บทท่ี 3 ทกั ษะการติดต่อส่ือสารเพ่ือสรา้ งความสมั พนั ธท์ ่ีดี ผศ.ดร.ปัญจนาฏ วรวฒั นชยั สาขาวิชาจิตวิทยา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจ้าพระยา
ความหมายของการตดิ ตอ่ สอื่ สารกระบวนการในการส่งสารหรือการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ความคิดความรสู้ ึกระหว่างบคุ คลที่เน้นความสมั พนั ธข์ องมนุษยภ์ ายใต้สภาพแวดลอ้ มซ่ึงสามารถเปล่ียนแปลงไปได้ตามสภาวการณ์เพ่อื สรา้ งความเข้าใจอนั ดีต่อ
ความสาคญั ของการตดิ ตอ่ สอื่ สาร1. ความสาคญั ต่อสงั คม2.ความสาคญั ต่อชีวิตประจาวนั3. ความสาคญั ต่ออตุ สาหกรรมและธรุ กิจ4. ความสาคญั ต่อการปกครอง5. ความสาคญั ต่อการเมืองระหว่างประเทศ
องคป์ ระกอบของการตดิ ตอ่ สอื่ สาร1. ผูส้ ง่ สาร (Sender)2. สาร (Message)3. สอื่ หรอื ชอ่ งทางการสอื่ สาร (Media or Channel)4. ผูร้ บั สาร (Receiver)
กระบวนการตดิ ตอ่ สอื่ สาร
หลกั และวธิ กี ารตดิ ตอ่ สอื่ สารเพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ีหลกั การสาคญั การตดิ ตอ่ สอื่ สารเพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ี1. การสอื่ สารเพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจรว่ มกนั2. การสอื่ สารเพอื่ สรา้ งความชนื่ ชอบ3. การสอื่ สารเพอื่ สรา้ งอทิ ธพิ ลตอ่ การมที ศั นคตริ ว่ มกนั4. การสอื่ สารเพอื่ ยกระดบั ความสมั พนั ธ ์5. การสอื่ สารเพอื่ ทาใหเ้ กดิ การกระทาตามความตอ้ งการ (กมลรฐั อนิ ทรทศั น์ และพรทพิ ย์ เยน็ จะบก, 2554 : ออนไลน์)
หลกั และวธิ กี ารตดิ ตอ่ สอื่ สารเพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ีก1.ารกสาอื่รสสารรา้ เงพบอื่รรสยราา้ งกคาวศาขมอสงมั กพานรั สธอื่ร์ ะสหาวรา่ทงาบงคุ สคงั คลไมดแจ้ละะตจอ้ติ งใมจอีเพงคอื่ ปเ์ อรอื้ะกแลอบะสทนสี่ ับาสคนญั ุนคผอูืท้ ี่ เกยี่ วขอ้ งกบั การสอื่ สาร2. การสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั ดว้ ยระยะเวลา3. การสรา้ งใหม้ กี ารแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสารรว่ มกนั4. การสรา้ งใหม้ กี ารไวว้ างใจซงึ่ กนั และกนั5.การสรา้ งใหม้ คี วามรกั และการควบคมุ ซงึ่ กนั (กมลรฐั อนิ ทรทศั น์ และพรทพิ ย์ เยน็ จะบก, 2554 : ออนไลน์)
หลกั และวธิ กี ารตดิ ตอ่ สอื่ สารเพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ีวธิ กี ารตดิ ตอ่ สอื่ สารเพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ตี อ่ กนั นน้ั มี 3 ขน้ั ตอนขน้ั ที่ 1 การเรมิ่ สรา้ งความสมั พนั ธ ์ขน้ั ที่ 2 การสานตอ่ ความสมั พนั ธ ์ขนั้ ที่ 3 การรกั ษาความสมั พนั ธใ์ หย้ นื ยาว(กมลรฐั อนิ ทรทศั น์ และพรทพิ ย์ เยน็ จะบก, 2554 : ออนไลน์)
หลกั และวธิ กี ารตดิ ตอ่ สอื่ สารเพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ีสงิ่ ทคี่ วรระวงั ในการสอื่ สารเพอื่ สรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ ี1. เรอื่ งทจี่ ะถา่ ยทอดตอ้ งมลี กั ษณะกระจา่ งแจง้ ชดั เจน เขา้ ใจงา่ ย2. ตรวจสอบวตั ถุประสงคท์ แ่ี ทจ้ รงิ ของการตดิ ต่อสอ่ื สารแตล่ ะครงั้3. พจิ ารณาการตดิ ตอ่ สอื่ สารใหเ้ หมาะสมกบั สงิ่ แวดลอ้ ม ขนบธรรมเนียมประเพณี4. ระมดั ระวงั นา้ เสยี ง อากปั กิรยิ าและคาพูดไม่กระทบกระเทอื นอารมณผ์ ฟู ้ ัง5. สรา้ งความจงู ใจ เขา้ ใจความตอ้ งการของผรู ้ บั สาร6. ควรสอื่ สารแตส่ งิ่ ทมี่ คี ณุ คา่ แกผ่ รู ้ บั สาร7. มคี วามผ่อนคลายและเปิ ดเผยในการสอื่ สาร8. พยายามทาความเขา้ ใจดา้ นการฟังโดยเป็นผฟู้ ังทด่ี ี9. ใชก้ ิรยิ าท่าทางประกอบการพูด เชน่ การยมิ้ การไหว ้ การโคง้ คานับ10. มกี ารตดิ ตามผลการสอื่ สารทุกครงั้
ปัญหาและอปุ สรรคในการตดิ ตอ่ สอื่ สาร• 1. ปัญหาและอปุ สรรคที่เกิดจากผสู้ ่งสาร• 1.1 มีทศั นคติท่ีไมด่ ีต่อผรู้ บั สารหรือข่าวสารนัน้ ๆ• 1.2 มีความรู้ ความสามารถ และความเข้าใจข่าวสารตลอดจนมีข้อมลู เกี่ยวกบั สารท่ีต้องการ ส่ือไมเ่ พียงพอทาให้เกิดความเข้าใจผิดพลาด• 1.3 ขาดกลวิธีการวางแผนในการถ่ายทอดหรอื ขนั้ ตอนการนาเสนอที่ดีและเหมาะสม• 1.4 ใช้ภาษาทงั้ การพดู และท่าทางไม่ตรงหรอื ไมเ่ หมาะสมกบั ผรู้ บั สาร• 1.5 ใช้วิธีการส่งสารท่ีไม่เหมาะสมกบั บคุ คลและกาลเทศะ• 1.6 มีเวลาไมเ่ พียงพอท่ีจะส่งสารอยา่ งสมบรู ณ์ หรือรีบเร่งเกินไป• 1.7 มีอคติบิดเบอื นขา่ วสารเพื่อประโยชน์บางอย่าง
ปัญหาและอปุ สรรคในการตดิ ตอ่ สอื่ สาร • 2. ปัญหาและอปุ สรรคที่เกิดจากข่าวสาร • 2.1 ขา่ วสารนนั้ ยากแก่การเขา้ ใจ • 2.2 ขา่ วสารนนั้ สนั้ หรอื น้อยเกนิ ไปจนไมส่ ามารถแปลความหมายได้ • 2.3 ขา่ วสารนนั้ ไมไ่ ดจ้ ดั ลาดบั ทด่ี ที าใหเ้ กดิ ความสบั สนและขาดความน่าสนใจ • 2.4 ขา่ วสารนนั้ ขดั กบั คา่ นิยม ความเชอ่ื ระบบความคดิ ของผรู้ บั สารหรอื ของผสู้ ง่ สาร • 2.5 ขา่ วสารนนั้ ไมส่ อดคลอ้ งกบั เหตุการณ์ในปัจจบุ นั • 2.6 ขา่ วสารนนั้ ถูกบดิ เบอื นเพราะผสู้ ง่ เจตนาบดิ เบอื นหรอื อาจเพราะสง่ ผา่ นบคุ คลหลายคน
ปัญหาและอปุ สรรคในการตดิ ตอ่ สอื่ สาร• 3. ปัญหาและอปุ สรรคจากสอื่ ภาษาพูดและภาษาเขยี น• 3.1 คาพูดคาเดยี วมหี ลายความหมาย• 3.2 ภาษาถนิ่ ในแตล่ ะภาคมคี วามหมายไม่เหมอื นกนั ซงึ่ อาจทาใหเ้ ขา้ ใจผดิ หรอื นาไปสคู่ วามไม่พอใจซงึ่ กนั และกนั ได ้• 3.3 คาพูดทเี่ คลอื บแฝงทพี่ ูดออกมาไม่ตรงกบั ความรสู ้ กึ ทแี่ ทจ้ รงิ ของผูพ้ ูด• 3.4 ภาษาท่าทางทอี่ าจแสดงออกมาโดยไม่ตงั้ ใจทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ ได ้• 3.5 สญั ลกั ษณท์ ใี่ ชอ้ าจเขา้ ใจไม่ตรงกนั ในคนบางกลมุ่
ปัญหาและอปุ สรรคในการตดิ ตอ่ สอื่ สาร• 4. ปัญหาและอุปสรรคท่เี กดิ จากผู้รับสาร 4.1 ขาดความรู้พืน้ ฐานเกี่ยวกบั สารที่ตนได้รับ เช่น ไมเ่ คยได้ยินได้ฟังมากอ่ นหรือผ้รู ับสารมีภมู ิความรู้ท่ีน้อยหรือมากเกินไป 4.2 มีทศั นคตทิ ่ีไมด่ ีตอ่ ผ้สู ง่ สารทาให้ความสนใจลดน้อยลงหรืออาจจะไมส่ นใจเลย 4.3 ตงั้ ความคาดหวงั ไว้สงู เกินไปเกี่ยวกบั ผ้สู ง่ สาร เชน่ คาดหวงั วา่ จะได้รับฟังจากนกั พดู ที่มีชื่อเสียงแตเ่ มื่อถงึ เวลาเข้าจริงกลบั ไมเ่ ป็นอยา่ งนนั้
ปัญหาและอปุ สรรคในการตดิ ตอ่ สอื่ สาร• 5. ปัญหาและอุปสรรคจากสง่ิ แวดลอ้ ม• 5.1 เสยี งรบกวนยอ่ มทาใหข้ อ้ มูลจากการฟังบดิ เบอื น• 5.2 แสงทสี่ วา่ งจา้ เกนิ ไปหรอื มดื จนเกดิ ไปจะทาใหข้ า่ วสารบดิ เบอื นได ้• 5.3 อณุ หภมู ทิ หี่ นาวหรอื รอ้ นเกนิ ไปยอ่ มมผี ลตอ่ ผูส้ ง่ สารและผูร้ บั สาร• 5.4 ระยะทางของการตดิ ต่อสอื่ สารถา้ อยู่ห่างไกลกนั มากไปตอ้ งอาศยั คนกลางส่ง ขอ้ มูลย่อมทาใหข้ อ้ มูลบดิ เบอื นได ้• (สมพร สุทัศนีย์, 2544 : 67; สินีนุช ครุฑเมือง แสนเสริม และคณะ, 2557 : ออนไลน์; ชัยวัฒน์ สวัสดิ์พล, 2555 : ออนไลน์)
เอกสารอา้ งอิงกมลรัฐ อินทรทศั น์ และ พรทิพย์ เยน็ จะบก. (2550). การสื่อสารระหวา่ งบุคคล. [ออนไลน]์ . ไดจ้ าก : https://pirun.ku.ac.th /~agrpct/envelop/inter%20personal%20com.doc [สืบคน้ เม่ือ 2 มิถุนายน 2560].สมพร สุทศั นีย.์ (2544). มนุษยสัมพนั ธ์. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .สินีนุช ครุฑเมือง แสนเสริม และคณะ.(2557).ชุดวชิ าการสื่อสารเพ่ือการประสานความร่วมมือในงานส่งเสริมการเกษตร.[ออนไลน์].ไดจ้ าก:http://www.k- station.doae.go.th/kstation/wp-content/ uploads/AEK_304.pdf[สืบคน้ เมื่อ2กนั ยายน2559].ชยั วฒั น์ สวสั ด์ิพล. (2555). ตอนที่ 6 ปัญหาและอปุ สรรคในการตดิ ต่อสื่อสาร. [ออนไลน์]. ไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/chaipatcompanylimited/txn-thi-6 [สืบคน้ เมื่อ 2 กนั ยายน 2559]. •
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: