การทายาหอม โครงการพพิ ิธภณั ฑช์ ุมชน รวบรวมโดย สภาวัฒนธรรมตาบลวดั หลวง อาเภอพนสั นิคม จงั หวดั ชลบรุ ี เผยแพรโ่ ดย สานกั หอสมดุ มหาวทิ ยาลยั บูรพา ภายใต้โครงการยกระดบั เศรษฐกจิ และสังคมแบบบูรณาการ (๑ ตาบล ๑ มหาวิทยาลยั ): ตาบลวัดหลวง
คานา เมื่อข้าพเจ้าได้รบั เลอื กให้เป็นประธานสภาวัฒนธรรมตาบลวัดหลวงตั้งแตป่ ี พ.ศ.๒๔๔๑ คิดอยากจะจัดทาพพิ ธิ ภณั ฑ์ชุมชนตาบลวดั หลวง เพื่อเก็บรวบรวมวตั ถุโบราณในชุมชน ไว้ใหค้ น ร่นุ หลงั ไดศ้ กึ ษาหาความรู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ความเปน็ อยู่ดั้งเดมิ ของชาวตาบลวดั หลวง และรวบรวมภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ ด้านตา่ งๆ ไว้เพือ่ ถ่ายทอดองคค์ วามรู้ใหเ้ ยาวชนรุ่นหลงั และ เพอื่ ให้คนรุ่นหลังเกิดความภมู ใิ จในความสามารถของบรรพบุรษุ ของตน ในปี พ.ศ.๒๔๔๒ ได้ของบประมาณจากสภาพัฒนาการเมอื งมาจดั ทาพิพิธภัณฑช์ ุมชนวดั หลวงและจัดทาทาเนียบ ภูมิปัญญาท้องถ่นิ ในการทาทาเนยี บภูมิปัญญาของตาบลวดั หลวงคร้ังนี้ ได้นางสาวถนอม แนน่ หนา เปน็ ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ด้านการทายาหอม จงึ คิดทาเอกสารรวบรวมความร้เู กี่ยวกบั การทา “ยาหอมอินทรโอสถ” และ “ยาหอมสคุ ลทะโอสถ” ไว้ใหผ้ ู้ที่สนใจได้ศกึ ษาหาความรู้และ นาไปฝึกปฏบิ ตั ิจรงิ เพ่ือเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของเจา้ ของตารบั ตอ่ ไป
ยาหอมอินทรโอสถ เปน็ ยาหอมแท่งท่ีสบื ทอดกันมาต้ังแต่โบราณ มีผูป้ รุงยาหอมตารับนี้หลายทา่ นมกี ารปรับปรุงสูตร และวิธีการปรงุ กันมาอย่างตอ่ เน่อื ง ทาให้ได้ยาหอมอินทโอสถท่มี ีลักษณะและสรรพคณุ ที่แตกตา่ ง กนั ออกไป จนมาถึงตารบั ของพระครธู รรมกจิ วิบลู (สมั ฤทธิ์ ธมฺมทนิ โน) เจ้าอาวาสวัดท่ากระดาน ตาบลโคกเพลาะ อาเภอพนัสนคิ ม จงั หวัดชลบุรี ซึ่งตน้ กาเนดิ ทา่ นอยู่ท่ีตาบลวดั หลวง ท่านเกิดที่บ้านเลขที่ ๘/๑ หมู่ ๕ ตาบลวัดหลวง อาเภอพนัสนคิ ม จงั หวดั ชลบรุ ี ไดต้ ารายาหอมอนิ ทรโอสถมาจากหมอกัน หลกั ทอง ซ่ึงอยู่ทต่ี าบลไร่หลักทอง อาเภอพนสั นิคม จงั หวัดชลบุรี ท่านได้ศกึ ษาตารายาคดิ ค้นและปรับปรุง เกยี่ วกับเครอื่ งปรงุ การคัดเลือกตวั ยา วธิ กี ารปรงุ ยาให้ยาหอมอินทรโอสถทมี่ สี รรพคณุ ดีขนึ้ จงึ เปน็ ทน่ี ิยมของผูท้ ไ่ี ด้ใช้ยาหอมอินทาร โอสถตารบั พระครูธรรมกจิ วบิ ูล (สัมฤทธิ์ ธมมฺ ทนิ โน) การปรงุ ยาหอมอินทรโอสถของทา่ น ท่านไม่ เคยหวงตารา ท่านได้พยายามถา่ ยทอดความร้ใู หก้ บั ผู้ทสี่ นใจอยากได้ตารายาหอมอินทรโอสถน้ี มี หลายคนทไ่ี ด้มาศึกษาวิธีการปรงุ โดยไดล้ งมือปฏบิ ตั จิ ริงโดยท่านเปน็ ผคู้ วบคุมดูแลอย่างใกลช้ ิด แต่ปรากฏว่ายังไมม่ ใี ครที่สามารถรับความรจู้ ากท่านและนาไปปรุงต่อได้ นอกจากนางสาวถนอม แน่นหนา ซ่งึ เป็นนอ้ งสาวของท่าน ซงึ่ เป็นผ้ทู ่ไี ดร้ ว่ มปรุงยากับทา่ นมาตลอดชีวติ ของทา่ น ได้ ประสบการณต์ ่างๆ ในการปรงุ ยาหอมอนิ ทรโอสถอย่างละเอียดทุกขนั้ ตอน และอยากไดผ้ ้สู บื ทอด ตารบั ยาหอมอนิ ทรโอสถนี้เพราะเกรงว่าจะสญู หายไป เหมอื นกับตารบั ยาอนื่ ๆ ท่มี แี ละสญู หายไป เม่อื เจ้าตารับเสียชีวติ จึงได้ถ่ายทอดความรใู้ นการทายาหอมอนิ ทรโอสถ มาในรูปแบบของเอกสาร ดงั ตอ่ ไปนี้
วิธปี รงุ ขน้ั ท่ี ๑ นาตัวยาท้ังหมดมาบดทีละอยา่ ง โดยใชเ้ ครอื่ งบด แล้วรอ่ นเอาเฉพาะที่ ละเอียด (ส่วนที่เหลอื เกบ็ ไวท้ ายาสุคนธโอสถ) เอาไปหมักกับน้าดอกไม้ ๑ คืน - อาพนั ทอง ใชต้ าแล้วเอามาเคยี่ ว เอาไวห้ ยดบนหินเวลาบด (ใช้หนิ กบั หนิ บดกัน) - ชะมดเชด็ เอาไปสตุ แล้วเอาไปหยดบนหินเวลาบด - ชะมดเชียง เอาไวห้ ยดบนหนิ เวลาบด - ดงี เู หลือม เอามาลวกน้ารอ้ นเพ่ือฆ่าเช้อื โรค ฆ่าพยาธิ แลว้ เอาไปแช่น้าให้เป่อื ยผสมกับฝิ่น ดบิ (ทสี่ กดั แลว้ ) เอาไว้หยดบนหินเวลาบด - พิมเสน เอามาบดให้ละเอยี ดแลว้ รอ่ น ตักใสบ่ นหนิ เวลาบด ขน้ั ท่ี ๒ ข้นึ หนิ บด เรมิ่ เวลา ๐๖.๐๐น.จนถงึ เวลา ๒๐.๐๐ น. บดจนเหนียว -ยา ๑ เทียบ เนื้อยา ๑๐๔๐ กรัม ใสเ่ ปาะหอม ๗๖ กรมั ชาด ๗๕ กรัม กามะถัน ๗๕ กรมั อาพัน ๒๐ กรมั หญา้ ฝรั่น ๑๒ กรมั ดีงู ๑๕ กรมั ชะมดเชด็ ๒๐ กรมั พิมเสน ๑๕๐ กรัม ขั้นที่ ๓ เอายาทบี่ ดจนเหนียวแล้วมาอัดพมิ พ์ เพือ่ ทาเป็นแท่ง (ห้ามถูกลม ถา้ ถกู ลมจะแตก) แลว้ ใช้ นวิ้ คลึงกับหินให้เป็นรูปแท่ง ใส่ถาดแลว้ คอยเอาถาดอกี ใบครอบคอยพลกิ ๒-๓ ช่ัวโมง/ครัง้ (ถ้าไมพ่ ลกิ แท่งจะแบน) เช้ามาคลึงอีกทาแบบน้ี ๔ วัน หรอื จนหมาดรูปรา่ งคงที่ ตอ่ ไปใช้ กระจกคลงึ แท่งยาหอมบนกระจก ประมาณ ๑ อาทิตย์ ใส่ ถาดใหญ่ใช้ผ้าขาวบางคลมุ (ถ้า อยใู่ นห้องแอรไ์ มต่ ้องคลุม) ๑ เดอื นแหง้ สนทิ ขั้นท่ี ๔ เอาแทง่ ยาหอมหลายๆ แทง่ ใส่ลงในถุงผา้ ทม่ี ลี ักษณะลน่ื เขย่าใหแ้ ทง่ ยาหอมถูกนั จนเปน็ มัน (ทดสอบโดยเอาแท่งยาหอมโยนขน้ึ สงู ๆ ปล่อยใหต้ กลงมาบนพ้นื ถา้ ไมห่ ักไม่รา้ ว เปน็ อันใชไ้ ด้) ขัน้ ที่ ๕ เกบ็ ยาแทง่ ในโหลสีนา้ ตาล ใช้สาลีปิดบนแท่งยาและปดิ ฝา เก็บในท่ีทีไ่ ม่ถกู แสงสวา่ ง สรรพคุณ แก้โรคลม บารุงหวั ใจ แกอ้ าการออ่ นเพลีย
ยาหอมสุคลทะโอสถ
วธิ ปี รงุ บดเครื่องปรุงทลี ะอยา่ งแล้วร่อน เหลอื หยาบบดต่ออีกจนหมด เกสรทุกชนดิ โม่รวมกนั พร้อมกบั ส่วนที่เหลือจากการร่อนเคร่ืองปรุงยาหอมอินทโอสถ ผสมใสต่ ุ่มเอาพายกวนส่วนพมิ เสน เอามาบด ชะมดเชด็ เอามาสตุ ใสต่ อนผสมในตุ่ม นางพรรณี หมเี ฟ่ือง ประธานสภาวัฒนธรรมตาบลวัดหลวง ผรู้ วบรวมข้อมูล ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๒๒
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: