ก า ร เ พ า ะ เ ลี ย ง เ นื อ เ ยื อ ผ ล ผ ลิ ต จ า ก ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ ป ลู ก ใ น ท้ อ ง ถิ น ทั ง ห ม ด จ า ก ฟ า ร์ ม สู่ โ ต๊ ะ อ า ห า ร ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ก า ร ง า น อ า ชี พ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ระดับชันมัธยมศึกษาปที 6 ภาคเรียนที 1 โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ ลําพู น
คํานาํ หนังสือเลมน้ีจัดทาํ ข้ึนเพ่ือเปนสวนหน่ึงของวิชา ง33102 การดาํ รงชีวิตและ ครอบครัว โดยมีจุดประสงคเพื่อศึกษาหาความรูในเรื่องการเพาะเล้ียงเน้ือเยื่อของ พืช และไดศึกษาคนควาความรู แหลงขอมูลจากหนังสือเรียน และเว็บไซตตางๆที่ เก่ียวของ นาเชื่อถือ และทันสมัย เพื่อเปนประโยชนกับการเรียน และสามารถใชเปน สื่อสําหรับการเรียนสอนของนักเรียนและอาจารย ผูจัดทําคาดหวังเปนอยางยิ่งวาการจัดทาํ หนังสือฉบับนี้จะมีขอมูลท่ีเปนประโยชน ตอผูท่ีสนใจศึกษาเก่ียวกับการเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือพืชเปนอยางดี นางสาวจรัสรวี จันทรเรือน
ส า ร บั ญ 02 FOREWORD 05 T H E TURRABNASNF OL ARNMDI NSGC A P E 08 YOUTH ART CONNECTION 11 LUNA X GUM BTS 15 CHOONWTRSOOLSCITAHLEMMEEDDIAIA 18 THEJABMASEIRCISLEWYITH 20 ARKTEISNTKOYUF STHHAE YMOOKNOTH:
01 การขยายพันธุพืช โดยการเพาะเล้ียงเน้ือเยื่อ (PLANT TISSUE CULTURE) การเพาะเลย้ี งเนอ้ื เยื่อพืช เปนวธิ กี ารขยายพันธพุ ชื วธิ หี น่งึ แตมกี ารปฏิบัติภายใตสภาพท่ี ควบคุม เรอ่ื ง ความสะอาดแบบปลอดเชื้อ อณุ หภูมิ และแสง ดว ยการนําชน้ิ สวนของพืชทีย่ ัง มีชวี ติ เชน ลาํ ตน ยอด ตาขา ง กา นชอ ดอก ใบ กา นใบ อับละอองเกสร เปน ตน มาเพาะเล้ียง บนอาหารสงั เคราะห และชน้ิ สวนน้นั สามารถ เจริญและพฒั นาเปนตน พืชทีส่ มบูรณ มที ้ังสวน ใบ ลาํ ตน และรากท่ีสามารถนาํ ออกปลกู ในสภาพธรรมชาติได ทผ่ี า นมามีการนาํ เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเย่อื พืชประยุกตใชกับงานดา นเภสัชวทิ ยา และ ชวี วิทยา แตปจ จุบนั มกี ารพฒั นา และนาํ มาใชแ กป ญหาหรือเพ่อื ประโยชนใ นภาคเกษตร และ ภาคอตุ สาหกรรมกันมาก ขน้ึ เชน การนําเมล็ดไผมาผลิต-ขยายดว ยวธิ ีเพาะเลีย้ งเนอื้ เยอ่ื เมื่อ ครัง้ เกดิ เหตกุ ารณไ ผอ อกดอกประมาณป 2538 หรอื การนาํ หนอ ทมี่ คี ณุ ลกั ษณะท่ีดีของหนอ ไมฝ รั่งมาผลติ -ขยายดวยวิธีเพาะเลยี้ งเนือ้ เยอ่ื เพ่ือลดปญ หา การใชเ มล็ดซ่งึ มีการคละเพศ นอกเหนอื จากราคาของเมลด็ พนั ธทุ คี่ อ นขา งสงู และยังตองนาํ เขาจากตางประเทศ อกี ดวย เปน ตน
02 พันธุพืชท่ีทําการ เพาะเล้ียงเนื้อเยื่อ การเพาะเลี้ยงเนอ้ื เยอื้ นยิ มใชก ับพชื ทมี่ ปี ญหาในเรือ่ งของการขยายพนั ธุ หรอื พชื ทม่ี ีปญ หาเรอื่ งโรค ไดแ ก 8. สมนุ ไพร 9. กลวย 1. ออ ย 10. กระเจียว/ปทุมมา 2. เบญจมาศ 11. ปเู ล 3. สตรอเบอรี่ 12. ไผ 4. หนอไมฝร่งั 13. กลวยไมปา 5. ขงิ 6. มนั ฝรั่ง 14. สมนุ ไพร 7. สับปะรด
03
04 การเตรียมอาหารสังเคราะห วิธกี ารเตรยี มวนุ อาหารเพาะเมลด็ 1ลติ ร 1. รินนา้ํ กลน่ั ใสหมอเคลอื บ 600 มิลลิลติ ร 2. เติมน้ํามะพรา วออน 150 มิลลิลติ ร 3. รนิ สารละลายเขม ขน A, B และC ขวดละ 10 มิลลิลติ ร 4. ละลาย Tricalcium phosphate ในกรด HCL หรือ HNO3 จนละลายหมดแลว รนิ ใสหมอ 5. เตมิ กลวยหอมบด 50 กรัม 6. เติมนา้ํ ตาลทราย 20 กรมั แลวคนใหล ะลาย 7. เตมิ นาํ้ ใหค รบ 1000 มิลลลิ ิตร 8. วดั คา pH ใหได 5.0 โดยใชส เี ทียบจาก BromCresal Green ผสมกับ Methyl Red ถาpH สงู กวา 5 หยดกรดHNO3 หรือ HCL ลงไปคอย ๆ ปรบั ใหไ ดเทากับ 5 ถา pH ต่ํากวา 5 ใหป รบั ดว ย NaOH หรอื KOH 9. เติมวนุ ผง 8 กรมั คนใหเขากัน 10.เตมิ ถา น ยกต้ังไฟ คนตลอดระวังอยา ใหวนุ ไหมติดกนหมอ วุนอาหารท่ีเตรียมไว นํามากรอกใสข วด ขณะทยี่ งั เหลวโดยใชกรวยกรอก ระวัง อยาใหอาหารเลอะปากขวด เพราะจะทาํ ใหเช้อื จุลินทรียเจริญลงไปในขวดอาหารไดงา ย ปด ปาก ขวดดว ยฝาพลาสติกหรอื จกุ สาํ ลหี ุมกระดาษ และรดั ดวยหนงั ยาง นาํ ขวดวุนอาหารเหลา น้ี พรอมดวยอปุ กรณต า ง ๆ ที่ใชในการเพาะเมลด็ และถาย ขวดลงนึง่ พรอมกนั ในหมอ นึง ความดัน ใชค วามดนั 15 ปอนดต อ ตารางนิ้ว นง่ึ นาน30 นาที เพื่อฆาเชือ้ จลุ นิ ทรยี
05 หอ งปฏิบตั ิการเพาะเลีย้ ง หอ งปฏบิ ตั ิการ ประกอบดวยสวนสําคญั 3 สว น คอื 1. หองเตรียมอาหาร ควรเปน หอ งทมี่ ีโตะ สาํ หรบั เตรียมสารเคมี อา งนํา้ ตูเยน็ สําหรบั เกบ็ สารละลายเขม ขน เคร่ืองชั่ง เคร่อื งวดั ความเปนกรด – ดาง เตาหลอมอาหาร หมอนงึ่ ฆา เชอ้ื จลุ นิ ทรยี แบบความดนั ไอนาํ้ 2. หองถายเน้อื เยือ่ เครือ่ งมอื สาํ คญั ในหองน้ีคือ ตูส ําหรับเลย้ี งหรือถายเน้ือเยือ่ เปนตูท มี่ ี อากาศถายเทผานแผน กรอง ทีส่ ามารถกรองจลุ ินทรียไ วไ ดต ลอดเวลา ทาํ ใหอ ากาศภายในตู บริสุทธ์ิ ชวยใหท ํางานสะดวกรวดเรว็ 3. หอ งเล้ียงเน้ือเย่ือพืช สภาพแวดลอ มทีเ่ หมาะสมในการเลี้ยงเน้ือเยอ่ื จะแตกตา งกนั สําหรบั พืชแตละชนดิ โดยทั่วไปมักจะปรบั สภาพแวดลอ มภายในหองใหมีอุณหภูมปิ ระมาณ 25 องศาเซลเซยี ส ระยะเวลาท่ีใหแสงประมาณ 12 – 16 ชว่ั โมง / วนั ความเขมของแสง 1,000 – 3,000 ลักซ
06 อุปกรณในการเพาะเล้ียงเนื้อเย่ือ 1. พันธพุ ืชทจ่ี ะนาํ มาเพาะเล้ียงควรสะอาด ปราศจากโรคและเปน สว นท่สี าํ คัญทยี่ งั ออ นอยู เชน ตาเปน อวัยวะทดี่ ีทส่ี ดุ สวนใบ ดอก ราก ก็สามารถนํามาเลยี้ งได 2. เครื่องแกว ตา ง ๆ ไดแก ฟลาสค บีกเกอร ปเ ปตต จานเพาะเช้ือ กระบอกตวง ขวดสําหรับเล้ยี งเนอื้ เยื่อ 3. สารเคมตี า ง ๆ 3.1 สารเคมีทีใ่ ชฆา เชอื้ ทตี่ ดิ มากบั ผิวพชื เชน คลอรอกซ เอททลิ แอลกฮอล เมอคิวริคคลอไรด ไฮโดรเจนเปอรอ อกไซด 3.2 สารเคมที ่ีใชเตรยี มสูตรอาหารตาง ๆ 3.3 สารเคมที ่ีควบคุมการเจรญิ เติบโต 3.4 นา้ํ ตาลซูโครส 3.5 วุน 4. เครื่องมอื ผา ตดั ไดแ ก มดี ผา ตัด ปากคีบ 5. ตถู า ยเน้อื เย่ือ 6. อุปกรณเบ็ดเตลด็ ตาง ๆ 7. อาหารเพาะเลี้ยงเนอื้ เยื่อ
07ขั้นตอนการเพาะเลี้ยงเนื้อเย่ือ 1. คั ดเลื อกพั นธุ พื ช 2. ผลิ คแม พั นธุ พื ชต นกําเนิ ดปลอดโรค 3.ขยายและเพิ่ มปริ มาณต นพื ชในห องปฏิ บั ติ การ 4. ชั กนํารากเป นต นที่ สมบู รณ 5. อนุ บาลต นอ อนพื ชในสภาพโรงเรื อน 6. ขยายเพ่ิ มปริ มาณต นพื ชในโรงเรี ยน/แปลงแม พั นธุ
08 วิธีการเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือ การเพาะเลี้ยงเน้อื เย่ือมีวิธีการทํา 5 ขน้ั ตอน ดังน้ี 1. การเตรยี มอาหาร คอื การเตรยี มอาหาร คอื การนาํ ธาตอุ าหารหลักท่พี ืชตอ งการในการเจรญิ เติบโต และธาตุอาหารรองมาผสมกบั วนุ ฮอรโมนพืช วิตามินและนํา้ ตาล ในอัตราสวนทเี่ หมาะสม แลวนาํ ไปฆา เชือ้ ใสลงในขวดอาหารเลย้ี ง บางครง้ั อาจหยดสี ลงไป เพือ่ ใหสวยงามและสงั เกตไดชัดเจน ธาตุอาหารที่พืชตอ งการ • ธาตุอาหารหลัก ไดแก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปรตัสเซยี ม แคลเซยี ม แมกนีเซ่ียมและ กาํ มะถนั • ธาตุอาหารรอง ไดแ ก ธาตุอาหารท่ี จําเปน นอ ย เชน เหลก็ แมงกานีส สงั กะสี ทองแดง 2. การฟอกฆาเชือ้ สว นเน้อื เยือ่ คือ เปนวธิ ีการใชสาร เคมหี รือวิธกี ารตา ง ๆ ที่ทาํ ใหช ิน้ สว นของพืชที่นํามา เลีย้ งในอาหารเล้ียง ปราศจากเชอื้ จลุ นิ ทรยี ต า ง ๆ
09วิธีการเพาะเล้ียงเนื้อเยื่อ 3. การนําเนื้ อเย่ื อลงขวดเล้ี ยง เป นการนาํ เอา ช้ิ นส วนของพื ชที่ ฟอกฆ าเชื้ อแล ววางลงบน อาหารเลี้ ยงท่ี ปลอดเชื้ อโดยใช เคร่ื องมื อและ ปฏิ บั ติ การในห องหรื อตู ย ายเน้ื อเยื่ อโดยเฉพาะ 4. การนาํ ขวดเล้ี ยงเน้ื อเย่ื อไปเล้ี ยงเป นการนํา เอาขวดอาหารเล้ี ยงท่ี มี ชิ้ นส วนของเนื้ อเยื่ อ ไปเลี้ ยงไว บนเคร่ื องเขย า เพื่ อให อากาศได คลุ กเคล าลงไปใน อาหาร ทาํ ให แร ธาตุ , ฮอร โมนและสารอาหารต างๆ ช วยกระตุ น ให เนื้ อเย่ื อที่ นํามาเล้ี ยงบนอาหารน้ั น เกิ ดต นอ อนของพื ชจาํ นวนมาก 5. การย ายเนื้ อเยื่ อออกจากขวด เม่ื อกลุ มของต นอ อนเกิ ดข้ึ น ให แยกต นอ อน ออกจากกั น เพื่ อนาํ ไปเลี้ ยงบนอาหารเล้ี ยง ใหม จนต นอ อนแข็ งแรงดี แล ว จึ งนาํ ต นอ อนที่ สมบู รณ ออกจากขวด ปลู กในแปลงเลี้ ยงต อไป
10 การใชป ระโยชนจ ากการเพาะเล้ยี งเนอ้ื เยอื่ พืช - ทําใหสามารถเพิ่มจาํ นวนตน พนั ธพุ ชื ทตี่ อ งการในปริมาณอันมากในเวลาอนั รวดเร็วได - ทําใหส ามารถผลิตตน พชื ที่มีลกั ษณะทางพันธกุ รรมเหมือนตนทเี่ ปนตน แบบได - ทาํ ใหสามารถผลติ ตน พืชจํานวนหลายๆตน ทีม่ ขี นาดสมาํ่ เสมอกันได - ทาํ ใหส ามารถผลติ ตน พืชทีป่ ราศจากโรคได - ทําใหส ามารถเก็บรักษาพนั ธพุ ชื พ้ืนเมืองทีม่ อี ยูเดิม พันธพุ ชื หายาก พนั ธุพืชทใ่ี กลสญู พันธุ พนั ธพุ ืชทม่ี ลี ักษณะทดี่ ี พันธุพืชที่มีลกั ษณะทตี่ อ งการ หรอื พันธุพชื ที่แลกเปล่ียน ระหวา งประเทศได - ทําใหส ามารถใชป รบั ปรงุ พนั ธุพ ชื ได - ทําใหสามารถผลิตยาหรอื สารเคมที ี่ไดจากพชื ได - สามารถใชป ระโยชนเ พอื่ การสกัดสารจากตนพชื เพื่อนํามาใชประโยชนในดา นตา งๆได - ทําใหสามารถผลิตพนั ธพุ ืชทีม่ ีความตา นทานหรือทนทานได เชน พนั ธพุ ชื ทีท่ นตอดิน เค็ม หรือ ดินเปร้ียว, พนั ธพุ ืชทท่ี นตอสภาพอากาศรอนหรอื หนาว, พันธุพชื ทที่ นตอสาร เคมีกาํ จัดศัตรพู ืช, พันธุพืชทท่ี นตอโรคตา งๆและสารพิษตางๆท่ีเกิดจากพวก เช้ือรา แบคทีเรีย และไวรสั - ทาํ ใหสามารถผลติ โปรโตพลาสหรือโพรโทพลาส(Protoplasts)ได - ทําใหสามารถผลิตพชื ที่มโี ครโมโซม(Chromosome)หลายชุด(Polyploids)ได
11
12 บรรณานุกรม Trueplookpunya.//(2564).//การเพาะเลี้ยงเนอื้ เยื่อ.//สบื คน เมือ่ 27 สิงหาคม 2564./ จากhttps://www.trueplookpanya.com/learning/detail/917 Steemit.//(2564).//ประสบการณ การเพาะเลี้ยงเนอ้ื เย่ือ.//สบื คน เมอื่ 3 กันยายน 2564./ จากhttps://steemit.com/technology/@sayabento/7s6ny3 โครงการอนุรกั ษพ นั ธพุ ืช.//(2564).//การเพาะเลี้ยงเน้อื เย่ือ.//สบื คนเมอ่ื 3 กนั ยายน 2564./ จากhttp://www.rspg.or.th/information/information_11-1.htm
13การเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือ เรียบเรียง นางสาวจรัสรวี จันทรเรือน เลขท่ี 31 ชั้นมัธยมศึกษาปที่ 6/4 จัดทาํ โดย นางสาวจรัสรวี จันทรเรือน เลขท่ี 31 ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 6/4 เสนอ คณุ ครูกายทิพย แจมจนั ทร กลุม สาระการเรียนรูก ารงานอาชพี และเทคโนโลยี
\" ต้ น ไ ม้ ห รื อ พื ช ร อ บ ๆ ตั ว เ ร า มี ค ว า ม สํา คั ญ ต่ อ ก า ร ดาํ ร ง ชี วิ ต ข อ ง ม นุ ษ ย์ แ ล ะ สั ต ว์ โ ล ก เ ป น อ ย่ า ง ม า ก เ พ ร า ะ พื ช เ ป น แ ห ล่ ง ผ ลิ ต อ อ ก ซิ เ จ น ที เ ร า ใ ช้ ห า ย ใ จ เ ป น แ ห ล่ ง ข อ ง อ า ห า ร แ ล ะ เ ร า ใ ช้ พื ช ทํา เ สื อ ผ้ า บ้ า น เ รื อ น ข อ ง ใ ช้ ต่ า ง ๆ ห า ก ไ ม่ มี พื ช ก็ ค ง ไ ม่ มี ทั ง สั ต ว์ แ ล ะ ม นุ ษ ย์ ม า จ น ทุ ก วั น นี . . . \"
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: