Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วัสดุในชีวิตประจำวัน

วัสดุในชีวิตประจำวัน

Published by takta4861, 2019-08-06 02:49:54

Description: วัสดุในชีวิตประจำวัน

Search

Read the Text Version

วสั ดุในชีวิตประจําวนั จัดทําโดย ด.ญ.กนกวรรณ สขุ สําราญ เลขท่1ี 6 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่2ี /4 วชิ าออกแบบและเทคโนโลยี เสนอ คุณครูภัทราวรรณ อทุ ธสงิ ห

1 คํานํ า รายงานเลม นจ้ี ดั ทาํ ขน้ึ เพ่ือเปนสว นหนง่ึ ของวิชา ออกแบบและเทคโนโลยีเพอ่ื ใหไ ดศึกษาหาความรูใ นเร่ือง วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วันและไดศ ึกษาอยางเขา ใจเพ่อื เปน ประโยชนก ับการเรียน ผจู ัดทําหวงั วา รายงานเลม น้ีจะเปน ประโยชนก ับผอู าน หรอื นักเรยี น นักศกึ ษา ที่กาํ ลงั หาขอมลู เร่ืองน้อี ยู หาก มีขอแนะนาํ หรือขอ ผิดพลาด ผูจัดทาํ ขอนอมรับไวและ ขออภัยมา ณ ท่นี ดี้ ว ย ด.ญ.กนกวรรณ สขุ สําราญ

2 สารบญั คํานํา 1 สารบญั 2 วสั ดุในชีวติ ประจาํ วนั 3 ไม 4 โลหะ 6 พลาสติก 8 ยาง 10 อางอิง 12

3 วัสดใุ นชีวิตประจําวัน สงิ่ ของเครือ่ งใชตางๆสรา งข้นึ มาจากวัสดุ หลายประเภท วัสดุแตละประเภทมสี มบัติ และ ลักษณะทแ่ี ตกตา งกัน การเลอื กใชวสั ดุที่ถกู ตอ งและเหมาะสมจงึ มคี วามสําคญั ตอการ ออกแบบและสรางส่งิ ของเครอ่ื งใช    วสั ดทุ น่ี าํ มาทําสิ่งของเครอื่ งใชท่เี ราพบมา ในชวี ติ ประจาํ วนั เชน ไม โลหะ พลาสติก ยาง มี สมบตั ิและการใชง านแตกตา งกนั

4 ไม คอื วัสดุธรรมชาตทิ ไี่ ดมาจากลาํ ตนของตนไม ซง่ึ สว นใหญเปนไมยนื ตน ไมมคี วามแข็งแรง ทนทาน ตา นทานไฟฟา ไมเ ปนสนิม มีรปู รา งคงตวั ผิวเรียบ มีกล่นิ และมีลวดลาย ถาไดรบั ความชื้นเปนเวลา นานอาจบวมผดิ รปู และผุได ไมแบงออกไดเ ปน 2 ประเภท

5 ไมจริงหรือไมธ รรมชาติ (Natural Wood or soild Wood) ไมท ี่จากลาํ ตน ของตนไมโดยตรง โดยแบงออก เปน 2ประเภทคือ ไมเ นอื้ แขง็ (hardwood) ไมเนอ้ื ออ น(softwood) ไมประกอบ (Processed Wood) ไมท่ีไดมาจากการนําช้นิ สว นของไมม าตอ รวมกันดวย กระบวนการตาง

6 โลหะ (metals) โลหะ คือ วสั ดุทีไ่ ดจ ากการถลงุ สินแรต างๆ โลหะ ท่นี ํามาใชงานสว นใหญจะผา นการปรับปรงุ สมบัติ ใหด ีข้ึนกอ นนาํ มาใชง าน โลหะเปนตัวนําความรอ น และไฟฟา มีความแขง็ แรงสงู มีความคงทนถาวร ไมเสื่อมสลาย เปน วตั ถุทบึ แสง ทนทานตอการ กัดกรอน โลหะแบง ออกไดเปน 2 ประเภท

7 โลหะกลุมเหลก็ (ferrous metals) คอื โลหะทมี่ ีเหลก็ เปน สวน ประกอบหลกั แบงออกเปน เหล็กกลา (steel) และเหลก็ หลอ (cast Iron) ซึ่งมีธาตุคารบอนผสมอยูในปริมาณทตี่ า งกันตัง้ แต 0.1% ไปจนถงึ 4.0% คารบอนทผ่ี สมลงในเหลก็ มผี ลตอความ แขง็ และเปราะของเหล็ก โดยทั่วไปโลหะกลุมเหลก็ จะเกดิ สนิมและมี สมบตั ดิ ูดติดกบั แมเ หล็กได โลหะนอกกลมุ เหล็ก (non-ferrous metals) คือ โลหะทไี่ มม ี เหล็กเปนสว นประกอบ ดงั น้ันโลหะประเภทนีจ้ ะไมเ กดิ สนมิ และไม ดูดตดิ กับแมเหล็ก เชน อะลูมเิ นยี ม ทองแดง สังกะสี ทอง เหลอื ง

8 พลาสติก (plastics) พลาสตกิ คือ วัสดุสงั เคราะหท่ีมนษุ ยส ราง ขน้ึ สวนใหญเ ปน ผลผลิตท่ไี ดจ ากการกลนั่ นํา้ มนั ดิบ ปจจบุ นั พลาสติกนํามาใชส ราง สง่ิ ของเครอื่ งใชมากมายและมีบทบาทอยาง ยิ่งตอการดําเนินชีวติ ประจาํ วัน

9 เทอรโ มพลาสตกิ (thermoplastics) จะออนตัวและ หลอมเหลวเม่อื ไดรับความรอ นและจะแข็งตวั เมื่อทําใหเ ยน็ ลง พลาสตกิ ทแ่ี ขง็ ตวั แลว สามารถนาํ มาหลอมซาํ้ ไดดว ย ความรอ น เทอรโมเซตติงพลาสตกิ (Thermosetting plastic) เปน พลาสตกิ ท่มี สี มบตั พิ เิ ศษ คอื ทนทานตอการเปลย่ี นแปลง อณุ หภูมิและทนปฏิกิรยิ าเคมีไดด ี

10 ยาง (rubber) ยาง คือ วัสดุท่มี ีความยืดหยุน ถกู นาํ ไป แปรรปู เพอ่ื ใชประโยชนใ นการสรางส่งิ ของ เครื่องใชห ลายชนิด

11 ยางธรรมชาติ (natural rubber) คือ ผลผลิตท่ีไดจาก ตน ยาง เมอ่ื ยางอยใู นสภาวะอุณหภูมติ ํ่าจะแข็งกระดา ง เมื่อยางอยใู นสภาวะอุณหภูมสิ ูงจะออ นนมิ่ มคี วามยืดหยนุ สูง ทนตอ การสึกหรอ แตไ มทนตอตัวทําละลายพวกน้ํามัน ปโ ตเลยี ม ยางสังเคราะห (synthetic rubber) คอื ยางทีไ่ ดจ าก การสังเคราะหทางเคมเี พือ่ เลยี นแบบยางธรรมชาติ ขอดี คือ สามารถปรับปรงุ สมบัตติ างๆ ได

12 อา้ งอิง วสั ดใุ นชีวิตประจําวนั -ครูไอที


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook