Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือประกอบการดำเนินงาน รายวิชาโครงงาน

คู่มือประกอบการดำเนินงาน รายวิชาโครงงาน

Description: คู่มือประกอบการดำเนินงาน รายวิชาโครงงาน

Search

Read the Text Version

คำนำ คู่มือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงานเล่มนี้ได้รวบรวม เรียบเรียง และดำเนินการ ปรับปรุงเอกสารมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องและใช้สำหรับการจัดการเรียนการสอนรายวิชาโครงงาน ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และนักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสงู (ปวส.) ประจำปีการศึกษา 2564 ทั้งน้ี เพ่อื ให้มแี นวปฏบิ ัติท่เี ปน็ ไปในรปู แบบเดียวกันของสถานศึกษา คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งวา่ คู่มือประกอบการดำเนินงานรายวชิ าโครงงานเล่มนี้จะเปน็ ประโยชนส์ ำหรับครผู ้สู อน และผทู้ ี่สนใจศกึ ษาขอ้ มูลไม่มากกน็ ้อย หากมีข้อผดิ พลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย ฝ่ายวชิ าการ กรกฎาคม 2564

ข หนา้ สารบัญ ก ข เรื่อง 1 คำนำ สารบญั 2 ปฏิทนิ การดำเนินงาน รายวชิ าโครงงาน ระดบั ปวช. และ ปวส. ปีการศกึ ษา 2564 2 เกณฑก์ ารวดั ผลประเมินผล 3 สว่ นประกอบแบบเสนอโครงร่างโครงงานเชิงวจิ ยั ขอ้ กำหนดรายละเอยี ดการเขียนรายงานโครงงานเชิงวจิ ยั ฉบบั สมบูรณ์ (5 บท) 5 ขอ้ กำหนดรายละเอยี ดในการจดั ทำรายงานโครงงานเชงิ วิจัย 9 การเขียนบรรณานกุ รม/อา้ งองิ ค ภาคผนวก ภาคผนวก ก แบบเสนอโครงรา่ งรายวชิ าโครงงาน (แบบ วจ.01/1) แบบเสนอโครงร่างรายวิชาโครงงาน (แบบ วจ.01/2) ภาคผนวก ข ตวั อยา่ งการเขยี นรายงานโครงงานเชงิ วิจัยฉบบั สมบรู ณ์ (5 บท) ภาคผนวก ค แบบประเมินโครงงานวจิ ัย รายวชิ าโครงงาน (แบบ วจ.02) ภาคผนวก ง แบบประเมนิ โครงงานวิจัย รายวชิ าโครงงาน (ภาคนทิ รรศการ นำเสนอผลงาน) (แบบ วจ.03) ภาคผนวก จ ใบอนุมัตโิ ครงงาน (แบบ วจ.04/ปวช.) ใบอนุมัตโิ ครงงาน (แบบ วจ.04/ปวส.) ภาคผนวก ฉ รูปแบบการพมิ พส์ ันปก รูปเลม่ วจิ ัย รายวิชาโครงงาน QR Code หนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ : คมู่ ือประกอบการดำเนนิ งานรายวิชาโครงงาน คมู่ ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝา่ ยวิชาการ

1. ปฏิทนิ การดำเนนิ งาน รายวชิ าโครงงาน ระดบั ช้นั ปวช. และ ปวส. ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 สปั ดาห์ที่ วนั เดือน ปี วธิ ีดำเนินการปฏบิ ตั ิ ผูร้ บั ผดิ ชอบ เอกสารประกอบ 1 - 2 1-12 พ.ย. 2564 เสนอหวั ขอ้ เรือ่ ง นกั เรยี น นกั ศึกษา 2 8-12 พ.ย. 2564 พจิ ารณาหวั ข้อเรื่อง ครผู สู้ อน/กรรมการ จัดทำแบบเสนอชือ่ เรอ่ื งโครงงานเชงิ วิจยั 2 8-12 พ.ย. 2564 พรอ้ มบันทึกขอ้ ความเสนอตามลำดบั ชั้น นกั เรียน นักศกึ ษา บนั ทกึ ขอ้ ความ เพอื่ พจิ ารณาอนมุ ัติหัวข้อเรอ่ื ง 3-6 15 พ.ย. - 10 ธ.ค. 2564 จดั ทำแบบเสนอโครงร่างโครงงานเชงิ วจิ ยั นกั เรียน นกั ศึกษา แบบ วจ.01/1 แบบ วจ.01/2 6 6-10 ธ.ค. 2564 ตรวจสอบและลงนามแบบเสนอโครงร่าง ครผู ้สู อน โครงงานเชงิ วจิ ยั 7 13-17 ธ.ค. 2564 ตรวจสอบแบบและลงนามเสนอโครงร่าง กรรมการภาควิชา โครงงานเชงิ วิจยั 7 13-17 ธ.ค. 2564 เสนออนมุ ัติโครงรา่ งโครงงานเชงิ วจิ ยั นักเรียน นกั ศึกษา 8 - 11 20 ธ.ค. 2564 - 14 ม.ค. ดำเนินกิจกรรมตามโครงงานทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ิ นกั เรียน นกั ศึกษา 2565 พรอ้ มจัดทำรายงานโครงงานเชงิ วจิ ยั ฉบบั และครผู ู้สอน สมบูรณ์ (5 บท) 12-13 17-28 ม.ค. 2565 ตรวจสอบรายงานโครงงานเชิงวิจยั ฉบบั ครูผสู้ อน สมบูรณ์ (5 บท) ตรวจสอบรายงานโครงงานเชิงวิจยั ฉบบั 13 24-28 ม.ค. 2565 สมบูรณ์ (5 บท) โดยจดั ทำรูปเลม่ 3 ชุด กรรมการภาควิชา (ไมต่ ้องเข้าเลม่ ) 14 31 ม.ค. - 4 ก.พ. 2565 สอบปากเปลา่ รายงานโครงงานเชิงวิจัย กรรมการภาควิชา แบบ วจ.02 นำเสนองานดว้ ยโปรแกรม Power point 15 7-11 ก.พ. 2565 ปรับ/แกไ้ ขรายงานตามขอ้ เสนอแนะของ นักเรียน นักศกึ ษา คณะกรรมการ 16 14-18 ก.พ. 2565 ตรวจสอบรปู เลม่ รายงานฉบับสมบูรณ์ ครผู สู้ อน (5 บท) 17 21-25 ก.พ. 2565 จดั นิทรรศการ (นำเสนอผลงาน) กรรมการภาควชิ า แบบ วจ.03 17 - 18 21 ก.พ. - 4 มี.ค. 2565 ส่งเลม่ รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ 1 เลม่ ฝ่ายวชิ าการ แบบ วจ.04 เพื่ออนุมตั ิผลการเรียน 18 28 ก.พ. - 4 ม.ี ค. 2565 ส่งแผ่นซดี ี บทคดั ยอ่ จำนวน 1 แผ่น ครผู ู้สอน ท่ีฝา่ ยวิชาการ

2 2. เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน แบง่ เป็น 2 สว่ น คือ 2.1 สว่ นท่ี 1 ครูผสู้ อน 55 คะแนน 2.1.1 คะแนนจิตพสิ ัย 20 คะแนน 2.1.2 คะแนนการดำเนนิ งาน 35 คะแนน 2.2 ส่วนที่ 2 กรรมการภาควชิ า 45 คะแนน 2.2.1 คะแนนประเมนิ ภาคบรรยาย (สอบปากเปล่า) 10 คะแนน 2.2.2 คะแนนประเมนิ รายงาน 25 คะแนน 2.2.3 คะแนนประเมนิ นิทรรศการ (ผลงาน/ชนิ้ งาน จัดแสดง) 10 คะแนน หมายเหตุ : ครูผู้สอนรวบรวมบทคัดย่อของนักเรียน นักศึกษา ใส่แผ่นซีดี 1 แผ่น ส่งที่ฝ่ายวิชาการ เมื่อสิ้นสุด การเรยี นการสอน 3. ส่วนประกอบแบบเสนอโครงรา่ งโครงงานเชงิ วิจัย (วจ.01) 3.1 ชื่อเรื่อง ระบชุ ื่อโครงงานวจิ ยั /ศึกษาใหช้ ดั เจน 3.2 ผู้รับผิดชอบ ควรมีหัวหน้าโครงงาน โดยกำหนดใหร้ ะดบั ปวช. 3 ไมเ่ กนิ 3 คน/กลุ่ม และระดับ ปวส.2 ไม่เกนิ 2 คน/กลุ่ม 3.3 ความเป็นมาและความสำคัญ ระบุให้เห็นถงึ ที่มาของเรื่องที่จะวิจัย/ศึกษา มีความสำคัญหรือ จำเปน็ อยา่ งไร ทำไมจงึ ตอ้ งวิจยั /ศึกษา และจะเกิดประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง 3.4 วตั ถุประสงค์ของโครงงาน สมั พันธก์ บั ชอื่ เรอ่ื ง ให้เขยี นเรียงตามลำดบั ความสำคญั โดยควรขน้ึ ตน้ ด้วยคำว่า “เพื่อศึกษา”, “เพื่อเปรียบเทียบ”, “เพื่อวิเคราะห์” ถ้ามีวัตถุประสงค์เพียง 1 ข้อ ให้เขียนโดยใช้ คำวา่ “โครงงานน้มี ีวัตถุประสงคเ์ พ่ือ.......................................................................” 3.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ระบุความคาดหมายของโครงงานที่ทำ โดยอาจเขียนผลที่คาดว่า จะเกิดขน้ึ ตามวัตถุประสงค์โครงงาน 3.6 ทบทวนวรรณกรรม เปน็ การรวบรวมเอกสาร ทฤษฎีทเี่ ก่ยี วขอ้ ง กรอบแนวคดิ ในการดำเนินการ และผลงานวจิ ัยทีเ่ กยี่ วกบั เรื่องที่จะวิจยั /ศึกษา 3.7 นิยามศัพท์ เป็นการกำหนดความหมายหรือคำจำกัดความของคำทมี่ ีความสำคัญและสัมพันธ์กับ ชือ่ เรือ่ ง โดยต้องเปน็ คำทีย่ งั มีความหมายไม่ชัดเจน ไมเ่ ปน็ ที่เขา้ ใจของบคุ คลท่ัวไป การใหน้ ิยามศัพท์ เพื่อให้ ผอู้ า่ นไดเ้ ขา้ ใจตรงกันว่า ผูว้ ิจัยกำหนดขอบเขตการวจิ ัย/ศกึ ษาไวอ้ ย่างไร 3.8 วธิ ีการดำเนินการวจิ ัย/ศกึ ษา กำหนดแนวทางในการดำเนินการวิจัย เพื่อให้บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ ไว้เป็นเรื่องๆ ประกอบด้วยประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ขนาดของกลุ่มตัวอย่างและวิธีการคัดเลือกตัวอย่าง ข้ันตอนการดำเนนิ การวจิ ัย เครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการวจิ ัย การเกบ็ รวบรวมข้อมลู และการวิเคราะห์ขอ้ มลู พรอมทงั้ สถิติทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั 3.9 ขอบเขตการวิจัย/ศึกษา ควรระบุขอบเขตการวิจัยให้ครอบคลุม รวมถึงวัสดุ อุปกรณ์ วิธีการ ดำเนนิ การวิจยั 3.10 ระยะเวลาการวิจัย/ศึกษา ควรระบุระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย/ศึกษา ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทง่ั สน้ิ สุดโครงงาน คมู่ ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝา่ ยวิชาการ

3 3.11 แผนการดำเนินการวิจัย/ศึกษา ระบุขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินโครงการวิจัย/ศึกษา โดยแบ่งขนั้ ตอนออกเป็นส่วนต่างๆ ตามข้ันตอนท่จี ะดำเนินการ 3.12 งบประมาณท่ีใช้ ระบคุ า่ ใชจ้ ่ายในการดำเนนิ การโครงการ 3.13 บรรณานกุ รม ระบุเอกสารอา้ งองิ โดยเรียงตามลำดับ ดังน้ี 3.13.1 ภาษาไทย → ภาษาองั กฤษ 3.13.2 หนงั สอื → วารสาร/หนังสือพมิ พ์ หรืออื่นๆ → สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ (เว็บไซต์) 3.13.3 พยญั ชนะ ภาษาไทย (ก-ฮ) → ภาษาอังกฤษ (A-Z) → สระ 4. ข้อกำหนดรายละเอียดการเขียนรายงานโครงการเชิงวจิ ยั ฉบับสมบูรณ์ (5 บท) ส่วนประกอบของรายงานวิจยั ฉบบั สมบรู ณ์ 5 บท จดั แบ่งออกเป็น 3 ส่วน และใหจ้ ดั เรยี งลำดับของ เอกสาร ดังน้ี 4.1 ส่วนประกอบตอนตน้ 4.1.1 หน้าปก ตง้ั คา่ หน้ากระดาษทกุ ด้านเท่ากันหมด คือ 2.54 เซนตเิ มตร (ซม.) หรอื 1 น้ิว และใช้กระดาษปกท่วี ิทยาลัยฯ กำหนดให้ ดังนี้ 1) ระดับ ปวส. 2 ใช้ปกสีน้ำเงิน ตวั อักษรพมิ พ์ทอง 2) ระดับ ปวช. 3 ใช้ปกสีฟา้ ตวั อกั ษรพมิ พท์ อง 4.1.2 หน้าปกรอง เนื้อหาเหมอื นกับหน้าปก ส่วนที่ต่างกัน คือ ตั้งค่าหน้ากระดาษด้านซ้าย 3.81 เซนติเมตร (ซม.) หรือ 1.5 นิ้ว ส่วนด้านอื่นๆ ตั้งค่าหน้ากระดาษเท่ากบั 2.54 เซนติเมตร (ซม.) หรือ 1 นิว้ และใช้กระดาษเอส่ี (A4) พิมพ์ด้วยหมึกธรรมดา 4.1.3 ใบอนุมัติโครงการ 4.1.4 บทคัดยอ่ 4.1.5 กติ ตกิ รรมประกาศ 4.1.6 สารบญั 4.1.7 สารบญั ตาราง (มีตาราง ตง้ั แต่ 2 ตารางขึน้ ไป) 4.1.8 สารบญั รปู ภาพ (มรี ปู ภาพ/กราฟ ต้งั แต่ 2 รปู /กราฟ ขน้ึ ไป) 4.2 ส่วนประกอบเนือ้ เรอ่ื ง 4.2.1 บทที่ 1 บทนำ งานวจิ ัยทางสังคมศาสตร์ งานวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ 1) ความเป็นมาและความสำคญั 1) ความเป็นมาและความสำคัญ 2) วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 2) วัตถปุ ระสงค์ของการวจิ ัย 3) ขอบเขตการวจิ ยั 3) ขอบเขตการวิจยั 4) นิยามศพั ท์ 4) นยิ ามศพั ท์ 5) ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั 5) ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะไดร้ บั คูม่ ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝ่ายวิชาการ

4 4.2.2 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่เี ก่ยี วข้อง งานวิจัยทางวทิ ยาศาสตร์ งานวิจัยทางสงั คมศาสตร์ 1) ความรพู้ น้ื ฐานเกยี่ วกบั งานวจิ ัย 1) ความรู้พืน้ ฐานเก่ยี วกบั งานวจิ ยั 2) แนวคิดทฤษฎที ่ีรองรบั 2) แนวคดิ ทฤษฎีท่ีรองรบั 3) งานวิจัยท่ีเกยี่ วข้อง 3) งานวิจัยที่เก่ียวข้อง 4.2.3 บทที่ 3 วธิ ดี ำเนินการวจิ ัย งานวจิ ยั ทางวิทยาศาสตร์ งานวจิ ยั ทางสังคมศาสตร์ 1) วัตถุดบิ วสั ดุอปุ กรณ์ที่ใช้ในงานวจิ ัย 2) ข้นั ตอนดำเนนิ การวิจัย 1) รูปแบบการวจิ ัย 3) เครือ่ งมอื ในการวจิ ยั 2) ระเบยี บวิธีการวิจยั 4) การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3) ขัน้ ตอนการดำเนนิ การวิจัย 5) การวิเคราะหข์ อ้ มลู 4) เครื่องมือและเทคนคิ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 5) การวเิ คราะหข์ ้อมลู 4.2.4 บทท่ี 4 ผลการวจิ ัย งานวจิ ยั ทางวทิ ยาศาสตร์ (ระบุตามจำนวนวตั ถปุ ระสงค)์ งานวจิ ยั ทางสังคมศาสตร์ 1) ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ท่วั ไป 2) ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจหรือ ความคิดเห็นหรอื ขอ้ มลู อน่ื ๆ 4.2.5 บทท่ี 5 สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ งานวจิ ัยทางสงั คมศาสตร์ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 1) สรุปผลการวจิ ัย 1) สรปุ ผลการวจิ ัย (ตามวัตถุประสงค)์ 2) อภิปรายผล 2) อภิปรายผล 3) ข้อเสนอแนะ 3) ขอ้ เสนอแนะ 4.3 ส่วนประกอบทา้ ยเลม่ 4.3.1 บรรณานกุ รม (ตามหลกั เกณฑท์ ่กี ำหนดไวแ้ ล้ว) 4.3.2 ภาคผนวก งานวจิ ัยทางสงั คมศาสตร์ งานวจิ ยั ทางวทิ ยาศาสตร์ 1) ภาคผนวก ก แบบเสนอโครงรา่ งโครงการเชิงวจิ ัยที่ได้รบั การอนุมตั ิ (แบบ วจ.01) 2) ภาคผนวก ข แบบประเมนิ แบบสอบถาม ฯลฯ 3) ภาคผนวก ค ผลทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะห์ ภาคผนวก ค กระบวนการผลิต 4) ภาคผนวก ง ประวัตผิ วู้ ิจยั ภาคผนวก ง ผลทไี่ ด้จากการวเิ คราะห์ 5) ภาคผนวก จ - ภาคผนวก จ ประวตั ิผู้วจิ ยั คู่มือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝา่ ยวิชาการ

5 5. ข้อกำหนดรายละเอยี ดในการจดั ทำรายงานโครงการเชงิ วิจยั 5.1 กระดาษ การพิมพ์โครงการเชิงวจิ ยั ให้ใช้กระดาษสีขาว ไมม่ เี ส้น ขนาด A4 (กว้าง 21 เซนตเิ มตร สูง 29.7 เซนติเมตร) หนา 70 หรอื 80 แกรม จดั พมิ พเ์ พยี งด้านเดียว 5.2 การจดั ระยะ 5.2.1 ระยะขอบ 1) หนา้ ปก จดั ระยะขอบ 2.54 เซนตเิ มตร (ซม.) หรือ 1 นว้ิ เทา่ กนั ทกุ ดา้ น 2) หน้าปกรอง จนถึงภาคผนวก จัดระยะขอบ ดังนี้ ด้านบน, ล่าง และขวาเท่ากับ 2.54 เซนตเิ มตร (ซม.) หรือ 1 นิว้ สว่ นด้านซา้ ยเท่ากบั 3.81 เซนติเมตร (ซม.) หรือ 1.5 นิว้ สว่ นดา้ นอน่ื ๆ 5.2.2 ระยะหวั ขอ้ หวั ขอ้ ระดบั 1 จัดชิดซา้ ย ส่วนหวั ขอ้ ระดับตอ่ ไปให้ใช้ Tab เป็นตวั กำหนด ระยะ ดังตวั อยา่ ง หนา้ กระดาษท่พี ิมพเ์ อกสาร คูม่ ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝ่ายวิชาการ

6 5.3 รูปแบบตัวอักษร พิมพ์ด้วยตัวอักษร รูปแบบ “TH SarabunPSK” กำหนดขนาดของตัวอกั ษร ดงั นี้ 5.3.1 บทที่ และช่อื บท ขนาด 18 พอยต์ ตัวหนา ไวก้ ึง่ กลางหนา้ กระดาษ 5.3.2 หัวขอ้ ระดบั 1 ขนาด 16 พอยต์ ตัวหนา ใหช้ ิดขอบเขตขอ้ ความด้านซา้ ย 5.3.3 หัวข้อระดับ 2 เป็นต้นไป และเนือ้ เร่อื ง ขนาด 16 พอยต์ ตัวปกติ 5.4 การพมิ พค์ ำเช่อื มและเครื่องหมายวรรคตอน 5.4.1 คำเชอื่ ม 1) “และ” ถา้ ใช้เชอื่ มระหว่างคำ 2 คำ ใหพ้ มิ พต์ อ่ เนอื่ งกัน เชน่ ทฤษฎีและหลักการ ถ้าใชเ้ ช่อื มระหวา่ งคำมากกวา่ 2 คำ ให้เว้นหน้าคำวา่ และ 1 ตัวอกั ษร เชน่ วงจร สญั ลกั ษณ์ และโครงสรา้ ง 2) “หรือ” พิมพต์ ่อเน่อื งกันโดยไม่ตอ้ งเวน้ เชน่ แนวทางการปฏิบัติหรือข้อกำหนด 5.4.2 เคร่อื งหมายวรรคตอน การพิมพเ์ ครอ่ื งหมายวรรคตอนใหใ้ ชร้ ูปแบบ ตามตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 การพมิ พเ์ คร่อื งหมายวรรคตอน การพมิ พ์ เครื่องหมาย ชอื่ . มหัพภาค พมิ พต์ ิดข้อความแล้วเวน้ ระยะ 1 ตัวอกั ษร เชน่ พ.ศ. 2564, ปวส. 2 และ ศ. ดร. อเนกคุณ วฒุ ิเกษม : ทวิภาค เวน้ กอ่ นและหลงั ขอ้ ความ 1 ตัวอกั ษร เชน่ อัตราสว่ นคงท่ี 1 : 3 (เวน้ บอกเวลาใหพ้ มิ พต์ ดิ กัน เช่น 2:31:08) , จุลภาค พิมพ์ติดขอ้ ความแล้วเว้นระยะ 1 ตัวอกั ษร เช่น ดอกไม,้ กา้ นดอก (เว้นจำนวนตวั เลขให้พิมพ์ติดกนั เช่น 30,000) ; อฒั ภาค เว้นก่อนและหลงั ขอ้ ความ 1 ตวั อกั ษร เชน่ กรม.... กระทรวง.... ; กองงาน...... กรมการ........ ๆ ไม้ยมก พมิ พ์ตดิ ข้อความแล้วเวน้ ระยะ 1 ตัวอกั ษร เช่น สว่ นผสมตา่ งๆ ผา่ นการทดสอบมาตรฐาน “ ” อัญประกาศ เว้นก่อนและหลงั ข้อความ 1 ตัวอกั ษร เชน่ กลา่ วไวว้ า่ “ความสำคัญของการทดสอบนเ้ี พอื่ .......” (…….) นขลิขิต เวน้ ก่อนและหลงั วงเลบ็ 1 ตวั อักษร สว่ นขอ้ ความดา้ นในติดกบั วงเลบ็ หรือวงเลบ็ เช่น จำนวน 38,00 บาท (สามหม่นื แปดพนั บาทถว้ น) และมยี อด..... / ทบั พิมพ์ติดข้อความ หรอื ตัวอกั ษรในประโยค โดยไม่ตอ้ งเวน้ วรรค เช่น ปวส. 2/1, ตั้งอยู่ ณ เลขท่ี 123/987 ฯ ไปยาลนอ้ ย พิมพต์ ดิ ข้อความแล้วเว้นระยะ 1 ตัวอกั ษร เช่น ผลสำรวจกลุ่มตัวอยา่ งในกรงุ เทพฯ พบว่า มีความพึงพอใจ... ฯลฯ ไปยาลใหญ่ เวน้ กอ่ นและหลงั ขอ้ ความ 1 ตวั อกั ษร เช่น สว่ นประกอบ คอื ใบกะเพรา พรกิ ชีฟ้ า้ ผิวมะกรดู ฯลฯ โดยท่ี... ค่มู ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝ่ายวิชาการ

7 5.5 การลำดับหนา้ และการพมิ พ์เลขหนา้ 5.5.1 ส่วนที่ 1 คือ ตั้งแต่บทคัดย่อภาษาไทยจนถึงหนา้ สุดทา้ ยของสารบัญตาราง ให้ใช้ตัว อักษรไทย (ก, ข, ค, ง, จ, ฉ, ช, ...) แสดงเลขหนา้ โดยพมิ พ์ไว้กึง่ กลางของหน้ากระดาษ หา่ งจากขอบกระดาษ ดา้ นบนและด้านขวา 1.0 น้วิ ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยต์ ตัวปกติ 5.5.2 ส่วนเนื้อหา ให้ใช้ตัวเลขอารบิค (1, 2, 3, 4, ...) แสดงเลขหน้าโดยพิมพ์ไว้กึ่งกลาง หน้ากระดาษ ห่างจากขอบกระดาษด้านบนและด้านขวา 1.0 นิ้ว ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยต์ ตวั ปกติ 5.5.3 หนา้ แรกของแตล่ ะบท ไม่ตอ้ งแสดงเลขหนา้ แตใ่ หน้ บั หนา้ ต่อเน่อื งกนั 5.5.4 ภาคผนวกไมต่ ้องระบเุ ลขหน้า 5.6 รูปแบบการจัดทำภาพ ภาพประกอบ หมายถึง รูปถ่าย กราฟ แผนผงั รูปวงจร เป็นตน้ ถ้าเปน็ รูปถ่าย เช่น ภาพโครงงาน เป็นต้น ให้ใช้รูปจริงเท่านั้น ส่วนแผนผังการทำงาน กราฟ และวงจร ต้องวาดให้ ชัดเจน โดยมรี ายละเอยี ด ดังน้ี 5.6.1 ตัวอักษรในรูปต้องมีขนาดเหมาะสม อ่านไดช้ ดั เจน และมรี ายละเอยี ดเท่าทจ่ี ำเปน็ 5.6.2 ให้จดั วางรปู กึ่งกลางตามความกว้างหนา้ กระดาษ 5.6.3 เวน้ ระยะหา่ งกอ่ นและหลงั รปู 1 บรรทัด 16 พอยต์ 5.6.4 เวน้ ระยะห่างระหวา่ งรปู และช่ือรปู 1 บรรทัด 8 พอยต์ 5.6.5 ชื่อรูปใช้ตัวอักษร ขนาด 16 พอยต์ จัดกึ่งกลางหนา้ กระดาษ ประกอบด้วยหมายเลข และคำบรรยาย โดยพิมพ์คำว่า “ภาพที่ ……..” พิมพ์ด้วยตัวหนา เว้นระยะ 1 ตัวอักษรตามด้วยหมายเลข ลำดับของรูป พิมพ์ด้วยตัวหนา แล้วเว้นระยะ 1 ตัวอักษร ตามด้วยคำบรรยาย เช่น ในบทที่ 2 ภาพที่ 5 ให้ พมิ พ์ “ภาพท่ี 2.5 (พิมพด์ ว้ ยตัวหนา) โครงสร้างของอะตอมของซิลคิ อน” โดยไมต่ อ้ งใช้คำวา่ “แสดง” นำหน้า คำบรรยาย ดังตัวอย่าง ภาพที่ 2.5 โครงสรา้ งของอะตอมของซลิ ิคอน คมู่ ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝ่ายวิชาการ

8 5.7 รปู แบบการจัดทำตาราง วิธีการจดั รปู แบบของตาราง มีดังนี้ 5.7.1 ตัวอกั ษรและเส้นรอบกรอบของตาราง ตอ้ งมีความคมชดั มีขนาดเหมาะสมซง่ึ อาจจะมี ขนาดเล็กกว่าตัวอักษรปกติ 5.7.2 ให้จดั วางตารางกง่ึ กลางตามความกว้างหน้ากระดาษ 5.7.3 เวน้ ระยะ 1 บรรทดั กอ่ นและหลังช่ือตาราง และเว้น 1 บรรทดั ใต้ตาราง 5.7.4 ชื่อตารางใช้ตัวอักษร ขนาด 16 พอยต์ จัดชิดซ้าย ประกอบด้วย หมายเลข และคำ บรรยายตาราง โดยพิมพ์คำว่า “ตารางท่ี” พิมพด์ ว้ ยตัวหนา เว้นระยะ 1 ตัวอักษร หมายเลขลำดับของตาราง พิมพ์ด้วยตัวหนา เว้นระยะ 1 ตัวอักษร ตามด้วยคำบรรยาย เช่น สถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบตดิ ตามผล ลำดบั ท่ี 1 ในบทท่ี 4 ให้พมิ พ์เป็น “ตารางท่ี 4.1 สถานภาพทวั่ ไปของผูต้ อบแบบตดิ ตามผล” 5.7.5 หัวตารางใชต้ ัวอักษร ขนาด 16 พอยต์ ตวั หนา จัดก่ึงกลางความกว้างของคอลัมน์นั้น หรืออาจจะพิมพ์ตามแนวขวาง โดยจัดให้หัวตารางอยู่ทางด้านซ้ายของหน้ากระดาษ ถ้าตารางมีความยาว มากกวา่ หนา้ กระดาษ ใหพ้ มิ พส์ ว่ นทเี่ หลือของตารางในหนา้ ถดั ไป ส่วนชอื่ ตารางให้เพิม่ คำวา่ “ตอ่ ” ดงั ตวั อยา่ ง ตารางที่ 2 สถานภาพทัว่ ไปของผูต้ อบแบบติดตามผล ความถ่ี รอ้ ยละ สถานภาพทัว่ ไป 16 32.00 34 68.00 เพศ - ชาย 50 100.00 - หญิง 2 4.00 รวม 9 18.00 20 40.00 อายุ - ต่ำกวา่ 25 ปี 19 38.00 - 25 – 35 ปี 50 100.00 - 35 – 45 ปี - 45 ปี ขน้ึ ไป รวม ตารางท่ี 2 สถานภาพท่ัวไปของผูต้ อบแบบตดิ ตามผล (ตอ่ ) สถานภาพท่ัวไป ความถ่ี ร้อยละ 5 10.00 ระดบั การศกึ ษา - มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 15 30.00 23 46.00 - มธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. 5 10.00 2 4.00 - อนปุ ริญญา/ปวส. 50 100.00 2 4.00 - ปรญิ ญาตรี 9 18.00 20 40.00 - สงู กวา่ ปริญญาตรี 19 38.00 50 100.00 รวม สถานภาพ - โสด - สมรส - หยา่ รา้ ง - หม้าย (คูส่ มรสเสียชวี ิต) รวม คู่มือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝา่ ยวิชาการ

9 6. การเขยี นบรรณานกุ รม/อ้างอิง 6.1 หลกั เกณฑก์ ารเขียนบรรณานกุ รม 6.1.1 พิมพ์คำว่า “บรรณานุกรม” ด้วยตัวอักษร ขนาด 16 พอยต์ ตัวหนา ไว้กึ่งกลาง หน้ากระดาษห่างจากขอบกระดาษดา้ นบน 3.81 เซนติเมตร (ซม.) หรือ 1.5 นว้ิ 6.1.2 เรียงลำดับเอกสารอ้างอิงทั้งหมดจากตัวอักษรแรก โดยยึดถือวิธีการตามแบ บ พจนานกุ รม (ก-ฮ, A-Z) 6.1.3 เรียงลำดับรายการบรรณานุกรมภาษาไทย ตามดว้ ยรายการบรรณานุกรมภาษาอังกฤษ 6.1.4 พิมพ์รายงานบรรณานุกรมชิดขอบเขตข้อความด้านซ้าย ถ้าพิมพ์หลายบรรทัด ให้จัด ระยะย่อหน้า 0.5 นิ้ว (ระยะ 1 Tab) ทุกบรรทัดจนจบ เมื่อเริ่มรายการใหม่ ให้ชิดขอบเขตข้อความด้านซ้าย เช่นเดมิ โดยไมต่ ้องเว้นบรรทดั 6.2 วธิ ีลงรายการของบรรณานุกรม 6.2.1 ผ้แู ต่ง 1) ชือ่ ผแู้ ต่ง ไม่ตอ้ งใช้คำนำหนา้ นาม เช่น นาย นาง นางสาว ดร. ศ. นายแพทย์ เช่น กนกกร บวรศักด์,ิ ชุตมิ า รัตนาวรกลุ เปน็ ตน้ 2) รายการอ้างอิงที่เป็นภาษาไทย ชื่อผู้แต่งให้ใช้ชื่อตัวและตามด้วยชื่อสกุล เช่น สุธาสินี พิทยาวฒั น์, อนุชา ทรัพยร์ ุจิวงศ์ เปน็ ต้น 3) รายการอา้ งองิ ที่เป็นภาษาองั กฤษ ช่อื ผู้แต่งให้ใชช้ ่อื สกุล และตามด้วยชื่อตวั โดย คน่ั ด้วยจุลภาค ตามดว้ ยอักษรย่อของชื่อแรกและช่อื กลาง ตามลำดับ เช่น Owen, Robert E., Gittinger, J. P. 4) ผู้แต่งที่มีฐานันดรศักดิ์ บรรดาศักดิ์หรือยศ ให้ใช้ชื่อตัว ตามด้วยเครื่องหมาย จลุ ภาค และฐานนั ดรศักดิ์หรือยศ เช่น คึกฤทธ์ิ ปราโมช, พลตรี ม.ร.ว., สภุ ทั รดสิ ดิสกุล, ม.จ. เปน็ ตน้ 5) ผู้แต่งที่มีสมณศักดิ์ให้ใช้ชื่อตามที่ปรากฏในเอกสาร เช่น พระเทพคุณาธาร, พระเทพวาที, พระพิศาลธรรมเวที ยกเว้น ผู้แต่งที่เป็นพระสังฆราชและเชื้อพระวงศ์ ให้ลงพระนามจริงก่อน แล้วกลับคำนำหน้าท่ีแสดงลำดับชั้นเช้ือพระวงศ์ไปไวข้ ้างหลัง โดยใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) เช่น ปรมานชุ ติ ชโิ นรส, สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้ากรมสมเด็จพระ 6) ถ้ามีผู้แต่ง 2 คน ให้ใช้ชื่อผู้แต่งคนแรก ตามด้วยคำว่า “และ” หรือ “and” ใน ภาษาอังกฤษคั่นระหว่างชื่อผู้แต่งทั้ง 2 คน เช่น สิทธิ พินิจภูวดลและนิตยา กาญจนวรรณ, Galton, M. & Williamson, J. 7) ถา้ มีผ้แู ต่ง 3 คน ให้ใชช้ อื่ ผู้แตง่ ทัง้ สามคน โดยลงชอ่ื คนท่ีหนง่ึ กบั คนทส่ี อง โดยใช้ เครื่องหมายจุลภาคคั่น (,) และชื่อคนที่สอง กับคนที่สามให้ใช้คำว่า “และ” หรือ เครื่องหมาย (&) เชื่อม ในกรณีที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น กมลชนก สุทธิศักดิ์ขจร, ผอบ รัตนกีรติ และสโรชินี เหมบรรณวิทย์ หรือ Rowling, J.K., Sparks, N. & Evanovich, J. 8) ถ้ามีผู้แต่งมากกว่า 3 คนขึ้นไปให้ใส่ชื่อผู้แต่งคนแรกแล้วตามด้วยคำว่า “และ คณะ” หรือ “et.al.” ในภาษาอังกฤษแทนผู้แต่งคนอื่นๆ ทั้งหมด เช่น สุลาลีวัลย์ พุฒิวรกานต์ และคณะ, Kem-mis, Anchilee Scott et.al. คู่มือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝ่ายวิชาการ

10 9) เอกสารอา้ งองิ ของหน่วยงาน เช่น กระทรวง ทบวง กรม ฯลฯ ใหใ้ ช้ชือ่ หน่วยงาน นน้ั ๆ เปน็ ผ้แู ตง่ กรณีเอกสารท่ีออกในนามหน่วยงานระดบั กรมหรือหน่วยงานยอ่ ยไปกว่ากรม และสังกัดอยู่ใน กรมนั้นๆ แม้ว่าจะปรากฏชื่อกระทรวงอยู่ ใช้ชื่อกรมเป็นผู้แต่ง ส่วนชื่อของหน่วยงานย่อยให้ไว้ในส่วนของ ผู้พิมพ์ เช่น ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ลงรายการเป็น จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . คณะอักษรศาสตร์. ภาควชิ าบรรณารกั ษศาสตร์. - เอกสารท่มี ีเฉพาะชอื่ บรรณาธิการ (Editor) หรอื ผรู้ วบรวม (Compiler) ให้ใช้ ชื่อผู้แต่งคั่นด้วยจุลภาค ตามด้วยคำว่า “บรรณาธิการ” หรือ “ผู้รวบรวม” สำหรับเอกสารภาษาไทยและ “Editor” หรือ “Compiler” สำหรับเอกสารภาษาอังกฤษไว้หลังรายการผแู้ ต่ง เช่น รัชดาภรณ์ วงศ์สุรนนท์, บรรณาธกิ าร หรอื Steel, D., Editor - เอกสารอ้างอิงที่ไม่ปรากฏช่ือผู้แต่ง หรือรายงานการประชุมทางวิชาการให้ใช้ ชื่อเรื่องของเอกสารน้นั ลงเปน็ รายการแรก เชน่ รายงานการประชมุ สมชั ชาสมนุ ไพรไทย สมนุ ไพรโลก เปน็ ตน้ 6.2.2 ช่ือบทความ 1) ใช้ชื่อตามที่ปรากฏในเอกสาร โดยอยู่ในเรื่องหมายอัญประกาศ (“......”) เช่น “การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธรุ กจิ ในศตวรรษท่ี 21” หรือ “การบริหารความเสยี่ งในธุรกิจดจิ ทิ ลั ” เปน็ ตน้ 2) ช่ือภาษาองั กฤษใหเ้ ขยี นอกั ษรตวั แรกของทุกคำ ดว้ ยตัวอกั ษรตวั พมิ พ์ใหญ่ ยกเวน้ คำบพุ บท สนั ธาน และคำนำหนา้ นาม เว้นแต่จะเป็นคำแรก เช่น “A College Degree is Nearly a Necessity” หรอื “How to Keep Food Fresh Naturally” เป็นตน้ 3) กรณีที่มีชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ เช่น ชอื่ พืช สตั ว์ ทเ่ี ป็นภาษาลาตนิ แทรกอยูใ่ ห้ใช้ตัวเอยี ง หรือขีดเส้นใตช้ อื่ เฉพาะนนั้ 6.2.3 ชื่อหนังสอื หรอื วารสาร 1) ชอ่ื หนงั สอื หรอื วารสารให้ ขดี เสน้ ใต้ หรือพิมพ์ตวั หนา หรอื ตวั เอยี ง (อยา่ งใด อย่างหน่ึง) 2) ช่ือวารสารตา่ งประเทศอาจใช้ชื่อย่อทถ่ี กู ต้องของวารสารน้นั ๆ ได้ 3) ชื่อหนังสือที่พิมพ์เป็นชุด ถ้าอ้างเล่มเดียวให้ลงเฉพาะเล่มนั้น เช่น 3 เล่ม ถ้าอ้าง มากกว่า 1 เลม่ แต่ไมต่ อ่ เนอื่ งกนั ให้ใส่หมายเลขของแต่ละเล่ม โดยมีจุลภาคค่ัน เช่น เลม่ 1, 3, 5 หรือ Vol. 1, 3 ,5 แตถ่ า้ อ้างทกุ เลม่ ในชุดนนั้ ให้ใสจ่ ำนวนเลม่ ท้งั หมด เชน่ 5 เล่ม หรือ 5 Vol. ใหข้ ดี เสน้ ใต้ หรือพมิ พต์ ัวเข้ม หรือตัวเอียง (อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ) ตอ่ เน่อื งจากชอื่ หนงั สือ 6.2.4 อนิ เตอร์เน็ต 1) ผูแ้ ต่ง 2) ชือ่ เรอื่ งหรอื คำที่สบื ค้น 3) สบื คน้ จากระบบ CD-ROM หรือ ระบบ Online 4) เข้าถงึ ไดจ้ ากชอ่ื เวบ็ ไซด์ 5) ปี พ.ศ. ทเี่ ผยแพรห่ รอื สืบค้น ค่มู ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝ่ายวิชาการ

11 6.3 ตวั อย่างรปู แบบการพิมพบ์ รรณานกุ รม (เครอ่ื งหมาย / (ทบั ) แทนการวรรค) 6.3.1 เอกสารประเภทตำรา หรอื หนงั สือทั่วไป และเอกสารของหนว่ ยราชการ แบบแผน ชื่อ/สกุลผแู้ ตง่ .//ปีทีพ่ ิมพ.์ //ชื่อหนงั สือ. (ตวั หนา)//พมิ พ์คร้ังที่ (กรณที ่ีไมใ่ ช่พิมพ์ครั้งแรก).//เมืองท่ีพิมพ์:/ กด 1 Tab สำนักพมิ พ์ หรือจดั จำหน่าย. หรือ ชื่อผู้แตง่ .//ปีทพี่ ิมพ.์ //ช่อื หนงั สอื .//พิมพ์ครั้งท่ี (กรณีท่ไี ม่ใช่พิมพค์ ร้ังแรก).//เมอื งท่ีพมิ พ์:/สำนักพิมพ์ ตัวอย่าง 1) ผู้แต่งคนเดยี ว (กรณีเมอื งทพี่ มิ พ์ คอื กรงุ เทพมหานคร ให้ลงรายการเปน็ กรงุ เทพฯ) ชนวน รัตนวราหะ. 2535. เกษตรย่ังยืน: เกษตรกรรมกับธรรมชาติ. กรงุ เทพฯ: เครอื ข่ายเกษตรกรรม ทางเลือก. ทองโรจน์ อ่อนจนั ทร์. 2524. หลกั เศรษฐศาสตรเ์ กษตร. พิมพค์ รัง้ ที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ไทยวฒั นา. มนตรี จันทวงศ์. 2535. วนเกษตร: เพอื่ คน และสิ่งแวดลอ้ ม. กรงุ เทพฯ: เครือขา่ ยเกษตรกรรมทางเลอื ก. สมบรู ณ์ เจริญจิระตระกลู . 2535. การประยุกตล์ ิเนยี รโ์ ปรแกรมม่ิงเพ่อื การวางแผนการผลิต และการ จัดการทางการเกษตร. สงขลา: ภาควชิ าเศรษฐศาสตรเ์ กษตร และทรพั ยากร คณะทรพั ยากร ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์. Gittinger, J. P. 1984. Economic Analysis of Agricultural Projects. Baltimore: The Johns Hopkins University Press. Owen, Robert E. 1988. Language Development: An Introduction. Second Edition. Columbus: Murrill. ในกรณีที่มีเอกสารอ้างอิงหลายเล่มมาจากผู้แต่งเดียวกัน ปีเดียวกันนั้น การเรียงลำดับการอ้างองิ จะต้องเรยี งตามลำดบั ท่ไี ด้มกี ารอ้างถึงในเนื้อหา เช่น สำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ. 2543ก. สรุปววิ ฒั นาการของแผนพฒั นา เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ. กรงุ เทพฯ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ. 2543ข. การกำหนดยทุ ธศาสตรก์ ารลด ความยากจนในแผนชาติ: จากอดีตท่ผี า่ นมา. กรุงเทพฯ 2) ผู้แต่งสองคนข้ึนไป ใหเ้ ขียนชอื่ และนามสกุลผูแ้ ตง่ ให้ครบทกุ คน (กรณเี มอื งทพ่ี มิ พ์ คือ กรุงเทพมหานคร ใหล้ งรายการเป็น กรงุ เทพฯ) เชน่ พชิ ิต พิทักษเ์ ทพสมบตั ิ และสวุ ัฒนา วิบลู ย์เศรษฐ์. 2531. ปัจจยั ทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ การเลอื กใช้การทำหมันของ คสู่ มรสในเขตชนบทภาคใต.้ กรงุ เทพฯ: สถาบนั ประชากรศาสตร์จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. อภชิ ยั พนั ธเสน และมนตรี เจนวิทย์การ. 2531. การเมอื งเร่ืองขา้ ว: นโยบายประเดน็ ปญั หา และความ ขัดแย้ง. กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ค่มู ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝา่ ยวิชาการ

12 Agrawal, R.C. and E.O. Heady. 1972. Operation Research Methods for Agricultural Decision. Iowa: The Iowa State University Press. Henderson, J.M. and R.E.Quandt. 1980. Microeconomic Theory. A Mathematical Approach. Third Edition. Singapore: McGraw-Hill, Inc. 6.3.2 เอกสารประเภทบทความจากวารสาร แบบแผน ชอื่ /สกุลผูเ้ ขยี นบทความ.//ปที ่พี มิ พ์.//“ช่ือบทความ”.//ชือ่ วารสาร (ตวั หนา).//ฉบบั ท่ี/(เดอื น พ.ศ.):/ กด 1 Tab เลขหน้าท่ีปรากฏบทความในวารสาร. หรือ ชอื่ /สกุลผเู้ ขียนบทความ.//ปีท่พี ิมพ์.//“ชื่อบทความ”.//ชอื่ วารสาร.//ฉบบั ที่/(เดอื น พ.ศ.):/เลขหนา้ ท่ีปรากฎในวารสาร. ตัวอยา่ ง สมร นิติทัณตป์ ระภาส. 2524. “การปฏวิ ตั ิมารยาท และศลี ธรรมของคนอเมรกิ นั ในทศวรรษ ค.ศ. 1920”. สงั คมศาสตร์ และมานุษยศาสตร์. 1 (มกราคม-กมุ ภาพนั ธ์ 2524): 47-71. Williams, A. S. 1980. “Relationship between the Structure of Local Influence and Policy Outcomes”. Rural Sociology. 45 (Winter 1980): 621-643. กรณเี อกสารอ้างอิงประเภทมบี รรณาธิการ ตัวอยา่ ง ประเวศ วะสี. 2538. โลกสีเขียว: จติ สำนกึ ใหม่ของมนษุ ยชาต.ิ สมยั อาภาภริ ม และเยาวนนั ท์ เชฏฐรัตน์ (บรรณาธกิ าร) สถานการณส์ งิ่ แวดล้อมโลก 2538. กรุงเทพฯ: ป.อมรนิ ทร์พร้ินตง้ิ แอนพบั ลิชช่ิง จำกัด (มหาชน). 6.3.3 เอกสารประเภทวทิ ยานพิ นธ์ แบบแผน ชอื่ ผเู้ ขียน.//ปที เ่ี สนอวทิ ยานพิ นธ์.//ชอื่ วิทยานิพนธ์.//สถานที่จัดทำ:/วิทยานิพนธ์ของการศกึ ษาระดับใด/ กด 1 Tab ชอ่ื มหาวทิ ยาลยั ./(ลักษณะการพิมพ์) ตัวอยา่ ง (กรณเี มืองที่จัดทำ คอื กรุงเทพมหานคร ใหล้ งรายการเป็น กรงุ เทพฯ) จรวย เพชรรตั น์. 2528. การวิเคราะห์เศรษฐกจิ การผลิตโกโก้ในประเทศไทย. กรงุ เทพฯ: วิทยานพิ นธ์ ปริญญาโท มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. เฉลมิ เกียรติศกั ดโ์ิ สภณ. 2526. การวเิ คราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกจิ ของปยุ๋ เคมที ี่มีตอ่ ขา้ วในจงั หวดั ฉะเชิงเทรา และพัทลุง ปีการเพาะปลกู 2524/25. กรงุ เทพฯ: วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาโท มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ (สำเนา) คู่มือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝา่ ยวิชาการ

13 6.3.4 เอกสารที่เปน็ บทความจากหนังสอื พมิ พ์ แบบแผน ช่ือ/สกลุ ผเู้ ขยี นบทความ.//ปที ี่พิมพ์.//“ชอื่ บทความ”,/ชอื่ หนังสอื พมิ พ.์ //วัน เดอื น ปที พ่ี ิมพ์เผยแพร,่ / กด 1 Tab หน้าท่ีปรากฏบทความ. หรอื ชือ่ /สกุลผเู้ ขียนบทความ.//ปที ี่พิมพ.์ //“ชอ่ื บทความ”,/ชอ่ื หนงั สอื พมิ พ.์ //วนั เดอื น ปที พี่ ิมพเ์ ผยแพร่,/ กด 1 Tab หนา้ ที่ปรากฏบทความ. (สำหรบั กรณที ไี่ มป่ รากฏชื่อผเู้ ขยี นบทความ ใหข้ น้ึ ต้นด้วยช่ือบทความ) ตัวอย่าง เพญ็ รงุ่ ใยสามเสน. 2546. “กฟผ. เปดิ เขือ่ นขาย “ทอ่ งเทย่ี ว” พลกิ โฉมธรุ กิจเสรมิ รบั ปี 46”, ประชาชาติ ธรุ กจิ . 6-8 มกราคม 2546, หนา้ 20. เจริญ เพช็ รประดบั . 2545. “เปิดผลวจิ ยั ค้าปลีกขอนแกน่ ”, กรงุ เทพธรุ กจิ . 22 มีนาคม 2545, หน้า 22. “การศึกษาของเยาวชนไทย ในศตวรรษท่ี 21”, เดลินวิ ส.์ 16 มกราคม 2560, หน้า 13 Tortermvasana K. 2002. “TOT union hits out at TA”, Bangkok Post. August 27, 2002, p. 1. “Consumer loan providers shift focus to low- income earners”. 2002. Bangkok Post. August 27, 2002, p.2. 6.3.5 เอกสารอเิ ล็กทรอนกิ สจ์ าก Website แบบแผน ช่อื /สกลุ ผเู้ ขียน.//ปที ่ีพมิ พ์หรอื เผยแพร.่ //ช่อื เรอ่ื ง/[ออนไลน]์ .//ชอื่ เวบ็ ไซต/์ [ค้นวนั ท่ี เดือน ป]ี หรือ ชื่อหนว่ ยงานผเู้ ขยี น.//ปที พ่ี มิ พ์หรอื เผยแพร่..//ชอ่ื เรื่อง [ออนไลน]์ .//ชือ่ เว็บไซต/์ [ค้นวนั ที่ เดอื น ป]ี ตวั อย่าง สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร. 2543. การประเมินผลโครงการส่งเสรมิ การเลยี้ งโคนม. [ออนไลน]์ . URL: http://www.oae.go.th/publications/y2543/y_ec2543.html [ค้นวันที่ 1 พฤศจกิ ายน 2545] Asian Development Bank. 2002. Guideline for the Financial Governance and Management of Investment Projects Financed by ADB. [Online]. URL: http://www.adb.org/ Documents/Guildelines/Financial/default.asp [Accessed November 4, 2002] คมู่ ือประกอบการดำเนินงานรายวิชาโครงงาน ฝ่ายวิชาการ

ภาคผนวก ก แบบเสนอโครงรา่ งรายวชิ าโครงงาน แบบ วจ.01/1 แบบเสนอโครงรา่ งรายวิชาโครงงาน แบบ วจ.01/2

แบบ วจ.01/1 แบบเสนอโครงรา่ งรายวชิ าโครงงาน (วจิ ยั ทางสงั คมศาสตร)์ 1. ช่ือเรื่อง 2. ผู้รบั ผดิ ชอบ นักศกึ ษาระดบั ชน้ั สาขาวิชา ประเภทวิชา วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาปัตตานี รหสั นกั ศึกษา หวั หน้าโครงงาน 2.1 นาย/นางสาว รหัสนกั ศกึ ษา 2.2 นาย/นางสาว รหสั นกั ศกึ ษา 2.3 นาย/นางสาว ครผู สู้ อนรายวิชาโครงการ ทีป่ รกึ ษาโครงการ 3. ความเปน็ มาและความสำคัญ (เขียนไมต่ ่ำกวา่ คร่งึ หนา้ กระดาษ) 4. วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 4.1 เพื่อ 4.2 เพอ่ื 4.3 เพ่อื 4.4 เพือ่

5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รบั 5.1 5.2 5.3 5.4 6. ทบทวนวรรณกรรม การวิจัยครั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ทำการศึกษาค้นคว้า รวบรวมเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง ดังหวั ข้อต่อไป 6.1 6.2 6.3 6.4 7. นิยามศัพท์ หมายถงึ หมายถงึ หมายถงึ 8. วธิ ีการดำเนินการวิจัย/ศกึ ษา การวจิ ัยครงั้ นี้ เปน็ การวิจัยเชิงสำรวจ มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ โดยมีวิธกี ารดำเนินการตามลำดบั ดงั น้ี 8.1 ประชากร คือ 8.2 กลุม่ ตัวอยา่ ง คือ 8.3 เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการวิจัย 8.3.1 การสรา้ งเครอื่ งมือ 8.3.2 ลักษณะเครื่องมือ

8.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 8.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 9. ขอบเขตการวิจัย/ ศึกษา 10. ระยะเวลาการวิจยั /ศึกษา ระหว่างเดือน 25 - เดือน 25 11. แผนการดำเนินการวิจยั / ศึกษา กจิ กรรม/ ระยะเวลา (สัปดาห)์ หมาย ขัน้ ตอนการวิจัย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 เหตุ 1. แตง่ ตั้งคณะทำงาน / / 2. ศึกษาข้อมลู ท่เี กีย่ วข้อง // 3. เขยี นโครงงาน ///// 4. เสนออนุมัตโิ ครงงาน / 5. ดำเนินการ ////////////// 6. ประเมนิ ผล / // 7. สรุปรายงาน / 12. งบประมาณทีใ่ ช้ จำนวนหนว่ ย ราคาตอ่ หน่วย (บาท) รวม (บาท) ค่าวัสดุ รวม

13. บรรณานกุ รม/เอกสารอา้ งองิ

14. เสนอเพอ่ื พิจารณาอนุมตั ิ () หัวหน้าโครงงาน วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. () ครผู สู้ อนรายวชิ าโครงงาน วันที่ เดอื น พ.ศ. () () () กรรมการแผนกวิชา กรรมการแผนกวชิ า กรรมการแผนกวิชา วันท่ี เดือน พ.ศ. วันที่ เดอื น พ.ศ. วันท่ี เดอื น พ.ศ. () หัวหนา้ แผนกวิชา วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. () รองผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ วันท่ี เดอื น พ.ศ. () รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวิชาการ วนั ที่ เดอื น พ.ศ.

แบบ วจ.01/2 แบบเสนอโครงรา่ งรายวชิ าโครงงาน (วจิ ยั ทางวทิ ยาศาสตร)์ 1. ช่ือเรื่อง 2. ผู้รบั ผดิ ชอบ นักศกึ ษาระดบั ชน้ั สาขาวชิ า ประเภทวิชา วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาปัตตานี รหสั นกั ศึกษา หวั หน้าโครงงาน 2.1 นาย/นางสาว รหัสนกั ศกึ ษา 2.2 นาย/นางสาว รหสั นกั ศกึ ษา 2.3 นาย/นางสาว ครผู สู้ อนรายวิชาโครงการ ทีป่ รกึ ษาโครงการ 3. ความเปน็ มาและความสำคัญ (เขียนไมต่ ่ำกวา่ คร่งึ หนา้ กระดาษ) 4. วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 4.1 เพื่อ 4.2 เพอ่ื 4.3 เพ่อื 4.4 เพือ่

5. ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รบั 5.1 5.2 5.3 5.4 6. ทบทวนวรรณกรรม การวิจัยครั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ทำการศึกษาค้นคว้า รวบรวมเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง ดังหวั ข้อต่อไป 6.1 6.2 6.3 6.4 7. นิยามศัพท์ หมายถึง หมายถึง หมายถึง 8. วธิ ีการดำเนินการวิจัย/ศกึ ษา การวจิ ัยครงั้ นี้ เปน็ การวิจัยเชิงทดลอง มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื โดยมีวิธกี ารดำเนินการตามลำดบั ดงั นี้ 8.1 ประชากร คือ 8.2 กล่มุ ตวั อย่าง คอื 8.3 เครือ่ งมอื ทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั 8.3.1 การสรา้ งเครอ่ื งมอื 8.3.2 ลกั ษณะเครื่องมือ

8.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 8.5 การวิเคราะห์ข้อมูล 9. ขอบเขตการวิจัย/ ศึกษา 10. ระยะเวลาการวิจยั /ศึกษา ระหว่างเดือน 25 - เดือน 25 11. แผนการดำเนินการวิจยั / ศึกษา กจิ กรรม/ ระยะเวลา (สัปดาห)์ หมาย ขัน้ ตอนการวิจัย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 เหตุ 1. แตง่ ตั้งคณะทำงาน / / 2. ศึกษาข้อมูลท่เี กีย่ วข้อง // 3. เขยี นโครงงาน ///// 4. เสนออนุมตั ิโครงงาน / 5. ดำเนินการ ////////////// 6. ประเมนิ ผล / // 7. สรุปรายงาน / 12. งบประมาณทีใ่ ช้ จำนวนหนว่ ย ราคาตอ่ หน่วย (บาท) รวม (บาท) ค่าวัสดุ รวม

13. บรรณานกุ รม/เอกสารอา้ งองิ

14. เสนอเพอ่ื พิจารณาอนุมตั ิ () หัวหน้าโครงงาน วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. () ครผู สู้ อนรายวชิ าโครงงาน วันที่ เดอื น พ.ศ. () () () กรรมการแผนกวิชา กรรมการแผนกวชิ า กรรมการแผนกวิชา วันท่ี เดือน พ.ศ. วันที่ เดอื น พ.ศ. วันท่ี เดอื น พ.ศ. () หัวหนา้ แผนกวิชา วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. () รองผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ วันท่ี เดอื น พ.ศ. () รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวิชาการ วนั ที่ เดอื น พ.ศ.

ภาคผนวก ข ตวั อย่างการเขยี นรายงานโครงงานเชงิ วจิ ัย ฉบับสมบูรณ์ (5 บท)

ตัวอย่างหน้าปก ตราสถาบันการ อาชีวศกึ ษาภาคใต้ ๓ ขนาด 4x4 เซนตเิ มตร 1 Enter ศกึ ษาผลการใช้สมดุ บญั ชรี ายรบั -รายจ่ายของชาวบา้ นชมุ ชน.................... ตำบล............... อำเภอ............... จงั หวดั ............... จดั ระยะขอบทกุ ด้าน 2.54 ซม. หรือ 1 นิ้ว และพิมพด์ ้วยแบบ 8 Enter อกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 20 พอยท์ ตัวหนา ทุกบรรทดั 2 Tab 2 วรรค ผู้วิจัย นางสาวดอกไม้ ในแจกนั รหัสนักศึกษา 0123456789 นายตน้ ไม้ใหญ่ อยู่ในสวน รหสั นักศึกษา 9876543210 2 Tab 4 วรรค 7 Enter พิมพช์ ิดขอบด้านซา้ ย พิมพ์ชดิ ขอบดา้ นขวา หลักสูตรประกาศนยี บตั ร............... ประเภทวชิ า............... วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี สถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ ๓ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ตัวอย่างหน้าปกรอง ตราสถาบนั การ อาชวี ศึกษาภาคใต้ ๓ ขนาด 4x4 เซนตเิ มตร 1 Enter ศึกษาผลการใช้สมดุ บัญชีรายรบั -รายจ่ายของชาวบ้านชมุ ชน.................... ตำบล............... อำเภอ............... จงั หวัด............... จดั ระยะขอบด้านบน, ลา่ ง และขวา 2.54 ซม. หรือ 1 นิ้ว และ 8 Enter ดา้ นซ้าย 3.81 ซม. หรือ 1.5 นิ้ว และพิมพด์ ้วยแบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 20 พอยท์ ตวั หนา ทุกบรรทัด 1 Tab 2 วรรค ผวู้ ิจัย นางสาวดอกไม้ ในแจกัน รหัสนักศึกษา 0123456789 นายต้นไม้ใหญ่ อยใู่ นสวน รหัสนักศึกษา 9876543210 2 Tab 4 วรรค 7 Enter พิมพช์ ิดขอบด้านซ้าย พิมพ์ชดิ ขอบดา้ นขวา หลักสตู รประกาศนียบตั ร............... ประเภทวิชา............... วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคใต้ ๓ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

แบบอกั ษร TH SarabunPSK ตัวอย่างบทคดั ย่อ เลขหน้าเริ่มจากตัวอักษร ก แบบอักษร ขนาด 16 พอยท์ ตวั หนา TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ก ช่ืองานวิจยั : ศึกษาผลการใช้สมดุ บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ยของชาวบ้านชุมชน............... แบบอกั ษร ตำบล............... อำเภอ............... จงั หวดั ............... TH SarabunPSK ช่ือผ้วู ิจัย : นางสาวดอกไม้ ในแจกัน และนายตน้ ไม้ใหญ่ อยู่ในสวน ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ปีทวี่ ิจัย : 25.......... หนว่ ยงาน : วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี 1 Enter แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา 1 Tab บทคัดย่อ 1 Enter รายงานการวจิ ยั เรื่องศึกษาผลการใช้สมุดบัญชรี ายรบั -รายจ่ายของชาวบ้านชมุ ชน............... ตำบล............... อำเภอ............... จังหวัด............... มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้สมุดบัญชี รายรบั -รายจา่ ยของชาวบา้ นชมุ ชนชมุ ชน............... ตำบล............... อำเภอ............... จังหวัด............... เครื่องมอื ทีใ่ ช้ในเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากกลมุ่ ตวั อย่าง คอื สมดุ บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย และแบบติดตามผล กลุ่มตัวอย่างท่ีใชใ้ นการวจิ ัยได้มาโดยการสุม่ อยา่ งง่ายจากชาวบ้านชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ............... จังหวัด............... จำนวน ………. คน โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเดือน............... 25.......... วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถ่ี หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (������̅) และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัยพบว่า สามารถสร้างสมุดบัญชีรายรับ-รายจ่าย ของชาวบ้านชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ............... จังหวัด............... และเมื่อศึกษาผลการใช้สมุดบัญชีรายรับ-รายจ่ายของชาวบา้ น ชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ............... จังหวัด............... ผู้ตอบแบบติดตามผลมี ความคิดเห็นอยู่ในระดับ........... (เกือบ)ทุกด้าน ค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นที่มีอันดับสูงสุดคือ ด้านประสิทธิภาพต่อผลการใช้สมุดบญั ชีรายรับ-รายจ่าย (x̅ = ………) รองลงมาคือ ด้านความเขา้ ใจ ตอ่ ผลการใชส้ มดุ บัญชรี ายรับ-รายจา่ ย (x̅ = ………) และอนั ดบั สามคือ ด้านความร้ใู นการใช้สมุดบัญชี รายรบั -รายจ่าย (x̅ = ………) 1 Tab จดั ระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรือ 1 นิ้ว และดา้ นซ้าย 3.81 ซม. หรอื 1.5 น้วิ

ตัวอยา่ งกิตติกรรมประกาศ เลขหน้าตอ่ จากบทคัดย่อ แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ข กติ ตกิ รรมประกาศ แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา 1 Enter โครงงานวิจัยฉบับนี้สำเร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความกรุณา และความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจาก คณุ ครู ครูผู้สอนรายวชิ าโครงงาน ที่ได้ให้คำแนะนำและตรวจทานแกไ้ ข ตลอดระยะเวลาในการดำเนนิ การ คณะผู้วจิ ยั จงึ ขอขอบพระคุณเปน็ อยา่ งสูง ขอขอบคุณคุณครู คุณครู คุณครู และคณุ ครู ที่ได้กรุณาเสียสละเวลาให้คำปรึกษา แนะนำและตรวจสอบแบบ เสนอโครงงานวจิ ัยในครงั้ นี้ พร้อมท้ังใหค้ ำปรกึ ษาเกย่ี วกบั การคดิ วิเคราะห์ และสรุปอภปิ รายผล ขอขอบคณุ คณะผบู้ รหิ าร ครู รุ่นพ่ี-ร่นุ นอ้ ง เพื่อนๆ วทิ ยาลัยอาชีวศกึ ษาปัตตานี และชาวบา้ น ชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ............... จังหวัด............... ที่ได้ให้ความช่วยเหลือและอำนวย ความสะดวกในการเกบ็ ขอ้ มูลในคร้งั นเี้ ปน็ อย่างดีย่งิ ประโยชนอ์ ันคณุ คา่ อนั พึงมจี ากการวิจัยในคร้ังน้ี ผูว้ จิ ยั ขอน้อมจติ อันบริสุทธ์เิ พอ่ื เคารพพระคณุ ตอ่ บิดามารดา ครูบาอาจารยท์ ุกทา่ น ที่ไดเ้ มตตาอบรม ส่งั สอนให้ผ้วู จิ ยั มคี วามต้ังใจ ม่งุ มนั่ พากเพียร และประสบความสำเรจ็ ในการศกึ ษา 1 Tab 2 Enter ผูว้ ิจยั 25 จดั ระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรือ 1 นิ้ว และด้านซ้าย 3.81 ซม. หรอื 1.5 นว้ิ

ตัวอย่างสารบญั เลขหนา้ ต่อจากกติ ตกิ รรมประกาศ แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ค สารบัญ แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา 1 Enter เรือ่ ง แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตวั หนา หนา้ บทคดั ยอ่ ก ข กติ ตกิ รรมประกาศ ค ง สารบัญ จ สารบญั ตาราง 1 2 สารบัญภาพ 2 2 บทที่ 1 บทนำ 2 1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญ 3 3 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย 7 1.3 ขอบเขตการวจิ ัย 8 8 1.4 นยิ ามศัพท์ 8 8 1.5 ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ บั 10 11 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยทเ่ี กี่ยวข้อง 13 2.1 ความรพู้ ื้นฐานเก่ียวกบั งานวิจยั 13 13 2.1.1 ความรพู้ นื้ ฐานเกี่ยวกับการทำบัญชี 2.1.2 สภาพท่ัวไปของชมุ ชน............... ตำบล............... อำเภอ............. จงั หวดั ............... 2.2 แนวคดิ และทฤษฎีที่รองรบั 2.2.1 สมุดบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย 2.2.2 หลกั การบญั ชรี ายรบั -รายจ่าย 2.2.3 แนวความคิดทางการบญั ชี 2.2.4 ขนั้ ตอนการทำรายรับ-รายจ่าย 2.3 งานวิจัยทเ่ี กย่ี วข้อง บทท่ี 3 วิธดี ำเนนิ การวจิ ัย 3.1 รปู แบบการวจิ ยั 3.2 ระเบยี บวธิ ีวิจยั 3.3 ขนั้ ตอนดำเนนิ การวจิ ยั แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ จดั ระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรือ 1 นวิ้ และด้านซ้าย 3.81 ซม. หรือ 1.5 น้วิ

ตวั อย่างสารบญั ตาราง เลขหน้าตอ่ จากสารบัญ แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ง สารบัญตาราง แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 18 พอยท์ ตวั หนา 1 Enter ตารางที่ แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตัวหนา หนา้ 18 4.1 สถานภาพทัว่ ไปของผูต้ อบแบบติดตามผล 19 4.2 ระดับความคิดเห็น และอันดับค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของผู้ตอบแบบ 20 ติดตามผลที่มีต่อการใช้สมุดบัญชีรายรับ-รายจ่ายของชาวบ้านชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ.............จงั หวัด............... ด้านความรู้ในการใชส้ มุดบัญชี รายรบั -รายจา่ ย 4.3 คา่ เฉลยี่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ระดบั ความคิดเหน็ และอนั ดับค่าเฉลีย่ ของระดบั ความคดิ เห็นของผ้ตู อบแบบตดิ ตามผลท่มี ตี ่อการใชส้ มุดบัญชีรายรบั -รายจา่ ยของ ชาวบ้านชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ.............จังหวัด............... ด้านความเขา้ ใจต่อผลการใช้สมุดบัญชีรายรับ-รายจา่ ย แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ จัดระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรอื 1 นิ้ว และดา้ นซา้ ย 3.81 ซม. หรือ 1.5 น้วิ

ตวั อยา่ งสารบัญภาพ เลขหน้าต่อจากสารบญั ตาราง แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ จ สารบัญภาพ แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา 1 Enter ภาพท่ี แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตวั หนา หน้า 5 2.1 ตัวอย่างแบบฟอรม์ บัญชคี รวั เรอื น (บญั ชีรายรับ-รายจา่ ย) 2.2 ตัวอย่างการบนั ทกึ บญั ชีครวั เรือน (บญั ชีรายรบั -รายจา่ ย) 6 3.3 แผนภูมิข้นั ตอนดำเนนิ การวจิ ยั 14 4.1 แผนภูมิอตั ราส่วนกลุ่มตัวอยา่ งที่ตอบแบบตดิ ตามผล 26 แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ จัดระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรือ 1 น้ิว และด้านซา้ ย 3.81 ซม. หรอื 1.5 นิ้ว

ตัวอย่างบทท่ี 1 เลขหน้าเปน็ ตวั เลข แตไ่ ม่แสดงเลขหนา้ ในหนา้ แรก บทที่ 1 แบบอกั ษร TH SarabunPSK หน้าถัดไปแสดงเลขหนา้ แบบอักษร TH SarabunPSK บทนำ ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา ขนาด 16 พอยท์ ปกติ 1 Enter 1. ความเป็นมาและความสำคัญ แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตัวหนา โดยทั่วไปจุดมุ่งหมายของการบันทกึ รายการทางการบัญชี ก็เพื่อจัดให้มีข้อมูลที่เกีย่ วข้องกับ สินทรัพย์ที่กิจการเปน็ เจา้ ของ หนส้ี นิ ท่ีกจิ การได้ก่อไว้ และทนุ ของเจา้ ของกจิ การท่นี ำมาลง ตลอดจน ผลการดำเนินงานของกิจการ กล่าวคือมุ่งเน้นเพื่อการบริหารงานทางธุรกิจ โดยการจัดทำรายงาน ทางการบัญชีเพื่อให้เจ้าของกิจการทราบถึงผลการดำเนินงานทีผ่ า่ นมาว่าได้กำไรหรอื ขาดทุนเท่าไร หากเกิดการขาดทุนหรอื กำไรน้อยกวา่ ท่ีควรจะเป็น จะไดห้ าหนทางแกไ้ ขเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจ ให้อยรู่ อดปลอดภัย และสามารถเจริญเติบโตตอ่ ไปในอนาคตได้ ในปัจจุบันนอกจากการจัดทำบัญชีเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจแล้ว ยังสามารถจัดทำบัญชี เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคลได้ ซึ่งการดำเนินชีวิตประจำวันย่อมมีรายรับและรายจ่ายต่างๆ ที่เกิดขนึ้ รายรบั ได้มาจากการทำมาหาเลีย้ งชีพ ทง้ั จากอาชีพหลกั และอาชีพรอง ส่วนรายจา่ ยก็ได้แก่ ค่าใช้จ่าย ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ คา่ อปุ โภคและบรโิ ภคท่จี ำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ติ ซ่ึงค่าใชจ้ า่ ยเหลา่ นีม้ จี ำนวนเพิ่มสูงขึ้นมา โดยตลอด และไมม่ ีแนวโน้มทจ่ี ะลดลง บญั ชีครวั เรือนเป็นบัญชที ่ีใช้ สำหรับบันทึกรายได้และรายจ่าย ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ว่าในแต่ละวันเรามีรายได้เข้ามา แล้วจ่ายค่าใช้จ่ายออกไปเท่าไร ปัจจุบันยอดเงินคงเหลือมีเท่าไร ทำให้เกิดการวางแผนการใช้จ่ายต่อไปอย่างรอบคอบ ใช้จ่ายอย่าง พอเพยี งเทา่ ท่มี อี ยา่ งระมัดระวัง เนอื่ งจากผู้จัดทำบญั ชคี รวั เรอื นจะสามารถทราบถึงรายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ ่ายของตนและครอบครวั จึงสามารถวางแผนการใช้จา่ ยตอ่ ไปไดอ้ ย่างรอบคอบ เกดิ ความพอประมาณในการใชจ้ า่ ย สามารถลด คา่ ใช้จา่ ยทไ่ี ม่จำเปน็ ทำใหเ้ กิดการประหยัดและการออม และหากมกี ารใชจ้ า่ ยเทา่ ทม่ี กี ็จะไม่ก่อใหเ้ กดิ หนี้สิน จึงสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้อย่างยั่งยืน เป็นผลให้เกิดภูมิคุ้มกันที่ดีในการรับการ เปลี่ยนแปลงทางการเงินท่ีอาจเกิดขึน้ ในอนาคต หากเกดิ การตกงานหรอื อุบัตเิ หตุที่ทำใหไ้ ม่สามารถ หารายได้มาเล้ยี งชพี ตนเองและครอบครวั ได้ คณะผ้วู จิ ยั จึงมีความสนใจทจ่ี ะศกึ ษาผลการใช้สมุดบัญชรี ายรับ-รายจ่ายของชาวบ้านชุมชน ............... ตำบล............... อำเภอ.............จงั หวัด............... ซึ่งจะเกิดประโยชน์อยา่ งยงิ่ กับผู้บันทึกบัญชี รายรับ-รายจ่าย นอกจากผู้บันทึกสามารถรับรู้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นแล้วว่าเป็นมา อย่างไร ทำให้สามารถควบคุมการรับ-จ่ายในครอบครัวที่ใช้ไปในชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง ทุกเดือนและจะทำให้เรารจู้ กั บริหารการเงนิ ในครอบครวั ได้อยา่ งพอดี 1 Tab แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ใช้การ “กระจายแบบไทย” จดั ระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรือ 1 น้ิว และดา้ นซ้าย 3.81 ซม. หรอื 1.5 นิ้ว

ตวั อยา่ งบทท่ี 2 เลขหนา้ เป็นตวั เลข แต่ไมแ่ สดงเลขหนา้ ในหนา้ แรก หนา้ ถดั ไปแสดงเลขหน้าแบบอกั ษร TH SarabunPSK บทที่ 2 แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ขนาด 18 พอยท์ ตวั หนา เอกสารและงานวจิ ัยทเี่ ก่ยี วขอ้ ง 1 Enter การวิจัยเรื่องศึกษาผลการใช้สมุดบัญชีรายรับ-รายจา่ ยของชาวบ้านชุมชน............... ตำบล ............... อำเภอ.............จังหวัด............... คณะผู้วิจัยได้ทำการศึกษาคน้ คว้ารวบรวมเอกสารและ งานวจิ ัยทีเ่ กีย่ วข้อง ดังตอ่ ไปน้ี 2.1 ความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั งานวจิ ยั 2.1.1 ความรู้พนื้ ฐานเก่ยี วกับการทำบญั ชี 2 Tab 2.1.2 สภาพท่ัวไปของชมุ ชน............... ตำบล............... อำเภอ.............จังหวดั ............... 2.2 แนวคิดและทฤษฎที ่ีรองรับ 2.2.1 สมดุ บัญชรี ายรบั -รายจ่าย 2 Tab 2.2.2 หลักการบญั ชีรายรบั -รายจา่ ย 2.2.3 แนวความคดิ ทางการบญั ชี 2.2.4 ขน้ั ตอนการทำรรายรบั -รายจ่าย 2.3 งานวจิ ยั ทเี่ กีย่ วข้อง โดยมรี ายละเอียดดังน้ี 2.1 ความรู้พืน้ ฐานเกีย่ วกับงานวิจัย 2 Tab 2.1.1 ความรู้พน้ื ฐานเกีย่ วกบั การทำบญั ชี 3 Tab 1) ความหมาย เชาวลีย์ พงศ์ผาตโิ รจน์ และวรศักด์ิ ทมุ มานนท์ (2552 : 2) อ้างถงึ สมาคม นักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า “การทำบัญชี” ไว้ดงั นี้ การบญั ชีเปน็ ศลิ ปะของการจดบันทกึ รายการ หรือเหตุการณท์ ี่เก่ียวข้องกับการเงนิ ไว้ในรูปของ เงินตรา จัดแยกหมวดหมู่ของรายการที่บันทึก สรุปผลและวิเคราะห์ความหมายของรายการที่ได้ จดบันทึกไว้ โดยจัดทำในรูปของรายงานทางการเงนิ 3 Tab ธารี หิรัญรัศมี และคณะ (2549 : 9) กลา่ วว่า การทำบญั ชี หมายถงึ ศลิ ปะ การจดบนั ทกึ รายการหรอื เหตกุ ารณ์สำคัญทางการเงนิ ไวใ้ นรูปเงินตรา ตลอดจนการจดั ประเภท สรปุ ผล และตคี วามหมายของรายการที่จดบันทกึ นัน้ 1 Tab แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ใช้การ “กระจายแบบไทย” จัดระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรอื 1 น้วิ และดา้ นซา้ ย 3.81 ซม. หรือ 1.5 นว้ิ

การอ้างองิ ตารางหนง่ึ ตารางใดในเน้ือหาทำได้ ดงั น้ี 1. ต้องมีตารางน้ันถัดจากทอี่ ้างในหนา้ เดยี วกนั นนั้ หรอื หนา้ ถดั ไป 2. หากตารางข้อมูลที่อ้างเป็นข้อมูลทุติยภูมิที่นักศึกษาค้นคว้ามา ให้อ้างอิงที่มาใต้ตาราง พรอ้ มระบปุ ี พ.ศ. โดย “ตารางที่ และชื่อตาราง” ต้องอยสู่ ่วนบนของตาราง และชดิ ขอบซ้าย เช่น ตารางท่ี 2.1 ขอ้ มลู ท่ัวไปของผนู้ ำกลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชน จำนวน (คน) ร้อยละ ข้อมูลทว่ั ไป 8 16.00 เพศ - ชาย 42 84.00 50 100.00 - หญงิ รวม ท่มี า : พริ พฒั น์ วสุ (2548) จำนวนในแต่ละหลักจะต้องตรงกัน 3. หากขอ้ มลู ในตารางทเี่ ปน็ ตัวเลข ต้องระบหุ น่วยตรงสว่ นบนตารางด้านมมุ ขวาของตาราง หรือในคอลมั นท์ ่แี สดงขอ้ มูลนั้นๆ เช่น ตารางที่ 2.2 ชนดิ และปรมิ าณของสว่ นผสมทใี่ ช้ในการพัฒนาผลิตภณั ฑ์ ชนดิ ของสว่ นผสม 0 ปริมาณการทดแทนถ่ัวแดง (รอ้ ยละ) 100 25 50 75 แป้งสาลี 250 62.5 125 187.5 - ถัว่ แดงหลวง - 187.5 125 62.5 250 นำ้ ตาลทรายแดง 135 135 135 135 135 ผงโกโก้ 15 15 15 15 15 ท่ีมา: สรุ ศกั ด์ิ สทุ ธสิ งค์ และคณะ (2543) การเขยี นเอกสารอา้ งอิงภาพประกอบ การอ้างอิงภาพประกอบ หรือแผนภูมิ หากมีการอ้างอิงภาพประกอบ หรือแผนภูมิ ก็ใช้ หลักเกณฑ์เดียวกนั แตภ่ าพท่ี หรือชื่อภาพตอ้ งอยูใ่ ตภ้ าพ เชน่ ขนาดรูปภาพ 2 x 3 นวิ้ ภาพที่ 2.1 การเปล่ยี นแปลงปรมิ าณอุปสงค์ ท่ีมา : สริ วิ ภิ า ถาวรจิตร์ (2548)

ตัวอยา่ งบทท่ี 3 เลขหนา้ เป็นตวั เลข แตไ่ ม่แสดงเลขหน้าในหนา้ แรก บทที่ 3 แบบอกั ษร TH SarabunPSK หน้าถดั ไปแสดงเลขหนา้ แบบอกั ษร TH SarabunPSK วิธดี ำเนนิ การวิจยั ขนาด 18 พอยท์ ตวั หนา ขนาด 16 พอยท์ ปกติ 1 Enter การวจิ ยั ครง้ั น้ีเป็นการวจิ ัยประเภทวิจัยและพัฒนา มีวัตถปุ ระสงค์เพ่อื สร้างสมดุ บัญชรี ายรับ- รายจ่าย และศกึ ษาการใชส้ มุดบัญชีรายรับ-รายจา่ ยของชาวบ้านชุมชน............... ตำบล...............อำเภอ .............จังหวดั ............... โดยมวี ิธกี ารดำเนินการตามลำดบั 3.1 รูปแบบการวจิ ยั 3.2 ระเบียบวิธวี จิ ัย 3.3 ขัน้ ตอนดำเนนิ การวิจัย 3.4 เคร่อื งมือและเทคนคิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3.5 การวเิ คราะห์ข้อมลู โดยมรี ายละเอยี ด ดงั น้ี 3.1 รูปแบบการวิจัย 2 Tab การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยประเภทวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสมุด บญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย และศกึ ษาผลการใชส้ มุดบัญชรี ายรบั -รายจา่ ยของชาวบา้ นชมุ ชน............... ตำบล ............... อำเภอ............. จงั หวดั ............... 3.2 ระเบียบวิธวี ิจยั 2 Tab 3.2.1 ประชากร คือ ชาวบ้านชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ............. จังหวัด ............... 2 Tab 3.2.2 กลุ่มตัวอย่าง คือ สุ่มประชากรให้เป็นกลุ่มตัวอย่างจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใน ชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ.............จังหวัด............... โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวนทั้งส้ิน ............... คน 3.3 ข้ันตอนดำเนนิ การวิจยั 3.3.1 ประชุมช้แี จง 3.3.2 แต่งตงั้ คณะทำงาน 2 Tab 3.3.3 ศึกษาข้อมลู ท่เี กีย่ วขอ้ ง 3.3.4 เขียนโครงการ 3.3.5 ขออนุมตั โิ ครงการ 3.3.6 ดำเนนิ การ 1 Tab แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ใชก้ าร “กระจายแบบไทย” จดั ระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรอื 1 นิว้ และดา้ นซ้าย 3.81 ซม. หรือ 1.5 น้ิว

ตวั อยา่ งบทท่ี 4 เลขหน้าเปน็ ตวั เลข แตไ่ ม่แสดงเลขหนา้ ในหน้าแรก หนา้ ถัดไปแสดงเลขหน้าแบบอักษร TH SarabunPSK บทท่ี 4 แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 1 Enter การวิจัยครั้งนี้เป็นการวจิ ัยประเภทวิจยั และพฒั นา มีวัตถุประสงค์เพือ่ สร้างสมุดบัญชีรายรบั - รายจ่าย และศึกษาการใชส้ มุดบัญชีรายรับ-รายจ่ายของชาวบา้ นชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ ............. จังหวดั ............... คณะผูว้ ิจัยได้วเิ คราะห์ข้อมลู และนำเสนอตามลำดบั ดังน้ี 4.1 ผลการวเิ คราะหส์ ถานภาพท่ัวไปของผูต้ อบแบบติดตามผล แบบอักษร TH SarabunPSK ตารางที่ 4.1 สถานภาพท่ัวไปของผตู้ อบแบบติดตามผล ขนาด 16 พอยท์ ตวั หนา สถานภาพทั่วไป ความถี่ รอ้ ยละ เพศ - ชาย 16 32.00 - หญิง 34 68.00 รวม 50 100.00 อายุ - ตำ่ กว่า 25 ปี 2 4.00 - 25-35 ปี 9 18.00 - 35-45 ปี 20 40.00 - 45 ปี ข้นึ ไป 19 38.00 รวม 50 100.00 วฒุ กิ ารศกึ ษา - ต่ำกวา่ ปริญญาตรี 33 66.00 - ปรญิ ญาตรี 13 26.00 - สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี 4 8.00 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 4.1 แสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบติดตามผล มีจำนวนทั้งสิ้น 50 คน โดยพบว่า ผู้ตอบแบบติดตามผลเป็นเพศชาย จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 32.00 และเพศหญิง จำนวน 34 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 68.00 เมื่อจำแนกตามอายุ พบวา่ มีอายุต่ำกวา่ 25 ปี จำนวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 4.00 ช่วงอายุ 25-35 ปี จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 18.00 ช่วงอายุ 35-45 ปี จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 และมอี ายุ 45 ปี ข้ึนไป จำนวน 19 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 38.00 เมื่อจำแนกตามวุฒิการศึกษา พบว่า มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 66.00 ปริญญาตรี จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 26.00 และสูงกว่าปริญญาตรี จำนวน 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 8.00 1 Tab แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ใชก้ าร “กระจายแบบไทย” จัดระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรอื 1 นิ้ว และดา้ นซ้าย 3.81 ซม. หรือ 1.5 น้ิว

4.2 ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นของผู้ตอบแบบติดตามผลที่มีต่อการใช้สมุดบัญชี รายรบั -รายจ่ายของชาวบ้านชุมชน............... ตำบล............... อำเภอ............. จงั หวดั ............... ตารางที่ 4.2 ระดับความคิดเห็นของผู้ตอบแบบติดตามผลที่มีตอ่ การใช้สมุดบัญชีรายรับ - รายจ่าย ของชาวบ้านชมุ ชน............... ตำบล............... อำเภอ............. จังหวดั ............... ด้านความรู้ในการใชส้ มดุ บัญชีรายรบั –รายจ่าย รายการประเมนิ n = 50 ระดบั อันดับ x̅ S.D. ความคิดเหน็ 1. มีความรเู้ กย่ี วกบั การบันทกึ สมุดบญั ชีรายรับ-รายจ่าย 4.00 0.20 มาก 2 2. เม่อื ศกึ ษาคู่มอื การใช้สมดุ บญั ชีทำใหม้ ีความรูม้ ากข้ึน 3.72 0.50 มาก 4 3. ได้รบั การถ่ายทอดความร้ใู นการจดบนั ทึกบญั ชี รายรับ-รายจา่ ย 3.60 0.64 มาก 5 4. ได้รับการถ่ายทอดความร้แู ล้วทา่ นสามารถนำความรู้ ท่ไี ด้ไปบันทึกไดเ้ อง 3.92 0.40 มาก 3 5. การบนั ทกึ บัญชี ทำใหท้ ่านนำความร้ไู ปประยกุ ตใ์ ช้ให้ เกิดประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั ได้ 4.14 0.57 มาก 1 รวม 3.88 0.21 มาก จากตารางที่ 4.2 แสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบติดตามผลมีความคิดเห็นในระดับ “มาก” ทุกรายการ โดยพบว่า คา่ เฉล่ียระดับความคิดเห็นท่ีมอี ันดับสงู สุด คอื “การบนั ทึกบญั ชี ทำใหท้ ่านนำ ความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้” (x̅ = 4.14) รองลงมา คือ “มีความรู้ เกี่ยวกับการบันทึกสมุดบญั ชรี ายรบั -รายจ่าย” (x̅= 4.00) และอันดับสาม คือ “ได้รับการถ่ายทอด ความรู้แล้วท่านสามารถนำความรู้ที่ได้ไปบันทึกได้เอง” (x̅= 3.92) ส่วนค่าเฉลี่ยของระดับความ คิดเห็นที่มีอันดับต่ำสุด คือ “ได้รับการถ่ายทอดความรู้ในการจดบันทึกบัญชีรายรับ - รายจ่าย” (x̅= 3.60) แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ตวั หนา 1 Tab แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ใช้การ “กระจายแบบไทย” จดั ระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรอื 1 น้วิ และดา้ นซ้าย 3.81 ซม. หรอื 1.5 นิ้ว การอธิบายตารางทีแ่ สดงผล ใหน้ ำมาเพียง 3 อันดับแรก และผลในอันดบั สุดท้าย

ตัวอย่างบทท่ี 5 เลขหนา้ เปน็ ตัวเลข แต่ไม่แสดงเลขหนา้ ในหนา้ แรก หนา้ ถัดไปแสดงเลขหน้าแบบอักษร TH SarabunPSK บทที่ 5 แบบอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ขนาด 18 พอยท์ ตัวหนา สรุปผลการวจิ ยั อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 1 Enter 1 Tab 5.1 สรปุ ผลการวิจยั การวจิ ัยในครง้ั น้ี สามารถสรปุ ผลการวิจัยได้ ดงั นี้ 2 Tab 5.1.1 สถานภาพท่ัวไปของผตู้ อบแบบติดตามผล 3 Tab ผู้ตอบแบบติดตามผล มจี ำนวนท้ังสนิ้ 50 คน โดยพบวา่ ผตู้ อบแบบตดิ ตาม ผลเป็นเพศชาย ร้อยละ 32.00 และเพศหญิง ร้อยละ 68.00 มีอายุต่ำกว่า 25 ปี ร้อยละ 4.00 ช่วง อายุ 25-35 ปี ร้อยละ 18.00 ช่วงอายุ 35- 45ปี ร้อยละ 40.00 และอายุ 45 ปี ขนึ้ ไป รอ้ ยละ 38.00 วุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 66.00 ปริญญาตรี ร้อยละ 26.00 และสูงกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 8.00 รายได้ต่อเดือนของท่านตำ่ กว่า 10,000 บาท ร้อยละ 54.00 รายได้ต่อเดือน 10,000- 20,000 บาท ร้อยละ 36.00 และรายได้ต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 10.00 อาชีพ รับราชการ ร้อยละ 22.00 พนักงานบริษัท ร้อยละ 14.00 ทำสวน ร้อยละ 32.00 ค้าขาย ร้อยละ 26.00 และอื่นๆ (โปรดระบุ เช่น ก่อสรา้ ง) ร้อยละ 6.00 2 Tab 5.1.2 ระดับความคิดเหน็ ของผู้ตอบแบบติดตามผลที่มีต่อการใช้สมุดบัญชีรายรับ- รายจา่ ย ของชาวบา้ นชมุ ชน............... ตำบล............... อำเภอ............. จังหวัด............... 3 Tab 1) ด้านความรู้ในการใช้สมุดบัญชรี ายรับ-รายจ่าย ผู้ตอบแบบติดตามผลมี ความคิดเห็นในระดับ “มาก” ทุกรายการ โดยพบวา่ ค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นท่ีมีอนั ดับสูงสุด คือ “การบันทึกบัญชี ทำใหท้ ่านนำความร้ไู ปประยุกต์ใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้” รองลงมา คอื “มคี วามรู้เก่ยี วกับการบนั ทึกสมดุ บัญชีรายรับ-รายจ่าย” และอันดบั สาม คือ “ไดร้ ับการถ่ายทอด ความรแู้ ลว้ ทา่ นสามารถนำความรทู้ ่ีได้ไปบนั ทึกไดเ้ อง” ส่วนค่าเฉลย่ี ของระดบั ความคดิ เห็นที่มีอันดับ ต่ำสดุ คอื “ได้รบั การถา่ ยทอดความรใู้ นการจดบันทึกบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย” ดงั ภาพท่ี 3 แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ ใชก้ าร “กระจายแบบไทย” จัดระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรือ 1 น้วิ และดา้ นซา้ ย 3.81 ซม. หรอื 1.5 น้วิ

ตวั อยา่ งบรรณานกุ รรม แบบอกั ษร TH SarabunPSK บรรณานกุ รรม เลขหน้าเปน็ ตวั เลข แต่ไม่แสดงเลขหนา้ ในหนา้ แรก ขนาด 18 พอยท์ ตวั หนา หน้าถัดไปแสดงเลขหนา้ แบบอกั ษร TH SarabunPSK ขนาด 16 พอยท์ ปกติ 1 Enter กองติดตามและประเมินผล ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร. 2548. ศกึ ษาและ ประเมนิ ผลโครงการครอบครวั เกษตรกรไทยรว่ มใจทำบญั ชคี รัวเรอื น จากเกษตรกรลกู คา้ ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร. ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร. เชาวลยี ์ พงศผ์ าตโิ รจน์ และวรศักดิ์ ทุมมานนท.์ 2552. หลักการบญั ชี 1. กรงุ เทพฯ: สำนักพมิ พ์ แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. Choke Chira. [ออนไลน์] เข้าถึงไดจ้ าก: thai-debt-solutions.blogspot.com/2008/12/blog- post.html. (วันทีส่ บื ค้นขอ้ มูล: 20 ต.ค. 2555) จดั ระยะขอบด้านบน, ล่าง และขวา 2.54 ซม. หรอื 1 นว้ิ และดา้ นซ้าย 3.81 ซม. หรือ 1.5 น้ิว

ภาคผนวก ค แบบประเมนิ โครงงานวจิ ัย รายวิชาโครงงาน แบบ วจ.02

แบบ วจ.02 แบบประเมนิ โครงงานวจิ ยั รายวิชาโครงงาน ชือ่ เรอื่ ง : ชอื่ ผวู้ จิ ัย กลุ่มที่ ระดบั ชัน้ ❑ ปวช. 3 ❑ ปวส. 2 สาขาวชิ า 1. (นาย/นางสาว) รหสั นักศึกษา หวั หนา้ โครงงาน 2. (นาย/นางสาว) รหสั นกั ศึกษา 3. (นาย/นางสาว) รหสั นักศึกษา ครผู สู้ อนรายวิชาโครงงาน ทีป่ รกึ ษาโครงงาน 1. การประเมินรปู เลม่ รายงานการวิจัย 5 บท (25 คะแนน) 5 = ไม่ต้องแก้ไขเนอ้ื หา มีความสมบรู ณ์ดแี ลว้ 4 = ปรบั แก้ไขหรือเพิ่มเตมิ เน้อื หาเพยี งเล็กนอ้ ย 3 = ปรับแกไ้ ขหรอื เพิม่ เติมเนือ้ หาบางสว่ น 2 = ปรบั แก้ไขและเพม่ิ เตมิ เนอ้ื หาบางส่วน 1 = ปรับแกไ้ ขเน้อื หาทง้ั หมด รายการ ระดบั คะแนน หมายเหตุ 54321 ส่วนหนา้ 1.1 ชอ่ื เรอ่ื งสอดคล้องและครอบคลมุ ปญั หาที่ทำการวจิ ยั 1.2 บทคัดยอ่ เขียนโดยสรปุ จากผลการวจิ ยั ไดใ้ จความ ชัดเจน 1.3 สารบญั จดั ทำได้ครบถ้วน ถูกต้อง สว่ นเนือ้ หา บทท่ี 1 1. ความเปน็ มาของปัญหา 1.1 ชดั เจน/ไดใ้ จความ/ครอบคลุมประเดน็ เนอ้ื หา 2. วัตถปุ ระสงค์/สมมตุ ฐิ านการวจิ ยั 2.1 ชดั เจน/กระชบั /ไดใ้ จความ/มองเหน็ ถึงปญั หาการวิจยั 2.2 สมมุตฐิ านการวจิ ัยเขียนไดส้ อดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์ 3. ขอบเขตของงานวิจัย 3.1 เขยี นไดส้ อดคล้องตรงตามหัวขอ้ ทท่ี ำการวิจยั 3.2 ครอบคลมุ ต่อวัตถุประสงคก์ ารวิจัย 4. นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ 4.1 สอดคล้องกบั เรื่องทวี่ จิ ยั 4.2 คำศัพท์ครบถว้ นกับเรือ่ งทว่ี ิจยั

รายการ ระดับคะแนน หมายเหตุ 54321 บทท่ี 2 5. เอกสารและวรรณกรรมท่เี กีย่ วขอ้ ง 5.1 เอกสาร/ทฤษฎที ่ีเก่ียวข้องสอดคล้องและเหมาะสมกบั เรื่องท่ีวจิ ยั 5.2 ผลงานวิจยั ทเ่ี ก่ียวข้องสอดคลอ้ งและเหมาะสมกบั เรอื่ งท่ีวิจัย ➢ บทท่ี 3 6. วิธดี ำเนินการวจิ ยั 6.1 อธิบายวิธดี ำเนนิ การวิจยั ไดส้ อดคล้องตามวัตถุประสงค์ 6.2 เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการวิจัยเหมาะสม บทท่ี 4 7. ผลการวจิ ยั 7.1 การวเิ คราะหข์ ้อมลู ครบถว้ นและถูกต้อง 7.2 การเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลเป็นลำดบั ขัน้ ตอน สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงคแ์ ละสมมติฐาน 7.3 การเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ในการใชต้ าราง รปู ภาพ เหมะสม บทที่ 5 8. การสรปุ อภิปราย และข้อเสนอแนะ 8.1 สรุปผลจากข้อมลู ท่ีมอี ยแู่ ละสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคก์ ารวิจยั 8.2 อภปิ รายผลตามหลกั วชิ าการและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ส่วนท้าย 9. แหลง่ คน้ ควา้ และหนังสอื อ้างอิง 9.1 ความครบถ้วนของแหลง่ ค้นคว้า (หนังสือ/เวบ็ ไซต/์ วารสาร) 9.2 ความถูกตอ้ งในการเขียนบรรณานุกรม/ เอกสารอ้างองิ 10. ภาคผนวก มกี ารนำเอกสารทใี่ ชป้ ระกอบการวิจัยแนบมาครบถ้วน รูปแบบของการเขียนรายงานวิจยั 1. หัวขอ้ ถูกต้อง ครบถว้ นตามรปู แบบของการเขยี นรายงานวิจยั 2. การพมิ พ์ถกู ต้องตามรปู แบบของการเขียนรายงานวิจัย คะแนน คะแนนรวม คะแนนท่ีได้ [(คะแนนรวม x 25)/120]

2. รายการประเมินการนำเสนอรายวชิ าโครงการ ภาคบรรยาย (10 คะแนน) 3 = แสดงออกครบถว้ นตามรายการประเมนิ 2 = แสดงออกกึง่ หนง่ึ ของรายการประเมินเพยี งเลก็ น้อย 1 = แสดงออกตามรายการประเมินเพียงเลก็ นอ้ ย รายการประเมนิ ระดับคะแนน 32 1 ดา้ นส่อื ประกอบขอ้ มลู การนำเสนอ 1. การนำเขา้ สเู่ น้อื เรอ่ื ง ความเป็นมา/ความสำคญั ถกู ต้อง ชัดเจน เข้าใจงา่ ย 2. จัดเรยี งลำดบั ขอ้ มลู การนำเสนอถกู ต้องและเหมาะสม 3. รายละเอียดขอ้ มลู ถกู ต้อง ครบถว้ น 4. การใชภ้ าษาถกู ต้อง ชัดเจน เข้าใจง่าย 5. ขนาดตัวอกั ษร รูปภาพ อ่านง่าย ชัดเจน 6. มคี วามคดิ สร้างสรรค์ในการออกแบบ ดา้ นผนู้ ำเสนอ 1. ความพรอ้ มและบคุ ลกิ ภาพ 2. ความเขา้ ใจในเนือ้ หา 3. ความกระตอื รือรน้ ในการนำเสนอ 4. ปฏิภาณไหวพริบในการตอบคำถาม คะแนน คะแนนรวม คะแนนท่ีได้ ( (คะแนนรวม x 10) / 30 ) โดยสรปุ งานวิจยั เรอ่ื งน้มี ีความคดิ เห็นอยา่ งไร  ยอมรบั ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งแก้ไข/เพมิ่ เตมิ  ยอมรบั ไดโ้ ดยมกี ารแก้ไข/เพ่ิมเติมตามขอ้ เสนอแนะ  ยังไมเ่ ป็นทย่ี อมรับ ลงชอ่ื () กรรมการภาควิชา วนั ที่ / /

ภาคผนวก ง แบบประเมนิ โครงงานวิจัย รายวิชาโครงงาน แบบ วจ.03/1 และ แบบ วจ.03/2 (ภาคนิทรรศการ นำเสนอผลงาน)

แบบประเมนิ โครงงานวิจัย รายวชิ าโครงงาน แบบ วจ. 03/1 (ภาคนิทรรศการ นำเสนอผลงาน) หัวหนา้ โครงงาน ชือ่ เรอ่ื ง : ระดับคะแนน ชอ่ื ผู้วิจยั กล่มุ ที่ ระดับชั้น ❑ ปวช. 3 ❑ ปวส. 2 สาขาวชิ า 321 1. (นาย/นางสาว) รหสั นักศกึ ษา 2. (นาย/นางสาว) รหสั นักศกึ ษา 3. (นาย/นางสาว) รหสั นกั ศึกษา ครูผสู้ อนรายวิชาโครงงาน ทป่ี รกึ ษาโครงงาน ผลการประเมินโครงการเชงิ วจิ ัย รายการประเมนิ ด้านส่ือประกอบการนำเสนอข้อมูล (ไวนลิ ) 1. การวางองคป์ ระกอบของงานมคี วามเหมาะสม 2. รายละเอยี ดขอ้ มลู ถกู ต้อง ครบถ้วน ตามรปู แบที่กำหนด 3. ขนาดตัวอกั ษร และรปู แบบตวั อักษร มีความสวยงาม และอา่ นได้งา่ ย 4. มีความคิดสรา้ งสรรค์ในการออกแบบ 5. มกี ารใช้สีในการออกแบบเหมาะสม สวยงาม ดา้ นการนำเสนอ 1. ความพรอ้ ม และบคุ ลกิ ภาพของผู้นำเสนอ 2. ความเข้าใจในเน้ือหา และสามารถถ่ายทอดไดถ้ ูกต้อง 3. ความกระตอื รอื รน้ ในการนำเสนอ 4. การใชภ้ าษาถูกต้อง ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย 5. ปฏิภาณไหวพริบในการตอบคำถาม คะแนน คะแนนรวม คะแนนทีไ่ ด้ [(คะแนนรวม x 10)/30] ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ลงชอื่ () กรรมการภาควิชา วนั ที่ / /

แบบประเมนิ โครงงานวจิ ยั รายวิชาโครงงาน แบบ วจ. 03/2 (ภาคนิทรรศการ นำเสนอผลงาน) หัวหน้าโครงงาน ชื่อเรื่อง : ระดับคะแนน ชอ่ื ผูว้ ิจยั กลุ่มท่ี ระดับชั้น ❑ ปวช. 3 ❑ ปวส. 2 สาขาวชิ า 321 1. (นาย/นางสาว) รหสั นกั ศึกษา 2. (นาย/นางสาว) รหสั นักศึกษา 3. (นาย/นางสาว) รหสั นักศกึ ษา ครูผสู้ อนรายวิชาโครงงาน ทีป่ รกึ ษาโครงงาน ผลการประเมนิ โครงการเชิงวิจัย รายการประเมิน ดา้ นส่ือประกอบการนำเสนอขอ้ มูล (ไวนลิ ) 1. การวางองคป์ ระกอบของงานมีความเหมาะสม 2. รายละเอียดขอ้ มลู ถกู ต้อง ครบถ้วน ตามรปู แบที่กำหนด 3. ขนาดตัวอักษร และรปู แบบตวั อักษร มีความสวยงาม และอ่านไดง้ ่าย 4. มคี วามคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการออกแบบ 5. มกี ารใช้สใี นการออกแบบเหมาะสม สวยงาม ด้านการนำเสนอ 1. ความพร้อม และบคุ ลกิ ภาพของผนู้ ำเสนอ 2. ความเข้าใจในเนือ้ หา และสามารถถา่ ยทอดไดถ้ ูกตอ้ ง 3. ความกระตอื รอื รน้ ในการนำเสนอ 4. การใชภ้ าษาถูกตอ้ ง ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย 5. ปฏภิ าณไหวพรบิ ในการตอบคำถาม ดา้ นผลงาน 1. ผลงานมคี วามประณีต สวยงาม 2. มคี วามคดิ สร้างสรรค์ในการออกแบบผลงาน 3. ผลงานมปี ระโยชน์ในการใชง้ าน 4. ผลงานสามารถตอ่ ยอดเชงิ พาณชิ ย์ได้ 5. การจดั แสดงผลงานมคี วามน่าสนใจ คะแนน คะแนนรวม คะแนนท่ไี ด้ [(คะแนนรวม x 10)/45] ข้อคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะอื่นๆ ลงชอื่ () กรรมการภาควิชา วนั ท่ี / /