193
194 8.1 ขอบเขตและการจําแนกบรเิ วณอนั ตราย 8.2 บริเวณอนั ตรายมาตรฐานท่ี 1 (NEC) 8.3 บรเิ วณอันตรายมาตรฐานท่ี 2 (IEC) 8.4 สรุปสาระสาํ คัญ การเดนิ สายและตดิ ตงั้ อปุ กรณ์ไฟฟ้าสําหรับบริเวณอันตรายให้ปฏิบัติตามข้อกําหนด โดยแบ่งออกเป็น 2 มาตรฐาน กล่าวคือ มาตรฐานท่ี 1 (NEC) ถูกจําแนกบริเวณอันตรายเป็นประเภทท่ี 1 ประเภทท่ี 2 และ ประเภทที่ 3 มาตรฐานที่ 2 (IEC) ถูกจําแนกบริเวณอันตรายเป็น โซน 0 โซน 1 และโซน 2 กรณีไม่ได้ระบุไว้ให้ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ กาํ หนดของมาตรฐานการตดิ ตง้ั ทางไฟฟา้ สาํ หรบั ประเทศไทยในส่วนท่ีเก่ยี วขอ้ ง แสดงความรูเ้ กีย่ วกบั กฎและมาตรฐานทีใ่ ช้ในงานตดิ ต้ังไฟฟา้ บริเวณอันตราย 1. จําแนกบรเิ วณอันตรายตามมาตรฐานที่ 1 (NEC) และมาตรฐานท่ี 2 (IEC) ได้ 2. บอกกลมุ่ สารไวไฟ บรเิ วณอันตรายประเภทที่ 1 และ 2 ได้ 3. อธบิ ายลกั ษณะบรเิ วณอันตรายประเภทที่ 1, 2 และ 3 ได้ 4. อธบิ ายวธิ กี ารตดิ ตง้ั ไฟฟ้าบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1, 2 และ 3 ได้ 5. จาํ แนกบริเวณอนั ตรายโซน 0 โซน 1 และโซน 2 ได้ 6. บอกวิธกี ารเดินสายเคเบลิ ในบริเวณอันตรายโซน 0 โซน 1 และโซน 2 ได้
195 เนอื้ หาสาระ การติดตั้งไฟฟ้าในพ้ืนท่ีอันตรายหรือบริเวณอันตราย คือ บริเวณท่ีมีสารไวไฟ ของเหลวไวไฟ ฝุ่นที่ติดไฟ ได้ ละอองที่ติดไฟได้ เส้นใยที่ติดไฟได้ ท่ีมีปริมาณท่ีเหมาะสมท่ีอาจเกิดการจุดระเบิด ติดไฟหรือลุกไหม้จนเป็น อันตรายได้ ซ่ึงโดยทั่วไปแล้วการเกิดลุกไหม้ได้น้ันมีสาเหตุ 3 ประการที่ประกอบกันคือ (1) จะต้องมีเช้ือเพลิง ก๊าซหรือไอไวไฟหรือฝุ่นในบริเวณท่ีติดไฟได้ (2) จะต้องมีแหล่งที่มาให้เกิดการจุดติดไฟในลักษณะพลังงาน ความรอ้ นหรือการสปารก์ และ (3) จะต้องมีออกซิเจน การเดนิ สายและตดิ ต้งั อุปกรณ์ไฟฟ้าสําหรับบริเวณอันตรายให้ปฏิบัติตามข้อกําหนด โดยแบ่งออกเป็น 2 มาตรฐาน กล่าวคือ มาตรฐานท่ี 1 (National Electric Code: NEC) กําหนดในข้อ 8.2 ถูกจําแนกบริเวณ อันตรายเป็นประเภทท่ี 1 ประเภทท่ี 2 และประเภทท่ี 3 มาตรฐานท่ี 2 (International Electrotechnical Commission: IEC) กาํ หนดในขอ้ 8.3 ถูกจําแนกบริเวณอนั ตรายเป็น โซน 0 โซน 1 และโซน 2 กรณีไม่ได้ระบุ ไว้ใหป้ ฏบิ ตั ิตามขอ้ กําหนดของมาตรฐานการตดิ ตัง้ ทางไฟฟา้ สําหรับประเทศไทยในส่วนทีเ่ กีย่ วขอ้ ง 8.1.1 ขอบเขต ข้อกําหนดสําหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้าและบริภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งวิธีการเดินสายทุกระดับแรงดัน ในบริเวณทอ่ี าจเกิดเพลิงไหม้หรอื เกิดการระเบิด เนื่องจากก๊าซ ไอระเหย หรือของเหลวที่ติดไฟได้ ฝุ่นท่ีเผาไหม้ ได้ เสน้ ใยหรอื ละอองทต่ี ิดไฟได้ 8.1.2 การจาํ แนกบรเิ วณอนั ตราย 1. การจาํ แนกบริเวณอันตราย การเดินสายและการติดต้งั อุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ปฏิบตั ิตามขอ้ 1 หรือ 2 2. ไมอ่ นุญาตใหบ้ ริเวณอนั ตรายที่จาํ แนกคนละวธิ กี นั ทับซ้อนกนั คําอธิบาย ไม่อนุญาตให้นําวิธีการในการจําแนกบริเวณอันตรายท่ีแตกต่างกันมาใช้ผสมกัน ใน การจําแนกบริเวณอันตรายบริเวณเดียวกัน เช่น ในพ้ืนที่หน่ึง ๆ ซึ่งประกอบด้วยส่วน ย่อยหลายส่วนต้องไม่จําแนกบริเวณอันตรายของพื้นที่ส่วนย่อยบางส่วนเป็นโซน 0 โซน 1 หรือโซน 2 ในขณะทบ่ี รเิ วณอนั ตรายของพน้ื ท่ีส่วนยอ่ ยอีกบางส่วนถกู จาํ แนก เป็นบริเวณอนั ตรายประเภท 1 แบบที่ 1 หรือประเภทท่ี 1 แบบที่ 2 เปน็ ตน้ 3. บรเิ วณอนั ตรายมาตรฐานที่ 1 (NEC) จาํ แนกเป็น ประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 (Class I, Division I) และประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 (Class I, Division II)
196 ประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 (Class II, Division I) และประเภทท่ี 2 แบบที่ 2 (Class II, Division II) ประเภทที่ 3 แบบที่ 1 (Class III, Division I) และประเภทที่ 3 แบบท่ี 2 (Class III, Division II) 4. บรเิ วณอันตรายมาตรฐานที่ 2 (IEC) จาํ แนกเป็น โซน 0 โซน 1 และโซน 2 เปน็ ไปตามข้อกําหนด ในขอ้ 8.3 5. การแบ่งกลมุ่ สารไวไฟ บรเิ วณอันตรายประเภทท่ี 1 (1) กล่มุ A คอื บรเิ วณท่ีมีบรรยากาศประกอบด้วย อาเซททลี นี (Acetylence) (2) กลุ่ม B คือ บรเิ วณท่ีมีบรรยากาศประกอบด้วย กา๊ ซทลี่ ุกไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวทลี่ ุก เป็นไฟหรือเผาไหม้ได้ เชน่ ไฮโดรเจน (Hydrogen) (3) กล่มุ C คือ บริเวณท่ีมีบรรยากาศประกอบดว้ ย ก๊าซทล่ี กุ ไหมไ้ ด้ ไอระเหยจากของเหลวทล่ี ุก เปน็ ไฟหรอื เผาไหมไ้ ด้ เชน่ เอทลิ ีน (Ethylence) (4) กล่มุ D คอื บรเิ วณท่มี บี รรยากาศประกอบดว้ ย กา๊ ซทล่ี ุกไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวที่ลุก เป็นไฟหรือเผาไหมไ้ ด้ เช่น โพรเพน (Propane) 6. การแบ่งกลุ่มสารไวไฟ บริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 (1) กลุ่ม E คือ บริเวณที่มีบรรยากาศประกอบด้วย ฝุ่นโลหะที่ลุกไหม้ได้ ซึ่งได้แก่ อะลูมิเนียม (Aluminum) แมกนเี ซียม (Magnesium) และโลหะผสมของการดงั กล่าว (2) กลุ่ม F คอื บรเิ วณทมี่ ีบรรยากาศประกอบดว้ ย สว่ นผสมของฝุ่นทลี่ ุกไหมไ้ ด้ เช่น ฝุน่ ของถ่าน ดาํ (Carbon black) ถา่ นไม้ ถา่ นหิน (3) กลุ่ม G คือ บริเวณที่มบี รรยากาศประกอบดว้ ย ฝุ่นท่ลี กุ ไหม้ไดน้ อกเหนอื จากทรี่ ะบุในกลุ่ม E และกลุ่ม F เช่น ฝ่นุ ของแป้ง เมล็ดพืช ไม้ พลาสติก และสารเคมี บริเวณอันตรายมาตรฐานท่ี 1 (NEC) ถูกจําแนกบริเวณอันตรายเป็นประเภทท่ี 1 ประเภทท่ี 2 และ ประเภทที่ 3 8.2.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 1. ความหมายของบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 คือ บริเวณท่ีซ่ึงมีก๊าซหรือไอระเหยที่ติดไฟได้ผสมอยู่ในอากาศ ปริมาณมากพอทจี่ ะทาํ ให้เกดิ การระเบิดได้ บรเิ วณอนั ตรายประเภทท่ี 1 หมายรวมถงึ ข้อต่อไปนดี้ ว้ ย (1) บรเิ วณอันตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 ไดแ้ ก่
197 (ก) บริเวณที่ในสภาวะการทํางานตามปกติมีก๊าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้นพอที่จะ เกดิ การระเบดิ ได้ ดงั รปู ท่ี 8.1 (ข) บรเิ วณท่อี าจมีกา๊ ซหรือไอระเหย ท่ีมีความเข้มข้นพอท่ีจะเกิดการระเบิดได้อยู่บ่อย ๆ เนือ่ งจากการซอ่ มแซม บํารุงรักษาหรือรัว่ (ค) บริเวณท่ีเม่ือบริภัณฑ์เกิดความเสียหายหรือทํางานผิดพลาด อาจทําให้เกิดก๊าซหรือ ไอระเหยทม่ี คี วามเข้มขน้ พอทจ่ี ะเกิดการระเบิด และอาจทําให้บริภัณฑ์ไฟฟ้าขัดข้องและกลายเป็นแหล่งกําเนิด ประกายไฟได้ ก) โรงงานฟอกยอ้ ม ข) โรงงานพน่ สี ค) โรงกลั่นน้ํามนั รูปที่ 8.1 ตวั อยา่ งบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 (2) บริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 2 ไดแ้ ก่ (ก) บริเวณซึ่งเก็บของเหลวติดไฟซ่ึงระเหยง่ายหรือก๊าซท่ีติดไฟได้ ซึ่งโดยปกติของเหลว ไอระเหยหรือก๊าซนี้จะถูกเก็บไว้ในภาชนะหรือระบบที่ปิด ซ่ึงจะรั่วออกมาได้เฉพาะในกรณีท่ีบริภัณฑ์ทํางาน ผิดปกติ ดงั รปู ท่ี 8.2
198 (ข) บริเวณทม่ี ีการปอ้ งกนั การระเบิดเนื่องจากก๊าซหรือไอระเบิดที่มีความเข้มข้นเพียงพอ โดยใช้ระบบระบายอากาศซ่ึงทํางานโดยเครื่องจักรกล และอาจเกิดอันตรายได้หากระบบระบายอากาศขัดข้อง หรอื ทาํ งานผิดปกติ (ค) บริเวณท่ีอยู่ใกล้กับบริเวณอันตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 และอาจได้รับการถ่ายเท กา๊ ซหรือไอระเหยทมี่ คี วามเขม้ ข้นพอท่ีจะจดุ ระเบดิ ได้ในบางคร้งั ถา้ ไม่มกี ารป้องกัน ก) ร้านจาํ หนา่ ยและบรรจกุ า๊ ซ ข) สถานบรรจกุ ๊าซ ค) สถานบรรจปุ โิ ตรเลียม (ปมั๊ นา้ํ มนั ) รูปท่ี 8.2 ตวั อยา่ งบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบที่ 2 2. การเดนิ สายไฟฟา้ และบรภิ ณั ฑ์ในบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1 (1) ในบริเวณอันตรายประเภทที่ 1 แบบท่ี 1 เคร่ืองวัด เครื่องมือวัด และรีเลย์ต้องมีเคร่ือง ห่อหุ้มที่ได้รับการรับรอง หมายรวมถึงเครื่องห่อหุ้มท่ีทนการระเบิดและเครื่องห่อหุ้มชนิดอัดความดัน การ เดนิ สายทําได้ 2 วิธี คอื (1) การเดนิ สายโดยใชท้ อ่ โลหะหนา (RSC) แบบมเี กลียว ท่อโลหะหนาปานกลาง (IMC) แบบมีเกลียว สําหรับกล่อง เคร่ืองประกอบและข้อต่อต่าง ๆ ต้องเป็นแบบมีเกลียวเพื่อต่อกับท่อร้อยสายหรือ เครอ่ื งประกอบทําปลายสายเคเบิล และต้องเป็นแบบทนการระเบิด เกลียวของข้อต่อต้องมีเกลียวสําหรับขันให้ แน่นอย่างน้อยห้าเกลียว ท่อร้อยสายที่ต่อเข้ากับเคร่ืองห่อหุ้มของสวิตช์หรือบริภัณฑ์อ่ืน ๆ ต้องมีการปิดผนึก (Sealing) และ (2) การเดนิ สายโดยใช้สาย MI หรอื สายเคเบิลทใ่ี ชก้ บั สารไวไฟตอ้ งมีเครือ่ งประกอบทาํ ปลายสาย
199 สวิตช์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ เคร่ืองควบคุมมอเตอร์และฟิวส์ รวมท้ังสวิตช์กดปุ่ม รีเลย์ และอุปกรณ์อื่นที่คล้ายกันต้องมีเคร่ืองห่อหุ้มที่ได้รับการรับรอง เต้ารับ เต้าเสียบพร้อมสายต้องเป็นแบบมีท่ี สําหรับต่อตัวนําลงดินของสายอ่อน และดวงโคมต้องได้รับการรับรองและมีการป้องกันความเสียหายทาง กายภาพโดยการก้นั หรอื โดยตาํ แหน่งติดต้ังทเ่ี หมาะสม และตวั อยา่ งวสั ดอุ ุปกรณท์ ่ใี ช้ในบริเวณอันตราย ดังรูปท่ี 8.3 ก) ทอ่ โลหะหนาหรอื ทอ่ โลหะหนาปานกลางแบบมเี กลียว ข) กลอ่ ง เครือ่ งประกอบและขอ้ ตอ่ ตา่ ง ๆ ตอ้ งเปน็ แบบมีเกลียว ค) สวิตชก์ นั ระเบดิ ง) โคมไฟกันระเบิด รูปที่ 8.3 ตัวอยา่ งวัสดอุ ุปกรณใ์ นการเดนิ สายบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 1
200 จ) กล่องกนั ระเบิด ฉ) คอนดูเลตกนั ระเบิด ช) ท่ออ่อนกนั ระเบิด ซ) สาย MI (Mineral Insulated Cable) รปู ที่ 8.3 ตัวอยา่ งวัสดุอุปกรณใ์ นการเดนิ สายบริเวณอันตรายประเภทที่ 1 (ตอ่ )
201 ตัวอย่างการเดนิ ระบบไฟฟ้าในบริเวณอันตรายประเภทที่ 1 ดงั รปู ท่ี 8.4 พ้ นื ทไี่ มใชบรเิ วณอันตราย ตอ งติดต้ัง Sealing Fitting ตอ งใชท อโลหะชนดิ RSC หรอื IMC กอ นเขา และออกจาก ซ่ึงทาํ เกลียวไมน อ ยกวา 5 เกลยี ว กลองสวติ ชค วบคุม กลองสวิตชค วบคุม มอเตอร ทอโลหะออน กลองแยกสาย รปู ท่ี 8.4 ตวั อยา่ งการเดินสายในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 1 (2) ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 แบบท่ี 2 ใช้วิธีการเดินสายเช่นเดียวกับข้อ (1) หรือการ เดินสายต้องใช้ท่อโลหะหนาแบบมีเกลียว ท่อโลหะหนาปานกลางแบบมีเกลียว อุปกรณ์อ่ืนต้องมีเครื่องห่อหุ้ม สายเคเบลิ และเคร่อื งประกอบปลายสายต้องเป็นชนดิ ทไี่ ดร้ บั การรบั รอง 8.2.2 บริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 2 1. ความหมายของบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 2 บริเวณอันตรายประเภทที่ 2 คือ บริเวณท่ีมีฝุ่นที่ทําให้เกิดการระเบิดได้ทําให้เกิดอันตราย และใหห้ มายความรวมถึงบรเิ วณตามท่กี าํ หนดในข้อตอ่ ไปน้ดี ้วย (1) บรเิ วณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบท่ี 1 ไดแ้ ก่ (ก) บริเวณท่ีมีฝุ่นลุกไหม้ได้ อยู่ในอากาศเป็นปริมาณท่ีอาจทําให้เกิดส่วนผสมที่อาจ ระเบิดหรอื จุดระเบิดได้ ภายใตส้ ภาวะการทํางานปกติ ดังรปู ที่ 8.5 (ข) บริเวณที่เม่ือเครื่องจักรกลขัดข้องหรือทํางานผิดปกติ อาจทําให้เกิดส่วนผสมที่อาจ ระเบดิ หรือจุดระเบดิ ได้ (ค) บริเวณทม่ี ีฝนุ่ ทม่ี คี ณุ สมบัติเป็นตวั นําไฟฟา้ ท่ลี ุกไหม้ไดใ้ นปรมิ าณทเี่ ปน็ อันตราย
202 (2) บรเิ วณอนั ตรายประเภทที่ 2 แบบที่ 2 ได้แก่ (ก) บรเิ วณที่ตามปกติจะมีฝุ่นท่ีลุกไหม้ได้อยู่ในอากาศแต่มีปริมาณไม่มากพอที่จะทําให้ เกิดการระเบิดหรือจุดระเบิด และการสะสมของฝุ่นไม่มีผลต่อการทํางานปกติของบริภัณฑ์ไฟฟ้าหรือเคร่ือง สาํ เร็จอ่ืน (ข) บริเวณซ่ึงฝุ่นมีการสะสมในบริเวณใกล้เคียงกับบริภัณฑ์ไฟฟ้าที่ใช้งาน และมี ปริมาณมากพอท่ีจะทําให้บริภัณฑ์ระบายความร้อนได้ยาก หรืออาจจุดระเบิด ซึ่งเกิดจากการทํางานผิดปกติ หรือการขัดข้องของบริภณั ฑ์ไฟฟ้า ก) โรงงานทเ่ี กี่ยวกับแป้ง ข) โรงงานทาํ เฟอรน์ ิเจอร์ ค) โรงงานเกบ็ และสขี า้ ว ง) โรงงานเกยี่ วกับอะลมู ิเนียม รปู ที่ 8.5 ตวั อยา่ งบรเิ วณอันตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 1
203 จ) โรงงานนํ้าตาล ฉ) โรงงานบดผงเล็ก ๆ/โรงงานบดถา่ นหนิ รปู ที่ 8.5 ตัวอยา่ งบรเิ วณอนั ตรายประเภทท่ี 2 แบบที่ 1 (ต่อ) 2. การเดนิ สายไฟฟา้ และบริภัณฑ์ในบรเิ วณอนั ตรายประเภทที่ 2 (1) ในบริเวณอันตรายประเภทท่ี 2 แบบที่ 1 การเดินสายต้องใช้ท่อโลหะหนาแบบมีเกลียว ท่อโลหะหนาปานกลางแบบมีเกลียวตลอดท้ังมีฝาปิดเพ่ือกันฝุ่นละออง อุปกรณ์อ่ืนต้องมีเครื่องห่อหุ้ม การอุด ทอ่ ตอ้ งทําแบบเดยี วกนั กับการเดนิ สายในประเภทท่ี 1 สายเคเบิลและเคร่ืองประกอบปลายสายต้องเป็นชนิดที่ ไดร้ บั การรับรอง (2) ในบริเวณอันตรายประเภทที่ 2 แบบท่ี 2 การเดินสายเช่นเดียวกับข้อ (1) ซึ่งต้องเป็น ชนิดกันฝ่นุ ดังรูปท่ี 8.6
204 รปู ท่ี 8.6 ตัวอยา่ งการเดนิ สายในบรเิ วณอนั ตรายประเภทท่ี 2 8.2.2 บรเิ วณอนั ตรายประเภทที่ 3 1. ความหมายของบรเิ วณอันตรายประเภทท่ี 3 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 3 คือ บริเวณท่ีมีเส้นใยหรือละอองที่จุดระเบิดได้ง่าย แต่ปกติจะ ไม่ลอยอยู่ในอากาศเป็นปริมาณมากพอท่ีจะทําให้เกิดการจุดระเบิดได้ และให้หมายความรวมถึงบริเวณตามที่ กาํ หนดในข้อตอ่ ไปนีด้ ้วย (1) บรเิ วณอนั ตรายประเภทท่ี 3 แบบที่ 1 ได้แก่ บรเิ วณทม่ี เี สน้ ใยทจ่ี ดุ ระเบิดง่าย หรือมีการ ขนถา่ ย ผลิตใช้งานวัตถทุ ท่ี ําให้เกิดละอองทจ่ี ดุ ระเบดิ ได้ ดังรปู ท่ี 8.7 ก) โรงงานเกี่ยวกับตัดเยบ็ เสือ้ ผา้ รูปที่ 8.7 ตวั อยา่ งบริเวณอนั ตรายประเภทท่ี 3 แบบที่ 1
205 ข) โรงงานเกย่ี วกับการทอผ้า/โรงงานผา้ หม่ /โรงงานใยฝา้ ย ค) โรงงานไม้ รปู ท่ี 8.7 ตวั อยา่ งบรเิ วณอันตรายประเภทท่ี 3 แบบที่ 1 (ตอ่ ) (2) บรเิ วณอันตรายประเภทที่ 3 แบบท่ี 2 ได้แก่ บริเวณท่ีเป็นที่เก็บหรือขนถ่ายเส้นใยที่ลุก- ไหมไ้ ดง้ า่ ย ยกเว้น ในกระบวนการผลิต 2. การเดนิ สายไฟฟา้ และบรภิ ณั ฑใ์ นบรเิ วณอันตรายประเภทที่ 3 (1) ในบริเวณอันตรายประเภทที่ 3 แบบท่ี 1 การเดินสายต้องใช้ท่อโลหะหนา ท่ออโลหะ หนา ท่อโลหะหนาปานกลาง ทอ่ โลหะบาง รางเดินสายชนิดกนั ฝนุ่ (2) ในบริเวณอนั ตรายประเภทที่ 3 แบบท่ี 2 การเดินสายเช่นเดียวกับข้อ (1) ยกเว้น กรณีท่ี
206 สถานที่ดังกล่าวใช้เป็นที่เก็บอย่างเดียว และไม่มีเคร่ืองจักรกลใด ๆ อนุญาตให้เดินสายเปิดบนลูกถ้วยได้ และ ตอ้ งมีการป้องกนั ความเสียหายทางกายภาพดว้ ย บริเวณอันตรายมาตรฐานที่ 2 (IEC) ถูกจําแนกบริเวณอันตรายเป็นโซน 0, โซน 1 และโซน 2 ซ่ึงเป็น สถานท่ที ี่อาจเกดิ เพลิงไหม้ หรอื การระเบิดเนอื่ งจากกา๊ ซ ไอระเหยของเหลวทตี่ ิดไฟได้ 8.3.1 ขอบเขตและขอ้ กําหนดทว่ั ไป 1. ขอบเขต ครอบคลุมข้อกําหนดในระบบการแบ่งโซนตามมาตรฐาน IEC 2. การจําแนกบริเวณอันตรายข้ึนอยู่กับคุณสมบัติของไอระเหย ก๊าซ หรือของเหลวติดไฟได้ ซ่ึง อาจมขี ้นึ และมคี วามเปน็ ไปได้ที่จะมีความเข้มข้น หรือมีปริมาณมากพอที่จะทําให้เกิดการลุกไหม้ หรือเกิดเพลิง ไหม้ได้ สถานที่ซง่ึ มีการใชส้ ารไพโรฟอรกิ (Pyrophoric) เพียงชนดิ เดียว ไม่จดั เป็นบริเวณอันตราย ในการพิจารณาจําแนกประเภทแต่ละห้อง ส่วนหรือพื้นที่จะแยกพิจารณาเป็นกรณีเฉพาะ ของแตล่ ะหอ้ งหรือพนื้ ทนี่ นั้ ๆ 3. บริเวณอนั ตราย โซน 0, โซน 1 และโซน 2 เปน็ บรเิ วณที่มีก๊าซหรือไอระเหยติดไฟ หรอื อาจมี จํานวนอากาศท่ีผสมอยา่ งเพยี งพอจนเกิดการติดหรอื ระเบดิ 4. การแบง่ กลุ่ม กลมุ่ กา๊ ซ I คอื บรรยากาศท่ปี ระกอบด้วย Firedamp (สว่ นผสมของกา๊ ซหลายชนิด ซ่งึ ส่วน ใหญ่เปน็ กา๊ ซมเี ทน (Methane) โดยพบบรเิ วณใตพ้ ื้นดนิ เชน่ เหมอื งแร่) กลมุ่ กา๊ ซ II แบง่ เปน็ กลมุ่ IIC, IIB และ IIA ตามธรรมชาตขิ องก๊าซหรอื ไอระเหย (1) กลุ่มก๊าซ IIC คือ บรรยากาศท่ีประกอบด้วย อาเซททีลีน (Acetylene) ไฮโดรเจน (Hydrogen) ก๊าซที่ลุกไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวท่ีสามารถลุกเป็นไฟ หรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของ เหลวท่ีผสมกบั อากาศแล้ว อาจทาํ ให้เกดิ การไหม้ หรือเกิดการระเบิดได้ (2) กลุ่มก๊าซ IIB คือ บรรยากาศที่ประกอบด้วย อาเซททาลดีไฮต์ (Acetsldehyte) เอทิลีน (Elhylene) ก๊าซที่ลุกไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวที่สามารถลุกเป็นไฟ หรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของ เหลวท่ีผสมกับอากาศแล้ว อาจทาํ ใหเ้ กิดการไหม้ หรือเกดิ การระเบิดได้ (3) กลุ่มก๊าซ IIA คือ บรรยากาศท่ีประกอบด้วย อาเซโทน (Acetone) แอมโมเนีย (Ammonia) เอธีลแอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) ก๊าซโซลีน (Gasolie) มีเทน (Methane) โพรเพน (Propane) ก๊าซที่ลุกไหม้ได้ ไอระเหยจากของเหลวที่สามารถลุกเป็นไฟ หรือเผาไหม้ได้ ไอระเหยจากของ เหลวท่ีผสมกับ อากาศแล้ว อาจทาํ ใหเ้ กิดการไหม้ หรือเกดิ การระเบิดได้
207 5. การจําแนกโซน (1) โซน 0 ก) สถานที่ซึ่งก๊าซหรือไอระเหย อย่างต่อเน่ือง และมีความเข้มข้นพอท่ีจะเกิดการ ระเบิดได้ ข) สถานทซี่ งึ่ มกี า๊ ซหรอื ไอระเหย ตลอดเวลา และมคี วามเขม้ ข้นพอที่จะเกดิ การระเบิด (2) โซน 1 ก) สถานทซี่ ง่ึ ในสภาวะการทาํ งานปกติ อาจมีก๊าซหรือไอระเหยทมี่ คี วามเข้มข้นพอท่ีจะ เกิดการระเบิดได้ ข) สถานท่ีซง่ึ อาจมีก๊าซหรือไอระเหย ท่ีมีความเข้มข้นพอที่จะเกิดการระเบิดได้อยู่บ่อย เน่อื งจากการซอ่ มแซม บํารงุ รกั ษา หรือรัว่ ค) สถานที่ซ่งึ เมอื่ บรภิ ณั ฑ์เกิดความเสียหายหรือทํางานผิดพลาดอาจทําให้เกิดก๊าซหรือ ไอระเหยท่ีมีความเข้มข้นพอที่จะเกิดการระเบิดได้ และในขณะเดียวกันอาจทําให้บริภัณฑ์ไฟฟ้าขัดข้องซ่ึงเป็น สาเหตใุ ห้บรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ ดังกล่าวเป็นแหลง่ กําเนดิ ของการระเบิดได้ ง) สถานท่ีซ่ึงอยู่ใกล้กับบริเวณอันตรายโซน 0 และอาจได้รับการถ่ายเทก๊าซ หรือไอ ระเหยที่มีความเข้มข้นพอท่ีจะเกิดการระเบิดได้ ถ้าไม่มีการป้องกันโดยการระบายอากาศโดยดูดอากาศสะอาด เข้ามา และมีระบบรกั ษาความปลอดภยั ท่มี ีประสิทธผิ ล หากระบบอากาศทาํ งานผิดพลาด (3) โซน 2 ก) สถานท่ีซึ่งในสภาวะการทํางานปกติ เกือบจะไม่มีก๊าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้น พอทีจ่ ะเกิดการระเบิดได้ และถา้ มีก๊าซหรอื ไอระเหยดังกล่าว เกิดขึ้นกจ็ ะมีในชว่ งเวลาสนั้ ๆ เทา่ นัน้ ข) สถานที่ซึ่งใช้เก็บของเหลวติดไฟซ่ึงระเหยง่าย ก๊าซ หรือไอระเหยที่ติดไฟได้ ซ่ึงโดย ปกติของเหลว ไอระเหย หรือก๊าซนี้จะถูกเก็บไว้ในภาชนะหรือระบบที่ปิดโดยอาจรั่วออกมาได้จากการทํางาน ของบรภิ ณั ฑ์ทผี่ ดิ ปกตใิ นขณะท่ีมกี ารหยบิ ยก ผลติ หรอื ใช้งานของเหลวหรอื ก๊าซ ค) สถานที่ซึ่งมีการป้องกันการระเบิด เนื่องจากก๊าซหรือไอระเหยที่มีความเข้มข้น เพียงพอโดยใช้ระบบระบายอากาศ ซ่ึงทํางานโดยเครื่องจักรกล อาจเกิดอันตรายได้หากระบบอากาศขัดข้อง หรอื ทาํ งานผิดปกติ ง) สถานท่ีซ่ึงอยู่ใกล้กับบริเวณอันตราย โซน 1 และอาจได้รับการถ่ายเทก๊าซหรือไอ ระเหยท่ีมีความเข้มข้นพอที่จะจุดระเบิดได้ ถ้าไม่มีการป้องกันโดยการระบายอากาศโดยดูดอากาศสะอาดเข้า มาและมีระบบรักษาความปลอดภยั ที่มปี ระสิทธผิ ลหากระบบระบายอากาศทํางานผิดพลาด
208 ตัวอย่างการแบ่งโซน ดังรูปที่ 8.8 โซน 0 คือ บริเวณที่มกี า๊ ซหรอื ไอของสารเคมไี วไฟอยู่ตลอดเวลา มกี า๊ ซหรือไอเขม้ ขน้ พอจะระเบดิ ไดม้ าก โซน 1 คอื บริเวณที่มกี ๊าซหรอื ไอของสารเคมไี วไฟอยู่ปกติ มีกา๊ ซหรือไอเข้มขน้ พอจะระเบดิ ได้ โซน 2 คือ บรเิ วณซง่ึ ในสภาวะการทาํ งานปกติ เกอื บจะไมม่ กี า๊ ซหรือไอพอจะระเบดิ ได้ รูปท่ี 8.8 ตัวอยา่ งการแบง่ โซน (Zone) บริเวณอนั ตรายตามมาตรฐาน IEC 8.3.2 วิธีการเดินสายดว้ ยระบบสายเคเบิล 1. ทว่ั ไป (1) วิธีการเดินสายต้องเป็นไปตามข้อกําหนดการเดินสายและวัสดุ ตามมาตรฐานการติดตั้ง ทางไฟฟ้า สําหรับประเทศไทย หรือเป็นไปตามมาตรฐาน IEC 60079–14 โดยเป็นอุปกรณ์และบริภัณฑ์ต้อง เป็นชนิดทไี่ ดร้ บั การรบั รองแล้วจากสถาบันที่เชอื่ ถือได้ เชน่ UL, NEMA เป็นตน้ ดงั รูปท่ี 8.9 รปู ท่ี 8.9 ตวั อยา่ งวธิ ีเดนิ สายและบรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ ตามมาตรฐาน IEC
209 (2) การใช้สายแกนเดียวชนดิ ไม่มีเปลอื ก ห้ามใชส้ ายแกนเดยี วชนดิ ไม่มีเปลือก (3) การเดินสายเขา้ บรภิ ัณฑ์ ต้องเป็นไปตามท่ีกาํ หนดในแตล่ ะแบบการปอ้ งกัน (4) ทางผ่านของเปลวเพลิง เครื่องห่อหุ้มสาย ช่องเดินสาย ต้องมีการป้องกันไม่ให้สารไวไฟ ไหลผา่ นจากพน้ื ที่หนึง่ ไปยังอีกพื้นที่หน่งึ (5) การต่อสายตอ้ งทําในเคร่ืองหอ่ หุ้มท่ีมีระดบั การปอ้ งกันเหมาะสม 2. โซน 0 ชนิดของสายเคเบิลและการเดินสายเป็นไปตามมาตรฐาน IEC 60079–14 สําหรับ ชนิดการป้องกันแบบความปลอดภยั แบบแท้จริง 3. โซน 1 และโซน 2 ชนิดของสายเคเบิลและการเดินสายตามมาตรฐาน IEC 60079–14 (1) โซน 1 และ โซน 2 สายเคเบิลสําหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้าชนิดติดต้ังถาวร เป็นสายเคเบิล ฉนวนแรห่ ุ้มเปลอื กโลหะ สายเคเบลิ ห้มุ เปลอื กเทอรโ์ มพลาสตกิ เชน่ MI, MC, AC, CV หรอื NYY เป็นต้น (2) สายสําหรบั บริภัณฑ์ไฟฟ้าชนดิ เคลอ่ื นท่ีได้ ตอ้ งระบแุ รงดันใช้งานไม่เกิน 240 โวลต์เทียบ กับดิน สายไฟฟ้าต้องเป็นชนิดมีเปลือกนอก พิกัดใช้กระแสในสายไม่เกิน 6 แอมแปร์ กรณีเป็นบริภัณฑ์ไฟฟ้าที่ ตอ้ งตอ่ ลงดนิ สายไฟฟ้าต้องมสี ายดนิ รวมอยดู่ ้วย ขนาดสายไฟฟา้ ตอ้ งไมเ่ ลก็ กว่า 1.0 ตารางมลิ ลเิ มตร 8.3.3 เปรยี บเทียบการจําแนกบรเิ วณอนั ตราย เปรยี บเทียบการจําแนกบริเวณอนั ตราย ตามมาตรฐานที่ 1 (NEC) ซ่ึงจําแนกเป็นประเภทและ แบบ กบั มาตรฐานที่ 2 (IEC) ซง่ึ จําแนกเป็นโซน เพอ่ื ให้เกดิ ความเข้าใจ ดงั น้ี ตารางท่ี 8.1 เปรียบเทียบการจาํ แนกบรเิ วณอันตรายตามมาตรฐานท่ี 1 (NEC) กบั มาตรฐานท่ี 2 (IEC) วัสดอุ ันตราย ระบบประเภท/แบบ ระบบโซน (Hazardous Materials) (Zone System) (Class/Division System) โซน 0, โซน 1 กา๊ ซหรอื ไอ โซน 2 (Gasses or Vapors) ประเภท 1 (Class I) แบบที่ 1 (Division I) โซน 20 แบบท่ี 2 (Division II) โซน 21, โซน 22 ฝ่นุ ที่ลุกไหม้ได้ (Combustible) ประเภท 2 (Class II) แบบท่ี 1 (Division I) – เสน้ ใยหรือละออง แบบท่ี 2 (Division II) – (Fiber or Flying) ประเภท 3 (Class III) แบบที่ 1 (Division I) แบบท่ี 2 (Division II) หมายเหตุ โซน 20 หมายถึง สถานที่ซึงสภาพบรรยากาศที่เกิดระเบิดได้ง่ายในรูปของเมฆฝุ่นที่ติดไฟมีอยู่ในอากาศมีอยู่ ตลอดเวลา หรือในช่วงระยะเวลายาวหรือบ่อยคร้ัง, โซน 21 หมายถึง สถานที่ซึงสภาพบรรยากาศที่เกิดระเบิดได้ง่ายในรูปของ เมฆฝุ่นที่ติดไฟมีอยู่ในอากาศ น่าจะเกิดในการทํางานปกติเป็นคร้ังคราว และโซน 22 หมายถึง สถานท่ีซึงสภาพบรรยากาศท่ี เกิดระเบิดไดง้ า่ ยในรปู ของเมฆฝนุ่ ทต่ี ิดไฟมีอยใู่ นอากาศ ไมน่ ่าจะเกดิ ในการทํางานปกตเิ ปน็ ครง้ั คราว
210 การเดินสายและตดิ ต้ังอุปกรณไ์ ฟฟ้าสําหรับบรเิ วณอนั ตรายใหป้ ฏบิ ัติตามขอ้ กําหนด โดยแบ่งออกเป็น 2 มาตรฐาน กล่าวคอื มาตรฐานที่ 1 (NEC) และมาตรฐานที่ 2 (IEC) 1. มาตรฐานท่ี 1 (NEC) 1.1 บริเวณอันตรายประเภทท่ี 1 คือ บริเวณที่ซึ่งมีก๊าซหรือไอระเหยของสารไวไฟผสมอยู่ในอากาศ ปรมิ าณมากเพยี งพอท่จี ะทาํ ให้เกดิ การจุดระเบิดได้ การเดินสายในบริเวณอันตรายประเภทที่ 1 ทําได้ 2 วิธี คือ (1) การเดินสายโดยใช้ท่อโลหะหนา (RSC) แบบมีเกลียว ท่อโลหะหนาปานกลาง (IMC) แบบมีเกลียว (2) การ เดินสายโดยใช้สาย MI หรอื สายเคเบิลทใี่ ชก้ ับสารไวไฟตอ้ งมเี คร่อื งประกอบทาํ ปลายสาย 1.2 บรเิ วณอันตรายประเภทที่ 2 คือ บรเิ วณท่ซี ่งึ มฝี ุ่นทีเ่ ผาไหมไ้ ดใ้ นปรมิ าณมากเพียงพอทจ่ี ะทําให้ เกดิ การจดุ ระเบิดได้ การเดนิ สายตอ้ งใช้ท่อโลหะหนาแบบมเี กลยี ว ท่อโลหะหนาปานกลางแบบมีเกลยี วตลอด ทั้งมฝี าปดิ เพือ่ กันฝุ่นละออง 1.3 บริเวณอันตรายประเภทที่ 3 คือ บริเวณท่ีมีเส้นใยหรือละอองท่ีจุดติดไฟได้ง่าย มากเพียงพอท่ี จะทําให้เกิดอันตรายจากการจุดระเบิดได้ การเดินสายต้องใช้ท่อโลหะหนา ท่ออโลหะหนา ท่อโลหะหนาปาน กลาง ทอ่ โลหะบาง รางเดนิ สายชนดิ กันฝุน่ 2. มาตรฐานท่ี 2 (IEC) 2.1 โซน 0 คือ บริเวณอันตรายเนื่องจากมีก๊าซหรือไอระเหยของสารไวไฟผสมอยู่ในบรรยากาศจน เกิดบรรยากาศท่ีจุดติดไฟได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน การเดินสายและชนิดของสายเคเบิลเป็นไปตาม มาตรฐาน IEC 60079–14 สาํ หรบั ชนิดการปอ้ งกนั แบบความปลอดภยั แบบแท้จริง 2.2 โซน 1 คอื บรเิ วณอันตรายเนื่องจากมีการร่ัวไหลของก๊าซหรือไอระเหยของสารไวไฟออกมาผสม อยูใ่ นบรรยากาศที่จดุ ติดไฟไดอ้ ยบู่ อ่ ยครัง้ ในกระบวนการทาํ งานตามปกติ 2.3 โซน 2 คอื บรเิ วณอนั ตรายเนอ่ื งจากมีการร่ัวไหลของก๊าซ หรือไอระเหยของสารไวไฟออกมาผสม อยูใ่ นบรรยากาศจนเกิดบรรยากาศท่ีจุดติดไฟได้นาน ๆ คร้ัง เช่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุในกระบวนการทํางาน แต่ไม่ ปล่อยใหเ้ กดิ การรวั่ ไหลเป็นเวลานาน โซน 1 และ โซน 2 สายเคเบิลสําหรับบริภัณฑ์ไฟฟ้าชนิดติดต้ังถาวร เป็นสายเคเบิลฉนวนแร่หุ้ม เปลอื กโลหะ สายเคเบลิ หมุ้ เปลอื กเทอรโ์ มพลาสตกิ เชน่ MI, MC, AC, CV หรอื NYY เป็นต้น คําศัพทป์ ระจําหน่วย ประเภทท่ี 1 แบบที่ 1 บรเิ วณอันตราย Class I, Division I บริเวณอันตรายประเภทที่ 1 Hazardous Location Hazardous Location Class I
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: