ใบความรทู้ ่ี 1 เร่ือง ความร้ทู ั่วไปของผา้ เชด็ ปาก หรือ Napkin ประวัตคิ วามเป็นมาของผ้าเช็ดปาก หรือ Napkin ประมาณศตวรรษท่ี 15-16 ในประเทศอังกฤษยังไม่มีมีดโกนหนวด ผู้ชายส่วนใหญ่จึงไว้หนวดเครายาว รุงรัง ซ่ึงหนวดเคราน้ีเองที่เป็นอุปสรรคสาคัญในการรับประทานอาหาร (ในสมัยนั้นยังไม่มีการผลิตช้อนส้อมมาใช้ เป็นอุปกรณใ์ นการตักอาหาร ทาให้ผู้ชายยคุ นี้ต้องใช้มือหยิบอาหารและนกี่ ็เป็นสาเหตุทาให้เครายาว ๆ น้ัน ตกลง ไปในอาหาร เลอะเทอะเปอะเป้ือนไปทั้งเคราและเสื้อผ้าท่ีสวมใส่ ไม่เพียงเท่านี้ เม่ือรับประทานอาหารเสร็จแล้ว คุณผ้ชู ายมักจะเชด็ ปากทแ่ี ขนเสื้อของตวั เอง! แม่บ้านที่ต้องรับบทหนักในการทาความสะอาดเสื้อผ้า จึงคิดหาวิธีป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเลอะเทอะข้ึน โดยการน้าผา้ มาผูกไว้ที่คอคุณสามีเพ่ือปอ้ งกันไม่ใหเ้ สื้อผ้าเลอะ ผลปรากฏว่า ผา้ ผืนน้ันไม่เพียงป้องกันเสื้อผ้าเลอะ เท่าน้ัน แต่ยังเปน็ การช่วยให้คุณผู้ชายมีผ้าเช็ดปากเพ่ิมขึ้นอกี ด้วยจึงมีการนาผ้ามาผูกคอไว้เพือ่ เปน็ “ผ้ากนั เป้อื น” ทกุ คร้ังท่ีรบั ประทานอาหาร จนได้รับความนยิ มใช้กันมา และถูกดัดแปลงมาเป็นผ้ากนั เปื้อนท่ีวางบนตักในระหว่าง รบั ประทานอาหารใน ปัจจบุ นั นั่นเอง
ประเภทของผา้ เชด็ ปาก หรอื Napkin ผ้าเช็ดปากเป็นอุปกรณ์ในการรับประทานอย่างหน่ึง มักพบในการจัดโต๊ะอาหารที่ค่อนข้างท่ีจะเป็นพิธี การ การจัดวางผ้าเช็ดปากบนโต๊ะอาหารนั้นสามารถวางไว้ในจานหรือนอกจานก็ได้ ข้ึนอยู่กับรูปแบบการจัดโต๊ะ อาหารของแต่ละที่ การพับผ้าเช็ดปากในรูปแบบต่างๆ น้ันก็ช่วยเพ่ิมความสวยงามในการจัดโต๊ะอาหารได้เช่นกัน ซง่ึ โดยส่วนมากแลว้ มักนิยมใช้ผ้าเช็ดปากในโทนสีออ่ นๆ เช่น สีขาว สีครมี เป็นต้น สาหรับเนื้อผา้ ทีน่ ิยมนามาใช้ผ้า เช็ดปากก็มีหลายชนดิ ประเภท คณุ สมบัติ ตวั อยา่ ง 1. ผา้ ฝ้าย เป็นผ้าท่ีดูดซึมได้ง่ายเเละมี ราคาค่อนข้างถูก แต่มักจะมี เนือ้ หยาบ หนา และข้ึนราง่าย 2. ผ้าลนิ ิน เป็นผ้าที่ดูดซึมได้ง่าย ทนทาน พับขึ้นรูปได้สวยงามเพราะ เนื้อไม่หนา ราคาคอ่ นข้างแพง 3. ผา้ ไหม เป็นผ้าที่เน้ือสัมผัสนุ่มนวล มี ความทนทานเม่ือนามาพับผ้า เ ช็ ด ป า ก ส า ม า ร ถ ส ร้ า ง บรรยากาศบนโต๊ะอาหารท่ี หรูหราได้ แต่ไม่นิยมนามาใช้ เพราะทาความสะอาดและซัก รดี ยาก และราคาคอ่ นขา้ งแพง
หลักการเลอื กผา้ เช็ดปาก หรอื Napkin 1. ผา้ เชด็ ปากท่ีดี ตอ้ งสามารถดดู ซบั ไดด้ ี เพราะการใช้งานในการรบั ประทานอาหารส่วนท่เี ปอื้ นมักจะเปน็ ของเหลว ผ้าเชด็ ปากจงึ ควรท่จี ะดดู ซับได้ง่าย 2. เป็นผา้ ท่ีรีดเรียบง่าย และไมย่ ับงา่ ย 3. ซกั ทาความสะอาดได้งา่ ย เพราะการใช้งานจะตอ้ งสัมผัสกบั สงิ่ สกปรกต่าง ๆ ผา้ ทใ่ี ชจ้ ึงควรเปน็ ผ้าที่ไม่ ฝังคราบมากนัก 4. เลือกสีสนั ของผา้ ให้เหมาะสมกบั การใช้งาน ถา้ เปน็ งานทพ่ี ิธีการมาก ๆ ก็ควรใช้สที สี่ ภุ าพ ไมม่ ลี วดลาย และไม่มสี ีสันฉูดฉาดมากนัก แตถ่ ้าเปน็ งานสังสรรค์ ปาร์ตี้ ก็สามารถใชผ้ ้าท่ีมสี สี นั สดใสหรือมีลวดลายได้ 5. ราคาตอ้ งเหมาะสมกบั รปู แบบและเส้ือผ้า มารยาทในการใช้ผ้าเช็ดปาก 1. พร้อมรับประทานอาหาร เมือ่ แขกทุกทา่ นน่ังพร้อมประจาที่บนโตะ๊ อาหารเดยี วกันแล้ว หากผู้ร่วมโต๊ะมคี วามอาวโุ สกวา่ ใหร้ อจนกว่าท่าน ผู้น้ันหยิบผ้าเช็ดปากคล่ีออกเสียก่อน แล้วคุณถึงจะหยิบตาม เมื่อคลี่ผ้าเช็ดปากออกแล้วให้พับทบผ้าเป็น สามเหล่ียมหรือสี่เหล่ียมก็ได้ วางพาดไว้ที่บนตักของคุณเพือ่ เป็นการบอกบริกรให้ทราบวา่ แขกร่วมโต๊ะมาครบเเล้ว จากน้นั บรกิ รจึงจะเรมิ่ เสิรฟ์ อาหาร 2. การขอตัวสกั ครู่ เม่ือคุณต้องการท่ีจะลุกออกจากท่ีนั่ง เเต่ยังจะกลับมานั่งที่เดิมอีก เช่นการลุกออกไปตักอาหาร การไปเข้า ห้องน้า ให้คุณวางผ้าเช็ดปากไว้ท่ีพนักพิงของเก้าอี้ หากเก้าอ้ีที่คุณนั่งมีที่วางแขนก็ให้วางพาดไว้ที่ท่ีวางแขนได้ เช่นกัน บรกิ รจะทราบว่าคุณยังจะกลบั มาน่งั อยู่ จะได้ไม่เกบ็ อปุ กรณใ์ นการรับประทานอาหารของคุณ 3. รบั ประทานอาหารเสรจ็ เม่ือคุณรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องการลุกออกจากโต๊ะโดยไม่กลับมานั่งอีกหรือเม่ือคุณอ่ิมแล้ว ต้องการที่จะให้บริกรเก็บอุปกรณ์ในการรับระทานอาหารของคุณ ให้คุณวางผ้าเช็ดปากไว้ที่ซ้ายมือของคุณ โดยไม่ ตอ้ งพับผ้าใหเ้ รียบร้อยเหมือนเดมิ แต่หากโต๊ะถูกเคลียร์เรียบร้อยเเล้วสามารถวางผ้าเช็ดปากไว้บนโต๊ะตรงหนา้ คุณ ได้เลย จากน้นั จึงลุกออกจากโต๊ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: