Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้อสอบข้อเขียน/สัมภาษณ์ พระอภิธรรม

ข้อสอบข้อเขียน/สัมภาษณ์ พระอภิธรรม

Published by WATKAO, 2021-01-10 02:02:08

Description: ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๔๓-๖๓
อภิธรรมโชติกะวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ชั้น มัชฌิมอาภิธรรมิกะตรี

Search

Read the Text Version

ขอ สอบขอเขยี น/สมั ภาษณ พระอภธิ รรม ภาคเรียนท่ี ๒ ปการศึกษา ๒๕๔๓-๖๓ อภธิ รรมโชตกิ ะวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ช้ัน มชั ฌมิ อาภธิ รรมมกิ ะตรี  สอบขอ เขยี น วันแรก วันศกุ รที่.......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : วิถสี งั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชม.  สอบขอ เขยี น วันที่สอง วันเสารที่.......ธันวาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : กรรมจตกุ กะ-มรณปุ ปตตจิ ตกุ กะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชม.  สอบสัมภาษณ วนั ทส่ี าม วนั อาทิตยท .ี่ ......ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕.... วิชา : วิถสี ังคหะ-มรณปุ ปตตจิ ตกุ กะ ๖ ขอ ๓๐ คะแนน เวลา ๑๕ นาที สําเนาประกอบการเรียนหรือแจกไดโ ดยไมต องขออนุญาต (สงวนสิทธิ์ในการนาํ ไปจําหนาย) ผดิ ตกขออภัย และกรณุ าแจง ดว ยคะ ท่ี 081-860-2466 (add Line), E-mail: [email protected], [email protected] ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ขออนุโมทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกุศลทท่ี านกระทาํ ไวด แี ลว และท่จี ะกระทําในอนาคต ใหเ รานน้ั มปี จจัยถึงพรอ มเพอื่ การทํากศุ ลใหสําเรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเร็วไว จนถงึ มคั คกศุ ล โดยเรว็ พลันเทอญ

วถิ ีสังคหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 1 เฉลยขอ สอบขอ เขยี นพระอภธิ รรม ภาคเรียนที่ ๒ ปก ารศกึ ษา ๒๕๔๓-๒๕๖๓ อภธิ รรมโชตกิ ะวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ชนั้ มชั ฌมิ อาภธิ รรมมกิ ะตรี สอบวันศกุ ร ที่ ...... ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕....... วชิ า : วถี สิ งั คหะ ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ ๗ ขอ ๗๐ คะแนน เวลา ๔ ชว่ั โมง. (วนั แรก) ขอ ๑ (ท่ีเคยออกสอบ ปน ี้นา จะออกขอไหน?) ๑. จงแปลบาลดี ังตอ ไปนี้ ? [P19-20] 49, 61 อตมิ หนตฺ ํ มหนฺตํ ปรติ ตฺ ํ อตปิ รติ ตฺ ฺเจติ ปจฺ ทวาเร มโนทวฺ าเร ปน วภิ ตู มวภิ ูตเฺ จติ ฉธา วสิ ยปปฺ วตตฺ ิ เวทติ พฺพาฯ [P19-20] ตอบ แปลบาลี ดงั น้ี พงึ ทราบ วิสยปั ปวตั ติ ๖ อยาง ในปญ จทวาร มดี ังน้ี คอื ๑. อตมิ หนั ตารมณ คอื อารมณที่มีจิตตกั ขณะมจี ํานวนมากเหลือ นับตง้ั แตการปรากฏแหงอารมณใ นปญ จทวาร ๒. มหนั ตารมณ คือ อารมณท ม่ี จี ิตตักขณะมจี าํ นวนมาก นับตง้ั แตการปรากฏแหง อารมณในปญ จทวาร ๓. ปรติ ตารมณ คือ อารมณท ี่มจี ิตตกั ขณะมีจาํ นวนนอ ย นับตง้ั แตการปรากฏแหงอารมณในปญ จทวาร ๔. อตปิ รติ ตารมณ คอื อารมณท ่ีมจี ิตตักขณะมจี ํานวนนอ ยทส่ี ดุ นับตงั้ แตก ารปรากฏแหงอารมณใ นปญ จทวาร สาํ หรบั ในมโนทวาร มดี งั นี้ คือ ๑. วภิ ูตารมณ คือ อารมณท ี่ปรากฏชดั ในทางใจ ๒. อวภิ ตู ารมณ คือ อารมณท ไ่ี มป รากฏชัด ในทางใจ ๑. จงแปลบาลดี งั ตอไปน้ี ? 51, 54, 57, 59 ๑. ใหแ ปลบาลี วสิ ยปั ปวตั ติ อฏั ฐกะ ดังตอ ไปนมี้ าดทู งั้ หมด ? 37, 45 อตมิ หนตฺ ํ มหนฺตํ ปรติ ตฺ ํ อตปิ รติ ตฺ ฺเจติ ปจฺ ทวาเร มโนทวฺ าเร ปน อตวิ ภิ ตู ํ วภิ ตู มวภิ ตู ํ อตวิ ภิ ตู เฺ จติ อฏธา วสิ ยปปฺ วตตฺ ิ เวทติ พฺพาฯ [P20] ตอบ (51, 54, 57) แปลบาลี ดงั นี้ พงึ ทราบ วสิ ยัปปวตั ติ ๘ อยา ง ในปญ จทวาร มดี งั นี้ คือ (37, 45) แปลวสิ ยปั ปวัตติ อฏั ฐกะ ดงั น้ี พึงทราบ วิสยัปปวตั ติ ๘ อยา ง ในปญ จทวาร มีดงั น้ี คอื ๑. อตมิ หนั ตารมณ คอื อารมณทีม่ จี ติ ตักขณะมจี ํานวนมากเหลือ นบั ตงั้ แตก ารปรากฏแหงอารมณในปญ จทวาร ๒. มหนั ตารมณ คอื อารมณท ม่ี จี ติ ตักขณะมจี ํานวนมาก นับตงั้ แตก ารปรากฏแหง อารมณในปญ จทวาร ๓. ปรติ ตารมณ คอื อารมณท ่ีมจี ิตตักขณะมีจํานวนนอ ย นับตงั้ แตก ารปรากฏแหงอารมณใ นปญ จทวาร ๔. อตปิ รติ ตารมณ คือ อารมณท ี่มจี ิตตกั ขณะมจี ํานวนนอยที่สดุ นบั ตง้ั แตก ารปรากฏแหงอารมณในปญ จทวาร สําหรบั ในมโนทวาร มดี งั น้ี คอื ๑. อตวิ ภิ ตู ารมณ คอื อารมณท ปี่ รากฏชดั มาก ในทางใจ ๒. วภิ ตู ารมณ คือ อารมณท ีป่ รากฏชดั ในทางใจ ๓. อวิภูตารมณ คอื อารมณท ไ่ี มป รากฏชดั ในทางใจ ๔. อตอิ วภิ ตู ารมณ คอื อารมณท ไี่ มป รากฏชัดมาก ในทางใจ ๑. คําวา “วสิ ยปั ปวตั ติ” หมายความวา อยา งไร ? และใหแสดงจาํ นวนวสิ ยัปปวตั ติ ในวถิ ีมตุ ตจติ ๘ ม.ค. ๖๔ ดาวนโหลดขอ มูลตางๆไดจาก ขอความเพิม่ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

วิถสี ังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 2 และวถิ จี ติ ของวิสยปั ปวตั ตเิ หลา นน้ั ดว ย ? (38ส, 49ส, 53ส), 40, 56 (และในวถิ จี ิต) วา มเี ทาไร ? อะไรบา ง ? 46ส ไมต องแสดงความหมาย ? 52(1ก), 55(1ข), 60, 62 ตอบ คาํ วา “วสิ ยปั ปวตั ติ” หมายความวา ความเปน ไปแหงอารมณใ นทวาร และที่พนจากทวาร จํานวนวิสยปั ปวตั ติในวถิ มี ตุ ตจติ มี ๓ อยาง คอื ๑. กรรมอารมณ ๒. กรรมนมิ ติ อารมณ ๓. คตินิมิตอารมณ วสิ ยปั ปวตั ตใิ นวิถีจติ มี ๖ หรอื ๘ มี ๖ คอื ๑. อติมหันตารมณ ๒. มหันตารมณ ๓. ปริตตารมณ ๔. อติปรติ ตารมณ ๕. วิภูตารมณ ๖. อวภิ ูตารมณ มี ๘ คอื ๑. อตมิ หันตารมณ ๒. มหนั ตารมณ ๓. ปริตตารมณ ๔. อตปิ รติ ตารมณ ๕. อติวิภตู ารมณ ๖. วภิ ตู ารมณ ๗. อวภิ ตู ารมณ ๘. อตอิ วิภตู ารมณ ๑. ก. คําวา วิสยปั ปวตั ติ หมายความวา กระไร ? และใหแสดงจํานวนวสิ ยปั ปวตั ตใิ นวิถมี ตุ ตจติ ? 44, 47, 50 วา มีเทาไร อะไรบา ง ? ไมต อ งแสดงพรอ มความหมาย ? 52 ข. วสิ ยปั ปวตั ตใิ นปญ จทวาร มก่ี ีอ่ ยา ง ? คอื อะไรบา ง ? จงแสดงมาพรอ มความหมาย ? 38ส, 44, 47, 50, 63 ตอบ ก. คําวา วสิ ยัปปวตั ติ หมายความวา ความเปนไปแหงอารมณในทวาร ๖ และพนจากทวาร ๖ และจํานวนวิสยปั ปวตั ติในวถิ ีมตุ ตจติ มี ๓ อยา งคอื ๑. กรรมอารมณ ๒. กรรมนมิ ติ อารมณ ๓. คตนิ มิ ติ อารมณ ข. วสิ ยปั ปวตั ตใิ นปญ จทวาร มี ๔ อยา ง คือ ๑. อตมิ หนั ตารมณ หมายความวา ปญ จารมณท ี่มีวถิ จี ติ เกิดขน้ึ ไดม ากทีส่ ดุ จนครบ ๗ อยาง ๒. มหนั ตารมณ หมายความวา ปญ จารมณท ีม่ ีวิถจี ติ เกดิ ขึน้ ไดม าก มีเพียง ๖ อยาง ๓. ปรติ ตารมณ หมายความวา ปญ จารมณท ม่ี วี ิถจี ติ เกิดขนึ้ ไดน อย มเี พียง ๕ อยา ง ๔. อตปิ รติ ตารมณ หมายความวา ปญจารมณท ่มี ีวิถจี ติ เกดิ ขนึ้ ไดน อยทีส่ ุด กลา วคอื มีแตเ พยี งภวงั คจลนะเทา น้ัน (หรือถานกั ศึกษาตอบตามหลักสตู ร น.๑๙, ๒๐ บาลขี อ ๗, ๘ ก็ใชไ ด) ๑. ก.วถิ สี งั คหะ และปวตั ตสิ งั คหะ หมายความวา อยา งไร ? [P39] 58 ๑. ก. คําวา ปวตั ตสิ งั คหะ คืออะไร เมือ่ วา โดยกาลแลวมเี ทา ไร คอื อะไรบา ง ? [P35] (43ส, 46ส), 50 ข. คําวา ขณะ หมายความวากระไร และแสดงอายขุ องจติ -เจตสกิ -รูป ? [P39] 58 ค.วสิ ยัปปวตั ติ หมายความวา อยา งไร? 58 ง. จงแสดงวสิ ยปั ปวตั ติอฏั ฐกะ ในปญจทวารและมโนทวารมาตามลาํ ดบั ? (ไมต อ งบอกความหมาย)? 58 ๑. ก. คาํ วา ปวัตตสิ ังคหะ วถิ ีสงั คหะ และ วสิ ยปั ปวตั ติ หมายความวา อะไร ? 63 ตอบ ก. วิถีสงั คหะ หมายความวา การสงเคราะหการเกดิ ข้ึนโดยลาํ ดบั ติดตอกนั เปน แถวของจติ เจตสกิ รปู ปวัตตสิ งั คหะ หมายความวา การรวบรวมความเปน ไปแหง จิต เจตสกิ ในปฏิสนธกิ าลและปวัตตกิ าล รวมทงั้ ภมู แิ ละบคุ คล ตามสมควร ข. คาํ วา ขณะ หมายความวา ชว่ั ระยะเลก็ นอ ยทสี่ ดุ จะหาอะไรมาเปรียบเทียบมไิ ด และอายขุ องจิต เจตสิก รูป ดงั นี้ คอื มขี ณะเล็ก (อนขุ ณะ) อยู ๓ ขณะ คอื อปุ ปาทักขณะ ฐีตขิ ณะ ภงั คกั ขณะ (เกดิ ตั้ง ดับ) เปน อายุของจติ เจตสกิ ดวงหนง่ึ ๆ, อายุของรปู มีอายเุ ทา กนั กบั จิตที่เกิดขน้ึ แลว ดับไป ๑๗ ดวง หรือ ๕๑ ขณะเลก็ ค. คาํ วา วสิ ยัปปวตั ติ หมายความวา ความเปน ไปแหง อารมณใ นทวาร ๖ และท่ีพน จากทวาร ๖ ง. วสิ ยปั ปวตั ตอิ ฏั ฐกะ ม๘ี อยา ง ในปญจทวาร มดี ังนี้ คือ ๑. อติมหันตารมณ ๒. มหนั ตารมณ ๓. ปริตตารมณ ๔. อตปิ รติ รตารมณ ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆไดจาก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 3 ๑. อตวิ ิภตู ารมณ ในมโนทวาร มดี ังน้ี คือ ๒. วภิ ตู ารมณ ๓. อวภิ ูตารมณ ๔. อติอวภิ ตู ารมณ ๑. ก. คาํ วา ขณะ หมายความวา อยา งไร ? และจงแสดงอายุของนามและรปู ในขณะทง้ั ๓ นนั้ วา มีความตางกันอยา งไร ? [P39] 48 ตอบ ก. คําวา ขณะ หมายความวา ชัว่ ระยะเล็กนอยทส่ี ดุ จะหาอะไรมาเปรยี บเทียบมิได อายขุ องนามและรูป ในขณะทง้ั ๓ นั้น มคี วามตา งกนั ตรงทฐ่ี ตี ิขณะ คือ ฐตี ขิ ณะของนาม มี ๑ ขณะ สวนฐีติขณะของรปู มี ๔๙ ขณะ สาํ หรับอุปาทกั ขณะ และภังคักขณะนนั้ มี ๑ ขณะเทา กัน ๒. ก. คาํ วา ปวตั ตสิ ังคหะ หมายความวา อยา งไร ? 51 ข. ในจกั ขทุ วารกิ อตมิ หนั ตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระนน้ั มวี ถิ จี ติ กอ่ี ยา ง คอื อะไรบาง ? 51 ค. ในจกั ขทุ วารกิ อติมหนั ตารมณว ถิ ี ตทารัมมณวาระ เม่ือวา โดยบคุ คลและภมู แิ ลว มีจาํ นวนเทา ไร ? คืออะไรบา ง ? (วิถรี วมประเภทท่ี ๑) ? 51 ง. ในจกั ขทุ วารกิ อตมิ หนั ตารมณว ิถนี ัน้ เมือ่ บคุ คลน้ันปฏสิ นธิ ดว ยมหาวบิ าก ดวงท่ี ๑ อารมณเ ปน อตอิ ิฎฐารมณ ชวนะเปน โทสะ วถิ นี จี้ ดั เปน วาระอะไร ? 51 จ. ตทนวุ ัตติกมโนทวารวถิ ี ที่เกิดตอ จากจักขุทวารวถิ ี มจี ํานวนเทา ไร ? คืออะไรบา ง ? 51 ตอบ ก. คาํ วา ปวตั ตสิ งั คหะ หมายความวา การรวบรวมความเปนไปแหง จิต เจตสิก ในปฏิสนธกิ าล และปวตั ตกิ าล รวมทง้ั ภูมิและบคุ คลตามสมควร ข. ในจกั ขทุ วาริก อตมิ หันตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระนัน้ มวี ถิ ีจติ ๗ อยา ง คอื ๑. ปญจทวาราวัชชนจิต ๒. จกั ขุวญิ ญาณจิต ๓. สมั ปฏจิ ฉนจติ ๔. สนั ตีรณจติ ๕. โวฏฐพั พนจติ ๖. ชวนจิต ๗. ตทารมั มณจิต ค. ในจักขทุ วารรกิ อตมิ หนั ตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ เมื่อวาโดยบคุ คลเกดิ ขน้ึ แกบุคคล ๘ จาํ พวก คอื ปถุ ุชน ๔ อริยผลบคุ คล ๔ ในกามภมู ิ ๑๑ ง. วถิ นี จ้ี ดั เปน ชวนวาระ ที่มอี าคันตุกภวงั ค จ. มี ๔ อยางคอื ๑. อตตี คั คหณวถิ ี ๒.สมูหคั คหณวิถี ๓. อัตถัคคหณวิถี ๔. นามคั คหณวิถี ๑. ก. (คาํ วา ) วถิ ี หมายความวา อยางไร ? ในปรมัตธรรมท้ังหมด เม่ือสงเคราะหเ ปน วถิ แี ลว ปรมตั ถธรรมอะไรท่ี สงเคราะหเ ปนวถิ ีไดแ ละไมไ ด ? 50, 55, 62 ๒. ก. คําวา วิถี หมายความวาอยา งไร ? ในปรมตั ธรรมทงั้ ๔ นนั้ ปรมตั ถธรรมไหนเปน วถิ ีได ? 45 ตอบ ก. วถิ ี หมายความวา การเกดิ ขนึ้ โดยลําดับตดิ ตอ กนั เปน แถวของจิต เจตสกิ รูป ในปรมัตถธรรมท้ัง ๔ นน้ั จติ เจตสกิ รปู สงเคราะหเปนวิถไี ด (50, 55) สว นนิพพานน้ันสงเคราะหเปนวถิ ไี มไ ด ๒. ข. คําวา วถิ ี เมือ่ วา โดยทวารและวญิ ญาณแลว มเี ทา ไร คืออะไรบา ง? 36ส, 39 ใหย กหลกั ฐานบาลี ขนึ้ แสดงดว ย ? 45 ตอบ ข. คําวา วถิ ี เมื่อวา โดยทวารแลว มี ๖ คอื ๑. จกั ขุทวารวถิ ี ๒. โสตทวารวถิ ี ๓. ฆานทวารวถิ ี ๔. ชวิ หาทวารวถิ ี ๕. กายทวารวถิ ี ๖. มโนทวาวถิ ี เมอ่ื วา โดยวญิ ญาณแลว มี ๖ คือ ๑. จักขุวญิ ญาณวถิ ี ๒. โสตวญิ ญาณวถิ ี ๓. ฆานวญิ ญาณวิถี ๔. ชิวฺหาวิญญาณ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆไดจาก ขอความเพ่ิมเติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสังคหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 4 วิถี ๕. กายวญิ ญาณวถิ ี ๖. มโนวญิ ญาณวิถี แสดงหลกั ฐานบาลี ดงั น้ี ฉ วถี โิ ย ปน จกขฺ ุทวฺ ารวถี ิ โสตทวารวถี ิ ฆานทวารวถี ิ ชวิ หาทวารวถี ิ กายทวารวถี ิ มโนทวารวถี ิ เจติ ทวฺ ารวเสน วา จกขฺ วุ ิ ฺ าณวถี ิ โสตวิ ญฺ าณวถี ิ ฆานวิฺ าณวถี ิ ชวิ หาวิ ฺญาณวถี ิ กายวิฺ าณวถี ิ มโนวิ ฺ าณวถี ิ เจตสิ วิฺ าณวเสน วา ทวารปฺปวตตฺ า จติ ตฺ ปปฺ วตตฺ ิ โยเชตพฺพา ฯ ๑. จงยกคาถาสงั คหะทแี่ สดงการสรปุ จาํ นวนวถิ จี ติ ในปญ จทวารมาทง้ั บาลแี ละคาํ แปล ? 46(2), 53(2) ตอบ วถี จิ ติ ตฺ านิ สตเฺ ตว จิตตฺ ปุ ปฺ าทา จตทุ ทฺ ส จตปุ ฺ าส วติ ถฺ ารา ปจฺ ทวฺ าเร ยถารห.ํ แปลความวา วถิ จี ิตทงั้ หลายในปญจทวารตามสมควรแกท วารและอารมณแ ลว มี ๗ เทา นั้นคือ ปญจทวาราวชั ชนะ ๑ ปญจวิญญาณ ๑ สมั ปฏจิ ฉันนะ ๑ สนั ตีรณะ ๑ โวฏฐพั พนะ ๑ ชวนะ ๑ ตทารมั มณะ ๑ วถิ จี ิตเหลานน้ั เมอื่ วาโดยการเกดิ ขน้ึ แลว มี ๑๔ ครง้ั คือ ปญจทวาราวชั ชนเกิด ๑ ครั้ง ปญจวิญญาณดวงใดดวงหนง่ึ เกิด ๑ ครง้ั สมั ปฏจิ ฉนเกดิ ๑ ครงั้ สนั ตรี ณเกิด ๑ ครง้ั โวฏฐัพพนะเกดิ ๑ ครั้ง ชวนเกดิ ๗ ครง้ั และ ตทารัมมณเกดิ ๒ คร้ัง วถิ จี ติ เหลา นนั้ เมื่อวาโดยพิสดารแลว มี ๕๔ คือ กามจติ ๕๔ นั่นเอง. ๒. จงแสดงความหมายของคาํ ตอไปนี้ ? 50, 60, 62 ๑. ขณะ ๒. ภวงั คจิต ๓. อตตี ภวงั ค ๔. ภวงั คจลนะ ๕. ภวงั คปุ จ เฉทะ ตอบ แสดงความหมายของคาํ ตาง ๆ ดังน้ี ๑. ขณะ หมายความวา ชั่วระยะเล็กนอ ยที่สดุ จะหาอะไรมาเปรียบเทยี บมไิ ด ๒. ภวงั คจติ หมายความวา เปน จติ ทม่ี ปี ระจําตวั ของสตั วท ้ังหลายในภพหน่งึ ๆ ในภมู ิ ๓๐ ภูมิ (เวน อสญั ญสตั ต ภูม)ิ นั้น ไดแ ก ภวังคจติ ๑๙ ดวง ซง่ึ มอี ารมณเ ปน กรรมอารมณ กรรมนมิ ิตอารมณ หรือคตนิ ิมิต อารมณ เปน ภวงั คท ีเ่ ปน ไปอยูตามปกติ ยังไมเกยี่ วของกับวถิ แี ตป ระการใด ๓. อตตี ภวงั ค หมายความวา เปน ภวังคท ีผ่ า นไปในระหวางทป่ี ญจารมณ (ทางปญจทวาร) หรอื อารมณ ๖ ทเี่ ปน ปจจุบนั นิปผันนรูป ๑๘ (ทางมโนทวาร)ทเี่ กิดขน้ึ แลว แตย ังไมป รากฏในปญจทวาร หรอื ในมโนทวาร ๔. ภวงั คจลนะ หมายความวา เปนภวงั คทหี่ วนั่ ไหวดวยอาํ นาจปญ จารมณ( ทางปญ จทวาร)หรอื อารมณ ๖ ทเ่ี ปน ปจ จบุ นั นปิ ผนั นรปู ๑๘ (ทางมโนทวาร) ทม่ี าปรากฏในปญ จทวาร หรอื ในมโนทวารแลว ๕. ภวงั คุปจเฉทะ หมายความวา ตดั กระแสภวังค ทีเ่ รยี กวา ภวงั คค ปุ จเฉทะนนั้ เพราะเหตวุ า การเกิดขน้ึ ของ ภวังคจติ คือ ภวงั คจลนะดวงท่ี ๒ นนั้ เกิดขึ้นไดเ ปน ครั้งสดุ ทาย กอนทจ่ี ะเปน วถิ จี ติ ในวถิ หี นงึ่ ๆ ฉะนัน้ จงึ เรยี กวาภวงั คค ปุ จเฉทะ ๑. ข. อตีตภวงั ค ภวงั คจลนะ ภวงั คุปจ เฉทะ ทเี่ กดิ กอ นปญ จทวารวถิ มี ีจาํ นวนเทา ไร ? และทีเ่ กิดกอนทางมโนทวารวถิ ี มจี าํ นวนเทา ไร คอื อะไรบาง ? 45(2ค), 48, 55(2ก) ๓ ก. จงแสดงองคธ รรมปรมัตถของ อตตี ภวงั ค ภวงั คจลนะ ภวงั คุปจ เฉทะ ทเี่ กดิ ข้นึ กอ นโสตทวารวถิ ี มจี าํ นวนเทาไร ? และท่ีเกดิ กอ นทางมโนทวารวถิ ี มจี าํ นวนเทา ไร คอื อะไรบา ง ? 44 ตอบ ก. อตีตภวังค ภวงั คจลนะ ภวังคคปุ จ เฉทะ [(44) ทเี่ กิดกอ นโสตทวาร] ท่เี กดิ กอ นปญ จทวาร มจี ํานวน ๑๕ คอื อเุ บกขาสนั ตรี ณจติ ๒ มหาวปิ ากจติ ๘ รปู าวจรวปิ ากจิต ๕ และ ทเ่ี กิดกอ นทางมโนทวารวถิ ีทม่ี ี อตตี ภวังค มี ๑๕ คือ อุเบกขาสนั ตรี ณจติ ๒ มหาวปิ ากจติ ๘ รปู าวจรวปิ ากจิต ๕ ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพมิ่ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี งั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 5 ที่ไมมีอตีตภวังค มี ๑๙ คอื อเุ บกขาสนั ตรี ณจติ ๒ มหาวิปากจิต ๘ มหคั คตวปิ ากจิต ๙ ๑. ข. ทางปญ จทวารวิถนี น้ั มอี ตตี ภวงั คแนน อน แตส าํ หรบั ทางมโนทวารวิถนี นั้ มีอตตี ภวงั คไมแ นน อน คือมอี ตตี ภวงั คก ม็ ี ไมม ีอตตี ภวงั คก ็มี ทเี่ ปน เชน นเี้ พราะเหตุไร ? 36, 43, 49, 52, 55(2ข), 57(3) คือมโนทวารวถิ มี ี อตตี ภวงั คกม็ ี ไมม ีอตตี ภวงั คก ม็ ี ทเี่ ปน เชน นเ้ี พราะเหตไุ ร ? 62(3) ตอบ ทางปญ จทวารวถิ ีน้นั มีอตตี ภวงั คโ ดยแนนอน แต(สําหรบั )ทางมโนทวารวถิ ี มอี ตตี ภวงั คไ มแ นน อนนน้ั เพราะเก่ยี วกบั การรับอารมณต ามทวารนน้ั ๆ คอื (ทาง)ปญจทวารวิถี รบั ปญจารมณท่ีเปน ปจ จุบันนิปผันนรูปอยา งเดียว จึงมอี ตตี ภวงั คแ นน อน สว นมโนทวารวถิ ีนน้ั สามารถรบั อารมณทงั้ ๖ ท่ีเปน ปรมัตถและบัญญัตซิ ง่ึ เปน เตกาลกิ ะและกาลวมิ ตุ ตไิ ด ฉะนัน้ ถาขณะใดมโนทวารกิ จติ รบั อารมณ ๖ ทีเ่ ปนปจ จุบนั นปิ ผนั นรูป ในขณะนน้ั กม็ อี ตตี ภวงั คแ นน อน ถาขณะใดมโนทวารกิ จิตรบั อารมณ ๖ ทีน่ อกจากปจจบุ ันนปิ ผันนรูปแลว ในขณะนน้ั ก็ไมม ีอตีตภวังค ขอ ๒ (ทเ่ี คยออกสอบ ปน นี้ า จะออกขอไหน?) ๒. ข. นามธรรม และรปู ธรรมทง้ั สองน้ี เปน สังขตธรรม มอี นจิ จลกั ขณะดวยกันทง้ั สนิ้ แตส าํ หรบั นามธรรมนน้ั มอี ายุนอย สว นรปู ธรรมมอี ายยุ นื ที่เปน เชน นเ้ี พราะเหตุไร ? 43 ตอบ ข. นามธรรมท่ีมอี ายุนอยนั้น เพราะนามธรรมมีหนาท่ีรูอารมณ ในการรูอ ารมณน ั้น มีจิตเปนประธาน ธรรมชาตขิ องจิตเปนธรรมชาติไว เมอ่ื ไดร บั อารมณต ามหนาท่ีของตนเสร็จเรียบรอ ยแลวกด็ ับลง แลว จิตดวงอ่ืน ๆ ก็เกิดข้ึนรับอารมณติดตอกันไป เปนลําดับแลวก็ดับลงตาม ๆ กันไป เมื่อจิตที่เปนประธานดับลง เจตสิกที่เกิด พรอ มกับจิตก็ตองดับลงดว ย ฉะน้นั นามธรรมจงึ มอี ายสุ ั้นกวา รปู ธรรม ฝายรปู ธรรมทีม่ อี ายุยนื นน้ั ในบรรดารปู ท้งั หลายมมี หาภูตรปู เปน ประธาน และมหาภตู รูปนเี้ ปน ธรรมชาติ หนักดว ยเหตุน้ี เมอ่ื เกดิ ข้นึ แลว จงึ ต้งั อยูไดนาน เมือ่ มหาภตู รปู ต้งั อยูไดน าน อุปาทานรปู ซ่ึงเปนรูปที่อาศัยมหาภูต รูปเกิด ก็ตง้ั อยไู ดน านดวย ดว ยเหตุน้ี รูปธรรมจึงมอี ายยุ ืนกวา นามธรรม ๒. ก. อตมิ หนั ตารมณวิถี ทมี่ อี าคนั ตกุ ภวงั ค กบั มหนั ตารมณวถิ ที ี่มีอาคนั ตกุ ภวงั ค มีความแตกตา งกนั ตรงไหน ? 54 ตอบ ก. อตมิ หันตารมณว ถิ ที ่มี อี าคันตกุ ภวังค กับ มหนั ตารมณว ิถีทีม่ อี าคนั ตกุ ภวังค แตกตา งกนั ตรงอารมณ กลาวคอื อตมิ หันตารมณวถิ ี ท่มี อี าคันตกุ ภวงั ค อารมณต องเปนอตอิ ิฏฐารมณ สวน มหนั ตารมณวถิ ี ทีม่ ีอาคนั ตกุ ภวงั ค ไมจาํ กดั อารมณ คอื จะเปน อตอิ ฏิ ฐารมณ อฏิ ฐมชั ฌัตตารมณ หรือ อนฏิ ฐารมณ กส็ ามารถยงั อาคันตกุ ภวงั คใ หเกดิ ขนึ้ ไดทัง้ สน้ิ ๒. จงแสดงภาพวิถีของจกั ขทุ วารกิ อตมิ หันตารมณว ถิ ี ประเภทที่ ๑ ของทคุ ติอเหตุกบคุ คล พรอมทง้ั จาํ แนกโดย ภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ และวตั ถมุ าใหถกู ตอง ? 63 ตอบ ก. จกั ขุทวาริกอติมหนั ตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ มหากุศลชวนะ ๘ เฉพาะทุคตอิ เหตุกบุคคลดังน้ี ภ ตี น ท ป จ สํ ณ โว ช ช ช ช ช ช ช ต ต ภ ภ อ.สัน.อกุ.วิ ๑ ๑ ๒ ๒ ๓ ๑ กามชวนะ ๑๘ ๓๑ วาโดยภมู ิ เกิดไดในอบายภูมิ ๔ วาโดยองคธรรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลัง ไดแ ก อเุ บกขาสนั ตีรณอกุศลวปิ ากจติ ๑, สว นวถิ ีจติ เหลา น้ัน ดาวนโหลดขอมลู ตางๆไดจาก ขอความเพมิ่ เติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 6 ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ จกั ขุวญิ ญาณจิต ๒ สมั ปฏิจฉนจิต ๒ สนั ตีรณจิต ๓ โวฏฐพั พน จติ ๑ กามชวนะ ๑๘ (เวน โทสมูลจติ ๒, หสติ ุปปาทจิต ๑, มหากิริยาจติ ๘, ตทารมั มณจติ ๓ วา โดยอารมณ ภวังคแ รก และภวังคห ลัง มอี ารมณ ๖ ที่เรยี กวา กรรมอารมณ กรรมนมิ ติ อารมณ หรือคตนิ ิมติ อารมณ ทีไ่ ดร บั มาจากฉทวาริกมรณาสนั นชวนในภพกอ นเมอ่ื ใกลจะตายเปน อารมณ สาํ หรบั วถิ จี ติ ท้ังหมดทอี่ ยูในวถิ นี ี้มอี ติอิฏฐะ อฏิ ฐมัชฌัตตะ หรอื อนฏิ ฐรปู ารมณท เ่ี ปน ปจจุบันคอื รปู ารมณทด่ี ยี ่งิ ดี ธรรมดา หรือทีไ่ มด ที ป่ี รากฏอยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ จกั ขุวญิ ญาณจติ ๒ อาศยั จักขุวตั ถเุ กิด วถิ จี ติ ทเ่ี หลอื ทง้ั หมด ภวังคแ รก และภวงั คห ลงั อาศัยหทัยวตั ถุเกิด ๒. ก. ใหนักศกึ ษาเขยี นภาพวถิ ี ประกอบดว ยองคธ รรม ในจกั ขทุ วารกิ อติมหนั ตามรมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ มหากุศลชวนะ ๘ เฉพาะ ของทุคติอเหตกุ บคุ คล มาใหถ ูกตอ ง ? 48 ข. จงเขียนภาพวถิ ี ประกอบดว ยองคธ รรม ในจักขทุ วารกิ อตมิ หันตารมณว ถิ ี ชวนะวาระ โทสชวนะ ๒ เฉพาะของทวเิ หตกุ บคุ คล มาใหถ กู ตอ ง ? 48 ตอบ ก. จกั ขุทวาริกอติมหันตารมณวถิ ี ตทารมั มณวาระ มหากุศลชวนะ ๘ เฉพาะทคุ ตอิ เหตุกบคุ คลดงั น้ี ภ ตี น ท ป จ สํ ณ โว ช ช ช ช ช ช ช ต ต ภ ภ อ.สัน.อกุ.วิ ๑ ๑ ๒ ๒ ๓ ๑ ๘ ๓๑ ข. จักขุทวาริกอติมหันตารมณว ิถี ชวนวาระ โทสชวนะ ๒ เฉพาะทวเิ หตุกบุคคล ดงั นี้ ตี น ท ป จ สํ ณ โว ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ อุ.มหา.ว.ิ วิป.๒ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ โทส ๒ ๒ ๒. ก. จงเขยี นองคธ รรมประกอบภาพวถิ ี ในจักขทุ วาริกอตมิ หันตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระและชวนวาระ โทสชวนะมาใหถกู ตอง ? 49 ตอบ ก.ในจกั ขุทวารกิ อตมิ หนั ตามรมณว ิถี ตทารมั มณวาระ โทสชวนะ ภ ภ มรี ปู ารมณท งั้ X2๓ ชนิด ตี น ท ป จ สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ต ต ๑๐ ๑ ๒ ๒ ๒ ๑ ๒ ๖ ๑๐ ตี น ท ป จ สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ มรี ูปารมณที่เปนอติอิฏฐะ ๖ ๑๑๑ ๑ ๑ ๒ ๖ ๒. จงแสดงภาพวถิ ขี อง โสตทวารกิ อตมิ หันตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ ชวนะเปน โทสะ พรอ มทง้ั จาํ แนก บคุ คล ภูมิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ และวตั ถุ มาใหถ ูกตอง ? 57, 61 ตอบ แสดงภาพ โสตทวารกิ อตมิ หันตารมณวถิ ี ตทารมั มณวาระ ชวนะเปน โทสะ พรอ มทั้งจาํ แนกโดยบุคคล ภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ และวตั ถุ ดงั น้ี ภ ตี น ท ป โส สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ต ต ภ ๑๐ กาม.ภ. ๑๐ ๑๒๒๒ ๑ โทส. ๒ ๖ ดาวนโหลดขอมูลตางๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 7 วา โดยบคุ คล เกิดขึน้ แกบ คุ คล ๖ จําพวก คอื ปถุ ุชน ๔ และอรยิ ผลบุคคลเบ้ืองตาํ่ ๒ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดในกามภมู ิ ๑๑ วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแ ก กามภวงั คจติ ๑๐ สว นวถิ จี ติ เหลา นน้ั ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ โสตวญิ ญาณจิต ๒ สมั ปฏจิ ฉนจิต ๒ อเุ บกขาสันตรี ณจติ ๒ โวฏฐพั พนจติ ๑ โทสชวนะจติ ๒ อเุ บกขาตทารมั มณจติ ๖ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกภวังคห ลัง มอี ารมณ ๖ ทเ่ี รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนมิ ติ อารมณห รอื คตนิ ิมติ อารมณ ทีไ่ ดร ับมาจากฉทวาริกมรณาสันนชวนะในภพกอ นเม่อื ใกลจะตาย เปนอารมณ สาํ หรบั วถิ จี ติ ทง้ั หมดทอี่ ยใู นวิถนี ี้ มอี ฏิ ฐมัชฌัตต หรอื อนฏิ ฐสทั ทารมณทเี่ ปน ปจ จบุ นั คอื สทั ทารมณท ด่ี ธี รรมดา หรือทไ่ี มด ี ทป่ี รากฏอยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ โสตวิญญาณจติ ๒ อาศัยโสตวตั ถเุ กิด วิถจี ติ ทเี่ หลอื ท้ังหมด ภวงั คแ รก ภวังคห ลงั อาศัยหทัยวตั ถุเกิด ๓. จงแสดงภาพวถิ ปี ระกอบองคธ รรม พรอ มทง้ั จาํ แนกเฉพาะ บุคคล ภมู ิ และองคธ รรมปรมตั ถ เทา นนั้ มาใหถ ูกตอ ง ใน วถิ ตี อ ไปน้ี ก. โสตทวาริก อตมิ หนั ตารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทไี่ มม ีอาคนั ตุกภวงั ค ทีเ่ กดิ ในรปู ภมู ิ ? 51, 56 XX จงจาํ แนกจกั ขทุ วารกิ อตมิ หนั ตารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทไ่ี มมอี าคนั ตุกภวังค ที่เกดิ ในรปู ภมู ิ โดยบุคคล ภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ วัตถุ ? 40 ตอบ ก. แสดงภาพ โสตทวารกิ อตมิ หันตารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทไี่ มม ีอาคันตุกภวงั ค ที่เกิดในรปู ภมู ิ พรอ มท้งั จาํ แนกโดยบุคคล ภูมิ และองคธ รรมปรมตั ถ ดงั นี้ จกั ภ ตี น ท ป โส สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ รปู ภวงั ค ๕ ๑ ๒ ๒ ๓ ๑ กามชวนะ๒๗(-๒) รปู ภ. ๕ วา โดยบคุ คล เกดิ ขึ้นแกบ คุ คล ๕ จาํ พวก คอื ตเิ หตุกปุถชุ น ๑ อรยิ ผลบุคคล ๔ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดในรปู ภูมิ ๑๕ (เวน อสัญญสตั ตภมู ิ ๑) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแ ก รปู าวจรภวังคจติ ๕ สว นวถิ จี ติ เหลา นั้น ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจิต ๑ โสตวญิ ญาณจิต ๒ สัมปฏิจฉนจติ ๒ สันตรี ณจติ ๓ โวฏฐัพพนจติ ๑ กามชวนะ ๒๗ (เวน โทสชวนะ ๒) [(40) วา โดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั มีบัญญตั ิกรรมนิมติ ธรรมารมณ อนั เน่ืองดว ยกรรมฐาน ๒๖ คือ กสณิ บญั ญตั ิ ๑๐ อสภุ บัญญัติ ๑๐ โกฏฐาสบญั ญตั ิ ๑ อานาปานบญั ญตั ิ ๑ และสตั ว บัญญัติ ๔ ทไี่ ดร บั มาจากมโนทวาริกมรณาสนั นชวนะในภพกอน เมอื่ ใกลจ ะตายเปน อารมณ สําหรบั วิถจี ิตทงั้ หมดท่ีอยใู นวิถีนี้ มีอตอิ ิฏฐะ อฏิ ฐมชั ฌตั ตะ หรอื อนฏิ ฐรปู ารมณ ทเ่ี ปน ปจ จุบัน คือ รูปารมณทด่ี ยี ่ิง ดธี รรมดา หรือทไ่ี มด ีทปี่ รากฏอยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ จกั ขุวญิ ญาณจติ ๒ อาศัยจกั ขวุ ตั ถเุ กิด วิถจี ติ ทเ่ี หลอื ทงั้ หมด ภวงั คแ รก ภวังคห ลงั อาศัยหทยวัตถุเกิด] ๒. จงแสดงภาพจกั ขทุ วารกิ อตมิ หนั ตารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทม่ี อี าคนั ตุกภวงั ค พรอ มดว ยการจาํ แนก ๘ ม.ค. ๖๔ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆไดจาก ขอความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว)

วิถีสงั คหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 8 โดยบุคคล ภูมิ องคธ รรมปรมัตถ อารมณ ? 60 และวตั ถุ ? 37, 45, 46, 47, 53 ตอบ ภาพวถิ ีพรอมดว ยองคธ รรมของจักขทุ วาริก อตมิ หันตารมณว ถิ ดี งั นี้ ภ ตี น ท ป จกั สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช อา ภ ภ ภ กามโส.ภ.๔ ๑ ๑ ๑ ๑ โทสชวนะ ๒ ๕ กามโส.ภ.๔ วา โดยบคุ คล เกดิ ขนึ้ แกบุคคล ๔ จําพวก คอื ทวิเหตกุ บคุ คล ๑ ติเหตกุ ปุถุชน ๑ โสดาบันบคุ คล ๑ สกทาคามีบุคคล ๑ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดในกามสคุ ติภมู ิ ๗ วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกภวงั คหลัง ไดแก กามโสมนัสภวงั คจติ ๔ จติ ที่ทําหนาที่อาคันตุกภวงั ค ไดแ ก กามอเุ บกขาภวังคจิต ๕ (เวนอุเบกขาสนั ตรี ณอกุศลวปิ ากจิต ๑) สวนวิถจี ิตเหลา นนั้ ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจติ ๑ กุศลวบิ ากจกั ขวุ ญิ ญาณจติ ๑ กศุ ลวบิ ากสมั ปฏิจฉนจติ ๑ โสมนสั สนั ตรี ณจติ ๑ โวฏฐพั พนจิต ๑ โทสะชวนจติ ๒ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกภวงั คห ลัง มอี ารมณ ๖ ทเี่ รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนมิ ิตอารมณ หรอื คตินิมติ อารมณ ท่ีไดร บั มาจากฉทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอนเมอ่ื ใกลจ ะตาย เปน อารมณ จิตท่ีทาํ หนาทีอ่ าคนั ตกุ ภวงั คน ัน้ มอี ารมณ ๖ อยางใดอยา งหนง่ึ ที่เปน กามธรรม ซงึ่ เคยมีความ ชาํ นาญมาแลวในภพนี้ เปน อารมณ สาํ หรบั วิถีจติ ทงั้ หมดทีอ่ ยใู นวถิ ีนี้ มีอตอิ ิฏฐรูปารมณท เ่ี ปน ปจ จุบัน คอื รูปารมณทด่ี ยี งิ่ ทีป่ รากฏ อยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ กศุ ลวบิ ากจกั ขุวญิ ญาณจิต ๑ อาศัยจกั ขุวตั ถุเกิด วิถจี ติ ทีเ่ หลอื ทงั้ หมด ภวงั คแ รก ภวังคห ลงั และจติ ท่ีทําหนาทอ่ี าคนั ตกุ ภวงั ค อาศัยหทัยวตั ถุเกิด ๒. จงจาํ แนกชวิ หาทวารกิ อตมิ หนั ตารมณว ิถี ชวนวาระ ทีไ่ มมีอาคันตกุ ภวงั ค โดยบคุ คล เปน ตน มาให ถกู ตอ งตามหลกั พรอมทั้งแสดงภาพวถิ ดี ว ย ? 52 ตอบ จาํ แนกชวิ หาทวารกิ อติมหนั ตารมณว ถิ ี ชวนวาระท่ไี มม อี าคนั ตกุ ภวงั ค โดยบุคคลเปนตน พรอมทงั้ แสดงภาพวิถี ดงั นี้ ตี น ท ป ชิว สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ มีรสารมณท ่ีเปน อตอิ ิฏฐะ กามอุ.ภ.๖ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ โทสชวนะ ๒ กามอุ.ภ.๖ วา โดยบคุ คล เกิดขน้ึ แกบุคคล ๖ จาํ พวก คอื ปุถชุ น ๔ อรยิ ผลบุคคลเบือ้ งตาํ่ ๒ วา โดยภมู ิ เกิดไดใ นกามภมู ิ ๑๑ วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแรกและภวงั คห ลงั ไดแ ก กามอเุ บกขาภวงั คจติ ๖ สว นวถิ ีจิตเหลานนั้ ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจติ ๑ กุศลวิบากชวิ หาวญิ ญาณจิต ๑ กศุ ลวบิ ากสมั ปฏจิ ฉนจติ ๑ โสมนสั สันตีรณจติ ๑ โวฏฐพั พนจติ ๑ โทสชวนะ ๒ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลัง มอี ารมณ ๖ ทีเ่ รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ หรอื คตนิ มิ ติ อารมณ ท่ไี ดรับมาจากฉทวาริกมรณาสนั นชวนในภพกอ นเมื่อใกลจะตายเปน อารมณ สําหรบั วถิ จี ติ ทงั้ หมดทอ่ี ยใู นวถิ ีนี้ มอี ติอิฏฐรสารมณท่ีเปนปจจบุ ัน คอื รสารมณท ี่ดยี ง่ิ ท่ปี รากฏ ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆไดจ าก ขอความเพ่ิมเติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 9 อยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ กุศลวบิ ากชวิ หาวิญญาณจติ ๑ อาศยั ชิวหาวตั ถุเกิด วถิ จี ติ ที่เหลอื ท้ังหมด ภวงั คแ รก และภวงั คห ลงั อาศยั หทัยวตั ถุเกดิ ๒. จงเขยี นภาพวถิ ี พรอมกบั จาํ แนก บคุ คล ภูมิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ และวตั ถุของชวิ หาทวารกิ อตมิ หนั ตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ ของติเหตกุ ปุถชุ นในขณะทกี่ าํ ลงั รบั รูรสท่ีดธี รรมดา แลวเกิดความพอใจ ? 44 ตอบ ภาพวธิ ี ชวิ หาทวารกิ อตมิ หันตารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ ภ ตี น ท ป ชวิ สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ต ต ภ 4 1 1 11 1 8 54 วา โดยบคุ คล เกิดขึ้นกับตเิ หตุกปุถุชน ๑ วา โดยภมู ิ เกิดไดในกามสุคติภูมิ ๗ วา โดยองคธรรมปรมัตถ ภวังคแ รกภวงั คห ลงั ไดแก ตเิ หตุกกามภวังคจติ ๔ ดวงใดดวงหนึง่ สว นวิถีจติ เหลา นนั้ ไดแ ก ปญ จทวาราวชั นจติ ๑ กุศลวบิ ากชวิ หาวิญญาณจติ ๑ กศุ ลวิบาก สัมปฏิจฉนจติ ๑ อุเบกขาสนั ตรี ณกศุ ลวิปากจิต ๑ โวฏฐัพพนจิต ๑ โลภชวนจติ ๘ ดวงใดดวง หนึ่ง อเุ บกขาตทารมั มณจติ ๕ ดวงใดดวงหนง่ึ (เวน อุเบกขาสันตีรณอกศุ ลวิปากจติ ๑) วา โดยอารมณ ภวงั คแรกภวังคห ลัง มอี ารมณ ๖ ทเี่ รียกวา กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ หรอื คตินมิ ติ อารมณ ซง่ึ ไดร ับมาจากฉทวารกิ มรณาสันนชวนในภพกอ นเมอ่ื ใกลจ ะตายเปน อารมณ สาํ หรบั วิถีจติ ทง้ั หมดทอ่ี ยูใ นวิถนี ี้ มีอฏิ ฐมัชฌตั ตรสารมณท เ่ี ปนปจจบุ นั คอื รสารมณทดี่ ธี รรมดา ทีป่ รากฏอยเู ฉพาะหนาเปน อารมณ วา โดยวตั ถุ กศุ ลวบิ ากชิวหาวญิ ญาณจิต ๑ อาศยั ชวิ หาวตั ถุเกดิ วถิ ีจิตท่ีเหลอื ทั้งหมด ภวังคแ รก ภวังคห ลัง อาศัย หทยวัตถุเกดิ ๓. จงจาํ แนกกายทวารกิ อตมิ หันตารมณว ถิ ี ชวนวาระทีไ่ มม ี อาคนั ตกุ ภวงั ค โดยบคุ คล เปนตน มาใหถกู ตองตามหลัก พรอมทงั้ แสดงภาพวถิ ดี ว ย ? 50 ตอบ จาํ แนกกายทวารกิ อติมหนั ตารมณว ถิ ี ชวนวาระที่ไมม อี าคันตกุ ภวงั ค โดยบุคคลเปน ตน พรอ มท้งั แสดงภาพวิถี ดงั นี้ ภ ตี น ท ป กา ส ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ กามอุ.ภ.๖ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ โทสชวนะ ๒ กามอุ.ภ.๖ วา โดยบคุ คล เกิดขึน้ แกบคุ คล ๖ จาํ พวก คอื ปถุ ุชน ๔ ผลบคุ คลเบอ้ื งต่ํา ๒ วา โดยภมู ิ เกิดไดใ นกามภมู ิ ๑๑ วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแรกและภวงั คห ลัง ไดแ ก กามอุเบกขาภวงั คจ ติ ๖ สว นวถิ จี ติ เหลา นนั้ ไดแ ก ปญ จทวาราวชั ชนจติ ๑ กศุ ลวิบากกายวญิ ญาณจติ ๑ กุศลวบิ ากสัมปฏิจฉนจิต ๑ โสมนัสสนั ตีรณจติ ๑ โวฏฐพั พนจติ ๑ โทสชวนะ ๒ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลัง มีอารมณ ๖ ทเ่ี รยี กวา กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ หรือคตนิ ิมติ อารมณ ที่ไดรับมาจากฉทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอนเม่ือใกลจ ะตายเปนอารมณ ดาวนโหลดขอ มูลตา งๆไดจ าก ขอความเพมิ่ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 10 สําหรบั วถิ จี ติ ท้ังหมดทอี่ ยใู นวิถนี ้ีมี อติอิฏฐโผฏฐพั พารมณทีเ่ ปน ปจจบุ นั คอื โผฏฐัพพารมณท ่ีดี ย่งิ ท่ีปรากฏอยูเ ฉพาะหนา เปนอารมณ วา โดยวตั ถุ กุศลวบิ ากกายวญิ ญาณจติ ๑ อาศัยกายวตั ถเุ กดิ วถิ ีจติ ทเี่ หลอื ทงั้ หมด ภวงั คแ รก และภวงั คหลงั อาศยั หทัยวตั ถุเกดิ xx จงจาํ แนกจกั ขทุ วารกิ อติมหันตารมณว ถิ ี ชวนวาระ ไมม อี าคนั ตกุ ภวงั ค และจิตทท่ี ําหนา ทีช่ วนในวถิ ีนไี้ ดแ ก โลภมลู จติ ดวงที่ ๑ โดยบุคคล ภมู ิ องคธ รรมปรมัตถ อารมณ และวตั ถุ มาดู ? 36 ตอบ จําแนกจกั ขทุ วาริก อติมหันตารมณวถิ ี ชวนวาระ ทไ่ี มมอี าคนั ตุกภวงั ค ดังนี้ มีปจ จุบนั รปู ารมณท เี่ ปน อตอิ ิฏฐะ อฏิ ฐมชั ฌตั ตะ หรอื อนฏิ ฐะ เปน อารมณ ภ ตี น ท ป จัก สํ ณ วุ ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ 5 1 2231 1 54 วา โดยบุคคล เกิดข้ึนกบั ตเิ หตุกปุถุชน ๑ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใ นรูปภูมิ ๑๐ (เวนสทุ ธาวาส ๕ อสญั ญสตั ตภูมิ ๑) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแ ก รปู ภวงั คจติ ๕ สว นวิถีจติ เหลา นน้ั ไดแก ปญ จทวา ราวัชนจติ ๑ จักขวุ ญิ ญาณจติ ๒ สมั ปฏจิ ฉนจิต ๒ สนั ตรี ณจิต ๓ โวฏฐัพพนจิต ๑ โลภมลู จิต ดวงที่ ๑ วา โดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลัง มบี ญั ญตั ิกรรมนมิ ติ ธรรมารมณ อนั เนอ่ื งดว ยกรรมฐาน ๒๖ คือ กสณิ บญั ญัติ ๑๐ อสภุ บญั ญตั ิ ๑๐ โกฏฐาสบัญญตั ิ ๑ อานาปานบัญญัติ ๑ สตั วบัญญตั ิ ๔ ท่ีได รบั มาจากมโนทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอ น เม่ือใกลจ ะตายเปน อารมณ สําหรบั วิถจี ติ ทงั้ หมดที่อยใู นวถิ นี ี้ มี อตอิ ิฏฐะ อฏิ ฐมัชฌตั ตะ หรอื อนิฏฐรปู ารมณท่ีเปนปจจบุ นั คอื รปู ารมณท ด่ี ียงิ่ ดธี รรมดา หรอื ท่ีไมด ี ทีป่ รากฏอยูเฉพาะหนา เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ จกั ขวุ ญิ ญาณจติ ๒ อาศยั ชวิ หาวตั ถุเกดิ วิถีจติ ท่ีเหลอื ทัง้ หมด ภวงั คแ รก ภวงั คหลงั อาศยั หทยวัตถเุ กดิ ๒. จงแสดงภาพอตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทม่ี ีอตตี ภวงั ค แตไมม ีอาคนั ตกุ ภวงั ค พรอมท้ังจาํ แนกโดยบคุ คล ภมู ิ เปน ตน มาใหถ กู ตองตามหลกั ? 58 ตอบ แสดงภาพ อตวิ ิภตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ท่ีมอี ตีตภวงั ค แตไ มม อี าคนั ตกุ ภวงั ค พรอมทั้งจําแนกโดยบคุ คล ภมู ภิ เปน ตตนี ดงั นนี้ ท ม ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ ปญ จโวการภวงั ค ๑๑ ๑ กามชวนะ๒๙ กามอุ.ภ. ๖+ รปู ภ. ๕ วา โดยบคุ คล เกิดขึน้ แกบ ุคคล ๘ จําพวก คือ ปถุ ุชน ๔ อรยิ ผลบคุ คล ๔ วา โดยภมู ิ เกิดไดในปญจโวการภูมิ ๒๖ คือ กามภมู ิ ๑๑ รปู ภมู ิ ๑๕ (เวน อสัญญสตั ตภมู ิ ๑) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแ ก กามอเุ บกขาภวงั คจติ ๖ รปู ภวงั คจิต ๕ สว นวิถจี ิตเหลานน้ั ไดแ ก มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ กามชวนะ ๒๙ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลงั ทเี่ ปน กามอเุ บกขาภวงั คจติ ๖ มีอารมณ ๖ ทเี่ รียกวา กรรมอารมณ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆไดจาก ขอความเพม่ิ เติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 11 กรรมนมิ ติ อารมณ หรอื คตินิมติ อารมณ ทไ่ี ดร บั มาจากฉทวาริกมรณาสันนชวนในภพกอ นเมอ่ื ใกล จะตายเปน อารมณ สวนที่เปนรูปภวงั คจติ ๕ มีบญั ญัตกิ รรมนมิ ติ ธรรมารมณอ ันเนื่องดว ยกรรมฐาน ๒๖ คือ กสิณ บญั ญตั ิ ๑๐ อสุภบญั ญตั ิ ๑๐ โกฎฐาสบัญญตั ิ ๑ อานาปานบัญญัติ ๑ หรือสตั วบัญญตั ิ ๔ ทไี่ ดร บั มา จากมโนทวาริกมรณาสนั นชวนะในภพกอ นเมื่อใกลจะตายเปนอารมณ สําหรบั วถิ จี ติ ทง้ั หมดทอี่ ยใู นวิถีนี้ ถาเกิดในกามภมู ิ มอี ตอิ ิฏฐอารมณ ๖ ท่ีเปน ปจ จบุ ันนปิ ผนั นรูป ๑๘ คอื นปิ ผนั นรูปทด่ี ีย่งิ ทป่ี รากฏอยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ ถาเกดิ ในรปู ๑๕ (เวน อสญั ญสัตตภมู ๑ิ )มี อติอิฏฐ อิฏฐมัชฌตั ตหรือ อนฏิ ฐอารมณ ๓ คอื รปู ารมณ สัททารมณ และธรรมารมณท ่ีเปน ปจจบุ ันนิ ปผันนรปู ๑๓ (เวนฆานปสาท, ชวิ หาปสาท, กายปสาท, ภาวรูป ๒) คอื นิปผนั นรูปทด่ี ยี ่งิ ดธี รรมดาหรอื ทไ่ี ม ดที ีป่ รากฏอยูเฉพาะหนา เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ ภวงั คแ รก ภวังคหลงั และวถิ ีจติ ทัง้ หมด อาศัยหทยวตั ถเุ กิด ๒. ข. จงจาํ แนก ภมู ิ องคธ รรมปรมัตถ และอารมณของ อตวิ ภิ ตู ารมณว ิถี ที่มอี ตีตภวงั ค ชวนะวาระ ไมมอี าคนั ตกุ ภวงั ค ท่ไี มเ กย่ี วกับโทสะชวนะ ของพระโสดาบนั บุคคล ? 54 ตอบ ข. จาํ แนกภูมิ องคธ รรมปรมตั ถ และอารมณ ของอตวิ ภิ ูตารมณว ถิ ี ท่ีมอี ตตี ภวังค ชวนะวาระ ไมมอี าคนั ตุกภวงั ค ที่ไมเ กีย่ วกับโทสะชวนะ ของพระโสดาบนั บุคคล มดี ังน้คี ือ วา โดยภมู ิ เกิดไดในรูปภูมิ ๑๐ (เวนอสญั ญสตั ตภมู แิ ละสุทธาวาสภมู ิ ๕) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแรกและภวงั คห ลงั ไดแ ก รปู ภวงั คจ ติ ๕ สว นวถิ ีจติ เหลานนั้ ไดแ ก มโนทวาราวชั - ชนจติ ๑ กามชวนะ ๑๓ คอื ทิฏฐิคตวิปปยตุ ตจติ ๔ อุทธัจจสมั ปยตุ ตจติ ๑ มหากศุ ลจิต ๘ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลัง มีบญั ญัติกรรมนมิ ติ ธรรมมารมณอันเนอ่ื งดว ยกรรมฐาน ๒๖ อยาง คอื กสิณบัญญตั ิ ๑๐ อสภุ บัญญตั ิ ๑๐ โกฏฐาสบัญญัติ ๑ อานาปานบญั ญัติ ๑ หรอื สตั วบญั ญตั ิ ๔ ทไี่ ดร บั มาจากภพกอนเม่ือใกลจ ะตายเปน อารมณ สาํ หรบั วถิ จี ติ ทงั้ หมดท่ีอยใู นวิถนี ้ี มีอตอิ ฏิ ฐะ อฏิ ฐมชั ฌัตตะ หรืออนฏิ ฐา อารมณ ๓ (รูปารมณ สัททารมณ ธรรมมารมณ) ทเ่ี ปน ปจ จุบนั นปิ ผันนรูป ๑๓ (เวนฆานปสาท, ชวิ หาปสาท, กายปสาท, ภาวรูป ๒) คอื นิปผนั นรูปทดี่ ียิง่ ดีธรรมดา หรอื ไมด ี ท่ีปรากฏอยเู ฉพาะหนา เปน อารมณ ขอ ๓ (ทีเ่ คยออกสอบ ปน ้ีนา จะออกขอไหน?) ๓. จงแสดงขอ สงั เกตองคประกอบในการเกดิ ขนึ้ ของธรรม ดงั ตอ ไปน้ี ? 49, 54 ก. ตทารมั มณะ ข. อาคนั ตกุ ะภวงั ค ๓. ก. อาคันตกุ ภวังคจ ะเกดิ ข้นึ ไดน นั้ จะตอ งประกอบดว ยองคเ ทา ไร อะไรบา ง ? 62 ตอบ ก. การเกิดข้ึนของตทารมั มณะ ในอตมิ หนั ตารมณวถิ ี และอตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ที่มตี ทารมั มณจติ เกดิ ขน้ึ ได นัน้ ตอ งมอี งคป ระกอบ ๓ อยา ง คอื ๑. กามชวนะ ๒. กามบุคคล ๓. กามอารมณ ข. อาคนั ตกุ ภวังคจ ะเกิดขน้ึ ไดใ นอตมิ หันตารมณว ถิ ี อตวิ ภิ ูตารมณวถิ นี นั้ ตอ งประกอบดว ยองค ๓ คือ .... ตอบ ก. อาคันตุกภวงั คจะเกิดขน้ึ ไดนน้ั จะตองประกอบดวยองค ๓ คอื ๑. บคุ คลตองปฏสิ นธดิ ว ยมหาวิบากโสมนัส ๔ ดวงใดดวงหน่ึง ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆไดจ าก ขอ ความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 12 ๒. ชวนะตองเปนโทสชวนะ ๓. อารมณต องเปนอตอิ ฏิ ฐารมณ ถาเปน มหนั ตารมณว ถิ ี และวิภตู ารมณว ถิ แี ลว ไมจ าํ กดั อารมณ ไมว า อารมณน ัน้ จะเปน อตอิ ิฏฐารมณ อิฏฐมชั ฌัตตารมณ หรอื อนฏิ ฐารมณ ก็ยอ มสามารถยงั อาคนั ตกุ ภวงั คใ หเกดิ ข้ึนไดท งั้ ส้นิ . (62) ถาเปน มหันตารมณ และวิภูตารมณแ ลว ไมจาํ กัดอารมณ ไมวา อารมณนนั้ จะเปน อตอิ ฏิ ฐารมณ อิฏฐมัชฌตั ตารมณ หรอื อนฏิ ฐารมณ กย็ อ มสามารถยงั อาคันตุกภวงั คใหเ กดิ ขนึ้ ไดท งั้ สน้ิ . ๓. ข. ใหน ักศกึ ษาบอกถงึ องคป ระกอบในการเกดิ ขน้ึ ของธรรมดงั ตอไปนี้ ๑. ตทารมั มณจติ ๒. อาคนั ตกุ ภวงั ค ? 44 ตอบ ข. ๑. ตทารมั มณจิต ท่ใี นอติมหนั ตารมณว ถิ ี และอติวภิ ตู ารมณวิถี จะเกดิ ข้ึนไดน นั้ จะตอ งประกอบดวยองค ๓ คือ ๑. ชวนะตอ งเปน กามชวนะ ๒. บุคคลตอ งเปน กามบคุ คล ๓. อารมณ ตอ งเปนกามอารมณ ทงั้ น้ีจะตองไมมีเหตุขัดของดวย ถามเี หตขุ ัดของแลว ตทารัมมณจิตก็เกดิ ขน้ึ ไมได แมจ ะประกอบดว ยองค ๓ กต็ าม ๒. อาคันตกุ ภวงั ค จะเกิดขน้ึ ไดน ้นั จะตองประกอบดว ยองค ๓ คือ ๑. บคุ คลตอ งปฏิสนธิดวยมหาวปิ ากโสมนัส ๔ ดวงใดดวงหน่งึ ๒. ชวนะตองเปนโทสะชวนะ ๒ เทา น้ัน ๓. อารมณตองเปน อตอิ ิฏฐารมณ เฉพาะในอตมิ หันตารมณว ถิ ีและอตวิ ิภตู ารมณวถิ ี ถาเปนมหันตารมณวิถีและวิภูตารมณวิถี ไมจํากดั อารมณ ไมวาจะเปนอติอิฏฐารมณ อิฏฐมัชฌัตตารมณ หรือ อนฏิ ฐารมณก ็ตาม สามารถยงั อาคันตกุ ภวงั คเ กิดไดท ัง้ สิ้น ๓. ข. จงจาํ แนกตทารมั มณจิต ๑๑ โดยบคุ คล ๘ (เวนมรรคบคุ คล ๔) มาโดยละเอยี ด และการเกิดขน้ึ ของตทารมั มณ- จติ ในอตมิ หนั ตารมณว ถิ ี และอตวิ ภิ ตู ารมณว ิถี ตอ งมอี งคป ระกอบก่อี ยางอะไรบา ง ? 51(4ข), 58, 60(4ข) ตอบ ข. จาํ แนกตทารมั มณจติ ๑๑ โดยบุคคล ๘ (เวนมรรคบคุ คล ๔) ๑. ทุคตอิ เหตกุ บคุ คล ๑ มีตทารมั มณจติ เกิดได ๓ ดวง คอื สันตีรณจิต ๓ ๒. สคุ ตอิ เหตกุ บุคคล ๑ ทวเิ หตกุ บุคคล ๑ มีตทารมั มณจติ เกดิ ได ๗ ดวง คือ สนั ตรี ณจิต ๓ มหาวิปากญาณวปิ ปยตุ ตจติ ๔ ๓. ตเิ หตุกปถุ ุชน ๑ ผลบุคคล ๔ มตี ทารัมมณจติ เกิดได ๑๑ ดวง คอื สนั ตรี ณจิต ๓ มหาวปิ ากจิต ๘ การเกิดขนึ้ ของตทารมั มณจติ ในอติมหันตารมณวถิ ี และอติวภิ ตู ารมณว ถิ ที มี่ ตี ทารัมมณจติ เกดิ ข้นึ ไดน ัน้ ตองมอี งคป ระกอบ ๓ อยางคือ ๑. กามชวนะ ๒. กามบคุ คล ๓. กามอารมณ ๔. ก. สคุ ตอิ เหตกุ บุคคล มตี ทารมั มนจติ เกดิ ไดก ดี่ วงอะไรบา ง ? 44 ข. ทวเิ หตกุ บุคคล มชี วนจติ เกิดไดเ ทา ไร เปน กามชวนะเทา ไร อปั ปนาชวนะเทาไร คอื อะไรบาง ? 44 ค. ตเิ หตกุ ปถุ ชุ น มชี วนจิตเกิดไดเทาไร เปน กามชวนะเทา ไร อปั ปนาชวนะเทาไร คอื อะไรบา ง ? 44 ง. โสดาบนั บคุ คล มชี วนจิตเกดิ ไดเ ทา ไร เปน กามชวนะเทา ไร อปั ปนาชวนะเทา ไร คืออะไรบา ง ? 44 จ. อรหตั ตผลบคุ คล มชี วนจติ เกิดไดเ ทา ไร เปน กามชวนะเทา ไร อปั ปนาชวนะเทาไร คืออะไรบา ง ? 44 ตอบ ก. สคุ ติอเหตกุ บคุ คล มตี ทารัมมณจติ เกดิ ได ๗ ดวง คอื สันตีรณจติ ๓ มหาวิบากญาณวิปปยตุ ตจิต ๔ ข. ทวเิ หตกุ บคุ คล มีชวนจติ เกิดได ๒๐ ดวง เปนกามชวนะทง้ั หมดไมมอี ัปปนาชวนะ ไดแ ก อกุศลจิต ๑๒ มหากสุ ลจิต ๘ ค. ตเิ หตกุ ปถุ ชุ น มีชวนจติ เกดิ ได ๒๙ ดวง เปน กามชวนะ ๒๐ ดวง คอื อกุศลจิต ๑๒ มหากุศลจิต ๘ เปนอปั ปนาชวนะ ๙ ดวง คอื มหคั คตกศุ ลจติ ๙ ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอความเพ่มิ เติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสังคหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 13 ง. โสดาบนั บุคคล มชี วนจิตเกดิ ได ๒๕ ดวง เปนกามชวนะ ๑๕ ดวง คือ อกศุ ลจติ ๗ (เวน ทิฏฐคิ ตสมั ปยตุ ตจติ ๔ วิจิกิจฉาสมั ปยตุ ตจติ ๑) มหากุศลจิต ๘ และ เปนอปั ปนาชวนะ ๑๐ ดวง คือ มหัคตตกศุ ลจติ ๙ โสดาปต ตผิ ลจิต ๑ จ. อรหตั ตผลบคุ คล มชี วนจติ เกิดได ๑๙ ดวง เปนกามชวนะ ๙ ดวง คือ หสติ ปุ ปาทจิต ๑ มหากิรยิ าจติ ๘ และ เปน อปั ปนาชวนะ ๑๐ ดวง คือ มหัคคตกริ ยิ าจติ ๙ อรหัตตผลจิต ๑ ๔. ก. จงแสดงพระบาลีและคาํ แปล ทแี่ สดงการสรปุ จาํ นวนวถิ ีจติ ในกามชวนมโนทวาร ? 50, 62(1ค) ตอบ ก.แสดงพระบาลแี ละคาํ แปล ท่ีแสดงการสรปุ จํานวนวถิ ีจิตในกามชวนมโนทวาร ดงั นี้ วถี จิ ติ ตฺ านิ ตเี ณว จติ ตฺ ปุ ปฺ าทา ทเสรติ า วติ ถฺ าเรน ปเนตเฺ ถก- จตตฺ าลสี วภิ าวเยฯ แปลความวา พึงกลา วไดวา ในกามชวนมโนทวารนี้ มีวิถจี ติ เพียง ๓ (คอื มโนทวาราวัชชนะ ๑ ชวนะ ๑ และ ตทารมั มณะ ๑) วถิ จี ิตเหลานน้ั เมอื่ วา โดยการเกดิ ขึน้ แลว มี ๑๐ ครัง้ (คือ มโนทวาราวชั ชนะเกดิ ๑ ครั้ง ชวนะ เกดิ ๗ ครง้ั และ ตทารมั มณะเกดิ ๒ ครัง้ ), สว นวจี ิตเหลา น้นั วาโดยพสิ ดารแลว ยอ มแสดงไดวา มี ๔๑ ดวง (คือ กามจิต ๔๑ เวน ทวปิ ญ จวิญญาณจติ ๑๐ และ มโนธาตุ ๓) ๓. ตทนวุ ตั ตกิ มโทวารวิถี ทีเ่ กดิ ตอ จากจกั ขทุ วารวิถี มีจาํ นวนเทา ไร คืออะไรบา ง และแสดงการเกดิ ขน้ึ ตามลําดบั ของวถิ เี หลานน้ั มาดว ย ? 48 ตอบ ตทนวุ ตั ตกิ มโทวารวถิ ี ทเี่ กดิ ตอ จากจักขทุ วารวถิ มี จี าํ นวน ๔ อยา ง คือ ๑. อตีตคั คหณวิถี ๒. สมหู คั คหณวถิ ี ๓. อตั ถคั คหณวถิ ี ๔. นามัคคหณวิถี การเกิดขน้ึ ของตทนวุ ตั ติกมโทวารวถิ ี ท่ีเกิดตอ จากจักขทุ วารวถิ มี จี ํานวน ๔ เปน ไปตามลําดับดังนค้ี อื ๑. อตตี คั คหณวถิ ี ภายหลงั จากภวงั คจิตท่เี กดิ ตอจากจกั ขทุ วารวิถีไดด บั ลงแลว รปู ารมณที่เปน อดตี นนั้ ก็ ปรากฏข้ึนทางใจ ฉะน้นั ภวังคจิตจึงมีอาการหว่นั ไหวเกดิ ขนึ้ ๒ ขณะ เรยี กวา ภวังคจลนะ ภวงั คปุ จ เฉทะ ตอ จากนั้นมโนทวาราวชั ชนะ ชวนะ ๗ ครงั้ ตทารัมมณะ ๒ ครง้ั เกดิ ข้นึ ตามลําดบั สาํ หรบั อตวิ ภิ ตู รปู ารมณที่ เปนอดีต แลว ภวงั คจติ กเ็ กดิ ตอไป ๒. สมหู คั คหณวถิ ี ตอแตน นั้ มโนทวารวถิ กี เ็ กิดขน้ึ รวบรวมทุก ๆ สว นของรปู ารมณท เ่ี ปนอดตี เปน ไป ดงั นค้ี ือ ภวังคจลนะ, ภวงั คปุ จ เฉทะ, มโนทวาราวัชชนะ, ชวนะ ๗ ครัง้ ตทารมั มณะ ๒ ครั้ง ภวังคต อไปในอติ วภิ ตู ารมณ สว นในวภิ ตู ารมณน้นั การเกดิ ขน้ึ แหงตทารัมมณะยอมไมม ี ๓. อตั ถคั คหณวถิ ี เม่ือสมหู คั คหณวถิ ีเกิดขึน้ รวบรวมอดตี รปู ารมณห ลาย ๆ รอบจนเรียบรอยแลว ใน ลําดบั นนั้ มโนทวารวถิ ที มี่ หี นา ทร่ี บั รปู รา งสณั ฐาน ซ่ึงเปน ท่ตี ัง้ ของรปู ารมณ อันเปน อตั ถบัญญตั เิ กิดขึ้น เปน ไปใน ทํานองเดียวกนั กับสมหู คั คหณวถิ ีทุกประการ เวน ไวแ ตต ทารัมมณจิตไมเ กดิ เทา นั้นทง้ั น้ีก็เพราะวา มโนทวารวถิ ีนี้ มีอัตถบญั ญตั ิเปน อารมณ ๔. นามคั คหณวถิ ี เมอื่ อตั ถคั คหณวถิ ีเกิดขน้ึ รบั รปู รางสณั ฐานซง่ึ เปนทตี่ ้ังของรูปารมณอ ันเปน อตั ถบัญญตั ิ หลาย ๆ รอบจนเรียบรอ ยแลว มโนทวารวถิ ที ร่ี บั ชอ่ื ของรูปรางสณั ฐานน้ัน ๆ ตามโวหารของชาวโลกใชกลาวขาน เรียกรอ งกนั เกดิ ขึ้นหลาย ๆ รอบ ความเปนไปแหงวิถเี หลา นีก้ ค็ งเปน ไปในทาํ นองเดยี วกนั กบั อตั ถัคคหณวิถีทุก ประการ เพราะมบี ัญญตั เิ ปน อารมณเชน เดียวกัน ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆไดจาก ขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ สี ังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 14 ๓. จงยกบคุ คลและภมู ิ ซึ่งเปน ทเ่ี กดิ ของ วภิ ตู ารมณว ถิ ี ทไ่ี มมอี าคันตกุ ภวงั คแ ละ มีอาคันตุกภวงั ค ? 36, 43 ตอบ บคุ คลและภมู ซิ งึ่ เปนทเี่ กิด ของวภิ ตู ารมณวถิ ี ท่ีไมมีอาคันตกุ ภวังค และมอี าคนั กกุ ภวงั ค ดงั น้ี วิภูตารมณวถิ ี ท่มี อี ตตี ภวงั ค ๑ - ๗ ไมมีอาศัยอาคนั ตกุ ภวงั ค เกดิ ไดใ นบุคคล ๘ ทใ่ี นปญ จโวการภมู ิ วิภตู ารมณว ถิ ี ที่ไมม ีอตตี ภวังค และไมม ีอาคันตกุ ภวังค ๑ วถิ ี เกิดไดใ นบคุ คล ๘ ท่ใี นจตุโวการภมู ิ ปญจโวการภูมิ วิภูตารมณวถิ ี ที่มอี ตตี ภวังค ๑ - ๗ มอี าคนั ตกุ ภวงั ค ๑ วถิ ี เกดิ ไดใ นบคุ คล ๔ ทใี่ นกามสคุ ตภิ ูมิ ๗ (เวนทุคคต,ิ สุคตอิ เหตกุ บคุ คล, พระอนาคาม,ี พระอรหนั ต) วภิ ูตารมณวถิ ี ที่ไมม ีอตตี ภวงั ค แตมีอาคนั ตกุ ภวงั ค ๑ วถิ ี เกดิ ไดในบุคคล ๔ ที่ในกามสุคติภูมิ ๗ (เวน ทุคคต,ิ สคุ คติอเหตกุ บคุ คล, พระอนาคาม,ี พระอรหนั ต) ๓. จงแสดงภาพของ กามชวนสทุ ธมโนทวาร อตวิ ิภตู ารมณว ถิ ี ทเี่ กดิ ในสทุ ธาวาสภมู ิ ขณะรบั พระนพิ พานเปนอารมณ และจาํ แนกโดยบุคคล ภมู ิ องคธรรมปรมัตถ อารมณ และวตั ถุ มาใหถ ูกตอ ง ? 55 ตอบ ภ น ท ม ช ช ช ช ช ช ช ภ ภ ภ ภ ๑๑ ๘ ๑ วา โดยบคุ คล เกดิ ขน้ึ แก พระอนาคามีบคุ คล ๑ และพระอรหนั ตบุคคล ๑ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใน สุทธาวาสภมู ิ ๕ วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวังคแรกและภวงั คหลัง ไดแ ก รูปาวจรปญจมฌานวิปากจิต ๑ สว นวถิ จี ิตเหลา นัน้ ไดแก มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากุศลญาณสัมปยตุ ตจิต ๔ มหากริยาญาณสมั ปยตุ ตจิต ๔ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวงั คห ลัง มบี ัญญตั ิกรรมนมิ ติ ธรรมารมณอนั เนอ่ื งดว ยกรรมฐาน ๑๒ คือ กสิณบัญญัติ ๑๐ อานาปานบัญญตั ิ ๑ หรือมชั ฌตั ตสตั วบัญญตั ิ ๑ ท่ไี ดร บั มาจากมโน ทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอ นเม่ือใกลจ ะตาย เปน อารมณ สาํ หรบั วิถีจติ ทงั้ หมดทอ่ี ยูใ นวถิ นี มี้ พี ระนพิ พาน ทเี่ ปน กาลวมิ ตุ ติ เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ ภวังคแ รก ภวงั คห ลงั และวถิ จี ิตทงั้ หมด อาศยั หทยวตั ถเุ กดิ ขอ ๔ (ทเี่ คยออกสอบ ปน ้นี าจะออกขอ ไหน?) ๔. ก. สบุ นิ วถิ ี มีกป่ี ระเภท ? คืออะไรบา ง ? 58 ตอบ ก. สบุ ินวิถมี ี ๑๒ ประเภท คอื ๑. อตวิ ภิ ตู ารมณว ิถี ตทารมั มณวาระ ที่ไมมอี ตีตภวังค ๒. อตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทไ่ี มม อี ตตี ภวังค และไมม อี าคันตกุ ภวงั ค ๓. อตวิ ภิ ตู ารมณว ิถี ชวนวาระ ที่ไมมอี ตีตภวงั ค แต มีอาคนั ตกุ ภวงั ค ๔. วิภตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ทไี่ มมอี ตีตภวงั ค และไมมอี าคนั ตกุ ภวงั ค ๕. วิภตู ารมณวถิ ี ชวนวาระ ทไ่ี มมอี ตีตภวงั ค แต มอี าคันตุกภวงั ค ๖. อวิภตู ารมณว ถิ ี โวฏฐพั พนวาระ ๗. อตอิ วภิ ตู ารมณว ถิ ี โมฆวาระ ๘. อตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ตทารมั มณวาระ ท่มี ีอตีตภวังค ๙. อตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ที่มีอตตี ภวงั ค แต ไมม อี าคันตกุ ภวงั ค ดาวนโหลดขอ มูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพิ่มเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภมู จิ ตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 15 ๑๐. อตวิ ภิ ตู ารมณวถิ ี ชวนวาระ ท่มี ีอตตี ภวงั ค และมอี าคนั ตุกภวงั ค ๑๑. วิภตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ท่ีมีอตตี ภวงั ค แตไ มม ีอาคนั ตกุ ภวงั ค ๑๒. วภิ ตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ที่มอี ตตี ภวังค และ มอี าคนั ตกุ ภวงั ค ๔. ข. อปั ปนาชวนมโนทวารวถิ ี มกี ่ีวิถี? คอื อะไรบา ง ? 45, 52(3ข), 55, 57(4ก), 59(3ค) ตอบ ก./ข. อปั ปนาชวนมโนทวารวิถมี ี ๗ วิถี คือ ๑. อาทกิ มั มกิ ฌานวถิ ี ๒. ฌานสมาปตตวิ ถิ ี ๓. ปาทกฌานวิถี ๔. อภญิ ญาวถิ ี ๕. มคั ควถิ ี ๖. ผลสมาปตตวิ ถิ ี ๗. นิโรธสมาปตตวิ ถิ ี ๓. อัปปนาชวนะมโนทวารวถิ ี มกี ว่ี ถิ ี คืออะไรบา ง? วสิ ยปั ปวตั ตแิ ละวาระของวถิ เี หลา น้ี มีอะไรบา ง ? 44, 53 เมอ่ื วาโดยวสิ ยปั ปวตั ตแิ ลว มีกอี่ ยา ง? และจดั เปน วาระอะไร ? 58(4ข) คืออะไรบา ง ? 63(3ก) ตอบ (ข.) อปั ปนาชวนะมโนทวารวถิ ี มี ๗ วถิ ี คอื ๑. อาทิกัมมิกฌานวถิ ี ฌานทเี่ กดิ ข้นึ ครง้ั แรก ๒. ฌานสมาปต ตวิ ถิ ี การเสวยความสุขในฌาน ๓. ปาทกฌานวถิ ี ฌานทเ่ี ปน บาทของอภญิ ญา เปนชื่อของรูปปญ จมฌานโดยเฉพาะ ๔. อภญิ ญาวิถี จิตพิเศษท่ีเกี่ยวกับการแสดงอิทธฤิ ทธ์ิตา ง ๆ ๕. มคั ควิถี ทําหนาทีป่ ระหาณกิเลสตามมรรคน้ัน ๆ ๖. ผลสมาปต ติวิถี การเสวยวิมุตติสุขในพระนิพพาน ๗. นิโรธสมาปต ตวิ ถิ ี การดับเวทนา สญั ญา (จติ เจตสกิ และจิตตชรปู ดับ) (53, 58, 63) วิสยปั ปวตั ิของวถิ ีเหลา น้ีมี ๑ คอื อติวิภตู ารมณ (ตามนยั อรรถกถาและฎกี า) หรือ วภิ ตู ารมณ (ตามนยั อภธิ ัมมตั ถสงั คหะ) สว นวาระของวถิ ีเหลา น้ีมี ๑ คือ ชวนวาระ ๔. ก. จงบอกจาํ นวนและองคธ รรมของชวนะทเ่ี กดิ ขนึ้ ๑ ขณะ, ๒ ขณะมาพรอมทง้ั ชี้วถิ ีใหเ หน็ ดวย ? 49, 61(3) ตอบ ก. ชวนจติ ท่ีเกดิ ข้ึน ๑ ขณะมี ๒๖ ดวง คือ มหัคคตกุศลจิต ๙ มหคั คตกิรยิ าจิต ๙ ในอาทกิ มั มกิ ฌานวถิ ี, มรรคจิต ๔ ในมัคควถิ ี, อภิญญาจติ ๒ ในอภญิ ญาวิถ,ี อนาคามผิ ลจติ ๑ อรหตั ตผลจิต ๑ ในขณะท่ีออกจาก นิโรธสมาปต ตวิ ิถี ชวนจิตที่เกิดขน้ึ ๒ ขณะ มี ๖ ดวงคือ ผลจติ ๔ ของมนั ทบคุ คลในมัคควถิ ,ี เนวสัญญานา สัญญายตนกศุ ลจิต ๑ และกริ ยิ าจติ ๑ ในขณะทีจ่ ะเขา นโิ รธสมาบตั ิ ๔. ข. จงแสดงอปั ปนาชวนทเี่ กิดตอ จากมหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตโ สมนัสชวนะ ๒, มหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ต- อุเบกขาชวนะ ๒ พรอ มทัง้ ยกหลักฐานบาลีมาแสดงใหเหน็ ดว ย (ไมต อ งแปล) ? 49 ตอบ ข. อปั ปนาชวนทเ่ี กดิ ตอ จากมหากุศลญาณสัมปยตุ ตโสมนัสชวน ๒ มี ๓๒ ดวง คือ มหคั คตกุศลโสมนัส ๔ มคั คโสมนสั ๑๖ ผลเบื้องต่าํ โสมนสั ๑๒ อัปปนาชวนท่ีเกดิ ตอจากมหากุศลญาณสมั ปยตุ ตอเุ บกขาชวน ๒ มี ๑๒ ดวง คอื มหคั คตกุศลอุเบกขา ๕ มัคคอเุ บกขา ๔ ผลเบอื้ งตา่ํ อเุ บกขา ๓ ดังมบี าลหี ลกั ฐานแสดงวา ทวตตฺ สึ สขุ ปุ ฺ มหฺ า ทวาทโสเปกขฺ กา ปรํ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพมิ่ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 16 ๔. ข. จงแสดงอปั ปนาชวนะ ทเ่ี กดิ ตอ จากมหากศุ ลญาณสมั ปยุตโสมนสั ๒ และมหากริ ยิ าญาณสัมปยตุ โสมนัส ๒ ? 43 ตอบ ข. อัปปนาชวนะที่เกดิ ตอจากมหากุศลญาณสมั ปยุตโสมนสั ๒ มี ๓๒ คอื โสมนสั รปู กศุ ล ๔ โสมนสั มคั ค ๑๖ และ โสมนัสผลเบอื้ งต่ํา ๑๒ และทเ่ี กิดตอจากมหากิรยิ าญาณสัมปยตุ โสมนัส ๒ มี ๘ คอื โสมนัสสรปู กิรยิ า ๔ และ โสมนสั อรหัตตผล ๔ ๔. ก. กามชวนะกับอปั ปนาชวนะ เกดิ ขน้ึ ในวิถเี ดยี วกนั นน้ั มีหรอื ไม ? ถา มี เกดิ ขนึ้ ไดใ นวถิ ีอะไรบา ง ? 43, 50, 61(3ข) ตอบ ก. กามชวนะกับอปั ปนาชวนะ เกิดข้นึ ในวถิ เี ดียวกนั นน้ั มี คอื อาทิกมั มกิ ฌานวถิ ี, สมาปช ชนวถิ ี, (ฌานสมาปต ตวิ ถิ )ี อภญิ ญาวิถี มคั ควถิ ี, ผลสมาบตั วิ ถิ ี, นิโรธสมาบัตวิ ถิ ี (ตอบ ปาทฌานวถิ ดี ว ยก็ได) ๔. จงแสดงการเกดิ ขึน้ ของ อาทกิ ัมมิกฌานวถิ ี ของมนั ทบคุ คลมาโดยลําดบั ? 47, 48 ตอบ แสดงการเกดิ ขน้ึ ของ อาทกิ มั มกิ ฌานวิถี ของมันทบุคคลมดี ังน้ี คอื พระโยคบี คุ คลเจรญิ กรรมฐาน ๓๐ มีปถวกี สณิ เปน ตน เมอ่ื ใกลจะไดฌ านน้ัน บญั ญตั ปิ ฏิภาคนมิ ติ อยางใด อยา งหนงึ่ ในจาํ นวน ๓๐ ท่ีตนไดใชเจริญมาน้นั ไดป รากฏข้นึ ทางมโนทวาร ฉะนั้น ภวงั คจิตจึงเกิดขนึ้ ๒ ขณะชอ่ื วา ภวงั คจลนะ, ภวังคปุ จ เฉทะ, แลว ก็ดบั ไป ตอ แตน ้ันมโนทวาราวชั ชน-จติ กเ็ กิดข้นึ รบั บญั ญตั ปิ ฏิภาคนิมติ ๑ ครงั้ แลวกด็ ับไป, ในลาํ ดบั นั้นมหากศุ ลหรอื มหากิรยิ าญาณสมั ปยุตตชว นะดวงใดดวงหนง่ึ เกิดข้นึ รบั บัญญตั ปิ ฏภิ าคนมิ ติ ๔ ขณะในฐานะทเี่ ปนปริกรรม, อุปจาระ, อนโุ ลม, โคตตรภ,ู ที่ เรยี กวา อปุ จารสมาธิชวนะ แลว กด็ ับไป, ตอจากน้ัน ฌานกุศลหรอื ฌานกิริยา เกดิ ขน้ึ ๑ ครงั้ รับบญั ญตั ิปฏภิ าค นมิ ติ ที่เรยี กวา อัปปนาสมาธชิ วนะ ๑ ครัง้ แลว กด็ ับลง ถัดจากนน้ั ภวงั คจติ กเ็ กิดตอ ไป. หลังจากนน้ั มโนทวารวถิ ี ทมี่ มี หากศุ ลชวนะหรอื กริ ยิ าชวนะ ยอมเกดิ ข้นึ ทาํ หนา ทเี่ ปน ปจ จเวกขณะวถิ ี กลาวคอื พจิ ารณาองคฌ านมวี ิตกเปน ตน เกดิ ขน้ึ หลายรอบตามสมควร. ๔. ก.จงแสดงเฉพาะภาพวถิ ีพรอ มองคธ รรมปรมตั ถป ระกอบใตภ าพโดยไมต อ งจาํ แนกโดยภมู ิเปน ตน ของวถิ ีดงั ตอไปน้ี ? 56 ๑) อาทกิ มั มกิ ฌานวถิ ี ของมนั ทบคุ คล ๒) ผลสมาบตั วิ ถิ ี ของมนั ทบคุ คล ? 56 ตอบ ก. ๑) อาทกิ ัมมกิ ฌานวิถี ของมนั ทบคุ คล ภ น ท ม ปริ อุ นุ โค ฌ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๘ ๑๘ ๑๓ ๒) ผลสมาบตั ิวถิ ี ของมันทบคุ คล ภ น ท ม นุ นุ นุ นุ ผ ผลจติ เกดิ ดับเรือยไป ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๔ หรือ ๒๐ ๑๓ ๓. จงแสดงภาพวถิ ปี ระกอบองคธ รรม พรอมทง้ั จาํ แนกเฉพาะ บุคคล ภูมิ และองคธ รรมปรมตั ถ เทา นนั้ มาใหถ กู ตอง ในวถิ ตี อ ไปน้ี ข. อภญิ ญาวถิ ี ของมันทบคุ คล ? 51, 56 ตอบ ข. ภ น ท ม ปริ อุ นุ โค อภิ ภ ภ ภ ๙๑ ๔ ๒๙ ดาวนโหลดขอ มลู ตา งๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 17 วา โดยบุคคล เกดิ ข้ึนแกบ ุคคล ๕ จาํ พวก คือ ติเหตุกปุถชุ น ๑ อริยผลบุคคล ๔ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใ น ๒๒ ภมู ิ คือ กามสคุ ตภิ มู ิ ๗ และรูปภมู ิ ๑๕ (เวน อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวังคห ลงั ไดแ ก ติเหตกุ ปญจโวการภวงั คจติ ๙ สวนวถิ จี ิตเหลานนั้ ไดแ ก มโนทวาราวัชชนจติ ๑ มหากุศลญาณสมั ปยตุ ตอเุ บกขา ๒ มหากิริยาญาณสมั ปยตุ ต อุเบกขา ๒ และ รปู าวจรปญ จมฌานกุศลอภญิ ญาจิต ๑ กรยิ าอภญิ ญาจติ ๑ ๔. ใหเ ขยี นภาพวถิ ี ของติกขบคุ คล พรอมจาํ แนก เฉพาะ(โดย)บคุ คล และภมู ิ ในอปั ปนาชวนมโนทวารวถิ ดี งั ตอไปน้ี ? 42, 59 ก. โสดาปต ตมิ คั ควถิ ี ข. โสดาปต ตผิ ลสมาบตั วิ ิถี ค. อนาคามมิ คั ควถิ ี ง. อนาคามผิ ลสมาบตั วิ ิถี ตอบ ก. ภาพวิถขี องโสดาปต ตมิ คั ควถิ ี ทีเ่ ปน ตกิ ขบคุ คล พรอ มจาํ แนก โดยบคุ คล และภมู ิ ภ น ท ม อุ นุ โค มคั ผ ผ ผ ภ ภ ภ ๙๑๔ ๑๑ ๙ วา โดยบุคคล เกดิ ขน้ึ แก ตเิ หตกุ ปุถชุ น ๑ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใ น ๑๗ ภูมิ คอื กามสคุ ติภมู ิ ๗ รูปภมู ิ ๑๐ (เวน อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ สุทธาวาสภมู ิ ๕) ข. ภาพวิถขี องโสดาปตตผิ ลสมาบัติวถิ ี ท่เี ปน ตกิ ขบคุ คล พรอ มจาํ แนก โดยบุคคล และภูมิ ภ น ท ม นุ นุ นุ ผ ผลจิตเกดิ ดบั เรือยไป ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๑ หรือ ๕ ๑๓ วา โดยบุคคล เกิดขน้ึ แก โสดาปต ตผิ ลบคุ คล ๑ วา โดยภมู ิ เกิดไดใ น ๒๑ ภูมิ คอื กามสคุ ติภมู ิ ๗ รปู ภมู ิ ๑๐ (เวน อสญั ญสัตตภมู ิ ๑ สทุ ธาวาสภูมิ ๕) และอรปู ภูมิ ๔ ค. ภาพวิถขี องอนาคามิมคั ควถิ ี ทเ่ี ปน ตกิ ขบคุ คล พรอ มจําแนก โดยบคุ คล และภมู ิ ภ น ท ม อุ นุ โค มคั ผ ผ ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๑ ๑ ๑๓ วา โดยบคุ คล เกดิ ข้ึนแก สกทาคามผี ลบุคคล ๑ วา โดยภมู ิ เกิดไดใ น ๒๑ ภูมิ คอื กามสคุ ติภูมิ ๗ รูปภมู ิ ๑๐ (เวนอสัญญสัตตภมู ิ ๑ สทุ ธาวาสภูมิ ๕) และอรูปภมู ิ ๔ ง. ภาพวิถขี องอนาคามผิ ลสมาบัติวถิ ี ทเ่ี ปนตกิ ขบุคคล พรอมจาํ แนก โดยบุคคล และภูมิ ภ น ท ม นุ นุ นุ ผ ผลจิตเกิดดับเรือยไป ผ ภ ภ ภ ๑๓ ๑ ๔ ๑ หรอื ๕ ๑๓ วา โดยบคุ คล เกดิ ข้นึ แก อนาคามผิ ลบคุ คล ๑ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใน ๒๖ ภมู ิ คอื กามสุคติภมู ิ ๗ รปู ภมู ิ ๑๕ (เวน อสญั ญสตั ตภูมิ ๑) และอรปู ภูมิ ๔ ๔. จงแสดงภาพโสดาปต ตมิ คั ควถิ ี (ของมนั ทบคุ คล) พรอมท้ังจาํ แนกมา โดยบุคคล ภมู ิ เปน ตน มาใหถ กู ตองตามหลกั ? 41, 54 4. จงแสดงภาพวถิ ขี องโสดาปต ติมัคควถิ ี ของมนั ทบุคคล พรอ มทงั้ จาํ แนกโดยบคุ คล ภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถ และ อารมณ มาใหถ ูกตอ ง ? 62 ดาวนโหลดขอมลู ตางๆไดจาก ขอความเพ่มิ เติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ สี ังคหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 18 ตอบ แสดงภาพโสดาปต ติมคั ควถิ ี พรอมท้ังจาํ แนกโดยบคุ คลภมู เิ ปนตน ดงั นี้ ภ น ท ม ปริ อุ นุ โค ม ผ ผ ภ ภ ภ ๙๑ ๔ ๑๑ ๙ วา โดยบุคคล เกดิ ข้ึนแก ติเหตกุ ปถุ ชุ น วา โดยภมู ิ เกิดไดใน ๑๗ ภูมิ คอื กามสคุ ตภิ ูมิ ๗ และ รปู ภมู ิ ๑๐ (เวนอสัญญสัตตภมู ิ ๑ และสุทธาวาสภูมิ ๕) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแรกและภวงั คห ลงั ไดแ ก ตเิ หตกุ ปญ จโวการภวังคจิต ๙ สว นวิถจี ติ เหลา นนั้ ไดแ ก มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ โสดาปตตมิ คั คจิต ๑ หรอื ๕ โสดาปตติผลจติ ๑ หรอื ๕ วา โดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั © ทเ่ี ปน กามติเหตุกภวงั คจติ ๔ มีอารมณ ๖ ทีเ่ รียกวา กรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ หรือคตนิ ิมิตอารมณ ทีไ่ ดรับมาจากฉทวารกิ มรณาสันนชวนะในภพกอน เม่อื ใกลจะตายเปนอารมณ © สว นท่ีเปนรปู ภวงั คจติ ๕ มีบญั ญัติกรรมนมิ ติ ธรรมารมณอ นั เนอื่ งดวย กรรมฐาน ๒๖ คอื กสิณบัญญัติ ๑๐ อสุภบญั ญตั ิ ๑๐ โกฎฐาสบญั ญตั ิ ๑ อานาปานบญั ญตั ิ ๑ หรือ สตั วบัญญตั ิ ๔ ไดร ับมาจากมโนทวารกิ มรณาสนั นชวนะในภพกอ นเมือ่ ใกลจ ะตายเปน อารมณ สาํ หรบั วถิ ีจติ ทงั้ หมดที่อยใู นวิถีน้ี มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากุศลญาณสมั ปยตุ ตจิต ๔ © ในขณะทาํ หนาท่ปี รกิ รรม อุปจาร และ อนุโลม มพี ระไตรลกั ษณแ หงรูปนามเปนอารมณ © สว นในขณะทําหนา ที่โคตรภู และโสดาปต ตมิ คั คจติ ๑ หรือ ๕ โสดาปต ตผิ ลจิต ๑ หรอื ๕ มีพระนพิ านเปน อารมณ (41, 54) วา โดยวตั ถุ ภวังคแ รก ภวงั คหลงั และวถิ จี ิตท้งั หมด อาศยั หทยั วตั ถเุ กดิ ๔. จงแสดงภาพวถิ ปี ระกอบองคธ รรม ของนโิ รธสมาปต ตวิ ถิ ี ของมันทบคุ คล พรอมทงั้ จาํ แนกโดยบุคคล ภมู ิ องค ธรรมปรมตั ถแ ละ อารมณ มาใหถูกตอง ? 63 ตอบ แสดงภาพวถิ ปี ระกอบองคธ รรม ของนโิ รธสมาปต ติวถิ ี ของมนั ทบุคคล ดังน้ี ภ น ท ม ปริ อุ นุ โค ฌ ฌ จติ เจตสกิ และจติ ตชรูป ดบั ผ ภ ภ ๙๑ ๔ ๒ ๒๙ วา โดยบคุ คล เกิดขึ้นแกบ ุคคล ๒ จําพวก คือ พระอนาคามบี คุ คล และพระอรหันตบุคคล ทไี่ ด ฌานสมาบตั ิ ๘ หรือ ๙ วาโดยภมู ิ เกิดไดใ น ๒๒ ภูมิ คือ กามสุคติภูมิ ๗ และรูปภมู ิ ๑๕ (เวน อสัญญสัตตภมู )ิ วาโดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแ ก ตเิ หตกุ ปญจโวการภวงั คจติ ๙ สวนวถิ ีจติ เหลา นน้ั ไดแ ก มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ มหากศุ ลญาณสมั ปยุตตอุเบกขา ๒ มหากริ ยิ า ญาณสมั ปยตุ ตอเุ บกขา ๒ เนวสญั ญานาสัญญายตนกศุ ลจติ ๑ กริ ิยาจิต ๑ อนาคามผิ ลจติ ๑ และอรหตั ตผลจติ ๑ ตามสมควรแกบคุ คล วาโดยอารมณ ภวงั คแ รกและภวังคห ลัง ที่เปนตเิ หตกุ กามภวงั คจติ ๔ มีอารมณ ๖ ท่เี รียกวากรรมอารมณ กรรมนิมติ อารมณ หรือคตนิ ิมิตอารมณ ที่ไดร บั มาจากฉทวารกิ มรณาสนั นชวนะในภพกอนเมอื่ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆไดจาก ขอ ความเพ่ิมเตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตุกกะ 19 ใกลจ ะตายเปนอารมณ, ท่เี ปนรปู ภวังคจติ ๕ มีบญั ญตั กิ รรมนิมติ ธรรมารมณอ ันเนอ่ื งดว ย กรรมฐาน ๒๖ คอื กสิณบญั ญตั ิ ๑๐ อสภุ บญั ญัติ ๑๐ โกฎฐาสบญั ญตั ิ ๑ อานาปานบัญญตั ิ ๑ หรอื สัตวบญั ญตั ิ ๔ ไดร บั มาจากมโนทวาริกมรณาสนั นชวนะในภพกอนเม่อื ใกลจะตายเปน อารมณ สําหรบั วถิ ีจติ ทง้ั หมดที่อยใู นวถิ ีนี้ มโนทวาราวัชชนจติ ๑ มหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตอเุ บกขา ๒ มหากริ ยิ าญาณ สัมปยุตตอุเบกขา ๒ เนวสญั ญานาสัญญายตนกศุ ลจติ ๑ และกิริยาจติ ๑ มมี หคั คตปฏภิ าค นิมติ ของอากิญจญั ญายตนฌานเปนอารมณ, สวนอนาคามผิ ลจิต ๑ และอรหัตตผลจิต ๑ ท่ี เกิดข้นึ ในขณะออกจากนโิ รธสมาบัตแิ ลว น้ัน มีพระนิพพานเปน อารมณ ๓. จงแสดงภาพ อตวิ ภิ ตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ในขณะที่พิจารณา โสดาปต ตมิ รรคเปน อารมณ (ปจ จเวกขณะวธิ ี) พรอมทัง้ จาํ แนก โดยบคุ คล ภูมิ องคธ รรมปรมตั ถ อารมณ และวตั ถุ มาโดยละเอียด ? 47 ตอบ แสดงภาพ อตวิ ิภตู ารมณว ถิ ี ชวนวาระ ในขณะทพี่ ิจารณาโสดาปต ติมรรคเปน อารมณ พรอมทั้งจาํ แนกโดยบุคคลเปน ตน ดังน้ี ภนทมชชชชชชชภภภ วา โดยบคุ คล ๙๑ ๔ ๙ เกดิ ขนึ้ แก โสดาปตติผลบุคคล ๑ วา โดยภมู ิ เกดิ ไดใน ๑๗ ภมู ิ คือกามสคุ ตภิ มู ิ ๗ รปู ภมู ิ ๑๐ (เวน อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ สุทธาวาสภมู ิ ๕) วา โดยองคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและภวงั คห ลงั ไดแ ก กามตเิ หตุกภวงั คจติ ๔ รปู ภวงั คจติ ๕ สวนวถิ ีจติ เหลา นน้ั ไดแก มโนทวาราวชั ชนจิต ๑ มหากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ วา โดยอารมณ ภวังคแ รกและภวังคห ลังทเี่ ปน กามติเหตุกภวังคจติ ๔ มีอารมณ ๖ ที่เรียกวากรรม อารมณ กรรมนมิ ิตอารมณ หรือคตินมิ ติ อารมณท่ีไดรับมาจากฉทวาริกมรณาสันนชวนะใน ภพกอนเม่ือใกลจะตายเปนอารมณ สวนทีเ่ ปน รปู ภวงั คจติ ๕ มบี ัญญัตกิ รรมนมิ ิตธรรมารมณอันเนอ่ื งดว ยกรรมฐาน ๒๖ คือ กสิณบัญญตั ิ ๑๐ อสภุ บญั ญตั ิ ๑๐ โกฏฐาสบัญญัติ ๑ อานาปานบัญญตั ิ ๑ สัตวบัญญตั ิ ๔ ที่ไดร บั มาจากมโนทวารกิ มรณาสนั นชวนะในภพกอน เมอ่ื ใกลจ ะตายเปนอารมณ สําหรบั วิถจี ติ ทง้ั หมดทอี่ ยูในวิถนี ี้ มอี ติอิฏฐธรรมารมณ คือ โสดาปต ตมิ รรคจติ เปน อารมณ วา โดยวตั ถุ ภวงั คแ รก ภวงั คหลงั และวถิ จี ิตทั้งหมด อาศัยหทัยวตั ถุเกดิ ๕. ก. ในโสดาปต ตมิ คั ควิถนี ้นั ถาจะจําแนกบุคคลโดยบคุ คล ๑๒ แลว จะไดบ คุ คลเทา ไร ? คือใครบาง ? และวถิ นี เี้ กดิ ไดก ีภ่ มู ิ ? คอื ภูมอิ ะไรบาง ? 50 ข. กามชวนะกับอปั ปนาชวนะเกดิ ขนึ้ ในวิถเี ดยี วกนั มีหรือไม ? ถามีไดแ กว ถิ ใี ดบา ง ? 43, 50 ค. บุคคลทเี่ ขา นิโรธสมาบตั ไิ ดน น้ั มใี ครบา ง ? จะตองมคี ุณวเิ ศษอะไรจึงจะเขา นโิ รธสมาบตั ไิ ด และนโิ รธสมาบัตวิ ถิ นี นั้ เกดิ ไดกภี่ มู ิ ? คือภมู ิอะไรบา ง ? 50 ง. การจาํ แนกอารมณว า เปน อติอฏิ ฐะ, อฏิ ฐมชั ฌัตตะ, หรอื อนฏิ ฐะนน้ั อาศยั เครื่องจําแนกก่อี ยา ง? อะไรบา ง? 50 ตอบ ก. ในโสดาปต ตมิ ัคควถิ นี ั้น ถาจะจําแนกบุคคลโดยบคุ คล ๑๒ แลว จะไดบ คุ คล ๓ คอื ดาวนโ หลดขอ มลู ตา งๆไดจ าก ขอความเพิม่ เติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ สี งั คหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 20 ๑. ตเิ หตุกปุถุชน ๑ ๒. โสดาปตติมรรคบุคคล ๑ ๓. โสดาปตตผิ ลบุคคล ๑ และวิถนี เ้ี กดิ ได ๑๗ ภูมิ คอื กามสุคตภิ มู ิ ๗ รปู ภมู ิ ๑๐ (เวนสทุ ธาวาสภมู ิ ๕ อสัญญสตั ตภูมิ ๑) ข. กามชวนะกับอปั ปนาชวนะเกดิ ข้ึนในวถิ เี ดียวกันมี และทเ่ี กิดข้ึนในวถิ เี ดียวกนั ได คือ อาทิกัมมกิ ฌาน วิถี, ฌานสมาบัตวิ ถิ ี, ปาทกฌานวิถี, อภญิ ญาวถิ ี, มัคควิถ,ี ผลสมาบัตวิ ิถี และ นโิ รธสมาบัตวิ ถิ ี ค. บคุ คลทเี่ ขานิโรธสมาบตั ิไดน นั้ มี ๒ คน คือ พระอนาคามบี ุคคล และ พระอรหนั ตบคุ คล จะตอ งมคี ณุ วิเศษ คือ ตอ งไดฌ านสมาบตั ิ ๘ หรือ ๙ คอื ตอ งไดรปู ฌาน ๔หรอื ๕ และ จะตองไดอ รปู ฌานถึงเนวสัญญานา- สญั ญายตนฌาน จึงจะเขา นโิ รธสมาบัตไิ ด และนโิ รธสมาบัตวิ ถิ นี ้นั เกดิ ได ๒๒ ภมู ิ คือ กามสคุ ติภมู ิ ๗ รปู ภมู ิ ๑๕ (เวนอสัญญสัตตภูม)ิ ง. การจาํ แนกอารมณว า เปนอตอิ ิฏฐะ, อิฏฐมชั ฌัตตะ, หรืออนฏิ ฐะนัน้ อาศยั เคร่อื งจาํ แนก ๕ อยาง คือ ๑) มัชฌัตตบคุ คล คือ บุคคลชั้นกลาง ๒) วปิ ากจติ ๓) ทวาร ๔) อารมณ ๕) กาล ๔. ค. ใหแ สดงบคุ คล ภมู ิ องคธรรมปรมตั ถ และวตั ถอุ นั เปน ทเ่ี กิดของปรินพิ พานวิถธี รรมดา ทเี่ ปนชวนะจตุ ?ิ 43 ตอบ ค. บคุ คล ภมู ิ องคธ รรมปรมตั ถแ ละวตั ถุอันเปนท่เี กดิ ของปรนิ ิพพานวิถีธรรมดาท่เี ปน ชวนะจตุ นิ น้ั ดงั นี้ เกิดข้นึ แกพระอรหันตบคุ คล เกิดไดใน ๒๖ ภูมิ คอื กามสุคตภิ ูมิ ๗ รูปภูมิ ๑๕ (เวน อสัญญสัตตภมู )ิ และอรูปภูมิ ๔ องคธ รรมปรมตั ถ ภวงั คแ รกและจตุ ิจติ ไดแ ก ติเหตกุ ภวงั คจิต ๑๓ สวนวิถีจติ น้นั ไดแ ก มโนทวาราวชั ชนจติ ๑ และกามกิริยาชวนจติ ๙ วตั ถุ ภวงั คแ รก จตุ จิ ติ และวถิ ีจติ ทงั้ หมด ถา เกดิ ในปญ จโวการภูมิ ๒๒ (เวน อบายภูมิ ๔) อาศยั หทยวตั ถุเกดิ ถาเกดิ ในจตโุ วการภูมิ ๔ กไ็ มต องอาศยั หทยวตั ถุเกดิ ๔. ข. ปรนิ พิ พานวถิ พี เิ ศษ มีกชี่ นดิ คอื อะไรบา ง ? จงแสดงพรอมดวยความหมาย ? 36, 50, 53, 56, 59(7ข), 63(3ข) ตอบ ข. ปรนิ พิ พานวถิ ีพเิ ศษ มี ๔ ชนิด คอื ๑. ฌานสมนนั ตรวถิ ี คือ ปรนิ ิพพานจุตขิ องพระอรหนั ต ทเ่ี กิดขน้ึ ตอ จากฌานสมาบตั วิ ิถี โดยไมม วี ถิ ีจติ อน่ื ๆ มาคน่ั ๒. ปจ จเวกขณสมนนั ตรวถิ ี คอื ปรนิ ิพพานจตุ ขิ องพระอรหนั ต ที่เกิดขนึ้ ตอจากการพิจารณาองคฌ าน โดยไมมวี ถิ ีจติ อ่นื ๆ มาคน่ั ๓. อภญิ ญาสมนนั ตรวิถี คือ ปรนิ พิ พานจตุ ขิ องพระอรหนั ต ทเ่ี กิดขน้ึ ตอ จากอภญิ ญาจติ ทเ่ี ก่ียวกบั การ แสดงอทิ ธวิ ธิ อภิญญาเทาน้ัน โดยไมม วี ิถจี ิตอนื่ ๆ มาคนั่ ๔. ชวี ติ สมสีสวี ิถี คือ ปรนิ พิ พานจุตขิ องพระอรหนั ต ทเี่ กิดขน้ึ ตอ จากการพิจารณา มรรค ผล นพิ พาน และกิเลสท่ีไดป ระหาณไปแลว โดยไมม วี ถิ จี ติ อ่ืน ๆ มาคนั่ ๔. จงแสดงคาถาสงั คหะทแี่ สดงถงึ จํานวนอปั ปนาชวนะท่ีเกิดตอ จากมหากุศล และมหากิรยิ าชวนะ วา โดยธรรมาธษิ ฐาน ทง้ั บาลีและคาํ แปล ? 53 ตอบ แสดงคาถาสงั คหะทแ่ี สดงถงึ จํานวนอปั ปนาชวนะทเ่ี กิดตอจากมหากุศล และมหากิริยาชวนะ วาโดยธรรมาธิษฐาน ดังตอ ไปนี้ ทวฺ ตฺตสึ สขุ ปุ ฺ มฺหา ทฺวาทโสเปกขฺ กา ปรํ สขุ ิตกรฺ ิยโต อฏ ฉ สมโฺ ภนตฺ ิ อเุ ปกฺขกา ฯ ดาวนโ หลดขอ มูลตา งๆไดจาก ขอความเพ่ิมเติมที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 21 แปลความวา หลงั จากท่ีมหากุศลญาณสัมปยตุ ตโสมนัสชวนะ ๒ ดวง ดับลงแลว อปั ปนาชวนะ ๓๒ ดวง (คอื มหัคคตกุศลโสมนสั ๔ มคั คโสมนสั ๑๖ ผลเบื้องตํ่าโสมนัส ๑๒) ยอ มเกดิ ขึน้ , หลงั จากทมี่ หากศุ ลญาณสัมปยุตตอุเบกขาชวนะ ๒ ดวง ดับลงแลว อปั ปนาชวนะ ๑๒ ดวง (คือ มหัคคตกศุ ลอเุ บกขา ๕ มคั คอุเบกขา ๔ ผลเบือ้ งตาํ่ อเุ บกขา ๓) ยอ มเกิดขนึ้ หลงั จาก ที่ มหากริยาญาณสมั ปยตุ ตโสมนสั ชวนะ ๒ ดวง ดบั ลงแลว อปั ปนาชวนะ ๘ ดวง (คือ มหคั คตกรยิ าโสมนัส ๔ อรหัตตผลโสมนสั ๔) ยอ มเกิดขึ้น, หลังจากที่ มหากริยา ญาณสมั ปยตุ ตอเุ บกขาชวนะ ๒ ดวง ดับลงแลว อปั ปนาชวนะ ๖ ดวง (คอื มหัคคตกริยาอเุ บกขา ๕ อรหัตตผลอุเบกขา ๑ ) ยอ มเกิดขนึ้ ๔. ข. จงแปลคาถาสงั คหะทแ่ี สดงถงึ จํานวนอปั ปนาชวนะ ทีเ่ กดิ ตอจากมหากศุ ลและมหากริ ยิ าชวนะ วา โดยธรรมาธษิ ฐาน ดงั ตอไปนี้ ? 36, 52(3ก), 55, 57 ทวฺ ตตฺ ึส สขุ ปุฺ มฺหา ทวฺ าทโสเปกขฺ กา ปรํ สขุ ติ กรฺ ยิ าโต อฏ ฉ สมโฺ ภนฺติ อเุ ปกขฺ กา ฯ ตอบ ข. แปลคาถาดงั น้ี หลังจากทมี่ หากศุ ลญาณสัมปยตุ ตโสมนสั ชวนะ ๒ ดวง ดับลงแลว อปั ปนาชวนะ ๓๒ ดวง (คือ มหัคคตกุศลโสมนสั ๔ มคั คโสมนสั ๑๖ ผลเบอ้ื งตาํ่ โสมนสั ๑๒) ยอ มเกดิ ขึ้น หลงั จากทีม่ หากศุ ลญาณสมั ปยตุ ตอเุ บกขาชวนะ ๒ ดบั ลงแลว อปั ปนาชวนะ ๑๒ ดวง คอื มหัคคตกศุ ลอุเบกขา ๕ มัคคอุเบกขา ๔ ผลเบ้ืองตา่ํ อเุ บกขา ๓) ยอ มเกดิ ขนึ้ หลงั จากท่มี หากริ ยิ าญาณสัมปยตุ ตโสมนสั ชวนะ ๒ ดวง ดังลงแลว อปั ปนาชวนะ ๘ ดวง (คอื มหัคคตกริ ยิ าโสมนสั ๔ อรหตั ตผลโสมนัส ๔) ยอมเกิดขนึ้ หลงั จากทม่ี หากริ ยิ าญาณสมั ปยตุ ตอุเบกขาชวนะ ๒ ดวงดับลงแลว อปั ปนาชวนะ ๖ ดวง คอื มหคั คตกริ ิยาอุเบกขา ๕ อรหัตตผลอเุ บกขา ๑) ยอ มเกดิ ขน้ึ ๔. ข. ในบรรดาอปั ปนาชวนมโนทวารวถิ ีเหลา นนั้ กามชวนะกับอปั ปนาชวนะทม่ี เี วทนาตา งกนั มหี รอื ไม และกามชวนะกับอัปปนาชวนะท่ีมชี าตติ า งกนั มหี รอื ไมใ หอ ธบิ ายดว ย ? 45, 51, 58(3ก), 60(ก) ตอบ ข. ในบรรดาอปั ปนาชวนมโนทวารวถิ ีเหลา นนั้ กามชวนะกับอปั ปนาชวนะทมี่ ีเวทนาตา งกนั ไมมี และกามชวนะกับอปั ปนาชวนะที่มชี าติตางกนั มี ๑ วิถี ไดแ ก ผลสมาปตตวิ ถิ ี อธบิ ายวา หลงั จากกามชวนะ คอื มหากุศลญาณสมั ปยตุ ตชวนะ ๔ ดวง อนั เปน กศุ ลชาตดิ ับลงแลว อปั ปนาชวนะ คือ ผลเบือ้ งต่าํ ๑๕ ดวง อนั เปน วิปากชาตยิ อ มเกดิ ขึ้น หลังจากกามชวนะ คือ มหากิรยิ าญาณสัมปยตุ ตชวนะ ๔ ดวง อันเปน กริ ิยาชาตดิ บั ลงแลว อัปปนาชวนะ คือ อรหตั ตผล ๕ ดวง อนั เปนวปิ ากชาตยิ อมเกดิ ขน้ึ วีถิมตุ ตสงั คหะ ภมู จิ ตกุ กะและปฏสิ นธจิ ตุกกะ ขอ ๕ (ท่เี คยออกสอบ ปน ี้นาจะออกขอไหน?) ๔. จงแสดงภมู ิอนั เปนทเ่ี กดิ ของสตั วท งั้ หลายวามเี ทาไร ? คืออะไรบา ง ? 45, 52 ๕. ภมู อิ นั เปน ทเี่ วยี นวา ยตายเกิดของสัตวท งั้ หลายมเี ทา ไร คืออะไรบา ง ใหบ อกช่ือทกุ ภมู มิ าโดยลาํ ดบั ใหถ กู ตอ ง ? 46, 57, 63 ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพมิ่ เตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ สี งั คหะ, ภูมิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 22 ตอบ ภูมิอนั เปน ทเ่ี วียนวายตายเกดิ ของสัตวท ัง้ หลายมี ๓๑ ภมู ิ คอื ๑. นรกภมู ิ ๒. ดริ ัจฉานภมู ิ ๓. เปรตภมู ิ ๔. อสรุ กายภูมิ ๕. มนุสสภมู ิ ๖. จาตมุ หาราชกิ าภมู ิ ๗. ตาวติงสาภูมิ ๘. ยามาภูมิ ๙. ตุสติ าภมู ิ ๑๐.นมิ มานรตภี ูมิ ๑๑.ปรนมิ มติ วสวตั ตีภมู ิ ๑๒.พรหมปารสิ ชั ชาภมู ิ ๑๓.พรหมปุโรหติ าภูมิ ๑๔. มหาพรหมาภมู ิ ๑๕.ปรติ ตาภาภมู ิ ๑๖.อปั ปมาณาภาภูมิ ๑๗.อาภสั สราภมู ิ ๑๘.ปรติ ตสภุ าภูมิ ๑๙.อัปปมาณสุภาภมู ิ ๒๐. สุภกิณหาภมู ิ ๒๑.เวหปั ผลาภมู ิ ๒๒.อสัญญสตั ตาภมู ิ ๒๓. อวิหาภมู ิ ๒๔. อตัปปาภมู ิ ๒๕. สุทสั สาภมู ิ ๒๖.สทุ ัสสภี ูมิ ๒๗. อกนิฏฐาภูมิ ๒๘.อากาสานัญจายตนภมู ิ ๒๙.วญิ ญานญั จายตนภมู ิ ๓๐. อากิญจัญญายตนภมู ิ ๓๑. เนวสญั ญานาสญั ญายตนภมู ิ ๕. ก. ภมู ิอนั เปน ทเ่ี วยี นวา ยตายเกดิ ของสตั วท งั้ หลายมกี ภี่ ูมิ ? 61 ข. กามสคุ ตภิ ูมิ มกี ภ่ี มู ิ ? คืออะไรบา ง ? 61 ค. สุทธาวาสภมู ิ มกี ภี่ มู ิ ? คืออะไรบาง ? 61 ง. อรปู าวจรภูมิ มีกภี่ มู ิ ? คืออะไรบา ง ? 61 ตอบ ก. ภูมอิ นั เปน ที่เวียนวายตายเกดิ ของสตั วทง้ั หลายมี ๓๑ ภูมิ ข. กามสุคตภิ ูมิ มี ๗ ภูมิ คอื ๑. มนสุ สภูมิ ๒. จาตมุ หาราชกิ าภมู ิ ๓. ตาวตงิ สาภมู ิ ๔. ยามาภมู ิ ๕. ตุสติ าภูมิ ๖. นมิ มานรตภี มู ิ ๗. ปรนิมมติ วสวตั ตีภมู ิ ค. สทุ ธวาสภมู ิ มี ๕ ภมู ิ คือ ๑. อวหิ าภูมิ ๒. อตปั ปาภูมิ ๓. สทุ สั สาภมู ิ ๔. สุทัสสีภมู ิ ๕. อกนฏิ ฐาภู ง. อรปู าวจรภูมิ มี ๔ ภูมิ คือ ๑. อากาสานญั จายตนภมู มิ ิ ๒. วิญญานัญจายตนภมู ิ ๓. อากิญจัญญายตนภูมิ ๔. เนวสญั ญานาสญั ญายตนภมู ิ ๕. ตุสติ าภมู ิ ๖. นมิ มานรตภี ูมิ ๗. ปรนมิ มติ วสวัตตภี มู ิ ๕. จงจาํ แนกภมู ิ ๓๑ ภมู ิ โดยบุคคล ๑๒ จาํ พวก (มาดู) ? [P160] 44, 51, 54(6), 56, 58(6), 60 ตอบ จําแนกภูมิ ๓๑ ภมู ิ โดยบุคคล ๑๒ จําพวก ดังนี้ อบายภมู ิ ๔ เปนทีเ่ กดิ ของทคุ ตอิ เหตุกบคุ คลจาํ พวกเดียว มนษุ ยภมู ิ ๑ จาตุมหาราชกิ าภูมิ ๑ เปนทเี่ กิดของบุคคล ๑๑ จําพวก (เวนทคุ ตอิ เหตุกบุคคล ๑) ตาวตึงสาภูมิ ๑ ยามาภมู ิ ๑ ตสุ ติ าภมู ิ ๑ เปนทเี่ กดิ ของบุคคล ๑๐ จาํ พวก นิมมานรตภี ูมิ ๑ (เวน อเหตกุ บุคคล ๑ และ สุคตอิ เหตกุ บุคคล ๑) ปรนมิ มติ วสวตั ตีภมู ิ ๑ ปฐมฌานภมู ิ ๓ ทตุ ยิ ฌานภูมิ ๓ ตตยิ ฌานภมู ิ ๓ เปนท่เี กิดของบุคคล ๙ จาํ พวก คอื ติเหตกุ ปถุ ุชน ๑ อริยบคุ คล ๘ เวหปั ผลาภูมิ ๑ ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพ่ิมเติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถีสงั คหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 23 อสญั ญสัตตภมู ิ ๑ เปน ท่เี กิดของ สคุ ติอเหตกุ บคุ คลที่มรี ปู ปฏสิ นธจิ ําพวกเดยี ว สทุ ธาวาสภมู ิ ๕ เปนที่เกดิ ของบุคคล ๓ จาํ พวก คือ อนาคามิผลบุคคล ๑ อรหตั ตมรรคบุคคล ๑ อรหัตตผลบุคคล ๑ อรูปภมู ิ ๔ เปน ท่เี กดิ ของบคุ คล ๘ จําพวก คือ ตเิ หตุกปถุ ชุ น ๑ อรยิ บุคคล ๗ (เวนโสดาปต ติมรรคบุคคล ๑) ๕. ก. คาํ วา มาตกิ าจตกุ กะในวถิ ีมตุ ตสงั คหะ ไดแ กอ ะไรบาง ? [P2] 55 ๕. ก. จงแสดง มาตกิ าจตุกกะในวถิ มี ุตตสงั คหะ มาทงั้ บาลคี าํ แปล ? [P2] 62 ตอบ ก. คาํ วา มาตกิ าจตกุ กะในวถิ ีมุตตสังคหะ ไดแ ก จตกุ กะ ๔ ประการ คือ ภมู ิจตุกกะ ปฏสิ นธิจตกุ กะ กมั มจตกุ กะ มรณปุ ปต ติจตกุ กะ ๕. ก. จงแสดง มาตกิ าจตุกกะในวถิ มี ตุ ตสงั คหะ มาทง้ั บาลคี าํ แปล ? [P2] 62 ตอบ ก. แสดง มาติกาจตกุ กะในวถิ มี ุตตสงั คหะ ท้งั บาลีคําแปล ดังน้ี จตสโฺ ส ภมู โิ ย จตพุ พฺ ธิ า ปฏสิ นธฺ ิ จตตฺ าริ กมมฺ านิ จตธุ า มรณปุ ปฺ ตตฺ ิ เจติ วถี มิ ตุ ตฺ สงคฺ เห จตตฺ าริ จตกุ กฺ านิ เวทติ พพฺ าน.ิ ในวถิ มี ตุ ตสงั คหะ พงึ ทราบวามีจตุกกะ ๔ ประการ คอื ภูมิจตกุ กะ ปฏิสนธิจตกุ กะ กัมมจตุกกะ มรณปุ ปต ตจิ ตกุ กะ ๕. ก. จงแสดงภมู จิ ตกุ กะ มาท้ังบาลคี าํ แปล ? [P2-3] 49 ตอบ ก. แสดงภมู จิ ตุกกะ ดงั นี้ ตตถฺ อปายภมู ิ กามสคุ ตภิ มู ิ รปู าวจรภมู ิ อรปู าวจรภมู ิ เจติ จตสฺโส ภมู โิ ย นาม ฯ แปลความวา ในบรรดาจตกุ กะ ๔ ประการเหลานัน้ ชอ่ื วา ภมู ิ ๔ คือ อบายภมู ิ ๑ กามสคุ ตภิ ูมิ ๑ รูปาวจรภมู ิ ๑ อรปู วจรภมู ิ ๑ รวมเปนภมู ิ ๔ ๕. ข. มหานรก มีกขี่ ุม ? คืออะไรบา ง ? [P6] 49, 55 ตอบ ข. มหานรก มี ๘ ขุม คือ ๑. สัญชวี ะนรก ๒. กาฬสตุ ตะนรก ๓. สังฆาตะนรก ๔. โรรวุ ะนรก ๕. มหาโรรวุ ะนรก ๖. ตาปนะนรก ๗. มหาตาปนะนรก ๘. อวีจินรก ๕. ค. อสุ สทนรกมกี ข่ี ุม ? คืออะไรบาง ? [P6] 49, 55 ตอบ ค. อสุ สทนรกมี ๕ ขมุ คอื ๑. คถู นรก ๒. กุกกฬุ ะนรก ๓. สิมปลวิ นะนรก ๔. อสปิ ต ตวนะนรก ๕. เวตตรณนี รก ๕. บรรดาบคุ คลท้ังหลายทกี่ าํ ลงั เปน ไปอยใู นโลกทุกวันน้ียอ มมีอธั ยาศยั จติ ใจยง่ิ หยอนกวากนั และกนั ๘ ม.ค. ๖๔ ในความประพฤตดิ ีและไมดี มากบา ง นอ ยบา ง ฉะนน้ั จงึ อยากจะทราบวา ความประพฤตขิ องบุคคล ทานแสดงไวก ป่ี ระเภท ? คืออะไรบา ง ? และประเภทไหนทตี่ ายไปแลว จะตอ งพบกบั พระยายมราช ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอความเพิ่มเติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่ีแปะไว)

วิถีสงั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 24 และประเภทไหนไมต องพบกบั พระยายมราช ? [P11] 48 ตอบ ความประพฤตขิ องบคุ คลทงั้ หลาย ทา นแสดงไว ๔ ประเภท คอื ๑. บุคคลบางคนในโลกน้ี มีอัธยาศัยจติ ใจชอบบําเพ็ญกุศลมาก ๒. บางคนมีอธั ยาศยั จติ ใจชอบในการกุศล และอกุศลเทา ๆ กัน ๓. บางคนชอบใจไปในอกุศลมากกวากุศล ๔. บางคนชอบใจไปในอกุศลฝายเดียว บรรดาบุคคลท้ัง ๔ ประเภทนี้ บุคคลทีอ่ ยูใ นประเภทที่ ๑ และท่ี ๔ ไมม ีโอกาสท่จี ะไดพ บกบั พระยายมราช ประเภทท่ี ๑ มกี ุศลมาก เมอ่ื ตายแลว ยอ มเกิดในสคุ ติภูมเิ ลยทเี ดียว, ประเภทท่ี ๔ มอี กุศลมาก เม่ือตายแลว ยอมเกิดใน ทุคตภิ มู ิโดยตรงเลยทเี ดียว, สว นประเภทที่ ๒ และที่ ๓ มโี อกาสทจี่ ะไดพ บกับพระยายมราช เพื่อใหพระยายมราช เตือนสตใิ หร ะลึกถึงกศุ ล ถาระลึกไดก ็จะพน จากอบายภมู ิ ถา ระลึกไมได ทานก็จะเตือนสติให เม่ือเตือนสติแลวกร็ ะลึก ไมได นายนริ ยบาลกส็ ง ลงนรกเสวยทุกขตอไป. ๕. ง. เปรต ทม่ี าในเปตวตั ถอุ ฏั ฐกถาและฎกี ามกี จี่ าํ พวก ? คอื อะไรบา ง ? [P61] 49, 55 ๕. ก. จงแสดงเปรต ๔ ประเภททม่ี าในเปตวัตถอุ ฏั ฐกถา และฎกี า ในบรรดาเปรต ๔ ประเภทนน้ั ประเภทไหนทพ่ี ระโพธสิ ตั วไ มไ ปเกดิ ? [P61-62] 52 ตอบ ก. แสดงเปรต ๔ ประเภท ทีม่ าในเปตวตั ถุอัฎฐกถา และฎีกา ตอบ ง. เปรต ที่มาในเปตวตั ถอุ ฏั ฐกถาและฎกี า มี ๔ จําพวก คอื ๑. ปรทตั ตุปชวี กิ เปรต เปรตทีม่ ีการเลี้ยงชวี ติ อยโู ดยอาศัยอาหารทผี่ ูอ น่ื ให ๒. ขปุ ปป าสกิ เปรต เปรตทถี่ ูกเบยี ดเบียนดว ยการหวิ ขา ว หิวนํา้ ๓. นชิ ฌามตณั หิกเปรต เปรตท่ีถูกไฟเผาใหเรารอ นอยูเสมอ ๔. กาลกัญจกิ เปรต เปรตจําพวกอสรู คือ กัญจิกะ (52) เปรตบางประเภทที่พระโพธิสตั วไ มไ ปเกิด บรรดาพระโพธสิ ตั วทง้ั หลาย นับต้งั แตไ ดร บั พุทธพยากรณเ ปน ตน ไป ยอมไมไ ปเกดิ เปน เปรต ๓ ประเภท คือ ๑. ขปุ ปป าสกิ เปรต ๒.นิชฌามตัณหกิ เปรต ๓.กาลกญั จิกเปรต ทไี่ ดก ลา วมาแลว น้ี ถา จะเกิดก็คงเกดิ เปนปรทตั ตปุ ชวี กิ เปรตประเภทเดยี วเทา นัน้ ๖. ก. สตั วท ีเ่ รยี กวา อสรุ า นเ้ี มือ่ จําแนกแลว มกี อี่ ยา ง ? คืออะไรบา ง ? [P75] 43 ข. เทวอสรุ ามกี อี่ ยาง ? คืออะไรบา ง ? [P75] 43 ค. เปตตอิ สรุ า มกี ่จี ําพวก ? คอื อะไรบาง ? [P76] 43 ตอบ ก. อสุรา มี ๓ อยาง คือ ๑. เทวอสุรา ไดแ ก เทวดา ทีเ่ รยี กวา อสรุ ะ ๒. เปตติอสรุ า ไดแ ก เปรต ท่ีเรยี กวาอสรุ ะ ๓. นริ ยอสรุ า ไดแ ก สัตวนรก ทีเ่ รียกวา อสุระ ข. เทวอสรุ ามี ๖ อยา งคอื ๑. เวปจติ ตอิ สรุ า ๒. สุผลิอสุรา ๓. ราหุอสุรา ๔. ปหารอสุรา ๕. สัมพรตอี สุรา ๖. วนิ ปิ าติกอสุรา ค. เปตตอิ สุรา มี ๓ จาํ พวก คอื ๑. กาลกัญจกิ เปรตอสุรา ๒. เวมานิกเปรตอสรุ า ๓. อาวุทธิกเปรตอสรุ า ๕. ก. คําวา “คต”ิ แปลวา อยา งไร ? มกี อ่ี ยาง ? คืออะไรบา ง ? [P83] 43 ๘ ม.ค. ๖๔ ดาวนโ หลดขอ มูลตางๆไดจาก ขอความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว)

วิถีสังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏิสนธจิ ตกุ กะ 25 ตอบ ก. คาํ วา “คติ” แปลวา ท่ีไปเกดิ ของสตั วม ี ๔ อยา ง คือ ๑. คติคติ ภพเปน ท่ีไปเกิดของสัตว ๓. อัชฌาสยคติ อัธยาศยั ทก่ี าํ ลังเปนไปอยู ๒. นิพพตั ตคิ ติ ความเปน ความเกดิ ๔. วิภวคติ ความเกดิ ขนึ้ แหงสมบตั ิ ๕. ข. จงแสดงลักษณะหนา ตาของคนทอี่ ยูในทวปี ทงั้ ๔ คอื ชมพทู วปี อตุ ตรกรุ ทุ วปี ปุพพวเิ ทหทวปี อปรโคยานทวปี มาตามลาํ ดบั ? 47, 48, 52 ตอบ ข. แสดงลกั ษณะหนา ตาของคนท่ีในทวีปทง้ั ๔ มดี งั นี้ คอื ๑. ชมพูทวีป มสี ัณฐานดงั รูปเรอื นเกวียน หรอื รูปไข ๒. อตุ ตรกุรทุ วปี มสี ัณฐานเปน สเ่ี หล่ียม ๓. ปุพพวิเทหทวีป มสี ัณฐานดงั พระจนั ทรครึง่ ซกี ๔. อปรโคยานทวปี มสี ณั ฐานดงั พระจันทรวนั เพญ็ บรรดามนุษยท ่ีอยใู นทวีปใด ก็มีรปู ใบหนาเหมอื นกับสณั ฐานของทวปี นั้น. ๖. ก. จติ ใจของคนทอ่ี ยใู นชมพทู วีป และจติ ใจของคนท่อี ยูในทวปี ทง้ั สามนนั้ เหมือนกนั หรือไม ? จงอธบิ าย [P87] 51 ตอบ ก. จติ ใจของคนท่ีอยูใ นชมพทู วีป และจติ ใจของคนท่ีอยใู นทวีปท้ังสามน้ัน ไมเหมือนกัน คือ คนทีอ่ ยูในชมพทู วีปเปนผูมจี ติ ใจกลา แข็ง เปน ไปทั้งฝายดีและฝา ยไมด ี ฝา ยดนี น้ั สามารถทาํ ใหส ําเร็จเปน พระพทุ ธเจา พระปจเจกพุทธเจา อัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก พระเจา จกั รพรรดิ ฌานลาภี อภญิ ญาลาภีได ฝา ยทไ่ี มด นี ้นั อาทิเชน ฆาบดิ ามารดา ฆาพระอรหันต และทําโลหิตตุปบาท คอื ทําใหพ ระโลหิตหอ และทําสังฆเภท สวนจติ ใจของคนทอ่ี ยใู นทวปี สามทวีปทเี่ หลือนน้ั ไมสามารถจะทาํ เชน นไ้ี ด ไมว าจะเปนฝา ยดีและไมด ี ๖. ข. คนชมพทู วปี มคี ณุ ประเสรฐิ กวา คนอตุ ตรกุรุทวีป และเทวดาชน้ั ดาวดงึ ส กป่ี ระการ คอื อะไรบา ง ? [P92] 45 ตอบ ข. คนชมพทู วีป มคี ุณประเสริฐกวา คนอตุ ตรกุรทุ วปี และเทวดาชน้ั ดาวดึงส ๓ ประการ คือ ๑. สรู ภาว มใี จกลา แข็งในการบําเพ็ญทาน ศลี ภาวนา ๒. สติมนตฺ มีสตติ ง้ั มนั่ ในคณุ พระรตั นตรัย ๓. พรฺ หมฺ จรยิ วาส ประพฤติพรหมจรรยคือ บวชได ๕. ข. คนอตุ ตรกรุ ทุ วีป มคี ุณสงู กวาประเสรฐิ กวา คนชมพทู วปี และเทวดาชน้ั ตาวตึงสา มกี ี่อยา ง ? คืออะไรบา ง ? [P94] 43 ตอบ ข. คนอตุ ตรกรุ ทุ วปี มีคณุ สูงกวา ประเสริฐกวา คนชมพทู วีป และเทวดาชัน้ ตาวตึงสา มี ๓ อยาง คือ ๑. คนอุตตรกุรุ ไมถือเอาเงนิ ทองวา เปน ของตน ๒. คนอุตตรกุรุ ไมหวงแหน หรอื ถอื เอาวาเปนบตุ ร ภรรยา สามี ของตน ๓. คนอตุ ตรกรุ ุ ตอ งมอี ายุยนื ถึงหนง่ึ พนั ปเ สมอ ๕. ภพชาตทิ ่พี ระโพธสิ ตั วท ้งั หลาย ผไู ดรบั พทุ ธพยากรณแลว ไมไ ปบังเกดิ มีก่อี ยา ง ไดแ กอ ะไรบา ง ? 58 ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอความเพม่ิ เตมิ ท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแ่ี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตกุ กะ 26 ตอบ มี ๑๖ อยาง คอื ๑. ไมเ กดิ เปน คนปา ๒. เปน มารเทวบุตรไมได ๓. เปน อสญั ญสตั ตพรหมไมไ ด ๔. เปน สุทธาวาสพรหมไมไ ด ๕. ไมไ ปเกิดในจักรวาลอน่ื ๖. ไมเ ปน อรูปพรหม ๗. ไมเ ปน ผหู ญงิ ๘. ไมไ ปเกิดกบั คนทเ่ี ปนทาส ๙. ไมไ ปเกิดเปนคนตาบอด หนวก ใบ ๑๐. ไมเ ปนข้ีเรื้อนกุฏฐงั ๑๑. ไมเปล่ยี นแปลงเพศ ๑๒. ไมทาํ ปญ จานนั ตริยกรรม ๑๓.ไมไปเกิดในโลกันตริกนรก ๑๔. ไมไปเกดิ ในอเวจีมหานรก และไมเ ปน ขุปปป าสกิ เปรต นิชฌามตัณหกิ เปรต กาลกญั จิกเปรต ๑๕. ไมไ ปเกดิ เปน สตั วท ่ีเล็กกวา นกกระจาบ และไมไปเกิดเปนสตั วทใ่ี หญก วา ชา ง ๑๖. เปนพระอรยิ ะไมไ ดใ นระหวา ง ๔ อสงไขย แสนกัป ๕. จงแปลคาถาสังคหะดงั ตอ ไปนี้ ? 54 ๑. ปถุ ชุ ชฺ นา น ลพภฺ นตฺ ิ สทุ ธฺ าวาเสสุ สพฺพถา โสตาปนนฺ า จ สกทา คามโิ น จาป ปคุ คฺ ลา ๒. อรยิ า โนปลพภฺ นฺติ อสฺ าปายภมู สิ ุ เสสฏาเนสุ ลพภฺ นตฺ ิ อรยิ านรยิ าป จ [P157] ตอบ แปลคาถาสงั คหะ ดงั น้ี คอื ในสทุ ธาวาสภมู ิ ๕ ไมมีปถุ ชุ นท้งั ๔ โสดาบัน สกทาคามี โดยประการทงั้ ปวง ในอสัญญสตั ตภมู ิ และอบายภมู ิ ๔ ไมม ีอริยบคุ คล ๘ สวนในภมู ิทเ่ี หลือ ๒๑ คอื กามสุคตภิ ูมิ ๗ รปู ภูมิ ๑๐ และอรปู ภมู ิ ๔ มไี ดท ง้ั อริยบคุ คล ๘ และปถุ ุชน ๓ (เวน ทุคติ) ตามสมควร ขอ ๖ (ที่เคยออกสอบ ปน น้ี า จะออกขอไหน?) ๖. ก. ในกามภมู ิ ๑๑ น้ี มีบคุ คลอยหู ลายประเภทดว ยกัน เมือ่ สรปุ บคุ คลท่ีมอี ายไุ มแ นน อนแลว มอี ยกู ีจ่ าํ พวกดว ยกนั ? 45, 47, 49 ตอบ ก. เมอ่ื สรปุ บคุ คลที่มีอายไุ มแ นน อนนั้นมี ๖ จําพวก คือ ๑. พวกอบายภูมิ ๒. พวกมนุษยชมพูทวปี ๓. พวกวนิ ิปาตกิ อสรุ าเทวดา ๔. พวกกุมภณั ฑเทวดา (ทีอ่ าศัยพื้นแผน ดนิ และตน ไม) ๕. พวกอากาสฏั ฐเทวดา ๖. พวกเวมานกิ เปรตเทวดา ๖. ก. จงแสดงชื่อของบคุ คลทงั้ ๑๒ จําพวกมาโดยละเอยี ด และในบรรดาบคุ คล ๑๒ จาํ พวกนน้ั บคุ คลทไ่ี มม ใี นสทุ ธาวาสภูมิ มกี ีบ่ ุคคล? คอื ใครบา ง ? 53 ตอบ ก. บคุ คล ๑๒ จําพวก คอื ๑. ทุคตอิ เหตุกบคุ คล ๒. สุคติอเหตุกบุคคล ๓. ทวิเหตกุ บุคคล ๔. ตเิ หตุกปถุ ุชน ๕. โสดาปต ติมรรคบคุ คล ๖. โสดาปตตผิ ลบคุ คล ๗. สกทาคามิมรรคบุคคล ๘. สกทาคมผิ ลบคุ คล ๙. อนาคามมิ รรคบคุ คล ๑๐. อนาคามิผลบุคคล ๑๑. อรหตั ตมรรคบคุ คล ๑๒. อรหตั ตผลบุคคล ดาวนโ หลดขอมูลตา งๆไดจ าก ขอ ความเพม่ิ เตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภูมจิ ตกุ กะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 27 และในบรรดาบคุ คล ๑๒ จําพวกนนั้ บคุ คลที่ไมมใี นสุทธาวาสภูมมิ ี ๙ บุคคล คอื ปถุ ชุ น ๔ โสดาปต ติมรรค ๑ โสดาปต ติผล ๑ สกทาคามมิ รรค ๑ สกทาคามผิ ล ๑ อนาคามิมรรค ๑ ๕. มีคาํ ถามทงั้ หมด ๒ ขอยอ ย ใหตอบทุกขอใหถ ูกตอ งชดั เจน ? 47 ก. บคุ คลใดสามารถไปเกิดในสทุ ธาวาสภมู ิได ? สทุ ธาวาสภมู ิ เปน ทอ่ี ยขู องใครบา ง ? 47 ข. การเกดิ และการตายของพรหมในสุทธาวาสภมู ทิ ย่ี งั ไมส าํ เรจ็ เปน พระอรหนั ตจ ะเกดิ และตายในภมู ใิ ด ๆ บา ง ? 47 ตอบ ก. บุคคลทสี่ ามารถไปเกดิ ในสทุ ธาวาสภมู ไิ ด ไดแ ก พระอนาคามีบุคคล ท่ีมคี ณุ สมบัตพิ เิ ศษ คอื เปน พระอนาคามบี คุ คลทไ่ี ดร ปู ปญ จมฌาน และมอี นิ ทรีย ๕ อยางใดอยา งหนึง่ แกกลา สุทธาวาสภูมิเปน ทอ่ี ยขู อง พระอนาคามผี ลบุคคล พระอรหตั ตมรรคบุคคล, พระอรหตั ตผลบุคคลที่ สาํ เร็จรปู ปญจมฌาน และมีอินทรีย ๕ อยา งใดอยา งหนง่ึ แกกลา ข. การเกิดและการตายของพรหมในสทุ ธาวาสภมู ทิ ีย่ งั ไมส ําเรจ็ เปน พระอรหนั ต มีดงั นี้ พระอนาคามบี คุ คลทอี่ ยูในสทุ ธาวาสภูมิเบอ้ื งตํ่า ๔ ชนั้ เมอื่ สน้ิ อายแุ ลวยอ มไมเ กิดซา้ํ ภมู ิทต่ี นเคยเกดิ จะไปเกิดใน ภูมิทส่ี งู กวา ได พระอนาคามีท่อี ยูในช้นั อกนฏิ ฐาภูมจิ ะไมไปเกิดในภมู ใิ ด ๆ อกี และจะตองสาํ เร็จเปนพระอรหนั ตใ นอกนฏิ ฐาภมู นิ ้ี ๖. ก. จงบอกภมู ิทเ่ี ก่ียวกบั พระอนาคามีบคุ คล ดงั ตอไปน้ี วา มเี ทา ไร ไดแกภ มู ิไหนบา ง ? 50 ๑. ภมู ทิ ่ีพระอนาคามตี ายได แตเ กดิ ไมได ๒. ภมู ทิ ่ีพระอนาคามเี กดิ ได แตต ายไมไ ด ๓. ภมู ิท่พี ระอนาคามเี กดิ และตาย ไดท งั้ สอง ๔. ภมู ิทพี่ ระอนาคามีเกดิ และตายไมไ ดท งั้ สอง ตอบ ก. ภูมิท่ีเกย่ี วกับพระอนาคามีบคุ คล มดี งั น้ี คอื ๑. ภูมทิ ่ีพระอนาคามตี ายได แตเกิดไมไ ด มี ๗ ภมู ิ ไดแ ก กามสคุ ติภมู ิ ๗ ๒. ภูมิที่พระอนาคามีเกดิ ได แตต ายไมไ ด มี ๑ ภูมิ ไดแ ก อกนิฏฐาภูมิ ๓. ภูมิที่พระอนาคามเี กดิ และตายไดทงั้ สอง มี ๑๘ ภมู ิ ไดแก รปู ภมู ิ ๑๔ (เวน อสัญญสตั ตภูมิ ๑ อกนฏิ ฐาภมู ิ ๑) อรูปภมู ิ ๔ ๔. ภมู ิที่พระอนาคามีเกดิ และตายไมไ ดท้งั สอง มี ๕ ภูมิ ไดแ ก อบายภมู ิ ๔ อสญั ญสตั ตภมู ิ ๑ ๖. ข. เทวะมกี ่อี ยา ง คืออะไรบา ง ? 50 ตอบ ข. เทวะ มี ๓ คือ ๑. สมมตเิ ทวะ ไดแ ก พระมหากษตั รยิ  และพระราชินี พรอ มดวยพระโอรสพระธดิ า ๒. อปุ ปต ตเิ ทวะ ไดแ ก เทวดาและพรหมทัง้ หมด ๓. วสิ ทุ ธเิ ทวะ ไดแ ก พระอรหนั ตท ง้ั หมด ๖. ก. ผทู จี่ ะเปน พระอนิ ทรไ ดน นั้ ตอ งประกอบดว ยคณุ ธรรมกีป่ ระการ คอื อะไรบา ง ? [P121] 45, 49, 52(7ก), 55, 60 ตอบ ก. ผูท่จี ะเปน พระอนิ ทรไดน น้ั ตองประกอบดว ยคณุ ธรรม ๗ ประการ คอื ๑. เลยี้ งดูบิดามารดา ๒. เคารพตอผูใหญในตระกลู ๓. กลาววาจาออนหวาน ๔. ไมกลาวคาํ สอเสียด ๕. ไมมคี วามตระหนี่ ๖. มคี วามสตั ย ๗. ระงบั ความโกรธไวไ ด ดาวนโ หลดขอมลู ตางๆไดจ าก ขอความเพมิ่ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ สี งั คหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 28 ๖. ก. การทจี่ ะเปน อรยิ บคุ คลไดน น้ั จะตองประกอบดว ยธรรมกป่ี ระการ ? อะไรบา ง ? [P136] 56, 59(5ข), 62(5ข) ตอบ ก. การที่จะเปน อรยิ บุคคลไดน นั้ ตองประกอบดว ยธรรม ๗ ประการ คอื ๑. ตอ งเปนติเหตุกบคุ คล ๒. ตอ งไดเคยสรางบารมที ี่เกยี่ วกับวปิ สสนามาแลวในชาติกอน ๓. ตอ งมคี วามเพยี รในชาติปจ จบุ นั นี้ดว ย ๔. วธิ เี จริญวิปสสนาตองถกู ตอ งตามหลกั พระบาลแี ละอรรถกถา ๕. ตอ งมีสถานท่ีเหมาะสมแกก ารปฏบิ ตั ิ ๖. ตอ งไมมปี ลโิ พธิ ๑๐ ประการ ๗. ตอ งมเี วลาอนั สมควร ๖. ข. ธรรมทเี่ ปน เครื่องใหถ งึ ความเปน อริยะ หรอื ทเี่ รยี กวา ทรพั ยข องสปั บรุ ษุ มเี ทาไร ? คืออะไรบา ง ? 43, 47, 50, 52, 53, 52(7ข), 53(5ข), 55, 60, 62(7ข) ตอบ ข. ธรรมทเ่ี ปนเครอื่ งใหถ ึงความเปน อรยิ ะ หรอื ทเ่ี รียกวาทรัพยข องสปั บุรุษ มี ๗ ประการ คอื ๑. สทธฺ าธนํ ทรพั ย คือ ความเลื่อมใส เชอ่ื ในอนันตคณุ ๕ เชอ่ื กรรม เชอ่ื ผลของกรรม โลกน้ี โลกหนา ๒. สลี ธนํ ทรัพย คอื การต้งั อยูในศลี ธรรม ๓. สตุ ธนํ ทรัพย คือ ความเปน ผไู ดเลาเรียนในธรรมของพระสัมมาสมั พทุ ธเจา ๔. จาคธนํ ทรัพย คอื การบรจิ าควตั ถสุ งิ่ ของใหเ ปน ทานแกผอู นื่ ๕. ปฺ าธนํ ทรพั ย คือ ความเปน ผรู ใู นสภาวธรรมรูปนาม ๖. หริ ธี นํ ทรพั ย คือ ความเปน ผูร ลู ะอายตอทจุ รติ ๗. โอตตฺ ปปฺ ธนํ ทรัพย คอื ความเปน ผูก ลัวตอทุจรติ ๖. ข. ปธานยิ ังคะ ท่เี ปน เคร่อื งตดั สนิ ตวั เองวา ชาตนิ ี้ ตนจะเปน อรยิ ะไดห รอื ไมน นั้ มีก่ขี อ ? คืออะไรบา ง ? [P137] 56 ตอบ ข. ปธานยิ งั คะ สาํ หรบั เปนเครื่องตัดสนิ ตัวเองวา ชาตินี้ตนจะเปนอรยิ ะไดห รือไมน นั้ มอี ยู ๕ ขอ คอื ๑. ตองมีความเชอ่ื ความเลอ่ื มใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ และอาจารยทีส่ อนวปิ ส สนา ๒. ตอ งมรี า งกายแขง็ แรงไมม โี รค ๓. ตอ งไมมมี ารยาสาไถยกบั อาจารย หรอื ในหมพู วกปฏบิ ตั ิดวยกนั ๔. ตอ งมคี วามเพยี รตั้งมน่ั ในใจวา เลือดและเนื้อของเราน้ีแมวาจะเหอื ดแหง ไปคงเหลือแตห นงั เสนเอน็ กระดกู กต็ าม เราจะไมยอมละความเพียรนั้นเสีย ๕. ผูป ฏิบตั ติ อ งปฏบิ ตั ิใหถึงขน้ั อทุ ยัพพยญาณเสียกอ น ๖. สตั ตาวาสภมู ิ หมายความวาอะไร ? มเี ทา ไร ? อะไรบา ง ? 62 ตอบ สตั ตาวาสภมู ิ หมายความวา ภูมอิ นั เปน ทอี่ าศยั ของสตั ว มี ๙ คอื ๑. นานาตฺตกายภมู ิ ภมู เิ ปนท่เี กิดของสตั วท ง้ั หลาย ที่มรี ปู รางสัณฐานตางๆ กัน มี ๑๔ ภมู ิ คือ กามภูมิ ๑๑ ปฐมฌานภมู ิ ๓ ๒. เอกตตฺ กายภมู ิ ภมู เิ ปนทเ่ี กิดของสตั วทัง้ หลายทม่ี รี ูปรา งสัณฐานเหมอื น ๆ กนั มี ๑๒ ภูมิ ทตุ ยิ ฌานภมู ิ ๓ ตติยฌาณภูมิ ๓ เวหปั ผลาภมู ิ ๑ สทุ ธาวาสภูมิ ๕ คือ ๓. นานาตฺตสญฺ ภี มู ิ ภมู เิ ปนท่ีเกิดของสตั วท่มี ีปฏสิ นธจิ ติ ตา ง ๆ กัน มี ๑๐ ภูมิ คอื กามสคุ ติภมู ิ ๗ ทตุ ิยฌานภมู ิ ๓ ดาวนโ หลดขอมลู ตา งๆไดจาก ขอความเพม่ิ เติมท่ี youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี งั คหะ, ภูมจิ ตุกกะ, ปฏิสนธิจตุกกะ 29 ๔. เอกตตฺ สญฺ ภี มู ิ ภมู เิ ปนทเ่ี กดิ ของสตั วท่ีมปี ฏสิ นธิจติ อยา งเดียวกัน มี ๑๖ ภมู ิ คอื อบายภมู ิ ๔ ปฐมฌานภมู ิ ๓ ตตยิ ฌานภมู ิ ๓ เวหปั ผลาภมู ิ ๑ สุทธาวาสภมู ิ ๕ ๕. อสญฺ ภี ูมิ ภมู เิ ปน ทเ่ี กิดของสตั วท ไ่ี มม นี าม มี ๑ ภูมิ คอื อสัญญสัตตาภูมิ ๖. อากาสานจฺ ายตนภมู ิ ๑ ๗. วิ ญฺ านจฺ ายตนภมู ิ ๑ ๘. อากิ ฺจญฺ ายตนภมู ิ ๑ ๙. เนวสญฺ านาสญฺ ายตนภมู ิ ๑ 6. ก. ใหแสดงความหมาย พรอ มทง้ั จาํ นวนภมู ิ วา มเี ทา ไร อะไรบา ง ? 63 ๑. นานาตตกายนานาตตสญั ญี ๒. นานาตตกายเอกตั ตสัญญี ๓. เอกตั ตกายนานาตตสญั ญี ๔. เอกัตตกายเอกัตตสญั ญี ตอบ ก. แสดงความหมาย ดังนี้ ๑. นานาตตกายนานาตตสญั ญี หมายถงึ สตั วท มี่ รี ูปรา งตางกนั และมีปฏิสนธวิ ญิ ญาณตา งกัน มีอยู ๗ ภูมิ คือ กามสุคตภิ มู ิ ๗ ๒. นานาตตกายเอกตั ตสญั ญี หมายถงึ สตั วทีม่ รี ูปรา งตา งกัน แตม ปี ฏิสนธวิ ญิ ญาณอยา งเดียวกนั มอี ยู ๗ ภูมิ คอื อบายภมู ิ ๔, ปฐมฌานภมู ิ ๓ ๓. เอกตั ตกายนานาตตสญั ญี หมายถงึ สตั วที่มรี ปู รา งเหมอื นกนั แตม ีปฏิสนธวิ ญิ ญาณตางกนั มอี ยู ๓ ภูมิ คือ ทตุ ยิ ฌานภูมิ ๓ ๔. เอกตั ตกายเอกตั ตสญั ญี หมายถงึ สตั วท่มี ีสตั วที่มรี ปู รา งเหมือนกนั และมปี ฏิสนธวิ ญิ ญาณอยา งเดียวกัน มีอยู ๙ ภมู ิ คอื ตตยิ ฌานภมู ิ ๓, เวหปั ผลาภูมิ ๑, สทุ ธาวาสภูมิ ๕ ๖. ก. จงแสดงภมู ทิ ่ีพระอรยิ บคุ คลไปเกดิ แลว จะไมไ ปเกดิ ในภูมอิ นื่ ๆ อกี นน้ั มกี ภี่ ูมิ และภมู นิ ้ันๆ เรยี กชอ่ื วา อะไร ? [P168] 44ส, 47, 48, 51, 57 ตอบ ก. ในบรรดาพรหมภมู ิ ๒๐ ช้นั นนั้ คอื เวหปั ผลาภมู ิ นับเปนยอดของรูปภมู ิ ๑๑ ช้ัน (เวน สทุ ธาวาสภมู ิ ๕) เรียกวา ปถุ ุชนภวัคคะ แปลวา เปนยอดภูมปิ ถุ ชุ น อกนฏิ ฐาภมู ิ นับเปนยอดของสทุ ธาวาสภมู ิ เรยี กวา อริยภวัคคะ แปลวา เปน ยอดภมู อิ รยิ ะ เนวสญั ญานาสญั ญายตนภูมิ นับเปนยอดของอรปู ภมู ิ เรียกวา สัพพภวัคคะ แปลวา เปน ยอดภมู ปิ ถุ ชุ นและอรยิ ะ ยอดภมู ิทั้ง ๓ นี้ พระอรยิ บคุ คลไดไ ปบงั เกิดแลว จะไมก ลบั ไปบงั เกิดในภมู อิ ่ืน ๆ อีกตอ ไป จะตองปรนิ พิ พานในยอดภมู ินั้น ๆ แนนอน ๖. ข. จงแสดงภมู ทิ พี่ ระอรยิ บุคคลไปเกดิ แลว จะไมไปเกิดในภูมอิ น่ื ๆ อีกนนั้ มกี ภี่ มู ิ และภมู นิ ้นั ๆ เรยี กช่ือวา อะไร ? [P166-168] 51 ตอบ ข. ในบรรดาพรหมภมู ิ ๒๐ ชน้ั นนั้ คอื เวหปั ผลาภมู ิ นับเปน ยอดของรปู ภูมิ ๑๑ ชัน้ (เวน สุทธาวาสภูมิ ๕) เรียกช่อื วา ปถุ ุชนภวัคคะ แปลวา ยอดภมู ขิ องปถุ ุชน อกนฏิ ฐาภูมิ นบั เปน ยอดของสุทธาวาสภูมิ เรียกช่ือวา อรยิ ภวคั คะ แปลวา ยอดภมู ขิ องพระอริยะ ดาวนโหลดขอมูลตา งๆไดจาก ขอ ความเพิ่มเตมิ ท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ท่แี ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสังคหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธิจตกุ กะ 30 เนวสญั ญานาสญั ญายตนภมู ิ นบั เปนยอดของอรูปภมู ิ เรยี กชื่อวา สัพพภวคั คะ แปลวา เปน ยอดภูมขิ องปุถชุ น และพระอรยิ ะ ยอดภมู ทิ ั้ง ๓ น้ี พระอรยิ บุคคลไดไปบังเกดิ แลว จะไมก ลับไปบังเกดิ ในภมู ิอ่นื ๆ อีกตอไป จะตอ งปรินิพพานในยอดภมู ิน้ัน ๆ แนน อน ๖. ข. จงแสดงสุญญกปั และอสญุ ญกปั มีอยา งละเทาไร ? คอื อะไรบา ง ? 61 จงบอกพรอมความหมาย ? [P172] 53(7ก), 57 ตอบ ข. สญุ ญกปั มี ๔ อยาง คอื ๑. สุญญมหากปั ไดแ ก มหากัปท่ีไมม ีพระพทุ ธเจาอบุ ัตขิ ึ้น ๒. สุญญอสงไขยกปั ไดแ ก สังวฏั ฏอสงไขยกัป สังวัฏฏฐายีอสงไขยกปั วิวัฏฏอสงไขยกัป ๓. สญุ ญอันตรกปั ไดแ ก อนั ตรกปั ทไี่ มม ีพระพทุ ธเจาอบุ ตั ขิ ึน้ ๔. สุญญอายุกัป ไดแ ก ในระหวางทม่ี นุษยมอี ายยุ ืนมากกวา แสนปข น้ึ ไป และในระหวา งที่มนษุ ยม ีอายนุ อยกวา รอ ยปลงมา อสุญญกัป มี ๕ อยา งคอื ๑. สารกปั ไดแ ก มหากปั ท่มี ีพระพุทธเจาอบุ ัตขิ ึ้นหนึง่ พระองค ๒. มัณฑกัป ไดแ ก มหากปั ท่ีมีพระพทุ ธเจา อุบัตขิ ึน้ สองพระองค ๓. วรกัป ไดแ ก มหากปั ทม่ี ีพระพทุ ธเจา อบุ ัตขิ ึ้นสามพระองค ๔. สารมณั ฑกัป ไดแ ก มหากปั ทีม่ ีพระพทุ ธเจาอบุ ัตขิ ึน้ ส่ีพระองค ๕. ภทั ทกปั ไดแ ก มหากปั ที่มีพระพทุ ธเจาอบุ ัตขิ ึ้นหา พระองค ๖. ข. จงแสดงธรรมทเ่ี ปนเหตทุ ท่ี าํ ใหโลกพนิ าศมาพอเขา ใจ ? [P176] 53 ตอบ ข. ธรรมท่เี ปน เหตใุ หโลกพนิ าศลงนนั้ มี ๓ อยาง คอื ราคะ โทสะ โมหะ สมยั ใดสัตวท ้ังหลายมสี นั ดานหนาแนน ไปดว ยราคะแลว เมอื่ ถึงคราวพนิ าศยอมพนิ าศลงดว ยไฟ เหตุดวยราคะนนั้ รอ นเหมอื นไฟ ถาสมยั ใดสตั วท ้งั หลายมีสนั ดานมากดว ยโทสะ เมอ่ื ถงึ คราวพนิ าศยอมพนิ าศดว ยนา้ํ เหตุดวยโทสะนน้ั รา ยเหมอื นน้ํากรด และถา สมยั ใดสนั ดานของสตั วท งั้ หลายหนาไปดว ยโมหะ เมอ่ื ถงึ คราวพนิ าศยอ มพินาศดว ยลม ดวยเหตโุ มหะน้ันเหมือนหนงึ่ ลมกรด จึงเปน อันวาโลกธาตุยอมพนิ าศลงดว ยเหตทุ ้งั ๓ ประการ ดงั ไดกลา วแลว น้นั ๗. ข. มหากปั ทม่ี ีพระพทุ ธเจาอุบตั ิขนึ้ ๖ หรอื ๗ พระองค มีหรอื ไม เพราะเหตุไร ? 53 ตอบ ข. ไมมี เพราะวา ธรรมดาพระพทุ ธเจาทัง้ หลาย ท่ีจะอบุ ตั เิ กดิ ขึ้นในโลกนัน้ ในมหากัปหน่ึง ๆ อยา งนอ ยที่สดุ กม็ พี ระพุทธเจาอบุ ัตขิ ึ้นเพยี ง ๑ พระองค อยา งมากทสี่ ดุ มี ๕ พระองค มหากปั ทม่ี พี ระพทุ ธเจา อบุ ัตขิ นึ้ มากกวา นี้ ยอมไมม ี ดังมีสาธกบาลีแสดงไวใ นอนาคตังสวงั สอรรถกถาวา น หิ เอกสมฺ ึ กปฺเป ฉฏโ  วา สตตฺ โม วา อปุ ปฺ ชชฺ ต.ิ แปลความวา ในมหากปั หนงึ่ ๆ พระพทุ ธเจา จะอบุ ตั ขิ ึ้น ๖ หรอื ๗ พระองคน นั้ ยอ มไมม .ี ดาวนโหลดขอมูลตางๆไดจาก ขอความเพิม่ เติมท่ี youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วถิ ีสงั คหะ, ภมู ิจตุกกะ, ปฏสิ นธจิ ตกุ กะ 31 ขอ ๗ (ที่เคยออกสอบ ปน ้ีนา จะออกขอ ไหน?) ๗. ก. จงแปลบาลปี ฏสิ นธิ ๔ อยา ง ดงั ตอ ไปน้ี ? [P207] 48 อปายปฏสิ นธฺ ิ กามสุคตปิ ฏสิ นธฺ ิ รปู าวจรปฏสิ นธฺ ิ อรปู าวจรปฏสิ นธฺ เิ จติ จตุพพฺ ธิ า ปฏสิ นธฺ ิ นาม. ตอบ ก. แปลบาลีปฏสิ นธิ ๔ อยา งดงั นี้ คือ แปลความวา ช่อื วา ปฏสิ นธิ มี ๔ ประการ คอื อปายปฏสิ นธิ ๑, กามสุคตปิ ฏสิ นธิ ๑, รูปาวจรปฏสิ นธิ ๑, อรูปาวจรปฏสิ นธิ ๑ ๗.ข. จงแสดงอเุ บกขาสนั ตรี ณกุศลวปิ ากจติ ทที่ ําหนาที่ ปฏสิ นธิ ภวงั ค จตุ ิ ของมนษุ ยท ่ีพกิ ารตา ง ๆ นนั้ มีกจ่ี าํ พวก ? คอื อะไรบา ง ? [P207] 45 ตอบ ข. แสดงอเุ บกขาสันตรรี ณกศุ ลวิปากจิตท่ที ําหนาที่ ปฏสิ นธิ ภวังค จุติ ของมนษุ ยทีพ่ ิการตาง ๆ นน้ั มี ๑๑ จาํ พวกคอื ๑. ชจฺจนฺธ ผูตาบอดมาแตก ําเนดิ ๒. ชจฺจพธริ ผูห ูหนวกมาแตก าํ เนิด ๓. ชจจฺ ฆานก ผจู มูกเสียมาแตกําเนิด ๔. ชจจฺ มคู ผเู ปนใบแ ตก าํ เนดิ ๕. ชจฺจชฬ ผโู งเ งา มาแตก าํ เนดิ ๖. ชจจฺ ุมมฺ ตตฺ ก ผูเปนบา มาแตก ําเนดิ ๗. ปณฺฑก พวกบณั เฑาะก ๘. อภุ โตพยชฺ นก ผปู รากฏเปนสองเพศ ๙. นปุงฺสก ผูไมป รากฏเพศ ๑๐. มมมฺ ผตู ดิ อา ง ๑๑. วนิ ปิ าติกอสรุ า ทอ่ี าศยั ภุมมฏั ฐเทวดา (เทวดาทอี่ าศยั อยูตามภเู ขา ตน ไม และสถานที่ตาง ๆ และรุกขเทวดา) ทงั้ หลายอยู ๗. ข. จงแสดงจิต ๓ อยา ง ทม่ี อี งคธ รรมและอารมณอ ยา งเดยี วกนั เฉพาะชาตเิ ดยี วมาทั้งบาลีคาํ แปล ? [P212] 55, 58, 61 ๗. ข. จงแสดงบาลี และคาํ แปล ของคาถาทแ่ี สดงถึงจติ ๓ อยา ง ทมี่ ีองคธ รรม และอารมณอยา งเดยี วกัน เฉพาะในชาตเิ ดยี วกนั ? [P212] 51 ๗. ก. จงแปลคาถาสงั คหะดงั ตอ ไปน้ี ? [P212] 43 ปฏิสนธฺ ิ ภวงคฺ จฺ ตถา จวนมานสํ เอกเมว ตเถเวก วิสยเฺ จกชาติยํ. ตอบ ข. (แสดงบาลีและคาํ แปลของคาถาท่ี) แสดงถงึ จิต ๓ อยา ง ที่มอี งคธ รรมและอารมณอยา งเดยี วกนั เฉพาะในชาติเดยี ว ดงั น้ี ปฏสิ นธฺ ิ ภวงฺคจฺ ตถา จวนมานสํ เอกเมว ตเถเวก วสิ ยเฺ จกชาตยิ ํ. ในชาตหิ นง่ึ นน้ั ปฏสิ นธจิ ติ ภวงั คจติ และจตุ ิจิต รวม ๓ อยาง น้ี เปนจิตอยา งเดียวกนั และอารมณข องปฏสิ นธิจิต ภวังคจติ และจตุ จิ ติ กต็ อ งเปนอยางเดยี วกนั ๗. คาํ วา ปฏสิ นธิ หมายความวา อยา งไร ? และจงแสดงความหมายของปฏสิ นธิ ๔ อยา ง ? [P212-213] 45, 47, 49, 51, 52, 53, 55, 56, 57, 60 ๗. ก. คําวา ปฏสิ นธิ (ในปฏสิ นธจิ ตกุ กะ) หมายความวา อยา งไร ? และมกี อี่ ยาง ? คืออะไรบาง ? (ไมต องแสดงความหมาย) ? [P212-213] 36, 58, 61 ดาวนโหลดขอมูลตางๆไดจ าก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทีแ่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี งั คหะ, ภมู ิจตกุ กะ, ปฏิสนธจิ ตุกกะ 32 ตอบ ก. คําวา ปฏสิ นธิ หมายความวา เมือ่ ภพเกา สิ้นสดุ ลงแลว จติ เจตสิก และกัมมชรปู ปรากฏเกดิ ขน้ึ คร้ังแรกในภพใดภพหนงึ่ โดยอาํ นาจแหงการสบื ตอ ภพเกา กบั ภพใหม เรียกวา ปฏสิ นธิ แสดงความหมายของปฏิสนธิ ๔ อยาง ดงั น้ี ๑. การปรากฏเกดิ ขน้ึ แหง จติ เจตสกิ และกัมมชรปู ครงั้ แรกในอบายภูมิ ๔ เรยี กวา อปายปฏสิ นธิอยา ง ๑ ๒. การปรากฏเกดิ ขนึ้ แหง จติ เจตสกิ และกมั มชรปู ครง้ั แรกในกามสคุ ตภิ มู ๗ิ เรียกวา กามสคุ ตปิ ฏสิ นธิอยา ง ๑ ๓. การปรากฏเกดิ ขนึ้ แหงจติ เจตสกิ และกมั มชรปู ครงั้ แรกในรปู ภมู ิ ๑๕ และการปรากฏเกดิ ขึ้นแหงกัมมชรปู ครง้ั แรกในอสญั ญสตั ตภมู ทิ ง้ั ๒ นี้ เรียกวา รปู าวจรปฏสิ นธอิ ยาง ๑ ๔. การปรากฏเกดิ ขนึ้ แหง จติ เจตสิก ครงั้ แรกในอรูปภมู ิ ๔ เรยี กวา อรปู าวจรปฏสิ นธิอยา ง ๑ [(36, 58) มี ๔ อยาง คอื ๑. อปายปฏสิ นธิ ๒. กามสคุ ตปิ ฏิสนธิ ๓. รูปาวจรปฏสิ นธิ ๔. อรูปาวจรปฏิสนธ]ิ ๗. ข. พรอ มทงั้ ใหอ ธิบายความหมายของปฏสิ นธิ ๔ อยา ง มาตามลาํ ดับ ? 48 ตอบ ข. อธิบายความหมายของปฏสิ นธิ ๔ อยางในทน่ี ค้ี าํ วา ปฏสิ นธิ หมายความวา เม่ือภพเกา สนิ้ สดุ ลงแลว จิต เจตสกิ และกมั มชรปู ปรากฏเกดิ ขนึ้ ครงั้ แรกในภพใดภพ หนึง่ โดยอาํ นาจแหงการสบื ตอภพเกา กบั ภพใหม เรยี กวา ปฏสิ นธิ ฉะนน้ั การปรากฏเกิดขน้ึ แหง จติ เจตสกิ และกัมมชรปู ครง้ั แรกในอบายภมู ิ ๔ เรียกวา อปายปฏสิ นธิ อยา งหนง่ึ การปรากฏเกิดข้ึนแหงจิต เจตสกิ และกัมมชรปู ครงั้ แรกในกามสคุ ตภิ มู ิ ๗ เรียกวา กามสคุ ตปิ ฏิสนธิ อยา งหนงึ่ การปรากฏเกิดข้ึนแหง จติ เจตสกิ และกัมมชรปู ครง้ั แรกในรปู ภมู ิ ๑๕ และการปรากฏเกดิ ขึน้ แหง กัมมชรปู ครง้ั แรกในอสัญญสัตตภูมิ ทงั้ ๒ นี้ เรียกวา รปู าวจรปฏสิ นธิ อยา งหนึ่ง การปรากฏเกิดขน้ึ แหง จิต เจตสิก ครั้งแรกในอรปู ภมู ิ ๔ เรยี กวา อรปู าวจรปฏสิ นธิ อยา งหน่งึ ๗. คําวา ปฏสิ นธิ หมายความวาอยา งไร ? (ปฏิสนธิ)มกี อ่ี ยา ง? คอื อะไรบาง ? จงแสดงใหล ะเอยี ด ? 51(ก), 52(6), 54, 62(ก) ตอบ คาํ วา ปฏสิ นธิ หมายความวา เมื่อภพเกาส้นิ สุดลงแลว จติ เจตสกิ และกัมมชรปู ปรากฏเกิดข้ึนครง้ั แรก ในภพใดภพหนึ่ง โดยอํานาจแหงการสบื ตอ ภพเกากับภพใหมเ รียกวา ปฏิสนธิ ปฏิสนธิ มี ๔ อยา ง คอื ๑. อปายปฏสิ นธิ หมายความวา การปรากฏเกิดขนึ้ แหง จิต เจตสกิ และกมั มชรปู ครง้ั แรก ในอบายภมู ิ ๔ เรยี กวา อปายปฏสิ นธิ ๒. กามสุคตปิ ฏสิ นธิ หมายความวา การปรากฏเกิดขนึ้ แหง จิต เจตสกิ และกมั มชรปู ครงั้ แรก ในกามสคุ ตภิ ูมิ ๗ เรยี กวา กามสุคตปิ ฏิสนธิ ๓. รปู าวจรปฏสิ นธิ หมายความวา การปรากฏเกิดขนึ้ แหงจติ เจตสกิ และกัมมชรปู ครง้ั แรก ในรปู ภูมิ ๑๕ และ ปรากฏเกดิ ข้ึนแหงกัมมชรปู ครงั้ แรกในอสญั ญสัตตภูมิ ทง้ั ๒ น้ี เรียกวา รปู าวจรปฏสิ นธิ ๔. อรปู าวจรปฏสิ นธิ หมายความวา การปรากฏเกดิ ขนึ้ แหง จติ เจตสกิ ครง้ั แรกในอรูปภูมิ ๔ เรียกวา อรปู าวจร ปฏสิ นธิ ๗. จงแสดงจติ ตอไปน้ีวา ทาํ หนา ทป่ี ฏสิ นธใิ นภูมไิ หนบา ง ? 44, 59, 63 ก. อเุ บกขาสนั ตีรณกุศลวปิ ากจติ ๑ ข. มหาวปิ ากญาณสมั ปยตุ ตจติ ๔ ค. รปู าวจรตตยิ ฌานวิปากจติ ๑ ง. รปู าวจรปญ จมฌานวปิ ากจติ ๑ ดาวนโหลดขอ มลู ตางๆไดจาก ขอความเพิ่มเติมที่ youtube หรือ Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ที่แปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔

วิถสี ังคหะ, ภูมิจตกุ กะ, ปฏสิ นธจิ ตุกกะ 33 ตอบ ก. อุเบกขาสนั ตรี ณกุศลวิปากจติ ๑ ทําหนาท่ปี ฏสิ นธิในมนุษยภมู แิ ละจาตมุ มหาราชิกาภมู ิ ของมนุษยท ่พี ิการแตก ําเนดิ และจาตมุ หาราชกิ าชนั้ ตํ่า ข. มหาวปิ ากญาณสมั ปยตุ ตจิต ๔ ทาํ หนา ทปี่ ฏสิ นธิในกามสุคติภมู ิ ๗ ของมนุษยเทวดาชั้นสงู ค. รปู าวจรตติยฌานวปิ ากจติ ๑ ทําหนา ท่ปี ฏสิ นธิในทตุ ยิ ฌานภมู ิ ๓ ง. รูปาวจรปญ จมฌานวิปากจิต ๑ ทาํ หนา ท่ีปฏสิ นธิในจตตุ ถฌานภมู ิ ๖ (เวนอสัญญสตั ตภมู )ิ ๗. ก. จงอธบิ ายประเภทของทคุ ติ ๓ อยา งมีอคารยิ ปฏปิ ตติทคุ ตเิ ปนตน ? 45 ตอบ ก. ในทคุ ตทิ ั้ง ๓ ประการนี้ คฤหัสถผูครองเรอื น ไดกระทําทจุ ริตดว ยอํานาจของกเิ ลส ชอ่ื วา อคารยิ ปฏปิ ต ตทิ คุ ติ ภิกษุสามเณรทอ่ี ยใู นพระพทุ ธศาสนา ไดป ฏบิ ัติผดิ คอื ทาํ ลายศรัทธาที่มอี ยใู นสนั ดานของพทุ ธศาสนกิ ชนใหเศรา หมองไป (กูลทูสน) และทําตวั เปน หมอดู หมอยา (อเนสน) ภกิ ษุ สามเณรไดก ระทําผิดดังไดก ลาวมานี้ ชอ่ื วา อนาคารยิ ปฏปิ ต ตทิ ุคติ สว นคติทคุ ตนิ น้ั ไดแ ก คฤหัสถและภกิ ษุสามเณร ท่ีไดก ระทาํ ผดิ ดังไดก ลาวมา เมื่อเวลาตายไดไ ปบงั เกดิ ในอบายภมู ิท้งั ๔ เรียกวา คตทิ คุ ติ ******************************** สิง่ ท่ีสําคัญคือการเขา ศึกษากับอาจารยผ สู อน เพื่อความรูความเขาใจทถี่ ูกตอง แจม แจง หากสงสัยจะไดสอบถามทันที การรวบรวมขอสอบทเ่ี คยออกมาแลว นี้ เปนเพียง แนวทางสําหรับผูศ กึ ษา นาํ มาเนน+ทรงจาํ ไว (เมื่อไดชือ่ วาศึกษาแลว ก็ควรทรงจาํ ให ไดมากท่ีสดุ หรือทง้ั หมด จงึ จะชือ่ วา สตุ ะดว ยดี เพือ่ การจนิ ตาและภาวนาตอ ไป) การสอบไมใ ชท ีส่ ดุ ของชีวิต แตข อใหตง้ั จิตศกึ ษาและทรงจํา เพอื่ ธํารงและรกั ษาไว ซ่งึ พระศาสนา รูอรรถะและพยัญชนะ ทั้งเขา ใจและเขา ใหถงึ ธรรมะ แมย งั มบิ รรลุคณุ ธรรม อันสงู ถึงขั้นอรยิ ะ ก็ขอจงเปน ผูรูธรรมะ (ตามสมควร) และจงเปนผมู ีธรรมะ วายเมเถว ปรุ โิ ส ยาว อตฺถสฺส นปิ ปฺ ทา เกดิ เปน คนควรจะพยายาม จนกวาจะประสบความสาํ เรจ็ สําเนาประกอบการเรียนหรือแจกไดโ ดยไมต อ งขออนญุ าต (สงวนสทิ ธิใ์ นการนําไปจาํ หนา ย) ผดิ -ตกขออภยั และกรณุ าแจงที่ 081-860-2466, E-mail: [email protected], [email protected] (จักขอบพระคุณอยา งสูง) ขออนโุ มทนาในการศึกษาธรรมะ และทกุ ๆกศุ ลที่ทานกระทาํ ไวด ีแลว และทจี่ ะกระทําในอนาคต ใหเ ราน้นั มีปจ จัยถึงพรอมเพื่อการทาํ กุศลใหสาํ เรจ็ โดยสะดวก งา ยดาย และเร็วไว จนถึงมัคคกุศล โดยเรว็ พลนั เทอญ ดาวนโ หลดขอ มลู ตางๆไดจาก ขอ ความเพ่มิ เตมิ ที่ youtube หรอื Post ใน fb ID: Kanrasi Sengking (ตาม link ทแี่ ปะไว) ๘ ม.ค. ๖๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook