Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปอารยธรรมเมโสโปเตเมีย

สรุปอารยธรรมเมโสโปเตเมีย

Published by 02 Green, 2021-09-07 11:54:33

Description: สรุปอารยธรรม

Search

Read the Text Version

Western Civilization Western Civilization มีแหลง่ กาํ เนิดในดนิ แดนเมโสโปเตเมยี หรือแถบ ลุ่มแม่นาํ ไทกรสิ และยเู ฟรทสี ในตะวนั ออกใกล้ (ปจจุบันคอื ประเทศอริ กั ) และลุม่ แม่นําไนล์ ใน ประเทศอียิปต์ ซึงตังอยทู่ างตอนเหนือของทวีป แอฟรกิ า ปจจุบนั ดนิ แดนทังสองแห่งนีจัดอยใู่ น ภมู ิภาคตะวันออกกลาง “ประวัตศิ าสตร์เรมิ ขึนทซี เู มอร์” เนืองจากชาวซูเมเรยี (Sumerian)เปนชนชาตแิ รกที ประดิษฐต์ วั อกั ษรเพือบันทกึ เรืองราวต่างๆ ซึงถอื วา่ เปน “หลกั ฐาน” สาํ คญั หรอื หวั ใจในการศึกษาวิชา ประวัตศิ าสตร์ และการแบ่งเส้นเวลาออกเปน “สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์” และ “สมัยประวตั ศิ าสตร์

Sumerian Empire Sumerian Empire คนกลมุ่ แรกทีสรา้ งสรรคอ์ ารยธรรมเมโสโปเตเมีย วรรณกรรม ขนึ คอื ชาวสเุ มเรียน ผคู้ ิดประดษิ ฐ์ตัวอักษรขึนเปนครงั ทีเดน่ ทีสดุ คอื มหากาพยก์ ิลกาเมช (Gilgamesh) แรกในโลก อารยธรรมทีชาวสเุ มเรยี นสรา้ งขึนเปนพืน ปรากฏในจารกึ 12 แท่งดว้ ยกัน ซึงเปนเรอื งราวของ ฐานสาํ คัญของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย วีรบุรุษกิลกาเมซซงึ เปนกษตั ริยช์ าวอรู ุก สุเมเรยี นมี อาํ นาจปกครองบริเวณซูเมอร์เกือบพันป ต่อมาพวก การปกครอง ชนเผา่ เซเมติค พระหรือนกั บวชมีอาํ นาจมาก พระมีอาํ นาจในการ ปกครองแผน่ ดินและเปนประมขุ สูงสดุ ศาสนา เศรษฐกิจและสงั คม มสี ว่ นสําคญั มากในชีวิตของชาวสเุ มเรยี น นบั ถอื อาชพี หลกั คอื เกษตรกรรม มีความชาํ นาญ มกี ารใช้ พระเจา้ หลายองคพ์ ร้อมๆกัน มกี ารสร้างหอวิหารใหญ่ ระบบชลประทาน ขุดคลองระบายนํา ประดิษฐค์ นั ไถ โตเรียกว่า ซิกกูแรต (Ziggurat) เปนวัดทมี ีรูปรา่ ง เครอื งหยอดเมล็ด มมี าตราชงั ตวงวดั การทอผา้ คลา้ ยพิรามิด ทาํ เปนชนั ๆสรา้ งขนึ ด้วยอฐิ เพือเปนที ประทับของเทพเจา้ การเขยี นหนังสอื โดยการประดิษฐอ์ กั ษรรูปลิม หรอื ทเี รียกวา่ คนู ฟิ อรม์ (Cuneiform) ภายหลงั ได้ดัดแปลงแกไ้ ข มกี ารคิด เครอื งหมายตา่ งๆ เพือใช้แทนภาพ

Old babylon empire Old babylon empire หลังจากพวกสุเมเรียสนิ อาํ นาจปกครองแลว้ ดนิ แดน ผลงานทีสําคญั เมโสโปเตเมียเข้าส่ยู ุคแห่งการเปลียนแปลงผา่ นความร่งุ ประมวลกฎหมายฮมั มรู าบโี ดยพระเจา้ Hammurabi เรอื งตอนใต้ย้ายไปยงั อคั คดั ซงึ อยตู่ อนเหนือ โดยมชี น เผา่ อะมอไรต์ (Amorite) พวกอะมอไรต์มศี ูนย์อํานาจ หลกั การของกฎหมายมรี ากฐานมาจากกฎหมายของพวก ปกครองอยูท่ กี รงุ บาบโิ ลน จึงถูกเรียกวา่ ” พวกบาบิ สุเมเรีย แตไ่ ดจ้ ัดใหเ้ ปนระบบ เปนการสรา้ งความยตุ ิธรรม โลน” และใชภ้ าษาในตระกลู เซมติ กิ ใหแ้ ก่สังคมประมวลกฎหมายของฮัมมรู าบียึดถือหลัก “ตา ต่อตา ฟนตอ่ ฟน” ในการลงโทษ กลา่ วคอื ให้ใช้การ ทดแทนความผิดดว้ ยการกระทําอย่างเดยี วกัน ลกั ษณะการปกครอง อาณาจกั รบาบิโลนเกา่ ยงั มีลักษณะเปน “รัฐสวัสดิการ” ทรี ัฐดูแลพลเมืองอย่างใกลช้ ิด

Assyrian Empire Chaldean Empire อสั ซีเรียเปนเซมติ คิ ได้เข้าตงั มันในดนิ แดนทางตอนเหนอื พวกคาลเดยี น (Chaldean) ซึงเปนชนเผ่าฮีบรูทางทศิ ของเมโสโปเตเมยี บนลุ่มแม่นําไทกรสี จากการไม่มี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ของลมุ่ แม่นําไทกริส-ยเู ฟรทีสกส็ ามารถเข้า พรมแดนธรรมชาตชิ ว่ ยปองกนั ภยั ทาํ ให้อัสซีเรีย มกั ถูก ยดึ กรุงนเิ นเวห์ได้สําเรจ็ และจัดตงั เปนอาณาจกั รบาบโิ ลเนยี โจมตโี ดยชุมชนใกลเ้ คียงเรมิ จากสุเมเรยี น อัคคาเดยี นและ ขึนมา อาณาจกั รบาบโิ ลเนียใหม่เปนอาณาจักรทีรุ่งเรอื งมาก อมอไรท์ อาณาจักรอัสซีเรียมีความเจรญิ มาชา้ นาน ตราบจนกระทงั ในสมัยพระเจ้าเนบูคดั เนซซารม์ กี ารสร้างสวนขนาดใหญ่ สนิ สดุ รชั สมัยของพระเจา้ อสั สุรบานปิ าลกรุงนิเนเวห์ได้ถกู เรียกวา่ สวนลอยแหง่ บาบิโลนซงึ ถอื ได้ว่าเปนสงิ มหัศจรรย์ ทาํ ลายลงโดยกองทพั รว่ มของพวกมีเดีย พวกบาบิโลเนีย ของโลกยคุ โบราณเพราะสามารถใชค้ วามรูใ้ นการชลประทาน หลงั จากนนั อาณาจกั รอสั ซเี รีย ได้ถูกแบ่งออกเปนสองส่วน ทาํ ใหส้ วนลอยนเี ขยี วขจีได้ตลอดทงั ป และปรับปรงุ ดา้ น อารยธรรมซงึ เคยเจรญิ มาชา้ นานได้ดบั วบู ลงทาํ ให้ เกษตรกรรมและเริมต้นงานด้านวทิ ยาศาสตร์ อาณาจักรบาบิโลเนียใหมข่ องแคลเดยี น

Small kingdom era Conclusion พวกฟนีเซีย ความสาํ คญั ของประวตั ิศาสตร์อารยธรรมเมโสโปเตเมีย พวกฟนีเซยี เปนชือทชี าวกรกี ใช้เรยี กพวกแคนาไนต์ เนอื งจากอารยธรรมเมโสโปเตเมียเปนอารยธรรมเกา่ แก่ (Canaite) ทีอาศัยอย่ชู ายฝงทะเลเมดเิ ตอร์เรเนียนใน ทสี ดุ ของโลก ทมี หี ลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์บนั ทกึ ไว้ เปน ซเี รีย (ปจจบุ นั คือ เลบานอน) ชาวฟนเี ซยี มคี วามสามารถ จุดเรมิ ตน้ ของอารยธรรมโบราณกอ่ นทจี ะมอี ารยธรรมต่างๆ ทางการคา้ สรา้ งเรอื เดินสมทุ รและจัดตงั อาณานคิ ม เกดิ ขึน ทาํ ให้การศึกษาประวัตศิ าสตร์ของอารยธรรมเมโสโป เตเมยี มคี วามสําคัญอยา่ งมาก ทาํ ใหท้ ราบถึงเรืองราวความ พวกเขายังมคี วามสามารถในการทําเครอื งเรือน เครอื ง เปนมาของอารยธรรมเมโสโปเตเมยี และสามารถนาํ ความรู้ แก้ว เครอื งโลหะ และเครืองประดับ และร้จู กั ยอ้ มผ้าโดย ไปใชใ้ นการศึกษาต่อไปไดย้ งิ ๆขึนไป ใชส้ ีจากเปลือกหอย พวกฮบิ รหู รือยวิ เปนชนเผา่ เซมติ ิกเรอื งราวของพวกเขาปรากฏในพันธ สญั ญาเกา่ ครงั หนงึ เคยประสบความสําเร็จในการสร้างราช อาณาจักรและขยายเปนจกั รวรรดอิ ิสราเอล แตไ่ มส่ ามารถ ผดงุ รักษาไวไ้ ด้ในสมัยอาณาจกั รบาบิโลนใหมพ่ วกยวิ ถูก กวาดตอ้ นไปเปนทาสตอ่ มาตกอย่ใู ตก้ ารปกครองของ เปอร์เซยี กรีก และโรมัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook