Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนดนตรี นาฏศิลป์ ประถมปลาย

แผนการสอนดนตรี นาฏศิลป์ ประถมปลาย

Published by krupat14, 2019-11-17 01:58:39

Description: แผนการสอนดนตรี นาฏศิลป์ ประถมปลาย

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 องคป์ ระกอบดนตรี เวลา 3 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 องคป์ ระกอบดนตรีไทย เวลา 1 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคดิ ต่อดนตรอี ย่างอิสระ ชื่นชมและประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน ตวั ชวี้ ัด ป.6/1 บรรยายเพลงท่ีฟัง โดยอาศัยองคป์ ระกอบของดนตรแี ละศพั ทส์ ังคีต จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. รแู้ ละเข้าใจเก่ยี วกบั องคป์ ระกอบของดนตรีไทย (K) 2. บรรยายความเกี่ยวข้องขององคป์ ระกอบของดนตรไี ทย (P) 3. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมรว่ มกับผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื สัตยแ์ ละความรับผดิ ชอบ (A) สาระการเรียนรู้ องค์ประกอบของดนตรีเปน็ สิ่งสาคญั ทท่ี าใหเ้ กิดเปน็ รปู แบบดนตรตี ่างๆ และจะทาให้สามารถบรรยายและ เข้าใจอารมณ์ของบทเพลงไดง้ ่ายขึ้นและเกดิ ความซาบซง้ึ ในบทเพลงได้มากขึ้น สาระสาคญั องค์ประกอบของดนตรีไทย ได้แก่ เสียง จังหวะ ทานอง เสียงประสาน พ้ืนผิวของดนตรี สีสันของเสียง และรูปแบบหรือคตี ลักษณ์ สมรรถนะ ความสามารถในการสือ่ สาร (สามารถสรปุ และนาเสนอผลงานของตนเอง) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ความซอ่ื สตั ยแ์ ละความรบั ผิดชอบ กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. สรา้ งแรงขับเคลอ่ื น (Motion Force) 1.1 ครูสนทนาซักถามนักเรียนเกี่ยวกับดนตรีไทย ว่าในชีวิตประจาวันของนักเรียนสามารถฟังได้จากที่ ใดบ้าง เช่น ท่ีโรงเรียน บ้าน วัด หรือชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่ เป็นต้น โดยให้นักเรียนช่วยกันบอกมาคนละ 1 สถานท่ี 1.2 เปิดเพลงไทยท่ีบรรเลงด้วยวงดนตรีไทยให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนสังเกตว่าเพลงท่ีได้ฟังมี องคป์ ระกอบอะไรบา้ ง 1.3 ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามของครูจากเพลงท่ีนักเรียนได้ฟัง เช่น เสียงท่ีนักเรียนได้ยินมีเสียงเครื่องดนตรี ประเภทใดบ้าง มกี ารดาเนนิ จงั หวะในรปู แบบใด เปน็ ตน้ โดยครูสุ่มนักเรียนให้ลุกขึ้นตอบแสดงความคิดของตนเอง ท่มี ตี ่อบทเพลงที่ไดฟ้ ัง 1.4 ครคู อยแนะนาวา่ สง่ิ ทีน่ กั เรียนควรจะตอบหรือแสดงความคิดเหน็ นน้ั อยูใ่ นประเด็นหรือไม่

(การตั้งคาถามเป็นการสร้างแรงขับเคล่ือนความคิด ให้นักเรียนวิเคราะห์บทเพลงท่ีนักเรียนได้ฟังว่ามี องค์ประกอบอะไรบ้างทป่ี ระกอบกันขน้ึ มาจนกลายเป็นเพลงใหน้ ักเรียนได้ฟงั เพอื่ ให้นักเรยี นเกิดความเข้าใจในการ ฟังเพลงมากข้ึน เป็นการสร้างเหตุผลในการเลือกรับฟังบทเพลงที่มีมากมายในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการสร้าง ภูมิคุ้มกันท่ีดีในการเลอื กรบั เอาแนวคิดดๆี ในบทเพลงท่ีมีคุณค่าในดา้ นเน้ือหาของบทเพลง) 2. ไขกุญแจการเรยี นรู้ (Unlock Knowledge) 2.1 ครูนาเสนอเน้ือหาเรื่อง องค์ประกอบของดนตรี โดยอธิบายเกี่ยวกับ เสียง จังหวะ ทานอง เสียง ประสาน พ้ืนผิวของดนตรี สีสันของเสียง และรูปแบบหรือคีตลักษณ์ ให้นักเรียนทราบในเน้ือหาเก่ียวกับ ความหมายและลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์ประกอบดนตรี ให้นักเรียนค้นคว้าความรู้เพ่ิมเติมในหนังสือ แบบเรยี น 2.2 นอกจากความรู้ท่ีได้รับจากครูและหนังสือแล้วครูให้นักเรียนใช้การค้นหาโดยอินเตอร์เน็ต โดย กาหนดว่าหากนักเรียนคนใดสามารถหาเนื้อหาขององค์ประกอบดนตรีไทยได้แตกต่าง หรือมีเน้ือหาเพ่ิมเติมจาก หนงั สือและใครหาคาตอบไดก้ อ่ นครูจะเพิ่มคะแนนให้ 2.3 ครูใช้คาถามนาให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นร่วมกันร่วมกันว่า องค์ประกอบของดนตรีไทยข้อใด สาคญั ทส่ี ดุ (การสืบคน้ ความรูน้ อกเหนอื จากบทเรียนทค่ี รไู ดน้ าเสนอ เปน็ การสรา้ งองค์ความรดู้ ว้ ยตัวนักเรียนเอง และเป็น การแสงหาความรู้ด้วยเทคนิคและวิธีการที่นักเรียนมีความถนัดทั้งสื่อที่เป็นเทคโนโลยีและสื่อท่ีเป็นหนังสือจาก ห้องสมดุ และนักเรียนสามารถใช้ส่ือท่ีเหมาะสมกับ ฝึกให้นักเรียนมีรอบรู้ ระมัดระวังในการค้นหาข้อมูล อีกท้ังยัง เปน็ การส่งเสรมิ คณุ ธรรมด้านความซ่อื สตั ย์กับตนเองในการสืบคน้ ข้อมูล) 3. ลงมือทา (Start to do) 3.1 หลังจากท่ีนักเรียนได้ทาการศึกษาค้นคว้าโดยการใช้อินเตอร์เน็ตครูให้นักเรียนสรุปความหมาย และ ใหบ้ อกถึงบทบาทหน้าทีค่ วามสาคัญขององค์ประกอบของดนตรไี ทยแตล่ ะขอ้ 3.2 แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มนักเรียนหญิงและนักเรียนชาย ผลัดกันออกมาเขียน ความหมายและความสาคัญขององค์ประกอบของดนตรีไทยบนกระดาน 3.3 สร้างความสนุกในการเรยี นโดยการโยนเหรียญโดยกาหนดกตกิ ารกับนกั เรียนว่าถ้าออกหัวให้นักเรียน หญงิ ออกมานาเสนอ และถ้าออกก้อยจะให้นักเรียนชายออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน ให้อีกฝั่งคอยตั้งคาถามเพ่ือน ทอ่ี อกไปนาเสนอหน้าชั้นเรยี น 3.4 เมือ่ ครบแลว้ ครูให้นกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบว่าสิ่งทเ่ี พือ่ นได้เสนอบนกระดานน้นั ขอ้ ใดถูกต้องบ้างแล้ว ชว่ ยกันนับคะแนน (ครูใช้เงื่อนไขความรู้ คือ รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ในการให้นักเรียนวิเคราะห์บทเพลงที่ได้ฟัง การจด บนั ทึกสาระสาคัญท่นี กั เรียนพบในบทเพลง และมีสติในการจดบนั ทึกและจดจา คาแนะนาท่ีดีจากครูนับว่าเป็นการ สร้างภูมคิ ุ้มกนั อนั นาไปสู่การตอบข้อสงสยั ของนักเรยี นในวยั ท่ีกาลังมีพัฒนาการด้านต่างๆทาให้ผู้เรียนรู้ขอบเขตใน การถามคาถาม และระมัดระวงั ในเรื่องกติกามากขึ้น)

4. รวบรวมองค์ความรู้ (Include) 4.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับในการเรียนเร่ือง องค์ประกอบของดนตรี ดังนี้ องค์ประกอบของดนตรีเป็นสิ่งสาคัญท่ีทาให้เกิดเป็นรูปแบบดนตรีต่างๆ และจะทาให้สามารถบรรยายและเข้าใจ อารมณ์ของบทเพลงไดง้ ่ายข้ึนและเกิดความซาบซึ้งในบทเพลงไดม้ ากข้นึ (การเรียนเรื่ององค์ประกอบของดนตรีต้องเรียนรู้ให้เกิดความรู้ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขด้านความรู้ควบคู่กับ คณุ ธรรมเพื่อใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ทีย่ ง่ั ยนื ) 5. การตดิ ต่อส่ือสารในรูปแบบการนาเสนอ (Contact) 5.1 นกั เรยี นสามารถนาความรู้ทไี่ ด้รบั ไปใช้ในการบรรยายบทเพลงท่นี ักเรยี นรับรไู้ ดใ้ นชีวิตประจาวัน (การนาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันเพื่อให้นักเรียนรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของกระแสบท เพลงที่นับวันจะไม่ได้คานึงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมกับช่วงวัย การสอดแทรกในเรื่องการมีเหตุผลในการ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและยอมรับในกติการมารยาทท่ีถือเป็นข้อตกลงของแต่ละกลุ่มถือเป็นการ แสดงออกถึงความมีคุณธรรมด้านความซ่ือสัตย์สุจริตอีกทั้งยังเป็นการสอนให้นักเรียนรู้จัก การแบ่งปันความรู้ท่ี ตนเองมีอย)ู่ สอ่ื การเรียนการสอน / แหล่งการเรยี นรู้ 1. ใบงานเร่ืององค์ประกอบของดนตรี 2. หนงั สือแบบเรียน 3. เพลงไทย และเพลงไทยสากล 4. Smart phone การวดั และการประเมินผล 1. วิธกี าร 1.1 สังเกต พฤติกรรมการเรยี น พฤตกิ รรมกลมุ่ 1.2 ตรวจผลงาน ตรวจช้นิ งาน ตรวจผลงานการนาเสนอ 2. เคร่อื งมอื วัดผลและประเมนิ ผล 2.1 แบบประเมินพฤตกิ รรมดา้ นความรับผิดชอบและการนาเสนอผลงาน 2.2 ใบงาน 2.3 แบบบนั ทึกคะแนนจากช้นิ งานของนกั เรยี น 3. เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผล รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ความรู้ ทาใบงาน ตอบถูก 1 คะแนน ตอบผิด 0 คะแนน เข้าใจและบรรยายองค์ประกอบของ ดนตรไี ทย

รายการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสาคญั 3 คะแนน เขยี นนาเสนอขอ้ มลู ไดถ้ ูกตอ้ งท้งั หมดมีรายละเอียดที่สมบรู ณ์ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ส่ื อ ส า ร 2 คะแนน เขียนนาเสนอข้อมูลไดไ้ มถ่ กู ต้องทั้งหมด รายละเอียดไมส่ มบูรณ์ (สามารถสรุปและนาเสนอผลงาน 1 คะแนน เขียนไม่ถูกตอ้ งนาเสนอขอ้ มลู ไม่ชัดเจน รายละเอียดไมส่ มบรู ณ์ ของตนเอง) คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 3 คะแนน ทาชิ้นงานครบทุกขอ้ และร่วมปฏิบตั งิ านกล่มุ จนเสรจ็ ความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบและ 2 คะแนน ทาช้นิ งานครบทุกข้อ แต่ร่วมปฏบิ ตั ิงานกลุ่มเพยี งเลก็ นอ้ ย ทางานเป็นกลุม่ 1 คะแนน ทาชิ้นงานไม่ครบทกุ ขอ้ และร่วมปฏิบตั งิ านกลุม่ เพยี งเลก็ นอ้ ย การใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครผู สู้ อนใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ประเดน็ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิค้มุ กันตัวที่ดี เนื้อหา จัดเตรียมเนื้อหาเร่ือง ผู้เรียนรับรู้เนื้อหาได้ตรง นาความรู้ท่ีได้มาปรับใช้กับ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ด น ต รี ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด การเลือกรับฟังเพลง ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ตั ว ชี้ วั ด และเกิดความสนุกสนาน ความยาก-ง่ายของเน้ือหา ในวิธกี ารนาเสนอ ถูกนาเสนอให้เหมาะสม กบั ผู้เรียน เวลา จั ด เ ว ล า ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ เผ่ือเวลาในการนาเสนอ เพียงพอกับกิจกรรมการ ตามเวลาท่ไี ด้วางแผนไว้ เน้ือหาและปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ เพ่ือป้องกันปัญหาการล่าช้า ในการจดบันทึก และการเกิด เหตุการณ์ตา่ งๆ ทาให้ใช้เวลา ได้เพียงพอกับคาบเรยี น การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ กาหนดกิจกรรมเหมาะสม กับพ้ืนฐานของผู้เรียนและ เวลาเรยี น 1. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ผลการวัด (เชิงปริมาณ) บนั ทกึ รายละเอียดคณุ ภาพ 1. รแู้ ละเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบ นักเรียนทั้งหมด..................คน ...................................................... ...................................................... ของดนตรี (K) จานวนนกั เรียนท่ผี ่าน.................คน ...................................................... ...................................................... คิดเปน็ ร้อยละ................... ...................................................... จานวนนกั เรยี นท่ไี ม่ผา่ น.............คน ...................................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. 2. บรรยายความเกี่ยวข้องของ นักเรยี นทง้ั หมด..................คน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ผลการวดั (เชิงปริมาณ) บันทกึ รายละเอียดคณุ ภาพ องคป์ ระกอบของดนตรี (P) จานวนนกั เรยี นทผ่ี ่าน.................คน ...................................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ...................................................... จานวนนกั เรียนท่ีไมผ่ า่ น.............คน ...................................................... คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ...................................................... 3. ปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นด้วย นกั เรียนท้งั หมด..................คน ...................................................... ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบ จานวนนกั เรยี นทีผ่ า่ น.................คน ...................................................... (A) คิดเป็นรอ้ ยละ................... ...................................................... จานวนนักเรียนที่ไม่ผ่าน.............คน ...................................................... คิดเปน็ ร้อยละ.................. ...................................................... อปุ สรรคและแนวทางแกไ้ ข .......................................................................................................................................... .......................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ............................................ครูผู้สอน (นายณัฐภูมิ ศรนี กุ ูล) วันที.่ ..........เดอื น.....................................พ.ศ. .............. ลงชื่อ............................................หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ (นางจริยา วชั โรบล) วันที.่ ..........เดอื น.....................................พ.ศ. .............. ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................... ................ ลงชื่อ............................................ผอู้ านวนการโรงรยี นวดั เขยี นเขต (นายจเร ทองลักษณ์ศิร)ิ วนั ที่...........เดอื น.....................................พ.ศ. ..............

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 องคป์ ระกอบดนตรี เวลา 3 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 องคป์ ระกอบดนตรีสากล เวลา 1 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความร้สู ึก ความคิดต่อดนตรอี ย่างอสิ ระ ช่ืนชมและประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน ตัวช้ีวดั ป.6/1 บรรยายเพลงทฟ่ี งั โดยอาศยั องคป์ ระกอบของดนตรแี ละศพั ทส์ งั คตี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. รแู้ ละเข้าใจเก่ียวกบั องค์ประกอบของดนตรีสากล (K) 2. บรรยายความเกีย่ วขอ้ งขององค์ประกอบของดนตรสี ากล (P) 3. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมร่วมกับผอู้ ่นื ด้วยความซอ่ื สัตย์และความรบั ผดิ ชอบ (A) สาระการเรียนรู้ องคป์ ระกอบของดนตรเี ปน็ ส่งิ สาคัญทท่ี าใหเ้ กิดเปน็ รูปแบบดนตรตี ่างๆ และจะทาให้สามารถบรรยายและ เข้าใจอารมณข์ องบทเพลงไดง้ า่ ยข้นึ และเกิดความซาบซึง้ ในบทเพลงได้มากข้นึ สาระสาคัญ องคป์ ระกอบของดนตรีสากล ไดแ้ ก่ เสยี ง จังหวะดนตรี ทานองเพลง เสยี งประสาน พื้นผิวของดนตรี สีสัน ของเสยี ง และรปู แบบหรือคีตลักษณ์ สมรรถนะ ความสามารถในการสอ่ื สาร (สามารถสรปุ และนาเสนอผลงานของตนเอง) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ความซอ่ื สัตยแ์ ละความรับผดิ ชอบ กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. สรา้ งแรงขบั เคลอื่ น (Motion Force) 1.1 ครูสนทนาซักถามนักเรียนเกี่ยวกับดนตรีสากลว่าในชีวิตประจาวันของนักเรียนสามารถฟังได้จากท่ี ใดบ้าง เช่น ท่ีโรงเรียน บ้าน วัด หรือชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่ เป็นต้น โดยให้นักเรียนช่วยกันบอกมาคนละ 1 สถานท่ี 1.2 เปดิ เพลงไทยสากลใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ให้นักเรียนสงั เกตวา่ เพลงท่ไี ด้ฟังมอี งคป์ ระกอบอะไรบ้าง 1.3 ใหน้ ักเรียนตอบคาถามของครูจากเพลงที่นักเรียนได้ฟัง เช่น เสียงท่ีนักเรียนได้ยินมีเสียงเคร่ืองดนตรี ประเภทใดบา้ ง มีการดาเนินจังหวะในรูปแบบใด เปน็ ตน้ โดยครสู ุ่มนักเรียนให้ลุกขึ้นตอบแสดงความคิดของตนเอง ท่ีมีตอ่ บทเพลงท่ีไดฟ้ ัง 1.4 ครูคอยแนะนาวา่ สง่ิ ทน่ี กั เรยี นควรจะตอบหรอื แสดงความคดิ เห็นนั้นอยใู่ นประเดน็ หรือไม่

(การตั้งคาถามเป็นการสร้างแรงขับเคลื่อนความคิด ให้นักเรียนวิเคราะห์บทเพลงท่ีนักเรียนได้ฟังว่ามี องคป์ ระกอบอะไรบา้ งท่ปี ระกอบกันขึน้ มาจนกลายเปน็ เพลงให้นักเรียนได้ฟัง เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในการ ฟังเพลงมากขึ้น เป็นการสร้างเหตุผลในการเลือกรับฟังบทเพลงท่ีมีมากมายในปัจจุบัน อีกท้ังยังเป็นการสร้าง ภูมิคุ้มกนั ที่ดีในการเลอื กรบั เอาแนวคิดดๆี ในบทเพลงทมี่ คี ุณค่าในด้านเนื้อหาของบทเพลง) 2. ไขกุญแจการเรยี นรู้ (Unlock Knowledge) 2.1 ครูนาเสนอเน้ือหาเร่ือง องค์ประกอบของดนตรี โดยอธิบายเก่ียวกับ เสียง จังหวะ ทานอง เสียง ประสาน พ้ืนผิวของดนตรี สีสันของเสียง และรูปแบบหรือคีตลักษณ์ ให้นักเรียนทราบในเน้ือหาเกี่ยวกับ ความหมายและลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์ประกอบดนตรี ให้นักเรียนค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมในหนังสือ แบบเรยี น 2.2 นอกจากความรู้ท่ีได้รับจากครูและหนังสือแล้วครูให้นักเรียนใช้การค้นหาโดยอินเตอร์เน็ต โดย กาหนดว่าหากนักเรียนคนใดสามารถหาเนื้อหาขององค์ประกอบดนตรีสากลได้แตกต่าง หรือมีเน้ือหาเพิ่มเติมจาก หนงั สอื และใครหาคาตอบไดก้ อ่ นครูจะเพิ่มคะแนนให้ 2.3 ครูใช้คาถามนาให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นร่วมกันร่วมกันว่า องค์ประกอบของดนตรีสากลข้อใด สาคัญท่สี ุด (การสืบค้นความรู้นอกเหนอื จากบทเรยี นทคี่ รูได้นาเสนอ เปน็ การสร้างองคค์ วามรู้ด้วยตัวนกั เรียนเอง และ เป็นการแสงหาความร้ดู ้วยเทคนิคและวธิ กี ารที่นักเรียนมีความถนัดทั้งสื่อท่ีเป็นเทคโนโลยีและส่ือที่เป็นหนังสือจาก ห้องสมุด และนักเรียนสามารถใช้สื่อท่ีเหมาะสมกับ ฝึกให้นักเรียนมีรอบรู้ ระมัดระวังในการค้นหาข้อมูล อีกทั้งยัง เปน็ การสง่ เสริมคณุ ธรรมดา้ นความซอ่ื สัตย์กบั ตนเองในการสบื ค้นข้อมลู ) 3. ลงมือทา (Start to do) 3.1 หลังจากท่ีนักเรียนได้ทาการศึกษาค้นคว้าโดยการใช้อินเตอร์เน็ตครูให้นักเรียนสรุปความหมาย และ ให้บอกถงึ บทบาทหนา้ ทีค่ วามสาคญั ขององค์ประกอบของดนตรีสากลแตล่ ะข้อ 3.2 แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มนักเรียนหญิงและนักเรียนชาย ผลัดกันออกมาเขียน ความหมายและความสาคัญขององค์ประกอบของดนตรสี ากลบนกระดาน 3.3 สรา้ งความสนุกในการเรยี นโดยการโยนเหรียญโดยกาหนดกติการกบั นกั เรียนว่าถ้าออกหัวให้นักเรียน หญงิ ออกมานาเสนอ และถ้าออกก้อยจะให้นักเรียนชายออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน ให้อีกฝ่ังคอยต้ังคาถามเพ่ือน ที่ออกไปนาเสนอหน้าช้นั เรยี น 3.4 เมือ่ ครบแล้วครูให้นกั เรียนร่วมกันตรวจสอบวา่ ส่ิงท่ีเพ่ือนไดเ้ สนอบนกระดานนน้ั ขอ้ ใดถูกต้องบ้างแล้ว ชว่ ยกันนบั คะแนน (ครูใช้เง่ือนไขความรู้ คือ รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ในการให้นักเรียนวิเคราะห์บทเพลงที่ได้ฟัง การจด บนั ทึกสาระสาคญั ทนี่ กั เรยี นพบในบทเพลง และมีสติในการจดบนั ทึกและจดจา คาแนะนาท่ีดีจากครูนับว่าเป็นการ สร้างภูมิคมุ้ กันอันนาไปสู่การตอบขอ้ สงสยั ของนักเรียนในวยั ที่กาลังมีพัฒนาการด้านต่างๆทาให้ผู้เรียนรู้ขอบเขตใน การถามคาถาม และระมัดระวงั ในเรื่องกติกามากข้นึ )

4. รวบรวมองค์ความรู้ (Include) 4.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ท่ีได้รับในการเรียนเร่ือง องค์ประกอบของดนตรีสากล ดังน้ี องค์ประกอบของดนตรีเป็นสิ่งสาคัญท่ีทาให้เกิดเป็นรูปแบบดนตรีต่างๆ และจะทาให้สามารถบรรยายและเข้าใจ อารมณข์ องบทเพลงไดง้ ่ายข้นึ และเกิดความซาบซ้ึงในบทเพลงไดม้ ากขน้ึ (การเรียนเรื่ององค์ประกอบของดนตรีต้องเรียนรู้ให้เกิดความรู้ท่ีอยู่ภายใต้เงื่อนไขด้านความรู้ควบคู่ กับ คุณธรรมเพือ่ ให้เกดิ การเรียนร้ทู ย่ี ั่งยนื ) 5. การติดตอ่ สือ่ สารในรูปแบบการนาเสนอ (Contact) 5.1 นักเรียนสามารถนาความรทู้ ีไ่ ดร้ ับไปใชใ้ นการบรรยายบทเพลงท่นี ักเรียนรับรู้ไดใ้ นชีวิตประจาวนั (การนาความรู้ท่ีได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันเพื่อให้นักเรียนรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของกระแสบท เพลงท่ีนับวันจะไม่ได้คานึงถึงเน้ือหาและความเหมาะสมกับช่วงวัย การสอดแทรกในเรื่องการมีเหตุผลในการ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืนแล ะยอมรับในกติการมารยาทท่ีถือเป็นข้ อตกล งของแต่ละกลุ่มถือเป็นการ แสดงออกถึงความมีคุณธรรมด้านความซ่ือสัตย์สุจริตอีกทั้งยังเป็นการสอนให้นักเรียนรู้จัก การแบ่งปันความรู้ที่ ตนเองมอี ย่)ู สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลง่ การเรียนรู้ 1. ใบงานเรอื่ งองคป์ ระกอบของดนตรี 2. หนงั สือแบบเรียน 3. เพลงไทยสากล 4. Smart phone การวัดและการประเมินผล 1. วิธกี าร 1.1 สงั เกต พฤตกิ รรมการเรียน พฤตกิ รรมกลุ่ม 1.2 ตรวจผลงาน ตรวจชิ้นงาน ตรวจผลงานการนาเสนอ 2. เครอ่ื งมือวัดผลและประเมนิ ผล 2.1 แบบประเมินพฤตกิ รรมด้านความรบั ผดิ ชอบและการนาเสนอผลงาน 2.2 ใบงาน 2.3 แบบบันทกึ คะแนนจากชน้ิ งานของนักเรียน เกณฑก์ ารวดั ผลและประเมนิ ผล รายการประเมิน เกณฑ์การประเมิน ความรู้ ทาใบงาน ตอบถูก 1 คะแนน ตอบผิด 0 คะแนน เขา้ ใจและบรรยายองค์ประกอบของ ดนตรีสากล

รายการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคญั 3 คะแนน เขียนนาเสนอขอ้ มูลได้ถกู ต้องทง้ั หมดมีรายละเอยี ดท่สี มบูรณ์ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ส่ื อ ส า ร 2 คะแนน เขยี นนาเสนอข้อมูลไดไ้ มถ่ กู ตอ้ งทั้งหมด รายละเอียดไมส่ มบรู ณ์ (สามารถสรุปและนาเสนอผลงาน 1 คะแนน เขียนไม่ถกู ต้องนาเสนอข้อมูลไมช่ ัดเจน รายละเอียดไม่สมบูรณ์ ของตนเอง) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3 คะแนน ทาชนิ้ งานครบทุกขอ้ และร่วมปฏบิ ัติงานกลุ่มจนเสรจ็ ความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบและ 2 คะแนน ทาชน้ิ งานครบทุกขอ้ แตร่ ่วมปฏิบัติงานกลุ่มเพยี งเล็กนอ้ ย ทางานเป็นกลมุ่ 1 คะแนน ทาช้ินงานไมค่ รบทกุ ขอ้ และร่วมปฏบิ ตั งิ านกลุ่มเพียงเลก็ นอ้ ย การใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครูผ้สู อนใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ประเดน็ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล มภี มู คิ ุ้มกันตัวท่ีดี เนอ้ื หา จัดเตรียมเนื้อหาเรื่อง ผู้เรียนรับรู้เนื้อหาได้ตรง นาความรู้ท่ีได้มาปรับใช้กับ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ด น ต รี ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด การเลือกรับฟังเพลง ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ตั ว ชี้ วั ด และเกิดความสนุกสนาน ความยาก-ง่ายของเน้ือหา ในวธิ ีการนาเสนอ ถูกนาเสนอให้เหมาะสม กับผเู้ รียน เวลา จั ด เ ว ล า ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ เผ่ือเวลาในการนาเสนอ เพียงพอกับกิจกรรมการ ตามเวลาท่ีไดว้ างแผนไว้ เนื้อหาและปฏิบัติกิจกรรม เรยี นรู้ เพ่ือป้องกันปัญหาการล่าช้า ในการจดบันทึก และการเกิด เหตกุ ารณต์ ่างๆ ทาให้ใช้เวลา ได้เพยี งพอกบั คาบเรยี น การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ กาหนดกิจกรรมเหมาะสม กับพ้ืนฐานของผู้เรียนและ เวลาเรียน บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ ผลการวดั (เชิงปริมาณ) บันทกึ รายละเอียดคุณภาพ 1. รแู้ ละเขา้ ใจเกยี่ วกับองคป์ ระกอบ นักเรียนทั้งหมด..................คน ...................................................... ...................................................... ของดนตรี (K) จานวนนักเรียนทีผ่ า่ น.................คน ...................................................... ...................................................... คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ...................................................... จานวนนกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ น.............คน ...................................................... คดิ เปน็ ร้อยละ.................. 2. บรรยายความเก่ียวข้องของ นักเรยี นทัง้ หมด..................คน

จุดประสงค์การเรยี นรู้ ผลการวัด (เชิงปริมาณ) บนั ทึกรายละเอียดคณุ ภาพ องคป์ ระกอบของดนตรี (P) จานวนนักเรียนที่ผา่ น.................คน ...................................................... คิดเป็นรอ้ ยละ................... ...................................................... จานวนนกั เรยี นที่ไมผ่ ่าน.............คน ...................................................... คิดเปน็ รอ้ ยละ.................. ...................................................... 3. ปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับผู้อ่ืนด้วย นักเรียนท้งั หมด..................คน ...................................................... ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบ จานวนนกั เรยี นทผ่ี ่าน.................คน ...................................................... (A) คิดเป็นรอ้ ยละ................... ...................................................... จานวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ น.............คน ...................................................... คดิ เป็นร้อยละ.................. ...................................................... อปุ สรรคและแนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............... ลงชอ่ื ............................................ครูผ้สู อน (นายณัฐภมู ิ ศรนี ุกูล) วันที.่ ..........เดอื น.....................................พ.ศ. .............. ลงชือ่ ............................................หวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ (นางจริยา วัชโรบล) วนั ท.ี่ ..........เดอื น.....................................พ.ศ. .............. ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................... ................................. .................................................................................................. .................................................................................. ลงชือ่ ............................................ผู้อานวนการโรงรียนวดั เขยี นเขต (นายจเร ทองลกั ษณศ์ ิร)ิ วันท.ี่ ..........เดือน.....................................พ.ศ. ..............

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 องคป์ ระกอบดนตรี เวลา 3 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 ศัพทส์ ังคตี เวลา 1 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถา่ ยทอดความร้สู กึ ความคดิ ต่อดนตรีอยา่ งอสิ ระ ช่ืนชมและประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน ตัวชวี้ ัด ป.6/1 บรรยายเพลงท่ฟี งั โดยอาศัยองค์ประกอบของดนตรีและศัพทส์ ังคีต จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. จาแนกการใชศ้ พั ทส์ งั คีตได้ 2. บรรยายเพลงที่ฟงั โดยอาศยั ศัพทส์ งั คีตทางดนตรไี ด้ 3. เห็นความสาคัญของการเรยี นรู้เรือ่ ง ศัพท์สงั คีต 4. ปฏิบัติกจิ กรรมรว่ มกับผู้อื่นดว้ ยความรับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ศพั ท์ทบ่ี ัญญัติไว้ใช้เฉพาะในวงการดนตรีและการขับร้อง ประกอบด้วยศัพท์สังคีตทางดนตรีไทยและศัพท์ สังคีตทางดนตรีสากล ซึ่งศัพท์สังคีตเหล่าน้ีสามารถทาให้ทราบถึงความต้องการถ่ายทอดอารมณ์เพลงของ ผปู้ ระพนั ธแ์ ละศลิ ปนิ สาระสาคัญ ความหมายของศัพทส์ ังคตี และการใชศ้ ัพทส์ ังคตี สมรรถนะ ความสามารถในการคดิ (มคี วามสามารถในการคิดอย่างเปน็ ระบบ) คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. สร้างแรงขบั เคล่ือน (Motion Force) 1.1 ครูเขียนศัพท์สังคีตต่างๆไว้บนกระดาน พร้อมทั้งสนทนากับนักเรียนว่านักเรียนรู้จักศัพท์คาไหนบ้าง แล้วครเู ลน่ กตี ารพ์ ร้อมถามนักเรียนว่าเพลงที่จบไปน้นั มีการใชศ้ ัพทส์ ังคตี ใดบ้าง 1.2 ครสู งั เกตการณ์ร่วมกิจกรรมของนักเรียนว่ามีความสนใจมากน้อยเพียงใด หากพบว่ามีนักเรียนคนใด ไม่ต้ังใจในการร่วมกิจกรรม ครจู ะให้นักเรียนคนดงั กลา่ วออกมาร่วมแสดงดนตรีกับครูเพื่อเป็นการเพ่ิมสีสันและการ มีสว่ นร่วมในการเรียนมากข้นึ 1.3 ครูต้ังคาถามโดยมีการจูงใจในการตอบคือเมื่อมีการตอบถูกหรือแสดงความคิดเห็นครูจะมีคะแนน พเิ ศษเพิ่มให้

(การตั้งคาถามเปน็ การสร้างแรงขับเคลื่อนความคิด ให้นักเรียนวิเคราะห์บทเพลงท่ีนักเรียนได้ฟังว่ามี ศัพท์สังคีตใดบ้างที่ประกอบกันข้ึนมาจนกลายเป็นเพลงให้นักเรียนได้ฟัง เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในการฟัง เพลงมากขึ้น เป็นการสร้างเหตุผลในการเลอื กรับฟงั บทเพลงท่มี ีมากมายในปัจจบุ ัน อีกท้ังยงั เป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ทดี่ ใี นการเลือกรับเอาแนวคดิ ดีๆในบทเพลงที่มคี ุณคา่ ในด้านเนื้อหาของบทเพลง) 2. ไขกญุ แจการเรียนรู้ (Unlock Knowledge) 2.1 ครูนาเสนอเนื้อหาเรื่อง ศัพท์สังคีพ ที่มีทั้งศัพท์สังคีตทางดนตรีไทยและดนตรีสากลให้นักเรียนทราบ ในเนอื้ หาเกีย่ วกบั ความหมายและลกั ษณะการนาไปใช้ 2.2 นักเรียนค้นคว้าข้อมูลเร่ืองศัพท์สังคีตในหนังสือเรียน และหากนักเรียนคนใดมีสมาร์ทโฟนท่ีเชื่อมต่อ กบั อนิ เตอรเ์ นต็ ได้ ครูกจ็ ะอนญุ าตให้นกั เรียนนาข้นึ มาเพอื่ สืบค้นข้อมูลเพม่ิ เติม (การสืบค้นความรู้นอกเหนือจากบทเรียนที่ครูได้นาเสนอ เป็นการสร้างองค์ความรู้ด้วยตัวนักเรียนเอง และเป็นการแสงหาความรู้ด้วยเทคนคิ และวธิ ีการที่นกั เรียนมีความถนัดทั้งสื่อท่ีเป็นเทคโนโลยีและส่ือท่ีเป็นหนังสือ จากห้องสมุด และนักเรียนสามารถใช้สอ่ื ทเ่ี หมาะสมกบั ฝกึ ให้นักเรียนมรี อบรู้ ระมัดระวังในการค้นหาข้อมูล อีกทั้ง ยังเปน็ การส่งเสริมคุณธรรมดา้ นความซ่อื สตั ย์กับตนเองในการสบื คน้ ข้อมลู ) 3. ลงมือทา (Start to do) 3.1 ในระหว่างที่ครูนาเสนอเนื้อหาให้นักเรียนบันทึกข้อความสาคัญลงในสมุดโดยแบ่งหน้ากระดาษ ออกเป็นสองฝัง่ 3.2 การค้นควา้ เพิม่ เติมของนักเรียน นักเรยี นจะตอ้ งมีการจดบันทึกลงในสมุดดว้ ยเพื่อเป็นการเพิม่ เติม 3.3 เมอ่ื นกั เรยี นบนั ทึกเสรจ็ เรียบรอ้ ยครใู ห้นักเรียนจาแนกความเหมือนและความต่างของศัพท์สังคีตของ ดนตรไี ทยและดนตรสี ากล 3.4 นักเรยี นทาแบบทดสอบเก็บคะแนนเรือ่ ง ศพั ท์สงั คีต (ครูใช้เงื่อนไขความรู้ คือ รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ในการให้นักเรียนวิเคราะห์บทเพลงที่ได้ฟัง การจด บนั ทึกสาระสาคัญที่นกั เรียนพบในบทเพลง และมสี ติในการจดบนั ทึกและจดจา คาแนะนาท่ีดีจากครูนับว่าเป็นการ สร้างภมู คิ มุ้ กนั อนั นาไปสูก่ ารตอบข้อสงสยั ของนักเรียนในวัยท่ีกาลังมีพัฒนาการด้านต่างๆทาให้ผู้เรียนรู้ขอบเขตใน การถามคาถาม และระมดั ระวังในเรอ่ื งกติกามากขน้ึ ) 4. รวบรวมองค์ความรู้ (Include) 4.1 ใหน้ กั เรียนเขียนรายละเอยี ดขอ้ มลู ทน่ี กั เรียนสามารถคน้ ควา้ ไดเ้ พมิ่ เติมในลกั ษณะแผนภาพความคิด 4.2 ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปองคค์ วามร้ทู ไ่ี ดร้ บั ในการเรยี นเร่ือง ศพั ท์สังคีต (การเรยี นเรื่องศพั ท์สงั คตี ตอ้ งเรียนรู้ให้เกิดความรู้ท่ีอยู่ภายใต้เง่ือนไขด้านความรู้ควบคู่กับคุณธรรมเพ่ือให้ เกดิ การเรียนรทู้ ย่ี งั่ ยนื ) 5. การติดต่อสอ่ื สารในรปู แบบการนาเสนอ (Contact) 5.1 ให้นักเรียนท่ีค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมได้นอกเหนือจากในหนังสือเรียนออกมานาเสนอแผนภาพ ความคดิ ท่ีตนเองสรปุ ไดห้ นา้ ชนั้ เรียน 5.2 นักเรยี นสามารถนาความรู้ทีไ่ ด้รบั ไปใชใ้ นการบรรยายบทเพลงที่นกั เรยี นรบั รไู้ ดใ้ นชีวติ ประจาวนั (การนาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันเพื่อให้นักเรียนรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของกระแสบท เพลงท่ีนับวันจะไม่ได้คานึงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมกับช่วงวัย การสอดแทรกในเรื่องการมีเหตุผลในการ

ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและยอมรับในกติการมารยาทท่ีถือเป็นข้อตกลงของแต่ละกลุ่มถือเป็นการ แสดงออกถึงความมีคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์สุจริตอีกท้ังยังเป็นการสอนให้นักเรียนรู้จัก การแบ่งปันความรู้ที่ ตนเองมอี ย)ู่ สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แผนภมู ิศพั ท์สงั คตี 2. กีตารโ์ ปร่ง 3. บทเพลงไทย 4. ชิ้นงาน 5. เวป็ ไซดด์ นตรไี ทย และดนตรสี ากล 6. สมาร์ทโฟน 7. หนงั สอื เรยี น การวดั ผลและประเมนิ ผล 1. วธิ กี าร 1.1 สังเกต พฤตกิ รรมการเรียน ความกระตอื รือร้นในการค้นคว้าข้อมลู และการจดบนั ทึก 1.2 ตรวจผลงาน 1.2.1 ตรวจชน้ิ งาน 1.2.2 ตรวจแบบทดสอบ 1.2.3 ตรวจผลการนาเสนอของนกั เรยี น 2. เครือ่ งมือวัดผลและประเมนิ ผล 2.1 แบบประเมนิ พฤติกรรมความรบั ผิดชอบและการนาเสนองาน 2.2 แบบทดสอบเก็บคะแนน เรื่อง ศัพท์สังคตี 2.3 แบบบันทกึ คะแนนจากช้ินงานของนกั เรียน เกณฑ์การวัดผลและประเมนิ ผล รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน ความรู้ ทาแบบทดสอบเกบ็ คะแนนถูกตอ้ ง ตอบถกู 1 คะแนน ตอบผดิ 0 คะแนน ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ศั พ ท์ สังคีต และการใช้ศัพท์ สงั คตี สมรรถนะสาคัญ 3 คะแนน เขียนนาเสนอข้อมูลซึ่งแสดงลาดับความคิดได้อย่างเป็นระบบและถูกต้องทั้งหมดมี ความสามารถในการคิด รายละเอยี ดทส่ี มบรู ณ์ (มคี วามสามารถในการคิด 2 คะแนน เขยี นนาเสนอขอ้ มลู ซ่ึงแสดงลาดบั ความคดิ ไดไ้ ม่ถูกต้องทั้งหมด รายละเอียดไม่สมบรู ณ์ อยา่ งเป็นระบบ) 1 คะแนน เขียนนาเสนอข้อมูลที่ไม่สามารถแสดงลาดับความคิดได้และเนื้อหาไม่ถูกต้องนาเสนอ ข้อมูลไม่ชัดเจน

รายการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ ง 3 คะแนน ทาชิ้นงานครบทุกขอ้ ปฏิบัติกจิ กรรมดว้ ยความรบั ผดิ ชอบใฝ่เรยี นรู้ ประสงค์ 2 คะแนน ทาช้นิ งานครบทกุ ข้อ ปฏิบัติกจิ กรรมดว้ ยความรบั ผิดชอบแต่ขาดการใฝ่เรียนรู้ ความรับผิดชอบในการ 1 คะแนน ทาช้ินงานไม่ครบทกุ ขอ้ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมดว้ ยความรบั ผิดชอบแต่ขาดการใฝ่เรียนรู้ ทางานและการใฝ่เรยี นรู้ การใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ครูผสู้ อนใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ประเด็น ความพอประมาณ ความมเี หตุผล มีภูมิคุม้ กนั ตัวทด่ี ี เนอ้ื หา จัดเตรียมเน้ือหาเรื่อง ผู้เรียนรับรู้เน้ือหาได้ตรง นาความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับ อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ด น ต รี ตามมาตรฐานและตัวช้ีวัด การเลอื กรบั ฟงั เพลง ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ตั ว ชี้ วั ด และเกิดความสนุกสนาน ความยาก-ง่ายของเนื้อหา ในวธิ ีการนาเสนอ ถูกนาเสนอให้เหมาะสม กบั ผเู้ รยี น เวลา จั ด เ ว ล า ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม จัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ เผื่อเวลาในการนาเสนอ เพียงพอกับกิจกรรมการ ตามเวลาที่ได้วางแผนไว้ เนื้อหาและปฏิบัติกิจกรรม เรียนรู้ เพื่อป้องกันปัญหาการล่าช้า ในการจดบันทึก และการเกิด เหตกุ ารณต์ ่างๆ ทาให้ใช้เวลา ได้เพยี งพอกับคาบเรยี น การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ กาหนดกิจกรรมเหมาะสม กับพื้นฐานของผู้เรียนและ เวลาเรียน บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ผลการวดั (เชิงปริมาณ) บนั ทกึ รายละเอยี ดคณุ ภาพ 4. ร้แู ละเข้าใจเกี่ยวกับศัพท์สังคีต นักเรียนท้ังหมด..................คน ...................................................... (K) จานวนนกั เรียนที่ผ่าน.................คน ...................................................... คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ...................................................... จานวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ ่าน.............คน ...................................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ...................................................... 5. บรรยายความเกี่ยวข้องของ นักเรยี นทงั้ หมด..................คน ...................................................... ศัพทส์ งั คตี (P) จานวนนักเรยี นที่ผ่าน.................คน ...................................................... คดิ เป็นร้อยละ................... ...................................................... จานวนนักเรยี นที่ไม่ผา่ น.............คน ...................................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ.................. ......................................................

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ผลการวดั (เชิงปริมาณ) บันทึกรายละเอียดคุณภาพ 6. ป ฏิ บั ติ กิ จ ก ร ร ม ด้ ว ย ค ว า ม นักเรียนทง้ั หมด..................คน ...................................................... รบั ผดิ ชอบและใฝ่เรียนรู้(A) จานวนนักเรยี นท่ผี ่าน.................คน ...................................................... คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ...................................................... จานวนนกั เรียนท่ไี ม่ผา่ น.............คน ...................................................... คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................. ...................................................... อปุ สรรคและแนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............... ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน (นายณัฐภูมิ ศรีนกุ ูล) วันที่...........เดอื น.....................................พ.ศ. .............. ลงชือ่ ............................................หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ (นางจรยิ า วชั โรบล) วนั ท.่ี ..........เดือน.....................................พ.ศ. .............. ความเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................... ................................. .................................................................................................. .................................................................................. ลงชื่อ............................................ผู้อานวนการโรงรยี นวดั เขียนเขต (นายจเร ทองลักษณศ์ ิร)ิ วนั ที.่ ..........เดือน.....................................พ.ศ. ..............


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook