รูปร่าง ลกั ษณะของกระตา่ ย 1 กระต่ายเป็นสตั วเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยนมท่ีมีขนาดเลก็ มีขนปุกปุย ที่อยอู่ าศยั ของกระตา่ ย 2 ทว่ั ลาตวั มีหางกลมส้ัน มีใบหูยาวเม่ือเทียบกบั สัตว์อ่ืน กระต่ายมีขา อาหารของกระต่าย 3 หน้าที่มี 5 น้ิว ขาหลงั มี 4 นิ้ว มีสะโพกที่ยาวและทรงพลัง เต็มไปดว้ ย นสิ ยั ของกระตา่ ย 4 กลา้ มเน้ือ จึงสามารถกระโดดไดเ้ ป็นอยา่ งดี กระโดดไดส้ ูงท่ีสุดกระโดด ความเช่ือเรื่องกระต่าย 5 ไดส้ ูงถึง 99.5 เซนตเิ มตรใตฝ้ ่ าเทา้ ของกระตา่ ยมีขนนุ่ม ๆ รองรับอยู่ เพื่อ มิใหเ้ กิดเสียงเมือ่ เคลื่อนไหว นอกจากน้ีแลว้ ตาของกระต่ายยงั มีหนังตา หรือเปลือกตาถึง 3 ช้นั ดวงตาของกระต่ายมีลักษณะกลมโต ทาให้ กระต่ายสามารถเหลือบมองภาพด้านหลังไดโ้ ดยที่ไม่ตอ้ งหันหัวเลย กระตา่ ยจดั เป็นสตั วท์ มี่ รี ะบบการมองเห็นที่ดกี ว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ มาก แต่ กระตา่ ยสามารถมองเหน็ สีไดเ้ พยี งแค่ 2 สีเทา่ น้นั คือ สีเขยี วและสีน้าเงิน และจะยง่ิ มองไดช้ ดั เจนข้นึ เมอื่ อยใู่ นท่ีมืด
อยใู่ นท่ีราบโลง่ ท่ีเป็นทงุ่ หญา้ มากกวา่ ป่ าทึบ กระตา่ ยเป็นสัตวท์ ี่กินพืชเป็ นอาหารเท่าน้ัน ต่างจากสัตว์ โดยขดุ โพรงใตด้ ินเป็นรังและที่อยอู่ มกั อาศยั าศยั ฟันแทะที่กินไดท้ ้งั เน้ือและพชื อาหารของกระต่ายไดแ้ ก่ หญา้ และพืชผกั ชนิดตา่ ง ๆ อายขุ ยั โดยเฉลย่ี ของกระต่ายตามธรรมชาตจิ ะอยทู่ ี่ 2-3 ปี หรือ เตม็ ทก่ี ็ 5-10 ปี แต่กระต่ายเล้ยี งมีอายเุ ฉลย่ี อยทู่ ี่ 7-12 ปี โดยอาหารไดแ้ ก่ หญา้ แหง้ 80-90% อาหารเมด็ 5-10% และผกั ผลไม5้ % นอกจากน้ีแลว้ ตามธรรมชาติของกระต่าย ไม่ว่าจะเป็ น กระต่ายป่ าหรือกระต่ายบา้ น จะมีพฤติกรรมกินมูลของตวั เองที่ขบั ถ่าย ออกมา มูลลกั ษณะน้ีถูกเรียกวา่ \"มลู พวงอง่นุ \" เป็ นมูลซ่ึงยงั มีสารอาหาร อยู่ ท่ีกระตา่ ยไม่สามารถยอ่ ยหรือดดู ซึมสารอาหารไปไดห้ มด จึงตอ้ งกิน เขา้ ไปในร่างกายอกี คร้ังเพอื่ ดดู ซึมสารอาหารใหห้ มด
กระต่ายเป็ นสัตว์หากินกลางคืน จะต่ืนตอน กระตา่ ยเป็นสตั ว์ที่ผูกพนั กบั มนุษย์มาเป็นเวลานาน ด้วย กลางคนื เพื่อหากิน และจะหลบั ในเวลากลางวนั แต่ที่เรามกั จะ การเป็นสตั ว์ทถ่ี กู ลา่ เพื่อเป็นอาหารและเกมกีฬาโดยเฉพาะในแถบทวีป ไม่เห็นกระตา่ ยนอนเพราะ กระต่ายบางตวั จะนง่ั นิ่งๆ สักพัก ยโุ รป ในเชิงวัฒนธรรมและความเช่ือ ชาวตะวนั ตกเชื่อว่า การพกตีน โดยไมห่ ลบั ตา และนน่ั คือการนอนของกระตา่ ย เพราะกระต่าย กระตา่ ยจะนามาซงึ่ โชคดี ความเช่ือนเี ้ช่ือกนั อยา่ งมากโดยเฉพาะในทวีป มีสญั ชาติญาณในการระวงั ตวั สงู มกั ตกอย่ใู นสถานะผู้ถกู ล่า อเมริกาเหนือ เชื่อว่า หากพกตีนกระต่ายท่ีเป็นตีนของขาหลังด้านซ้าย เสมอกระตา่ ยจาเป็นต้องแทะๆ เพื่อให้ฟันท่ีขบกนั มีการสกึ และ และหากคนทฆ่ี ่ากระต่ายตัวนนั ้ เป็นคนตาเหล่ หรือจับกระต่ายตัวนนั ้ ได้ ฟั นไม่งอกย าว จนเ กิน ไปก ระต่าย เป็ นนัก ขุด เพราะกระต่าย ในสสุ านหรือในคืนวนั พระจันทร์เต็มดวง หรือคืนวนั ศุกร์ท่ี 13 ก็จะยิ่ง มกั จะขดุ โพรงอยู่ โดยโพรงจะมีความลกึ และสามารถซ่อนตวั ช่วยให้โชคดียิ่งขนึ ้ ได้ ชาวจนี และชาวญี่ป่ นุ เชื่อวา่ กระต่ายเป็นเทพเจ้าแห่งดวง จนั ทร์ มีหน้าท่ีปรุงยาอายวุ ฒั นะ เป็นสตั ว์เลยี ้ งของฉางเอ๋อ เทพธิดาแห่ง ดวงจันทร์ การมอบรูปลักษณ์ของกระต่ายจึงถือเป็นการมอบควา ม ปรารถนาให้ โชควาสนาให้แก่กันนอกจากนีแ้ ล้วในทางโหราศาสตร์ กระต่ายยงั เป็นตวั แทนของนกั ษัตรลาดบั ที่ 4 คือ ปีเถาะ ที่ใช้สญั ลกั ษณ์ เป็นกระต่าย
กลบั ไปหนา้ แรก
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: