Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรรณไม้ป่าฮาลา-บาลา

Description: พรรณไม้ป่าฮาลา-บาลา

Search

Read the Text Version

พรรณไมป้ า่ ฮาลา-บาลา จดั พิมพ์โดย ส�ำ นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพันธ์พุ ืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม

พ​ ันธ์ไุ ม้ป่าฮาลา-บาลา ISBN: 978-616-12-0434-1 จำ�นวน 1,000 เล่ม สงวนลิขสทิ ธ์ิ พ.ศ. 2558 ตาม พ.ร.บ. ลขิ สิทธิ์ พ.ศ. 2537 สำ�นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) 111 อุทยานวิทยาศาสตรป์ ระเทศไทย ถนนพหลโยธนิ ต�ำ บลคลองหน่ึง อำ�เภอคลองหลวง จงั หวดั ปทุมธานี 12120 โทรศัพท์ 0 2529 7100 โทรสาร 0 2529 7147 จัดพิมพ์โดย สำ�นักงานพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รว่ มกบั กรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั วป์ า่ และพันธพุ์ ชื กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ไม่อนุญาตใหค้ ัดลอก ทำ�ซำ้� และดัดแปลง สว่ นใดส่วนหนงึ่ ของหนงั สอื ฉบบั น้ี นอกจากได้รบั อนุญาตเป็นลายลักษณอ์ ักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น Copyright©2015 by: National Science and Technology Development Agency (NSTDA) 111 Thailand Science Park, Phahonyothin Rd. Klong Nueng, Klong Luang, Pathumthani 12120, Thailand Tel. +66 2529 7100 Fax. +66 2529 7147 พรรณไมป้ า่ ฮาลา-บาลา/โดย สำ�นกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รว่ มกบั กรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ปา่ และพนั ธ์พุ ชื กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม. -- ปทมุ ธานี : ส�ำ นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาต,ิ 2559. ​388 หน้า : ภาพประกอบ ​ISBN: 978-616-12-0434-1 1​ . พืช 2​ . พฤกษศาสตร์ ​I. ส�ำ นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ชาติ​ II. กรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตว์ปา่ และพันธุ์พชื ​III. ช่ือเรื่อง ​QK​580 บรรณาธิการ ​ชวลิต นยิ มธรรม​ ผเู้ รียบเรียง ​ชวลิต นิยมธรรม, พาโชค พดู จา คณะผจู้ ดั ทำ� ​ชวลิต นิยมธรรม, พาโชค พดู จา, แววลุรี ค�ำ เขยี ว ภาพ ​ชวลิต นยิ มธรรม, พาโชค พูดจา, สนุ ทร โต๊ะด�ำ , บำ�รงุ ครกุ านนั ต์ และมานพ ผูพ้ ัฒน์ ออกแบบและสร้างสรรค์ โดย งานออกแบบ ฝ่ายส่อื วิทยาศาสตร์ สำ�นักงานพัฒนาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งชาติ

ค�ำ นำ� ​ผนื ปา่ ฮาลา-บาลา จ.ยะลา และ จ.นราธวิ าส เปน็ พ้ืนทีป่ ่าทมี่ คี วามอดุ มสมบูรณ์ จากการส�ำ รวจพนั ธไ์ุ มร้ ะหวา่ งปี พ.ศ. 2539-2553 โดยคณะนกั วจิ ยั จากกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธพุ์ ชื รว่ มกบั เจา้ หนา้ ทโ่ี ครงการส�ำ รวจและรวบรวมพนั ธไ์ุ มด้ อกไมป้ ระดบั ปา่ ภาคใต้ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธพุ์ ชื และเจา้ หนา้ ทหี่ นว่ ยปฏบิ ตั กิ ารวจิ ยั ร่วมทางธรรมชาติวิทยา ป่าพรุและป่าดิบชื้นฮาลา-บาลา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและ เทคโนโลยชี ีวภาพแห่งชาติ พบว่าพรรณไมใ้ นพ้ืนทดี่ ังกล่าวมีความหลากหลายทางชนดิ พันธ์ุสูง โดยได้บรรยายลักษณะวงศ์พืชชั้นสูงได้ 126 วงศ์ พร้อมรวบรวมภาพของพืช ชนดิ ต่างๆ ไวอ้ ย่างสมบูรณ์ ​การจดั หมวดหมใู่ นหนงั สอื เลม่ นเี้ ปน็ การจดั ตามระบบเกา่ ทไ่ี ดจ้ ดั ท�ำ ตน้ ฉบบั เดมิ ไวใ้ นขณะทป่ี จั จบุ นั การจดั หมวดหมไู่ ดจ้ ดั ตามระบบ APG III (Angiosperm Phylogeny Group III) ซง่ึ เปน็ ระบบใหม่ ดว้ ยขอ้ จ�ำ กดั ดา้ นระยะเวลาในการจดั พมิ พจ์ งึ ยงั คงรปู แบบ ตามต้นฉบบั เดิมท่ไี ดจ้ ดั ทำ�ไว้ ​ส�ำ นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ จงึ ไดส้ นบั สนนุ การจดั พมิ พ์ หนังสือพรรณไม้ป่าฮาลา-บาลา เล่มนี้ขึ้น สำ�หรับใช้เป็นเอกสารทางวิชาการและ เป็นพื้นฐานข้อมูลประกอบงานวิจัย ตลอดจนเพ่ือเผยแพร่ในกิจการด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ เหมาะสำ�หรับนักวิจัย นักธรรมชาติวิทยา เยาวชน และผู้ท่ีสนใจ เข้าไปศึกษาพรรณพืชในพ้ืนท่ีดังกล่าว เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิง แวดล้อมให้เกดิ การใชป้ ระโยชนอ์ ย่างยั่งยืนสืบไป นายทวีศักด์ิ กออนันตกูล ผอู้ �ำ นวยการส�ำ นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ

คำ�นำ� ​หนังสอื “พรรณไม้ในปา่ ฮาลา-บาลา” เล่มนี้ เปน็ ผลการศกึ ษาสำ�รวจทางดา้ น พฤกษศาสตร์และการรวบรวมพันธุ์ไม้หายาก ตามโครงการสำ�รวจและรวบรวมพันธุ์ ไม้ดอกไม้ประดับป่าภาคใต้ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อำ�เภอแว้ง จังหวัด นราธวิ าส ในพระราชด�ำ รสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยสาระ สำ�คัญได้บรรยายถึงลักษณะของพรรณไม้แต่ละวงศ์พืชที่พบจำ�นวน 126 วงศ์ พร้อม แจกแจงภาพประกอบในแตล่ ะวงศ์ เชน่ วงศก์ หุ ลาบปา่ วงศโ์ ปย้ กก๊ั วงศพ์ ญาไม้ วงศโ์ พธิ์ สามหาง วงศ์ขิงขา่ และวงศ์กลว้ ยไม้ เป็นต้น เพ่ือความร้แู ละเข้าใจท่ีถูกต้อง ความสำ�เร็จของเอกสารฉบับน้ี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ขอขอบคณุ ส�ำ นกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (สวทช.) ทไ่ี ดส้ นบั สนนุ งบประมาณจดั พมิ พเ์ ผยแพร่ และหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สอื เลม่ นจ้ี ะประสทิ ธป์ิ ระศาสน์ ความรแู้ ละอ�ำ นวยประโยชนใ์ หแ้ กน่ กั ศกึ ษาและประชาชนผสู้ นใจทางดา้ นพฤกษศาสตร์ สามารถนำ�ไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการศึกษาได้เป็นอย่างดี ทั้งน้ี เพ่ือเป็นการร่วมกัน อนุรักษ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพให้สามารถผลิตบริการทางนิเวศ (Ecosystem Services) ตอ่ มนุษยชาตไิ ดอ้ ยา่ งย่งั ยืนตลอดไป นายธญั ญา เนติธรรมกลุ อธบิ ดีกรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพันธ์พุ ืช

ค�ำ น�ำ หนังสือ “พรรณไม้ป่าฮาลา-บาลา” เล่มน้ีเป็นผลงานสำ�รวจวิจัยทางด้าน พฤกษศาสตร์ป่าไม้ต่อเนื่องจากหนังสือ “พันธุ์ไม้ในป่าฮาลา-บาลา” โครงการอนุรักษ์ ธรรมชาติและสัตว์ป่า สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ พื้นท่ีส่วนที่ 2 จังหวัดยะลา และนราธิวาส ที่ได้จัดพิมพ์ข้ึนในปี พ.ศ. 2543 ซ่ึงเป็นฉบับปฐม ฉบับนั้นได้กล่าวถึง ลักษณะทัว่ ไปของป่าฮาลา-บาลา เช่น พ้นื ที่ ภูมปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศ สังคมพชื พรรณพืช และสตั วป์ า่ ไวอ้ ยา่ งกวา้ งๆ สว่ นในฉบบั น้ี ไดก้ ลา่ วถงึ ลกั ษณะวงศข์ องพรรณไมท้ บ่ี คุ ลากร ด้านพฤกษศาสตร์ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สำ�รวจ ค้นคว้าวิจัย และจ�ำ แนกไว้ โดยบรรยายลกั ษณะวงศข์ องพชื ชนั้ สงู ไว้ จ�ำ นวน 126 วงศ์ พรอ้ มภาพของ พืชชนดิ ต่างๆ ในแต่ละวงศ์ ระบบการจดั จำ�แนกพรรณพืชในหนงั สือเล่มนี้ ไม่ได้ใชต้ าม ระบบ APG III (Angiosperm Phylogeny Group III) ซง่ึ เป็นระบบทใ่ี ชอ้ ยูใ่ นปัจจบุ ัน เนื่องจากต้นฉบับได้จัดทำ�ไว้ตามระบบเดิม และมีระยะเวลาจำ�กัดในการจัดพิมพ์ จึงไม่ สามารถปรับเปลีย่ นได้ทนั พรรณไมด้ งั กลา่ วอยใู่ นบรเิ วณน�ำ้ ตกสริ นิ ธร ทางเดนิ ศกึ ษาธรรมชาตขิ องโครงการ สำ�รวจและรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับป่าภาคใต้ และเส้นทางสำ�รวจสัตว์ป่า ในปา่ ฮาลา-บาลา รวมทง้ั พรรณไมห้ ายากทก่ี ระจายพนั ธอ์ุ ยใู่ นบรเิ วณหบุ หว้ ยและเขาสงู ซ่ึงได้นำ�มาปลูกไว้ในโครงการฯ เช่น วงศ์กุหลาบป่า วงศ์โป๊ยกั๊ก วงศ์พญาไม้ วงศโ์ พธ์ิสามหาง วงศ์ขิงข่า และวงศก์ ล้วยไม้ เปน็ ต้น ชนดิ ของพรรณไมใ้ นวงศต์ า่ งๆ ใชภ้ าพสแี สดงแทนค�ำ บรรยาย ซงึ่ ผสู้ นใจสามารถ น�ำ ไปเปรยี บเทยี บกบั พชื ปา่ เพอ่ื หาชอ่ื พฤกษศาสตรไ์ ดโ้ ดยงา่ ย จงึ หวงั วา่ หนงั สอื พรรณไมป้ า่ ฮาลา-บาลา เลม่ นจี้ ะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การศกึ ษาหาความรเู้ รื่องพรรณไม้ต่อไป คณะผจู้ ัดท�ำ

สารบัญ เรอ่ื ง หนา้ พืชเมล็ดเปลอื ย วงศป์ รง CYCADACEAE 10 วงศเ์ มือ่ ย GNETACEAE 11 วงศ์พญาไม้ PODOCARPACEAE 12 พชื ดอก ใบเลยี้ งคู่ 15 วงศก์ ระดกู ไก่ ACANTHACEAE 17 วงศ์ชา้ สา้ น ACTINIDIACEAE 19 วงศ์ฝาละมี ALANGIACEAE 20 วงศ์มะม่วง ANACARDIACEAE 26 วงศล์ น้ิ กวาง ANCISTROCLADACEAE 27 วงศด์ ีเหลก็ ANISOPHYLLEACEAE 28 วงศน์ อ้ ยหน่า ANNONACEAE 45 วงศต์ นี เปด็ APOCYNACEAE 49 วงศ์ศิลา AQUIFOLIACEAE 50 วงศม์ อื พระนารายณ์ ARALIACEAE 52 วงศ์คดนกกดู ARALIDIACEAE 53 วงศ์กระเชา้ สีดา ARISTOLOCHIACEAE 54 วงศ์นมตำ�เลยี ASCLEPIADACEAE 56 วงศ์ขนุนดนิ BALANOPHORACEAE 57 วงศ์เทยี น BALSAMINACEAE 58 วงศจ์ กิ BARRINGTONIACEAE (LECYTHIDACEAE) 60 วงศ์ดาษตะกั่ว BEGONIACEAE 61 วงศ์แค BIGNONIACEAE 62 วงศท์ เุ รยี น BOMBACACEAE 65 วงศม์ ะเล่อื ม BURSERACEAE 67 วงศก์ ่มุ CAPPARACEAE 68 วงศอ์ ูนป่า CAPRIFOLIACEAE 68 วงศห์ ยู าน CELASTRACEAE 71 วงศ์เนยี มอ้น (กระดูกกบ) CHLORANTHACEAE 72 วงศ์มะพอก (เลือดแรด) CHRYSOBALANACEAE 73 วงศส์ มอ COMBRETACEAE 75 วงศ์ทานตะวนั COMPOSITAE 76 วงศ์คำ�รอก CONNARACEAE 78 วงศผ์ ักบงุ้ CONVOLVULACEAE 79 วงศก์ ระทงลอย CRYPTERONIACEAE 80 วงศ์แตง CUCURBITACEAE 81 วงศ์หหู มเี ขา CUNONIACEAE 82 วงศ์ส้าน DILLENIACEAE 84 วงศ์ไมย้ าง DIPTEROCARPACEAE 96 ววงงศศมม์์ ะะกเกอลกือนE�ำ้ BEELNAAECOECAAER PACEAE 99 วงศ์กุหลาบพนั ปี ERICACEAE 101

สารบัญ หน้า 104 เร่ือง 104 วงศไ์ กรทอง ERYTHROXYLACEAE 122 วงศม์ ะไฟ EUPHORBIACEAE 126 วงศก์ อ่ FAGACEAE 128 วงศก์ ระเบา FLACOURTIACEAE 136 วงศว์ า่ นไก่แดง GESNERIACEAE 141 วงศ์มังคดุ GUTTIFERAE 142 วงศ์โพสามหาง HAMAMELIDACEAE 143 วงศ์ดอกสามเดอื น HYDRANGEACEAE 145 วงศอ์ า้ ยบา่ ว ICACINACEAE 146 วงศ์โป๊ยกก๊ั ILLICIACEAE 147 วงศก์ ระบก IRVINGIACEAE 148 วงศอ์ าศัย IXONANTHACEAE 148 วงศ์คา่ หด JUGLANDACEAE 154 วงศ์ไม้สัก LABIATAE 160 วงศอ์ บเชย LAURACEAE 162 วงศ์กะตังใบ LEEACEAE 173 วงศ์ถว่ั LEGUMINOSAE 174 วงศก์ ันเกรา LOGANIACEAE 177 วงศก์ าฝาก LORANTHACEAE 178 วงศ์ตะแบก LYTHRACEAE 180 วงศ์จ�ำ ปจี ำ�ปา MAGNOLIACEAE 181 วงศ์โนรา MALPHIGHIACEAE 182 วงศ์ชบา MALVACEAE 186 วงศ์โคลงเคลง MELASTOMATACEAE 192 วงศเ์ ลย่ี น MELIACEAE 194 วงศ์บอระเพ็ด MENISPERMACEAE 203 วงศไ์ ทร MORACEAE 207 วงศจ์ ันทนเ์ ทศ MYRISTICACEAE 209 วงศพ์ ิลังกาสา MYRSINACEAE 212 วงศช์ มพู่ MYRTACEAE 215 วงศ์หม้อขา้ วหมอ้ แกงลงิ NEPENTHACEAE 216 วงศ์ช้างนา้ ว OCHNACEAE 217 วงศ์หลมุ นก OLACACEAE 219 วงศ์มะลิ OLEACEAE 220 วงศ์ผกั หวาน OPILIACEAE 221 วงศผ์ กั แว่น OXALIDACEAE 221 วงศเ์ สาวรส PASSIFLORACEAE 222 วงศ์อา้ ยเบย้ี ว PENTAPHRAGMATACEAE 224 วงศพ์ รกิ ไทย PIPERACEAE 225 วงศ์สมุ ต้น PITTOSPORACEAE 225 วงศ์หญา้ รากหอม POLYGALACEAE 226 วงศ์เหมอื ดคน PROTEACEAE 227 วงศ์กระโถนฤาษี RAFFLESIACEAE 229 วงศพ์ ดุ ทรา RHAMNACEAE วงศ์โกงกาง RHIZOPHORACEAE

สารบญั หนา้ 231 เร่อื ง 231 วงศก์ หุ ลาบ ROSACEAE 243 วงศ์เข็ม RUBIACEAE 245 วงศส์ ม้ RUTACEAE 250 วงศเ์ งาะ SAPINDACEAE 253 วงศล์ ะมดุ SAPOTACEAE 255 วงศแ์ ววมยรุ า SCROPHULARIACEAE 256 วงศ์สะเดาป่า SIMAROUBACEAE 257 วงศ์ล�ำ พู SONNERATIACEAE 258 วงศ์มะกอกพราน STAPHYLEACEAE 265 วงศ์สำ�โรง STERCULIACEAE 266 วงศก์ �ำ ยาน STYRACACEAE 267 วงศ์เหมือด SYMPLOCACEAE 267 วงศ์พิศวง THISMIACEAE 269 วงศช์ า THEACEAE 271 วงศก์ ฤษณา THYMELAEACEAE 274 วงศท์ องสุก TILIACEAE 274 วงศศ์ รพระราม TRIGONIACEAE 277 วงศด์ ูช่ ้างยอ้ ย ULMACEAE 279 วงศต์ �ำ แย URTICACEAE 280 วงศผ์ ักหวานช้างโขลง VIOLACEAE 282 วงศอ์ งุ่น VITACEAE วงศช์ ุมแสง XANTHOPHYLLACEAE 285 288 ใบเลี้ยงเด่ยี ว 290 วงศ์บอน ARACEAE 291 วงศ์ผักปลาบ COMMELINACEAE 293 วงศ์กงควน CONVALLARIACEAE 293 วงศ์เอ้ืองหมายนา COSTACEAE 294 วงศ์กก CYPERACEAE 294 วงศ์กลอย DIOSCOREACEAE 295 วงศก์ ง HANGUANACEAE 296 วงศห์ ญา้ ดอกค�ำ HYPOXIDACEAE 297 วงศ์เออ้ื งดนิ LOWIACEAE 298 วงศ์คลา้ MARANTHACEAE 325 วงศ์กล้วย MUSACEAE 343 วงศ์กลว้ ยไม้ ORCHIDACEAE 344 วงศป์ าลม์ (หมากและหวาย) PALMAE 346 วงศ์ลำ�เจยี ก PANDANACEAE 348 วงศห์ ญา้ GRAMINEAE (POACEAE) 349 วงศห์ ัวยาขา้ วเย็น SMILACACEAE 350 วงศห์ นอนตายหยาก STEMONACEAE วงศ์เนรพูสี TACCACEAE 361 วงศ์ขงิ ข่า ZINGIBERACEAE 372 ภาคผนวก บรรณานกุ รม ดชั นชี ือ่ พฤกษศาสตร์

พืชเมล็ดเปลือย GYMONSPERMAE

CCYCADCEAE วงศป์ รง CYCADCEAE ไมพ้ มุ่ หรอื ไมต้ น้ ลกั ษณะคลา้ ยปาลม์ มกั มเี หงา้ ใตด้ นิ ล�ำ ตน้ เปน็ วงจากรอยแผลเปน็ ของใบ หรือมีโคนก้านใบติดอยู่ บางครั้งแตกกิ่ง ใบรูปขนนก ใบอ่อนม้วน แผ่นใบย่อย ส่วนใหญ่รูปแถบ ปลายแหลมเป็นต่ิงแข็ง ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างต้น และ มีลักษณะต่างกัน ช่อดอกเพศผู้ลักษณะเป็นเกล็ดหรือกาบขนาดใหญ่เรียงซ้อนสลับกันเป็น รูปกรวยควำ่�หรือคล้ายพานพุ่ม ออกท่ียอดหรือปลายก่ิง แต่ละเกล็ดหรือกาบมีเกสรเพศผู้ มาก เมื่อแก่จะหลุดร่วงไปพร้อมกันท้ังช่อ ช่อดอกเพศเมียลักษณะเป็นเกล็ดหรือกาบขนาด ใหญ่เรียงซ้อนสลับกันบริเวณตอนปลายยอดหรือก่ิง แต่ละเกล็ดหรือกาบมีไข่อ่อนเปลือยติด อยทู่ างดา้ นขา้ ง 2-8 หนว่ ยข้ึนไป เมอื่ เมล็ดเรม่ิ แก่ ต้นแมก่ ม็ กั จะแตกใบใหม่ต่อไปในบริเวณ กลางกลมุ่ ของเกลด็ หรอื กาบเพศเมยี นน้ั เมลด็ เปลอื ยตดิ ทข่ี า้ งเกลด็ หรอื กาบ ลกั ษณะคลา้ ยผล รูปกลม รี หรือรปู ไข่ Cปyรcงaปs่า,mกaดู cฮrาoยcี arpa Griff. พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 10 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

ไ​ม้ต้น ไม้พุ่ม หรอื ไมเ้ ถา ลำ�ตน้ และ GGNETACEAE ก่ิงมีข้อโปนเด่นชัด ใบเด่ียวออกตรงข้ามกัน เปน็ คู่ ชอ่ ดอกคลา้ ยหางกระรอกหรอื เปน็ แทง่ วงศเ์ มือ่ ย GNETACEAE ออกตามง่ามใบก่ิงท่ีไร้ใบ และลำ�ต้น บนช่อ ดอกมีเกล็ดหรือกาบติดเป็นวงเว้นระยะเป็น เGมnอ่ื eยtดuำ�m cuspidatum Blume ช่วงๆ ตลอดช่อ ช่อดอกเพศผู้และช่อดอก เพศเมียอยู่ต่างต้น ดอกเพศผู้มีกลีบเล้ียง 2 กลีบ โคนเช่ือมติดกัน เกสรเพศผู้ 1 อัน ดอกเพศเมียมีไข่อ่อนเปลือย 1 หน่วย เมล็ดเปลือยลักษณะคล้ายผล รูปกลม รี หรอื รปู ไข่ ​ พืชวงศ์นี้เป็นพืชเมล็ดเปลือย (Gymnosperm) แตล่ กั ษณะของใบคลา้ ยพชื ใบเลี้ยงคมู่ าก มเี พียง 1 สกลุ คือ สกุลเมือ่ ย (Gnetum) Gมะnหetนuว่ mย,lเaมtอ่ืifยo,liกuะmรวู Bะlume เGมnอ่ื eยtดuกูm macrostachyum Hook. f. พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 11 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

PPODOCARPACEAE วงศพ์ ญาไม้ PODOCARPACEAE ไม้ตน้ หรือไมพ้ ่มุ ใบเรียงสลบั เรยี งเวียนสลับ หรอื ออกตรงข้ามกัน แผ่นใบรูปเกล็ด รูปเข็ม รูปไข่ หรือรูปหอก ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียมักอยู่ต่างต้น ช่อดอกเพศผู้มี เกล็ดหลายอนั เรียงซอ้ นกันรปู กรวยหรือ คล้ายพานพุ่ม แต่ละเกลด็ มีเกสรเพศผตู้ งั้ แต่ 2 อัน ขึ้นไป ช่อดอกเพศเมียมีเกล็ดขนาดใหญ่ 1 เกล็ด มักมีไข่อ่อนเปลือย 1 อัน และมีเกล็ด ขนาดเลก็ หลายเกลด็ ซง่ึ เชอ่ื มรวมกนั เปน็ ฐานดอก เมลด็ เปลอื ยตง้ั อยบู่ นฐานดอกซง่ึ ขยายใหญ่ ลักษณะคล้ายผล รปู กลม รี หรอื รปู ไข่ ​ พบในป่าฮาลา-บาลา 4 สกุล คือ สกุลพญามะขามป้อมดง (Dacrycarpus) สกุล สามพนั ปี (Dacrydium) สกุลขนุ ไม้ (Nageia) และสกลุ พญาไม้ (Podocarpus) พDaญcาryมcะaขrาpมuปs้อimม,bสriนcสaู้tus (Blume) de Laub. พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 12 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

PPODOCARPACEAE วงศ์พญาไม้ PODOCARPACEAE สDาaมcพryันdปiuี,mพญelาaมtะuขmาม(ปRoอ้ xมb.) Wall. ex Hook. Pพoญdาoไcมa้ rpus neriifolius D. Don พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 13 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

พืชดอก ANGIOSPERMAE พชื ใบเลย้ี งคู่ DICOTYLEDONS

A ACANTHACEAE วงศ์กระดูกไก่ ACANTHACEAE ไมล้ ้มลกุ บางครงั้ เลื้อย มนี ้อยท่เี ปน็ ตH้อygยrตoง่ิ pนh�ำ้ ila saxatilis Ridl. ไม้ตน้ หรอื ไมพ้ ุ่ม ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามเปน็ คู่ สลับกัน ช่อดอกแบบกระจะ แยกแขนง หรือ กระจกุ มนี อ้ ยทด่ี อกออกเดยี่ ว ออกตามงา่ มใบ และปลายกิ่ง มักมีใบประดับใหญ่ ดอกมัก เบย้ี วสมบรู ณเ์ พศกลบี เลย้ี ง4-5กลบี โคนกลบี เชอ่ื มตดิ กนั บางครง้ั เชอ่ื มตดิ กนั โดยตลอดและ ผา่ ทางดา้ นขา้ ง กลบี ดอกเชอ่ื มตดิ กนั เปน็ รปู ทอ่ หรอื รูปแตร ปลายแยก 4-5 แฉก เกสรเพศ ผู้ 2 คู่ แตล่ ะคูย่ าวไมเ่ ท่ากนั มีนอ้ ยท่ีมี 1 คู่ กา้ นชอู บั เรณเู ชอ่ื มตดิ กบั หลอดกลบี ดอก รงั ไข่ 1 อัน อยู่เหนือฐานดอก มี 2 ชอ่ ง แตล่ ะชอ่ ง มีไข่อ่อนตั้งแต่ 2 หน่วยข้ึนไป ผลแห้งแตก 2 ฝา มเี มล็ดตง้ั แต่ 2 เมลด็ ขึน้ ไป Pเหsนeuียdวeหrมaาn,thไหeลmเผuอืmกcrenulatum (Lindl.) Radlk. พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 15 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ACANTHACEAE วงศ์กระดกู ไก่ ACANTHACEAE เPฒseา่ uหdลeงั rลaาnยt,hยeาmยuคmลงั graciliflorum (Nees) Ridl. Tราhงuจnืดbergia laurifolia Lindl. พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 16 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ACTINIDIACEAE วงศชา้ ส้าน ACTINIDIACEAE ไมต้ น้ ไมพ้ มุ่ หรอื ไมเ้ ถา ยอดออ่ นมกั มขี นและเกลด็ คลา้ ยรงั แค ใบเดยี่ วเรยี งเวยี นสลบั ชอ่ ดอกแบบกระจกุ กระจะ บางครง้ั แยกแขนง มนี อ้ ยทดี่ อกออกเดย่ี ว ออกตามงา่ มใบปลายกง่ิ บางคร้งั ออกตามกงิ่ ท่ีไรใ้ บและลำ�ต้น ดอกสมบูรณ์เพศหรอื แยกเพศ กลีบเลี้ยงและกลีบดอก อย่างละ 5 กลบี โคนกลบี ดอกมักเช่ือมติดกนั เกสรเพศผู้ตัง้ แต่ 10 อนั ขึ้นไป รังไขอ่ ยเู่ หนือ ฐานดอก มักมีตั้งแต่ 5 ช่องข้ึนไป มีน้อยที่มี 2-3 ช่อง แต่ละช่องมีไข่อ่อนจำ�นวนมาก ผลส่วนใหญเ่ ป็นชนิดผลสด มีน้อยทแ่ี ห้งแตก มหี ลายเมล็ด สSa้านurเaกuลi็ดa leprosa Korth. พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 17 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ACTINIDIACEAE วงศชา้ สา้ น ACTINIDIACEAE ชSa้าuสr้าaนuia pentapetala (Jack) Hoogland สSaา้ นurเหauบ็ ia roxburghii Wall. ชSaา้ uสrาaมuแiaกว้ t,riรstะyฆlังaขDาวC. พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 18 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ALANGIACEAE วงศฝ์ าละมี ALANGIACEAE ไ​มต้ น้ หรอื ไมพ้ มุ่ ใบเดยี่ ว เรยี งสลบั มกั เรยี งในระนาบเดยี วกนั ชอ่ ดอกแบบกระจกุ หรอื แยกแขนง ออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ดอกสมบูรณ์เพศ มีข้อต่อเด่นชัดระหว่างฐานดอก และก้านดอก กลีบเลยี้ ง 4-10 กลีบ กลบี ดอก 4-10 กลบี เกสรเพศผู้จ�ำ นวนเทา่ กบั กลบี ดอก รังไข่ 1 อนั อยู่ในฐานดอก มี 1 ช่อง หายากท่มี ี 2 ช่อง มไี ขอ่ ่อนช่องละ 1 หน่วย ผลสด มกั มรี ่องตามยาว ปลายผลประดับด้วยกลบี เล้ยี ง มี 1 เมล็ด ​ในวงศ์น้ีมพี ืช 1 สกุล คอื สกลุ ฝาละม ี (Alangium) ฝAlาaลnะgมiu,ี mโงเบkuาrะzii Craib พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 19 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศม์ ะมว่ ง ANACARDIACEAE ไ​มย้ ืนตน้ หรือไมพ้ ่มุ มีกลิ่นเฉพาะตัว น�ำ้ ยางหรอื น้�ำ เลย้ี งเม่อื ถูกอากาศมกั จะเปลย่ี น เป็นสนี ้ำ�ตาลคล�ำ้ ถงึ ดำ� มกั เปน็ พษิ ระคายเคืองต่อผิวหนัง ใบเดย่ี วหรอื ใบประกอบ ส่วนใหญ่ เรยี งเวยี นสลบั มนี อ้ ยทอี่ อกตรงขา้ ม (สกลุ มะปราง Bouea) ชอ่ ดอกแบบแยกแขนง ออกตาม งา่ มใบและปลายก่ิง ดอกสมบรู ณ์เพศหรอื แยกเพศ กลบี เลย้ี งและกลบี ดอกอย่างละ 5 กลบี มีน้อยที่มี 4 หรือ 6 กลีบ เกสรเพศผู้ 5-10 อัน หรือมากกว่า รังไข่ 1 อัน มี 1-5 ช่อง แตล่ ะชอ่ งมีไข่อ่อน 1 หนว่ ย ผลสด บางครั้งมีปีกซึ่งพัฒนามาจากกลีบเล้ียงหรอื กลบี ดอก มี 1 เมล็ด ​พบในทางเดินศกึ ษาธรรมชาติ มี 6 สกลุ คอื สกลุ มะม่วงหัวแมงวัน (Buchanania) สกุลรัก (Gluta) สกุลมะม่วง (Mangifera) สกุลเตยนะ (Pentaspadon) สกุลรักป่า (Semecarpus) สกุลมะกอกปา่ (Spondias) และสกลุ กา้ นทอง (Swingtonia) มBu่วcงhแaมnงวaันnหiaนsู,eหsวัsiแfoมlงiaวันBหluนmู e พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 20 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศ์มะมว่ ง ANACARDIACEAE นCaางmปpรnนosperma auriculatum (Blume) Hook. f. Dพrรaะcเจoา้nหtoา้ mพรeะloอnงคd,์ aกoูแว(Banco) Merr. & Rolfe พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 21 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศ์มะมว่ ง ANACARDIACEAE รDักriเmพyลcงิ arpus luridus (Hook. f.) Ding Hou Gรักluta elegans (Wall.) Hook. f. พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 22 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศ์มะม่วง ANACARDIACEAE มMะaมnดุ g,ifมerาaแจfoฮูแeตtida Lour. มMะaมnว่ gงifปe่าra quadrifida Jack var. longipetiolata (King) Kochummen พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 23 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศม์ ะมว่ ง ANACARDIACEAE Pเตeยnนtaะspadon velutinus Hook. f. รSักeปm่าecarpus curtisii King พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 24 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศม์ ะม่วง ANACARDIACEAE รSักeขmนecarpus velutinus King มSpะoกอndกปia่าs pinnata (L. f.) Kurz STกwe้าiนijnsทmtoอ.nงi&a Bscinhnw.enckii (Teijsm. & Binn.) พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 25 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศ์ลน้ิ กวาง ANCISTROCLADACEAE ไม้เถา หรือไม้พุ่มรอเล้ือย ปลายกิ่งเปล่ียนเป็นมือเกาะแบบตะขอ ใช้เก่ียวเพื่อพยุง ลำ�ต้น ใบเดี่ยว เรียงสลับหรือเวียนสลับ มักเรียงชิดกันที่ปลายก่ิง ช่อดอกแบบแยกแขนง ออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบเล้ียงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 5-10 อัน รังไขบ่ างส่วนอยใู่ นฐานดอก สว่ นทเี่ หลือเชื่อมกบั กลีบเล้ียง มี 1 ช่อง มีไข่ออ่ น 4 หน่วย ผลแหง้ ไมแ่ ตก มี 5 ปกี ซึ่งพัฒนามาจากกลีบเลีย้ ง มกั มี 1-3 เมลด็ ​ ในวงศ์นี้มี 1 สกุล คือ สกุลลิ้นกวาง (Ancistrocladus) พบในบริเวณทางศึกษา ธรรมชาติ 1 ชนิด คือ Ancistrocladus tectorius (Lour.) Merr. Aลน้ิncกiวstาrงo,cคlaอ้ dนuตsีหtมeาctorius (Lour.) Merr. พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 26 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANCISTROCLADACEAE วงศด์ ีเหล็ก ANISOPHYLLEACEAE ไม้ต้นหรือไม้พุ่ม ใบเดี่ยว เรียงสลับ มักเรียงในระนาบเดียวกัน แผ่นใบส่วนใหญ่ มเี สน้ ใบหลกั 3-5 เสน้ ชอ่ ดอกแบบกระจะ คลา้ ยหางกระรอก หรอื แยกแขนง ออกตามงา่ มใบ หรือเหนือง่ามใบ ดอกแยกเพศหรือสมบูรณ์เพศ กลีบเล้ียงเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย รูประฆัง หรือรูปทอ่ ปลายแยก 3-5 แฉก กลีบดอก 3-5 กลีบ บางคร้ังเลก็ มากหรอื หายไป โคนกลีบ บางคร้ังเช่ือมติดกัน ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้จำ�นวน 2 เท่าของกลีบดอก มีเกสรเพศเมียฝ่อ 1 อนั ดอกเพศเมยี มเี กสรเพศผูฝ้ ่อ รังไข่ 1 อนั อยูใ่ นฐานดอก มี 3-5 ชอ่ ง แตล่ ะชอ่ งมไี ขอ่ ่อน 1 หนว่ ย ผลส่วนใหญเ่ ปน็ ผลแหง้ ไมแ่ ตก มีน้อยทีเ่ ป็นผลสด หรือผลแหง้ แตก ​ พบในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 1 ชนิด คือ ดเี หล็ก (Anisophyllea apetala Scort. ex King) ดAnีเหisลoก็ phyllea apetala Scort. ex King พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 27 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANISOPHYLLEACEAE วงศ์น้อยหน่า ANNONACEAE ไม้ต้น ไม้พุ่ม หรือไม้เถา มีกล่ินเฉพาะตัว เน้ือไม้เม่ือตัดตามขวางมีเส้นรัศมีกว้าง เด่นชัด ใบเดี่ยว เรียงสลับในระนาบเดียวกัน ดอกออกเดี่ยว ออกเป็นกลุ่มหรือช่อสั้นๆ ตามง่ามใบ กิ่งที่ไร้ใบ หรือตามลำ�ต้น สมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเปน็ 2 ชัน้ ๆละ 3 กลบี มนี อ้ ยทม่ี ี 3 กลบี เกสรเพศผมู้ ีมาก ยกเวน้ บางสกุลทม่ี ี 6-12 อนั กา้ นชอู ับเรณูส้นั มาก รงั ไขอ่ ยู่เหนอื ฐานดอก มกั มีหลายอันและแยกกัน แต่ละอนั มี 1 ช่อง มีไข่อ่อนช่องละ 1 หน่วยข้ึนไป ผลมักเป็นผลสด ออกเป็นกลุ่มบางครั้งเช่ือมติดกัน มีน้อย ท่ีผลแก่แลว้ แตก ​พบบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายสกุล เช่นสกุลจำ�ปูน (Anaxagorea) สกุล บุหรันบาลา (Enicosanthum) สกุลหมากอ่อน (Monocarpia) และสกุลจำ�ปาขอม (Polyalthia) ตAlำ�pหhยoาnวsea elliptica Hook. f. et Thomson พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 28 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์น้อยหนา่ ANNONACEAE Aสังlpหhยoูดn�ำ sea johorensis J. Sinclair Aจำ�nปaูนxagorea javanica Blume พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 29 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์นอ้ ยหนา่ ANNONACEAE กAรrtะaดbงั oงtาrเyคsรpือleucarpus Maingay ex Hook. f. et Thomson กA๋าrtยa,bอoาtกryาsไกs้uaveolens (Blume) Blume พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 30 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์น้อยหน่า ANNONACEAE กCรyะaดthังoงาcกaาlyดxิง,raหmะจuิ liflorus (Maingay ex Hook. f. et Thomson) Scheff. Cกรyะaดthงั oงาcดaงlyx sumatranus Scheff. พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 31 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์น้อยหนา่ ANNONACEAE Dบaุหsรyงm, บaุหscรhงแaดloงn blumei Finet & Gagnep. บDaุหsลyงmก้าaนscยhาaวlon filipes (Ridl.) Ban พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 32 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศน์ อ้ ยหน่า ANNONACEAE Dสาeยsmหยoุดs chinensis Lour. Dสา่eเsหmลo้าsปตัcoตcาhนiีnchinensis Lour. บEA(Mniุหraiyลci-onนัSsghบaaaาynwลteาhxumHomoka.gfn. o&liTifhloormumson) พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 33 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์นอ้ ยหนา่ ANNONACEAE หJE.nนSiงัcinหocsนlaaาnดirtอhกuใmหญm่ embranifolium น(FHiมsosคoisวktาi.gยfm.ใบeaเtลmTก็ haonmubsroiant)uMmerr. Fยiา่ sนsiเsลtiือgดma rubiginosum (A. DC.) Merr. พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 34 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์น้อยหน่า ANNONACEAE ปGoาหniนoนั thหaอlมamus expansus Craib GปetoาหnThiนooันthmชaา้slงoanmus giganteus Hook. f. รGาoชnคioรtดู hำ�a,lกaิง่mดuอsกเmดียaวcrophyllus (Blume) Hook. f. et Thomson พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 35 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศน์ อ้ ยหนา่ ANNONACEAE Gดอoกnปioรtกhดaนิlamus ridleyi King Gบoหุ nงาioปtาhหaนlaันm, uปsาหsuนbนั vเตeย้ีn,iuบsอKงiอnฮgูแต พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 36 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์นอ้ ยหน่า ANNONACEAE Mกลe้วioยgดyำ�n,eสงัvหirgยaูดtำ�a (Blume) Miq. Mระiฆliuังsสaายlongipes King พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 37 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์นอ้ ยหนา่ ANNONACEAE สMังitหreยpู hora maingayi Hook. f. et Thomson กMลoว้ nยoคc่าaงr,pปiaแู นmมaูดrอginalis (Scheff.) J. Sinclair พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 38 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์น้อยหนา่ ANNONACEAE พOรroกิ pแhดeงa brandisii Hook. f. et Thomson บOหุroงpาhแeดaง kerrii Kessler พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 39 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์นอ้ ยหน่า ANNONACEAE Pจoำ�ปlyาaขltอhมia cauliflora Hook. f. et Thomson Pสoังหlyยaดู ltอhกiaแดcงinnamomea Hook. f. & Thomson พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 40 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์น้อยหน่า ANNONACEAE Pกoลlว้ yยaตltน้ hia clavigera King Pกoลl้วyยaชltะhมiaด hypogaea King กPoระlyดaงั lงtาhปiaา่ lateriflora (Blume) King พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 41 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศน์ อ้ ยหนา่ ANNONACEAE Pหoนlวyดaปltลhาiaดุกstenopetala Pสsังeหuยdูยuอvดaแrดiaงcerina J. Sinclair (Hook. f. et Thomson) Ridl. Pสsงั eหuยdดู oำ�varia galeata J. Sinclair งS(S�ำtceเงhleาeะcffh.)oRca. Erp. uFsr.cauliflorus พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 42 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์นอ้ ยหนา่ ANNONACEAE Uยา่vนaนriaมคgวraาnยd, iกflลo้วrยaหRมoสู xังb. ex Hornem. กUลv้วaยriหaมleูสpงั ดtoอpกoเลd็กa (King) R. E. Fr. พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 43 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANNONACEAE วงศ์น้อยหนา่ ANNONACEAE พUvพี aวrนiaนrอ้ uยfa Blume Xทyุเรlยีoนpiนaกferruginea (Hook. f. et Thomson) Hook. f. et Thomson พรHรaณlaไ-มBa้ปlaา่ 44 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A ANACARDIACEAE วงศต์ นี เปด็ APOCYNACEAE ​ไม้ต้น ไม้พุ่ม หรือไม้เถา มีน้อยที่เป็นไม้ล้มลุก มียางสีขาวคล้ายนำ้�นม ใบเด่ียว ออกตรงขา้ มกนั เปน็ คู่ หรอื เรยี งเปน็ วงรอบกงิ่ มนี อ้ ยทเี่ รยี งสลบั เสน้ แขนงใบมกั เรยี งขนานกนั ปลายเสน้ โคง้ จรดกนั ใกล้ขอบใบ ช่อดอกแบบกระจุก หรือแยกแขนง ดอกสมบรู ณเ์ พศ กลีบ เลย้ี ง 5 กลบี โคนกลีบเช่อื มตดิ กัน กลบี ดอกเชอื่ มตดิ กันเปน็ หลอด ปลายแยก 5 กลบี เกสร เพศผู้ 5 อนั กา้ นชอู บั เรณสู นั้ และเชอ่ื มกบั หลอดกลบี ดอก ปลายอบั เรณมู กั จรดกนั รงั ไข่ 1 อนั อยู่เหนือฐานดอก มกั มี 2 พู แต่ละพูมี 1 ช่อง แต่ละชอ่ งมกั มไี ขอ่ อ่ นมากกว่า 2 หน่วยข้นึ ไป ผลมกั ออกเปน็ คหู่ รอื เปน็ 2 พู มที ง้ั ผลสดและผลแหง้ แตกดา้ นเดยี ว มเี มลด็ ตงั้ แต่ 1 เมลด็ ขน้ี ไป ​ บริเวณทางเดินศกึ ษาธรรมชาตพิ บ 4 สกลุ คอื สกุลตนี เป็ด (Alstonia) สกลุ เมษบูชา (Kibatalia) สกุลพดุ ดง (Kopsia) และสกุลคุย (Willughbeia) ในจำ�นวนนสี้ กลุ ตีนเป็ดและ สกุลเมษบูชาเปน็ ไมต้ ้น สกุลพุดดงเป็นไม้พุ่ม สว่ นสกุลคุยเปน็ ไม้เถา ตAlนี sเtปoด็nเiaลก็ angustiloba Miq. ทAlุ้งsฟto้าnia macrophylla Wall. ex G. Don พรHรaณlaไ-มBa้ปla่า 45 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A APOCYNACEAE วงศต์ ีนเป็ด APOCYNACEAE สAัตlsบtoรnรณia,sปchแู oลlaris (L.) R. Br. เAคnรoือdนe่อnงdขrนon punctatum Tsiang Cยา่hนiloกcอaบrนpาuงs costatus Miq. Cโมhกoหnอemม orpha fragrans (Moon) Alston พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 46 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A APOCYNACEAE วงศต์ นี เป็ด APOCYNACEAE ตDนีyeเปraด็ แcดoงst,uเlยaลtูตaง(Miq.) Hook. f. เEถpาigเตyn่าไuหm้, มgะriลffอithianum Wight Kเมibษaบtูชaาli,aบaาrดbบู oูแreวa (Blume) G. Don ขKiาbงaมtกูalia maingayi (Hook. f.) Woodson พรHรaณlaไ-มBaป้ laา่ 47 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A APOCYNACEAE วงศต์ ีนเปด็ APOCYNACEAE Kพoุดpพsอia, พpุดaดuงc,ifพloดุ raป่าHook. f. สMรe้อlยoมdiาnลuี,sฮoาrรiอentalis Blume พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 48 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา

A APOCYNACEAE วงศต์ ีนเป็ด APOCYNACEAE A รRะaยuอ่vมoหlfiลaวcงambodiana Pierre ex Pit. ไIlทeรxขcี้ใyตm้, ศoลิsaา,Bซlลีuอme APOCYNACEAE วงศ์ศลิ า AQUIFOLIACEAE ไ​มต้ น้ หรอื ไมพ้ มุ่ ใบเดยี่ ว มกั เรยี งสลบั มีนอ้ ยท่อี อกตรงข้ามกัน ช่อดอกแบบกระจกุ มนี อ้ ยทเ่ี ปน็ ชอ่ กระจะบางครง้ั ดอกออกเปน็ กลมุ่ หรอื ออกเดย่ี ว ออกตามงา่ มใบหรอื เหนอื งา่ มใบ ดอกสมบรู ณเ์ พศหรอื แยกเพศ กลบี เลย้ี งสว่ น ใหญ่ 4 กลบี บางครง้ั หายไป กลบี ดอกสว่ นใหญ่ 4 กลบี โคนกลีบมักเชื่อมตดิ กัน เกสรเพศผู้มี จำ�นวนเท่ากับกลีบดอก ก้านชูอับเรณูเชื่อม ติดกับโคนกลีบดอก รังไข่ 1 อัน อยู่เหนือ ฐานดอก มี 4 ช่อง แต่ละชอ่ งมกั มไี ข่อ่อน 1 หน่วย ผลสด มักมเี มลด็ ต้ังแต่ 2 เมล็ดข้นึ ไป พรHรaณlaไ-มBaป้ la่า 49 ฮHาaลlaา--Bบaาlaลา