Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 2 ตำนานและประวัติพระปฐมเจดีย์

บทที่ 2 ตำนานและประวัติพระปฐมเจดีย์

Published by 921supatn, 2019-08-01 23:58:00

Description: บทที่ 2 ตำนานและประวัติพระปฐมเจดีย์

Search

Read the Text Version

33 บทที่ 2 ตำนำนและประวตั ิพระปฐมเจดยี ์ สำระสำคัญ กกกกกกก1. ตำนำนพระปฐมเจดยี ์ ได้แก่ ตำนำนของท่ำนเจ้ำพระยำทิพำกรวงศ์ (ขำ บุนนำค) เรียบ เรียงไว้แต่ปีฉลู พ.ศ. 2408 ซ่ึงสำนักงำนจัดทำประโยชน์และรักษำพระปฐมเจดีย์ จัดพิมพ์เมื่อ 8 พฤษภำคม พ.ศ. 2516 โดยกล่ำวถึงพระยำกงและพระยำพำนได้ฆ่ำพระรำชบิดำและยำยหอมผู้มี พระคุณ จึงไดส้ รำ้ งพระเจดยี ์ขนำดใหญ่ สงู ช่ัวนกเขำเหนิ คอื องค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อเป็นกำรล้ำงบำป ทฆี่ ำ่ พระรำชบดิ ำให้บรรเทำลงบำ้ ง และสรำ้ งพระประโทนเจดยี ์ เพือ่ ล้ำงบำปท่ีฆ่ำยำยหอมและตำนำน ฉบบั พระยำรำชสัมภำกร และฉบับเจ้ำพระยำทิพำกรวงศ์ ได้เล่ำไว้ว่ำท้ำวภำลีธิรำช ครองเมืองศรีวิชัย (คือ เมืองนครชัยศรี) พระยำศรีสิทธิชัยสร้ำงพระปฐมไสยำสน์ข้ึนองค์หน่ึงใหญ่ยำวมหึมำ ซึ่งเป็น พระปฐมเจดีย์ และได้อัญเชิญพระบรมสำรีริกธำตุมำบรรจุ แรกสร้ำงพระปฐมเจดีย์ ตำนำนฉบับ ตำปะขำวรอด ซึ่งคลำ้ ยกบั ฉบับเจ้ำพระยำทพิ ำกรวงศ์ และตำนำนนิทำนพระอรหันต์ กกกกกกก2. ประวัตพิ ระปฐมเจดยี ์ 2.2.1 ประวัติกำรก่อสร้ำงพระปฐมเจดีย์ มีกำรก่อสร้ำงขึ้นในสมัยพระเจ้ำอโศก มหำรำช ทรงสง่ สมณทูตมำเผยแผพ่ ระศำสนำ นักปรำชญ์ทำงโบรำณคดีเห็นพ้องกันว่ำ พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ เปน็ สมณทูตและมำตั้งหลักฐำนประกำศหลกั ธรรมคำสอนที่นครปฐมเป็นคร้ังแรก ในพุทธศตวรรษที่ 3 และได้สร้ำงพระเจดีย์ทรงบำตรคว่ำ แบบเจดยี ส์ ำญจีในประเทศอนิ เดียไว้ 2.2.2 ประวัติกำรบูรณปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์ มีดังนี้ พระปฐมเจดีย์มีประวัติกำร ปฏสิ งั ขรณ์ ประวตั ิกำรบรู ณปฏสิ ังขรณ์สมัยรตั น์โกสินทร์ เริ่มในสมัยรัชกำลที่ 4 ได้ทรงเปล่ียนรูปทรง ใหม่เป็นพระเจดีย์แบบสถำปัตยกรรมไทย รูประฆังคว่ำ ยอดแหลม ก่ออิฐ ถือปูนประดับกระเบื้อง เคลือบ สมยั รชั กำลท่ี 5 ทรงโปรดให้ส่ังกระเบือ้ งเคลือบสีเหลืองส้มจำกเมืองจีนมำประดับเคลือบองค์ พระปฐมเจดีย์ทั้งองค์ ได้ทรงสร้ำงพระวิหำรคตระเบียงชั้นนอกล้อมรอบองค์พระปฐมเจดีย์ไว้อีก ชั้นหน่ึง ในสมัยกำลท่ี 6 ทรงโปรดเกล้ำให้ปฏิสังขรณ์วิหำรหลวง ด้ำนทิศตะวันออก และให้เขียน จิตรกรรมฝำผนังภำพพระปฐมเจดีย์ 3 องค์ และเทพชุมนุม และทรงโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมให้ สร้ำงวิหำรสำหรับประดิษฐำนพระร่วงโรจนฤทธ์ิ ซ่ึงเดิมได้อัญเชิญชิ้นส่วนพระเศียร พระหัตถ์ และ พระบำท ซึ่งเป็นศิลปะสมัยสุโขทัยมำจำกสวรรคโลก นำมำปฏิสังขรณ์จนเป็นพระพุทธรูปยืนที่ สมบูรณ์ สมัยกำลท่ี 7 ทรงก่อสร้ำงพระอุโบสถขึ้น สมัยกำลที่ 9 เปลี่ยนกระเบื้องประดับองค์เจดีย์ ใหม่ และรัฐบำลไดก้ ่อสร้ำงกำแพงช้นั นอก ผลกำรเรยี นรูท้ ค่ี ำดหวัง กกกกกกก1. ผู้เรยี นมคี วำมรู้ สำมำรถบอกเก่ยี วกบั ตำนำนและประวตั ิพระปฐมเจดีย์ได้ กกกกกกก2. ผู้เรยี นมีควำมภำคภูมใิ จในตำนำนและประวตั พิ ระปฐมเจดยี ์

34 ขอบขำ่ ยเน้ือหำ กกกกกกกเรอื่ งที่ 1. ตำนำนพระปฐมเจดยี ์ กกกกกกกเรือ่ งท่ี 2. ประวัติพระปฐมเจดยี ์ 2.1 ประวัติกำรก่อสร้ำงพระปฐมเจดีย์ 2.2 ประวัตกิ ำรบูรณปฏิสงั ขรณพ์ ระปฐมเจดยี ์ สือ่ ประกอบกำรเรยี นรู้ กกกกกกก1. หนังสือ ประวตั ิพระพุทธเจดีย์ ผแู้ ต่ง กรมศำสนำ ปที ่พี มิ พ์ 2526 โรงพมิ พก์ ำรศำสนำ กกกกกกก2. หนังสือวัฒนธรรม พัฒนำกำรทำงประวัติศำสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญำจังหวัด นครปฐม ผู้แต่ง คณะกรรมกำรฝ่ำยประมวลเอกสำรและจดหมำยเหตุในคณะกรรมกำรอำนวยกำรจัด งำนเฉลิมพระเกียรติพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว เนื่องในโอกำสพระรำชพิธีมหำมงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษำ 6 รอบ 5 ธันวำคม 2542 ปที ่พี มิ พ์ 2544 โรงพิมพ์คุรุสภำลำดพรำ้ ว กกกกกกก3. หนังสือ พจนำนุกรม ฉบับรำชบัณฑิตยสถำน พ.ศ. 2554 เฉลิมพระเกียรติพระบำทสมเด็จ พระเจ้ำอยู่หัว เนื่องในโอกำสพระรำชพิธีมหำมงคลเฉลิมพระชนมพรรษำ 7 รอบ 5 ธันวำคม 2554. ผแู้ ตง่ รำชบัณฑิตยสถำน ปีท่พี มิ พ์ 2556 โรงพิมพ์ กรงุ เทพฯ : รำชบณั ฑิตยสถำน กกกกกกก4. CD เรอื่ ง ทวำรวดศี รีนครปฐม จัดทำโดย สภำวัฒนธรรมจังหวัด กกกกกกก5. CD เรื่อง พระปฐมเจดีย์เสยี ดฟำ้ ทวำรวดรี งุ่ เรอื ง เมืองพุทธศำสน์ จดั ทำโดยสภำ วฒั นธรรมจังหวดั กกกกกกก6. Website เรือ่ ง องคพ์ ระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ผเู้ ขยี น กระทรวงวัฒนธรรม Love thaiculture สบื คน้ จำก http://www.m-culture.go.th/young/ewt_new.sphp กกกกกกก7. Website เร่อื ง ตำนำนองคพ์ ระปฐมเจดีย์ ผูเ้ ขียน ศนู ย์วัฒนธรรมมหำวิทยำลัยครสิ เตียนนครปฐม สืบค้นจำก http://emis.christian.ac.th/ctc/Conservart/ Conservart/Papathomjadee/Papathomjade.html กกกกกกก8. วีดีโอ จำก youtube โดย พนิ จิ นคร ตอน ตำนำนพระปฐมเจดยี ์ สบื คน้ จำก https://www.youtube.com/watch?v=-rORd80BQus กกกกกกก9. วดี โี อ จำก youtube เรอ่ื ง ประวตั ิพระปฐมเจดยี ์ โดย watintaram สืบค้นจำก https://www.youtube.com/watch?v=XvMlIPB7HVw กกกกกกก10. พิพธิ ภณั ฑว์ ัดพระปฐมเจดยี ์ รำชวรมหำวิหำร ท่อี ยู่ บรเิ วณลำนชัน้ ลดดำ้ นทิศเหนอื ตรงขำ้ มกับพระอโุ บสถ เป็นพิพิธภัณฑ์ขององค์พระปฐมเจดยี ์ หมำยเลขโทรศพั ท์ 034-242143 กกกกกกก11. พพิ ธิ ภัณฑ์สถำนแห่งชำตพิ ระปฐมเจดีย์ ทอี่ ยู่ บรเิ วณองคพ์ ระปฐมเจดยี ์ดำ้ นทิศใต้ เปน็ อำคำรทรงไทยประยุกต์ 2 ช้ัน หมำยเลขโทรศพั ท์ 034-270300 และ 034-242500

35 เรอ่ื งที่ 1 ตำนำนพระปฐมเจดยี ์ กกกกกกกก1.1 ตำนำน ฉบบั พระยำรำชสัมภำรำกร ได้กล่ำวว่ำมีพระยำองค์หน่ึงช่ือท้ำวสิกำรำช ครองรำชย์สมบัติในเมืองศรีวิไชย คือ เมืองนครไชศั รี มีบตุ รชำยองค์หนึ่งชอ่ื พระยำกง ต่อมำบิดำสวรรคต พระยำกงได้ครองรำชย์สมบัติ แทนบิดำในเมืองศรีวิไชยน้ัน พระยำกงมีพระมเหสีประสูติพระรำชกุมำรออกมำ โหรำพฤฒำจำรย์ดู ลักษณะทำนำยวำ่ กุมำรองค์น้ีมีบุญญำธิกำรมำก แต่จะกระทำปิตุฆำฏ พระยำกงจึงรับส่ังให้เอำพระ รำชกุมำรไปทง้ิ เสยี รำชบุรุษได้นำกุมำรไปทง้ิ ทปี่ ่ำไผ่รมิ บ้ำนยำยพรหม ๆ ไดน้ ำกุมำรไปเลย้ี งไว้โดยไม่รู้ วำ่ เป็นบุตรของผใู้ ดไม่ ยำยพรหมเป็นคนมีบุตรหลำนมำก ยำยหอมเมียตำโฉมน้องยำยพรหมหำมีบุตร ไม่ ยำยพรหมจงึ นำกุมำรน้ันไปใหก้ ับยำยหอม ๆ จึงเลี้ยงพระกุมำรนั้นไว้ ยำยหอมเล้ียงกุมำรจนโต กุมำร จงึ ลำยำยหอมข้ึนไปเมืองเหนือถงึ สุโขทัย พอช้ำงพระเจ้ำแผ่นดินสุโขไทยอำละวำดสลัดหมอควำญไล่ แทงผูค้ นนัก หำมผี ใู้ ดจับช้ำงน้ันไดไ้ ม่ กมุ ำรก็เข้ำไปดู ชำ้ งไดไ้ ล่แทงกุมำรๆ จึงจับงำช้ำงกดลงไว้กับดิน คนทัง้ ปวงจงึ จับชำ้ งนนั้ ไวไ้ ด้ แล้วนำควำมเข้ำไปกรำบทลู พระเจ้ำแผ่นดินสุโขทัยๆ ให้หำพระกุมำรน้ัน เข้ำมำถำมว่ำ ท่ำนเป็นบุตรผู้ใด กุมำรนั้นจึงกรำบทูลว่ำ หำทรำบว่ำผู้ใดเป็นบิดำมำรดำไม่ พระเจ้ำ แผ่นดินสุโขทัยจึงเล้ียงกุมำรน้ันไว้เป็นบุตรบุญธรรม พระเจ้ำแผ่นดินสุโขไทยดูจดหมำยเหตุ(ตรวจดู ดวงชะตำ)รูว้ ำ่ กุมำรองค์นี้จะเป็นผู้มีบุญญำธิกำรมำก จะได้ครองรำชย์สมบัติในเมืองใต้ จึงต้ังให้อยู่ท่ี บ้ำนเจ็ดเสมียน เมื่อซ่องสุมผู้คนได้เป็นจำนวนมำก จึงยกมำบ้ำนเลำ (บ้ำนบำงเลำ ตำบลสร้อยฟ้ำ อำเภอโพธำรำม จังหวดั รำชบรุ ี ในปจั จุบัน) ได้รพ้ี ลรวมกันประมำณส่หี มนื่ แลว้ ยกมำบ้ำนยำยหอม ไป ตั้งเมอื งทีป่ ำ่ แดง จงึ มหี นงั สือถงึ พระยำกงให้ออกมำชนชำ้ งกัน คร้นั ไดฤ้ กษ์พระยำกง ก็ประชุมรี้พลยก ทัพออกมำรบกัน พระกุมำรนั้นก็ยกทัพออกไปปะทะกันท่ีกลำงมรรคำ พระยำกงเสียทีถูกกุมำรฟัน ด้วยของ้ำวคอขำดบนคอช้ำงพระท่ีน่งั บรเิ วณนัน้ จึงเรียกว่ำ “ถนนขำด” มำจนทุกวันนี้ กุมำรจึงได้ยก รพี้ ลเขำ้ เมอื ง คิดอยำกได้พระมเหสีพระยำกงเปน็ ภรรยำ แต่มีเทพยำดำนิมิตเป็นสัตว์ บ้ำงว่ำเป็นแพะ บำ้ งวำ่ เป็นแมวแมล่ กู ออ่ นนอนขวำงบันไดปรำสำทอยู่ เมอ่ื กุมำรจะเข้ำไปหำพระมเหสีได้เดินข้ำมสัตว์ แม่ลูกไป ลูกสัตว์จึงว่ำกับแม่สัตว์ว่ำ ท่ำนเห็นเรำเป็นสัตว์ เดรัจฉำน ท่ำนจึงข้ำมเรำไป แม่สัตว์จึงว่ำ นับประสำอะไรกับเรำเป็นสัตว์เดรัจฉำน แต่มำรดำของท่ำน ท่ำนยังจะเอำเป็นเมีย กุมำรได้ฟังก็ อัศจรรยใ์ จมีควำมสงสัย เม่ือไปถงึ พระมเหสจี ึงต้ังสัจจำธิษฐำนวำ่ “ถ้ำนำงคนนี้เป็นมำรดำข้ำพเจ้ำจริง อย่ำงสัตว์แมว่ ่ำแล้ว ขอให้นำ้ นมไหลออกมำจำกถันยคุ ลทงั้ คูเ่ ถดิ ถำ้ มใิ ช่ขออยำ่ ให้มีน้ำนมปรำกฏเลย” พอต้ังสัจจำธิษฐำนดังน้ันแล้วก็เห็นน้ำนมไหลออกมำจำกถันท้ังคู่ จึงไต่ถำมควำมรู้ว่ำเป็นมำรดำจริง จงึ เข้ำดื่มกินน้ำนม เมอื่ ร้วู ำ่ พระยำกงเป็นบิดำ จึงโกรธยำยหอมท่ีไม่บอกว่ำเป็นบุตรของพระยำกงทำ ให้ต้องฆ่ำบิดำ แล้วกุมำรก็ยกไปบ้ำนยำยหอม จับยำยหอมฆ่ำเสีย ยำยหอมเมื่อจะตำยก็รำเย้ยให้ ครั้นตำยแล้ว แร้งลงกินศพยำยหอม คนจึงเรียกที่บริเวณนั้นว่ำ อีรำท่ำแร้ง บ้ำนยำยหอมก็เรียก โคกยำยหอมมำจนทุกวันน้ี คนท้ังปวงจึงเรียกกมุ ำรนัน้ ว่ำ พระยำพำล ดว้ ยเหตวุ ่ำฆำ่ บดิ ำและยำยหอม ผู้มีพระคุณ คนท้ังหลำยจึงเรียกพระกุมำรนี้ว่ำ พระยำพำล คร้ันพระยำพำลได้ครองรำชย์สมบัติใน เมืองศรีวิไชย เกิดปริวิตกว่ำ ฆ่ำบิดำกับยำยหอมผู้มีคุณ มีโทษหนักอยู่ เม่ือพุทธศักรำชล่วงได้ 569 พระยำพำลจงึ ประชุมอรหันต์แลสงฆ์ทั้งปวง ว่ำได้กระทำกำรปิตุฆำฏกรรมจะทำกุศลส่ิงใด กรรมนั้น จะเบำลง พระอรหันต์เจ้ำทั้งหลำยจึงว่ำ ขอให้มหำบพิตรจัดแจงสร้ำงพระมหำเจดีย์ใหญ่สูงชั่วนกเขำ เหินเถดิ กรรมอันน้นั จงึ จะคอ่ ยเบำลง พระยำพำลรำชใหจ้ ัดแจงทำรำกจะก่อพระเจดีย์ ท่ีพระพุทธเจ้ำ

36 เสดจ็ มำบันทมในทน่ี ้นั สวมแท่นไว้ ท้ำวมหำพรหม จงึ เอำฆอ้ งตสี ำมโหม่งดงั กระหึ่มไปจนค่ำ มำหนุนไว้ ใต้แท่นพระบันทมด้วย พระยำพำลจึงก่อเจดีย์ขึ้นเป็นลอมฟำง สูงชั่วนกเขำเหินหำทักษิณมิได้ แล้วบญั จุพระทนั ตธำตุ คือพระเขีย้ วแกว้ ไว้ด้วยพระองคห์ นง่ึ สร้ำงเสร็จแล้วมีกำรฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน แล้วจึงถวำยเขตแดนโดยรอบช่ัวเสียงช้ำงร้อง แล้วถวำยข้ำพระโยมสงฆ์เป็นจำนวนสัมโนครัว 555 ครัว แลว้ พระยำพำลยกทัพข้ึนไปลำพูน ไปนมัสกำรพระบรมสำรีริกธำตุพระพุทธเจ้ำถึงสำมปี แล้วก็ ยกทพั กลบั ลงมำเมอื งใต้ จึงปรำยเงินปรำยทองต่ำงข้ำวตอกดอกไม้ถวำยพระธำตุมำทุกๆ ตำบล มำแต่ เมืองลำพูนลำปำง ลงมำทำงเดมิ บำงนำงบวช ลงมำจนถึงเมืองนครไชยศรีส้ินเกำ้ ปี พระยำพำลส้ินอำยุ แลว้ บ้ำนเมืองสืบกษัตรยิ ์ต่อ ๆ กันมำอีกหลำยช่ัวจนถึงพระเจ้ำหงสำได้เป็นใหญ่ในเมืองมอญ มีพระ รำชประสงคฆ์ อ้ งตสี ำมโหม่งดังกระหึม่ ไปจนคำ่ จงึ ยกรี้พลมำขุดฆ้องท่ีฝังไว้ใต้แท่นพระบันทม เมื่อขุด ลงไปถึงฆ้องๆ กท็ รดุ ลงไป พระเจดยี ก์ ท็ รุดพงั ลงไปดว้ ยหำไดฆ้ ้องไม่ เจำ้ เมอื งหงสำแลอำมำตย์ปรึกษำ กนั วำ่ เรำมำกระทำกรรมดงั นีไ้ ม่สมควร จะต้องทำใช้เสียใหม่จึงจะคุ้มโทษได้ จึงก่อเป็นองค์ปรำงค์ต่อ ต้ังขึน้ บนหลงั องค์ระฆงั เดิมท่ีพงั มีทักษณิ รอบกย็ งั หำสูงเทำ่ ของเกำ่ ไม่ จึงสร้ำงพระเจดีย์รอบวิหำรกับ ทงั้ อุโบสถเพิม่ เตมิ ลงอีกตำนำนพระปฐมเจดยี ์ กกกกกกกก1.2 ตำนำนฉบบั พระยำมหำอรรคนิกร และฉบับนำยทอง เป็นตำนำนทใ่ี หข้ อ้ มูลตรงกนั ดังนี้ กกกกกกกก สมัยกอ่ นพระนครไชยศรียังมไิ ด้ตั้งเมือง มตี ำบลบ้ำนพรำหมณอ์ ยู่ เรียกว่ำบ้ำนโทณะ พรำหมณ์ ซึ่งเอำโทณะ คอื ทะนำนทอง ทตี่ วงพระบรมธำตุพระพุทธเจ้ำ มำบรรจุไว้ในเรือนหิน สมัย เมื่อพระพทุ ธศกั รำชล่วงได้ 1,133 พรรษำ ครนั้ อย่มู ำยังมีพระยำองค์หนึ่ง ช่ือ ท้ำวศรีสิทธิไชย พรหม เทพ มำแต่เมอื งมโนหนั ต่อเมอื งยศโสธร ท้ำวเธอจึงมำสรำ้ งเมืองนครไชยศรีข้ึนเป็นเมืองใหญ่ และอยู่ มำเจำ้ เมืองลังกำจะใครไ่ ดห้ นว่ ยโทณะ อนั ตวงพระธำตุของสมเด็จพระพุทธเจ้ำนั้น มำไว้ในลังกำทวีป จึงไปหำพระยำกัลยำดิศเถรเจ้ำ และจะขออำรำธนำพระผเู้ ปน็ เจ้ำไปวำ่ พระเจำ้ เมืองนครไชยศรี ขอเอำ โทณะท่ตี วงพระบรมธำตมุ ำไว้ในเมอื งลงั กำ เพ่ือเมืองลังกำจะได้นมสั กำรดับน้ัน พระมหำกัลยำดิศเถร ก็รับอำรำธนำ แล้วก็มำแต่ลังกำทวปี ถงึ พอจวนค่ำ ได้ก็เข้ำอำศัยอยู่ในอำรำมแห่งหนึ่ง คร้ันรุ่งขึ้นเพลำ เช้ำ พระกัลยำดิศเถรเจ้ำก็ไปบิณฑบำต ทำภุตตำกิจเสร็จแล้วก็เข้ำไปหำพระเจ้ำศรีสิทธิไชย และได้ นิมนตใ์ หน้ งั่ ทส่ี ถำนบังควรแหง่ หน่งึ พระยำนมัสกำรได้ถำมวำ่ พระผเู้ ป็นเจ้ำมำวดั ใด พระกัลยำดิศเถร เจ้ำกไ็ ดเ้ ล่ำใหพ้ ระเจำ้ ศรสี ทิ ธิไชยฟังว่ำ พระผู้เปน็ เจ้ำจะใครไ่ ด้โทณะอันตวงพระบรมธำตุไปก็จะเป็นไร มี แต่ข้ำพเจ้ำไม่มีสิ่งใดเป็นที่ไหว้ที่บูชำเลย ขอพระผู้เป็นเจ้ำรับพระบรมสำรีริกธำตุมำให้ข้ำพเจ้ำไว้ สกั กำรบูชำสกั ทะนำนหนึง่ เถดิ แล้วข้ำพเจำ้ จึงจะให้ลกู โทณะแก่พระผู้เป็นเจำ้ พระกลั ยำดิศเถรก็รับว่ำ จะไปขอพระบรมสำรีริกธำตุมำให้พระกัลยำดิศเถรกับพระยำศรีสิทธิไชยก็รับปฏิญำณซึ่งกันและกัน แล้วพระผู้เปน็ เจ้ำกก็ ลบั ไปสูเ่ มอื งลงั กำ จึงเข้ำไปแจ้งควำมแก่พระเจ้ำแผ่นดินลังกำว่ำ พระยำศรีสิทธิ ไชยขอรบั พระบรมสำรรี กิ ธำตแุ หง่ สมเด็จพระพุทธสักทะนำนหน่ึงจึงจะให้หน่วยโทณะน้ันแล พระยำ ลังกำ ก็มีควำมยินดีจึงนำเอำพระบรมสำรีริกธำตุ ให้แก่พระกัลยำดิศเถรเจ้ำน้ันทะนำนหนึ่ง คร้ันว่ำ พระมหำเถรเจ้ำได้รับพระสำรีริกธำตุแล้ว ก็กลับมำถึงเมืองนครชัยศรี พระผู้เป็นเจ้ำก็เอำพระบรม สำรรี กิ ธำตใุ หแ้ ก่พระยำศรีสิทธิไชยได้รบั พระบรมสำรีริกธำตุทะนำนหนึ่ง จึงหำหมู่พรำหมณ์ทั้งหลำย มำจะขอเอำทะนำนท่ีตวงพระบรมธำตุใหแ้ ก่พระกัลยำดศิ เถรเจ้ำ และหมู่พรำหมณ์ทั้งหลำยจึงขัดแข้ง ไว้มิให้หน่วยโทณะแก่พระยำ จึงว่ำหมู่พรำหมณ์ซ่ึงเป็นปู่ย่ำตำยำยมำแต่ก่อนส่ังไว้ว่ำ ท้ำวพระยำ

37 สำมลรำชและเทวดำอินทร์พรหม ท่ำนมำชิงเอำพระบรมสำรีริกธำตุไปส้ินแล้ว ยังเหลืออยู่แต่โทณะ เปล่ำได้มำไวเ้ ป็นท่ีไหวบ้ ชู ำแต่เท่ำน้ี และบดั นข้ี ำ้ พเจำ้ จะเอำหนว่ ยโทณะให้แก่พระองค์มิได้เลย ดับน้ัน พระยำศรสี ิทธไิ ชย ได้ฟงั หมู่พรำหมณ์วำ่ กข็ ดั เคืองจึงยกรพ้ี ลออกไปตัง้ เป็นเมอื งอยตู่ ่ำงหำก ให้ชื่อเมือง ว่ำ ปำวัน แล้วท่ำนจึงให้สร้ำงพระปฐมไสยำสน์องค์หน่ึงใหญ่ยำวมหึมำ จะเป็นพระปฐมเจดีย์หรือๆ จะเป็นพระพทุ ธรูปไสยำสนก์ ไ็ มไ่ ด้ควำมชัด พระยำศรีสิทธิไชยเธอจึงเอำพระบรมสำรีริกธำตุมำบรรจุ ไว้ในนนั้ แล้ว พระยำนั้นจึงหกั หำญเอำหนว่ ยโทณะนั้น สง่ ใหแ้ ก่พระกลั ยำดิศเถรเจ้ำเธอก็รับเอำหน่วย โทณะนนั้ ไปเมืองลงั กำ พระเจ้ำแผน่ ดินลังกำก็บรรจไุ วใ้ นสุวรรณเจดีย์ และพระปฐมเจดีย์นั้นอยู่เหนือ พระประโทณเจดยี อ์ ันอยใู่ นเรือนศิลำนั้น เดิมเมื่อแรกสร้ำงพระปฐมเจดีย์นั้น พระพุทธศักรำชล่วงได้ พระวัสสำหน่ึงจะเป็นผู้ใดสร้ำงหำแจ้งไม่ครั้นอยู่มำถึงพระพุทธศักรำช 1199 มีกษัตริย์องค์หนึ่งเป็น ใหญ่อย่ใู นเมอื งละโว้ ชอ่ื กำกะวรรณ ดิศรำช นน้ั ได้กอ่ พระเจดียล์ ้อมเรือนศิลำที่บรรจุพระทะนำนทอง คือ โทณะอันตวงพระบรมธำตุ น้นั แล้วจงึ ให้นำมว่ำ พระประโทณเจดีย์ พระประโทณเจดีย์สร้ำงเม่ือพระ พุทธศักรำช 1,199 ไดค้ วำมแต่เท่ำนี้ดับนั้น กษัตริย์ผู้หน่ึง ชื่อ ภำลีธิรำช เป็นเชื้อวงศ์พระยำอินทรำไทธิ รำช เปน็ ใหญใ่ นเมืองสโุ ขทยั ยกรี้พลมำรบเอำเมอื งนครชัยศรีได้แล้ว และได้ภิเษกบุตรชำยทั้งสองคน คนหนงึ่ ชอ่ื กำลีบดใี จ ใหไ้ ปครองเมืองนครหลวงต่อแดนเมืองยศโสธร คนหนึ่งชื่อ ใสทองสม ให้ครอง เมืองนครชัยศรี บำงแห่งว่ำเมอื งรำชบรุ ี พระยำพ่ีน้องท้ังสองคนนี้บริบูรณ์ไปด้วยรำชสมบัติ พระยำพี่ นอ้ งนัน้ มีเหตุดว้ ยฆ่ำพระยำภำลีธิรำชผู้บิดำเสีย แล้วแปลกพระมำรดำของตัวไปกระทำควำมไม่ดีกับ มำรดำ พระยำทง้ั สองพนี่ อ้ งจึงสงั เวชพระทัยนกั จงึ คดิ กันมำซ่อมแปลงวดั พระสังฆรตั นธำตุพระอำรำม บ้ำนธรรมศำลำ ท่ีพระยำศรสี ิทธิไชยสร้ำงไว้แตก่ ่อน แล้วใช้ให้รำชบุรุษผู้หน่ึง ออกไปรับพระบรมธำตุ พระพุทธเจ้ำมำได้ 100 พระองค์ แล้วหลอ่ พระเจดีย์ด้วยเบญจโลหะสูง 1 วำ และพระยำภำลีบดีใจให้ เอำแก้วอันมีรำคำมำก ช่ือแก้วสำรพะมีบรรจุไว้ด้วยพระบรมธำตุท่ีในกลำงพระเจดีย์สูง 1 ต้ัง อยู่ เบ้ืองหลงั พระปฐมเจดีย์ และพระยำพ่ีนอ้ งสร้ำงพระจงกรมองค์หนึ่ง พระสมำธิ 4 องค์ ไว้ 4 ทิศ แล้ว จึงไว้ฆ้องใหญ่ลูกหน่ึง ปำกกว้ำง 3 ศอก ไว้ระหว่ำงประตูทั้ง 4 ด้ำน คร้ันสร้ำงฉลองแก้ว ในหนังสือ ฉบับหนึง่ ว่ำ เมื่อพระพุทธศักรำช 1,234 พรรษำ ไมถ่ ูกกัน แลว้ พระยำภำลีบดีใจ พระยำใสทองสมยก ทพั ข้ึนไปเมืองลำพนู ไปนมสั กำรพระบรมธำตุพระพุทธเจ้ำถึงสำมปี แล้วยกทัพกลับลงมำเมืองใต้ จึง ปรำยเงนิ ปรำยทองตำ่ งข้ำวตอกดอกไม้ถวำยพระบรมธำตุมำทกุ ๆ ตำบล แต่เมืองลำพูน ลำปำง ลงมำ ทำงเดิมบำงนำงบวช จนถึงเมืองนครชัยศรี ส้ินเก้ำปีสิ้นอำยุ บ้ำนเมืองก็สืบกษัตริย์ต่อๆ กัน มำอีก หลำยช่ัวแล กกกกกกกกจะกล่ำวถึง มหำไหล่ลำย เป็นบุตรนำยเชนกษัตริย์ เป็นเชื้อวงศ์พระยำศรีสิทธิไชย เม่ือ มหำไหลล่ ำยยงั ไมไ่ ดบ้ วช เปน็ มหำดเลก็ พระเจ้ำแผ่นดนิ ละโว้ แล้วกระทำชู้ด้วยนำงพระสนมของพระยำ และพระยำจบั ได้จึงสกั ไหล่เสียขำ้ งหนงึ่ แล้วส่งไปเป็นตะพุ่นหญ้ำม้ำ จึงได้นำมปรำกฏว่ำมหำไหล่ลำย ครั้นอยู่มำมหำไหล่ลำยกบั นำยเชนกษัตริย์ ผู้บิดำหนีไปถึงเมืองหลวงต่อแดนเมืองเชียงใหม่ มหำไหล่ ลำยไปหำท่ำนเจ้ำอธิกำรจะขอบวชเป็นภิกษุ พระสงฆ์ไม่บวชให้ มหำไหล่ลำยขอบวชเป็นสำมเณร คร้ันอยู่มำรู้ข่ำวว่ำจะมีสำเภำไปถึงเมืองลังกำ เจ้ำเณรไหล่ลำยก็โดยสำรสำเภำไป คร้ันสำเภำไปถึง ปำกนำ้ ลงั กำเข้ำ เจำ้ เณรไหลล่ ำยก็เอำบำตรกบั ไมเ้ ทำ้ ลงในกะโล่ ก็ลอยเข้ำไปถึงเมืองลังกำในวันเดียว นั้น เจ้ำเณรไหล่ลำยก็ไปอำศัยพระภิกษุผู้เฒ่ำอยู่ พระภิกษุผู้เฒ่ำพำไปหำพระสังฆรำชำฯ จึงถำมว่ำ เจ้ำเณรมำในลงั กำนี้ เพอ่ื ประโยชน์สง่ิ ใด เจ้ำเณรแจ้งวำ่ จะขอบวชเปน็ ภิกษุ พระสงฆ์ท้ังปวงว่ำเจ้ำเณร

38 น้ีเป็นนักโทษ ท่ำนจึงสักไหล่เสียข้ำงหน่ึง จึงหนีออกมำจำกเมืองชมพู จะบวชให้นั้นมิได้ ดังนั้น เจ้ำเณรไหล่ลำยจงึ ว่ำ พระผู้เปน็ เจำ้ จงนำขำ้ พเจ้ำไปนมสั กำรไปมหิยังคณเจดีย์ด้วยเถิด พระสังฆรำชำ และสงฆ์ทง้ั ปวงจงึ นำสำมเณรมำถึงต้นพระมหำโพธิ กระทำทักษิณสำมรอบ แล้วก่ิงพระมหำโพธิข้ำง ทักษิณทิศ ก็น้อมลงมำให้เจ้ำเณรไหล่ลำยจับใส่เศียรเกล้ำ แล้วพระสำรีริกธำตุก็เสด็จออกมำ ปำฏิหำริย์ต้ังอยู่เหนือศีรษะเจ้ำเณร มีพระรัศมีต่ำง ๆ พระสงฆ์ทั้งปวงเห็นประจักษ์แก่ตำแล้ว ก็ให้ อปุ สมบทเจำ้ เณรไหล่ลำยเปน็ ภิกษุ พระมหำไหล่ลำยจึงเที่ยวไปนมัสกำรพระพุทธบำทกับเจดีย์อื่น ๆ ทว่ั แลว้ จะกลบั มำเมืองชมพู พระสงั ฆรำชำก็ใหพ้ ระบรมธำตุ 650 พระองค์ ให้ไปบรรจุไว้ในเมืองทวีป โพ้นเถดิ สมณะชีพรำหมณำจำรย์ท้ำวพระยำประชำรำษฎรทั้งปวง จะได้นมัสกำรบูชำสืบไป เม่ือหน้ำ กว่ำพระศำสนำจะได้ 5,000 พรรษำแล มหำไหลล่ ำยรบั พระบรมสำรีริกธำตุพระเจ้ำได้ 650 พระองค์ กับพระศรมี หำโพธแิ ล้ว ก็อำลำพระสังฆรำชำ และสงฆท์ ง้ั ปวง กลับมำยังชมพูทวีป มำถึงเมืองนครชัยศรี วดั พระเชตุพนแลว้ มหำไหล่ลำยจึงเอำพระธำตุมำบรรจุไว้ในพระมหำเจดีย์น้ันบ้ำง ในพระสมำธิบ้ำง ในพระเสดำท้ัง 4 บำ้ ง เปน็ พระธำตุ 16 พระองค์ แล้วเอำมำบรรจุไวใ้ นพระไสยำสน์นอกพระประธำน ใหญ่นั้น 36 พระองค์ บรรจุไว้ในพระมหำโพธิเทพำรักษ์น้ัน 36 พระองค์ บรรจุไว้ในพระป่ำเลไลยก์ 36 พระองค์ เอำขึ้นไปบรรจุไวใ้ นครองเมอื งชัยนำท 36 พระองค์ และผลมหำโพธิ มหำไหล่ลำยเอำมำ แต่ลังกำ ปลูกไว้ริมหนองทะเลนอกวัดเขมำปำกน้ำ จึงได้ปรำกฏช่ือมหำโพธิมำแต่เมืองลังกำน้ันแล มหำไหลล่ ำยบรรจุไว้วัดหน้ำพระธำตุเมืองโยธยำ 16 พระองค์ ในพระพุทธบำท 36 พระองค์ ในเขำ นครสวรรค์ 36 พระองค์ บรรจุไว้ที่มหำโพธิ ซงึ่ มหำไหลล่ ำยเอำมำปลูกไวใ้ นอ่ำงทอง 36 พระองค์ อยู่ ในเมืองนครสวรรค์ เอำไปบรรจุไว้ในป่ำดำผีคุด 36 พระองค์ มหำเถรไหล่ลำยขึ้นไปถึงเมืองสุโขทัย เอำบรรจไุ ว้ในพระธำตุหินตั้ง 36 พระองค์ เอำบรรจุไว้ในต่อม 36 พระองค์ เอำข้ึนไปบรรจุไว้ เมือง หลวงสวงแก้ว 36 พระองค์ เอำมำบรรจุไว้ในวัดเสนำสน์ 36 พระองค์ ในบูรพำรำม 30 พระองค์ บรรจุไว้ในวัดมหำสถำน 30 พระองค์ และสำมอำรำมน้ีอยู่แดนเมืองพิษณุโลกน้ัน มหำเถรไหล่ลำย เท่ียวไปบรรจุพระบรมธำตุส้ินแล้วกลับมำอยู่เมืองละโว้เล่ำ เม่ือมหำไหล่ลำยบรรจุพระบรมธำตุน้ัน พระพุทธศักรำชได้ 1,432 พรรษำ และยังมีตำนำนนิทำนพระอรหันต์ ทำนำยไว้แต่ก่อนว่ำ เมื่อ พระพุทธศำสนำได้ 1,000 ปีก็ดี 2,000 ในเม่ือหน้ำจะปรำกฏสุขเกษม แต่ทว่ำอำวำสท้ังสองน้ิวคือ พระประโทณแหง่ หนึ่ง คือ พระปทมแหง่ หน่ึง คือ พระธำตกุ ุกกสุ นธ์ แหง่ หน่ึง คือว่ำ พระปทมศรีแห่ง หนึ่งจะมีอำยุ 5,000 ปี ส่วนว่ำพระปฐมเจดีย์นั้นมีอำยุไปถึง 120 ปีบ้ำง 486 ปีบ้ำง จะมีผู้มำซ่อม แปลง คร้นั พระศำสนำพระพทุ ธเจ้ำได้ 2,300 ปกี ็ดี 2,400 ปีก็ดี 2,500 ปีก็ดี 2,900 ปีก็ดี 3,700 ปีก็ดี ขึน้ ไปจนถงึ 3,900 ปกี ด็ ี อันมีเศษทกุ ๆ ปีขึน้ ไป แล้วจะมีบรมกษัตริย์และพระยำสำมลรำชและเทพยดำ ทั้งหลำย และสมณชพี รำหมณก์ จ็ ะชวนกันกอ่ สรำ้ งขึน้ ใหร้ ่งุ เรืองทุก ๆ แห่งว่ำอำรำมที่เหลือข้ึนไปกว่ำ น้ัน เมื่อหน้ำก็จะถอยเป็นป่ำใหญ่ เสียแลพระอรหันต์เจ้ำทำนำยไว้อีกว่ำ เมื่อพระพุทธศักรำชได้ 2,200 ปเี ศษ 12 ปีข้นึ ไปจนถึง 3,200 ปีเศษ วำ่ ในพระประโทษเจดยี น์ น้ั ยงั มพี ระมหำเถรเจำ้ องค์หนึ่ง ถือเอำเศวตฉตั รเปน็ เพดำนกนั้ อย่มู ไิ ดข้ ำดแตแ่ รกเกิดมำ ว่ำมหำเถรเจำ้ องค์น้ดี ุจทำนำยพระเจ้ำว่ำ เมื่อ ขณะนัน้ ยงั มนี ำงรำชธิดำองค์หนงึ่ นน้ั เปน็ สำวพรหมจำรีหำผัวมิได้ พุทธทำนำยวำ่ นำงองค์นี้จะออกมำ จำกประตพู ระปฐมไสยำสน์ อันว่ำพระเจำ้ เสดจ็ ออกมำกระทำยมกปำฏิหำริย์ กับเบญจโลหะอันบรรจุ พระบรมธำตุไว้ 100 พระองค์น้ัน เสด็จออกมำกระทำให้ปรำกฏแก่ตำสมณชีพรำหมณ์ท้ังหลำยและ เทพยดำท้ำวพระยำ ก็แลเห็นประจักษ์แก่ตำด้วยพระรัศมีออกมำต่ำงๆ เป็นหลำยประกำร และคร้ัน

39 นำงรำชธิดำออกมำจำกประตูน้นั นำงกล็ ั่นฆ้องใหญ่ท้ัง 4 ประตู อันท่ำนไว้ สำหรับโบรำณนั้นแล คน ทง้ั หลำยครั้นได้ยนิ ฆ้องใหญ่ จึงรู้สำคัญว่ำ มที ่ีนนั้ แลเครอ่ื งบริโภคของทำ้ วพระยำท้ังหลำยอันมำบรรจุ ถวำยพระธำตมุ ำแต่กอ่ นนั้น ย่อมมีสำคัญอยูท่ ุก ๆ แหง่ อนั วำ่ พระประโทณเจดีย์ ปฐมเจดีย์น้ัน เป็นที่ โอฬำรึกนกั หนำ ฝำ่ ยวำ่ ทำ้ วพระยำทำพระปฐมเจ้ำน้ัน ก็ได้เป็นประธำนอันใหญ่เพรำะชำวโยนก คือ ลำวพุงดำอุปถัมภนำกำรมำ ถ้ำบุคคลผู้ใด ๆ มำไหว้บูชำได้มำกวำดวัด ได้มำกวำดแผ้วให้บริบูรณ์ เหมือนหนงึ่ ได้รกั ษำพระธำตุในลังกำโพ้นและบุคคลผูใ้ ด ๆ ได้มำรักษำพระประโทณเจดีย์ พระปฐมเจดีย์ พระธำตพุ ระเจำ้ น้นั แล เสมอื นหนง่ึ ไดร้ กั ษำพระกุกกุสนโธเจำ้ แล พระโกนำคมและพระพุทธกัสสปเจ้ำ แล สมณชีพรำหมณ์เจ้ำก็ดี และภิกษุสำมเณรก็ดี และท้ำวพระยำมหำสำมลรำชก็ดี กุฎมพีเข็ญใจ ชนบทบ้ำนนอกเมอื งป่ำกด็ ี และไดม้ ำปรนนบิ ัติก่อสรำ้ งพระพทุ ธท้งั สำมแห่งนี้ เสมอื นหนึง่ มำปรนนบิ ตั ิ พระโกนำคมเจ้ำ เมื่อยังมีพระชนมำยุอยู่ ไม่เสียทีที่เกิดมำนั้นแล อันนี้ก็เป็นจำรีตแต่พระอริยบุตร สัปบุรษุ แตโ่ บรำณน้ันแล อันว่ำพระอรหันต์เจ้ำท้ัง 4 พระองค์ กับพระยำศรีธรรมโศกรำชย่อมได้เอำ พระธำตุพระเจำ้ อย่ำงใหญ่นอ้ ยก็ดี เดมิ แต่ 1,000 ปี หน่งึ มำโพ้นทีเดียวแล อันว่ำบุคคลผู้ใดและเทพยดำ ท้ังหลำยได้มำนมสั กำรพระปฐมเจดีย์ พระประโทณเจดีย์ คือ พระกุกกุสนธ์ศรีสักยมุนีโคดม คือ พระ ปฐมเจดยี ์ทั้งสำมฝ่ำยน้ัน ผิดกันท้ัง 4 พระองค์น้ัน แลบุรุษชำยก็ดีหญิงก็ดี ท้ำวพระยำสำมลรำช ก็ดี ภิกษุสำมเณรก็ดี ตำปะขำวยำยชีก็ดี ผู้มีบุญหำบุญมิได้ก็ดี ได้มำชวนกันก่อสร้ำงมิให้ร่วงโรย ได้ ปรนนิบตั พิ ระธำตุพระเจ้ำอนั พระอรหันต์เจำ้ และเทพยดำเจำ้ ท้ังหลำยเอำไปไว้ทุกหัวเมือง เมืองเหนือ เมืองใต้ก็ดี บุรุษชำยหญิงผู้นั้นจะล้ำเลิศประเสริฐกว่ำคนทั้งปวง อันว่ำพระสำรีริกธำตุพระเจ้ำ พระ อรหนั ตเ์ จำ้ และเทพยดำท้ำวพระยำรับเอำไปไว้ 12 หัวเมืองกด็ ี จะรุ่งเรืองอยู่นั้น แต่ศำสนำได้ 800 ปี ปลำยบำ้ ง 1,000 ปีบำ้ ง 1,200 ปีบำ้ ง กวำ่ น้ันลงไปจะถอยเป็นป่ำใหญ่เสยี ส้นิ ทุกแห่ง กกกกกกกก1.3 ตำนำนฉบับตำปะขำวรอต กกกกกกกกกกก ได้กล่ำวว่ำยังมีพระยำองค์หน่งึ ชื่อท้ำวสิกำรำช ได้ครองรำชสมบัติในเมืองศรีวิชัย คือ เมืองนครชัยศรี มีบุตรชำยองค์หน่ึง พระยำกง คร้ันพระยำสิกรำชสวรรคตแล้ว พระยำกงได้ ครองรำชสมบัติแทนบิดำในเมืองศรีวิชัยน้ัน ในหนังสือบำง แห่งว่ำ พระยำกงครองเมืองกำญจนบุรี ตำปะขำวรอตว่ำ พระยำกง ครองเมืองศรีวิชัย พระยำกง มีพระมเหสีประสูติ พระรำชกุมำรออกมำ โหรำพฤฒำจำรย์ดูลักษณะทำนำยว่ำ พระรำชกุมำรองค์จะมีบุญญำธิกำรมำก แต่กระทำปิตุฆำตุ พระยำกงจึงรับสั่งให้เอำพระกุมำรไปท้ิงเสีย รำชบุรุษก็เอำรำชกุมำรไปท้ิงไว้ในป่ำริมบ้ำนยำยพรหม ยำยพรหมก็ได้กุมำรนนั้ ไปเล้ียงไว้ หำรไู้ มว่ ่ำเป็นบุตรของผู้ใดไม่ ยำยพรหมมีบุตรหลำนมำก ยำยหอม เมียตำโฉม น้องยำยพรหม หำมีบุตรไม่ ยำยพรหมจึงเอำกุมำรนั้นไปให้ยำยหอม ยำยหอม จึงเล้ียง กุมำรน้ันไว้ ในหนังสือบำงแห่งว่ำ พระมเหสีส่งกุมำรไปให้ยำยหอมเลี้ยงไว้ ยำยหอมเอำกุมำรไปให้ พระยำรำชบุรีเล้ียงเป็นบตุ รบญุ ธรรม ตำปะขำวรอดว่ำยำยหอมเลี้ยงไว้จนโต กุมำรจึงลำยำยหอมขึ้น ไปเมืองเหนือถึงสโุ ขทัย พอช้ำงพระเจ้ำแผ่นดินสุโขทยั อำละวำด สลัดหมอ ควำญไล่ แทงผู้คนนัก หำ มผี ูใ้ ดจับชำ้ งน้ันไดไ้ ม่ กุมำรก็เข้ำไปดูช้ำงอำละวำดไล่แทงกุมำร กุมำรน้ันจึงจับงำช้ำง กดลงไว้กับดิน คนท้ังปวงจงึ จับชำ้ งน้ันได้ แล้วเอำควำมเข้ำไปกรำบทลู กับพระเจ้ำสุโขทัย พระองค์ให้หำกุมำรนั้นเข้ำ มำถำมว่ำ ท่ำนเป็นบุตรของผู้ใด กุมำรน้ันจึงกรำบทูลว่ำหำทรำบว่ำ ผู้ใดเป็นบิดำมำรดไม่ พระเจ้ำ แผ่นดินสุโขทัย จึงเล้ียงดูกุมำรน้ันไว้เป็นบุตรบุญธรรม พระเจ้ำแผ่นดินสุโขทัยดูจดหมำยเหตุ รู้ว่ำ กุมำรองค์นี้มีบุญญำธิกำรมำกจะได้ครองรำชสมบัติในเมืองใต้ พระเจ้ำแผ่นดินสุโขทัย จึงจัดแจงให้

40 กุมำรน้ันต้ังอยู่บ้ำนเจ็ดเสมียน ซ่อมสุมผู้คนได้เป็นอันมำกจึงยกมำตั้งอยู่ บ้ำนเล่ำได้รี้พลอีก รวมกัน ประมำณสหี่ มน่ื แลว้ ยกมำบ้ำนยำยหอม แล้วไปตั้งเมืองอยู่ที่ป่ำแดง จึงมีหนังสือเข้ำไป ถึงพระยำกง ให้พระยำกงออกมำชนช้ำงกัน ควำมในหนังสือบำงแห่งว่ำ พระกุมำรไปเป็นบุตรบุญธรรมอยู่กับ พระยำรำชบรุ ี ๆ ครน้ั ถึงเทศกำลเอำดอกไม้เงนิ ดอกไม้ทองไปถวำยพระยำกงทกุ ปีมิได้ขำด พระกุมำร บุตรบญุ ธรรมจึงถำมว่ำทำไมจึงเอำดอกไม้ทองเงินไปให้พระยำกำญจนบุรี ด้วยเหตุใดพระยำรำชบุรี บิดำเลี้ยงว่ำเรำเป็นเมืองขึ้นแก่เขำ บุตรบุญธรรมจึงตอบว่ำไม่เอำไปให้เขำนั้นจะเป็นประกำรใด พระยำรำชบรุ วี ำ่ ไมไ่ ด้ เขำจะวำ่ เรำคิดขบถ จะยกทัพลงมำจับเรำฆ่ำเสีย บุตรบุญธรรมจึงว่ำกลัวอะไร พระยำรำชบุรีก็น่ิงอยู่ ครั้นถึงปีกำหนดจะถวำยดอกไม้ทองเงินแล้ว พระยำรำชบุรีก็งดไม่ส่งดอกไม้ ทองเงินไปถวำย พระยำกงเจ้ำเมืองกำญจนบุรีเห็นว่ำพระยำรำชบุรีเป็นขบถ ก็เกณฑ์ทับลงมำจะจับ พระยำรำชบรุ เี สีย ครนั้ พระยำรำชบุรรี ดู้ ังนัน้ จึงเกณฑ์คนประจำหนำ้ ท่ีให้บตุ รบญุ ธรรมเป็นแม่ทัพ ยก ออกรับทัพพระยำกำญจนบุรี คร้ันพระยำกงเจ้ำเมืองกำญจนบุรียกกองทัพมำใกล้ประมำณ 10 เส้น ให้ตั้งค่ำยมั่นลงไว้ แล้วมีหนังสือให้คนถือเข้ำไปถึงพระยำรำชบุรีเป็นใจควำมว่ำให้พระยำรำชบุรี ออกมำหำเรำ แม้มิออกมำหำเรำ ๆ จะปล้นเมือง พระยำรำชบุรีทรำบดังน้ันแล้ว จึงปรึกษำบุตรบุญ ธรรมวำ่ จะคดิ ประกำรใดดี กุมำรน้ันว่ำจะขออำสำสู้ชนช้ำงกับข้ำศึกพระยำรำชบุรี ก็จัดช้ำงพลำยสูง หกศอกผู้เป็นนำยทัพ ครั้นได้ฤกษ์ก็ออกไป พระยำกงก็ประชุมร้ีพลออกมำรบกันที่แขวงเมืองนครชัยศรี กุมำรนัน้ กย็ กออกไปปะทะกันทีก่ ลำงมรรคำ พระยำกงกบั กมุ ำรก็ชนชำ้ งกนั ทน่ี ้นั พระยำกงเสยี ทีกุมำร กฟ็ นั ดว้ ยของำ้ วถกู พระยำกงคอขำดกับคอช้ำงพระทีน่ ัง่ ทอี่ นั นนั้ จงึ เรยี กวำ่ “ถนนขำด” มำจนทุกวันน้ี กมุ ำรจงึ ยกรีพ้ ลเขำ้ ไปตงั้ อย่เู มืองพระยำกงคิดจะเอำมเหสีพระยำกงซ่ึงเป็นพระมำรดำน้ันเดินข้ำมสัตว์ แม่ลูกไปลูกสัตว์จึงว่ำกับแม่ว่ำท่ำนเห็นเรำเป็นสัตว์เดรัจฉำน แต่มำรดำของท่ำนยังจะเอำเป็นเมีย กุมำรได้ฟงั ดังนน้ั กอ็ ศั จรรย์ใจมีควำมสงสัยข้นึ คร้ันเข้ำไปถงึ พระมเหสกี ุมำรจึงตั้งสัจธิษฐำนว่ำ ถ้ำหำก นำงคนนี้เป็นมำรดำขำ้ พเจำ้ จรงิ อยำ่ งสตั ว์แม่วำ่ แลว้ ขอให้น้ำนมไหลออกมำจำกถันยุคลทง้ั คู่เถิดถ้ำหำก มิใช่มำรดำข้ำพเจ้ำแล้วอย่ำให้มีน้ำนมไหลออกมำจำกถันยุคลทั้งคู่เถิด พอตั้งอธิษฐำนดังน้ันแล้ว ก็ เห็นน้ำนมไหลออกมำจำกถันยุคลทั้งคู่ กุมำรเห็นก็ไต่ถำมรู้ว่ำ เป็นมำรดำของตนแน่แล้วก็เข้ำดื่มกิน นำ้ นมแล้วแจง้ ควำมว่ำ พระยำกงเปน็ พระรำชบดิ ำ จึงโกรธยำยหอมว่ำ หำบอกว่ำเรำเป็นบุตรพระยำ กงไม่ ทำใหก้ ระทำปิตุกรรม แลว้ กมุ ำรก็ยกไปบำ้ นยำยหอมจับยำยหอมฆ่ำเสียยำยหอมเม่ือจะตำยนั้น กร็ ำเย้ยให้ ครั้นตำยแลว้ แรง้ ลงกินศพยำยหอม คนจึงเรียกที่อันน้ันว่ำ “อีรำท่ำแร้ง” บ้ำนยำยหอมก็ เรียกวำ่ โคกยำยหอมมำจนทุกวนั น้ี คนท้ังปวงจงึ เรียกวำ่ “พระยำพำล” ด้วยเหตุฆ่ำบิดำกับยำยหอม ผมู้ คี ุณเสีย หนังสอื บำงแห่งวำ่ เมอ่ื ประสูตินั้นเจำ้ พนกั งำน เอำพำนทองรับ พระพักตร์กระทบพำนเป็น แผลอยู่ จึงเรียกวำ่ “พระยำพำน” คร้นั พระยำพำนไปครองรำชสมบัติในเมอื งศรีวิชยั แลว้ จงึ ปรวิ ิตกว่ำ ฆำ่ บิดำกับยำยหอมผู้มีคณุ เสียโทษหนักอยู่ กกกกกกกพ. ศ. 569 พระยำพำนจึงประชุมพระอรหนั ต์ และพระสงฆท์ ้งั ปวงวำ่ ตนเองกระทำปิตฆุ ำตกรรม จะทำกุศลสง่ิ ใดกรรมจงึ จะเบำลง พระอรหันต์เจ้ำท้ังหลำยจึงว่ำขอให้มหำบพิตรจัดแจงสร้ำงพระมหำเจดีย์ ใหญ่สูงชว่ั นกเขำเหนิ เถิด กรรมอนั นั้นก็จะค่อยเบำบำงลง หนังสือบำงแห่งว่ำพระอรหันต์ที่มำประชุม นน้ั ท่ำนชือ่ พระศริ ิมำนนท์ ชือ่ พระองคุลมิ ำล และท่ีประชุมพระอรหันต์นั้น จึงเรียกว่ำ \"ธรรมศำลำ\" มำจนทุกวันนี้ พระยำพำนให้จัดแจงทำรำกจะก่อพระเจดีย์ ที่พระพุทธเจ้ำเสด็จมำบรรทมในที่สวม แท่นไว้ ท้ำวมหำพรหมจึงเอำ ฆ้องตีสำมโหม่งดังกระหึ่มไปจนค่ำ มำหนุนไว้ใต้แท่นพระบรรทมด้วย

41 พระยำพำนจึงก่อพระเจดีย์ข้ึนเป็นลอมฟำง สูงช่ัวนกเขำเหินหำทักษิณมิได้ แล้วบรรจุพระทันตธำตุ คือ พระเขยี้ วแก้วไว้ดว้ ยพระองค์หนง่ึ สร้ำงเสรจ็ แลว้ มีกำร ฉลองเจ็ดวันเจ็ด คืน แล้วจึงถวำยเขตแดน โดยรอบชัว่ เสียงชำ้ งร้องแล้วถวำยขำ้ พระโยมสงฆ์ เป็นจำนวนสำมะโนครวั 555 ครัว แลว้ พระยำพำน ยกทัพขึ้นไปเมืองลำพูน ไปนมัสกำรพระบรมสำรีริกธำตุพระพุทธเจ้ำถึงสำมปีแล้วก็ยก ทัพกลับมำ เมืองใต้ จงึ ปรำยเงินปรำยทองต่ำงข้ำวตอกดอกไม้ ถวำยพระธำตุมำทุก ๆ ตำบล มำจำกเมืองลำพูน ลำปำง ลงมำทำงเดมิ บำงนำงบวช ลงมำจนถึงเมืองนครชยั ศรีส้นิ เกำ้ ปี พระยำพำลสน้ิ อำยุแล้วโหม่งดัง กระห่ึมไปจนคำ่ จึงยกรี้พลมำขุดฆอ้ งที่ฝงั ไว้ใตแ้ ทน่ พระบรมทม ขดุ ลงไปถึงฆอ้ ง ๆ นั้นก็ทรุดลงไปพระ เจดยี ์ก็ทรุดพังลงไปด้วยหำได้ ฆ้องไม่ เจ้ำเมอื งหงสำและอำมำตย์ปรกึ ษำกนั ว่ำ เรำมำกระทำกรรมดังนี้ ไมส่ มควร จะต้องทำใช้เสียใหมจ่ ึงจะคุ้มโทษ ได้จึงก่อเป็นองค์ปรำงค์ก่อต้ังข้ึนหลังองค์ระฆังเดิมท่ีพัง มีทักษิณรอบยังหำ สูงเท่ำเก่ำไม่จึงสร้ำงพระเจดีย์รอบวิหำรกับท้ังอุโบสถเพ่ิมเติมลงไปอีก พระเจ้ำ หงสำองค์นี้ สืบถำมพวกมอญว่ำพระเจ้ำหงสำลิ้นดำท่ีได้ยกมำตีกรุงศรีอยุธยำ ได้เที่ยวปฏิสังขรณ์ พระเจดยี ไ์ วท้ ุกหวั เมือง กำรอนั นี้พเิ ครำะหด์ เู หน็ จะไม่จรงิ ถำ้ พระเจ้ำหงสำลิน้ ดำมำทำขึ้นไว้ก็คงจะทำ ให้เห็นเป็นฝีมือมอญด้วยจะไว้เกียรติยศให้ปรำกฏในแผ่นดินน่ี ทำเป็นองค์ปรำงค์อย่ำงเขมร เป็นที่ สงสัยอย่แู ละที่บรรทมแตก่ อ่ นเจ้ำอธกิ ำรชือ่ พระอทุ ำยีเถร เป็นสมเด็จเจ้ำ มีเจ้ำกรมปลัดกรม ข้ำพระ รักษำพระบรรทม ขุนภมู เิ ทพอโุ บสถ หม่นื เทพอโุ บสถ ขุนนคร ขุนชัย ขุนธรรมรักษำ หม่ืนธรรมรักษำ หมน่ื รัศมี ขุนศรัทธำกำศ และเรื่องรำว พระบรรทมสร้ำงต่อ ๆ กันมำนั้น เป็นอักษรเฉียงอยู่สองเล่ม สมุดจีนชำวบ้ำนหำมีผู้ใดอ่ำนออกไม่ พระสงฆ์นำหนังสือเข้ำไปแปล ณ กรุงศรีอยุธยำ เสียกรุงได้ ประมำณ 70 ปีเศษแล้ว แต่พระประโทณเจดยี ์นนั้ มีจดหมำยในหนังสือไตรภมู ิว่ำสรำ้ งเมอื่ พ.ศ. 1199 กกกกกกก1.4 ตำนำนนิทำนพระอรหนั ต์ กกกกกกกกกก ตำนำนนิทำนพระอรหันต์ ทำนำยไว้แต่ก่อนว่ำเม่ือพระพุทธศำสนำได้ 1,000 ปี ก็ดี 2,000 ปี ในเม่ือหน้ำจะปรำกฏสุขเกษม แต่ทว่ำอำวำสท้ังสองนี้คือ พระประโทณแห่งหน่ึง คือ พระปทมแหง่ หนง่ึ คอื พระธำตุ กุกสุ นธแ์ ห่งหนึ่ง คอื วำ่ พระปทมศรแี ห่งหนงึ่ จะมอี ำยุ 5,000 ปี ส่วน ว่ำพระปฐมเจดีย์น้ัน มีอำยุไปถึง 120 ปีบ้ำง 486 ปีบ้ำงจะมีผู้มำซ่อมแปลง ครั้นพระศำสนำ พระพทุ ธเจ้ำได้ 2,300 ปกี ็ดี 2,400 ปีก็ดี 2,500 ปกี ด็ ี 2,900ปีก็ดี 3,700 ปีก็ดี ข้ึนไปจนถึง 3,900 ปี ก็ดี อันมีเศษทุก ๆ ปีขึ้นไป แล้วจะมีบรมกษัตริย์และพระยำ สำมลรำช และเทพยดำทั้งหลำย และ สมณชีพรำหมณก์ ็จะชวนกนั ก่อสร้ำงขน้ึ ใหร้ ุง่ เรอื ง ทกุ ๆ แห่งวำ่ อำรำมที่เหลือข้ึนไปกว่ำน้ัน เมื่อหน้ำ จะถอยเปน็ ปำ่ ใหญ่เสยี แล พระอรหนั ต์เจำ้ ทำนำยไว้อีกวำ่ เมื่อพระพุทธศักรำชได้ 2,200 ปีเศษ 12 ปี ขึ้นไป จนถงึ 3,200 ปเี ศษ วำ่ ในพระประโทณเจดยี ์นั้น ยงั มีพระมหำเถรเจ้ำองค์หนึ่ง ถือเอำเศวตฉัตร เป็นเพดำนก้ันอยู่มิได้ขำดแต่แรกเกิดมำว่ำมหำเถรเจ้ำ องค์นี้ดุจทำนำยพระเจ้ำว่ำ เม่ือขณะนั้นยังมี นำงรำชธิดำองค์หน่ึงนั้นเป็นสำวพรหมจำรีหำผัวมิได้ พุทธทำนำยว่ำ นำงองค์จะออกมำจำกประตู พระปฐมไสยำสน์ อันว่ำพระเจ้ำเสด็จออกมำกระทำยมกปำฏิหำริย์กับเบญจโลหะอัน บรรจุพระบรม ธำตไุ ว้ 100 พระองคน์ น้ั เสดจ็ ออกมำกระทำให้ปรำกฏแก่ตำสมณชีพรำหมณ์ ท้ังหลำยและเทพยดำ ท้ำว พระยำ ก็แลเห็นประจักษ์แก่ตำด้วยพระรัศมีออกมำต่ำง ๆ เป็นหลำยประกำร และคร้ันนำงรำชธิดำ ออกมำจำกประตนู ้ัน นำงกล็ ั่นฆ้องใหญท่ ง้ั 4 ประตูอันทำ่ นไวส้ ำหรบั โบรำณนัน้ แล คนทั้งหลำยครั้นได้ ยินฆ้องใหญ่ จงึ รู้สำคญั ว่ำ มที ี่น้นั แล เครอ่ื งบริโภคของทำ้ วพระยำทง้ั หลำยอันมำบรรจุถวำย พระธำตุ มำแต่ก่อนนั้น ย่อมมีสำคัญอยู่ทุก ๆ แห่ง อันว่ำพระประโทณเจดีย์ ปฐมเจดีย์นั้นเป็นที่โอฬำรึก

42 นักหนำ ฝ่ำยว่ำท้ำวพระยำทำพระปฐมเจำ้ นั้น กไ็ ด้เป็นประธำนอันใหญ่ เพรำะชำวโยนก คือ ลำวพุง ดำอุปถัมภนำกำรมำ ถ้ำบุคคลผู้ใด ๆ มำไหว้บูชำได้มำ กวำดวัด ได้มำกวำดแผ้วให้บริบูรณ์ เหมือน หนึง่ ไดร้ ักษำพระธำตุในลงั กำโพน้ และบคุ คลผใู้ ดได้มำรกั ษำพระประโทณเจดีย์ พระปฐมเจดีย์ พระธำตุ พระเจ้ำน้ันแลเสมือนหน่ึงได้รักษำพระกุกกุสนโธเจ้ำแล พระโกนนำคมและพระพุทธกัสสปเจ้ำแล สมณชีพรำหมณก์ ็ดี และพระภิกษุสำมเณรกด็ ี และท้ำวพระยำ มหำสำมลรำชก็ดี กุฏุมพีเข็ญใจชนบท บำทนอกเมอื งป่ำก็ดี และได้มำปรนนิบตั ิก่อสร้ำงพระพุทธทั้งสำมแห่งน้ีเสมือนหน่ึงมำปรนนิบัติ พระ โกนำคมนเจ้ำ เมื่อยังมีพระชนมำยุอยู่ ไม่เสียทีท่ีเกิดมำน้ันแล อันน้ีก็เป็นจำรีตแต่พระอริยบุตร สัป บุรุษแต่โบรำณนั้นแล อันว่ำพระอรหันต์เจ้ำท้ัง 4 พระองค์ กับพระยำศรีธรรมำโสกรำช ย่อมได้เอำ พระธำตุพระเจำ้ อย่ำงใหญ่ก็ดี เดิมแต่ 1,000 ปี หนึ่งมำโพ้นทีเดียวแล อันว่ำบุคคลผู้ใด และเทพยดำ ทัง้ หลำยไดม้ ำนมัสกำรพระปฐมเจดยี ์ พระประโทณเจดีย์ คือ พระกุกกุสนธ์ศรีสักยมุนีโคดม คือ พระ ปฐมเจดีย์ทั้งสำมฝ่ำยนั้นผิดกันทั้ง 4 พระองค์น้ันแลบุรุษชำยก็ดีหญิงก็ดี ท้ำวพระยำสำมลรำชก็ดี ภิกษุเถรเณรก็ดี ตำปะขำวยำยชีก็ดี ผู้มีบุญหำบุญมิได้ก็ดี ได้มำชวนกันก่อสร้ำงมิให้ร่วงโรยได้ ปรนนบิ ตั ิพระธำตพุ ระเจ้ำอันพระอรหนั ต์เจำ้ และเทพยดำเจำ้ ทั้งหลำยเอำไปไว้ทุกหัวเมือง เมืองเหนือ เมืองใต้ก็ดีบุรุษชำยหญิงผู้น้ันจะล้ำเลิศประเสริฐกว่ำคนทั้งปวง อันว่ำพระสำรีริกธำตุพระเจ้ำ พระ อรหันต์เจ้ำ และเทพยดำท้ำวพระยำรับไปไว้ 12 หัวเมืองก็ดี จะรุ่งเรืองอยู่นั้น แต่ศำสนำได้ 800 ปี ปลำยบำ้ ง 1,000 ปี บำ้ ง 1,200 ปีบ้ำงกวำ่ น้นั ลงไปจะถอยเปน็ ป่ำใหญ่เสยี สิ้นทุกแห่ง เรื่องท่ี 2 ประวัตพิ ระปฐมเจดยี ์ 2.1 ประวัติกำรก่อสรำ้ ง พระปฐมเจดีย์ จำกกำรสันนิษฐำนของ ม.จ.สุภัทรดิส ดิศกุล ว่ำองค์พระปฐมเจดีย์ สร้ำงเม่อื พ.ศ. 350 ในสมัยพระอโศกมหำรำชแหง่ ประเทศอินเดีย ทรงจัดส่งพระสมณทูตมำประกำศ พระศำสนำในสุวรรณภูมิ เป็นพระสถูปเจดีย์ที่สร้ำงข้ึนในสมัยพระเจ้ำอโศกมหำรำช และมีหลักฐำน กำรค้นพบเจดีย์ ท่ีมีอำยุเก่ำแก่กว่ำพระธมเจดีย์ และหลักฐำนลำยลักษณ์อักษรที่ระบุว่ำ \"พระเจดีย์ องค์นี้ เดิมขอมเรียก พระธม\" ซึ่งไม่ว่ำจะเป็นชำวขอมจริง ๆ หรือชำวลวรัฐ ซึ่งสมัยน้ันเรำก็เรียกว่ำ ขอม เช่น ขอมสบำดโขลญลำพง คำวำ่ ธม สำหรับชำวขอมนัน้ แปลว่ำ ใหญ่ ตรงกับคำเมืองว่ำ หลวง ซ่ึงเรำก็เรียกพระนครธม ว่ำ พระนครหลวง เพรำะมีรูปทรงเดียวกับพระสถูปรำมเจดีย์ ในกรุงอนุรำชบุรี เกำะสงิ หลทวปี หรอื ประเทศศรลี ังกำในปจั จุบัน ทรงเช่อื มน่ั ว่ำเป็นพระเจดยี ์องคแ์ รกที่สร้ำงขึ้นในแถบ นี้ บรรจุพระบรมสำรีริกธำตุของสมเด็จพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำ พระเจดีย์องค์เดิมสูง 16 วำ 2 ศอก รูปทรงคว่ำ มีลักษณะเป็นแบบพระสถูปเจดีย์ในประเทศศรีลังกำ รูปทรงแบบโอ สำหรับตักน้ำ หรือ บำตรคว่ำแบบเจดยี ์สำญจีในประเทศอินเดีย ต่อมำสมัยพระยำพำนขึ้นครองเมือง ได้ต่อเติมองค์พระ ปฐมเจดีย์ใหส้ ูงข้นึ อีก รวมควำมสูง 40 วำ 2 ศอก เพ่ือไถ่บำปที่ตนฆ่ำพระยำกงผู้เป็นบิดำและยำยหอม ทช่ี บุ เลยี้ งตนมำ

43 สมัยรัชกำลท่ี 4 (ปพี .ศ. 2396-2411) ทรงผนวชเป็นพระภิกษุอยู่ ได้เสด็จมำนมัสกำรทรง เห็นว่ำ พระปฐมเจดีย์ เป็นปูชนียสถำนท่ีมีขนำด ใหญ่ จึงกรำบบังคมทูลพระบำทสมเด็จพระน่ังเกล้ำ เจ้ำอยู่หัว ขอให้ทรงบูรณะ แต่มีพระรำชดำรัสว่ำ \"เป็นของอยู่ในป่ำรก จะทำข้ึนก็ไม่มีประโยชน์อันใด นัก\" ต่อมำเม่ือพระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำ เจ้ำอยู่หัว เสด็จเสวยรำชสมบัติแล้ว ใน พ.ศ. 2396 พระองค์จึงโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จ เจ้ำพระยำบรมมหำประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนำค) เป็น แมก่ องเสรมิ สร้ำงตำมแบบที่ช่ำงได้ขึ้นถวำยใหม่เป็น เจดีย์ทรงกลม ไม่มีฐำนทักษิณ ได้ทรงเปลี่ยนรูปทรงใหม่เป็น พระเจดีย์แบบสถำปัตยกรรมไทย รูป ระฆังคว่ำ ยอดแหลม ก่ออิฐ ถอื ปนู ประดบั กระเบอ้ื งเคลอื บ สูง 3 เสน้ 1 คบื 6 นิว้ หรอื 120.45 เมตร ครอบพระมหำสถูปรูปทรงบำตรคว่ำยอดปรำงค์องค์เดิมไว้ภำยใน มีพระวิหำร 4 ทิศ และพระคต ระเบยี ง จำรึกพระธรรมคำถำ ล้อมรอบองค์พระมหำสถูป พระปฐมเจดีย์ พร้อมด้วยซุ้มระฆัง จำนวน 24 หลงั พร้อมสรำ้ งวิหำรคต และระเบียงโดยรอบ แต่เน่ืองจำกพระเจดยี ์องคใ์ หญ่โตมำก ตอ้ งระดมใช้ ชำ่ งไทย จีน ได้จำ้ งพวกมอญทำอิฐ รวมท้ังทำสลูกหน้ีด้วย โดยคิดหักค่ำตัวให้ จ้ำงจีนมำเผำปูน และ เป็นช่ำงก่อ เอำรำษฎรจำกเมืองนครไชยศรี เมืองสมุทรสำคร เมืองรำชบุรี และเมืองพนัสนิคม โดย แบ่งคนออกเป็นสี่ผลัด เดือนละสองร้อยคน เมื่อก่อพระเจดีย์ได้สูง 17 วำ 2 ศอก สร้ำงไปได้ 2 ปี แม่กองสร้ำงได้ถึงแก่พิรำลัย จึงโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมให้เจ้ำพระยำทิพำกรวงศ์ (ขำ บุนนำค) ผู้ เป็นบตุ รให้เป็นแมก่ องสร้ำงพระปฐมเจดีย์ แต่งำนไม่ทันแลว้ เสรจ็ ก็สวรรคต

44 กกกกกกกพระปฐมเจดีย์องค์เดมิ เรมิ่ สร้ำงเมอื่ พ.ศ. 2390 แต่ยงั ไม่แลว้ เสรจ็ ดว้ ยสวรรคตเสียก่อนในปี พ.ศ. 2411 ต่อมำพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัวทรงบูรณะและปฏิสังขรณ์เพ่ิมเติมได้ เสดจ็ พระรำชดำเนินมำยกยอดพระปฐมเจดีย์ เมอื่ ปี พ.ศ. 2413 ต่อมำในสมัยรัชกำลท่ี 5 ได้สร้ำงทำง รถไฟจำกกรงุ เทพถึงนครปฐม ไดย้ ำ้ ยกฏุ ิสงฆ์ทั้งหมดและอำคำรเสนำสนะ มำตั้งอยู่บริเวณถนนขวำพระ ซึ่งเป็นบริเวณเขตสังฆำวำสในปัจจุบัน วิหำรหลวง และพระอุโบสถ ตั้งอยู่จุดเดียวกับที่ตั้งของ พระอุโบสถปัจจุบัน องคพ์ ระปฐมเจดีย์นำช่ือเสียงมำสู่วัดพระปฐมเจดีย์เป็นอย่ำงมำก เป็นที่รู้จักของ ชำวไทยพุทธศำสนกิ ชนและชำวตำ่ งประเทศ กกกกกกกปัจจุบันองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นรูประฆังควำ่ ยอดแหลม ครอบซ้อนอยู่กับพระเจดีย์ยอด ปรำงค์ บรรจพุ ระบรมสำรีรกิ ธำตุ มีลักษณะแบบทรงไทย รูประฆังคว่ำ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสี สม้ สงู 120 เมตร 45 เซนตเิ มตร ประกอบดว้ ยวิหำร 4 ทศิ มีกำแพงแก้ว 2 ชัน้ ลอ้ มรอบ

45 กกกกกกกกล่ำวโดยสรุป พระปฐมเจดีย์มีประวัติกำรก่อสร้ำงดังนี้ สร้ำงข้ึนในสมัยพระเจ้ำอโศก มหำรำช ทรงส่งสมณทูตมำเผยแผ่พระศำสนำ นักปรำชญ์ทำงโบรำณคดีเห็นพ้องกันว่ำ พระโสณะ เถระและพระอุตตระเถระ เป็นสมณทูตและมำต้ังหลักฐำนประกำศหลักธรรมคำสอนท่ีนครปฐมเป็น ครง้ั แรก ในพทุ ธศตวรรษท่ี 3 และได้สรำ้ งพระเจดียท์ รงบำตรคว่ำ แบบเจดีย์สำญจีในประเทศอินเดีย ไว้ ภำยในองคพ์ ระเจดีย์ยังเปน็ ท่ีประดิษฐำนของพระบรมสำรีรกิ ธำตุของสมเด็จพระสัมมำสัมพุทธเจ้ำ ซ่งึ เป็นที่เคำรพสักกำรบชู ำของพุทธศำสนกิ ชนทว่ั โลก ทำงวัดจึงกำหนดให้มีงำนเทศกำลนมัสกำรองค์ พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึงวันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็นประจำทุกปี วัดพระปฐมเจดยี ย์ ังเป็นท่พี ระบรมรำชสรีรำงคำร พระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลที่ 6 พระอังคำรพระนำงเจ้ำสุวัทนำ พระวรรำชเทวีในรัชกำลที่ 6 และพระสรีรำงคำรสมเด็จพระเจ้ำภคินี เธอ เจ้ำฟ้ำเพชรรัตนรำชสุดำ สิริโสภำพัณณวดี ซึ่งบรรจุไว้ที่ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ ท่ีพระ วหิ ำรทศิ เหนือ องค์พระปฐมเจดีย์ 2.2 ประวัตกิ ำรบรู ณปฏิสังขรณ์ พระปฐมเจดยี ์ ได้รับกำรปฏสิ งั ขรณ์มำหลำยสมยั จำกสถปู ทรงโอควำ่ คือ 2.2.1 สมัยสวุ รรณภมู ิ ตงั้ แต่แรกสรำ้ งปฐมเจดีย์ รำว พ.ศ. 350 - รำว พ.ศ. 1000 2.2.2 สมัยทวำรวดี เปน็ สมัยท่ีก่อสร้ำงเพ่ิมเตมิ องค์พระปฐมเจดยี ์ ต้ังแต่ รำว พ.ศ. 1000 จนถึง พ.ศ. 1600 พระปฐมเจดีย์องค์เดมิ ยุคทวำรวดี รำวหลงั พ.ศ. 1000

46 2.2.3 สมยั พระปฐมเจดียท์ รดุ โทรม ตัง้ แต่ พ.ศ. 1600 จนถงึ พ.ศ. 2396 จนถงึ สมยั ปัจจบุ นั พระปฐมเจดยี ์องค์จำลอง กกกกกกกพระปฐมเจดยี ์องค์จำลอง ท่ีท่ำนศรีศรัทธำบูรณปฏิสังขรณ์ไว้ เรียก “พระมหำธำตุหลวง” รำวหลัง พ.ศ. 1800 เสมยี นมกี ับสนุ ทรภไู่ ปนมัสกำรเมื่อแผน่ ดินรัชกำลท่ี 3 ได้เห็นซำกสถูปที่ท่ำนศรี ศรัทธำทำไว้ แลว้ เขียนพรรณนำวำ่ “เป็นพระปรำงใหญโ่ ตรโหฐำน” พระปฐมเจดียอ์ งค์ปัจจุบนั ยคุ รัตนโกสินทร์ หลัง พ.ศ. 2400

47 กกกกกกกกำรบูรณปฏสิ ังขรณ์พระปฐมเจดียอ์ งค์ปจั จุบัน ยุครัตนโกสินทร์ เร่มิ ในสมัยรัชกำลที่ 4 ทรง ได้มีกำรปฏสิ ังขรณ์พระปฐมเจดีย์ครัง้ ใหญ่ โดยกำรสร้ำงพระปฐมเจดีย์หุ้มแทนองค์เดิมจำกเดิมที่เป็น รปู บำตรคว่ำมียอดปรำงค์ เป็นรูปเจดีย์ใหญ่ มีพุทธบัลลังก์ ฐำนสี่เหล่ียมซ้อนระฆัง มียอดนพศูลพระ มหำมงกฎุ รวมไว้บนยอดองค์พระเจดีย์ มีขนำดสงู 3 เส้น 1 คืบ 6 น้ิว หรือ 120.5 เมตร ฐำนโดยรอบ ยำว 5 เสน้ 17 วำ 3 ศอกหรอื 233 เมตร ประดับด้วยกระเบ้ืองเคลือบสีเหลือง งดงำมแวววำว และมี กำรสร้ำงพระวิหำรหลวงใหม่ มีขนำดสูง 120.45 เมตร รอบฐำนองค์ปฐมเจดีย์สร้ำงเป็นวิหำรคต ล้อมรอบเปน็ 2 ช้ัน ทัง้ 4 ทิศ มีพระวิหำรและพระระเบียงต่อเช่ือมกันรอบพระเจดีย์ พร้อมกับสร้ำง พระพุทธรูปปำงต่ำง ๆ ไว้ท่ีวิหำรท้ัง 4 ทิศ วิหำรทิศตะวันออก เรียกว่ำ \"พระวิหำรหลวง\" ห้องนอก ประดิษฐ์พระพุทธรูปปำงตรัสรู้ประทับน่ังขัดสมำชิกอยู่ใต้ต้นโพธ์ิบัลลังก์ ต้นโพธิ์เป็นภำพเขียนฝีมือ งดงำมเหมือนของจรงิ มำก ส่วนหอ้ งในพระวหิ ำรหลวงปลอ่ ยไว้โล่ง ๆ มแี ท่นบูชำเป็นของเกำ่ ในรัชกำล ท่ี 4 ซ่ึงเปน็ ท่ีนมัสกำรองค์พระปฐมเจดีย์ พระองค์ทรงพจิ ำรณำลักษณะกำรกอ่ สรำ้ ง และสภำพจึงทรง พระรำชทำนนำม พระสถูปเจดีย์ว่ำ “พระปฐมเจดีย์” และพระรำชทำนนำมวัดว่ำ “วัดพระปฐมเจดีย์” และในสมัยรชั กำลที่ 4 ได้บรู ณะและปฏิสงั ขรณอ์ งค์พระปฐมเจดีย์ โปรดเกล้ำให้สร้ำงกุฏิสงฆ์ จำนวน 25 หลัง สรำ้ งศำลำกำรเปรียญ และหอฉัน กกกกกกกสมัยรัชกำลที่ 5 ทรงบูรณะและปฏิสังขรณ์เพ่ิมเติมต่อ โปรดให้ปฏิสังขรณ์จัดสร้ำงหอระฆัง และได้ทรงสรำ้ งพระวิหำรคตระเบียงชั้นนอก ล้อมรอบองค์พระปฐมเจดีย์ไว้อีกชั้นหนึ่ง และโปรดให้ สั่งกระเบอื้ งเคลือบสเี หลืองทองจำกเมอื งจนี มำประดับพระปฐมเจดีย์ท้งั องค์ (ซงึ่ มำแล้วเสร็จในรัชกำล ที่ 6) และได้เสด็จพระรำชดำเนินมำยกยอดพระปฐมเจดีย์ เม่ือปี พ.ศ. 2413 ได้ย้ำยกุฏิสงฆ์ทั้งหมด และอำคำรเสนำสนะ มำต้ังอยู่บริเวณถนนขวำพระ ซ่ึงเป็นบริเวณเขตสังฆำวำสในปัจจุบัน องค์พระ ปฐมเจดยี ์นำชอ่ื เสียงมำส่วู ดั พระปฐมเจดีย์เป็นอย่ำงมำก เป็นที่รู้จักของชำวไทยพุทธศำสนิกชน และ ชำวต่ำงประเทศ

48 กกกกกกกสมัยรัชกำลที่ 6 สมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว โปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมให้วำดรูปองค์ พระปฐมเจดีย์ แสดงให้เหน็ ลกั ษณะขององค์เจดยี ต์ ัง้ แต่สมัยเริ่มสรำ้ งมำจนถึงปัจจุบัน ผนังท้ังสองข้ำง เปน็ ภำพวำด รูปเทวดำ นักพรต ฤำษี และพระยำครฑุ ทุกภำพประนมมือแสดงกำรสักกำระบูชำพระ ปฐมเจดีย์ที่ระเบียงกลม (วิหำรคต) ล้อมรอบองค์พระเจดีย์ภำยในจำรึกกถำธรรมทุกห้อง รอบนอก กอ่ นหนำ้ หอระฆังไวเ้ ปน็ ระยะ ๆ มี 24 หอ ช้ันล่ำงก่อกำแพงถมดินเป็นกระเปำะข้ึนมำท้ัง 4 ทิศ บน กระเปำะด้ำนตะวันออก ทำโรงธรรมและหน้ำพระอุโบสถด้ำนใต้ประดิษฐำนพระคันธำรำฐ (พระพุทธรูปศิลำขำว) ซ่ึงได้มำจำกวัดพระเมรุ และจำลองพระปฐมเจดีย์ไว้ทำงด้ำนทิศตะวันออก หรอื ทำงซำ้ ยของพระพทุ ธคันธำรำฐได้จำลองรูปพระเจดีย์ เมืองนครศรีธรรมรำช ท่ีเรียกว่ำพระบรม ธำตุใหญ่ องคพ์ ระปฐมเจดีย์ องคท์ ี่ 1 องคพ์ ระปฐมเจดยี ์ องคท์ ี่ 2 องคพ์ ระปฐมเจดยี ์ องค์ที่ 3 ภำพวำดลกั ษณะขององคเ์ จดีย์ตั้งแต่สมยั เรมิ่ สรำ้ งมำจนถงึ ปัจจบุ ัน รัชกำลที่ 6 ทรงโปรดเกล้ำฯ ให้วำดไวท้ ผ่ี นงั ภำยในวิหำรหลวง (วิหำรด้ำนทศิ ตะวนั ออก)

49 กกกกกกกพ.ศ. 2451 พระบำทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลท่ี 6 เมื่อคร้ังดำรงพระอสิ รยิ ยศ เป็นสมเด็จพระยพุ รำช เสด็จประพำสหัวเมืองฝ่ำยเหนือได้ทอดพระเนตร พระพุทธรูปโบรำณเป็นอัน มำก แตม่ ีพระพุทธ รปู องค์หนง่ึ ทีเ่ มืองศรีสัชนำลัย (จังหวัดสุโขทัย) กอปรด้วยพระลักษณะงำมเป็นท่ี ต้องพระรำชหฤทัย แต่ชำรุดมำกเหลืออยู่แต่พระเศียร พระหัตถ์และพระบำท จึงโปรดเกล้ำโปรด กระหม่อม ให้อญั เชิญลงมำกรงุ เทพมหำนคร แล้วให้ช่ำงป้ันสถำปนำขึ้นมำบริบูรณ์เต็มพระองค์ และ โปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมให้จัดกำรพระรำชพิธีเททองหล่อขึ้นเมื่อวันท่ี 30 ธันวำคม พ.ศ. 2456 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลำรำมกรุงเทพมหำนคร พระร่วงโรจนฤทธ์ิ เป็นท่ีเคำรพบูชำของ พุทธศำสนิกชนชำวไทยทั่วไป ช่ือเต็มก็คือ “พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทรำทิตย์ ธรรมโมภำส มหำ วชริ ำวธุ รำชปชู นยี บพิตร” ตำมประกำศกระแสพระบรมรำชโองกำร ลงวันที่ 12 ตุลำคม พ.ศ. 2566 แตป่ ระชำชนทวั่ ไป จะเรียกว่ำ หลวงพ่อพระร่วง หรือ พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระร่วงโรจนฤทธ์ิ มีขนำด ควำมสงู วัดจำกพระบำทถึงพระเกศ 7.42 เมตร หรือรำว 12 ศอก 4 นิว้ เปน็ พระพุทธรปู ปำงหำ้ มญำติ ศิลปะแบบสุโขทัย ประทับยืนอยู่บนฐำน โลหะทองเหลืองลำยบัวคว่ำบัวหงำย ทำวงพระพักตร์ ตำมยำว พระหนุเส้ียมน้ิวพระหัตถ์ และพระบำทไม่เสมอกัน ห้อยพระหัตถ์ซ้ำยลงข้ำงพระวรกำย แบฝ่ำพระหัตถ์ขวำยกต้ังข้ึน ย่ืนออกไป ข้ำงหน้ำระดับพระอุระ เป็นกิริยำห้ำม มีพระ อุทรพลุ้ยออกมำ ห่มจีวรบำงคลุม แนบติด พระวรกำย บำ่ ยพระพกั ตร์สู่ทศิ เหนือ ทำด้วย โลหะทองเหลือง หนัก 100 หำบ กำรอัญเชิญ พระร่วงโรจนฤทธิ์ เมื่อเดือนกรกฎำคม พ.ศ. 2457 จำเป็นต้องแยกช้ินมำและมำประกอบ เข้ำด้วย กันท่ีจังหวัดนครปฐมแล้วเสร็จเป็น องค์สมบูรณ์ เม่ือวันท่ี 2 พฤศจิกำยน พ.ศ. 2458 หลังจำกรัชกำลที่ 6 เสดจ็ สวรรคต แล้ว ตำมควำมในพระรำชพินัยกรรมของพระองค์ ระบวุ ำ่ ให้ บรรจุพระอังคำรของพระองค์ไว้ใต้ ฐำนพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่องค์พระปฐมเจดีย์ วันท่ี 31 สิงหำคม พ.ศ. 2469 จึงได้ทำพิธี บรรจุพระบรมรำชสรีรำงคำร ณ ใต้ฐำนพระ ร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทรำทิตย์ ธรรมโมภำส มหำวชิรำวุธรำชปูชนียบพิตร ตำมพระ ประสงค์ทกุ ประกำร กกกกกกกสมยั รัชกำรท่ี 7 ทรงโปรดเกล้ำให้อญั เชิญพระผอบบรรจุพระรำชสรรี ำงคำรในรชั กำรที่ 6 และเสดจ็ พระรำชดำเนนิ มำ ทรงประกอบพิธีบรรจุไว้ใต้ฐำนพระร่วงโรจนฤทธิ์ และทรงก่อสร้ำงพระ อโุ บสถขน้ึ ใหม่ เสร็จในปี พ.ศ. 2475

50 กกกกกกกสมัยรัชกำลท่ี 9 เม่ือปี พ.ศ. 2509 ทำงวัดพบว่ำตัวองค์พระปฐมเจดีย์มีรอยร้ำวแตกร้ำว หลำยแห่ง กระเบื้องที่ประดับหลุดร่วงลงมำ จึงได้แจ้งเร่ืองไปยังรัฐบำลสมัยน้ัน และได้มีกำรสำรวจ ตรวจสอบอยปู่ ระมำณ 9 ปี ในที่สุดก็มีควำมเห็นว่ำควรดำเนินกำรบูรณะเป็นกำรด่วน จึงได้ลงมือทำ กำรซอ่ มแซมบูรณะเม่ือวันที่ 7 เมษำยน 2518 สิ้นสุดลง เมื่อวันท่ี 3 พฤษภำคม 2524 สิ้นค่ำใช้จ่ำย ทั้งส้ินเป็น จำนวนเงิน 24,625,375 บำท และทำงรัฐบำลไดด้ ำเนินกำรก่อสร้ำงกำแพง ชั้นนอกข้ึนล้อมรอบบริเวณองค์พระปฐม เจดีย์ สำหรับพระปฐมเจดีย์เป็นพระเจดีย์ ใหญ่ มีลกั ษณะเจดยี เ์ ปน็ ทรงระฆังคว่ำ (ปำก ผำย) โครงสรำ้ งทำจำกไม้ซุง รัดด้วยโซ่ขนำด ใหญ่ ก่ออิฐ ฉำบปูน และปูประดับด้วย กระเบื้องสีเหลืองส้มด ชั้นล่ำงประกอบด้วย วหิ ำรสี่ทศิ พร้อมดว้ ยกำแพงแกว้ สองชน้ั กกกกกกกกล่ำวโดยสรุป พระปฐมเจดียม์ ปี ระวตั ิกำรปฏิสงั ขรณส์ มยั รตั นโ์ กสินทร์ เร่ิมในสมัยรัชกำลท่ี 4 ทรงเปล่ยี นรปู ทรงใหม่เปน็ พระเจดียแ์ บบสถำปตั ยกรรมไทย รูประฆังคว่ำ ยอดแหลม ก่ออิฐ ถือปูน ประดับกระเบื้องเคลือบ สมัยรัชกำลท่ี 5 ทรงให้ประดับกระเบ้ืองเคลือบองค์พระปฐมเจดีย์ ได้ทรง สรำ้ งพระวหิ ำรคตระเบียงช้ันนอก ล้อมรอบองค์พระปฐมเจดีย์ไว้อีกชั้นหนึ่ง ในสมัยรัชกำลท่ี 6 ทรง โปรดเกลำ้ ให้ปฏิสงั ขรณ์วหิ ำรหลวง ด้ำนทศิ ตะวนั ออก ให้เขียนจิตรกรรมฝำผนังภำพพระปฐมเจดีย์ 3 องค์ และเทพชุมนมุ และทรงโปรดเกล้ำโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธปฏิมำพระร่วงโรจนฤทธ์ิ มำประดิษฐำน สมยั รชั กำลที่ 7 ทรงก่อสร้ำงพระอุโบสถขึ้น สมัยรัชกำลท่ี 9 เปล่ียนกระเบื้องประดับ องคเ์ จดยี ใ์ หม่ และรฐั บำลได้กอ่ สรำ้ งกำแพงช้ันนอก

51 กิจกรรมทำ้ ยบท กกกกกกก1. กิจกรรมท่ี 1 คำชแ้ี จง : โปรดเลือกตวั อักษรหนำ้ ขอ้ ทน่ี ักศึกษำคดิ ว่ำขอ้ นนั้ เป็นคำตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุด เพยี งข้อเดยี ว แลว้ เขียนคำตอบลงในกระดำษของนกั ศกึ ษำ 1. ในตำนำนพระปฐมเจดีย์ฉบับตำประขำวรอด พระยำกงเปน็ บตุ รของใคร ก. พระยำพำน ข. พระยำสิกำรำช ค. เจ้ำเมืองสโุ ขทยั ง. ตำโฉมและยำยพรหม 2. ตำนำนของพระปฐมเจดีย์ในตำนำนใดทก่ี ล่ำวถึงพระประโทนและพระปทม ก. ตำนำนนำยแดง ข. ตำนำนตำประขำวรอด ค. ตำนำนนิทำนพระอรหันต์ ง. ตำนำนพระยำกงพระยำพำน 3. พระปฐมเจดยี ์ สรำ้ งขึ้นเมอื่ ใด ก. พ.ศ. 350 ข. พ.ศ. 353 ค. พ.ศ. 365 ง. พ.ศ. 375 4. กำรปฏสิ งั ขรณ์หอระฆงั เกดิ ขน้ึ ในสมัยใด ก. รัชกำลท่ี 1 ข. รชั กำลท่ี 3 ค. รัชกำลท่ี 5 ง. รัชกำลที่ 7 5. พระรว่ งโรจนฤทธทิ์ ีป่ ระดษิ ฐำนในองคพ์ ระปฐมเจดีย์ สรำ้ งข้ึนในสมัยใด ก. รัชกำลท่ี 3 ข. รัชกำลท่ี 4 ค. รชั กำลที่ 5 ง. รัชกำลท่ี 6 6. กำรปฏิสังขรณก์ อ่ สรำ้ งพระอโุ บสถขน้ึ เกิดในสมยั ใด ก. รชั กำลที่ 1 ข. รชั กำลท่ี 3 ค. รชั กำลท่ี 5 ง. รัชกำลที่ 7 กกกกกกก2. กิจกรรมที่ 2 คำช้แี จง : โปรดจับค่ขู อ้ มูลทีอ่ ยหู่ ลังตวั อกั ษรทต่ี รงกบั ข้อเลขนนั้ ๆ หรอื มีควำมสัมพันธ์ ตรงกบั ตัวข้อเลขนัน้ ๆ ใหถ้ กู ต้อง แลว้ นำตวั อักษรหนำ้ ข้อมลู มำใสห่ น้ำตัวเลขข้อน้ัน ๆ กกกกกกก …..….1. รชั กำลที่ 4 ก. สรำ้ งพระอโุ บสถ กกกกกกก …..….2. รัชกำลท่ี 5 ข. ประดับกระเบอ้ื งเคลอื บองคพ์ ระปฐมเจดีย์ และสรำ้ ง พระวิหำรคตระเบยี งชนั้ นอก กกกกกกก …..….3. รัชกำลท่ี 6 ค. เปลยี่ นรปู พระเจดีย์แบบสถำปัตยกรรมไทยระฆงั ควำ่ กกกกกกก ……...4. รัชกำลท่ี 7 ง. เปลีย่ นกระเบือ้ งประดับองคพ์ ระปฐมเจดยี ์ใหม่ กกกกกกก …..….5. รัชกำลที่ 9 จ. ปฏิสงั ขรณ์วหิ ำรหลวงและจิตรกรรมฝำผนงั กกกกกกกก

52 กกกกกกก3. กิจกรรมที่ 3 กกกกกกกก คำชแ้ี จง : โปรดทำเครื่องหมำยถูก () หรือทำเครื่องหมำยผิด ( X ) ลงหน้ำข้อ ตัวเลขทน่ี ักศึกษำอำ่ นข้อมลู แลว้ คิดว่ำถกู ให้ทำเครื่องหมำยถกู () ถำ้ คดิ ว่ำข้อมลู ท่ีอ่ำนผิด ใหท้ ำ เคร่อื งหมำยผิด ( X ) กกกก …..….1. พระยำกงเป็นบตุ รของทำ้ วสกั รำช กกกกกกก ……...2. ยำยพรหมเล้ยี งพยำพำนจนโต กกกกกกก ……...3. พระยำพำนฆ่ำพระยำกง กกกกกกก …..….4. พระยำพำนสรำ้ งพระปฐมเจดีย์เพ่ือล้ำงบำป กกกกกกก……...5. รัชกำลท่ี 7 ทรงสร้ำงอญั เชญิ พระร่วงโรจนฤทธ์ิมำประดษิ ฐำน ณ วิหำรด้ำน ทศิ เหนือของพระปฐมเจดีย์ กกกกกกก4. กิจกรรมที่ 4 กกกกกกกก คำชแ้ี จง : โปรดเตมิ คำหรือตวั เลข หรอื ขอ้ ควำมส้นั ๆ ลงในช่องวำ่ งของแต่ละขอ้ ให้ สมบรู ณ์ ถูกตอ้ ง 1. ชือ่ เมืองท่ีท้ำวสกั รำชปกครอง คอื ...................…………………..................................... 2. พระสรีรำงคำรของพระมหำกษัตรยิ ์ และรำชวงศ์ท่บี รรจุในองค์พระปฐมเจดยี ์ คือ .................................………………………………………………………………………………..…… 3. งำนเทศกำลนมัสกำรองคพ์ ระปฐมเจดยี ์ จัดข้ึนในวันขึน้ ............คำ่ แรม .......….ค่ำ เดอื น..............................ของทกุ ปี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook