ข้อสอบข้อเขียน/สัมภาษณ์ พระอภิธรรม ชั้น จูฬอาภธิรรมิกะเอก

ธัมมสงั คณปี กรณ 50 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๙. ก. (ใน)ทกุ มาตกิ าทีพ่ ระพทุ ธองคท รงเทศนานน้ั แบง ออกเปน กท่ี กุ ะ (ประเภท ?) อะไรบา ง จงยกตัวอยา งใน สทุ ธฺ และมสิ สฺ ก มาดว ย ? 47/2 ขยายความใหเ ขาใจดว ย ? 53/1 ขยายความใหเ ขา ใจดว ย ? 49/2, 51/1, 53/1, 53/2 ๙. ก. ในทกุ มาตกิ า ทพี่ ระพทุ ธองคท รงเทศนานน้ั แบง ออกเปนกปี่ ระเภท มีอะไรบา ง? จงขยายความ ? 56/1 [ขยายความใหเ ขา ใจ แตละประเภท ? 46/2] ตอบ ก. ในทกุ มาติกาทพี่ ระพทุ ธองคทรงเทศนานนั้ แบง ออกเปน ๒ ประเภท คือ ๑) สทุ ฺธทกุ ๒) มิสสฺ กทกุ เชน ในเหตโุ คจฺฉก สทุ ฺธทกุ นั้น ไดแก เหตุทุก สเหตุกทุก เหตุสมยฺ ตุ ฺตทกุ มิสฺสกทกุ นัน้ ไดแ ก เหตุสเหตุกทุก เหตุเหตุสมฺปยตุ ตฺ ทกุ นเหตุสเหตุกทกุ (46/2, 49/2, 51/1, 53/1, 56/1) ในโคจฉฺ กอนื่ ๆ ก็ทํานองเดียวกนั น้ี (46/2) ในมสิ ฺสกทุก ที่พระพุทธองคทรงเทศนาไวน้ี ก็แบงออกเปน ๒ ประเภทเชนเดียวกัน คือ อนุโลมทกุ และพยฺ ติเรกทกุ เชน ในเหตโุ คจฉฺ ก อนุโลมทุกนน้ั ไดแก เหตสุ เหตกุ ทุก เหตุเหตุสมฺปยตุ ฺตทกุ พฺยตเิ รกทุกนนั้ ไดแก นเหตุสเหตุกทกุ ในมิสฺสกทกุ แหงโคจฺฉก อืน่ ๆ ก็ทํานองเดยี วกันนี้ ๙. ทกุ มาตกิ าทพ่ี ระพทุ ธองคท รงเทศนานน้ั แบง ออกเปน กป่ี ระเภท ? อะไรบา ง ? จงยกตวั อยา งมาดว ย และใน กเิ ลสโคจฉฺ ก ของพุทฺธมตตฺ ฺภุ าสติ ทกุ มาติกานนั้ มที กุ ะกีป่ ระเภทอะไรบา ง? จงแสดงมาตามลาํ ดบั ? 45/2 ตอบ ทุกมาตกิ าทพี่ ระพทุ ธองคท รงเทศนานนั้ แบงออกเปน ๒ ประเภท คอื ๑. สุทธฺ ทกุ เชน เหตุทุก, สเหตกุ ทุก, เหตสุ มฺปยุตตฺ ทุก ๒. มิสสฺ กทุก เชน เหตุสเหตุกทกุ , เหตุเหตุสมปฺ ยุตตฺ ทุก, นเหตสุ เหตุกทกุ ในกเิ ลสโคจฉฺ ก ของพทุ ธฺ มตฺตฺภุ าสิตทุกมาติกาน้นั มที กุ ะ ๘ ประเภทคอื ๑. โนกิเลสสงกฺ ิเลสิกทกุ ๒. โนกเิ สสงฺกิลิฏ ทกุ ๓. โนกิเลสกิเลสสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ ๔. สงกฺ ิเลสิกสงลฺ ฏิ  ทกุ ๕. สงฺกิเลสิกกเิ ลสสมฺปยุตทฺ ุก ๖. สงกฺ เิ ลสกิ กเิ ลสทุก ๗. สงฺกิลิฏ กิเลสทกุ ๘. กเิ ลสสมฺปยตุ ฺตกิเลสทุก ๙. ข. เหตโุ คจฉฺ ก ของพทุ ธฺ มตตฺ ฺ ุภาสติ ทกุ มาตกิ านน้ั มกี ที่ กุ ะคอื อะไรบา ง จงแสดงมาตามลาํ ดบั ? 47/2 ๙. ก. ในพทุ ธมตั ตญั ภุ าสติ ทกุ มาติกานนั้ เหตโุ คจฉฺ กมกี ที่ กุ คอื อะไรบา ง ? 46/1, 50/2, 60/2 ๙. ทกุ ะทที่ า นอรรถกถาจารยและฎกี าจารย แสดงขยายความในเหตโุ คจฉฺ ก มกี ที่ กุ ะ คอื อะไรบา ง ? 53/1(9ข) และการแสดง เหตอุ เหตทุ กุ เหตเุ หตวุ ิปปฺ ยตุ ตฺ ทกุ นเหตเุ หตสุ มปฺ ยตุ ตฺ ทกุ โดยรวมทุกะใดเขา ดว ย ? 55/2 ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆ ที่ ขอ มลู เพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 51 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ข. ทกุ ะท่ีทานอรรถกถาจารยแ ละฏีกาจารย แสดงขยายความในเหตุโคจฺฉก มี ๙ ทุกะ คอื ข. ใน พทุ ฺธมตตฺ ฺุภาสติ ทุกมาติกา น้นั เหตโุ คจฺฉก มี ๙ ทกุ คอื ๑. เหตุอเหตุกทุก ๒. เหตุเหตุวปิ ปฺ ยุตตฺ ทกุ ๓. น เหตุเหตุสมฺปยุตฺตทกุ ๔. เหตสุ เหตุกทุก ๕. เหตุเหตุสมฺปยุตฺตทุก ๖. สเหตกุ เหตทุ ุก ๗. อเหตกุ เหตุทกุ ๘. เหตสุ มฺปยุตตฺ เหตทุ กุ ๙. เหตวุ ปิ ฺปยุตตฺ เหตทุ ุก ในปฐมบท (55/2) และการแสดง เหตุอเหตุกทกุ นัน้ ในทุติยบทนนั้ รวมเอาปฐมบทของ เหตทุ กุ กับทตุ ิยบทของสเหตกุ ทุกเขา ดว ยกนั รวมเอาทตุ ยิ บทของสเหตุกทุกกับทุติยบทของเหตุทุกเขา ดวยกนั ในปฐมบท ในทตุ ยิ บทน้นั การแสดงเหตุเหตุวิปฺปยุตตฺ ทุกน้นั รวมเอาปฐมบทของเหตุทุกกับทุตยิ บทของเหตุสมปฺ ยตุ ฺตทุกเขา ดว ยกนั ในปฐมบท รวมเอาทตุ ยิ บทของเหตสุ มฺปยตุ ฺตทกุ กบั ทตุ ิยบทของเหตทุ ุกเขา ดว ยกัน ในทตุ ยิ บท การแสดงนเหตุเหตสุ มปฺ ยตุ ฺตทกุ นั้น รวมเอา ทุติยบทของเหตุทุกกับปฐมบทของเหตสุ มฺปยตุ ตฺ ทุก เขา ดวยกนั รวมเอาทุติยบทของเหตุทุกกับทตุ ยิ บทของ เหตุสมฺปยุตฺตทุก เขา ดว ยกัน ๙. ข. ในการแสดง เหตอุ เหตกุ ทกุ เหตเุ หตวุ ปิ ปยตุ ตฺ ทุก นน้ั โดยรวมบทใดของทกุ ะใดเขา ดว ยกนั ? ใหแ สดงบาลพี รอ มทง้ั คาํ แปล ? 46/2 ตอบ ข. แสดงบาลพี รอมคาํ แปลและรวมบทดงั น้ี เหตุอเหตกุ ทกุ ป. เหตู เจว ธมมฺ า อเหตุกา จ. สภาวธรรมทงั้ หลายท่ีช่ือวาเหตุ แตไมม ีเหตปุ ระกอบมีอย.ู บทน้ีรวมเอาปฐมบทของเหตทุ ุก กบั ทตุ ิยบท ของสเหตกุ ทุก เขา ดว ยกนั ทุ. อเหตกุ า เจว ธมมฺ า น จ เหต.ู สภาวธรรมทง้ั หลายทไ่ี มมเี หตุประกอบและไม ชอ่ื วา เหตมุ อี ยู บทนีร้ วมเอาทตุ ิยบท ของสเหตกุ ทุกกับทตุ ิยบทของเหตุทุก เขา ดว ยกัน เหตุเหตุวปิ ปฺ ยตุ ตทกุ ป. เหตู เจว ธมฺมา เหตวุ ิปฺปยตุ ฺตา จ. สภาวธรรมทง้ั หลายท่ชี อ่ื วา เหตุแตไ มป ระกอบดว ยเหตมุ ีอยู บทนี้รวมเอา ปฐมบทของเหตุทุก กับทตุ ยิ บทของเหตุสมฺปยุตฺตทุกเขา ดวยกัน ท.ุ เหตวุ ปิ ฺปยตุ ตฺ า เจว ธมมฺ า น จ เหตู สภาวธรรมท้ังหลายที่ไมป ระกอบดวยเหตุ และไมช่ือวา เหตุมีอยู บท น้ี รวมเอาทตุ ยิ บทของเหตุสมฺปยุตฺตทุก กบั ทตุ ยิ บทของเหตุทุก เขาดวยกนั ๙. ข. จงแปล แสดงองคธ รรม และจาํ แนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ของ เหตู เจว ธมมฺ า เหตุวปิ ปฺ ยตุ ตฺ า จ ? 50/2 ตอบ ข. เหตู เจว ธมมฺ า เหตุวปิ ปฺ ยุตตฺ า จ สภาวธรรมทั้งหลาย ท่ชี อื่ วา เหตุ แตไมป ระกอบดวยเหตุ มอี ยู องคธรรมไดแก โมหเจตสกิ ทใี่ นโมหมลู จติ ๒ ธรรมเหลา นี้เมอ่ื จําแนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ แลวได สงั ขารขันธ ๑ ธมั มายตนะ ๑ ธมั มธาตุ ๑ ทุกขสจั จ ๑ ๙. ใหแ สดงเปน ปฐมบท และทตุ ยิ บท โดยยกเอา ? 52/1 ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ที่ ขอ มลู เพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 52 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ก. ทตุ ยิ บท ของ สเหตกุ ทกุ เขา ใน เหตทุ ุก (ป.ม)ี ไมม +ี ช่ือ, ไมม+ี ไมช ่อื ข. ทตุ ยิ บท ของ อาสวสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ เขา ใน อาสวทกุ (ป.ประกอบ) ไมป ระกอบ+ช่ือ, ไมป ระกอบ+ไมช ่ือ ค. ทุตยิ บท ของ อปุ าทานสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ เขาใน อปุ าทานทกุ (ป.ประกอบ) ไมป ระกอบ+ช่ือ  ตอบ แสดงเปนปฐมบท และทุตยิ บท ดงั ตอไปนี้ คือ ก. ทุติยบท ของ สเหตกุ ทุก เขา ใน เหตทุ ุก ปฐมบท อเหตกุ า ธมมฺ า เหตปู . ทตุ ิยบท อเหตุกา ธมฺมา น เหตปู . ข. ทุติยบท ของ อาสวสมฺปยตุ ตฺ ทกุ เขาใน อาสวทกุ ปฐมบท อาสววิปฺปยุตฺตา ธมฺมา อาสวาป. ทตุ ิยบท อาสววปิ ฺปยตุ ตา ธมฺมา โน อาสวาป. ค. ทุติยบท ของ อุปาทานสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ เขา ใน อปุ าทานทุก ปฐมบท อุปาทานวิปฺปยตุ ฺตา ธมฺมา อุปาทานาป. ทตุ ยิ บท อปุ าทานวิปฺปยตุ ฺตา ธมฺมา โน อุปาทานาป. ๙. ใหแ สดงเปน ปฐมบทและทตุ ยิ บทพรอ มทงั้ (คาํ )แปลโดยยกเอา ? 43/2, 48/2, 58/2, 61/1 ๙. ข. ใหแ สดงเปน ปฐมบท และทตุ ิยบทพรอมทง้ั คาํ แปลโดยยกเอา ทตุ ยิ บทของสเหตกุ ทกุ เขา ใน เหตทุ กุ ? 60/2 ๙. ใหแ สดงเปน ปฐมบทและทตุ ยิ บท พรอมทั้งคําแปลและแสดงองคธ รรมมาดว ย โดยยกเอา ? 44/1, 47/1, 63/2 ก. ทตุ ยิ บทของ สเหตกุ ทุก เขา ใน เหตทุ กุ (ป.ม)ี ไมม +ี ช่ือ, ไมม+ี ไมช อ่ื ข. ทตุ ยิ บทของ อาสวสมปฺ ยตุ ตฺ ทุก เขา ใน อาสวทกุ (ป.ประกอบ) ไมป ระกอบ + ช่อื , ไมป ระกอบ+ไมช ื่อ ค. ทตุ ยิ บทของ อปุ าทานสมปฺ ยตุ ตฺ ทุก เขา ใน อปุ าทานทกุ (ป.ประกอบ) ไมประกอบ + ช่อื ,  ตอบ ก. แสดงทุตยิ บทของ สเหตกุ เขาใน เหตุทุก ปฐมบท อเหตกุ า ธมมฺ า เหตูป. สภาวธรรมทง้ั หลายที่ไมมเี หตุประกอบ แตช ่อื วาเหตุ มีอยู (44/1, 47/1) องคธรรมไดแก โมหเจตสกิ ทใ่ี น โมหมลู จติ ๒ ทตุ ิยบท อเหตกุ า ธมฺมา น เหตปู . สภาวธรรมทง้ั หลายทไี่ มมีเหตุประกอบ และไมช่ือวา เหตุ มอี ยู (44/1, 47/1) องคธ รรมไดแก อเหตุกจิต ๑๘ อญั ญสมานเจตสิก ๑๒ (เวนฉันทะ) รปู ๒๘ นิพพาน ข. แสดงทตุ ยิ บทของ อาสวสมฺปยตุ ทฺ ุก เขา ใน อาสวทุก ปฐมบท อาสววปิ ฺปยตุ ฺตา ธมมฺ า อาสวาป. สภาวธรรมทั้งหลายที่ไมประกอบดว ยอาสวะ แตช ื่อวา อาสวะมีอยู (44/1, 47/1) องคธ รรมไดแ ก โมหเจตสกิ ท่ีใน โทสมลู จิต ๒ โมหมูลจิต ๒ ทุติยบท อาสววปิ ฺปยตุ ตฺ า ธมฺมา โน อาสวาป. สภาวธรรมทั้งหลายที่ไมประกอบดว ยอาสวะ และไมชื่อวาอา สวะ มีอยู (44/1, 47/1) องคธรรมไดแก กุศลจิต ๒๑ วิปากจิต ๓๖ กรยิ าจิต ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ นิพพาน ค. แสดงทตุ ิยบทของ อุปาทานสมฺปยุตตฺ ทุก เขาใน อปุ าทานทกุ ปฐมบท อปุ าทานวิปฺปยุตตฺ า ธมฺมา อุปาทานาป. สภาวธรรมทั้งหลายท่ีไมประกอบดวยอุปาทาน แตชื่อวา อปุ าทาน มอี ยู (47/1) องคธ รรมไดแ ก โลภเจตสกิ ที่ในทิฎฐคิ ตวปิ ปฺ ยุตฺตจิต ๔ ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆ ที่ ขอมลู เพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 53 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ทุติยบท. อปุ าทานวปิ ฺปยตุ ฺตา ธมฺมา โน อปุ าทานาป. สภาวธรรมทง้ั หลายทไี่ มประกอบดวยอุปาทาน และไม ชื่อวาอปุ าทาน มีอยู (47/1) องคธรรมไดแก โทสมูลจิต ๒ โมหมลู จติ ๒ กศุ ลจิต ๒๑ วปิ ากจติ ๓๖ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสิก ๔๙ (เวน โลตกิ ะ ๓) รปู ๒๘ นพิ พาน ๙. ก. ทุกะทท่ี า นอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความใน อาสวโคจฉฺ ก มกี ่ีทกุ ะ ? คอื อะไรบา ง ? (พทุ ธมัตตัญุภาษติ ทุกมาตกิ า) ? 54/1 ตอบ ก. ทกุ ะทที่ า นนอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความใน อาสวโคจฺฉก มี ๘ ทุกะ คอื ๑. อาสวอาสววปิ ฺปยุตตฺ ทกุ ๒. โนอาสวสาสวทุก ๓. อาสวอาสวสมฺปยตุ ฺตทกุ ๔. โนอาสวอาสวสมปฺ ยุตตฺ ทกุ ๕. สาสวอาสวสมฺปยตุ ตฺ ทกุ ๖. สาสวอาสวทกุ ๗. อาสวสมฺปยตุ ตฺ อาสวทกุ ๘. อาสววปิ ฺปยตุ ฺตอาสวทกุ ๙. ทกุ ะทท่ี านอรรถกถาจารยแ ละฎกี าจารย แสดงขยายความใน คนถฺ โคจฉฺ ก มกี ท่ี กุ ะ ? คอื อะไรบา ง ? (พุทธมตั ตญั ุภาษติ ทกุ มาตกิ า) และจงแปลพรอ มทงั้ แสดงองคธ รรม จาํ แนกขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบทตอไปนี้ คนถฺ า เจว ธมมฺ า คนถฺ วปิ ปฺ ยุตตฺ า จ ? 52/2 ตอบ ทกุ ะทีท่ านพระอรรถกถาจารยแ ละฎกี าจารยแ สดงขยายความในอปุ าทานโคจฉฺ กมี ๘ ทกุ ะ คอื ๑. คนฺถคนฺถวิปฺปยุตตฺ ทกุ ๒. โนคนฺถคนฺถนิยทกุ ๓. คนถฺ คนฺถสมฺปยุตฺตทุก ๔. โนคนฺถคนถฺ สมปฺ ยุตตฺ ทุก ๕. คนฺถนิยคนฺถสมปฺ ยุตฺตทุก ๖. คนฺถนิยคนฺถทกุ ๗. คนฺถสมฺปยตุ ฺตคนฺถทุก ๘. คนถฺ วิปฺปยตุ ตฺ คนถฺ ทุก แปลและแสดงองคธรรมในบท คนถฺ า เจว ธมมฺ า คนถฺ วปิ ปฺ ยตุ ฺตา จ ดังนี้คือ สภาวธรรมทง้ั หลายทชี่ ่ือวา คนั ถะแตไมป ระกอบดว ยคันถะ มอี ยู องคธ รรมไดแก โลภเจตสกิ ท่ใี นทฎิ ฐิคตวิปฺปยตุ ตฺ จติ ๔ โทสเจตสกิ ทใี่ นโทสะมลู จติ ๒ ธรรมเหลา น้ีเมอื่ จําแนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลวได สงั ขารขนั ธ ๑ ธมั มายตนะ ๑ ธมั มธาตุ ๑ สัจจะ ๒ คือ โทสเจตสกิ ที่ในโทสะมูลจิต ๒ เปนทุกขสจั จ โลภเจตสกิ ทใ่ี นทฎิ ฐคิ ตวิปปฺ ยุตตฺ จติ ๔ เปน สมุทยั สัจจ ๙. ทกุ ะท่แี สดงขยายความใน คนถฺ โคจฉฺ ก มีเทา ใด คอื อะไรบา ง ? และจงยกองคธ รรมในบทตอ ไปน้ี ? 55/1, 57/1, 60/1 ก. คนฺถา ธมมฺ า คนถฺ สมปฺ ยุตตฺ าป. ข. คนถฺ นยิ า ธมมฺ า คนถฺ าป. ค. คนถฺ นิยา ธมฺมา โน คนถฺ าป. ตอบ ทกุ ะทแี่ สดงขยายความใน คนถฺ โคจฉฺ ก มี ๘ ทกุ ะ คือ :-  และยกองคธ รรมในบทตอ ไปนี้ มีดงั นี้ ก. คนถฺ า ธมมฺ า คนถฺ สมปฺ ยุตตฺ าป. องคธ รรมไดแ ก คันถะองคธรรม ๒ คือ โลภเจตสิกท่ีใน ทิฏฐิคตสัมปยุตตจิต ๔ และทิฏฐเิ จตสกิ . ข. คนถฺ นยิ า ธมมฺ า คนถฺ าป. องคธรรมไดแก คนั ถะองคธรรม ๓ คือ โลภะ โทสะ ทิฏฐ.ิ ค. คนถฺ นิยา ธมมฺ า โน คนถฺ าป. องคธ รรมไดแ ก โลกียจิต ๘๑ เจตสกิ ๔๙ (เวนคันถะองคธ รรม ๓) รูป ๒๘. ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆ ท่ี ขอมลู เพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 54 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๙. ข. ในโอฆโคจฉฺ ก มีทกุ ะเทา ไร ? คอื อะไรบา ง ? (พทุ ธมตั ตญั ภุ าสติ ทกุ มาติกา) 51/1 ตอบ ข. ใน โอฆโคจฉฺ ก มี ๘ ทกุ ะ คือ ๑. โอฆโอฆวิปฺปยุตตฺ ทุก ๒. โน โอฆโอฆนิยทุก ๓. โอฆโอฆสมฺปยุตตฺ ทกุ ๔. โน โอฆโอฆสมฺปยุตฺตทกุ ๕. โอฆนยิ โอฆสมปฺ ยตุ ฺตทกุ ๖. โอฆนิยโอฆทกุ ๗. โอฆสมปฺ ยุตฺตโอฆทกุ ๘. โอฆวปิ ฺปยุตตฺ โอฆทุก ๙. ก. ทกุ ะทท่ี า นอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความใน นวี รณโคจฉก มกี ีท่ กุ ะ ? คอื อะไรบา ง ? (พทุ ธมตั ตญั ภุ าษติ ทกุ มาตกิ า) ? 59/2, 61/2 ตอบ ก. ทกุ ะทท่ี า นอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความใน นีวรณโคจฉฺ ก มี ๕ ทุกะ คอื ๑. โน นวี รณนวี รณยิ ทกุ ๒. โน นีวรณนีวรณสมปฺ ยุตฺตทกุ ๓. นวี รณิยนีวรณสมฺปยตุ ฺตทกุ ะ ๔. นวี รณยิ นีวรณทกุ ๕. นวี รณสมปฺ ยตุ ตฺ นีวรณทกุ ๙. จงแสดงบททเี่ ปน ไปโดยอาศยั การประกอบกนั ของ มลู ะ มูลี ดงั ตอไปนี้ ? เปน มูลี ก. ทตุ ยิ บท ของ นวี รณทุก เปน มลู ะ นีวรณยิ ทกุ ข. ปฐมบท ของ นวี รณยิ ทกุ เปน มูละ นวี รณสมฺปยตุ ฺตทกุ เปน มูลี ค. ปฐมบท ของ นวี รณสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ เปน มูละ นีวรณทกุ เปน มูลี 51/2, 54/2, 56/1, 59/2(9ข), 61/2(9ข) ตอบ (ข.) บทที่เปน ไปโดยอาศัยการประกอบกนั ของมลู ะ มลู ี มดี งั น้ี คือ ก. โน นวี รณา ธมมฺ า นีวรณยิ าป เปนปฐมบท, โน นวี รณา ธมมฺ า อนวี รณยิ าป เปนทตุ ยิ บท ข. นวี รณิยา ธมฺมา นีวรณสมปฺ ยตุ ตฺ าป เปนปฐมบท, นวี รณยิ า ธมมฺ า นีวรณวิปฺปยุตฺตาป เปนทุติยบท ค. นีวรณสมฺปยตุ ตฺ า ธมฺมา นีวรณาป เปนปฐมบท, นีวรณสมฺปยตุ ฺตา ธมฺมา โน นีวรณาป เปนทตุ ิยบท ๙. ทุกะทที่ า นนอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความใน อปุ าทานโคจฉก มกี ที่ กุ ะ ? คอื อะไรบา ง ? (พทุ ธมตั ตญั ภุ าษิตทกุ มาตกิ า) และจงแปลพรอ มทัง้ แสดงองคธ รรม จาํ แนกขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ในบทตอไปน้ี อปุ าทานา เจว ธมมฺ า อปุ าทานวิปฺปยตุ ตฺ า จ ? 45/1, 49/1, 50/1, 59/1 ๙. ข. ในอปุ าทานโคจฺฉก มที กุ ะเทาไร ? คอื อะไรบา ง ? (พทุ ธมตั ตญั ภุ าสติ ทกุ มาตกิ า) 49/2, 53/2 ตอบ ทกุ ะท่ที า นนอรรถกถาจารย และฎีกาจารย แสดงขยายความใน อุปาทานโคจฉก มี ๘ ทกุ ะ คือ ข. ในอปุ าทานโคจฺฉก มี ๘ ทุกะ คือ ๑) อุปาทานอปุ าทานวิปฺปยุตตฺ ทุก ๒) โนอุปาทานอปุ าทานยิ ทุก ๓) อปุ าทานอปุ าทานสมฺปยตุ ฺตทุก ๔) โนอุปาทานอุปาทานสมฺปยุตฺตทุก ๕) อปุ าทานยิ อุปาทานสมฺปยตุ ตฺ ทุก ๖) อุปาทานยิ อปุ าทานทุก ๗) อุปาทานสมฺปยตุ ตฺ อุปาทานทุก ๘) อุปาทานวปิ ฺปยุตตฺ อปุ าทานทกุ แปลและแสดงองคธรรมในบท อุปาทานา เจว ธมมฺ า อปุ าทานวปิ ฺปยตุ ฺตา จ สภาวธรรมทัง้ หลายที่ชอ่ื วา อุปาทาน แตไมป ระกอบดวยอุปาทาน มอี ยู. องคธ รรมไดแ ก โลภเจตสกิ ทใ่ี นทฏิ ฐคิ ตวิปปยุตตจิต ๔ ธรรมเหลา นี้เม่ือจาํ แนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลว ได สงั ขารขนั ธ ๑ ธมั มายตนะ ๑ ธัมมธาตุ ๑ สัจจะ ๑ คือ โลภเจตสกิ เปน สมุทัยสจั จ ดาวนโหลดขอมูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพม่ิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 55 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๙. ข. จงแปล แสดงองคธ รรมและจาํ แนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ของ อปุ าทานา เจว ธมมฺ า อปุ าทานวปิ ปฺ ยตุ ตฺ า จ ? 46/1 ตอบ ข. อุปาทานา เจว ธมมฺ า อปุ าทานวปิ ปฺ ยตุ ตฺ า จ สภาวธรรมทั้งหลายที่ชอื่ วา อุปาทาน แตไ ม ประกอบดวยอุปาทาน มีอยู องคธรรมไดแ ก โลภเจตสิกทใี่ นทิฏฐคิ ตวิปฺปยุตฺตจติ ๔ ธรรมเหลาน้ีเม่อื จําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลวได สังขารขันธ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธมั มธาตุ ๑ สมุทยสจั จ ๑ ๙. ก. จงแสดงบททเี่ ปน ไปโดยอาศยั การประกอบกันของมลู ะ มลู ี ดงั ตอ ไปนพี้ รอ มทงั้ คาํ แปล ? 44/2 ๑. ทตุ ยิ บทของ กิเลสทกุ เปน มลู ะ สงกฺ ลิ ฏิ  ทุก เปน มลู ี ๒. ปฐมบทของ สงฺกเิ ลสิกทกุ เปน มลู ะ สงกฺ ลิ ฏิ  ทกุ เปน มลู ี ตอบ ก. แสดงบทที่เปนไปโดยอาศัยการประกอบกนั ของมูละ มลู ี ดังน้พี รอมคําแปล ๑. โนกเิ ลสา ธมฺมา สงกฺ ลิ ฏิ  าป เปนปฐมบท สภาวธรรมทง้ั หลายที่ไมชื่อวากิเลส แตถูกกิเลสทาํ ใหเ ศรา หมองเรา รอ น มอี ยู โนกเิ ลสา ธมมฺ า อสงฺกลิ ฏิ  าป เปนทตุ ิยบท สภาวธรรมทงั้ หลายที่ไมช ่ือวากิเลส และไมถ กู กิเลสทาํ ใหเศราหมองเรา รอ น มอี ยู ๒. สงกฺ เิ ลสกิ า ธมฺมา สงกฺ ิลฏิ  าป เปน ปฐมบท สภาวธรรมทัง้ หลายที่เปน อารมณข องกเิ ลส และถูกกเิ ลสทําใหเ ศรา หมองเรา รอ น มีอยู สงกฺ เิ ลสกิ า ธมมฺ า อสงกฺ ลิ ฏิ  าป เปนทตุ ยิ บท สภาวธรรมทั้งหลายที่เปนอารมณข องกิเลส แตไ มถกู กิเลสทาํ ใหเศราหมองเรา รอ น มีอยู ๙. จงแสดงบททเี่ ปน ไป โดยอาศัยการประกอบกนั ของมลู ะ มลู ี ดงั ตอ ไปนี้ พรอ มท้งั แสดงองคธ รรมของบท เหลา นน้ั มาดว ย ? 48/1, 56/2, 57/2, 58/1, 62/2 ก. ทตุ ยิ บทของ กเิ ลสทกุ เปน มูละ สงกฺ ลิ ฏิ  ทกุ เปน มลู ี ข. ปฐมบทของ สงกฺ เิ ลสิกทกุ เปน มูละ สงกฺ ลิ ฏิ  ทกุ เปน มลู ี ค. ปฐมบทของ สงกฺ ลิ ฏิ  ทกุ เปน มูละ กเิ ลสทกุ เปน มลู ี ตอบ แสดงบททีเ่ ปน ไปโดยอาศยั การประกอบกนั ของ มูละ มลู ี พรอ มท้ังแสดงองคธรรม ดังน้ี ก. โน กเิ ลสา ธมฺมา สงฺกิลิฏ าป. เปน ปฐมบท องคธรรมไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ เจตสกิ ๑๗ (เวนกิเลสองคธ รรม ๑๐) โน กิเลสา ธมมฺ า อสงกฺ ิลิฏาป. เปน ทตุ ิยบท องคธรรมไดแ ก กุศลจิต ๒๑ วิปากจิต ๓๖ กริยาจติ ๒๐ เจตสิก ๓๘ รู ป๒๘ นิพพาน ข. สงฺกเิ ลสิกา ธมมฺ า สงกฺ ิลิฏาป. เปนปฐมบท องคธ รรมไดแก อกุศลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ สงกฺ เิ ลสิกา ธมมฺ า อสงกฺ ิลฏิ  าป. เปน ทุติยบท องคธ รรมไดแ ก โลกยี กุศลจติ ๑๗ โลกยี วปิ ากจิต ๓๒ กริยาจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รปู ๒๘ ค. สงฺกลิ ฏิ  า ธมฺมา กเิ ลสาป. เปนปฐมบท องคธ รรมไดแ ก ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพมิ่ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 56 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) กเิ ลสองคธ รรม ๑๐ คอื โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจกิ ิจฉา ถีนะ อทุ ธจั จะ อหิริกะ อโนตตัปปะ สงกฺ ิลฏิ  า ธมฺมา โน กเิ ลสาป. เปนทตุ ิยบท องคธรรมไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ เจตสิก ๑๗ (เวนกเิ ลสองคธ รรม ๑๐) ขอ ๑๐ สตุ ตฺ นฺตกิ ทกุ มาตกิ า (ทเี่ คยออกสอบขอ ๑๐ = ๑๐ คะแนน คราวน้จี ะออกขอ ไหนดี) ๑๐. ข. ใหจ ําแนกองคธ รรมเหลา น้ี โดยสัจจะ และสัจจวมิ ตุ ? 43/1 (๑) จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ ? 43/1(10ข1/3) (๒) มคั คจติ ๔ เจตสกิ ๓๖? 43/1(10ข2/3) (๓) โลกียจิต ๘๑ ผลจิต ๔ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน? 43/1(10ข3/3) ตอบ ข. (๑) จําแนกโดยสัจจะ มี ๓ คอื โลกียจติ ๘๑ เจตสกิ ๕๑ (เวน โลภะ) เปนทกุ ขสจั จ โลภเจตสกิ เปนสมทุ ยั สจั จ องคมรรค ๘ หรือ ๗ (เวนสัมมาสังกัปปมรรค) ที่ในมรรคจติ ๔ เปน มัคคสัจจ มรรคจติ ตปุ ปาทที่เหลอื ๒๙ ผลจติ ตุปปาท ๓๗ เปนสจั จวิมุต (๒) จําแนกโดยสัจจะมี ๑ คอื องคมรรค ๘ หรอื ๗ (เวนสมั มาสงั กปั ปมรรค) ทีใ่ นมรรคจิต ๔ เปนมคั คสัจจ มคั คจติ ตปุ ปาททเี่ หลอื ๒๙ เปนสจั จวมิ ตุ (๓) จาํ แนกโดยสัจจะแลว มี ๓ คือ โลกียจติ ๘๑ เจตสิก ๕๑ (เวน โลภะ) รูป ๒๘ เปนทกุ ขสัจจ โลภเจตสกิ เปนสมทุ ยั สัจจ นพิ พาน เปน นโิ รธสจั จ ผลจิตตปุ ปาท ๓๗ เปนสจั จวิมตุ ๑๐. ก. จงเพม่ิ ขอ ความทลี่ ะไวด งั ตอ ไปนี้ “สตุ ตันตกิ ทกุ มาตกิ านี้ พระสารบี ตุ รซงึ่ เปน ธรรมเสนาบด.ี ......... ซง่ึ เปน พทุ ธภาษติ นน้ั เอง” ? 49/2 ตอบ ก. เพมิ่ ขอความทลี่ ะไว มดี งั น้ี คอื สตุ ตันตกิ ทกุ มาติกาน้ี พระสารีบุตรซง่ึ เปนธรรมเสนาบดี ได อญั เชญิ มาแต องั คุตตรนิกาย ซ่ึงเปนพุทธภาษิตแสดงแกพ ระเถระศิษยานศุ ิษยของทา น ซง่ึ กําลังศกึ ษาพระ อภิธรรมเพ่อื ประโยชนใ นกาลเมื่อถึงคราวศกึ ษาพระสตู ร จะไดม ีความสะดวกสบาย อนึ่งสุตตฺ นตฺ ิกทกุ มาติกา นี้ แมว า พระพุทธองคไ มไ ดทรงแสดงโดยตรงก็จริง แตก็อนุโลมเขาเปนพทุ ธภาษิต เพราะพระสารบี ตุ ร ซ่งึ เปน ธรรมเสนาบดไี ดอ ญั เชญิ มาจากเอกนบิ าต, ทุกนิบาต แหง องั คตุ ตรนิกาย และสังคตี สิ ตู ร, ทสุตตรสูตร แหงทีฆนิกาย ซ่งึ เปนพุทธภาษิตนนั้ เอง ๑๐. ข. ใหแ ปลและแสดงองคธ รรมในบาลี ดังตอ ไปนี้ วชิ ชฺ ปู มา ธมมฺ า และ อวชิ ชฺ า จ อตถฺ ิ ? 55/1 ๙. ข. วชิ ชฺ าภาคโิ น ธมมฺ า, อวิชฺชา จ อตถฺ ิ แปลวา อยา งไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 44/2 ตอบ ข. แปลและแสดงองคธ รรมในบาลี ดงั ตอไปนี้ มดี ังน้ี คอื วชิ ชฺ ปู มา ธมมฺ า. สภาวธรรมทง้ั หลายทีเ่ ปรียบเสมือนสายฟาแลบ มอี ยู องคธ รรมไดแ ก ปญญาเจตสกิ ท่ีในมัคคจติ เบ้ืองตํา่ ๓ อวชิ ชฺ า จ อตฺถ.ิ สภาวธรรมทไี่ มรใู นอริยสัจจะ ๔ หรือ ไมร ใู นสงิ่ ทีค่ วรรแู ละรูในสิ่งทไ่ี มค วรรู มอี ยู องคธ รรมไดแก โมหเจตสกิ . ตอบ ข. วิชชฺ าภาคโิ น ธมมฺ า แปลวาสภาวธรรมทง้ั หลายที่เขา ถึงวิชชา ๘ ดว ยอาํ นาจแหงการประกอบ หรอื ท่ีเปนสว นแหง วชิ ชา ๘ มีอยู องคธ รรมไดแ ก มหากุศลญาณสัมปยุตตจิต ๔ มหากริยาญาณสมั ปยุตตจติ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอมูลเพ่ิมเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 57 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๔ อภญิ ญาจิต ๒ อรหตั ตมคั คจติ ๑ เจตสกิ ๓๗ (เวนปญญา) ทีป่ ระกอบดว ยวิชชา ๘ คือ วปิ ส สนาญาณ มโนมยทิ ธญิ าณ อทิ ธิวธิ ญาณ ปรจติ ตวชิ ชานนญาณ ปุพเพนวิ าสานุสสตญิ าณ ทิพพจักขุญาณ ทพิ พโสต ญาณ อาสวกั ขยญาณ อวิชชฺ า จ อตถฺ ิ แปลวา  ๑๐. จงแปลและแสดงองคธรรม ในบทดงั ตอ ไปนี้ ? (๕ ขอยอ ย ๒ คะแนน/ขอ) ก. วชิ ชฺ าภาคโิ น ธมมฺ า 46/2, 55/2, 56/2, 58/2, 59/2, 62/2 ข. อวิชฺชาภาคิโน ธมมฺ า 50/2, 58/1 ก. สภาวธรรมทั้งหลายท่ีเขาถึงวิชชา ๘ ดวยอาํ นาจแหง การประกอบหรือท่ีเปนสว นแหงวชิ ชา ๘ มอี ยู. องคธรรม ไดแ ก มหากุศลญาณสัมปยตุ ตจติ ๔ มหากรยิ าญาณสมั ปยุตตจิต ๔ อภญิ ญาจิต ๒ อรหัตต มคั คจิต ๑ เจตสกิ ๓๗ (เวน ปญ ญา) ทป่ี ระกอบดว ยวชิ ชา ๘ คอื วิปสสนาญาณ มโนมยทิ ธิญาณ อิทธวิ ธิ ญาณ ปรจิตตวชิ ชานนญาณ ปุพเพนิวาสานสุ สติญาณ ทิพพจักขุญาณ ทิพพโสตญาณ อาสวกั ขยญาณ. ข. สภาวธรรมทัง้ หลายที่เขาถงึ อวิชชาทัง้ ๔ อนั มสี ภาพปกปดสัจจะ ๔ ดว ยอาํ นาจแหงการประกอบหรอื ที่ เปนสวนแหงอวิชชา ๔ มีอยู องคธ รรมไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๖ (เวน โมหะ) ก. วิชชฺ ูปมา ธมมฺ า 50/1, 51/2, 55/2 ข. วชริ ปู มา ธมฺมา 46/2, 50/1, 50/2, 51/2, 55/2, 58/1, 58/2, 60/2 ก. สภาวธรรมท้ังหลายที่เปรยี บเสมือนสายฟาแลบมีอยู องคธ รรมไดแก ปญ ญาเจตสิกที่ในมคั คจติ เบื้องตํ่า ๓ ข. สภาวธรรมทง้ั หลายท่เี ปรยี บเสมือนฟาผา มีอยู องคธรรมไดแ ก ปญญาเจตสกิ ท่ีในอรหตั ตมคั คจิต ๑ ค. กณหฺ า ธมมฺ า 51/2 ง. สกุ กฺ า ธมฺมา 50/1, 51/2, 55/1, 58/1 ค. กณฺหา ธมมฺ า. สภาวธรรมทงั้ หลายทม่ี สี ภาพดํา หรอื ท่ีเปนเหตแุ หง ธรรมฝายดําคือ การท่ีไดรบั ความ ลาํ บากในอบายภูมแิ ละไมม ีบุญมอี ยู องคธ รรม ไดแก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ ง. สภาวธรรมทง้ั หลายที่มีสภาพขาว หรือท่ีเปน เหตุแหงธรรมฝา ยขาว คอื การท่ีไดร ับความสุขในสุคติภูมิและ การมีบุญ มีอยู องคธ รรมไดแ ก กุศลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ จ. อตปนยิ า ธมมฺ า 55/2 ตอบ แปลและแสดงองคธรรมในบทตอไปน้ี มดี งั นี้ จ. สภาวธรรมทงั้ หลายทไ่ี มทําใหสัตวเรารอนและทําใหม คี วามสุขทัง้ ในโลกน้แี ละโลกหนา มีอย.ู องคธรรมไดแ ก กุศลจิต ๒๑ เจตสกิ ๓๘ ก. นามจฺ อตถฺ ิ 45/1, 56/1, 58/1, 58/2 ข. รปู ฺจ อตถฺ ิ ? 45/1, 56/1 ก. นามจฺ อตถฺ ิ สภาวธรรมทีเ่ ปน นามธรรม หรือ ที่มสี ภาพนอ มไปสอู ารมณได หรอื ท่ีสามารถ ใหจิต เจตสิกนอมไปสตู นได มอี ยู องคธ รรมไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นิพพาน ข. รปู ฺจ อตถฺ ิ สภาวธรรมทเ่ี ปน รูป หรอื ทีม่ สี ภาพเสือ่ มสิ้นผนั แปร หรือสภาวะท่ีเขาถึงความเสอ่ื มส้ิน ผนั แปรไป เพราะความเย็น ความรอ น และธรรมที่เปน ปฏปิ ก ษตอ กนั มอี ยู องค ธรรมไดแก รูป ๒๘ ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ที่ ขอ มลู เพ่ิมเติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 58 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ค. สมปฺ ชฺ ฺ จ อตถฺ ิ 46/2 ง. วชิ ชฺ า จ อตถฺ ิ 46/2 ค. สภาวธรรม คอื ปญ ญาท่ีสามารถรอบรูดว ยดีโดยประการทงั้ ปวง มีอยู องคธรรมไดแก ปญญาเจตสิก ง. สภาวธรรม คือ ปญ ญาที่ทาํ ลายโมหะใหส นิ้ ไป และกระทําความจริงใหป รากฏ มอี ยู องคธรรมไดแ ก ปญ ญาเจตสกิ ทเ่ี ปน ปพุ เพนวิ าสานสุ สติญาณ จตุ ูปปาตญาณ อาสวกั ขยญาณ ง. ธาตกุ สุ ลตา จ อตถฺ ิ 58/2 ง. สภาวธรรมท่กี ระทําบุคคลใหเปนผูฉลาดในการรูธาตุ ๑๘ มีอย.ู องคธ รรมไดแก ปญญาเจตสกิ ท่ใี นมหา กศุ ลญาณสัมปยุตตจติ ๔ มหากรยิ าญาณสัมปยตุ จิต ๔ อภญิ ญาจิต ๒ มคั คจิต ๔ ที่รใู นธาตุ ๑๘ จ. ขนตฺ ิ จ อตถฺ .ิ 50/1, 56/2(ข), 58/1, 59/2, 62/2 จ. สภาวธรรมทกี่ ระทาํ บุคคลใหเปนผูม ีความอดทน มอี ยู องคธ รรมไดแก มหากุศลจิต ๘ มหากริยาจิต ๘ ท่ีมีอโทสะ เปนประธาน เจตสกิ ๓๘ ค. อนิ ทฺ รฺ เิ ยสุ คตุ ตฺ ทวฺ ารตา จ อตถฺ .ิ 50/2, 60/2 ค. โภชเน อมตตฺ ฺ ตุ า จ อตฺถิ ? 45/1, 50/2, 60/2 ค. สภาวธรรมท่ีกระทําบุคคลใหเ ปน ผสู าํ รวมอนิ ทรยี ในทวารท้งั ๖ มีอยู องคธ รรมไดแ ก มหากุศลจิต ๘ มหากริยาจิต ๘ โลกุตตรจิต ๘ เจตสิก ๓๘ ค. โภชเน อมตฺตฺ ตุ า จ อตถฺ ิ สภาวธรรมทก่ี ระทาํ บคุ คลใหเปนผูทไ่ี มร จู กั ประมาณ ในการบริโภค มีอยู องคธรรมไดแก โลภมลู จติ ๘ โทสมลู จิต ๒ เจตสกิ ๒๖ ง. สติ จ อตถฺ ิ ? 56/2(ค), 45/1, 59/2, 62/2 จ. สมปฺ ชฺ จฺ อตถฺ ิ ? 45/1 ง. สติ จ อตฺถิ สภาวธรรมคอื สติ ที่สามารถระลกึ ได มอี ยู องคธรรม ไดแ ก สติเจตสิก จ. สมปฺ ชฺ จฺ อตฺถิ สภาวธรรม คือ ปญ ญา ที่สามารถรอบรูดว ยดโี ดย ประการทงั้ ปวง มีอยู องคธรรมไดแ ก ปญญาเจตสกิ . ง. สีลวสิ ทุ ธฺ ิ จ อตฺถิ 50/2, 56/2, 58/2, 59/2, 60/2, 62/2 องคธรรมไดแก โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ ตอบ แปลและแสดงองคธ รรมในบท ดังน้ี ง. สภาวธรรมคอื ความบริสุทธ์เิ ปนพิเศษแหงศลี มอี ยู จ. ขเย าณํ อตถฺ ิ 46/2, 50/2, 56/2, 59/2, 60/2, 62/2 ตอบ แปลและแสดงองคธรรมในบท ดงั น้ี จ. สภาวธรรมคอื ญาณท่ใี นมัคคจติ ๔ ซ่ึงกระทํากิเลสท้ังหลายใหส น้ิ ไป มีอยู องคธรรมไดแ ก ปญ ญาเจตสกิ ท่ใี นมัคคจิต ๔ ๑๐. ก. จงจาํ แนกปรมตั ถ โดย (บท) พาล และปณฑฺ ติ กบั กณหฺ และ สกุ กฺ ? 48/1, 55/1, 61/2, 63/2 ตอบ ก. จําแนกองคธ รรมปรมตั ถ (โดยบท พาล และปณฑฺ ิต กับกณฺห และสกุ ฺก) ดงั ตอ ไปน้ี มีดังน้ี คอื อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ เปน พาล และ กณฺห กุศลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๘ เปน ปณฺฑติ และ สกุ กฺ ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอมลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 59 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๑๐. ก. จงบอกชอื่ ของ สตุ ตฺ นตฺ กิ ทกุ มาตกิ า ทกุ ะ ๒๑ และทกุ ะ ๒๒ พรอ มทงั้ คาํ แปล ? 57/1 ตอบ ก. ชื่อทกุ ะที่ ๒๑ พรอ มคําแปลคอื :- ธาตุกุสลตาทุก ปฐมบท ธาตกุ สุ ลตา จ อตถฺ .ิ สภาวธรรมทีก่ ระทาํ บคุ คลใหเ ปนผูมคี วามฉลาดในการรธู าตุ ๑๘ มีอยู ทตุ ิยบท มนสกิ ารกุสลตา จ อตถฺ .ิ สภาวธรรมท่กี ระทาํ บคุ คลใหเปน ผมู คี วามฉลาดในการพจิ ารณาซ่งึ ธาตุ ๑๘ มอี ย.ู ชื่อทุกะท่ี ๒๒ พรอ มคําแปลคือ :- ปฐมบท อายตนกุสลตา จ อตถฺ .ิ สภาวธรรมท่กี ระทาํ บุคคลใหเ ปนผูมีความฉลาดในการรอู ายตนะ ๑๒ มีอยู. ทตุ ยิ บท ปฎจิ จฺ สมปุ ฺปาทกสุ ลตา จ อตฺถ.ิ สภาวธรรมท่ีกระทําบุคคลใหเปนผูมีความฉลาดในการรูปฏิจจสมุป บาททม่ี ีองค ๑๒ มอี ย.ู ๑๐. ข. ผทู มี่ คี วามเกลยี ด ละอาย สะดุง ตอ การงานอนั เปน ทจุ รติ นนั้ เปน ไปโดยสภาพอะไร ? และเมือ่ วา โดยธรรมาธิษฐานแลว ผทู อี่ บรมยาก ผทู อี่ บรมงา ย และผทู ช่ี อบสมาคมกบั เพ่อื นทไี่ มดี ผทู ชี่ อบ สมาคมกบั เพือ่ นทดี่ ี เหลานี้ ไดแ กอะไร ? 51/1, 52/1, 57/1, 57/2 ตอบ ผทู ีม่ ีความเกลยี ดละอายตอการงานอันเปนทจุ ริตนน้ั เปน ไปโดยสภาพของหริ ิเจตสกิ ผทู ่ีมคี วามสะดงุ กลวั ตอการงานอนั เปนทุจรติ นนั้ เปน ไปโดยสภาพของโอตตปั ปเจตสกิ ผทู ีอ่ บรมยาก เมือ่ วาโดยธรรมาธิษฐานแลว ไดแก โทสมูลจิต ๒ เจตสิก ๒๒ ผูที่อบรมงา ย เม่อื วาโดยธรรมาธษิ ฐานแลว ไดแก มหากุศลจิต ๘ มหากรยิ าจติ ๘ เจตสกิ ๓๓ (เวน วิรตี, อัปปมญั ญา) ผทู ี่ชอบสมาคมกับเพื่อนท่ไี มด ี เมอ่ื วา โดยธรรมาธษิ ฐานแลว ไดแ ก โลภมลู จิต ๘ โทสมลู จิต ๒ เจตสกิ ๒๓ ผทู ช่ี อบสมาคมกับเพื่อนทด่ี ี เมอ่ื วา โดยธรรมาธษิ ฐานแลว ไดแก มหากุศลจิต ๘ มหากริยาจิต ๘ เจตสกิ ๓๓ (เวน วริ ตี, อปั ปมัญญา) ๑๐. สภาวธรรมทที่ าํ ใหเ ปน ผซู อ่ื ตรง ออ นโยน และมคี วามอดทน ยนิ ดใี นการงานอนั เปน กศุ ลนนั้ เปน สภาวธรรม ชนดิ ใด ? จงแสดงโดยเฉพาะ ๆ ? 43/2, 52/2 ตอบ สภาวธรรมที่ทําใหเ ปน ผชู อ่ื ตรงนั้น ไดแ ก กายชุ ุกตาเจตสิก และจติ ตุชุกตาเจตสกิ สภาวธรรมทีท่ าํ ใหเปนผูออนโยนน้ัน ไดแก กายมทุ ตุ าเจตสกิ และจติ ตมทุ ุตาเจตสกิ สภาวธรรมท่ที ําใหเปน ผูมีความอดทนนัน้ ไดแก มหากุศลจติ ๘ มหากรยิ าจติ ๘ ทมี่ ีอโทสะเปน ประธาน เจตสกิ ๓๘ สภาวธรรมทที่ ําใหเปน ผยู ินดใี นการงานอนั เปนกุศลนน้ั ไดแ ก มหากุศลจติ ๘ มหากรยิ าจติ ๘ ทีม่ ีศลี เจตนา เปนประธาน และ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ (เวน อัปปมัญญา) ๑๐. ใหแ สดงความตา งกนั ระหวา ง สลี สมปฺ ทากบั สลี วสิ ทุ ธฺ ิ และ ทฏิ  สมปฺ ทา กบั ทฏิ  ว สิ ทุ ธฺ ิ ? 47/2, 48/1(ข), 54/1, 61/2(ก), 63/2 พรอ มยกองคธ รรมมาประกอบดว ย ? 49/1 ดาวนโ หลดขอมูลตางๆ ท่ี ขอมูลเพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 60 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ (ข). ความตางกนั ดังตอไปนี้ มีดงั น้ี คือ สลี สมปฺ ทา นั้น คอื ความบริบูรณแ หงศีล องคธ รรมไดแ ก มหากุศลจติ ๘ มหากริยาจิต ๘ เจตสกิ ๓๘ สว น สีลวิสทุ ฺธิ นัน้ คอื ความบรสิ ุทธเ์ิ ปนพเิ ศษแหง ศลี องคธรรมไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ ทฏิ ส มปฺทา นน้ั คือ ความบรบิ ูรณแ หง ปญ ญา องคธ รรมไดแ ก ปญ ญาเจตสกิ คือ สัมมาทฏิ ฐิ สว น ทฏิ ว สิ ุทฺธิ นัน้ คือ ความบริสุทธิ์เปนพิเศษแหงความเห็น องคธ รรมไดแก ปญญาเจตสิกที่เปนกัมมสก ตาญาณ และวิปส สนาญาณ ที่เรยี กวา สจั จานุโลมกิ ญาณ มัคคญาณ ผลญาณ ๑๐. จงแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปน้ี ? 44/1 ก. สลี วปิ ตฺติ จ อตถฺ ิ สภาวธรรม คอื ความวบิ ตั แิ หง ศลี มีอยู ข. สลี สมปฺ ทา จ อตถฺ ิ สภาวธรรม คอื ความบรบิ รู ณแ หงศลี มีอยู ตอบ แสดงองคธรรมในธรรมดังนี้ ก. สภาวธรรมคือความวิบตั แิ หงศีลมอี ยู องคธรรมไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ ข. สภาวธรรมคอื ความบริบูรณแ หงศีลมีอยู องคธรรมไดแก มหากุศลจติ ๘ มหากริยาจติ ๘ เจตสิก ๓๘ ๑๐. จงจาํ แนกปคุ คลาธษิ ฐาน โดยธรรมาธษิ ฐาน ? 46/1, 53/2 ข. ผทู วี่ า ยาก อบรมยาก ก. ผูทมี่ คี วามสะดงุ กลวั ตอ การงานอนั เปน ทจุ รติ ค. ผทู ม่ี คี วามฉลาดในการรอู าบตั ิ ง. ผทู มี่ คี วามสลดใจเพราะชาติ ชรา พยาธิ มรณะ จ. ผูท ี่ไมอ มิ่ ในกศุ ลธรรม ตอบ จาํ แนกปคุ คลาธิษฐาน โดยธรรมาธิษฐาน ดงั น้ี คอื ก. ไดแ ก โอตตปั ปเจตสกิ ข. ไดแ ก โทสมูลจิต ๒ เจตสิก ๒๒ (ในขณะทก่ี ระทํากิรยิ าอาการไมเคารพตอ คาํ สั่งสอน โดยสกิ ขาบท อันเปนพุทธบญั ญตั )ิ ค. ไดแ ก ปญ ญาเจตสิก ทใี่ นมหากุศลญาณสัมปยุตตจิต ๔ มหากรยิ าญาณสัมมปยตุ ตจติ ๔ (ในขณะที่รขู ออาบัตติ า งๆ) ง. ไดแ ก ปญญาเจตสิก ท่ใี นมหากุศลญาณสมั ปยุตตจิต ๔ (ในขณะที่เกิดความสลดใจตอชาติ ชรา พยาธิ มรณะ) จ. ไดแก กศุ ลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ ๑๐. จงจาํ แนกปคุ คลาธษิ ฐานเหลา นโี้ ดยธรรมาธษิ ฐาน ? 34/1(8ก-ซ), 47/1, 60/1(ก-ซ) ก. ผทู ไ่ี มมคี วามสาํ รวมในอนิ ทรยี ท งั้ ๖ 43/1ส(5ก) ข. ผทู มี่ คี วามสาํ รวมในอนิ ทรยี  ทง้ั ๖ ค. ผทู เี่ ปน คนประมาท ง. ผทู เี่ ปน คนไมป ระมาท 43/1ส(5ข) จ. ผทู ไ่ี มร จู กั ประมาณในการบรโิ ภค 43/1ส(5ง) ฉ. ผทู รี่ จู กั ประมาณในการบรโิ ภค 43/1ส(5ค) ช. ผทู ไี่ มเ ฉลยี วฉลาด 43/1ส(5จ) ซ. ผทู เี่ ฉลยี วฉลาด ญ. ผทู มี่ คี วามอดทน ฌ. ผทู ม่ี คี วามยินดรี า เรงิ ในกศุ ลสุจริต ตอบ จาํ แนกปคุ คลาธิษฐาน โดยธรรมาธิษฐานดังน้ี ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆ ท่ี ขอมลู เพมิ่ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 61 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ก. ไดแ ก โลภมูลจิต ๘ โทสมลู จติ ๒ เจตสกิ ๒๖ ข. ไดแ ก มหากศุ ลจติ ๘ มหากรยิ าจติ ๘ โลกุตตรจิต ๘ เจตสกิ ๓๘ ค. ไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ (ท่เี ปน ปฏิปก ษตอสต)ิ ง. ไดแ ก สติเจตสิก จ. ไดแ ก โลภมูลจิต ๘ โมหมลู จิต ๒ เจตสิก ๒๓ ฉ. ไดแ ก มหากุศลจติ ๘ มหากรยิ าจติ ๘ ในขณะทร่ี จู ักประมาณในการบริโภค เจตสิก ๓๓ (เวนวริ ตี อปั ปมญั ญา) ช. ไดแก อกุศลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ ทเ่ี ปน ปฏปิ ก ษตอปญ ญา ซ. ไดแก ปญ ญาเจตสิก ฌ. ไดแ ก มหากศุ ลจติ ๘ มหากรยิ าจติ ๘ ที่มีอโทสะเปน ประธาน เจตสิก ๓๘ ญ. ไดแ ก มหากศุ ลจติ ๘ มหากรยิ าจิต ๘ ทีม่ ีศีลเจตนา เปน ประธาน และ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสิก ๓๖ (เวน อัปปมัญญา) ๑๐. ใน (สตุ ตนตฺ กิ ทกุ มาตกิ า) ทกุ ะทง้ั ๔๒ นนั้ แมว า ความหมายจะตา งกนั กต็ าม แตอ งคธ รรมปรมตั ถ และทต่ี งั้ เหมือนกนั มกี ่ที กุ ะ คอื อะไรบา ง ? 45/2, 48/2, 49/2 (10ข), 53/1, 54/2, 59/1, 61/1 ตอบ ในทุกะทัง้ ๔๒ นั้น แมว าความหมายจะตา งกนั กต็ าม แตองคธรรมปรมตั ถแ ละท่ตี ั้งเหมอื นกัน มี ๑๔ ทุกะ คือ พาลทกุ กณฺหทกุ ตปนยี ทุก รวม ๓ ทกุ ะนี้ องคธ รรมเหมือนกนั อธิวจนทุก นริ ุตฺตทิ ุก ปญฺ ตฺตทิ ุก รวม ๓ ทุกะนี้ องคธรรมเหมอื นกัน ภวทฏิ ฐทิ กุ สสฺสตทิฏฐทิ กุ อนฺตวาทฏิ ฐิทุก ปุพพฺ นฺตานุทิฏฐ ทิ กุ รวม ๔ ทกุ ะน้ี องคธ รรมเหมือนกัน อาปตฺติกุสลาทุก สมาปตฺตกิ สุ ลตาทุก รวม ๒ ทกุ ะนี้ องคธ รรมเหมือนกัน ธาตุกุสลตาทกุ อายตนกุสลตาทกุ รวม ๒ ทกุ ะน้ี องคธรรมเหมอื นกัน ๑๐. นกั ศกึ ษาทง้ั หลายทไ่ี ดศ กึ ษา ธมั มสงั คณสี รูปตถนิสสยะแลว อยากทราบวา ทา นจะนาํ ไปใชใ หเ ปน ประโยชน ในชวี ติ ประจําวนั ไดห รอื ไม ขอใหช ว ยวนิ จิ ฉยั ดวย ? 44/2 ตอบ ขอวนิ ิจฉัยวา มีประโยชนมากนาํ ไปใชในชีวติ ประจําวนั ไดด ี เชน ในกุสลตกิ น้นั จะมีบาลแี สดงวา กสุ ลา ธมฺมา, อกสุ ลา ธมมฺ า, อพยฺ ากตา ธมมฺ า เมื่อแปลและแสดงองคธ รรมจาํ แนกขนั ธอ ายตนะ ธาตุ สจั จะแลว ทาํ ใหเราเขา ใจถงึ ตวั สภาวะลกั ษณะของสภาพธรรมเหลา น้ัน เม่อื ใครไดกระทาํ แลวทําใหเกิด ความสงบสขุ มคี วามราเรงิ ยินดี สดชื่น แจม ใส เปน ธรรมอันประเสรฐิ มีลกั ษณะแสดงอาการปรากฏออกมา ใหเ ห็นไดช ัดทางกริยา อาการ ไมใ ชสัตวบุคคลตัวตน เราเขา ประโยชนของกุศลธรรมนัน้ เปนธรรมทน่ี ํา ความสุขมาใหแ ละเปนเพื่อนท่ดี ีในการเดินทางท้ังในภพนี้ และภพหนา สวน อกสุ ลา ธมมฺ า ธรรมทเ่ี ปนอกุศลนน้ั ก็เปนสภาพธรรมชนิดหนึง่ ซ่งึ ใครไดก ระทําแลว ทําใหเกิด ความทุกข จิตใจเศรา หมอง ไมผองใส เปนสภาพธรรมที่ใหโ ทษโดยฝายเดียว จะมีลกั ษณะกริยา อาการปรากฏ ออกมาใหเห็นชดั ทางกายและวาจา มแี ตทุกขไ มม คี วามสขุ เปนเพยี งสภาวลักษณะ ไมใ ชสัตว บุคคลตวั ตน ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ที่ ขอมลู เพิม่ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 62 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) เราเขา มีแตใ หโ ทษ ท้ังในภพนีแ้ ละภพหนา ซงึ่ ตรงกนั ขามกับ กุสลา ธมฺมา เม่อื เราเขา ใจถึงสภาพธรรมที่เปนบาป บุญคณุ โทษ ประโยชน ไมใชป ระโยชนแ ลว จะมคี วามสะดุงกลัวตอบาปอกศุ ล เกิดความสาํ รวมระวังกายใจ ตวั เองใหตั้งอยใู นความดี ละเวน ความช่วั ทาํ จติ ใหผองใส ดงั น้ีแลว ก็จะเปนประโยชนในชีวิตประจําวนั ไดด ี ***************************** ส่ิงท่ีสาํ คัญคือการเขา ศึกษากบั อาจารยผูสอน เพ่อื ความรคู วามเขาใจทถ่ี กู ตอง แจมแจง หาก สงสยั จะไดสอบถามทันที การรวบรวมขอ สอบท่เี คยออกมาแลว นี้ เปนเพยี งแนวทางสาํ หรบั ผศู ึกษา นาํ มาเนน +ทรงจาํ ไว (เมื่อไดช ่อื วาศกึ ษาแลว กค็ วรทรงจําใหไ ดม ากทีส่ ดุ หรอื ทงั้ หมด จึงจะชอื่ วา สตุ ะดว ยดี เพื่อการจนิ ตาและภาวนาตอ ไป) ขอมลู ของชัน้ จูฬอาภิธรรมกิ ะเอกน้ี เปน พน้ื ฐานของช้ันสูงขึ้นไป จนถึงจบมหาอาภธิ รรมิกะเอก โดยเฉพาะช้นั มัชฌมิ อาภธิ รรมกิ ะเอก ควรทรงจาํ ไวใ หมากท่สี ุด (ตามเน้อื หาหลักสูตร) หรือนอ ย ทส่ี ุดก็ควรจะทรงจาํ ขอ สอบทเ่ี คยออกมาแลว ทัง้ หมด การสอบไมใชท ส่ี ุดของชวี ิต แตข อใหต ้ังจิตศึกษาและทรงจํา เพ่อื ธํารงและรกั ษาไวซ่งึ พระ ศาสนา รอู รรถะและพยัญชนะ ทั้งเขา ใจและเขาใหถ งึ ธรรมะ แมยงั มิบรรลุคุณธรรมอนั สูงถึงข้นั อรยิ ะ กข็ อจงเปนผูร ธู รรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผูมีธรรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสสฺ นปิ ปฺ ทา เกิดเปน คนควรจะพยายาม จนกวาจะประสบความสาํ เร็จ สาํ เนาหรือแจกได โดยไมตอ งขออนญุ าต (สงวนสทิ ธ์ิหากนําไปจําหนา ย) ผิดตกขออภัยและกรุณาแจง (จกั ขอบพระคุณ) ท่ี 081-860-2466 (Line ID), E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโหลดขอมลู ไดจ ากขอความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube หรือท่ี fb : Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ขออนุโมทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกศุ ลที่ทา นกระทําไวด ีแลว และท่จี ะกระทาํ ในอนาคต ใหเราน้นั มปี จ จัยถงึ พรอ มเพ่ือการทํากุศลใหสําเรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเร็วไว จนถึงมคั คกุศล โดยเร็วพลันเทอญ ดาวนโหลดขอมูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 63 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ขอ สอบสัมภาษณพ ระอภธิ รรม ภาคเรยี นที่ ๑, ๒ ปการศึกษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓ อภิธรรมโชตกิ ะวทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ชน้ั จฬู อาภธิ รรมิกะเอก สอบวันอาทิตย ที่...... มถิ ุนายน/ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๓-๒๕.. วชิ า : ธมั มสงั คณปี กรณ ๕ ขอ ๒๕ คะแนน เวลา ๑๕ นาที. ขอ ๑ ๑. จงแสดงอารมั ภกถาแสดงเหตแุ หง การปรากฏขนึ้ ของพระอภธิ รรมมาทงั้ บาลแี ละคาํ แปล ? 47/1ส(1ก), 48/2ส, 50/2ส, 51/1ส, 55/2ส, 56/1ส, 60/2ส (แสดงเฉพาะขอ ๓) ? 45/1ส, 46/2ส, 49/1ส, 59/2, 60/1ส ๑. ก. จงแปล อารมั ภกถา แสดงเหตแุ หง การปรากฏเกดิ ขนึ้ ของพระอภธิ รรมมาโดยตลอด ? 44/1ส ๑. ก. จงแปลบาลที แี่ สดงเหตแุ หงการปรากฏขึน้ ของพระอภธิ รรม ? 43/2ส, 52/2ส ๑. จง(แปล)กลา วอารมั ภกถา แสดงเหตแุ หง การปรากฏขน้ึ ของพระอภธิ รรม ? 54/2ส และคาํ แปล ? 55/1ส, 57/2ส, 59/1ส, 61/2ส, 62/1ส ๑. ปารจิ ฺฉตฺตกมูลมหฺ ิ ปณฑฺ กุ มพฺ ล นามเก สิลาสเน สนนฺ ิสนิ ฺโน อาทจิ โฺ จว ยคุ นธฺ เร. ๒. จกกฺ วาฬสหสฺเสหิ ทสหาคมฺม สพฺพโส สนนฺ ิสนิ เฺ นน เทวานํ คเณน ปริวารโิ ต ๓. มาตรํ ปมุขํ กตฺวา ตสสฺ า ปฺ าย เตชสา อภิธมมฺ กถามคฺคํ เทวานํ สมฺปวตฺตย.ิ ตอบ ๑. ปาริจฺฉตฺตกมลู มฺหิ ปณฺฑกุ มฺพล นามเก สิลาสเน สนฺนสิ นิ ฺโน อาทจิ โฺ จว ยคุ นฺธเร ๒. จกกฺ วาฬสหสเฺ สหิ ทสหาคมฺม สพพฺ โส สนนฺ ิสนิ ฺเนน เทวานํ คเณน ปรวิ าริโต (45/1ส, 46/2ส, 49/1ส) ๓. มาตรํ ปมุขํ กตฺวา ตสฺสา ปฺ าย เตชสา อภธิ มฺมกถามคฺคํ เทวานํ สมฺปวตตฺ ยิ ๑. พระพุทธเจาประทบั นั่งบนศลิ าอาสน ซึง่ สาํ เรจ็ ดวยแกวมณี ช่ือปณฑกุ มั พล ที่ประดษิ ฐานอยใู ตร ม ไมท องหลาง ทรงพระศริ โิ สภาคย ประดุจหน่ึงวาพระอาทติ ยบ นยอดเขายุคนั ธร ๒. เทวดาทง้ั หลายท่มี าจากหมืน่ จกั รวาลไดพากันมาประชมุ เฝาหอ มลอมพระพทุ ธองคอ ยโู ดยรอบ (45/1ส, 46/2ส, 49/1ส) ๓. พระพุทธองคทรงกระทําสันตุสิตเทวบุตร ซึ่งเคยเปนพุทธมารดาใหเ ปนประมุขใน บรรดาเทวดาและพรหมท้ังหลายเหลานั้น แลวทรงแสดงพระอภธิ รรม ๗ คมั ภรี  แกเทพยดาและพรหม เหลานนั้ ติดตอกันตลอดพรรษากาล ดว ยเดชะแหง พระสพั พัญตุ ญาณ ๑. นบั จากพระชาตทิ เ่ี ปน พระสเุ มธดาบสเปน ตน มาจนถงึ พระชาตทิ เี่ ปน พระเวสสนั ดรนนั้ พระองคไ ดทรงกระทาํ ความดอี ะไรบา ง และการกระทาํ เชน นน้ั เพอื่ ใหไ ดม าซง่ึ อะไร คอื อะไรบา ง ? บอกมาพรอ มความหมาย ? 52/1ส ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆ ที่ ขอ มูลเพิม่ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 64 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๑. ก. ปญ จมหาบรจิ าค ๕ (อยางนน้ั ) มอี ะไรบา ง ? แสดงพรอ มความหมาย ? (บอกความหมายมาดว ย) ? 44/2ส, 49/2ส, 53/1ส, 53/2ส ๑. มหาบริจาค ๕ และจรยิ ะ ๓ มอี ะไร ?.58/2 ตอบ นบั จากพระชาติท่ีเปนพระสุเมธดาบสเปน ตน มาจนถึงพระชาตทิ ีเ่ ปน พระเวสสนั ดรนน้ั พระองคท รง สรา งบารมี ๓๐ ทัศ มีทานบารมี ทานอปุ บารมี ทานปรมัตถบารมี เปน ตน ทรงมหาบริจาค ๕ ประการ คือ ๑. ธนบริจาค การสละทรพั ยสิน เงนิ ทองและฐานะ ประเทสราชา เอกราชา จักรวรรดิราชา ๒. ปตุ ตบริจาค การใหบุตรธดิ าเปน ทาน ๓. ภริยาบริจาค การใหภริยาเปนทาน ๔. องั คบรจิ าค การใหอวัยวะเปนทาน ๕. ชีวิตบรจิ าค การสละชวี ติ ใหเปน ทาน ๑. โลกัตถจรยิ เพือ่ ใหไ ดม าซ่ึงจรยิ ะ ๓ คือ ๒. ญาตตั ถจรยิ การปฏบิ ัติเพอ่ื ใหส ตั วท ั้งหลายในโลกไดร ับความสขุ ๓. พุทธตั ถจรยิ การปฏบิ ตั ิเพื่อใหญาติท้งั หลายไดร บั ความสขุ การปฏบิ ตั เิ พือ่ ใหไ ดม าซ่งึ สัพพญั ตุ ญาณ ๑. พระอภิธรรมทพ่ี ระพทุ ธองคท รงแสดงตลอดพรรษากาลน้ี แบง ออกเปน กป่ี ระเภท ไดแ กอ ะไรบา ง ? 57/2ส(2ก) จงแสดงมาตามลําดบั และประเภทใดท่ปี รากฏอยใู นมนษุ ยโลกจนถงึ บดั นี้ ? 45/2ส, 49/2ส ตอบ มี ๓ ประเภท คอื ๑. ที่พระพทุ ธองคท รงแสดงแกหมูเทพยดา อินทร พรหมทั้งหลายนน้ั ช่ือวา วิตถารนยั เพราะการแสดงนน้ั พสิ ดารมาก ๒. ทพ่ี ระพุทธองคท รงแสดงแกพ ระสารีบตุ รทปี่ าไมจันทนน ้ันชื่อวา สังเขปนัย เพราะการแสดงนั้นยอ มาก ๓. สวนพระอภิธรรมที่พระสารีบตุ รแสดงแกศิษยานุศษิ ย ๕๐๐ องคท ่ีเคยเปนคา งคาวมาแตอดตี ชาตนิ น้ั ช่ือ วา นาตวิ ิตถารนาตสิ ังเขปนยั เพราะการแสดงน้นั เปนกลางไมพสิ ดารและไมยอ พระอภิธรรมทป่ี รากฏอยใู นมนษุ ยโลกจนถึงบัดนี้เปน นัยทเ่ี รยี กวา “นาตวิ ติ ถารนาตสิ งั เขปนัย” ท่พี ระ สารบี ุตรแสดงไวน ั่นเอง ๑. ข. พระอภธิ รรมทพี่ ระสารบี ตุ รแสดงแกศ ษิ ย ๕๐๐ นนั้ มชี อื่ วา อยา งไร หมายความวา อยา งไร?ไร ? 44/2ส, 46/2ส ตอบ ข. พระอภธิ รรมท่พี ระสารีบตุ รแสดงแดศษิ ย ๕๐๐ นั้น มชี ื่อวา นาติวติ ถารนาตสิ งั เขปนัย เพราะการแสดงนั้นเปนกลาง ไมพ สิ ดาร และไมย อ ๑. ข. พระอภธิ รรมทป่ี รากฏในโลกนี้โดยอาศยั เหตทุ งั้ ๒ หรอื ๓ นนั้ อยากทราบวา เหตุ ๒ อยา งคอื อะไร ? ไดแ กอ ะไรบา ง ? 43/2ส, 45/1ส, 52/2ส. ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอ มลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 65 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๑. ค. อธิคมนทิ าน ไดแ กอะไร ? วา โดยเวลานบั ตั้งแตไ หนถงึ ไหน ? 46/2ส ตอบ ข. เหตุ ๒ อยา งนนั้ คอื ๑. อธิคมนิทาน ไดแก บารมี ๓๐ ทัศ มหาปริจาคะ ๕ จริยะ ๓ เม่ือวาโดยเวลา นับตั้งแตพระทีปงกร สัมมาสัมพุทธเจาประทานพุทธพยากรณจนสําเร็จเปนพระสัมมาสัมพุทธเจาขณะที่ ประทบั ท่ีโพธิบลั ลงั ก ๒. เทศนานทิ าน ไดแ ก การแสดงพระธมั มจกั กปั ปวัตตนสตู ร ๒. จงแสดง วจนตั ถะ ของคาํ วา มาตกิ า , 58/1ส(1ก) และมาตกิ า มกี ีอ่ ยาง คอื อะไรบา ง ? 55/2ส ๑. ก. มาตกิ ามกี อี่ ยา ง คอื อะไรบา ง ? 48/2ส, 57/1ส แสดงมาพรอ มความหมาย ?46/1ส, 47/1ส(2ข), 53/2ส(2ก) ๓. ข. มาติกามกี อี่ ยา ง อะไรบา ง จงอธบิ าย ? 51/2ส ๑. ข. จงอธบิ ายคาํ วา ตกิ มาตกิ า และทกุ มาตกิ า มาโดยลาํ ดบั ? 49/1ส ตอบ แสดง วจนัตถะ ของคาํ วา มาติกา คือ มาตา วิยาติ = มาติกา. บทเหลา ใดเหมือนแม หรือ เหมือน คลองสง นํา้ ฉะน้นั บท เหลา นนั้ ช่อื วา มาติกา ไดแก กสุ ลา ธมมฺ า. เปน ตน และ มาตกิ า มี ๒ อยา งคือ :- ๑. ตกิ มาตกิ า เปนมาติกาทจ่ี ําแนกปรมตั ถธรรมทั้ง ๔ โดยแบง ออกเปน ๓ บทมี ๒๒ ติกะ คือ กสุ ลตกิ เปน ตน จนถงึ สนิทสสฺ นตกิ เปน ทสี่ ุด ๒. ทุกมาตกิ เปนมาตกิ าทีจ่ าํ แนกปรมตั ถธรรมทั้ง ๔ โดยแบงออกเปน ๒ บท มี ๒ อยา งคอื - อภิธรรมทุกมาตกิ ามี ๑๐๐ ทกุ ะ คอื เหตุทุก เปนตน จนถึง สรณทุก เปน ที่สุด - สตุ ตฺ นฺตกิ ทกุ มาตกิ ามี ๔๒ ทุกะ คือ วิชฺชาภาคที กุ เปน ตน จนถึง ขเยญาณทุก เปน ทส่ี ุด ๒. ก. ใหแ สดงความหมายของคาํ วา (มาตกิ าโชตกิ ะ) ? 56/1ส ตอบ ก. มาตกิ าโชตกิ ะ น้นั หมายความวา มาติกาโชตกิ ปกรณน้ีเปน ปกรณที่แสดงจําแนกเน้ือความ พรอมท้งั อธบิ ายในมาตกิ าบทมี กุสลา ธมมฺ า เปนตน ใหส วา งน้นั เอง. ๑. คําวา มาตกิ า หมายความวา อะไร ไดแ กอ ะไร ใหแ สดงความหมายของคาํ วา มาตกิ าโชตกิ ะ และในธมั มสังคณปี กรณน ี้ เมอ่ื วา โดยกณั ฑแ ลว แบง ออกเปน กก่ี ณั ฑ คอื อะไรบา ง ? ใหอ ธบิ ายการแสดงปรมตั ถธรรมของพระพทุ ธองคใ นกณั ฑน น้ั ๆ ? 63/2ส ตอบ คาํ วา มาตกิ า คอื อทุ เทส เปน การแสดงโดยยอเหมือนกับสารบาญ ไดแก ติกมาตกิ าบท ๖๖ ทกุ มาติกาบท ๒๘๔ รวมเปน ๓๕๐ บท นนั้ เอง คําวา มาตกิ าโชตกิ ะ นนั้ หมายความวา ปกรณท่แี สดงจําแนกเนือ้ ความพรอมท้ังอธบิ ายใน มาติกาบท มีกุสลา ธมฺมา เปนตน ใหสวาง นนั้ เอง และธมั มสงั คณปี กรณน้ี เมอื่ วาโดยกัณฑแลว มี ๔ กัณฑ คอื  ๑./๒. ธมั มสงั คณปี กรณ (เมอื่ วา โดยกณั ฑแลว ) มีก่กี ณั ฑ คอื อะไรบา ง ? ๒๕ ธ.ค. ๖๓ ใหอ ธบิ ายการแสดง ปรมตั ถธรรมของพระพุทธองคใ นกณั ฑน นั้ ๆ ? 47/2ส, 50/1 ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

ธมั มสงั คณปี กรณ 66 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) และในการแสดงในสุตตฺ นตฺ กิ ทุกมาตกิ า ในธมั มสงั คณีปกรณน น้ั แสดงไวกกี่ ณั ฑ คอื กณั ฑอ ะไร ? 56/1ส ตอบ ข. ธัมมสังคณปี กรณ เมื่อวา โดยกัณฑแลวมี ๔ กัณฑ คอื ๑. จติ ตฺ ปุ ฺปาทกณฺฑ เปน กณั ฑท ่ีแสดงการจาํ แนกติกมาตกิ าและทุกมาตกิ า โดยปรมัตถธรรม ทง้ั ๔ ซ่งึ มจี ิตและเจตสกิ เปน ประธานโดยพสิ ดาร. ๒. รปู กณฑฺ เปน กัณฑท แ่ี สดงการจาํ แนกรปู โดยเอกกนัย จนถงึ เอกาทสกนัย โดยพิสดาร. ๓. นกิ เฺ ขปกณฑฺ เปนกณั ฑท่ีจาํ แนกตกิ มาติกาและทุกมาติกา โดยปรมัตถธรรมท้งั ๔ อยา งกลาง ๆ. ๔. อฏ ถกถากณฺฑ เปนกณั ฑท ่ีนําเน้ือความของปฎกทัง้ ๓ ซง่ึ เปน พุทธวจนะ แลว จําแนก โดยตกิ มาตกิ าและทุกมาติกา อยางยอ. (56/1ส)และในการแสดงสตุ ตฺ นฺตกิ ทุกมาตกิ า ในธมั มสงั คณีปกรณนั้น แสดงไว ๑ กัณฑ คือ นิกฺเขปกณฑฺ . ๓. ก. จงแสดงวจนตั ถะของคาํ วา มาตกิ าโชตกิ ะ ? 53/1ส(1ข) พรอ มแปล (เฉพาะนยั ที่ ๑) ? 51/2ส ๒. ข. จงแสดงวจนตั ถะของคาํ วา มาติกาโชติกะ, มาตกิ า ? 44/2ส ๒. จงแสดงวจนตั ถะของคาํ วา มาตกิ า มาตกิ าโชตกิ ะ กศุ ล อพยฺ ากต วปิ าก ? 50/2ส ๒. ก. จงแสดงวจนตั ถะของ มาติกา ? 54/1ส(1ก), 58/1ส(1ก) กศุ ล, อกศุ ล, อพยฺ ากตะ ? 60/2ส, 61/2ส, 62/1ส, 62/2ส พรอมคาํ แปล ? 56/2ส, 58/1ส, 61/1ส ๒. ข. จงแสดงวจนตั ถะของ กศุ ล อกศุ ล อพยฺ ากตะ ? 50/1ส, 51/1ส, 52/1ส, 55/1ส, 54/1ส, 58/1ส , 60/1ส, 63/2ส ๒. ข. จงแสดงวจนตั ถะของคาํ วา กศุ ล, อพยฺ ากต พรอมท้ังบาลแี ละคาํ แปล ? 51/1ส ๒. ข.จงแสดงวจนตั ถะของคาํ วา กุศล, อพยฺ ากต, วบิ าก ? 54/2ส พรอ มทง้ั บาลแี ละคาํ แปล ? 47/2ส ๒. จงแสดง วจนตั ถะ ของคาํ วา กุศล, อกศุ ล, อพยฺ ากตะ, วิปาก ? 54/2ส ๓. จงแสดงวจนตั ถะ และความหมายของคาํ วา กศุ ล และวบิ าก ? 48/2ส ๒. ก. จงแสดง วจนตั ถะของคําวา วปิ าก พรอ มทงั้ คาํ แปล ? 43/2ส, 52/2ส, 53/2ส(3ก) ๒. จงแสดงวจนตั ถะพรอมทงั้ คาํ แปลดงั ตอ ไปนี้ ? 53/1ส ก. วจนตั ถะของคาํ วา กศุ ล ข. วจนตั ถะ ของคาํ วา อัพยากตะ ค. วจนตั ถะของคาํ วา วบิ าก ๓. ข. จงแสดง วจนตั ถะ ของคําวา กศุ ล, วปิ าก, สงกฺ เิ ลโส ? 44/1ส ตอบ แสดง วจนัตถะ ของคาํ ตอไปนม้ี ดี งั นี้ วจนัตถะ ของมาติกา มาตา วยิ าติ = มาตกิ า. บทเหลาใด เหมอื นแมหรอื เหมอื นคลองสงนํา้ ฉะน้ันบทเหลา นน้ั ชอ่ื วา มาตกิ า ไดแก กุสลา ธมฺมา เปน ตน วจนตั ถะ ของมาติกาโชติกะ มาติกํ โชเตตตี ิ = มาติกาโชตโิ ก. คัมภรี ใ ด ยอ มทาํ มาติกาบทมี กุสลา ธมฺมา. เปนตน ใหสวา ง ฉะนั้นคมั ภีรนั้นชือ่ วา มาตกิ าโชติกะ มาติกายํ โชตโิ ก = มาตกิ าโชตโิ ก . คัมภีรท่ีทาํ ใหสวางรุงเรืองใน มาติกาบท มี กุสลา ธมมฺ า เปน ตน ช่อื วา มาติกาโชติกะ วจนัตถะ ของกศุ ล กุจฺฉิเต ปาปธมฺเม สลยติ กมฺเปติ วิทธฺ เํ สตีติ = กุสลํ ธรรมชาติใดยอมทําใหหวั่นไหว หรือยอมทาํ ลาย ซงึ่ บาปธรรมอนั บัณฑติ ทงั้ หลายพงึ เกลียด ฉะนัน้ ธรรมชาตนิ ้ัน ชือ่ วา กุศล ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆ ที่ ขอ มูลเพมิ่ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 67 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) วจนัตถะของอกุสล คอื น กสุ ลํ = อกสุ ลํ ธรรมชาติทไ่ี มใ ชกุศล ชือ่ วา อกุศล วจนตั ถะของ อพยฺ ากต น พยฺ ากโต = อพยฺ ากโต. ธรรมท่ไี มไ ดทรงแสดงโดยความเปนกุศล อกุศล ทรงแสดงเปน อยา งอื่น ช่ือวา อพยากต วจนตั ถะ ของคําวา วิปาก อฺมฺ วสิ ิฎ านํ กุสลากสุ ลานํ ปากาติ = วิปากา ธรรมท้ังหลายทเ่ี ปนผลของกศุ ล และอกุศล ทพ่ี เิ ศษกวา กนั และกันชื่อวา วบิ าก วจนัตถะของ สงฺกเิ ลโส สงกฺ เิ ลเสตีติ = สงกฺ เิ ลโส ธรรมใดมสี ภาพทําใหเ ศรา หมองเรารอ น ฉะน้ันธรรมนนั้ ชือ่ วา สงฺกิเลส ไดแก กิเลส ๑๐ ๒. ก. จง/ใหแ สดงติกมาตกิ า ๒๒ มาตามลาํ ดบั ? 46/1ส, 48/2ส, 49/1ส, 59/1ส, 60/1ส, 61/1ส(1) ๒. ก. ตกิ มาตกิ า ม(ี จํานวน)เทา ไร คอื อะไรบา ง? (จง)แสดงมา(โดย)ตามลาํ ดบั ? 44/2ส, 49/2ส, 50/1ส, 51/2ส, 53/2ส, 54/1ส(1ข) , 57/2ส(2ข), 58/1ส(1ข), 58/2(2) ตอบ ก. (แสดง) ตกิ มาติกา ๒๒ ติกะ (ตามลําดับ) คือ ๑. กุสลติก ๒. เวทนาติก ๓. วปิ ากตกิ ๔. อุปาทนิ ฺนตกิ ๕. สงกฺ ลิ ฏิ  ตกิ ๖. สวติ กกฺ ตกิ ๗. ปติตกิ ๘. ทสสฺ นติก ๙. ทสสฺ นเหตตุ กิ ๑๐. อาจยคามิตกิ ๑๑. เสกขฺ ตกิ ๑๒. ปริตตฺ ติก ๑๓. ปริตตฺ ารมมฺ ณติก ๑๔. หีนตกิ ๑๕. มจิ ฉฺ ตฺตตกิ ๑๖. มคคฺ ารมฺมณตกิ ๑๗. อุปปฺ นนฺ ตกิ ๑๘. อตีตตกิ ๑๙. อตีตารมฺมณติก ๒๐. อชชฺ ตฺตตกิ ๒๑. อชฌฺ ตตฺ ารมฺมณตกิ ๒๒. สนิทสฺสนติก (เห จู อา สัญ คนั โอ โย นี ป มอุ กิ ปฏฐิ ) ๒. ก. คาํ วา ขนั ธวมิ ตุ สจั จวมิ ตุ ติกวมิ ตุ หมายความวา อยา งไร และธรรมทเี่ ปน วิมตุ ทงั้ ๓ นี้ (อนั ใด) วมิ ุตใดมอี งค ธรรมแนน อน วมิ ตุ ใด มีองคธ รรมไมแ นน อน ? 43/2ส(3ก), 45/1ส, 46/1ส, 47/2ส, 49/1ส, 52/2ส(3ก), 54/2ส (3ก) จงแสดงตกิ ะทม่ี ีวมิ ตุ ครบทงั้ ๓ ? 44/1ส(3ก), 47/1ส(3ก), 49/2ส(3ก), 51/2ส, 59/1ส(ข) ตอบ ก. คาํ วา ขันธวมิ ุต หมายความวา เปนธรรมทพ่ี น จากขันธท ้ัง ๕ คําวา สจั จวมิ ตุ หมายความวา เปน ธรรมท่ีพนจากสัจจะทง้ั ๔ คาํ วา ติกวมิ ตุ หมายความวา เปนธรรมทพี่ น จากบททัง้ ๓ ในติกะ (45/1ส, 46/1ส, 47/2ส, 49/1ส) และในวมิ ุตท้งั ๓ นั้น [(43/2ส) และในธรรมท่เี ปนวิมตุ ทั้ง ๓ นัน้ ] ขนั ธวมิ ตุ สัจจวมิ ตุ มอี งคธรรมแนนอน ตกิ วมิ ตุ มอี งคธรรมไมแ นน อน (44/1ส, 47/1ส, 49/2ส, 59/1ส) และ(ใน)ธรรมท่ีเปนวิมตุ ทัง้ ๓ น้ี ขนั ธวมิ ุต สจั จวมิ ตุ มีองคธรรมแนนอน (สวน) ตกิ วมิ ตุ มอี งคธรรมไมแนนอน ตกิ ะที่มีวิมตุ ครบทัง้ ๓ นนั้ ไดแ ก สวติ กกฺ ตกิ ๓. จงแปลและแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปนี้ ? 47/2ส ก. อกสุ ลา ธมมฺ า ข. วปิ ากา ธมมฺ า ค. อสงกฺ ลิ ฏิ  อสงกฺ เิ ลสสกิ า ธมมฺ า ง. ปรติ ฺตา ธมมฺ า ตอบ ก. อกสุ ลา ธมมฺ า ธรรมทัง้ หลายทไี่ มใชสตั วไมใชช ีวติ เปนแตสภาวะ (นสิ ฺสตตฺ นิชฺชีว สภาวา) ซึง่ มี ลักษณะเปน ไปพรอ มดวยโทษ และใหผ ลเปน ความทุกขมอี ยู (สํวิชชฺ นตฺ )ิ องคธรรมไดแก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆ ที่ ขอ มูลเพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 68 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ข. วิปากา ธมฺมา สภาวธรรมทัง้ หลายท่เี ปน ผลของกศุ ลและอกศุ ลซงึ่ พิเศษกวากันและกันมีอยู องคธรรมไดแ ก วิปากจิต ๓๖ เจตสกิ ๓๘ ค. อสงกฺ ิลฏิ อสงฺกิเลสิกา ธมฺมา สภาวธรรมท้งั หลายท่ีไมถูกกิเลสทาํ ใหเศรา หมองเรา รอน และไมเปน ท่อี าศัยเกดิ ของกิเลส หรอื ไมเ ปน อารมณข องกิเลสมีอยู องคธรรมไดแ ก โลกตุ ตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ นิพพาน ง. ปริตฺตา ธมมฺ า สภาวธรรมท้ังหลายท่มี อี านุภาพนอ ย มอี ยู องคธ รรมไดแก กามจติ ๕๔ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ๒. ข. ใหแ สดงเหตุผล ทพี่ ระพทุ ธองคท รงแสดง กสุ ลตกิ กอ นตกิ ะอนื่ ๆ ? 56/2ส, 58/1ส, 60/1ส, 60/2ส, 61/1ส, 61/2ส, 62/1ส, 62/2ส, 63/2ส, 63/2ส ๑. ข. พระพทุ ธองคม ี [จง(ให) แสดง] เหตผุ ลที่พระพุทธองคท รงแสดงกุสลตกิ กอนตกิ อนื่ ๆ ? 44/1ส, 46/1ส, 46/2ส, 47/1ส, 48/2ส(2ก), 50/1ส, 51/1ส, 52/1ส, 55/1ส, 53/2ส, 54/1ส ตอบ ข. เหตุผลทีพ่ ระพุทธองคทรงแสดง กุสลติก กอ นตกิ ะอืน่ ๆ มี ๓ ประการ คือ ๑. ปรมัตถธรรมทั้ง ๔ เหลานี้ รวมเขาในกุสลติกไดทั้งหมดโดยไมม ีเหลอื ๒. กศุ ล อกศุ ล อพยากตธรรม ทั้ง ๓ ปรากฏเปนสว น ๆ ไมป ะปนกัน ๓. ในกสุ ลตกิ นี้ กุศลธรรมคอื ธรรมทีด่ แี ละไมม โี ทษตง้ั อยูในเบอ้ื งแรก อาศยั เหตุ ๓ ประการนี้ พระองคจงึ ทรงแสดง กสุ ลติก กอนติกะอื่น ๆ ๒. จงแสดง วจนตั ถะ ของคาํ วา กุศล, อกศุ ล, อพยากตะ และเพราะเหตใุ ด พระพทุ ธองคจ งึ ทรงแสดง กสุ ลตกิ ะ กอ นตกิ ะอนื่ ๆ ? 57/1ส  ๓. จงแปล และแสดงองคธ รรมของบาลบี ทดงั นี้ ? 46/1ส ก. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา ข. เนว ทสสฺ เนน น ภาวนาย ปหาตพฺพา ธมมฺ า ตอบ ก. สภาวธรรมทั้งหลายท่ีประกอบดว ยอเุ ปกขาเวทนา ซึง่ ไมใชทกุ ขไมใ ชส ขุ โดยลกั ษณะทง้ั ๔ มีเอกุปปฺ าทตา เปน ตน มอี ยู องคธ รรมไดแ ก อเุ ปกขาสหคตจติ ๕๕ เจตสกิ ๔๖ (เวนเวทนา) ข. สภาวธรรมทงั้ หลายทไ่ี มพ งึ ประหาณโดยโสดาปต ตมิ รรค และอริยมรรคเบื้องบน ๓ มอี ยู องคธรรมไดแก กุศลจิต ๒๑ วิปากจิต ๓๖ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสิก ๓๘ รปู ๒๘ นพิ พาน ๑ ข. วปิ ากา ธมมฺ า แปลวา อยา งไร ? องคธรรมไดแ กอะไร ? ใหจาํ แนกมาโดยสจั จะ ? 57/1ส ตอบ ข. วปิ ากา ธมมฺ า. สภาวธรรมทงั้ หลายที่เปนผลของกศุ ลและอกุศลซง่ึ พเิ ศษกวา กันและกนั มีอย.ู องคธ รรม ไดแ ก วปิ ากจติ ๓๖ เจตสกิ ๓๘. ธรรมเหลาน้ีเม่อื จําแนกโดยสัจจะแลวไดสจั จะ ๑ สัจจะ ๑ คอื โลกียวิปากจิต ๓๒ เจตสกิ ๓๕ เปนทุกขสัจจ ผลจติ ตุปบาท ๓๗ เปนสัจจวิมตุ ๒. ข. คาํ วา วบิ าก คอื ผลนน้ั มกี อี่ ยา งคืออะไรบา ง ? 43/2ส, 52/2ส, 53/2ส(3ข) ตอบ ข. คาํ วา วิบาก คอื ผลนั้น มี ๒ อยา ง คอื ๑. มขุ ยผล เปนผลโดยตรง ไดแก วปิ ากจติ ๓๖ เจตสกิ ๓๘ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ท่ี ขอมูลเพ่ิมเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 69 จฬู อาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๒. สามญั ญผล เปน ผลโดยสามญั ไดแ ก กัมมชรูป ๒. ธรรมเหลา นมี้ ีคาํ แปล และแสดงองคธ รรมวา อยา งไร ? 45/2ส ก. สงกฺ เิ ลส ข.สงกฺ ลิ ฏิ  ค. สงฺกเิ ลสกิ ง.อสงกฺ เิ ลส จ.อสงกฺ ลิ ฏิ  ๓. เม่ือสรุปธรรมใน สงฺกลิ ฏิ  ติก แลว มกี ี่ประเภท ? คืออะไรบาง ? 47/1ส, 59/2ส (แสดงพรอ มดวยความหมาย ไมต องแสดงองคธรรม) ? 58/2 ตอบ เม่อื จาํ แนกธรรมใน สงกฺ ิลฏิ  ติก แลว มี ๖ ประเภท คือ ๑. สงกฺ ิเลส ธรรมที่ทําใหเศรา หมองเรา รอ น ไดแ ก กเิ ลส ๑๐ มีโลภะ เปนตน ๒. สงกฺ ลิ ิฏ ธรรมที่ถกู กิเลสทาํ ใหเศรา หมองเรารอ น ไดแ ก อกุศลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ ๓. สงกฺ ิเลสกิ ธรรมท่เี ปน อารมณข องกิเลส ไดแก โลกียจติ ๘๑ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ๔. อสงกฺ เิ ลส ธรรมทไ่ี มทําใหเศรา หมองเรารอ น ไดแ ก จติ ๘๙ เจตสิก ๔๒ (เวนกเิ ลสองคธรรม ๑๐) รปู ๒๘ นิพพาน ๕. อสงฺกลิ ฏิ  ธรรมทไี่ มถูกกเิ ลสทําใหเศรา หมองเรา รอ น ไดแก กศุ ลจิต ๒๑ วิปากจติ ๓๖ กรยิ าจติ ๒๐ เจตสิก ๓๘ รูป ๒๘ นิพพาน ๖. อสงกฺ เิ ลสกิ ธรรมที่ไมเ ปน อารมณของกเิ ลส หรือไมเปน ทอี่ าศัยเกดิ ของความเศราหมองเรารอน ไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสิก ๓๖ นพิ พาน ๓. จงแปลและแสดงองคธรรม ในบทดงั ตอ ไปนี้ ? 50/1ส ก. เนววปิ ากนวปิ ากธมมฺ ธมมฺ า ข. อาจยคามโิ น ธมฺมา ค. อนิทสฺสนอปฺปฏฆิ า ธมมฺ า ตอบ ก. สภาวธรรมท้ังหลาย ท่ีไมเปนผลของกศุ ลและอกุศลซึง่ พิเศษกวา กันและกัน และไมมีสภาพใหผ ลเกดิ ขึ้นมอี ยู องคธ รรมไดแก กรยิ าจติ ๒๐ เจตสกิ ๓๕ รปู ๒๘ นิพพาน ข. สภาวธรรมทงั้ หลาย ท่ีเปน เหตใุ หถ งึ จตุ ิและปฏิสนธิ มีอยู องคธ รรมไดแก อกุศลจติ ๑๒ โลกยี กศุ ลจิต ๑๗ เจตสิก ๕๒ ค. สภาวธรรมทงั้ หลาย ท่ีเหน็ ไมได กระทบไมไ ด มอี ยู องคธ รรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ สขุ ุมรูป ๑๖ นิพพาน ๔. เม่ือจาํ แนกธรรมในปต ิตกิ แลว มก่ี ปี่ ระเภท? คอื อะไรบา ง? จงแปลและแสดงองคธ รรมของประเภทนน้ั ๆ มาดว ย ? 62/2ส ตอบ เมื่อจาํ แนกธรรมใน ปตติ ิก แลว มี ๔ ประเภท คือ ๑. สปั ปต กิ ธรรม ธรรมทีม่ ีปติ ไดแ ก โสมนสั สหคตจิต ๕๑ (เวน จตุตถฌานจติ ๑๑) เจตสกิ ๔๖ (เวนปต ิ) ๒. นิปปต กิ ธรรม ธรรมทไ่ี มมีปต ิ ไดแก อกุ เบกขาสหคตจติ ๕๕ โทสมลู จติ ๒ กายวญิ ญาณจิต ๒ จตตุ ถฌานจติ ๑๑ เจตสกิ ๕๑ (เวน ปติ) และ ปตเิ จตสิก ๕๑ รูป ๒๘ นิพพาน ๓. สปั ปต กิ สขุ ความสุขที่ประกอบดวยปติ ไดแ ก สขุ เวทนาเจตสิก ๕๑ ทีอ่ ยูใน ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ท่ี ขอ มูลเพ่มิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 70 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๔. นปิ ปต กิ สขุ กามโสมนัสสหคตจติ ๑๘ ปฐมฌานจติ ๑๑ ทุตยิ ฌานจิต ๑๑ ตติยฌานจิต ๑๑ ความสุขทไ่ี มประกอบดวยปติ ไดแก สขุ เวททนาเจตสกิ ๑๒ ทอ่ี ยูใน สุขสหคตกายวิญญาณจติ ๑ จตุตถฌานจติ ๑๑ ๓. ใหแ สดงองคธ รรมบาลบี ทตอ ไปน้ี ? 50/2ส ก. อาจยคามโิ น ธมมฺ า ข. อปจยคามโิ น ธมมฺ า ค. เนวาจยคามนิ าปจยคามโิ น ธมมฺ า ตอบ ธรรมทม่ี สี ภาพดงั ตอ ไปน้ี มีดงั นี้ คือ ก. องคธ รรม ไดแก อกุศลจิต ๑๒ โลกียกศุ ลจติ ๑๗ เจตสกิ ๕๒ ข. องคธ รรม ไดแ ก มคั คจิต ๔ เจตสิก ๓๖ ค. องคธรรม ไดแก วปิ ากจิต ๓๖ กรยิ าจิต ๒๐ เจตสิก ๓๘ รูป ๒๘ นพิ พาน ๓. ใหแ สดงธรรมทมี่ สี ภาพดงั ตอ ไปน้ี ? 48/2ส, 54/1ส, 57/2ส, 58/1ส, 61/2ส, 62/1ส, 62/2ส ก. ธรรมทเี่ ปน เหตใุ หเ กดิ ใหต าย ข. ธรรมทเ่ี ปน เหตใุ หไมเ กดิ ไมตาย ค. ธรรมทไี่ มใชเปน เหตใุ หเ กดิ ใหต าย และไมใ ชเ ปน เหตใุ หไ มเ กดิ ไมตาย ตอบ แสดงธรรมที่มสี ภาพดงั ตอ ไปน้มี ดี ังน้ี ก. ไดแ ก อาจยคามิธรรม คอื อกุศลจิต ๑๒ โลกียกุศลจติ ๑๗ เจตสกิ ๕๒ ข. ไดแก อปจยคามิธรรม คอื มคั คจติ ๔ เจตสกิ ๓๖ ค. ไดแก เนวาจยคามนิ าปจยคามิธรรม คอื วิปากจิต ๓๖ กริยาจิต ๒๐ เจตสกิ ๓๘ รูป ๒๘ นิพพาน ๒. ข. ธรรมอะไรเปน เหตใุ หเ กดิ ตายอยเู สมอ องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? เมือ่ /ถา ทา นอยากพนจากการเกดิ ตาย ทา นจะตอ งปฏบิ ตั ใิ หธ รรมชนดิ ใดเกดิ แกท า น ? 49/2ส(3ก), 51/1ส(3), 52/1ส(3), 57/1ส, 63/2ส(4ก) แสดงองคธ รรมมาดว ย ? 60/2ส องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 45/1ส ตอบ ข. ธรรมทีเ่ ปนเหตุใหเกดิ ตายอยูเสมอ คอื อาจยคามธิ รรม องคธ รรมไดแก อกศุ ลจติ ๑๒ โลกียกศุ ลจติ ๑๗ เจตสิก ๕๒ และถาอยากพนจากการเกิดการตาย จะตอ งปฏบิ ตั ิให อปจยคามิธรรม อันไดแ ก มคั คจิต ๔ เจตสิก ๓๖ เกดิ ขน้ึ ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆ ที่ ขอมูลเพิ่มเตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณีปกรณ 71 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๓. เมอื่ ทานไดร บั เชญิ ไปในงานศพแหง หนงึ่ ไดย นิ พระสงฆส วดพระอภธิ รรมวา เสกขฺ า ธมมฺ า. อเสกขฺ า ธมมฺ า. เนวเสกฺ ขานาเสกขฺ า ธมฺมา. อยากทราบวา แปลวา อะไร ? องคธรรมไดแ กอ ะไร ? 45/1ส, 46/2ส, 49/1ส, 53/1ส,.55/1ส ตอบ เสกฺขา ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมทงั้ หลายทเ่ี ปน ของเสกขบุคคล ๗ หรอื ที่ช่ือวา เสกขธรรม มีอยู องคธ รรมไดแ ก โลกตุ ตรจติ ๗ (เวน อรหัตตผลจติ ๑) เจตสกิ ๓๖ อเสกขฺ า ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมทัง้ หลายทเี่ ปน ของอเสกขบคุ คล หรอื ที่ชอื่ วา อเสกขธรรม มอี ยู องคธ รรมไดแก อรหัตตผลจติ ๑ เจตสกิ ๓๖ เนวเสกฺขานาเสกฺขา ธมฺมา แปลวา สภาวธรรมทั้งหลายที่ไมใชของเสกขบุคคลและอเสกขบุคคล หรือท่ีไม ชอ่ื วา เสกขธรรมและอเสกขธรรม มอี ยู องคธ รรมไดแก โลกียจิต ๘๑ เจตสกิ ๕๒ รปู ๒๘ นพิ พาน ๓. มจั ฉรยิ ะมีกอ่ี ยา ง คอื อะไรบา ง และมจั ฉรยิ ะเหลา นพ้ี งึ ประหาณ โดยมรรคใด ? 45/2ส ตอบ มจั ฉริยะ มี ๕ อยา ง คอื ๑. อาวาสมจั ฉรยิ ะ การหวงแหนวดั วาอารามท่ีอยทู ่อี าศัย ๒. กุลมจั ฉรยิ ะ การหวงแหนญาติ มติ ร ศษิ ยานศุ ิษย ทายกทายกิ า ๓. ลาภมัจฉรยิ ะ การหวงแหนในลาภสักการะ ๔. วรรณมัจฉรยิ ะ การหวงแหนความสวยงามเกียรติยศชอ่ื เสยี ง ๕. ธรรมมัจฉรยิ ะ การหวงแหนในวิชาความรูข องตน เหลา นี้ พึงประหาณโดยโสดาปต ตมิ รรค ๓. ข. จิตทสี่ ามารถกระทํามรรคใหเ ปน อารมณไ ดน ้นั มกี ด่ี วง คืออะไรบา ง ? 56/1ส, 62/2ส(ก) ตอบ ข. จติ ท่สี ามารถกระทํามรรคใหเ ปนอารมณไ ดนั้น มี ๑๑ ดวง คือ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ มหากุศลญาณสมั ปยุตตจติ ๔ มหากรยิ าญาณสัมปยุตตจติ ๔ อภิญญาจิต ๒ ๓. ข. ธรรมทไ่ี มก ระทาํ มรรคใหเ ปน อารมณน นั้ มีกพี่ วกคอื อะไร และองคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 49/2ส, 55/2ส, 59/1ส(3), 63/2ส(4) ตอบ ข. ธรรมท่ีไมก ระทาํ มรรคใหเ ปน อารมณน ั้น มี ๒ พวก คอื โดยแนนอนพวกหนงึ่ ไมแนน อนพวกหนึง่ โดยแนน อนน้นั องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ อเหตุกจติ ๑๗ (เวนมโนทวาราวชั ชนจติ ๑) มหากุศลญาณ วิป-ปยตุ ตจติ ๔ มหาวิปากจิต ๘ มหากริยาญาณวปิ ปยตุ ตจติ ๔ รปู าวจรจิต ๑๕ (เวน อภญิ ญาจิต ๒) อรูปาวจรจิต ๑๒ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ นพิ พาน ไมแนนอนนน้ั องคธ รรมไดแก มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากุศลญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ มหากรยิ าญาณ สมั ปยตุ ตจติ ๔ อภญิ ญาจิต ๒ เจตสกิ ๓๘ ขณะทีไ่ มไดกระทาํ มรรคใหเ ปนอารมณ ๓. ก. พระสงฆท ก่ี ําลงั สวดมาตกิ าอยวู า “อุปาทนิ นฺ ปุ าทานยิ า ธมมฺ า” “อนปุ าทินนฺ ปุ าทานยิ า ธมมฺ า” “อนปุ าทินนฺ อนปุ าทานยิ า ธมมฺ า” อยากทราบวา บททงั้ ๓ นี้ แปลวา กระไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? (ไมต อ งจาํ แนก ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ) ? 56/1ส ตอบ ก. อุปาทนิ นฺ ุปาทานยิ า ธมมฺ า. แปลวา สภาวธรรมท้งั หลายทก่ี รรม (อันตณั หาและทฏิ ฐเิ ขาไปติด โดยอาการกระทําใหเ ปน อารมณน ้นั ) ยึดไวโ ดยความเปนผล และเปนอารมณข องอุปาทานไดม อี ย.ู ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ที่ ขอมูลเพ่มิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 72 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) องคธ รรม ไดแ ก โลกยี วิปากจิต ๓๒ เจตสกิ ๓๕ กัมมชรปู ๒๐ อนุปาทนิ นฺ ปุ าทานยิ า ธมมฺ า. สภาวธรรมทง้ั หลายท่กี รรม (อนั ตัณหาและทิฏฐิเขาไปติด โดย อาการกระทําใหเปน อารมณน ั้น ) ไมไดย ดึ ไวโ ดยความเปน ผล แตเปนอารมณข องอุปาทานได มีอย.ู องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ โลกยี กุศลจติ ๑๗ กรยิ าจิต ๒๐ เจตสกิ ๕๒ จติ ตชรปู ๑๗ อุตุชรปู ๑๕ อาหารชรูป ๑๔ อนปุ าทนิ นฺ อนปุ าทานยิ า ธมมฺ า. สภาวธรรมท้ังหลายทกี่ รรม (อันตัณหาและทิฏฐิเขา ไปตดิ โดย อาการกระทาํ ใหเปน อารมณน นั้ ) ไมไดยดึ ไวโดยความเปน ผล และไมเปน ประโยชน คอื ไมเ ปนอารมณข อง อุปาทาน มีอยู. องคธรรม ไดแ ก โลกุตตรจิต ๘ เจตสิก ๓๖ นพิ พาน. ๓. ใหแ สดงเหตผุ ลในการทนี่ พิ พานเปน ตกิ วมิ ตุ ใิ น อปุ ปฺ นฺนตกิ ? 48/2ส ตอบ แสดงเหตุผลในการทนี่ พิ พานเปนตกิ วิมตุ ิใน อปุ ปฺ นนฺ ติก ในอุปฺปนนฺ ติก ท่ีมนี ิพพานเปนตกิ วมิ ุติน้ัน เพราะนิพพานเปนกาลวมิ ุติ คือ พนจากกาลทั้ง ๓ หมายความวา สภาพของพระนิพพานนี้ กําลังเกิดก็ไมใช จะเกิดก็ไมใช เกิดแลวก็ไมใช ที่เปนเชนนี้ก็เพราะสภาพของ นิพพานน้ันก็คือ ความดับแหงจิต เจตสิก รูป นิพพาน ของผูใดผูหนึ่งซึ่งเปนการดับคร้ังสุดทาย ไมเกิดอีก ตอไปนั้นเอง ดังพระพุทธองคทรงแสดงวา นิพฺพานํ น วตฺตพฺพํ อุปฺปนนฺ นฺติป อนุปฺปนฺนนฺติป อุปฺปาทีตปิ  สภาพของพระนิพพานนัน้ กลาวไมไ ดวา กําลงั เกิด จะเกิด หรือเกดิ แลว ๓. ทฏิ ฐิคตวปิ ปยตุ ตจติ ๔ โทสมลู จติ ๒ เมอ่ื แบง ออกตามอํานาจการประหาณ ของมรรคทงั้ ๔ แลว ไดก ปี่ ระเภท ? คอื อะไรบา ง ? และจงแสดงมรรคทป่ี ระหาณ ทฏิ ฐคิ ตวปิ ปยตุ ตจติ โทสมลู จติ ตามประเภท โดยเฉพาะ ๆ 63/2ส ตอบ ทฏิ ฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ เจตสกิ ท่ีประกอบ เมอ่ื แบงออกตามอาํ นาจการประหาณของมรรคทง้ั ๔ แลว ได ๕ ประเภท คอื ประเภทท่ี ๑ ทีเ่ ปน อปายคมนยิ ะ นาํ ไปสูอบายได พงึ ประหาณโดย โสดาปต ติมรรค ประเภทท่ี ๒ ท่เี ปน โอฬารกิ ะ แตน ําไปสอู บายได พงึ ประหาณโดย สกทาคามิมรรค ประเภทที่ ๓ ที่เปน สุขุมะ ซ่ึงเกี่ยวกับกามราคะ พงึ ประหาณโดย อนาคามิมรรค ประเภทท่ี ๔ ทเี่ ปน สขุ มุ ะ ซง่ึ เกย่ี วกบั รูปราคะ พงึ ประหาณโดย อรหัตตมรรค ประเภทที่ ๕ ทเี่ ปน สขุ มุ ะ ซึ่งเกยี่ วกับอรปู ราคะ พงึ ประหาณโดย อรหัตตมรรค โทสมลู จติ ๒ เจตสกิ ที่ประกอบ เมื่อแบงออกตามอํานาจการประหาณของมรรคทัง้ ๔ แลวได ๓ ประเภท คือ ประเภทท่ี ๑ ท่เี ปน อปายคมนยิ ะ พึงประหาณโดย โสดาปต ติมรรค ประเภทท่ี ๒ ที่เปน โอฬารกิ ะ พึงประหาณโดย สกทาคามิมรรค ประเภทที่ ๑ ทเ่ี ปน สขุ มุ ะ พงึ ประหาณโดย อนาคามมิ รรค ๓. จงแสดงบาลแี ละคาํ แปล พรอ มองคธ รรมในอตตี ตกิ ? 44/2ส ตอบ ป. อตตี า ธมฺมา สภาวธรรมท้งั หลายท่ีเปนอตีต มีอยู องคธรรมไดแก จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ทุ. อนาคตา ธมฺมา สภาวธรรมท้งั หลายท่ีเปนอนาคต มีอยู องคธ รรมไดแก จติ ๘๙ เจตสิก ๕๒ รูป ๒๘ ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ท่ี ขอมลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 73 จูฬอาภิธรรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ต. ปจฺจุปปฺ นนฺ า ธมฺมา สภาวธรรมทั้งหลายที่เปน ปจจุบันมอี ยู องคธรรมไดแ ก จติ ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ๓. ข. จติ เจตสิก รปู เกดิ พน จากกาลทงั้ ๓ มหี รอื ไม ใหว นิ จิ ฉยั โดยยกชอ่ื ตกิ ะขนึ้ ตดั สนิ ? 62/2ส ตอบ ข. จิต เจตสกิ รปู ท่เี กดิ พน จากกาลทงั้ ๓น้ัน ไมมี ขอยกอตตี ติกะขนึ้ ตัดสินเพราะ ใน อตตี ติกะนี้ ในปฐมบท องคธรรม ไดแ ก จติ เจตสิก รปู ที่ดับไปแลว ใน ทตุ ิยบท องคธรรม ไดแ ก จติ เจตสิก รูป ทจ่ี ะเกิด ใน ตตยิ บท องคธ รรม ไดแ ก จิต เจตสกิ รปู ที่กาํ ลังเกิดอยู ฉะนัน้ จิต เจตสกิ รปู ที่เกดิ พนจากกาลทงั้ ๓ น้ัน จงึ ไมม.ี ๓. ข. ในติกมาตกิ าบทน้นั บททม่ี อี งคธ รรมเปน รปู ปรมตั ถจ าํ พวกเดยี วมกี ี่บทคอื อะไรบา ง จงแสดงมาเปนบาลี คาํ แปลและองคธ รรม ? 43/2ส, 52/2ส,.54/2ส ตอบ ข. ในตกิ มาติกาบทนนั้ บทท่ีมีองคธ รรมเปนรปู ปรมัตถจําพวกเดียว มี ๒ บท คือ สนทิ สฺสนสปฺปฏฆิ า ธมมา สภาวธรรมทัง้ หลายทม่ี ีสภาพเปน ไป พรอ มดว ยการเห็นไดแ ละกระทบไมม อี ยู องคธรรมไดแ ก รูปารมณ อนทิ สสฺ นสปปฺ ฏฆิ า ธมมฺ า สภาวธรรมทัง้ หลายที่มีสภาพเห็นไมไ ด แตม สี ภาพเปนไปพรอ มดว ยกระทบไดมอี ยู องคธ รรมไดแก โอฬารกิ รปู ๑๑ (เวน รปู ารมณ) ๔. ข. จงแสดงการจาํ แนกจติ ๘๙ โดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะแลว ไดเ ทา ไร ? 47/2ส และสจั จวมิ ตุ ? 51/2ส ตอบ ข. จิต ๘๙ จาํ แนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะแลว ไดวญิ ญาณขันธ ๑ มนายตนะ ๑ วญิ ญาณ ธาตุ ๗ [(51/2) คือ ในจิต ๘๙ น้นั ทวปิ ญจวิญญาณจิต ๑๐ เปนปญจวญิ ญาณธาตุ ๕ สัมปฏิจฉนจิต ๒ ปญจทวาราวัชฉนจิต ๑ เปน มโนธาตุ จติ ทเี่ หลอื ๗๖ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ] สจั จะ ๑ คือ โลกียจิต ๘๑ เปน ทุกขสัจจ โลกตุ ตรจิต ๘ เปน สจั จวมิ ุตติ ๔. ใหจ ําแนกเจตสกิ ๕๒ โดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 50/2ส ๔. ใหจ าํ แนกเจตสกิ ๕๒ โดย ธาตุ สจั จะ และ สจั จะวมิ ตุ ? 61/1ส ตอบ ไดข ันธ ๓ คอื เวทนาเจตสิก เปนเวทนาขันธ, สญั ญาเจตสิก เปนสัญญาขันธ, เจตสกิ ที่เหลือ ๕๐ เปนสงั ขารขนั ธ ไดอายตนะ ๑ คอื ธัมมายตนะ ไดธาตุ ๑ คอื ธมั มธาตุ ได สัจจะ ๓ คือ เจตสกิ ๕๑ (เวน โลภะ) ท่ีในโลกยี จติ ๘๑ เปนทกุ ขสจั จ โลภเจตสิก เปน สมทุ ยั สจั จ องคมรรค ๘ หรือ ๗ ที่ในมคั คจิต ๔ เปน มัคคสจั จ เจตสกิ ท่ีเหลอื ๒๘ (เวน องคมรรค ๘) ทีใ่ นมคั คจิต ๔ และ เจตสิก ๓๖ ที่ในผลจติ ๔ เปน สัจจวมิ ุติ ๔. ใหจ ําแนกองคธ รรมดงั ตอ ไปน้ี โดย สจั จะ ? 48/2ส ดาวนโหลดขอมูลตา งๆ ที่ ขอมูลเพมิ่ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 74 จฬู อาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ก. จติ ๘๙ รปู ๒๘ นิพพาน ข. เจตสกิ ๕๒ ค. อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ ตอบ ก. ไดสัจจะ ๒ สจั จะ ๒ คือ โลกยี จติ ๘๑ รูป ๒๘ เปนทกุ ขสจั จ นพิ พาน เปน นิโรธสัจจ โลกตุ ตรจติ ๘ เปน สัจจวิมุติ ข. ได สัจจะ ๓ สัจจะ ๓ คือ เจตสกิ ๕๑ (เวนโลภะ) ทใ่ี นโลกยี จติ ๘๑  ทใี่ นผลจิต ๔ เปน สจั จวมิ ตุ ิ ค. ได สจั จะ ๒ สัจจะ ๒ คอื อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๖ (เวน โลภะ) เปนทกุ ขสจั จ โลภเจตสกิ เปน สมทุ ยั สจั จ ๔. ใหอ ธบิ ายคาํ วา โคจฉฺ ก ? 45/1ส ตอบ คําวา โคจฺฉก แปลวา เปนชอหรือเปน พวง เชน ชอดอกไม หรือ พวงผลไม ธรรมดาดอกไมหรือผลไม ท่อี ยใู นชอหรือพวงเดียวกัน ยอมมีการเก่ียวขอ งคลายคลึงกัน วาโดยศพั ทหรือโดยเนื้อความตองเกี่ยวเนือ่ ง กันจึงจะเรยี กวา โคจฺฉก เชน เหตุโคจฺฉก มีทุกะ ๖ ประเภท ใน ๖ ทุกะนั้นวาโดยศัพทและเนื้อความ ยอม เกี่ยวของกันและกัน คือ สเหตุกทกุ และ เหตุสมั ปยุตตทุก ทงั้ สองน้ี เก่ยี วเนื่องกบั ธรรมทีเ่ ปนเหตทุ ง้ั ๖ ในเหตุทกุ เหตุสเหตุกทกุ นี้ เก่ยี วเนื่องกบั เหตทุ กุ และ สเหตกุ ทกุ เหตเหตสุ มั ปยตุ ตทุกน้ี เกี่ยวเนือ่ งกับ เหตุทุก และ เหตสุ ัมปยุตตทุก นเหตสุ เหตทุ กุ เก่ยี วเน่อื งกบั เหตทุ ุก และ สเหตกุ ทุก ดงั นเ้ี ปนตน ๔. ก.อภธิ มั มทกุ มาตกิ า มีกหี่ มวด ? คอื อะไรบา ง ? 49/2ส ตอบ ก. อภิธมั มทุกมาติกา มี ๑๓ หมวด คือ ๑. เหตุโคจฉฺ ก ๒. จฬู นตฺ รทุก ๓. อาสวโคจฉฺ ก ๔. สโฺ ชนโคจฺฉก ๕. คนฺถโคจฉฺ ก ๖. โอฆโคจฺฉก ๗. โยคโคจฺฉก ๘. นีวรณโคจฉฺ ก ๙. ปรามาสโคจฉฺ ก ๑๐. มหนฺตรทุก ๑๑. อปุ าทานโคจฉฺ ก ๑๒. กเิ ลสโคจฉฺ ก ๑๓. ปฏ  ทุก (เห จู อา สญั คัน โอ โย นี ป ม อุ กิ ปฏฐิ) ๓. ก. อภธิ ัมมทกุ มาตกิ า แบง ออกเปน กห่ี มวด คอื อะไรบา ง และแตล ะหมวดมจี าํ นวนเทาไร ? 59/2ส ตอบ ก. อภิธมั มทกุ มาติกาแบง ออกเปน ๑๓ หมวด แตละหมวดมจี ํานวนดังตอไปนี้ คอื ๑. เหตุโคจฉฺ ก มที ุกะ ๖ ประเภท ๒. จฬู นฺตรทกุ มที ุกะ ๗ ประเภท ๓. อาสวโคจฉฺ ก มที กุ ะ ๖ ประเภท ๔. สโฺ ชนโคจฺฉก มที ุกะ ๖ ประเภท ๕. คนฺถโคจฉฺ ก มีทุกะ ๖ ประเภท ๖. โอฆโคจฺฉก มีทกุ ะ ๖ ประเภท ๗. โยคโคจฺฉก มีทกุ ะ ๖ ประเภท ๘. นีวรณโคจฺฉก มที กุ ะ ๖ ประเภท ๙. ปรามาสโคจฺฉก มที กุ ะ ๕ ประเภท ๑๐. มหนฺตรทุก มที ุกะ ๑๔ ประเภท ๑๑. อุปาทานโคจฺฉก มีทกุ ะ ๖ ประเภท ๑๒. กิเลสโคจฺฉก มที ุกะ ๘ ประเภท ๑๓. ปฏ ทกุ มีทกุ ะ ๑๘ ประเภท (เห จู อา สัญ คนั โอ โย นี ป ม อุ กิ ปฏฐิ) ๕. ก. ในทกุ มาตกิ าทพ่ี ระพทุ ธองคท รงเทศนานนั้ แบง ออกเปน กป่ี ระเภท ? คอื อะไรบา ง ? 48/2ส ตอบ ก. ในทกุ มาติกา ท่พี ระพุทธองคทรงเทศนานน้ั แบงออกเปน ๒ ประเภท คือ สทุ ธฺ ทกุ และ มสิ สฺ กทุก ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ที่ ขอมลู เพ่มิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 75 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) เชน ในเหตุโคจฉฺ ก - สทุ ธฺ ทุก น้ัน ไดแ ก เหตทุ ุก สเหตุกทกุ เหตุสมปฺ ยตุ ฺตทุก - มสิ สฺ กทกุ นั้น ไดแ ก เหตสุ เหตุกทุก เหตเุ หตสุ มปฺ ยตุ ตฺ ทกุ นเหตสุ เหตกุ ทกุ ๔. ก. ในเหตโุ คจฉฺ ก มที กุ ะกป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ? 47/1ส, 49/1ส, 50/1ส, 53/1ส, 53/2ส, 54/2ส, 58/1ส, 58/2ส, 59/2ส, 60/2ส ตอบ ก. ในเหตโุ คจฺฉก มีทกุ ะ ๖ ประเภทคือ ๑. เหตทุ ุก ๒. สเหตกุ ทุก ๓. เหตุสมปฺ ยตุ ตฺ ทุก ๔. เหตสุ เหตุกทุก ๕. เหตเุ หตุสมปฺ ยุตตฺ ทุก ๖. นเหตสุ เหตกุ ทุก ๔. ก. ในจฬู นตฺ รทกุ มีทกุ ะกป่ี ระเภท คอื อะไรบา ง ? 44/2ส, 47/2ส, 51/2ส, 52/2ส, 57/2ส, 59/1ส, 61/1ส(3ก) และ อสงขฺ ตา ธมมฺ า. แปลวา อะไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ใหจ าํ แนกมาโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ดว ย ? 56/1ส และจงจาํ แนกนพิ พาน โดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 44/1ส ตอบ ก. ในจูฬนตฺ รทกุ มี ทกุ ะ ๗ ประเภท คอื ๑. สปฺปจฺจยทกุ ๒. สงขฺ ตทุก ๓. สนทิ สฺสนทกุ ๔. สปฺปฏิฆทกุ ๕. รปู ทกุ ๖. โลกยิ ทกุ ๗. เกนจิวิ ฺเยยฺ ทกุ (56/1ส) และ อสงฺขตา ธมมฺ า. แปลวา สภาวธรรมท้ังหลายที่ไมถ ูกปรงุ แตง โดยปจจยั ๔ (คอื กรรม จติ อตุ ุ อาหาร) มีอย.ู องคธรรม ไดแก นพิ พาน. (44/2ส, 47/2ส) นพิ พาน เมือ่ จาํ แนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ แลว นิพพานน้ีพนจากการนับ สงเคราะหโดยความเปน ขันธแลว เปนขันธวิมุต (56/1ส)นิพพานน้พี นจากการนับสงเคราะห โดยความเปน ขันธแลว ไดธ ัมมายตนะ ๑ ธัมมธาตุ ๑ นโิ รธสจั จ ๑ ๔. ก. สปปฺ จจฺ ยา ธมมฺ า แปลวา อยา งไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 51/1ส, 52/1ส, 59/2ส ตอบ ก. สปปฺ จจฺ ยา ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมทั้งหลายทมี่ ปี จจยั ๔ (คอื กรรม จิต อตุ ุ อาหาร) ปรุงแตงมอี ยู องคธ รรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ รูป ๒๘ ๔. ทกุ ะใดในทกุ มาตกิ า ท่อี งคธรรมของ ปฐมบท และ ทตุ ยิ บท เหมอื นกนั และใหจ าํ แนกนพิ พาน โดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 54/1ส ตอบ ในทุกมาตกิ า ทกุ ะทมี่ อี งคธ รรมของ ปฐมบท และ ทุติยบทเหมือนกัน คอื เกนจิวิฺเยยฺ ทุก และ พระนพิ พานเม่อื จาํ แนกโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะแลว เปน ขนั ธวมิ ตุ ติ ธัมมายตนะ ธัมมธาตุ นโิ รธสัจจ ๔. ข. อาสวโคจฉฺ ก มที กุ กีป่ ระเภทคอื อะไรบา ง ? แสดงมาตามลาํ ดบั ? 48/2ส ตอบ ข. อาสวโคจฺฉก มที ุก ๖ ประเภท คอื ๑. อาสวทุก ๒. สาสวทกุ ๓. อาสวสมฺปยตุ ตฺ ทุก ๔. อาสวสาสวทุก ๕. อาสวอาสวสมปฺ ยตุ ฺตทกุ ๖. อาสววปิ ฺปยุตฺตสาสวทุก ๔. ข. อาสวา ธมมฺ า แปลวาอยา งไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 61/1ส จงจาํ แนกมาโดย ขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 44/2ส, 49/1ส, 53/2ส ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆ ที่ ขอมลู เพม่ิ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณีปกรณ 76 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ข. อาสวา ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมทั้งหลายที่ชื่อวา อาสวะหรือท่ีมีสภาพไหลไป วาโดยภูมิถึง ภวคั คภูมิ วา โดยธรรมถึงโคตรภู หรอื ท่ีมสี ภาพเหมอื นสุราท่หี มกั ไวน าน มอี ยู องคธรรมไดแ ก อาสวะองคธ รรม ๓ คือ โลภะ ทฏิ ฐิ โมหะ ธรรมเหลา นเ้ี ม่ือจําแนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะแลว ได สังขารขันธ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธัมมธาตุ ๑ สัจจะ ๒ คอื ทฏิ ฐิ โมหะ เปนทุกขสัจจ โลภเจตสิก เปน สมุทยั สจั จ ๔. ข. อาสวา ธมมฺ า อาสวสมปฺ ยตุ ตฺ าป แปลวา อยา งไร ? องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 43/2ส, 52/2ส, 57/2ส, 59/1ส ตอบ ข. อาสวา ธมฺมา อาสวสมฺปยุตฺตาป แปลวา สภาวธรรมท้งั หลายท่ีชื่อวา อาสวะและประกอบดวยอา สวะมีอยู องคธรรมไดแ ก อาสวะองคธรรม ๓ คอื โลภะ ทิฏฐิ โมหะ ทีใ่ นโลภมูลจติ ๘ ๔. อาสวา ธมฺมา, รปู โ น ธมมฺ า แปลวา อยา งไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร จงจาํ แนกมาโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ ? 46/2ส ตอบ อาสวา ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมท้ังหลายท่ชี ื่อวา อาสวะ  โลภเจตสกิ เปนสมทุ ัยสัจจ รูปโ น ธมฺมา แปลวาสภาวธรรมทัง้ หลาย ทม่ี ีรุปปนลกั ขณะคอื ความสลายไป มีอยู องคธรรมไดแก รูป ๒๘ ธรรมเหลานี้เม่ือจาํ แนกโดยขันธ อายตนะ ธาตุ สจั จะแลว ได ขันธ ๑ อายตนะ ๑๑ ธาตุ ๑๑ สัจจะ ๑ ขนั ธ ๑ คอื รปู ๒๘ เปน รปู ขันธ อายตนะ ๑๑ คอื โอฬารกิ รปู ๑๒ เปน โอฬาริกายตนะ ๑๐ สุขมุ รูป ๑๖ เปนธมั มายตนะ ธาตุ ๑๑ คอื โอฬาริกรปู ๑๒ เปนโอฬาริกธาตุ ๑๐ สขุ ุมรูป ๑๖ เปน ธมั มธาตุ สัจจะ ๑ คอื รูป ๒๘ เปน ทกุ ขสัจจ ๔. ข. จิตตฺ า ธมมฺ า แปลวา อยา งไร จงจาํ แนกมาโดยสจั จะ และสจั จวมิ ตุ ? 44/1ส ตอบ ข. นิพพาน เม่ือจําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สจั จะ แลว นพิ พานนี้พน จากการนบั สงเคราะหโ ดย ความเปนขนั ธแลว เปน ขันธวมิ ตุ อายตนะ ๑ คอื ธัมมายตนะ ธาตุ ๑ คือ ธัมมธาตุ สัจจะ ๑ คือ นิโรธสัจจ ปล. เฉลย กับคําถามไมต รงกนั => จติ ตา ธมฺมา สภาวธรรมทัง้ หลายท่ชี ือ่ วา จติ มีอยู เม่ือจําแนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ แลวได วญิ ญาณขนั ธ ๑ มนายตนะ ๑ วิญญาณธาตุ ๗ คือ ทวปิ ญจวิญญาณจติ ๑๐ เปน ปญ จวญิ ญาณธาตุ ๕ สมั ปฏจิ ฉนจติ ๒ ปญจทวาราวัชชนจิต ๑ เปน มโนธาตุ จติ ทเ่ี หลอื ๗๖ เปน มโนวิญญาณธาตุ สจั จะ ๑ คอื โลกียจิต ๘๑ เปน ทกุ ขสัจจ โลกตุ ตรจติ ๘ เปน สจั จวมิ ตุ ติ จากคาํ ตอบในเฉลยควรจะถามถงึ อสงขตา ธมฺมา หรือ อปฺปจจฺ ยา ธมฺมา ๔. ก. โคจฉฺ ก อนื่ ๆ ที่นอกจากกเิ ลสโคจฉฺ กนน้ั ในโคจฉฺ กหนงึ่ ๆ มี ๖ ทกุ ะ แตใ นปรามาสโคจฉฺ ก มเี พยี ง ๕ ทกุ ะ นนั้ อยากทราบวา ขาดทกุ ะใด และเปน เพราะเหตใุ ด จงอธบิ าย ? 56/2ส, 60/1ส ตอบ ก. ใน ปรามาสโคจฺฉก มเี พยี ง ๕ ทุกะน้ันเพราะขาดปรามาสปรามาสสมปฺ ยุตตฺ ทุก ท่ีเปนเชนนก้ี ็ เพราะวา ปรามาสองคธรรมมแี ตเ พียงทฏิ ฐิเจตสิกดวงเดียวน้นั เอง ฉะน้นั ธรรมทช่ี อ่ื วา ปรามาสะ และ ประกอบดว ยปรามาสะน้นั ยอ มไมมี เมือ่ เปนเชนน้ี ถึงแมวาองคธรรมของทุตยิ บท คอื ปรามาสสมปฺ ยตุ ฺตา เจว ธมมฺ า โน จ ปรามาสา มไี ดก็จริง แตอ งคธ รรมของปฐมบทคอื ปรามาสา เจว ธมมฺ า ปรามาสสมฺปยตุ ฺตา จ นน้ั ยอมไมม ี ฉะนนั้ พระพทุ ธองค จงึ ไมทรงแสดงปรามาสปรามาสสมฺปยตุ ฺตทุก ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอ มลู เพม่ิ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 77 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ๔. ข. คาํ วา อชฌฺ ตตฺ มกี อ่ี ยา งอะไรบา ง จงแสดงมาตามลาํ ดบั และใหแ สดงวา อชั ฌตั ตะ ในอชั ฌตั ตกิ ทกุ ะนั้นทรง มงุ หมายเอาประเภทใด และอชั ฌตั ตะในอชั ฌตั ตตกิ นน้ั ทรงมงุ หมายเอาประเภทใด ? 47/1ส ตอบ ข. คําวา อชฺฌตฺต มี ๔ ประการคอื ๑. โคจรชฌฺ ตตฺ ไดแก อารมณส ามัญคืออารมณท ่ัวไป ๒. นยิ กชฺฌตฺต ไดแ ก ธรรมทงั้ หลายที่เกดิ อยูภายในตน ๓. อชฺฌตตฺ ชฌฺ ตฺต ไดแก อชั ฌตั ตกิ ายตนะ ๖ ๔. วิสยชฺฌตฺต ไดแก ผลสมาบัติ ในบรรดาอชั ฌตั ตะ ๔ อยางนัน้ คําวา อชั ฌัตตะในอชั ฌตั ตกิ ทุกะน้ัน พระพุทธองคท รงมงุ หมายเอา อชฺฌตตฺ ชฌฺ ตฺต สวนคําวา อัชฌตั ตะ ในอชั ฌัตตตกิ ะนน้ั พระพุทธองคทรงมงุ หมายเอา นิยกชฌฺ ตฺต ให นกั ศกึ ษาทั้งหลายพึงทราบดงั นี้ ๔. ในมหนฺตรทกุ นัน้ บททมี่ อี งคธ รรมเปน นามปรมตั ถฝ า ยเดยี วมกี บี่ ท ? คอื อะไรบาง ? แสดงเฉพาะบาลี และองค ธรรมของบทเหลา นน้ั มาดวย ? (ไมต อ งแปล) ? 46/1ส ตอบ ในมหนฺตรทกุ น้ัน บททีม่ ีองคธ รรมเปนนามปรมัตถฝ า ยเดียวมี ๘ บท คือ ๑. สารมฺมณา ธมมฺ า องคธ รรมไดแ ก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ ๒. จติ ตฺ า ธมมฺ า องคธรรมไดแ ก จิต ๘๙ ๓. เจตสิกา ธมฺมา องคธ รรมไดแก เจตสิก ๕๒ ๔. จติ ตฺ สมฺปยตุ ตฺ า ธมมฺ า องคธ รรมไดแก เจตสิก ๕๒ ๕. จิตตฺ สสํ ฏา ธมมฺ า องคธ รรมไดแก เจตสิก ๕๒ ๖. จิตฺตสสํ ฏสมุฏ านา ธมมฺ า องคธ รรมไดแก เจตสกิ ๕๒ ๗. จติ ตฺ สสํ ฏสมุฏ านสหภุโน ธมมฺ า องคธ รรมไดแ ก เจตสิก ๕๒ ๘. จิตฺตสสํ ฏสมฏุ  านานุปริวตฺตโิ น ธมฺมา องคธรรมไดแ ก เจตสกิ ๕๒ ๔. ก. ใน ปฎฐ ทิ กุ นน้ั ทกุ ะทเ่ี ปน นปิ ปฺ เทสทกุ มกี ที่ กุ ะ ? 57/1ส ตอบ ก. ในปฎฐทิ ุก น้ันทกุ ะท่เี ปน นปิ ฺปเทสทกุ มี ๑๘ ทุกะ ๔. ข. ทกุ ะที่ทานอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความในเหตโุ คจฺฉกมกี ่ีทกุ ะ คอื อะไรบา ง (พทุ ธมตั ตญั ตุ าสติ ทกุ มาตกิ า) ? 49/21ส ตอบ ข. มี ๙ ทกุ ะคือ ๑. เหตุอเหตุกทกุ ๒. เหตุเหตุวปิ ฺปยุตตฺ ทุก ๓. นเหตุเหตุสมฺปยตุ ตฺ ทกุ ๔. เหตสุ เหตกุ ทุก ๕. เหตเุ หตสุ มปฺ ยตุ ตฺ ทกุ ๖. สเหตุกเหตุกทุก ๗. อเหตกุ เหตุกทุก ๘. เหตุสมฺปยตุ ฺตเหตุทุก ๙. เหตวุ ิปฺปยุตฺตเหตทุ กุ ๕. ก. ใหแ สดงเปน ปฐมบท และทตุ ยิ บท โดยยกเอาทตุ ยิ บทของสเหตกุ ทกุ เขา ในเหตทุ กุ ? 46/2ส ตอบ ก. แสดงเปนปฐมบทและทุตยิ บท โดยยก ทตุ ยิ บทของสเหตุกทุก เขา ในเหตุทุก ดงั น้ี คือ ปฐมบท อเหตุกา ธมฺมา เหตูป ทตุ ยิ บท อเหตกุ า ธมมฺ า น เหตปู . ดาวนโหลดขอมลู ตา งๆ ที่ ขอ มลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 78 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๔. ข. โคจฉฺ ก ทม่ี ชี อื่ ตา งกนั แตมอี งคธ รรมเหมอื นกนั มกี โี่ คจฉฺ ก คอื อะไรบา ง และองคธ รรมไดแ กอ ะไรใหจ าํ แนกมาโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ และสจั จะ ? 50/1ส ปญ หาพทุ ธฺ มตฺตฺ ภุ าสติ ทกุ มาตกิ า ? 45/2ส(4) , 60/1ส ๕. ก. (ในทกุ มาตกิ า) โคจฉฺ ก ท่มี ีชื่อตา งกนั แตอ งคธ รรมเหมอื นกนั มกี ี่โคจฉฺ ก คอื อะไรบาง ? 48/2ส(4ก) และเม่อื นับจาํ นวนโดยทกุ ะ และบทแลว ไดเทา ไร ? 47/1ส, 51/2ส(5ก), 53/1ส, 54/2ส, 56/1ส, 56/2ส, 57/1 ส(4ข), 58/1ส, 61/2ส(4), 62/1ส(4) ตอบ ข. โคจฺฉก ท่มี ีช่ือ ตา งกนั แตอ งคธ รรมเหมอื นกันน้ัน มี ๓ โคจฉฺ ก คือ ๑. อาสวโคจฺฉก ๒. โอฆโคจฉฺ ก ๓. โยคโคจฺฉก องคธรรมไดแ ก โลภะ ทฏิ ฐิ โมหะ ธรรมเหลาน้เี ม่ือจําแนก โดยขันธ อายตนะ ธาตุ และสจั จะ แลวได สังขารขนั ธ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธัมมธาตุ ๑ สจั จะ ๒ สัจจะ ๒ คือ ทฏิ ฐิ โมหะ เปนทุกขสัจจ โลภเจตสกิ เปน สมุทยั สัจจ และโคจฉฺ ก ท้ัง ๓ นี้ เม่ือนับโดยจาํ นวนทกุ ะแลวได ๒๔ ทุกะ นับจํานวนโดยบทแลว ได ๔๘ บท ๔. ข. ทกุ ะทม่ี ชี อ่ื ตา งกนั แตม อี งคธ รรมเหมอื นกนั มกี ่ีทกุ ะ คอื ทกุ ะอะไรบา ง?. และเมอื่ วา โดยทุกะ มกี ที่ กุ ะ เมอ่ื วา โดยบท มกี บี่ ท ? 60/2. ตอบ ข. ทุกะทม่ี ชี ่ือตา งกนั แตมอี งคธรรมเหมือนกันมี ๓ โคจฺฉก คือ :- ๑. อาสวโคจฺฉก ๒. โอฆโคจฺฉก ๓. โยคโคจฺฉก เมื่อวาโดยทุกะแลว มี ๒๔ ทกุ ะ เมอื่ วา โดยบทแลวมี ๔๘ บท ๕. ก. ในสฺโชนโคจฉฺ ก มกี ที่ กุ ะ คอื อะไรบา ง ? (พทุ ฺธมตตฺ ฺ ภุ าสติ ทกุ มาตกิ า) ? 44/2ส ๕. ก. ทกุ ะทท่ี า นอรรถกถาจารย แสดงขยายความใน สโฺ ชนโคจฉฺ ก มกี ท่ี กุ ะ ? คอื อะไรบาง ? 50/2ส ตอบ (44/2ส) ก. ในสโฺ ชนโคจฺฉก มี ๘ ทุกะ คือ (50/2ส) ก.ทุกะที่ทานอรรถกถาจารยและฎกี าจารย แสดงขยายความใน สโฺ ชนโคจฉฺ ก มี ๘ ทกุ ะ คือ ๑. สโฺ ชนสโฺ ชนวิปฺปยุตฺตทุก ๒. โนสโฺ ชนสฺโชนยิ ทกุ ๓. สฺโชนสฺโชนสมปฺ ยุตฺตทุก ๔. โนสฺโชนสฺโชนสมปฺ ยุตฺตทกุ ๕. สฺโชนยิ สโฺ ชนสมปฺ ยตุ ฺตทุก ๖. สโฺ ชนิยสโฺ ชนทุก ๗. สโฺ ชนสมฺปยุตตฺ สฺโชนทุก ๘. สโฺ ชนวปิ ฺปยตุ ตฺ สฺโชนทุก ๕. ก. ทกุ ะท่ีแสดงขยายความใน คนถฺ โคจฉฺ ก มเี ทา ไร ? คอื อะไรบา ง ? 51/1ส(4ข), 52/1ส(4ข), 59/2ส(4ข) ๕. ก. ทกุ ะทท่ี า น อรรถกถาจารยแ ละฎกี าจารย แสดงขยายความในคนถฺ โคจฉฺ ก มกี ที่ กุ ะ คอื อะไรบา ง ? 50/1ส ตอบ ก. ทุกะทแ่ี สดงขยายความใน คนฺถโคจฺฉก มี ๘ ทกุ ะ คือ ๑. คนถฺ คนถฺ วปิ ปฺ ยุตฺตทุก ๒. โนคนถฺ คนฺถนิยทกุ ๓. คนถฺ คนถฺ สมปฺ ยุตฺตทุก ๔. โนคนถฺ คนถฺ สมปฺ ยุตตฺ ทกุ ๕. คนถฺ นยิ คนถฺ สมปฺ ยุตตฺ ทุก ๖. คนฺถนยิ คนถฺ ทกุ ๗. คนฺถสมปฺ ยุตตฺ คนถฺ ทกุ ๘. คนฺถวปิ ปฺ ยตุ ฺตคนฺถทุก ๕. ทกุ ะที่ทา นนอรรถกถาจารยแ ละฎกี าจารย แสดงขยายความใน ปรามาสโคจฉฺ ก มกี ท่ี กุ ะ ? 49/1ส(ก) คอื ดาวนโหลดขอมลู ตางๆ ท่ี ขอมลู เพิ่มเติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 79 จฬู อาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) อะไรบา ง ? (พทุ ธมตั ตญั ภุ าษติ ทกุ มาตกิ า) ? 43/1ส, 48/2ส(5ก), 55/1ส, 55/2ส และ ปรามฏ า ธมมฺ า ปรามา สาป. แปลวา อะไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? จงจาํ แนกโดยขนั ธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ ? 45/1ส ตอบ ก. ทุกะทท่ี านอรรถกถาจารย และฎกี าจารย แสดงขยายความใน ปรามาสโคจฉฺ ก มี ๔ ทกุ ะ คอื ๑. โนปรามาสปรามฏ ทกุ ๒. โนปรามาสปรามาสสมปฺ ยุตฺตทุก ๓. ปรามฏ ปรามาสสมฺปยตุ ตฺ ทุก ๔. ปรามฏ ปรามาสทกุ และ ปรามฏ า ธมฺมา ปรามาสาป แปลวา สภาวธรรมท้ังหลาย ท่ีเปนอารมณของปรามาสและชื่อวา ปรามาสะ มีอยู องคธรรมไดแก ปรามาสะองคธรรม ๑ คอื ทฏิ ฐิเจตสกิ ทิฏฐิเจตสิกน้ี เม่ือจําแนกโดย ขนั ธ อายตนะ สจั จะ แลว ไดส งั ขารขนั ธ ๑ ธมั มายตนะ ๑ ธมั มธาตุ ๑ ทกุ ขสจั จ ๑ ๔. จงแสดง ปรามาสโคจฉฺ ก และ อปุ าทานโคจฉฺ ก วา มกี ที่ ุกะ คอื อะไรบา ง (พทุ ธมัตตญั ุภาษติ ทุกมาตกิ า) ? 43/1 ส, 48/2ส(5ก), 55/1ส, 55/2ส, 58/2ส ตอบ ปรามาสโคจฺฉก มี ๔ ทุกะคอื ...... อุปาทานโคจฉฺ ก มี ๘ ทกุ ะ คือ ๑. อปุ าทานอุปาทานวปิ ปฺ ยตุ ตฺ ทกุ ๒. โนอุปาทานอปุ าทานยิ ทุก ๓. อุปาทานอปุ าทานสมฺปยุตฺตทุก ๔. โนอุปาทานอปุ าทานสมปฺ ยุตตฺ ทกุ ๕. อปุ าทานิยอุปาทานสมปฺ ยตุ ตฺ ทกุ ๖. อปุ าทานยิ อุปาทานทกุ ๗. อุปาทานสมปฺ ยตุ ตฺ อปุ าทานทกุ ๘. อปุ าทานวปิ ฺปยตุ ตฺ อปุ าทานทุก ๕. ก. ทกุ ะทีท่ านอรรถกถาจารยแ ละฎกี าจารย แสดงขยายความในกเิ ลสโคจฉฺ ก มกี ที่ กุ ะ ? คอื อะไรบา ง ? 47/2ส ตอบ ก. ทกุ ะที่ทา นอรรถกถาจารยและฎกี าจารย แสดงขยายความในกเิ ลสโคจฺฉก มี ๘ ทุกะ คือ ๑. โนกเิ ลสสงกฺ เิ ลสกิ ทกุ ๒. โนกิเลสสงฺกลิ ิฏ ทุก ๓. โนกเิ ลสกิเลสสมปฺ ยุตฺตทุก ๔. สงกฺ ิเลสิกสงฺกิลฏิ  ทุก ๕. สงกฺ เิ ลสกิ กิเลสสมฺปยุตตฺ ทุก ๖. สงกฺ เิ ลสกิ กเิ ลสทกุ ๗. สงกฺ ลิ ฏิ กิเลสทกุ ๘. กิเลสสมฺปยุตตฺ กิเลสทกุ ๕. ก. จงเพม่ิ ขอ ความทล่ี ะไวดงั ตอ ไปน้ี “สตุ ตนั ตกิ ทกุ มาตกิ านพ้ี ระสารบี ุตร ซงึ่ เปนธรรมเสนาบด.ี .................. ซง่ึ เปน พทุ ธภาษติ นน้ั เอง” ? 57/1ส ตอบ ก. เพม่ิ ขอ ความที่ละไว มีดังนี้ คือ สตุ ฺตนตฺ ิกทกุ มาติกานี้ พระสารบี ตุ รซง่ึ เปน ธรรมเสนาบดไี ด อญั เชญิ มาแตอ งั คุตตรนกิ ายซง่ึ เปนพุทธภาษติ แสดงแกพ ระเถระศษิ ยานศุ ิษยของทาน ซง่ึ กําลงั ศกึ ษาพระ อภิธรรม เพ่ือประโยชนในกาลเมือ่ ถึงคราวศึกษาพระสตู รจะไดม คี วามสะดวกสบาย อนง่ึ สตุ ฺตนตฺ ิกทกุ ก มาติกานี้ แมว าพระพุทธองคไ มไ ดทรงแสดงโดยตรงกจ็ รงิ แตกอ็ นุโลมเขาเปนพุทธภาษติ เพราะพระสารีบตุ ร ซึง่ เปนธรรมเสนาบดี ไดอ ัญเชิญมาจาก เอกนิบาต, ทุกนบิ าต, แหง องั คุตตรนกิ าย และสังคตี ิสตู ร, ทสุตตร สตู ร แหง ทฆี นกิ าย ซง่ึ เปนพทุ ธภาษติ นนั้ เอง ๕. ก. วชิ ชฺ าภาคโิ น ธมมฺ า แปลวา อยา งไร องคธรรมไดแ กอ ะไร ? 47/2ส(5ข), 49/1ส ๕. ข. วชิ ชฺ าภาคโิ น ธมมฺ า แปลวาอยา งไร และวชิ ชา ๘ มอี ะไรบา ง ? 51/2ส ๕. ก. วชิ ฺชาภาคโิ น ธมมฺ า. แปลวา สภาวธรรมทงั้ หลายทเ่ี ขา ถงึ วิชชา ๘ อยากทราบวา วชิ ชา ๘ มอี ะไรบา ง ? 61/2ส ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 80 จูฬอาภิธรรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ตอบ ก. (ข) วิชชฺ าภาคิโน ธมมฺ า. แปลวา สภาวธรรมทง้ั หลายท่เี ขาถงึ วชิ ชา ๘ ดวยอาํ นาจแหงการ ประกอบ หรือที่เปน สวนแหงวชิ ชา ๘ มีอยู [47/2ส(5ข), 49/1ส] องคธรรมไดแ ก มหากศุ ลญาณสัมปยตุ ตจติ ๔ มหากรยิ าญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ อภญิ ญา จิต ๒ อรหัตตมคั คจติ ๑ เจตสกิ ๓๗ (เวน ปญ ญา) ท่ีประกอบดว ยวิชชา ๘ คอื วปิ ส สนาญาณ มโนมยิทธิ ญาณ อิทธิวธิ ญาณ ปรจิตตวิชชานนญาณ ปุพเพนิวาสานสุ สติญาณ ทิพพจกั ขุญาณ ทิพพโสตญาณ อาส วกั ขยญาณ [51/2, 61/2] และวิชชา ๘ มี ดังน้ี คือ วิปสสนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธวิ ิธญาณ ปรจิตตวชิ ชานน ญาณ ปพุ เพนิวาสานุสสติญาณ ทิพพจกั ขุญาณ ทพิ พโสตญาณ อาสวักขยญาณ. ๕. จงแปลและแสดงองคธ รรมในขอ ตอ ไปนี้ ? 46/1ส ก. โน อาสวา ธมมฺ า สาสวาป. ข. วชิ ชฺ ปู มา ธมมฺ า ค. วชริ ปู มา ธมมฺ า ตอบ ก. โน อาสวา ธมฺมา สาสวาป สภาวธรรมท้ังหลายทีไ่ มชือ่ วาอาสวะ แตเปนอารมณข องอาสวะ มอี ยู องคธ รรมไดแ ก โลกยี จิต ๘๑ เจตสิก ๔๙ (เวนอาสวะองคธรรม ๓) รปู ๒๘ ข. วชิ ฺชูปมา ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายท่ีเปรยี บเสมือนสายฟา แลบ มอี ยู องคธ รรมไดแก ปญญาเจตสกิ ที่ในมคั คจิตเบอ้ื งต่ํา ๓ ค. วชริ ูปมา ธมมฺ า สภาวธรรมท้ังหลายท่ีเปรียบเสมือนฟาผา มอี ยู องคธ รรมไดแก ปญ ญาเจตสกิ ที่ในอรหตั ตมัคคจิต ๑ ๕. ข. ใหแ ปลและแสดงองคธ รรมในบาลี ดังตอ ไปน้ี ? 48/2ส วชิ ชฺ ปู มา ธมมฺ า และ อวชิ ชฺ า จ อตถฺ ิ ตอบ ข. แปลและแสดงองคธรรมในบาลี ดังตอ ไปน้ี มีดังนี้ คอื วิชชฺ ปู มา ธมมฺ า. ...... อวิชชฺ า จ อตฺถิ. สภาวธรรมท่ีไมรใู นอริยสจั จะ ๔ หรือ ไมร ูใ นสง่ิ ท่คี วรรูและรใู นส่งิ ท่ไี มค วรรู มอี ยู องคธ รรม ไดแ ก โมหเจตสกิ . ๕. จงแปลและแสดงองคธรรมในทกุ ะตอ ไปนี้ ? 45/2ส ก. วชิ ชฺ ปู มทกุ ฯ ข. กณหฺ ทกุ ฯ ตอบ ก. ปฐมบท สภาวธรรมท้ังหลายท่ีเปรียบเสมือนสายฟาแลบมีอยู องคธ รรมไดแก ปญ ญาเจตสิกที่ในมัคคจิตเบื้องตํ่า ๓ ทุตยิ บท สภาวธรรมทั้งหลายท่ีเปรยี บเสมอื นฟาผามีอยู องคธ รรมไดแ กปญญาเจตสิกทีใ่ นอรหตั ตมคั คจติ ๑ ข. ปฐมบท สภาวธรรมทั้งหลายทมี่ ีสภาพดาํ หรือที่เปนเหตแุ หงธรรมฝายดําคอื การท่ไี ดรบั ความลาํ บากใน อบายภูมิและไมม ีบญุ มีอยู องคธ รรมไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ ทตุ ิยบท สภาวธรรมทัง้ หลายที่มสี ภาพขาว หรอื ที่เปน เหตุแหงธรรมฝา ยขาวคอื การที่ไดรับความสขุ ใน สุคตภิ ูมแิ ละการมีบุญมีอยู องคธรรมไดแ ก กุศลจิต ๒๑ เจตสกิ ๓๘ ๕. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรมใน กณหฺ ทุก ? 49/2ส ในบทตอ ไปนี้ กณหฺ า ธมมฺ า และ สกุ กฺ า ธมมฺ า ? 45/1 ดาวนโหลดขอมูลตา งๆ ท่ี ขอมูลเพม่ิ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 81 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๕. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรม ใน กณหฺ า ธมมฺ า ? 61/2ส ตอบ (49/2ส) ข. แปลและแสดงองคธรรมในกณหฺ ทกุ (45/1ส) ข. แปลและแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปนี้ (ปฐมบท) กณฺหา ธมฺมา แปลวา สภาวธรรมท้ังหลายที่มีสภาพดํา หรือท่ีเปนเหตุแหงองคธรรมฝายดํา คือ การไดร ับความลาํ บากในอบายทุกข และไมม บี ุญ มีอย.ู องคธรรมไดแก อกุศลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ (ทุติยบท) สุกฺกา ธมมฺ า แปลวา สภาวธรรมท้ังหหลายทม่ี ีสภาพขาวหรือที่เปนเหตุแหงธรรมฝายขาว คือ การ ทไี่ ดรบั ความสุขในสคุ ติภูมแิ ละการมบี ุญ มอี ย.ู องคธรรม ไดแก กุศลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๘. ๕. จงแปล และแสดงองคธ รรมในบทตอ ไปน้ี ? 56/2ส, 60/1ส, 62/2ส ๓. สกุ ฺกา ธมมฺ า ๑. วชิ ชฺ ปู มา ธมมฺ า ๒. วชริ ปู มา ธมมฺ า ๔. นามจฺ อตถฺ ิ ๕. รปู จฺ อตถฺ ิ ตอบ ๑. วชิ ฺชปู มา ธมมฺ า สภาวธรรมท้ังหลายทเ่ี ปรียบเสมือนสายฟา แลบ มอี ยู องคธ รรมไดแก ปญ ญาเจตสิก ท่ีในมคั คจติ เบอ้ื งต่าํ ๓ ๒. วชริ ปู มา ธมมฺ า สภาวธรรมทั้งหลายทีเ่ ปรียบเสมือนฟา ผา มีอยู องคธ รรมไดแ ก ปญ ญาเจตสิก ท่ใี นอรหัตตมัคคจติ ๑ ๓. สกุ กฺ า ธมมฺ า สภาวธรรมท้ังหลายท่มี สี ภาพขาว หรอื ทเี่ ปน เหตุแหง ธรรมฝายขาว คือการทีไ่ ดรับความสขุ ในสุคติภูมิ และการมบี ญุ มอี ยู องคธ รรม ไดแ ก กศุ ลจิต ๒๑ เจตสกิ ๓๘ ๔. นามจฺ อตถฺ ิ สภาวธรรมท่ีเปนนาม หรือท่ีมสี ภาพนอ มไปสูอารมณไ ด หรือทส่ี ามารถใหจิตเจตสิกนอ ม ไปสตู นได มอี ยู องคธรรมไดแก จิต ๘๙ เจตสกิ ๕๒ นพิ พาน ๕. รปู จฺ อตถฺ ิ สภาวธรรมทเ่ี ปน รูปหรือที่มีสภาพเส่ือมสิ้นผนั แปร หรือสภาวธรรมทีเ่ ขาถงึ ความเสื่อมสน้ิ ผันแปร ไปเพราะความเยน็ ความรอนและธรรมท่เี ปนปฏิปก ษตอกัน มอี ยู องคธ รรมไดแก รูป ๒๘ ๕. ก./ข. จงจาํ แนกปรมตั ถโ ดย (บท) พาล และปณฑฺ ติ กับ กณหฺ และ สกุ กฺ ? 43/2ส, 44/2ส, 46/2ส(5ข), 50/1ส, 51/1ส, 52/1ส, ตอบ ข. จาํ แนกองคธ รรมปรมัตถโ ดยบท พาล และปณฺฑติ กบั กณฺห และสุกกฺ อกุศลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ เปน พาล และ กณหฺ กศุ ลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ เปน ปณฺฑติ และ สกุ กฺ ๕. ข. ตปนยิ า ธมมฺ า แปลวา อยางไร องคธรรมไดแ กอ ะไร ? 51/1ส, 52/1ส, ตอบ ข. ตปนยิ า ธมฺมา แปลวา สภาวธรรมทัง้ หลายที่ทาํ สัตวใ หเรารอ นและมคี วามลําบากท้ังในโลกนีแ้ ละโลก หนามีอย.ู องคธ รรมไดแก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ ๕. ข. ในสมาคมแหงหนง่ึ ผมู หี นา ทป่ี ฏคิ มไดต อ นรบั แขกดว ยกริ ยิ าออนนอ ม พรอ มทัง้ กลาวคาํ สวสั ดแี ละเลย้ี ง เคร่อื งดมื่ หลงั จากน้นั ไดแ นะนาํ ธรรมใหเ ขา ใจ อยากทราบวาความเปน ไปดงั กลา วแลว อาศยั จิต เจตสกิ ประเภทไหน ? ใหว นิ จิ ฉยั โดยยกทกุ ะขน้ึ แสดง ? 44/1ส ตอบ ข. ความเปน ไปดงั กลา วแลว อาศยั มหากุศลจติ ๘ มหากรยิ าจิต ๘ เจตสกิ ๓๘ ดาวนโหลดขอมูลตา งๆ ที่ ขอ มูลเพ่มิ เตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสงั คณปี กรณ 82 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ในขณะท่ีกลาววาจาสุภาพออ นหวาน และในขณะตอนรับ ขอยก สาขลฺยทกุ เปน เครือ่ งวนิ ิจฉัย ๕. ก. วชิ ชฺ าภาคโิ น ธมมฺ า. แปลวา สภาวธรรมทง้ั หลายทเี่ ขาถงึ วชิ ชา ๘ อยากทราบวา วชิ ชา ๘ มอี ะไรบา ง ? 63/2ส ตอบ ก. วิชชา ๘ คือ วปิ ส สนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธวิ ธิ ญาณ ปรจติ ตวชิ ชานนญาณ ปพุ เพนิวาสานสุ สติญาณ ทพิ พจักขุญาณ ทิพพโสตญาณ อาสวักขยญาณ ๕. ใหแ ปลและแสดงองคธ รรม ใน วชิ ชฺ าภาคที กุ . และอสนตฺ ฏุ  ตากสุ ลธมมฺ ทกุ ? 56/1ส ตอบ แปลและแสดงองคธรรม ใน วชิ ชฺ าภาคีทกุ . ดงั ตอ ไปน้ี ปฐมบท. สภาวธรรมท้ังหลายท่ีเขาถึง วชิ ชา ๘ ดวยอํานาจแหงการประกอบหรอื ทเี่ ปนสว นแหง วชิ ชา ๘ มีอย.ู องคธ รรมไดแก มหากุศลญาณสัมปยตุ ตจิต ๔ มหากริยาญาณสัมปยุตตจิต ๔ อภญิ ญาจิต ๒ อรหตั ตมคั คจติ ๑ เจตสกิ ๓๗ (เวนปญ ญา) ทป่ี ระกอบดว ยวชิ ชา ๘ คือ วิปสสนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธิวธิ ญาณ ปรจติ ตวชิ ชานนญาณ ปพุ เพนิวาสา- นสุ สตญิ าณ ทพิ พจกั ขุญาณ ทิพพโสตญาณ อาสวักขยญาณ ทุติยบท สภาวธรรมทั้งหลาย ท่ีเขา ถงึ อวิชชาท้ัง ๔ อนั มสี ภาพปกปด สัจจะ ๔ ดวยอาํ นาจแหงการประกอบ หรอื ทเ่ี ปนสว นแหง อวิชชา ๔ มีอย.ู องคธรรมไดแก อกุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๖ (เวน โมหะ) และ อสนฺตฏุ ตากสุ ลธมมฺ ทกุ ดงั ตอ ไปนี้ ปฐมบท สภาวธรรมทก่ี ระทําบคุ คล ใหเปนผไู มอม่ิ ในกศุ ลธรรม มีอยู. องคธ รรมไดแ ก กุศลจติ ๒๑ เจตสิก ๓๘ ทตุ ิยบท สภาวธรรมท่กี ระทาํ บุคคล ใหเ ปนผูไมทอ ถอยในความเพยี รเพือ่ ใหกศุ ลธรรมเจริญข้นึ หรอื สภาวธรรม ทก่ี ระทาํ ใหบ คุ คลเปนผูไมทอ ถอยในการเจรญิ สมถกรรมฐาน วิปส สนากรรมฐาน มอี ยู องคธ รรมไดแก วริ ยิ ะเจตสกิ ที่เปนสมั มาวายามะ ทใี่ นกศุ ลจติ ๒๑ ๕. ข. จงแปลและแสดงองคธ รรม ใน กณหฺ า ธมมฺ า ? 63/2ส ตอบ ข. แปลและแสดงองคธรรมใน กณหฺ า ธมมฺ า กณหฺ า ธมมฺ า. สภาวธรรมทง้ั หลายท่ีมสี ภาพดาํ หรอื ที่เปนเหตุแหงธรรมฝา ยดาํ คอื การทีไ่ ดรับความลาํ บาก ในอบายทกุ ขและไมม ีบุญมีอยู องคธรรมไดแ ก อกศุ ลจิต ๑๒ เจตสกิ ๒๗ ๕. จงจาํ แนกปคุ คลาธษิ ฐานเหลา นโ้ี ดยธรรมาธษิ ฐานดังตอ ไปน้ี ? 48/2ส(5ข), 54/1ส, 54/2ส, 55/1ส, 59/2ส, 61/1ส, 62/1ส ๑. ผทู ไี่ มส าํ รวมอนิ ทรยี ท งั้ ๖ ? ๒. ผทู เ่ี ปน คนไมป ระมาท ? ๓. ผทู รี่ จู กั ประมาณในการบรโิ ภค ? ๔. ผทู ไี่ มร จู กั ประมาณในการบรโิ ภค ? ๕. ผไู มเ ฉลยี วฉลาด ? ตอบ จาํ แนกปุคคลาธษิ ฐานเหลานี้ โดยธรรมาธษิ ฐานดังนี้ ๑. ไดแ ก โลภมูลจิต ๘ โทสมูลจติ ๒ เจตสกิ ๒๖ ๒. ไดแ ก สตเิ จตสกิ ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ท่ี ขอมลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณีปกรณ 83 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) ๓. ไดแก มหากุศลจติ ๘ มหากรยิ าจติ ๘ เจตสิก ๓๓ (เวน วริ ตี อัปปมัญญา) ในขณะที่รจู ักประมาณในการบริโภค ง. ไดแ ก มหากุศลจติ ๘, มหากรยิ าจติ ๘ ในขณะท่ีรจู ักประมาณในการบริโภค, เจตสกิ ๓๓ (เวน วิรต,ี อปั ปมัญญา) ๔. ไดแก โลภมูลจติ ๘ โมหมลู จติ ๒ เจตสกิ ๒๓ ๕. ไดแ ก อกศุ ลจติ ๑๒ เจตสิก ๒๗ ท่ีเปน ปฏปิ ก ษตอปญ ญา. ๕. ข. จงแสดงองคธ รรมดงั ตอไปนี้ ? 49/1ส ๒. ผขู าดสตหิ รอื หลงลมื สติ ? 49/1ส ๑. ผทู มี่ คี วามสาํ รวมอนิ ทรยี ทัง้ ๖ ? 49/1ส ๓. ผทู เี่ ฉลียวฉลาด ? 49/1ส ๔. ผทู เี่ ปน คนไมประมาท ? 49/1ส ตอบ ข. แสดงองคธ รรมดงั น้ี ๑. ผทู ่ีมีความสํารวมอินทรยี ท้ัง ๖ ไดแก มหากุศลจติ ๘ มหากริยาจิต ๘ โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๘ ๒. ผขู าดสตหิ รือ หลงลมื สติ ไดแก อกุศลจติ ๑๒ เจตสกิ ๒๗ ท่ีเปนปฏิปกษต อ สติ ๓. ผทู เี่ ฉลยี วฉลาด ไดแ ก ปญญาเจตสกิ ๔. ผูทเ่ี ปน คนไมป ระมาท ไดแ ก สตเิ จตสิก ๕. ก. สลี วปิ ตตฺ ิ จ อตฺถิ แปลวา อยา งไร ข. สลี สมปฺ ทา จ อตถฺ ิ แปลวา อยา งไร องคธ รรมไดแ กอ ะไร ? 43/2ส ค. สลี วิสทุ ฺธิ จ อตถฺ ิ สภาวธรรม คอื ความบรสิ ุทธ์ิ เปน พเิ ศษแหง ศลี มอี ยู ง. อสนตฺ ฏุ  ตา จ กสุ เลสุ ธมเฺ มสุ อตถฺ ิ สภาวธรรมท่ีกระทาํ บคุ คลใหเปน ผไู มอ ม่ิ ในกศุ ลธรรมมอี ยู จ. ขเย าณํ อตถฺ ิ สภาวธรรม คอื ญาณทใี่ นมรรคจิต ๔ ซ่งึ กระทาํ กเิ ลสทง้ั หลายใหส นิ้ ไปมอี ยู ตอบ แสดงองคธ รรมในธรรมดงั นี้ ก. สภาวธรรม คือ ความวิบัตแิ หงศลี มอี ยู องคธรรมไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ ข. สภาวธรรม คอื ความบรบิ รู ณแ หงศลี มีอยู องคธ รรมไดแ ก มหากุศลจิต ๘ มหากรยิ าจติ ๘ เจตสกิ ๓๘ ค. สภาวธรรม คือ ความบรสิ ุทธิเ์ ปน พเิ ศษแหง ศลี มีอยู องคธรรมไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ ง. สภาวธรรม ที่กระทาํ บคุ คลใหเ ปนผไู มอิม่ ในกศุ ลธรรม มอี ยู องคธรรมไดแ ก กุศลจติ ๒๑ เจตสกิ ๓๘ จ. สภาวธรรม คอื ญาณท่ใี นมรรคจติ ๔ ซ่ึงกระทํากิเลสทั้งหลายใหส้ินไป มอี ยู องคธ รรมไดแก ปญ ญา เจเตสกิ ทใ่ี นมรรคจติ ๔ ๕. การบรบิ ูรณด ว ยศลี การบกพรอ งดว ยศลี ความเห็นถกู ตอ ง ความเหน็ ผดิ เหลา น้ี เมอ่ื ยกองคธ รรมแลว ไดแ กอ ะไรใหแ สดงโดยเฉพาะ ๆ ? 53/2ส ๕. ข. ความบรบิ รู ณแหง ศลี , ความวบิ ตั แิ หง ศลี , ความบรบิ รู ณแ หง ปญ ญา, ความวบิ ตั แิ หง ความเหน็ ทถี่ กู ตอ ง เหลา น้ี องคธ รรมไดแกอ ะไร ? 57/1ส ตอบ ข. แสดง องคธ รรม ดงั ตอ ไปนี้ ความบริบรู ณแ หงศลี ไดแ ก มหากศุ ลจติ ๘ มหากรยิ าจิต ๘ เจตสิก ๓๘ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอมลู เพิม่ เตมิ Youtube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธัมมสังคณปี กรณ 84 จฬู อาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) ความวบิ ตั แิ หง ศีล ไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๗ ความบรบิ รู ณแ หง ปญญา ไดแ ก ปญญาเจตสิก คอื สัมมาทฏิ ฐิ ความวิบตั แิ หง ความเหน็ ทถี่ ูกตอง ไดแ ก ทฏิ ฐเิ จตสิก ๕. ใหแ สดงความตา งกนั ระหวา งสีลสมปฺ ทากบั สลี วสิ ทุ ธฺ ิ? 50/2ส, 60/2ส และทฏิ  ส มปฺ ทา กบั ทฏิ  วสิ ทุ ธฺ ิ ? 52/2ส, 55/2ส ตอบ ความตางกันมีดังน้ี คือ สีลสมปฺ ทา น้นั คอื ความบรบิ ูรณแ หงศีล ไดแก มหากุศลจิต ๘ มหากริยาจติ ๘ เจตสกิ ๓๘ สวน สีลวิสุทธฺ ิ น้นั คือ ความบรสิ ุทธิ์เปน พิเศษแหงศีล ไดแก โลกตุ ตรจติ ๘ เจตสกิ ๓๖ (52/2ส) ทิฏสมฺปทา คอื ความบรบิ รู ณแ หง ปญญา ไดแ ก ปญ ญาเจตสกิ คือ สัมมาทฏิ ฐิ (52/2ส) สวน ทิฏวิสทุ ธฺ นิ ้ัน คือ ความบรสิ ุทธเิ์ ปนพิเศษแหง ความเห็น ไดแก ปญ ญาเจตสกิ ท่ีเปนกมั มสกตา ญาณ และวปิ สสนาญาณทีเ่ รียกวา สจั จานุโลมิกญาณ มคั คญาณ ผลญาณ ๕. ใหแ สดงองคธ รรมทเี่ กย่ี วกบั ความเหน็ ความเขา ใจของบคุ คลตอ ไปน้ี ? 53/1ส, 57/2ส, 59/1ส . ก. ความรคู วามจาํ ตางๆ สาํ เรจ็ ไดโ ดยอาศยั มนั สมองเปน เหตุ ข. ความรคู วามจาํ ตางๆ สาํ เรจ็ ไดโ ดยอาศยั นามธรรมทอ่ี าศยั หวั ใจ เกิดเปนเหตุ ไมใ ชม นั สมอง เปน เหตุ ตอบ แสดงองคธ รรมดงั ตอไปนี้ ก. องคธ รรมไดแ ก ทฏิ ฐเิ จตสกิ ท่ีเรียกวา ทฎิ ฐวิ ปิ ตติ ข. องคธรรมไดแก ปญ ญาเจตสิก ท่ีเรียกวา ฐานกสุ ลตา และ อฐานกุสลตา ๕. ข. ในทกุ ะทั้ง ๔๒ นั้น แมว า ความหมายจะตา งกนั กต็ าม แตอ งคธ รรมปรมัตถ และทต่ี งั้ เหมือนกนั มก่ี ที่ กุ ะ คอื อะไรบา ง ? 47/1ส, 58/1ส ตอบ ข. ในทกุ ะทั้ง ๔๒ นัน้ แมว า ความหมายจะตา งกนั กต็ าม แตองคธรรมปรมตั ถแ ละท่ีตั้งเหมอื นกันมี ๑๔ ทุกะ คือ พาลทุก กณฺหทุก ตปนยี ทุก รวม ๓ ทกุ ะน้ี องคธ รรมเหมอื นกัน อธิวจนทุก นิรตุ ตฺ ิทุก ปฺ ญตฺติทุก รวม ๓ ทุกะนี้ องคธ รรมเหมือนกนั ภวทิฏ ทุก สสฺสตทิฏ ทกุ อนฺตวาทฏิ  ทกุ ปพุ ฺพนตฺ านทุ ฏิ  ทุก รวม ๔ ทกุ ะนี้ องคธรรมเหมอื นกนั อาปตตฺ กิ ุสลตาทุก สมาปตตฺ กิ สุ ลตาทุก รวม ๒ ทกุ ะนี้ องคธ รรมเหมือนกัน ธาตกุ ุสลตาทกุ อายตนกุสลตาทุก รวม ๒ ทุกะน้ี องคธรรมเหมือนกัน ***************************** สง่ิ ทส่ี าํ คญั คือการเขาศกึ ษากบั อาจารยผสู อน เพือ่ ความรูความเขา ใจทีถ่ กู ตอ ง แจมแจง หากสงสยั จะไดส อบถามทนั ที การรวบรวมขอสอบทเี่ คยออกมาแลวนี้ เปน เพียงแนวทางสําหรบั ผูศ กึ ษา นํามาเนน+ทรงจาํ ไว (เมอ่ื ไดชือ่ วาศกึ ษาแลว ก็ ควรทรงจาํ ใหไดม ากทสี่ ุดหรอื ทง้ั หมด จึงจะช่อื วา สุตะดว ยดี เพ่ือการจินตาและภาวนาตอไป) การสอบไมใ ชท สี่ ุดของชวี ิต แตขอใหต ัง้ จติ ศึกษาและทรงจาํ เพอ่ื ธาํ รงและรกั ษาไวซ ึง่ พระศาสนา รอู รรถะและ พยญั ชนะ ท้งั เขาใจและเขา ใหถ งึ ธรรมะ แมย ังมบิ รรลุคุณธรรมอันสูงถงึ ขนั้ อรยิ ะ กข็ อจงเปน ผรู ูธรรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผูมธี รรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสสฺ นปิ ปฺ ทา เกิดเปนคนควรจะพยายาม จนกวาจะประสบความสําเร็จ สําเนาหรือแจกได โดยไมต อ งขออนุญาต (สงวนสิทธิ์หากนําไปจาํ หนา ย) ผิดตกขออภยั และกรณุ าแจง (จักขอบพระคุณ) ที่ 081-860-2466 (Line ID), E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆ ที่ ขอมลู เพมิ่ เติมYoutube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณปี กรณ 85 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) การเรยี นชนั้ น้ีใชหนงั สือหลักสตู รของอภธิ รรมโชตกิ ะวทิ ยาลยั (วดั มหาธาต)ุ และ (แนะนาํ ใหใ ช) คมู ือประกอบของพระอาจารยพ ันธศ กั ด์ิ โอภาโส โดยนาํ ปรมตั ถธรรม ๔ มาจําแนก โดยขันธ ๕, อายตนะ ๑๒, ธาตุ ๑๘, สจั จะ ๔ สําหรบั นักศึกษาฯ ทอ งจาํ (ควรทอ งจําใหไ ดภ ายใน ๑ วัน ไม เกิน ๑ อาทติ ย) โดยทอ ง+จาํ พรอ มชี้องคธรรมในแผน Chart (ชารท) ปรมตั ถธรรม ๔ ใหถ กู ตอง ดังน้ี คือ จาํ แนกปรมตั ถธรรม ๔ โดยขนั ธ ๕ คอืโอฬา ิรกรูป ๑๒เปน รูปขนั ธ รูป ๒๘ โอฬา ิรกายตนะ ๑๐เปน เวทนาขันธ ในเจตสกิ ๕๒ นน้ั เวทนาเจตสิก เปน สัญญาขนั ธ สญั ญาเจตสิก เปน สงั ขารขนั ธ เจตสิกท่ีเหลอื ๕๐ เปน วญิ ญาณขนั ธ จิต ๘๙ เปน ขันธวิมตุ นิพพาน เปน จักขายตนะ จําแนกปรมตั ถธรรม ๔ โดยอายตนะ ๑๒ คอื เปน โสตายตนะ ในรูป ๒๘ น้นั จักขปุ สาท เปน ฆานายตนะ โสตปสาท เปน ชวิ หายตนะ ฆานปสาท เปน กายายตนะ ชิวหาปสาท เปน รูปายตนะ กายปสาท เปน สทั ทายตนะ รูปารมณ เปน คันธายตนะ สัททารมณ เปน รสายตนะ คนั ธารมณ เปน โผฏฐพั พายตนะ รสารมณ เปน มนายตนะ (ปฐวี เตโช วาโย) โผฏฐพั พารมณ เปน ธัมมายตนะ จติ ๘๙ เจตสิก ๕๒ สุขมุ รูป ๑๖ นิพพาน ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆ ท่ี ขอมูลเพ่ิมเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสังคณีปกรณ 86 จูฬอาภธิ รรมมิกะเอก(๔๓-๖๓) จาํ แนกปรมตั ถธรรม ๔ โดยธาตุ ๑๘ คอื เปน จกั ขธุ าตุ ในรปู ๒๘ นั้น จักขุปสาท โสตปสาท เปน โสตธาตุ ฆานปสาท เปน ฆานธาตุ ชิวหาปสาท เปน ชิวหาธาตุ โอฬา ิรกายตนะ ๑๐ โอฬา ิรกรูป ๑๒ กายปสาท เปน กายธาตุ รปู ารมณ เปน รูปธาตุ สทั ทารมณ เปน สทั ทธาตุ คันธารมณ เปน คันธธาตุ รสารมณ เปน รสธาตุ (ปฐวี เตโช วาโย) โผฏฐัพพารมณ เปน โผฏฐัพพธาตุ ใน จิต ๘๙ นนั้ จักขวุ ญิ ญาณจติ ๒ เปน จักขวุ ญิ ญาณธาตุ โสตวิญญาณจติ ๒ เปน โสตวญิ ญาณธาตุ ฆานวญิ ญาณจติ ๒ เปน ฆานวิญญาณธาตุ ชิวหาวิญญาณจติ ๒ เปน ชวิ หาวญิ ญาณธาตุ กายวิญญาณจติ ๒ เปน กายวญิ ญาณธาตุ สัมปฏจิ ฉนจิต ๒, ปญจทวาราวัชชนจติ ๑ เปน มโนธาตุ จิตทีเ่ หลอื ๗๖ เปน มโนวญิ ญาณธาตุ เจตสกิ ๕๒ สขุ ุมรูป ๑๖ นิพพาน เปน ธมั มธาตุ จาํ แนกปรมตั ถธรรม ๔ โดย สัจจะ ๔ คอื โลกยี จิต ๘๑ เจตสกิ ๕๑ (เวน โลภะ) รูป ๒๘ เปน ทุกขสจั จ โลกุตตรจิต ๘ คือ โลภะเจตสิก เปน สมทุ ยสัจจ = มัคคจิต ๔ + เจ. ๓๖ นิพพาน เปน นิโรธสัจจ = ผลจิต ๔ + เจ. ๓๖ องคม รรค ๘ (หรอื ๗ เวนสมั มาสังกัปปะ) ท่ีในมรรคจิต ๔ เปน มคั คสัจจ มัคคจติ ตปุ บาททเ่ี หลือ ๒๙, ผลจติ ตปุ บาท ๓๗ เปน สจั จวิมตุ หมายเหตุ ทององคมรรคท้ัง ๘ และองคธ รรม ดว ย สมั มาทิฏฐิ ปญญา เจตสิก สมั มาสงั กัปปะ วติ ก เจตสิก สมั มาวาจา องคมรรค ๘ สมั มากัมมนั ตะ วิรตี เจตสกิ ๓. ่ีทใน ัมคคจิต ๔ เทาน้ัน สมั มาอาชวี ะ สมั มาวายามะ วริ ิยะ เจตสกิ สมั มาสติ สติ เจตสิก สมั มาสมาธิ เอกคั คตา เจตสกิ ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆ ท่ี ขอ มลู เพิ่มเตมิ Youtube, โปรไฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓

ธมั มสงั คณปี กรณ 87 จูฬอาภธิ รรมมกิ ะเอก(๔๓-๖๓) สาํ หรบั นกั ศกึ ษาทตี่ อ งการสอบ ตองทอ งจําขอความในคูม อื ประกอบของพระอาจารยพ นั ธศ กั ด์ิ โอภาโส ๑. หนา ๒-๕ เพราะออกสอบทกุ ป ทกุ สํานกั มี ๑๕-๒๐ คะแนน [อารัมภกถา (๕-๑๐ คะแนน)] หนา ๙, ๑๑ หรอื ๑๓ มสี อบในบางป ๒. หนา ๕๑ มี ๕-๑๐ คะแนน/ จูฬนตฺ รทกุ : อัฏฐสาลนิ ี อรรถกถา (๑๒) + มูลฎกี า (๑๕) หนา ๕๖ ๓. หนา ๗๙ โครงสรา ง การจดั ลาํ ดบั ทกุ ะ ในแตล ะ หมวดธรรม ในพุทธฺ มตฺตฺภุ าสิตทกุ มาตกิ า ๔. หนา ๙๐ สุตตฺ นตฺ กิ ทุกมาตกิ า ออกบางบางป เนน ทรงจํา+ทาํ ความเขา ใจ ๑๐ ติกะ แรก โดยเฉพาะ ๕ ติกะแรก เนน ๑. กสุ ลตกิ (แบบมาตรฐาน) ๒. เวทนาตกิ (ทราบเง่ือนไขการเวน เวทนา) ๖. สวิตกฺกสวจิ ารตกิ (ไมคอยออกสอบเพราะยากเกนิ ไป แตถ าเขา ใจตกิ ะ นีเ้ รยี นอะไรในชน้ั นก้ี เ็ ขาใจหมด) (๔ ตกิ ะทเ่ี กยี่ วกบั อารมณน ั้น แมแทบไมออกสอบ หากเขาใจจะเปนอปุ การะมากใน การปฏบิ ัตแิ ยก ผูรู ผูถ ูกรู ไดอ ยา งด)ี ขอแนะนาํ : สวด (อา น) ตามหนงั สือเรยี น หนา ๑-๑๑ หรอื ๑-๘ แนวทางขอ สอบอชว. ติกมาตกิ า ขอ ๑ บทนาํ ทั่วๆ ไป ขอ ๒ แปลและแสดงองคธรรม ๕ ขอยอ ย เนน ๕ ตกิ ะแรก มี ถึงตกิ ะหลังๆ บา ง ขอ ๓ แสดงการจําแนก ขันธ อายตนะ ธาตุ สัจจะ( ๒ ขอ) หรือ เนน ธาตุ สจั จะ (อาจมีถึง ๔ ขอ) ขอ ๔ การประหาณตา งๆ (หนา ๒๓-๒๔) ขอ ๕ จักกวิภาค / ๒๒ ติกะ (๙ สปปฺ เทสติก+๑๓ นิปปฺ เทสติก) ทกุ มาติกา ขอ ๖ บทนําทุกะ (คมู ือหนา ๕๑) อภิธมมฺ ทกุ มาตกิ า ๑๐ + โคจฉฺ ก ๓ ทกุ / และแจก ๑ บท เนน เหตู... (เนน แจก สจั จะของ เหตุ ๖) อื่นๆ ขอ ๗ โคจฉฺ กเปนชอ หรือเปนพวง.../.. โคจฺฉก มีก่บี ท+แสดง / แปลและแสดงองคธ รรม / จาํ แนก / จฬู นตฺ รทกุ / ทาํ ไมปรามาสะ มี ๕ / กเิ ลสมี ๘ คือ... ขอ ๘ แสดง มูละ มูลี / นํา ป., ท.ุ ของ..... เขาใน .....ทกุ / เจตสกิ ๕๒ ในมหนฺตรทุก ๘ บท/ อนุโลม ปฏิโลม ของ กเิ ลส / มหนฺตรทกุ มี ๑๔ บท, ปฏฐ ิ มี ๑๘ บท ขอ ๙ พุทธฺ มตตฺ ฺ ภุ าสติ ทุกมาติกา วิธีการดูขอ สอบ ออกสอบเม่อื ขอ ๑๐ สุตฺตนตฺ ิกทุกมาติกา ป ๔๖ เทอม ๑ ๑. จงแสดงอารมั ภกถา แสดงเหตแุ หง การเกดิ ขนึ้ ของพระอภธิ รรม พรอ มบาลีและคาํ แปล ? 46/1, 52/1, 53/2, 58/2 หากชาวพทุ ธไมศึกษาอยา งจริงจัง จะใหใ ครศกึ ษา ? แลวจะสบื ทอดไดอยา งถูกตองหรือ ? สงิ่ ที่สาํ คญั คือการเขา เรียน-ศึกษากบั อาจารยผสู อน เพอ่ื ความรคู วามเขาใจทถ่ี กู ตอ ง แจม แจง หากสงสัยจะไดส อบถามทันที การรวบรวมขอ สอบทเ่ี คยออกมาแลวนี้ เปน เพียง แนวทางสาํ หรบั ผศู ึกษา นาํ มาเนน +ทรงจาํ ไว (หากความสามารถมากกวา นี้ หรือใสใจ ก็ ควรจะทรงจําใหไ ดท ้งั หมด จงึ จะชอ่ื วา สตุ ะดวยดี เพอ่ื การจินตาและภาวนาตอไป) วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสฺส นิปปฺ ทา เกดิ เปนคนควรจะพยายาม จนกวาจะประสบความสําเรจ็ สาํ เนาหรอื แจกได โดยไมตองขออนุญาต (สงวนสิทธ์หิ ากนาํ ไปจําหนาย) ผดิ -ตก ขออภยั และกรณุ าแจง (จกั ขอบพระคณุ ) ท่ี 081-860-2466 ดาวนโหลดขอมูลตางๆ ที่ ขอมูลเพ่มิ เติมYoutube, โปรไ ฟล Line ID (081 860 2466) /fb: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๒๕ ธ.ค. ๖๓