215
216 9.1 ขอบข่ายและมาตรฐานอ้างองิ 9.2 ส่วนประกอบของระบบปอ้ งกนั ฟา้ ผา่ 9.3 สรุปสาระสาํ คัญ ระบบป้องกันฟ้าผ่า (Lightning Protection System) หรือที่เรียกท่ัวไปว่า ระบบล่อฟ้า ประกอบด้วย ระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอก และระบบป้องกันฟ้าผ่าภายใน ตามมาตรฐานการป้องกันฟ้าผ่าสําหรับส่ิงปลูก สรา้ ง ซึ่งระบบปอ้ งกันฟ้าผา่ ภายนอก ประกอบด้วยระบบตวั นาํ ล่อฟ้า ระบบตวั นาํ ลงดนิ และระบบรากสายดนิ การตดิ ตั้งระบบปอ้ งกันฟา้ ผ่าใช้ปอ้ งกนั ความเสยี หายทจ่ี ะเกิดขึ้นกับตัวอาคาร ผ้อู ยอู่ าศยั และสิ่งของภายใน แสดงความรูเ้ กีย่ วกบั กฎและมาตรฐานทีใ่ ชง้ านในระบบป้องกนั ฟา้ ผา่ 1. บอกขอบข่ายขอ้ บงั คับท่ัวไปในการปอ้ งกันฟา้ ผา่ สําหรับสง่ิ ปลูกสร้างได้ 2. บอกสว่ นประกอบของระบบป้องกนั ฟา้ ผ่าภายนอกได้ 3. อธบิ ายระบบตัวนําล่อฟา้ ได้ 4. บอกจัดวางตาํ แหนง่ ตวั นําล่อฟ้าได้อย่างน้อย 2 วิธี 5. อธิบายระบบตวั นาํ ลงดินได้ 6. อธบิ ายระบบรากสายดินได้
217 เน้ือหาสาระ ฟ้าผ่าสิ่งปลูกสร้างสามารถทําให้เกิดความเสียหายต่อส่ิงปลูกสร้าง ผู้อยู่อาศัยและสิ่งของท่ีอยู่ภายใน รวมทั้งระบบภายในล้มเหลว ความเสียหายอาจขยายไปยังบริเวณโดยรอบสิ่งปลูกสร้างและยังส่งผลกระทบต่อ สภาพแวดล้อมบริเวณน้ัน ขอบเขตการขยายความเสียหายมากน้อยข้ึนอยู่กับคุณลักษณะของส่ิงปลูกสร้างและ คุณลักษณะของวาบฟ้าผ่า ดังน้ันการติดต้ังระบบป้องกันฟ้าผ่าจะเป็นระบบที่ใช้ในการป้องกันความเสียหายที่ จะเกดิ ข้ึนกับตวั อาคาร ทัง้ นีร้ ะบบนีไ้ ม่สามารถยบั ยง้ั การเกิดฟ้าผ่าท่เี ป็นปรากฏการณท์ างธรรมชาติได้ 9.1.1 ขอบขา่ ย 1. มาตรฐานการป้องกันฟา้ ผ่านเ้ี ป็นข้อบงั คับท่ัวไปในการปอ้ งกนั ฟ้าผา่ สําหรบั (1) ส่งิ ปลูกสร้างรวมทัง้ การตดิ ต้ัง และส่ิงปลูกสร้างท่ีอยภู่ ายในรวมถึงบุคคล (2) ระบบสาธารณูปโภคทต่ี อ่ เขา้ กับสง่ิ ปลกู สรา้ ง 2. มาตรฐานการป้องกนั ฟา้ ผ่าน้ไี มค่ รอบคลุมถงึ (1) ระบบรางรถไฟ (2) การตดิ ตงั้ ในรถ เรือ อากาศยาน และการติดต้งั นอกฝง่ั (3) ระบบท่อความดันสงู ทีฝ่ งั ดนิ (4) ระบบทอ่ ไฟฟ้าและสายสอ่ื สารทไ่ี ม่ไดต้ ่อกบั สง่ิ ปลกู สรา้ ง 9.1.2 มาตรฐานอา้ งอิง มาตรฐานการป้องกันฟ้าผ่า ตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระ บรมราชูปถัมภ์ หรือเรียกว่า มาตรฐาน วสท. (EIT Standard 2007 ถึง 2010) ประกอบด้วยภาคท่ี 1 ข้อ– กาํ หนดท่วั ไป ภาคที่ 2 การบริหารความเสี่ยง ภาคที่ 3 ความเสียหายทางกายภาพต่อสิ่งปลูกสร้างและอันตราย ต่อชีวิต และภาคที่ 4 ระบบไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ในสงิ่ ปลูกสร้าง โดยอา้ งอิงตามมาตรฐาน IEC ดงั รูปท่ี 9.1 รูปท่ี 9.1 หนังสือมาตรฐานการป้องกันฟ้าผ่า
218 ระบบป้องกันฟ้าผ่า (Lightning Protection System) หรือที่เรียกทั่วไปว่า ระบบล่อฟ้า ประกอบด้วย ระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอก และระบบป้องกันฟ้าผ่าภายใน ตามมาตรฐานการป้องกันฟ้าผ่าสําหรับสิ่งปลูก สร้าง ซ่ึงกล่าวถึงเฉพาะระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอก (External Lightning Protection System: LPS) ประกอบด้วยระบบตัวนาํ ลอ่ ฟ้า ระบบตวั นําลงดิน และระบบรากสายดนิ ดงั รูปท่ี 9.2 รูปท่ี 9.2 สว่ นประกอบของระบบปอ้ งกันฟ้าผ่า (ทมี่ า: http://www.dehn.de [สบื คน้ 05/11/2557] 9.2.1 ระบบตวั นําล่อฟ้า (Air Termination System) มาตรฐานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง: มาตรฐานการปอ้ งกนั ฟ้าผา่ ของ วสท., IEC 62305 ขอ้ มูลทัว่ ไป: 1. ระบบตัวนําล่อฟ้า เป็นส่วนประกอบของระบบฟ้าผ่าภายนอกซึ่งใช้ชิ้นส่วนโลหะ เช่น แท่งตัวนํา ตัวนําแบบตาข่าย หรอื สายตวั นาํ ขงึ ทําหน้าที่ตวั ดกั รบั วาบฟา้ ผา่ ทล่ี งสิ่งปลูกสร้าง ตัวนาํ ล่อฟ้า เรียกท่ัวไปว่า หัวล่อฟ้าหรือเสาล่อฟ้า ดังรูปที่ 9.3 ทําด้วยโลหะท่ีมีคุณสมบัติเป็นตัวนําไฟฟ้าท่ีดี ทนต่อการ หลอมละลาย เช่น แท่งทองแดง แท่งสเตนเลส แท่งทองแดงชุบดีบุกและแท่งเหล็ก เป็นต้น มีหลายแบบ เช่น แทง่ แฟรงคลินส์ กรงฟาราเดย์ และแบบทาํ ให้อากาศโดยรอบเกิดการแตกตวั ของไอออน เป็นต้น
219 ก) แทง่ ตวั นําลอ่ ฟา้ แบบปลายแหลมและแบบปลายเกลยี ว ข) แท่งตัวนําล่อฟา้ แบบสามแฉก ค) หวั ลอ่ ฟ้าแบบทําใหอ้ ากาศโดยรอบเกดิ การแตกตัวของไอออน แบบเรยี บ แบบจั่ว แบบกลม แบบห้าเหลี่ยมเกาะพื้น แบบห้าเหลี่ยมเกาะผนงั แบบสี่เหลี่ยมสองสกรู แบบสองชนั้ แบบส่เี หล่ียมสส่ี กรู แบบกากบาทตดิ พน้ื แบบปรบั มมุ ง) ฐานตัวนําล่อฟ้า รปู ที่ 9.3 ตัวอยา่ งแทง่ ตัวนาํ ลอ่ ฟ้าและฐานตัวนาํ ล่อฟ้า (ท่ีมา: http://www.135inter.com/product [สบื คน้ 05/11/2557] 2. วัสดุ รูปแบบ และพื้นทห่ี น้าตดั ขน้ั ต่าํ ของแทง่ ตัวนาํ ลอ่ ฟา้ เปน็ ตัวอยา่ ง ดังน้ี (1) ทองแดง แท่งกลมตนั พื้นทหี่ น้าตัดขน้ั ต่าํ 50 ตร.มม. (2) อะลูมิเนียม แทง่ กลมตนั พื้นทีห่ นา้ ตดั ขนั้ ตํ่า 50 ตร.มม. (3) เหลก็ อาบสงั กะสแี บบจ่มุ รอ้ น แทง่ กลมตนั พ้นื ทีห่ นา้ ตัดขัน้ ตาํ่ 50 ตร.มม.
220 3. การจัดวางตําแหน่งตัวนําล่อฟ้า ส่วนประกอบของตัวนําล่อฟ้าท่ีติดต้ังบนส่ิงปลูก สร้างต้องวางในตาํ แหน่งหวั มุม จุดท่ีเปิดโล่งและริมขอบ (โดยเฉพาะระดับบนของส่วนปิดหน้าอาคาร) ตําแหน่ง ระบบตวั นําล่อฟ้า ใช้วธิ ีหน่งึ หรือหลายวิธี วธิ ีทีย่ อมรบั คือ วิธีมุมป้องกนั วิธีทรงกลมกล้ิงและวิธตี าข่าย คา่ มมุ ป้องกนั รศั มีของทรงกลมกล้ิงและขนาดตาข่าย ดังตารางที่ 9.1 ตารางท่ี 9.1 ค่าสูงสดุ ของรัศมที รงกลมกลงิ้ ขนาดตาข่าย และมมุ ป้องกัน ตามช้นั ของระบบป้องกนั ฟ้าผา่ ชัน้ ของระบบป้องกนั ฟ้าผ่า รศั มีของทรงกลมกลง้ิ r วิธปี ้องกนั มมุ ป้องกัน α (เมตร) ขนาดตาขา่ ย w (องศา) 1 20 2 30 (เมตร) ดกู ราฟด้านลา่ ง 3 45 5×5 4 60 10 × 10 15 × 15 20 × 20 หมายเหตุ 1. ค่าท่เี กินเลยเคร่อื งหมาย ในกราฟใช้วธิ ีมมุ ปอ้ งกันไม่ได้ ใหใ้ ชว้ ธิ ที รงกลมกลง้ิ หรอื วิธีตาข่ายเทา่ น้ัน 2. H คือ ความสูงของตัวนําล่อฟ้าเหนือพ้ืนทรี่ ะนาบอ้างองิ ของพน้ื ทท่ี ่ีจะป้องกนั 3. ค่าของมมุ ปอ้ งกันมีค่าคงทสี่ าํ หรบั ความสงู H ท่ีตํ่ากวา่ 2 เมตร (ทม่ี า: มาตรฐานการปอ้ งกนั ฟา้ ผา่ ภาคที่ 3, 2556: 5-3)
221 (1) วิธมี มุ ป้องกนั (Protective angle) เป็นวธิ ที กี่ าํ หนดมมุ สาํ หรับการป้องกันไว้ มีลักษณะพื้นที่เป็นรูปกรวย ดังรูปท่ี 9.4 มุมป้องกันจะแปรผันตามระดับการป้องกันและความสูงของตัวนําล่อ ฟ้า วิธีนเ้ี หมาะท่ีจะใชก้ ับสิ่งปลูกสรา้ งอยา่ งง่าย จะใชไ้ ด้กบั ตวั นาํ ลอ่ ฟา้ แบบแท่งตัวนาํ และแบบตวั นําขึงเท่านน้ั ก) ปรมิ าตรป้องกนั โดยแทง่ ตวั นาํ ลอ่ ฟ้าแนวดง่ิ ข) มุมป้องกันบนหลังคาส่งิ ปลกู สรา้ ง (กรณีแทง่ ตวั นาํ เดียว) หมายเหตุ A คือ จุดยอดของแทง่ ตวั นาํ ล่อฟา้ , B คือ ระนาบอ้างองิ , α คือ มมุ ป้องกนั ตามตารางท่ี 9.1 OC คือ รศั มขี องบรเิ วณป้องกนั , h1 คือ ความสูงของแทง่ ตัวนาํ ล่อฟ้า เหนอื พืน้ ผวิ หลงั คา รูปที่ 9.4 วิธที กี่ าํ หนดมุมสาํ หรบั การป้องกนั (2) วิธีทรงกลมกล้ิง (Rolling sphere) วิธีน้ีจะใช้ทรงกลมเหมือนลูกบอล โดย จะกลิ้งไปบนส่วนของอาคาร ในการติดต้ังระบบป้องกันฟ้าผ่าชนิดที่เป็นหลักล่อฟ้าหรือสายตัวนําขึงเสียก่อน แล้วกล้ิงลูกบอล ส่วนใดของอาคารท่ีผิวของลูกบอลสัมผัสจะถือว่าเป็นส่วนท่ีไม่ได้รับการป้องกัน จะต้องติดต้ัง ตัวนําล่อฟา้ เพิม่ เขา้ ไป ดงั รปู ท่ี 9.5 r r r r r h < 60 m h > 60 m 0.8 h r ระบบตวั นําล่อฟา้ รัศมขี องทรงกลมกลิ้ง รปู ที่ 9.5 ตวั อยา่ งการจดั วางตาํ แหน่งตวั นําล่อฟา้ เมอ่ื ใชว้ ธิ ที รงกลมกล้ิง
222 (3) วิธีตาข่าย (Mesh size) วิธีน้ีเป็นการใช้ตัวนําล่อฟ้าแนวราบขึงบนส่วนของ อาคารส่วนท่ีสูงที่สุด ดังรูปที่ 9.6 การติดตั้งท่ีให้การป้องกันที่ดีจะต้องติดตั้งตัวนําแนวราบโดยรอบอาคาร ซ่ึงมี ระยะห่างตามท่ีกําหนด โดยจัดวางไว้ที่บนแนวขอบหลังคา ส่วนที่ย่ืนออกมาของหลังคา แนวสันหลังคาเอียง เกนิ 1/10 ขนาดตาข่าย (w) ตามระบใุ นตารางท่ี 9.1 ก) ตวั นาํ ล่อฟา้ ตดิ ตงั้ ด้วยวธิ ตี าขา่ ยบนหลังคาราบ ข) ตวั นาํ ลอ่ ฟ้าตดิ ตงั้ ด้วยวิธตี าข่ายบนหลงั คาเอียง รปู ท่ี 9.6 ตัวอยา่ งระบบปอ้ งกันฟา้ ผ่าไมแ่ ยกอสิ ระด้วยวธิ ีตาขา่ ย 4. การติดตั้งตัวนําล่อฟ้า ถ้าตัวนําล่อฟ้าไม่แยกอิสระจากส่ิงปลูกสร้างที่จะป้องกัน เช่น ถ้าหลงั คาทาํ ด้วยวัสดุไม่ติดไฟ อาจวางตําแหนง่ ตวั นาํ ล่อฟา้ บนพน้ื ผวิ ของหลังคา เป็นต้น ดงั รปู ที่ 9.7 รปู ที่ 9.7 ตําแหน่งตวั นําล่อฟา้ บนพ้ืนผิวของหลังคา 9.2.2 ระบบตวั นําลงดิน (Down Conductor System or Down Lead) มาตรฐานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง: มาตรฐานการป้องกนั ฟ้าผา่ ของ วสท., IEC 62305 ข้อมูลท่วั ไป: 1. ระบบตัวนําลงดิน เป็นส่วนประกอบของระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอก เพ่ือนํา กระแสฟ้าผ่าจากระบบตัวนําล่อฟ้าลงสู่ระบบรากสายดิน เพื่อลดโอกาสการเกิดความเสียหายเนื่องจากกระแส ไฟฟ้าในระบบป้องกันฟ้าผ่า แบ่งตามการติดตั้งออกเป็น 2 แบบ คือ (1) ระบบตัวนําลงดินแบบแยกอิสระ จะ
223 เดนิ ลงดนิ บนผนังอาคารบนวัสดุฉนวน โดยไมม่ กี ารเช่ือมตอ่ กับส่วนทีเ่ ปน็ ตัวนําของอาคาร และ (2) ระบบตัวนํา ลงดินแบบไม่แยกอิสระ ตัวนําจะต่อเข้ากับส่ิงปลูกสร้างส่วนท่ีเป็นตัวนําหลาย ๆ จุด ซึ่งตัวนําของอาคารทํา หน้าท่ีลงดินด้วย การจัดตวั นาํ ลงดนิ จากจดุ ฟ้าผ่าจนถึงดนิ ในลกั ษณะดงั นี้ (1) มีเสน้ ทางกระแสหลายเสน้ ทางขนานกัน (2) ทาํ ให้ความยาวของเสน้ ทางกระแสสัน้ ทส่ี ดุ (3) มีการประสานให้ศกั ย์เทา่ กนั เข้ากับชนิ้ ส่วนตัวนาํ ของสงิ่ ปลกู สรา้ ง 2. วัสดุ รูปแบบ และพ้ืนทีห่ นา้ ตัดข้นั ต่ําของตัวนาํ ลงดนิ เปน็ ตวั อย่าง ดงั น้ี (1) ทองแดง ตเี กลยี ว พนื้ ทีห่ นา้ ตดั ข้นั ต่ํา 50 ตร.มม. (2) อะลมู ิเนียม ตเี กลยี ว พน้ื ท่ีหน้าตัดข้นั ต่าํ 50 ตร.มม. ก) สายทองแดงตีเกลียว ข) สายอะลูมเิ นยี มตีเกลยี ว รปู ท่ี 9.8 ตัวอยา่ งสายตวั นําลงดนิ (3) เหลก็ อาบสงั กะสแี บบจ่มุ รอ้ น ตเี กลียว พนื้ ที่หนา้ ตัดขน้ั ตา่ํ 50 ตร.มม. 3. การจดั วางตาํ แหนง่ ของตัวนําลงดินของระบบป้องกันฟ้าผ่าแบบไม่แยกอิสระ แต่ ละระบบต้องมีจํานวนตัวนาํ ลงดนิ ไม่น้อยกว่า 2 เสน้ และควรกระจายโดยรอบตามเส้นรอบรูปสิ่งปลูกสร้างที่จะ ปอ้ งกัน โดยขน้ึ อยู่กบั ขอ้ จํากัดทางสถาปตั ยกรรมและทางปฏิบตั ิอนื่ ๆ 4. การติดตงั้ ตัวนําลงดิน ต้องติดตั้งให้มีความต่อเนื่องโดยตรงกับตัวนําล่อฟ้าให้มาก ที่สุดเท่าท่ีทําได้ในทางปฏิบัติ และต้องติดตั้งให้เป็นเส้นตรงในแนวด่ิงเพื่อให้เป็นเส้นทางลงดินที่ส้ันท่ีสุดและลง ดินท่ีตรงที่สดุ ตอ้ งหลกี เลย่ี งการติดตง้ั ทที่ าํ ให้เกดิ เป็นวงรอบ 5. จุดต่อทดสอบ (Test Point) ท่ีจุดต่อของข้ัวรากสายดิน ตัวนําลงดินแต่ละเส้น ควรติดต้ังจุดต่อทดสอบไว้ ยกเว้น กรณีตัวนําลงดินโดยธรรมชาติที่ร่วมอยู่กับรากสายดินฐานราก เพื่อวัตถุ- ประสงค์ในการวัด จุดต่อทดสอบต้องปลดออกได้โดยใช้เคร่ืองมือ ในการใช้งานปกติจุดต่อทดสอบนี้ต้องอยู่ใน ตําแหนง่ ตอ่ กันอยู่ ตัวอย่างกลอ่ งติดตง้ั จดุ ต่อทดสอบ (Ground Test Box) ดงั รปู ท่ี 9.9
224 รูปท่ี 9.9 ตวั อยา่ งกลอ่ งตดิ ตงั้ จดุ ตอ่ ทดสอบ 9.2.3 ระบบรากสายดนิ (Earth Termination System or Lightning Ground) มาตรฐานทเี่ กี่ยวขอ้ ง: มาตรฐานการปอ้ งกันฟ้าผ่าของ วสท., IEC 62305 ข้อมลู ท่ัวไป: 1. ระบบรากสายดิน เป็นส่วนประกอบของระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอก ซึ่งใช้ สําหรับนําหรือกระจายกระแสฟ้าผ่าลงสู่ดิน เมื่อทําการเกี่ยวข้องกับการกระจายกระแสฟ้าผ่าลงสู่ดิน (มี ลกั ษณะความถีส่ ูง) ขณะเดยี วกบั การลดการเกดิ แรงดนั เกนิ อันตรายใด ๆ ให้น้อยท่สี ุด เกณฑ์ที่สําคัญ คือรูปร่าง และมิติของระบบรากสายดิน โดยทั่วไปแนะนําให้ใช้รากสายดินที่มีความต้านทานดินต่ํา (ถ้าเป็นไปได้ควรมีค่า น้อยกวา่ 10 โอหม์ เม่อื วัดที่ความถ่ีตา่ํ ) 2. การจดั วางระบบรากสายดิน มกี ารจดั วางแบบพืน้ ฐาน 2 แบบ (1) การจัดวางแบบ ก ประกอบด้วยรากสายดินตามแนวระดับหรือแนวด่ิง ไม่ นอ้ ยกว่า 2 ชุด ตดิ ต้ังด้านนอกสงิ่ ปลูกสร้างทจ่ี ะปอ้ งกนั และตอ่ เขา้ กบั ตวั นําลงดนิ ทุกเส้นอย่างน้อยเส้นละ 1 ชุด ตัวอยา่ งการจัดวางรากสายดนิ แบบ ก ดังรปู ที่ 9.10 ก) การจดั วางแบบ ก ข) รากสายดนิ แนวด่งิ รูปท่ี 9.10 ตัวอย่างการจัดวางรากสายดนิ แบบ ก
225 (2) การจัดวางแบบ ข อาจจะเปน็ ตวั นาํ วงแหวนตดิ ตัง้ ภายนอกส่ิงปลูกสร้างที่จะ ป้องกัน และมีส่วนสัมผัสกับดินอย่างน้อยร้อยละ 80 ของความยาวรวม หรือรากสายดินฐานราก รากสายดิน แบบนี้อาจมีการต่อกันเป็นตาข่ายได้ด้วย และจํานวนรากสายดินมีอย่างน้อย 2 ชุด ต่อตัวนําลงดิน 1 ชุด ดังรูป ที่ 9.11 รูปที่ 9.11 การจัดวางแบบ ข มรี ากสายดินอยา่ งนอ้ ย 2 ชุด ต่อตวั นาํ ลงดนิ 1 ชดุ 3. การตดิ ตง้ั รากสายดิน รากสายดนิ วงแหวน (การจัดวางแบบ ข) ควรฝังที่ความลึก อย่างน้อย 0.5 เมตร และที่ระยะห่าง 1 เมตร จากผนังด้านนอกโดยรอบ และรากสายดินอ่ืน ๆ (การจัดวาง แบบ ก) ต้องติดต้ังให้ความลึกของปลายบนมีค่าอย่างน้อย 0.5 เมตร ติดต้ังให้กระจายอย่างสม่ําเสมอ รากสาย ดินตอ้ งติดตง้ั ในลักษณะที่สามารถตรวจสอบได้ในระหว่างการก่อสรา้ ง และตอ้ งได้รบั ผลการกัดกรอ่ นน้อยทส่ี ุด 4. การจับยึด ตัวนําล่อฟ้าและตัวนําลงดินต้องมีการจับยึดอย่างม่ันคง เพ่ือไม่ให้แรง กระทําท่ีเกิดจากไฟฟ้าพลวัตหรือแรงทางกลอ่ืนที่อาจเกิดข้ึน เช่น แรงจากการสั่น การเลื่อนของแผ่นหิมะ การ ขยายตัวทางความรอ้ น เปน็ ต้น 5. การต่อ จํานวนการต่อตลอดความยาวของตัวนําต้องมีน้อยที่สุด การต่อต้องทํา ให้แข็งแรงโดยใช้ การแล่นประสาน การเชื่อมด้วยวิธีหลอมละลายเน้ือโลหะเข้าด้วยกันด้วยความร้อน (Exothermic Welding) การขันด้วยแคลมป์ การบีบอัด การเช่ือมตะเข็บ การยึดด้วยสกรู หรือการสลักเกลียว ตัวอย่างการต่อตวั นํา ดังรปู ท่ี 9.12 และอปุ กรณต์ อ่ ตวั นาํ ด้วยแคลมป์ ดงั รูปที่ 9.13
226 รูปที่ 9.12 ตวั อยา่ งจดุ ตอ่ เชอื่ มตวั นาํ ดว้ ยความร้อน (Exothermic Welding) หมายเหตุ วธิ ีการต่อเชอื่ มตวั นาํ ด้วยความรอ้ น ดูในหัวข้อ 6.3.3 วธิ ีการตอ่ สายตอ่ หลกั ดนิ ในหน่วยที่ 6 แคลมป์จบั สายทองแดงเปลอื ย แคลมป์กราวด์รอด แคลมปจ์ บั บาร์ทองแดง ยูแคล้ม 2 สกรู หางปลาทองแดงขนั สกรู รปู ท่ี 9.13 ตัวอยา่ งแคลมปท์ ่ีใชต้ ่อตัวนาํ ในระบบป้องกันฟา้ ผ่า 1. มาตรฐานการป้องกันฟ้าผ่า ตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ประกอบด้วยภาคที่ 1 ข้อกําหนดทั่วไป ภาคที่ 2 การบริหารความเสี่ยง ภาคท่ี 3 ความเสียหายทาง กายภาพต่อส่ิงปลูกสร้างและอันตรายต่อชีวิต และภาคท่ี 4 ระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในส่ิงปลูกสร้าง โดย อ้างองิ ตามมาตรฐาน IEC
227 2. ระบบป้องกันฟ้าผ่าภายนอก (LPS) ประกอบด้วย (1) ระบบตัวนําล่อฟ้า ใช้ช้ินส่วนโลหะ เช่น แท่ง ตัวนํา ตัวนําแบบตาข่าย หรือสายตัวนําขึง ทําหน้าที่ตัวดักรับวาบฟ้าผ่าท่ีลงส่ิงปลูกสร้าง การจัดวางตําแหน่ง ตัวนําล่อฟ้า ใช้วิธีหน่ึงหรือหลายวิธี วิธีท่ียอมรับคือ วิธีมุมป้องกัน วิธีทรงกลมกลิ้งและวิธีตาข่าย (2) ระบบ ตวั นําลงดนิ จะนํากระแสฟา้ ผา่ จากระบบตัวนําล่อฟ้าลงสู่ระบบรากสายดิน และระบบรากสายดิน ซ่ึงใช้สําหรับ นําหรอื กระจายกระแสฟ้าผ่าลงสูด่ นิ 3. การจัดวางระบบรากสายดิน มีการจัดวางแบบพ้ืนฐาน 2 แบบ (1) การจัดวางแบบ ก ประกอบด้วย รากสายดินตามแนวระดบั หรอื แนวดิ่ง ไม่น้อยกว่า 2 ชุด (2) การจัดวางแบบ ข อาจจะเป็นตัวนําวงแหวนติดตั้ง ภายนอกส่ิงปลูกสร้างที่จะป้องกัน และมีส่วนสัมผัสกับดินอย่างน้อยร้อยละ 80 ของความยาวรวม และจํานวน รากสายดินมอี ยา่ งนอ้ ย 2 ชุด ตอ่ ตัวนําลงดิน 1 ชุด คาํ ศัพทป์ ระจําหน่วย ระบบตัวนําลอ่ ฟ้า ระบบตวั นําลงดิน Air Termination System ระบบรากสายดนิ Down Conductor System ระบบป้องกันฟา้ ผ่า Earth Termination System Lightning Protection System
232 คณะกรรมการสาขาวิศวกรรมไฟฟา้ . (2556). มาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟา้ สาํ หรบั ประเทศไทย พ.ศ. 2556. กรงุ เทพฯ : วศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ.์ . (2545). มาตรฐานการตดิ ต้งั ทางไฟฟา้ สาํ หรับประเทศไทย พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : วิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถมั ภ.์ . (2555). มาตรฐานระบบแจง้ เหตเุ พลงิ ไหม้. กรงุ เทพฯ : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ.์ . (2556). มาตรฐานการปอ้ งกนั ฟา้ ผา่ ภาคท่ี 3 ความเสียหายทางกายภาพตอ่ สง่ิ ปลูกสร้าง และอันตรายตอ่ ชวี ิต. พิมพ์ครงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพฯ : วิศวกรรมสถานแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถมั ภ.์ . (2556). มาตรฐานการป้องกนั ฟา้ ผา่ ภาคที่ 1 ขอ้ กาํ หนดทัว่ ไป. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. กรุงเทพฯ : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ.์ คณะอนกุ รรมการจัดทาํ คมู่ อื ความปลอดภัยทางไฟฟา้ . (2555). คู่มอื ความปลอดภยั ทางไฟฟา้ . พิมพ์ครง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพฯ : สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครอ่ื งกลไทย. คณะอนุกรรมการปรับปรุงศพั ทเ์ ทคนิควิศวกรรมไฟฟ้า. (2555). ศพั ทเ์ ทคนคิ วิศวกรรมไฟฟา้ กาํ ลัง. กรุงเทพฯ : วศิ วกรรมสถานแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ.์ เครอื่ งมือติดตงั้ ไฟฟา้ . (2557). (ออนไลน์). เข้าถงึ ไดจ้ าก : www.telepart.net. (สบื ค้น : 09/04/2557). ตัวนําล่อฟา้ . (2557). (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงได้จาก : www.135inter.com. (สบื คน้ : 5/11/2557). ท่อรอ้ ยสายไฟฟา้ . (2557). (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : www.telepart.net. (สืบค้น: 15/04/2557) ท่อร้อยสายไฟฟ้า. (2557). (ออนไลน์). เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : www.klangfaifa.com. (สบื คน้ : 13/04/2557). ชายชาญ โพธิสาร. (2552). การประมาณราคาระบบไฟฟา้ -สื่อสารสําหรับอาคาร. กรงุ เทพฯ : MECT. ชลชัย ธรรมววิ ฒั นกุ รู . (2546). การออกแบบและตดิ ตง้ั ระบบไฟฟา้ . กรุงเทพฯ : เอม็ แอนดอ์ .ี ธํารงศักดิ์ หมินก้าหรมี . (2557). การติดตง้ั ไฟฟ้าในอาคาร. นนทบรุ ี : ศูนยห์ นงั สอื เมืองไทย. ธํารงศกั ด์ิ หมินกา้ หรมี และสมพงษ์ รชั ดาธิกลุ . (2548). การตดิ ตั้งไฟฟา้ ในอาคารและในโรงงาน. กรุงเทพฯ : พฒั นาวิชาการ. บุญศักด์ิ เกียรตจิ รญู เลศิ . (2556). เอกสารประกอบการสัมมนา ระบบการต่อลงดนิ และป้องกันฟ้าผา่ . กรุงเทพฯ : Kumwell.
233 ประสทิ ธิ์ พิทยพฒั น์. (2556). เอกสารประกอบการสัมมนา สายไฟฟ้าตาม มอก. ใหม่ 11–2553 และวธิ ีการเลอื กขนาดสาย. กรงุ เทพฯ : Bigphaisan Project. . (2556). เอกสารประกอบการสัมมนา ทอ่ รอ้ ยสายไฟฟา้ . กรุงเทพฯ : แอรโ์ รว์ ซนิ ดเิ คท. ระบบปอ้ งกันฟ้าผา่ . (2557). (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : www.dehn.de. (สบื คน้ : 5/11/2557). ระบบแจ้งเหตเุ พลิงไหม้. (2557). (ออนไลน์). เขา้ ถึงไดจ้ าก : www.solentsynergy.com (สบื คน้ : 10/10/2557). ลือชยั ทองนิล. (2554). การออกแบบและตดิ ตั้งระบบแจ้งเหตเุ พลิงไหม้. พมิ พค์ รง้ั ที่ 4. กรุงเทพฯ : ส.เอเซียเพรส (1989). ศุลี บรรจงจิตร. (2547). หลักการและเทคนิคการออกแบบระบบไฟฟา้ . กรุงเทพฯ : ซเี อด็ ยเู คชนั่ . สายไฟฟา้ . (2557). (ออนไลน์). เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : www.bangkokcable.com. (สบื คน้ : 10/4/2557). สายไฟฟา้ . (2557). (ออนไลน์). เข้าถึงไดจ้ าก : www.ctw.co.th. (สบื ค้น : 18/9/2557). หลอดไฟฟ้า. (2557). (ออนไลน)์ . เข้าถึงไดจ้ าก : www.lekise.com. (สืบคน้ : 13/4/2557). โหลดเซนเตอร.์ (2557). (ออนไลน์). เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : www.schneider-electric.com. (สืบคน้ : 9/4/2557). อปุ กรณ์ปอ้ งกนั กระแสเกนิ . (2557). (ออนไลน)์ . เข้าถึงได้จาก : www.telepart.net. (สืบคน้ : 9/4/2557). อปุ กรณ์ระบบแจง้ เหตเุ พลิงไหม้. (2557). (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : www.tsr.co.th (สืบคน้ : 9/4/2557). อุปกรณ์ไฟฟา้ . (2557). (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : www.crintermex.com. (สืบคน้ : 15/4/2557). Trout, Chartes M. (2002). Electrical Installation and Inspection. Singapore : Thomson Learning.
239
240
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: