Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book-เศรฐกิจพอเพียงตำบลโพแตง

E-book-เศรฐกิจพอเพียงตำบลโพแตง

Published by haningnipaporn, 2021-07-08 03:39:07

Description: E-book-เศรฐกิจพอเพียงตำบลโพแตง

Search

Read the Text Version

บนั ทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอบางไทร ที่ ศธ ๐๒๑๐.๔๘๐๕/๒๑๖๓ วันที่ ๕ เดือน กรกฎาคม ๒๕๖๔ เรื่อง รายงานผลการดาเนินงานโครงการการอบรมการเรียนรหู้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอรี่) ............................................................................................................................. ....................................................... เรยี นผู้อานวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางไทร ตามที่ผู้อานวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางไทรได้อนมุ ตั ิโครงการ การอบรมการเรียนรู้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขอื เทศเชอร)่ี กศน.ตาบลโพแตง ได้ดาเนนิ การจัดโครงการการอบรมการเรียนรู้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอรี่) วนั ท่ี ๑๑ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ ณ ศนู ย์เรยี นรปู้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตร ทฤษฎใี หม่ประจาตาบลโพแตง หม่ทู ่ี ๓ ตาบลโพแตง อาเภอบางไทร จังหวดั พระนครศรีอยุธยา มีผูเ้ ข้าร่วม โครงการ จานวน ๔ คน เอกสารดังแนบมาพร้อมน้ี จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบ (นางสาวนภิ าพร โกษะ) ครู กศน.ตาบล ทราบ อนื่ ๆ (นางสาวฐติ ิพร พาสี) หัวหนา้ งานการศกึ ษาต่อเนอื่ ง (นางสาวมกุ ดา แขง็ แรง) ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอภาชี รักษาการในตาแหน่ง ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอบางไทร

คานา เอกสาร รายงานผลการดาเนินงานโครงการการอบรมการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่ี) นี้ จัดทาขึ้นเพื่อรายงานผลการดาเนินงานด้านการจัดการศึกษาต่อเนื่อง ของ กศน.ตาบล ภายใต้การดูแลของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ือตรวจสอบขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม ประเมินผลและพัฒนาการดาเนินกิจกรรมของ ตาบล โพแตง ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารรายงานผลการดาเนินงานการจัดกิจกรรมในคร้ังนี้ จะเป็น แนวทางในการพฒั นางานและการจดั กจิ กรรมในครั้งต่อไป คณะผจู้ ัดทา

สารบญั หน้า คานา สารบญั บทท่ี 1 บทนา 1 เหตผุ ลและความจาเป็น 1 วัตถปุ ระสงค์ 2 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3 ความสาคญั ของการจัดและส่งกระบวนการเรยี นรู้ 3 ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ทีม่ าและความสาคัญของกิจกรรม 4 บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน 5 บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน 10 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ 15 วัตถุประสงค์การดาเนินงาน 15 วิธีดาเนนิ การ 15 อภิปรายผล 15 ขอ้ เสนอแนะ และแนวทางในการพฒั นากิจกรรม 16 ภาคผนวก ภาพโครงการการอบรมการเรียนรหู้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลกู มะเขือเทศเชอร)ี่ แบบประเมินความพงึ พอใจ รายช่ือผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม

บทที่ 1 บทนา เหตุผลและความจาเป็น สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยมีนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จุดเน้นการดาเนินงาน ข้อที่ 1 น้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การ ปฏิบัติ ข้อ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชาโดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู“โคกหนองนาโมเดล”เพื่อ เป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่างๆท้ังดินน้าลมแดดรวมถึงพืชพันธุ ต่างๆและ ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ และภารกิจต่อเนื่อง ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ การศึกษาต่อเน่ือง 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรูตลอด ชีวิตในรูปแบบต่างๆให้กับประชาชนเพ่ือเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสามารถยืนหยัดอยู่ได อย่างม่ันคงและมีการบริหาร จัดการความเสยี่ งอย่างเหมาะสมตามทศิ ทางการพฒั นาประเทศสูความสมดุลและยงั่ ยืน มะเขือเทศเชอรี่เป็นพืชที่มีคุณประโยชน์ทางด้านสารอาหาร ช่วยบารุงสุขภาพ มะเขือเทศเชอร่ีอุดมไป ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น สารต้านอนุมูลอิสระไลโคปีน (Lycopene)มีสารฟลาโวนอยด์(Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีวิตามินเอ และวิตามินอ่ืน ๆ เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 รวมถึงแร่ธาตุอย่าง แคลเซียม ฟอสฟอรัส และอื่น ๆ อีกมาก ทาให้มะเขือเทศเชอร่ี เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ย่ิงกว่าผักหลาย ๆ ชนิด ท้ังช่วยบารุงสายตา บารุงเซลล์และสารส่ือประสาท รับประทาน แล้วร่างกายสดช่ืน ห่างไกลจากการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่ีมักเกิดข้ึนตามฤดูกาลได้ เช่น อาการไอหรือไข้หวัด เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหน่ึงตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ อีกท้ังมะเขือเทศเชอรี่ยังเป็นพืชท่ีตลาดมีความ ต้องการอยตู่ ลอดเวลา ถอื เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนดิ หน่งึ กศน.อาเภอบางไทร ได้เห็นความสาคัญของการสร้างการรับรู้ในเรื่องหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่)ี เพื่อใหป้ ระชาชนไดน้ าไปปรับใชใ้ นชวี ิตประจาวัน จงึ ไดจ้ ดั โครงการนี้ข้ึน วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือใหป้ ระชาชนทเี่ ข้ารว่ มโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่ี)สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันและสามารถนาไปต่อยอด เพอ่ื เป็นอาชีพเสริมได้ 2. เพื่อให้ประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการสามารถเรียนรู้ และเข้าใจถึงวิธีการปลูกมะเขือเทศเชอรี่และการ ดูแลรักษา บารุงมะเขือเทศเชอรท่ี ่ปี ลกู และสามารถถ่ายทอดความรู้ทีไ่ ด้ให้กบั คนในครอบครวั หรอื คนอื่นท่ีสนใจได้

ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ บั - ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่ี)สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันและสามารถนาไปต่อยอด เพ่ือเป็นอาชพี เสรมิ ได้ - ประชาชนท่เี ขา้ รว่ มโครงการสามารถเรียนรู้ และเข้าใจถึงวิธีการปลูกมะเขือเทศเชอร่ีและการดูแลรักษา บารุงมะเขอื เทศเชอรท่ี ่ีปลูกและสามารถถ่ายทอดความรทู้ ไ่ี ด้ให้กับคนในครอบครัว หรอื คนอ่ืนทส่ี นใจได้

บทท่ี 2 เอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง การจัดและสง่ เสรมิ กระบวนการเรยี นรูต้ ามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการการอบรมการเรยี นรู้ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอรี่) ได้เสนอแนวคิด หลักการและเอกสารทีเ่ กย่ี วข้อง ตามลาดบั ดังต่อไปนี้ 1. ความสาคญั ของการจดั และสง่ กระบวนการเรยี นรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2. ท่มี าและความสาคัญของกิจกรรม 1. ความสาคญั ของการจัดและส่งกระบวนการเรียนรู้ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพ่ือให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจาก การเปลย่ี นแปลงท้งั ภายในภายนอก ทง้ั นี้ จะตอ้ งอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงใน การนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้าง พืน้ ฐานจติ ใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจา้ หนา้ ทีข่ องรฐั นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสานึกในคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ท่ีเหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และ ความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จึงประกอบด้วยคณุ สมบตั ิ ดงั นี้ 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีท่ีไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและ ผอู้ ืน่ เช่น การผลิตและการบริโภคท่ีอยู่ในระดบั พอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงน้ัน จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดย พจิ ารณาจากเหตุปจั จัยทเี่ กย่ี วขอ้ ง ตลอดจนคานงึ ถึงผลทค่ี าดว่าจะเกิดข้นึ จากการกระทานั้นๆ อย่างรอบคอบ 3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ท่ีจะเกิดข้ึน โดยคานึงถงึ ความเป็นไปไดข้ องสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดข้นึ ในอนาคต โดยมี เงอ่ื นไข ของการตัดสนิ ใจและดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ ให้อย่ใู นระดบั พอเพียง 2ประการ ดังน้ี 1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่ี จะนาความรู้เหล่านัน้ มาพิจารณาใหเ้ ชือ่ มโยงกัน เพ่อื ประกอบการวางแผนและความระมัดระวงั ในการปฏิบัติ 2. เงอ่ื นไขคุณธรรม ทีจ่ ะตอ้ งเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความซ่ือสัตย์สุจริต และมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนนิ ชวี ติ

2. ที่มาและความสาคัญของกิจกรรมเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นกรอบแนวคดิ ซ่งึ มุ่งให้ทกุ คนสามารถพ่ึงพาตวั เองได้ รวมถึงการพัฒนาใหด้ ยี ิ่งข้ึน จนเกิดความย่งั ยนื คาว่า พอเพยี ง คือ การดาเนนิ ชีวติ แบบทางสายกลาง โดยตัง้ อยูบ่ นหลกั สาคญั 3 ประการ คือ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล และการมภี ูมิคุ้มกนั ท่ดี ี ความพอประมาณ คือ การดารงชวี ิตใหเ้ หมาะสม ซ่งึ เราควรจะมีความพอประมาณท้ังการหารายได้ และพอประมาณในการ ใชจ้ ่าย ความพอประมาณในการหารายได้ คือ ทางานหารายไดด้ ้วยช่องทางสจุ ริต ทางานใหเ้ ตม็ ความสามารถ ไม่ เบียดเบียนผอู้ นื่ ส่วนความพอประมาณในการใชจ้ ่าย หมายถงึ การใช้จา่ ยใหเ้ หมาะกับฐานะความเป็นอยู่ ไม่ใช้จ่าย ฟุม่ เฟือยหรือใช้จา่ ยเกินตัว และในขณะเดยี วกัน ก็ใช้จา่ ยในการดแู ลตนเอง และครอบครัวอย่างเหมาะสม ไม่อยู่ อยา่ งลาบาก และฝืดเคืองจนเกนิ ไป ความมเี หตุผล ไมว่ า่ จะเป็นการทาธุรกิจ หรือการดารงชีวิตประจาวนั เราจาเปน็ ตอ้ งมีการตัดสนิ ใจตลอดเวลา ซ่ึงการ ตัดสนิ ใจที่ดี ควรต้งั อยู่บนการไตร่ตรองถึงเหตุ รวมท้ังคานงึ ถงึ ผลทอี่ าจตามมาจากการตดั สินใจอย่างรอบคอบ ไมใ่ ชต่ ัดสนิ ใจตามอารมณ์ หรือจากส่ิงที่คนอ่ืนบอกมาโดยปราศจากการวิเคราะห์ การมภี ูมคิ ุ้มกันท่ดี ี คือ การเตรียมตัวให้พร้อมรับกับความเปล่ียนแปลง ในโลกท่ีไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งสภาพลม ฟ้า อากาศที่ ไมเ่ ออ้ื อานวยตอ่ การทาเกษตร การเปล่ียนแปลงในบริษัทคู่ค้า การเลิกจ้างพนักงานในบริษัทใหญ่ หรือแม้แต่ความ ไม่แน่นอนของสถานการณ์ท้ังในและต่างประเทศที่มีผลต่อการลงทุน เราจึงจาเป็นต้องเรียนรู้ที่จะดารงอยู่ได้ด้วย การพึ่งพาตนเอง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ เช่น เตรียมแผนสารองสาหรับแต่ละสถานการณ์ การมี รายได้หลายทางเพื่อลดความเส่ียงในวันที่ถูกเลิกจ้าง หรือการกระจายความเส่ี ยงในการลงทุน โดยการดารงชีวิตตามหลักการท้ังสามข้อน้ัน จาเป็นต้องมีความรู้และคุณธรรมประกอบด้วย ความรู้ช่วย สร้างภูมิคมุ้ กนั ทเ่ี หมาะสม เช่น ความรู้ในการประกอบวิชาชีพช่วยให้ธุรกิจและการงานเจริญก้าวหน้า หรือความรู้ ในการลงทุนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้นักลงทุน ทั้งน้ี ความรู้และประสบการณ์ จะช่วยทาให้เราตัดสินใจได้อย่างเป็น เหตุเปน็ ผล ถงึ แม้วา่ พืน้ ฐานความคดิ และประสบการณ์ที่แตกต่างกันอาจทาให้เหตุผลของแต่ละคนน้ันแตกต่างกัน แต่หากทุกคนยึดมั่นอยู่ในหลักคุณธรรม ก็จะทาให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่างสงบสุข อย่างที่กล่าวมาข้างต้น การพ่ึงพาตัวเองได้เป็นเพียงส่วนเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเม่ือ ทกุ คนสามารถดูแลตัวเอง และครอบครัวได้แล้ว ข้ันต่อไปอาจทาการพัฒนาธุรกิจ โดยมีการรวมกลุ่มกันในวิชาชีพ เดียวกัน เพื่อแลกเปล่ียนความรู้และให้ความช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน ในการรวมกลุ่มกันน้ัน ไม่จากัดเฉพาะการ รวมกลุ่มของชาวบ้าน เกษตรกร ในรูปของสหกรณ์ การทางานในเมืองก็สามารถมีการรวมกลุ่มกันได้ เช่น การ แบง่ ปนั ความรู้ ประสบการณ์ในการทาธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน การแลกเปล่ียนแนวคิดการลงทุน เพื่อ เป็นการต่อยอดความรู้ รวมไปจนถึงการแบ่งปันความช่วยเหลือส่งกลับคืนสู่สังคม ไปสู่กลุ่มท่ียังต้องการความ ช่ ว ย เ ห ลื อ อ ยู่ เ ช่ น กิ จ ก ร ร ม จิ ต อ า ส า เ พ่ื อ ส ร้ า ง สั ง ค ม ท่ี เ ข้ ม แ ข็ ง แ ล ะ อ ยู่ ร่ ว ม กั น อ ย่ า ง ส ง บ สุ ข

จะเหน็ ได้ว่า แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงนนั้ เป็นแนวคิดที่ต้ังอยู่บนความไม่ประมาท ด้วยการใช้ความรู้และ คณุ ธรรม เพื่อใหเ้ กิดการพึ่งพาตัวเองได้ และเผ่ือแผ่ไปถึงสังคม ซ่ึงเราสามารถนาหลักการปฏิบัติไปปรับใช้ได้ท้ังใน ชีวติ การทางาน และการดารงชีวิต วธิ ีการปลูกมะเขือเทศเชอร่ี (Cherry Tomato ) มะเขือเทศเชอรี่ (Cherry Tomato ) มะเขือเทศเชอรี่หวานเป็นมะเขือเทศสาหรับรับประทานสด ผลมี ขนาดเล็กพอดีคา มีรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย เน้ือเนียนฉ่า รสชาติกลมกล่อม เป็นแหล่งของคาโรนีนอยด์ และ โปแทสเซียม อุดมด้วยวิตามนิ ซีและวติ ามินอี สภาพแวดล้อมทเี่ หมาะสม อณุ หภมู ิมอี ิทธพิ ลตอ่ การติดและการพัฒนาของผล อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 15 – 25 องศาเซลเซียส มะเขือเทศสามารถเจริญได้ดีในดินที่ร่วนซุย มีหน้าดินลึก ระบายน้าได้ดี มีอินทรีย์วัตถุ สูง pH 6.0 – 6.8 ข้อสาคัญพื้นท่ีปลูกไม่ควรปลูกซ้ากับพืชชนิดอ่ืนในตระกูลเดียวกัน เพราะเป็นแหล่งสะสมโรค แมลง วิธกี ารปลกู มะเขอื เทศ 1. เริม่ จากเตรียมกระถาง กระบะ หรอื ภาชนะทม่ี ีความลกึ อยา่ งนอ้ ย 30 เซนติเมตร 2. ผสมดินสาหรับปลูก โดยใช้ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และแกลบดา 1 ส่วน ผสมส่วนผสม ทง้ั หมดลงดิน แลว้ ใสล่ งในกระถาง 3. เพาะเมลด็ มะเขือเทศด้วยวัสดุเพาะ เช่นพีทมอส หรือวัสดุท่ีเหมาะต่อการเพาะกล้า โดยทาการหยอด เมลด็ ลงถาดหลุมรดน้าให้ชมุ่ ย้ายกล้าเมอ่ื มีใบแท้ 4-5 ใบ หรืออายุไมเ่ กนิ 25-30 วัน 4. เมื่อต้นกล้าอายุ 30 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือภาชนะท่ีเตรียมไว้ ถ้าปลูกลงแปลงควรใช้ระยะ ระหว่างต้นและแถวประมาณ 50 x 70 เซนติเมตร การให้น้า: มะเขือเทศเป็นพืชที่ต้องการน้าสม่าเสมอต้ังแต่เริ่มปลูกไปจนถึงผลเริ่มแก่(ผลเปล่ียนสี) หลังจากนั้นควรลดการใหน้ า้ ลงมฉิ ะนน้ั อาจทาใหผ้ ลแตกได้ การให้ปุ๋ย : ครั้งท่ี 1หลังปลูก7-15 วัน ใช้ปุ๋ย 15-15-15 หรือ 46-0-0 อัตรา 25 กรัม/ตรม. เพื่อเร่งการ เติบโต ครั้งท่ี 2 หลังจากใส่ปุ๋ยคร้ังแรก 15 วัน ใส่ปุ๋ย 13-13-21 อัตรา 50 กรัม/ตรม. ครั้งที่ 3 หลังจากใส่ปุ๋ย คร้งั ท่ี 2 15 วัน ใสป่ ยุ๋ 0-0-60 อัตรา 30 กรมั /ตรม.

การเก็บเกี่ยว : ช่วงเก็บเก่ียว เมื่อมีอายุประมาณ 60 วัน (หลังย้ายปลูก) เก็บเก่ียวเมื่ออายุเหมาะสม โดย ใชก้ รรไกรตัดก้านผลใหเ้ หลือกา้ นยาวประมาณ 5 มลิ ลเิ มตร ควรเก็บผลท่มี ีสเี ขยี วปนเหลืองหรือชมพู (Pink stage) 6 คณุ ประโยชน์ของมะเขอื เทศเชอรี่ 1. บารุงสุขภาพและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ มะเขือเทศเชอร่ีอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและ แรธ่ าตุต่าง ๆ ทม่ี ีประโยชน์ต่อรา่ งกาย ยกตวั อยา่ งเชน่ - สารต้านอนุมูลอิสระไลโคปีน(Lycopene) นอกจากจะช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ทาให้ผิวพรรณ เปล่งปล่ัง ดูสุขภาพดีแล้ว ยังช่วยลดอัตราความเจ็บป่วยในโรคมะเร็งตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ยกตัวอย่าง เชน่ มะเร็งต่อมลกู หมากในเพศชาย หรือมะเรง็ ปากมดลกู ในเพศหญงิ - มีสารฟลาโวนอยด(์ Flavonoid) ซงึ่ มคี ณุ สมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ท่ีสาคัญยังช่วยลดไขมันที่อุดตัน ในเส้นเลือด ทาใหเ้ ซลลแ์ ละหลอดเลอื ดมีความแขง็ แรง - มวี ติ ามินเอ และวิตามินอ่ืน ๆ เชน่ วิตามนิ บี1 วติ ามินบี2 รวมถึงแรธ่ าตอุ ย่าง แคลเซยี ม ฟอสฟอรัส และ อื่น ๆ อกี มาก ทาใหม้ ะเขือเทศเชอร่ีเปน็ ผลไมท้ มี่ ีประโยชนย์ ่ิงกวา่ ผกั หลาย ๆ ชนิด ทั้งช่วยบารุงสายตา บารุงเซลล์ และสารส่ือประสาท รับประทานแล้วร่างกายสดชื่น ห่างไกลจากการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่ีมักเกิดข้ึนตาม ฤดกู าลได้ เช่น อาการไอหรือไขห้ วดั เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอกี หนง่ึ ตัวชว่ ยเสริมภมู ิคมุ้ กันให้รา่ งกายไดน้ ั่นเอง 2. ช่วยเร่ืองความงาม เพราะมะเขือเทศเชอร่ีนั้นมีแร่ธาตุและสารอาหารต่าง ๆ ท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบภายในรา่ งกายของเราที่จะได้รับสารอาหารดังกล่าวไปเต็ม ๆ นั่นจึงไม่ใช่เร่ืองแปลกที่เม่ือร่างกาย แข็งแรงสมบูรณ์จากภายในก็จะส่งผลอย่างต่อเนื่องออกมาสู่รูปลักษณ์ภายนอก ท้ังผิวพรรณที่ดี แข็งแรงทนทาน จากแสงแดด มีความยดื หยุ่นและอ่อนกว่าวัย ใครท่ีเบื่อรับประทานมะเขือเทศเชอรี่ก็ยังคงสามารถได้รับประโยชน์ ด้านการเสริมความงามได้เช่นเดียวกัน เช่น การนามะเขือเทศเชอร่ีมาหมักกับเส้นผม ช่วยให้เส้นผมนุ่มเงางาม รวมถึงนามาเป็นวัตถุดิบหลักในการพอกผิวหน้าและผิวกาย รวมไปถึงเป็นส่วนผสมของสครับท่ีปลอดภัยสาหรับ ผวิ หนงั โดยไมต่ ้องกังวลเร่ืองสารเคมีไดน้ ั่นเอง 3. เปน็ ผงชรู สธรรมชาติที่ขาดไมไ่ ดใ้ นเมนสู ขุ ภาพ ไม่ว่าจะเป็นเมนูสลดั เครื่องเคียงนา้ พรกิ ไปจนถงึ เมนู นานาชาติอื่น ๆ รสชาตขิ องมะเขือเทศเชอร่ีสามารถเรียกน้ายอ่ ย ช่วยเพม่ิ สีสันและความอยากอาหารไดเ้ ป็นอย่างดี โดยเฉพาะประเทศไทยทีค่ นนิยมอาหารประเภทยา หรอื ส้มตา มะเขือเทศทีเ่ ป็นองค์ประกอบหลักทม่ี กั จะโดนเขี่ย ไว้ข้างจานเปน็ ประจาเพราะรสชาติไม่ถูกปาก แต่ผูป้ ระกอบการไดห้ ันมาเอาใจผบู้ ริโภคด้วยการนามะเขือเทศเชอร่ี ทม่ี ีรสชาติถูกปากมากกว่ามาทดแทน แมร้ าคาสงู กวา่ แตร่ สชาตกิ ลับอรอ่ ยและทานไดง้ ่าย ทัง้ ช่วยชรู สชาตแิ ละได้ ทานอาหารที่มปี ระโยชน์ไปพรอ้ ม ๆ กันเลยทเี ดยี ว 4. เป็นเครื่องด่ืมท่ีเรียกความสดช่ืน กระปรี้กระเปร่า มะเขือเทศเชอรี่สด ๆ นามาทาเป็นเครื่องด่ืมเพื่อ สุขภาพและรับประทานไดง้ ่ายมากขนึ้ เพยี งนามะเขือเทศเชอร่ีปริมาณตามชอบมาป่ันกับน้าแข็งเย็น ๆ ให้ละเอียด จากน้ันเติมเกลือเล็กน้อย และท่ีขาดไม่ได้เลยคือบีบมะนาวลงไป ได้รสชาติความเปร้ียวหวานที่แตกต่างแต่ลงตัว รับประทานเป็นเครือ่ งด่ืมดบั กระหาย ช่วยในเรือ่ งของการขบั ถา่ ยและผวิ พรรณ เป็นเคร่ืองด่ืมสาหรับเด็ก ๆ ให้ลอง รบั ประทานมะเขอื เทศ อรอ่ ยไม่แพน้ ้าผลไมช้ นิดอนื่ อย่างแนน่ อน

5. เป็นยาสามัญประจาบ้าน ขจัดโรคร้ายท่ีคร่าชีวิตคนไทย มะเขือเทศเชอรี่เป็นผลไม้ท่ีช่วยลดอัตราการ เกิดโรคยอดฮิตท่ีคร่าชีวิตคนไทย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และ โรคเบาหวาน ใครท่ีกาลังมองหายารสหวาน ทานง่าย ได้มาจากธรรมชาติ มะเขือเทศเชอร่ีถือเป็นผลไม้ท่ีควรมีติด ไว้รบั ประทานสาหรบั คนในบ้านไมแ่ พ้วัตถุดบิ อน่ื ๆ เลยทีเดียว 6. ผลช้าหรอื กาลังจะเน่าเสีย นอกจากนาไปเพาะขยายพนั ธแ์ุ ล้วยังสามารถนามาขัดถูเคร่ืองเงิน หรือช่วย ขจัดสนิมออกจากเหล็กได้เช่นเดียวกัน ถือว่าได้น้ายาทาความสะอาดเครื่องเรือนจากกรดผลไม้ท่ีไม่เป็นอันตราย ล้างทาความสะอาดง่าย และใชป้ ระโยชน์จากของเหลอื ใชใ้ นบ้านไดอ้ ยา่ งคุ้มค่าอกี ดว้ ย

บทท่ี 3 วิธีการดาเนนิ งาน ด้วย กศน.ตาบล ได้จัดโครงการการอบรมการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือ เทศเชอร่ี) โดยยึดประชาชนในตาบลเป็นสาคัญ ทาให้เกิดเน้ือหาสาระ ระยะเวลาการจัดกิจกรรม สถานที่ และ ลักษณะกิจกรรมการเรียนรู้ ท้ังนี้ขึ้นอยู่กับ ศักยภาพและความพร้อมของประชาชนกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นการ ตอบสนองนโยบายของสานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซ่งึ ได้ดาเนนิ การ ดงั น้ี โครงการการอบรมการเรยี นรู้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่)ี (11 มิถุนายน 2564) สาระสาคัญ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยมีนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 จุดเน้นการดาเนินงาน ข้อที่ 1 น้อมนาพระบรมราโชบายด้านการศึกษาสู่การ ปฏิบัติ ข้อ 1.1 สืบสานศาสตร์พระราชาโดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู“โคกหนองนาโมเดล”เพื่อ เป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่างๆทั้งดินน้าลมแดดรวมถึงพืชพันธุ ต่างๆและ ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างมีประสิทธิภาพ และภารกิจต่อเนื่อง ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ การศึกษาต่อเนื่อง 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรูตลอด ชีวิตในรูปแบบต่างๆให้กับประชาชนเพ่ือเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสามารถยืนหยัดอยู่ได อย่างมั่นคงและมีการบริหาร จัดการความเสีย่ งอยา่ งเหมาะสมตามทศิ ทางการพัฒนาประเทศสูความสมดุลและยง่ั ยืน มะเขือเทศเชอร่ีเป็นพืชท่ีมีคุณประโยชน์ทางด้านสารอาหาร ช่วยบารุงสุขภาพ มะเขือเทศเชอร่ีอุดมไป ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น สารต้านอนุมูลอิสระไลโคปีน (Lycopene)มสี ารฟลาโวนอยด์(Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีวิตามินเอ และวิตามินอื่น ๆ เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 รวมถึงแร่ธาตุอย่าง แคลเซียม ฟอสฟอรัส และอ่ืน ๆ อีกมาก ทาให้มะเขือเทศเชอรี่ เป็นผลไม้ท่ีมีประโยชน์ย่ิงกว่าผักหลาย ๆ ชนิด ท้ังช่วยบารุงสายตา บารุงเซลล์และสารส่ือประสาท รับประทาน แล้วร่างกายสดช่ืน ห่างไกลจากการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มักเกิดข้ึนตามฤดูกาลได้ เช่น อาการไอหรือไข้หวัด เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหน่ึงตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ อีกทั้งมะเขือเทศเชอร่ียังเป็นพืชท่ีตลาดมีความ ตอ้ งการอย่ตู ลอดเวลา ถือเปน็ พืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนง่ึ กศน.อาเภอบางไทร ได้เห็นความสาคัญของการสร้างการรับรู้ในเร่ืองหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร)ี่ เพ่ือให้ประชาชนได้นาไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน จึงได้จดั โครงการนขี้ ้ึน วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ใหป้ ระชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกี่ยวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่ี)สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันและสามารถนาไปต่อยอด เพ่อื เปน็ อาชพี เสริมได้ 2. เพื่อให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการสามารถเรียนรู้ และเข้าใจถึงวิธีการปลูกมะเขือเทศเชอรี่และการ ดแู ลรกั ษา บารงุ มะเขอื เทศเชอรีท่ ีป่ ลูกและสามารถถ่ายทอดความรู้ทีไ่ ด้ใหก้ ับคนในครอบครัว หรือคนอ่ืนท่ีสนใจได้

กจิ กรรมท่ีดาเนินการ จัดกิจกรรมให้ประชาชนกลมุ่ เป้าหมายในตาบล ไดแ้ ก่ วทิ ยากรบรรยายความรเู้ กี่ยวกบั บรรยายใหค้ วามรู้เกีย่ วกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. บรรยายใหค้ วามรู้ เร่อื ง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ 2. บรรยายใหค้ วามรู้ เร่ือง การปลกู มะเขือเทศเชอรี่ 3. ข้ันตอนการปลูก การเลอื กเมลด็ พันธุ์ การเลือกดนิ และการดูแลรกั ษาตน้ มะเขือเทศเชอร่ี 4. สาธติ วิธีการปลกู มะเขือเทศเชอร่ีและผเู้ ข้ารับอบรมลงมือปฏบิ ตั ิการปลกู มะเขือเทศเชอร่แี ละ การดูแลบารุง รกั ษาตน้ มะเขือเทศเชอร่ี ผลท่ไี ดร้ บั จากการดาเนนิ กจิ กรรม - ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอรี่)สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันและสามารถนาไปต่อยอด เพ่ือเปน็ อาชีพเสรมิ ได้ - ประชาชนที่เขา้ รว่ มโครงการสามารถเรียนรู้ และเข้าใจถึงวิธีการปลูกมะเขือเทศเชอรี่และการดูแลรักษา บารุงมะเขือเทศเชอรที่ ีป่ ลูกและสามารถถา่ ยทอดความรู้ท่ไี ด้ให้กับคนในครอบครวั หรือคนอ่ืนที่สนใจได้

บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน จากการสารวจความพึงพอใจ โครงการการอบรมการเรยี นร้หู ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูก มะเขือเทศเชอรี่) ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ จานวน 4 ฉบับ และได้รับกลับคืนมา จานวน 4 ฉบบั วเิ คราะหข์ ้อมลู โดยใชโ้ ปรแกรมExcel ตามข้นั ตอนตา่ ง ๆ ดังตอ่ ไปนี้ 1. วเิ คราะห์ข้อมลู จากแบบสอบถามตอนท่ี 1 โดยแจกแจงความถแ่ี ละคา่ ร้อยละ 2. วิเคราะหข์ อ้ มลู จากแบบสอบถามตอนท่ี 2 โดยหาค่าเฉลี่ย X( ) แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ ให้ระดับคะแนนในแบบสอบถามท่ีเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของ เบสท์ (Best. 1981 :182) ดังน้ี 4.51–5.00 หมายถงึ ความพงึ พอใจอย่ใู นระดบั ดมี าก 3.51–4.50 หมายถึงความพงึ พอใจอยใู่ นระดับดี 2.51–3.50 หมายถึงความพึงพอใจอยูใ่ นระดับปานกลาง 1.51–2.50 หมายถึงความพึงพอใจอยูใ่ นระดับพอใช้ 1.00–1.50 หมายถงึ ความพงึ พอใจอยใู่ นระดับปรบั ปรุง 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนท่ี 3 ข้อมูลที่เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (RatingScale) โดย หาค่าเฉล่ีย ( X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็น ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เน้ือหา(Content Analysis)จัดกลุ่มคาตอบและหาค่าความถี่ สรุปผลการประเมินความพึงพอใจ กิจกรรมการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงโครงการการอบรมการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่ี) ท่ีเข้าร่วมโครงการดังน้ี

ข้อมูลพื้นฐานของผู้ประเมนิ ความพงึ พอใจ ตารางที่1 ข้อมูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จาแนกตาม เพศ อายุ วฒุ ิการศึกษา และอาชพี เพศ ข้อมูลท่ัวไป จานวน รอ้ ยละ อายุ ชาย 2 50.00 การศกึ ษา หญิง 2 50.00 อาชีพ ต่ากว่า 15 ปี 0 0.00 15-29 ปี 1 25.00 30-39 ปี 0 0.00 40-49 ปี 0 0.00 50-59 ปี 2 50.00 60 ปีขึ้นไป 1 25.00 ต่ากวา่ ป.4 0 0.00 ป.4 0 0.00 ประถมศึกษา 2 50.00 มธั ยมศึกษาตอนตน้ 0 0.00 มัธยมศึกษาตอนปลาย 2 50.00 อนุปรญิ ญา 0 0.00 ปรญิ ญาตรี 0 0.00 สูงกว่าปริญญาตรี 0 0.00 รบั จ้าง 1 25.00 คา้ ขาย 0 0.00 เกษตรกรรม 3 75.00 รบั ราชการ 0 0.00 อ่ืน ๆ(แม่บ้าน) 0 0.00 จากตารางที่ 1 แสดงจานวนผตู้ อบแบบสอบถามทั้งหมด 4 คน เป็นเพศชาย จานวน 2 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 50.00) เปน็ เพศหญงิ จานวน 2 คน (คดิ เป็นรอ้ ยละ 50.00) - ด้านอายุ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม ช่วงอายุ50-59 ปีมากท่ีสุดจานวน 2 คน (คิดเป็นร้อยละ 50.00) รองลงมาชว่ งอายุ 15-29 ปี จานวน 1 คน (คิดเป็นร้อยละ 25.00) และรองลงมาช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป จานวน 1 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 25.00) ตามลาดบั

- ด้านการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาระดับประถมศึกษามากท่ีสุดจานวน 2 คน (คิดเปน็ ร้อยละ 50.00) รองลงมาคือการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 2 คน(คิดเป็นร้อยละ 50.00) ตามลาดับ - ด้านอาชีพ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีอาชีพเกษตรกรรมมากท่ีสุด จานวน 3 คน (คิดเป็นร้อยละ 75.00) รองลงมามอี าชีพรบั จา้ ง จานวน 1 คน(คดิ เปน็ รอ้ ยละ 25.00) ตามลาดับ สรุปผลการประเมินความพึงพอใจ โครงการการอบรมการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลกู มะเขือเทศเชอรี่) ของตาบลท่เี ข้ารว่ มโครงการได้ดังนี้ แบบประเมินความพึงพอใจ มี 4 ด้าน ผลการประเมิน ความพงึ พอใจที่มตี ่อโครงการโดยรวมและแยกเป็นรายดา้ น ความหมาย รายการประเมิน X 1. ความพงึ พอใจด้านเนอื้ หา 2. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม 4.44 ดี 3. ความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร 4.45 ดี 4. ความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก 4.47 ดี 4.48 ดี รวม 4.46 ดี จากตารางที่ 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการ โดยรวมและรายด้าน อยู่ใน ระดับ ดี ทกุ รายการ เมอื่ พิจารณาเปน็ รายขอ้ พบวา่ อันดบั หน่ึงคือ ความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวก รองลงมาความพึงพอใจต่อวิทยากรรองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมและด้านความ พึงพอใจดา้ นเนอื้ หาตามลาดบั ตอนท่ี 1ความพึงพอใจด้านเนอื้ หา ผลการประเมิน X ความหมาย รายการประเมนิ 4.44 ดี 4.44 ดี 1. เนือ้ หาตรงตามความต้องการ 4.44 ดี 2. เนือ้ หาเพียงพอต่อความต้องการ 4.45 ดี 3. เนื้อหาปัจจบุ นั ทันสมัย 4.44 ดี 4. เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนาไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชวี ิต รวม

จากตอนท่ี 1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการความพึงพอใจด้านเนื้อหาโดยรวม และรายด้านอย่ใู นระดับ ดี เม่อื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ อันดบั หนง่ึ คือ เนือ้ หามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตรองมาอันดับสองสามและสี่ เท่ากัน คือ เนื้อหาตรงตามความต้องการ/เนื้อหาเพียงพอต่อความ ตอ้ งการ/และเนื้อหาปัจจุบันทันสมัยตามลาดับ ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม ผลการประเมิน X ความหมาย รายการประเมิน 4.45 ดี 4.44 ดี 1. การเตรยี มความพรอ้ มก่อนอบรม 4.46 ดี 2. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ 4.45 ดี 3. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 4.45 ดี 4. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย 4.45 ดี 5. วิธกี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ รวม จากตอนที่2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมโดยรวมและ รายดา้ นอยู่ในระดับ ดี เม่อื พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือการจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลาอันดับสอง สามและส่ี คอื การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย/วธิ ีการวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์/การเตรยี ม ความพร้อมกอ่ นอบรมอันดับห้า คอื การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ตามลาดับ ตอนที่ 3 ความพึงพอใจต่อวิทยากร ผลการประเมิน X ความหมาย รายการประเมนิ 4.47 ดี 4.47 ดี 1. วทิ ยากรมีความรคู้ วามสามารถในเรื่องที่ถา่ ยทอด 4.47 ดี 2. วิทยากรมีเทคนิคการถา่ ยทอดใชส้ อ่ื เหมาะสม 4.47 ดี 3. วิทยากรเปดิ โอกาสให้มีสว่ นร่วมและซักถาม รวม จากตอนที่ 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อวิทยากรโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงสองและสาม คือวิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องท่ีถ่ายทอด/ วิทยากรมเี ทคนิคการถา่ ยทอดใช้สื่อเหมาะสม/วทิ ยากรเปิดโอกาสให้มีสว่ นรว่ มและซักถามตามลาดับ

ตอนที่ 4ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.48 ดี 4.47 ดี 1. สถานที่ วสั ดุ อปุ กรณแ์ ละส่งิ อานวยความสะดวก 4.49 ดี 2. การสอื่ สาร การสร้างบรรยากาศเพ่อื ให้เกดิ การเรียนรู้ 4.48 ดี 3. การบรกิ าร การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ัญหา รวม จากตอนที่ 4พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวกโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับดี เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงสอง คือการบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา อันดับสอง คือ สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอานวยความสะดวก และอันดับสาม คือ การส่ือสาร การสร้าง บรรยากาศเพอ่ื ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ตามลาดับ

บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ ผลการดาเนนิ โครงการการอบรมการเรยี นรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอรี่) ท่เี ข้ารว่ มโครงการคร้ังนมี้ ีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ประเมนิ ผลความพึงพอใจของผูเ้ รยี น/ผู้รับบริการทมี่ ีต่อโครงการโดยรวม และแยกเป็นรายด้าน โดยใช้แบบสอบถามจานวน 4 ฉบับ เครื่องมือท่ีใช้เป็นแบบสอบถามท่ีเป็นแบบมาตรา สว่ นประมาณค่า 5 ระดบั ตามเกณฑ์ประเมินความคดิ เห็นของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหา ค่าเฉลี่ย ( X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็นความ คิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคาตอบ และหาคา่ ความถ่ี สรุปผลการประเมนิ ความพึงพอใจ จากแบบประเมินความพงึ พอใจสรุปผลได้ ดังนี้ 1. ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการความพึงพอใจด้านเนื้อหา โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับ ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหน่ึงคือ เนื้อหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพชีวิตรองมาอันดับสองสามและส่ี เท่ากัน คือ เน้ือหาตรงตามความต้องการ/เน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ/ และเน้ือหาปัจจุบันทนั สมยั ตามลาดับ 2. ผตู้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจทีม่ ีต่อโครงการ โดยรวมและรายดา้ น อยู่ในระดับ ดี ทกุ รายการ เมื่อพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ อนั ดับหนง่ึ คอื ความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวกรองลงมาความพึง พอใจตอ่ วิทยากร รองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม และด้านความพงึ พอใจดา้ น เนื้อหาตามลาดับ 3. ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจตอ่ วิทยากรโดยรวมและรายดา้ นอยู่ในระดับดี เม่ือพจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ อนั ดับหนึง่ สองและสาม คอื วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรอ่ื งทถี่ ่ายทอด/วทิ ยากรมเี ทคนคิ การ ถ่ายทอดใชส้ ือ่ เหมาะสม/วทิ ยากรเปดิ โอกาสให้มสี ว่ นร่วมและซกั ถามตามลาดับ 4.ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวกโดยรวมและรายด้านอยูใ่ นระดับดี เมือ่ พิจารณาเปน็ รายข้อ พบว่า อนั ดบั หนึง่ สอง คือการบริการ การชว่ ยเหลือและการแก้ปัญหา อนั ดับสอง คอื สถานที่ วสั ดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก และอันดับสาม คอื การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพอื่ ให้ เกิดการเรยี นรู้ตามลาดบั

ผลการดาเนนิ งาน - ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับการดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (การปลูกมะเขือเทศเชอร่ี)สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันและสามารถนาไปต่อยอด เพอื่ เป็นอาชพี เสรมิ ได้ - ประชาชนทเ่ี ข้าร่วมโครงการสามารถเรียนรู้ และเข้าใจถึงวิธีการปลูกมะเขือเทศเชอรี่และการดูแลรักษา บารงุ มะเขือเทศเชอรท่ี ปี่ ลกู และสามารถถา่ ยทอดความรู้ที่ได้ใหก้ ับคนในครอบครวั หรอื คนอืน่ ที่สนใจได้ ปัญหาและอปุ สรรคในการปฏิบตั งิ าน - ข้อเสนอแนะ -

ภาคผนวก

ภาพการจัดกิจกรรม โครงการการอบรมการเรยี นรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (การปลกู มะเขือเทศเชอร)่ี วันที่ 11 มถิ ุนายน 2564 ณ ศนู ยเ์ รยี นรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหมป่ ระจาตาบลโพแตง อาเภอบางไทร จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา

ภาพการจัดกิจกรรม โครงการการอบรมการเรยี นรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (การปลกู มะเขือเทศเชอร)่ี วันที่ 11 มถิ ุนายน 2564 ณ ศนู ยเ์ รยี นรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหมป่ ระจาตาบลโพแตง อาเภอบางไทร จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook