หลักเกณฑ์และวิธกี าร ให้ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา กรงุ เทพมหานคร มีหรือเล่ือนวทิ ยฐานะ ทุกสายงาน ทุกตําแหนง่ ทุกวิทยฐานะ กรุงเทพมหานคร
คาํ นํา กรุงเทพมหานครได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากร กรงุ เทพมหานคร พ.ศ. 2554 เมื่อวันท่ี 23 พฤษภาคม พ.ศ.2554 ทําให้มีการเปลี่ยนแปลงในข้อกฎหมาย ที่เก่ียวข้องกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครในบางส่วน เช่น การกําหนด ตําแหน่ง มาตรฐานตําแหน่ง เป็นต้น ประกอบกับสํานักงาน ก.ค.ศ. ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ และวิธกี ารเกย่ี วกับการให้มวี ิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และ อ.ก.ก.วิสามัญเกี่ยวกับการศึกษา ได้ให้ความเห็นในการพิจารณาใน การประชุมคร้ังท่ี 4/2556 เม่ือวันท่ี 4 เมษายน 2556 วา่ การนําหลกั เกณฑ์ตามหนังสอื สาํ นักงาน ก.ค.ศ. มาใชโ้ ดยอนโุ ลม รวมถึงหลกั เกณฑ์ท่ี กรุงเทพมหานครกําหนดเองบางหลักเกณฑ์ ในปัจจุบันอาจไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและการบริหาร จดั การของกรงุ เทพมหานคร จึงควรนําหลักเกณฑด์ ังกล่าวมาพจิ ารณาทบทวนและปรบั ปรุงให้เหมาะสม ก.ก. ในการประชุมคร้งั ที่ 8/2557 เม่อื วนั ท่ี 4 กรกฎาคม 2557 อนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ขึ้นใหม่ ทั้งนี้ เพ่ือ ประโยชน์ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร สาํ นกั การศึกษารว่ มกันสาํ นกั งาน ก.ก. จึงดําเนินการจัดทําหนังสือหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรุงเทพมหานครมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ทุกสายงาน ทุกตําแหน่ง ทุกวิทยฐานะ เพ่ือแจกจ่ายให้ข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และผู้ที่เก่ียวข้องไว้ศึกษาและเป็นแนวทางในการ ดําเนินการ คณะผู้จัดทําหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษากรุงเทพมหานครมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ทุกสายงาน ทุกตําแหน่ง ทุกวิทยฐานะ เป็น ประโยชน์อย่างยิ่งท่ีจะเป็นคู่มือในการศึกษาค้นคว้า และพัฒนาบุคลากรของกรุงเทพมหานครให้มี ศักยภาพยิ่งขึ้นต่อไป คณะผจู้ ดั ทาํ กันยายน 2557
สารบญั หนา้ ๒ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารใหข้ ้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษากรงุ เทพมหานคร มีหรือเลื่อนวทิ ยฐานะ (ตามมติ ก.ก. คร้ังที่ 8/2557 เมือ่ วนั ท่ี 4 กรกฎาคม 2557) ๘ แบบฟอรม์ ต่าง ๆ ๙ ๑๒ - แบบคาํ รอ้ งขอรบั การประเมนิ (วก. 1) ๑๖ - แบบประเมินวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี (วก. 2) 2๐ - แบบประเมินคณุ ภาพการปฏบิ ัติงาน (วก. 3) (3/1) ๒๒ ๒๔ สายงานการบริหารสถานศกึ ษาและสายงานการนิเทศการศกึ ษา ๒๖ - แบบประเมนิ คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิงาน (วก. 3) (3/2) ๒๗ ๒๘ สายงานการสอน ๒๙ - แบบรายงานผลงานท่ีเกิดจากปฏบิ ัติหนา้ ที่ (วก. 4) 3๐ สายงานการบรหิ ารสถานศึกษา - แบบรายงานผลงานที่เกิดจากปฏบิ ัติหน้าท่ี (วก. 5) 3๑ สายงานการนเิ ทศการศกึ ษา - แบบรายงานผลงานที่เกดิ จากปฏิบตั ิหน้าท่ี (วก. 6) ๓๒ สายงานการสอน - แบบรายงานผลการประเมินวทิ ยฐานะชาํ นาญการ (ทกุ ตาํ แหนง่ ) (วก. 7) (7/1) สาํ หรับกรรมการประเมนิ - แบบรายงานผลการประเมนิ ด้านท่ี 1 และด้านที่ 2 (วก.7) (7/2) สําหรับกรรมการประเมิน (ทกุ ตาํ แหน่ง ทกุ วทิ ยฐานะยกเวน้ วทิ ยฐานะชาํ นาญการ) - แบบรายงานสรุปผลการประเมินของคณะกรรมการ (วก. 8) (8/1) วทิ ยฐานะชาํ นาญการ (ทกุ ตําแหน่ง) สําหรบั รายงาน อ.ก.ก.สามญั ข้าราชการครูฯ - แบบรายงานสรปุ ผลการประเมนิ ของคณะกรรมการ (วก. 8) (8/2) ดา้ นท่ี 1 และด้านท่ี 2 (ทุกตาํ แหนง่ ทุกวิทยฐานะยกเว้นวิทยฐานะชํานาญการ) สาํ หรับรายงาน อ.ก.ก.สามัญข้าราชการครูฯ - แบบรายงานสรปุ ผลการประเมนิ (วก. 9) (ทกุ ตําแหนง่ ทกุ วทิ ยฐานะยกเวน้ วทิ ยฐานะชาํ นาญการ) สาํ หรบั สํานกั การศกึ ษาเสนอสํานกั งาน ก.ก. - แบบสรปุ ผลการประเมนิ ด้านผลการปฏบิ ตั งิ าน (วก. 10) (10/1) ทกุ วิทยฐานะยกเว้นวิทยฐานะชาํ นาญการ (สําหรับคณะกรรมการประเมนิ ) สายงานการสอนและสายงานการบริหารสถานศกึ ษา - แบบสรปุ ผลการประเมินดา้ นผลการปฏบิ ตั ิงาน (วก. 10) (10/2) ทุกวิทยฐานะยกเว้นวิทยฐานะชํานาญการ (สําหรบั คณะกรรมการประเมิน) สายงานการนเิ ทศการศกึ ษา
สารบญั (ต่อ) หนา้ 3๔ ภาคผนวก 3๗ - คมู่ ือการประเมินผลงานท่ีเกดิ จากการปฏบิ ัตหิ น้าที่ สายงานการบรหิ ารสถานศกึ ษา 3๙ - คมู่ ือการประเมินผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี สายงานการนเิ ทศการศกึ ษา ๔๑ - คู่มอื การประเมนิ ผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี สายงานการสอน ๔๖ - ค่มู อื การประเมินผลงานทางวชิ าการ - มาตรฐานกาํ หนดตําแหน่ง มาตรฐานตําแหนง่ และมาตรฐานวิทยฐานะ ของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษากรงุ เทพมหานคร (ก.ก. กาํ หนดวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554)
2
3
4
5
6
แบบฟอร์มตา่ ง ๆ
แบบคํารอ้ งขอรบั การประเมิน วก. 1 เพอ่ื ขอมหี รอื เล่ือนวทิ ยฐานะ ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร สายงาน วทิ ยฐานะ -------------------------. 1. ข้อมูลปัจจบุ นั ของผขู้ อรบั การประเมนิ ชื่อ – สกุล อายุ ปี อายุราชการ ปี คุณวุฒสิ ูงสุด วิชาเอก . ตาํ แหน่ง ตาํ แหน่งเลขท่ี สถานศกึ ษา . สังกดั รับเงนิ เดือนอันดบั คศ. ขน้ั บาท 2. การรบั ราชการ 2.1 เรม่ิ รบั ราชการในตาํ แหน่ง เมอื่ วนั ที่ เดือน พ.ศ. . รับราชการในตาํ แหนง่ และสถานศึกษาปจั จุบัน เม่อื วนั ที่ เดอื น พ.ศ. . 2.2 ไดร้ ับการแตง่ ต้งั ใหด้ ํารงตําแหนง่ ปจั จุบัน เม่อื วนั ท่ี เดือน พ.ศ. . ไดร้ ับการแต่งตั้งใหม้ ีวทิ ยฐานะปจั จบุ ัน เมอ่ื วันที่ เดอื น พ.ศ. . 2.3 เคยขอมหี รือเลอ่ื นเปน็ วิทยฐานะเดยี วกนั น้ี ครัง้ สุดท้าย เม่อื วนั ที่ เดือน พ.ศ. . 2.4 ขา้ พเจา้ มภี าระงาน ดังนี้ . . ขอรบั รองวา่ ขอ้ มูลท้งั หมดถูกต้อง เป็นความจริง ขา้ พเจ้าทราบหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ ขอมีหรือเล่ือน วทิ ยฐานะของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรงุ เทพมหานครแล้ว และข้าพเจา้ มคี ณุ สมบตั ติ ามหลักเกณฑ์ ดงั กล่าว (ลงชอ่ื ) เดือน ผขู้ อรับการประเมนิ ( ) . ตาํ แหน่ง พ.ศ. . วันท่ี การตรวจสอบและรบั รองของผบู้ ังคบั บญั ชาชน้ั ตน้ ไดต้ รวจสอบแล้วรับรองว่าข้อมลู ถกู ต้อง เป็นความจริง และผู้ขอรับการประเมนิ มคี ณุ สมบตั คิ รบถว้ น (ลงชอื่ ) เดอื น ) ( พ.ศ. ตาํ แหนง่ วนั ที่ การตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องสํานักการศกึ ษา / สาํ นกั พฒั นาสงั คม ไดต้ รวจสอบแลว้
มคี ณุ สมบตั ิตามที่ ก.ก. กําหนด
ขาดคุณสมบัติ (ระบุ)............................................................................................................... (ลงชอ่ื ) ผู้ตรวจสอบคุณสมบตั ิ (ลงชื่อ) () (.......................................................) ผู้อาํ นวยการสํานกั การศกึ ษา/สํานักพัฒนาสงั คม ตําแหนง่ ........................................... (หรือผู้ไดร้ บั มอบหมาย) 8 วันท่.ี .........เดือน.....................พ.ศ. ........... วนั ที่ เดอื น พ.ศ.
วก. 2 แบบประเมินวนิ ยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี เพือ่ ขอมหี รือเลอ่ื นวทิ ยฐานะ ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร --------------------------- ข้อมูลปัจจบุ นั ของผู้ขอรบั การประเมนิ ชอ่ื – สกุล ตําแหน่งปจั จุบนั ครู รองผู้อาํ นวยการสถานศึกษา ศกึ ษานิเทศก์ ผอู้ าํ นวยการสถานศึกษา วิทยฐานะท่ีขอรับการประเมิน ชํานาญการ (เฉพาะสายงานการสอน) ชาํ นาญการพเิ ศษ เช่ยี วชาญ เชย่ี วชาญพิเศษ ชื่อสถานศึกษา สาํ นกั งานเขต กอง/ส่วนราชการ สํานัก คาํ ชแ้ี จง1. แบบประเมนิ นี้ใช้เปน็ เครอ่ื งมอื สาํ หรบั กรรมการรวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื การประเมนิ ให้ขา้ ราชการครแู ละ บุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครให้มหี รอื เลอ่ื นวิทยฐานะ แบบประเมนิ มี 5 ตอน แตล่ ะตอนเปน็ ขอ้ ความ เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ขอรบั การประเมิน ประกอบการประเมินคา่ 4 ระดับ ในการประเมินขอให้กรรมการพิจารณาวา่ แต่ละข้อความทีก่ ลา่ วเก่ียวกบั พฤติกรรมของผู้ขอรับการประเมินตรงกบั ความเปน็ จริงเพยี งใด แลว้ เขียนเครื่องหมาย 9 ลงในช่องของระดบั การปฏิบตั ิ 2. เกณฑม์ าตรประเมินคา่ กําหนดความหมายคะแนน ดังน้ี 4 = มกี ารปฏบิ ัติมากท่ีสุด หมายถึง ความประพฤตแิ ละการปฏบิ ัตงิ านในตาํ แหนง่ หนา้ ทใ่ี น เร่อื งนนั้ ๆ อยา่ งสมาํ่ เสมอ เป็นทีย่ อมรับ และเป็นแบบอยา่ งที่ดี ไดม้ ากทีส่ ดุ หรอื ต้งั แต่รอ้ ยละ 90 ขน้ึ ไป 3 = มีการปฏิบัตมิ าก หมายถงึ ความประพฤติและการปฏิบตั งิ านในตาํ แหนง่ หน้าทใี่ น เรื่องน้นั ๆ อยา่ งสมํา่ เสมอ เปน็ ทยี่ อมรับ และเปน็ แบบอย่างท่ดี ี ได้มาก หรอื ตัง้ แต่รอ้ ยละ 80 - 89 2 = มกี ารปฏบิ ตั ิปานกลาง หมายถึง ความประพฤตแิ ละการปฏบิ ัตงิ านในตําแหน่งหน้าทีใ่ น เร่ืองน้นั ๆ อยา่ งสม่ําเสมอ เปน็ ทยี่ อมรับ พอสมควร หรอื ตัง้ แต่ รอ้ ยละ 70 - 79 1 = มกี ารปฏิบัตคิ ่อนข้างนอ้ ย หมายถึง ความประพฤติและการปฏิบัติงานในตําแหนง่ หนา้ ท่ใี น เรือ่ งนนั้ ๆ เปน็ บางคร้งั บางคราว หรอื ตงั้ แตร่ อ้ ยละ 60- 69 9
-2- รายการประเมนิ ระดบั การปฏบิ ตั ิ ตอนที่ 1 พฤตกิ รรมการรกั ษาวนิ ยั 4321 1. ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีราชการด้วยความซ่ือสัตย์ สจุ ริต เสมอภาคและเทีย่ งธรรม รักษาประโยชนข์ องราชการอยา่ งเคร่งครัด 2. ปฏบิ ตั ิหนา้ ทีร่ าชการตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผน และนโยบายของ กรงุ เทพมหานคร และถอื ประโยชนส์ ขุ ของผ้เู รยี น 3. ปฏิบัติตามคาํ สง่ั ผบู้ งั คับบญั ชาโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทาง ราชการอยา่ งไมข่ ดั ขนื หรือหลกี เลี่ยง 4. ปฏิบัตหิ นา้ ทีต่ รงต่อเวลา อทุ ิศเวลาของตนให้ราชการและผ้เู รยี น ไม่ละทงิ้ หรอื ทอดทิง้ หน้าทร่ี าชการ 5. รักษาช่ือเสียงของตน และรกั ษาเกียรติศักด์ขิ องตําแหน่งหน้าท่รี าชการ ของตน มใิ หเ้ สอื่ มเสีย ตอนท่ี 2 ประพฤตติ น ปฏบิ ตั งิ านเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี 1. หลีกเลีย่ งจากอบายมขุ ท้งั ปวง และปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม ใหแ้ กผ่ เู้ รยี น 2. ครองตนได้เหมาะสม ตามหลกั ศาสนาทีน่ บั ถือ 3. ครองคนได้ดี ตามหลกั ศาสนาทนี่ ับถอื 4. ครองงานได้ดีมาก ตามหลักศาสนาทน่ี บั ถอื 5. มีความกตัญญกู ตเวที รูจ้ ักบุญคุณและตอบแทนบญุ คณุ คนอนื่ หรอื สงิ่ อนื่ ทมี่ บี ุญคณุ ตอนที่ 3 ดาํ รงชีวติ อยา่ งเหมาะสม 1. การดํารงชวี ิต ยดึ ม่ันตามหลักเศรษฐกจิ พอเพียง 2. มกี ารพัฒนาตนเองในด้านความรู้ การทํางาน จติ ใจ และบคุ ลิกภาพ 3. ใหก้ ารยอมรับนับถือผูอ้ น่ื อํานวยความสะดวกผู้อน่ื และใหค้ วามรว่ มมือ ในการทาํ งานและสว่ นตัว 4. รกั ษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรยี บร้อย ทงั้ สว่ นตัว การงานและ สถานท่อี ย่างสมา่ํ เสมอ 5. ปฏบิ ัติตนเป็นท่รี กั นบั ถือของเพ่อื นรว่ มงาน ปรับตวั ให้อยู่ในสงั คมไดด้ ี เป็นคนพดู ดี ทาํ ดี ไม่มหี น้ีสนิ รุงรงั เกนิ ฐานะ รคู้ ณุ ค่าของเวลา และใช้เวลา เป็นประโยชน์ 10
-3- รายการประเมนิ ระดบั การปฏบิ ตั ิ ตอนท่ี 4 ความรักและศรทั ธาในวิชาชพี 4321 1. มีอุดมการณ์ความเป็นครู ทํางานเพือ่ ผู้เรียนอย่างแท้จริง 2. มีจติ วิญญาณความเป็นครู และพึงพอใจในวิชาชพี ทางการศึกษา 3. ยกย่องให้เกียรตเิ พอื่ นรว่ มวชิ าชพี และรว่ มมอื กบั ผ้อู ื่นในสถานศึกษาอย่าง สรา้ งสรรค์ 4. ตั้งใจ ทมุ่ เท ชีวิตจิตใจ ให้กับงานการศึกษา 5. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมทางวชิ าการเกย่ี วกับการพัฒนาวิชาชีพอยูเ่ สมอ ตอนที่ 5 ความรบั ผดิ ชอบในวิชาชพี 1. มงุ่ มัน่ ตัง้ ใจท่จี ะปฏบิ ัติหน้าที่ดว้ ยความผกู พัน พากเพียร ละเอียดรอบคอบ ยอมรบั ผลการกระทาํ ในการปฏิบตั หิ น้าท่ี 2. มีความพยายามอยา่ งเขม้ แขง็ เพ่อื ให้เกดิ ความสําเร็จในการงาน บากบั่น พยายามอดทน ขยนั ไมท่ ้อถอยในการทาํ หนา้ ท่ี 3. มคี วามรกั และเมตตาศษิ ย์ ตั้งใจจริงในการอบรมส่งั สอนและส่งเสริมทักษะ และนิสยั ทด่ี ีงาม 4. ชว่ ยเหลอื เกื้อกูลผเู้ รียน เพ่อื นครู สถานศึกษา และชมุ ชน 5. พัฒนาตนเองเพ่อื พัฒนาวชิ าชีพ และพฒั นางานใหม้ คี ุณภาพอย่างต่อเน่ือง ผลการประเมนิ คะแนนเตม็ 100 คะแนน คะแนนที่ได้ คะแนน ลงช่อื ผูป้ ระเมิน ( ) พ.ศ. . วันที่ เดอื น 11
วก. 3 (3/1) แบบประเมินคณุ ภาพการปฏบิ ตั ิงาน เพือ่ ขอมหี รือเลอื่ นวทิ ยฐานะ ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษากรุงเทพมหานคร สายงานการบริหารสถานศกึ ษาและสายงานการนเิ ทศการศกึ ษา --------------------------- ข้อมูลปัจจบุ นั ของผ้ขู อรบั การประเมนิ ชื่อ – สกลุ ตําแหน่งปจั จบุ ัน รองผอู้ าํ นวยการสถานศึกษา ผอู้ าํ นวยการสถานศึกษา ศึกษานเิ ทศก์ วิทยฐานะ วทิ ยฐานะทข่ี อรบั การประเมิน ผู้อาํ นวยการชาํ นาญการพิเศษ รองผ้อู ํานวยการชํานาญการพิเศษ ศกึ ษานเิ ทศก์ชํานาญการพิเศษ ผอู้ ํานวยการเชี่ยวชาญ รองผ้อู ํานวยการเช่ยี วชาญ ศึกษานเิ ทศก์เช่ยี วชาญ ผ้อู าํ นวยการเชี่ยวชาญพิเศษ ศึกษานเิ ทศก์เช่ียวชาญพิเศษ ชื่อสถานศึกษา สาํ นักงานเขต กอง/สว่ นราชการ สาํ นกั คาํ ชแี้ จง1. กรรมการผู้ประเมิน ต้องตรวจสอบข้อมูล/สารสนเทศ/หลักฐานทแ่ี สดงถงึ ร่องรอยความมีคณุ ภาพ ผนวก กบั การสงั เกต หรือสอบถามขอ้ มูลจากผู้บงั คบั บญั ชา เพ่อื นร่วมงาน หรอื ผู้รับบรกิ าร กอ่ นตัดสินใหค้ ะแนนคุณภาพใน แตล่ ะรายการ 2. เกณฑม์ าตรประเมินค่ากาํ หนดความหมายคะแนน ดงั น้ี 5 = ดที ี่สดุ หมายถงึ ปรากฏคณุ ลกั ษณะเด่นชดั ย่ิง มีลกั ษณะหลากหลาย หรอื สะทอ้ น คณุ ภาพในระดบั เป็นทีย่ อมรบั อยา่ งกวา้ งขวาง บรรลผุ ลสมั ฤทธิ์เกือบทกุ ครัง้ หรือร้อยละ 90 ขน้ึ ไปของเปา้ หมาย งานมคี วามตอ่ เน่ืองในเชงิ คุณภาพ และเป็นแบบอยา่ งท่ีดีได้ โดยปรากฏรอ่ งรอยคุณภาพจากแหลง่ ต่าง ๆ อยา่ งชดั เจนที่สุด 4 = ดีมาก หมายถึง ปรากฏคณุ ลักษณะเด่นชดั ย่ิง มลี กั ษณะหลากหลาย หรือสะทอ้ น คุณภาพในระดบั เปน็ ทย่ี อมรบั อย่างกว้างขวาง บรรลผุ ลสมั ฤทธิ์ ตงั้ แตร่ ้อยละ 80-89 ของเปา้ หมาย งานมีความต่อเนอื่ งในเชงิ คุณภาพ และเปน็ แบบอย่างได้ โดยปรากฏรอ่ งรอยคุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ อย่างชดั เจนมาก 3 = ดี หมายถงึ ปรากฏคณุ ลกั ษณะเด่นชดั มลี ักษณะคอ่ นขา้ งหลากหลาย หรือ สะท้อนคณุ ภาพในระดับเปน็ ทย่ี อมรับเป็นสว่ นใหญ่ บรรลผุ ลสมั ฤทธิ์ รอ้ ยละ 70-79 ของเปา้ หมาย งานมีความต่อเนื่องในเชงิ คณุ ภาพ คอ่ นขา้ งมาก โดยปรากฏร่องรอยคณุ ภาพจากแหล่งต่าง ๆ สอดคล้องกัน อย่างชดั เจน 12
-2- 2 = พอใช้ หมายถึง ปรากฏคณุ ลักษณะเดน่ ชดั พอสมควร มลี ักษณะค่อนขา้ ง หลากหลายสะท้อนคณุ ภาพในระดับเป็นทย่ี อมรบั ปานกลาง หรือบรรลุ ผลสมั ฤทธิ์ รอ้ ยละ 60-69 ของเปา้ หมาย โดยปรากฏรอ่ งรอยคุณภาพ บ้างพอสมควร 1 = ควรปรบั ปรงุ หมายถึง ไมค่ อ่ ยปรากฏคณุ ลักษณะ หรอื ปรากฏพฤติกรรมบง่ ช้ีไม่ชัดเจน หรือเกิดข้ึนน้อย หรือบรรลุผลสมั ฤทธ์ิ ตา่ํ กว่าร้อยละ 60 ของเปา้ หมาย ที่กาํ หนด 3. การตดั สนิ ให้คะแนนในแตล่ ะรายการประเมนิ ใหท้ าํ เคร่ืองหมาย 9 แสดงระดับมาตรประเมนิ คา่ ตามคาํ ตดั สินของกรรมการแต่ละท่าน 4. การประเมนิ คณุ ภาพการปฏบิ ัตงิ าน ให้ยึดหลกั สมรรถนะหลักและสมรรถนะประจาํ สายงานดงั นี้ ข้อ 1 การมุง่ ผลสมั ฤทธิ์ : ความม่งุ มน่ั ในการปฏบิ ัติงานในหน้าทใี่ ห้มคี ณุ ภาพ ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน สมบรู ณ์ มีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละมีการพัฒนาผลงานใหม้ ีคุณภาพอย่างต่อเนือ่ ง ข้อ 2 การบรกิ ารทด่ี ี : ความตัง้ ใจในการปรบั ปรุงระบบบรกิ ารใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ เพอื่ ตอบสนอง ความต้องการของผ้รู ับบรกิ าร ขอ้ 3 การพฒั นาตนเอง : การศกึ ษา คน้ คว้า หาความรู้ ติดตามองคค์ วามรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในวงวชิ าการและวชิ าชพี เพ่ือพฒั นาตนเองและพัฒนางาน ขอ้ 4 การทาํ งานเปน็ ทีม : การใหค้ วามร่วมมือ ช่วยเหลอื สนับสนนุ เสริมแรง ใหก้ ําลงั ใจแกเ่ พื่อน ร่วมงาน การปรับตัวเข้ากับบุคคลอื่น หรือแสดงบทบาทผู้นํา ผู้ตามไดอ้ ย่างเหมาะสม ข้อ 5 การวเิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์ : ความสามารถในการทาํ ความเขา้ ใจส่งิ ตา่ ง ๆ แล้วแยก ประเดน็ เป็นสว่ นยอ่ ย ตามหลกั การหรือกฎเกณฑ์ที่กําหนด สามารถรวบรวมส่ิงต่าง ๆ จัดทาํ อย่างเป็นระบบ เพ่ือแก้ปญั หาหรอื พัฒนางาน รวมทง้ั สามารถวเิ คราะหอ์ งค์กรหรืองานในภาพรวมและดาํ เนนิ การแกป้ ญั หาอยา่ งเป็นระบบ ขอ้ 6 การสือ่ สารและจงู ใจ : ความสามารถในการพูด เขยี น ส่ือสาร โตต้ อบ ในโอกาสและ สถานการณต์ า่ ง ๆ ตลอดจนสามารถชักจงู โนม้ นา้ วให้ผ้อู ืน่ เหน็ ด้วย ยอมรับ คลอ้ ยตามเพื่อบรรลุจดุ ม่งุ หมายของ การสื่อสาร ขอ้ 7 การพฒั นาศักยภาพบคุ ลากร : ความสามารถในการใหค้ ําปรกึ ษา แนะนาํ และชว่ ย แก้ปญั หาให้แกเ่ พ่ือนร่วมงานและผู้เก่ียวขอ้ ง มสี ่วนร่วมในการพฒั นาบคุ ลากร ปฏิบัตติ นเปน็ แบบอยา่ ง รวมท้ังส่งเสริม สนบั สนนุ และให้โอกาสผู้ร่วมงานได้พฒั นาในรปู แบบตา่ ง ๆ ขอ้ 8 การมีวสิ ยั ทศั น์ : ความสามารถในการกาํ หนดวิสยั ทศั น์ ทศิ ทาง หรือแนวทางการพัฒนา องค์กรท่ีเปน็ รปู ธรรม เป็นทยี่ อมรบั และเปน็ ไปได้ในทางปฏบิ ตั ิ การยอมรบั แนวคดิ /วธิ ีการใหม่ ๆ เพอื่ การพัฒนางาน 13
-3- บนั ทกึ การประเมินคณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ าน ระดบั การประเมนิ 54321 รายการประเมนิ ขอ้ 1 การมุ่งผลสัมฤทธิ์ 1.1 คณุ ภาพงานด้านความถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ 1.2 ความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ การนํานวตั กรรม/ทางเลือกใหม่ ๆ มาใชเ้ พือ่ เพิ่ม ประสทิ ธิภาพของงาน 1.3 ความมงุ่ มั่นในการพัฒนาผลงานอย่างต่อเน่ือง ขอ้ 2 การบรกิ ารทด่ี ี 2.1 การปรับปรุงระบบบริการ 2.2 ความพึงพอใจของผรู้ ับบรกิ ารหรอื ผ้เู กีย่ วขอ้ ง ข้อ 3 การพฒั นาตนเอง 3.1 การศึกษาค้นคว้าหาความรูด้ ้วยการเขา้ ประชุมทางวิชาการ อบรม สัมมนา หรอื วิธีการอ่นื ๆ 3.2 การรวบรวมและประมวลความรู้ในการพัฒนาองค์กรและวิชาชีพ ข้อ 4 การทํางานเปน็ ทมี 4.1 การใหค้ วามรว่ มมอื ช่วยเหลือสนับสนุนเพ่ือนร่วมงาน 4.2 การแสดงบทบาทผนู้ ําหรอื ผู้ตามได้อย่างเหมาะสม 4.3 การปรบั ตวั เข้ากบั สถานการณแ์ ละกลมุ่ คนที่หลากหลาย ขอ้ 5 การวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะห์ 5.1 การวิเคราะห์สภาพปจั จบุ นั ปญั หาความตอ้ งการของงานและเสนอทางเลือก หรอื แนวทาง ปอ้ งกัน แกไ้ ขปัญหางานในความรับผิดชอบ 5.2 ความเหมาะสมของแผนงาน/โครงการในความรบั ผดิ ชอบ ขอ้ 6 การสอ่ื สารและจูงใจ 6.1 ความสามารถในการพูดและเขียนในโอกาสต่าง ๆ 6.2 ความสามารถในการส่ือสารผา่ นส่อื เทคโนโลยี 6.3 ความสามารถในการจงู ใจ โนม้ น้าวให้ผอู้ ื่นเห็นดว้ ย ยอมรบั คล้อยตาม เพื่อบรรลจุ ุดมงุ่ หมายของการสอ่ื สาร ขอ้ 7 การพฒั นาศกั ยภาพบคุ ลากร 7.1 การให้คําปรกึ ษา แนะนาํ และช่วยแก้ปัญหาแก่เพ่ือนร่วมงานและผ้เู กยี่ วข้อง 7.2 การมสี ่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากร ข้อ 8 การมวี ิสัยทศั น์ 8.1 การใช้กระบวนการมสี ่วนร่วมในการกําหนดวิสยั ทศั นห์ รือทิศทางการพฒั นาองคก์ ร 8.2 ความทันสมัยและสร้างสรรคข์ องวสิ ยั ทัศน์หรือทศิ ทางการพัฒนางานและ ความสอดคลอ้ งกบั นโยบายขององค์กรทส่ี ังกดั 8.3 ความเปน็ รูปธรรมความเปน็ ไปไดห้ รือโอกาสความสาํ เรจ็ ตามวสิ ยั ทัศน์ ผลการประเมนิ คะแนนเตม็ 100 คะแนน คะแนนท่ไี ด้ คะแนน 14
-4- บนั ทกึ ข้อสังเกตเก่ียวกบั จดุ เดน่ จดุ ทคี่ วรพฒั นา และขอ้ คดิ เหน็ 1. จดุ เด่น ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... 2. จดุ ทคี่ วรพฒั นา ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ คดิ เหน็ ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ผู้ประเมิน ( ) พ.ศ. . วันท่ี เดอื น 15
วก. 3 (3/2) แบบประเมินคณุ ภาพการปฏบิ ตั ิงาน เพ่ือขอมหี รือเลื่อนวทิ ยฐานะ ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร สายงานการสอน --------------------------- ข้อมูลผขู้ อรบั การประเมิน ช่อื – สกุล ตาํ แหน่ง ครู วทิ ยฐานะ วทิ ยฐานะทีข่ อรบั การประเมนิ ครูชาํ นาญการ ครูชาํ นาญการพิเศษ ครูเชย่ี วชาญ ครเู ชยี่ วชาญพิเศษ ชื่อสถานศึกษา สํานกั งานเขต กอง/สว่ นราชการ สํานกั คาํ ชแี้ จง1. กรรมการผปู้ ระเมิน ต้องตรวจสอบขอ้ มลู /สารสนเทศ/หลกั ฐานทแี่ สดงถึงร่องรอยความมคี ณุ ภาพ ผนวก กบั การสงั เกต หรือสอบถามขอ้ มลู จากผู้บังคบั บญั ชา เพ่ือนรว่ มงาน หรอื ผูร้ บั บริการ กอ่ นตัดสินให้คะแนนคณุ ภาพใน แต่ละรายการ 2. เกณฑม์ าตรประเมินค่ากําหนดความหมายคะแนน ดังน้ี 5 = ดที ี่สุด หมายถึง ปรากฏคุณลกั ษณะเดน่ ชัดย่ิง มลี กั ษณะหลากหลาย หรอื สะทอ้ น คณุ ภาพในระดบั เปน็ ทีย่ อมรบั อยา่ งกวา้ งขวาง บรรลผุ ลสมั ฤทธเิ์ กอื บทุกครั้ง หรอื รอ้ ยละ 90 ขึ้นไปของเปา้ หมาย งานมีความตอ่ เนือ่ งในเชิงคุณภาพ และเปน็ แบบอย่างทีด่ ีได้ โดยปรากฏร่องรอยคณุ ภาพจากแหลง่ ตา่ ง ๆ อยา่ งชัดเจนที่สุด 4 = ดีมาก หมายถงึ ปรากฏคุณลกั ษณะเดน่ ชัดย่ิง มลี กั ษณะหลากหลาย หรือสะทอ้ น คณุ ภาพในระดบั เป็นท่ยี อมรบั อย่างกวา้ งขวาง บรรลผุ ลสมั ฤทธิ์ ตง้ั แตร่ ้อยละ 80-89 ของเปา้ หมาย งานมคี วามต่อเน่ืองในเชิงคุณภาพ และเปน็ แบบอยา่ งได้ โดยปรากฏร่องรอยคุณภาพจากแหลง่ ต่าง ๆ อยา่ งชดั เจนมาก 3 = ดี หมายถงึ ปรากฏคุณลกั ษณะเดน่ ชดั มลี ักษณะคอ่ นขา้ งหลากหลาย หรอื สะทอ้ นคณุ ภาพในระดบั เปน็ ทยี่ อมรับเปน็ สว่ นใหญ่ บรรลผุ ลสมั ฤทธ์ิ รอ้ ยละ 70-79 ของเปา้ หมาย งานมคี วามต่อเน่ืองในเชิงคุณภาพ ค่อนข้างมาก โดยปรากฏรอ่ งรอยคณุ ภาพจากแหล่งตา่ ง ๆ สอดคลอ้ งกนั อย่างชดั เจน 2 = พอใช้ หมายถงึ ปรากฏคุณลักษณะเด่นชดั พอสมควร มีลักษณะค่อนข้าง หลากหลายสะทอ้ นคุณภาพในระดับเป็นทยี่ อมรับปานกลาง หรอื บรรลุ ผลสมั ฤทธ์ิ รอ้ ยละ 60-69 ของเป้าหมาย โดยปรากฏรอ่ งรอยคณุ ภาพ บ้างพอสมควร 1 = ควรปรับปรงุ หมายถึง ไมค่ ่อยปรากฏคุณลกั ษณะ หรือปรากฏพฤตกิ รรมบ่งชไี้ ม่ชดั เจน หรือเกิดขึน้ น้อย หรือบรรลผุ ลสมั ฤทธ์ิ ตาํ่ กวา่ ร้อยละ 60 ของเปา้ หมาย ทก่ี าํ หนด 16
-2- 3. การตดั สนิ ให้คะแนนในแต่ละรายการประเมิน ใหท้ าํ เครอื่ งหมาย 9 แสดงระดับมาตรประเมนิ คา่ ตามคาํ ตัดสนิ ของกรรมการแต่ละท่าน 4. การประเมนิ คณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ าน ให้ยึดหลักสมรรถนะหลักและสมรรถนะประจาํ สายงานดังน้ี ขอ้ 1 การมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ : ความมุ่งม่นั ในการปฏบิ ัตงิ านในหน้าทใี่ หม้ คี ณุ ภาพ ถกู ตอ้ ง ครบถว้ น สมบูรณ์ มคี วามคิดริเริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละมีการพัฒนาผลงานใหม้ คี ุณภาพอย่างต่อเน่ือง ข้อ 2 การบรกิ ารทด่ี ี : ความต้งั ใจในการปรับปรุงระบบบริการใหม้ ีประสิทธภิ าพ เพอ่ื ตอบสนอง ความต้องการของผู้รบั บริการ ข้อ 3 การพฒั นาตนเอง : การศึกษา คน้ คว้า หาความรู้ ตดิ ตามองคค์ วามร้แู ละเทคโนโลยใี หม่ ๆ ในวงวชิ าการและวชิ าชพี เพ่อื พฒั นาตนเองและพฒั นางาน ข้อ 4 การทาํ งานเปน็ ทีม : การใหค้ วามรว่ มมือ ช่วยเหลอื สนบั สนุน เสรมิ แรง ใหก้ าํ ลงั ใจแกเ่ พอ่ื น รว่ มงาน การปรบั ตวั เข้ากบั บุคคลอนื่ หรือแสดงบทบาทผู้นํา ผูต้ ามไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ขอ้ 5 การวเิ คราะห์และสงั เคราะห์ : ความสามารถในการทําความเขา้ ใจสิง่ ตา่ ง ๆ แลว้ แยก ประเดน็ เปน็ สว่ นยอ่ ยตามหลกั การหรอื กฎเกณฑ์ทก่ี ําหนด สามารถรวบรวมส่ิงตา่ ง ๆ จดั ทําอยา่ งเป็นระบบ เพ่อื แกป้ ญั หาหรอื พัฒนางาน รวมท้ังสามารถวเิ คราะห์องค์กรหรอื งานในภาพรวมและดาํ เนนิ การแก้ปัญหาอย่างเป็น ระบบ ข้อ 6 การออกแบบการเรยี นรู้ : ความรู้ ความเขา้ ใจเร่ืองการออกแบบการเรียนรู้ ความสามารถใน การออกแบบการเรยี นรู้ การนําผลการออกแบบการเรยี นรไู้ ปใช้ในการจดั การเรยี นรู้ ขอ้ 7 การพฒั นาผ้เู รยี น : การปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรมให้แกผ่ เู้ รียน การพัฒนาทักษะ ชีวิต สขุ ภาพกาย และสุขภาพจิตของผ้เู รียน การปลกู ฝังการเปน็ ประชาธิปไตยและความภูมใิ จในความเป็นไทยให้กับผู้เรยี น การจดั ระบบดูแลช่วยเหลอื ผู้เรยี น ขอ้ 8 การบรหิ ารจดั การชั้นเรียน : การจดั บรรยากาศ การจดั การเรียนการสอน การจัดทําข้อมลู สารสนเทศและเอกสารประจําชน้ั เรยี น/ประจาํ วชิ า การกํากับ ดูแลชั้นเรยี น/ประจาํ วชิ า 17
-3- บนั ทกึ การประเมนิ คณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ าน ระดบั การประเมนิ 54321 รายการประเมิน ขอ้ 1 การมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ 1.1 คุณภาพงานด้านความถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์ 1.2 ความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ การนาํ นวัตกรรม/ทางเลอื กใหม่ ๆ มาใชเ้ พ่อื เพมิ่ ประสิทธภิ าพของงาน 1.3 ความมุง่ มน่ั ในการพฒั นาผลงานอยา่ งต่อเน่ือง ขอ้ 2 การบรกิ ารทด่ี ี 2.1 การปรบั ปรงุ ระบบบรกิ าร 2.2 ความพึงพอใจของผรู้ บั บรกิ ารหรือผเู้ กี่ยวขอ้ ง ขอ้ 3 การพฒั นาตนเอง 3.1 การศึกษาค้นควา้ หาความรดู้ ้วยการเขา้ ประชุมทางวชิ าการ อบรม สัมมนา หรือวิธกี ารอ่นื ๆ 3.2 การรวบรวมและประมวลความรู้ในการพัฒนาองค์กรและวิชาชีพ ขอ้ 4 การทํางานเปน็ ทมี 4.1 การให้ความร่วมมอื ช่วยเหลอื สนบั สนุนเพือ่ นรว่ มงาน 4.2 การแสดงบทบาทผู้นาํ หรือผู้ตามได้อย่างเหมาะสม 4.3 การปรับตวั เข้ากบั สถานการณ์และกลมุ่ คนทหี่ ลากหลาย ข้อ 5 การวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะห์ 5.1 การวเิ คราะหส์ ภาพปจั จบุ นั ปัญหาความต้องการของงานและเสนอทางเลอื ก หรือแนวทาง ปอ้ งกัน แก้ไขปัญหางานในความรับผิดชอบ 5.2 ความเหมาะสมของแผนงาน/โครงการในความรบั ผดิ ชอบ ข้อ 6 การออกแบบการเรยี นรู้ 6.1 ความรู้ ความเข้าใจเรือ่ งการออกแบบการเรียนรู้ 6.2 ความสามารถในการออกแบบการเรยี นรู้ ข้อ 7 การพฒั นาผูเ้ รยี น 7.1 การปลกู ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใหแ้ ก่ผเู้ รยี น 7.2 การพัฒนาทกั ษะชวี ติ สขุ ภาพกาย และสขุ ภาพจิตของผเู้ รียน 7.3 การปลกู ฝงั การเป็นประชาธิปไตยและความภูมใิ จในความเปน็ ไทยใหก้ บั ผู้เรียน ขอ้ 8 การบรหิ ารจดั การช้นั เรยี น 8.1 การจัดบรรยากาศ การจัดการเรยี นการสอน 8.2 การจดั ทาํ ขอ้ มูลสารสนเทศและเอกสารประจําชน้ั เรยี น/ประจาํ วิชา 8.3 การกํากับ ดูแล ชน้ั เรียนประจําวิชา ผลการประเมนิ คะแนนเต็ม 100 คะแนน คะแนนที่ได้ คะแนน 18
-4- บนั ทกึ ข้อสงั เกตเกี่ยวกบั จดุ เดน่ จดุ ทคี่ วรพฒั นา และขอ้ คดิ เหน็ 1. จดุ เด่น ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... 2. จดุ ทคี่ วรพฒั นา ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... 3. ขอ้ คดิ เหน็ ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ผู้ประเมนิ ( ) พ.ศ. . วันที่ เดอื น 19
วก. 4 แบบรายงานผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ เพ่อื ขอมหี รอื เล่ือนวทิ ยฐานะ ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษากรงุ เทพมหานคร สายงานการบริหารสถานศกึ ษา ------------------------------ 1. ขอ้ มูลปจั จบุ นั ของผขู้ อรบั การประเมนิ อายุ ปี อายรุ าชการ ปี ช่ือ – สกลุ วชิ าเอก บาท คุณวุฒิสงู สดุ จากสถาบนั การศกึ ษา ตําแหน่งเลขที่ ขนั้ ตําแหน่ง สงั กดั สถานศกึ ษา รับเงนิ เดือนอันดบั คศ. วทิ ยฐานะ วทิ ยฐานะท่ขี อรบั การประเมนิ 2. การปฏบิ ตั งิ านในปปี จั จุบนั ขณะท่ีเสนอรายงานผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี (ระบรุ ายการทปี่ ฏบิ ตั จิ ริง) ภาระงานในความรบั ผดิ ชอบ 1) หนา้ ทคี่ วามรับผิดชอบ 2) หน้าท่ีที่ไดร้ ับมอบหมายเปน็ พเิ ศษ 3. การรายงานผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ยอ้ นหลงั 2 ปี ให้รายงานผลงานท่เี กิดจากการปฏิบัติหนา้ ทใ่ี นตาํ แหนง่ และสถานศึกษานนั้ ยอ้ นหลงั 2 ปี ตดิ ต่อกัน นับถงึ วันยื่นคาํ ร้อง จาํ นวน 4 ชุดโดยใหร้ ายงานการปฏบิ ัติงานจรงิ เปน็ รูปธรรมอยา่ งชดั เจน ตามประเด็นที่ กาํ หนดให้ วทิ ยฐานะชํานาญการพเิ ศษ ใหจ้ ดั พิมพ์ 20 – 30 หนา้ และภาคผนวกเอกสาร หรือ ภาพประกอบใหบ้ อกดว้ ยวา่ เปน็ ผลงานประกอบรายงานในข้อใด 10 – 20 หน้า วทิ ยฐานะเชย่ี วชาญ ใหจ้ ดั พิมพ์ 40 – 50 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรอื ภาพประกอบ ให้บอกด้วยว่าเป็นผลงานประกอบรายงานในขอ้ ใด 20 – 30 หน้า วทิ ยฐานะเช่ียวชาญพิเศษ ใหจ้ ดั พมิ พ์ 60 – 70 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรือ ภาพประกอบให้บอกด้วยวา่ เปน็ ผลงานประกอบรายงานในข้อใด 30 – 40 หนา้ 3.1 ผลงานตามหน้าท่ีความรับผิดชอบตามมาตรฐานตาํ แหนง่ (ให้รายงานผลงานตามลักษณะงานที่ ปฏิบตั ิ 10 รายการ โดยรายงานวา่ แต่ละรายการ ทาํ อย่างไร และผลเปน็ อย่างไร) 3.2 ผลงานด้านคุณภาพการปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐานวทิ ยฐานะ (ใหร้ ายงานผลงานตามคณุ ภาพการ ปฏบิ ตั งิ าน ทงั้ ด้านความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และทักษะ ทุกรายการ โดยรายงานว่ามคี วามรคู้ วาม เขา้ ใจอะไร มีความสามารถเร่อื งใด และมที กั ษะด้านใดบา้ ง และบอกผลงานท่ีเกิดขน้ึ ในแตล่ ะรายการ) 3.3 ผลงานตามโครงการทด่ี ําเนินงานในสถานศกึ ษาหรอื งานทเ่ี กี่ยวข้องจาํ นวน 5 โครงการที่สําคญั (ใหร้ ายงานว่ามีโครงการใด ทําอะไร ทาํ อย่างไร และผลทเี่ กดิ ขึ้นเป็นอย่างไร) 20
-2- 3.4 ผลงานทเี่ กิดกบั ผ้เู รียนด้านผลสัมฤทธ์ทิ างการศึกษา ข้อ 1 ให้รายงานผลท่เี กดิ กบั ผเู้ รียนดา้ นผลการเรยี น หรอื ด้านการเตรยี มความพรอ้ ม การอ่านออก เขียนได้ คดิ เลขเปน็ หรอื อา่ นคลอ่ ง เขยี นคลอ่ ง จับใจความได้ คิดเลขเป็นและสามารถคดิ วิเคราะห์ได้ เหมาะสมกบั ชัน้ เรียน คดิ เปน็ ร้อยละเทา่ ไรของจาํ นวนนกั เรียนทั้งหมดแยกเป็นรายชัน้ เรียน ข้อ 2 ให้รายงานผลสมั ฤทธิข์ องกลมุ่ สาระวิชา ทข่ี อรบั การประเมินผา่ นเกณฑท์ ่สี ถานศกึ ษา กําหนด คิดเป็นร้อยละเทา่ ไร 3.5 ผลงานทเี่ กิดกบั ผูเ้ รียนตามมาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นสังกดั กรงุ เทพมหานคร (ให้รายงาน ผลงานตามมาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นสงั กดั กรุงเทพมหานคร 10 รายการ โดยรายงานวา่ ผลท่ีเกิดข้นึ กบั ผู้เรียนแต่ละรายการว่าเป็นอยา่ งไร) 4. ผลงานวชิ าการทเ่ี สนอขอรบั การประเมนิ (ให้ระบชุ อื่ ผลงาน) ขอรับรองว่าข้อมลู ทง้ั หมดถกู ต้อง และเป็นความจรงิ (ลงชื่อ) เดือน ผ้ขู อรบั การประเมิน ( ) . ตําแหน่ง พ.ศ. . วันที่ การตรวจสอบและรบั รองของผบู้ งั คบั บญั ชาชัน้ ตน้ ได้ตรวจสอบแลว้ รบั รองวา่ การรายงานผลงานท่เี กดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ถูกต้องและเปน็ ความจรงิ (ลงชื่อ) เดอื น ) ( พ.ศ. ตําแหน่ง วันที่ * ข้อควรระวงั การรายงานเทจ็ เป็นความผดิ ทางวินยั * 21
วก. 5 แบบรายงานผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าที่ เพ่อื ขอมหี รอื เล่ือนวทิ ยฐานะ ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร สายงานการนเิ ทศการศกึ ษา --------------------------- 1. ขอ้ มูลปัจจุบนั ของผู้ขอรบั การประเมิน ช่อื – สกุล อายุ ปี อายุราชการ ปี คณุ วฒุ ิสงู สดุ วชิ าเอก จากสถาบนั การศกึ ษา ตําแหนง่ ตําแหน่งเลขท่ี สถานศึกษา สังกดั วทิ ยฐานะ รบั เงินเดือนอนั ดบั คศ. ขน้ั บาท วทิ ยฐานะท่ขี อรับการประเมิน 2. การปฏบิ ตั ิงานในปที ขี่ อรบั การประเมนิ (ระบรุ ายการทป่ี ฏบิ ตั จิ ริง) ภาระงานในความรบั ผดิ ชอบ 1) หนา้ ทคี่ วามรับผิดชอบ 2) หนา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ ับมอบหมายเปน็ พเิ ศษ 3. การรายงานผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ให้รายงานผลงานท่เี กดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีในตําแหนง่ และสถานท่ปี ฏิบตั ิงานย้อนหลงั 2 ปี ติดตอ่ กัน นับถึงวนั ย่นื คาํ ขอ จาํ นวน 4 ชุดโดยให้รายงานการปฏบิ ัติงานจรงิ เป็นรูปธรรมอยา่ งชัดเจน ตามประเดน็ ที่ กําหนดให้ วทิ ยฐานะชํานาญการพเิ ศษ ใหจ้ ัดพมิ พ์ 20 – 30 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรอื ภาพประกอบใหบ้ อกด้วยวา่ เปน็ ผลงานประกอบรายงานในข้อใด 10 – 20 หนา้ วทิ ยฐานะเช่ียวชาญ ใหจ้ ดั พมิ พ์ 40 – 50 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรือภาพประกอบให้ บอกด้วยว่าเป็นผลงานประกอบรายงานในข้อใด 20 – 30 หน้า วทิ ยฐานะเชยี่ วชาญพเิ ศษ ใหจ้ ัดพมิ พ์ 60 – 70 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรือ ภาพประกอบให้บอกดว้ ยวา่ เป็นผลงานประกอบรายงานในขอ้ ใด 30 – 40 หนา้ 3.1 ผลงานตามหนา้ ทค่ี วามรับผดิ ชอบตามมาตรฐานตําแหน่ง (ให้รายงานผลงานตามลักษณะงานท่ี ปฏิบัติ 10 รายการ โดยรายงานวา่ แตล่ ะรายการ ทําอยา่ งไร และผลเป็นอย่างไร) 3.2 ผลงานดา้ นคณุ ภาพการปฏบิ ัตงิ านตามมาตรฐานวิทยฐานะ (ใหร้ ายงานผลงานตามคุณภาพการ ปฏิบัตงิ าน ทง้ั ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถ และทกั ษะ ทกุ รายการ โดยรายงานว่ามคี วามร้คู วาม เข้าใจอะไร มคี วามสามารถเรอ่ื งใด และมที กั ษะด้านใดบ้าง และบอกผลงานทเ่ี กดิ ขึ้นในแต่ละรายการ) 3.3 ผลงานตามโครงการตามนโยบายของกรุงเทพมหานครท่ีดาํ เนินงานในสถานศึกษาหรืองานที่ เก่ยี วข้อง จาํ นวน 5 โครงการทส่ี าํ คญั (ใหร้ ายงานวา่ มโี ครงการใด มวี ตั ถุประสงค์อะไร กจิ กรรมทําอะไร ทําอย่างไร และผลทเ่ี กิดขนึ้ เป็นอยา่ งไร) 22
-2- 3.4 ผลงานการนเิ ทศ ติดตาม ประเมินผลการศกึ ษา และผลงานดา้ นวิชาการทเ่ี กิดประโยชนต์ ่อครู สถานศกึ ษา (ให้รายงานว่าได้ทําอะไร ทไ่ี หน ทาํ อย่างไร ผลทีเ่ กิดขึน้ เป็นอย่างไร) 3.5 ผลงานทเ่ี กดิ กบั ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ในสว่ นที่รบั ผดิ ชอบ (ใหร้ ายงานวา่ ได้ทาํ อะไร ทไี่ หน อย่างไร ผลที่เกิดกับข้าราชกรครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรงุ เทพมหานคร มอี ะไรบา้ ง) 4. ผลงานวชิ าการทเ่ี สนอขอรบั การประเมิน (ใหร้ ะบุช่ือผลงาน) ขอรับรองว่าข้อมูลท้ังหมดถกู ต้อง และเป็นความจริง (ลงช่อื ) เดอื น ผู้ขอรับการประเมนิ ( ) . ตําแหน่ง พ.ศ. . วันที่ การตรวจสอบและรบั รองของผบู้ ังคบั บญั ชาชน้ั ตน้ ได้ตรวจสอบแลว้ รับรองวา่ การรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัตหิ นา้ ท่ถี กู ต้องและเป็นความจรงิ (ลงชอ่ื ) เดอื น ) ( พ.ศ. ตาํ แหน่ง วนั ท่ี * ขอ้ ควรระวงั การรายงานเท็จเป็นความผดิ ทางวนิ ัย * 23
วก. 6 แบบรายงานผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ เพ่ือขอมหี รือเลือ่ นวทิ ยฐานะ ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร สายงานการสอน --------------------------- 1. ขอ้ มลู ปัจจบุ นั ของผขู้ อรบั การประเมนิ ชอ่ื – สกุล อายุ ปี อายุราชการ ปี คุณวุฒิสงู สุด วิชาเอก จากสถาบันการศกึ ษา ตาํ แหนง่ ตาํ แหน่งเลขที่ สถานศกึ ษา สงั กัด วทิ ยฐานะ รับเงนิ เดอื นอันดับ คศ. ข้นั บาท วทิ ยฐานะทขี่ อรับการประเมนิ 2. การปฏบิ ตั ิงานในปที ข่ี อรบั การประเมิน ระบุภาระงานในความรับผิดชอบปัจจุบันท่ปี ฏบิ ัติจริง 3. การรายงานผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ให้รายงานผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบตั หิ นา้ ท่ียอ้ นหลงั 2 ปี ตดิ ตอ่ กัน นับถงึ วันย่ืนคําขอ จํานวน 4 ชดุ โดยให้รายงานการปฏบิ ัตงิ านจรงิ เป็นรูปธรรมอยา่ งชัดเจน ตามประเดน็ ท่ีกําหนดให้ วิทยฐานะชาํ นาญการ ให้จัดพมิ พ์ 5 – 10 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรือภาพประกอบให้ บอกด้วยวา่ เป็นผลงานประกอบรายงานในขอ้ ใด 1 – 5 หนา้ วิทยฐานะชํานาญการพิเศษ ให้จัดพมิ พ์ 20 – 30 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรอื ภาพประกอบให้บอกด้วยว่าเปน็ ผลงานประกอบรายงานในข้อใด 10 – 20 หนา้ วิทยฐานะเช่ียวชาญ ใหจ้ ัดพมิ พ์ 40 – 50 หนา้ และภาคผนวกเอกสารหรือภาพประกอบ ใหบ้ อกด้วยวา่ เป็นผลงานประกอบรายงานในขอ้ ใด 20 – 30 หน้า วิทยฐานะเชี่ยวชาญพเิ ศษ ให้จัดพมิ พ์ 60 – 70 หน้า และภาคผนวกเอกสารหรือ ภาพประกอบให้บอกดว้ ยว่าเปน็ ผลงานประกอบรายงานในข้อใด 30 – 40 หน้า 3.1 ผลงานตามหน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบตามมาตรฐานตําแหน่ง (ให้รายงานผลงานตามลักษณะงาน ทปี่ ฏบิ ัติ 10 รายการ โดยรายงานว่าแต่ละรายการ ทาํ อยา่ งไร และแสดงผลงานท่เี กิดขน้ึ ในแต่ละรายการ) 3.2 ผลงานด้านคณุ ภาพการปฏบิ ตั ิงานตามมาตรฐานวิทยฐานะ (ใหร้ ายงานผลงานตามคณุ ภาพ การปฏิบตั ิงาน ทงั้ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถ และทักษะ ทุกรายการ โดยรายงานวา่ มคี วามรู้ความ เข้าใจอะไร มคี วามสามารถเรอื่ งใด และมที กั ษะด้านใดบ้าง และบอกผลงานทเ่ี กดิ ข้นึ ในแตล่ ะรายการ) 3.3 ผลงานตามโครงการทด่ี ําเนินงานในสถานศกึ ษาที่ผู้รายงานรบั ผิดชอบ โดยเปน็ เจ้าของโครงการ หรือร่วมรับผิดชอบ จาํ นวน 5 โครงการทส่ี าํ คญั (ให้รายงานวา่ มโี ครงการใด มวี ัตถุประสงคอ์ ะไร กิจกรรมทํา อะไร ทําอย่างไร และผลทีเ่ กดิ ขึน้ เปน็ อย่างไร) 24
-2- 3.4 ผลงานทเี่ กดิ กับผู้เรียนตามมาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นสังกดั กรุงเทพมหานคร (ใหร้ ายงาน ผลงานตามมาตรฐานการศึกษาโรงเรียนสงั กดั กรุงเทพมหานคร 10 รายการ โดยรายงานวา่ ผลทเี่ กิดขนึ้ กับ ผูเ้ รียนท่ีสอนแตล่ ะรายการว่าเป็นอยา่ งไร) 3.5 ผลงานทเ่ี กิดกับผู้เรยี นด้านผลสมั ฤทธทิ์ างการศึกษา ข้อ 1 ใหร้ ายงานผลทเี่ กดิ กับผูเ้ รยี นด้านการเตรียมความพร้อม ด้านผลสัมฤทธ์ิการเรียน การอา่ นออก เขียนได้ คดิ เลขเปน็ หรืออ่านคลอ่ ง เขยี นคลอ่ ง จบั ใจความได้ คิดเลขเปน็ และสามารถคดิ วิเคราะหไ์ ดเ้ หมาะสมกับระดบั ชน้ั เรยี น คดิ เปน็ รอ้ ยละเท่าไรของจํานวนนักเรียนทส่ี อนทง้ั หมด ขอ้ 2 ให้รายงานผลสมั ฤทธขิ์ องกลมุ่ สาระวชิ า ใหร้ ายงานความพร้อมของนักเรียนชน้ั ก่อน ประถมศกึ ษาหรอื รายงานผลสัมฤทธิ์ของกลุม่ สาระวชิ า ของนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ์มาตรฐานทีส่ ถานศึกษา กําหนด คดิ เปน็ ร้อยละเท่าไรของนกั เรยี นทสี่ อนท้งั หมด หมายเหตุ * ใหส้ ถานศกึ ษาต้ังกรรมการในสถานศกึ ษาทีเ่ หน็ สมควร จํานวน 3 คน ตรวจประเมินสภาพจรงิ และความถกู ตอ้ ง ของการรายงานผลงานที่เกดิ จากการปฏิบัติหนา้ ที่ ทีผ่ ู้ขอรบั การประเมนิ เสนอ 4. ผลงานวชิ าการทเ่ี สนอขอรบั การประเมิน (ใหร้ ะบชุ อื่ ผลงาน) ขอรบั รองว่าข้อมูลทัง้ หมดถกู ต้อง และเปน็ ความจรงิ (ลงชื่อ) เดอื น ผ้ขู อรับการประเมิน ( ) . ตาํ แหน่ง พ.ศ. . วันท่ี การตรวจสอบของคณะกรรมการ ได้ตรวจสอบขอ้ มูลและสภาพความจรงิ แลว้ รับรองว่าเป็นรายงานที่ถูกตอ้ ง ตรงความเป็นจริง ลงชือ่ ) กรรมการ ลงช่ือ) กรรมการ ( )( ) (ลงชือ่ ) ประธานกรรมการ ( ) พ.ศ. วนั ที่ เดอื น การตรวจสอบและรบั รองของผบู้ ังคบั บญั ชาชน้ั ตน้ ไดต้ รวจสอบแลว้ รบั รองวา่ การรายงานผลงานท่เี กิดจากการปฏิบัตหิ น้าที่ถูกตอ้ งและเปน็ ความจริง (ลงช่ือ) เดือน ) ( พ.ศ. ตําแหน่ง วันท่ี 25
แบบรายงานผลการประเมนิ วิทยฐานะชํานาญการ (ทกุ ตาํ แหน่ง) วก.7 สาํ หรบั กรรมการประเมนิ (7/1) -------------------------. 1. ขอ้ มลู ผขู้ อรบั การประเมนิ ช่อื - สกลุ ตําแหน่ง ครู รองผ้อู ํานวยการสถานศกึ ษา ผ้อู าํ นวยการสถานศกึ ษา ศกึ ษานเิ ทศก์ สถานศกึ ษา สํานักงานเขต กอง/สว่ นราชการ สาํ นกั 2. ผลการประเมนิ ทงั้ 3 ด้าน รายการ คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้รบั 1. ด้านวินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ 100 2. ด้านคุณภาพการปฏบิ ัติงาน 100 3. ด้านผลการปฏิบัตงิ าน 200 3. ความเหน็ หรือข้อสงั เกตของกรรมการผปู้ ระเมิน จดุ เดน่ จุดท่ีควรพฒั นา ลงชอื่ กรรมการผูป้ ระเมนิ ( ) พ.ศ. . วันที่ เดอื น 26
แบบรายงานผลการประเมินด้านที่ 1 และดา้ นท่ี 2 สําหรบั กรรมการประเมนิ วก.7 (ทกุ ตําแหนง่ ทกุ วทิ ยฐานะยกเวน้ วทิ ยฐานะชาํ นาญการ) (7/2) -------------------------. 1. ข้อมูลผขู้ อรบั การประเมนิ ช่อื - สกุล ตาํ แหนง่ ครู รองผู้อํานวยการสถานศึกษา ผู้อาํ นวยการสถานศกึ ษา ศึกษานิเทศก์ วทิ ยฐานะ วิทยฐานะที่ขอรบั การประเมนิ สถานศกึ ษา สาํ นกั งานเขต กอง/สว่ นราชการ สาํ นัก 2. ผลการประเมนิ ดา้ นที่ 1 และดา้ นที่ 2 รายการ คะแนนเต็ม คะแนนที่ไดร้ บั 1. ด้านวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ 100 2. ด้านคุณภาพการปฏบิ ัติงาน 100 3. ความเหน็ หรอื ข้อสงั เกตของกรรมการผปู้ ระเมิน ลงชื่อ กรรมการผปู้ ระเมนิ ( ) พ.ศ. . วนั ท่ี เดอื น 27
แบบรายงานสรปุ ผลการประเมินของคณะกรรมการ วก.8 วทิ ยฐานะชาํ นาญการ (ทกุ ตาํ แหน่ง) (8/1) สําหรบั รายงาน อ.ก.ก. สามญั ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ------------------------. 1. ขอ้ มลู ผขู้ อรบั การประเมิน ช่อื - สกลุ ตาํ แหน่ง ครู รองผ้อู ํานวยการสถานศึกษา ผูอ้ ํานวยการสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ สถานศกึ ษา สาํ นกั งานเขต กอง/สว่ นราชการ สํานัก 2. ผลการประเมนิ ทง้ั 3 ดา้ น รายการ คะแนน เกณฑ์ กรรมการ กรรมการ กรรมการ เฉลีย่ 1. ด้านวินยั คุณธรรม จริยธรรม เต็ม ผ่านเฉลย่ี ผปู้ ระเมนิ ผปู้ ระเมนิ ผปู้ ระเมิน และจรรยาบรรณวิชาชีพ คนที่ 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 2. ดา้ นคุณภาพการปฏบิ ัตงิ าน 100 70 3. ด้านผลการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ 100 70 200 70 สรปุ ผลการประเมนิ ของคณะกรรมการ ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ 3. ความเหน็ หรือข้อสงั เกตของกรรมการผปู้ ระเมนิ จุดเดน่ จดุ ท่ีควรพฒั นา (ลงชือ่ ) ประธานกรรมการ กรรมการ กรรมการ ( )( )( ) วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. . 28
แบบรายงานสรปุ ผลการประเมนิ ของคณะกรรมการ วก.8 ดา้ นที่ 1 และดา้ นท่ี 2 (ทกุ ตาํ แหน่ง ทกุ วทิ ยฐานะยกเวน้ วทิ ยฐานะชํานาญการ) (8/2) สําหรบั รายงาน อ.ก.ก. สามญั ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ------------------------. 1. ขอ้ มลู ผขู้ อรบั การประเมนิ ชอ่ื - สกุล ตาํ แหนง่ ครู รองผอู้ าํ นวยการสถานศึกษา ผู้อาํ นวยการสถานศึกษา ศึกษานเิ ทศก์ วทิ ยฐานะ วทิ ยฐานะที่ขอรับการประเมนิ สถานศึกษา สาํ นกั งานเขต กอง/สว่ นราชการ สํานกั 2. ผลการประเมนิ ดา้ นที่ 1 และดา้ นท่ี 2 รายการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ เฉลย่ี 1. ดา้ นวินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คะแนนเต็ม ผปู้ ระเมิน ผปู้ ระเมิน ผปู้ ระเมิน และจรรยาบรรณวชิ าชีพ คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 2. ด้านคุณภาพการปฏิบัตงิ าน 100 100 สรุปผลการประเมนิ ของคณะกรรมการ ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ 3. ความเหน็ หรือข้อสงั เกตของกรรมการผปู้ ระเมิน (ลงชอื่ ) ประธานกรรมการ กรรมการ กรรมการ ( )( )( ) วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. . * หมายเหตุ 29 เกณฑผ์ า่ นเฉลยี่ ระดบั ชาํ นาญการพิเศษ รอ้ ยละ 75 ระดับเช่ยี วชาญ ร้อยละ 80 ระดบั เชย่ี วชาญพิเศษ รอ้ ยละ 85
แบบรายงานสรปุ ผลการประเมิน วก.9 (ทกุ ตําแหนง่ ทกุ วทิ ยฐานะยกเวน้ วทิ ยฐานะชาํ นาญการ) สําหรบั สาํ นกั การศกึ ษาเสนอสาํ นกั งาน ก.ก. ------------------------. 1. ข้อมูลผขู้ อรบั การประเมนิ ชือ่ - สกลุ ตําแหนง่ ครู รองผูอ้ ํานวยการสถานศกึ ษา ผู้อาํ นวยการสถานศึกษา ศกึ ษานเิ ทศก์ วทิ ยฐานะ สถานศกึ ษา สาํ นักงานเขต กอง/สว่ นราชการ สํานกั 2. ขอเลื่อนเปน็ วทิ ยฐานะ ชาํ นาญการพเิ ศษ เช่ียวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ กลุม่ สาระ/สาขา 3. ได้มกี ารตรวจสอบวา่ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษากรุงเทพมหานครรายนม้ี คี ณุ สมบตั เิ ปน็ ไป ตามหลกั เกณฑท์ ่ี ก.ก. กาํ หนด คอื (1) ดาํ รงตําแหน่ง เมอ่ื วนั ที่ (2) วทิ ยฐานะ เม่ือวนั ที่ (3) รบั เงนิ เดอื นต่าํ กว่าข้นั ต่ําของอนั ดบั ของแต่ละวทิ ยฐานะไม่เกนิ 1 ขน้ั (4) ได้ปฏิบัติงานตามหนา้ ที่ความรบั ผิดชอบ และมผี ลงานทีเ่ กิดจากการปฏบิ ัติหน้าท่ีในตําแหน่งหรอื สายงานนั้น ย้อนหลัง 2 ปตี ิดต่อกนั นับถึงวนั ทยี่ น่ื คําขอ และปฏบิ ตั งิ านในสถานศกึ ษาหรอื สถานท่ปี ฏบิ ตั งิ านนั้นไม่ น้อยกวา่ 1 ปี (5) มีภาระงานไมต่ ่ํากวา่ ภาระงานขนั้ ตํา่ ในแต่ละตาํ แหนง่ 4. ผลการประเมนิ ดา้ นท่ี 1 และดา้ นท่ี 2 รายการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ คะแนนเต็ม ผปู้ ระเมิน ผปู้ ระเมนิ ผปู้ ระเมนิ เฉลีย่ คนที่ 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 1. ด้านวินยั คุณธรรม จริยธรรม 100 และจรรยาบรรณวชิ าชพี 2. ด้านคณุ ภาพการปฏิบตั งิ าน 100 สรุปผลการประเมนิ ของคณะกรรมการ ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ 5. ความเหน็ ของ อ.ก.ก.สามัญขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา * หมายเหตุ (ลงชื่อ) ) ( ) 30 พ.ศ. . ตําแหนง่ ( วันที่ เดือน เกณฑผ์ า่ นเฉลยี่ ระดับชํานาญการพิเศษ ร้อยละ 75 ระดับเชี่ยวชาญ ร้อยละ 80 ระดบั เช่ียวชาญพเิ ศษ ร้อยละ 85
แบบสรปุ ผลการประเมนิ ด้านผลการปฏบิ ตั งิ าน วก.10 เพ่อื ใหข้ ้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรงุ เทพมหานครมหี รอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะ (10/1) (ทกุ ตําแหนง่ ทกุ วทิ ยฐานะยกเวน้ วทิ ยฐานะชาํ นาญการ) สําหรบั คณะกรรมการประเมนิ ------------------------. 1. ขอ้ มลู ผขู้ อรบั การประเมนิ ชอ่ื - สกลุ ตาํ แหนง่ ครู รองผู้อาํ นวยการสถานศึกษา ผอู้ ํานวยการสถานศกึ ษา วิทยฐานะ วทิ ยฐานะทขี่ อรับการประเมิน สถานศกึ ษา สาํ นักงานเขต กอง/สว่ นราชการ สาํ นกั 2. ผลการประเมนิ รายการประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนทไ่ี ด้ การประเมินผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าที่ (140 คะแนน) 1. ผลงานตามหน้าท่คี วามรบั ผิดชอบตามมาตรฐานตําแหนง่ 30 ๒. ผลงานดา้ นคุณภาพการปฏบิ ัตงิ าน ตามมาตรฐานวทิ ยฐานะ 20 ๓. ผลงานตามโครงการทด่ี าํ เนินงานในสถานศกึ ษา 5 โครงการ 20 4. ผลงานท่เี กดิ กับผูเ้ รยี นดา้ นผลสมั ฤทธ์ิทางการศกึ ษา 50 4.1 ด้านการเตรยี มความพร้อม (30) 4.2 ผลสมั ฤทธิ์ของกลุ่มสาระวิชาท่ีขอรบั การประเมนิ ผ่านเกณฑ์ (20) ทสี่ ถานศกึ ษากําหนด 5. ผลงานที่เกดิ กับผเู้ รียนตามมาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นสงั กัด 20 กรุงเทพมหานคร รวมคะแนนผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี 140 การประเมนิ ผลงานทางวิชาการ (60 คะแนน) 1. คุณภาพของผลงานทางวิชาการ 30 1.1 ความสมบรู ณข์ องเนอ้ื หาสาระ (10) 1.2 ความถกู ต้องตามหลักวชิ าการ (10) 1.3 ความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ การพมิ พแ์ ละการจัดทํารูปเลม่ (10) 2. ประโยชน์ของผลงานทางวิชาการ 30 2.1 ประโยชนต์ ่อความก้าวหนา้ ทางวิชาการ หรือวิชาชพี (15) 2.2 ประโยชน์ต่อผู้เรยี น ครู บุคลากรทางการศึกษา (15) หนว่ ยงานการศกึ ษา การจดั การศกึ ษา และชมุ ชน รวมคะแนนผลงานทางวิชาการ 60 รวมคะแนน 200 ลงชื่อ กรรมการผูป้ ระเมิน ( ) พ.ศ. . วันท่ี เดอื น 31
วก.10 แบบสรปุ ผลการประเมนิ ด้านผลการปฏบิ ตั งิ าน (10/2) เพอื่ ใหข้ ้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครมหี รอื เลื่อนวทิ ยฐานะ (ทกุ ตาํ แหนง่ ทกุ วทิ ยฐานะยกเวน้ วทิ ยฐานะชาํ นาญการ) สาํ หรบั คณะกรรมการประเมิน ------------------------ 1. ขอ้ มลู ผขู้ อรบั การประเมนิ ชอ่ื - สกุล ตําแหนง่ ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะ สถานศึกษา สาํ นักงานเขต กอง/ส่วนราชการ สาํ นัก 2. ผลการประเมนิ รายการประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้ การประเมนิ ผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี (140 คะแนน) 1. ผลงานตามหน้าท่คี วามรับผดิ ชอบตามมาตรฐานตําแหนง่ 30 ๒. ผลงานด้านคณุ ภาพการปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานวิทยฐานะ 20 ๓. ผลงานตามโครงการทีด่ ําเนนิ งานในสถานศกึ ษา 5 โครงการ 20 4. ผลงานท่เี กิดกบั ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา และผ้เู รียน 50 4.1 ผลงานด้านการนเิ ทศ (30) 4.2 ผลงานด้านการประเมนิ ผลการศึกษา (20) 5. ผลงานทีเ่ กดิ กบั ครผู ู้สอนตามมาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นสงั กัด 20 กรุงเทพมหานคร รวมคะแนนผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ 140 การประเมนิ ผลงานทางวิชาการ (60 คะแนน) 1. คุณภาพของผลงานทางวิชาการ 30 1.1 ความสมบรู ณข์ องเนอ้ื หาสาระ (10) 1.2 ความถกู ต้องตามหลักวชิ าการ (10) 1.3 ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ การพิมพแ์ ละการจดั ทาํ รปู เล่ม (10) 2. ประโยชนข์ องผลงานทางวชิ าการ 30 2.1 ประโยชน์ต่อความก้าวหนา้ ทางวิชาการ หรือวชิ าชพี (15) 2.2 ประโยชน์ตอ่ ผ้เู รียน ครู บคุ ลากรทางการศึกษา (15) หนว่ ยงานการศกึ ษา การจัดการศึกษา และชมุ ชน รวมคะแนนผลงานทางวิชาการ 60 รวมคะแนน 200 ลงชอ่ื กรรมการผู้ประเมิน ( ) พ.ศ. . วันท่ี เดอื น 32
ภาคผนวก
คมู่ อื การประเมนิ ผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ เพ่ือใหม้ หี รือเล่ือนวทิ ยฐานะ ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษากรุงเทพมหานคร สายงานการบริหารสถานศกึ ษา ------------------------------ รายการประเมนิ ขอ้ พิจารณา ๑. ผลงานตามหนา้ ที่ ให้พจิ ารณาจากผลงานตามหนา้ ทแ่ี ละความรับผิดชอบ ความรบั ผดิ ชอบ ลกั ษณะงานท่ีปฏิบตั ติ ามมาตรฐานตาํ แหน่งทีข่ อรบั การประเมนิ ตามมาตรฐานตําแหนง่ ๑. บงั คับบัญชาข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ตลอดท้ัง (30 คะแนน) ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรในสถานศึกษาตามหลกั การบรหิ ารกจิ การบา้ นเมืองที่ดี โดยยดึ ถอื ระบบคุณธรรม และความเสมอภาคระหวา่ งบคุ คล 2. ส่งเสรมิ สนบั สนุน การจดั การเรียนการสอน ใหผ้ ู้เรียนพัฒนา เตม็ ตามศักยภาพ โดยถือว่าผู้เรยี นมคี วามสาํ คญั ทส่ี ุด 3. จดั ระบบการให้บริการในสถานศึกษาและจัดระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผู้เรียน 4. บรหิ ารกิจการของสถานศกึ ษา จดั โครงสรา้ งและระบบบรหิ ารใน สถานศกึ ษา การกําหนดวสิ ัยทศั น์ พันธกจิ ยทุ ธศาสตร์ แผนงาน โครงการ ของสถานศึกษา บรหิ ารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ 5. บริหารงานวชิ าการ จัดทาํ และพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวน การเรียนรู้ พฒั นาสื่อนวตั กรรมและเทคโนโลยีทางการศกึ ษา นเิ ทศ ตดิ ตาม วัดและประเมนิ ผลการศกึ ษา จดั ทาํ ระบบประกันคณุ ภาพในสถานศกึ ษา พฒั นากระบวนการจดั การเรยี นการสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ ส่งเสรมิ สนบั สนุน ผู้สอนให้วจิ ยั เพือ่ พฒั นาการเรยี นรู้ที่เหมาะสมกบั ผู้เรียน 6. บรหิ ารงานงบประมาณ การเงิน และทรัพย์สนิ ของสถานศกึ ษา ให้เปน็ ไปตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของทางราชการ 7. บรหิ ารงานบคุ คล การสรรหาบรรจุและแต่งตัง้ การให้มีหรือ เล่ือนวิทยฐานะ การสง่ เสรมิ ประสิทธิภาพในการปฏบิ ตั ิราชการ วินยั และ การรกั ษาวนิ ยั การดําเนินการทางวินัย การอทุ ธรณแ์ ละรอ้ งทุกข์ การออก จากราชการ 8. การบริหารงานทว่ั ไป การบริหารงานธรุ การ อาคารสถานท่ี การประสานความรว่ มมือกับชุมชนและทอ้ งถ่ิน การจัดระบบควบคมุ ใน สถานศึกษา จดั ทํารายงานประจาํ ปี บรหิ ารกจิ การนักเรยี น การจดั กจิ กรรม สง่ เสรมิ และพัฒนาผู้เรยี น สง่ เสริมความมีวนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม และ ความสามคั คใี นหมู่คณะ 9. ปฏิบตั ิงานอนื่ ทเี่ กยี่ วข้องและงานอน่ื ที่ไดร้ บั มอบหมาย 10. ปฏิบตั ิงานตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ- วชิ าชีพ 34
-2- รายการประเมิน ข้อพิจารณา ๒. ผลงานดา้ นคณุ ภาพ ให้พิจารณาจากผลงานดา้ นคณุ ภาพการปฏิบตั งิ านด้านตา่ ง ๆ การปฏบิ ตั งิ าน ตามมาตรฐาน ตามมาตรฐานวิทยฐานะ ทีข่ อรบั การประเมิน วทิ ยฐานะ ๑. ผลงานทเี่ กิดจากความร้คู วามเขา้ ใจ (2๐ คะแนน) ๒. ผลงานท่เี กิดจากความสามารถ ๓. ผลงานท่เี กิดจากทกั ษะ ๓. ผลงานตามโครงการ ให้พิจารณาจากผลงานทีเ่ กิดจากการดาํ เนินการตามโครงการ ทด่ี าํ เนนิ งานในสถานศกึ ษา ของกรงุ เทพมหานคร และหรอื ของสถานศึกษา โครงการใดบา้ ง 5 โครงการ มวี ตั ถุประสงค์อะไร ได้ทําอะไร ทําอย่างไร และผลที่เกดิ ขน้ึ เปน็ อยา่ งไร (2๐ คะแนน) 4. ผลงานทเี่ กดิ กบั ผเู้ รียน ใหพ้ จิ ารณาผลทีเ่ กิดกับผู้เรยี นด้านผลทางการเรยี นเหมาะสมกับ ดา้ นผลสัมฤทธท์ิ างการศกึ ษา ระดับชั้นเรยี น คิดเป็นรอ้ ยละของจาํ นวนนักเรียน ดงั ต่อไปน้ี (50 คะแนน ข้อ 1 ดา้ นการเตรยี มความพร้อม (สาํ หรับชน้ั กอ่ นประถมศึกษา) ข้อ ๑ 30 คะแนน หรือการอา่ นออก เขียนได้ คดิ เลขเปน็ หรืออ่านคล่อง เขยี นคล่อง ข้อ ๒ 2๐ คะแนน) จบั ใจความได้ คิดเลขเปน็ และสามารถคิดวเิ คราะหไ์ ด้ (ระดบั ชั้นอน่ื ) 5. ผลงานทเี่ กดิ กบั ผเู้ รยี น (๑) รอ้ ยละ ๑๐๐ (3๐ คะแนน) ตามมาตรฐานการศกึ ษา (๒) ร้อยละ ๘๐ – ๙๙ (2๐ คะแนน) โรงเรยี นสงั กดั กรุงเทพมหานคร (๓) รอ้ ยละ ๖๐ – ๗๙ (1๐ คะแนน) (2๐ คะแนน) (๔) ร้อยละ ๕๙ ลงมา (5 คะแนน) ขอ้ ๒ ผลสมั ฤทธิข์ องกลุ่มสาระวชิ าทขี่ อรับการประเมนิ ผ่านเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากําหนด (๑) รอ้ ยละ ๙๐ ข้นึ ไป (2๐ คะแนน) (๒) ร้อยละ ๘๐ – ๘๙ (16 คะแนน) (๓) ร้อยละ ๗๐ – ๗๙ (12 คะแนน) (๔) ร้อยละ ๖๙ ลงมา (8 คะแนน) ให้พจิ ารณาผลทีเ่ กิดกับผเู้ รยี น โดยพจิ ารณาจากหลกั ฐาน หรอื พฤตกิ รรม หรอื การแสดงออกของนักเรียนวา่ เป็นอย่างไรใหเ้ ห็นเปน็ รปู ธรรม ดังตอ่ ไปน้ี ๑. การพฒั นาดา้ นร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสงั คม ๒. คณุ ธรรม จริยธรรม และลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ๓. สขุ นสิ ยั สขุ ภาพกาย และสุขภาพจติ ที่ดี ๔. ความสนใจรว่ มกิจกรรม และแสดงออกด้านศลิ ปะ ดนตรี และกีฬา ๕. ความสามารถด้านการคดิ วเิ คราะห์ ๖. ความรแู้ ละทักษะตามหลกั สตู ร 35
รายการประเมิน -3- ข้อพิจารณา ๗. ทักษะในการแสวงหาความรู้ รกั การเรยี นรู้ และพัฒนาตนเอง ๘. ทกั ษะในการทํางาน รกั การทํางาน สามารถทํางานรว่ มกบั ผู้อื่นได้ และมคี วามรู้สกึ ท่ดี ีตอ่ อาชพี สจุ รติ ๙. การอนุรักษแ์ ละพัฒนาสง่ิ แวดลอ้ ม ๑๐. การปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 36
คู่มือการประเมินผลงานทเี่ กดิ จากการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี เพ่ือใหม้ หี รอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรงุ เทพมหานคร สายงานการนเิ ทศการศกึ ษา ------------------------------ รายการประเมนิ ข้อพิจารณา ๑. ผลงานตามหนา้ ท่ี ใหพ้ จิ ารณาจากผลงานตามหนา้ ทแี่ ละความรับผิดชอบ ความรบั ผดิ ชอบ ลกั ษณะงานทปี่ ฏบิ ัติตามมาตรฐานตาํ แหนง่ ทข่ี อรบั การประเมิน ตามมาตรฐานตาํ แหนง่ ๑. ปฏบิ ตั ิงานการนเิ ทศการศึกษา โดยคาํ นึงถึงผลท่ีจะเกิดแกผ่ ู้รับ (3๐ คะแนน) การนเิ ทศ 2. ปฏิบัติงานทางวิชาการเก่ียวกบั การพัฒนาการนเิ ทศการศกึ ษา เพ่อื ใหเ้ กดิ การพฒั นาวิชาชพี ทางการศกึ ษา 3. ปฏบิ ัตงิ านเกยี่ วกบั การพัฒนาการเรียนการสอนของครใู ห้มี ประสทิ ธภิ าพ 4. ปฏบิ ตั ิงานเกย่ี วกบั การศึกษา คน้ คว้า วิเคราะห์ วิจัย ทางวชิ าการ 5. ปฏิบัตงิ านเกี่ยวกบั การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล การศกึ ษา 6. ปฏิบัตงิ านเก่ยี วกับการประกันคณุ ภาพการศึกษา 7. ปฏิบัติงานอ่ืนท่เี กีย่ วข้องและงานอื่นทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 8. ปฏบิ ตั งิ านตามหลักคุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณ- วชิ าชีพ ๒. ผลงานดา้ นคณุ ภาพ ใหพ้ จิ ารณาจากผลงานด้านคณุ ภาพการปฏิบัตงิ านด้านตา่ ง ๆ การปฏบิ ตั งิ าน ตามมาตรฐาน ตามมาตรฐานวิทยฐานะ ทขี่ อรบั การประเมิน วทิ ยฐานะ (2๐ คะแนน) ๑. ผลงานท่ีเกดิ จากความรคู้ วามเขา้ ใจ ๒. ผลงานที่เกิดจากความสามารถ ๓. ผลงานทเี่ กดิ จากทักษะ ๓. ผลงานตามโครงการ ใหพ้ จิ ารณาจากผลงานทเี่ กิดจากการดําเนินการตามโครงการ ตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของกรงุ เทพมหานคร และหรอื ของสาํ นักการศึกษา โครงการ ทดี่ าํ เนนิ งานในสาํ นกั การศกึ ษา ใดบ้างมวี ตั ถุประสงคอ์ ะไร ได้ทาํ อะไร ทําอยา่ งไร และผลทเี่ กิดขึน้ เปน็ หรอื สถานศกึ ษา 5 โครงการ อยา่ งไร (2๐ คะแนน) 37
-2- รายการประเมิน ข้อพิจารณา 4. ผลงานการนเิ ทศติดตาม ให้พิจารณาผลงานการนิเทศ ติดตาม ประเมนิ ผลการศกึ ษา และ ประเมินผลการศกึ ษาและผลงาน ผลงานด้านวชิ าการทเ่ี กดิ ประโยชน์ตอ่ ครู สถานศกึ ษา ดงั ตอ่ ไปนี้ วิชาการทเ่ี กดิ ประโยชนต์ อ่ ขอ้ 1 ผลงานด้านการนิเทศ และ (30 คะแนน) ครู สถานศกึ ษา ผลงานด้านการประเมนิ ผลการศกึ ษา (50 คะแนน) ขอ้ 3 ผลงานดา้ นวิชาการ (20 คะแนน) 5. ผลงานทเี่ กดิ กบั ให้พิจารณาผลที่เกดิ กับครูผู้สอนในส่วนท่ีรบั ผิดชอบวา่ เปน็ อย่างไร ขา้ ราชการครแู ละบุคลากร ใหเ้ หน็ เปน็ รปู ธรรม ดงั ต่อไปนี้ ทางการศกึ ษา ในส่วนที่ รบั ผดิ ชอบ 1. ครมู คี ณุ ธรรม จริยธรรม และลกั ษณะท่ีพงึ ประสงคเ์ ปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี (2๐ คะแนน) 2. ครมู ีปฏิบัตสิ ัมพันธท์ ่ดี กี ับนกั เรยี น ผูร้ ว่ มงาน ผูป้ กครอง และชุมชน 3. ครูมีความมุ่งมัน่ และอทุ ศิ ตนในการสอนและการพัฒนานักเรียน 4. ครแู สวงหาความรู้ วทิ ยาการ เทคนิควธิ ีการใหม่ ๆ และ นาํ มาประยกุ ต์ใช้พัฒนาวิชาชีพ ๕. ครมู กี ารดําเนนิ ชวี ิตตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ๖. ครมู คี วามรู้ความเขา้ ใจเปา้ หมายของการจัดการศกึ ษาและ หลกั สูตรการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน จติ วทิ ยาพัฒนาการ การวดั และประเมินผล การเรียน 7. ครมู กี ารวิเคราะหศ์ ักยภาพนกั เรยี นและเขา้ ใจนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล 8. ครมู คี วามสามารถในการจัดการเรยี นรูท้ ่ีเนน้ นกั เรียนเปน็ สาํ คญั 9. ครมู ีการผลติ ส่อื การใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีในการพัฒนาการ เรียนรู้ของนกั เรียนและตนเอง 10. ครมู กี ารวดั และประเมนิ ผลการเรียนและนาํ ผลการประเมนิ ไป ใชพ้ ัฒนาการเรียน 38
คมู่ อื การประเมินผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี เพ่ือใหม้ หี รอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะ ของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษากรุงเทพมหานคร สายงานการสอน ------------------------------ รายการประเมนิ ข้อพจิ ารณา ๑. ผลงานตามหนา้ ท่ี ใหพ้ จิ ารณาจากผลงานตามหน้าทแี่ ละความรบั ผิดชอบ ความรบั ผดิ ชอบ ลกั ษณะงานทีป่ ฏบิ ตั ิตามมาตรฐานตาํ แหน่งที่ขอรบั การประเมนิ ตามมาตรฐานตาํ แหน่ง (3๐ คะแนน) ๑. ปฏบิ ตั ิงานเกยี่ วกับการเรยี นการสอน โดยเน้นผเู้ รยี นเปน็ สําคัญ และจดั การเรยี นการสอนสาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ ตามกรอบทก่ี รงุ เทพมหานคร กาํ หนด ๒. ปฏบิ ัตงิ านเกยี่ วกบั การส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยวธิ กี าร ทีห่ ลากหลาย ๓. จดั อบรมสงั่ สอน และจดั กจิ กรรมเพอื่ พฒั นาผ้เู รียนใหม้ ี คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ ๔. วัดและประเมนิ ผลผูเ้ รียนดว้ ยเทคนิคทห่ี ลากหลาย ตามสภาพความเปน็ จรงิ 5. ปฏิบตั ิงานวชิ าการของสถานศกึ ษา ๖. ปฏบิ ัตงิ านเกยี่ วกบั การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลือผูเ้ รยี น ๗. ปฏิบัตงิ านวิจัยทางการศึกษา ศึกษา วิเคราะห์ ประเมิน พฒั นาการของผ้เู รียนเพือ่ นําไปพฒั นาการเรียนการสอน ๘. พฒั นาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพใหก้ ้าวหน้า ๙. ปฏบิ ตั งิ านประสานความรว่ มมือ ผูป้ กครอง ชุมชน องค์กรสว่ นท้องถนิ่ หรือสถานประกอบการเพ่อื ร่วมกนั พัฒนาผู้เรยี น ตามศักยภาพ ๑๐. ปฏิบัตงิ านบรกิ ารสังคมดา้ นวิชาการ ทาํ นุบาํ รงุ ส่งเสรมิ ศิลปวฒั นธรรม แหล่งเรยี นรแู้ ละภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ๒. ผลงานดา้ นคณุ ภาพ ใหพ้ จิ ารณาจากผลงานดา้ นคุณภาพการปฏิบัตงิ านด้านต่าง ๆ การปฏบิ ตั งิ าน ตามมาตรฐาน ตามมาตรฐานวิทยฐานะ ทขี่ อรับการประเมนิ วทิ ยฐานะ (2๐ คะแนน) ๑. ผลงานทเ่ี กิดจากความรูค้ วามเขา้ ใจ ๒. ผลงานทเ่ี กดิ จากความสามารถ ๓. ผลงานที่เกดิ จากทักษะ ๓. ผลงานตามโครงการ ใหพ้ จิ ารณาจากผลงานที่เกิดจากการดําเนินการตามโครงการ ทด่ี าํ เนนิ งานในสถานศกึ ษา ของกรงุ เทพมหานคร และหรือของสถานศึกษา โครงการใดบา้ ง 5 โครงการ ได้ทําอะไร ทาํ อย่างไร และผลทีเ่ กดิ ขนึ้ เปน็ อยา่ งไร (2๐ คะแนน) 39
-2- รายการประเมิน ข้อพิจารณา 4. ผลงานทเี่ กดิ กบั ผเู้ รียน ดา้ นผลสมั ฤทธท์ิ างการศกึ ษา ให้พจิ ารณาผลทเี่ กดิ กบั ผู้เรยี นดา้ นผลทางการเรยี นเหมาะสมกบั (50 คะแนน ระดับช้ันเรยี น คิดเป็นร้อยละของจํานวนนักเรียน ดงั ต่อไปนี้ ขอ้ ๑ 3๐ คะแนน ขอ้ 1 ด้านการเตรยี มความพร้อม (สาํ หรบั ช้นั กอ่ นประถมศึกษา) ขอ้ ๒ 2๐ คะแนน) หรือการอา่ นออก เขียนได้ คดิ เลขเปน็ หรอื อา่ นคลอ่ ง เขียนคล่อง จับใจความได้ คดิ เลขเป็นและสามารถคิดวเิ คราะห์ได้ (ระดบั ชน้ั อนื่ ) (๑) รอ้ ยละ ๑๐๐ (3๐ คะแนน) (๒) รอ้ ยละ ๘๐ – ๙๙ (2๐ คะแนน) (๓) ร้อยละ ๖๐ – ๗๙ (10 คะแนน) (๔) ร้อยละ ๕๙ ลงมา (5 คะแนน) ขอ้ ๒ ผลสัมฤทธขิ์ องกลมุ่ สาระวิชาทข่ี อรบั การประเมิน ผา่ นเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากําหนด (๑) รอ้ ยละ ๙๐ ข้นึ ไป (2๐ คะแนน) (๒) รอ้ ยละ ๘๐ – ๘๙ (16 คะแนน) (๓) รอ้ ยละ ๗๐ – ๗๙ (12 คะแนน) (๔) รอ้ ยละ ๖๙ ลงมา (8 คะแนน) 5. ผลงานทเ่ี กดิ กบั ผเู้ รียน ใหพ้ จิ ารณาผลที่เกิดกับผเู้ รยี น โดยพิจารณาจากหลกั ฐาน หรอื ตามมาตรฐานการศกึ ษา พฤติกรรม หรอื การแสดงออกของนักเรยี นวา่ เป็นอยา่ งไรให้เหน็ เป็นรปู ธรรม โรงเรยี นสงั กดั กรุงเทพมหานคร ดงั ต่อไปนี้ (2๐ คะแนน) ๑. การพัฒนาด้านร่างกาย สตปิ ญั ญา จิตใจ อารมณ์ และสังคม ๒. คณุ ธรรม จริยธรรม และลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ ๓. สขุ นิสยั สขุ ภาพกาย และสขุ ภาพจติ ท่ีดี ๔. ความสนใจรว่ มกิจกรรม และแสดงออกด้านศลิ ปะ ดนตรี และกฬี า ๕. ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ ๖. ความรแู้ ละทักษะตามหลกั สตู ร ๗. ทกั ษะในการแสวงหาความรู้ รกั การเรยี นรู้ และพัฒนาตนเอง ๘. ทกั ษะในการทํางาน รักการทํางาน สามารถทํางานรว่ มกับ ผู้อืน่ ได้ และมคี วามรู้สกึ ทด่ี ีตอ่ อาชีพสุจรติ ๙. การอนุรักษ์และพฒั นาสง่ิ แวดล้อม ๑๐. การปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 40
คูม่ ือการประเมินผลงานทางวิชาการ เพ่อื ใหม้ หี รอื เล่อื นวทิ ยฐานะ ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากรงุ เทพมหานคร ความหมายของผลงานทางวิชาการ ผลงานทางวชิ าการ หมายถงึ เอกสารหรอื หลกั ฐานทจี่ ดั ทําขึ้นจากความรู้ ความสามารถ ทกั ษะและประสบการณ์ของผู้จัดทาํ โดยการศึกษา คน้ ควา้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ วิจยั และไดน้ ําไปใช้ ในการแก้ปญั หา หรือพัฒนางานในหนา้ ทจ่ี นเกิดผลดตี ่อการพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศึกษาและเป็น ประโยชน์ต่อความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการ ขอบขา่ ยของผลงานทางวิชาการ 1. ผลงานทางวิชาการของสายงานการสอน หมายถึง เอกสารหรอื หลกั ฐานเก่ียวกบั การ สอนท่แี สดงถงึ ความชํานาญหรือเชยี่ วชาญในดา้ นน้นั ๆ รวมถึงผลงานในลักษณะอน่ื ซง่ึ ใชป้ ระโยชน์ ในการสอน หรอื การจดั การศึกษาไดเ้ ป็นอย่างดี โดยมลี ักษณะดังน้ี 1) ตรงกับสาขาวิชาท่ีขอใหม้ ีหรอื เล่อื นวิทยฐานะ 2) เปน็ ผลงานทีเ่ กีย่ วกบั การพฒั นาการเรียนการสอนในกลุม่ สาระการเรยี นรูห้ รือสาขาวชิ า ต่าง ๆ และใชป้ ระโยชนใ์ นการเรยี นการสอน 3) เกิดจากการปฏบิ ัตงิ านตามหน้าที่ความรบั ผดิ ชอบทางด้านการสอน 2. ผลงานทางวิชาการของสายงานบรหิ ารสถานศกึ ษา หมายถงึ เอกสารหรือหลักฐาน เก่ยี วกบั การบรหิ ารสถานศึกษาทีแ่ สดงถึงความชาํ นาญหรือเชยี่ วชาญและเปน็ ประโยชนใ์ นการบริหาร สถานศกึ ษาหรอื จดั การศึกษาได้เปน็ อยา่ งดี โดยมีลักษณะขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ หรอื ท้ังสองขอ้ ดังน้ี 1) เป็นผลงานที่เกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษา ไดแ้ ก่ ดา้ นวชิ าการ บรหิ ารแผน และ งบประมาณ บริหารงานบุคคล และด้านการบริหารท่ัวไป 2) เปน็ ผลงานท่เี กีย่ วกับการพัฒนาการเรยี นการสอนในกลมุ่ สาระการเรียนรหู้ รอื สาขาวชิ า ตา่ ง ๆ 3. ผลงานทางวชิ าการของสายงานนเิ ทศการศกึ ษา หมายถงึ เอกสารหรอื หลกั ฐานเก่ียว กบั การนิเทศการเรียนการสอน การพฒั นาและปรบั ปรงุ คณุ ภาพการศกึ ษา และพัฒนาเทคนิควธิ กี าร นเิ ทศการศกึ ษาท่ีแสดงถงึ ความชํานาญหรือเชย่ี วชาญ และเปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนาคณุ ภาพ การศกึ ษา 41
-2- ประเภทผลงานทางวชิ าการ ผลงานทางวิชาการทเ่ี สนอขอต้องแสดงความรู้ ความสามารถ ความชาํ นาญและความ เช่ยี วชาญของผขู้ อให้มหี รอื เลอื่ นวทิ ยฐานะ แบง่ ตามลกั ษณะของผลงานทางวชิ าการเป็น 3 ประเภท ดังนี้ 1. ผลงาน งานแตง่ เรียบเรยี ง งานแปล หนงั สือ หรอื เขยี นบทความทางวชิ าการ ซ่งึ เป็นผลงานที่ได้รับการพิมพเ์ ผยแพร่มาแล้ว และผลงานดังกลา่ วสามารถนาํ ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ตอ่ การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา 2. ผลงานวจิ ยั ซึง่ เปน็ วจิ ยั ที่ได้รบั การพมิ พ์เผยแพรม่ าแลว้ และผลงานดังกล่าวสามารถ นาํ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการจดั การศกึ ษาและการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา และ การนําผลงานวจิ ัยทผี่ ู้อนื่ จดั ทํามาใช้ในการพัฒนางานและคุณภาพการศึกษา 3. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอน่ื เชน่ 3.1 การประเมินงาน หรือการประเมินโครงการทเี่ กยี่ วกบั การปฏิบัติงานในหน้าท่ี 3.2 ส่ือ นวัตกรรมทางการศกึ ษา เช่น ผลงานดา้ นการจัดทําส่อื การเรียนการสอน ผลงานดา้ นการคดิ พัฒนารปู แบบนวัตกรรมท่นี าํ มาใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ าน ทาํ ใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพสงู ขนึ้ ซ่งึ อาจจดั ทาํ เป็นเอกสาร หรอื สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ หรือสง่ิ ประดิษฐ์ตา่ ง ๆ รวมทง้ั เทคนคิ วิธกี ารจดั การ เรียนรู้อนั เป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 3.3 เอกสารประกอบการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี เปน็ เอกสารที่สามารถใช้ประกอบในการปฏบิ ตั ิ หนา้ ทที่ ้งั ด้านการเรียนการสอน บริหารจดั การศึกษา และการนเิ ทศการศกึ ษา ซ่ึงส่งผลต่อการพฒั นา ประสทิ ธิภาพการทํางานในหนา้ ทใ่ี หส้ ูงขึน้ สําหรับแผนการจัดการเรียนรู้ใหใ้ ชเ้ ป็นเอกสารประกอบ การประเมนิ คณุ ภาพปฏิบัติงานเท่าน้นั มิให้นํามาใช้เสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ผลงานทางวชิ าการทผี่ ู้ขอมไิ ด้จัดทาํ แตผ่ ้เู ดยี ว แต่ผลงานทางวิชาการได้ร่วมจดั ทํา กบั ผูอ้ ่นื ในรปู คณะทาํ งานหรือกล่มุ ใหช้ แี้ จงใหช้ ดั เจนว่าผ้ขู อมีสว่ นรว่ มในการจดั ทําในส่วนใด ตอนใด หนา้ ใดบ้าง คดิ เป็นรอ้ ยละเทา่ ไรของผลงานทางวชิ าการแตล่ ะเล่ม และให้ผรู้ ว่ มจดั ทาํ ทุกรายรบั รอง พรอ้ มทงั้ ระบวุ ่าผ้รู ว่ มจัดทําแตล่ ะรายได้จดั ทําสว่ นใดบา้ ง ทงั้ น้ี ผลงานทางวิชาการดังกลา่ วตอ้ งไม่เป็นผลงานทางวิชาการท่ีใชเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาเพอ่ื รับปริญญา หรือประกาศนียบตั รใด ๆ หรอื ผลงานทางวชิ าการท่ีเคยใชเ้ พือ่ เล่ือน ตาํ แหนง่ หรือเพือ่ ใหม้ วี ิทยฐานะหรอื เลื่อนวิทยฐานะมาแลว้ ลกั ษณะสําคญั ของผลงานทางวชิ าการ ประกอบดว้ ยด้านคณุ ภาพและประโยชนข์ องผลงานทางวิชาการ ดังน้ี 1. ด้านคณุ ภาพของผลงานทางวชิ าการ 1.1 รปู แบบ ผลงานทางวชิ าการตอ้ งมรี ปู แบบถูกต้องตามหลักวชิ าการ เช่น ผลงานประเภท งานวจิ ัย จะตอ้ งถูกตอ้ งตามระเบียบวิธีวิจัย บทเรียนสาํ เร็จรปู ต้องจดั ทําให้ถกู ต้องตามรปู แบบของ บทเรียนสาํ เร็จรปู ประเภทน้นั ๆ รายงานการประเมินโครงการต้องจัดทําให้ถกู ต้องตามรูปแบบของ รายงานการประเมินโครงการ และรายงานการพัฒนานวัตกรรมตอ้ งจดั ทาํ ใหถ้ ูกต้องตามรูปแบบของ การรายงาน 42
-3- 1.2 เนื้อหาสาระ ผลงานทางวิชาการต้องมเี นอ้ื หาสาระถูกต้องตามหลักวิชาการครบถว้ น ทนั สมัย มกี ารค้นควา้ อา้ งอิงถกู ตอ้ งเช่ือถือได้ เรียบเรียงเนือ้ หาได้ถูกต้องตามหลกั ภาษา และจดั เรยี งหวั ข้อ เน้ือหาเป็นระบบเดยี วกัน 1.3 ความคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ ผลงานทางวชิ าการตอ้ งมีส่วนที่แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ มเี นอื้ หา สาระและมรี ปู แบบใหม่ ไมค่ ดั ลอกหรอื ลอกเลียนผลงานทางวชิ าการของผู้อนื่ โดยมชิ อบ 1.4 การอา้ งองิ ผลงานทางวิชาการทีเ่ กดิ จากการศกึ ษาคน้ คว้าจากเอกสารตา่ ง ๆ ต้องมีการอา้ งอิง จัดทาํ เชงิ อรรถ บรรณานกุ รม ไดถ้ กู ต้องและเปน็ รปู แบบเดียวกนั 1.5 การพมิ พแ์ ละการจดั ทาํ รปู เล่ม ผลงานทางวิชาการต้องมกี ารจัดพิมพใ์ ห้สวยงามและถูกต้องตามหลกั วิชาการ เชน่ การพิมพห์ ัวขอ้ การย่อหนา้ การจัดพมิ พต์ าราง การพิมพเ์ ชิงอรรถ บรรณานกุ รม การจัดทํารปู เล่ม ถกู ตอ้ ง มปี กหน้า ปกหลัง ใบรองปก หนา้ ปกใน คาํ นาํ สารบญั บรรณานกุ รม ภาคผนวก เปน็ ต้น 2. ดา้ นประโยชน์ของผลงานทางวชิ าการ ผลงานทางวชิ าการควรแสดงใหเ้ ห็นถงึ การจดั ทาํ การทดลองใช้ การนาํ ไปใชจ้ ริง องคค์ วามรทู้ เี่ กิดข้นึ และผลจากการนาํ ไปใชว้ า่ มีประโยชนม์ ากน้อยเพียงใด รวมท้ังการเผยแพรผ่ ลงาน ทางวชิ าการท่ีจดั ทาํ ดว้ ย แนวทางการประเมนิ ผลงานทางวชิ าการ ประกอบด้วยด้านคุณภาพและประโยชนข์ องผลงานทางวิชาการ ดงั น้ี 1. ด้านคณุ ภาพของผลงานทางวชิ าการ 1.1 ความสมบูรณข์ องเนอื้ หาสาระ พิจารณาจากความถกู ต้อง เหมาะสม ครบถว้ น ตามหลักวชิ าการ และทันสมยั มกี ารคน้ คว้า อ้างอิงถูกต้องเชอื่ ถือได้ และเรียบเรยี งเนือ้ หาได้ถกู ต้อง ตามหลกั วชิ าการใช้ภาษา จัดเรยี งหัวขอ้ เน้ือหาเปน็ ระบบเดียวกนั 1.2 ความถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ พจิ ารณาจากรูปแบบ ขั้นตอนในการนาํ เสนอตอ้ ง ถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการของผลงานประเภทนน้ั ๆ 1.3 ความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ พิจารณาจากการแสดงความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละ ประสบการณท์ กี่ อ่ ให้เกดิ ความรูใ้ หม่ ผลงานใหม่ หรอื เปน็ การนําสง่ิ ทมี่ ีอยแู่ ลว้ มาประยุกตด์ ว้ ยเทคนคิ วธิ กี ารใหม่ ๆ ทก่ี ่อใหเ้ กิดนวตั กรรม และผลงานน้นั เป็นประโยชนต์ อ่ การจัดการศึกษา และ การพมิ พแ์ ละการจดั รปู เลม่ พิจารณาจากความสวยงามและความถกู ตอ้ งตามหลักวชิ าการ 2. ประโยชนข์ องผลงานทางวิชาการ 2.1 ประโยชนต์ อ่ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการหรือวชิ าชพี พิจารณาจาก เป็นผลงานท่ี เปน็ ประโยชน์ต่อความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการหรือวิชาชีพ สามารถเปน็ แบบอย่าง ใช้เปน็ แหลง่ อ้างอิง หรอื เป็นแบบในการปฏบิ ัติได้เป็นอยา่ งดี 43
-4- 2.2 ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รียน ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา หนว่ ยงานการศกึ ษา การจดั การศกึ ษาและชุมชน พิจารณาจากผลที่ปรากฏต่อผูเ้ รียน ครู บุคลากรทางการศกึ ษา การจดั การ ศกึ ษาและชุมชนอย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ล องคป์ ระกอบและเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การประเมนิ ผลงานทางวิชาการ มคี ะแนนเตม็ 60 คะแนน โดยมีองค์ประกอบและเกณฑ์ การให้คะแนน ดังน้ี 1. คณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (30 คะแนน) 1.1 ความสมบูรณ์ของเนอื้ หาสาระ 10 คะแนน 1.2 ความถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ 10 คะแนน 1.3 ความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ การพมิ พแ์ ละการจดั ทํารปู เล่ม 10 คะแนน 2. ประโยชนข์ องผลงานทางวิชาการ (30 คะแนน) 2.1 ประโยชนต์ ่อความก้าวหนา้ ทางวชิ าการ หรือวิชาชพี 15 คะแนน 2.2 ประโยชนต์ อ่ ผ้เู รียน ครู บุคลากรทางการศกึ ษา หนว่ ยงานการศกึ ษา การจดั การศึกษา และชมุ ชน 15 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สิน วทิ ยฐานะ องคป์ ระกอบ ชํานาญการ ชํานาญการพเิ ศษ เช่ียวชาญ เชี่ยวชาญพเิ ศษ ด้านที่ 3 ผลการปฏิบตั งิ าน 70 % 70 % 75 % 80 % (เฉลยี่ ) (เฉล่ยี ) (เฉลยี่ ) - ด้านผลงานทเี่ กิดจากการปฏบิ ตั หิ น้าที่ 75 % 80 % 85 % - ผลงานทางวิชาการ 65 % 70 % 75 % กรณี ก.ก. หรอื อ.ก.ก. วสิ ามญั เก่ียวกับการศกึ ษา แลว้ แต่กรณี มมี ตไิ มอ่ นุมัติใหแ้ จ้งข้อสงั เกต หรือเหตุผลใหผ้ ูเ้ สนอขอรับการประเมินทราบ 44
มาตรฐานกำ� หนดตำ� แหนง่ มาตรฐานต�ำแหนง่ และมาตรฐานวิทยฐานะ ของ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษากรงุ เทพมหานคร (ก.ก. กำ� หนดวนั ที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔)
Search