รายงานผลการดาเนนิ งาน โครงการการเรยี นรหู้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) วันท่ี 19 กุมภาพันธ์ 2564 ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่ประจาตาบลโพแตง หมูท่ ่ี 3 ตาบลโพแตง อาเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวนิภาพร โกษะ กศน.ตาบลโพแตง ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางไทร จังหวดั พระนครศรีอยุธยา ประจาปีงบประมาณ 2564 ไตรมาส 1-2
บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร ที่ ศธ ๐๒๑๐.๔๘๐๕/......... วนั ที่ ๑๖ เดือน เมษายน ๒๕๖๔ เรอื่ ง รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการการเรยี นรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) ............................................. ............................................................................................. ......................................... เรียน ผอู้ านวยการศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางไทร ตามท่ีผูอ้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร ไดอ้ นุมตั ิ โครงการการเรียนร้หู ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) กศน.ตาบลโพแตง ไดด้ าเนินการจดั โครงการการเรยี นรูห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตร ผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) ในวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบลโพแตง หมู่ท่ี ๓ ตาบลโพแตง อาเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรอี ยุธยา เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว มผี เู้ ขา้ ร่วมโครงการ จานวน ๑๑ คน เอกสารดงั แนบมาพรอ้ มนี้ จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ (นางสาวนิภาพร โกษะ) ครู กศน.ตาบล ทราบ อ่นื ๆ (นางสาวมุกดา แขง็ แรง) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอภาชี รักษาการในตาแหนง่ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอบางไทร
คานา เอกสาร รายงานผลการดาเนนิ งานโครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตร ผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล)น้ี จัดทาขึ้นเพื่อรายงานผลการดาเนินงานด้านการจัดการศึกษาต่อเนื่อง ของ กศน.ตาบลโพแตง ภายใต้การดูแลของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ือตรวจสอบขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม ประเมินผลและพัฒนาการดาเนินกิจกรรมของ ตาบลโพแตง ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารรายงานผลการดาเนินงานการจัดกิจกรรมในคร้ังนี้ จะเป็น แนวทางในการพัฒนางานและการจัดกจิ กรรมในครง้ั ตอ่ ไป คณะผจู้ ัดทา
สารบญั หน้า คานา สารบญั บทที่ 1 บทนา 1 เหตุผลและความจาเปน็ วัตถุประสงค์ ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกี่ยวข้อง 2 ความสาคัญของการจดั และสง่ กระบวนการเรียนรู้ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ท่มี าและความสาคัญของกจิ กรรม โคก หนอง นา โมเดล บทที่ 3 วธิ ีการดาเนนิ งาน 6 บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน 8 บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ 13 วัตถปุ ระสงค์การดาเนินงาน วิธดี าเนินการ อภปิ รายผล ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการพัฒนากจิ กรรม ภาคผนวก ภาพโครงการการเรียนร้หู ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน(โคก หนอง นา โมเดล) รายช่ือผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรม
บทท่ี 1 บทนา เหตผุ ลและความจาเป็น สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยมีนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จุดเน้นการดาเนินงาน ข้อที่ 1 น้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การ ปฏิบัติ ข้อ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชาโดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู“โคกหนองนาโมเดล”เพื่อ เป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่างๆทั้งดินน้าลมแดดรวมถึงพืชพั นธุต่างๆและส่งเสริมการใช้ พลังงานทดแทนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และภารกิจต่อเน่ือง ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ การศึกษาต่อเนื่อง 4) การจดั กจิ กรรมการเรียนรูตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรูตลอดชีวิตในรูปแบบต่างๆ ให้กบั ประชาชนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสามารถยืนหยัดอยู่ไดอย่างม่ันคงและมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่าง เหมาะสมตามทิศทางการพัฒนาประเทศสูความสมดุลและยั่งยืน กศน.อาเภอบางไทร เป็นหน่วยงานจัดกิจกรรม ได้เห็นความสาคัญของการสร้างการรับรู้ในเร่ืองหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) เพื่อให้ประชาชนได้นาไปปรับใช้ใน ชวี ิตประจาวัน จึงไดจ้ ัดโครงการนขี้ ้ึน วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ใหป้ ระชาชนทีเ่ ข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล)และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ 2. เพื่อใหป้ ระชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการสามารถเรียนรู้ และเข้าใจถึงวิธีการปลูกผักสวนครัว และการดูแล รักษา บารุงผักท่ีปลกู ได้ ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รับ ประชาชนทเ่ี ข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้และเข้าใจถึง วธิ ีการปลกู ผักสวนครัว และการดแู ลรกั ษา บารุงผักทปี่ ลกู ได้
บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ียวขอ้ ง การจัดและส่งเสรมิ กระบวนการเรยี นรู้ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) ไดเ้ สนอแนวคิด หลักการและเอกสารที่เก่ียวข้อง ตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ความสาคญั ของการจดั และสง่ กระบวนการเรยี นรตู้ ามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2. ท่ีมาและความสาคญั ของกิจกรรม 3. โคก หนอง นา โมเดล 1. ความสาคัญของการจัดและส่งกระบวนการเรยี นร้ตู ามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพ่ือให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงทง้ั ภายในภายนอก ทั้งน้ี จะตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งใน การนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้าง พื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าทข่ี องรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสานึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ท่ีเหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และ ความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เปน็ อยา่ งดี ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จึงประกอบด้วยคุณสมบตั ิ ดงั น้ี 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีท่ีไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและ ผู้อืน่ เชน่ การผลิตและการบริโภคทอี่ ยู่ในระดับพอประมาณ 2. ความมเี หตุผล หมายถงึ การตดั สนิ ใจเกีย่ วกบั ระดับความพอเพียงน้ัน จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดย พิจารณาจากเหตปุ ัจจัยที่เก่ียวข้อง ตลอดจนคานงึ ถึงผลทค่ี าดวา่ จะเกดิ ข้ึนจากการกระทานน้ั ๆ อยา่ งรอบคอบ 3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงด้านต่างๆ ท่ีจะเกิดขึ้น โดยคานงึ ถึงความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณ์ตา่ งๆ ที่คาดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต โดยมี เง่ือนไข ของการตดั สินใจและดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ให้อยใู่ นระดบั พอเพียง 2 ประการ ดังน้ี 1. เง่ือนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่างๆ ที่เก่ียวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่ จะนาความรู้เหล่านั้นมาพจิ ารณาให้เชอื่ มโยงกนั เพอ่ื ประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในการปฏิบัติ 2. เงอื่ นไขคุณธรรม ทจี่ ะตอ้ งเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความซ่ือสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชวี ิต
2. ท่ีมาและความสาคัญของกจิ กรรมเศรษฐกจิ พอเพียง การปลกู ผกั ปลอดสารพิษ พชื ผกั เป็นพชื อาหารทีค่ นไทยนิยมนา มาใชร้ ับประทานกันมากเน่ืองจากมีคุณค่าทางอาการทั้งวิตามินและ แร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูง แต่ค่านิยมในการบริโภคผักน้ัน มักจะเลือกบริโภคผักที่สวยงามไม่มี ร่องรอยการทา ลายของหนอนและแมลงศัตรูพืช จึงทา ให้เกษตรกรที่ปลูกผักจะต้องใช้สารเคมีป้องกันและกาจัด แมลงฉีดพ่นในปริมาณที่มาก เพื่อให้ได้ผักที่สวยงามตามความต้องการของตลาด เม่ือผู้ซ้ือนา มาบริโภคแล้วอาจ ได้รบั อันตรายจากสารพิษที่ตกค้างอยู่ในพืชผักนั้นได้เพ่ือเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว เกษตรกรจึงควรหันมา ทาการ ปลูกผักปลอกภัยจากสารพิษ โดยนา เอาวิธีการป้องกันและกา จัดศัตรูพืชหลายวิธีมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เป็นการ ทดแทนหรอื ลดปรมิ าณการใช้สารเคมใี หน้ อ้ ยลง เพ่อื ความปลอดภัยของเกษตรกร ผ้บู รโิ ภคและสิง่ แวดล้อม ข้อดขี องการปลกู ผกั ปลอดภัยจากสารพษิ 1. ทา ให้ได้พืชผักท่ีมคี ุณภาพ ไม่มสี ารพิษตกคา้ ง เกิดความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค 2. ช่วยใหเ้ กษตรกรผปู้ ลูกผักมีสขุ ภาพอนามยั ท่ีดีขึน้ เน่ืองจากไม่มีการฉดี พน่ สารเคมีป้องกันและกาจัด ศัตรพู ืช ทา ให้เกษตรกรปลอดภัยจากสารพิษเหล่าน้ีดว้ ย 3. ลดต้นทนุ การผลิตของเกษตรกรด้านคา่ ใชจ้ ่ายในการซื้อสารเคมีป้องกนั และกา จัดศตั รพู ืช 4. ลดปรมิ าณการนา เข้าสารเคมีป้องกันและกา จัดศตั รพู ืช 5. เกษตรกรจะมีรายได้เพ่ิมมากขึน้ เนือ่ งจากผลผลติ ท่ไี ด้มีคุณภาพ ทา ให้สามารถขายผลผลิตได้ในราคา สูงขึน้ 6. ลดปริมาณสารเคมีป้องกันและกา จดั ศตั รูพชื ที่จะปนเปื้อนเขา้ ไปในอากาศและนา้ ซงึ่ เป็นการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและลดมลพษิ ของสง่ิ แวดล้อมไดท้ างหนงึ่ 1. โคก หนอง นา โมเดล
แนวคิดการจดั การน้า \"โคก หนอง นา โมเดล\" น้ี เป็นการทาเกษตรในพื้นที่ขนาดจากัด หรอื ขนาดเล็ก เป็นการกักเก็บนา้ ไวท้ ง้ั บนดนิ (ด้วยหนอง คลองไส้ไก่ และคันนา) และใต้ดิน (ดว้ ยป่า 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อยา่ ง) ตามแนวพระราชดาริของในหลวง ร.9 โดยเฉพาะในพืน้ ทจ่ี ากดั อยา่ งน้อยเพยี ง 3 ไร่ หรอื แล้วแตข่ นาดของทด่ี นิ ตามสภาพความเหมาะสมก็ได้ เมอื่ ปี 2561 มแี บบมาตรฐาน โคก หนอง นา โมเดล จานวนประมาณ 40 แบบให้ กรมพฒั นาที่ดนิ ไวแ้ จกจา่ ยประชาชน ทง้ั 40 แบบ เป็นโมเดลต้นแบบสาหรบั ท่ดี นิ ขนาดแบบ 3 ไร่ 5 ไร่ หรอื 10- 15 ไร่ ท่ีเป็นโมเดลพน้ื ทีข่ นาดเลก็ มีองคป์ ระกอบดงั น้ี (1) โคก - ดินทีข่ ุดทาหนองน้าน้ันใหน้ ามาทาโคก บนโคกปลูก “ป่า 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดาริ - ปลูกพืช ผัก สวนครัว เล้ียงหมู เล้ียงไก่ เลยี้ งปลา ทาให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เปน็ เศรษฐกิจพอเพยี งขนั้ พืน้ ฐาน ก่อนเขา้ สูข่ นั้ กา้ วหน้า คอื ทาบุญ ทาทาน เก็บรกั ษา ค้าขาย และเชื่อมโยงเป็นเครอื ข่าย - ปลูกทีอ่ ยอู่ าศยั ใหส้ อดคล้องกบั สภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ (2) หนอง - ขดุ หนองเพ่ือกกั เกบ็ นา้ ไวใ้ ช้ยามหนา้ แลง้ หรอื จาเปน็ และเปน็ ที่รบั นา้ ยามน้าทว่ ม (หลุมขนมครก) - ขุด “คลองไส้ไก”่ หรือคลองระบายน้ารอบพื้นท่ีตามภูมปิ ัญญาชาวบา้ น โดยขุดให้คดเค้ียวไปตามพน้ื ทีเ่ พื่อใหน้ า้ กระจายเต็มพื้นทเี่ พ่ิมความชุ่มช้ืน ลดพลังงานในการรดน้าตน้ ไม้ - ทา ฝายทดน้า เพื่อเกบ็ น้าเข้าไว้ในพืน้ ทีใ่ หม้ ากที่สดุ โดยเฉพาะเม่อื พื้นท่ีโดยรอบไมม่ กี ารกกั เก็บน้า นา้ จะหลาก ลงมายังหนองน้า และคลองไสไ้ ก่ ให้ทาฝายทดนา้ เกบ็ ไวใ้ ช้ยามหนา้ แลง้ - พฒั นาแหล่งน้าในพ้นื ท่ี ทง้ั การขุดลอก หนอง คูคลอง เพือ่ กกั เก็บนา้ ไว้ใชย้ ามหน้าแลง้ และเพิ่มการระบายนา้ ยามน้าหลาก (3) นา - พนื้ ทีน่ าน้ันใหป้ ลูกขา้ วอนิ ทรียพ์ ื้นบา้ น โดยเร่ิมจากการฟื้นฟดู ิน ด้วยการทาเกษตรอนิ ทรยี ์ยง่ั ยืน คนื ชีวติ เลก็ ๆ หรือจุลินทรียก์ ลบั คนื แผ่นดนิ ใช้การควบคุมปรมิ าณน้าในนาเพือ่ คุมหญ้า ทาใหป้ ลอดสารเคมไี ด้ ปลอดภัยทัง้ คน ปลูก คนกนิ - ยกคันนาให้มีความสูงและกวา้ ง เพื่อใช้เป็นที่รับน้ายามนา้ ทว่ ม ปลกู พชื อาหารตามคันนา โดยความร่วมมอื ของ มลู นิธกิ สกิ รรมธรรมชาตแิ ละคณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั พระจอมเกลา้ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง จึงได้ มีการออกแบบพนื้ ที่กสิกรรมโดยอาศยั “โคก หนอง นา โมเดล” เปน็ แนวคิดหลักในการจัดการพ้นื ที่ ในบรเิ วณ พน้ื ทล่ี ่มุ น้าป่าสัก แหล่งนา้ ขนาดใหญท่ ี่สาคัญที่สดุ ของเมืองไทย
บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน ด้วย กศน.ตาบลโพแตง ได้จัดโครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) โดยยึดประชาชนในตาบลเป็นสาคัญ ทาให้เกิดเนื้อหาสาระ ระยะเวลาการจัดกิจกรรม สถานที่ และลกั ษณะกิจกรรมการเรยี นรู้ ทั้งนข้ี ้นึ อยู่กบั ศักยภาพและความพร้อมของประชาชนกลุ่มเป้าหมายซึ่ง เป็นการตอบสนองนโยบายของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซ่ึงได้ ดาเนนิ การ ดงั น้ี จัดโครงการการเรียนรู้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) (19 กุมภาพนั ธ์ 2564) สาระสาคญั เศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ปรชั ญาที่ช้แี นวทางการดารงชีวิต ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดชมพี ระราชดารสั แกช่ าวไทยนับตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2517 เป็นตน้ มาและถกู พดู ถึงอย่างชัดเจนในวันท่ี 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เพ่ือเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้สามารถดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนใน กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรชั ญาท่ยี ดึ หลกั ทางสายกลาง ท่ีชี้แนวทางการดารงอยแู่ ละปฏิบัติของประชาชนใน ทุกระดับให้ดาเนินไปในทางสายกลาง มีความพอเพียง และมีความพร้อมท่ีจะจัดการต่อผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะตอ้ งอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวัง ในการวางแผนและดาเนินการทุกข้ันตอน ท้ังน้ี เศรษฐกิจพอเพียงเป็นการดาเนินชีวิตอย่างสมดุลและย่ังยืน เพื่อให้สามารถอยู่ได้แม้ในโลกโลกาภิวัตน์ท่ีมีการ แขง่ ขันสงู วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหป้ ระชาชนที่เข้ารว่ มโครงการมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล)และสามารถนาความรไู้ ปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ 2. เพ่อื ใหป้ ระชาชนที่เข้าร่วมโครงการสามารถเรียนรู้ และเข้าใจถึงวิธีการปลูกผักสวนครัว และการดูแล รักษา บารุงผักทป่ี ลกู ได้
กิจกรรมทีด่ าเนนิ การ จดั กิจกรรมใหป้ ระชาชนกลมุ่ เปา้ หมายในตาบลโพแตง วิทยากรบรรยายความร้เู กย่ี วกับ บรรยายให้ความรู้เกย่ี วกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. บรรยายให้ความรู้เรือ่ งหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ โดย ครู กศน. ประจาตาบล 2. บรรยายใหค้ วามรู้เรอื่ ง ระบบเกษตรผสมผสาและ บรรยายให้ความรู้ เร่อื ง โคก หนอง นา โมเดล โดย ครู กศน.ประจาตาบล 3. สาธิตการปลูกผักสวนครัว และการดูแลบารุง รักษาและมีการติดตามผลผลิตเป็นระยะ โดย ครู กศน.ประจาตาบล ผลที่ได้รบั จากการดาเนนิ กิจกรรม ประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้และ เข้าใจถึงวธิ ีการปลกู ผักสวนครัว และการดแู ลรกั ษา บารุงผกั ท่ีปลกู ได้
บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน จากการสารวจความพึงพอใจ โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ จานวน 11 ฉบับ และได้รับ กลบั คนื มา จานวน 11 ฉบบั วเิ คราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม Excel ตามข้ันตอนตา่ ง ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. วเิ คราะหข์ ้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี 1 โดยแจกแจงความถีแ่ ละค่าร้อยละ 2. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนที่ 2 โดยหาค่าเฉล่ีย (X ) แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ ให้ระดับคะแนนในแบบสอบถามที่เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของ เบสท์ (Best. 1981 :182) ดังน้ี 4.51–5.00 หมายถงึ ความพึงพอใจอย่ใู นระดับดมี าก 3.51–4.50 หมายถึงความพึงพอใจอยใู่ นระดบั ดี 2.51–3.50 หมายถงึ ความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง 1.51–2.50 หมายถงึ ความพึงพอใจอยู่ในระดับพอใช้ 1.00–1.50 หมายถึงความพงึ พอใจอยู่ในระดับปรับปรุง 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนที่ 3 ข้อมูลท่ีเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (RatingScale) โดย หาค่าเฉล่ีย ( X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็น ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคาตอบและหาคา่ ความถ่ี สรุปผลการประเมินความพึงพอใจ กิจกรรมการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงโครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล)ที่เข้าร่วม โครงการดงั นี้
ขอ้ มูลพื้นฐานของผู้ประเมินความพงึ พอใจ ตารางที่1 ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จาแนกตาม เพศ อายุ วุฒิการศึกษา และอาชพี เพศ ข้อมูลทั่วไป จานวน ร้อยละ อายุ ชาย 7 63.64 การศกึ ษา หญิง 4 36.36 อาชีพ ต่ากวา่ 15 ปี 0 0.00 15-29 ปี 0 0.00 30-39 ปี 2 18.18 40-49 ปี 1 9.09 50-59 ปี 5 45.45 60 ปีขึน้ ไป 3 27.27 ต่ากวา่ ป.4 0 0.00 ป.4 4 36.36 ประถมศกึ ษา 1 9.09 มธั ยมศึกษาตอนต้น 0 0.00 มัธยมศึกษาตอนปลาย 1 9.09 อนปุ ริญญา 4 36.36 ปริญญาตรี 1 9.09 สูงกวา่ ปริญญาตรี 0 0.00 รับจ้าง 3 27.27 คา้ ขาย 2 18.18 เกษตรกรรม 2 18.18 รบั ราชการ 0 0.00 อื่น ๆ(แมบ่ า้ น) 4 36.36 จากตารางท่ี 1 แสดงจานวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 11 คน เป็นเพศชาย จานวน 7 คน (คิดเป็นร้อยละ63.64) เปน็ เพศหญิง จานวน 4 คน (คดิ เป็นร้อยละ 36.36) - ดา้ นอายุ พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถาม ชว่ งอายุ 50-59 ปี มากทสี่ ุดจานวน 5 คน (คิดเป็นร้อยละ45.45) รองลงมาช่วงอายุ 60 ปขี น้ึ ไป จานวน 3 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 27.27) รองลงมาช่วงอายุ 30 - 39 ปี จานวน 2 คน (คิดเป็นร้อยละ 18.18) และชว่ งอายุ 40-49 ปี จานวน 1 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 9.09) ตามลาดบั - ด้านการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาระดับ ป.4 มากท่ีสุด จานวน 4 คน (คิดเป็นร้อย ละ 36.36) และระดับอนปุ รญิ ญาตรี จานวน 4 คน (คดิ เป็นรอ้ ยละ 36.36) รองลงมาระดับ ม.ต้น จานวน 1 คน
(คิดเป็นร้อยละ 9.09) และระดับ ม.ปลาย จานวน 1 คน (คิดเป็นร้อยละ 9.09) และระดับ ป.ตรี จานวน 1 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 9.09) ตามลาดบั - ด้านอาชีพ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีอาชีพอื่นๆ (แม่บ้าน / พ่อบ้าน)มากที่สุด จานวน 4 คน (คิดเป็นร้อยละ 36.36) รองลงมาคืออาชีพรับจ้าง จานวน 3 คน (คิดเป็นร้อยละ 27.27) รองลงมาอาชีพค้าขาย จานวน 2 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 18.18) และอาชพี เกษตรกรรม จานวน 2 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 18.18) ตามลาดับ สรปุ ผลการประเมินความพึงพอใจโครงการการเรียนร้หู ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) ของตาบลทีเ่ ข้ารว่ มโครงการไดด้ งั น้ี แบบประเมินความพึงพอใจ มี 4 ดา้ น ความพึงพอใจที่มตี ่อโครงการโดยรวมและแยกเปน็ รายด้าน รายการประเมนิ ผลการประเมนิ 1. ความพงึ พอใจด้านเน้อื หา ความหมาย X 4.44 ดี 2. ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม 4.45 ดี 3. ความพึงพอใจต่อวิทยากร 4.47 ดี 4. ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก 4.48 ดี รวม 4.46 ดี จากตารางที่ 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการ โดยรวมและรายด้าน อยู่ใน ระดบั ดี ทุกรายการ เมื่อพิจารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ อันดับหนงึ่ คือ ความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวก รองลงมาความพึงพอใจต่อวิทยากรรองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมและด้านความ พงึ พอใจด้านเนื้อหาตามลาดับ ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจด้านเน้ือหา รายการประเมิน ผลการประเมนิ 1. เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ X ความหมาย 4.44 ดี 2. เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ 4.44 ดี 3. เน้ือหาปัจจบุ ันทันสมัย 4.44 ดี 4. เน้ือหามปี ระโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพชวี ิต 4.45 ดี รวม 4.44 ดี จากตอนท่ี 1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการความพึงพอใจด้านเน้ือหาโดยรวม และรายดา้ นอยู่ในระดับ ดี เมือ่ พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนงึ่ คือ เนอื้ หามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตรองมาอันดับสองสามและส่ี เท่ากัน คือ เนื้อหาตรงตามความต้องการ/เน้ือหาเพียงพอต่อความ ต้องการ/และเน้ือหาปัจจบุ นั ทันสมัยตามลาดบั
ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ผลการประเมิน X ความหมาย รายการประเมนิ 4.45 ดี 4.44 ดี 1. การเตรียมความพร้อมก่อนอบรม 4.46 ดี 2. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ 4.45 ดี 3. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 4.45 ดี 4. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 4.45 ดี 5. วธิ ีการวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ รวม จากตอนท่ี 2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมโดยรวมและ รายด้านอยู่ในระดับ ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือการจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลาอันดับ สองสามและสี่ คือการจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย/วธิ ีการวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์/ การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นอบรมอนั ดบั หา้ คือ การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ตามลาดบั ตอนที่ 3 ความพึงพอใจต่อวิทยากร ผลการประเมิน X ความหมาย รายการประเมิน 4.47 ดี 4.47 ดี 1. วิทยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเรื่องที่ถา่ ยทอด 4.47 ดี 2. วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใชส้ ื่อเหมาะสม 4.47 ดี 3. วทิ ยากรเปดิ โอกาสให้มีสว่ นรว่ มและซักถาม รวม จากตอนท่ี 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อวิทยากรโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งสองและสาม คือวิทยากรมีความรู้ความสามารถในเร่ืองท่ีถ่ายทอด/ วทิ ยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใชส้ ือ่ เหมาะสม/วทิ ยากรเปดิ โอกาสใหม้ ีส่วนรว่ มและซักถามตามลาดับ ตอนที่ 4ความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวก ผลการประเมิน X ความหมาย รายการประเมิน 4.48 ดี 4.47 ดี 1. สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก 4.49 ดี 2. การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพือ่ ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ 4.48 ดี 3. การบรกิ าร การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ัญหา รวม
จากตอนที่ 4พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวกโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งสอง คือการบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา อันดับสอง คือ สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก และอันดับสาม คือ การส่ือสาร การสร้าง บรรยากาศเพ่ือให้เกดิ การเรียนรู้ตามลาดับ
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ผลการดาเนินโครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) ที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินผลความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการที่มีต่อ โครงการโดยรวมและแยกเป็นรายด้าน โดยใช้แบบสอบถามจานวน 11 ฉบับ เครื่องมือท่ีใช้เป็นแบบสอบถามท่ี เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะหข์ ้อมลู โดยหาคา่ เฉล่ีย (X ) แปลความหมายขอ้ มูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลท่ีเป็นความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคาตอบ และ หาค่าความถ่ี สรุปผลการประเมินความพึงพอใจ จากแบบประเมินความพึงพอใจสรปุ ผลได้ ดังนี้ 1. ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการความพึงพอใจด้านเน้ือหา โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับ ดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือ เน้ือหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพชีวิตรองมาอันดับสองสามและสี่ เท่ากัน คือ เนื้อหาตรงตามความต้องการ/เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ/ และเนอ้ื หาปจั จบุ ันทนั สมัย ตามลาดับ 2. ผตู้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มตี ่อโครงการ โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับ ดี ทุกรายการ เม่ือพิจารณาเปน็ รายข้อ พบว่า อนั ดบั หน่ึงคือ ความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวกรองลงมาความพึง พอใจต่อวิทยากร รองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม และด้านความพงึ พอใจด้าน เนือ้ หาตามลาดับ 3. ผตู้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจตอ่ วิทยากรโดยรวมและรายดา้ นอยใู่ นระดบั ดี เม่ือพิจารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า อนั ดบั หนงึ่ สองและสาม คอื วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรือ่ งทถี่ า่ ยทอด/วทิ ยากรมีเทคนิคการ ถา่ ยทอดใชส้ อ่ื เหมาะสม/วทิ ยากรเปดิ โอกาสใหม้ ีส่วนรว่ มและซกั ถามตามลาดบั 4. ผตู้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวกโดยรวมและรายด้านอยใู่ นระดับดี เม่ือพจิ ารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า อันดบั หนงึ่ สอง คือการบรกิ าร การช่วยเหลือและการแกป้ ัญหา อนั ดับสอง คอื สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และสง่ิ อานวยความสะดวก และอนั ดับสาม คอื การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพอื่ ให้ เกดิ การเรยี นรู้ตามลาดบั
ผลการดาเนนิ งาน ร้อยละ 80 ประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับการดาเนินชีวิตตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนาความรู้ไปใช้ใน ชีวติ ประจาวันได้และเขา้ ใจถึงวิธีการปลูกผกั สวนครัว และการดูแลรักษา บารุงผกั ท่ีปลูกได้ ปัญหาและอปุ สรรคในการปฏบิ ตั งิ าน - ขอ้ เสนอแนะ -
ภาคผนวก
ภาพการจดั กจิ กรรม โครงการการเรียนรหู้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเกษตรผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล) ระหวา่ งวนั ท่ี 19 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ณ ศนู ย์เรยี นรปู้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎใี หมป่ ระจาตาบลโพแตง อาเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: