4OS_1องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์

รหัสวชิ า 20204-2001 แผนการจัดการเรียนรู้ สอนคร้ังที่ 1 หน่วยท่ี 1 ชื่อวชิ า ระบบปฏบิ ัตกิ ารเบื้องต้น เวลา 4 ชม. ชื่อหน่วย องค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ สาระสาคัญ แนวคิด จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงคท์ วั่ ไป 1. เพ่ือให้รู้เกี่ยวกบั 2. เพ่ือใหม้ ีความเขา้ ใจ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม จุดประสงคน์ าทางดา้ นความรู้ 1. บอกได้ 2. บอกได้ จุดประสงคน์ าทางดา้ นทกั ษะ - จุดประสงคน์ าทางดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 1. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ เชื่อมน่ั ในตนเอง ขยนั อดทน สนใจใฝ่ รู้ในการศึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกบั 2. มีมนุษยสมั พนั ธ์ มีความอดทน อดกล้นั มีเหตุผล มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ และมีความเป็น ประชาธิปไตยในการสนทนาตอบรับกบั ครูและเพ่ือน มีความซื่อสัตยส์ ุจริต สมรรถนะ อธิบายได้ เนื้อหาสาระ คอมพิวเตอร์ หมายถึงอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronics Device) ท่ีช่วยในการจดั การกบั ขอ้ มูล ท้งั ตวั เลข ตวั อกั ษร หรือสัญลกั ษณ์ที่ใชแ้ ทนความหมายในสิ่งต่างๆ โดยคุณสมบตั ิที่สาคญั ของ คอมพิวเตอร์คือการที่สามารถกาหนดชุดคาส่งั ล่วงหนา้ หรือโปรแกรมได้ (Programmable) คอมพิวเตอร์

สามารถทางานไดห้ ลากหลายรูปแบบ ข้ึนอยกู่ บั ชุดคาสั่งที่เลือกมาใชง้ าน ทาใหส้ ามารถนาคอมพวิ เตอร์ไป ประยกุ ตใ์ ชง้ านไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง เช่น การพมิ พเ์ อกสาร การคานวณ การฝาก-ถอนเงินในธนาคาร การ ตรวจสอบสภาพเคร่ืองยนต์ เป็นตน้ ขอ้ ดีของคอมพวิ เตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ มีความถูก ตอ้ ง และมีความรวดเร็ว ประเภทของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์สามารถจาแนกไดห้ ลายประเภท ท้งั น้ี ข้ึนอยกู่ บั ความแตกต่างของขนาดเครื่องความเร็ว ในการประมวลผล และราคาเป็นขอ้ พิจารณาหลกั ซ่ึงโดยทว่ั ไปนิยมจาแนกประเภทคอมพวิ เตอร์เป็น 7 ประเภทดงั น้ี คือ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) คอมพวิ เตอร์เมนเฟรม (Mainframe computer) มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer) คอมพวิ เตอร์ต้งั โตะ๊ (Desktop computer) โนต้ บุค๊ คอมพวิ เตอร์(Notebook computer)คอมพิวเตอร์พกพาขนาดฝ่ ามือ (Hand-held Personal computer) คอมพิวเตอร์แบบฝัง(Embedded computer) ซ่ึงมีรายละเอียด ดงั น้ี 1. ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ (Supercomputer) เป็นคอมพวิ เตอร์ที่ทางานไดเ้ ร็ว และมีประสิทธิภาพสูง กวา่ คอมพิวเตอร์ชนิดอ่ืน สามารถในการประมวลผลไดถ้ ึงพนั ลา้ นคาส่งั ต่อวนิ าที การท่ีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ สามารถทางานท่ีมีการท่ีซบั ซอ้ นไดเ้ ร็ว เพราะมีการพฒั นาใหม้ ีโครงสร้างการคานวณพเิ ศษ เช่นการคานวณ แบบขนานท่ีเรียกวา่ เอม็ พีพี (Massively Parallel Processing : MPP) ซ่ึงเป็นการคานวณท่ีกระทากบั ขอ้ มูล หลาย ๆ ตวั ในเวลาเดียวกนั ตวั อยา่ งการใชง้ านคอมพิวเตอร์ประเภทน้ี เช่น การพยากรณ์อากาศ การ ทดสอบทางอวกาศ นอกจากน้ีมีงานอีกเป็ นจานวนมากท่ีตอ้ งใชซ้ ูเปอร์คอมพวิ เตอร์ซ่ึงมีความเร็วสูง เช่น งาน ควบคุมขีปนาวธุ งานควบคุมทางอวกาศ งานประมวลผลภาพทางการแพทย์ งานดา้ นวทิ ยาศาสตร์ โดยเฉพาะ ทางดา้ นเคมี เภสัชวทิ ยา และงานดา้ นวศิ วกรรมการออกแบบ ปัจจุบนั มีการนาซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ไปใชก้ บั งานออกแบบชิ้นส่วนรถยนต์ งานวเิ คราะห์สิงคา้ คงคลงั หรือแมแ้ ตก่ ารออกแบบงานดา้ นศิลปะ หน่วยงานท่ี มีการใชซ้ ูเปอร์คอมพิวเตอร์ ไดแ้ ก่ องคก์ ารนาซา (NASA) และหน่วยงานธุรกิจขนาดใหญ่ A supercomputer is the fastest, most powerful computer — and the most expensive. The fastest supercomputers are capable of processing more than one quadrillion instructions in a single second. Applications requiring complex, sophisticated mathematical calculations use super computers.

Ten 10 (1 zeros) Hundred 100 (2 zeros) Thousand 1,000 (3 zeros) Ten thousand 10,000 (4 zeros) Hundred thousand 100,000 (6 zeros) Million 1,000,000 (6 zeros) Billion 1,000,000,000 (9 zeros) Trillion 1,000,000,000,000 (12 zeros) Quadrillion 1,000,000,000,000,000 (15 zeros) Quintillion 1,000,000,000,000,000,000 (18 zeros) Sextillion 1,000,000,000,000,000,000,000 (21 zeros) Septillion 1,000,000,000,000,000,000,000,000 (24 zeros) Octillion 1,000,000,000,000,000,000,000,000,000 (27 zeros) Nonillion 1,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000 (30 zeros) Decillion 1,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000 (33 zeros)

Supercomputer “Summit” https://www.techtalkthai.com/summit-world-fastest-supercomputer-is-announced-with-200- petaflops-performance/ 2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) หรือ คอมพวิ เตอร์ขนาดใหญ่ เป็ นคอมพิวเตอร์ที่มี ประสิทธิภาพรองจากซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ สามารถรองรับการทางานจากผใู้ ชไ้ ดห้ ลายร้อยคนในเวลา เดียวกนั ประมวลผลดว้ ยความเร็วสูง มีหน่วยความจาหลกั ขนาดใหญ่ ตลอดจนการจดั เก็บขอ้ มูลไดเ้ ป็น จานวนมาก คอมพิวเตอร์เมนเฟรมนิยมใชก้ บั องคก์ รขนาดใหญ่ที่มีการเขา้ ถึงขอ้ มูลผใู้ ชจ้ านวนมากในเวลา เดียวกนั (Multiple Users) เช่น งานธนาคาร การจองตว๋ั เครื่องบิน การลงทะเบียนและการตรวจสอบผล การเรียนของนกั ศึกษาเป็ นตน้ ปัจจุบนั เมนเฟรมไดร้ ับความนิยมนอ้ ยลง ท้งั น้ีเพราะคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กมี ประสิทธิภาพและความสามารถดีข้ึน ราคาถูกลง ขณะเดียวกนั ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์กด็ ีข้ึนจนทาใหก้ าร ใชง้ านบนเครือข่ายกระทาไดเ้ หมือนการใชง้ านบนเมนเฟรม A mainframe is a large, expensive, powerful computer that can handle hundreds or thousands of connected users simultaneously. Mainframes store huge amounts of data, instructions, and information. Most major corporations use mainframes for business activities. With mainframes, enterprises are able to bill millions of customers, prepare payroll for thousands of employees, and manage thousands of items in inventory.

IBM z14 Mainframe computer https://www.ibm.com/us-en/marketplace/z14

Who's who in the mainframe world? https://www.ibm.com/support/knowledgecenter/zosbasics/com.ibm.zos.zmainframe/zconc_ITroles. htm 3. มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer) หรือคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง นามาใชส้ าหรับประมวลผลใน งานสารสนเทศขององคก์ ารขนาดกลาง จนถึงองคก์ ารขนาดใหญท่ ี่มีการวางระบบเป็นเครือขา่ ยเพ่ือใชง้ าน ร่วมกนั สามารถรองรับการทางานจากผใู้ ชไ้ ดห้ ลายคนในการทางานท่ีแตกต่างกนั เช่น งานบญั ชีและการเงิน งานออกแบบทางวศิ วกรรม งานควบคุมการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม มินิคอมพิวเตอร์เป็ นอุปกรณืท่ี สาคญั ในระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ขององคก์ ารท่ีเรียกวา่ เครื่อใหบ้ ริการ (server) มีหนา้ ท่ีใหบ้ ริการกบั ผใู้ ชบ้ ริการ (client) เช่น ใหบ้ ริการแฟ้มขอ้ มูล ใหบ้ ริการขอ้ มูล ใหบ้ ริการช่วยในการคานวณ และการสื่อสาร can handle four to thousands of connected users simultaneously.

XCY 2 HDMI Business Mini Computer https://www.dhgate.com/product/xcy-2-hdmi-business-mini-computer-hosts- desktop/410349518.html https://www.pcmag.com/encyclopedia/term/47063/minicomputer 4. ไมโครคอมพิวเตอร์เป็ นเครื่องคอมพวิ เตอร์ท่ีมีขนาดเลก็ เป็นคอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer ) หรือเรียกวา่ พีซี (Personal Computer : PC) มีหน่วยประมวลผลกลางเป็นไมโครโพรเซสเซอร์

ใชง้ านง่าย ทางานในลกั ษณะส่วนบุคคลได้ สามารถใชเ้ ป็นเคร่ืองต่อเช่ือมในเครือขา่ ย หรือใชเ้ ป็ นเครื่อง ปลายทาง (terminal) ซ่ึงอาจจะทาหนา้ ท่ีเป็ นเพียงอุปกรณ์รับและแสดงผลสาหรับป้อนขอ้ มูลและดูผลลพั ธ์ โดยดาเนินการการประมวลผลบนเครื่องอ่ืนในเครือข่าย ไมโครคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งแยกตามขนาด· และ ลกั ษณะของเคร่ืองไดด้ งั น้ี A microcomputer is a complete computer on a smaller scale and is generally. This computer designed for an individual work. A microcomputer contains a microprocessor, memory in the form of ROM and RAM , I/O ports and a bus or system of interconnecting wires, housed in a unit that is usually called a motherboard . Types of Micro computers : 4.1. คอมพิวเตอร์ต้งั โตะ๊ (Desktop Computer) หรือเดสกท์ อ็ ปเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer หรือ PC) ที่มีขนาดเลก็ เหมาะกบั โตะ๊ ทางานในสานกั งาน สถานศึกษา และที่บา้ น รูปทรง ของตวั เครื่องคอมพวิ เตอร์จะมีท้งั แบบวางนอน และแบบแนวต้งั ที่เรียกวา่ ทาวเวอร์ (Tower) เพอื่ ประหยดั เน้ือที่เป็ นการวางท้งั บนโตะ๊ และที่พ้นื Desktop Computer 4.2. แล็ปทอ็ ปคอมพวิ เตอร์ (laptop computer) หรือ โนต้ บุก๊ คอมพวิ เตอร์ (Notebook computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเลก็ ท่ีวางใชง้ านบนตกั ได้ สามารถขนยา้ ยหรือพกพาไดส้ ะดวก จอภาพท่ีใชเ้ ป็น แบบแบนราบชนิดจอภาพผนึกเหลว (Liquid Crystal Display : LCD) น้าหนกั ของเคร่ืองประมาณ 1-3 กิโลกรัม เครื่องโนต้ บุค๊ มีสมรรถนะในการทางานเทียบเทา่ เคร่ืองพีซีแบบต้งั โตะ๊ และมีแผงแป้นพมิ พแ์ ละ จอภาพติดกบั ตวั เครื่องรวมท้งั มีแบตเตอรี่ภายในเคร่ือง จึงสามารถทางานไดใ้ นช่วงเวลาหน่ึงโดยไม่ตอ้ งใช้ ไฟบา้ น เหมาะกบั งานส่วนบุคคลและงานสานกั งานท่ีจาเป็นตอ้ งออกนอกสถานที่

Notebook Computer 4.3. ปาลม์ ทอ็ ปคอมพวิ เตอร์ (palmtop computer) เป็นไมโครคอมพวิ เตอร์สาหรับทางานเฉพาะ อยา่ ง เช่นเป็ นพจนานุกรม เป็นสมุดจนบนั ทึกประจาวนั บนั ทึกการนดั หมายและการเกบ็ ขอ้ มูลเฉพาะ บางอยา่ งท่ีสามารถพกพาติดตวั ไปมาไดส้ ะดวก Palmtop Computer

4.4. แทบ็ เล็ตคอมพวิ เตอร์ (Tablet PC : Tablet Personal Computer) แทบ็ เล็ตพซี ี เป็น คอมพวิ เตอร์ขนาดเลก็ ท่ีรวมการทางานทุกอยา่ งไวใ้ นจอสมั ผสั โดยใชป้ ากกาชนิดพิเศษ(Stylus) ปากกา ดจิ ิทลั หรือปลายนวิ ้ เป็นอปุ กรณ์อินพตุ พ้ืนฐาน แทนการใชค้ ีย์บอร์ดและเมาส์ มีอุปกรณ์ไร้สายสาหรับการ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและระบบเครือข่ายภายใน Tablet Computer http://kidsgymnasticscompetitionequipment2019.carslist.co/?order=66&category=Convertible- Laptops&title=Newworldmall+N98+9%22+Inch+Android+4.4+Tablet+PC+Quad+Core+1GB%2B16GB+ W%2F+Mic+US+Plug+White&x=kidsgymnasticscompetitionequipment2019carslist

Smartphone https://consumer.huawei.com/th/phones/ 4.5. Personal Digital Assistant (PDA) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเทา่ กบั เคร่ืองคิดเลข ขนาดเล็ก น้าหนกั เบามาก จึงสามารถวางบนฝ่ ามือไดโ้ ดยมีสมรรถนะในการทางานเฉพาะกบั โปรแกรม สาหรับงานส่วนบุคคล เช่น การรับส่งอีเมล์ การบนั ทึกตารางนดั หมาย และการเขา้ ถึงขอ้ มูลบนอินเตอร์เน็ต เครื่อง PDA PDA 5. คอมพิวเตอร์แบบฝัง (Embedded Computer) หรือไมโครคอนโทรลเลอร์ (Micro Controller) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กมากท่ีใชไ้ มโครโพรเซสเซอร์ชนิดพเิ ศษเพ่ือฝัง (Embed) ไวใ้ นอุปกรณ์ประเภท ต่างๆ เช่น บตั รสมาร์ทการ์ด (Smart Card ) โทรศพั ทม์ ือถือ ตูเ้ ยน็ เตาไมโครเวฟ และรถยนต์ ท้งั น้ีเพอื่ เพิม่

คุณลกั ษณะและความสามารถพิเศษบางประการ เช่น การเกบ็ ขอ้ มูลส่วนบุคคล การใหบ้ ริการดา้ น บนั เทิง การคน้ หาขอ้ มูลบนเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต การควบคุมเร่ืองเวลาและอุณหภูมิ และการใหข้ อ้ มูลเพ่ือ ช่วยในการเดินทาง เป็นตน้ Embedded Computer https://slideplayer.com/slide/11527109/ การทางานของคอมพวิ เตอร์ การทางานของคอมพิวเตอร์ จะมีข้นั ตอนการทางานพ้ืนฐาน 4 ข้นั ตอน ซ่ึงประกอบดว้ ยการรับ ขอ้ มูล การประมวลผล การแสดงผล และการจดั เกบ็ ขอ้ มูล หรือท่ีเรียกยอ่ ๆ วา่ IPOS cycle (Input Process Output Storage cycle) 1. รับขอ้ มูล (Input) คอมพิวเตอร์จะทาหนา้ ท่ีรับขอ้ มูลเพื่อนาไปประมวลผล อุปกรณ์ที่ทาหนา้ ที่ นิยมใชใ้ นปัจจุบนั ไดแ้ ก่ แป้นพิมพ์ (Keyboard) และเมาส์ (mouse) เป็นตน้ 2. ประมวลผล (Process) เม่ือคอมพิวเตอร์รับขอ้ มูลเขา้ สู่ระบบแลว้ จะทาการประมวลผลตาม โปรแกรมหรือคาสั่งท่ีกาหนด เช่น การคานวณภาษี การคานวณเกรดเฉลี่ย เป็นตน้

3. แสดงผล (Output) คอมพวิ เตอร์จะแสดงผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการประมวลผลไปยงั หน่วย แสดงผล อุปกรณ์ทาหนา้ ท่ีแสดงผลที่ใชแ้ พร่หลายในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ จอภาพ (Monitor) และ เคร่ืองพมิ พ์ (Printer) เป็นตน้ 4. จดั เก็บขอ้ มูล (Storage) คอมพวิ เตอร์จะทาการจดั เกบ็ ขอ้ มูลลงในอุปกรณ์เก็บขอ้ มูล เช่น ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) แผน่ ฟลอ็ ปป้ี ดิสก์ (Floppy disk) เป็นตน้ ระบบคอมพวิ เตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบดว้ ย ฮาร์ดแวร์(hardware) ซอฟตแ์ วร์(software) บุคคล (peopleware) ขอ้ มูลและสารสนเทศ (Data/Information) และกระบวนการทางาน (Procedure) 1. ฮาร์ดแวร์ (hardware) ซ่ึงเป็นอุปกรณ์ท่ีเราสามารถจบั ตอ้ งได้ เราจะเรียกฮาร์ดแวร์วา่ Device ฮาร์ดแวร์ แบง่ เป็ น 5 ประเภท อุปกรณ์รับขอ้ มูล (input), อุปกรณ์ส่งขอ้ มูล (output), อุปกรณ์ ประมวลผลขอ้ มูล (system unit), อุปกรณ์เกบ็ ขอ้ มูล (storage device), และอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการสื่อสารขอ้ มูล (communication device) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ จะทางานประสารกนั เพื่อใหเ้ กิดการประมวลผล การจบั เก็บ และการเผยแพร่ขอ้ มูล/สารสนเทศ 2. ซอฟตแ์ วร์ (software) ซอฟตแ์ วร์ หมายถึงชุดคาส่งั ที่ใหฮ้ าร์ดแวร์ในระบบคอมพิวเตอร์ทางาน รวมกนั และช่วยจดั การขอ้ มูลท่ีนาเขา้ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ รวมท้งั เตรียมการใหร้ ะบบสามารถรับคาสง่ั ให้ ทางานตามท่ีมนุษยห์ รือผใู้ ชต้ อ้ งการเฉพาะอยา่ งตามวตั ถุประสงค์ โดยทวั่ ไปมกั จะหมายรวม System

Software หรือซอฟตแ์ วร์ระบบ ซ่ึงไดแ้ ก่ซอฟตแ์ วร์ระบบปฏิบตั ิการ (Operation System) และUtilities เก่ียวกบั ระบบฮาร์ดแวร์ต่างๆ น้นั เอง เช่น window, winamp, winzip, wordprocessor, powerdvd เป็นตน้ 3. บุคลากร (People Ware) เป็นบุคลากรที่เกี่ยวขอ้ งกบั คอมพวิ เตอร์ท้งั ในระดบั ผใู้ ช้ ผบู้ ริหาร ผพู้ ฒั นาระบบ นกั วเิ คราะห์ระบบ นกั เขียนโปรแกรม เป็นตน้ เป็ นองคป์ ระกอบสาคญั ในความสาเร็จของการ ใชค้ อมพิวเตอร์ บุคลากรยงิ่ มคี วามรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์เทา่ ใดโอกาสที่จะใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์ได้ เตม็ ศกั ยภาพยอ่ มมีมากข้ึนเท่าน้นั 4. ขอ้ มูลและสารสนเทศ (Data and Information) 4.1. ขอ้ มูลในระบบคอมพิวเตอร์หมายถึงขอ้ มูลดิบท่ีมีจานวนมาก อาจอยใู่ นรูปของรหสั ต่างๆ ตวั เลข ตวั อกั ษร กราฟิ ก เป็นขอ้ มูลที่ตอ้ งการไดร้ ับการประมวลผลเพือ่ ทราบผลลพั ธ์ หรือตอ้ งการจดั เกบ็ ให้ เป็นระบบระเบียบเพอ่ื ใช่งานตอ่ ไป 4.2. สารสนเทศในระบบคอมพวิ เตอร์หมายถึงผลลพั ธ์ที่คอมพิวเตอร์ประมวลผลขอ้ มูลแลว้ เพอ่ื นาไปใชต้ ามความประสงคข์ องผใู้ ช้ ผลลพั ธ์น้ีเรียกวา่ สารสนเทศ (Information) ซ่ึงสามารถนาเขา้ สู่ระบบ คอมพิวเตอร์เพ่ือประมวลผลในระดบั ต่อไป เช่น เป็ นการวเิ คราะห์ เปรียบเทียบ จดั กลุ่ม สงั เคราะห์ ประเมิน รวมท้งั ปรับปรุงตามที่ผใู้ ชต้ อ้ งการ 5. กระบวนการทางาน (Procedures) หมายถึง กระบวนการหลกั ที่ระบบคอมพิวเตอร์สามารถ ทา ไดแ้ ก่ 5.1. การประมวลผล (Processing) เช่น การคานวณ การเปรียบเทียบ การจดั กลุ่ม การเรียน ลาดบั การปรับปรุงขอ้ มูล การสรุป การแสดงผล เป็นตน้ 5.2. การสร้างความน่าเชื่อถือ (Reliability) ซ่ึงหมายรวมถึงการรักษาความปลอดภยั และความ แมน่ ยาเท่ียงตรงในการทางาน 5.3. การพฒั นา (Development) หมายถึงการพฒั นาคาสั่งหรือโปรแกรมใหส้ ง่ั การระบบฮาร์ดแวร์ ใหท้ างานตามท่ีใชป้ ระสงค์ รูปแบบการประมวลผลของคอมพวิ เตอร์ ลกั ษณะการประมวลผลขอ้ มูล แบ่งของคอมพิวเตอร์ได้ 3 ประเภท คือ 1. การประมวลผลส่วนบุคคล (Personal Computing) ไมโครคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคล (personal Computer: PC) จะมีการประมวลผลโดยใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองจะไมส่ ามารถ ติดต่อสื่อสาร เชื่อมโยงขอ้ มูลร่วมกนั ได้ ซ่ึงหากตอ้ งการใชข้ อ้ มูลร่วมกนั จะตอ้ งคดั ลอกไปยงั หน่วยความจา สารอง เช่น แผน่ ดิสก์ จากเคร่ืองเพ่อื ถ่ายโอนสู่อีกเคร่ืองหน่ึง 2. การประมวลผลแบบรวมศูนย์ (Centralized Computing) เป็นระบบที่นาอุปกรณ์ประมวลผล ท้งั ฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์มารวมไวใ้ นคอมพิวเตอร์เคร่ืองเดียว ใชก้ บั องคก์ รขนาดใหญ่ซ่ึงใชค้ อมพวิ เตอร์ชนิด

เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) โดยมีผทู้ าหนา้ ท่ีควบคุมการประมวลผลเพียงผเู้ ดียว ซ่ึงเป็น ที่ยงุ่ ยากมาก ตอ่ มาจึงมีการพฒั นาการประมวลผล 3. การประมวลผลแบบแบทช์ (Batch Processing) เป็นระบบท่ีทางานในลกั ษณะเตรียมการ ประมวลผลในข้นั ต่อไป โดยใชอ้ ุปกรณ์ประเภท Input/Output Unit ซ่ึงอุปกรณ์เหล่าน้ีไมอ่ ยภู่ ายใตก้ าร ควบคุมของ CPU เช่น เครื่องบนั ทึกเทป (Key to Tape) เครื่องบนั ทึกจานแมเ่ หล็ก (Key to Disk) บตั รเจาะรู (Punched Card) เป็นอุปกรณ์นาเขา้ และอุปกรณ์จดั เกบ็ ขอ้ มูล มีลกั ษณะการประมวลผลโดย มีการรวบรวมขอ้ มูลไวช้ ่วงเวลาหน่ึงก่อนที่จะนาขอ้ มูลมาประมวลผลพร้อมกนั เหตุผลทน่ี าคอมพวิ เตอร์มาใช้งาน 1. สามารถบนั ทึกขอ้ มูลต่างๆ ไดร้ วดเร็ว เช่น การใชเ้ คร่ืองอา่ นรหสั แท่ง (Bar-code) อา่ นเวลาเขา้ - ออก ของพนกั งาน และคิดราคาสินคา้ ในหา้ งสรรพสินคา้ 2. สามารถเก็บขอ้ มูลจานวนมาก ๆ ไวใ้ นฐานขอ้ มูล (Database) เพ่อื ใชง้ านไดท้ นั ท่ี 3. สามารถนาขอ้ มูลท่ีเก็บไวม้ าคานวณทางสถิติ แยกประเภท จดั กลุ่ม ทารายงาน ลกั ษณะตา่ งๆ ได้ โดยระบบประมวลผลขอ้ มูล ตัวอย่างการนาคอมพวิ เตอร์มาประยกต์ใช้งาน ปัจจุบนั ไดม้ ีการนาคอมพวิ เตอร์มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานในองคก์ ารทุกประเภท ท้งั น้ีเนื่องมาจาก คุณสมบตั ิที่ดีในการทางานของคอมพิวเตอร์ท่ีไดก้ ล่าวมาแลว้ ขา้ งตน้ การนาคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ นการ ดาเนินงานมีแนวโนม้ วา่ เพม่ิ ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว ท้งั น้ีเน่ืองมาจากความเจริญทางดา้ นเทคโนโลยที ี่มีการสื่อสารท่ี มีการพฒั นาอุปกรณ์ใหม้ ีประสิทธิภาพสูงข้ึน เช่น โทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ (Mobile Phone) เป็นตน้ 1. การนาเสนอขอ้ มูลขององคก์ าร (Organization Profile) หน่วยงานตา่ งๆ ไดพ้ ฒั นาเวบ็ ไซตเ์ พอื่ เป็นการใหข้ อ้ มูลขององคก์ าร ช่วยใหก้ ารประชาสมั พนั ธ์และการติดต่อส่ือสารเป็นไปอยา่ งรวดเร็ว และ ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ย 2. การนาเสนอและขายสินคา้ และบริการ (Sales and Services) การทาธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตหรือ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ ไดร้ ับความนิยมอยา่ งแพร่หลายในปัจจุบนั บริษทั และธุรกิจประเภทตา่ ง ๆ ไดใ้ ช้ คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตมาเป็นช่องทางการจาหน่ายสินคา้ และบริการอีกทางหน่ึง

3. ตรวจสอบการส่งสินคา้ (Delivery) ปัจจุบนั หลายบริษทั เช่น FedEx และ UPS ในสหรัฐอเมริกา LAZADA ไดน้ าคอมพวิ เตอร์มาช่วยในการตรวจสอบการส่งสินคา้ ใหก้ บั ลูกคา้ ซ่ึงลูกคา้ สามารถติดตามดู สถานภาพของสินคา้ วา่ อยใู่ นกระบวนการใด 4. การออกแบบผลิตภณั ฑ์ (Product Design) เป็นการนาคอมพวิ เตอร์ฮาร์ดแวร์ฮาร์ดแวร์เขา้ มาช่วย ในการออกแบบผลิตภณั ฑ์ เช่น การใชโ้ ปรแกรมประเภทคอมพวิ เตอร์ช่วยออกแบบ(Computer- Aided Design หรือ CAD) มาออกแบบผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมหรือชิ้นส่วน เป็ นตน้

5. งานบญั ชี (Accounting)โปรแกรมระบบบญั ชีไดร้ ับความนิยมเกือบทุกองคก์ ารบางหน่วยงานอาจ ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปทางดา้ นบญั ชี ในขณะที่บางหน่วยงานอาจพฒั นาโปรแกรมข้ึนมาใชเ้ อง โปรแกรมSmartbiz

6. งานบุคลากร (Human Resourcing) การคาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการจดั เกบ็ ขอ้ มูลของบุคลากรใน บริษทั ควบคุมและดูแลบุคลากร ช่วยการวางแผนงานดา้ นบุคลากรช่วยการวางแผนงานดา้ นบุคลากร รวมถึง การพฒั นาคุณภาพบุคลากรใหม้ ีประสิทธิภาพมากข้ึน 7. งานฐานขอ้ มูลลูกคา้ (Customer Database) ใชใ้ นการจดั เกบ็ ประวตั ิและขอ้ มูลทวั่ ไปของลูกคา้ เช่น ขอ้ มูลผปู้ ่ วย ขอ้ มูลลูกคา้ ที่สง่ั ซ้ือสินคา้ เพ่อื ใชใ้ นการจดั ทาสถิติและการวางกลยทุ ธท์ างการตลาด

8. การเรียนการสอน (Teaching and Learning) โลกของเทคโนโลยสี ารสนเทศไดเ้ จริญรุดหนา้ ไปยงั ทุกหน่วยงาน ไมไ่ ดจ้ ากดั เฉพาะวงการธุรกิจเทา่ น้นั แมก้ ระทงั่ หน่วยงานทางการศึกษากไ็ ดน้ าคอมพวิ เตอร์มา ช่วยงานอยา่ งกวา่ งขวางเช่นเดียวกนั ลกั ษณะงานที่เด่นชดั เช่น การนาคอมพวิ เตอร์มาช่วยในการเรียนการ สอน การจดั เก็บขอ้ มูลนกั ศึกษาและผลการเรียน เป็นตน้ https://il.mahidol.ac.th/e-media/computer/system/sys_index.htm https://studylib.net/doc/10231078/computer-system What Is A Computer ? An electronic device that receives data, processes data, stores data, and produces a result (output

). A collection of electronic circuits, which can be on or off (open or closed ). Any computer - regardless of its type - is controlled by programmed instructions, which gives the machine a purpose and tell it what to do. Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 2 Mechanical Engineering Department, GTU COMPUTER SYSTEM These two states of the circuit are represented by two digits, 0 and 1. o Called the binary system. o Combining bits (0 and 1), you can represent any character or number. Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 3 Mechanical Engineering Department, GTU COMPUTER SYSTEM TYPES OF COMPUTER

1. PERSONAL COMPUTER 2. MAINFRAME COMPUTER 3. MINICOMPUTER 4. SUPER COMPUTER Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 4 Mechanical Engineering Department, GTU TYPES OF COMPUTER A complete computer system consists of mainly four parts. 1. Hardware (The computer) 2.Software (Programs) 3.Data (Information) 4.User (People) Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 10 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM Hardware The mechanical devices that make up the computer are called Hardware. A computer’s hardware consists of interconnected electronic devices that you can use to control the computer’s operation, input, and output . Software Software is a set of instructions that makes the computer

perform tasks. In other words we can say that, software tells the computer what to do. Here the program refers to any piece of software . Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 11 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM Data Data consist of individual facts or pieces of information that by themselves may not make much sense to a person. A computer primary job is to process these tiny pieces of data in various ways, converting them into useful information . Users Peoples are the computer operators, also known as users . One can argue that some computer systems are complete without a person’s involvement; however no computer is totally autonomous. Even if a computer can do its job without a person sitting in front of it, people still design, build, program, and repair computer system . Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 12 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM COMPUTER HARDWARE

Information processing cycle is a set of steps the computer follows to receive data, process the data according to instructions from a program, display the resulting information to the user, and store the results .

วงจรการทางานของคอมพวิ เตอร์ Computer System Controllers Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 28 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM • A PC motherboard contains several controllers . • Controllers are devices that control the transfer of data between the computer and peripheral devices . • Common peripheral devices include a mouse, monitor, printer, keyboard, and so on . •

Controllers usually are found on a single chip that can handle all common devices. • Serial and parallel ports are used to connect peripheral devices to the computer circuitry . • Serial devices (mice/monitors) transmit data one bit at a time . • Parallel devices (printers) transmit data several bits at time . • USB is a newer, high - speed method of connecting devices and is beginning to replace serial and parallel ports . • USB can connect up to 127 external devices . • Firewire is another high - speed method . • Firewire can connect up to 63 external devices. OPERATING SYSTEM USING OPERATING SYSTEM: The OS is an example of system software - software that controls the system’s hardware and that interacts with the user and application software. In short OS is the computer’s master control program. The OS provides you with the tool that enables you to Interact with the PC. Types of operating system: Operating system can be organized into four types. 1.Real - time operating system

2. Single - user/single - tasking operating system 3. Single - user/multitasking operating system 4. Multi - user/multitasking operating system Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 31 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM 1. Real - time operating system : A real time operating system is a very fast, relatively small OS. They are build into the circuitry of a device and are not loaded from a disk drive. A real time OS is needed to run real time application Real time application are needed to run medical diagnostics equipment, life support system, machinery, scientific instruments, and industrial systems. 2. Single - user/single - tasking operating system : An operating system that allows a single user to perform just one task at a time is a single - user/single

- tasking operating system . OS can only manage a single task at a time . MS - DOS is one example of a single tasking OS. Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 32 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM 3 . Single - user/multitasking operating system : A Single - user/multitasking operating system is one that allows a Single user to perform two or more functions at once. The multi - tasking features of these OSs have greatly increased the productivity of people in the large variety of jobs because they can accomplish in less time . The disadvantages of Single - user/multitasking operating system is the increased size, complexity to support multitasking. Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 33 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM 4. Multi - user/multitasking operating system : A Multi - user/multitasking operating system is an operating system that allows multiple users to use programs that are simultaneously running on a single network server.

In a Multi - user/multitasking operating system environment, all or most of the computing occurs at the server. The advantage of these operating system is that they can be managed by simply making changes to one server rather than to many desktop computer . A disadvantages is that if the network connection to the server is Broken, the user can not do any work in the application of server. Ex - UNIX, VMS, and mainframe operating system such as MVS. Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 34 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM When computers are connected to other computers They can share information and sometimes hardware (printers) Two Types: Local - Area and Wide - Area Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 35 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM Local Area Networks (LAN): Computers connected together in a relatively close

location such as in the same building or department. The data and software for these computers are stored on a central computer called the file server. Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 36 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM Wide Area Networks (WAN): When local area networks are expanded to include several local area networks within a city, state, region, territory, country, continent, or the world. Dr. Ahmet Zafer Şenalp ME 521 37 Mechanical Engineering Department, GTU 2. BASICS OF THE COMPUTER SYSTEM กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ตอนการเรียนหรือกจิ กรรมของนักเรียน ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ทดสอบก่อนเรียน ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน ทดสอบก่อนเรียน ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน

1. แนะนาวชิ า อธิบายลกั ษณะวชิ า เพ่ือใหน้ กั เรียน 1. รับฟัง แสดงความเห็น ทราบ 2. แจง้ จุดประสงคร์ ายวชิ า มาตรฐานรายวชิ า และ 2. รับฟัง จดบนั ทึกจุดประสงคร์ ายวชิ า มาตรฐาน คาอธิบายรายวชิ า เกณฑ์ และวธิ ีการประเมินผล รายวชิ า คาอธิบายรายวชิ า เกณฑ์ และวธิ ีการ การเรียนใหน้ กั เรียนทราบแนวการสอน บทบาทของ ประเมินผลการเรียน ตนเองในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนใหบ้ รรลุ วตั ถุประสงค์ 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปรายและบอกความหมาย 3. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายและบอกความหมายของ ของโปรแกรมในรูปแบบกราฟิ ก(GUI : Graphic โปรแกรมในรูปแบบกราฟิ ก(GUI : Graphic User User Interface) Interface) ข้นั สอน ข้นั สอน 1. ครูบอกขอบขา่ ยของเน้ือหา และจุดประสงคข์ อง 1. นกั เรียนฟัง จดบนั ทึก หน่วยเรียน 2. บรรยาย อธิบายแนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม 2. นกั เรียนดูเอกสารใบความรู้ท่ี 1 ประกอบการฟัง องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ บรรยาย จดบนั ทึก/ ซกั ถาม 3. ใหน้ กั เรียนทาใบงาน 3. นกั เรียนทาใบงาน ข้นั สรุป ข้ันสรุป 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภิปราย สรุปแนวคิดในการ 1. นกั เรียนฟังสรุปสาระสาคญั ซกั ถาม แสดงความ พฒั นาโปรแกรม องคป์ ระกอบของโปรแกรม คิดเห็น ภาษาคอมพิวเตอร์ ทดสอบหลงั เรียน ทดสอบหลงั เรียน งานทมี่ อบหมายหรือกจิ กรรม ก่อนเรียน นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายและบอกความหมายของโปรแกรมในรูปแบบกราฟิ ก(GUI : Graphic User Interface) ขณะเรียน 1. ครูบรรยาย อธิบายแนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม องคป์ ระกอบของโปรแกรม ภาษาคอมพวิ เตอร์

2. ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 1 สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั โปรแกรมในรูปแบบกราฟิ ก(GUI : Graphic User Interface) หลงั เรียน ครูใหน้ กั เรียนอภิปราย สรุปแนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม องคป์ ระกอบของโปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ ส่ือการเรียนรู้ สื่อสิ่งพมิ พ์ 1. ใบความรู้หน่วยที่ 1 แนวคิดในการพฒั นา และองคป์ ระกอบของโปรแกรม 2. ใบงานท่ี 1 สืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั โปรแกรมในรูปแบบกราฟิ ก สื่อโสตทศั น์ - การวดั และการประเมินผล ก่อนเรียน ผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน ขณะเรียน 1. พฤติกรรมการเรียน ความสนใจรับฟังการบรรยาย และการมีส่วนร่วมในการอภิปราย 2. ผลการปฏิบตั ิงานตามใบงานที่ 1 สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั โปรแกรมในรูปแบบกราฟิ ก หลงั เรียน ผลการทาแบบทดสอบหลงั เรียน บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ ระดบั ความเหมาะสม การใช้แผนการสอน มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ุด

สาระ/เน้ือหา  สื่อการเรียนรู้  กิจกรรม ผลการเรียนรู้  การวดั และประเมินผล   ผลการใช้แผนการสอน สามารถใชแ้ ผนการสอนจดั การเรียนการสอนไดต้ ามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ . . ผลการเรียนของนักเรียน นกั เรียนส่วนใหญต้งั ใจเรียน . . ข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ ควรออกแบบส่ือในเร่ืองภาษาเคร่ือง โดยทาสัญญาณเลขฐาน 2 ใหน้ กั เรียนใชร้ ่วมกบั ตาราง ควรออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ใหผ้ เู้ รียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ เพ่ือกระตุน้ การเรียนรู้ของนกั เรียนที่ไม่ ต้งั ใจเรียน . ควรเพิม่ ใบงานที่ 2 เขียนตวั อยา่ งงานที่มีโครงสร้างแบบลาดบั ข้นั ตอน แบบมีทางเลือก และแบบทาซ้า . ลงชื่อ . ( ) . ตาแหน่ง . วนั ท่ี กิจกรรมหน่วยที่ 1 (ปรับปรุงเพ่อื แกป้ ัญหาจากภาคเรียนท่ีแลว้ ที่แลว้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจภาษาเคร่ือง)

1. ครูแบ่งกลุ่มนกั เรียน กลุ่มละ 4 คน แลว้ แจกตาราง ASCII ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่ม 2. ครูเปิ ดโปรแกรมแสดงสัญญาณเลขฐาน 2 ใหน้ กั เรียนดู แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนตวั อกั ษรจากเลขฐาน 2 โดยดู ตาราง ASCII 3. ครูใหน้ กั เรียนแปลความหมายของสญั ญาณเลขฐาน 2 4. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่ือสารกนั ดว้ ยสัญญาณเลขฐาน 2 8 Bit แลว้ ดูผลวา่ นกั เรียนสามารถส่ือสารกนั ไดห้ รือไม่

ASCII: American Standard Cod

de for Information Interchange)

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ มากทสี่ ุด ระดับความเหมาะสม น้อยทสี่ ุด  มาก ปานกลาง น้อย การใช้แผนการสอน   ผลการเรียนรู้  สาระ/เน้ือหา กิจกรรม  สื่อการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล 2. ใชก้ ารประเมินเชิงตวั เลขเขา้ มาช่วย เพื่อความชดั เจน อาทิ 1) มีผเู้ รียนเขา้ เรียนสายจานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 12 2) มีผเู้ รียนผา่ นตามผลการเรียนรู้ 38 คน คิดเป็นร้อยละ 90 3) มีผเู้ รียนท่ีไมผ่ า่ นผลการเรียนรู้ จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 10 4) มีนกั เรียนส่งงานตรงเวลาตามกาหนดจานวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 80 5) มีนกั เรียนไมส่ ่งงานจานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 20 6) มีนกั เรียนคดั ลอกงานจานวน 12 คน คิดเป็ นร้อยละ 25 7) มีนกั เรียนเขียนคาผดิ /ใชภ้ าษาไม่ถูกตอ้ งจานวน 17 คน คิดเป็ นร้อยละ 38 เป็ นตน้ 3. บนั ทึกขอ้ มูลเชิงคุณภาพในรายละเอียดท่ีเป็นพฤติกรรมของผเู้ รียน อาทิ 1) พฤติกรรมของผเู้ รียน 2) ปัญหาท่ีเกิดข้ึนในช้นั เรียน 4. นาเสนอแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาที่ชดั เจน 5. สรุปผลการแกไ้ ขปัญหาตามท่ีไดเ้ สนอไวว้ า่ ประสบความสาเร็จมากนอ้ ยเพยี งใด ลกั ษณะของ Active Learning (อา้ งอิงจาก :ไชยยศ เรืองสุวรรณ)  เป็นการเรียนการสอนท่ีพฒั นาศกั ยภาพทางสมอง ไดแ้ ก่ การคิด การแกป้ ัญหา การนาความรู้ไป ประยกุ ตใ์ ช้  เป็นการเรียนการสอนที่เปิ ดโอกาสให้ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้  ผเู้ รียนสร้างองคค์ วามรู้และจดั ระบบการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง

 ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มีการสร้างองคค์ วามรู้ การสร้างปฎิสัมพนั ธ์ร่วมกนั และ ร่วมมือกนั มากกวา่ การแข่งขนั  ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ความรับผดิ ชอบร่วมกนั การมีวนิ ยั ในการทางาน และการแบง่ หนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบ  เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ใหผ้ เู้ รียนอา่ น พูด ฟัง คิด  เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนเนน้ ทกั ษะการคิดข้นั สูง  เป็นกิจกรรมที่เปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนบูรณาการขอ้ มูล ข่าวสาร สารสนเทศ และหลกั การสู่การสร้าง ความคิดรวบยอด  ผสู้ อนจะเป็นผอู้ านวยความสะดวกในการจดั การเรียนรู้ เพื่อใหผ้ เู้ รียนเป็ นผปู้ ฏิบตั ิดว้ ยตนเอง  ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองคค์ วามรู้ และการสรุปทบทวนของผเู้ รียน บทบาทของครู กบั Active Learning ณชั นนั แกว้ ชยั เจริญกิจ (2550) ไดก้ ล่าวถึงบทบาทของครูผสู้ อนในการ จดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางของ Active Learning ดงั น้ี  จดั ใหผ้ เู้ รียนเป็ นศูนยก์ ลางของการเรียนการสอน กิจกรรมตอ้ งสะทอ้ นความตอ้ งการในการพฒั นา ผเู้ รียนและเนน้ การนาไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตจริงของผเู้ รียน  สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโตต้ อบท่ีส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนมีปฏิสัมพนั ธ์ท่ีดีกบั ผสู้ อนและเพ่อื นในช้นั เรียน  จดั กิจกรรมการเรียนการสอนใหเ้ ป็นพลวตั ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมท้งั กระตุน้ ใหผ้ เู้ รียนประสบความสาเร็จในการเรียนรู้  จดั สภาพการเรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมใหเ้ กิดการร่วมมือในกลุ่มผเู้ รียน  จดั กิจกรรมการเรียนการสอนใหท้ า้ ทาย และใหโ้ อกาสผเู้ รียนไดร้ ับวธิ ีการสอนที่หลากหลาย  วางแผนเก่ียวกบั เวลาในจดั การเรียนการสอนอยา่ งชดั เจน ท้งั ในส่วนของเน้ือหา และกิจกรรม  ครูผสู้ อนตอ้ งใจกวา้ ง ยอมรับในความสามารถในการแสดงออก และความคิดของผเู้ รียน การสอน (แบบประเมินตนเอง) 1. มีแผนการจัดการเรียนรูค้ รอบคลมุ ทกุ องค์ประกอบของการเขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ 2. มีการวัดผลการเรียนรู้ดว้ ยวธิ ที ี่หลากหลาย 3. จัดการเรยี นการสอนโดยเน้นผูเ้ รยี นเป็นสา่ คัญ 4. สร้างบรรยากาศการเรียนการสอนทีส่ ่งเสริมการเรียนร้ขู องผู้เรียน 5. มกี ารตดิ ตามนกั เรยี นท่ีมีปญั หาหรือไมเ่ ข้าใจในบทเรียน 6. มีการบนั ทึกหลังสอนและน่าผลมาแก้ไข / พัฒนา

7. ส่อื การเรียนการสอน ใบงาน ใบความรู้ …………………………….. สอ่ื ICT …………..………………………………. อนื่ ๆ …………..…………………….……………. การบนั ทกึ หลงั การสอนท่มี ีประสทิ ธิภาพ มเี ทคนคิ ดงั นี ้ 1. จดั ทาแบบฟอร์มเพอื่ การบนั ทกึ ทชี่ ดั เจน ให้ครอบคลมุ หวั ข้อตอ่ ไปนี ้ 1) ผลการเรียนรู้ 2) สาระ/เนอื ้ หา 3) กิจกรรม 4) สอ่ื การเรียนรู้ 5) การวดั และประเมินผล ดงั ตวั อยา่ ง ระดบั ความเหมาะสม การใช้แผนการสอน มากท่สี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่สี ุด 54321 ผลการเรียนรู้ สาระ/เนอื ้ หา กิจกรรม สอ่ื การเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล 2. ใช้การประเมนิ เชิงตวั เลขเข้ามาชว่ ย เพอื่ ความชดั เจน อาทิ 1) มีผ้เู รียนเข้าเรียนสายจานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 12 2) มีผ้เู รียนผา่ นตามผลการเรียนรู้ 38 คน คิดเป็นร้อยละ 90 3) มผี ้เู รียนทไ่ี มผ่ า่ นผลการเรียนรู้ จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 10 4) มีนกั เรียนสง่ งานตรงเวลาตามกาหนดจานวน 35 คน คดิ เป็นร้อยละ 80 5) มนี กั เรียนไมส่ ง่ งานจานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 20 6) มีนกั เรียนคดั ลอกงานจานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 25 7) มนี กั เรียนเขียนคาผิด/ใช้ภาษาไมถ่ กู ต้องจานวน 17 คน คดิ เป็นร้อยละ 38

เป็นต้น FM :TC-01 3. บนั ทกึ ข้อมลู เชงิ คณุ ภาพในรายละเอียดทเ่ี ป็นพฤติกรรมของผ้เู รียน อาทิ ตัวอย่าง 1) พฤตกิ รรมของผ้เู รียน 2) ปัญหาที่เกิดขนึ ้ ในชนั้ เรียน 4. นาเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาทชี่ ดั เจน 5. สรุปผลการแก้ไขปัญหาตามท่ีได้เสนอไว้วา่ ประสบความสาเร็จมากน้อยเพยี งใด แบบบันทกึ หลังการสอน ชื่ออาจารย์ผ้สู อน ผศ. สอนดี ตงั้ ใจสอน วชิ าท่ีสอน (รหสั วชิ า ช่ือวชิ า หนว่ ยกิต) xx- xxx -xxx หน้าท่ีพลเมือง 3(3-0-3) วนั เวลา ที่สอน วนั จนั ทร์ 08.00-11.00 น. ภาคการศกึ ษาท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2554 กลมุ่ นกั ศกึ ษา ปxxx จานวนนกั ศกึ ษาในกลมุ่ 40 คน สปั ดาห์ หวั ข้อ/รายละเอียด กิจกรรม สื่อที่ใช้ การวดั ผล ที่ (หนว่ ยเรียน/บทเรียน/หวั ข้อ) การเรียนการสอน 1 ตรงตามแผน กิจกรรมกลมุ่ ให้เวลา เหมาะสม เหมาะสม มากเกินไป 2 เนือ้ หามากเกินสอนไมท่ นั นศ.ใช้เวลาทากิจกรรม วีดโี อมากเกินไป เหมาะสม 1 หวั ข้อ มากกวา่ ท่ีกาหนด Power point ตวั เลก็ 3 เนือ้ หาน้อย ปรับลาดบั กิจกรรมที่3 เหมาะสม แบบทดสอบ เป็นกิจกรรมที่2 น้อยเกินไป 4

5 12 13 14 15 สรุปปัญหาอปุ สรรค การกาหนดหวั ข้อการสอนยงั ไมเ่ หมาะสม ................. แนวทางการปรับปรุงการสอนครัง้ ตอ่ ไป ทาการทดสอบก่อนเรียนเพ่ือนาผลมาปรับแผนการกาหนดหวั ข้อการสอน ปรับเวลาการทากิจกรรมกลมุ่ ... ลงช่ือ ............................................................อาจารย์ผู้สอน (............................................................) วนั ที่ ............................................