ความหมายและประเภทของสินค้า สินคา้ (Goods or Merchandise) หมายถึง สินทรัพยห์ มุนเวยี น ท่ีมีตวั ตนหรือส่ิงของที่กิจการมีไวเ้ พ่ือ จาหน่ายใหก้ บั ผซู้ ้ือ หรือลูกคา้ เพอ่ื หวงั ผลกาไรจากการจาหน่าย สินคา้ ดงั น้นั กิจการมีรายไดห้ ลกั จากการขายสินคา้ ตามลกั ษณะ ของการประกอบธุรกิจ เช่น ร้านมะขามทอง การไฟฟ้า มีสินคา้ ดงั น้ี เครื่องปรับอากาศ พดั ลม ตูเ้ ยน็ คอมพิวเตอร์ โทรทศั น์ เครื่องซกั ผา้ และหา้ งสรรพสินคา้ มะขามป้อม มีสินคา้ ประเภท อาหารสาเร็จรูป เส้ือผา้ เคร่ืองดื่ม ผลไม้ เครื่องสาอาง ไวจ้ าหน่าย ในกิจการ เป็นตน้
สินคา้ อุปโภคบริโภค ( Consumer Goods) คือ สินคา้ ท่ีผบู้ ริโภคซ้ือไป เพื่อใชเ้ อง แบ่งตามลกั ษณะการซ้ือของผบู้ ริโภคได้ 4 ชนิด คือ 1.สินคา้ สะดวกซ้ือ 2.สินคา้ เปรียบเทียบซ้ือ 3.สินคา้ เจาะจงซ้ือ 4.สินคา้ ไม่แสวงซ้ือ สนิ ค้าเปรียบเทียบซือ้
สินค้าอตุ สาหกรรม สินคา้ อุตสาหกรรมคือ สินคา้ ท่ีซ้ือไปเพ่อื ใชใ้ นการผลิต หรือดาเนินงาน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.วตั ถุดิบและชิ้นส่วน ( Material and Parts )คือ สินคา้ ที่ซ้ือไปเพอ่ื ใช้ ในกระบวนการผลิต แลว้ ไดส้ ินคา้ สาเร็จรูปออกมา เช่น มนั สาปะหลงั และออ้ ย เป็นวตั ถุดิบของการทาผงชูรส เป็นตน้ 2. สินคา้ ทุน ( Capital Goods )เป็นสินคา้ ที่ช่วยในการผลิต เช่น เคร่ืองจกั รที่ใชบ้ ดมนั สาปะหลงั กบั ออ้ ย แลว้ นามาผา่ นกรรมวธิ ีทาง เคมีใหแ้ ปรสภาพเป็นผงชูรส เป็นตน้ 3. วสั ดุใชส้ อยและบริการ ( Supplies and Service )เป็นสินคา้ ที่ช่วย อานวยความสะดวกในการผลิตใหส้ ะดวก คล่องตวั เช่น วสั ดุในการ ซ่อมแซมและบารุงเคร่ืองจกั ร วสั ดุ
การซื้อและการขายสินค้า การซ้ือขายสินคา้ หมายถึง การดาเนินธุรกิจเก่ียวกบั สินคา้ ประกอบดว้ ย การซ้ือสินคา้ เป็นเงินสดและเงินเชื่อ การส่งคืน สินคา้ ท่ีซ้ือดว้ ยเงินสด การส่งคืนสินคา้ ใหก้ บั เจา้ หน้ี การขาย สินคา้ เป็นเงินสดและเงินเชื่อ การรับคืนสินคา้ ที่ขายดว้ ยเงินสด และการรับคืนสินคา้ จากลูกหน้ี เอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การซ้ือ ขายสินคา้ กิจการอาจเป็นผจู้ ดั ทาข้ึนเอง หรือเป็นเอกสารท่ีกิจการ ไดร้ ับจากบุคคลภายนอก เช่น ใบขอซ้ือสินคา้ ใบสง่ั ซ้ือสินคา้ ใบกากบั สินคา้ ใบรับสินคา้ ใบส่งคืนสินคา้ ใบเสร็จรับเงิน
เอกสารประกอบการซื้อขายสินค้า ใบขอซื้อ คือ เอกสารท่ีใชบ้ ริหารการควบคุมภายในของบริษทั เก่ียวกบั การจดั ซ้ือ ปกติแลว้ หนา้ ท่ีการจดั ซ้ือ หรือการออกใบสง่ั ซ้ือ จะเป็นหนา้ ท่ีของฝ่ายจดั ซ้ือ หรือแผนกจดั ซ้ือ ส่วนฝ่ ายอื่นๆ หรือ แผนกอื่นๆ หากตอ้ งการจดั ซ้ือ ตวั อยา่ งเช่น ซ้ือคอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ใช้ ในสานกั งานสาหรับแผนก หรือซ้ือโต๊ะ ตู้ หรืออุปกรณ์ต่างๆใน ออฟฟิ ศ เป็นตน้ ครับ
ใบส่งของหรือใบกากบั สินค้า เป็นเอกสารท่ีออกโดยผสู้ ่งของหรือผสู้ ่งสินคา้ (เช่น ผขู้ ายสินคา้ ) เพอื่ เป็นเอกสารและหลกั ฐานวา่ ไดม้ ีการส่งมอบสินคา้ หรือส่ิงของรายละเอียดและมูลค่าตามท่ีระบุไวใ้ นใบส่งของน้นั ใหแ้ ก่ผรู้ ับของหรือสินคา้ น้นั แลว้ (เช่น ผซู้ ้ือสินคา้ ) ถูกตอ้ ง ครบถว้ น ตรงตามจานวน ปริมาณ ลกั ษณะ และคุณภาพท่ีระบุในใบส่งของ หรือใบส่งสินคา้ น้นั แลว้ ตามวนั ท่ีและเวลาท่ีส่งและรับของ โดยใบ ส่งของ หรือใบส่งสินคา้ จะเป็นหลกั ฐานสาคญั ในกรณีที่มีขอ้ พิพาท ระหวา่ งผสู้ ่งของและผรู้ ับของเกี่ยวกบั การส่งของหรือสินคา้ ที่ ไม่ ถูกตอ้ ง ไม่ครบถว้ น และล่าชา้ หรือในทางกลบั กนั ใบส่งของ หรือ ใบส่งสินคา้ จะเป็นหลกั ฐานวา่ ไดม้ ีการส่งมอบของหรือสินคา้ ถูกตอ้ ง และครบถว้ นแลว้ อีกดว้ ย
ใบรับสินค้า (Receive Report) คือ เอกสารที่ผซู้ ้ือสินคา้ จดั ทาข้ึน หลงั จากท่ีไดร้ ับสินคา้ จากผขู้ ายสินคา้ ผซู้ ้ือจะตอ้ งทาการตรวจนบั สินคา้ คู่กบั ใบกากบั สินคา้ ที่ ผขู้ ายสินคา้ ส่งมาใหว้ า่ ถูกตอ้ งตรงตามที่สงั่ หรือไม่ เม่ือถูกตอ้ งแลว้ ก็ จดั ทาใบรับสินคา้ ส่งไปใหผ้ ขู้ ายสินคา้ ใบขอลดหนี้ หรือใบส่งคืน คือเอกสารท่ีผซู้ ้ือจดั ส่งใหผ้ ขู้ าย เพื่อแจง้ ใหท้ ราบวา่ ไดร้ ับ สินคา้ แลว้ ปรากฏวา่ สินคา้ ส่งมาไม่ตรงตามใบสง่ั ซ้ือ หรือสินคา้ ชารุด หรือคิดราคามากไป และผซู้ ้ือส่งคืนโดยไม่รับสินคา้ แลกเปลี่ยน ผขู้ ายอาจ ลดราคา ใหส้ าหรับสินคา้ ท่ีส่งคืน เมื่อผซู้ ้ือส่งคืนสินคา้ จะออกใบลดหน้ี หรือใบส่งคืน เมื่อผซู้ ้ือส่งคืนสินคา้ จากการซ้ือเป็นเงินสด จะไดร้ ับเงินสด คืน แต่ถา้ ซ้ือสินคา้ เป็นเงินเชื่อจะลดยอดเจา้ หน้ีการคา้
ใบหักหนี้ หรือใบรับคืน คือเอกสารที่ผขู้ ายออกใหผ้ ซู้ ้ือ เพื่อแจง้ วา่ ผขู้ าย ไดร้ ับคืนสินคา้ จากผซู้ ้ือ เน่ืองจากสินคา้ ชารุด หรือส่งไม่ ตรงตามใบสง่ั ซ้ือ หรือคิดราคามากไปโดยผขู้ ายอาจลดราคา สินคา้ ใหผ้ ซู้ ้ือ ในกรณีที่ผซู้ ้ือซ้ือสินคา้ เป็นเงินสดผขู้ ายจะส่ง เงินสดคืน แต่ถา้ ผซู้ ้ือ ซ้ือสินคา้ เป็นเงินเชื่อผขู้ ายจะลดหน้ี ใหก้ บั ผซู้ ้ือ และผขู้ ายจะออกใบลดหน้ี หรือใบรับคืนใหผ้ ู้ ซ้ือเป็นหลกั ฐานในการลดหน้ี ใบเสร็จรับเงนิ คือ เอกสารที่ผขู้ ายออกใหผ้ ซู้ ้ือ กรณีขายสินคา้ เป็น เงินสดหรือรับชาระหน้ีจากลูกคา้ ท่ีซ้ือสินคา้ เป็นเงินเช่ือหรือรับ ชาระหน้ีจากลูกหน้ีอื่น
ตวั อย่างใบขอซื้อ
ตวั อย่างใบส่ังซื้อ
ตวั อย่างใบกากบั สินค้า
ตวั อย่างใบรับสินค้า
ตวั อย่างใบขอลดหนี้ หรือ ใบส่งคืน
ตวั อย่างใบหักหนี้ หรือ ใบรับคืน
ตวั อย่างใบเสร็จรับเงิน
เงื่อนไขต่าง ๆ ในการซื้อขายสินค้า เงื่อนไขเกี่ยวกบั ส่วนลด (Discount) เป็นเงื่อนไขที่ ผขู้ ายใหส้ ่วนลดกบั ผซู้ ้ือเพือ่ เป็นการจูงใจใหผ้ ซู้ ้ือซ้ือสินคา้ คร้ังละ จานวนมากหรือจูงใจใหผ้ ซู้ ้ือชาระหน้ีโดยเร็ว เง่ือนไขเก่ียวกบั ส่วนลด แบ่งเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 5.1.1 ส่วนลดการคา้ (Trade Discount) เป็น ส่วนลดท่ีผขู้ ายกระตุน้ หรือจูงใจใหผ้ ซู้ ้ือ ซ้ือสินคา้ คร้ังละจานวน มาก ๆ โดยผขู้ ายต้งั เกณฑไ์ วเ้ พอ่ื ใหผ้ ซู้ ้ือตดั สินใจ เช่นซ้ือสินคา้ 5 ชิ้นข้ึนไปแถม 1 ชิ้น หรือซ้ือสินคา้ 500 บาทลด ให้ 5% แต่ถา้ ซ้ือสินคา้ ต้งั แต่ 501 – 1,000 บาทลดให้ 10% หรือ กาหนดอตั ราส่วนลดเป็นร้อยละจาก ราคาที่กาหนดไวใ้ นใบแสดงรายการสินคา้ ส่วนลดการคา้ ผขู้ ายจะ ลดใหผ้ ซู้ ้ือในขณะที่ซ้ือขายสินคา้ ผขู้ ายเรียกส่วนลดน้ีวา่ “ส่วนลด การคา้ ” ส่วนลดการคา้ น้ีจะไม่นามา บนั ทึกบญั ชี แต่จะนาไปหกั ออกจากราคาซ้ือขายสินคา้ เพ่ือหาราคา สุทธิท้งั ผซู้ ้ือและผขู้ ายจะบนั ทึกบญั ชีในราคาสุทธิ
ตวั อยา่ งท่ี 1.1 วนั ที่ 10 มกราคม 2555 ร้านโชคดีพาณิชย์ ซ้ือสินคา้ เป็น เงินสดจานวน 15,000 บาท ไดร้ ับส่วนลดการคา้ 5% การคานวณราคาค่าสินคา้ ราคาสินคา้ 15,000 บาท หกั ส่วนลดการคา้ 5 % ของราคาสินคา้ (15,000 x 5/100) 750 บาท ราคาสุทธิ 14,250 บาท
การนับวนั ครบกาหนดชาระหนี้ เม่ือผซู้ ้ือและผขู้ ายตกลงกนั ตามเงื่อนไขในการชาระ เงินค่าสินคา้ แลว้ ควรจะคานวณวนั ครบกาหนด เพื่อ ทางดา้ นผซู้ ้ือจะไดท้ ราบวนั ท่ีจะตอ้ งนาเงินไปชาระวนั ท่ี เท่าใด และจานวนเงินเท่าไรจะไดว้ างแผนการจดั หาเงิน และรักษาผลประโยชน์ของกิจการในเรื่องของส่วนลด เงินสด ส่วนดา้ นผขู้ ายจะไดท้ ราบวนั ที่จะไดร้ ับชาระเงิน ค่าสินคา้ จากผซู้ ้ือ หรือจะไดต้ ิดตามทวงถามไดถ้ ูกตอ้ ง ในเงื่อนไขอาจกาหนดวนั ครบกาหนดไวแ้ น่นอน เช่นวนั สิ้นเดือนกไ็ ม่ตอ้ งหาวนั ครบกาหนดแต่บางกรณีกาหนด เป็นวนั เช่น 30 วนั ,45 วนั , 60 วนั ควรจะหาวนั ครบ กาหนดไวล้ ่วงหนา้
การนบั วนั ครบกาหนด มีข้นั ตอนการคานวณดงั น้ี 1. นาวนั สุดทา้ ยของเดือนท่ีมีการซ้ือขายสินคา้ เป็นตวั ต้งั 2. นาวนั ท่ีมีการซ้ือขายสินคา้ เป็นตวั หกั 3. นาจานวนวนั ท่ียงั ขาดอยขู่ องเดือนถดั ไปมาบวกเขา้ ไป เรื่อย ๆ จนกวา่ จะครบกาหนดตามเง่ือนไขท่ีตกลง
ตวั อย่าง วนั ที่ 1 มีนาคม 2555 ขายสินคา้ ราคา 15,000 บาท เง่ือนไข 2/10, n/45 การคานวณวนั ครบกาหนด 1. วนั สุดทา้ ยของเดือนที่มีการขาย(เดือน มีนาคม) คือวนั ที่ 31 2. วนั ที่มีการขายสินคา้ (วนั ที่ 1 มีนาคม) 1 30 3. จานวนวนั ท่ีขาดอยู่ (เดือนเมษายน) 15 รวม 45 วนั วนั ท่ีครบกาหนดชาระเงินคา่ สินคา้ คือ วนั ท่ี 15 เมษายน 2555
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: