โรงเรียนนวมนิ ทราชินูทศิ สตรีวทิ ยา พุทธมณฑล วชิ า ชีววทิ ยา 1 รหสั วชิ า ว30241 เอกสารประกอบการสอน เร่ือง การย่อยอาหารของสิ่งมชี ีวติ เซลล์เดยี วและสัตว์ ครูผ้สู อน นางสาวสุดารัตน์ คาผา การย่อยอาหารของสิง่ มีชีวิตเซลลเ์ ดียวและสตั ว์ การยอ่ ยอาหารของสง่ิ มชี วี ติ เซลลเ์ ดียว 1
อาหารใน food vacuole ของโพรโทซัวจะถกู ย่อยโดยนา้ ย่อยจากไลโซโซม ซงึ่ จะยอ่ ยไดท้ ัง้ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ดงั น้นั ไลโซโซมจะทา้ หน้าทเ่ี ทียบไดก้ บั ตับออ่ นและลา้ ไส้เลก็ ของคน การย่อยอาหารของสตั ว์ 2
2.1 การยอ่ ยอาหารของสัตวท์ ไี่ ม่มีทางเดินอาหาร ฟองนา้ (Spongy) ฟองนา้ กนิ อาหารโดยการจบั อนุภาคอาหารขนาดเลก็ ที่ปะปนอยู่ในนา้ ทะเลซึง่ ถูกพัดพาผ่านรเู ลก็ ๆ ของชอ่ งน้าเขา้ ถกู กรองเขา้ ไปในตวั ฟองน้า โดยเซลลท์ ่มี ีแฟลกเจลลมั (flagellum) ซ่งึ เรยี กว่า โคแอนโน ไซต์ (choanocyte) โบกน้าผา่ นเข้ามาและใชเ้ มือกจบั อนุภาคอาหารนั้น แลว้ ใช้กระบวนการฟาโกไซโทซิส (phagocytosis) จบั อาหารเข้าเซลลพ์ รอ้ มกับสรา้ ง ฟดู แวคิวโอล (food vacuole) อาหารจะถกู ยอ่ ยและ ส่งไปตามสว่ นตา่ งๆ โดยเซลล์อะมโี บไซต์ (amoeocyte) ภาพท่ี1 การกนิ อาหารของฟองน้า 2.2 การยอ่ ยอาหารของสตั ว์ทีม่ ที างเดนิ อาหารแบบไมส่ มบรู ณ์ ไฮดรา (hydra) ดอกไม้ทะเล ปะการงั กัลปังหา มีชอ่ งภายในลา้ ตัว ทเ่ี รียกวา่ ชอ่ งแกสโทรวาสคิวลาร์ (gastrovascular cavity) ซ่ึงเปน็ ชอ่ งทีม่ ีรูเปิดเพียงทางเดยี ว รูเปิดนีท้ ้าหนา้ ทีเ่ ป็นท้งั ปากในการกนิ อาหาร และเป็นทวารหนกั ในขับของเสยี เมอ่ื สตั วพ์ วกน้ใี ช้ แทนตาเคิล (tentacle) หรอื หนวดเล็กๆ ท่มี ีเขม็ พษิ (nematocyst) จับเหย่อื ใส่ปาก อาหารจะเขา้ ไปในชอ่ งแกสโทรวาสคิวลาร์ ทีผ่ นังของช่องนม้ี ี เซลล์ต่อม (gland cell) ท้าหน้าท่ีปลอ่ ยเอนไซม์ออกมายอ่ ยอาหารในชอ่ งแกสโทรวาสคิวลาร์ ซึ่งอาหารบางสว่ น ท่ยี ่อย แลว้ อาจถกู เซลลย์ อ่ ยอาหาร (digestive cell หรอื nutritive cell) ทอ่ี ยู่ทผี่ นังของช่องแกสโทรวาสคิวลาร์ ท้า การจบั และย่อยภายในเซลล์ดว้ ยกระบวนการแบบเดยี วกับอะมบี า 3
ภาพท่ี 2 ระบบทางเดนิ อาหารของไฮดรา พลานาเรยี (Planaria) เป็นสัตว์พวกหนอนตัวแบนชนิดหนง่ึ ทีด่ า้ รงชีพอิสระ จับเหยื่อโดยการปลอ่ ยเมอื กออกมาและใช้ล้าตวั คลุมลงบนตวั เหยอ่ื เหย่ือจะถกู เมอื กพนั ตวั ท้าใหเ้ คลื่อนไหวไม่ได้ และจะใช้งวงหรือ ฟารงิ ซ์ (phalynx) ยื่น ออกมาดดู ของเหลวในตวั เหย่อื เปน็ อาหาร หรือกลืนเหยื่อเขา้ ไปชอ่ งแกสโทรวาสควิ ลารท์ แ่ี ตกแขนงทอดยาวไป ตามล้าตวั เซลล์ตอ่ มท่ีอยตู่ ามผนงั ทางเดินอาหารจะปล่อยเอนไซมอ์ อกมายอ่ ยอาหาร และชน้ิ ส่วนที่ย่อยแลว้ จะมีเซลลท์ ี่ผนังทางเดนิ อาหารโอบลอ้ มอาหารเขา้ ไปยอ่ ยภายในเซลล์ตอ่ ส่วนกากอาหารท่ีย่อยไม่ได้กจ็ ะกลับ ออกมาทางปาก ภาพท่ี 3 ระบบทางเดนิ อาหารของพลานาเรีย 4
2.3 สัตวท์ ่มี ที างเดินอาหารสมบรู ณ์ (complete digestive tract) ทางเดินอาหารสมบูรณ์ หมายถึง ทางเดนิ อาหารท่ีมีช่องเปิดของทางเดินอาหาร 2 ช่อง คือ ปากเป็น ทางเขา้ ของอาหาร และทวารหนักเป็นทางออกของกากอาหาร สว่ นใหญน่ บั ตั้งแตห่ นอนตวั กลมข้นึ มาจนถึง สตั ว์มกี ระดกู สันหลงั จะมที างเดนิ อาหารท่เี ปน็ ทางเดนิ อาหารสมบูรณ์ ซ่ึงทางเดินอาหารของสัตวท์ กุ ชนดิ จะมี ลกั ษณะเป็นท่อเหมือนกนั หมด แตบ่ รเิ วณตา่ งๆ ภายในทอ่ จะเปลี่ยนเปน็ อวัยวะทา้ หน้าที่แตกต่างกนั ไปในสัตว์ แตล่ ะชนิด ไสเ้ ดอื นดิน (earthworm) มปี ากท้าหน้าทดี่ ดู ซึง่ จะตอ่ กบั กลา้ มเนือ้ ท่ีเรยี กว่า คอหอย (phalynx) เข้าสู่หลอดทางเดินอาหารผา่ นไปยังถุงพกั อาหาร (crop) ซงึ่ มีผนงั บาง ส่งต่อไปยัง กึ๋น (gizzard) ท่มี ลี กั ษณะ เปน็ ถุงของกล้ามเนอื้ ที่หนาและแขง็ แรง ภายในมกี ้อนหนิ เลก็ ๆ อยดู่ ว้ ย ทา้ หนา้ ท่ใี นการบดอาหาร ล้าไส้ (intestine) มกี ารย่อยอาหาร ที่บรเิ วณเยื่อบลุ า้ ไส้จะมี เซลลพ์ เิ ศษ (glandular cell) ท้าหนา้ ท่หี ลังนา้ ย่อย เพอื่ ยอ่ ยอาหารและดดู ซึมสารอาหารที่กนิ เข้าไป ส่วนกากอาหารหลงั จากยอ่ ยแลว้ จะถกู ขบั ออกมาทาง ทวาร หนกั (anus) การย่อยอาหารท่ลี า้ ไส้เป็นการย่อยอาหารภายนอกเซลล์ ภาพท่ี 4 ระบบทางเดินอาหารของไสเ้ ดือน แมลง (insect) ทางเดินอาหารของแมลงจะมปี ากท้าหนา้ ที่ดูดหรอื กัดซ่งึ ก็แล้วแตช่ นดิ ของแมลง ใน ปากมตี ่อมนา้ ลายสรา้ งนา้ ย่อย ตอ่ จากปากเป็นหลอดอาหาร ถุงพกั อาหารและกน๋ึ (proventiculus หรอื gizzzard) กนึ๋ มผี นงั ดา้ นในเป็นสนั และมีซ่ีฟันที่แขง็ แรงท้าหน้าทบี่ ดอาหาร มีติง่ แกสตริซีกา (gastriccaeca) อยรู่ ะหวา่ งกึ๋นกบั ล้าไสท้ ้าหนา้ ท่สี ร้างน้าย่อยช่วยยอ่ ยอาหาร ล้าไส้ของแมลงประกอบด้วย 2 ส่วน คอื ล้าไส้ (intestine) และไส้ตรง (rectum) ลา้ ไส้ทา้ หน้าท่ีย่อยและดดู ซมึ อาหาร กากอาการทเ่ี หลือจากการยอ่ ย อาหารจะออกมาทางทวารหนกั (anus) 5
ภาพที่ 5 ระบบทางเดนิ อาหารของตกั๊ แตน สัตว์ปกี (avis) เช่น เป็ด ไก่ นก มจี ะงอยปากท่ีท้าหนา้ ที่ จกิ ดูด บางชนิดมีฟันอยู่ในปากทา้ หน้าทีข่ บ กดั ไดด้ ว้ ย และมีตอ่ มนา้ ลายสรา้ งนา้ ยอ่ ยมาย่อยอาหารภายในปาก หลอดอาหารเปน็ เพยี งทางผ่านของอาหาร ถัดไปเป็นถงุ พักอาหาร (crop) กระเพาะอาหารมลี ักษณะเปน็ ทอ่ กน๋ึ (gizzzard) เป็นกระเปาะทม่ี ีกล้ามเนื้อท่ี แข็งแรงท้าหนา้ ท่ีบดอาหารและมกั มเี มด็ กรวดทรายอยภู่ ายในเพื่อช่วยบดอาหารด้วย ตับและตับออ่ นสรา้ ง นา้ ยอ่ ยเพ่อื ย่อยอาหาร ล้าไสข้ องสัตวป์ กี ประกอบด้วย 2 ส่วน คอื ล้าไส้ (intestine) และไสต้ รง (rectum) ลา้ ไส้ท้าหน้าท่ียอ่ ยและดูดซมึ อาหาร กากอาการทีเ่ หลือจากการย่อยอาหารจะออกมาทางทวารหนกั (anus) ภาพที่ 6 ระบบทางเดนิ อาหารของนก สัตว์เลยี้ งลูกดว้ ยน้านม (mammal) ภายในปากจะมีฟนั ท้าหนา้ ทฉ่ี ีก ตดั หรอื บดอาหารนอกจากนยี้ ัง มตี อ่ มน้าลายหล่งั น้ายอ่ ย และมีการย่อยสารอาหารและเภทคาร์โบไฮเดรตบ้างในปาก ฟนั ของสัตว์เล้ียงลูกดว้ ย นา้ นมมี 4 ชนิด โดยแบ่งตามหน้าทข่ี องฟนั ได้แก่ ฟันตัด (incisor) ทา้ หน้าท่ตี ดั ฟันเขย้ี ว (canine) ท้า หนา้ ทฉ่ี ีก ฟันบด (premolar) และฟนั กราม (molar) ท้าหนา้ ท่ีบดอาหาร คอหอย (phalynx) อยู่ถดั จาก ปากเขา้ มามลี กั ษณะเปน็ หลอดกลา้ มเนอ้ื เข้าส่กู ระเพาะซง่ึ มีลกั ษณะเปน็ ถุงขนาดใหญ่และแข็งแรงสามารถมี การเคล่ือนไหวหรอื คลกุ เคลา้ อาหารกบั นา้ ยอ่ ยซ่งึ สร้างจากกระเพาะเอง นา้ ย่อยในกระเพาะสว่ นใหญ่จะย่อย 6
สารอาหาประเภทโปรตนี ถัดจากกระเพาะอาหารเปน็ ล้าไสเ้ ล็ก (small intestine) แบง่ เป็น 3 ส่วน ล้าไส้ สว่ นตน้ (duodenum) ลา้ ไสส้ ่วนกลาง (jejunum) ลา้ ไสส้ ่วนทา้ ย (ileum) ท่ลี ้าไส้เล็ก ล้าไส้สว่ นตน้ จะมี นา้ ยอ่ ยจากตบั อ่อน นา้ ดีจากตบั และนา้ ยอ่ ยจากล้าไสเ้ ล็กเองมาชว่ ยย่อยอาหาร ลา้ ไส้เลก็ มกี ารยอ่ ยอาหารทัง้ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ไดอ้ ย่างสมบรู ณ์ และมกี ารดูดซมึ อาหารไดม้ ากที่สดุ ล้าไสใ้ หญ่ (large intestine) มี 3 สว่ น ได้แก่ ซกี ัม (caecum) โคลอน (colon) และไส้ตรง (rectum) ในล้าไส้ใหญไ่ มม่ กี าร หลั่งน้าย่อยแตจ่ ะมจี ลุ ชพี ทส่ี ร้างวติ ามินบี 12 ไนอาซนิ กรดเพนโททนี กิ และกรดฟลิ กิ ซึ่งมีบทบาทเก่ยี วกับการ หายใจระดับเซลลแ์ ละการสรา้ งเมด็ เลอื ด ทล่ี า้ ไส้ใหญไ่ ม่มีการย่อยอาหารแต่จะมีการดูดซมึ นา้ และอาหารทยี่ อ่ ย แล้ว กากอาหารท่ยี ่อยแลว้ ถา้ อยใู่ นลา้ ไสใ้ หญเ่ ปน็ เวลานานจะมีการดดู ซมึ น้าท้าใหก้ ากอาหารขน้ และแขง็ เปน็ สาเหตใุ หเ้ กดิ ภาวะทองผูกได้ กากอาหารเหลา่ น้ีจะถูกขับถา่ ยออกทางทวารหนัก (anus) สัตวเ์ คย้ี วเอ้ือง (ruminants) เชน่ พวกวัว ควาย เป็นต้น กระเพาะมีลักษณะพิเศษทแี่ ตกต่างจาก สตั ว์ทีเ่ ลยี้ งลกู ด้วยน้านมชนิดอนื่ ๆ กระเพาะอาหารแบง่ ออกเปน็ 4 สว่ น คือ รูเมน (rumen) หรือที่เรยี กว่า ผา้ ข้ีรว้ิ เรติคูลัม (reticulum) หรือเรียกว่ารงั ผง้ึ โอมาซมั (omasum) หรอื ทเี่ รียกว่าสามสบิ กลีบ และอะ โบมาซัม (abomasun) กระเพาะอาหารส่วนรูเมนเปน็ สว่ นท่ีใหญ่ท่ีสดุ กระเพาะอาหารสว่ นรูเมนและเรติ คูลมั จะมจี ุลชพี ท่ียอ่ ยเซลลูโลส เช่น พวกแบคทีเรียและโปรโตซัวมีการหมักอาหารใน เรตคิ ลู มั และสามารถ สา้ รอกออกมาเคีย้ วใหม่ได้ ทีก่ ระเพาะอาหารสว่ นโอมาซมั มกี ารดูดกลบั นา้ เป็นจ้านวนมากท้าให้อาหารขน้ ขนึ้ กระเพาะอาหารสว่ นแอบโอมาซมั จัดเป็นกระเพาะทแ่ี ท้จรงิ เพราะมกี ารหล่งั กรดเกลือและน้าย่อยออกมาย่อย โปรตนี อาหารทีถ่ ูกยอ่ ยบางสว่ นจะถกู ดูดซมึ กอ่ นทีจ่ ะส่งผ่านไปยงั ล้าไสเ้ ล็ก ทจี่ ะมกี ารย่อยและดูดซมึ บางส่วน และส่งต่อไปล้าไส้ใหญ่ท่ีมีการดดู ซึมนา้ และอาหารท่เี หลือ และขบั กากอาหารออกทางทวารหนกั ภาพที่ 7 ระบบทางเดินอาหารของวัว 7
อาหาร ปาก เคยี ้ ว กลนื หลอดอาหาร กระเพาะอาหารส่วนรูเมน เคีย้ วเออื ้ ง กลนื มีแบคทีเรียและโพรโทซวั ชว่ ยยอ่ ย เซลลโู ลส นอกจากนจี ้ ลุ นิ ทรีย์ยงั บบี ตวั ยอ้ นกลบั สงั เคราะห์กรดอะมิโนจากยเู รีย และแอมโมเนยี ที่เกิดจากการหมกั รวมทงั้ สงั เคราะห์กรดไขมนั และ วติ ามินบี 12 กระเพาะอาหารส่วนอะโบมาซมั กระเพาะอาหารส่วนโอมา สำรอก ทาหน้าที่หลงั่ เอนไซม์ออกมายอ่ ย ซมั ทาหน้าทบ่ี ดและผสม กระเพาะอาหารส่วนเรติ อาหาร อาหาร คลู ัม ทาหน้าท่ีบดและผสม อาหาร ลาไส้เล็ก ลาไส้ใหญ่ ทวารหนกั ทาหน้าท่ยี อ่ ยและดดู ซมึ อาหาร การยอ่ ยอาหาร ตามปกติ การเคยี ้ วเออื ้ ง ภาพท่ี 8 แผนภาพแสดงการเคล่อื นท่ขี องอาหารผา่ นทางเดินอาหาร และการเคย้ี วเอื้องในสัตว์เคย้ี วเออื้ ง สัตวใ์ นกลุ่มท่ีกินพืชเป็นอาหาร พบวา่ ทางเดนิ อาหารจะมจี ุลชีพชว่ ยยอ่ ยเซลลโู ลสที่ซกี ัมซึ่งเป็นแขนงที่ ย่ืนจากลา้ ไส้ใหญ่และเมือ่ พิจารณาดูชนิดฟันของสตั วก์ นิ พืชพบวา่ ไม่มฟี นั เขย้ี วหรอื ถ้ามีก็ไมแ่ หลมคม นอกจากน้ีความยาวของทางเดินอาหารของพวกทีก่ ินทง้ั พืชและสัตว์ และพวกที่กินสตั วเ์ ปน็ อาหารตามลา้ ดบั เชน่ ลูกอ๊อดกินพชื เป็นอาหารมีทางเดินอาหารยาวมากและมลี กั ษณะขดม้วน เม่ือเจรญิ เปน็ กบการกินอาหร เปล่ียนไป โดยกนิ สตั ว์เปน็ อาหารทางเดินอาหารจะส้นั ลงเมอื่ เทียบกับระยะทเ่ี ปน็ ลูกอ๊อด ทม่ี า: ประคอง ตงั ประพฤทธ์ิกลุ . 2548. ชีววทิ ยา: สัตววทิ ยา1. ดา่ นสทุ ธาการพมิ พ์, กรุงเทพฯ. ประสงค์ หลาสะอาด และจติ เกษม หลาสะอาด. 2548. ค่มู อื การเรียนรู้พนื้ ฐานและเพ่มิ เตมิ ชีววทิ ยา ม.4 เล่ม 2. พ.ศ.พฒั นา จากดั .กรุงเทพฯ. สมาน แก้วไวยทุ ธ. 2544. ชีววทิ ยา ม. 4 เล่ม 2. ไฮเอด็ พบั ลชิ ชิง, กรุงเทพฯ อษุ ณีย์ ยศย่งิ ยวด. 2547. ชีววทิ ยา.นานมีบคุ ส์.กรุงเทพฯ. อาพา เหลอื งภริ มณ์. 2544. สรีรวทิ ยาของสัตว์. ภาควชิ าชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น. Campbell, N.A. and Reec, J.B. 2002. Biology 6th education. Benjamin/Cummings Pubrishing Company, Inc. San Francisco. 8
โรงเรียนนวมนิ ทราชินูทศิ สตรีวทิ ยา พทุ ธมณฑล วชิ า ชีววทิ ยา 1 รหสั วชิ า ว30241 แบบทดสอบ เรื่อง การย่อยอาหารของสิ่งมชี ีวติ เซลล์เดยี วและสัตว์ ครูผ้สู อน นางสาวสุดารัตน์ คาผา ชื่อ ......................................................................................ชนั้ ............. เลขที่ ........... วนั ท่ี .......................... ค้าชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเตมิ ข้อความลงในช่องวา่ งใหส้ มบรู ณ์ 1. การได้มาซ่งึ อาหารของสิ่งมชี วี ิต แบ่งออกเป็น .............. ประเภท ได้แก่ .............................................................................................................................................................................. 2. สิ่งมชี วี ิตท่ไี ด้รับสารอาหารจากการกนิ ส่ิงมชี ีวติ อืน่ แบ่งออกเปน็ .............. ประเภท ได้แก่ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. การยอ่ ยอาหารในสิง่ มชี ีวิตแบง่ เปน็ .... ประเภท ได้แก่ .................................................................................. 4. วิธกี ารกนิ อาหารของพารามเี ซียม เรยี กวา่ ..................................................................................................... 5. ส่ิงมชี วี ิตทไ่ี ด้รบั สารอาหารจาก host เรยี กว่า ....................................................................................... ไดแ้ ก่ .................................................................................................................................................................. 6. decomposers มวี ิธีการไดม้ าซงึ่ สารอาหารอยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. ยกตวั อย่างส่ิงมีชีวติ ทเ่ี ป็นdecomposers ........................................................................................................... 7. oral groove คือ ............................................................................................................................................ มีความส้าคญั อยา่ งไร ............................................................................. พบใน ................................................ 8. . โครงสรา้ งใดของสิง่ มีชวี ิตเซลล์เดยี วท่ีทา้ หน้าทีส่ ร้างเอนไซม์ออกมายอ่ ยอาหาร .............................................................................................................................................................................. 9. เหตุใดจงึ เปรยี บเทยี บไลโซโซมในส่ิงมชี วี ติ เซลล์เดียวกับตบั อ่อนหรือลา้ ไสเ้ ล็กของคน .............................................................................................................................................................................. 10. การยอ่ ยอาหารของส่ิงมีชีวติ เซลลเ์ ดียวเปน็ การย่อยภายในเซลลห์ รือการยอ่ ยภายนอกเซลลเ์ พราะเหตุใด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 11. นกั เรยี นราขนมปงั มีการย่อยอาหารเช่นเดียวกบั อะมีบาหรือไม่ เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................................................. 12. ทางเดนิ อาหารในสัตวแ์ บง่ ออกเปน็ 2 ชนิด ได้แก่ 1) ........................................................ หมายถึง .............................................................................................. 2) ......................................................... หมายถึง ............................................................................................. 13. ฟองน้ารับอาหารดว้ ยวธิ กี ารใด .................................................................................................................... 14. โครงสร้างใดของเซลลใ์ นฟองนา้ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การย่อยอาหาร .............................................................................................................................................................................. 9
15. การยอ่ ยอาหารของฟองนา้ เป็นการยอ่ ยภายในเซลล์หรอื การย่อยภายนอกเซลล์เพราะเหตุใด อธิบาย .............................................................................................................................................................................. 16. ฟองน้ามีทางเดนิ อาหารแบบใด .................................................................................................................... 17. Gastrovascular cavity คือ ........................................................................................................................ พบใน ............................................................................................................................................................... 18. tentacle คือ ..................................................................................................... พบใน ............................... 19. อวัยวะใดบ้างของไฮดราท่เี กี่ยวขอ้ งกับระบบย่อยอาหาร .............................................................................................................................................................................. 20. ไฮดรามที างเดนิ อาหารแบบใด ..................................................................................................................... 21. การยอ่ ยอาหารของไฮดราเปน็ การยอ่ ยภายในเซลล์หรือการย่อยภายนอกเซลล์เพราะเหตุใด อธบิ าย .............................................................................................................................................................................. 22. พลานาเรียมีวิธีในการกินอาหารอย่างไร ..................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 23. พลานาเรยี มที างเดินอาหารแบบใด ............................................................................................................... 24. การยอ่ ยอาหารของพลานาเรียเป็นการย่อยภายในเซลล์หรือการยอ่ ยภายนอกเซลลเ์ พราะเหตใุ ด อธิบาย .............................................................................................................................................................................. 25. อวยั วะใดบ้างของไส้เดอื นดนิ ท่เี กีย่ วข้องกับระบบยอ่ ยอาหาร ..................................................................... .............................................................................................................................................................................. 26. ไส้เดอื นดินมีทางเดินอาหารแบบใด ............................................................................................................. 27. การย่อยอาหารของไส้เดอื นดินเป็นการยอ่ ยภายในเซลลห์ รอื การย่อยภายนอกเซลล์เพราะเหตใุ ด อธิบาย .............................................................................................................................................................................. 28. crop มคี วามสา้ คัญต่อระบบยอ่ ยอาหารอยา่ งไร ......................................................................................... 29. ยกตัวอย่างส่งิ มชี วี ิตทีม่ ี crop ....................................................................................................................... 30. gizzard มคี วามสา้ คัญต่อระบบย่อยอาหารอย่างไร ...................................................................................... 31. ยกตัวอยา่ งส่ิงมีชวี ิตทมี่ ี gizzard .................................................................................................................. 32. glandular cell ในไสเ้ ดือนดนิ ท้าหนา้ ท่ี ...................................................................................................... 33. อวยั วะใดบ้างของแมลงท่เี กีย่ วข้องกบั ระบบย่อยอาหาร .............................................................................. .............................................................................................................................................................................. 34. แมลงมที างเดนิ อาหารแบบใด ...................................................................................................................... 35. การย่อยอาหารของแมลงเป็นการย่อยภายในเซลล์หรอื การยอ่ ยภายนอกเซลลเ์ พราะเหตุใด อธบิ าย .............................................................................................................................................................................. 33. gastricaeca พบท่ีสว่ นใดของทางเดินอาหารแมลง ..................................................................................... ท้าหนา้ ที่ ............................................................................................................................................................. 10
34. อวัยวะใดบา้ งของสัตว์ปีกท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั ระบบย่อยอาหาร .............................................................................................................................................................................. 35. การย่อยอาหารของสตั วป์ ีกเปน็ การย่อยภายในเซลลห์ รอื การย่อยภายนอกเซลลเ์ พราะเหตุใด อธบิ าย .............................................................................................................................................................................. 36. ฟันในสัตว์เล้ียงลูกดว้ ยน้านมแบง่ เป็น .... แบบ ได้แก่ ................................................................................... 37. phalynx ในสัตว์เลีย้ งลูกด้วยน้านมท้าหนา้ ที่ .............................................................................................. 38. ล้าไสเ้ ล็กสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านมแบ่งเป็น .... ส่วน ไดแ้ ก่ ............................................................................... 39. ลา้ ไส้เลก็ ในสัตว์เล้ียงลกู ดว้ ยน้านมท้าหนา้ ที่ ................................................................................................. 40. ล้าไสใ้ หญส่ ตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยน้านมแบง่ เป็น .... ส่วน ไดแ้ ก่ ............................................................................. 41. ล้าไส้ใหญใ่ นสตั วเ์ ลีย้ งลูกดว้ ยน้านมทา้ หนา้ ท่ี ................................................................................................ 42. สารท่ีจุลชีพในลา้ ไสเ้ ล็กสร้าง ไดแ้ ก่ ............................................................................................................... 43. สารทจ่ี ลุ ชพี ในล้าไสเ้ ล็กสรา้ งมคี วามส้าคญั อย่างไร ...................................................................................... 44. อวัยวะใดบ้างของสัตว์เลี้ยงลกู ด้วยน้านมท่ีเกยี่ วข้องกับระบบย่อยอาหาร .............................................................................................................................................................................. 45. การยอ่ ยอาหารของสตั ว์เลย้ี งลกู ดว้ ยน้านมเปน็ การยอ่ ยแบบใด เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................................................. 46. กระเพาะอาหารของสตั วเ์ คยี้ วเออ้ื งแบ่งออกเปน็ ......... ส่วน คอื .............................................................................................................................................................................. 47. กระเพาะอาหารของส่วนใดสตั ว์เคยี้ วเอือ้ งทม่ี ีการสร้างเอนไซม์ .................................................... 48. กระเพาะอาหารสว่ นใดของสัตวเ์ คย้ี วเออื้ งทไ่ี มม่ กี ารสรา้ งเอนไซม์ .............................................................................................................................................................................. 49. กระเพาะอาหารส่วนใดของสัตวเ์ คีย้ วเออื้ งทม่ี ีแบคทเี รียและโพรโทซัวอาศัยอยู่ .............................................................................................................................................................................. 50. แบคทเี รยี และโพรโทซวั ในทางเดนิ อาหารของววั มีความส้าคัญอย่างไร .............................................................................................................................................................................. 51. ถ้ากระเพาะอาหารของสัตว์เค้ยี วเอ้ืองไม่มีแบคทีเรียจะเกดิ อะไรข้ึน .............................................................................................................................................................................. 52. กระเพาะอาหารส่วนใดของสตั ว์เคย้ี วเออื้ งที่มกี ารสา้ รอกอาหารออกมาเค้ียวใหม่ .............................................................................................................................................................................. 53. ความยาวของทางเดนิ อาหารของสตั ว์กินพชื และสัตว์ทีก่ ินสัตว์อ่นื เป็นอาหารมีความแตกต่างกนั อย่างไร .............................................................................................................................................................................. 54. สัตวเ์ คีย้ วเออ้ื งได้โปรตีนจากแหล่งใด .................................................................................... 55. เพราะเหตุใดสตั ว์กนิ พืชตอ้ งกินอาหารปริมาณมากกวา่ สตั วก์ นิ เนื้อ .............................................................. 11
คา้ สัง่ ให้นักเรยี นเตมิ ตารางเปรียบเทียบทางเดนิ อาหารของสัตวช์ นดิ ต่างๆ ให้สมบูรณ์ ชนดิ สตั ว์ ระบบทางเดินอาหาร ลักษณะการยอ่ ยอาหาร (ใน/นอกเซลล์) ฟองนา้ ไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดอื นดิน แมลง นก สัตว์เลย้ี งลกู ดว้ ยนา้ นม สตั ว์เคีย้ วเออื้ ง 12
เซลล์/อวยั วะสา้ คัญท่เี ก่ยี วของกบั ระบบยอ่ ยอาหาร 2
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: