Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการอบรมฟิสิกส์สัประยุทธ์

รายงานการอบรมฟิสิกส์สัประยุทธ์

Published by mather_729, 2023-01-07 18:31:33

Description: อบรมฟิสิกส์สัป รวมเล่มเอกสาร

Search

Read the Text Version

รายงานผลการพัฒนาตนเอง การประชุมเชิงปฏิบัติการการทำโครงงานฟิสิกส์ เพื่อส่งเสริมการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมปรินส์ พาเลส กรุงเทพมหานคร นางสาวพาซีย๊ะ อาบู ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเบตง \"วีระราษฎร์ประสาน\" อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ยะลา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

PHYS ICS ข้าพเจ้า นางสาวพาซีย๊ะ อาบู ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ กลุ่มสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการการทำโครงงานฟิสิกส์ เพื่อส่งเสริมการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพนักเรียนและครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม และโครงการ พัฒนาโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมปรินส์ พาเลส กรุงเทพมหานคร บัดนี้การปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ได้รับมอบหมายได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าขอ รายงานผลการประชุมเชิงปฏิบัติการการทำโครงงานฟิสิกส์เพื่อส่งเสริมการแข่งขัน ฟิสิกส์สัประยุทธ์ ดังต่อไปนี้ ฟิสิกส์สัประยุทธ์ เป็นรูปแบบการแข่งขัน คล้ายกับการโต้วาทีทางวิชาการ ด้วยการแก้โจทย์ ปัญหาปลายเปิด ค้นคว้าทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับโจทย์ พร้อมทั้งวางแผนและออกแบบการทดลองเพื่อหาคำ ตอบ แล้วเข้าแข่งขันพร้อมกันบนเวที 3 ทีมซึ่งจะ แบ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ 1.นำเสนอ 2.ซักค้าน 3.วิพากษ์ จุดเด่นคือ การนำเสนอเพื่อให้ทีมอื่นๆยอมรับทฤษฏี และผลการทดลองของทีมตนเอง ต้องฟังข้อคัดค้าน จากทีมอื่นและหาเหตุผลมาอธิบายหักล้าง อีกทั้งต้อง ฟังและจับประเด็นฟิสิกส์ที่ดี

PHYS ICS สรุปสาระสำคัญการประชุม 1.1 บทบาทและหน้าที่ของผู้เข้าแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ ฝ่ายนำเสนอ ฝ่ายซักค้าน ฝ่ายวิพากษ์ โดย อ.ดร.วิทยา กาญจนภูษากิจ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี 1.2 แนวทางการแก้ปัญหาโจทย์ฟิสิกส์สัประยุทธ์ระดับชาติ จำนวน ๑๐ ข้อ โดย คณาจารย์ จากมหาวิทยาลัย รศ.ดร. พรรัตน์ วัฒนกสิวิชช์ ภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผศ.ดร. นิรุต ผุสดี ภาควิชาฟิสิกส์และวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดร. วิทยา กาญจนภูษากิจ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี รศ.ดร.วิวัธน์ ยังดี ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ. ธีรยุทธ ชาญนุวงศ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ.ดร. นฤทธิ์ ตรีอำนรรค ภาควิทยาการและวิศวกรรมวัสดุ คณะวิศวกรรมศาสตร์และ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ผศ.ดร. อภิชาติ พัฒนโภครัตนา ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

PHYS ICS 1.3 กิจกรรมสาธิตปรากฏการณ์และตัวอย่างการทดลองโจทย์ฟิสิกส์สัประยุทธ์ โดย คณาจารย์มหาวิทยาลัย และทีมคณะทำงาน (วิทยากรผู้ช่วย) 1.4 การให้คะแนนและเกณฑ์การให้คะแนนฟิสิกส์สัประยุทธ์จากระดับนานาชาติสู่ ระดับชาติ โดย อ.ดร.วิทยา กาญจนภูษากิจ และคณาจารย์มหาวิทยาลัย 1.5 การการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลการทดลองทางฟิสิกส์ด้วยโปรแกรม Tracker โดย รศ.ดร. พรรัตน์ วัฒนกสิวิชช์ และคณาจารย์มหาวิทยาลัย

PHYS ICS ประโยชน์ที่ได้รับและนำมาประยุกต์ใช้ในหน่วยงาน 2.1 ได้เข้าใจรูปแบบการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์มากยิ่งขึ้น เล็งเห็น ถึงความสำคัญของการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ นำมาเป็นส่วนหนึ่งของ การเรียนการสอนเพื่่อให้นักเรียนเกิดแนวคิดและฝึกกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์อย่างเป็นขั้นตอน 2.2 ได้เรียนรู้แนวทางในการแก้ปัญหาโจทย์การแข่งขันฟิสิกส์ สัประยุทธ์ระดับชาติ ประจำปี 2566 2.3 ได้พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครูฟิสิกส์จากต่างโรงเรียน สร้างเครือข่ายที่ดี เพื่อพัฒนาทักษะวิชาการต่อไป

PHYS ICS ทางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนเบตง \"วีระราษฎร์ประสาน\" เล็งเห็นถึงความสำคัญของ การแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ นำมาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียน การสอนเพื่่อให้นักเรียนเกิดแนวคิดและฝึกกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์อย่างเป็นขั้นตอน นำองค์ความรู้มาใช้ในการแก้ปัญหา เพื่อหาคำตอบอย่างมีเหตุผลในระยะเวลาที่จำกัด เพื่อเป็น ประโยชน์กับนักเรียนและค้นหานักเรียนเป็นตัวแทนของโรงเรียน แข่งขันในขั้นต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชื่อ...................................................ผู้รายงาน ( นางสาวพาซีย๊ะ อาบู) ลงชื่อ...................................................ผู้อำนวยการโรงเรียน ( นายสุทธานนท์ ทองนุ่น)

PHYS ICS

PHYS ICS

PHYS ICS

PHYS ICS ภาคผนวก

กําหนดการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารกรรมการฟสิ กิ ส์สปั ระยุทธ์ ระหว่างวนั ที่ 26-27 พฤศจกิ ายน 2565 วันท่ี 26 พฤศจิกายน 2565 8.45-9.00 น. พธิ ีเปดิ 9.00-10.00 น. อภปิ รายบทบาททมี นําเสนอ ซกั ค้านและวิพากษ์ในการแข่งขันและแนวทางการให้ คะแนน โดย ดร. วิทยา กาญจนภูษากจิ , ผศ. ดร. นฤทธิ์ ตรอี ํานรรค, และ รศ. ดร. พรรตั น์ วฒั นกสิวิชช์ 10.00-10.15 น. พักเบรคเช้า 10.15-12.00 น. นําเสนอโจทยฟ์ สิ ิกส์สปั ระยทุ ธ์ IYPT2023 สําหรบั การแข่งขันในประเทศ ข้อที่ T1 น้วิ มอื แฟรก็ ทลั , T2 ไซเรน, T3 เส้นส,ี T4 สกรแู กว่งไกว, T5 ลูกบอลบน แท่งเฟอร์ไรท,์ T6 เคตเทลิ เบลจากขา้ ว, T7 ทอ่ ความรอ้ นของพอนโย, T8 การหกั เห ของลาํ ของเหลว, T9 การหมุนแบบแพนเค้ก, T10 ทางหยุดยง้ั 12.00-13.00 น. พักรบั ประทานอาหารกลางวัน 13.00-14.30 น. นาํ เสนอโจทยฟ์ สิ กิ ส์สัประยทุ ธ์ IYPT2023 สาํ หรบั การแข่งขันในประเทศ โดยให้ครูวน ฐาน 10 ฐาน 14.30-14.45 น. พกั เบรคบ่าย 14.45-16.30 น. วเิ คราะห์โจทยฟ์ ิสกิ ส์สัประยทุ ธ์ แยกทํางานเปน็ กลุม่ แลว้ มานําเสนอ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 9.00-10.00 น. ทําความเขา้ ใจใบให้คะแนนและฝึกบทบาทการเป็นกรรมการฟิสิกส์สปั ระยุทธ์ ƒ ชมวดี โิ อบันทึกการแขง่ ขันฟสิ กิ สส์ ัประยทุ ธ์ระดับประเทศ (TYPT Prob. 2) ƒ ฝกึ ใหค้ ะแนนแบบละเอยี ด ƒ อภิปรายบทบาทการนําเสนอ ซักคา้ นและวพิ ากษ์ ฝึกบทบาทการเปน็ กรรมการฟสิ กิ ส์สัประยทุ ธ์ 10.15-10.30 น. พักเบรคเชา้ 10.30-12.00 น. นาํ เสนอแนวทางการนําเสนอและการจดั ทาํ สไลดโ์ จทยฟ์ ิสกิ ส์สปั ระยุทธ์ โดย คณะวทิ ยากร 12.00-13.00 น. พกั รับประทานอาหารกลางวนั 13.00 -14.00 น. พิธีปดิ และมอบเกยี รติบตั ร   เอกสารทีเ่ ก่ียวข้องอย่ใู น Google Drive น้ี https://cmu.to/TYPT2023

Page 1 of 3 โจทยก์ ารแขง่ ขนั ฟสิ กิ สส์ ปั ระยทุ ธร์ ะดบั ชาติ ประจาปี 2566 1. Fractal Fingers The effect of fractal fingering can be observed if a droplet of an ink-alcohol mixture is deposited onto diluted acrylic paint. How are the geometry and dynamics of the fingers influenced by relevant parameters? นวิ้ มือแฟรก็ ทลั เม่ือหยดสารผสมของหมกึ และแอลกอฮอลล์ งบนสอี ะครีลคิ เจอื จาง จะสามารถสังเกตปรากฎการณ์แตกแขนงแบบ แฟร็กทลั ได้ จงสบื เสาะพารามิเตอรท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งวา่ สง่ ผลตอ่ รปู ทรงและการเคล่อื นตวั ของสว่ นที่แตกแขนงอยา่ งไร อ้างองิ : https://youtu.be/DguNgm9tDFU 2. Siren If you direct an air flow onto a rotating disk with holes, a sound may be heard. Explain this phenomenon and investigate how the sound characteristics depend on the relevant parameters. ไซเรน เมื่อเปา่ ลมตรงไปยงั จานหมนุ ทมี่ ีรู อาจได้ยินเสยี ง จงอธิบายปรากฏการณ์นีแ้ ละสืบเสาะว่าลักษณะเสยี งขน้ึ อยกู่ ับ พารามเิ ตอรท์ ีเ่ กย่ี วขอ้ งอย่างไร อา้ งองิ : https://youtu.be/-LTtuMj6jZc 3. Coloured Line When a compact disc or DVD is illuminated with light coming from a filament lamp in such a way that only rays with large angles of incidence are selected, a clear green line can be observed. The colour varies upon slightly changing the angle of the disc. Explain and investigate this phenomenon. เส้นสี เมอื่ ฉายแสงทม่ี าจากหลอดไสล้ งบนแผน่ ซดี ีหรอื ดวี ดี ี โดยเลือกเฉพาะรังสแี สงท่มี ีมมุ ตกกระทบขนาดใหญเ่ ท่านนั้ จะสามารถมองเหน็ เสน้ สีเขียวไดช้ ดั เจน และสีจะแตกต่างกนั ไปตามมมุ ของแผ่นซดี ที เี่ ปลยี่ นไปเล็กน้อย จงอธบิ ายและ สืบเสาะปรากฏการณน์ ้ี 4. Oscillating Screw When placed on its side on a ramp and released, a screw may experience growing oscillations as it travels down the ramp. Investigate how the motion of the screw, as well as the growth of these oscillations depends on the relevant parameters. สกรแู กวง่ ไกว เมื่อวางสกรูบนพน้ื เอียงโดยใหด้ ้านขา้ งของสกรูอยบู่ นพ้ืนเอียงแลว้ ปลอ่ ย สกรจู ะเคลอ่ื นที่ลงมาตามพ้นื เอยี งและคอ่ ย ๆ แกวง่ มากข้นึ จงสืบเสาะการเคลือ่ นท่ีและการเพม่ิ ขนึ้ ของการแกว่งของสกรูวา่ ข้นึ อยกู่ ับตัวแปรทีเ่ กย่ี วข้องอยา่ งไร อ้างองิ : https://youtu.be/iwerWvbOyoE แปลและตรวจทาน : คณะกรรมการดาเนินงานจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันฟิสกิ ส์สปั ระยุทธ์ระหวา่ งประเทศ ประจาปพี ุทธศกั ราช 2565-2566

Page 2 of 3 5. Ball on Ferrite Rod A ferrite rod is placed at the bottom end of a vertical tube. Apply an ac voltage, of a frequency of the same order as the natural frequency of the rod, to a fine wire coil wrapped around its lower end. When a ball is placed on top of the rod, it will start to bounce. Explaining and investigate this phenomenon. ลูกบอลบนแทง่ เฟอร์ไรท์ ใสแ่ ท่งเฟอร์ไรทไ์ วท้ ่ีด้านลา่ งของท่อทีว่ างตวั อยใู่ นแนวด่ิง จากน้ันใหค้ วามตา่ งศกั ยก์ ระแสสลับกับขดลวดเสน้ เลก็ ทพ่ี นั รอบ ด้านล่างของแทง่ เฟอรไ์ รท์ โดยความถ่ีของศักย์ไฟฟ้ากระแสสลับน้ี อยใู่ นช่วงเดยี วกบั ความถธี่ รรมชาตขิ องแทง่ เฟอรไ์ รท์ เมือ่ วางลกู บอลท่ปี ลายดา้ นบนของแทงเฟอรไ์ รท์ ลูกบอลจะเกิดการกระเดง้ จงอธิบายและสืบเสาะปรากฏการณน์ ้ี อ้างองิ : https://youtu.be/jIyoo-Rmqqw 6. Rice Kettlebells Take a vessel and pour some granular material into it, for example, rice. If you dip e.g. a spoon into it, then at a certain depth of immersion, you can lift the vessel and contents by holding the spoon. Explain this phenomenon and explore the relevant parameters of the system. เคตเทลิ เบลจากขา้ ว เมือ่ ใส่วัสดุลกั ษณะเปน็ เมด็ เล็ก ๆ เช่น ขา้ วสาร ลงไปในภาชนะ จากนน้ั เสียบวัตถุ เช่น ชอ้ น ลงไปในเนอื้ วสั ดุ ที่ความลึกคา่ หน่งึ จะพบวา่ เมอ่ื จบั ช้อนยกขึ้นจะสามารถยกทง้ั ภาชนะและวัสดภุ ายในขน้ึ ได้ดว้ ยกัน จงอธบิ าย ปรากฏการณ์นแ้ี ละสืบเสาะตวั แปรทีเ่ กย่ี วขอ้ ง อา้ งองิ : https://youtu.be/tmtoMETbpfc 7. Ponyo’s Heat Tube A glass tube with a sealed top is filled with water and mounted vertically. The bottom end of the tube is immersed in a beaker of the water and a short segment of the tube is heated. Investigate and explain the periodic motion of the water and any vapour bubbles observed. ท่อความรอ้ นของพอนโย บรรจนุ ้าลงในหลอดแก้วปลายปดิ แล้วควา่ ลงในบกี เกอร์ท่ีบรรจนุ า้ และยดึ หลอดแกว้ ในแนวดงิ่ จากน้นั ให้ความรอ้ น ทีห่ ลอดแกว้ เปน็ บริเวณแคบ ๆ จงสืบเสาะและอธบิ ายการเคลอื่ นทีแ่ บบคาบของน้าและฟองของไอน้า ที่สงั เกตไดภ้ ายใน หลอดแก้วน้ี อา้ งองิ : https://youtu.be/NKNYKW-PNyA 8. Jet Refraction A vertical jet can be refracted when passing through an inclined sieve with a fine mesh. Propose a law for such refraction and investigate relevant parameters. การหกั เหของลาของเหลว ลาของเหลวท่ีไหลลงมาในแนวดงิ่ สามารถหักเหไดเ้ มือ่ ไหลผ่านตะแกรงซง่ึ มีตาขา่ ยขนาดเล็กทวี่ างตวั ทามุมกับแนวด่งิ จงเสนอกฎการหักเหของลาของเหลวนี้และสบื เสาะตวั แปรท่เี ก่ียวข้อง อา้ งองิ : https://youtu.be/6LBgh48lQuo แปลและตรวจทาน : คณะกรรมการดาเนนิ งานจดั ส่งผูแ้ ทนประเทศไทยไปแข่งขันฟิสิกสส์ ปั ระยุทธ์ระหว่างประเทศ ประจาปีพทุ ธศกั ราช 2565-2566

Page 3 of 3 9. Pancake Rotation Place a few balls in a round container. If you move the container around a vertical axis, the balls can move co-directionally with the movement of the container, or they can move in the opposite direction. Explain this phenomenon and investigate how the direction of movement depends on relevant parameters. การหมนุ แบบแพนเค้ก วางลูกบอลจานวนหน่งึ ในภาชนะขอบโคง้ เมื่อเคล่อื นภาชนะรอบแกนในแนวดงิ่ ลกู บอลเหลา่ น้อี าจจะเคลือ่ นท่ไี ปใน ทศิ ทางเดยี วกับการเคลื่อนทข่ี องภาชนะหรือเคล่ือนท่ใี นทศิ ทางตรงกันข้ามก็ได้ จงอธิบายปรากฏการณ์น้ีและสืบเสาะวา่ ทศิ ทางการเคลือ่ นทีข่ องลกู บอลข้นึ กบั ตัวแปรท่ีเกย่ี วขอ้ งอย่างไร อ้างองิ : https://youtu.be/7gauIogGHZ4 10.Arrester Bed A sand-filled lane results in the dissipation of the kinetic energy of a moving vehicle. What length is necessary for such an arrester bed to entirely stop a passively moving object (e.g. a ball)? What parameters does the length depend on? ทางหยุดยงั้ ทางทรายสง่ ผลใหเ้ กดิ การสูญเสียพลังงานจลนข์ องยานพาหนะทเี่ คลอ่ื นท่ผี า่ น ทางหยุดยงั้ ดังกลา่ วตอ้ งมีคา่ ความยาวเท่าไร จึงจะทาให้วตั ถุทเ่ี คลอื่ นท่ี (เช่น ลกู บอล) หยุดนง่ิ โดยสิน้ เชิง จงสืบเสาะตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับความยาวดงั กลา่ ว อา้ งองิ : https://youtu.be/Mh-kgNQ4XhY แปลและตรวจทาน : คณะกรรมการดาเนินงานจัดสง่ ผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขนั ฟิสิกส์สัประยทุ ธ์ระหว่างประเทศ ประจาปีพทุ ธศกั ราช 2565-2566

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 1 ร่างธรรมนูญการจัดการแข่งขันฟิสกิ สส์ ปั ระยทุ ธ์ประเทศไทย 1. การแข่งขันฟสิ กิ สส์ ปั ระยุทธ์ ฟิสิกส์สัประยุทธ์ (Young Physicists’ Tournament) เป็นการแข่งขันทางวิชาการของ นักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในการแก้ปัญหาท่ีซับซ้อน โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนาเสนอคาตอบสาหรับปัญหาเหล่าน้ันด้วยข้อมูลท้ังเชิงทฤษฎีและเชิงการทดลองที่ทาให้เกิดการ แลกเปลย่ี น เรยี นรู้และการอภปิ รายในทางวทิ ยาศาสตร์ขน้ึ ในระหวา่ งการประลองแขง่ ขนั 2. การจดั การแขง่ ขนั รอบการแขง่ ขันระดบั ภูมภิ าค เป็นการแขง่ ในแต่ละเครอื ข่ายของโรงเรียนโครงการหอ้ งเรียนพเิ ศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิง่ แวดล้อม (SMTE) 9 เครอื ขา่ ย กลุ่มโรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จฬุ าภรณราชวิทยาลัย และ เครือข่ายโรงเรียนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ทาการคัดเลือกทีมทีไ่ ด้ลาดบั ท่ี 1 – 3 เพื่อเขา้ แข่งขนั ตอ่ ในระดบั ประเทศ รอบการแขง่ ขนั ระดบั ประเทศ เป็นการแขง่ ขันฟิสกิ สส์ ัประยุทธ์ ประกอบดว้ ยรอบสะสมคะแนนและรอบชิงชนะเลิศ โดยใน รอบคัดเลือกจะมีทีมแข่งขันจากเครือข่ายโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อม (SMTE) 9 เครือข่าย เครือข่ายละ 3 ทีม กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬา ภรณราชวิทยาลัย 3 ทีม และเครือข่ายศูนย์โรงเรียนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถ พเิ ศษทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (พสวท.) 3 ทีม รวมจานวน 33 ทมี แข่งขันเก็บคะแนนจานวน 3 รอบ ในการแข่งขันแต่ละรอบ จะประกอบด้วย 3 หรือ 4 ยก โดยขึ้นกับจานวนของทีมท่ีเข้า แขง่ ขนั ในรอบนนั้ ๆ กล่าวคอื ถ้ามี 3 ทมี จะแข่งขัน 3 ยก ถ้ามี 4 ทีมจะแข่งขัน 4 ยก โดยแต่ละทีมจะ ได้รบั บทบาทเป็นฝา่ ยนาเสนอ ฝา่ ยซกั คา้ น ฝา่ ยวพิ ากษ์ หรอื ฝา่ ยสังเกตการณ์ แตกต่างกันในแต่ละยก ดงั ตอ่ ไปน้ี

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 2 กรณมี ี 3 ทีม ยกท่ี 1 ยกท่ี 2 ยกที่ 3 ฝา่ ยนาเสนอ ฝา่ ยวพิ ากษ์ ฝา่ ยซักค้าน ทีมแข่งขนั ฝ่ายซักคา้ น ฝ่ายนาเสนอ ฝา่ ยวิพากษ์ ทมี ท่ี 1 ฝา่ ยวิพากษ์ ฝา่ ยซักคา้ น ฝา่ ยนาเสนอ ทีมที่ 2 ทมี ที่ 3 ลาดบั บทบาทการแขง่ ขนั ซักคา้ น นาเสนอ กรณมี ี 4 ทีม ยกท่ี 1 วิพากษ์ ยกที่ 3 ยกท่ี 4 ฝ่ายนาเสนอ ฝา่ ยวพิ ากษ์ ฝา่ ยซกั คา้ น ทมี ฝ่ายซักค้าน ยกที่ 2 ฝ่ายสังเกตการณ์ ฝา่ ยวพิ ากษ์ ทมี ที่ 1 ฝา่ ยวพิ ากษ์ ฝา่ ยสังเกตการณ์ ฝา่ ยนาเสนอ ฝา่ ยสังเกตการณ์ ทีมที่ 2 ฝ่ายสังเกตการณ์ ฝ่ายนาเสนอ ฝ่ายซกั คา้ น ฝ่ายนาเสนอ ทมี ท่ี 3 ทมี ท่ี 4 ฝา่ ยซกั คา้ น ฝา่ ยวพิ ากษ์ ลาดบั บทบาทการแขง่ ขนั ซักค้าน นาเสนอ วิพากษ์ สังเกตการณ์ 3. คุณสมบตั ผิ ูเ้ ขา้ ร่วมแข่งขัน เปน็ นกั เรยี นในโครงการหอ้ งเรยี นพเิ ศษวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดล้อม (SMTE) โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และศูนย์โรงเรียนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถ พิเศษทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ในปกี ารศึกษานั้น ๆ

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 3 4. รางวัลการแข่งขนั รอบการแขง่ ขนั ระดับภูมิภาค เหรียญทอง 3 หรอื 4 ทมี ท่เี ขา้ รอบชิงชนะเลิศ เหรยี ญเงนิ อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการการจัดการแข่งขันแต่ละภูมิภาค แต่เม่ือรวมกับทีมท่ีได้เหรียญทองแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของ จานวนทมี ท่เี ขา้ รว่ มการแข่งขันทงั้ หมด เหรียญทองแดง อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของคณะกรรมการการจดั การแขง่ ขันแต่ละภูมภิ าค รางวลั ชมเชย อยูใ่ นดลุ ยพินจิ ของคณะกรรมการการจัดการแข่งขันแต่ละภูมภิ าค รอบการแข่งขนั ระดับประเทศ เหรยี ญทอง ทีมโรงเรียนทผ่ี า่ นเขา้ รอบ 4 ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ เหรียญเงนิ ทมี โรงเรียนทไี่ ด้ลาดบั ท่ี 5 – 17 เหรยี ญทองแดง ทมี โรงเรียนตง้ั แตล่ าดบั ที่ 18 เป็นต้นไป 5. ครูผู้ควบคุมทมี ครผู คู้ วบคมุ ทมี ไมเ่ กิน จานวน 2 คน รอบการแข่งขนั ระดบั ภมู ิภาค ครผู ูค้ วบคมุ ทมี ไมเ่ กนิ จานวน 2 คน รอบการแขง่ ขันระดับประเทศ ใช้ปญั หาจากโจทย์การแขง่ ขนั ฟสิ กิ สส์ ัประยทุ ธ์ประเทศไทยจานวน 10 ข้อ 6. โจทยส์ าหรับการแขง่ ขนั ใชป้ ญั หาจากโจทย์การแขง่ ขนั ฟสิ กิ สส์ ัประยุทธ์ประเทศไทยจานวน 10 ข้อ รอบการแขง่ ขันระดับภมู ิภาค รอบการแขง่ ขนั ระดบั ประเทศ

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 4 7. รปู แบบการแขง่ ขนั ในแตล่ ะยก [รอบคดั เลอื กใชเ้ วลา 35 นาที ต่อยก] รูปแบบการแขง่ ขนั ในแต่ละยกของรอบคัดเลือก มีรายละเอียดดังตาราง ที่ กิจกรรม รายละเอยี ด เวลา ฝา่ ยนาเสนอ บทบาทการทาหนา้ ท่ี ฝา่ ยสงั เกตการณ์ (นาท)ี (reporter) ฝ่ายซักค้าน ฝ่ายวิพากษ์ (observer) (opponent) (reviewer) 1 ทา้ ประลอง ฝา่ ยซกั ค้านท้าประลองโจทยป์ ัญหา รับฟงั คาทา้ ทา้ ทายขอ้ ปัญหา โจทย์ 1 ฝา่ ยนาเสนอพจิ ารณาตอบรบั /ปฏิเสธ 2 ตอบรับ/ คาทา้ ปฏเิ สธ/ตอบรับ รบั ฟังคาตอบ ปฏิเสธ 3 เตรียมนาเสนอ เตรียมการนาเสนอ 1 เตรยี มตัวนา (รวมเวลาต่ออปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์) เสนอ นาเสนอผลการศกึ ษาตามเงือ่ นไข 4 นาเสนอ ของโจทย์ ครอบคลมุ ทง้ั ทฤษฎีและ 10 นาเสนอผลงาน ในกรณีที่มี การทดลองเชงิ คุณภาพเชงิ ปริมาณ 4 ทีม/รอบ จะมหี นง่ึ ทมี อยา่ งถูกตอ้ งและสมเหตสุ มผล ทาหน้าทเ่ี ป็น ผสู้ ังเกตการณใ์ น 5 ต้ังข้อคาถาม ฝา่ ยซกั ค้านถามคาถามต่อฝา่ ยนาเสนอเพือ่ 1 ตอบข้อซกั ถาม ถามคาถามสนั้ ๆ แตล่ ะยก โดยฝา่ ย เพ่อื ซกั คา้ น ตรวจสอบความเขา้ ใจ สงั เกตการณ์จะไมม่ ี บทบาทใดๆ 6 เตรยี มซกั คา้ น เตรียมการซักค้าน 2 เตรยี มตวั ซกั คา้ น ในการแข่งขันยกน้ัน  นาเสนอประเดน็ สาคญั ช้ีจดุ แข็ง และ จดุ ออ่ นของฝ่ายนาเสนอ (ใช้เวลาไมเ่ กนิ 2 นาท)ี อภิปรายร่วมกันสองฝา่ ยในประเดน็ 7 ซักค้าน  จากนน้ั อภปิ รายในประเด็นที่ซักถาม 7 ทฤษฎี/เนอื้ หาทางฟสิ ิกสท์ ่เี กยี่ วขอ้ ง 8 ตง้ั คาถาม โดยแสดงถึงความเขา้ ใจท้ังเชิงทฤษฎี 2 รว่ มกัน ถามคาถามสน้ั ๆ หากมีเพยี ง วิพากษ์ และการทดลองทีฝ่ ่ายนาเสนอใช้ ตอบคาถามของฝา่ ยวพิ ากษ์ 3 ทมี /รอบ เพื่อนาไปส่กู ารแกป้ ญั หาท่ีดขี น้ึ จะไม่มฝี ่าย ฝา่ ยวพิ ากษ์ถามคาถามเพือ่ ตรวจสอบความ สังเกตการณ์ เข้าใจ 9 เตรยี มวพิ ากษ์ เตรียมการวิพากษ์ 2 เตรียมตัววิพากษ์ 10 วิพากษ์ สรปุ ภาพรวม ช้ีจดุ แข็ง-จดุ ออ่ น 3 นาเสนอ ของฝ่ายนาเสนอและฝา่ ยซกั คา้ น ขอ้ วิพากษ์ แลว้ วิพากษ์ตามความคดิ ของฝ่ายตนเอง 11 กล่าวปิดทา้ ย แกต้ ่างข้อวพิ ากษ์ คาถาม และ 1 กลา่ วปดิ ทา้ ย ชี้จุดเดน่ ของงานทฝ่ี ่ายตนเองศึกษา 12 คาถามเชงิ ลกึ กรรมการถามคาถาม ต่อทงั้ สามฝา่ ย 5 ท้งั สามฝ่ายตอบคาถามจากคณะกรรมการ รวมเวลาทงั้ สิ้น 35

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 5 8. รูปแบบการแขง่ ขนั ในแตล่ ะยก [รอบชิงชนะเลศิ ใช้เวลา 40 นาที ตอ่ ยก] รปู แบบการแข่งขันในแต่ละยกของรอบชงิ ชนะเลิศ มรี ายละเอียดดงั ตาราง ที่ กิจกรรม รายละเอยี ด เวลา ฝ่ายนาเสนอ บทบาทการทาหน้าที่ ฝ่ายสังเกตการณ์ (นาที) (reporter) ฝ่ายซกั คา้ น ฝา่ ยวิพากษ์ (observer) (opponent) (reviewer) นาเสนอผลการศกึ ษาตามเงือ่ นไข 1 นาเสนอ ของโจทย์ ครอบคลมุ ท้งั ทฤษฎีและ 10 นาเสนอ การทดลองเชงิ คณุ ภาพเชิงปริมาณ ผลงาน อยา่ งถกู ต้องและสมเหตสุ มผล 2 ตง้ั ข้อคาถาม ฝา่ ยซักคา้ นถามคาถามตอ่ ฝ่าย 1 ตอบข้อ ถามคาถาม เพอ่ื ซักค้าน นาเสนอเพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจ ซกั ถาม สนั้ ๆ ในกรณีท่ีมี 3 เตรยี มซัก เตรยี มการซกั คา้ น 3 เตรียมตวั ซกั 4 ทมี /รอบ ค้าน ค้าน จะมีหน่ึงทีม 10  นาเสนอประเดน็ สาคญั ช้จี ุดแข็ง ทาหนา้ ท่เี ป็น 2 และจุดอ่อนของฝา่ ยนาเสนอ 3 ผูส้ งั เกตการณใ์ น 4 แต่ละยก โดยฝา่ ย  จากน้ันอภปิ รายในประเด็นท่ี ร่วมอภิปราย ร่วมอภิปราย สงั เกตการณ์จะไม่ ฟิสกิ ส์ที่ ฟสิ ิกส์ที่ มบี ทบาทใด ๆ 4 ซักคา้ น ซักถาม โดยแสดงถงึ ความเข้าใจ เกี่ยวข้อง เกี่ยวขอ้ ง ท้ังเชิงทฤษฎีและการทดลองท่ี ตอบคาถาม ฝ่ายนาเสนอใช้ ในการแขง่ ขนั ยก เพอ่ื นาไปสู่การแก้ปญั หาทีด่ ีขนึ้ นั้น 5 วิพากษถ์ าม ฝา่ ยวิพากษถ์ ามคาถามเพอ่ื ถามคาถาม ถามคาถามส้ันๆ ตรวจสอบความเข้าใจ หากมเี พียง เตรยี ม 6 วพิ ากษ์ เตรียมการวิพากษ์ เตรียมตัววิพากษ์ 3 ทมี /รอบ สรปุ ภาพรวม ชจ้ี ุดแขง็ จุดออ่ น ของ จะไมม่ ีฝ่าย 7 วพิ ากษ์ ฝา่ ยนาเสนอและฝ่ายซักค้าน แล้ว นาเสนอ สงั เกตการณ์ วพิ ากษ์ตามความคดิ ของฝ่ายตนเอง การวพิ ากษ์ 8 กล่าวปิด แกต้ า่ งขอ้ วิพากษ์ คาถาม และ 2 กลา่ วปดิ ทา้ ย ทา้ ย ชจ้ี ดุ เดน่ ของงานที่ฝา่ ยตนเองศกึ ษา 9 คาถามเชงิ กรรมการถามคาถาม ต่อทัง้ สามฝา่ ย 5 ท้ังสามฝา่ ยตอบคาถามจากคณะกรรมการ ลกึ รวมเวลาทง้ั สนิ้ (นาที) 40

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 6 9. การแสดงบทบาทของแต่ละฝา่ ยในการแข่งขนั (The team performance in the stage) เปน็ ดังน้ี ฝา่ ยนาเสนอ มีหน้าท่ี นาเสนอคาตอบของปัญหาในส่วนท่ีเป็นสาระสาคัญ โดยต้องชี้ให้เห็นถึง (Reporter) แนวคิดหลักการทางฟิสิกส์ และข้อสรุปท่ีได้ เพ่ือให้ทีมอ่ืนและคณะกรรมการยอมรับ ในทฤษฎีและ ผลการทดลองของฝ่ายนาเสนอ ฝา่ ยซักค้าน มีหน้าท่ี สรุปประเด็นท่ีฝ่ายนาเสนอเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในการนาเสนอ (Opponent) พร้อมท้ังต้ังคาถามและวิจารณ์ประเด็นต่าง ๆ ท่ีฝ่ายนาเสนอได้นาเสนอไป โดยต้อง ชี้ให้เห็นถึงส่ิงที่อาจเป็นความคลาดเคลื่อนจากการตีโจทย์ปัญหา หรือจากการ นาเสนอคาตอบนอกจากนี้ต้องวิเคราะห์ข้อเด่นและข้อด้อย ของท้ังคาตอบและการ นาเสนอของฝ่ายนาเสนอด้วยทั้งน้ี ฝ่ายซักค้านไม่ควรนาเสนอคาตอบของตนเองใน ระหวา่ งการอภปิ รายซักค้าน ฝา่ ยวพิ ากษ์ มีหน้าท่ี สรุปภาพรวม ชี้จุดแข็ง จุดอ่อน ของฝ่ายนาเสนอและฝ่ายซักค้าน แล้ว (Reviewer) วิพากษ์ตามความคิดของฝ่ายตนเอง และช้ีให้เห็นว่ามีทฤษฎีทางฟิสิกส์ใดที่ต้องใช้แต่ ไมไ่ ดน้ าเสนอหรอื อภิปราย ฝา่ ยสงั เกตการณ์ ทาหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ในแต่ละยก โดยฝ่ายสังเกตการณ์จะไม่มีบทบาทใด ๆ ในการ (Observer) แข่งขนั ยกนนั้ ในแต่ละยก แต่ละทีมสามารถส่งตัวแทนพูดได้เพียง 1 คน เพ่ือแสดงบทบาทตามที่ทีมได้รับ โดย สมาชิกคนอื่น ๆ อาจช่วยต้ังคาถาม หรือ ช่วยตอบคาถามโดยการส่งกระดาษให้ตัวแทนทีมพูดได้เท่านั้น และ สามารถช่วยแก้ปญั หาในทางเทคนิคเก่ยี วกบั การนาเสนอ เช่น การทาสไลด์นาเสนอ การลบกระดาน เป็นตน้ รอบสะสมคะแนน สมาชิกในทีมคนหน่ึง ๆ สามารถทาหน้าท่ีเป็นตัวแทนพูดในบทบาทฝ่ายนาเสนอได้ ไม่เกิน 2 ครั้ง และในแต่ละรอบ ไม่อนุญาต ให้สมาชิกในทีมคนใดคนหนึ่งเป็นตัวแทนพูดตามบทบาทใด ๆ เกนิ 2 คร้งั 10. กรรมการตัดสนิ การแข่งขัน 1. อาจารยม์ หาวทิ ยาลยั สาขาฟสิ กิ สห์ รือสาขาท่ีเก่ียวข้อง 2. ครูที่ผ่านการอบรมการเป็นกรรมการการตัดสินการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์หรือครูควบคุมทีมมาแล้ว อยา่ งนอ้ ย 1 ปีหรอื ครูท่ผี ่านการฝกึ ซ้อมสงั เกตการณ์การตัดสนิ ในระดับภมู ิภาคมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี 11. จานวนกรรมการตัดสินการแข่งขัน รอบสะสมคะแนน ไม่นอ้ ยกวา่ 4 คนต่อห้อง รอบชิงชนะเลิศ ไม่น้อยกว่า 7 คน

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 7 12. กฎการสปั ระยุทธ์ (The rules of problem-challenge and rejection) 1. โจทยป์ ัญหาท่ใี ช้ในภายในรอบเดียวกนั ห้ามซ้ากัน 2. ฝา่ ยซักคา้ นสามารถเลือกโจทย์ปัญหาทา้ ประลองที่ไม่เข้าเง่ือนไขดังตอ่ ไปนี้ A. เปน็ โจทย์ปญั หาทฝี่ า่ ยนาเสนอ ไดเ้ คยปฏิเสธไปแล้ว B. เป็นโจทย์ปัญหาท่ฝี า่ ยนาเสนอ ไดเ้ คยเสนอไปแล้ว C. เปน็ โจทย์ปญั หาทีฝ่ ่ายซักคา้ น ได้ซกั คา้ นไปแลว้ D. เป็นโจทยป์ ญั หาทฝ่ี ่ายซกั คา้ น ได้เคยเสนอไปแลว้ หากมีโจทยป์ ญั หาเหลอื ใหท้ ้าประลองไมเ่ กิน 3 ขอ้ ใหย้ กเลกิ เง่ือนไข D C B และ A ตามลาดับ 3. ฝ่ายนาเสนอ สามารถปฏิเสธการตอบโจทย์ปัญหาได้ 3 คร้ัง โดยจะไม่ถูกหักคะแนน สาหรับการ ปฏิเสธคร้ังท่ี 4 เป็นต้นไป ตัวคูณของฝ่ายนาเสนอจะถูกลดไปคร้ังละ 0.2 จานวนข้อที่แต่ละทีม ปฏิเสธจะนับจานวนสะสมไว้จนส้ินสุดการแข่งขันในรอบคัดเลือก สาหรับรอบระดับภูมิภาคขึ้นอยู่กับ ดุลยพนิ ิจของกรรมการจัดการแข่งขนั 4. การแข่งขันรอบสะสมคะแนนรอบที่ 3 จะไม่มีการท้าประลองโจทย์ แต่จะให้แต่ละทีมเลือกโจทย์ ปัญหาที่ต้องการนาเสนอจากโจทย์ท้ัง 10 ข้อ ที่กาหนด โดยต้องเป็นโจทย์ที่ไม่เคยนาเสนอมาก่อน และนาโจทย์ที่เคยปฏิเสธไปแล้วในรอบที่ผ่านมานาเสนอได้ หากมีทีมเลือกโจทย์ประลองซ้ากันจะให้ ทีมที่มีคะแนนสะสมจากการแข่งขันสูงกว่าได้สิทธิ์เลือกก่อน ในกรณีการแข่งขันระดับภูมิภาค ข้ึนอยู่ กับดลุ ยพินจิ ของกรรมการจัดการแข่งขัน 5. การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศจะไม่มีการท้าประลองโจทย์ แต่จะให้แต่ละทีมเลือกโจทย์ปัญหาที่ ต้องการนาเสนอจากโจทย์ทั้ง 10 ข้อที่กาหนด โดยต้องเป็นโจทย์ที่ไม่เคยนาเสนอมาก่อน หากมีทีม เลือกโจทย์ประลองซ้ากัน จะให้ทีมท่ีมีคะแนนสะสมจากการแข่งขันรอบคัดเลือกสูงกว่าได้สิทธ์ิเลือก ก่อน และให้แต่ละทีมจับสลากบทบาทการแข่งขัน ท้ังน้ีลาดับการจับสลากพิจารณาจากทีมที่มี คะแนนมากไปนอ้ ย ในกรณกี ารแข่งขันระดับภมู ภิ าค ข้ึนอยู่กบั ดลุ ยพินิจของกรรมการจดั การแขง่ ขัน 6. ในกรณีท่ีมีคาถามจากกรรมการถ้าเป็นคาถามเชิงทฤษฎี หรือหลักการทางฟิสิกส์ ผู้ตอบต้องเป็นผู้ที่ กาลังแสดงบทบาท ห้ามสมาชิกในทีมส่ือสารคาตอบในรูปแบบใด ๆ เว้นแต่ในกรณีที่เป็นคาถามเชิง เทคนิค หรือ เชิงการทดลองเท่านั้นท่ีอนุญาตให้ตัวแทนในทีมสามารถตอบคาถามแทนได้ ท้ังนี้ขึ้นอยู่ กับดลุ ยพนิ ิจของกรรมการ 7. กรรมการตดั สินไม่ตดั สินทีมของโรงเรียนตนเอง 8. ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องมือส่ือสารและอินเตอร์เน็ตขณะทาการแข่งขัน หากมีการตรวจพบจะตัด คะแนนเป็นศูนยใ์ นรอบนัน้

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 8 13. การคิดคะแนน ในแตล่ ะยกของการแข่งขนั กรรมการแต่ละท่านจะให้คะแนนตามแนวทางการใหค้ ะแนน แลว้ นามา คิดคะแนนใหแ้ ต่ละทีมดงั นี้  นาคะแนนของแต่ละทีมจากกรรมการท่ีให้คะแนนน้อยท่ีสุดและมากที่สุด มาหาค่าเฉล่ียเพื่อคิดเป็น คะแนนของกรรมการเหลือเพียง 1 ท่าน แล้วนาค่าเฉล่ียท่ีได้น้ี ไปรวมกับคะแนนของกรรมการท่าน อื่น ๆ เพ่อื หาคะแนนเฉลยี่ ของแตล่ ะทีมออกมา  นาคะแนนเฉล่ยี ของแตล่ ะทมี ไปคณู กับตัวคูณ โดยกาหนดตัวคูณดังนี้ ฝ่ายนาเสนอ มตี ัวคูณเป็น 3.0 (หรือนอ้ ยกว่าใน กรณี มีการปฏิเสธโจทยส์ ัประยุทธ์เป็นครงั้ ท่ี 4 โดย ตวั คณู จะถกู ลดไปครัง้ ละ 0.2) ฝา่ ยซกั ค้าน มีตวั คณู เปน็ 2.0 ฝ่ายวิพากษ์ มตี วั คณู เป็น 1.0  ผลคูณระหว่างคะแนนเฉลี่ยของแต่ละทีมกับตัวคูณ คือ คะแนนท่ีแต่ละทีมได้ในแต่ละยก และเมื่อนา คะแนนทแ่ี ตล่ ะทมี ไดใ้ นแต่ละยกมารวมกันเมือ่ ครบรอบ จะเป็นคะแนนท่แี ตล่ ะทีมได้ในรอบน้ัน  ในกรณีการแขง่ ขันรอบระดบั ภูมภิ าค การคดิ คะแนนขึ้นอย่กู ับขอ้ ตกลงภายในเครือขา่ ย 14. แนวปฏิบตั กิ ารเข้าชมการแข่งขนั รอบการแขง่ ขนั ระดับภูมภิ าค 1. จานวนนกั เรียนหรอื ครทู เี่ ข้าชมในห้องแขง่ ขันรอบสะสมคะแนน แลว้ แตด่ ลุ ยพินิจของ เจ้าภาพในการจดั การแขง่ ขันของแต่ละภมู ิภาค 2. การเขา้ ชมรอบสะสมคะแนนจะอนุญาตใหช้ มเฉพาะรอบทมี่ ีโรงเรียนของผ้ชู มเขา้ ร่วมการ แข่งขันเทา่ น้ัน 3. ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสด บันทึกวิดีโอ ถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลการแข่งขันใด ๆ หรือเผยแพร่การแข่งขนั จนกว่าเสรจ็ ส้ินแขง่ ขนั ระดบั ประเทศ 4. การแขง่ ขนั รอบชงิ ชนะเลิศระดบั ภูมภิ าคอนญุ าตใหท้ ุกคนเขา้ ชมการแขง่ ขนั ได้ รอบการแขง่ ขันระดับประเทศ 1. การเข้าชมจะอนญุ าตให้ชมเฉพาะรอบทีม่ ีโรงเรียนของผู้ชมเขา้ ร่วมการแข่งขันเท่าน้ัน 2. ไม่อนญุ าตให้มีการถ่ายทอดสด บนั ทึกวิดีโอ ถ่ายภาพหรอื บันทึกขอ้ มลู การแขง่ ขนั ใด ๆ ใน รอบสะสมคะแนน 3. การแขง่ ขนั รอบชิงชนะเลศิ ระดับประเทศอนุญาตให้ทุกคนเข้าชมการแข่งขนั ได้

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 9 ภาคผนวก

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 10 ตวั อยา่ งแผนผงั การจัดการแข่งขัน ตวั อยา่ งอุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นห้องแข่งขัน จานวน 2 เครื่อง 1. โปรเจคเตอร์ จานวน 2 จอ 2. จอโปรเจคเตอร์ จานวน 5 ตวั 3. ไมโครโฟน จานวน 1 เครอ่ื ง 4. คอมพวิ เตอร์จับเวลาพรอ้ มจอแสดงผล จานวน 1 ชุด 5. กระดานพร้อมปากกาสาหรบั เขียน จานวน 1 หัว 6. หัวแปลงสัญญาณ VGA เป็น HDMI

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 11

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 12

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 13

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 14 ทมี่ า : สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 15

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 16

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 17

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 18 คณะผูจ้ ัดทาเอกสาร (แบบท่ี 1 ) ทปี่ รกึ ษา วฒั นกสวิ ิชช์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ 1. ผศ.ดร.พรรตั น์ ผุสดี มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ 2. ผศ.ดร.นริ ตุ ฉตั ราภบิ าล มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ 3. ดร.นฤพนธ์ ยังดี มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น 4. รศ.ดร.วิวัธน์ ชาญนุวงศ์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ 5. ผศ.ธรี ยุทธ อุทยารัตน์ มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทร์วโิ รฒ 6. ผศ.ดร.ปฎิภาณ อิทธสิ มัย จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั 7. ดร.ภาวนิ ยังจนี นกั วชิ าการอสิ ระ 8. นายสมเกียรติ คณะกรรมการดาเนินการ ผอู้ านวยการกลุ่มพัฒนาความสามารถพิเศษ 1. ดร.โชติมา หนพู ริก สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สพฐ. 2. ดร.ชลฤทยั ทวีแสง โรงเรียนยุพราชวทิ ยาลัย 3. นายวรวัฒน์ ธรรมวงศ์ โรงเรยี นสตรีศรีนา่ น 4. นายแท้ นามแก้ว โรงเรียนห้องสอนศึกษา ในพระอปุ ถัมภฯ์ 5. นายธนกฤต เลิสล้า โรงเรยี นแกน่ นครวิทยาลัย 6. นายวริ ัช คุ้มโภคา โรงเรียนแกน่ นครวิทยาลัย 7. นางสาวสภุ าพร วงเวียง โรงเรียนขอนแก่นวทิ ยายน 8. นายชุมพร อินทรจกั รพงษ์ โรงเรยี นขอนแก่นวิทยายน 9. นายศิวะ ปินะสา โรงเรยี นขอนแก่นวทิ ยายน 10. นางศริ เิ พ็ญ ศรตี ระกูล โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 11. นางสาวภัทรวดี นามวงษ์ โรงเรียนหนองบัวพิทยาคาร 12. นายวชั ระ ลแี วง โรงเรยี นหนองหานวทิ ยา 13. นายสันติ อนิ แสงแวง โรงเรยี นอุดรพทิ ยานกุ ลู 14. นายศราวุธ ลาบวั ใหญ่ โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม 15. นายกวีชยั จาปา โรงเรยี นดงยางวทิ ยาคม 16. นายสมสักดิ์ เสนาใหญ่ โรงเรยี นสโุ ขทยั วทิ ยาคม 17. นายณรรตธร คงเจริญ โรงเรยี นพบิ ูลวทิ ยาลยั 18. นายธนภณ บุญพลอย โรงเรียนพบิ ูลวิทยาลัย 19. นายอโนทยั กลิ่นยา

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 19 20. นายเทวัญ ดีจรัส โรงเรียนสตรสี มุทรปราการ โรงเรยี นปราจีนกัลยาณี 21. นายอนพุ งษ์ ศรีโสภา โรงเรยี นปราจิณราษฎรอารงุ โรงเรียนปราจิณราษฎรอารงุ 22. นายปติ ภิ มู ิ บวั ตูม โรงเรยี นปราจิณราษฎรอารงุ โรงเรียนสระแก้ว 23. นายวทัญญู ลอยป้อม โรงเรยี นเบญจมราชูทศิ โรงเรียนสุราษฏรธ์ านี 24. นายสพุ ัฒน์ กองรัมย์ โรงเรยี นสตรีระนอง โรงเรียนพิชยั รตั นาคาร 25. นายสรายทุ ธ อดุ มวทิ ยานุกลู โรงเรยี นพิชัยรตั นาคาร โรงเรยี นดบี กุ พังงาวทิ ยายน 26. นายชนัตว์ ชามทอง โรงเรยี นวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา โรงเรียนหาดใหญว่ ิทยาลยั 27. นางสาวจฑุ ามาศ วงศาโรจน์ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลยั 28. นายสทิ ธชิ น พมิ ลศรี 29. นางสาวชลติ า ทองเพม่ิ 30. นางสาวเมธ์วดี บญุ ทอง 31. นายนพรัตน์ ยอ้ ยพระจนั ทร์ 32. นายนุกูล ชว่ ยเนยี ม 33. นายโชคชยั แจวิจารณ์ 34. นายธวัช แพรกทอง

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 20 คณะผจู้ ดั ทาเอกสาร (แบบที่ 2 ) คณะกรรมการดาเนนิ การ หนพู รกิ ผูอ้ านวยการกล่มุ พฒั นาความสามารถพเิ ศษ 1.ดร.โชตมิ า สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สพฐ. ทวแี สง สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. 2.ดร.ชลฤทยั ธรรมวงศ์ โรงเรยี นยพุ ราชวทิ ยาลยั 3.นายวรวฒั น์ นามแก้ว โรงเรียนสตรศี รีนา่ น 4.นายแท้ เลิสล้า โรงเรียนห้องสอนศึกษา ในพระอุปถมั ภ์ฯ 5.นายธนกฤต คุ้มโภคา โรงเรยี นแก่นนครวทิ ยาลยั 6.นายวิรัช วงเวียง โรงเรียนแก่นนครวทิ ยาลัย 7.นางสาวสภุ าพร อินทรจักรพงษ์ โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 8.นายชมุ พร ปินะสา โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 9.นายศิวะ ศรตี ระกลู โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 10.นางศริ เิ พ็ญ นามวงษ์ โรงเรยี นขอนแก่นวทิ ยายน 11.นางสาวภทั รวดี ลีแวง โรงเรยี นหนองบัวพทิ ยาคาร 12.นายวัชระ อนิ แสงแวง โรงเรยี นหนองหานวทิ ยา 13.นายสนั ติ ลาบวั ใหญ่ โรงเรยี นอุดรพทิ ยานุกลู 14.นายศราวุธ จาปา โรงเรยี นนครพนมวิทยาคม 15.นายกวชี ยั เสนาใหญ่ โรงเรียนดงยางวทิ ยาคม 16.นายสมสกั ด์ิ คงเจรญิ โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม 17.นายณรรตธร บุญพลอย โรงเรยี นพิบูลวิทยาลัย 18.นายธนภณ กลิน่ ยา โรงเรยี นพบิ ลู วทิ ยาลยั 19.นายอโนทัย ดีจรัส โรงเรียนสตรีสมทุ รปราการ 20.นายเทวญั ศรโี สภา โรงเรียนปราจีนกัลยาณี 21.นายอนพุ งษ์ บัวตมู โรงเรียนปราจณิ ราษฎรอารงุ 22.นายปิติภมู ิ ลอยปอ้ ม โรงเรียนปราจณิ ราษฎรอารงุ 23.นายวทัญญู กองรัมย์ โรงเรียนปราจิณราษฎรอารงุ 24.นายสพุ ัฒน์ อุดมวิทยานุกลู โรงเรียนสระแก้ว 25.นายสรายุทธ ชามทอง โรงเรียนเบญจมราชูทิศ 26.นายชนัตว์ วงศาโรจน์ โรงเรยี นสรุ าษฏรธ์ านี 27.นางสาวจฑุ ามาศ พิมลศรี โรงเรยี นสตรีระนอง 28.นายสทิ ธชิ น ทองเพิ่ม โรงเรียนพิชัยรตั นาคาร 29.นางสาวชลติ า

ธ ร ร ม นู ญ ก า ร จั ด ก า ร แ ข่ ง ขั น ฟิ สิ ก ส์ สั ป ร ะ ยุ ท ธ์ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ห น้ า | 21 30.นางสาวเมธ์วดี บุญทอง โรงเรยี นพิชยั รตั นาคาร 31.นายนพรตั น์ ยอ้ ยพระจันทร์ โรงเรยี นดีบุกพังงาวทิ ยายน 32.นายนุกูล ชว่ ยเนียม โรงเรียนวรนารเี ฉลมิ จงั หวดั สงขลา 33.นายโชคชัย แจวจิ ารณ์ โรงเรยี นหาดใหญ่วิทยาลยั 34.นายธวชั แพรกทอง โรงเรียนหาดใหญ่วทิ ยาลัย เรียบเรียงและจัดทารปู เล่ม โรงเรียนสรุ าษฏรธ์ านี นางสาวจุฑามาศ วงศาโรจน์ โรงเรียนขอนแก่นวทิ ยายน ออกแบบปก นายศวิ ะ ปินะสา

นำเสนอ เรม่ิ จาก 1 แลว้ เพม่ิ /ลด ใบคะแนน เวท:ี รอบท:ี่ นาเสนอ: ซกั คา้ น: นำเสนอ ทฤษฎ/ี กำรทดลองที่ เปรยี บเทยี บทฤษฎกี บั ผลงำนของตนเอง บ กำรอธบิ ำย แบบจำลอง เกยี่ วขอ้ ง ผลกำรทดลอง ปรำกฏกำรณ์ ขอ้ มลู ผูอ้ น่ื , อา้ งองิ ไมถ่ กู แก แทบไมม่ ี แทบไมม่ ี มบี า้ ง แทบจะไมเ่ ชอ่ื มโยง ทบทวนงานวจิ ยั , อา้ งองิ บ มบี างสว่ น มบี างสว่ น มบี างสว่ น มบี างสว่ น ผลลพั ธบ์ างอยา่ งนา่ สนใจ มพี อสมควร มพี อสมควร มพี อสมควร ไมเ่ หมาะสม +ผลการทดลองนา่ สนใจ คดิ การทดลอง หรอื ทฤษฏี อธบิ ายไดด้ ี ทาไดด้ ี ทาไดด้ แี ละเพยี งพอ วเิ คราะหแ์ คเ่ ชงิ คณุ ภาพ ทนี่ า่ สนใจ สาธติ ไดล้ ะเอยี ด คอ่ นขา้ งละเอยี ด +วเิ คราะหผ์ ลและ +อธบิ ายขอ้ จากดั ทาง คดิ การทดลอง และ ทฤษฎี และถูกตอ้ ง ความคลาดเคลอ่ื น ทฤษฎี สรปุ ได ้ แสดงความเขา้ ใจ ทน่ี า่ สนใจ ฟิสกิ สค์ รอบคลมุ และ ละเอยี ด, ซบั ซอ้ น +ทาซา้ ไดแ้ ละ เหมาะสม, วเิ คราะหก์ าร และทดสอบได ้ วเิ คราะห์ เบยี่ งเบน,สรปุ ได ้ ลกึ ซง้ึ นา่ เชอ่ื ถอื NOTES: ซกั คำ้ น เรม่ิ จาก 1 แลว้ เพมิ่ /ลด คำถำมทใี่ ช้ ซกั คำ้ นกลำ่ วนำ ควำมเขำ้ ใจกำร กำรพูดถงึ ควำมคดิ เหน็ ตนเอง เวลำทใี่ ช้ นำเสนอ หวั ขอ้ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ไมม่ ี คาถามไม่ แทบไมม่ ี แทบไมม่ ี เกยี่ วขอ้ ง ไมเ่ กย่ี วขอ้ ง มบี า้ ง ใชเ้ วลานอ้ ย บางประเดน็ หลัก มคี าถามที่ บางหัวขอ้ มปี ระเดน็ ทส่ี าคัญ เกยี่ วขอ้ ง ใชเ้ วลาไมค่ รบ ประเดน็ หลกั เกอื บทกุ หัวขอ้ แตไ่ มช่ ดั เจน ใชเ้ กอื บเตม็ ทกุ ประเด็นที่ บางสว่ น +กระชบั ชดั เจน +ครบและมี หลายหวั ขอ้ +เสนอแนะขอ้ แกไ้ ข ตรงประเด็น ใช ้ ประสทิ ธภิ าพ เกยี่ วขอ้ ง เวลาไดเ้ หมาะสม ทกุ ประเด็น ทกุ หัวขอ้ NOTES: ทงั้ หมด วพิ ำกษ์ เรมิ่ จาก 1 แลว้ เพม่ิ /ลด คำถำมทใี่ ช้ วพิ ำกษฝ์ ่ ำยนำเสนอ วพิ ำกษฝ์ ่ ำยซกั คำ้ น นอ้ ย ไมเ่ กยี่ วขอ้ ง รำยงำนสรปุ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ประเมนิ กำร ขอ้ เกยี่ วขอ้ งบา้ ง, จานวนเหมาะสม, & ควำม พูด ข ไขขอ้ สงสัย เขำ้ ใจ +ใชเ้ วลาครบ, ไขขอ้ สงสยั หลายขอ้ , ถามทงั้ ฝ่ ายนาเสนอ แย่ ไมเ่ กย่ี วขอ้ ง แย่ ไมเ่ ก และซกั คา้ น +กระชบั , ลาดบั ความสาคญั , บางสว่ น เกย่ี วขอ้ ง สนั้ หรอื ยาวไป มบี จัดการเวลาไดด้ มี าก บางสว่ น มเี พ NOTES: มขี อ้ มลู , คร ดี ถกู ตอ้ งสว่ นใหญ่ เหมาะสม ละเอยี ด, สอดคลอ้ งทกุ กระชบั ถกู ตอ้ ง ซบั ซอ้ น หัวขอ้

หอ้ ง: โจทยข์ อ้ ท:่ี ชอ่ื กรรมการ: วพิ ากษ์: ลายเซ็น: อภปิ รำยกบั ฝ่ ำยซกั คำ้ น บรรลเุ ป้ ำหมำย กำรสอ่ื สำร ขอ้ โตแ้ ยง้ ท่ี ประสทิ ธภิ ำพ ตอบคำถำมกรรมกำร, ฝ่ ำย ของโจทย ์ เชงิ วทิ ยำศำสตร์ เกยี่ วขอ้ ง ซกั คำ้ นและฝ่ ำยวพิ ำกษ์ เขา้ ใจผดิ นอ้ ย แทบไม่ม,ี ดสู บั สน บางสว่ น แทบไมม่ ี มบี างสว่ น หลกี เลย่ี งคาถาม กระชบั ถกู ตอ้ ง ไมม่ ี พอสมควร มบี างสว่ น คาถาม หลายขอ้ ร่วมอภปิ รายไดด้ ี ไมถ่ กู ตอ้ ง ไมช่ ดั เจน กโ้ จทยน์ า่ สนใจ พอสมควร บา้ งหรอื คาตอบยาว บางหลกั การ มขี อ้ มลู /ทฤษฎี ตอบคาถามสว่ น ไป บางดา้ นมคี วาม สนับสนนุ ใหญต่ รงประเดน็ ไมเ่ ขา้ ใจ หรอื แสดง โดดเดน่ ชดั เจน มปี ระสทิ ธภิ าพ ความเขา้ ใจผดิ มคี วามชดั เจน แสดงความเขา้ ใจ และเป็ นประโยชน์ เกนิ ความ เชงิ ลกึ คาดหมาย โดยรวม +มกี ารแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ประเดน็ ใหม่ ทางฟิสกิ ส์ อภปิ รำยกบั ฝ่ ำยนำเสนอ ควำมคดิ เหน็ ประสทิ ธภิ ำพ ตอบคำถำมกรรมกำรและ หวั ขอ้ ทำงวทิ ยำศำสตร์ นอ้ ยมาก แทบไมม่ ี ฝ่ ำยวพิ ำกษ์ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง มบี างสว่ น แทบไมม่ ี กระชบั ถกู ตอ้ ง ไม่ นาการอภปิ ราย หรอื ใหค้ วามร่วมมอื มคี าถาม เลก็ นอ้ ย มบี า้ ง คอ่ นขา้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง ไม่ ชดั เจนบา้ งหรอื บางสว่ น ถกู บางสว่ น มปี ระสทิ ธภิ าพมาก คาตอบยาวไป ดี ถกู สว่ นใหญ่ ไมเ่ ขา้ ใจ หรอื มปี ระเดน็ ใหมท่ ส่ี าคัญ +เสนอแนะ แสดงความเขา้ ใจผดิ ขอ้ แกไ้ ข วเิ ครำะหก์ ำรอภปิ รำย ระบปุ ระเดน็ สำคญั ทหี่ ำยไป ตอบคำถำมกรรมกำร อดแี ละ ประเมนิ กำรพดู ควำมคดิ เหน็ ไมเ่ กย่ี วขอ้ ง กระชบั ถกู ตอ้ ง ขอ้ เสยี หรอื ไมม่ คี าถาม กยี่ วขอ้ ง บางสว่ น แย่ นอ้ ย ไมถ่ กู ตอ้ ง พยี งพอ มบี างสว่ น ไมช่ ดั เจนบา้ งหรอื รบถว้ น สัน้ หรอื ยาวไป มเี พยี งพอ ไมม่ ี คาตอบยาวไป ครบถว้ น มขี อ้ มลู , เกย่ี วขอ้ งและ ไมเ่ ขา้ ใจ หรอื เหมาะสม สรา้ งสรรค์ แสดงความเขา้ ใจ กระชบั ถกู ตอ้ ง ผดิ

การแขง่ ขนั ฟิ ส 26-27 พฤศจ

สกิ สส์ ัประยุทธ์ จกิ ายน 2565 1

ลักษณ

ณะโจทย์ 2

การแขง่ ขันฟิ สกิ สส์ ัประยุทธ์ • ในแตล่ ะปี คณะกรรมการจะคดั เลือกโจทย • โจทยเ์ ป็นปลายเปิด ครอบคลมุ เนือ้ หาฟิสกิ สท์ ่ีอาจจะเกิน ม. • แตล่ ะทีมใชเ้ วลาแกโ้ จทย์ เตรยี มสไลดส์ าห • ทมี นาเสนอ นาเสนอการแกโ้ จทยเ์ ป็นเวลา ทีมซกั คา้ น และทีมวพิ ากษ์ รว่ มฟังการน

ย์ 10 ขอ้ .ปลาย หรบั นาเสนอ า 10 นาที นาเสนอ 3

โจทยฟ์ ิ สิกสส์ ปั ระยุทธ์ อธิบ สบื โจทย์

บาย & บเสาะ การวดั คาถาม ปลายเปิด 4

ตัวอย่างโจทย์ • จงวดั ความเรว็ ของแก๊สรอบ ๆ เปลวไฟจากเทีย • จงออกแบบตกึ สงู ท่ีชว่ ยใหต้ กึ สามารถตา้ นทาน • จงสรา้ งเครอ่ื งมือสาหรบั วดั ขนาดของอนภุ าคห • ทาไมธงถึงสะบดั เป็นคล่นื เม่ือมีลมพดั จงหาปัจ • ดงึ ผา้ เปียกไปบนพืน้ จะตอ้ งออกแรงมากกวา่ ดง • ยงุ สามารถบนิ ท่ีความสงู มากท่ีสดุ เทา่ ไร (1989 • จงสบื เสาะปัจจยั ท่ีสง่ ผลตอ่ แรงท่ีใชใ้ นการดงึ เท

ยนไข (1999) นแผ่นดนิ ไหวได้ (2007) หมอก (2004) จจยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง (2002) งึ ผา้ แหง้ จงหาสาเหตุ (2006) 9) ทปกาวออกจากพืน้ ผวิ (2011) 5

การแก้โจทยป์ ระเภท อธิบาย & 1. เห็นปรากฏการณ์ 2. สรา้ งแบบจาลอง (mode ชดุ ทดลองเพ่ืออธิบาย 3. ศกึ ษาผลของการเปล parameter ในแบบจาล Outcome: 1. คาอธิบาย 2. ชิน้ งาน 3. เปรยี บเ

สืบเสาะ el) และ ฟิสกิ ส์ ย คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี ลย่ี น ลอง กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ เทียบการทดลองกบั ทฤษฎี 6

การแก้โจทยป์ ระเภท การวัด 1. สร้างแบบจาลอง (mo 2. สร้าง/หาเคร่ืองมือว 3. ทาการวดั พรอ้ มกบั หาค ละเอียดและความคลาดเค Outcome: 1. วิธี/เครอ่ื งมือวดั 2. ความละ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook