สาระน่ารู้ ประจำเดือน พฤศจิกายน 2564

สาระน่ารู้ ประจำเดือน พฤศจิกายน 2564

ป ล า ที่ อ อ ก ลู ก เ ป็ น ตั ว ปลาที่ผสมพันธุ์ภายในและออกลูกเป็นตัวมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ ฉลาม กระเบน ปลาเข็ม ปลาสอด เรดฟิช ซีลาแคนธ์ ปลาสอด ปลาหางนกยูง ปลาแพล็ตตี้ ปลาบอลลูน เป็นต้น 5นกที่ใหญ่ ที่สุด ชนิด 1. นกกระจอกเทศ ( Struthio camelus ) 7-9 ฟุต (213.3 - 274.3 ซม.) 2. นกอีมู ( Dromaius novaehollandiae ) 6.2 ฟุต (189 ซม.) 3. Cassowary ภาคใต้ ( Casuarius casuarius ) 5.8 ฟุต (167 ซม.) 4. หงส์เป่าแตร ( Cygnus buccinator ) 4.6–5.5 ฟุต (138–165 ซม.) 5. เพนกวินจักรพรรดิ ( Aptenodytes forsteri ) 4.2 ฟุต (130 ซม.) น ก ที่ ตั ว เ ล็ ก ที่ สุ ด ใ น โ ล ก ฮัมมิ่ง นกตัวที่เล็กที่สุดในโลก เป็นนกที่เล็กที่สุดในโลก มันสามารถบินถอยหลังได้ และเป็นนกที่มีความกล้าหาญมาก สามารถเข้าปะทะกับสัตว์ใหญ่กว่ามันหลายเท่านัก ส่วน ปากอันโค้งแหลมเล็กของมันสามารถดูดน้ำหวานจากดอกไม้ได้ นักวิจัยชาวอเมริกาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์คเลย์ได้ทำการศึกษาถึงอัตรา ความเร็วในการบินของนกฮัมมิงเบิร์ด และก็พบว่านกฮัมมิงเบิร์ดตัวผู้จะมีความเร็วในการบิน ที่เร็วกว่าเครื่องบินไอพ่นหรือเครื่องบินเจ็ท โดยทั่วไป นกชนิดนี้มีลำตัวเล็ก น่ารัก คือมีความยาวไม่เกิน 6 เซนติเมตร มันมีปากที่ ยาวเรียวและแหลม ลักษณะของปีกมีรูปร่างขนาดเล็ก และปีกเล็กๆ ของมันสามารถกระพือ ได้เร็วถึง 80 ครั้ง/วินาที ทำให้มันสามารถลอยนิ่งอยู่ในอากาศและบินถอยหลังกลับได้

“ ”สุดยอดสัตว์โลก ไม่กินอาหารก็อยู่ได้ 1. ฉลามขาว สุดยอดนักล่าที่สามารถอดอาหารได้นานได้มากกว่า 3 สัปดาห์ 2. หมี มันจำจำศีลและไม่กินอาหารนาน 100 วัน เพราะว่ามันจะนอนหลับอย่างเดียวโดย ไม่กินไม่ดื่มอะไรแม้แต่นิดเดียว 3. เพนกวิน แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะโหดร้ายซักเพียงใด เจ้าเพนกวินก็อดอาหารได้ ยาวนานถึง เดือนเลยทีเดียว แม้ว่าจะไม่ได้กินปลาซักตัวเดียวก็ตาม 4. อูฐ นอกจากจะเป็นสัตว์ที่อดทนต่อความร้อนในทะเลทรายแล้ว มันยังเก็บพลังงานที่ โหนกของมันเพื่ออดอาหารโดยไม่กินอะไรได้ถึง 40 วันกันเลยทีเดียว 5. กบ มันอดอาหารเหมือนหมี คือการจำศีล และกบบางชนิด ก็อดอาหารได้นาน 16 เดือนรัวๆกันเลยทีเดียว ก า ร จำ แ น ก สั ต ว์ ที่ อ อ ก ลู ก เ ป็ น ตั ว กั บ อ อ ก ลู ก เ ป็ น ไ ข่ สัตว์บนโลกนี้มีวิธีออกลูกอยู่ 2 แบบ คือ ออกลูกเป็นตัวและออกลูกเป็นไข่ 1.) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะออกลูกเป็นตัว เช่น ม้า วัว ควาย สุนัข แมว ลิง หมู เป็นต้น ยกเว้นตุ่นปากเป็ดและตัวกินมดหนาม ที่ออกลูกเป็นไข่ 2.) สัตว์ที่ออกลูกเป็นไข่คือสัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน และแมลง เช่น ปลา กบ เต่า ไก่ นก เป็นต้น

การจำแนกสัตว์ ตามลักษณะอาหารที่กิน สัตว์แต่ละชนิดกินอาหารแตกต่างกัน ซึ่งสามารถจำแนกสัตว์ได้ตามลักษณะอาหารที่กินได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ 1. สัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร สัตว์ประเภทนี้มีมากมายหลายชนิด เช่น ช้างกินพืช ผัก และผลไม้บางชนิดเป็นอาหาร วัว ควาย ม้า กระต่าย กินหญ้าเป็นอาหาร กวางกินใบไม้นกบางชนิดกินผลไม้และน้ำหวานจาก เกสรของดอกไม้เป็นอาหาร 2. สัตว์ที่กินสัตว์อื่นเป็นอาหาร สัตว์บางชนิดล่าสัตว์ชนิดอื่นกินเป็นอาหาร เช่น สิงโต เสือ จระเข้ กินเนื้อสัตว์อื่นที่มี ขนาดเล็ก กว่าเป็นอาหาร เช่น ม้าลาย กวาง ละมั่ง หมูป่า งูกินสัตว์ขนาดเล็ก เช่น กบ นก หนู กระต่าย จิ้งจก ตุ๊กแก กิ้งก่า กบ เขียด อึ่งอ่าง กินแมลงชนิดต่าง ๆ นกบางชนิดเป็นนกนักล่า เช่น นกอินทรี เหยี่ยว นกฮูก จะกินสัตว์ ที่มีขนาดเล็ก เช่น งู หนู นก กระต่าย ปลา กบ 3. สัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร สัตว์บางชนิดสามารถกินได้ทั้งพืช และสัตว์เป็นอาหาร เช่น เป็ด ไก่ สุนัข สุกร หมี หนู พฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า สัตว์ทุกชนิดสามารถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม รอบตัว โดยจะแสดงการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา เรียกว่าพฤติกรรม เช่น แสดง พฤติกรรมในการกินอาหาร การเคลื่อนที่ การต่อสู่ การล่าเหยื่อ เป็นต้น สิ่งแวดล้อมที่กระตุ้น ให้สัตว์แสดงพฤติกรรม เรียกว่า สิ่งเร้า เช่น สุนัขเมื่อได้กลิ่นอาหารน้ำลายจะไหล หรือเมื่อ ได้ยินเสียงเจ้าของเรียกก็จะกระดิกหางและวิ่งเข้าไปหา

การแบ่งกลุ่ม สัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง 1. สัตว์พวกปลา เป็นสัตว์เลือดเย็น หายใจด้วยเหงือก มีแผ่นปิดเหงือก มีครีบ บาง ชนิดมีเกล็ด บาง ชนิดไม่มีเกล็ด เช่น ปลาตะเพียน ปลากระเบน ฉลาม ม้าน้ำ ฯลฯ 2. สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เป็นสัตว์เลือดเย็น ผิวหนังเปียกชื้น ไม่มีเกล็ด ตัวอ่อนอยู่ ในน้ำ หายใจ ด้วยเหงือก เมื่อโตขึ้นหายใจด้วยปอดและผิวหนัง อาศัยอยู่บนบก มี 4 ขา เช่น กบ อึ่งอ่าง คางคก จิ้งจกน้ำฯลฯ 3. สัตว์เลื้อยคลาน เป็นสัตว์เลือดเย็น ผิวหนังแห้ง ลำตัวมีเกล็ดปกคลุม หายใจด้วย ปอด วางไข่บน บก ไข่มีเปลือกแข็งหุ้ม เช่น เต่า จระเข้ กิ้งก่า จิ้งจก ฯลฯ 4. สัตว์จำพวกนก เป็นสัตว์เลือดอุ่น หายใจด้วยปอด ขาคู่หน้าพัฒนาไปเป็นปีก มีขน เป็นแผง มี เกล็ดที่ขาและนิ้วเท้า ไข่มีเปลือกแข็งหุ้ม มีจะงอยปากแข็ง เซลล์เม็ดเลือดแดงมี นิวเคลียสตลอด ชีวิต เช่น นกพิราบ นกนางนวล นกยูง นกกระจอกเทศ ฯลฯ 5. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม สัตว์เลือดอุ่น ผิวหนังเรียบ มีต่อมน้ำนมหรับสร้างน้ำนม ให้ตัวอ่อน หายใจด้วยปอด มีขนแบบ เส้นผม ส่วนใหญ่เป็นสัตว์บก เช่น สุนัข ช้าง ลิง เสือ สิงโต จิงโจ้ เม่น หนู ฯลฯ สำหรับสัตว์น้ำที่ จัดเป็นเลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เช่น โลมา วาฬ พะยูน ฯลฯ สัตว์ปีกมีชนิดเดียวคือ ค้างคาว สัตว์เลี้ยง ลูกด้วยน้ำนมส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว ยกเว้น ตุ่นปากเป็ดและอีคิดนาเท่านั้นที่ออกลูกเป็นไข่ สัตว์ประเภทนี้ มีทั้งสัตว์ชนิดที่กินพืชและกิน สัตว์เป็นอาหาร 10 อันดับสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก 1. Box Jellyfish แมงกระพรุนกล่อง 2. King Cobra งูจงอาง 3. Marbled Cone Snail หอยเต้าปูนลายหินอ่อน 4. Blue-Ringed Octopus ปลาหมึกแหวนน้ำเงิน 5. Death Stalker Scorpion แมงป่องเดธท์ สตอล์คเกอร์ 6. Stonefish ปลาหิน 7. The Brazillian Wandering Spider แมงมุมบราซิล 8. Inland Taipan งูไทปันโพ้นทะเล 9. Poison Dart Frog กบลูกดอก 10. Puffer Fish ปลาปักเป้า

“ ”ไส้เดือนดิน เพื่ อนเกษตรอินทรีย์ ศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้ นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีการ ส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงไส้เดือนดิน เพราะว่ามูลของไส้เดือนดินช่วยปรับสภาพดินให้ดีขึ้น โดยทำให้มีการรวมตัวของดินอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ เป็นสารอินทรีย์ปลอดสารพิษและ พบว่าปริมาณธาตุโลหะหนักในมูลไส้เดือนดินนั้น ต่ำกว่าที่ทางราชการกำหนดให้มีได้ถึง 10 เท่า ไม่ทำให้เกิดรากไหม้ในพืชแม้ใช้ในปริมาณที่มาก ปราศจากกลิ่นและมีฤทธิ์ในการดับกลิ่น ยับยั้งการเจริญของเชื้อราที่เป็นกับพืชและมีฤทธิ์ในการขับไล่แมลง ช่วยให้พืชมีการเจริญ เติบโตดีขึ้นตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกำจัดแมลงและศัตรูพืช 5สัตว์ ชนิด ที่เคลื่ อนไหวเร็วที่สุดในโลก 1. เสือซีต้าร์ (Cheetah) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก เสือซีต้าร์มีถิ่นที่ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปอัฟริกาสามารถทำอัตราความเร่งจาก 0 - 103 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ภายใน 3 วินาที และวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยได้ 112 - 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะทางไม่ เกิน 460 เมตร 2. สุนัขเกรย์ฮาวน์ (Greyhound) เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก พวกมันสามารถ วิ่งได้ด้วยความเร็ว ประมาณ 69 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้จะมีรูปร่างผมเพียว แต่เต็มไปด้วยกล้าม เนื้อที่ทรงพลัง โดยในช่วงหลังสุนัขพันธ์เกรย์ฮาวน์ได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อเป็นสุนัขสำหรับ วิ่งแข่งโดยเฉพาะ 3. นกกระจอกเทศ (Ostrich) เป็นนกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก โดยมีความเร็วถึง 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังครองตำแหน่งนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากมีน้ำหนักตัว ตั้งแต่ 100 - 158 กิโลกรัม มีความสูง 2 - 2.5 เมตร รวมถึงเป็นนกที่มีไข่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วย ขนาดความสูงประมาณ 15 เซนติเมตร กว้าง 13 เซนติเมตร หนักฟองละประมาณ 1.4 กิโลกรัม 4. ด้วงเสือ (Tiger beetles) เป็นแมลงที่คลานเร็วที่สุดในโลก โดยบางสายพันธุ์สามารถ วิ่งได้เร็วกว่า 8 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้คว้าตำแหน่งแมลงที่คลานเร็วที่สุดไปครอง และถ้าหาก ด้วงช้างมีขนาดตัวเท่าเหยี่ยว หรือเสือซีต้าร์ คงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดบนโลกที่เร็วเท่าด้วงเสืออีกแล้ว 5. ละมั่งเขาแหลม (Pronghorn Antelope) แม้จะไม่ทราบความเร็วสูงสุดแน่ชัดใน การวิ่งของละมั่งเขาแหลม แต่เท่าที่มีการวัดกันมาก็พบว่ามันวิ่งได้เร็ว 98 กม./ชม. และมีแนว โน้มว่าจะเร็วได้ยิ่งกว่านี้อีก นอกจากนี้ขนาดปอดและหัวใจที่ใหญ่ ยังทำให้ละมันชนิดนี้วิ่งได้อึด เสียยิ่งกว่าเสือชีตาห์ แม้ว่าสุดท้ายมันก็ยังกลายเป็นเหยื่ออยู่ดีนั่นแหล

จัดทำโดย นางสาวเกศรินทร์ เอกกลาง ตำแหน่งบรรณารักษ์ ข้อมูลติดต่อ ห้องสมุดประชาชนอำเภอคง ถนนเทศบาล 3 ตำบลเมืองคง อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา 30260 โทรศัพท์ 044-459023อีเมลล์ อีเมลล์ [email protected] ห้องสมุดประชาชนอำเภอคง