8 กันยายน วนั ทีระลึกสากลแหง่ การรหู้ นงั สอื วนั ที 17 พฤษภาคม พ.ศ.2508 (ค.ศ. 1965) องค์การศึกษาวทิ ยา ศาตรแ์ ละวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (ยูเนสโก-UNESCO) ประกาศให้ วนั ที 8 กันยายน ของทกุ ป เปนวนั การรหู้ นงั สอื สากล โดยวนั ดงั กล่าวจดั ขนึ ครงั แรกในพ.ศ.2509 วตั ถปุ ระสงค์ : เพอื กระต้นุ เตือนใหส้ งั คมตระหนกั ถึงความสาํ คัญ ของการรหู้ นงั สอื อันเปนหลักการของยูเนสโก ทังนี จากทีประชุมสมยั สามญั ของยูเนสโก ครงั แรก เมอื ป พ.ศ.2489 ซงึ ผอู้ ํานวยการใหญย่ ูเนส โกไดเ้ รยี กรอ้ งใหช้ าวโลกใหค้ วามสาํ คัญกับการศึกษาเพอื ปวงชน โดย เฉพาะเดก็ ทีตกหล่นอยูน่ อกโรงเรยี น และต่อมาในทีประชุม World Conference of Ministers of Education on the Eradication of literacy ณ กรงุ เตหะราน ประเทศอิหรา่ น เมอื ปพ.ศ.2508 มกี ารเสนอให้ วนั ที 8 กันยายน ซงึ เปนวนั เรมิ ต้นของการประชุมดงั กล่าวเปนวนั ระลึกป สากลแหง่ การรหู้ นงั สอื ห้องสมุดประชาชนอําเภอคง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกาาตรามอัธยาศัยอําเภอคง
ประเดน็ ในชว่ งทศวรรษทียูเนสโกนาํ เสนอคือ การรหู้ นงั สอื เปนการ ใหอ้ ิสรภาพแก่ผคู้ นทังหลาย เปนอิสรภาพจากความไมร่ ู้ อิสรภาพจากความ ยากจน อิสรภาพจากความเจบ็ ไขไ้ ดป้ วย เพยี งเพราะคนเหล่านนั มคี วามรู้ สามารถอ่านออกเขยี นได้ แสดงใหเ้ หน็ วา่ เมอื รหู้ นงั สอื และมโี อกาสนาํ ไป ปฏิบตั ิแล้วก็จะชว่ ยใหด้ าํ เนนิ ชวี ติ ไดอ้ ยา่ งเสรแี ละมชี วี ติ ทีสมบูรณย์ งิ ขนึ เพราะฉะนนั การรณรงค์ในวนั ที 8 กันยายน จงึ เปนความพยายามที จะเรยี กรอ้ ง ใหร้ ฐั บาลของทกุ ๆ ประเทศ และทกุ ๆ คนในสงั คมตระหนกั ถึง ความจาํ เปนทีจะต้องระดมสรรพกําลังแก้ไขปญหาความไมร่ หู้ นงั สอื ของ ประชากรในประเทศ ในวนั การรหู้ นงั สอื สากล ยูเนสโกยาํ เตือนประชาคม นานาชาติถึงสถานะการรหู้ นงั สอื และการเรยี นรขู้ องผใู้ หญ่ ทัวโลก อาทิ ขอ้ มูลทีวา่ ผใู้ หญร่ าว 776 ล้านคนทัวโลกขาดทักษะการรหู้ นงั สอื ขนั ตํา และผใู้ หญ่ 1 ใน 5 ยงั อ่านไมอ่ อกเขยี น ไมไ่ ด้ และ 2 ใน 3 ในจาํ นวนนเี ปน หญงิ เดก็ 75 ล้านคน ต้องออกจากโรงเรยี น และอีกมากกวา่ นนั เขา้ รว่ ม การศึกษานอกระบบหรอื ออกโรงเรยี นก่อนวยั ห้องสมุดประชาชนอําเภอคง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกาาตรามอัธยาศัยอําเภอคง
สาํ หรบั ไทย กระทรวงศึกษาธกิ าร ระบุวา่ ตามทียูเนสโก ไดก้ ําหนดให้ วนั ที 8 กันยายนของทกุ ป เปนวนั ระลึกปสากล แหง่ การรหู้ นงั สอื ตามมติที ประชุมของรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารจากประเทศทัวโลกวา่ ดว้ ย การไมร่ หู้ นงั สอื เมอื ป 2508 เพอื ระลึกถึงการรหู้ นงั สอื สากล ประเทศไทย จงึ ไดจ้ ดั กิจกรรมตังแต่ปพ.ศ.2510 เปนต้นมา มหี นว่ ยงานทังภาครฐั และ เอกชนใหค้ วามรว่ มมอื เพอื กระต้นุ ใหป้ ระชาชนเหน็ ความสาํ คัญของการรู้ หนงั สอื และการศึกษาตลอดชวี ติ องค์การศึกษา วทิ ยาศาสตรแ์ ละวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ (UNESCO) ไดก้ ําหนดให้ วนั ที 8 กันยายน ของทกุ ป เปน “วนั ทีระลึกสากล แหง่ การรหู้ นงั สอื ” และไดเ้ ชญิ ชวนประเทศสมาชกิ จดั กิจกรรมเฉลิมฉลอง เพอื ระลึกถึงวนั สาํ คัญดงั กล่าว การศึกษาเปนกระบวนการต่อเนอื งตลอดชวี ติ นอกจากการเรยี นรู้ หนงั สอื อันเปนกญุ แจสาํ คัญทีไขเขา้ สสู่ รรพวทิ ยาการแล้ว การเรยี นรดู้ ว้ ย สอื การเรยี นอยา่ งอืน และกระบวนการอืน ๆ ซงึ มอี ยูน่ านปั การนนั จะชว่ ย ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของผเู้ รยี นใหด้ ขี นึ ได้ ดงั นนั องค์การศึกษา วทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรมแหง่ สหประชาชาติ หรอื UNESCO จงึ ได้ กําหนดเอาวนั ที 8 กันยายนของทกุ ป เปนวนั International Literacy Day ตามมติของทีประชุมของรฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงศึกษาธกิ ารจาก ประเทศทัวโลก วา่ ดว้ ยการขจดั การไมร่ หู้ นงั สอื ซงึ จดั ขนึ ทีกรงุ เตหะราน เมอื ป ค.ศ. 1965 เพอื เปนวนั ทีระลึกการรหู้ นงั สอื สากล และไดม้ หี นงั สอื เชญิ ชวนประเทศสมาชกิ รว่ มจดั กิจกรรมเฉลิมฉลองตังแต่ป ค.ศ. 1967 เปนต้นมา ห้องสมุดประชาชนอําเภอคง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกาาตรามอัธยาศัยอําเภอคง
สาํ หรบั ประเทศไทยไดม้ กี ารจดั กิจกรรมเนอื งในโอกาสวนั ทีระลึกการ รหู้ นงั สอื สากลนี มาตังแต่ป 2510 เปนต้นมา โดยจดั ขนึ ทีกองการศึกษา ผใู้ หญแ่ ละตามโรงเรยี นผใู้ หญท่ ัวไป ต่อมาในป พ.ศ. 2520 กองการศึกษา ผใู้ หญไ่ ดจ้ ดั นทิ รรศการ \"วนั การศึกษาผใู้ หญแ่ หง่ ชาติ\" ขนึ ณ หอสมุดแหง่ ชาติ และในป พ.ศ. 2521 ไดจ้ ดั นทิ รรศการ \"วนั การศึกษา ผใู้ หญแ่ ละการศึกษานอกระบบ\" ขนึ ณ บรเิ วณโรงละครแหง่ ชาติ โดยมี หนว่ ยงานจากภายนอกเขา้ มาสมทบดว้ ย ในป พ.ศ. 2522 ไดม้ กี ารจดั นทิ รรศการ \"วนั การศึกษานอกโรงเรยี น\" ขนึ ณ บรเิ วณครุ สุ ภา ในปนมี หี นว่ ยงานต่าง ๆ ทังภาครฐั และภาคเอกชน มารว่ มดว้ ยเปนจาํ นวนมาก ดว้ ยเหตนุ ี International Literacy Day จงึ ไดก้ ลายมาเปน \"วนั การศึกษานอกโรงเรยี น\" ตังแต่ป พ.ศ. 2522 เปนต้น มา โดยเหตทุ ีการศึกษานอกโรงเรยี นเปนการศึกษาตลอดชวี ติ และ กระบวนการเรยี นการสอนไมจ่ าํ กัดสถานที เวลา อายุ เพศหรอื อาชพี ของผู้ เรยี นแต่เนน้ กล่มุ เปาหมายทีไมม่ โี อกาสศึกษาเล่าเรยี นในระบบโรงเรยี น ห้องสมุดประชาชนอําเภอคง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกาาตรามอัธยาศัยอําเภอคง
การจดั การศึกษานอกโรงเรยี นจงึ มหี ลายรูปแบบ เชน่ 1. การสอนใหค้ นอ่านออกเขยี นได้ เพอื ใหม้ คี วามรพู้ นื ฐานในการดาํ รง ชวี ติ ไดแ้ ก่ โครงการรณรงค์เพอื การรหู้ นงั สอื แหง่ ชาติ โครงการศึกษา ผใู้ หญแ่ บบเบด็ เสรจ็ ขนั พนื ฐาน และโครงการศึกษาต่อเนอื ง 2. การจดั ทีอ่านหนงั สอื พมิ พป์ ระจาํ หมูบ่ า้ น หอ้ งสมุดประชาชน หอ้ ง สมุดเคลือนที วทิ ยุและโทรทัศนเ์ พอื การศึกษา เพอื ใหข้ อ้ มูลขา่ วสารทีทันต่อ เหตกุ ารณ์ 3. การสอนวชิ าชพี หลักสตู รระยะสนั โครงการฝกอบรมต่าง ๆ เพอื ให้ ความรแู้ ก่กล่มุ เปาหมายดา้ นวชิ าชพี และใหร้ จู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปนประโยชน์ แก่ตนเองและสงั คม ห้องสมุดประชาชนอําเภอคง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกาาตรามอัธยาศัยอําเภอคง
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: