สารสนเทศเพือ่ การเรยี นรู้ (Information for Learning) 3000 - 1607
แนวคิด (Main Idea) สารสนเทศและการรู้สารสนเทศนับเป็นปัจจัยสาคัญในการพัฒนามนุษย์และ สังคมท้ังในเร่ืองความเจริญงอกงามท้ังด้านสติปัญญา การพัฒนาจิตใจ อารมณ์ สังคม ตลอดจนคุณภาพชีวิตของมนุษย์ เพราะปัจจุบันเป็นโลกของยุคข้อมูลข่าวสารท่ีมี เทคโนโลยีเข้ามาเก่ียวข้องโดยทาให้รู้มาก รู้เร็ว แล้วสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ได้อย่างมีคุณธรรม จริยธรรม ดังน้ันการเรียนรู้สารสนเทศจึงเป็นสิ่งจาเป็นท่ีจะทาให้ ผูเ้ รียนมีความร้มู ีคุณลักษณะทส่ี งั คมต้องการท้ังในดา้ นการศกึ ษาและการดารงชีวิต
ความหมายของสารสนเทศ 1. สารสนเทศหรือสารนิเทศ (Information) หมายถึง สื่อการศึกษา ทกุ ประเภทซ่งึ เปน็ ความรู้และข้อมูล 2. ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงท่ีอยู่ในรูปแบบต่างๆ ที่ยังไม่ได้ผ่านการ ประมวล 3. ทรัพยากรสารสนเทศ (Information Resources) หมายถึง วัสดุสิ่งของ รปู แบบตา่ งๆ ท่มี กี ารบนั ทึกจัดพิมพไ์ ว้ในส่ือต่างๆ 4. เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หมายถึง การนา เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ ื่นๆ มาใชร้ ่วมกัน 5. ความรู้ (Knowledge) หมายถึง สารสนเทศที่ได้ประมวลผลด้วยกระบวนการ ต่างๆ จนเป็นทย่ี อมรบั
ความสาคญั ของสารสนเทศ 1. ด้านเทคโนโลยีและวิทยาการต่างๆ จะมีส่วนในการกาหนดคุณภาพชีวิตของ มนษุ ย์ โดยการเข้าถงึ ได้สะดวก รวดเรว็ 2. การศึกษาค้นคว้าวิจัยสารสนเทศท่ีมีคุณค่า จะทาให้ผลงานการค้นคว้าน่าเช่ือถือ เป็นทีย่ อมรบั และนามาใช้ประโยชน์ 3. ดา้ นการเรยี นการสอน จัดรวบรวมไวใ้ นห้องสมุดและแหลง่ ความร้ตู ่างๆ 4. ดา้ นความสงบและสันติ สร้างโลกทัศนใ์ หม้ นุษย์เข้าใจซึ่งกนั และกัน 5. สารสนเทศทด่ี ี จะเป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาประเทศ 6. สร้างค่านิยมและทศั นคติทีด่ ี จะสรา้ งความต่อเนอื่ งไปสสู่ ่ิงทีด่ ใี นอนาคต 7. การตดั สนิ ใจจะเกดิ ประโยชน์สงู สดุ เมือ่ ไดร้ ับสารสนเทศทม่ี คี วามถูกตอ้ ง มีคณุ ค่า เพยี งพอ 8. ด้านการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สารสนเทศที่มีคุณค่าจะช่วยลดปัญหาการ ลองผดิ ลองถกู
ปัจจยั ทีท่ าให้สารสนเทศมคี ณุ ค่า 1. เน้ือหา ต้องมีเน้ือหาถูกต้องสมบูรณ์ ครบถ้วน ต่อเนื่อง จึงจะเป็นที่น่าเชื่อถือ และนาไปใช้ไดจ้ รงิ 2. เวลา ต้องเหมาะสมกับช่วงเวลาในการใช้งาน มีความทันสมัยและมีวิวัฒนาการ เป็นท่ยี อมรบั 3. รูปแบบ ต้องมีรูปแบบสวยงาม ชัดเจน กะทัดรัด เข้าใจง่าย จัดเรียงลาดับเป็น ขน้ั ตอนและถกู ตอ้ ง 4. กระบวนการเข้าถึง ต้องเข้าถึงสารสนเทศท่ีดีได้ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
การรู้สารสนเทศ การรู้สารสนเทศ (Information Literacy) หรือทักษะการใช้ประโยชน์จาก สารสนเทศหรือความรู้ทางสารสนเทศ หมายถึง การเข้าถึงการใช้สารสนเทศจากแหล่ง ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อแสวงหาความรู้ใหม่ๆ และการหย่ังรู้เพื่อการแก้ปัญหา ของตนและส่วนรวม ท้ังยงั รวมไปถึงการใช้อยา่ งมรี ะบบและมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม
ข้นั ตอนการรู้สารสนเทศ 1. มกี ารกาหนดขอบเขตและความตอ้ งการ ของสารสนเทศที่ต้องการอย่างชัดเจน 2. รู้จักแหล่งสารสนเทศและวิธีการสืบคน้ หรือการเขา้ ถงึ สารสนเทศ 3. การประเมนิ สารสนเทศ ต้องเลือก สารสนเทศทตี่ รงกบั ความตอ้ งการ ถกู ตอ้ ง สมบูรณ์ ประเมินได้ว่าสะดวกรวดเร็วใน การเขา้ ถงึ และมคี วามน่าเชื่อถือ 4. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และถูกกฎหมาย เมื่อได้สารสนเทศท่ีต้องการด้วยการผ่าน การประเมนิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์แลว้ จะไดน้ าไปใช้ให้เกดิ ประโยชนท์ ั้งตนเองและผอู้ ืน่ ตอ่ ไป
หนา้ ที่ ขอบเขต และวัตถปุ ระสงคข์ องแหลง่ เรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ แหล่งรวบรวมสารสนเทศทีเ่ ปน็ สรรพวชิ าการ ต่างๆ เพ่อื ให้บริการแกผ่ ้ใู ช้ มีบรรณารกั ษ์หรือเจา้ หนา้ ท่ี เปน็ ผู้ดูแลรบั ผดิ ชอบและบารงุ รกั ษาทั้งหมด 2. ศูนย์ขอ้ มลู แหล่งสะสมและเผยแพรข่ อ้ มลู ท่เี ปน็ ข้อมูลดบิ หรอื ขอ้ มูลทเี่ ป็นตัวเลขเฉพาะเรือ่ ง มักมี หน่วยงานเฉพาะจัดเก็บและประมวลขอ้ มูลไว้ใน คอมพวิ เตอร์
หน้าที่ ขอบเขต และวตั ถุประสงคข์ องแหลง่ เรยี นรู้ 3. ศนู ย์สารสนเทศหรอื ศูนย์เอกสาร แหลง่ จดั หา จดั เกบ็ และใหบ้ รกิ ารสารสนเทศเฉพาะ วิชาหรอื เฉพาะเรอ่ื งท่เี ป็นเอกสารทไ่ี มไ่ ดต้ ีพมิ พ์เผยแพร่ 4. ศนู ย์วเิ คราะห์สารสนเทศ แหล่งท่ีนาสารสนเทศมาคัดเลอื ก จัดสรร และนาเสนอ ข้อมูลเฉพาะวิชาซ่ึงไมม่ กี ารตพี ิมพ์ 5. ศูนยแ์ จกจา่ ยสารสนเทศ เปน็ หน่วยงานทท่ี าการรวบรวมและจัดเกบ็ หลกั ฐาน ใหบ้ ริการในรปู แบบบรรณานุกรมหรือดรรชนี
หน้าท่ี ขอบเขต และวตั ถปุ ระสงคข์ องแหลง่ เรยี นรู้ 6. หนว่ ยงานสถติ ิ หนว่ ยงานทใ่ี ห้ข้อมลู เปน็ ตัวเลขในรูปแบบ ตา่ งๆ ของแตล่ ะงานเพื่อใช้ในการวางแผนและวางโครงการ 7. ศูนยแ์ นะแหลง่ สารสนเทศ เปน็ ศนู ยบ์ รกิ ารท่ีให้คาแนะนาผูใ้ ชไ้ ปยงั แหลง่ สารสนเทศ รปู แบบตา่ งๆ โดยมนี ามานกุ รมและรายช่ือสารสนเทศทไ่ี ด้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย 8. หอจดหมายเหตุ แหลง่ งานทีเ่ กบ็ รักษาจดหมายเหตุ ซงึ่ เปน็ เอกสารทางวชิ าการและเอกสารทางประวตั ศิ าสตร์
ผูร้ ู้สารสนเทศ ผู้รู้สารสนเทศ (Information Literate Person) คือ ผู้ท่ีรู้วิธีการเรียนรู้ สารสนเทศว่า ความรู้ท่ีมีนั้นอยู่ที่ไหน มีการจัดระบบอย่างไร ค้นหาได้ด้วยวิธีใด และทา ประโยชน์ได้อย่างไร การเป็นผู้รู้สารสนเทศต้องมีจุดหมายชัดเจน มนุษย์ในปัจจุบันรับรู้ วา่ สารสนเทศเป็นองคป์ ระกอบที่จาเปน็ และสาคญั ยิง่ ในการตัดสนิ ใจ เพอื่ คุณภาพชีวิตทด่ี ี
คุณสมบัตขิ องผู้ร้สู ารสนเทศทป่ี ระสบความสาเรจ็ 1. ตอ้ งละทงิ้ ความสนั โดษไปส่คู วามรว่ มมือทางสงั คมมากข้นึ 2. ตอ้ งยอมรบั ว่าสารสนเทศทาใหโ้ ลกเล็กลง จาเปน็ ตอ้ งกลนั่ กรองให้ดี 3. ต้องตระหนักว่าสารสนเทศมีความจาเป็น ที่จะช่วยให้การทางานและ การตดั สนิ ใจประสบความสาเรจ็ 4. ตอ้ งศึกษาและเรยี นรแู้ หลง่ สารสนเทศ พร้อมสืบคน้ สารสนเทศได้ 5. สามารถกาหนดขอบเขตของปัญหาและ สารสนเทศที่ต้องการได้
คุณสมบตั ขิ องผู้รู้สารสนเทศทป่ี ระสบความสาเรจ็ 6. สามารถประมาณสารสนเทศและแหล่งสารสนเทศได้ตามตอ้ งการ 7. สามารถประมวลความคิดและวิเคราะห์สารสนเทศได้ 8. สามารถสืบค้นและใช้สื่อตา่ งๆ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 9. สามารถนาบริการสารสนเทศมาพฒั นาหรือบรู ณาการได้ 10. ตอ้ งใชส้ ารสนเทศอยา่ งมจี ริยธรรมและ ถูกกฎหมาย 11. มกี ารอา้ งองิ เอกสารการคน้ ควา้ เพือ่ ประกาศ เกยี รติเจา้ ของผลงาน
ความสาคัญของผรู้ ูส้ ารสนเทศ การรู้สารสนเทศเป็นทั้งความสามารถ ความรู้ทักษะ และกระบวนการท่ีเป็น ประโยชน์ในการพฒั นาทักษะชวี ติ และการเรียนรู้ ซง่ึ ความสามารถในการเข้าถึงและการใช้ สารสนเทศจะนาไปสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านสติปัญญา ด้านจิตใจ อารมณ์ ด้านการศึกษา ด้านอาชีพ การทางาน และด้านคณุ ภาพชวี ิต
The End
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: