หนว ย การอานคูมือ ที่ ๓
๑. ความหมายของคมู ือการปฏิบัติงาน คมู อื การปฏิบัติงานเปน เอกสารที่ ชวยอธิบาย ใหผ อู านเขาใจกระบวนการทาํ งาน ตัง้ แตจ ดุ เร่มิ ตน จนถึงสิน้ สดุ มกี ารระบุข้นั ตอนและ รายละเอยี ด ของกระบวนการไวอ ยางชัดเจน
๒. ความสําคญั ของคมู ือการปฏบิ ตั ิงาน ๒.๑ ทาํ ใหการปฏิบตั งิ านของบุคลากรองคกรเปน มาตรฐาน เดยี วกนั ๒.๒ ทาํ ใหผ ปู ฏบิ ตั ิงานทราบแนวทางในการปฏบิ ัติงานทีเ่ ปน ทศิ ทางเดียวกัน ๒.๓ ทาํ ใหผ ปู ฏบิ ตั ิงานทราบและเขาใจลําดับขัน้ ตอนในการ ปฏิบตั ิงาน ๒.๔ ทาํ ใหก ารปฏิบัตงิ านของบุคลากรมีความสอดคลอ งกับ นโยบายและวิสัยทศั น ๒.๕ ทําใหผ บู รหิ ารสามารถตดิ ตามงานไดทุกข้ันตอน ๒.๖ สามารถเปนเครอื่ งมือในการฝก อบรมตามโครงการตา ง ๆ
๓. วัตถุประสงคของคมู ือการปฏิบตั งิ าน ๓.๑ เพอ่ื ทาํ ความเขา ใจเกี่ยวกับขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงานของงานท่ีได รบั มอบหมาย ๓.๒ เพอ่ื ใชเปน แนวปฏิบตั ิสําหรับผปู ฏบิ ตั ิงานใหสามารถทาํ งานได อยา งถกู ตองตามขน้ั ตอน ๓.๓ เพอื่ ใหเ กิดประโยชนในการบรหิ ารจัดการของหนว ยงานอยา ง ถกู ตอง ชัดเจน เปน ระบบ
๔. ลักษณะของคูมอื การปฏบิ ตั งิ านท่ดี ี ๔.๑ ใชภ าษากระชับ ชัดเจน เขา ใจไดงาย ๔.๒ เน้ือหามีความเปนปจ จุบันไมลาสมัย ๔.๓ ลดขอผดิ พลาดจากการทํางานทไ่ี ม เปน ระบบ ๔.๔ สามารถนําไปปรับใชไดไมยาก ๔.๕ นาํ ไปสคู ณุ ภาพของการปฏบิ ตั ิงานได จริง ๔.๖ เหมาะสมกับองคก รและผใู ชง านแตล ะ กลุม ๔.๗ ชว ยใหเขา ใจกระบวนการทํางานงา ย
๕. ประเภทของคูมอื การปฏิบตั ิงาน ๕.๑ คูมอื การปฏิบัตงิ านสาํ หรบั งานที่ ปฏบิ ตั ปิ ระจาํ ๕.๒ คมู ือการปฏิบตั งิ านท่ีใหความรู เฉพาะดา น ๕.๓ คูม ือการปฏิบัตงิ านสาํ หรบั โอกาส พเิ ศษหรือเฉพาะกิจ
๖. โครงสรางคมู อื การปฏบิ ตั งิ าน ๖.๑ วตั ถุ เปนการชแี้ จงใหผอู านทราบถงึ วตั ถุ ประสงค ประสงคในการจัดทาํ คูมือการปฏบิ ัติ (Objectives) งาน
๖. โครงสรา งคูม ือการปฏิบัติงาน ๖.๒ เปน การชแ้ี จงใหผ อู านทราบถงึ ขอบเขตของ ขอบเขต กระบวนการในการจัดทําคูมือวาครอบคลมุ ไป (Scope) ถึงหนวยงานใด ต้ังแตข ัน้ ตอนใดถึงข้ันตอนใด ตองกระทํากับใคร อยา งไร และเม่อื ใด
๖. โครงสรา งคมู ือการปฏิบัติงาน ๖.๓ คํา ๖.๔ ความ ๖.๕ ข้ันตอนการ จํากดั ความ รบั ผิดชอบ ปฏบิ ัติงาน (Definition) (Responsibilities) (Procedure)
๖. โครงสรา งคูม ือการปฏบิ ัตงิ าน ๖.๖ เอกสารการอา งอิง (Reference Document) ๖.๗ แบบฟอรมทใี่ ช (Form) ๖.๘ การควบคุมเอกสาร (Record of Documents) ๖.๙ ฐานขอ มูลสารสนเทศ (Information System) ๖.๑๐ ขอ เสนอแนะ/เทคนิคในการปฏิบตั ิ งาน/ปญหาอปุ สรรค
๗. วธิ ีการอา นคมู ือการปฏบิ ัตงิ าน ๗.๑ ผูปฏิบัติงานตองศึกษาภายในคูมอื โดยเริม่ ตน จากการอา น หนา สารบัญ ๗.๒ ผปู ฏิบัตงิ านตองศกึ ษารายละเอยี ดอ่ืน ๆ ๗.๓ ผปู ฏิบตั งิ านตองตง้ั ใจอานและจบั ใจความสําคญั ใหไ ด ๗.๔ ผปู ฏิบัตงิ านตอ งพยายามทําความเขา ใจเกยี่ วกับวตั ถุ ประสงค นโยบาย วิสยั ทัศน และภารกจิ ขององคก ร ตลอดจน ตําแหนงหนา ท่ีทจ่ี ะตอ งรับผดิ ชอบ ๗.๕ ผูปฏิบตั ิงานตองจดจาํ ใหไ ดว า กฎ ระเบียบ ขอบังคบั วาดวย เรอ่ื งใดบาง และจะตอ งปฏิบตั ิอยา งไร ๗.๖ ผูปฏบิ ัติงานควรจดบันทึกขอมูลหรอื รายละเอียดทสี่ าํ คัญ
๘. ประโยชนของการอา นคูมือการปฏบิ ตั งิ าน ๘.๑ ชว ยใหบ คุ ลากรในองคกรเกิดการพัฒนาตนเอง ๘.๒ ชวยใหบคุ ลากรในองคกรลดขัน้ ตอนการทาํ งานทีซ่ ับซอน ๘.๓ ชวยใหก ารปฏบิ ัติงานของบคุ ลากรในองคกรนัน้ ๆ มคี วาม สมบูรณ ครบถว น ๘.๔ ชวยใหบุคลากรในองคกรปฏบิ ตั งิ านไดอ ยา งถกู ตอ ง โดย ลดขอ ผิดพลาดและปญ หาตา ง ๆ
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: