บทท่ี ๒ เอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง จากการศึกษาในปจั จุบนั เครือ่ งดนตรีของชนเผ่ากะเหรี่ยง มีการปรากฏมากข้ึนแต่ยังไม่ครบ ทุกพ้ืนที่ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเก่ียวกับเอกสารที่กล่าวถึงประวัติของเคร่ืองดนตรีเพียงบางส่วน ข้อมูล ตา่ งๆที่นามาประกอบวิจยั ในคร้ังนจ้ี ึงถือว่ามีความสาคัญต่อการศึกษาค้นคว้าอย่างย่ิงแหล่งข้อมูลท่ีได้ นามาจาก เอกสารงานวิจัย เอกสารวิชาการ และตาราต่างๆ มาเป็นแนวทางในการศึกษาค้นคว้า ดงั น้ี ๒.๑ เอกสาร หนังสือวชิ าการ และตารา ๒.๑.๑ เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ งกับกลุ่มชาติพนั ธ์ุ ๒.๑.๒ เอกสารทเี่ ก่ียวข้องกับดนตรขี องชาวกะเหรย่ี ง ๒.๑.๓ เอกสารที่เก่ียวขอ้ งกบั ประเพณี ๒.๒ งานวิจยั ที่เกย่ี วขอ้ ง ๒.๑ เอกสาร หนงั สอื วชิ าการ และตารา ๒.๑.๑ เอกสารท่ีเกีย่ วข้องกบั กลมุ่ ชาติพนั ธุ์ จากการศกึ ษาเอกสารท่ีเก่ียวข้องกับกล่มุ ชาติพนั ธุ์ นน้ั พบเอกสารท่ีเกยี่ งข้อง ดังนี้ สวุ ัฒนา เล่ียมประวตั ิ (๒๕๔๗: ๔๘) กล่าวถึงกะเหรี่ยงในเมืองไทยที่มีจานวนมากท่ีสุด คือ กะเหรี่ยงสะกอและกะเหร่ียงโปในภาคกลางโดยเฉพาะอย่างย่ิงจังหวัดราชบุรีและเพชรบุรีมีชาว กะเหรี่ยงทงั้ สองกลุม่ อาศยั อยู่ร่วมกับคนไทยและชาติพนั ธ์อนื่ ๆโดยชาวบ้านเรียกชาวกะเหร่ียงโปว่า “กะเหร่ียง” แต่เรียกชาวกะเหร่ียงสะกอว่า “ กะหร่าง ” ชาวกะเหร่ียงยังถูกเรียกขานตามท่ีตั้งถ่ิน ฐาน เช่น ชาวกะเหร่ียงในจังหวัดราชบุรี ถูกเรียกว่า ยางน้า เนื่องจากต้ังถ่ินฐานอยู่ในพ้ืนท่ีราบลุ่ม ระหว่างหุบเขา มกั อยเู่ ปน็ ชมุ ชนหม่บู า้ นที่มปี ระชากร ๓๐๐-๕๐๐ คน มีจานวนทง้ั หมด ๒๗ หมู่บ้าน และยงั เปน็ ชุมชนทม่ี ลี ักษณะทางวัฒนธรรมอยู่มาก สุริยา รัตนกุล (๒๕๓๘: ๑) กล่าวถึงกลุ่มชาติพันธ์ กะเหรี่ยงเป็นช่ือเรียกที่คนทั่วไปเรียก กลุ่มชาติพันธุ์หน่ึงที่อาศัยหนาแน่นในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศไทยซึ่ง กะเหรย่ี งเปน็ ชอ่ื เรียกตามอย่างมอญซ่ึงเรียกกลุ่มชาติพันธุ์น้ีว่า “ กะเรง ” ชนกลุ่มน้ีเรียกตัวเองว่า “ ปกากะญอ ” ซ่ึงแปลว่าคน ทางภาคเหนือของประเทศไทยและทางรัฐฉานของพม่า กลุ่มคนน้ีท่ีรู้จัก การในนาว่า ยาง ซึ่งเป็นคาท่ีพวกซานหรือไทยใหญ่ชอบเรียกกะเหร่ียง พม่าเรียก คะหย่ิน ซึ หมายถึงกะเหรี่ยงสะกอและเหรี่ยงโปว์นอกจากน้ีแล้วยังมีการพบการใช้กะเหรี่ยงขาว ซึ่งเป็นการ เรยี กกะเหรีย่ งสะกอและกะเหรย่ี งโปว์
๗ ๒.๑.๒ เอกสารทเ่ี กีย่ วข้องกับดนตรขี องชาวกะเหรย่ี ง วนิดา ตรีสวัสด์ิ (๒๕๔๓ : ๔๘-๔๙) กล่าวถึงวัฒนธรรมกะเหรี่ยงด้านบทเพลงว่า ชาว กะเหร่ียงมีการรักษาและสืบทอดวัฒนธรรมในหลายรูปแบบ รูปแบบคือการใช้บทเพลงเป็นเคร่ือง สื่อสารถ่ายทอดวถิ ชี วี ติ ภมู ปิ ัญญา ความเชอื่ หรือบอกเรือ่ งราวจากคนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง เพราะ ในอดีตเพลงพ้ืนบ้านเป็นส่ือประเภทหนึ่งท่ีมีบทบาทมากในการอบรมขัดเกลาและถ่ายทอดบรรทัด ฐานทางสังคมแก่สมาชกิ ในสังคม แม้ว่าเพลงพืน้ บ้านจะไมเ่ ปน็ ที่นิยมร้องหรือฟังกันในปัจจุบันแต่ก็ยัง มีให้เหน็ ในวนั สาคัญ หรือในโอกาสพิเศษสิ่งที่น่าสนใจคือเพลงพื้นบ้านยังคงมีบทบาท เพลงกะเหรี่ยง เปน็ เพลงพืน้ บ้านประเภทหนง่ึ ลักษณะของเพลงพ้ืนบ้านคือเป็นมุขปาฐะ ใช้การร้องสืบทอดต่อกันมา ในโอกาสตา่ งๆ เช่น กลอ่ มลูก แตง่ งาน งานศพ เป็นตน้ ๒.๑.๓ เอกสารท่เี กยี่ วขอ้ งกับประเพณี มณี พยอมยงค์ (๒๕๒๙) อ้างถึงใน ลักขณา ศกุนะสิงค์,(๒๕๕๖:๙) ได้ให้ความหมาย ประเพณีไว้ว่า ประเพณีหมายถึง ความประพฤติสืบต่อกันมาจนเป็นที่ยอมรับของคนส่วนรวมซึ่ง เรียกวา่ เอกนยิ มหรือพหุนิยม เชน่ การแต่งงาน การเกิด การตาย การทาบุญ การรื่นเริง เป็นต้น หรือ ความประพฤติที่เรานาชาติอื่นมาปรับปรุง ให้เข้ากับความเป็นอยู่ของเราเพ่ือความเหมาะสมกับกาล สมัยและลักษณะของคนไทย ซ่ึงเรียกว่าสัมพันธไมตรี ตามธรรมชาติ บางอย่างก็ต้องปรับปรุงเพื่อ ความเหมาะสมกบั กาลสมัย และบางอย่างต้องถอื เปน็ แบบสากล แสง จันทร์งาม (๒๕๓๔) ใหค้ วามหมายของ ความเชื่อ หมายถึง กิจกรรมหรือพฤติกรรมทาง จติ ใจท่คี อ่ นข้างสลบั ซับซอ้ นและแบ่งแยกออกเปน็ ๓ ประเภทคอื ๑. ความเชื่อประเภทประสาท (Faith) เป็นความเชื่อท่ีประกอบด้วยอารมณ์ เช่นความรัก ความกลัว ประกอบความจงรักภักดี ความเช่ือถือ บางทีอาจถึงขั้นหลงใหลและความเชื่อแบบ อัต วจิ ยั ( Subjective)คอื ความเชื่อของผเู้ ชอ่ื ๒. ความเช่ือประเภทศรัทธา (Belief) หมายถึงการยอมรับส่ิงใดส่งหน่ึงว่ามีอยู่หรือเป็นอยู่ โดยมีหลักฐานพยานสนับสนุนอยู่บ้าง เน่ืองมีจากเหตุผลมากข้ึน อารมณ์ยอมลดลง มีความ อัตวิสัย น้อยลง ๓ ความเชือ่ ประเภทความรู้ (Knowledge) การยอมรบั สงิ่ ใดส่ิงหนึ่งว่ามีอยู่จริงและได้เข้าไป สมั ผสั สิ่งนั้นโดยตรง ได้มปี ระสบการณโ์ ดยตรงและมีพยานหลกั ฐานพรอ้ มขอ้ มูล เรณู อรรฐาเมศร์ (๒๕๓๔: ๑๕๘) ได้จาแนกประเภทความเช่ือของชาวไทยนั้นสามารถแบ่ง ออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑. ความเชื่อพ้นื บา้ น ซึ้งมกี ารผสมผสานเป็น ๒ ลกั ษณะ ๑.๑ ความเช่ือเร่ืองจิตวิญญาณของธรรมชาติ โดยเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างในธรรมชาติมีจิต วิญญาณ หรอื มผี ้บู งการอยู่เบอื้ งหลงั ธรรมชาติ จงึ ปฏบิ ตั ิต่อธรรมชาติเสมือนว่าธรรมชาติมีชีวิต คือ มี การบชู า ออ้ นวอน ขอบคณุ
๘ ๑.๒ ความเช่ือเรื่องผีวิญญาณ ซ่ึงมีหลายประเภทได้แก่ ความเช่ือผีสามตระกูล คือผีปู่ย่า ผี บรรพบุรุษ และความเช่ือต่อผีอารกั ษ์ เปน็ ลาดับแรกความศรัทธาในลทั ธิศาสนาท่ียิ่งใหญ่อันหนง่ึ ๒. ความเชื่อในศาสนาเป็นความเช่ือที่มีเหตุผลมากกว่าความเช่ือพ้ืนบ้านตามแนวทางวิทยาศาสตร์ ซง่ึ ศาสนาทีส่ าคญั ในประเทศไทยคอื ศาสนาพุทธและศาสนาทยี่ ึดถอื ความเช่ือมาก ก่ิงแกว้ อัตถากร(๒๕๒๐: ๙๒) ได้แบง่ ประเภทความเชอื่ ออกเป็น ๗ ประเภท ดังนี้ ๑. ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติ เกิดจากการท่ีมนุษย์ไม่สามารถหาคาตอบให้กับ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จึงพยายามอธบิ ายในรูปแบบเหนอื ธรรมชาติ ๒. ความเชอ่ื การเกิดและตาย ๓. ความเช่ือเกีย่ วกับการรักษาโรค ๔. ความเช่อื เกย่ี วกับพยากรณ์ ๕. ความเชือ่ เก่ยี วกับอาชีพ ๖. ความเช่อื เก่ยี วกับการสูญเสยี และการไดก้ ลบั คนื ๗. ความเชอ่ื เกย่ี วกบั ครัวเรอื น ๒.๒ งานวจิ ัยท่ีเกีย่ วข้อง จากการศึกษางานวจิ ยั ทเี่ กยี่ วข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์ นนั้ พบงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียงข้อง ดงั น้ี วิสุดา เจียมเจิม(๒๕๕๔ : ๔๒-๔๗) ได้ศึกษาเร่ืองดนตรีของชาวกะเหร่ียงบ้านป่าละอูป วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานภาพและบทบาทของเคร่ืองดนตรีในสังคมของชาวกะเหรี่ยงบ้ านป่าละ อูป เพื่อศึกษารวบรวมองค์ความรู้ทางดนตรีพ้ืนบ้านของชาวกะเหร่ียงบ้านป่าละอูป ดนตรีของชาว กะเหรี่ยงนั้นมีบทเพลงต่างๆก็จะกล่าวถึงธรรมชาติและการดารงชีวิตประจาวันของชาวกะเหร่ียง สว่ นเครื่องดนตรกี จ็ ะทามาจากสง่ิ ใกล้ๆตวั เช่นไม้ไผ่ พดู เลน่ ดนตรสี ่วนใหญ่จะได้รับการถ่ายทอดจาก ครอบครัวของตนซึ่งเป็นนักดนตรีของหมู่บ้าน หรือจะความสนใจทางดนตรีจึงขอเข้าไปเรียนรู้กับผู้ท่ี มีความรู้ความสามารถด้านดนตรีเม่ือมีงานเทศกาล ประเพณีพิธีกรรมทางวัฒนธรรมของชาว กะเหรีย่ งของหมบู่ ้านกจ็ ะใชเ้ คร่ืองดนตรีเข้ามามีบทบาทในพิธีกรรมด้วย แสดงให้เห็นว่าดนตรีได้เข้า มามีบทบาทในวถิ ีชวี ติ ของชาวกะเหรยี่ งไม่ว่าจะเปน็ ทางดา้ นสังคม ความเชื่อเรื่องจีนยานที่มีผลทาให้ เนอ้ื หาของดนตรีแตกต่างกนั ไปตามแต่โอกาส บทเพลงของชาวกะเหร่ียงบ้านป่าละอู ตาบลห้วยสัตว์ ใหญ่ อาเภอหวั หิน จังหวดั ประจวบครี ีขันธน์ ั้นเปน็ เพลงดง้ั เดิมท่ีสบื ตอ่ ๆกนั มา โดยมีเนือ้ หาต่างๆ เช่น ประวัติของชนเผ่า ธรรมชาติ ศาสนา ความเช่ือ ความรัก บทเพลงท่ีนิยมร้องประกอบการบรรเลง เต หนา่ ไดแ้ ก่ เพลงนทิ าน เพลงเกี้ยวสาว ซงึ่ จะใช้ในโอกาสงานประเพณีต่างๆของหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง บ้านป่าละอู บางเพลงยงั มีความเช่ือว่าการรอ้ งเลน่ ดนตรนี ้ันเป็นสอ่ื กลางระหว่างชาวกะเหร่ียงและส่ิง ศักด์ิสทิ ธิ์ นิรันดร์ ภกั ดี (๒๕๕๘:๓๒-๓๖) ได้ศึกษาเรอื่ ง ดนตรีและพิธีกรรมฟ้อนผใี นสังคมวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ วัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาองค์ประกอบของพิธีกรรมฟ้อนผี เพ่ือศึกษาคุณค่าของ พิธีกรรมฟ้อนผีต่อสังคมวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อวิเคราะห์คุณลักษณะของดนตรี เพื่อศึกษา
๙ ความสัมพันธ์ของดนตรีและพิธีฟ้อนผีในสังคมวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ความสาคัญระหว่างดนตรี และพิธีกรรมฟ้อนผี พิธกี รรมเอนผแี ต่ละคร้งั ประกอบด้วยองค์ประกอบสาคัญ คือ มโนทัศน์ความเช่ือ การแสดงร่างทรงของพระพุทธศาสนาการแสดงนัยทางของไสยศาสตร์ การจัดเตรียมเครื่องเช่น สงั เวย และขันครู ท่ีแสดงถึงความหมายในทางมานุษยวิทยา ภูมิปัญญาชาวบ้าน และเครือข่ายของ รา่ งทรง รวมทั้งดนตรีพ้นื บ้าน (วงเต่งถง้ิ ) ท่เี ป็นองค์ประกอบท่ีขาดไม่ได้ ศิริธร สาวเสม (๒๕๕๕:๕๒-๖๐) ได้ศึกษาเรื่อง ดนตรีกะเหรี่ยง : กรณีศึกษาหมู่บ้านโป่ง กระทิง วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาชาวกะเหร่ียงหมู่บ้านโป่งกระทิง เพ่ือศึกษาวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับ ดนตรใี นสังคมกะเหรี่ยง เพือ่ วิเคราะห์ความเข้มแข็งทางวัฒนธรรม ชาวกะเหร่ียงมีวิถีชีวิตแบบพึ่งพา อาศัยธรรมชาติทาให้เกิดเป็นความผูกพัน ส่งผลถึงเร่ืองของความเช่ือในเร่ืองของสิ่งศักดิ์สิทธ์ิ จิต วิญญาณท่ีแฝงอยู่ในธรรมชาติรอบตัว สิ่งเหล่านี้ทาให้เกิดการประกอบพิธีกรรมบวงสรวงให้ส่ิง ศักดิ์สิทธ์ิคุ้มครองให้อยู่ร่มเย็น ทามาหากินได้อย่างสะดวกจนกลายเป็นวัฒนธรรมประเพณีท่ีสืบต่อ กันมา ซึ่งการประกอบพธิ ีกรรมประเพณีล้วนแตม่ ขี องดนตรีเข้าไปมีส่วนร่วมมีเสมอทาให้เราทราบถึง เร่ืองราวต่างๆท่ีถ่ายทอดผ่านบทเพลงออกมาเป็นเร่ืองราวแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของ ชาวกะเหร่ยี ง แต่จากการเปลยี่ นแปลงของสภาพสังคมทาใหม้ ีผลกระทบต่อบทบาทหน้าท่ี ของดนตรี ชาวกะเหรี่ยงที่ลดน้อยลงทุกทีจึงสมควรอย่างย่ิงท่ีจะทาการศึกษาและรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้ ต่างๆ เพื่อให้คงอยู่และเป็นการปลูกจิตสานึกให้คนเห็นในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมดนตรีของตน เพือ่ อนุรักษไ์ วเ้ ป็นมรดกทางชาตพิ ันธส์ ืบไป จากทน่ี ักวิชาการหลายทา่ นไดอ้ ธบิ ายถงึ เครื่องดนตรีของชาวกะเหร่ียงและประเพณีของชาว กะเหร่ียงไว้นั้น สรุปได้ว่าเครื่องดนตรีมีอิทธิพลต่อชาวกะเหรี่ยงอย่างมากซ่ึงเคร่ืองดนตรีมีส่วน เก่ียวข้องกับการดารงชีวิตประจาวันของชาวกะเหรี่ยงท้ังยังทาให้เป็นจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ละ เป็นวฒั นธรรมประเพณีท่ีตอ้ งสืบต่อกันไปสูร่ ุ่นลูกรุ่นหลาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: