กตกิ าเซปกั ตะกร้อ ของสหพนั ธเ์ ซปกั ตะกรอ้ นานาชาติ (ISTAF)
กติกาเซปกั ตะกร้อ ของสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) ข้อ 1. สนามแข่งขัน (THE COURT) 1.1 สนาม พื้นที่ของสนามมีความยาว 13.40 เมตร และกว้าง 6.10 เมตร จะต้องไม่มีสงิ่ กีดขวางใดๆ วัดจากพ้ืนสนามสงู ข้นึ ไป 8 เมตร (พื้นสนามไม่ควรเปน็ หญา้ หรือสนามทราย) 1.2 เสน้ สนาม ขนาดของเสน้ สนามทกุ เส้นที่เป็นขอบเขตของสนามตอ้ งไม่กว้างกว่า 4 เซนติเมตรให้ตีเสน้ จากขอบนอกเข้ามาในสนามและถือเป็นส่วนหนึ่งของพนื้ สนาม แข่งขนั ด้วย เสน้ เขตสนามทุกเสน้ ต้องห่างจากส่ิงกีดขวางอยา่ งนอ้ ย 3 เมตร 1.3 เส้นกลาง มีขนาดความกว้างของเสน้ 2 เซนตเิ มตร โดยจะแบง่ พ้ืนท่ขี องสนาม ออกเป็นดา้ นซ้ายและขวาเท่าๆกัน 1.4 เส้นเสยี้ ววงกลม ที่มุมสนามของแต่ละดา้ นตรงเสน้ กลาง ให้จดุ ศนู ย์กลางอยู่ทก่ี ่งึ กลาง ของเสน้ กลาง ตัดกับเสน้ ขอบนอกของเสน้ ข้าง เขยี น เส้นเส้ียววงกลมทงั้ สองด้าน รศั มี 90 เซนตเิ มตร ให้ตเี ส้นขนาดวามกวา้ ง 4 เซนติเมตร นอกเขตรัศมี 90 เซนติเมตร 1.5 วงกลมเสิรฟ์ ให้มีรศั มี 30 เซติเมตร โดยวดั จากขอบดา้ นนอกของเส้นหลงั เข้าไปใน สนามยาว2.45 เมตร และวัดจากเส้นข้างเข้าไปในสนามยาว 3.05 เมตร ใชต้ รงจดุ ตดั จากเสน้ หลงั และเส้นข้างเป็นจดุ ศนู ยก์ ลาง ให้เขยี นเส้นวงกลมขนาดความกวา้ ง 4 เซนติเมตร นอกเขตรศั มี 30 เซนตเิ มตร ข้อ 2 เสา (THE POST) 2.1 เสามคี วามสงู 1.55 เมตร (สำหรบั ผูห้ ญงิ 1.45 เมตร) เสาให้ต้ังอยอู่ ยา่ งมั่นคงพอท่จี ะ ทำให้ตาขา่ ยตึงได้ โดยเสาต้องทำจากวตั ถทุ ม่ี ีความแข็งแกรง่ และรัศมีไม่เกนิ 4 เซนตเิ มตร 2.2 ตำแหนง่ ของเสา ใหต้ ัง้ หรือวางไว้อย่างมัน่ คงนอกสนามตรงกบั แนวเสน้ กลางห่างจาก เส้นข้าง 30 เซนติเมตร ขอ้ 3 ตาข่าย (THE NET) 3.1 ตาขา่ ยใหท้ ำด้วยเชือกอยา่ งดีหรอื ไนล่อน มรี ตู าข่าย กว้าง 6-8 เซนตเิ มตร มคี วาม กวา้ งของผนื ตาขา่ ย 70 เซนติเมตร และความยาวไม่นอ้ ยกวา่ 6.10 เมตร ให้มีวสั ดุท่ที ำเป็นแถบ
ขนาดความกวา้ ง 5 เซนตเิ มตร ตรงดา้ นข้างของตาขา่ ยทงั้ สองดา้ นจากบนถงึ ล่างตรงกับแนวเส้น ข้างซ่งึ เรียก ว่า “แถบแสดงเขตสนาม” 3.2 ตาข่ายให้มแี ถบหมุ้ ขนาดกว้าง 5 เซนตเิ มตร ทั้งด้านบนและดา้ นลา่ ง โดยมลี วดหรอื เชือกไนล่อนอยา่ งดรี ้อยผ่านแถบและขงึ ตาข่ายใหต้ ึงเหนือระดบั เสา ไดค้ วามสูงของตาขา่ ย โดยวัด จากพนื้ ถึงส่วนบนของตาข่ายที่กงึ่ กลางสนาม มคี วามสงู 1.52 เมตร (สำหรับผู้หญิง 1.42 เมตร) และวดั ตรงเสาท้งั สองด้าน มคี วามสูง 1.55 เมตร (สำหรับผูห้ ญิง 1.45 เมตร) ขอ้ 4 ลกู ตะกรอ้ (THE SEPAKTAKRAW BALL) ลกู ตะกรอ้ ต้องมีลกั ษณะเปน็ ลกู ทรงกลม ทำด้วยหวายหรือใยสังเคราะหช์ ัน้ เดียว มี 12 รู กับ 20 จดุ ตัดไขว้ หากทำดว้ ยหวายตอ้ งมีจำนวน 9-11 เส้น ขนาดของเสน้ รอบวงต้องไมน่ ้อยกวา่ 42 เซนตเิ มตร และไมม่ ากกว่า 44 เซนติเมตร (สำหรับผู้หญงิ 43-45 เซนติเมตร) น้ำหนกั กอ่ นใช้ แขง่ ขันต้องไม่น้อยกว่า 170 กรัม และไมเ่ กินกว่า 180 กรมั (สำหรบั ผหู้ ญงิ 150-160 กรัม) ขอ้ 5 ผเู้ ล่น (THE PLAYERS) 5.1 การแขง่ ขันมี 2 ทมี ประกอบไปดว้ ยผเู้ ล่นฝ่ายละ 3 คน 5.2 ผู้เลน่ คนหนึง่ ในสามคนจะเป็นผเู้ สริ ฟ์ และอยูด่ ้านหลัง เรียกว่า “ผ้เู สริ ฟ์ ” (SERVER) 5.3 ผู้เล่นอีกสองคนอยู่ดา้ นหนา้ โดยคนหน่ึงจะอยดู่ า้ นซ้ายและอีกคนหนง่ึ จะอยู่ด้านขวา คนท่ีอยู่ดา้ นซ้าย เรียกว่า หน้าซา้ ย (LEFT INSIDE) และคนท่ีอยดู่ า้ นขวา เรียกวา่ หน้าขวา (RIGHT INSIDE) ขอ้ 6 เคร่อื งแตง่ กายของผู้เล่น (PLAYER’S ATTIRE) 6.1 สำหรบั ชาย ตอ้ งสวมเสื้อยดื กางเกงขาส้นั (สำหรับผ้หู ญงิ ให้สวมเส้อื ยดื คอกลมมแี ขน และกางเกงขาส้นั ที่มคี วามยาวระดับ เข่า) และรองเทา้ กฬี าพ้นื ยาง หา้ มผู้เลน่ สวมสง่ิ อืน่ ใดทีจ่ ะเปน็ อนั ตรายแกฝ่ า่ ยตรงขา้ มในระหว่างการแข่ง ขนั กรณีทอี่ ากาศหนาวอนุญาตให้ผู้เลน่ สวมเส้อื ชุด วอร์มแข่งขนั ได้ 6.2 ส่วนตา่ งๆ ของเคร่อื งแตง่ กายของผูเ้ ลน่ ถอื เป็นส่วนหน่ึงของรา่ งกาย และเสื้อจะต้อง อยู่ในกางเกงตลอดเวลาการแขง่ ขัน 6.3 สิ่งใดกต็ ามท่ีช่วยเร่งความเร็วของลูกตะกรอ้ หรอื ช่วยในการเคลื่อนที่ของผเู้ ลน่ ไม่ อนญุ าตใหใ้ ช้
6.4 หัวหน้าทมี (CAPTAIN) จะต้องใสปลอกแขน ท่ีแขนเส้อื ด้านซ้าย 6.5 เส้ือของผ้เู ล่นทุกคนจะต้องตดิ หมายเลขท่ีด้านหลังให้เห็นไดช้ ดั เจน ให้แต่ละทมี ใช้ หมายเลข 1-15 เทา่ น้ัน โดยมีขนาดความสูงไมน่ ้อยกวา่ 19 เซนตเิ มตร ซึ่งกำหนดให้ผเู้ ล่นจะต้องมี หมายเลขเพียงหมายเลขเดียวตลอดการแขง่ ขัน (TOURNAMENT) ขอ้ ที 7 การเปล่ียนตวั ผู้เล่น (SUBSTITUTION) 7.1 ในทมี ชุด ผ้เู ลน่ แต่ละคนท่ลี งแขง่ ขันในทมี ใดแลว้ จะไม่มีการแข่งขันซำ้ ในทมี อ่นื อกี 7.2 การเปลี่ยนตวั ผ้เู ลน่ จะกระทำในเวลาใดกไ็ ด้ โดยผจู้ ดั การทีมยืน่ ขอต่อ กรรมการผู้ชี้ ขาด( Official Referee ) เมื่อลกู ตะกร้อไม่ได้อยใู่ นการเล่น 7.3 ประเภททมี เดียว ในการแข่งขันแต่ละครง้ั ให้แตล่ ะทมี มผี ูเ้ ลน่ สำรองได้ไมเ่ กิน 2 คน นอกเหนอื จากผู้เลน่ 3 คนท่ีเริ่มเล่นในสนามและสามารถทำการเปลยี่ นตัวได้ไมเ่ กิน 2 คร้ังในแต่ ละเซ็ทประเภททมี ชดุ ในการแขง่ ขันแต่ละคร้ัง ใหแ้ ตล่ ะทมี เดยี วเปลีย่ นตวั ผูเ้ ล่นสำรองไดไ้ มเ่ กนิ 1 คน นอกเหนอื จากผู้เลน่ 3 คนที่เรม่ิ เล่นในสนามและสามารถทำการเปล่ียนตัวไดไ้ ม่เกิน 2 คร้ังใน แตล่ ะเซท็ การเปลีย่ นตัวทุกครั้งใหอ้ ยใู่ นอำนาจหน้าทีข่ องกรรมการ ประจำสนาม(Court Referee) และให้กระทำทด่ี า้ นขา้ งของสนาม โดยให้อยู่ในสายตาของผ้ตู ัดสนิ ( Match Referee ) การ เปลีย่ นตวั สามารถกระทำได้ในระหว่างการแข่งขนั เมื่อลกู ตะกรอ้ ไม่ได้อยใู่ นการเล่น หรอื ในทนั ทที ่ี เร่ิมการแข่งขันในแตล่ ะเซท็ การเปล่ียนตัวสามารถเปล่ียนตัวได้ 1 คนหรือ 2 คนพร้อมกนั ในเวลา เดยี วกนั สำหรับประเภททีมเดยี วเท่านนั้ (เปล่ียน 2 คนพรอ้ มกนั ให้นับเป็นสองคร้งั )ก่อนการ แข่งขันในเซท็ ใหม่ ทีมใดมกี ารเปล่ียนตัวในการพกั ระหวา่ งเซ็ทให้ถือเป็ นการเปลย่ี นตวั ในเซ็ทใหม่ 7.4 ถา้ มีผู้เล่นเกดิ การบาดเจบ็ และไม่สามารถทำการแข่งขันตอ่ ไปได้ อนุญาตให้ ทมี น้นั ทำ การเปลี่ยนตัวผเู้ ลน่ ถ้ายังไม่ไดใ้ ชส้ ทิ ธใิ นการเปลย่ี นตัว แต่ถา้ มีการเปล่ียนตวั ครบ 2 ครงั้ ในเซท็ นนั้ แล้ว การแขง่ ขนั จะยตุ ลิ งและทมี ดังกล่าวจะถกู ปรบั ใหเ้ ปน็ แพใ้ นการแขง่ ขัน 7.5 ถ้าผ้เู ลน่ ไดร้ ับบตั รแดง จะถูกลงโทษใหอ้ อกจากการแขง่ ขัน อนญุ าตให้ทีมน้ันทำการ เปลีย่ นตวั ผู้เลน่ ถา้ ยังไมไ่ ดใ้ ช้สิทธใิ นการเปลี่ยนตวั แต่ถ้ามกี ารเปลย่ี นตัวผูเ้ ลน่ ครบ 2 คร้งั ในเซ็ท น้ันแล้ว การแขง่ ขนั จะยตุ ิลงและทมี ’ดังกล่าวจะถกู ปรับให้เปน็ แพ้ในการแขง่ ขนั 7.6 มผี ู้เล่นนอ้ ยกว่า 3 คน การแขง่ ขนั จะยตุ ลิ ง และทีมดังกล่าวจะถกู ปรบั ให้เปน็ แพ้ใน การแข่งขัน
ข้อ 8 เจ้าหนา้ ที่ (OFFICIALS) กฬี าเซปักตะกรอ้ มเี จา้ หน้าทท่ี เ่ี กย่ี วข้องในการแขง่ ขนั ดังต่อไปน้ี 8.1 กรรมการประจำสนาม 1 คน (OFFICIAL REFEREE) 8.2 กรรมการผ้ตู ัดสิน 2 คน (UMPIRES) (ผู้ตดั สนิ 1 คน ผู้ชว่ ยผตู้ ัดสิน 1 คน) 8.3 ผู้กำกับเส้น 6 คน (LINESMEN) (กำกบั เส้นข้าง 4 คน และกำกบั เสน้ หลัง 2 คน) ข้อ 9 การเส่ียงและการอบอนุ่ รา่ งกาย (THE COIN TOSS & WARM UP) กอ่ นเรม่ิ การแข่งขนั กรรมการผูต้ ดั สินกระทำการเสย่ี ง ผูช้ นะการเส่ียงมสี ทิ ธเิ ลือกส่งลกู หรอื เลอื กแดนกไ็ ด้ ทีมท่ีชนะการเสย่ี งจะเป็นทีมทีอ่ บอนุ่ รา่ งกายในสนามก่อนเป็นเวลา 2 นาที แลว้ ตามด้วยทมี ที่เหลอื อยูด่ ้วย ดว้ ยลกู ตะกรอ้ ท่ีใชแ้ ข่งขนั และใหม้ ีบุคคลอยใู่ นสนามได้ 5 คน เทา่ น้นั ขอ้ ท่ี 10 การเริม่ เลน่ และการสง่ ลูก (THE START OF PLAY AND SERVICE) 10.1 การแขง่ ขนั จะถูกดำเนนิ การโดยผู้ตัดสิน ( Match Referee )หน่ึงคนโดยอยู่ใน ตำแหนง่ ด้านหนง่ึ ของปลายตาข่าย ผูช้ ว่ ยผู้ตดั สนิ ( Assistant MatchReferee ) หนง่ึ คน อยู่ ตรงกนั ขา้ มกับผตู้ ดั สนิ กรรมการประจำสนาม (CourtReferee )หนึง่ คนอยู่ดา้ นหลังผู้ตดั สิน ผู้ กำกับเสน้ ( Linesman ) สองคนโดยคนหนึง่ อยูท่ างเสน้ ขา้ งดา้ นขวามอื ของผู้ตัดสนิ และอีกคน หนึ่ง อยทู่ างเสน้ ข้างด้านขวามอื ของผู้ชว่ ยผตู้ ัดสนิ ผู้ตัดสนิ จะได้รับความชว่ ยเหลอื จากกรรมการผู้ ชขี าด (Official Referee) ทอี่ ย่นู อกสนาม ทีมทีไ่ ด้เสริ ฟ์ กอ่ นจะเสริ ฟ์ ติดต่อกนั 3 ครงั้ ในขณะทีอีก ทีมหนึง่ กจ็ ะได้สทิ ธกิ ารเสิร์ฟในลกั ษณะเดยี วกนั หลงั จากนนั้ ใหส้ ลับกนั เสริ ์ฟทกุ ๆ 3 คะแนน ไม่วา่ ฝ่ายใดจะไดค้ ะแนนหรอื เสียคะแนนการดวิ ส์ เมอื ท้ังสองทมี ทำคะแนนได้เท่ากนั ที่ 14 – 14 การ เสริ ์ฟจะสลับกนั ทกุ คะแนนทมี ทีเ่ ปน็ ฝ่ายรบั จากการเร่มิ เลน่ ในเซ็ทใดก็ตาม จะเป็นฝ่ ายเรมิ่ เสิร์ฟ ก่อนในเซท็ ต่อไปและจะตอ้ งเปล่ียนแดนกอ่ นเร่ิมการแขง่ ขนั ในแต่ ละเซท็ การเสริ ์ฟในลกั ษณะ เดียวกัน หลังจากนัน้ ใหส้ ลับกนั เสิร์ฟทกุ ๆ 3 คะแนน ไมว่ ่าฝ่ายใดจะไดค้ ะแนนหรือเสยี คะแนน การดิวส์ เมือทงั้ สองทีมทำคะแนนไดเ้ ท่ากันท่ี 14 – 14 การเสิรฟ์ จะสลบั กนั ทกุ คะแนนทมี ทเี่ ปน็ ฝ่ายรบั จากการเริม่ เลน่ ในเซ็ทใดกต็ าม จะเปน็ ฝ่ ายเร่ิมเสิรฟ์ ก่อนในเซท็ ตอ่ ไปและจะตอ้ งเปลย่ี น แดนก่อนเร่มิ การแข่งขนั ในแต่ ละเซท็
ข้อ 11 การเรม่ิ เลน่ และการสง่ ลกู (THE START OF PLAY & SERVICE) 11.1 การเรม่ิ เล่น ให้ฝ่ายท่ีต้องส่งลกู เป็นฝ่ายสง่ ลูกก่อนในเซตที่ 1 ทมี ที่ชนะในเซตท่ี 1 จะ ไดร้ บั สทิ ธเิ์ ลอื กการเสิรฟ์ ในเซตท่ี 2 11.2 เมื่อกรรมการผ้ตู ัดสินขานคะแนนแล้วถือเปน็ การเร่มิ เล่น ผโู้ ยนต้องโยนลกู ตะกรอ้ ออกไปให้ผู้เสิร์ฟเสริ ์ฟลูก หากผ้โู ยนโยนลกู ตะกรอ้ ออกไปก่อนกรรมการผตู้ ดั สินขานคะแนนต้อง โยนใหม่และจะ ต้องเตือนผูโ้ ยนคนนน้ั 11.3 ระหว่างการเสิร์ฟ ในทันทที ี่ผเู้ สิร์ฟได้เตะลูกตะกร้อแลว้ ผู้เล่นทุกคนสามารถเคลื่อนที่ ไดใ้ นแดนของตน 11.4 การเสริ ์ฟท่ถี ูกตอ้ ง เมื่อลูกตะกรอ้ ไดข้ ้ามไปยงั ฝา่ ยตรงข้ามระหว่างแถบแสดงเขต สนามไม่ว่าจะสัมผัส ตาข่าย หรอื ไมก่ ็ตาม และได้ตกสู่พน้ื อย่ใู นขอบเขตสนาม ข้อ 12 การผิดกติกา (FAULTS) 12.1 สำหรบั ผู้เล่นฝ่ายเสริ ์ฟ ระหว่างการเสิร์ฟ 12.1.1 ผู้เล่นหนา้ คนทำหน้าทโี่ ยนลูกกระทำอยา่ งใดอย่างหนงึ่ โดยไม่โยนลูกใหผ้ ูเ้ สิรฟ์ เตะ สง่ ลูก เช่น โยนลกู เล่น เคาะลกู เล่น โยนลูกให้ผ้เู ล่นหนา้ อีกคนหนงึ่ ฯลฯ หลงั จากผตู้ ดั สนิ ขาน คะแนนแลว้ 12.1.2 ผู้เล่นหนา้ ยกเทา้ หรือเหยยี บเส้น หรอื ถูกตาข่ายหรือส่วนของร่างกายลำ้ เข้าไปใน แดนฝา่ ยตรงข้ามขณะทโ่ี ยนส่งลูก 12.1.3 ผู้เสิร์ฟ กระโดดเสริ ์ฟในขณะเตะสง่ ลกู 12.1.4 ผู้เสริ ฟ์ ไม่ไดเ้ ตะลกู ทีผ่ ู้โยน โยนไปใหเ้ พอ่ื เสริ ์ฟ 12.1.5 ลูกตะกร้อถูกผเู้ ลน่ คนอ่นื ก่อนขา้ มตาขา่ ย 12.1.6 ลูกตะกรอ้ ขา้ มตาข่ายแลว้ ตกนอกเขตพน้ื ท่สี นาม 12.1.7 ลกู ตะกรอ้ ไม่ข้ามตาข่าย 12.2 สำหรบั ผเู้ ลน่ ฝ่ายรบั ระหวา่ งการเสริ ฟ์ เจตนากระทำในลกั ษณะทำให้ฝา่ ยเสิรฟ์ เสีย สมาธิ หรือส่งเสียงรบกวน หรือรอ้ งตะโกน 12.3 สำหรับผ้เู ลน่ ทั้งสองฝา่ ยระหว่างแขง่ ขัน 12.3.1 ถูกลกู ตะกรอ้ ในแดนฝา่ ยตรงข้าม 12.3.2 ส่วนหนง่ึ ส่วนใดของรา่ งกายล้ำเข้าไปในแดนฝา่ ยตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นดา้ นบน หรอื ด้านลา่ งของตาขา่ ย ยกเว้นการเคลื่อนไหวต่อเนอื่ ง (FOLLOW THROUGH ) ภายหลังการเล่นลูก
12.3.3 เล่นลกู เกินกว่า 3 ครงั้ 12.3.4 ลูกถูกมือ หรือแขน 12.3.5 หยดุ ลกู หรอื ยึดลกู ไว้ใต้แขน ระหว่างขาหรอื ลำตวั 12.3.6 ส่วนหนึ่งสว่ นใดของร่างกาย หรืออุปกรณข์ องเครอ่ื งแต่งกายผ้เู ล่น เชน่ รองเท้า เส้อื ผ้าพนั ศรี ษะ ฯลฯ ถกู ตาข่าย หรือเสา หรอื เก้าอ้ีผูต้ ัดสนิ หรือตกลงบนพน้ื ทฝี่ ่ายตรงข้าม 12.3.7 ลกู ตะกรอ้ ถกู เพดาน หลังคา หรือผนงั หรือสิ่งกดี ขวางอืน่ 12.3.8 ผู้เล่นถ่วงเวลาโดนเจตนา ข้อ 13 การนบั คะแนน (SCORING SYSTEM) 13.1 ไมว่ า่ จะเปน็ ฝ่ายเสริ ์ฟ หรือฝ่ายรับก็ตาม เม่ือมีการทำผิดกตกิ าเกิดขึ้น (FAULT) ฝา่ ย ตรงขา้ มจะไดค้ ะแนนทันทแี ละจะเป็นฝา่ ยเสิร์ฟตอ่ ไป 13.2 ทมี ท่ีชนะการแข่งขันในแตล่ ะเซต จะตอ้ งทำคะแนนได้ 21 คะแนน แตถ่ ้าคะแนน เทา่ กนั ท่ี 20-20 ผูช้ นะ จะตอ้ งมีคะแนนต่างกนั 2 คะแนน และคะแนนสงู สุดไมเ่ กิน 25 คะแนน เม่อื คะแนน 20 เท่า ผตู้ ัดสินตอ้ งขานว่า “ดวิ สค์ ูไ่ ม่เกนิ 25 แต้ม” 13.3 การแขง่ ขันจะต้องชนะกัน 2 เซต โดยมกี ารพักระหว่างเซต 2 นาที 13.4 ถ้าแตล่ ะทีมชนะกันทีมละ 1 เซต จะต้องทำการแข่งขันในเซตท่ี 3 ซ่ึงเรียกว่า “ไท เบรค” (TIEBREAK) โดยแขง่ ขนั 15 คะแนน แตถ่ ้าคะแนนเทา่ กนั ท่ี 14-14 ผชู้ นะจะตอ้ งมีคะแนน ตา่ งกนั 2 คะแนน และคะแนนสงู สุดไมเ่ กนิ 17 คะแนน เม่อื คะแนน 14 เทา่ ผู้ตดั สนิ ต้องขานว่า “ดวิ ส์คู่ไม่เกิน 17 แต้ม” 13.5 ก่อนเรม่ิ การแขง่ ขนั ในเซตท่ี 3 ผ้ตู ัดสนิ ต้องทำการเส่ียง ผ้ชู นะในการเสี่ยงมีสทิ ธเิ ลือก การเสิร์ฟ และให้มีการเปลี่ยนแดนเมือ่ ฝา่ ยใดฝ่ายหนึ่งทำคะแนนได้ 8 คะแนน ข้อ 14 การขอเวลานอก (TIME OUT) แต่ละทีม (REGU) สามารถขอเวลานอกไดเ้ ซตละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 นาที โดยให้ผู้จัดการ ทีม หรือผู้ฝึกสอน ขอเวลานอกตอ่ กรรมการผู้ตัดสิน เมือ่ ลกู ตะกร้อไม่ไดอ้ ยู่ในการเล่น และใหม้ ี บคุ คลในระหวา่ งการขอเวลานอกได้ 5 คน ทบี่ ริเวณท้ายสนามของแต่ละดา้ น
ขอ้ 15 อุบัติเหตแุ ละการหยุดการแข่งขัน (TEMPORARY SUSPENSION OF PLAY) 15.1 กรรมการผตู้ ัดสินสามารถหยดุ การแข่งขนั ไดไ้ มเ่ กิน 5 นาที เนือ่ งจากมีส่ิงกีดขวาง หรอื รบกวนการแข่งขัน หรอื ผู้เล่นเกดิ การบาดเจบ็ และตอ้ งได้รับการดแู ลในทนั ที 15.2 การหยุดพกั สำหรบั ผู้เลน่ ทไ่ี ด้รับบาดเจ็บถือเป็นเวลานอกสำหรับการบาดเจ็บ อนญุ าตใหห้ ยดุ พกั การแข่งขนั ได้ไม่เกนิ 5 นาที ภายหลังจากหยดุ พกั 5 นาทแี ลว้ ผเู้ ลน่ คนนั้นไม่ สามารถทำการแข่งขันตอ่ ไปไดจ้ ะให้ทำการเปลี่ยนตวั ผู้เลน่ นัน้ ถ้าหากกรณีทไ่ี ดเ้ ปล่ียนตัวผู้เล่นไป แลว้ ให้ปรบั ทีมนน้ั แพ้ และใหฝ้ ่ายตรงขา้ มชนะในการแขง่ ขนั ครง้ั นี้ 15.3 ในระหว่างการหยดุ การแขง่ ขัน ผเู้ ล่นทกุ คนต้องอยูใ่ นสนามแข่งขนั และไมอ่ นุญาตให้ ดื่มน้ำ หรือได้รบั การช่วยเหลือใดๆ ขอ้ 16 วินัย และมารยาทในการแข่งขนั (DISCIPLINE) 16.1 ผู้เลน่ ทกุ คนตอ้ งปฏิบตั ติ ามกตกิ าการแข่งขัน 16.2 ในระหว่างการแขง่ ขันจะอนุญาตใหห้ วั หนา้ ทีมเทา่ นนั้ ทเี่ ป็นผู้ติดตอ่ หรือซกั ถามตอ่ กรรมการผ้ตู ดั สนิ ขอ้ 17 ความผดิ และบทลงโทษ (PENALTY) 17.1 ความผดิ ท่ถี ูกตกั เตอื น ผเู้ ล่นท่ีกระทำผดิ จะถูกเตอื น และไดร้ บั บัตรเหลืองใน 6 กรณีดังต่อไปนี้ 17.1.1 ปฏิบัตติ นไม่มนี ำ้ ใจนักกฬี า 17.1.2 แสดงกิริยา และวาจา ทไ่ี ม่สภุ าพ 17.1.3 ไม่ปฏิบัติตามกฎ กตกิ าการแขง่ ขนั 17.1.4 ถว่ งเวลาการแข่งขัน 17.1.5 เข้าหรอื ออกนอกสนาม โดยไมไ่ ด้รับอนญุ าตจากผู้ตดั สนิ 17.1.6 เจตนาเดนิ ออกไปจากสนาม โดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าตจากผตู้ ดั สนิ 17.2 ความผดิ ทีถ่ ูกใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั ผู้เลน่ ที่กระทำความผิดให้ออกจากการแขง่ ขนั และได้รับบตั รแดงมี 5 กรณี ดังต่อไปนี้ 17.2.1 กระทำผดิ กติกาอย่างรา้ ยแรง 17.2.2 ประพฤติผดิ รา้ ยแรงโดยเจตนาทำใหค้ ตู่ ่อสบู้ าดเจ็บ 17.2.3 ถม่ น้ำลายใสฝ่ า่ ยตรงขา้ มหรือผู้อ่นื
17.2.4 ทำความผดิ อยา่ งร้ายแรง โดยสบประมาทหรือดูถกู และแสดงกริ ยิ าทไี่ ม่ เหมาะสมไปยงั ฝ่ายตรงขา้ ม 17.2.5 ได้รับการเตอื นด้วยบัตรเหลืองเป็นครงั้ ที่ 2 ในการแขง่ ขันครงั้ น้นั 17.3 ผเู้ ลน่ ที่กระทำผดิ ถูกตักเตือนหรอื ใหอ้ อกจากการแขง่ ขัน ไม่ว่าจะเป็น ความผดิ ทัง้ ในหรือนอกสนามแขง่ ขัน ทก่ี ระทำต่อคแู่ ขง่ ขัน ผูเ้ ล่นฝา่ ยเดยี วกนั กรรมการผ้ตู ดั สิน ผชู้ ่วยผตู้ ัดสนิ หรอื บุคคลอ่ืนๆ ใหพ้ ิจารณาลงโทษตามความผิดท่ไี ดก้ ระทำขน้ึ ข้อ 18 ความผิดของเจา้ หน้าที่ทีม (MISCONDUCT OF TEAM OFFICIALS) ในระหว่างการแข่งขัน หากทมี หรือเจา้ หนา้ ทค่ี นใดกระทำผิดเกี่ยวกับทางวนิ ยั และมารยาท ทั้งในและนอกสนามแขง่ ขนั เจ้าหน้าท่ที มี หรอื ทีมนั้นๆ จะต้องถกู พจิ ารณาลงโทษทางวินัย และ มารยาท ขอ้ 19 บททัว่ ไป (GENERAL) ในการแข่งขนั หากมปี ัญหาหรือเรื่องราวใดๆ กต็ ามทเ่ี กิดขึน้ ในทกุ กรณี ซง่ึ นอกเหนอื จากท่ี มไิ ดร้ ะบไุ วใ้ นกติกาข้อใดๆ ของการแขง่ ขนั ใหถ้ ือคำตัดสนิ ของกรรมการประจำสนามเปน็ ทีส่ ้นิ สดุ สรุปกตกิ าใหม่ตะกร้อ 1. หาผู้ชนะโดยใช้ ระบบการเล่น 3 ใน 5 เซต็ เซต็ ละ 15 คะแนน มีเพดานแตล่ ะเซต็ อย่ทู ่ี 17 คะแนน จากเดมิ ที่เลน่ แบบ 2 ใน 3 เซ็ต เซต็ ละ 21 คะแนน การเปล่ียนแปลงครัง้ นจ้ี ะทำให้ แต้มในแต่ละเซต็ ส้นั ลง เพมิ่ โอกาสการชนะใหท้ ีมทเี่ ปน็ รอง โดยเฉพาะฝั่งยุโรปที่เคร่ืองรอ้ นเร็วและ ถนดั ในเกมสนั้ 2. แต่ละทีมจะไดส้ ิทธ์ิเสิร์ฟลูกตดิ ตอ่ กนั 3 แตม้ และผลดั กันเสิรฟ์ จนจบเซ็ต กติกาน้ีจะลด ความไดเ้ ปรยี บของชาตทิ ่มี ตี วั เสริ ฟ์ เกง่ ๆโดยเฉพาะทีมชาตไิ ทย ซง่ึ ถ้าเป็นกติกาเดิมทีมใดมีตวั เสริ ์ฟ ทดี่ ีกอ็ าจทำแต้มได้ 10 แต้มรวด ทั้งน้ียงั ทำให้เกมสนุกขน้ึ เพราะผชู้ มจะได้ดทู ้ังการรุกและรับของ แตล่ ะทีม ดว้ ย 3. แต่ละเซต็ สามารถเปล่ียนผู้เลน่ ได้ 2 คน ซ่งึ จากเดิมเราแทบจะไม่คอ่ ยเห็นการเปลยี่ นตวั ระหวา่ งการเล่นเลย เม่อื มีกติกานี้ทำให้แตล่ ะทมี ต้องพัฒนารปู แบบการเลน่ ให้หลากหลายท้ังเกม รับ และรุกเพ่ือแก้เกมของคู่ต่อสู้
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: