วิชาโครงการ สาขางานพชื ศาสตร์ หน่วยที่ 2 กระบวนการจดั ทาโครงการ
หน่วยที่ 2 กระบวนการจัดทาโครงการ การวางแผนจัดทาโครงการ 1. การกาหนดหรือเลือกโครงการที่จะทา ผูเ้ รียนควรสารวจความสนใจ ความพร้อมและความถนัดของตนเองในด้านต่างๆ แล้วจึงเลือก โครงการที่เหมาะสมกบั ตนเองมากที่สุด 2. การเขียนโครงร่างโครงการ มีองคป์ ระกอบดงั น้ี 1) ชื่อโครงการ การกาหนดช่ือ ควรสื่อความหมายให้ชัดเจน เขียนส้ันๆและใช้ภาษา กะทดั รัด เช่น โครงการจดั ทาผลไมแ้ ปรรูปเพ่อื จาหน่าย 2) หลกั การและเหตุผล ความเป็นมา และความสาคญั ของปัญหา เป็นการช้ีแจงใหเ้ ห็นความ เป็นมาและความสาคญั ของปัญหา หรือหลกั การและเหตุผลในการจดั ทาโครงการ 3) วตั ถุประสงค์ เป็นการระบุวา่ จดั ทาโครงการเพอื่ อะไร โดยทว่ั ไปการจดั ทาโครงการจะมีสาเหตุ 2 ประการคือ 3.1 แกป้ ัญหาการปฏิบตั ิงาน 3.2 พฒั นางานในหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบ 4) เป้าหมาย ควรระบุใหช้ ดั เจนวา่ ผลงานท่ีไดค้ ืออะไร กาหนดปริมาณและคุณภาพใหช้ ดั เจน พร้อม ท้งั ระยะเวลาและงบประมารที่กาหนดเพอ่ื ประสิทธิภาพของโครงการ ดงั น้ี 4.1 ปริมาณ ระบุปริมาณ/ ชนิดของผลผลิต หรือผลงาน พร้อมจานวนหรือปริมาณ 4.2 คุณภาพ ระบุคุณภาพของผลผลิต/ ผลงานที่คาดหวงั อาจระบุเป็ นมาตรฐานเกณฑ์ที่ ชดั เจน 4.3 ระยะเวลา ระบุให้เหมาะสมกบั ผลผลิต หรือผลงานที่ตอ้ งการ ควรจดั ทาในช่วงเวลาที่ เหมาะสมและใชร้ ะยะเวลาพอเหมาะตามสภาพแวดลอ้ มของการดาเนินการ 4.4 งบประมาณ ระบุใหช้ ดั เจนลงไปวา่ ควรจะใชง้ บประมาณเท่าใด หรือไดร้ ับงบประมาณ มาจากหน่วยงานใด 5) วิธีดาเนินงาน ควรระบุรายละเอียดกิจกรรมท้งั หมดพร้อมท้งั ข้นั ตอนในการปฏิบตั ิต้งั แต่ตน้ จน สิ้นสุดโครงการ โดยเขียนแผนปฏิบตั ิงานประกอบดว้ ย โดยทวั่ ไปมกั นิยมเขียนในรูป Gantt Chart ซ่ึงแผน ปฏิบตั ิงานจะมีองคป์ ระกอบคือ 5.1 กิจกรรม จะระบุหัวขอ้ เก่ียวกบั การเตรียมงานก่อนเริ่มโครงการ การดาเนินงานตาม โครงการ การกากบั ติดตาม ตลอดจนการประเมินผลโครงการ 5.2 ระยะเวลา ระบุระยะเวลาดาเนินการตามแต่ละหวั ขอ้
6) ระยะเวลาและสถานที่ดาเนินงาน กาหนดวนั ดาเนินการใหช้ ดั เจนต้งั แต่วนั ท่ีเร่ิมจนถึงวนั สิ้นสุด โครงการ และระบุสถานที่จดั ดาเนินการใหช้ ดั เจนดว้ ย 6.1 ระยะเวลา กาหนดวนั ท่ีดาเนินการใหช้ ดั เจน ต้งั แต่วนั ท่ีเร่ิมตน้ โครงการจนถึงวนั สิ้นสุด โครงการ 6.2 สถานท่ี ใหร้ ะบุสถานที่จะจดั ดาเนินการปฏิบตั ิงาน 7) คา่ ใชจ้ ่าย/งบประมาณ ระบุคา่ ใชจ้ า่ ยใหช้ ดั เจน 8) ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ ระบุผลที่เกิดข้ึนเมื่อการดาเนินงานโครงการสิ้นสุดลง รวมถึงผลกระทบจาก โครงการ 9) การติดตามและประเมินผล ติดตามการดาเนินงานตามโครงการแตล่ ะข้นั ตอนจนสิ้นสุดโครงการ และทาการประเมินผล 10) ปัญหาหรืออุปสรรคท่ีคาดว่าอาจเกิดข้ึน ระบุปัญหาอุปสรรคที่คาดว่าจะเกิดข้ึนกบั โครงการ และจะทาใหโ้ ครงการไม่บรรลุตามเป้าหมาย 11) ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ใหร้ ะบุชื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคลที่ทางานร่วมกนั 12) ที่ปรึกษาโครงการ ระบุชื่อท่ีปรึกษาในการทาโครงการ การดาเนินงานตามโครงการ การดาเนินงานตามโครงการ แบ่งออกเป็น 2 ข้นั ตอน ดงั น้ี 1. การปฏิบตั ิงานตามโครงการ เมื่อโครงการได้รับการอนุมตั ิให้ดาเนินการได้แลว้ ผูเ้ รียนควร ทบทวนลาดบั ข้นั ตอนการปฏิบตั ิงานให้เขา้ ใจก่อนเริ่มปฏิบตั ิงานตามแผน การปฏิบตั ิงานตามแผน ผเู้ รียน ตอ้ งบนั ทึกผลการปฏิบตั ิงานเป็นระยะๆเพ่อื รายงานความกา้ วหนา้ ของโครงการ 2. การประเมินผปู้ ฏิบตั ิงาน เม่ือผเู้ รียนดาเนินการปฏิบตั ิงานตามโครงการตามข้นั ตอนที่กาหนดแลว้ ควรวางแผนเกบ็ ขอ้ มูลเพ่ือประเมินโครงการแต่ละประเภท ซ่ึงผเู้ รียนตอ้ งดาเนินการประเมินใหช้ ดั เจน การจัดทารายงาน การจดั ทารายงานประกอบดว้ ย 2 ส่วน ดงั น้ี 1. การวิเคราะห์และสรุปผลการประเมิน เม่ือผูเ้ รียนประเมินผลจากการทาโครงการตามแผนงาน ปฏิบตั ิแล้ว จะต้องทาการวิเคราะห์และสรุปผลให้ชัดเจน ว่าปฏิบตั ิงานโครงการเป็ นอย่างไร มีปัญหา อุปสรรคเป็นอยา่ งไร ตลอดจนมีขอ้ เสนอแนะในการทาโครงการ 2. การเขียนรายงาน หลงั จากปฏิบตั ิงานตามแผนที่วางไวจ้ นสาเร็จหรือไดผ้ ลงานแลว้ สุดทา้ ยก็ตอ้ ง เขียนรายงานเพื่อนาเสนอ เอกสารรายงานประกอบดว้ ย 3 ส่วน คือ ส่วนนา ส่วนเน้ือหา และภาคผนวก ดงั น้ี 2.1 ส่วนนา ประกอบดว้ ย ปก คานา และสารบญั 2.2 ส่วนเน้ือหา ประกอบดว้ ย
(1) หลกั การและเหตุผล วตั ถุประสงค์ เป้าหมาย ประโยชน์ เป็นตน้ (2) วธิ ีดาเนินการแบ่งเป็น 4 ข้นั ตอนดงั น้ี ตอนที่ 1 การเตรียมการก่อนเร่ิมโครงการ จะรายงานเก่ียวกบั - การศึกษาคน้ ควา้ - การเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ - บุคลากรมีความถนดั ในแต่ละดา้ นของการปฏิบตั ิโครงการ ตอนที่ 2 การดาเนินงาน เขียนข้นั ตอนการทาโครงการ ตอนท่ี 3 ค่าใชจ้ า่ ย ใหร้ ะบุค่าใชจ้ ่ายจริงในการปฏิบตั ิโครงการ ตอนท่ี 4 สรุปผลการดาเนินงาน ใหส้ รุปวา่ ไดผ้ ลงานเป็นไปตามวตั ถุประสงคห์ รือไม่ 2.3 ภาคผนวกและบรรณานุกรม (1) ภาคผนวก ใหน้ าเอกสาร แบบฟอร์ม คาช้ีแจงรายละเอียด และอ่ืนๆมาใส่ไวต้ ามจาเป็น (2) บรรณานุกรม เป็นเอกสารท่ีใชใ้ นการคน้ ควา้ ประกอบการทาโครงการทุกข้นั ตอน การประเมินผลโครงการ การประเมินผลโครงการควรพจิ ารณาประเมินใหค้ รบท้งั 3 ระยะของโครงการ ไดแ้ ก่ 1. โครงร่างซ่ึงเป็นข้นั ตอนของการวางแผนโครงการ 2. การดาเนินงานตามโครงการ 3. ผลของโครงการ/รายงาน โดยกาหนดสัดส่วนการให้คะแนนที่เหมาะสมตามธรรมชาติของโครงการแต่ละประเภท ซ่ึง โดยทวั่ ไปจะใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั น้ี ส่วนที่ 1 โครงร่างโครงการ (10%) 1. องคป์ ระกอบ - ช่ือโครงการ - หลกั การและเหตุผล - วตั ถุประสงค์ - เป้าหมาย - การดาเนินงานและแผนปฏิบตั ิงาน - ระยะเวลาและสถานท่ี - งบประมาณ - ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 2. ความตรงตามสาขาท่ีเรียน
3. ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 4. ความน่าสนใจ 5. ความเป็นไปได้ ส่วนที่ 2 การดาเนินงานตามโครงการ (70%) 1. ผลของโครงการ - ตรงตามวตั ถุประสงค์ - ตรงตามเป้าหมาย - งบประมาณท่ีใช้ - งานเสร็จทนั เวลา 2. การเขียนรายงาน - องคป์ ระกอบการรายงานครบถว้ น - รายงานชดั เจน การเลือกหวั ข้อโครงการ เกณฑ์ในการพจิ ารณาเลือกหัวข้อโครงการ การตดั สินใจเลือกโครงการ มีเกณฑท์ ี่ควรพจิ ารณา ดงั น้ี 1. มีความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์ ความถนดั และความสนใจในโครงการท่ีเลือก 2. โครงการมีความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรท่ีเรียน 3. โครงการมีความเหมาะสมกบั สภาพทอ้ งถิ่นหรือชุมชนของตนเอง 4. โครงการมีความเหมาะสมกับเพศ วยั กาลงั ความสามารถ และงบประมาณของตนเองหรือ ผรู้ ่วมงาน ตลอดจนสถานที่ดาเนินการ 5. ช่วงระยะเวลาในการดาเนินงานโครงการไม่ควรส้นั เกินไป และไม่ควรเกิน 1 ภาคเรียน 6. ควรเป็นโครงการท่ีสามารถคน้ ควา้ ขอ้ มูลเพ่มิ เติมไดจ้ ากแหล่งขอ้ มูลต่างๆ เช่น ทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญา ชาวบา้ น ฯลฯ การเลือกโครงการประเภทส่ิงประดิษฐ์ โครงการสิ่งประดิษฐ์ เป็นการประยกุ ตท์ ฤษฎีหรือหลกั การท่ีเรียนมา มาประดิษฐ์เป็ นเครื่องมือหรือ อุปกรณ์เพ่ือประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจาวนั สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวอาจเป็ นส่ิงใหม่ที่ผูเ้ รียนคิดริเร่ิม สร้างสรรคข์ ้ึนเอง หรืออาจเป็นการปรับปรุงดดั แปลงจากของเดิมท่ีมีอยแู่ ลว้ ใหม้ ีประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน โครงการส่ิงประดิษฐ์ท่ีผูเ้ รียนเลือกทา ผูเ้ รียนจะตอ้ งมีการพิจารณาตนเองหรือทีมงานก่อนตดั สิน เลือก เพ่ือให้โครงการหรือชิ้นงานที่ออกมามีประสิทธิภาพ ซ่ึงคุณลกั ษณะของผูเ้ รียนหรือทีมงานควรเป็ น ดงั น้ี
1. มีความรู้ทางดา้ นวชิ าการ การประดิษฐส์ ิ่งต่างๆยอ่ มตอ้ งใชค้ วามรู้ทางวิชาการอยา่ งแทจ้ ริงมาเป็ น พ้ืนฐานการทางาน เพื่อให้ไดผ้ ลงานท่ีถูกตอ้ ง มีหลกั การ และมีความเป็ นไปไดซ้ ่ึงหากผเู้ รียนรู้มีความสนใจ ประดิษฐ์งานดา้ นใด ก็ควรเสาะแสวงหาความรู้ทางวิชาการที่เก่ียวขอ้ งกบั การประดิษฐ์ชิ้นงานให้ครอบคลุม และเป็นความรู้ท่ีถูกตอ้ งเพ่ือป้องกนั ความผดิ พลาดซ่ึงอาจเกิดความเสียหายได้ 2. มีทกั ษะในการปฏิบตั ิงาน ทกั ษะในการปฏิบตั ิงานมีความสาคญั ไมน่ อ้ ยไปกวา่ ความรู้ทางวชิ าการ ความรู้ทางวิชาการสามารถหาได้จากการคน้ ควา้ จากตาราหรือเรียนรู้จากผูร้ ู้ หรือผูม้ ีความชานาญในงาน น้นั ๆ ส่วนทกั ษะเกิดข้ึนจากการฝึกฝนจนเกิดความเชี่ยวชาญ 3. มีจรรยาบรรณ จรรยาบรรณเป็ นส่ิงท่ีทุกอาชีพพึงมี การมีจรรยาบรรณทาให้อาชีพน้นั ไดร้ ับการ ยอมรับและเป็นส่ิงน่าเชื่อถือต่อบุคคลทวั่ ไป 4. มีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ การเลือกประกอบอาชีพใดก็ตาม บุคคลน้นั ตอ้ งมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพท่ี เลือก จึงจะปฏิบตั ิงานไดอ้ ย่างมีความสุข การท่ีผูเ้ รียนเลือกปฏิบตั ิผลงานใดก็ตาม ย่อมตอ้ งมีเจตคติที่ดีต่อ งานน้นั ดว้ ย จึงจะทาใหผ้ ลงานที่ออกมาประสบผลสาเร็จไดต้ ามจุดมุง่ หมายท่ีต้งั ไว้ ดงั น้นั ผูเ้ รียนจึงควรเลือกทาโครงการที่เหมาะสมกบั ตนเอง ทีมงาน ความรู้ ความสามารถ ความ สนใจ ตลอดจนเวลาและงบประมาณที่ต้องใช้ด้วย เพ่ือให้ผลงานที่ออกมาน้ันประสบความสาเร็จตาม เป้าหมาย ซ่ึงเป็นส่ิงสาคญั ที่สุดของการทาโครงการ การเลือกโครงการทดลองและวจิ ัย โครงการทดลองและวจิ ยั เป็ นโครงการท่ีทาการศึกษาหาคาตอบของปัญหา ซ่ึงคาตอบของปัญหา น้นั ไดม้ าจากการสารวจและรวบรวมขอ้ มูล นาขอ้ มูลเหล่าน้นั มาจดั ทาเป็นหมวดหมู่ แลว้ นาเสนอเพอ่ื ให้เห็น ลกั ษณะหรือความสมั พนั ธ์ในเร่ืองท่ีตอ้ งการศึกษาไดช้ ดั เจนยง่ิ ข้ึน ข้อกาหนดของโครงการทดลองและวจิ ัย มีดงั ต่อไปน้ี 1. จะต้องเกิดจากความถนัดและความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่ม โดยผ่านกระบวนการ ตดั สินใจและความเห็นชอบของอาจารยท์ ่ีปรึกษา จะตอ้ งเกิดจากการสร้างสมมุติฐาน และการคาดหมายผลที่ จะเกิดข้ึนตามหลกั วชิ า 2. จะตอ้ งมีแผนการทดลองและวจิ ยั ประกอบดว้ ย สมมุติฐาน ข้นั ตอนการทดลองและวจิ ยั ระยะเวลาที่ใช้ งบประมาณ และผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับจากการทดลองและวจิ ยั 3. จะตอ้ งเป็ นงานท่ีสร้างสรรคแ์ ละพฒั นาความรู้ให้เกิดประโยชน์ในการนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั หรือการประกอบอาชีพ 4. สามารถทาไดเ้ ป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ 5. จะตอ้ งผา่ นความเห็นชอบของอาจารยท์ ่ีปรึกษา อาจารยป์ ระจาวชิ า และคณะกรรมการโครงการ
การตัดสินใจเลือกโครงการ การตดั สินใจเลือกโครงการประกอบดว้ ยขอ้ มูลดงั น้ี 1. ขอ้ มูลประกอบการตดั สินใจไดแ้ ก่ 1.1 ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองคือขอ้ มูลต่างๆเกี่ยวกบั ความพร้อมของตนเอง 1.2 ขอ้ มูลเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ ม 1.3 ขอ้ มูลเก่ียวกบั ความรู้พ้นื ฐานเก่ียวกบั ความรู้พ้ืนฐานทางวชิ าการของโครงการ 1.4 ความสนใจและความถนดั แตล่ ะบุคคล 1.5 ความรักและความตอ้ งการที่แทจ้ ริง 2.การศึกษาเอกสาร ขอ้ มูล และผลงานที่เก่ียวขอ้ ง 2.1 เม่ือผูเ้ รียนตดั สินใจเลือกเรื่องที่จะทาโครงการแลว้ จะต้องศึกษาเอกสาร ขอ้ มูลและ ผลงานท่ีเก่ียวขอ้ งท่ีจะทาโครงการ 2.2 เม่ือใหค้ ะแนนและรวมคะแนนแลว้ โครงการไดมีคะแนนมากที่สุดน่าจะเป็ นโครงการ ที่ผเู้ รียนมีความพร้อมมากที่สุด 3. การวางแผน และการประมาณการโครงการ 3.1 ชื่อโครงการควรเป็นขอ้ ความท่ีกะทดั รัดชดั เจน 3.2 ผจู้ ดั ทาโครงการ รายชื่อผทู้ าโครงการร่วมกนั และรายชื่ออาจารยท์ ่ีปรึกษา 3.3 หลกั การและเหตุผล 3.4 วตั ถุประสงค์ 3.5 เป้าหมาย 3.6 แนวความคิดในการออกแบบโครงการ 3.7 แหล่งความรู้ 3.8 งบประมาณและทรัพยากร 3.9 วธิ ีดาเนินงาน 3.10 การติดตามและประเมินผล 3.11 ระยะเวลาและสถานท่ีดาเนินการ 3.12 ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ 4. การประมาณการโครงการ แหล่งเงินทุนของการทาโครงการโดยทว่ั ไปมาจาก 2 แหล่งคือ แหล่งเงินทุนภายใน กบั แหล่งเงินทุนภายนอก โดยผวู้ างแผนโครงการควรตอ้ งคานึงถึงหลกั สาคญั 4 ประการไดแ้ ก่ 1.ความประหยดั 2. ความมีประสิทธิภาพ 3. ความมีประสิทธิผล
4. ความยตุ ิธรรม 5.เสนอโครงการเพ่อื ขออนุมตั ิ เม่ือวางแผนและเขียนเคา้ โครงของโครงการซ่ึงแสดงถึงความพร้อมในการดาเนินโครงการ แลว้ หลงั จากน้นั ผเู้ รียนตอ้ งนาขอ้ มูลพร้อมแผนการดาเนินงานนาเสนอต่ออาจารยท์ ี่ปรึกษา/คณะกรรมการ โครงการเพื่อขออนุมตั ิดาเนินงานโครงการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: