การจดั ทำแผนยทุ ธศาสตรช์ ุมชนสู่ แผนแมบ่ ทการทอ่ งเทย่ี วชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ตำบลเวยี งเชียงของ อำเภอเชียงของ จงั หวดั เชียงราย ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยจ์ ามรี พระสนุ ิล ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ เจนใจ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กรชนก สนิทวงค์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เบญจมาศ เมืองเกษม อาจารย์ณฐั ทิยา วฒั นศิรศิ าสตร์ อาจารย์ประจำสาขาวชิ าการพัฒนาสังคม สำนักวิชาสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเชยี งราย ตลุ าคม 2565
สารบญั • บทสรปุ ผู้บรหิ าร • บทนำ • ขอ้ มลู พืน้ ฐานโดยสังเขปชุมชนสบสม-หาดไคร้ • กระบวนการจัดทำแผนยทุ ธศาสตร์ชุมชน : แนวคดิ สู่กระบวนการดำเนินงาน • แผนแม่บทการท่องเทย่ี วชุมชนเมอื งเก่าสบสม-หาดไคร้ • สรุปผลการดำเนนิ งานการจดั ทำแผนยุทธศาสตร์ชมุ ชนสูแ่ ผนแมบ่ ทการทอ่ งเท่ยี ว ชมุ ชนเมอื งเกา่ สบสม-หาดไคร้
บทสรปุ ผูบ้ รหิ าร การจัดทำแผนแมบ่ ทการทอ่ งเทยี่ วชุมชนเมอื งเกา่ สบสม-หาดไคร้ การจัดทำแผนแม่บทชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานโดย กระบวนการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ชุมชนอย่างมีส่วนร่วม โดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ แบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR) ในรูปแบบการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เกิด ผลการเรยี นรู้ของชมุ ชนโดยนำเอาแผนแมบ่ ทและการออกแบบโครงการเพื่อรองรับการจัดการท่องเท่ียว โดยชมุ ชนเป็นเคร่ืองมือท่ีทำให้คนในชุมชนได้เกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้รว่ มกัน โดยการดำเนินงานคร้ังน้ี จัดทำต่อเนือ่ งจากกระบวนการสืบค้นและศึกษาอตั ลักษณ์ของชุมชนบา้ นสบสม-หาดไคร้ และคู่ขนานกับ กระบวนการยกระดบั ผลิตภณั ฑ์ชมุ ชนเพ่อื รองรบั การจัดการท่องเที่ยว โดยมีผลลัพธ์สำคัญจากกระบวนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนอย่างมีส่วนร่วมสู่แผน แมบ่ ทการทอ่ งเทีย่ วเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ที่มียทุ ธศาสตร์การดำเนินงาน 2 สว่ นสำคัญคือ 1) การวางโครงสรา้ งเพอ่ื จดั การท่องเทย่ี วโดยชุมชน และ 2) การเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ภาคเี ครือข่ายเพอื่ การพฒั นาทุนทางวัฒนธรรม นำสู่โครงการและกิจกรรมการพัฒนา 3 มิติที่ครอบคลุมเรื่อง \"คน เงิน งาน\" เพื่อ บรรลุเป้าหมาย \"เมืองเก่างาม วัฒนธรรมสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนา\" และได้นำเสนอร่างแผนฯ เพ่ือ ขับเคลื่อนแผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนฯ ต่อภาคีเครือข่ายการดำเนินงานภาครัฐในพื้นที่ ได้แก่ อำเภอเชียงของ วัฒนธรรมระดับจงั หวัด ระดับอำเภอ และระดับชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถ่นิ ใน พื้นที่ ได้แก่ เทศบาลตำบลเวียงเชียงของ ภาคเอกชนตัวแทนประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการรองรบั การจัดการท่องเท่ียวโดยชุมชน และองคก์ รชุมชน รวมถงึ ผ้นู ำและตวั แทนประชาชนในพื้นท่ีบ้านสบสม- บ้านหาดไคร้
บทนำ การมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บทชุมชนเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของ ประชาชนทุกภาคส่วนในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น โดยยึดหลักการพึ่งตนเอง การแก้ปัญหาของชุมชน และการเกิดพลังอำนาจให้แก่ประชาชนในชุมชน จากการศึกษา พบว่า มีหลายชุมชนในประเทศไทย ที่ได้นำกระบวนการจัดทำแผนแม่บทชุมชนสร้างให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ ซึ่งมีทั้งที่ประสบความสำเร็จ และไม่สำเร็จโดยขึ้นอยู่กับกระบวนการจัดการของแตล่ ะชมุ ชน อยา่ งไรก็ตามการสงั เคราะห์ข้อมลู พบว่า มีกระบวนการและตัวแบบชุดประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จของชุมชนต่าง ๆ ในการจัดทำ แผนแม่บทชุมชน เช่น กระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บทชุมชน ตำบลวังตะกอ อำเภอหลัง สวน จังหวัดชุมพร (นฤมล ภูมิระวิ, 2554) หรือการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนเทศบาลเวียงเชียงแสน เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนและพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยนื ในจังหวัดเชยี งราย (จามรี พระสุนิล, 2560) ในการจัดทำแผนแม่บทชุมชน ซึ่งมีขั้นตอนที่สำคัญ คือ การเตรียมวิทยากร กระบวนการ การประเมินศักยภาพของชุมชน การวิเคราะห์ข้อมูลของชุมชน การศึกษาดูงาน การกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจยุทธศาสตร์ โครงการ และกิจกรรมการพัฒนาชุมชน การเปิดเวทีประชา พจิ ารณ์แผนแม่บทชุมชน นอกจากน้ีปัจจยั สำคัญท่ีมสี ่วนหนนุ เสริมให้การจัดทำแผนแมบ่ ทชุมชนประสบ ความสำเร็จนอกเหนือจากขั้นตอนที่กล่าวถึง คือ กระบวนการในการจัดการข้อมูลให้เพียงพอต่อ การตัดสินใจ การปรับความคิดของชุมชนให้เกิดการพึ่งตนเองแทนการหวังพึ่งของบประมาณจากรัฐ เท่านั้น และการแบ่งบทบาทหน้าทีร่ ับผิดชอบของคนในชุมชนอย่างชดั เจน ซึ่งการพัฒนาของไทยในช่วง 60 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเป็นไปตามแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยในช่วง ต้นเน้นเพ่ือให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลักในขณะที่การพัฒนาชนบทในอดีตเกิดจากการ วางแผนของคนนอกชุมชนได้แก่ ผ้ทู รงคุณวุฒแิ ละนกั วชิ าการ ซงึ่ เปน็ การวางแผนพฒั นาจากระดับบนลง สู่ระดับล่าง โดยส่งผลกระทบต่อทรัพยากรของชุมชน ตลอดจนไม่สอดคล้องกับความจำเป็นและความ ต้องการของชมุ ชนอย่างแทจ้ ริง รวมทั้งจากการทร่ี ฐั ธรรมนญู ฉบบั ปี พ.ศ. 2540 ถึงฉบบั ปจั จบุ ันให้อำนาจ และสิทธิชุมชนในการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น ในการกระจายอำนาจรูปแบบองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น เป็นผลให้กระบวนการจัดทำแผนแม่บทชุมชนในระดับชุมชนและท้องถิ่นมีการขยายตัวมากขึ้น (โกวิทย์ พวงงาม และธีรเดช ฉายอรุณ, 2545) แผนแม่บทชุมชนจึงเป็นผลของการเรียนรู้ของชุมชน
การเรียนรู้ของชุมชนเป็นจุดเริ่มตน้ ของการพฒั นา กระบวนการแผนแม่บทชุมชนนำ มาใช้เป็นเคร่ืองมือ หน่งึ ทที่ ำให้คนในชมุ ชนไดม้ าเรยี นรู้ร่วมกันนัน่ เอง ในการดำเนินงานครั้งนี้ การจัดทำแผนแม่บทท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ใช้กระบวนการวิจัยเชงิ ปฏบิ ัติการแบบมสี ่วนรว่ มเข้ามาประยุกต์ในการดำเนนิ งานซ่งึ มาจากการวิเคราะห์ ศักยภาพของชุมชน โดยวางโครงรา่ งก่อนดำเนินการ ออกแบบกระบวนการสนทนากลุ่ม กำหนดประเด็น และสังเคราะห์ประเด็นร่วมกัน ใช้กระบวนทัศน์การวิจัยเชิงปฏิบัติการที่ดำเนินการในรูปแบบการวิจัย และพัฒนา (Research & Development) ภายใต้กรอบคิดการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น โดยศักยภาพของ คณาจารย์สาขาวิชาการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ที่เริ่มต้นจากการศึกษาและสำรวจ องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประเมินผล และถอดบทเรียนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ชุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เพ่อื รองรับการท่องเท่ียวชมุ ชนเมืองเกา่ สบสม-หาดไคร้ และยกระดบั ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนสู่การพึ่งตนเองและ ส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง โดยรายงานฉบับนี้มุ่งเน้นการนำเสนอผลการดำเนินงานในการจัดทำ แผนยทุ ธศาสตร์ชมุ ชนสแู่ ผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมอื งเกา่ สบสม-หาดไคร้ วตั ถุประสงค์และเป้าหมายการดำเนนิ งาน 1. เพอ่ื ศึกษาและจัดทำแผนยุทธศาสตรช์ มุ ชนอยา่ งมสี ว่ นรว่ มสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชน เมอื งเก่าสบสม-หาดไคร้ 2. เพื่อนำเสนอร่างแผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ต่อชุมชนและ ข้อเสนอแนะโครงการพัฒนาเชิงพ้ืนที่ ขอบเขตการดำเนินงาน พน้ื ที่ทีศ่ ึกษา ชุมชนสบสม-หาดไคร้ หรือหมู่บ้านสบสม หมู่ 3 และหมู่บ้านหาดไคร้ หมู่ 7 ตำบลเวียง อำเภอ เชียงของ จงั หวดั เชียงราย กระบวนการรวบรวมข้อมลู การศึกษาก่อนลงภาคสนาม : มีการเตรียมความพร้อมก่อนลงพื้นที่ภาคสนามในด้านข้อมูล ทุติยภูมิ และการเตรียมความพร้อมจัดเวทีเสวนาชุมชนในประเด็นสถานการณ์ชุมชน การสำรวจ ศกั ยภาพและทนุ ทางวัฒนธรรมของชุมชน รวมถงึ การออกแบบกระบวนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชน
ด้านการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน ในการใช้กระบวนการวิจัยเชิงพัฒนาในการแก้ไขปัญหาหรือเตรียม ความพรอ้ มชมุ ชน การลงภาคสนาม มีการเตรียมความพร้อมก่อนศึกษาภาคสนาม ในขั้นตอนนี้เป็นการศึกษา บริบทชุมชนเบื้องต้น รวมถึงการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยการสืบค้นข้อมูลทุติยภูมิ เพื่อทำความเข้าใจชุมชนสบสม และศึกษาสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม ชุมชนและวัฒนธรรมของ พื้นที่ รวมถงึ การเตรียมความพรอ้ มดา้ นการประสานงานกบั ผนู้ ำชุมชนในพ้ืนที่ และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน รวมถึงภาครัฐเพื่อทำการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นและนำมาพัฒนาเครื่องมือวิจัยโดยคณะดำเนินงานใช้ การสัมภาษณ์ และการสังเกตในกระบวนการรวบรวมข้อมูลเบ้อื งต้น จากนั้นทำการศึกษาภาคสนามเพื่อรวบรวมข้อมูล และถือเป็นกระบวนการวิจัยในขั้นตอน R – Research ซึ่งผู้วิจยั ดำเนินการรวบรวมข้อมูลภาคสนามโดยจัดเวทีชุมชนเพื่อสนทนากลุ่มย่อย และ อภิปรายการจัดทำแผนยทุ ธศาสตรช์ ุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ โดยมี การถอดบทเรียนแผนยุทธศาสตร์ชุมชนและนำเสนอเชิงนโยบายต่อหน่วยงานที่เกีย่ วข้อง ภาคีเครือข่าย การพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงวัฒนธรรม เพื่อการพึ่งตนเองและขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง ระดบั พืน้ ทช่ี ุมชนกอ่ นตอ่ ยอดสูก่ ารพฒั นาจังหวดั เชียงรายตอ่ ไป โดยดำเนินการลงพื้นที่ภาคสนามเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลไป พร้อม ๆ กันในข้นั ตอนนี้ โดยตรวจสอบขอ้ มลู จากบุคคล ระยะเวลา สถานท่ี และแนวคิดทฤษฎี เช่นการ ใช้กระบวนการอภิปรายกลุ่มเพื่อเสนอข้อมูลผลการวิจัย ร่วมกับการถอดบทเรียนในลักษณะการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ชุมชนเพื่อขยายผลเชิงนโยบายการสนับสนุนการจัดการ ท่องเทย่ี วโดยชุมชน กลมุ่ เป้าหมาย ประชากร ในการดำเนินงานครั้งนี้เป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-60 ปี ที่อาศัยอยู่ในชุมชนสบสม- หาดไคร้ ตำบลเวียง อำเภอเชยี งของ จงั หวัดเชยี งราย โดยยกเว้นกลมุ่ เปราะบาง จากนั้นร่วมกำหนดคุณสมบัติเพื่อคัดเลือกผู้ให้ข้อมูลหลัก ประกอบด้วยการศึกษาข้อมูล ศกั ยภาพชมุ ชนและการสำรวจในผ้ใู ห้ข้อมูลหลัก ตัวแทนประชาชน ผ้ปู ระกอบการ ผนู้ ำ ผนู้ ำทางศาสนา และจัดทำฐานข้อมูลองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมของชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ อำเภอเชียงของ จังหวดั เชียงราย จำนวน 30 คน หรอื จนกวา่ ข้อมลู จะอ่ิมตวั ทีจ่ ะเปน็ การเรยี นรูแ้ ละเขา้ ถงึ ชุมชนด้วยการ อ้างอิงตอ่ เนอ่ื งปากต่อปาก (Snowball Sampling Technique)
ส่วนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุ มชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ประกอบด้วยผมู้ สี ว่ นได้ส่วนเสีย และตัวแทนจากองค์กรชมุ ชน หน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง จำนวน 50 คน โดย เป็นการจัดเวทีร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชน ระยะที่ 1 จำนวน 50 คน ประกอบดว้ ยตวั แทนชมุ ชนสบสม ผนู้ ำท่เี ปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ ผปู้ ระกอบการ และตวั แทนจาก องค์กรชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระยะที่ 2 จำนวน 20 คนในการนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่ แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้จากการจัดเวทีถอดบทเรียนและข้อเสนอแนะ เชิงนโยบายตัวแทนจากองค์กรชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ปัจจัย SWOT analysis matrix และการประเมินผลอยา่ งมีส่วนรว่ ม การจดั ทำแผนยุทธศาสตร์ชมุ ชน คณะผู้ดำเนินงาน ใช้กระบวนการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการวิเคราะห์ศกั ยภาพก่อนนำไปประเมินหาคา่ เฉลี่ยเพื่อนำไป กำหนด ร่าง จัดทำการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม - หาดไคร้ ดำเนินการจัดกิจกรรมเป็น 2 เวทีชุมชน โดย 1) ใช้การสนทนากลุ่มและกิจกรรมกลุ่มเพื่อร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชน และ 2) เวทีการถอดสรุปบทเรียน นำเสนอ แผนยุทธศาสตรส์ ่นู โยบายการสนับสนนุ โดยหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง โดยมีขน้ั ตอนโดยสรปุ ดงั น้ี 1. นำเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ศกั ยภาพของชุมชนในภาพรวม 2. ดำเนินการโดยใช้เทคนิค SWOT Analysis เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค โดยมีหลักการเก็บรวบรวมข้อมูลการตรวจสอบความเห็นพ้องต้องกัน กบั ผ้เู ข้ารว่ มประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ารและขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ 3. นำผลการวิเคราะห์ SWOT Analysis ไปจัดทำเป็นแบบประเมินศักยภาพอย่างมีส่วนร่วม เพื่อใหผ้ ู้เข้าร่วมประชุมไดป้ ระเมินศักยภาพ 4. ดำเนินการวิเคราะห์แบบ Matrix และการวิเคราะห์ศักยภาพภายในและภายนอกแบบ Matrix
5. วเิ คราะห์ TOWS matrix เพอื่ กำหนดทศิ ทางของการจัดทำการจดั ทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่ แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้โดยนำคะแนนจากการวิเคราะห์ คา่ เฉล่ยี ของปัจจัยภายในและภายนอก 6. การจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์สู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ โดย ประกอบด้วยวิสัยทัศน์ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์การพัฒนา และแผนงานโครงการโดยการ กำหนดยุทธศาสตร์ครั้งนี้เป็นการนำผลจากการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมด้านการจัด การศึกษาจากเทคนิค SWOT มาพิจารณาแนวทางกำหนดกรอบการจัดทำ วิสัยทัศน์ (Vision) เป้าประสงค์ (Goals) และยุทธศาสตร์ (Strategies) ในแผนแม่บทการท่องเที่ยว ชุมชนเมืองเกา่ สบสม-หาดไคร้
ข้อมูลพน้ื ฐานโดยสังเขปชมุ ชนสบสม-หาดไคร้ บ้านสบสม บ้านหาดไคร้ เป็นสองชุมชนที่มีความสำคัญ จาก 14 หมู่บ้านในพื้นที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ทั้งบ้านสบสมและบ้านหาดไคร้ อยู่ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงของ และถือเป็นพื้นที่ในเขตเมืองเก่าเวียงเชียงของ โดยมีประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่มีความเป็นมายาวนาน มีภูมินามพื้นบ้าน (Place Name) ที่มาจากระบบวิธีคิดทางวัฒนธรรมของชาวบ้าน ที่มีความหมายและ สัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับการตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัย ได้แก่ “แม่น้ำโขง” ทั้งคำว่า “สบสม” และ “หาดไคร้” ล้วนผูกพันอยู่กับวิธีคิดทั้งทางด้านภูมิศาสตร์กายภาพ และประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ทั้งสอง หมู่บ้านถือว่าเป็นเขตพื้นที่เมืองเก่าของอำเภอเชียงของ มีถนนสายสำคัญที่ยังคงมีร่องรอยทาง ประวัติศาสตร์และสถานที่สำคัญ ได้แก่ วัดสบสมเป็นอีกวัดหนึ่งในเชียงของที่มีบริเวณวัดด้าน ทิศตะวันออกตดิ กับแม่น้ำโขง ตง้ั อยู่บา้ นสบสม ตำบลเวียง อำเภอเชยี งของ หา่ งจากที่ว่าการอำเภอ ไป ทางถนนสายสบสม – หาดไคร้ ประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2505 เป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้าศรีสุขสม” พระพทุ ธรปู ศกั ด์สิ ิทธิข์ องเมอื งเชียงของ สามารถมองเห็นวิวทิวทศั นน์ ้ำโขง และเมือง ห้วยทรายของ สปป.ลาว รวมถึงทุก ๆ วันที่ 26 มกราคมของทุกปี วัดสบสมยังเป็นสถานที่จัดประเพณี สืบชะตาหลวงเมืองเชียงของ ประเพณีเก่าแก่อันเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนชาวเชียงของทุกปี รวมถึง วัดหาดไคร้ เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงของ ตั้งอยู่ซอยกลางของบ้านหาดไคร้ ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จงั หวัดเชียงราย สรา้ งเมอื่ พ.ศ. 2170 โดยพญาแก้วกาบคำ เดิมช่ือวดั ศรีบุญยืน เปน็ วัดริมโขงท่ีมีความ งดงามในด้านสถาปัตยกรรม บรรยากาศเงียบสงบ อยู่ติดกับถนนคนเดินกาดกองเก่า ปัจจุบันมีสถานท่ี สำคัญอันเป็นหมุดหมายที่สำคัญทางพื้นที่ (Land Mark) ของชุมชนสบสม-หาดไคร้ คือลานรูปปั้น ที่ระลึกปลาบกึ นั่นเอง
ภาพท่ี 1 ทต่ี ้ังของชุมชน พิกดั บ้านสบสม 20.288751, 100.370533 บ้านหาดไคร้ 20.249275, 100.408956 ชุมชนบ้านสบสม-หาดไคร้ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย จึงมีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตตัวเมือง เชียงของ โดยอยู่ห่างจากตัวจังหวัดเชียงราย ประมาณ 120 กิโลเมตร เป็นชุมชนริมฝั่งแมน่ ้ำโขง มีพื้นที่ รวมประมาณกว่า 500 ไร่ แต่มีพื้นที่สำคัญที่คนในชุมชนจัดเป็นพื้นที่เมืองเก่าเพื่อรองรับ การจัดการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าจะเป็นถนนเส้นเชื่อมระหว่างทั้งสองหมู่บ้านด้านริมฝั่งแม่น้ำโขง รวมถึงคนในชุมชนมีความผูกพันกับแม่น้ำโขงมาอย่างยาวนานต้ังแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน มีวิถีชีวิต เก่ยี วโยงและพงึ่ พาทรพั ยากรจากแมน่ ้ำโขงเปน็ หลกั แม่น้ำโขงจึงเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนในชุมชน เป็นองค์ประกอบที่ใช้ ในการดำรงชีวิต มีความสำคัญที่เป็นแหล่งปัจจัยข้ันพ้ืนฐาน เพราะในลำน้ำโขงมีทรัพยากรธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์ปลานานาชนิด ซึ่งบริเวณน้ำโขงบ้านหาดไคร้เป็นแหล่งเกิดของ สาหร่ายไกที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในอดีตมีสาหร่ายเกิดบริเวณนี้จำนวนมาก จนบ้านหาดไคร้กลายเป็นที่รู้จัก ในเร่อื งไก
ภาพที่ 2 ระบบนิเวศแมน่ ำ้ โขงและพืน้ ทหี่ าไกของชาวบ้านในชว่ งน้ำลด ท่ีมา: ปรชั ญาพร โพธิ์แก้ว, 2561 มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม สถาบนั ชมุ ชนลุ่มน้ำโขงและสมาคมแม่นำ้ เพ่อื ชวี ติ สาหร่ายไก หรือภาษาท้องถิ่นที่ชาวบ้านหาดไคร้เรียกสั้น ๆ ว่า “ไก” เป็นสาหร่ายน้ำจืด มีลักษณะเป็นเส้นสีเขียวยาวลู่ไปตามสายน้ำ พบได้ตามโขดหินในลำน้ำโขงบริเวณบ้านหาดไคร้ในช่วง ฤดูกาลน้ำลดที่ระดับน้ำไม่เกิน 40-45 เซนติเมตร เนื่องจากไกเจริญเติบโตได้เพราะต้องอาศัยแดดเป็น ปัจจัยการสังเคราะห์แสง เริ่มจากช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนเมื่อแสงแดดเริ่มส่องกระทบกับก้อนหิน บวกกับอุณหภูมิที่พอเหมาะไกก็จะเริ่มเกิดและเติบโตขึ้นและเกาะติดอยู่บนก้อนหิน และน้ำโขงบริเวณ บ้านหาดใคร้ก็เป็นระบบนิเวศที่พอเหมาะในการเกิดของไก เนื่องจากมีโขดหิน น้ำไหลเอื่อยๆ และน้ำ ไม่ลึกมากทำให้ไกเจริญเติบโตได้ดี เมื่อไกเติบโตเส้นยาวขึ้นก็จะไหลลู่ไปตามกระแสน้ำ ตั้งแต่ท้องน้ำ จนถึงผิวน้ำ เพื่อให้ชาวบ้านพึ่งพิงทรัพยากรธรรมชาติชนิดนี้ ตลอดจนแปรรูปเป็นอาหาร สินค้าทาง วัฒนธรรมเฉพาะพื้นที่ ที่มีอัตลักษณ์ และสามารถเป็นส่วนหน่ึงของกิจกรรมหรือผลิตภัณฑ์ทีร่ องรับการ ท่องเที่ยวเมืองเก่าชุมชนสบสม-หาดไคร้ได้ ซึ่งชาวบ้านมีความรู้ท้องถิ่นเกี่ยวไกมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ และถ่ายทอดสืบต่อกันมาจนกลายเป็นวิถีชีวิตวัฒนธรรมที่สอดคล้องระหว่างคนกับทรัพยากรที่มีอยู่ใน ชมุ ชนอย่างแยกไม่ออก โดยตามปกติแลว้ ไกจะเริ่มหมดไปในชว่ งต้นเดือนเมษายน ซ่งึ ระยะในการเก็บไก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วงคือ ฤดูหนาว ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ และฤดูร้อน ช่วงเดอื นมีนาคม – ต้นเดอื นเมษา
กระบวนการจดั ทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชน : แนวคดิ สูก่ ระบวนการดำเนินงาน ในการจัดทำแผนแม่บทท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ครั้งนี้ คณะดำเนินงานใช้ รูปแบบการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนเป็นกลไกสำคัญ ที่มีการนำเอากระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มี ส่วนไดส้ ่วนเสยี ภายใตแ้ นวคิดทุนทางวฒั นธรรมและเศรษฐกจิ สร้างสรรค์มาใช้เพ่ือการจัดทำแผนพัฒนา ชุมชน โดยมีแนวทางและกระบวนการทำแผนแม่บทจากแนวคิดดังต่อไปนี้ ซึ่งจะมีการประยุกต์ใช้ เฉพาะพ้ืนท่ใี นรายละเอยี ดประเดน็ ต่อไปของแผนแมบ่ ทชุมชนสบสม-หาดไคร้ เทคนคิ การจดั ทำแผนแม่บทชมุ ชนจากแผนพฒั นา 1. การศึกษาดว้ ยตนเอง การศึกษาข้อมูลการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ และแผนอื่นๆ ในรูปเอกสาร ออนไลน์ เชน่ หนงั สอื วดี ที ศั น์ เว็บไซต์หนว่ ยงานองคก์ ารต่างๆ ทง้ั ในประเทศและต่างประเทศ เปน็ ตน้ 2. การศกึ ษาจากผู้อ่ืน การศึกษาจากผู้รู้และผู้อื่นๆ ที่มีประสบการณ์ และเพื่อนร่วมงาน หรือการเข้า ฝึกอบรม การศกึ ษาต่อ เป็นต้น 3. การศกึ ษาและปรับใช้ประโยชน์ การศึกษาเพื่อนำมาปรับใช้ประโยชน์ในงานขององค์การตนเองหรืองานของตนเอง และการเปรยี บประยุกต์ความเป็นเลิศ 4. การศกึ ษาวฒั นธรรมองค์การและความเหมาะสมสายกลาง การศึกษาวัฒนธรรมองค์การและความเหมาะสมสายกลางเพื่อหาจุดสมดุลของ การปฏิบตั งิ านและการวางแผนคณุ ภาพชีวิตของตนเองในการทำงานและการดำรงชีวิตแบบพ่ึงตนเอง โดยการจัดทำแผนแม่บทท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ใช้กระบวนการวิจัยเชิง ปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเข้ามาประยุกต์ในการดำเนินงานซึ่งมาจากการวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน โดยวางโครงร่างก่อนดำเนินการ ออกแบบกระบวนการสนทนากลุ่ม กำหนดประเด็น และสังเคราะห์ ประเดน็ ร่วมกนั
เคา้ โครง (Outline) 1. ความหมายและความสำคัญของการจัดทำแผน 2. วธิ ีการจดั ทำแผน 3. ตัวอย่างของแผนพัฒนา ประกอบดว้ ยรายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี 1. ความหมายและความสำคัญของการจัดทำแผน 1.1 ความหมายของแผน 1.2 ความสำคัญของการวางแผน 1.3 ประโยชน์ของการจดั ทำแผน 1.4 ความเชือ่ มโยงระหวา่ งแผนกลยุทธ์กบั แผนแม่บทท่องเท่ียวชุมชนเมืองเก่าสบสม- หาดไคร้ 1.1 ความหมายของแผน เป็นการพิจารณาแต่ละกำหนดแนวทางปฏิบัติงาน ให้บรรลุเป้าหมายที่ปรารถนา เปรียบเทียบเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างปัจจุบันและอนาคต เป็นการคาดการณ์สิ่งที่ยังไม่ เกิดขึ้น ซึ่งมุ่งเน้นความหมายที่เป็นระบบ (Systematic attempt) เพื่อตัดสินใจเลือกแนวทาง ปฏิบัตทิ ่ีดีท่สี ุดสำหรบั อนาคต เพือ่ ให้เกดิ ชุมชนเขม้ แข็งและการพัฒนาชุมชนอย่างย่ังยนื 1.2 ความสำคญั ของการวางแผน เป็นการลดความไม่แน่นอน และปัญหาความยุ่งยากซับซ้อนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเกี่ยวกับมองเหตุการณ์ต่างๆ ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ปัญหา ความตอ้ งการของประชาชนในสังคม ชุมชนน้ัน เป็นต้น สิ่งสำคัญของการวางแผน คือ ความจำเป็นท่ีต้องเตรียมตัว และเผชิญกับสิ่งที่เกิดข้ึน อันเนื่องจากความผันผวนของสิ่งแวดล้อมอัน ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เป็น ต้น รวมถึงทำใหเ้ กิดการยอมรบั แนวคิดใหม่ ๆ โดยการวางแผนเป็นความยืดหยุ่นของการยึดถือ และยอมรบั เร่อื งการเปลีย่ นแปลง อีกทั้งการวางแผนยังทำให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความมั่นคง และ มีความเจริญเติบโต ซึ่งสามารถเป็นหลักประกันการดำเนินการเป็นไปด้วยความมั่นคงและ มีความเจรญิ เตบิ โต ทำให้มองเหน็ ภาพรวมขององคก์ ารท่ชี ัดเจน
เนื่องจากการวางแผนเป็นการกระทำโดยอาศัยทฤษฎี หลักการและงานวิจัยต่าง ๆ (A rational approach) มาเป็นตัวกำหนดจุดมุ่งหมายและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในอนาคต อยา่ งเหมาะสมกบั สภาพชมุ ชน สังคม ทีด่ ำเนนิ อยู่ ดังนน้ั การวางแผนจึงเป็นภารกจิ อันดับแรกทมี่ คี วามสำคญั ของกระบวนการจัดการทด่ี ี 1.3 ประโยชนข์ องการจัดทำแผน 1. บรรลจุ ดุ มุง่ หมาย (Attention of Adjectives) 2. ประหยัด (Economical Operation) 3. ลดความไมแ่ น่นอน (Reduction of Uncertainty) 4. เป็นเกณฑใ์ นการควบคุม (Basis of control) 5. สง่ เสริมใหเ้ กิดนวตั กรรมและการสรา้ งสรรค์ (Encourages innovation and Creativity) 6. พัฒนาแรงจงู ใจ (Improves Motivation) 7. พฒั นาการแข่งขัน ( Improves Competitive strength) 8. ทำใหเ้ กดิ การประสานงานที่ดี (Better Coordination) 1.4 ความเชอื่ มโยงระหวา่ งแผนกลยทุ ธ์กับแผนพัฒนาองค์การ วิสัยทัศน์ แผนกลยุทธ์ แผนการพัฒนา ตัวช้วี ัด KPI 2. วธิ กี ารจัดทำแผนพฒั นา วธิ ีการจัดทำแผนพฒั นาและปรบั ปรงุ ประกอบไปด้วยข้นั ตอนดังต่อไปน้ี 1. การกำหนดเป้าหมายในการพัฒนา ขอบเขตหรือประเภทของกิจกรรมที่จะพัฒนาปรับปรุง ที่ก่อให้เกิด การพัฒนาที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจในการจดั ทำแผนโดยสอดรับ กบั จุดมุ่งหมายเพอ่ื การพฒั นาท่ียัง่ ยนื ที่ดี มีลักษณะสำคญั ดงั น้ี 1) ต้องระบุถงึ ขอบเขตหรือประเภทของกิจกรรมที่สนบั สนุนและนำไปสู่ พันธกจิ และบรรลวุ ิสยั ทศั น์ไดอ้ ยา่ งครอบคลุมรอบด้าน 2) มีความเปน็ ไปไดใ้ นทางปฏบิ ัติ 2. การวเิ คราะห์ตนเอง เป็นการประเมินโดยวิเคราะห์ถึงโอกาส และภาวะคุกคามหรือข้อจำกัด อันเป็นสภาวะแวดล้อมภายนอกที่มผี ลต่อการพัฒนาด้านต่างๆ ของชุมชนหรือองคก์ าร
รวมทงั้ การวเิ คราะห์จุดแขง็ จุดอ่อนของชมุ ชน อันเปน็ สภาวะแวดล้อมภายใน เพอ่ื ใช้ใน การวางแผนพฒั นาให้มีประสทิ ธิภาพสูงสุด หรอื เรียกว่าการวิเคราะห์ SWOT นน่ั เอง การวิเคราะห์ SWOT 1) การวิเคราะห์จุดแข็ง (Strength = S) เป็นการพิจารณาปัจจัยภายในหน่วยงาน มีส่วนดี ความเข้มแขง็ ความสามารถ ศกั ยภาพ สว่ นทส่ี ่งเสรมิ ความสำเรจ็ 2) การวิเคราะห์จุดอ่อน (Weakness = W) เป็นการพิจารณาปัจจัยภายในชุมชนว่า มสี ว่ นเสีย ความอ่อนแอ ขอ้ จำกัด ความไมพ่ ร้อมต่าง ๆ 3) การวิเคราะห์โอกาส (Opportunity = O) เป็นการศึกษาสภาพแวดล้อมภายนอก ว่ามีสภาพเป็นเช่นไร เหตุการณ์สถานการณ์ของโลก ของประเทศ ที่เกิดขึ้นจะ ส่งผลต่อองค์การอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงใดที่เป็นประโยชน์ หรือเป็นโอกาส อันดีต่อชุมชน โดยจะต้องพิจารณาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง และเทคโนโลยี 4) การวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคหรือข้อจำกัด (Threat = T) เป็นการศึกษา สภาพแวดลอ้ มภายนอกทีเ่ ปน็ อุปสรรคหรือภาวะคุกคาม ก่อให้เกิดผลเสียหรือเป็น ข้อจำกัด โดยจะต้องพิจารณาทั้งดา้ นเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง และ เทคโนโลยี เชน่ เดียวกบั การวเิ คราะห์โอกาส 3. การวเิ คราะหป์ ัญหา สภาพปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชนประกอบไปด้วยส่วนย่อยต่าง ๆ ซึ่งมีข้อจำกัดใน การจะแก้ปัญหาทุกด้านที่มี ดังนั้นการวางแผนและการจัดทำแผนพัฒนาหรือแผนแม่บทของ ชุมชนจึงเป็นตัวช่วยในการคัดเลือกและจัดลำดับความสำคัญของปัญหา เพื่อจะทราบว่าจะ ดำเนินการแก้ไขปัญหาไหนก่อนหลังในการวางแผนพัฒนาต่อไป โดยมีกรอบการดำเนินงานใน ประเดน็ ดงั น้ี 3.1 ความสำคญั ของการคัดเลอื กและจดั ลำดับความสำคญั ของปัญหา 3.2 คัดเลือกปัญหา จากการระดมความเห็นจากข้อมูลจริงต่างๆ เพื่อพิจารณาทบทวนปัญหา ว่าตามสภาพข้อเท็จจริงแล้วเป็นปัญหาจริงหรือไม่ โดยวิเคราะห์จากปัจจัยต่าง ๆ จาก
มุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วน เสีย และกำหนดประเด็นปัญหาให้มีความชัดเจน โดยระบุ ถึงลักษณะหรือสภาพขอบเขต และสาเหตุของปัญหา โดยอาจรวมหลายปัญหาเดิม เข้าด้วยกันเป็นปัญหาใหม่ การคัดเลือกปัญหาจะช่วยให้ได้ปัญหามีลักษณะเป็นปัญหา ท่แี ทจ้ ริง กอ่ นท่จี ะพิจารณา จดั ลำดับความสำคัญของปัญหาต่อไป 3.3 จดั ลำดบั ความสำคัญของปญั หา โดยการกำหนดตวั เกณฑ์ หมายถึง การกำหนดหลักเกณฑ์ สำคัญที่จะนำมาใช้วัดตรวจสอบหรือพิจารณาในเรอื่ งนนั้ ตวั อย่างของ ตวั เกณฑใ์ นการพจิ ารณาปัญหา 3.3.1. ความร้ายแรงและความเร่งด่วนของปญั หา 3.3.2. ขนาดของบุคคลหรอื พนื้ ท่ีทถี่ กู กระทบจากปัญหา 3.3.3. ขนาดของปญั หา 4. ความเสียหายท่เี กิดข้ึน 5. การยอมรับปญั หาร่วมกันของ 6. ความงา่ ยในการแก้ปญั หา 7. งบประมาณทใ่ี ช้ 8. ผลประโยชน์ที่จะไดร้ ับ จากน้ันให้คะแนนนำ้ หนักต่อประเด็นปญั หาต่างๆ 1. ให้นำ้ หนักตวั เกณฑแ์ ต่ละตัว 2. ใหค้ ะแนนประเด็นปัญหาแต่ละปัญหาที่มีความสมั พันธ์กับตวั เกณฑแ์ ตล่ ะตัว 3. จัดลำดบั ความสำคญั ของปญั หาตามคะแนนที่ได้ เพ่ือนำไปจัดทำแผนพฒั นา
การจัดทำแผนยุทธศาสตรช์ มุ ชนสแู่ ผนแมบ่ ทการทอ่ งเท่ียวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ คณะผู้ดำเนินงานได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากการสังเกต การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนา กลุ่ม และการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในลักษณะเวทีชุมชน จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่ แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ และการถอดบทเรียนเพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติ และการประเมนิ ผล อยา่ งมีส่วนร่วม โดยกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือกลุ่มเป้าหมายในการเข้ามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บท การทอ่ งเทยี่ วชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้จากภาคส่วนภาคีเครือขา่ ยความรว่ มมือ 1. ประชาชน 2. ผนู้ ำชุมชน 3. เครอื ข่ายภาครฐั และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4. องค์กรชมุ ชน โดยสามารถแสดงถงึ กลไกการดำเนินงาน ไดด้ งั ภาพ
ภาพท่ี 4 กระบวนการทำงานโดยภาพรวม
แผนแมบ่ ทการทอ่ งเทยี่ วชมุ ชนเมอื งเก่าสบสม-หาดไคร้ การดำเนินงานครัง้ นี้ใชก้ ระบวนทัศนก์ ารวจิ ยั เชิงปฏบิ ัติการที่ดำเนินการในรูปแบบการวจิ ัยและ พัฒนา (Research & Development) ภายใต้กรอบคิดการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น โดยศักยภาพของ คณาจารย์สาขาวิชาการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ที่เริ่มต้นจากการศึกษาและสำรวจ องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประเมินผล และถอดบทเรียนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ชุมชนสู่แผนแมบ่ ทการท่องเท่ียวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพอ่ื รองรับการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ และยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่การพึ่งตนเองและ ส่งเสรมิ ชมุ ชนเข้มแขง็ โดยประกอบไปด้วยการดำเนนิ งาน 3 ขน้ั ตอน ได้แก่ 1) กระบวนการศึกษาและสำรวจองค์ความร้ทู างวัฒนธรรม 2) การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่แผนแมบ่ ทการท่องเท่ียวชมุ ชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ 3) การพัฒนาผลิตภัณฑช์ มุ ชนเพอ่ื รองรบั การท่องเทย่ี วชุมชน พ้ืนทท่ี ศ่ี ึกษา ชุมชนสบสม-หาดไคร้ ตำบลเวยี ง อำเภอเชยี งของ จังหวดั เชียงราย กระบวนการรวบรวมข้อมูล การศึกษาก่อนลงภาคสนาม : มีการเตรียมความพร้อมก่อนลงพื้นที่ภาคสนามในด้านข้อมูล ทุติยภูมิ และการประสานกบั ผู้นำชุมชนเพ่ือจดั เวทีเสวนาชุมชนในประเด็นสถานการณช์ ุมชน การสำรวจ ศักยภาพและทุนทางวัฒนธรรมของชุมชน รวมถึงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนด้านการจัดการ ท่องเท่ยี วโดยชุมชน ในการใชก้ ระบวนการวิจัยเชิงพฒั นาในการแกไ้ ขปญั หาหรือเตรยี มความพร้อมชมุ ชน การลงภาคสนาม แบง่ เปน็ 3 ระยะ ดงั นี้ 1. การเตรียมความพร้อมก่อนศึกษาภาคสนาม ในขั้นตอนนี้เป็นการศึกษาบริบทชุมชน เบื้องต้น รวมถึงการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยการสืบค้นข้อมูลทุติยภูมิ เพื่อทำ ความเข้าใจชุมชนสบสม และศึกษาสถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม ชุมชนและวัฒนธรรมของพื้นที่ รวมถึง การเตรียมความพร้อมด้านการประสานงานกับผูน้ ำชุมชนในพื้นที่ โดยประสานงานผ่านองค์กรปกครอง- ส่วนทอ้ งถ่ิน คือ เทศบาลตำบลเวียงเชียงของ อำเภอเชยี งของ
จากนั้นคณะผู้ดำเนินงานได้พัฒนาแนวทางในการศึกษาข้อมูล กรอบคิด และดำเนินการ ประสานงานเพื่อลงพื้นที่ชุมชนสบสม-หาดไคร้ ในการศึกษาสถานการณ์ชุมชน ทำการสำรวจข้อมูล เบื้องตน้ และนำมาพฒั นาเครอ่ื งมอื ประกอบดว้ ยการสมั ภาษณ์ การสนทนากลุ่ม และการสงั เกตควบคูก่ ับ กระบวนการรวบรวมขอ้ มูล 2. การศึกษาภาคสนามเพื่อรวบรวมข้อมูล ในระยะที่ 2 เป็นการรวบรวมข้อมูลภาคสนาม และถอื เป็นกระบวนการวิจยั ในข้ันตอน R – Research ซึง่ ผวู้ ิจยั ดำเนนิ การรวบรวมข้อมูลภาคสนามเป็น 3 ขนั้ ตอนคอื 1) กระบวนการศึกษาและสำรวจองค์ความรูท้ างวฒั นธรรม 2) จดั ทำแผนยุทธศาสตรช์ มุ ชน สู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ โดยมีการถอดบทเรียนแผนยุทธศาสตร์ชุมชน และนำเสนอเชิงนโยบายต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่ายการพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวโดย ชุมชนเชิงวัฒนธรรม และ 3) การประเมินคัดเลือกผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพ่ือ รองรับการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ และยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่การพึ่งตนเองและ ส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง เป็นการขยายผลยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อการพึ่งตนเองและขับเคล่ือนชุมชน เขม้ แข็งระดบั พ้ืนท่ีชุมชนกอ่ นตอ่ ยอดสู่การพัฒนาจงั หวดั เชียงรายในมิตวิ ฒั นธรรมต่อไป 3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ และ ยกระดบั ผลติ ภัณฑช์ มุ ชนสกู่ ารพึง่ ตนเองและส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง ซ่ึงระยะท่ี 3 เปน็ กระบวนการวิจยั และพัฒนาในขั้นตอน D – Development โดยมีการประเมินผลและยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยจัด กิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่การพึ่งตนเองและขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง โดยใช้เครื่องมือการสัมภาษณ์ การสังเกต และการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (work shop) ใน การจัดการความรสู้ ่งเสริมพฒั นาผลิตภัณฑช์ มุ ชน โดยสามารถนำบทเรยี นท่ีได้จากการแลกเปล่ียนเรียนรู้ มาสร้างแนวทางปฏิบัติ และประเมินผลการยกระดับผลิตภัณฑ์อย่างมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายท่ี เกยี่ วข้อง โดยดำเนินการลงพื้นที่ภาคสนามเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลไป พร้อม ๆ กันในขั้นตอนนี้ โดยตรวจสอบข้อมูลจากบุคคล ระยะเวลา สถานที่ และแนวคิดทฤษฎี เช่น การใช้กระบวนการอภิปรายกลุ่มเพื่อเสนอข้อมูลผลการวิจัย ร่วมกับการถอดบทเรียนในลักษณะ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ชุมชนเพื่อขยายผลเชิงนโยบายการสนับสนุน การจดั การท่องเท่ียวโดยชุมชน
คณะผู้ดำเนินงานได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากการสังเกต การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนา กลุ่ม และการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในลักษณะเวทีชุมชน จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่ แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ และการถอดบทเรียนเพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติ และการประเมนิ ผล อยา่ งมีสว่ นร่วม โดยมีรายละเอียดเครือ่ งมือวจิ ัย ดงั น้ี แบบบันทึกการสังเกต เป็นกระบวนการที่ใช้ร่วมกับเครื่องมือการวิจัยอื่น ๆ ในการเตรียม ความพร้อม และการลงภาคสนามเพื่อสำรวจข้อมูล ผู้วิจัยใช้การสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วมและการสังเกต แบบมีสว่ นร่วมในบางกจิ กรรมของชุมชนสบสม-หาดไคร้ ท้งั 3 ขัน้ ตอนการดำเนินงานวิจยั ประเด็นการสัมภาษณ์เชิงลึก การสัมภาษณ์ผู้วิจัยใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ ร่วมกับ เครอ่ื งมอื การสนทนากลมุ่ เวทีชุมชน และการอภิปรายกล่มุ การสนทนากลุ่ม เวทีชุมชน และการอภิปรายกลุ่ม เป็นกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เชิงปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ พัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้าน การจัดการท่องเทีย่ วโดยชุมชน จากน้ันใชก้ ระบวนการนำเสนอแผนยทุ ธศาสตร์ร่วมกบั การจัดการความรู้ ในลกั ษณะการประเมนิ ผลและถอดบทเรียน โดยกระบวนการในการสร้างและตรวจสอบคุณภาพเครอ่ื งมือโดยการสมั ภาษณ์ การสนทนากลมุ่ เวทีชุมชน และการอภิปรายกลุ่มนั้น ดำเนินการสร้างเครื่องมือที่ครอบคลุมวัตถุประสงค์การวิจัย โดย มุ่งดำเนินการในลักษณะจุดมุ่งหมาย ร่วมกับการสร้างเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่น กล่าวคือเครื่องมือ การสัมภาษณ์ การสนทนากลุม่ เวทีชุมชน และการอภิปรายกลุ่ม จะต้องครอบคลุมวตั ถปุ ระสงค์การวิจัย และในขณะเดยี วกนั กเ็ กบ็ รายละเอียดของข้อมูลที่พบในสถานการณ์จริง เพอ่ื นำมาวิเคราะห์เชิงอุปนัยได้ อย่างลึกซึ้ง วิธีการตรวจสอบเครื่องมือวิจัยจะกระทำไปพร้อมกับการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับ คือ การตรวจสอบขอ้ มลู แบบสามเส้า (Triangulation) วธิ กี ารดำเนนิ งาน การวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการรวบรวมข้อมูลด้วยการสังเกต การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในลกั ษณะเวทชี ุมชน หรือการอภิปราย โดยรายงานฉบับนีม้ ุ่งเน้น การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ซึ่งเป็น กระบวนการร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชน กับผู้ให้ข้อมูลหลัก และนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ชุมชน สู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้จากการจัดเวทีถอดบทเรียน ประเมิน และ ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย
โดยมีรายละเอยี ดการดำเนนิ งาน ตามขัน้ ตอนดังนี้ 1. การจัดทำแผนยทุ ธศาสตรช์ มุ ชน ผู้วิจัยใช้การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำ แผนยุทธศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นการวิเคราะห์ศักยภาพก่อนนำไปประเมินหาค่าเฉลี่ยเพื่อนำไปกำหนด รา่ ง จัดทำการจดั ทำแผนยทุ ธศาสตร์ชมุ ชนสแู่ ผนแมบ่ ทการท่องเทยี่ วชมุ ชนเมืองเกา่ สบสม-หาดไคร้ ดำเนนิ การจดั กจิ กรรมเปน็ 2 เวทีชุมชน ประกอบดว้ ย 1) ใช้การสนทนากลุ่มและกิจกรรมกลุ่มเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดทำแผน ยทุ ธศาสตรช์ ุมชน และ 2) เวทีการถอดสรุปบทเรียน นำเสนอแผนยุทธศาสตร์สู่นโยบายการสนับสนุนโดย หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง โดยมรี ายละเอียดการดำเนนิ งาน ดังน้ี 1.1 นำเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ศักยภาพของชุมชนในภาพรวม 1.2 ดำเนินการโดยใช้เทคนิค SWOT Analysis เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค โดยมีหลักการเก็บรวบรวมข้อมูลการตรวจสอบความเห็นพ้องต้องกันกับผู้เข้าร่วมประชุม เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารและข้อเสนอแนะเพิม่ เติม 1.3 นำผลการวิเคราะห์ SWOT Analysis ไปจัดทำเป็นแบบประเมินศักยภาพอย่างมีส่วนร่วม เพื่อใหผ้ ู้เขา้ ร่วมประชุมได้ประเมินศักยภาพ 1.4 ดำเนินการวิเคราะห์แบบ Matrix และการวิเคราะห์ศักยภาพภายในและภายนอก แบบ Matrix
ภาพท่ี 5 การจัดทำ Matrix เพอ่ื กำหนดคา่ เฉลย่ี สภาวะแวดล้อม ยทุ ธศาสตรเ์ ชิงรุก Strength การรกั ษาเสถียรภาพ Threat 30 Stake holder Opportunity ยทุ ธศาสตรก์ ารตดั ทอน ยทุ ธศาสตร์พลิกฟื้น พลกิ วกิ ฤต Weakness 1.5 วิเคราะห์ TOWS matrix เพื่อกำหนดทิศทางของการจัดทำการจัดทำแผนยุทธศาสตร์- ชุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้โดยนำคะแนนจาก การวิเคราะหค์ า่ เฉลยี่ ของปจั จัยภายในและภายนอก
ภาพที่ 6 ตารางการวิเคราะหศ์ กั ยภาพภายในและภายนอกแบบ Matrix โอกาส O โอกาส O จุดแขง็ S SO OW จดุ ออ่ น W จุดอ่อน W จุดแข็ง S ST WT อุปสรรค T อปุ สรรค T ภาพท่ี 7 ตารางการวิเคราะหศ์ กั ยภาพภายในและภายนอกแบบ Matrix มีโอกาสและจุดแข็ง มีโอกาสแต่มีจุดอ่อน 1. 1. 2. 2. 3. 3. 4. 4. 5. 5. มจี ุดแขง็ แต่มีอุปสรรค มจี ุดอ่อนและมีอุปสรรค 1. 1. 2. 2. 3. 3. 4. 4. 5. 5. โอกาส / จุดแข็ง หมายถึง หน่วยงานมีปัจจัยภายนอกและภายในดี หรือปัจจัยภายนอกและ ภายในเป็นเชิงบวกทั้งหมด หรือภายนอกเอื้อและภายในเด่น ในกรณีนี้ ยุทธศาสตร์ที่จะกำหนดข้ึน เรยี กวา่ ยุทธศาสตรเ์ ชงิ รุก (Aggressive Strategies) จุดแข็ง / อุปสรรค หมายถึง หน่วยงานที่ปจั จัยภายในดี แต่มีปัจจัยภายนอกไมด่ ี หรือปัจจัย ภายในเชิงบวก แต่มีปัจจัยภายนอกเป็นเชิงลบ หรือภายในเด่นแต่ภายนอกฉุด ในกรณีนี้ ยุทธศาสตร์ท่ี
จะกำหนดขึน้ เรียกว่า ยทุ ธศาสตรก์ ารรกั ษาเสถียรภาพ (Stability Strategies) คอื การใช้ประโยชนจ์ าก จดุ แขง็ ของหนว่ ยงานให้เป็นประโยชน์ จุดอ่อน / โอกาส หมายถึง หน่วยงานมีปัจจัยภายในไม่ดีแต่มีปัจจัยภายนอกดี หรือปัจจัย ภายในเปน็ เชงิ ลบแต่ปจั จัยภายนอกเปน็ เชิงบวก หรอื ภายในดอ้ ยแต่ภายนอกเอ้ือ ในกรณนี ี้ยุทธศาสตร์ที่ จะกำหนดขึ้น เรียกว่า ยุทธศาสตร์พลิกฟื้น (Turn Around Strategies) หรือ สถานการณ์ที่ยังมีคำถาม หรือข้อสงสัยอยู่ อุปสรรค / จุดอ่อน หมายถึง หน่วยงานมีปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในไม่ดี หรือ ปัจจัย ภายนอกและภายในเป็นเชิงลบทั้งหมด หรือภายนอกฉุดและภายในด้อย ในกรณีนี้ ยุทธศาสตร์จะ กำหนดขน้ึ เรียกว่า ยทุ ธศาสตรก์ ารตดั ทอน (Retrenchment Strategies) ซึ่งการการจัดทำวิสัยทัศน์ ประเด็นยุทธศาสตร์ เป้าประสงค์ และยุทธศาสตร์ในการพัฒนา แผนงานโครงการโดยการจัดกลุ่มประชุมสัมมนา เชิงปฎบิ ตั ิการ (Work Shop) ระดมความคิดเห็นให้เกิด ฉนั ทามตริ ่วมกัน โดยผู้ใหข้ อ้ มลู หลกั ชุดเดิมดำเนินการต่อเนือ่ ง หลังจากการวิเคราะห์ SWOT Analysis 1.6 การจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์สู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ โดยประกอบด้วยวิสัยทัศน์ เป้าประสงค์ ยุทธศาสตร์การพัฒนา และแผนงานโครงการโดยการกำหนด ยุทธศาสตร์ครั้งนี้เป็นการนำผลจากการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมด้านการจัดการศึกษาจากเทคนิค SWOT มาพจิ ารณาแนวทางกำหนดกรอบการจดั ทำ วิสยั ทศั น์ (Vision) เปน็ การกำหนดจุดหมายท่ีกลุ่มตอ้ งการจะเปน็ หรอื ต้องการจะเหน็ และไปให้ ถึงวสิ ัยทัศน์ที่ดตี ้องกระชับ ชดั เจน และมีความเปน็ ไปได้ เป้าประสงค์ หรือเป้าหมาย (Goals) เป็นการกำหนดเป้าหมายของผลลัพธ์ที่ต้องการในแต่ละ ประเด็นยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้นั้น ต้องการผลลัพธ์อะไร เป้าหมายจึงเป็นตัวบ่งบอกผลสัมฤทธิ์หรือความต้องการของประเด็นยุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรม และวัดผลได้ ยทุ ธศาสตร์ (Strategies) เปน็ การกำหนดแนวทางการดำเนินงาน เพอ่ื ใหบ้ รรลุตามเป้าประสงค์ (Goals) ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับประเด็นเป้าประสงค์ ทั้งนี้ในการกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธศาสตร์ การพัฒนาในแตล่ ะประเดน็ เป้าประสงคน์ ั้นสามารถกำหนดได้หลายยทุ ธศาสตร์ ซึ่งหากมองให้ลึกซึง้ แลว้
การกำหนดยุทธศาสตร์ ก็คือการกำหนดกระบวนงาน (Process) สู่การปฏิบัติ (Implementation) ที่ต้องทำ เพอ่ื ใหบ้ รรลุตามเป้าประสงค์ โดยมีการดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ในการศึกษาครั้งนี้ ตามแบบแผนอุปนัย เชิงวิเคราะห์ด้วยกรอบแนวคิดการวิจัยเชิงคุณภาพ จากการสำรวจปรากฏการณ์ ในกระบวนการศึกษา และสำรวจองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนสบสม-หาดไคร้ สู่การมีส่วนร่วมจัดทำการจัดทำ แผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ และนำสู่การพัฒนา ผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ และยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ การพึ่งตนเองและส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับผู้ให้ข้อมูลหลัก แลกเปลี่ยน เรียนรู้การทำงานแบบเครอื ขา่ ยชุมชนโดยใชฐ้ านคดิ เชิงอุปนยั วิเคราะหไ์ ปพรอ้ มๆกบั การจดั กระบวนการ ซง่ึ การวเิ คราะห์ข้อมูลท่ีคณะผูว้ จิ ยั ได้มาน้ี จะนำมาดำเนินการ ตีความสร้างขอ้ สรุป จำแนก เปรียบเทียบ ข้อมูล รวมทั้งเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เพื่อหาคำอธิบาย และข้อสรุปทั้งหมดเพื่อหาคำตอบภายใต้ กรอบความคิด หรือทฤษฎี และยกร่างแผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม -หาดไคร้ เพอื่ เสนอเชิงนโยบายสกู่ ารนำไปใชอ้ ยา่ งแท้จริง
ดังนั้น ในกระบวนการจัดทำแผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ จึงอาจกล่าวได้ว่า คือการจัดทำผ่านกระบวนทัศน์งานวิจัย โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในลักษณะของ แผนยุทธศาสตร์ชุมชน ที่จะเป็นการกำหนดอนาคตและกิจกรรมพัฒนาของชุมชน โดยเกิดขึ้นจาก คนในชุมชนที่มีการรวมตัวกันจัดทำแผนขึ้นมา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาชุมชนหรือท้องถ่ิน ของตนเองให้เป็นไป ตามที่ต้องการ และสามารถแก้ปัญหาที่ชุมชนเผชิญอยู่ร่วมกัน โดยคนในชุมชน มีสว่ นรว่ มคดิ รว่ มกำหนดแนวทางและทำกิจกรรมการพฒั นาร่วมกัน โดยดำเนินการจัดสนทนากลุ่ม (focus groups) เป็นกิจกรรมกลุ่มย่อย จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ชมุ ชนสบสม-หาดไคร้ ตำบลเวยี ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชยี งราย ใช้กระบวนการจัดทำแผนยทุ ธศาสตร์ ชุมชนสู่แผนแม่บทพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ โดยมีประเด็นคำถามสำคัญ เพื่อนำสู่การวางแผนแมบ่ ทชุมชนร่วมกัน 3 ประเดน็ คอื 1. แผนแม่บทชุมชนหมายถึงอะไร เป้าหมายเพื่ออะไร และอะไรคือสาเหตุสำ คัญที่สุดท่ี ก่อให้เกิดแผนแม่บทชุมชนเพราะอะไร จากนั้นร่วมนิยาม การท่องเที่ยวเมืองเก่าสบสม- หาดไคร้ 2. กิจกรรมที่เคยดำเนินมาแล้ว และประสบความสำเร็จของชุมชนมีอะไรบ้าง สามารถ ยกเปน็ “จุดเด่น” ของชุมชนไดอ้ ยา่ งไร 3. กิจกรรมของชุมชนเพื่อรองรับการจัดการท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีอะไรบ้าง มีเป้าหมายอย่างไร และมวี ิธดี ำเนินการอย่างไร จากน้ันดำเนินการใชเ้ ทคนิค SWOT Analysis เป็นเคร่ืองมือวิเคราะห์ จุดแขง็ จุดออ่ น โอกาส และอุปสรรค โดยมีหลักการเก็บรวบรวมข้อมูลการตรวจสอบความเห็นพ้องต้องกันกับผู้เข้าร่วม ประชมุ เชิงปฏบิ ัติการและข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม โดยในเวทีชุมชนมีการนำผลการวิเคราะห์ SWOT Analysis ไปจัดทำเป็นแบบประเมิน ศกั ยภาพอย่างมีสว่ นร่วม เพ่ือใหผ้ ู้เข้ารว่ มประชุมได้ประเมนิ ศักยภาพ และการวเิ คราะห์ศักยภาพภายใน และภายนอกแบบ Matrix รว่ มกนั
ภาพที่ 8 ผลการวเิ คราะห์
การวิเคราะห์ SWOT Analysis ผลลัพธ์ การวเิ คราะห์ 1. มีผู้นำทีเ่ ขม้ แข็ง 2. มที นุ ทางสังคม มีความเป็นพี่น้อง ภูมปิ ัญญาชาวบา้ น ผูร้ ดู้ ้านต่าง ๆ จุดแข็ง วฒั นธรรมประเพณแี ละทรัพยากรธรรมชาตทิ มี่ ีอยู่ สามารถพัฒนาและ ใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 3. ท่ีตั้ง ภูมิศาสตร์ และทรัพยากร 1. การเตรยี มและจัดการสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชน การจดั สถานท่ีสำคญั จดุ ออ่ น การแบง่ สัดสว่ นการใช้ประโยชน์ของพื้นทแี่ ละพน้ื ท่สี าธารณะ 2. การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน 3. การจดั การปัญหาขยะ การจราจร เยาวชน 1. งบประมาณสนับสนุน 2. เทรนด์ “การท่องเทีย่ ว” จากตน้ ทุนทางวฒั นธรรม และภมู ินเิ วศ เชน่ โอกาส สถานทที่ างประวตั ศิ าสตร์ 3. หน่วยงานตา่ ง ๆ ทเ่ี ข้ามามีส่วนรว่ มในการขับเคลื่อนการจดั การ ท่องเทยี่ ว อุปสรรค 1. สอื่ และการท่องเทีย่ วรูปแบบออนไลน์ 2. สภาพเศรษฐกิจ และการระบาดของโรคติดตอ่ ต่าง ๆ เชน่ ในชว่ ง Covid-19
การวิเคราะห์ ผลลัพธ์ 3. การเขา้ ถงึ การรบั รู้ และการเลือกรับข้อมูลข่าวสารของคนในชุมชน สู่ การปรับตัว ในการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์สู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม -หาดไคร้ ดำเนินการอย่างมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้นำชุมชน ประกอบด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และตัวแทนจากองค์กร ชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 50 คน โดยเป็นการจัดเวทีร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดทำแผน ยุทธศาสตร์ชมุ ชน ระยะท่ี 1 จำนวน 50 คน ประกอบด้วยตวั แทนชุมชนสบสม ผนู้ ำทีเ่ ปน็ ทางการและไม่ เป็นทางการ ผู้ประกอบการ และตัวแทนจากองค์กรชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระยะที่ 2 จำนวน 20 คนในการนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ชุมชนสู่แผนแม่บทการท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม -หาดไคร้จาก การจัดเวทีถอดบทเรียนและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายตัวแทนจากองค์กรชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ปัจจัย SWOT analysis matrix และการประเมินผลอย่างมีส่วนร่วม ดำเนินการสรา้ งนิยามและกรอบวิสยั ทัศน์ เปา้ ประสงค์ และแผนงานโครงการโดยการกำหนดยุทธศาสตร์ ครั้งนี้เป็นการนำผลจากการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมด้านการจัดการศึกษาจากเทคนิค SWOT มาพจิ ารณาแนวทางกำหนดกรอบการจัดทำ ประเดน็ นยิ ามรว่ มและการตคี วาม แผนแม่บทการทอ่ งเที่ยวชุมชนเมอื งเกา่ วสิ ยั ทัศน์ (Vision) สบสม-หาดไคร้ เป้าประสงค์ หรือ เป้าหมาย (Goals) เปน็ การกำหนด วิสยั ทศั น์ จุดหมายทีช่ มุ ชนสบสม-หาดไคร้ เวียงเกา่ สบสม-หาดไคร้ เวียงวฒั นะ ตอ้ งการจะเป็น หรอื ตอ้ งการจะ เห็นและไปให้ถึงวิสัยทศั น์ทด่ี ีต้อง พันธกจิ กระชับ ชัดเจน และมีความ ภาคเี ครือขา่ ยรว่ มพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง เป็นไปได้ ด้วยการจัดการท่องเทยี่ วโดยชมุ ชน เปน็ การกำหนดเป้าหมาย เมืองเกา่ งาม (ทรัพยากรชมุ ชน) ของผลลัพธ์ที่ต้องการในแตล่ ะ วัฒนธรรมสรา้ งสรรค์ (ทนุ ชมุ ชน) รว่ มกัน ประเดน็ ยุทธศาสตร์ ซ่ึงเปน็ การ พัฒนา (การพัฒนาบนความรับผดิ ชอบตอ่ ช้ีให้เหน็ ว่าแต่ละประเด็น สังคมและส่งิ แวดล้อม) ยุทธศาสตร์ท่ีกำหนดไว้นั้น ตอ้ งการผลลพั ธ์อะไร เป้าหมายจงึ “เมืองเก่างาม วฒั นธรรมสร้างสรรค์ เป็นตัวบ่งบอกผลสมั ฤทธิห์ รือ รว่ มกันพัฒนา” ความต้องการของประเด็น
ประเดน็ นยิ ามรว่ มและการตคี วาม แผนแม่บทการทอ่ งเที่ยวชุมชนเมอื งเกา่ สบสม-หาดไคร้ ยทุ ธศาสตร์ ยทุ ธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรม และ (Strategies) วัดผลได้ ยทุ ธศาสตร์ ที่ 1 การจัดการท่องเที่ยว โดยชุมชน เปน็ การกำหนดแนว ยทุ ธศาสตร์ ท่ี 2 การเสรมิ สร้างความ ทางการดำเนินงาน เพ่ือให้บรรลุ เขม้ แข็งภาคเี ครือข่ายเพ่อื การพัฒนาทุน ตามเป้าประสงค์ (Goals) ซ่ึง ทางวัฒนธรรม จะต้องสอดคล้องกับประเดน็ เป้าประสงค์ การกำหนดยุทธศาสตร์ ก็ คือการกำหนดกระบวนงาน (Process) สูก่ ารปฏบิ ตั ิ (Implementation) โดยโครงการและภาพอนาคตที่ชุมชนสบสม-หาดไคร้มุ่งให้เกิดในอนาคตและแผนแม่บท การท่องเที่ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้สามารถแสดงรายละเอียดจากการถอดองค์ความรู้ในแต่ละ กล่มุ ยอ่ ย ทัง้ 3 กลุ่มทด่ี ำเนนิ การการจดั เวทีร่วมแลกเปลีย่ นเรียนรู้และจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชน ดังน้ี --------------------- กลมุ่ 1 --------------------- นิยามการทอ่ งเท่ยี วเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ เศรษฐกจิ คึกคัก วฒั นธรรมดั้งเดมิ กจิ กรรมท่เี คยดำเนนิ การมาแลว้ และประสบความสำเรจ็ 1. งานเลยี้ งป๋างแปด เจ้าพ่อพญาแกว้ ระยะเวลาดำเนนิ การ เดอื นมถิ ุนายนของทุกปี 2. กิจกรรม Wall art ได้รับงบประมาณจากร้านค้าในชุมชนสนับสนุน จิตกร วาดภาพ และ นักศึกษา จาก มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชียงราย 3. พิธีสืบชะตาเมอื งเชียงของ-เชียงราย ณ วัดสบสม
ภาพอนาคต 1. รื้อฟื้นชุมชนบ้านเก่า ให้เป็นจุดเช็คอิน มีประวัติ บอกอายุ ความเป็นมา รูปภาพเก่า มาจัดแสดง 2. ศาลเจ้าพ่อพญาแก้ว ตอ้ งแวะมาสกั การะ 3. มพี ื้นทว่ี ่าง หาศลิ ปินมาเพิม่ จุดวาดรูปอิงเร่อื งราวเมืองเก่า 4. วัดสบสม วดั เจ้าคณะอำเภอ กราบพระศรสี ขุ สบ การจัดการเชงิ พน้ื ทีเ่ พือ่ รองรบั การท่องเท่ียว ในจุดอื่น ๆ ภายในวัด การสังเคราะห์ทุนชุมชนของพื้นที่ พบวา่ ด้านเศรษฐกิจ มีการทำแครแ่ ละเสอื้ ผา้ ทอ้ งถ่ิน ด้านสังคมวฒั นธรรม มผี นู้ ำทเ่ี ขม็ แขง็ และกลมุ่ ในชุมชน ด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำโขงและศาลเจ้าพ่อ พญาแกว้ ตัวอย่างแผนกจิ กรรมโครงการเพอ่ื รองรบั การท่องเทีย่ ว กจิ กรรมสง่ เสริมศาลเจา้ พอ่ พญาแกว้ วตั ถุประสงค์ เพื่อเป็นการเลา่ เรอ่ื งราวของศาลเจา้ พอ่ พญาแก้วแกน่ ักท่องเท่ยี วท่ีมาเยย่ี มเยือน สรา้ งสถานทีส่ ำคญั และเปน็ จดุ เด่นของชมุ ชน วิธกี ารดำเนนิ การ 1. การวางแผนดำเนินงานกับส่วนตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง 2. ประชมุ กลุ่มในชมุ ชนและประสานงานกับภาคสว่ นราชการระดับจังหวดั และระดับพ้ืนที่ ในการวางแผนเริ่มงาน โดยหาจิตกรวาดภาพและพื้นที่ในการสร้างภาพจิตรกรรมฝา ผนังกำแพง เป็นเสน้ ทางสศู่ าลเจ้าพ่อพญาแก้ว 3. การวาดภาพโดยเป็นการเล่าเรื่องราวของศาลเจ้าพ่อพญาแก้วและเร่อื งราวของชุมชน ผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสีย ประชาชนในชมุ ชน นกั ทอ่ งเท่ียว หน่วยงานสนบั สนุน
--------------------- กลมุ่ 2 --------------------- นิยามการท่องเที่ยวเมืองเกา่ สบสม-หาดไคร้ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ บนพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ที่มีตลาดเก่าแก่ (กาดกองเก่า) มีวฒั นธรรมภูมปิ ัญญาพื้นบา้ นอนั ทรงคณุ ค่า แหล่งเรียนรพู้ พิ ิธภัณฑ์ปลาบึกและปลาน้ำจืด ศาลเจ้าพ่อพญาแก้ว การบวงสรวงปลาบึกประจำปี อาหารพื้นบ้านที่ขึ้นชื่อลื่อเล่ืองไปทั่วทิศ คือ ไก หรอื วถิ ีล่องเรือชมวิถชี วี ติ สองฝั่งไทย-ลาว เปน็ ตน้ กิจกรรมทเ่ี คยดำเนินงานมาแล้ว และประสบความสำเร็จ 1. กิจกรรมจับปลาบึก ปลาธรรมชาติในนำ้ โขงตามฤดูกาล ในชว่ ง เมษายน – พฤษภาคม ของทุกปี 2. กจิ กรรมไก ประกอบด้วยการเกบ็ ไกและการแปรรปู 2.1) การเก็บไกน้ำจืด นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และจัดจำหน่าย การเก็บเกี่ยวไกจะเก็บ เกย่ี วในช่วงธันวาคม - พฤษภาคม 2.2) การแปรรูป ไกทรงเคร่อื ง, ไกยี, เจียวไก, หมกไก(ห่อนึง่ ไก) และข้าวเกรยี บไก เป็นตน้ 3. กจิ กรรมทอผา้ พื้นเมืองและไทลื้อ ทอย่ามสะพาย, เสือ้ , ผา้ ถุง 4. กิจกรรมการแปรรูปอาหาร (ปลาน้ำโขง) ปลาร้า, ปลาส้ม, ไข่ปลาส้ม, ห่อนึ่งปลา และ ลาบปลา 5. กิจกรรมขนมพื้นบา้ น ข้าวตม้ มัด, ถว่ั แปป, ห่อนึง่ ปลา, ขนมใส่ไส้ 6. กิจกรรมกลุ่มดนตรีพื้นบ้าน ส่วนมากมักจะไปแสดงการเล่นดนตรีพื้นบ้าน ในงานขาวดำ (งานศพ) หรืองานรนื่ เริง ปจั จุบนั สบื ทอดโดยเยาวชนในพื้นที่ 7. กิจกรรมกลุ่มคนรักสุขภาพ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการออกกำลังของคนในพื้นที่ เช่น การเตน้ รำวงย้อนยคุ การเตน้ แอโรบคิ เปน็ ต้น ภาพอนาคตการท่องเท่ียวเมืองเกา่ ชุมชนสบสม-หาดไคร้ ผลการสนทนากลุ่มพบว่า ต้องการให้เกิดภาพการพัฒนาด้านเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวที่เปน็ รปู ธรรม โดยมกี ารทอ่ งเที่ยวเชิงนิเวศชมุ ชน ทั้งดา้ นวัฒนธรรม วถิ ีชวี ิต และทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นทุน ชมุ ชนสำคญั อยา่ งแม่น้ำโขงและทรัพยากรในแมน่ ้ำโขง ของพ้ืนทท่ี ่ีจะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เต็ม รูปแบบทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีจุดเช็คอินที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาของ สบสม-หาดไคร้ ทำนุบำรุงรักษาวัดเก่าแก่ และตลาด (กาดกองเก่า) มีหน่วยงานเข้ามาส่งเสริมและ
สนับสนุนการดำเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ เพือ่ สรรคส์ ร้างเมืองเก่าสบสม-หาดไครใ้ ห้เปน็ เมืองแห่งการท่องเท่ียว ดา้ นการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมอนั ดีงามสืบไป ทนุ ชมุ ชนของพน้ื ท่ี 1. ตลาด (กาดกองเกา่ ) 2. วดั เก่าศรบี ุญยืน (วัดหาดไครใ้ นปจั จุบัน) 3. พพิ ิธภัณฑ์ปลาบกึ และปลานำ้ จืด 4. ลำนำ้ โขง, จุดชมวิวลำน้ำโขง (ฝ่ังไทย-ลาว) 5. อาหารพน้ื บ้าน (ไกหรอื เทา) 6. ภมู ิปญั ญาในการจับปลา 7. วถิ ีชีวติ ลุ่มแม่น้ำโขง (สบสม-หาดไคร)้ 8. งานบญุ ประเพณปี ระจำปี (บวงสรวงปลาบกึ ) 9. ตน้ โพธิ์เงิน-โพธิ์ทอง 10. สถานท่อี อกกำลงั กายรมิ ฝง่ั โขง 11. Street Art @ ChiangKhong Old City (งานศลิ ปเ์ ลา่ เรือ่ งเมืองเกา่ เชยี งของ) 12. กจิ กรรมการแขง่ เรอื ประจำปี (ผหู้ ญิง 10 คนพาย ผชู้ าย 12 คนพาย) --------------------- กลมุ่ 3 --------------------- นยิ ามการท่องเท่ยี วเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ จากการสนทนากลมุ่ พบว่า ไดใ้ หค้ ำสำคัญเกี่ยวกบั การทอ่ งเทย่ี วเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ประกอบ ไปดว้ ย สง่ิ สำคญั ทเี่ ป็นจดุ เดน่ ของพน้ื ทรี่ องรับการทอ่ งเทยี่ ว ไดแ้ ก่ 1) กาดกองเกา่ ริมโขง 2) วัฒนธรรมการกินและวิถีชวี ิต 3) ศาลเจ้าพ่อพญาแกว้
กจิ กรรมทเ่ี คยดำเนนิ มาแล้วและประสบความสำเรจ็ ประกอบไปดว้ ยกิจกรรมทางวัฒนธรรมและประเพณี ได้แก่ 1. ประเพณเี ลย้ี งเจ้าพ่อพญาแกว้ 2. งานเล้ยี งปาแปด (ศาลเจ้าพอ่ พญาแก้ว) 3. สบื ชะตาเมอื งเชียงของ ณ วัดสบสม (งานวัดประจำปี) 4. กลมุ่ ออกกำลงั กาย Line Dance (กลุม่ อนรุ ักษส์ ขุ ภาพ) 5. รำวงย้อนยุคศลิ าเพชร (หน้าวัดสบสม) 6. กลมุ่ อาชีพสตรี เยบ็ ผา้ (ศาลเจา้ พอ่ พญาเจา้ ) 7. ดำหัวผสู้ ูงอายุ (รดน้ำดำหัว) ที่ศาลเจ้าพ่อพญาแก้ว ภาพอนาคต การทอ่ งเทีย่ วเมอื งเก่าชมุ ชนสบสม-หาดไคร้ การพัฒนาของพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ของบ้านสบสมและบ้านหาดไคร้ เกิด การจดั การเชงิ พ้นื ท่ีให้เป็นเสน้ ทางการทอ่ งเท่ยี ว การจดั การชมุ ชน บา้ นเรอื น วิถชี ีวิตให้สอดคล้องรองรับ ในขณะเดียวกันกอ็ นรุ กั ษ์วฒั นธรรมอันดงี ามควบคู่ไปกบั การดแู ลรกั ษาทรัพยากรธรรมชาติในพ้นื ที่ ทุนชมุ ชนของพน้ื ที่ ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านอาหาร ทกั ษะการจดั เล้ยี ง ด้านสังคมวัฒนธรรม ด้านกลุ่มองค์กรชุมชนที่มีความเข้มแข็ง เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม แมบ่ า้ น กลุ่มผู้นำชุมชน มคี วามรว่ มมอื ในการดำเนนิ กิจกรรมต่าง ๆ ดา้ นสง่ิ แวดล้อม แม่นำ้ โขง ทรพั ยากรนำ้ ผลติ ภัณฑจ์ ากไมไ้ ผ่ ตวั อย่างแผนกจิ กรรมโครงการเพอ่ื รองรับการท่องเที่ยว กจิ กรรม การส่งเสริมการถา่ ยทอดวฒั นธรรมจากรนุ่ สรู่ ่นุ ใหม้ สี ว่ นรว่ มการพัฒนาชมุ ชน วตั ถปุ ระสงค์/เป้าหมาย 1. เพ่ือจดั กิจกรรมถ่ายทอดวัฒนธรรมและวิถีชีวติ 2. เพื่อให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนในด้านการสื่อสาร ประชาสมั พันธ์ และเทคโนโลยี
วิธีดำเนินการ ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เยาวชนทีมีความสนใจในด้านการพัฒนาชุมชน ให้มีส่วนร่วมในการ พัฒนาจัดทำโครงการเพื่อที่จะให้คนรุ่นก่อนได้สอน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในด้านวัฒนธรรมประเพณีของ ชุมชนและมีวิทยากรในด้านสื่อสารทางเทคโนโลยีเพื่อที่จะได้มีการบูรณาการในทั้งเยาวชนผูส้ ูงอายุและ หน่วยงานทเ่ี ข้ามามีสว่ นร่วมในการพฒั นาแหล่งท่องเท่ียวชมุ ชน เพอื่ รองรับการเปน็ ชมุ ชนทอ่ งเท่ยี ว ผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสยี เยาวชน ประชาชนในชุมชน กิจกรรม การปรบั ภมู ทิ ศั น์ อนุรกั ษ์ และฟืน้ ฟูทรพั ยากรรมิ แมน่ ำ้ โขงในพืน้ ท่อี ยา่ งมีส่วนร่วม วธิ ีดำเนนิ การ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนได้มีการพัฒนาปรับภูมิทัศน์ริมแม่น้ำโขงและทำการปลูก ตน้ ไมไ้ ม้ดอกไม้ประดบั เพื่อความสวยงามของพ้ืนที่ และการนำถังขยะวางเปน็ จุดตามทเ่ี ปน็ แหล่งผู้คนมา ชมทวิ ทัศนร์ ิมแม่นำ้ โขง บรเิ วณถนนเลียบนำ้ โขง ผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสยี ประชาชนในชมุ ชน องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เครอื ขา่ ย นักท่องเทย่ี ว กจิ กรรม การยกระดับผลติ ภัณฑ์เพอ่ื พัฒนาเศรษฐกจิ ชุมชน วธิ ดี ำเนินการ สร้างเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในการพัฒนาเศรษฐกิจ การเลือกพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และมาตรฐานผลิตภัณฑช์ ุมชน โดยออกแบบกจิ กรรมเป็นเวทีประชาคมตำบล/อำเภอ ร้านค้า ชุมชน ตลาดนัดชุมชน ร่วมกับการวิเคราะห์ศักยภาพของท้องถิ่นโดยให้ความสำคัญต่อการสร้าง กระบวนการเรยี นรู้ให้แกค่ นในชุมชนทอ้ งถน่ิ ผมู้ สี ่วนได้สว่ นเสยี ประชาชนในชุมชน เครอื ขา่ ยภาครฐั และองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน เครือข่ายภาคเอกชน และ นกั ท่องเที่ยว จากการดำเนินกิจกรรมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จึงสามารถนำเสนอกิจกรรมเพื่อรองรับการ จัดการทอ่ งเที่ยวชมุ ชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ ได้โดยสรปุ ดงั นี้
กจิ กรรมรองรับการจัดการท่องเท่ีย กจิ กรรมรองรับการจดั การท่องเที่ยวดา้ นเศรษฐกจิ กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์/เป้าหมา กจิ กรรมการผลิตสินคา้ อัตลักษณ์ “ไก” 1. เพ่ือส่งเสรมิ อาชีพการเก็บไกและกา 2. เพื่อใหไ้ กเป็นสนิ ค้าอัตลกั ษณด์ ้านก ภูมปิ ัญญา 3. สามารถออกแบบเพอ่ื รองรับกิจกรร เมืองเก่าชมุ ชนสบสม-หาดไคร้ กจิ กรรมการสืบทอดการพฒั นา 1. เพอ่ื สง่ เสรมิ อาชีพการทอผ้าให้กบั ช การทอผ้าพ้ืนเมืองและไทลอ้ื สร้างอาชพี สรา้ งรายได้ สคู่ รอบครัว 2. เพอ่ื สบื ทอดวิถชี วี ติ การทอผ้าตามแ พืน้ เมืองและไทลื้อของชาวบ้านบนพื้น
ยวชุมชนเมืองเก่าสบสม-หาดไคร้ าย วธิ ดี ำเนินการ ารแปรรปู ไก การส่งเสริมอาชีพ สืบทอด ถ่ายทอด และจัดการความรู้ การจดั การ ภูมิปัญญาเกี่ยวกับการเก็บไกน้ำจืด นำมาแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์และจัดจำหน่าย การเก็บเกี่ยวไกจะเก็บเกี่ยว รมการท่องเท่ยี ว ในช่วงธันวาคม – พฤษภาคม รวมทั้งการแปรรูป ไก ทรงเครื่อง ไกยี เจียวไก หมกไก หรือห่อนึ่งไก และข้าว ชาวบ้านในพื้นท่ี เกรียบไก เปน็ ตน้ ระยะแรก – รวมกลุ่มการทอผ้าสบสม-ห้วยไคร้ เพ่ือ แบบของผ้า สำรวจความต้องการของคนในพ้ืนทีเ่ ก่ียวกบั กจิ กรรมการ นท่ลี ุ่มแม่นำ้ โขง ทอผ้าพืน้ เมืองและไทลอ้ื ระยะที่สอง – ส่งเสริมอาชีพการทอผ้า ฝึกและ ประสบการณ์ในการทอผ้าให้มากขึ้นกว่าเดิม เช่น อัต ลักษณ์ลายผ้าต่างๆ ให้เขา้ กับสมัยนยิ มและความต้องการ ของนักท่องเทย่ี ว และทอผา้ ออกมาเพอ่ื ตัดเย็บเปน็ ของใช้ ในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ เส้ือ ผ้าซน่ิ กระเป๋า เป็นตน้
กจิ กรรม วัตถปุ ระสงค์/เปา้ หมา กิจกรรม 1.เพื่อส่งเสริมวิถชี วี ิตในการหาไกของช พัฒนามาตรฐานการแปรรปู ไกนำ้ โขง แมน่ ้ำโขง 2. เพื่อถนอมอาหาร (ไก) ให้อยู หลงั จากช่วงฤดูการเกบ็ เกี่ยว
าย วิธีดำเนินการ ระยะที่สาม – นำผลิตภัณฑ์จากการทอผ้าและตัดเย็บ ชาวบ้านลมุ่ นำไปทดลองขายผลิตภัณฑ์ที่กาดกองเก่าให้กับคนใน ่ ไ ด ้ น า น ม า ก ขึ้ น พื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ในตรงกับความตอ้ งการของนกั ท่องเทีย่ วให้มากท่ีสดุ ระยะสุดทา้ ย – เปดิ ศูนยข์ ายสนิ คา้ ผลติ ภณั ฑ์เพื่อรองรับ นกั ทอ่ งเทย่ี ว และยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับคนใน ชุมชนอีกดว้ ย ระยะแรก – เก็บเกี่ยวไกในช่วงฤดูเพื่อนนำมาทดลอง แปรรปู เชน่ ไกยี ข้าวเกรยี บไก ระยะที่สอง – ขอรับการสนับสนุนต้นทุนในการแปรรูป ผลติ ภณั ฑ์สินคา้ ระยะสุดท้าย – เปดิ ศูนย์ขายสนิ ค้า ผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับ นกั ท่องเท่ยี ว และยงั สรา้ งอาชีพ สรา้ งรายได้ ให้กับคนใน ชมุ ชนอกี ด้วย
กจิ กรรมรองรับการจดั การท่องเที่ยวด้านสังคมและวัฒนธรรม กิจกรรม วัตถปุ ระสงค/์ เปา้ หมา กิจกรรมส่งเสริมสืบสาน 1.เพือ่ ทำพธิ บี วงสรวงก่อนการจบั ปลา งานบญุ ประเพณปี ระจำปี กำลงั ใจ ความเป็นสริ มิ งคล และโชคล (บวงสรวงปลาบึก) ตลอดจนเป็นการรักษาไว้ซง่ึ ประเพณีท กนั มาทุกปี 2. เพือ่ รองรบั นกั ท่องเที่ยวในการเขา้ ร ของชุมชนสบสม-หาดไคร้ทจี่ ะจดั ข้นึ ท กจิ กรรมสง่ เสริมและพัฒนากาดกองเกา่ 1. เพ่ืออนุรกั ษ์กาดกองเก่าของชมุ ชนส (ถนนคนเดนิ สายวัฒนธรรมอำเภอเชียงของ) 2. เพือ่ สง่ เสริมการขายสินค้าท้องถิ่น ผลิตภัณฑท์ ้องถิน่ ของชมุ ชนสบสม-หา
าย วธิ ีดำเนินการ าบกึ เป็นการสรา้ ง จัดกิจกรรมพิธีบวงสรวง โดยใช้พื้นที่บริเวณ ลาภแกช่ าวประมง ชายหาดริมแม่น้ำโขง ประกอบด้วยศาลเพียงตาและมี ที่เคยปฏิบัติสบื ร้ัวรอบทงั้ สีด่ ้าน ที่มุมร้ัวท้ังส่ี จะผกู ต้นกล้วย ต้นอ้อยไว้ รว่ มพิธบี วงสรวง ส่วนบนศาลเพียงตาจะมีเครื่องเซ่นบวงสรวง ทุกปี ประกอบด้วย ดอกไม้ ธปู เทียน สุรา อาหารและผลไม้ สมยั ก่อนเคร่ืองเซ่นสงั เวยบวงสรวงเจ้าพอ่ ปลาบึก สบสม-หาดไคร้ และแม่ย่านางเรือมีเพียง ดอกไม้ ธูปเทียนและไก่เป็นๆ าดไคร้ โดยจับขาไก่สองข้างให้แนน่ และฟาดลำตัวลงบนหัวเรือ ให้ตายทั้งเป็น เพื่อให้เลือดกระเซ็นรอบ ๆ เรือและ เครื่องมือที่ใช้ดักจับปลาบึก หลังจากนั้นนำอาหารที่ บวงสรวงแล้วมาแบ่งกันกินในชมุ ชน เป็นอันเสร็จพธิ ี กาดกองเก่า เป็นชือ่ ภาษาเหนือ โดยคำว่า “กาด” เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ตลาด และ “กอง” แปลว่า ถนน ซึ่งรวมกันแล้วหมายถึง ตลาดบนถนนใน บรรยากาศของวิถีชีวิตเมืองเก่าชุมชนสบสม-หาดไคร้ นั่นเอง ซึ่งควรมีการจัดให้มีตลาด(กาดกองเก่า) ใน
กจิ กรรม วตั ถปุ ระสงค/์ เปา้ หมา
าย วธิ ีดำเนนิ การ วันศุกร์ของทุกสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น.ถึงช่วงค่ำ อาจถึงเวลาประมาณ 2-3 ทุ่มตาม คำบอกเล่าของคนในชุมชน โดยมอี ตั ลักษณท์ ่โี ดดเดน่ ของกาดกองเก่าบนถนน สายนี้คือ จะเป็นเส้นย่านเมืองเก่า ที่มีบ้านไม้แบบ สมัยก่อนดั้งเดิม ที่ในปัจจุบันยังคงมีคนอาศัยอยู่จริง ๆ เรียงรายยาวไปทั้งถนน มีการจัดแสดงภาพถ่าย เร่ืองราวของเมืองเชียงของเปน็ บางคร้งั ใหน้ กั ท่องเท่ียว สามารถได้ไปเรียนรู้ มีมุมถ่ายรูปให้ถ่ายภาพเช็กอิน เป็นต้น ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่มีชีวิต และ สามารถสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนควบคู่ไปกับวิถี วฒั นธรรม
กจิ กรรมรองรับการจดั การท่องเท่ียวด้านสงิ่ แวดลอ้ ม กจิ กรรม วตั ถุประสงค/์ เป้าหมา กิจกรรมคนรกั ษ์สขุ ภาพลานกีฬารมิ น้ำโขง 1.เพื่อส่งเสริมให้คนในพื้นที่หันมาอ สขุ ภาพท่ีแขง็ แรง 2.เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในการออก ในพน้ื ที่ กิจกรรม การปรับภูมิทัศน์ อนุรักษ์ และ เพ่ือปรับภมู ทิ ศั น์ อนรุ กั ษ์ และฟ้ืนฟทู ฟื้นฟูทรัพยากรริมแม่น้ำโขงในพื้นที่อย่างมี โขงในพน้ื ทอ่ี ยา่ งมีสว่ นรว่ ม ส่วนรว่ ม
าย วธิ ดี ำเนนิ การ ออกำลังกายเพื่อ - เตรียมสถานทลี่ านกีฬาริมนำ้ โขง - จดั ใหม้ ีกจิ กรรมแอโรบิคและรำวงยอ้ นยคุ เพือ่ สุขภาพ กกำลังกายกับคน - นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่สามารถออกกำลังกาย และชมววิ สองฝั่งไทย-ลาว ทรพั ยากรริมแม่น้ำ คนในชุมชนริเริ่มร่วมกับองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นและภาครัฐภาคเอกชนในพื้นที่ เกิดการ พัฒนาปรับภูมิทัศน์ริมแม่น้ำโขงและทำการปลูกต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อความสวยงามของพื้นที่ และการ นำถงั ขยะวางเปน็ จุดตามท่ีเป็นแหล่งผู้คนมาชมทิวทัศน์ รมิ แมน่ ้ำโขง บรเิ วณถนนเลยี บนำ้ โขง
รวมถึงมีข้อเสนอแนะจากกระบวนการคืนข้อมูลและการประชุมเพื่อพิจารณ ข้อเสนอแนะถึงการเพิ่มกิจกรรม/โครงการ เพื่อมาตรฐานและวามสำเร็จของการด 3 กจิ กรรม 1. กิจกรรมการเรียนรจู้ ากชมุ ชนตน้ แบบ บทเรยี นความสำเรจ็ การจัดการท่อ 2. กจิ กรรมการสรา้ ง “คน” พฒั นาศักยภาพการเล่าเรื่องและนำชมการท่อง 3. กิจกรรมการประชาสัมพนั ธก์ ารทอ่ งเที่ยว โดยมีรายละเอียดดงั นี้ 1. กจิ กรรมการเรียนรูจ้ ากชมุ ชนต้นแบบ บทเรยี นความสำเร็จการจดั การ กิจกรรม วัตถปุ ระสงค/์ เป้าหมา การเรียนรจู้ ากชมุ ชนตน้ แบบ บทเรยี น เพอื่ ศึกษา เรยี นร้จู ากความสำเรจ็ ของ ความสำเร็จการจัดการทอ่ งเที่ยวโดย จัดการท่องเท่ียวโดยชมุ ชนท่ีประสบค ชมุ ชน สามารถกระตนุ้ เศรษฐกิจ บูรณาการส ชมุ ชนทเ่ี ปน็ รปู ธรรม
Search