในช่วงปี ค.ศ. ๑๖๖๔-๑๙๑๒) ตามหลักฐานที่ปรากฏของป้ายวิญญาณ และสุสานรวมไปถึงคาบอกเล่าจากญาตผิ ใู้ หญ่ นายเทียนสอื ได้เดนิ ทางอพยพมายังสยามเมื่อราวร้อย กว่าปีก่อน และมีโอกาสได้รับตาแหน่ง เป็นผู้ช่วยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบ้ี ณ ระนอง) ข้าราชการชาวสยาม บุตรคนสุดท้องของ พระยาดารงสุจริตมหิศรภักดี (คอ ซเู จียง) ตน้ ตระกลู ณ ระนอง

“พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีระณังค์” สักการระ“หลวงพ่อดีบุก”หรือ“พระประธานในอุโบสถ” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่ในอุโบสถ ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ิ ใช้แร่ดีบุกซึ่งเป็นโลหะธาตุหล่อ องค์พระพุทธรูป อันมีนัยแห่งความดี หมายถึง “ความ “ดี” ท่ี “บุก” เอาชนะความช่ัว” หรือ “ดี บุก ชั่ว” แร่ดีบุก มีอยู่มากมายในจังหวดั ระนอง จนได้ชื่อว่า “เมืองแร่นอง” และต่อมาเพี้ยนกร่อนคามาเป็น “ระนอง” ประกอบกับตาบลหงาวก็เป็นแหล่งแร่ดีบุก อุดมสมบูรณ์แห่งหน่ึง การสร้างพระประธานในอุโบสถด้วยดีบุกทา ให้คนรุ่นใหม่รู้จักแร่ดีบุก องค์พระประธานท่ีหล่อด้วยแร่ดีบุกขึ้นนี้ มีช่ือสามัญว่า “หลวงพ่อดีบุก” ส่วนชื่อ ท่ีเป็นทางการคอื “พระตปิ ุกะพุทธ มหาศากยมุนีศรีระณังค”์ อันมีความหมายว่า “พระพุทธรูปดบี กุ องค์ใหญ่ เปน็ สริ ิมงคลและศักดศิ์ รีของเมืองระนอง”

ป็นแร่ที่มีนัยแห่งความดี คือ ดีบุก หมายถึง “ความดีที่บุกเอาชนะความช่ัว” พุทธศาสนิกชนท้ังในจังหวัด ระนอง และต่างจังหวัด รวมท้ังนักท่องเท่ียว จะเข้ามาสักการะของพรส่ิงศักดิ์สิทธิ์ และถ่ายภาพเป็นท่ีระลึก เนือ่ งดว้ ย องคพ์ ระประธานทง่ี ดงามมาก พระประธานในอุโบสถวัดบ้านหงาว สร้างเมื่อวันท่ี ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๑ ตรงกับ วันขึ้น ๙ ค่า เดือน ๙ มหาฤกษ์ ๑๓.๓๙ น. ขนาดพระประธานหลวงพ่อดีบุก เป็นตัวเลขล้วนมีความหมายลึกซ้ึง ในแง่ของธรรมะและประวัติศาสตร์ คือ หน้าตักกว้าง ๙ ฟุต หมายถึง สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๙ หรือมงคล ๙ สูงสุดแห่งมงคล ส่วนสูงจากฐานถึงเกตุมาลา ๔ เมตร หรือ อริยสัจ ๔ ที่พระพุทธองค์แสดงปฐมเทศนา หรืออีก ความหมายหนึ่งในอดีตพระมหากษัตริย์ ได้เคยเสด็จเมืองระนองถึง ๔ พระองค์ คือ รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๗ และรัชกาลท่ี ๙ นับว่าเป็น พระประธานที่หล่อด้วยแร่ดีบุกองค์แรกท่ีใหญ่ที่สุดในโลก ใช้ แร่ดีบุกถึง ๓ ตัน รวมถึงพระสารีบุตรและ พระโมคคัลลานะ รวมค่าใช้จ่ายประมาณ ๔ ล้านบาท หลวงพ่อดีบุกวัดบ้านหงาว แม้จะไม่ได้เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ แต่เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ิ แร่ดีบุกท่ีใช้ใน การสร้างองค์พระประธานเป็นแร่ท่ีมีนัยแห่งความดี คือ ดีบุก หมายถึง “ความดีท่ีบุกเอาชนะความช่ัว” พุทธศาสนิกชนท้ังในจังหวัดระนอง และต่างจังหวัด รวมท้ังนักท่องเท่ียว จะเข้ามาสักการะของพรส่ิง ศกั ด์สิ ิทธ์ิ และถา่ ยภาพเป็นที่ระลึก เนอื่ งด้วยองค์พระประธานทงี่ ดงามมาก

พระประธานในอุโบสถวัดบ้านหงาว สร้างเมื่อวันท่ี ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๑ ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่า เดือน ๙ มหาฤกษ์ ๑๓.๓๙ น. ขนาดพระประธานหลวงพ่อดีบุก เป็นตัวเลขล้วนมีความหมายลึกซึ้งในแง่ของ ธรรมะและประวัติศาสตร์ คือ หน้าตักกว้าง ๙ ฟุต หมายถึง สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๙ หรือมงคล ๙ สูงสุดแห่ง มงคล ส่วนสงู จากฐานถงึ เกตุมาลา ๔ เมตร หรือ อรยิ สจั ๔ ที่พระพุทธองคแ์ สดงปฐมเทศนา หรืออีกความหมาย หนึ่งในอดีตพระมหากษัตริย์ ไดเ้ คยเสด็จเมืองระนองถงึ ๔ พระองค์ คอื รัชกาลท่ี ๕ รัชกาลท่ี ๖ รชั กาลท่ี ๗ และรัชกาลที่ ๙ นับว่าเป็น พระประธานท่ีหล่อด้วยแร่ดีบุกองค์แรกท่ีใหญ่ท่ีสุดในโลก ใช้แร่ดีบุกถึง ๓ ตัน รวมถงึ พระสารบี ตุ รและ พระโมคคลั ลานะ รวมคา่ ใชจ้ ่ายประมาณ ๔ ล้านบาท หลวงพอ่ ดีบกุ วดั บา้ นหงาว แม้จะไม่ได้เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ แต่เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ิ แร่ดีบุกท่ีใช้ในการสร้างองค์พระประธาน เป็นแร่ที่มีนัยแห่งความดี คือ ดีบุก หมายถึง “ความดีท่ีบุกเอาชนะความชั่ว” พุทธศาสนิกชนทั้งในจังหวัด ระนอง และต่างจังหวัด รวมท้ังนักทอ่ งเที่ยว จะเข้ามาสักการะของพรสิ่งศักดส์ิ ิทธ์ิ และถ่ายภาพเปน็ ที่ระลึก เน่ืองดว้ ย องค์พระประธานที่งดงามมาก

แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ จากแจกันดอกไม้ดิ้นโบราณอายุกว่าร้อยปี ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากตระกูล ณ ระนอง ที่จวนเจ้าเมืองระนองเก่า เมื่อครั้งสมัยที่จังหวัดระนองได้รับวัฒนธรรมเปอรานากัน จากปีนัง ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมีการติดต่อทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านการศึกษา โดยเป็นศิลปะ ที่หาชมได้ยาก และเลือนหายไปจากระนองไปแล้ว ในอดีตผลิตภัณฑ์ดิ้นโบราณได้นามาประดิษฐ์ เป็นมงกุฏประดับศีรษะ เจ้าสาวในพิธีแต่งงาน ดอกไม้ติดเส้ือสาห รับเจ้าบ่าว และได้พัฒนารูปแบบ ผลิตภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์ของจังหวัดระนองและสอดคล้องกับสมัยนิยม เช่น นามาตกแต่งทรงผม เป็นเข็มกลัด ตกแต่งเคร่ืองแต่งกาย เครื่องประดับต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์เข็มกลัดหงส์ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ มีแนวคิดมาจากความเชื่อของกลุ่มชาติพันธ์ชาวบ่าบ๋าหรือจีนฮกเกี้ยนท่ีอาศัยอยู่ในจังหวัด ระนอง ซ่ึงเข้ามาตั้งถ่ินฐานในสมัยรัชกาลท่ี ๓ ชาวจีนฮกเก้ียนได้นารูปหงส์มาเป็นส่วนประกอบ ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน

ศาลหลักเมืองระนอง ต้ังอยู่หน้าเทศบาลเมืองระนอง มีลักษณะเป็นศาลาจัตุรมุข ทรงไทย มียอดศาลาตามลักษณะภูมิสถาปัตย์แบบพระธาตุไชยา จานวนห้ายอดมีความสูงถึงยอด ๑๓.๖๐ เมตร ตัวศาลมีขนาดกว้างยาวด้านละ ๖ เมตร เป็นศาลหลักเมืองท่ีมีความสวยงามและเป็นที่เคารพสักการะ ของชาวระนอง เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๐ เทศบาลเมืองระนอง จึงได้ริเริ่มโครงการสร้างศาลหลักเมืองขึ้น ณ บริเวณ ทเ่ี คยเปน็ บ้านพกั เก่าของพระยารัตนเศรษฐี เจา้ เมืองระนอง รมิ คลองหาดสม้ แปน้ เมื่อวันท่ี ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดศี รีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จแทนพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประกอบพิธยี กเสาหลกั เมอื ง และทรงเปดิ ศาลหลักเมอื ง




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook